รีเซต

ผลการค้นหา “pp” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
Unseen underwater PP Island Thailand
อ่าน

Unseen underwater PP Island Thailand

ภาพถ่ายโดย: Popcorn เมื่อจะพูดถึงทะเลประเทศไทยนั้น คงไม่ต้องพูดอะไรมากมายเกี่ยวกับความสวยงามของท้องทะเลบ้านเรา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลอันดามันฝั่งภาคใต้ประเทศไทยนั้น เป็นที่เลื่องชื่อโด่งดังไปทั่วโลก  และเกาะหนี่งที่เมื่อเอ่ยถึง ผมกล้าการันตรีได้ว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติท่านใดไม่รู้จัก นั่นคือ เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย นั่นเองครับ ภาพถ่ายโดย: Popcorn เกริ่นนำมาตั้งแต่ต้นแล้ว วันนี้ผมจึงออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อเป็นการพักผ่อนให้กับตัวผมเองที่ทำงานมาทั้งเดือนแล้ว ภาพนี้เป็นภาพถ่ายด้านบนหมู่เกาะพีพี เป็นภาพถ่ายที่เก็บมาบนเครื่องบิน  ที่ผมกำลังจะเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนนั่นเอง  ภาพถ่ายโดย: Popcorn มาถึงแล้วครับ ณ หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เมื่อมาถึงผมก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ ริมชายหาด ริมทะเล ผู้คนที่เกาะเป็นมิตรดีครับ ฝากบอกเพื่อนๆนะครับว่า การเดินทางไปเกาะพีพีนั้น รอบเรือจะมีเป็นเวลา รอบสุดท้ายคือ สี่โมงเย็น สามารถมาขึ้นที่ท่าเรือที่จังหวัดภูเก็ต หรือ จังหวัดกระบี่ได้เลยครับ หากเดินทางมาด้วยเครื่องบิน เมื่อลงเครื่องแล้วสามารถเดินไปถามเคาท์เตอร์ทัวร์ต่างๆที่สนามบินได้เลย เพราะราคาไม่ต่างกันมาก อย่าลืมรักษาเวลาในการเดินทางด้วยนะครับ เพราะเดี๋ยวแพลนจะคลาดเคลื่อนไปหมด เพราะต้องเผื่อเวลาเดินทางนั่งเรือไปเกาะพีพีใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ภาพถ่ายโดย: Popcorn มาถึงเกาะพีพี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกนั้น จะให้มาเดินถ่ายรูปด้านบนชาดหาด ก็คงไม่ใช่ตัวตนผมครับ ผมจึงได้ซื้อแพคเกจดำน้ำลึกที่เกาะพีพีครับ  ราคาดำน้ำลึกประมาณ 1,600 บาท ราคารวมทุกอย่าแล้วสามารถซื้อบนเกาะพีพีได้ครับ มีหลายเจ้าให้เลือกเลย ส่วนตัวผมนั้นเรียนดำน้ำลึกมาก่อนอยู่แล้วมีการสอบผ่านใบอนุญาตดำน้ำมาแล้ว จึงไม่ยุ่งยากมาก แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยเรียนดำน้ำมาก่อนเลย ก็สามารถดำได้ครับสอบถามได้โดยตรงกับทัวร์หรือโรงเรียนสอนดำน้ำที่เกาะพีพีได้เลย จะมีครูประกบตัวเราตลอด ปลอดภัยสบายใจหายห่วงครับ ส่วนตัวผมเรียนกับคุณครูท่านนี้ครับ ชื่อ Facebook :  Kai Tong https://www.facebook.com/chic.kabub.5 สามารถ Inbox ไปสอบถามได้โดยตรงเลยครับ  ภาพถ่ายโดย: Popcorn เริ่มสู่การท่องเที่ยวที่โลกใต้น้ำของผมกันเลยครับ  โดยคณะครูที่ดำน้ำเค้าจะพาเราออกเรือไปยังจุดดำน้ำ ที่มีประการัง สัตว์น้ำเยอะๆ ครับ ในระหว่างที่ดำน้ำ ครูเค้าจะประกบตัวเราอยู่ห่างๆ แต่สำหรับมือใหม่ครูจะประกบตัวตลอดอยู่ไม่ห่างเพื่อความปลอดภัยครับ ดำไปเรื่อยๆ โลกใต้น้ำมันเงียบสงบและเพลินดีนะครับ อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองมาเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่โลกใต้น้ำ ที่เกาะพีพี ประเทศไทยบ้านเราครับ ภาพถ่ายโดย: Popcorn เริ่มกันด้วย ปลาการ์ตูนน่ารักๆ และ ฝูงปลาที่แหวกว่ายกันมาเป็นฝูง เหมือนมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มุดตัวดำน้ำลงมาใต้น้ำ ใต้น้ำที่เกาะพีพีใสมากครับ ภาพที่เห็นคือภาพจากกล้องของผมไม่มีการปรับแต่งแต่อย่างใด อยากให้เพื่อนได้มาเห็นของจริง ว่าน้องปลาน่ารักขนาดไหน ว่าแต่ดูได้ถ่ายรูปได้อย่างเดียวนะครับ ห้ามจับน้องปลา เพื่อเป็นการไม่รบกวนความเป็นอยู่ของน้องปลาที่เป็นสัตว์โลกใต้น้ำครับ ภาพถ่ายโดย: Popcorn เมื่อได้นำภาพปลาการ์ตูนสุดน่ารักไปแล้ว มาถึงรอบของปะการังใต้ท้องทะเลเกาะพีพีกันบ้างครับ ปะการังยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มากเลยทีเดียว เป็นเครื่องแสดงให้เห็นได้ว่าใต้ท้องทะเลที่เกาะพีพี ยังไม่ถูกทำลายไปแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่เกาะนี้ กันอย่างมากมาย อย่างน้อยเป็นสัญญาณที่ดีนะครับว่า นักท่องเที่ยวมีจิตสำนึกที่ดีในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันมากขึ้น จะเห็นได้ว่า ผมส่วนมากเวลาจะถ่ายรูปใต้น้ำ ผมจะถ่ายคู่กับปะการังเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ไม่รบกวนเพื่อนสัตว์โลกใต้น้ำครับ เพื่อให้ธรรมชาติคงความสวยงามอยู่ตลอดไป ภาพถ่ายโดย: Popcorn ดำไปเรื่อยใต้น้ำเผลอแปปเดียว หมดเวลาแห่งความสงบเสียแล้วครับ ครูและคณะเค้าจะให้สัญญาณว่าให้ว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำแล้ว ส่วนตัวผมยังไม่จุใจกับโลกใต้น้ำเลย แต่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง เพราะอย่าลืมว่าถังออกซิเจนอากาศก็มีจำกัด 555 ลาไปก่อนกับโลกใต้น้ำ เดี๋ยวมาโผล่ด้านบนน้ำกันอีกสักหน่อยครับ ภาพถ่ายโดย: Popcorn หลังจากที่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำแล้ว ก็เริ่มจะใกล้มืดพอดี จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินที่ร้านอาหารบนเกาะพีพี ชิวสุดๆไปเลยครับ  สำหรับทริปท่องเที่ยวโลกใต้น้ำของผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์และเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการมาทะเลของใครหลายๆคนได้นะครับ แล้วพบกันใหม่ที่โลกใต้น้ำ ที่เกาะไหนหรือประเทศไหนสักที่นึงกับผม Popcorn อีกนะครับ               

PP Farm Seafood ร้านอร่อย สด โคตรถูก
อ่าน

PP Farm Seafood ร้านอร่อย สด โคตรถูก

PP Farm Seafood ร้านอร่อย สด โคตรถูก คนที่ชอบ Seafood ร้านอร่อย ที่สดและโคตรถูก ก็ต้องมาร้านนี้หล่ะ ร้าน PP Farm อยู่ย่านกาญจนาภิเษก บางแค เจ้าของร้านเป็นเจ้าของฟาร์มหอยนางรมที่สุราษฎร์ธานี เลยเริ่มจากเปิดท้ายขายหอย จนขยับมาเปิดร้านขายอาหารทะเล เพียงไม่กี่อย่าง ที่มีแค่ หอย กุ้ง ปู ปลา ที่ทำสุกแค่นึ่งย่างทอดและน้ำจิ้มรสเด็ด จากนั้นลูกค้าติดใจในความสด อร่อย และโคตรถูก เริ่มเพิ่มเมนูอาหารหลากหลายมากขึ้น จนไม่กี่ปีนี้เริ่มขยายร้าน ที่สามารถรองรับลูกค้าได้เป็นร้อยที่นั่ง และมีที่จอดรถรองรับลูกค้าได้สะดวกสบายมากขึ้น (ที่จอดก็มีจำกัดนะบางส่วนก็จอดริมถนนได้) อาหารที่นี่สดขึ้นชื่อ เมนูที่ลูกค้ามักสั่งประจำก็เป็นกุ้งแชบ๊วยอบเกลือ ปูม้านึ่ง เนื้อปูผัดพริก หอยนางรม กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งล็อบสเตอร์ที่ได้ราคาดี ถูกใจลูกค้าทุกคน ราคามาสอบถามที่ร้านจะดีกว่า เพราะมันแล้วแต่ขนาด น้ำหนัก และฤดูกาลนะ แต่คงไม่ผิดหวังแน่นอน  บรรยากาศภายในร้านก็ตกแต่งเรียบง่าย เหมือนทานข้าวในบ้านแบบกันเอง นอกจากนั้นง่ายต่อการเก็บกวาดทำความสะอาด ทำให้ภายในร้านดูโปร่งโล่งสบายตา ยิ่งในช่วง Covid-19 ยิ่งต้องทำความสะอาดดีเป็นพิเศษ ส่วนสำหรับใครที่อยากจะจัดเลี้ยงสังสรรค์กันเองเฉพาะเพื่อนฝูง หรือครอบครัว ต้องการความเป็นส่วนตัว เขาก็มีห้องสำหรับจัดเลี้ยง ซึ่งสามารถจองเข้ามาก่อนได้ ช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ 6 โมงเย็นไป คนจะแน่นร้าน ถ้าไม่อยากรอคิวก็ให้มาก่อนซัก 4-5 โมงเย็น หรือสะดวกสั่งกลับบ้านก็มีแพ็คเรียบร้อย โทรสั่งไว้ก่อน ประมาณ 45 นาทีไปรับกลับไปทานที่บ้าน ก็อร่อยได้ไม่ต้องรอคิว โทรเข้าไปก่อนได้นะ  ปกติส่วนตัวแล้วชอบสั่งกลับเวลาขับรถกลับบ้าน โทรสั่งไว้ก่อนเลย เพราะขับผ่านทุกวันอยู่แล้ว แวะรับกลับไปทานที่บ้านสะดวกมาก ชื่อร้าน : PP Farm Seafood ที่เบอร์ : 080 441 6898 ที่ตั้ง : อยู่บนถนนกาญจนาภิเษก ถ้ามาจากทางเส้นถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย4  มุ่งหน้าไปทางวงแหวนกาญจนาภิเษก ก็เลี้ยวซ้ายไปซักพักร้านอยู่ทางซ้ายมือ บนถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปทางบางแค เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น. Facebook : @ppfarmseafood   ที่จอดรถ : ประมาณ 20 คัน   #ร้านอร่อย #ppfarmseafood #seafood #ร้านอร่อยย่านกาญจนาภิเษก                    

