TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “klook” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
รีวิวแพคเกจ "First look at Arendelle - A preview of World of Frozen" Hotel package ของ Klook
สวัสดีค่ะ ออกตัวก่อนว่าเราชอบเรื่องราวของสองสาวเจ้าหญิงอันนาและราชินีเอลซ่า จากเรื่อง Frozen มาก พอรู้ว่าทางฮ่องกงดิสนีย์แลนด์จะเปิดตัวโซน World of Frozen ปลายปีก็ตั้งหน้าตั้งตารออยู่แล้ว แต่เห็นว่าทาง Klook มีแพคเกจให้สามารถเข้าไปดูโซนนี้ได้ก่อนกำหนดเปิดจริง แล้วยังมีห้องพักที่โรงแรม ให้ด้วย ใครจะอดใจไหว จัดไปให้สาแกใจเลย แพคเกจราคา 31387 บาท สำหรับ 2 คน เฉลี่ยง่ายๆ คือ คนละ 15000 + บาท ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เราซื้อผ่านทางเว็บของ klook ใช้บัตรเครดิตไป ธุรกรรมเรียบร้อยดี แบ่งจ่าย 0% 3 เดือนได้ด้วยค่ะ ขอเที่ยวก่อน ค่อยๆ ผ่อนเอา ฮาทาง Klook จะส่งหลักฐานการจองและใบเสร็จรับเงินมาให้ทางอีเมล์ จะมีใบยืนยันการจองโรงแรมที่พักที่ Hong Kong Disneyland Hotel สำหรับคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 และรายละเอียดของบัตรเข้าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ซึ่งแพคเกจนี้รวมบัตรผ่านประตู สายรัดข้อมือสำหรับเข้าโซน World of Frozen บัตร Premier Access สำหรับเข้าเล่นเครื่องเล่นยอดนิยมของเขา 8 อย่าง แบบที่เราไม่ต้องรอคิวนาน แล้วก็ ราคานี้ยังรวมอาหารเช้าที่โรงแรมที่ห้อง Enchanted Garden Restaurant ซึ่งจะมีคาแรคเตอร์อย่าง มิคกี้เมาส์ มินนี่เมาส์ พลูโต หรือ กูฟฟี่ มาเดินตามโต๊ะให้เราได้ถ่ายรูปด้วยแบบใกล้ชิดด้วย เราลองคำนวณราคาคร่าวๆ กับเว็บของ Hong Kong Disneyland ถ้าจองเอง คือ ค่าบัตรเข้าสวนสนุกคนละ 3195 บาท ค่าห้องพัก 12375 บาท ค่าอาหารเช้าคนละ 3930 บาท ก็ปาเข้าไปคนละ 19500 บาท ยังไม่รวมค่า Premier Access และการได้เข้าไป World of Frozen รอบพิเศษด้วย ราคาแพคเกจนี้ของ Klook จึงถือว่าคุ้มด้วยประการทั้งปวงค่ะ เราพรินท์ใบจองมาแลกบัตรที่เคาน์เตอร์หน้าสวนสนุก ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ไม่ยุ่งยากเลย เจ้าหน้าที่จะให้บัตรมาแบบนี้ครบถ้วน สวยงาม เอาจริงๆ เราชอบด้วยแหละ เพราะได้บัตร ได้สายรัดข้อมือเป็นที่ระลึก เพราะหลังๆ ทางสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ทุกแห่ง จะให้ใช้คิวอาร์โค้ดผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อเข้าสวนสนุก แทนบัตรกระดาษหรือบัตรแข็ง ซึ่งเราอะ ชอบแบบหลังมากกว่าเพราะอยากได้เป็นที่ระลึก สมใจเลยค่ะส่วนห้องพักในแพคเกจนี้ คือห้องแบบ Standard ที่โรงแรม Hong Kong Disneyland Hotel ซึ่งถือเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงดิสนีย์รีสอร์ตเลย ห้องกว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตามมาตรฐานโรงแรมระดับ 6 ดาวไปเลยค่ะ ความพิเศษคือ ห้องจะมีของตกแต่งเพื่อฉลองการเปิด