ลังเล-PP Krit: ลังเลเมื่อเจอคนที่ถูกใจ
อ่าน

ลังเล-PP Krit: ลังเลเมื่อเจอคนที่ถูกใจ

บทนำอาการลังเลเมื่อเจอคนที่ถูกใจ และความมั่นใจที่เกิดขึ้นของตัวเอง บางคราวทำให้ไม่กล้าเข้าไปบอกรัก และความคิดถึงที่เกิดขึ้น ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านมามองบทเพลง ลังเล ของ PP Krit กันครับ ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลยครับการเล่าเรื่องในบทเพลงบทเพลง ลังเล ของ PP Krit มีแก่นเรื่องเกี่ยวกับ การแอบรัก และลังเลไม่กล้าบอกรัก โดยนำเสนอให้เห็นถึงความรู้สึกภายในของตัวละครจากเรื่องราวของบทเพลง ถือได้ว่านำเสนอเรื่องราวของความรักได้เป็นอย่างดีท่อนเพลงที่ชอบอยากหลับตา แต่ก็กลัวจะเสียเวลาได้มองเธออยากเก็บความลับเอาไว้ก็กลัวเธอจะเผลอตกไปเป็นของใคร ถ้าช้าเกินไปกว่านี้ไม่อยากให้เธอรู้ แต่ถ้าเธอไม่รู้ก็คงจะไม่ดีต้องบอกกับเธอตอนไหน หรือว่าเป็นตอนนี้เธอทำให้คนหนึ่งเขาต้องลังเล ก็ใจฉันกำลังเซเพราะเธอผู้เขียนชอบเพลงท่อนนี้มากที่สุด เพราะ ท่อน "อยากหลับตา แต่ก็กลัวจะเสียเวลาได้มองเธอ" บอกเล่าความรู้สึกของอารมณ์รักที่มากมายในหัวใจ ส่วนท่อน "ตกไปเป็นของใคร ถ้าช้าเกินไปกว่านี้" บอกเล่าความรู้สึกที่ตกหลุมรักโดยเฉพาะท่อน "เธอทำให้คนหนึ่งเขาต้องลังเล ก็ใจฉันกำลังเซเพราะเธอ" บ่งบอกถึงอารมณ์ของความคิดถึง ผ่านการใช้ภาษาของเรื่องราวอาหารลังเลที่จะรักนำเสนอได้เป็นอย่างดีเสน่ห์ดนตรี และเอ็มวีเสน่ห์ของดนตรี คือ เสียงของซาวด์เพลง โดยเฉพาะเสียงของ นักร้องที่มีการประสานเสียงดนตรีส่งอารมณ์รู้สึกถึงอาการลังเลรัก เข้าไปช่วยให้ดนตรีสนุกสนานนำอารมณ์ของคนฟังไปตามบทเพลง และ เสน่ห์ของเอ็มวี บอกเล่าเรื่องราวผ่านฉากของ เรื่องราวความรักของสองตัวละคร เป็นสัญญะที่แสดงถึงความรักที่เกิดขึ้นโดยเอ็มวีดังกล่าวช่วยเสริมให้บทเพลงนี้มีอารมณ์ของความรักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพีพีและไมค์ ที่นำเสนอเรื่องราวความรักและความฟินได้เป็นอย่างดีสรุปส่งท้ายบทเพลง ลังเล ของ PP Krit เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีความไพเราะผ่านความลังเลใจที่จะรัก ได้เป็นอย่างดี โดยเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่นำเสนอมุมมองเรื่องราวของความรักให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยฟัง บทเพลง ลังเล ของ PP Krit อย่าลืมไปติดตามฟังกันนะครับฟังเพลงเต็มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=CnAaByxzsxIเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก จาก PP Krit Entertainmentภาพที่ 1 จาก PP Krit Entertainmentภาพที่ 2 จาก PP Krit Entertainmentภาพที่ 3 จาก PP Krit Entertainmentภาพที่ 4 จาก PP Krit EntertainmentเครดิตวิดีโอPP Krit - ลังเล [Official MV]คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน

"PP Krit" พร้อมเสิร์ฟความสนุก กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก "PP KRIT MY PLEASURE CONCERT"
อ่าน

"PP Krit" พร้อมเสิร์ฟความสนุก กับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก "PP KRIT MY PLEASURE CONCERT"

พร้อมเสิร์ฟความสนุก ให้สมกับการรอคอย "PP KRIT MY PLEASURE CONCERT" คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ "PP Krit (พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร)" ที่จะนำเอาความสุข และตัวตนของพีพี มานำเสนอ พร้อมพาทุกคนไปบนรันเวย์ของความอลังการผ่านโชว์ ชุด และ Performance ทั้งร้อง และเต้น เติมเต็มความสุขให้เต็มอิ่มไปกับโมเมนต์ประทับใจ จัดหนักจัดเต็มทั้ง 2 รอบการแสดง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8-9 มีนาคม 2568 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี สำหรับแฟนคลับทั่วโลกยังสามารถรับชมได้แบบเรียลไทม์ ไปกับการรับชมแบบ Live Streaming วอร์มนิ้วให้พร้อม "PP KRIT MY PLEASURE CONCERT" เปิดจำหน่ายบัตรรอบ Pre-sale ก่อนใคร ในวันที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 10:00 น. และเปิดจำหน่ายบัตรรอบทั่วไป ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10:00 น. ผ่านทาง www.theconcert.com วัน เวลาแสดง : เสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 | 19:00 น. (GMT+7) อาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 | 18:00 น. (GMT+7) สถานที่ IMPACT Arena Muang Thong Thani Ticket information : ราคาบัตร (THB): VIP Room 20,000/seat | 10,000 / 7,000 / 6,500 / 6,000 / 5,500 / 4,500 / 3,500 / 2,500 ราคาบัตร Live streaming(THB): 1,200/รอบการแสดง (E-Ticket สำหรับเข้าชม Live Streaming) ระยะเวลาขายบัตร : บัตรที่ขายรอบ Pre-sale เปิดรับลงทะเบียนวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 10:00 น. และปิดรับลงทะเบียนวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 18:00 น. (GMT+7) ขายบัตรรอบ Pre-sale: 29 มกราคม 2568 บัตรที่ขายรอบปกติขายบัตรวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านทาง www.theconcert.com บัตร Live Streamingขายบัตรวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 - 9 มีนาคม 2568

“แพรวพราว แสงทอง” ลุยงานเพลงเปิดตัว  “ต้า สาธุ” ในนาม PP มิวสิค
อ่าน

“แพรวพราว แสงทอง” ลุยงานเพลงเปิดตัว “ต้า สาธุ” ในนาม PP มิวสิค

แพรวพราว แสงทอง ลุยงานเพลงเปิดตัว ต้า สาธุ ในนาม PP มิวสิค หลังจากผ่านดราม่าชีวิตคู่สำหรับ แพรวพราว แสงทอง คู่ชีวิต บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ และขอจบเรื่องราวด้วยการเป็นเพื่อนต่อกันและเป็นพ่อแม่ของลูกเท่านั้น ทั้งนี้ศิลปินในคณะต่างก็แยกย้ายไปตามงานและความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมา ล่าสุด ต้า สาธุก็ย้ายจาก โตเกียวมิวสิค ของ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ มาอยู่กับ แพรวพราว แสงทอง โดยแพรวพราวไลฟ์ว่า ต้า สาธุ ไม่ได้เป็นศิลปินในสังกัดโตเกียวมิวสิค แต่ตอนนี้จะลงช่อง pp มิวสิค ของแพรวพราว แสงทองแล้ว ด้าน ต้า บอกว่าตอนนี้กำลังจะปล่อยเพลงใหม่ ผู้บ่าวเมียเขา ความหมายผู้ชายคนหนึ่งไปชอบสาวคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว เราแค่ตัวสำรอง เราไม่รู้ เพลงนี้ไม่ได้แต่งมาเพื่อสถานการณ์อะไร อ.ภาคิน เป็นคนแต่ง เจ้าของเพลงดังเช่น ชอบแบบนี้ ของ หนามเตย แพรวพราว แสงทอง เผยอีกว่าที่เรายังยิ้มยังหัวเราะได้เพราะเรามีแฟนคลับ ทำไมเราทำได้ ถ้าเราไม่ทำแล้วเราจะเอนเตอร์เทนแฟนคลับได้อย่างไร ทุกคนต้องทำมาหากิน และเดินต่อไป เราคุยกับ พ่อบิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ แล้ว เพลงนี้แต่งมานานแล้ว แต่เพลงเพิ่งเสร็จ เราก็อยากสื่อออกไป จะฟีดแบกอย่างไรก็สุดแล้วแต่แฟนเพลง

Review เพลง "FIRE BOY"  ของ PP Krit ฮอตแค่ไหน ต้องไปดู!!!
อ่าน

Review เพลง "FIRE BOY" ของ PP Krit ฮอตแค่ไหน ต้องไปดู!!!

       ทำเอาหน้าหนาวนี้ไม่หนาวอีกต่อไป เมื่อ หนุ่ม พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ได้ปล่อย Single ใหม่ล่าสุด ออกมาเมื่อเช้า วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 แบบสดๆร้อนๆ นั่นก็คือเพลง  "FIRE BOY"  ที่ชาวแฟนด้อมต่างตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้กันมานานมากกกก ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทำเอาโซเชียลร้อนแรงไฟลุกเวอร์ จนขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ เลยค่ะคุณณณณ แล้วเพลง "FIRE BOY" เนี่ยจะเพราะแค่ไหน MV จะเริ่ดขนาดไหนวันนี้เราก็จะมารีวิวให้ทุกคนได้ฟังกันคร้าเริ่มเลออออhttps://www.instagram.com/p/Ckes15QSV1K/     สำหรับเนื้อเพลง "FIRE BOY" ก็จะเป็นเพลงที่ออกแนวห้ามชายหนุ่มว่าอย่ามาล้อเล่นกับชั้นนะเพราะชั้นคือ"ไฟ"(ถึงแม้เนื้อเพลงจะห้ามนะ แต่เสียงของ พีพี สายตา และท่าทาง Movement ต่างๆใน MV แล้วนั้น เหมือนจะเชิญชวน มากกว่าห้ามอีกว่า ถ้าแน่จริงก็เข้ามาซี้  ....555     https://www.instagram.com/p/CkcMqrsyJVA/สำหรับเรา เราว่าเพลง "FIRE BOY"ซึ่งเป็นแนว เพลง RB ทำออกมาได้ดีมากกกก เพราะเนื้อเพลงท่อนฮุคติดหูมาก ใครได้ฟังครั้งแรกก็ติดหูจนสามารถร้องตามได้เลย เหมือนเราอ่ะหลังจากที่ได้ฟังแค่ครั้งเดียวสามารถก็ร้องท่อนฮุคได้เลยจ้า "อย่ามาเล่นกับไฟ ร้อน ๆ จะไม่ดี ฉันกลัวจะไม่ปลอดภัย, just stay away from me เธอเข้ามาเล่น ๆ กับใจ แบบนี้ก็ไม่เอา" อิอิ ซึ่งความพิเศษของเพลงนี้นะที่ได้เนื้อร้อง และทำนองออกมาดีขนาดนี้ ก็ เพราะ ได้นักร้องชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นอย่างTHE TOYS มาทำเพลงให้ โดยเป็นทั้ง Producer อัดเสียง และ ร่วมแต่งทำนองเพลงด้วยยยย ปังมากแม่ ซึ่งไม่แปลกเลยว่าเพลงจะปังแค่ไหน เพราะชื่อของ Producer ก็การันเตอทูการันตีด้วยคุณภาพผลงานที่ผ่านมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพลง เป็นทุกอย่างให้เพลงแล้ว หรือ เพลง มีเธอทุกวันก็โอนิ  https://www.instagram.com/p/CZHMHeOhDyN/      นอกเหนือจาก เนื้อเพลงและทำนองที่ทำออกมาดีจนติดหูไปแล้วนั้น MV ก็ไม่ธรรมดาจ้า เพราะต้องบอกเลยว่า MV นี้ได้ CG แน่นมาก ทำเอาสมจริงมากๆเลยค่ะทุกคน คือเนื้อเพลงต้องเกี่ยวกับไฟ แล้วไฟ ที่ทำออกมาใน MV นั้นก็ทำออกมาได้สมจริงมากคุณ ดูเนียนมาก และที่สำคัญดูอินเตอร์มากๆค่ะ ออกสู่สายตาชาวต่างชาติได้อย่างไม่อายเลยคร้าาาา ปลื้มปริ่มในความสามารถของคนไทยจริงๆ รับรองทะลุ 100 ล้านวิว ภายในไม่กี่วันแน่นอนhttps://www.instagram.com/p/CkezpqpptKq/ท่าเต้นใน MV ก็ออกมาเลื้อยมาก เฟี้ยวมากกกกก พีพีทำออกมาได้ยั่วยวน และเชื้อเชิญไม่ไหว ซึ่งเรามองว่า พีพี ทำออกมาได้ดีมาก เต้นได้ดีมากกกก อาจจะเป็นเพราะรูปร่างของหนุ่ม พีพี ด้วยล่ะ ที่ผอมบางร่างน้อยมากกกก ไม่รู้ไปฝากไส้ไว้ที่ไหน คนอะไรผอมที่สุด เอวเล็กไม่ไหว เลยทำให้ทุกท่วงท่าเต้นออกมาได้พริ้วสุดๆไปเลยค่ะ ซึ่งรับรองเลยว่าต้องกลายเป็นท่าเต้นสุดฮิตประจำชาว TikTok ภายในไม่กี่วันแน่จ้าาา ท่าเต้นว่าแซ่บแล้ว ชุดของพีพีก็ไม่แพ้กันจ้า ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย คงความเป็นลายเซนต์ของ พีพี ไว้คือ ระดับพีพีทั้งที ต้อง Sexy สิจ้ะ จะรออะไร รับรองชุดใน MV ต้องดูพูดถึงในทุกๆรายการที่น้องไปสัมภาษณ์อย่างแน่นอน       นอกจาก MV และหนุ่ม พีพี ที่ร้อนแรงแล้วนั้น พระเอก MV ของเพลง "FIRE BOY" ก็ร้อนระอุไม่แพ้กันจ้า งานดีไม่ไหว มาในหนุ่มหล่อ สไตล์ Badboy กร้าวใจมาก จนชาวเน็ตต่างพากันสืบกันไม่ไหว ว่าเป็นใครกันนะ ซึ่งเราก็ได้ชื่อมาแล้วก็คือ หนุ่ม "เจสัน" นั่นเองคร้า (เอิ่ม...ได้ข้อมูลมาประมาณนี้ค่ะคุณ เดี๋ยวถ้าได้ข้อมูลมาเยอะจะมาเล่าให้ฟังใหม่น้าาาา ) ซึ่งใน MV ที่หนุ่มเจสันเล่นคู่กับ พีพี นั้นแอบสปอยล์เล็กๆเลยค่ะ ว่ามีฉากที่ทุกคนจะต้องกรี๊ดหนักมากกก พระเอกหนุ่มราชาน้ำแข็งจะทนสายตาและจริตของพีพียังไงไหวล่ะ หนุ่มบิ้วกิ้นเตรียมถือไม้เรียวได้เลยจ้าเป็นไงบ้างคร้าสำหรับ Review เพลง "FIRE BOY" ของ PP Krit ในฉบับของเรา ซึ่งถ้าใครที่อดใจไว้ไม่ไหวแล้วอยากจะติดตาม MV ตัวเต็มก็สามารถรับฟังได้แล้ววันนี้ ที่ช่อง Youtube PP Krit Entertainment กับ MV เพลง PP Krit - FIRE BOY [Official MV] รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=NvBHCtMb5u8สุดท้าย ท้ายสุด ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากมีผมสีเทาสวย เหมือน หนุ่ม พีพี ใน MV แล้วล่ะก็เราก็มีเคล็ดลับผมสวีเทามากระซิบบอกคร้าา กับบทความ Review เปลี่ยนสีผมเป็นสีเทา ทำเองง่ายๆไม่ง้อร้าน รับรองเลยว่าออกมา เป๊ะ ปัง ไม่แพ้ พีพี แน่นอนคร้า วันนี้ลาไปแล้ว สวัสดีคร้าาา.... บทความที่เกี่ยวข้องReview เปลี่ยนสีผมเป็นสีเทา ทำเองง่ายๆไม่ง้อร้าน สาวผมสีเทาต้องรู้ ถ้าไม่อยากติดเหลือง!รีวิว แชมพูม่วง สำหรับผมทำสี TRESemmé จะกัดกี่สีก็ไม่มีดราม่าเครดิตภาพIG : pp.krittภาพปก 1 ภาพปก 2 ภาพที่ 1 ภาพที่ 2IG : thetoysthetoysthetoys ภาพที่ 3IG : hwanjeabjeabภาพที่ 4 Facebook : PP Krit Entertaimentภาพที่ 5 ภาพที่ 6 เครดิตวีดีโอYoutube PP Krit Entertainment  PP Krit - FIRE BOY [Official MV] ตกแต่งภาพโดยผู้เขียน : LookPutt#พีพี  #FIREBOY_MV #PPKritEntertainment #PPKritt เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

DOD ลงทุน 90 ล. ขาย PP–RO–หุ้นกู้
อ่าน

DOD ลงทุน 90 ล. ขาย PP–RO–หุ้นกู้

DOD ชี้บริษัทย่อยทุ่มงบ 90 ล้านบาท ซื้อหุ้น AWL หวังผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี คืนทุนไม่เกิน 5 ปี ฟากผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุนจดทะเบียน 71.94 ล้านหุ้น รองรับการเสนอขายหุ้น PP - RO และการใช้สิทธิ DOD-W2 พร้อมคลอดหุ้นกู้อีก 500 ล้านบาท นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้ดำเนินธุรกิจรับจ้างพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ODM) จากสารสกัดธรรมชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน 71.94 ล้านหุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิม 615 ล้านหุ้น เป็น 686.94 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคล ในวงจำกัด (PP) จำนวน 24.39 ล้านหุ้น ที่ระดับราคา 4.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 100 ล้านบาท ** เพิ่มทุนรับวอร์แรนต์ นอกจากนี้ยังเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วน (RO) จำนวน 25.55 ล้านหุ้น ที่ราคา 4 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 102 ล้านบาท เพื่อสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ครั้งที่ 2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิ DOD-W2) จำนวนไม่เกิน 22 ล้านหุ้น อีกทั้งได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ในวงเงินรวมไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อเสนอขายภายในประเทศต่อประชาชนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ของบริษัท รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการขยายและต่อยอดให้กับกลุ่มบริษัท สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนจากบุคคลในวงจำกัด (PP) ตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะนำไปขยายกิจการตามกลยุทธ์ของบริษัทที่จะมุ่งพัฒนาตลาดแบรนด์ของตนเอง (Own Brands) เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการรับจ้างผลิตให้แก่แบรนด์ของลูกค้าเท่านั้น ** มุ่งลงทุนใน AWL ทั้งนี้จึงมุ่งเข้าไปลงทุนใน บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด หรือ AWL ที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริมที่ผลิตในประเทศออสเตรเลีย ภายใต้แบรนด์ AuswellLife ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภาพและความงามที่เหมาะสำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัย โดยจัดจำหน่ายในหลายประเทศในเอเชีย ในปัจจุบัน AWL เป็นเพียงเจ้าเดียวในตลาดที่ขายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดังกล่าวในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัท ดีโอดี อินฟินิท จำกัด (บริษัทย่อย) จะเข้าทำรายการซื้อหุ้นใน AWL ในสัดส่วนร้อยละ 89.29 ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 90 ล้านบาท จากการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนใน AWL คาดว่าจะผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี และมีระยะเวลาการคืนทุน (Payback Period) ไม่เกิน 5 ปี

STARKเข้าเกณฑ์SET50 เพิ่มทุนPPดันมาร์เก็ตแคป
อ่าน

STARKเข้าเกณฑ์SET50 เพิ่มทุนPPดันมาร์เก็ตแคป

#STARK #ทันหุ้น - STARK เพิ่มทุน PP 1,500 ล้านหุ้น ราคา 3.72 บาท กำหนดวันจองซื้อชำระค่าหุ้น 4 ตุลาคม จับตาประกาศรายชื่อพันธมิตร นำเงินซื้อ ยักษ์สายไฟอีวี ยอดขายสูง 5 หมื่นล้านบาท ด้านโบรกมอง STARK มีสิทธิเข้า SET50 ปีหน้า เหตุมาร์เก็ตแคปจะพุ่งเกิน 8 หมื่นล้านบาท บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด หรือ (Private Placement : PP) ที่ราคาหุ้นละ 3.72 บาท โดยกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นในวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้บริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,500 ล้านหุ้น แบบ PP คิดเป็นสัดส่วน 11.19% ซึ่งบริษัทจะแจ้งจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรและข้อมูลของบุคคลในวงจำกัดที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้ทราบเมื่อเสร็จสิ้นการเสนอขายและชำระราคาและได้รับทราบรายชื่อบุคคลในวงจำกัดที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่แน่ชัดแล้ว @ซื้อยักษ์สายไฟยานยนต์ ก่อนหน้านี้ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 1,500 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 15,875 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 17,375 ล้านบาท นั้นเพื่อรองรับการเข้าซื้อหุ้น LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc ในสัดส่วน 100% มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 560.00 ล้านยูโร หรือประมาณไม่เกิน 20,572.89 ล้านบาท โดยสำหรับ LEONI Kabel เป็นบริษัทย่อยของ LEONI AG (LEONI) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนีและ LEONIsche ที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทย่อยของ LEONI ซึ่งเป็นกิจการ Business Group Automotive EV Cable (BG AM) ดำเนินธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ (Automotive Cable) และสายไฟสำหรับ EV Charging Solutions ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดขายปี 2564 ประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5 หมื่นล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมนี และโรงงานผลิต 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เยอรมนี โปแลนด์ สโลวาเกีย ฮังการี ตุรเคีย เม็กซิโก และ จีน โดยมี End-Users เป็น OEM ผู้ผลิตรถยนต์สันดาป และรถ EV แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกทั้งค่ายยุโรป อเมริกัน ญี่ปุ่น และจีน จะเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจของ STARK เข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Automotive, EV และ Charging Solutions จากเดิมที่ STARK เป็นผู้นำอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียนในสายไฟฟ้ากลุ่ม Power Cable อยู่แล้ว ซึ่งศักยภาพและเทคโนโลยีของ LEONI ที่เป็นผู้นำด้านสายไฟ Automotive EV อันดับ 1 ของโลก ประสบการณ์ยาวนานและฐานลูกค้า Tier 1 Tier 2 ที่แข็งแกร่งทั่วโลก และมี Synergy ที่ชัดเจนกับธุรกิจ Power Cable เดิมของ STARK ทั้งในเรื่อง Supply Chain การจัดซื้อวัตถุดิบโดยใช้ Economies of Scale อีกทั้งแผนการขยายธุรกิจ LEONI เข้าภูมิภาคอาเซียนที่ STARK มีฐานการผลิตอยู่แล้ว และความเป็นไปได้ที่จะขยายการผลิต Power Cable ของ STARK ไปในตลาดต่างประเทศที่ LEONI มีฐานการผลิตอยู่แล้ว ตามแนวโน้มของโลกในเรื่อง De-Globalization @เข้า SET50 ปีหน้า ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อหุ้น STARK ให้ราคาเป้าหมายของปี 2566 อยู่ที่ 6 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น 11% เป็น 3.2 พันล้านบาท และประเมินว่าหุ้น STARK มีโอกาสจะเข้าคำนวณใน SET50 ได้ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นแรงหนุนเชิงบวกให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น "หลังได้เข้าพบผู้บริหาร STARK ทำให้ยังคงมองแนวโน้มกำไรของบริษัทจะดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งหลังปีนี้ ตามปัจจัยฤดูกาลของทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อที่รอการส่งมอบประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในครึ่งหลังปีนี้จนถึงปีหน้า ในขณะที่ราคาทองแดงมีแนวโน้มปรับตัวลดลง และยังได้เห็นถึงปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อบริษัทลูกของ LEONI AG ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสายเคเบิ้ลสำหรับรถยนต์ และสถานีชาร์จรถไฟฟ้า" ฝ่ายวิจัยยังได้ประเมินโอกาสที่มาร์เก็ตแคปของ STARK จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถเข้าเกณฑ์คำนวณดัชนี SET50 โดยคาดว่าจะสามารถเข้าได้ในปี 2566 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนในเชิงบวกให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในปีหน้า ฝ่ายวิจัยมองว่า STARK มีการเติบโตของธุรกิจที่โดดเด่นในอีก 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ในระยะสั้นมองว่าเป็นหุ้นเติบโตสูงในขณะที่ซื้อขายพี/อี ปี 2566 เพียง 14.5 เท่า มองว่ากำไรของ STARKจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ไตรมาสในช่วงที่เหลือของปีนี้

บอร์ด OTO ไฟเขียวออกวอร์แรนท์-เพิ่มทุนขาย PP
อ่าน

บอร์ด OTO ไฟเขียวออกวอร์แรนท์-เพิ่มทุนขาย PP

#OTO #ทันหุ้น-บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด(มหาชน) หรือ OTO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 หรือ OTO-W จำนวนไม่เกิน 906,016,595 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนการจัดสรรที่หุ้นสามัญเดิมจำนวน 11 หุ้นต่อ 5 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ OTO-W2 ทั้งนี้ OTO-W2 มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่ออก อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น และราคาใช้สิทธิคือ 1.3 บาท คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 2,106,016,595 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 839,999,995 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,946,016,590 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,106,016,595 หุ้น เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และ (2) รองรับการใช้สิทธิของ OTO-W2 โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนขายแบบ PP ให้แก่ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ม.ร.ว.จุลรังษี ยุคล, นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา, นายปฏิพล ประวังสุข, นายอาดาม อินสว่าง และนางสาวรฐา วีระพงษ์ ส่วนหุ้นเพิ่มทุนอีกจำนวนไม่เกิน 906,016,595 เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ OTO-W2 ทั้งนี้ การเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) บริษัทจะสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนเงินประมาณ 720 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนในการรองรับการขยายการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัท

NEX จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน PPให้ “คณิสสร์” 39.2 ล้านหุ้น
อ่าน

NEX จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน PPให้ “คณิสสร์” 39.2 ล้านหุ้น

#NEX #ทันหุ้น - บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เวลา 15.00 น. ได้มีมติอนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.55 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.66ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวม 191.25 ล้านบาท จัดสรรหุ้นดังนี้ 1. นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา จำนวน 39,215,686 หุ้น หรือ 52.29% ของจำนวน 75 ล้านหุ้น 2. บุคคลอื่นจำนวน 35,784,314 หรือ 47.71% ของจำนวน 75 ล้านหุ้น สำหรับบุคคลอื่น อยู่ระหว่างการเจรจาสรุป และจะแจ้งให้ทราบในภายหลังต่อไป รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ NEX ณ วันที่ 8 มีนาคม 2567