World of Frozen ให้เราสามารถนำกลับบ้านไปด้วย กรี๊ดดดรองเท้ามีให้ 4 คู่เลย พรมเช็ดเท้านุ่มมาก ทั้งหมดนี้ขนกลับบ้านได้ด้วยละอันนี้ก็เช่นกัน มีวางไว้บนเตียง เป็นเซ็ทของใช้ส่วนตัว แปรงสีฟัน หมวกคลุมผมอาบน้ำ ฯลฯ บรรจุมาในกระเป๋าลาย World of Frozen ส่วนป้ายที่เห็นใช้แขวนประตูแสดงความเป็นเมืองอาเรนเดลล์ น่ารักมากส่วนของโซน World of Frozen ที่เราได้เข้าชมนั้น สาวกดิสนีย์ แฟนๆ โฟรเซ่น ไม่ผิดหวังแน่นอน สร้างออกมาได้สวยงามมาก แพคเกจยังรวมให้เล่นเครื่องเล่นใหม่ที่ชื่อ Frozen Ever After รถไฟเหาะ และ Playhouse in the Wood ด้วย ตอนที่เราเข้ารอบพรีวิวนี้คือ ไม่ต้องต่อคิวอะไรมากมาย เพราะเป็นรอบพิเศษและจำกัดจำนวนผู้เข้าชมก่อนที่จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ก็เลยฟินเวอร์วังมากเราขอปิดท้ายด้วยภาพจากมมุหนึ่งในภัตตาคารที่อยู่ในโซน World of Frozen นะคะ สวยงามถูกใจจนไม่อยากออกจากโซนนี้เลยทีเดียว ยืนยันอีกครั้งว่า แพคเกจนี้คุ้มเกินราคามาก ภาพทุกภาพในบทความ คือ ภาพที่เราถ่ายเองทั้งหมดค่ะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Rapunzel • 11 พ.ย. 66
อ่าน
รีวิว บุฟเฟ่ต์ล่องเรือเจ้าพระยา Chao Phraya Princess ดินเนอร์สุดหรู บอกต่อดีลสุดคุ้มจาก Klook
ฟังทางนี้! ใครที่กำลังรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไร หรือเบื่อ ไม่รู้จะกินอะไร วันนี้จะมาแนะนำกิจกรรมให้ทุกคนที่กำลังรู้สึกเบื่อหน่าย ให้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง นั่นคือ "การไปดินเนอร์บนเรือสุดหรู กับ Chao Phraya Princess" บุฟเฟ่ต์ล่องเรือเจ้าพระยา เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแฟน เป็นอย่างมาก การได้ไปนั่งชิว ๆ พร้อมกินอาหารอร่อย ๆ ใช้เวลากับครัว เม้ามอยเพื่อน หรือ ไปเดทกับแฟน บอกเลยว่าดี! ห้ามพลาดเลยทีเดียว และวันนี้จะไม่ได้มารีวิวการไปดินเนอร์บนเรือ กับ Chao Phraya Princess เพียงอย่างเดียว แต่จะมาบอกต่อดีลสุดคุ้มจาก Klook ที่ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ "รับดีลสุดคุ้มจาก Klook ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ทำตามกันเลย!"พิเศษ! ใช้โค้ด BetterOnApp รับส่วนลด 5% เมื่อจองผ่านแอปครั้งแรกขั้นตอนที่ 1 : ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "Klook" แอปพลิเคชัน "Klook" รองรับการใช้งานทั้งระบบ iOS และ Android สะดวกต่อการใช้งานมากiOS : https://apps.apple.com/us/app/klookAndroid : https://play.google.com/store/apps/klook ขั้นตอนที่ 2 : สมัคร Account และ Log In เข้าใช้งานให้เรียบร้อย ขั้นตอนที่ 3 : ค้นหา "Chao Phraya Princess" หรือกดสามารถกดจองที่ Link ตามนี้ได้เลย "คลิก Klook" รูปแบบของแพ็กเกจก็จะมีให้เลือกว่าจะขึ้นเรือที่ท่าไอคอนสยาม หรือท่าเอเชียทีค สามารถเลือกได้ตามความสะดวกเลย ขั้นตอนที่ 4 : อ่านรายละเอียดของ "Chao