SELICขายหุ้นPP ให้SPIถือ3.64% เสริมฐานเงินทุน
อ่าน

SELICขายหุ้นPP ให้SPIถือ3.64% เสริมฐานเงินทุน

ทันหุ้น SELIC จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 28 ล้านหุ้นขาย PP ให้ SPI เข้าถือหุ้น 3.64% มูลค่าเงินลงทุน 49.99 ล้านบาท หวังเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ เสริมฐานเงินทุนแข็งแกร่ง และมีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ หนุนแผนงานในระยะยาว นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจัดสรรและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 28 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 3 ราย ในราคาหุ้นละ 3 บาท ประกอบด้วย บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPI ถือหุ้น 16,666,000 หุ้นหรือ 3.64% มูลค่าเงินลงทุน 49,998,000 บาท จองซื้อ11-15มิ.ย. จัดสรรให้กับบริษัท บีเอส ซี โซ อิน จำกัด และบริษัท บี ที เอ็น สิบสองศูนย์เจ็ด จำกัด โดยจัดสรรให้รายละจำนวน 5,667,000 หุ้น หรือ 1.24% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรายละ 17,001,000 บาท โดยกำหนดวันจองซื้อและชำระเงินในวันที่ 11-15 มิ.ย.2564 นี้ ทั้งนี้บริษัทจะได้รับประโยชน์จากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครี้งนี้ จะทำให้มีเงินทุนสำหรับการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อขยายกิจการตามแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท, จะมีสภาพคล่องมากขึ้นจากเงินทุนที่ได้รับ ซึ่งจะช่วยให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีความแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น และทำให้มีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยผลักดันและขยายกิจการและแผนงานของบริษัทได้ในระยะยาว ฉายภาพธุรกิจQ2 ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทมองแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการไตรมาส 2/2564 จะเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะรายได้ยังสามารถเติบโตได้ตามปกติและเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมครึ่งปีแรกปี 2564 ให้เติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อนได้เช่นกัน ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ภาพรวมผลประกอบการเติบโตดีขึ้นมาจากการส่งออก โดยเฉพาะในกบลุ่มแพ็คเกจจิ้ง โลจิสติกส์ ซึ่งมียอดส่งออกสูงจากประเทศออสเตรเลีย เอเชีย เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในไตรมาส 2 และ 3 เป็นต้นไป ทั้งนี้บริษัทมั่นใจรายได้ปี 2564 จะทำได้ตามเป้า หรือมีอัตรการเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ 1.25 พันล้านบาท โดยบริษัทมีเป้าหมายสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดิ่ม 15% กลุ่มแพ็กเกจจิ้ง 20%กลุ่มโลจิสติกส์ 10% กลุ่ม Consumer 5% และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ 5% คาด D/E ลดลง ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 2.02 เท่า และคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะลดลงเหลือต่ำกว่า 1 เท่า ลดลงมาต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ที่ D/E ปรับตัวขึ้นไปกว่า 3 เท่า หลังจากการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม PMC ได้แก่ บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลล์ จำกัด (PMCT) และบริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด (PMCS)

"SOLAR" เล็งเพิ่มทุน PP 330 ล้านหุ้น ขายกองทุนสิงคโปร์
อ่าน

"SOLAR" เล็งเพิ่มทุน PP 330 ล้านหุ้น ขายกองทุนสิงคโปร์

#ทันหุ้น - SOLAR บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน PP ไม่เกิน 330 ล้านหุ้น ขายกองทุนสิงคโปร์ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ราคาหุ้นละ 0.80 บาท พร้อมชงผู้ถือหุ้น 18 ธ.ค.นี้ ฟากซีอีโอ สิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ เล็งนำเงินขยายลงทุนธุรกิจหลักและธุรกิจที่เกี่ยวข้องตามแผน มั่นใจดันรายได้เติบโตมั่นคงในระยะยาว แย้มมีโอกาสกลับมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง ส่งสัญญาณปี 67 เทิร์นอะราวด์เต็มสูบ นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (SOLAR) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 330 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ได้แก่ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ซึ่งบุคคลดังกล่าวไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 0.80 บาท คาดได้รับเงินลงทุนราว 264 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ถือหุ้นบริษัทฯ เป็นจำนวน 330,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 21.61% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปัจจุบัน และเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว การออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 330 ล้านหุ้นให้กับ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ในราคา 0.80 บาท/หุ้น คาดว่าจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน รวมทั้งเสริมสร้างให้มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ทั้งในส่วนของแผงโซลาร์เซลล์และธุรกิจ EPC รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในธุรกิจพลังงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่พลังงานจากแสงอาทิตย์ เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยลดภาระหนี้สินในการกู้ยืม และภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในระยะยาวได้อย่างมั่นคง รวมทั้งการกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้โดยเร็วที่สุด ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิ 5.97 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 51.18 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 166.16 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 137.67 ล้านบาท ทั้งนี้มีสาเหตุสาเหตุหลักมาการกลับรายการค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์และค่าเผื่อผลขาดทุนจากการลดมูลค่าของสินค้า เนื่องจากการประเมินราคาทรัพย์สินให้เป็นปัจจุบัน

STARKกองทุนแห่ซื้อPP เชื่อมั่นสายไฟยานยนต์
อ่าน

STARKกองทุนแห่ซื้อPP เชื่อมั่นสายไฟยานยนต์

#STARK #ทันหุ้น - STARK เปิดชื่อจัดสรร PP จำนวน 1,500 ล้านหุ้น ให้นักลงทุน 12 ราย พบสถาบันแห่ซื้อหุ้นเพียบ ทั้งกองทุนไทย-เทศ-ประกัน ด้านบิ๊กชนินทร์ปลื้มกระแสตอบรับ ชูเห็นอนาคตนำเงินลงทุนต่อยอดซื้อธุรกิจขึ้นเป็นยักษ์สายไฟรถยนต์ รับโอกาสเติบโตอีวีสูง ส่วนปีหน้ารายได้ทะยาน 8 หมื่นล้านบาท บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ถึงการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่เสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 1,500 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.72 บาทนั้น ได้จัดสรรให้กับนักลงทุนจำนวน 12 ราย ซึ่งสามารถลงทุนในบริษัทได้ในระยะกลางถึงยาว @เปิดรายชื่อซื้อหุ้น PP โดยนักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรประกอบด้วย Credit Suisse (Singapore) Limited ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ได้รับการจัดสรรจำนวน 74,399,900 หุ้น, The Hongkong and Shanghai Banking Corporation Limited ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ได้รับการจัดสรร 353,000,000 หุ้น, UOB Kay Hian Private Limited ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ได้รับการจัดสรร 58,500,000 หุ้น, บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน ได้รับการจัดสรร 320,000,000 หุ้น นอกจากนี้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน ได้รับการจัดสรร 268,817,200 หุ้น, บริษัท เอสซีบี แอสเซ็ท แมเนจเม้นท์ จำกัด ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภทกิจการจัดการลงทุน ได้รับการจัดสรร 182,000,000 หุ้น, บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ได้รับการจัดสรร 53,763,000 หุ้น, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ทำธุรกิจบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ได้รับการจัดสรร 51,000,000 หุ้น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน ได้รับการจัดสรร 47,029,800 หุ้น, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจประกัน ได้รับการจัดสรรจำนวน 30,000,000 หุ้น, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน ได้รับการจัดสรร 29,000,000 หุ้น และบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนอเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน ได้รับการจัดสรร 32,490,100 หุ้น @โอกาสโตในอุตอีวี ด้านนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า สำหรับเงินที่ได้จากการขาย PP ก็จะนำไปชำระเงินลงทุนเพื่อเข้าซื้อหุ้นใน LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc ในสัดส่วน 100% ซึ่งเป็นกิจการ Business Group Automotive EV Cable (BG AM) ดำเนินธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ (Automotive Cable) และสายไฟสำหรับ EV Charging Solutions ใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ว่าจะลงทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2565 และจะรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มทันทีส่งผลให้ภาพรวมทั้งในแง่รายได้และกำไรปีนี้ อย่างไรก็ดีรับเป็นการมุ่งสู่ธุรกิจ EV อย่างมัยสำคัญที่จะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ ที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก ปัจจุบันบริษัทก็ได้เกินหน้าในธุรกิจนี้ไปจำนวนมากแล้ว และเชื่อว่าจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นเชื่อว่าผลประกอบการจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2566 โดยรายได้จะทำได้ถึงระดับ 8 หมื่นล้านบาทจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ราว 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้บริษัทก็ยังไม่ปิดกั้นโอกาสในการเจรจาซื้อกิจการเพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง

MILLขายPPให้รายใหญ่ บิ๊กCOM7ร่วม-บุกไฟฟ้า
อ่าน

MILLขายPPให้รายใหญ่ บิ๊กCOM7ร่วม-บุกไฟฟ้า

#MILL #ทันหุ้น - MILL ขายหุ้น PPให้รายใหญ่ ไม่เกิน 462 ล้านหุ้น นำโดย สุระ คณิตทวีกุลหวังนำเงิน 364.97 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง ขยายการลงทุน พร้อมดัน ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน ลุยขยะเตรียมเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ไตรมาส 4/2565 ราคาเหล็กฟื้น ผลงานคงเป้ารายได้ปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท นายประวิทย์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดจำนวนไม่เกิน 462,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.40 บาท (สี่สิบสตางค์) โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ได้มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 0.79 บาท โดยเป็นราคาไม่ต่ำกว่าราคา 90% ของราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วง น้ำหนักต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัท โดยราคาเสนอขายคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทย้อนหลังเป็นระยะเวลา 15 วันทำการติดต่อกัน (ราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างวันที่ 20 ก.ค. 11 ส.ค. 2565) ซึ่งราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเท่ากับ 0.86 บาท *ขาย PP นำเงินต่อยอด โดยกำหนดรายชื่อบุคคลในวงจำกัดผู้ได้รับจัดสรรหุ้น ดังนี้ คุณธัญชาติ กิจพิพิธ จำนวนหุ้น 75,940,000 ราคาเสนอขาย หุ้น 0.79 บาท คุณสุระ คณิตทวีกุล จำนวนหุ้น 253,160,000 ราคาเสนอขาย หุ้น 0.79 บาท นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี จำนวน หุ้น 94,930,000 หุ้น ราคาเสนอขาย 0.79 บาท คุณทวีศักดิ์ ตั้งเด่นไชย จำนวนหุ้น 25,310,000 หุ้น ราคาเสนอขาย 0.79 บาท คุณณรงค์ชัย สิมะโรจน์ จำนวนหุุ้น 12,650,000 หุ้น ราคาเสนอขาย 0.79 บาท โดยประโยชน์ที่ได้รับภายหลังจากการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ส่งเสริมศักยภาพในการลงทุนของบริษัท ทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และทำให้บริษัทมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้นทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินเพิ่มทุน จำนวน 364.97 ล้านบาท ที่ได้จากการเพิ่มทุน ไปใช้สำหรับขยายกิจการ และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน และ/หรือใช้ชำระหนี้ระยะสั้นให้กับสถาบันการเงิน ภายในปี 2565 นอกจากนี้ในส่วนของยังเดินหน้าผลักดัน บริษัท ซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน จำกัด (MILL ถือหุ้น100%) ในการเข้าไปรับรีไซเคิลซากรถยนต์เก่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าซากรถจากต่างประเทศเข้ามา หากภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการรีไซเคิลรถเก่าในประเทศ หรือมีความชัดเจนเรื่องการจัดการกับรถเก่า บริษัทมีโอกาสที่จะเข้าไปรับงานรีไซเคิลได้ และมีโอกาสเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมที่เปิด หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบหลักการการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี 2565 ปริมาณ 100 เมกะวัตต์ ในอัตรา 6.08 บาทต่อหน่วย (ไม่ร่วมอัตรา FiT Premium) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) และกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในปี 2569 คาดว่าจะมีการประมูลในช่วงไตรมาส 4/2565 อย่างไรก็ดีในส่วนของซันเทค รีไซเคิล แอนด์ ดีคาร์บอน อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมในการผลักดันการเติบในส่วนของซันเทคด้วย *ราคาเหล็กฟื้นตัวขึ้น สําหรับไตรมาส 2/2565 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 4,822 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 จากปริมาณการขายโดยรวมที่ลดลง เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 1/ 2565 ทําให้ผู้บริโภคชะลอการสั่งซื้อลง ในส่วนของต้นทุนขายและบริการอยู่ที่ 4,571 ล้านบาท ลดลงร้อย ละ 4.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามปริมาณการขายที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกําไรขั้นต้นอยู่ที่ 250 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นรวมจํานวน 69 ล้านบาท แบ่งเป็นผลขาดทุนที่เกิดจากการวัดมูลค่ายุติธรรมตามมูลค่าตลาดของบริษัทร่วมแห่งหนึ่ง เป็นจํานวน 47 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการหยุดผลิตจํานวน 22 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกําไรสุทธิอยู่ที่ 53 ล้านบาท ลดลง 12 ล้านบาท และ EBITDA อยู่ที่ 245 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษข้างต้นบริษัทจะมีกําไรสุทธิจํานวน 122 ล้านบาท) ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเดินหน้าผลักดันยอดขายเหล็กก่อสร้าง พร้อมกับการขายเหล็กที่มีมาร์จิ้นสูงสร้างมูลค่าเพิ่ม และในส่วนราคาเหล็กคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2565 หลังจากก่อนหน้านี้มีการปรับตัวลดลงไป แต่ขณะนี้เริ่มเห็นการฟื้นตัวแล้ว

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์เสนอขายหุ้น PP บจ. มีผล 1 ก.ค.66
อ่าน

ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์เสนอขายหุ้น PP บจ. มีผล 1 ก.ค.66

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP) ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อลดขั้นตอน กระบวนการและเอกสารที่ต้องยื่นต่อ ก.ล.ต. สอดคล้องกับแนวทาง Regulatory Guillotine* โดยผู้ลงทุนยังคงได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม ก.ล.ต. ได้ออกประกาศเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้น PP ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยมีรายละเอียดการปรับปรุงดังนี้ (1) ยกเลิกกระบวนการยื่นคำขออนุญาตต่อ ก.ล.ต. โดยยังต้องเปิดเผยข้อมูลในหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นและกำหนดให้มีความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ในกรณีที่มีนัยสำคัญแทน (2) ปรับปรุงให้รองรับกรณีการนำหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายแบบ Preferential Public Offering (PPO)** มาเสนอขาย PP ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับกรณีการเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) และเพิ่มความคล่องตัวแก่บริษัทจดทะเบียนให้สามารถระดมทุนได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ (3) ปรับปรุงการคำนวณหาราคาตลาดซึ่งปัจจุบันมีความแตกต่างในหลายกรณี เพื่อให้เกิดความชัดเจนและง่ายต่อการปฏิบัติ ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566

DITTO แจงเพิ่มทุนแบบ PP รองรับ M&A กำลังเจรจา 2 ราย
อ่าน

DITTO แจงเพิ่มทุนแบบ PP รองรับ M&A กำลังเจรจา 2 ราย

#DITTO #ทันหุ้น-บอร์ด DITTO อนุมัติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่นักลงทุนในวงจำกัด 40 ล้านหุ้น เป็นกรอบเบื้องต้น เตรียมไว้เพื่อลงทุนในกิจการหรือบริษัทอื่น ๆ (MA) เน้นธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม เผยกำลังเจรจา 2 ราย คาดมีโอกาสปิดดีลสูงในครึ่งปีหลัง พร้อมข่าวดีติดโผหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ระบุว่าตามที่บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนไม่เกิน 20 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 314 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 334 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ไม่เกิน 9.09% ของทุนชำระแล้ว เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP) โดยกำหนดหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 30 มิ.ย.2565 โดยการออกหุ้นเพิ่มทุน PP ดังกล่าวเป็นการเตรียมตัวเพื่อลงทุนในกิจการหรือบริษัทอื่น (MA) โดยมุ่งเน้นธุรกิจเทคโนโลยีที่สามารถสร้าง Synergy กับธุรกิจเดิมของบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาอยู่จำนวน 2 ราย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีหลัง การออกหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP จำนวน 40 ล้านหุ้น เป็นกรอบที่เราขอบอร์ดไว้เพื่อรองรับการลงทุนในกิจการหรือบริษัทอื่นในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถครอบคลุมแผนการลงทุนที่เราวางไว้ได้ นายฐกร กล่าว ทั้งนี้ สำหรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ราคาที่เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดตามแบบมอบอำนาจทั่วไป ต้องไม่เข้าข่ายเป็นราคาต่ำตามที่กำหนดประกาศคณะกรรมการตลาดทุนที่ ทจ.72/2558 โดยจะต้องเป็นราคาที่ดีที่สุดตามสภาวะตลาดในช่วงที่เสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนและเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งราคาที่เสนอขายดังกล่าวอาจมีส่วนลดได้ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ10 ซึ่งคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 15 วันทำการ นายฐกร กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส1/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเท่ากับ 58.6 ล้านบาท จากการที่บริษัทและบริษัทย่อยยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการอย่างต่อเนื่อง และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ตนได้แจ้งข่าวดีให้ที่ประชุมคณะกรรมการได้รับทราบว่า MSCI ประกาศหุ้นเข้าคำนวณดัชนีรอบใหม่โดยมีผลราคาปิดวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 โดย ดิทโต้ เป็น 1 ในบริษัทที่ได้เข้าคำนวณใน MSCI Small Cap จากทั้งหมด 10 บริษัท ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจเพราะเราเพิ่งเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ได้เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น นายฐกร กล่าว

UAC ไฟเขียวเพิ่มทุน จำนวน 66.76 ล้านหุ้น  ขายแบบ PP
อ่าน

UAC ไฟเขียวเพิ่มทุน จำนวน 66.76 ล้านหุ้น ขายแบบ PP

ทันหุ้น - UAC อนุมัติเพิ่มทุนแบบ General Mandate 66.76 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) เสริมทุนให้ธุรกิจตามนโยบายการลงทุนด้าน Energy Efficiency และ Bio Circular Economyทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมเตรียมเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติ 8 เม.ย.นี้ ขออนุมัติจ่ายปันผลปี63 เพิ่มอีกในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น เตรียม XD วันที่ 15 มี.ค.พร้อมจ่ายปันผลวันที่ 7 พ.ค.นี้ ระบุ UAC จ่ายปันผลต่อเนื่องตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงทางสถานะทางการเงินที่มั่นคง และผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UACเปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 333 ล้านบาท เป็น 367 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 66.76ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท ซึ่งจะนำมติดังกล่าวเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาในวันที่ 8 เมษายน 2564 นี้ สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการเสริมสภาพคล่องทางโครงสร้างเงินทุนให้มีศักยภาพเพื่อต่อยอดขยายการลงทุน ตามนโยบายของบริษัทฯ อาทิการลงทุนด้าน Energy Efficiency และ Bio Circular Economy ทั้งในประเทศ กลุ่มประเทศ CLMV และเตรียมความพร้อมเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนของภาครัฐฯ นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลงวดปี 2563 เพิ่มอีกในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 15 มีนาคม 2564 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทฯมีการจ่ายปันผลต่อเนื่องตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางสถานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

ก.ล.ต.จ่อปรับเกณฑ์ขาย "หุ้น PP" เพื่อให้การระดมบจ.มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อ่าน

ก.ล.ต.จ่อปรับเกณฑ์ขาย "หุ้น PP" เพื่อให้การระดมบจ.มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

#ทันหุ้น - สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงร่างประกาศการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) หรือ หุ้น PP เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการและเอกสารที่ต้องยื่นต่อ ก.ล.ต. ตามแนวทาง Regulatory Guillotine* โดยผู้ลงทุนยังคงได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงร่างประกาศการเสนอขายหุ้น PP ของบริษัทจดทะเบียนให้การระดมทุนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเกณฑ์การเสนอขายหุ้น PP กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ยื่นคำขออนุญาตต่อ ก.ล.ต. และเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับการเสนอขายในหนังสือนัดประชุมให้ผู้ลงทุนประกอบการตัดสินใจ โดย ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2565 และได้นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และยังคงหลักการคุ้มครองผู้ลงทุนที่เพียงพอ มีสาระสำคัญดังนี้ (1) ยกเลิกกระบวนการยื่นคำขออนุญาตต่อ ก.ล.ต. โดยยังคงต้องเปิดเผยข้อมูลในหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นและกำหนดให้มีความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ในกรณีที่มีนัยสำคัญ (2) ปรับปรุงให้รองรับกรณีการนำหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายแบบ Preferential Public Offering (PPO)** มาเสนอขาย PP ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับกรณีการเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) และเพิ่มความคล่องตัวแก่บริษัทจดทะเบียนให้สามารถระดมทุนได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ (3) ปรับปรุงการคำนวณหาราคาตลาดซึ่งปัจจุบันมีความแตกต่างในหลายกรณี เพื่อให้เกิดความชัดเจนและง่ายต่อการปฏิบัติ ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=839 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถศึกษาและแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือทาง e-mail : corporat@sec.or.th จนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 _________________________ หมายเหตุ: *Regulatory Guillotine คือ การทบทวนกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนโดยใช้วิธีที่รวดเร็ว โปร่งใส ใช้ต้นทุนต่ำ และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง **การเสนอขายแบบ Preferential Public Offering (PPO) คือ การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในลักษณะเป็นการทั่วไปโดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่จะซื้อหุ้นต้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทและจำนวนการจองซื้อไม่เกินกว่าสัดส่วนการถือหุ้น โดยเป็นการเสนอขายตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ให้เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน แต่จะไม่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ

ตลท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์รับหุ้นเพิ่มทุนจากขาย PP มีผล 1 ก.ค.
อ่าน

ตลท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์รับหุ้นเพิ่มทุนจากขาย PP มีผล 1 ก.ค.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลท.เดินหน้าทำตลาดทุนให้เป็นเรื่องง่าย ปรับปรุงนิยาม ราคาตลาด พร้อมยกเว้น Silent Period ในหลักเกณฑ์การรับหุ้นเพิ่มทุนจากการเสนอขายหุ้นแบบการเสนอขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัด หรือ PP เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ก.ล.ต. ที่ปรับปรุงใหม่ ตลอดจนเพื่อลดภาระของบริษัทจดทะเบียน โดยจะมีผลใช้บังคับ 1 ก.ค. 66 นี้ เป็นต้นไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นเพิ่มทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement: PP) ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ก.ล.ต. พร้อมลดภาระให้บริษัทจดทะเบียน ตามแผนกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการทำตลาดทุนให้เป็นเรื่องง่าย (Make fundraising investment simple) โดยสามารถสรุปหลักเกณฑ์ที่มีการปรับปรุงดังนี้ 1) ปรับปรุงนิยาม ราคาตลาด ให้เป็นตามวิธีการและขั้นตอนเดียวกับที่ ก.ล.ต. กำหนด 2) ยกเว้นหรือผ่อนผัน Silent Period ในกรณีการเสนอขายหุ้นแบบ PP ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ดังนี้ ยกเว้น Silent Period สำหรับหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering: RO) หรือ (Preferential Public Offering: PPO) มาเสนอขายแบบ PP ในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขาย RO หรือ PPO ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ก.ล.ต. ผ่อนผัน Silent Period ให้แก่เจ้าหนี้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นหรือหลักทรัพย์ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดของหลักเกณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th ภายใต้หัวข้อ กฎเกณฑ์/การกำกับ และ กฎเกณฑ์ หนังสือเวียนส่วนที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์จดทะเบียน

Valentino ร่วมกับ Pantone ออกแบบไอเทมสุดพิเศษในสี Pink PP เอกลักษณ์ของ Valentino
อ่าน

Valentino ร่วมกับ Pantone ออกแบบไอเทมสุดพิเศษในสี Pink PP เอกลักษณ์ของ Valentino

สี Pink PP อันเป็นเอกลักษณ์ได้ผ่านการพัฒนาและทดสอบอย่างละเอียดลออสำหรับคอลเล็กชัน Valentinos Pink PP Fall/Winter 2022-23 ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวความพิถีพิถัน และการค้นคว้าอันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน ขณะนี้เฉดสีอันโดดเด่นนี้ได้ครอบครองพื้นที่บนป้ายบิลบอร์ด รันเวย์ในโลกของแฟชั่นและพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่พื้นที่ใหม่ เป็นครั้งแรกที่แบรนด์หรูผู้ทรงอิทธิพลทางแฟชั่นจากยุโรปจับมือกับสถาบันสี Pantone ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์เฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์ การร่วมมือกันในครั้งนี้ยังได้เน้นย้ำถึงความเชี่ยวชาญด้านสีสันของเมซงและทำให้เฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ของ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ Pierpaolo Piccioli ได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของโลกแฟชั่น การเปิดตัวไอเท็มสุดพิเศษในครั้งนี้จะเติมเต็มให้ลูกค้าสามารถแต่งแต้มชีวิตประจำวันให้สดใสขึ้นด้วยสินค้าที่หลากหลายในสี Pink PP อันเป็นตำนานที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ของผู้บุกเบิกด้านแฟชั่น Valentino ร่วมมือกับสถาบันสีที่มีความเชี่ยวชาญด้านสีสันอย่าง Pantone และเปิดตัวไอเท็มสุดพิเศษในเฉดสี Pink PP ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ซึ่งออกแบบโดยนักพัฒนาสินค้าชาวเดนมาร์กจาก Copenhagen Design ApS พบกับสินค้าในสี Pink PP ได้ทั้งหมด 11 รายการ ตั้งแต่กระบอกน้ำ พวงกุญแจ สมุดบันทึก แก้ว ไปจนถึง ร่มที่ประดับด้วยสัญลักษณ์ของเมซง สินค้าทุกชิ้นถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่มีคุณภาพสูงและดีไซน์ที่สะท้อนถึงแผ่นเทียบเฉดสี Pantone ที่คุ้นตาในสี Pink PP จาก Valantino พร้อมด้วยโลโก้ของเมซง งาน pop-up และ pop-in ของ Valentino ได้ถูกจัดขึ้นเป็นพิเศษทั่วโลกเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการร่วมมือกันในครั้งนี้ พบกับการจัดแสดงไอเท็มสุดคิวท์ทั้งหมด 11 รายการในเฉดสีชมพูที่สดใสภายในบูติกของ Valentino ทั่วโลกในอิตาลี ฝรั่งเศส ตะวันออกกลาง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ในขณะที่งานป๊อปอัพอันน่าตื่นตาตื่นใจจะถูกจัดขึ้นในย่าน Ginza และ Omotesando ของเมืองโตเกียวและห้างสรรพสินค้า Chadstone ในเมืองเมลเบิร์น ในเดือนนี้ Valentino ยังได้พัฒนาเฉดสี Pink PP เข้าสู่รูปแบบดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีจาก Metas Spark AR ที่ผู้ใช้จะถูกนำพาเข้าสู่โลกแห่งสีชมพู โดยทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกมองผ่านเลนส์จะถูกย้อมเป็นสีชมพู พร้อมพบกับไอเท็มต่างๆ จากคอลเล็กชันผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริงซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับสินค้าอย่างใกล้ชิด ร่วมสัมผัสเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้พร้อมกันทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2022 นี้เป็นต้นไปผ่านบัญชี Instagram ของ Valentino สีสันที่สดใสและทรงพลังผ่านการร่วมมือครั้งล่าสุดของเมซง สู่ชีวิตประจำวันและสร้างความหมายบนสิ่งของที่ทุกคนคุ้นเคยและชื่นชอบ https://www.valentino.com/experience/pantone-and-valentino-pink-pp

SABUY เพิ่มทุน-ออกวอร์แรนต์ PP นัดประชุมผู้ถือหุ้น 24 มิ.ย.
อ่าน

SABUY เพิ่มทุน-ออกวอร์แรนต์ PP นัดประชุมผู้ถือหุ้น 24 มิ.ย.

#SABUY #ทันหุ้น - บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ได้มีมติที่สำคัญดังต่อไปนี้ 1. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติลดทุนจำนวนไม่เกิน 46,940,325 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,108,310,691 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,061,370,366 บาทโดยการตัดหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 46,940,325 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพของ ESOP-WA ที่หมดอายุ และ ESOP-WC ที่ยกเลิกและไม่ได้มีการจัดสรร และการแก้ไขหนังสือบริณห์สนธิ เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ 2. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 2,510,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,061,370,366 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 4,571,370,366 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 2,510,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อ (ก) เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน และ (ข) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) 3. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 ("SABUY-W3") จำนวนไม่เกิน 1,210,000,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าการเสนอขาย (ราคาเสนอขายต่อหน่วยเท่ากับ 0 บาท) ซึ่งคิดเป็นหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิจำนวนไม่เกิน 1,210,000,000 หุ้น (ร้อยละ 68.50ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท) เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และมีอัตราการการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3จะมีอายุ 5ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ และมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 3.00 บาทต่อหุ้น("ธุรกรรมการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3") ทั้งนี้ รายชื่อผู้ลงทุนและรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรร SABUY-W3 มีดังนี้ (1) จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3จำนวนไม่เกิน 800,000,000 หน่วย ให้แก่ Lightnet Pte. Ltd (2) จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หน่วย ให้แก่นายอานนท์ชัย วีระประวัติ (3) จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3จำนวนไม่เกิน 350,000,000 หน่วย ให้แก่ Hiwell Global Co.,Ltd. ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3ดังกล่าวจะไม่ได้เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเมื่อเปรียบเทียบราคาตลาด และราคาเสนอขายหุ้นรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ การเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3 ไม่เข้าข่ายเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด (โดยราคาตลาดหมายถึง ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติให้บริษัทเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3ดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างวันที่ 29 มีนาคม -9 เมษายน 2567 โดยมีราคาเท่ากับ 2.5574 บาทต่อหุ้น) 4. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ดังนี้ (1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 1,300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายหุ้นละ 2.30 บาทคิดเป็นสัดส่วนรวมทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละ 42.39ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,300,000,000 หุ้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ซึ่งเป็นผู้ลงทุนที่มีศักยภาพและสามารถลงทุนในบริษัทได้จริง จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,200,000,000 หุ้น ให้แก่ Lightnet Pte. Ltd จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 100,000,000 หุ้น ให้แก่ นายอานนท์ชัย วีรประวัติ ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในราคาต่ำกว่าราคาตลาดของหุ้นของบริษัท โดยบริษัทฯต้องได้รับมติ 3 ใน 4ของจำนวนเสียงของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงและไม่มีผู้ถือหุ้นจำนวนรวมกันกว่าร้อยละ 10ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงคัดค้านการเสนอขายหุ้นในราคาดังกล่าว นอกจากนี้ ธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP เข้าข่ายเป็นกรณีการเสนอขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัดซึ่งเป็นกรณีที่มีนัยสำคัญตามประกาศ ทจ. 28/2565เนื่องจาก (1) ภายหลังการเข้าทำธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP นั้น Lightnet Pte. Ltd. จะถือหุ้นในบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงสูงสุดใน 3 บริษัทฯ คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 40.38ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท และ (2) ธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้น (Control Dilution) คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25โดยพิจารณาจากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องจัดให้มีความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อประกอบการพิจารณาของที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการพิจารณาอนุมัติธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP ภายหลังธุรกรรมการออกและเสนอขายหุ้น PP Lightnet Pte. Ltd. จะได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 1,200,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.38 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทฯ หลังจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลให้ Lightnet Pte. Ltd. จะถือหุ้นในสัดส่วนข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่ร้อยละ 25.00 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดและมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ดังนั้น Lightnet Pte. Ltd. จึงมีความประสงค์ที่จะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท (Whitewash) (2) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 1,210,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (SABUY-W3) ที่จะจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 1,210,000,000 หน่วย 5. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567เพื่อพิจารณาอนุมัติการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash) 6. มอบอำนาจให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัท เพื่อให้ความเห็นประกอบการพิจารณาแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับ (ก) ธุรกรรมการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3 (ข) ธุรกรรมการเสนอขายหุ้น PP (ค) ธุรกรรมการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-W3 ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันและ (ง) การขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท (Whitewash) 7. อนุมัติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น โดยกำหนดวันประชุมในวันที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 13.30 น. จากห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 230 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150 และพิจารณากำหนดให้วันที่ 24 เมษายน 2567เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 (Record Date) โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังต่อไปนี้ วาระที่ 1 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนบริษัท และการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท และการแก้ไขหนังสือบริณห์สนธิ เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท วาระที่ 3พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) (SABUY-W3) ซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน วาระที่ 4พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนและรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท วาระที่ 5พิจารณาอนุมัติการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash) วาระที่ 6 พิจารณาเรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)

NER ทุนนอกจ่อซื้อหุ้น PP เล็งญี่ปุ่นป้อนออเดอร์ Q4
อ่าน

NER ทุนนอกจ่อซื้อหุ้น PP เล็งญี่ปุ่นป้อนออเดอร์ Q4

ทันหุ้น สู้โควิด NER กองทุน-ลูกค้าต่างชาติ สนใจซื้อหุ้น PP จับตายอดขายครึ่งปีหลัง 2563 ทำนิวไฮ ลุ้นคว้าออเดอร์ใหม่ญี่ปุ่นไตรมาส 4/2563 มั่นใจปีหน้าใช้กำลังการผลิตเต็ม 4.65 แสนตันตามเป้า ย้ำรายได้ปีนี้โต 30% แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า บริษัทยังคงได้รับความสนใจและอยู่ระหว่างการเจรจาทั้งกองทุนและลูกค้าต่างประเทศหลายราย ต้องการเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) โดยจำนวนที่ขายไม่เกิน 154 ล้านหุ้น ทั้งนี้บริษัทให้ความสนใจผู้ที่สามารถช่วยผลักดันและต่อยอดธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เบื้องต้นมองว่าอาจต้องรอให้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปได้ก่อนจึงจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนกว่านี้ สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2563 คาดว่า มีการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,656.61 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 284.79 ล้านบาท จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจทำให้บริษัทได้รับออเดอร์จากลูกค้ามากขึ้น และจะมีการส่งมอบมากที่สุดในช่วงไตรมาส 4/2563 นี้ ประกอบกับด้วยปัจจัยด้านดีมานด์ยางที่เริ่มกลับมาหลังประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายหลักสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2563 จะได้ข้อสรุปการรับออเดอร์ใหม่จากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงความต้องการใช้ถุงมือยางที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ดึงซัพลายยางพาราในตลาดปรับตัวลดลง ช่วยหนุนราคายางสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยบริษัทประเมินราคายางในช่วงครึ่งหลังปี 2563 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยราว 60 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 ราคายางเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40-45 บาทต่อกิโลกรัม ตลอดจนปัจจัยด้านการขยายกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 170,000 ตันต่อปี ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ของกำลังการผลิตใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 460,000 ตันต่อปี จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 290,000 ตันต่อปี อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาส่งผลให้บริษัทยังคงมั่นใจว่ายอดขายรวมในปี 2563 จะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ แตะ 365,000 ตันต่อปี และรายได้รวมเติบโตไม่น้อยกว่า 30% หรือมากกว่า 17,000 ล้านบาท จากปี 2562 ที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 13,107.15 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 538.88 ล้านบาท *ปรับแผนเพิ่มกำลังการผลิต สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ บริษัทได้ปรับแผนปี 2564 ใหม่ โดยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 ตันต่อปี ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 510,000 ตันต่อปี เนื่องจากการสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 1 เตา โดยบริษัทจะเริ่มปรับเครื่องจักรดังกล่าวในช่วงสงกรานต์ปี 2564 ด้านการจำหน่ายแผ่นปูนอนในคอกปศุสัตว์นั้น ในปัจจุบันมีออเดอร์ในมือแล้ว 2 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถทำการติดตั้งเครื่องจักรที่สั่งจากประเทศไต้หวันได้ ดังนั้นในตอนนี้จึงยังต้องพึ่งการสั่ง OEM จากโรงงานที่จังหวัดปทุมธานีไปก่อน ส่งผลให้การผลิตสินค้ามีความล่าช้า ส่วนโมเดลการส่งออกสินค้าไปยังประเทศออสเตเลียจะไปในรูปแบบการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจาทำข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถส่งสินค้าไปยังออสเตเลียได้ในปี 2565 เป็นต้นไป บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NER ว่า ยังคงประมาณการกำไรปกติในปี 2563อยู่ที่ 705 ล้านบาท (+31% YoY) ครึ่งปีหลังแนวโน้มความต้องการจากลูกค้าในจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งกำลังการผลิตของโรงงานใหม่จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 60% ( 2.92 แสนตัน/ปี เป็น 4.65 แสนต้น/ปี เพิ่มขึ้น 1.72 แสนต้นต่อปี) ทั้งนี้ไตรมาส 3/63จะใช้กำลังการผลิต 70% ของทั้งหมด และการเพิ่มกำลังการผลิตรอบนี้จำนวนคนงานไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ต้นทุนจึงไม่เพิ่มตามกำไร ทำให้ margin จะเพิ่มขึ้นเป็น 10.5% จาก 8.6% ในปีก่อน ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 7x ยังคงแนะนำ ซื้อ NER ราคาเป้าหมาย 4.10

ส่อง พีพี กฤษฏ์ ร้องเพลงใหม่นอกสายตา ประเดิมครั้งแรกค่าย PP Krit Entertainment #PPkritนอกสายตา
อ่าน

ส่อง พีพี กฤษฏ์ ร้องเพลงใหม่นอกสายตา ประเดิมครั้งแรกค่าย PP Krit Entertainment #PPkritนอกสายตา

       เรียกว่า Come back กลับมาอย่างยิ่งใหญ่และปังปุริเย่อีกครั้งสำหรับ “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” หลังจากที่ได้ปล่อยโปรเจกต์พิเศษ ‘In The Mood Live Session’ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นผลงานเพลงชิ้นแรกหลังจากเป็นศิลปินเดี่ยว ใน PP Krit Entertainment โดยในเพลงแรกพีพีได้ถ่ายทอดความรู้สึก IN THE FIRST MOOD ผ่านการ Cover เพลง นอกสายตา วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มารับชมและรับฟังเพลงใหม่ของพีพีกันใน ‘พีพี กฤษฏ์ ปล่อยเพลงใหม่นอกสายตา ครั้งแรกค่าย PP Krit Entertainment’ มาดูกันว่าสไตล์เพลงเป็นอย่างไร? เปลี่ยนแนวจากเดิมไปมากน้อยแค่ไหน? Music Video ปังปุริเย่มากขนาดไหน หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมาดูกันได้เลยค่าPP Krit - นอกสายตา [Live Session]https://youtu.be/hwYtuoY2b-M       โดยในโปรเจกต์พิเศษ ‘In The Mood Live Session’ ซึ่งเพลงแรกนั้นพีพีได้เลือกถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเพลง “นอกสายตา” ซึ่ง Original Sound ของคุณแคทรียา อิงลิช ในอัลบั้ม แคท อะราวนด์ เดอะ คล็อค (Kat Around the Clock) ของทางค่าย GMM Grammy มาทำเป็นทำนอง จังหวะและเมโลดี้ใหม่เป็นของตัวเอง โดยจะเป็นทำนองช้า ๆ ฟังแล้วรู้สึกเคล้ากับอารมณ์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงได้นำมาร้องใหม่ในเวอร์ชั่นของพีพีเอง ซึ่งบอกเลยว่าปังไม่ไหว เสียงของพีพีเป็นเสียงที่เป็นเอกลักษณ์มีเสน่ห์ รวมถึงพีพียังเป็นคนที่มีเทคนิคการร้องที่ดีมากกกก ย้ำมามากจริง ๆ แบบนี้แล้วก็ปลดล็อกสกิลหูทองคำไปเลยสิคะ! https://www.instagram.com/tv/Ce3miaaj33H/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       โดยนอกเหนือจากดนตรีและเสียงร้องของพีพีแล้วนั้น สิ่งเรานั้นประทับใจจนขออวยยศเลยก็คือ เราจะเห็นถึงการพัฒนาของน้องแบบก้าวกระโดดอยู่เสมอเลย จะเป็นการร้องเพลงที่ดีอยู่ตลอด ๆ หรือที่สำคัญเลยก็คือการที่พีพีใส่อินเนอร์ อารมณ์ Mood ลงไป ไม่ว่าจะผ่านทางน้ำเสียงที่ฟังแล้วทัชใจ รวมถึงท่าทางและแววตาของพีพีที่สื่อให้เห็นถึงการที่เราถูกมองข้ามจากคนที่เรารัก เรียกว่าตอกย้ำความรู้สึกได้แบบเต็มเหนี่ยวจริง ๆ ค่ะ 🥹👏🏻       ซึ่งเพลงนอกสายตาของคุณแคทรียา อิงลิชที่พีพีร้องออกมานั้นเป็นแนวเพลง Pop ช้า ๆ ที่พูดถึงเรื่องราวของคนที่อยู่นอกสายตาของคนที่เรารัก ที่แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นทั้งเสียใจ ร้องไห้ ยิ้มดีใจ ก็ได้แค่เพียงเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ไม่หวังที่จะยืนข้างเธอ โดยท่อนที่เราเลิฟมากที่สุดคือท่อนฮุกที่พีพีร้องอย่าง “อยู่นอกสายตาของเธอตั้งไกล ฉันนั้นก็ทำได้ แค่มองจากตรงนี้ แต่ฉันยังรอ...สักวัน เธอหันมองผ่านทางนี้ แค่สักวินาที เธอเห็นฉันคนนี้ในสายตา” อื้อหื้อขอบอกเลยว่าทั้งควาหมายเพลงและเนื้อเพลงว่าเศร้ามากแล้ว ยิ่งได้เสียงของพีพีมาร้อง บอกเลยว่าเศร้าซึมทิพย์ไปเลยสิคะ ทัชใจขนาดนี้~       และในพาร์ทที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือพาร์ทของตัว Music Video ในเพลงนอกสายตา ที่บอกเลยว่าขออวยยศแบบแรง ๆ โดย ตัว Production คือดีมาก สีภาพโทนภาพเน้นโทนสีส้ม-เหลือง เป็น Warm tone ทั้งหมด ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นในเพลง เพิ่มความสวยงามด้วยแสง ฟองสบู่ รวมถึงแสงอุ่น ๆ ที่มาจากเทียนหอม อีกทั้งในการแสดงของพีพี ซึ่งจะเป็นฉากที่พีพีนั้นมีการนั่งแช่ในอ่างน้ำ ฟีลแบบอ่างจากุซซี่ที่เต็มไปฟองสบู่นุ่มฟู และได้ถ่ายทอดอารมณ์ของคนนอกสายตาผ่านการร้องเพลงออกมาผ่านทางไมค์สีขาวล้วน โดยพีพีนั้นมีการใช้ท่าทางและสายตา รวมถึงน้ำเสียงที่สื่ออารมณ์ตรงจุด ๆ นั้นได้แบบลึกซึ้งสุดอะไรสุด โดยทำให้คนดูรู้สึกเศร้าตามได้แบบจริง ๆ บอกเลยว่าพีพีนั้นเป็นคนที่เก่งในการสื่ออินเนอร์มาก รวมถึงยังมีความฉ่ำด้วยการแต่งหน้าแนวเกาหลีใส ๆ มีการติดกลิตเตอร์เพิ่มความแวววาวเล่นแสงให้กับใบหน้า อีกทั้งแอบมีความ Se xy เบา ๆ บอกเลยหากใครได้ดูแล้วจะต้องละสายตาจากพีพีไม่ได้เลย พีพีเก่งมากภูมิใจในตัวของน้องสุด!💓🫶🏻https://www.instagram.com/tv/Ce3mPk7j5Rg/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตามพีพี กฤษฏ์ และ PP Krit EntertainmentInstagram : @pp.krittInstagram PP Krit Entertainment : @ppkrit_entertainmentYouTube : PP Krit EntertainmentFacebook PP Krit Entertainment : PP Krit EntertainmentTiktok : @ppkrit_entertainmentTwitter : @PPKrit_Entโดยสำหรับ ‘In The Mood Live Session’ เป็นหนึ่งในโปรเจกต์พิเศษล่าสุดของที่ พีพี ที่จะมาถ่ายทอดความรู้สึก 4 MOOD 4 อารมณ์ ผ่านทาง 4 บทเพลง โดย 3 เพลงที่เหลือคือ IN THE SECOND MOOD จะมีกำหนดปล่อยในวันที่ 23 มิถุนายน , IN THE THIRD MOOD วันที่ 7 กรกฎาคม และ IN THE FOURTH MOOD ในวันที่ 14 กรกฎาคม โดยเพื่อน ๆ สามารถรับฟังได้ทาง YouTube : PP Krit Entertainment อย่าลืมไปกดSubscrib ซัพพอร์ตน้องพีพีกันเยอะ ๆ น้า~ #PPkritt #PPkritนอกสายตา #PPKritLiveSession #PPKritEntertainmentเครดิตภาพหน้าปกโดย PP Krit Entertainmentภาพหน้าปกเครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย PP Krit Entertainment : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 @ppkrit_entertainment : วิดีโอที่1 / วิดีโอที่2เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย PP Krit EntertainmentPP Krit - นอกสายตา [Live Session]บทความที่น่าสนใจ : - ประวัติพีพี กฤษฏ์ จากซีรีส์เรื่องแปลรักฉันด้วยใจเธอ- พีพี กฤษณ์ กับ 5 ความปังสุดแซ่บที่ทำให้หลงรัก!- พีพี กฤษฏ์ เรียนจบแล้วนะ! บัณฑิตหน้าใสสุดแซ่บ #PPgraduation- พีพี กฤษฏ์ ปล่อยเพลงใหม่ I'll Do It How You Like It ปังต๊าซถูกใจมัมหมี!❤️‍🔥💥 #PPKritComebackSingle- ถ้าเธอรักฉันจริง Cover by พีพี กฤษฏ์ เพลงฟิลเหงาแบบหวาน ๆ ใน Cross Cover Project #PPkrit*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย  https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม  https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565

Magik Growth นวัตกรรมถุงห่อทุเรียน สร้างมูลค่าเพิ่ม
อ่าน

Magik Growth นวัตกรรมถุงห่อทุเรียน สร้างมูลค่าเพิ่ม

" style="height: 370px;">แนวคิดการพัฒนานวัตกรรมถุงห่อทุเรียน Magic Growthนวัตกรรมถุงห่อผลไม้ Magic Growth พัฒนาขึ้นโดยดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สวทช.ทำมาจากวัสดุนอนวูฟเวน ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันศัตรูพืช ให้ผลผลิตทุเรียนที่ผิวสวย เปลือกบาง น้ำหนักเนื้อเพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทุนจากการใช้สารเคมี รวมถึงมีความปลอดภัยกับตัวเกษตรกรและผู้บริโภค และยังอยู่ในลักษณะของถุงปลูก ถุงห่อ ผ้าคลุมแปลงต่าง ๆวัสดุนอนวูฟเวนคืออะไร?วัสดุนอนวูฟเวนคือ ผ้าที่เกิดจากเทคโนโลยีการขึ้นรูปจากเส้นใยโดยตรง ไม่ผ่านการถักการทอ เรียกอีกอย่างว่า ผ้าสปันบอนด์ ซึ่งมีหลายแบบ เช่นสก๊อตไบรท์ที่เราใช้ล้างถ้วยชามซึ่งเป็นนอนวูฟเวนแบบเส้นใยสั้น แล้วมาทำให้เป็นก้อนรวมถึง วัสดุที่ใช้ดูดซับเสียงและกันเสียงภายในรถยนต์ ตัวอย่างโครงสร้างเส้นใยประเภทต่าง ๆลักษณะโครงสร้างถุงห่อผลไม้ Magic Growthโดยนวัตกรรมถุงห่อทุเรียนนี้ เป็นนอนวูฟเวนที่มีโครงสร้างเป็น 3 มิติ ที่เกิดจากการใช้องค์ความรู้ด้านวัสดุศาสตร์จุดเด่นอยู่ที่การคิดค้นสูตรผสมเม็ดพลาสติกเฉพาะตัว คือ การผสมเม็ดพลาสติกพอลีโพรพิลีน (PP) กับสารเติมแต่ง เพื่อให้สี และคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานนอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีการขึ้นรูปทรง ด้วยการใช้ลูกกลิ้งขนาดใหญ่กดทับวัสดุให้เป็นแผ่นผ้าที่มีเส้นใยขนาดเล็กประมาณ 10 - 20 ไมครอน สามารถระบายอากาศและน้ำได้ดีซึ่ง ดร.ณัฐภพ อธิบายลักษณะของมันว่า คือการที่เรานำวัสดุมา มีความสูง มีความต่ำ มีความมีเลเยอร์ที่เป็นลักษณะเป็นเคิร์ฟ ส่วนที่ต่ำหมายความว่าโดนความร้อนกด ทำให้เกิดความแข็งแรง ส่วนที่สูงฟู คือ ส่วนที่เป็นเส้นใยเล็ก ๆ ที่ทำให้อากาศน้ำผ่านเข้าออกได้ ตัวนั้นที่เราเรียกว่าโครงสร้าง 3 มิติ คือมีทั้งแบบนูน แบบบาง มีความแข็งแรง แล้วก็มาประกอบกันเป็นแผ่นผ้าใหญ่ๆเป็นการออกแบบโครงสร้างสูตรเหล่านั้นนำมาผลิต ได้ผ้ามาแล้วเอามาออกแบบการตัดเย็บถุงให้มันเหมาะกับการใช้กับทุเรียนให้เกษตรกรใช้งานได้ง่ายการศึกษาเรื่องช่วงแสงที่พืชใช้ในการเจริญเติบโตเป็นสิ่งสำคัญหนึ่งในสิ่งจำเป็นในการพัฒนาถุงห่อผลไม้นี้ คือ การศึกษาเรื่องช่วงแสงของพืช ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโต และส่งผลต่อการเลือกชนิดเม็ดสีในการผสมสูตรเม็ดพลาสติก โดยพืชจะมีตัวรับแสงหรือ Photoreceptor ที่มีผลต่อฮอร์โมนการเจริญเติบโต การสร้างเนื้อและเปลือก ทางทีมงานจึงนำถุงสีต่าง ๆ เข้ามาทดลองใช้ซึ่งจากการศึกษาพบว่า สีแดง คือ สีที่พืชหลายชนิดต้องการในการเจริญเติบโต และช่วยให้พืชแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศ ป้องกันศัตรูพืช อย่างหนอนหรือเพลี้ยได้ผลทดสอบการใช้ถุง Magic Growth ห่อผลทุเรียนจากการใช้ถุงห่อผลทุเรียนเห็นได้ชัดว่า ผิวของทุเรียนที่ห่อถุงผลไม้จะเขียวสวย ร่องหนามใส ไม่มีรอยแตก ความหนาของเปลือกจะบางลง ให้น้ำหนักเนื้อมากขึ้นเมื่อเทียบภายในต้นเดียวกัน โดยน้ำหนักที่ชาวสวนจะได้ประมาณ 13 - 17% สูงขึ้นกว่าทุเรียนที่ไม่ห่อผล โดยทดสอบที่สวนทุเรียนสไตล์ช๊าลฮิ บนพื้นที่ 4 ไร่ครึ่ง ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง เป็นที่แรก จากนั้นทดสอบเก็บข้อมูลจากสวนอื่น ๆ ใน จ.ระยอง อีก 7 - 8 สวน และที่ จ.นราธิวาส 4 - 5 สวน พบว่าได้แนวโน้มเดียวกัน คือ น้ำหนักเนื้อจะสูงขึ้นผลทุเรียนที่ห่อถุง Magic Growthผลตอบรับของเกษตรกรจากการใช้ถุงห่อทุเรียน Magic Growthโดยพี่จุ๋ม เจ้าของสวนทุเรียนสไตล์ช๊าลฮิ ใน จ.ระยอง ซึ่งเป็นสวนนำร่องใช้งานถุงห่อทุเรียน เล่าให้ฟังถึงข้อดีของการใช้ถุงห่อทุเรียนป้องกันแมลงแทนการใช้สารเคมีว่า ในการพ่นยาของเกษตรกรโดยเฉลี่ยแล้วเนี่ย จะอยู่ที่ประมาณอาทิตย์ละครั้งพอเราห่อผลไปแล้วมันคือระยะเวลา 2 เดือนจนไปถึงตัด 8 สัปดาห์ที่เราไม่ได้ไปเสียค่ายาต่าง ๆ ที่เราจะพ่นไปที่ผล ค่าใช้จ่ายตรงนั้นมันจะลดไปมันเป็นทุเรียนที่ค่อนข้างจะตอบโจทย์ หนึ่งคือตรงวัตถุประสงค์ที่เราทำ สองในมุมมองของผู้บริโภคนั่นคือความปลอดภัยพี่จุ๋ม เปิดให้ดูทุเรียนที่ห่อด้วยถุง Magic Growthข้อจำกัดของถุงห่อทุเรียน Magic Growthอย่างไรก็ตาม การใช้ถุงห่อผลไม้ Magik Growth ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการป้องกันมดหรือแมลงขนาดเล็กไม่ได้ การหาช่วงเวลาการห่อที่เหมาะสม และไม่สามารถมองเห็นผลทุเรียนที่อยู่ในถุงว่าสุกพร้อมเก็บเกี่ยวเมื่อไหร่ เกษตรกรจึงต้องมีการทำสัญลักษณ์บนถุงเอาไว้ตั้งแต่ก่อนห่อ รวมถึงคนตัดทุเรียนอาจต้องใช้การสังเกตผิวทุเรียนมากกว่าเดิม เพราะผิวหนามของทุเรียนที่ห่อถุงจะใกล้เคียงกับทุเรียนอ่อนการใช้งานในปัจจุบัน และการพัฒนาต่อยอดปัจจุบัน ถุงห่อทุเรียนนี้ถูกถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บริษัทผู้ผลิต และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกภูมิภาคของไทย โดยราคาถุงห่อทุเรียนจะอยู่ที่ 35 - 40 บาท ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ 3-4 ครั้ง มีอายุการใช้งานนานประมาณ 3 ปี ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องซื้อยามาพ่นทุเรียนได้ และยังทำให้ชาวสวน ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพพรีเมียมมากขึ้นอีกด้วยส่วนในอนาคตถุงห่อผลไม้ Magik Growth จะถูกพัฒนาให้สามารถต้านทานความแรงของลมพายุได้ โดยที่ผลผลิตไม่ได้รับความเสียหาย หรือร่วงน้อยลงนวัตกรรมนี้อาจเป็นแรงส่งส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ ราชาผลไม้ไทย ส่งออกได้มากขึ้น และสอดคล้องไปกับโมเดล BCG (Bio-Circular-Green Economy) หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ผู้ถือหุ้น NCL ไฟเขียวเพิ่มทุน PP นำเงินต่อยอดธุรกิจ
อ่าน

ผู้ถือหุ้น NCL ไฟเขียวเพิ่มทุน PP นำเงินต่อยอดธุรกิจ

ทันหุ้น-ผู้ถือหุ้น NCL อนุมัติเพิ่มทุน 45 ล้านหุ้น ขายบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) 4 ราย ราคา 3.35 บาทต่อหุ้น จ่อรับทรัพย์ 150.75 ล้านบาท เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปต่อยอดธุรกิจในอนาคต เพิ่มสภาพคล่อง สร้างมูลค่าหลักทรัพย์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมปูพรมลุยธุรกิจใหม่เพิ่มฐานรายได้ มั่นใจผลงานปีนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ขยายตัวตามสถานการณ์การค้าโลก-บริษัทมีแหล่งรายได้เพิ่ม นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 11,250,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 45,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาทจากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 113,538,062 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็นจำนวน 124,788,062 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 499,152,248 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยแบ่งเป็นจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 45,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกันให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.35 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 150,750,000 บาท ซึ่งแบ่งเป็นจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 15,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้ บริษัท ไท่เว่ ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นอกจากนี้ได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 18,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่นางละออ ตั้งคารวคุณ ,จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ นายวิชัย ด่านรัตน และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่นางนธีรา บริรักษ์คูเจริญ เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้กว่า 150 ล้านบาท บริษัทฯ จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการรองรับการดำเนินงานปกติในธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ที่ขยายตัวตามสถานการณ์การค้าโลก รวมทั้งการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และการต่อยอดธุรกิจในอนาคต ซึ่งช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการสร้างความมั่นคง และเสถียรภาพสำหรับการประกอบธุรกิจในระยะยาว ที่สำคัญอันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตนายกิตติ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจด้าน Non-Logistic ที่มีศักยภาพในอนาคต อาทิเช่น ธุรกิจ Digital Content รวมถึงการเข้าร่วมประมูลงานต่างๆ จากภาครัฐ และโปรเจกต์กัญชง-กัญชา เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ ในปีนี้จะทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

GLOCON ออกหุ้นกู้แปลงสภาพไม่เกิน 400 ลบ. เพิ่มทุนขายแบบ PP
อ่าน

GLOCON ออกหุ้นกู้แปลงสภาพไม่เกิน 400 ลบ. เพิ่มทุนขายแบบ PP

#GLOCON #ทันหุ้น-บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ GLOCON แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ไม่เกิน 400 ล้านบาท โดยมีอายุ 3 ปี นับจากวันที่ออกหุ้นกู้ ให้แก่บุคคลในวงจำกัด ซึ่งเปนผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงเพียงรายเดียว ได้แก่ Sycamore Capital SPC ผู้ซึ่งทำหน้าที่แทน/ในนามของ/เพื่อบัญชีของ Sycamore Equity Fund SP ทั้งนี้ Sycamore Equity Fund SP เป็นกองทุนเปิด (Open-ended Fund) ซึ่งจำกัดความรับผิดที่ได้รับยกเว้นของหมูNเกาะเคย์แมน โดยมีนโยบายการลงทุนระยะปานกลางถึงระยะยาวตั้งแต่ 3-7 ปี โดยลงทุนผ่านตราสารทางการเงินเพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับบริษัทขนาดเล็กและกลาง ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยกลยุทธ์การลงทุนของ Sycamore Equity Fund SP คือการจัดหาแหล่งเงินทุนให้แก่บริษัทต่างๆ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน การขยายกิจการ การควบรวมกิจการ การจัดการตามวัตถุประสงค์การปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,845,842,292 หุ้น โดยการจัดสรรหุ้นจำนวนไม่เกิน 1,538,201,910 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ และหุ้นเพิ่มทุนอีกจำนวน 307,640,382 หุ้น จะเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด

บอร์ด AKS ไฟเขียวเพิ่มทุน 37,473.45 ล้านหุ้น จัดสรรผถห.เดิม-ขายแบบ PP
อ่าน

บอร์ด AKS ไฟเขียวเพิ่มทุน 37,473.45 ล้านหุ้น จัดสรรผถห.เดิม-ขายแบบ PP

บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ AKS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 37,473,450,896 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยแบ่งเป็นการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ไม่เกิน 28,105,088,172 หุ้น และหุ้นอีกจำนวนไม่เกิน 9,368,362,724 หุ้น จะจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) หรือ PP การเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม จะกำหนดราคาไม่ต่ำกว่า 0.01 บาท ซึ่งเป็นราคาเสนอขายที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนสะสมปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 ซึ่งเป็นงบการเงินล่าสุดที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ส่วนราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อบุคคลในวงจำกัด จะต้องไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด และไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 0.01 บาท อันถือเป็นอัตราส่วนลดที่แน่นอน การเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับใช้ในการดำเนินกิจการได้อย่างทันกาล โดยบริษัทมีแผนที่จะใช้เงินทุนในส่วนเพิ่มที่ได้รับจากการเพิ่มทุน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือเพื่อการขยายการลงทุนของบริษัท และบริษัทย่อย

มติผถห. BBIK ผ่านฉลุยเพิ่มทุน PP เดินหน้าปิดดีล VDD-Innoviz
อ่าน

มติผถห. BBIK ผ่านฉลุยเพิ่มทุน PP เดินหน้าปิดดีล VDD-Innoviz

#ทันหุ้น - BBIK ที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร เผยมติประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2566) อนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 10,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท มูลค่ารวมไม่เกิน 5,000,000 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับแผนควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions - MA) ปูทางสู่การเป็น Tech Company ระดับโลก และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ ในวันเดียวกันนี้ ผู้ถือหุ้นยังมีมติเห็นชอบให้เข้าซื้อกิจการ 2 บิ๊ก Tech Company ได้แก่ 1) บริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด หรือ VDD(ซึ่งจะทำการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บลูบิค วัคแคน จำกัด ในภายหลัง) จาก บริษัท อีสท์วินด์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) และ 2) บริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด (Innoviz) เพื่อเสริมแกร่งด้านบริการและรุกธุรกิจการให้บริการด้านการวางระบบ Microsoft Dynamics 365-an ERP Software ซึ่งมั่นใจการผนึกรวม VDD และ Innoviz ครั้งนี้จะช่วยหนุนผลประกอบการปีนี้โตกว่า 100% นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า เป้าหมายการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เป็นการรองรับแผนขยายธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการ (MA) เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ Cross-selling ระหว่างกัน การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นทั้งในฝั่งลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และพนักงาน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการรุกขยายธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชัน เพื่อสร้าง Recurring Income สนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคง ระยะยาว และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานจาก Economy of Scale อีกด้วย บริษัทฯ มั่นใจว่าการเติบโตนับแต่นี้ของ บลูบิค จะเป็นไปอย่างแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมา โดยแม้ว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เราจะไม่หยุดที่จะมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและสนับสนุนการเติบโตทั้งในประเทศและนอกประเทศอีกด้วย นายพชรกล่าว สำหรับกระบวนการควบรวมกิจการ บริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด และ บริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด นั้น ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่ง บลูบิค จะเข้าถือหุ้น 100% ของทั้งสองบริษัท โดยพร้อมเข้าดำเนินงานและสนับสนุนการเติบโตของของทั้งคู่ทันที เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันในระยะยาว

NDR ไฟเขียวปันผล 0.05 บาท/หุ้น พร้อมเพิ่มทุน 31.5 ล้านหุ้น ขาย PP
อ่าน

NDR ไฟเขียวปันผล 0.05 บาท/หุ้น พร้อมเพิ่มทุน 31.5 ล้านหุ้น ขาย PP

ทันหุ้น –NDR ไฟเขียวปันผล 0.05 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 มี.ค. และกําหนดจ่าย 30 เม.ย. นี้ พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป 31.5 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท เสนอขาย PP ด้านผู้บริหาร "ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" เผยการเพิ่มทุนครั้งนี้หนุนโครงสร้างทางการเงินแกร่ง รองรับการลงทุนในอนาคตนายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลจากกําไรสะสมของผลประกอบการปี 2563 เพื่อจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมจ่ายปันผลเป็นจํานวน 15,769,575.70 บาท โดยบริษัทฯกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 11 มี.ค. 2564, กําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 12 มีนาคม 2564 และกําหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2564ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จํานวน 72,078,764 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 387,470,188 บาท เป็นทุนจดทะเบียน จํานวน 315,391,514 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จําหน่าย จํานวน 72,078,674 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาทพร้อมมีมติอนุมัติเพิ่มทุนแบบมอบอํานาจทั่วไป (General Mandate) จากทุนจดทะเบียนเดิม 315,391,514 บาท เป็นทุนจดทะเบียน จํานวน 346,891,514 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จํานวน 31,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement)สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุน เพื่อใช้ในการดําเนินธุรกิจและพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทย่อยที่มีอยู่ในปัจจุบัน และรองรับการขยายการลงทุนในอนาคต“การเพิ่มทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการระดมทุนในกรณีที่บริษัทฯมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเพิ่มทุน และทําให้บริษัทฯ มีแหล่งเงินทุนที่มีความพร้อมสําหรับการลงทุนหรือการขยายธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่องและส่งผลให้มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้นอันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ ตลอดจนช่วยสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว” นายชัยสิทธิ์ กล่าวโดยมติดังกล่าวจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติในวันพุธ ที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 09.30 น. (เริ่มลงทะเบียนเวลา 08.30 น.) ณ ห้อง พาโนรา ม่า 1 ชั้น 14 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานครอยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SAAPP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNATELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_newsTwitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

YGG ไฟเขียวเพิ่มทุน 391.99 ล้านหุ้น ขายแบบ PP-ออกวอร์แรนท์ให้ฟรี
อ่าน

YGG ไฟเขียวเพิ่มทุน 391.99 ล้านหุ้น ขายแบบ PP-ออกวอร์แรนท์ให้ฟรี

#YGG #ทันหุ้น-บริษัท อิ๊กดราซิล จำกัด(มหาชน) หรือ YGG แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 391,999,532 หุ้น ซึ่งหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว จะมีการจัดสรรจำนวนไม่เกิน 250,000,000 หุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัดหรือแบบ PP ในราคาหุ้นละ 0.5400 บาท โดยจัดสรรให้แก่นักลงทุนจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย นายพิรัส ศิริขวัญชัย จำนวน 10,000,000 หุ้น, รศ.นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี จำนวน 20,000,000 หุ้น, นางทัศน์ดาว ชมเชย ได้รับจัดสรรจำนวน 30,000,000หุ้น,นายเธียรชัย ลีสิรวงศ์ จำนวน 35,000,000 หุ้น, นางสาวอัครภิทย์ตา มีชัยวงค์ จำนวน 75,000,000 หุ้น และนายกิตติ ดุษฏีพฤฒิพันธุ์ จำนวน 80,000,000 หุ้น และหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 141,999,532 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 หรือ YGG-W2 โดยบริษัทจะออก YGG-W2 จำนวนไม่เกิน 141,999,532 หน่วย มีอายุ 2 ปีนับตั้งแต่วันที่ออกและเสนอขาย โดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราการจัดสรรเท่ากับ 6 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ YGG-W2 ซึ่งราคาเสนอขาย 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดอัตราการใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ 1 หุ้น ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ จำนวน 95 ล้านบาท และใช้ในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท จำนวน 40 ล้านบาท