Phraya Princess" และ กดจองที่ปุ่ม "Book Now" ได้เลย รายละเอียดก็จะมีทั้งรูปภาพ รีวิว รายละเอียดการจอง หรือจะเป็นเมนูอาหาร ทาง "Chao Phraya Princess" ก็มีให้ดูเช่นกัน ขั้นตอนที่ 5 : กรอกรายละเอียดให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นวันที่จอง จำนวนคน ชื่อ และเบอร์โทรผู้ติดต่อ หรือถ้าหากใครมี Request อะไรก็สามารถใส่หมายเหตุไว้ได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องดูตามความเหมาะสม และสิ่งที่ทาง "Chao Phraya Princess" สามารถให้ได้ด้วยนะ ขั้นตอนที่ 6 : กดจ่ายเงินได้ที่ปุ่ม "Pay Now" ได้เลย ช่องทางการจ่ายเงิน ก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเช่นกัน ใครสะดวกแบบไหน ก็จัดไปเลย! ในราคาแพ็กเกจของการไปดินเนอร์บนเรือสุดหรู กับ Chao Phraya Princess ถ้าหากจองที่อื่น ราคาอาจจะเป็นราคาปกติ แต่ถ้าหากกดจองกับ Klook จากราคาแพ็กเกจ 1,900 บาท ก็จะเหลือเพียง 950 บาทเท่านั้น! บอกเลยว่าคุ้มมาก "ถึงเวลาไปบุฟเฟ่ต์ ล่องเรือเจ้าพระยากันแล้ว" ก่อนอื่นเลย อย่าลืมเช็ครายละเอียดการจองให้ละเอียด ไม่ว่าจะขึ้นที่ท่าไอคอนสยาม หรือท่าเอเชียทีค ก็ต้องไปเช็คอินก่อนเรือจะออก สามารถเช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 18:00 น.เป็นต้นไป และเรือจะเริ่มออกเดินทางในเวลา 19:30 น. - และกลับเข้าท่าในเวลา 21:30 น. รอบนี้เลือกขึ้นที่ท่าไอคอนสยาม จุดเช็คอินจะอยู่ที่ Zone SOOKSIAM (สุขสยาม) ชั้น G หาง่ายมากๆ อยู่ใกล้ๆ ร้าน NaRaYa ไลน์อาหารของ "Chao Phraya Princess" จะเป็นอาหารแบบ International Food มีให้เลือกหลากหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็นไทย ญี่ปุ่น ตะวันตก หรืออื่น ๆ บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ แถมเป็นบุฟเฟ่ต์ให้เวลา 2 ชั่วโมงแบบจุก ๆ ในส่วนของตัวเรือจะเป็นเรือขนาดใหญ่จุคนได้เป็นร้อย มี 2 ชั้น ชั้น 1 จะเป็นโซน Indoor มีแอร์ให้นั่งเย็นสบาย ๆ ส่วนชั้น 2 จะเป็นโซน Outdoor ใครที่ชอบกินอาหาร พร้อมรับลม ชมวิว แนะนำให้นั่งโซน Outdoor "มาดูไลน์อาหารกันดีกว่า ว่ามีอะไรน่ากินบ้าง!" ขอแนะนำในส่วนของอาหารทะเลก่อนเลย Chao Phraya Princess มีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ และหอมแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด แถมตักได้ไม่อั้น กินแค่กุ้ง หอย ก็คุ้มแล้ว สเต็กเนื้อออสเตรเลียชิ้นใหญ่ หั่นพอดีคำ เสริมพร้อมผักย่าง และน้ำเกรวี่ก็มี เราชอบตัวนี้มาก เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว แถมหอม ไม่เหม็นคาว อยากให้ทุกคนได้ไปลอง อาหารญี่ปุ่นอย่างแซลมอนซาชิมิ Chao Phraya Princess ก็มี บอกเลยว่าห้ามพลาด แล่เนื้อแซลมอนกันสด ๆ แถมยังมีซูชิญี่ปุ่นหลากหลายหน้าให้ได้เลือกอีกด้วย ตบท้ายกันด้วยขนมหวานที่ใคร ๆ ก็ห้ามพลาด ทาง Chao Phraya Princess ไม่ได้มีแค่เครมบรูเล่ แต่มีทั้งท็อฟฟี่เค้ก พานาคอตต้าสตอเบอรี่ ผลไม้ ชาและกาแฟ ก็มีหมด เลือกกินไม่ถูกกันเลยทีเดียว จริง ๆ ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย ตักมาลองอย่างละนิด คือ อิ่มมาก ๆ แถมอร่อยถูกปากอีกด้วย และระหว่างทางที่กำลังดินเนอร์บนเรือสุดหรู ก็จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ เช่น วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดพระแก้ว สะพานพระราม 8 เอเชียทีค หรืออื่น ๆ บอกเลยว่าตอนกลางคืน แต่ละที่เปิดไฟ แล้วสวยมาก ถ่ายรูปได้เป็นร้อยรูป ถ้าใครเบื่อไปทานข้าวที่ร้านอาหารแบบเดิม ๆ แนะนำลองไปดินเนอร์บนเรือสักครั้ง รับรองว่าจะติดใจ และถ้ายังไม่ได้ดีลที่ถูกใจ แนะนำให้จอง Chao Phraya Princess กับ Klook บอกเลยว่า อิ่มอร่อย แถมได้ราคาดีแน่นอน "Chao Phraya Princess"Location : ท่าเรือไอคอนสยาม (ICONSIAM) หรือท่าเรือเอเชียทีค (Asiatique)Hours : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 09:00 - 20:00 น.Phone : 02 - 860 - 3700Website : Chao Phraya Princess.comFacebook : Chao Phraya Princess เครดิต : ภาพถ่ายทั้งหมด โดยนักเขียน ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป
มนุษย์เป็ด • 28 มิ.ย. 66
อ่าน
ทริคเที่ยว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ 2023 (Hong Kong Disneyland) จองดีลง่าย โปรถูกใจผ่าน Klook
หลาย ๆ ประเทศเริ่มเปิดประเทศให้เราไปเที่ยวแบบไม่ต้องขอวีซ่า หนึ่งในประเทศนั้นก็คือ ฮ่องกง (Hong Kokg) นั่นเองงง แถมเขายังออกโปรสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งโปรตั๋วเครื่องบิน โปรแจก money voucher อีกทั้งฮ่องกงยังเป็นประเทศ tax-free ด้วยนะ ปังสุด ๆ โดยในบทความวันนี้เราจะพาไปเที่ยวหนึ่งในไฮไลต์ของฮ่องกงที่ใครไปฮ่องกงจะต้องไม่พลาด ซึ่งขอบอกเลยว่าถ้าใครกำลังจะไปเที่ยวที่นี่ อ่านบทความนี้ให้จบ จะได้ทริคเที่ยวที่คุ้มที่สุดแน่นอนwelcome the dreamers of all ages to Hong Kong Disneylandแต่แต่ ก่อนที่เราจะพาไปเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เราจะมาบอกทริคการซื้อตั๋วกันก่อน ซึ่งบอกเลยว่า คุ้มมาก นั่นก็คือการซื้อดีลผ่าน klook.com ซึ่งสามารถเข้าไปซื้อได้ตามลิงก์นี้เลย Klook.com ซื้อตั๋วฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ซึ่งจริง ๆ นอกจากเราซื้อดีลตั๋วดิสนีย์แลนด์ทางนี้แล้ว เราก็ยังซื้อดีลที่เที่ยวอื่น ๆ ด้วย เพราะดีลเค้าคุ้มจริง มีส่วนลดของบัตรต่าง ๆ on-top อีก ประทับใจมาก ๆ ขั้นแรกของการซื้อตั๋ว คือการ ลงทะเบียนสมาชิกของ Klook ก่อน ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้อย่างง่ายดาย ทั้งทาง Email Facebook หรือ Apple ID หรือถ้าใครเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ก็กดล็อคอินได้เลย เมื่อล็อกอินเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกดค้นหาดีลที่เราอยากซื้อได้เลย ซึ่งในที่นี่ก็คือ ตั๋วฮ่องกงดิสนีย์แลนด์นั่นเองสำหรับตั๋วฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ก่อนที่เราจะซื้อ เราต้องทำความเข้าใจรูปแบบของตั๋วที่ต่างกันก่อน นั่นก็คือ ตั๋วหลัก ๆ จะมี 3 รูปแบบ 3 ราคา ขึ้นอยู่กับวันที่เราไป ว่าเป็นวันปกติ (ราคาจะถูกสุด) วัน Peak day (ราคาจะสูงขึ้นมานิดหน่อย) และตั๋ววัน Peak plus (ราคาสูงที่สุด) ซึ่งเราจะซื้อตั๋วแบบไหน ขึ้นอยู่กับว่าวันที่เราจะไปเป็นวันที่ทางดิสนีย์กำหนดให้เป็นแบบไหน ยกตัวอย่าง เราไปวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม ทางดิสนีย์กำหนดว่าเป็นวัน Peak day เราก็ต้องซื้อตั๋วราคา Peak day นั่นเอง ไม่งั้นจะใช้เข้าไม่ได้ โดยการเช็คว่าวันที่เราต้องการไปต้องซื้อตั๋วแบบไหน ก็สามารถลองกดวันที่อยากไปในเว็บ Klook เพื่อ "ตรวจสอบวันใช้งาน" ได้เลย สะดวกมาก ๆ ซึ่งสำหรับใครที่คิดว่า ไปดิสนีย์แลนด์วันเดียวไม่พอแน่ ๆ ก็สามารถเลือกซื้อตั๋วแบบ 2 วันได้เหมือนกัน คุ้มจุก ๆ ไปเลย ปล. ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงปิดวันอังคารกับพฤหัสนะ ใครวางแผนว่าจะไป 2 วันนี้ เปลี่ยนด่วนนนน นอกจากนั้น Klook ก็มักจะมีดีลพิเศษมาเสนอคู่กับตั๋วเสมอ ซึ่งอย่างตอนที่เราซื้อก็มีข้อเสนอ JOYFUL-Klook Exclusive คือได้ e-coupon ของ Chez Choux เพื่อเอาไปใช้ซื้อขนมที่ฮ่องกงได้ด้วย ซึ่งดีลนี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามช่วง ถ้าใครได้ดีลถูกใจ (เหมือนเรา) ก็สามารถกดเลือกซื้อได้เลยจ้า ^^เมื่อเลือกทุกอย่างจนถูกใจ ก็เตรียมกดจ่ายเงินได้เลย ทริคของการจ่ายเงินก็คือ1. ให้ดูค่าเงินของวันนั้นด้วย เพราะเงินที่เราจ่ายเป็นเงินไทย ที่ถูกแปลงค่ามาอีกที เพราะงั้นดีลใน Klook ในแต่ละวันอาจจะไม่เท่ากัน ถ้าวันไหนค่าเงินไทยแข็ง เราก็จะซื้อได้ในราคาที่ถูกลง แต่ถ้าวันไหนค่าเงินอ่อน ราคาก็จะแพงขึ้นนิดนึง แต่ส่วนใหญ่จะไม่ต่างกันมากเพราะค่าเงินฮ่องกงไม่ได้เป็นเงินสกุลที่ใหญ่กว่าไทยมาก (เราซื้อดีลตอน 1 HKD = ประมาณ 4.31 บาท ซึ่งตอนนี้ขึ้นไป 4.45 บาทแล้วจ้า T^T)2. ก่อนจะกดสั่งซื้อโดยใช้บัตรเดบิตหรือเครดิต ให้ลองหาโค้ดลดราคาใน Instagram ของ Klook ก่อน !!! เราได้โค้ดลดของ SCB Debit มา (ลด 15% สูงสุด 300 ขั้นต่ำ 1,500 บาท) SCB Travel card (ลด 15% สูงสุด 600 ขั้นต่ำ 2,500 บาท) KBank (ลด 1,000 เมื่อครบ 5,000 บาท) คุ้ม เชื่อผมมม ลองไปส่องกันก่อนได้ ของกรุงศรี KTC หรือดีลของสถานที่อื่น ๆ ก็มี !!!3. สำหรับใครที่ใช้บัตรเดบิตแล้วอาจจะระงับการใช้งานบัตรที่ต่างประเทศไว้ ต้องเปิดก่อนจ่ายเงินน้า เพราะ Klook ที่เราจ่าย เข้าใจว่าจะเป็น Klook Singapore ซึ่งถ้าปิดบัตรต่างประเทศอยู่ จะตัดไม่ผ่านจ้าา (ประสบการณ์ตรง งมอยู่นาน จนกดเปิดบัตร 55555555)เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ดีลก็จะเด้งไปในเมลของเราเลย ซึ่ง ยังไม่จบจ้า 5555555 ซื้อแค่นี้ยังไปไม่ได้เด้อ ต้องจองวันไปอย่างเป็นทางการกับเว็บ Disneyland ก่อน ทางนี้เลย -- Hong Kong Disneyland Official Websiteเข้ามาแล้วก็กดลงทะเบียนอีเมลก่อนนะ แล้วก็เตรียมลงทะเบียนตั๋วของเรากดเลือก Park Ticket แล้วใส่ Ticket Reference Number ซึ่งสามารถหาได้จากตั๋วที่ทาง Klook ส่งมาในอีเมลได้เลยเรียบร้อยแล้วก็จะขึ้นชื่อที่เราลงทะเบียนไว้ โดยเราสามารถลงทะเบียนให้คนอื่นเพิ่มเติมได้เหมือนกัน (Add Guest) เรียบร้อยแล้วกด Next ไปเลือกวันที่เราอยากไปได้เลยเช็คอีกรอบ ถ้าถูกต้องทุกอย่างก็กด Confirm ได้เลย พร้อมไปเที่ยวแล้ว อิ__อิวิธีเดินทางไป Hong Kong Disneyland ที่สะดวกที่สุดสำหรับเรา ขอเชียร์ MTR (รถไฟฟ้าของฮ่องกง) ซึ่งสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดาย ขอยกตัวอย่าง เราเดินทางจาก East Tsim Sha Tsui (สายสีแดงเลือดหมู) ก็นั่งตรงไปที่สถานี Nam Cheong ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นสายสีส้ม ต่อตรงไปถึงสถานี Sunny Bay สถานีเดียวที่เชื่อมกับรถไฟสายสีชมพูไปดิสนีย์แลนด์ สถานี Disneyland Resort นั่นเอง ถ้านั่งตามนี้ ราคา 21 HKD ต่อเที่ยวจ้าความน่ารักของรถไฟสายสีชมพูคือการมีราวรูปหูมิกกี้เม้าส์ กระจกรูปมิกกี้เม้าส์ แล้วก็มีโมเดลตัวการ์ตูนดิสนีย์อยู่ตามมุมด้วย น่ารักมาก ๆ แอบถ่ายรูปกันมาได้ นั่งมาสักพักก็ถึงที่ดิสนีย์แลนด์แล้ว ใครจะมาช่วงหน้าร้อน ขอเตือน !!!1. โบกกันแดด 2. พกร่ม ร่มเท่านั้น หมวกเอาไม่อยู่จ้า ร้อนเกิ๊น 3. แว่นกันแดดต้องมา ไม่งั้นบางช่วงร้อน ๆ มองไม่ได้เลย 4. ขวดน้ำเปล่า เอามาเลย มีให้เติมทุกแห่งหน แต่น้ำไม่เย็นนะ ถ้าอยากกินเย็นต้องซื้อเขาเอา (+ เอาอาหารเข้าไปได้ แต่ต้องไม่มีน้ำแข็ง)Disneyland ที่นี่จะเปิดให้เข้าตอน 10.00 น. แต่คนก็เหมือนจะทยอยมาตั้งแต่ 9.00 น. แล้ว เราเองก็มาถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ ก่อนเหมือนกัน แล้วพอประมาณ 9.50 น. ก็จะมี marching ตัวการ์ตูนมาเดินเล่นเต้นรำให้ดู ซึ่งเรา มองไม่เห็นเลย ได้ยินแต่เสียง ถ้าจะเห็นชัด ๆ ต้องต่อแถวเข้าสวนสนุกอยู่หน้า ๆ เท่านั้น ทริคของการเที่ยว Disneyland คือการโหลดแอปของเขา Disneyland® ซึ่งโหลดได้ทั้ง Android และ IOS จริง ๆ ที่ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์เขาไม่ได้ใหญ่มาก สามารถเที่ยววันเดียวได้หมด โดยแอปก็จะช่วยบอกเราทั้งเรื่องแผนที่ เวลาที่ต้องรอต่อแถวเพื่อเล่นเครื่องเล่น ตารางกิจกรรมโชว์ต่าง ๆ เวลาโชว์เพื่อต่อถ่ายรูปกับตัวละครดิสนีย์ สำหรับเรารู้สึกเสียดายนิดนึงที่ตอนแรก ๆ ไม่ได้ดูแอป เลยไม่ได้ถ่ายรูปกับตัวละครเลย แถมที่นี่ตัวละครน้อย ไม่มาเดินโชว์กันเลย T__Tปล. ที่นี่ไม่มีแถว single rider มีแต่ priority line ที่ต้องเสียเงินเพื่อต่อแถวพิเศษให้เข้าไว ๆ แต่ความเห็นส่วนตัว ที่เล่นมา รอนานสุดก็ประมาณ 20 นาที ไม่เกิน 30 นาที รอได้อยู่ ไม่ได้นานมากโซนหลักของดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง มี 5 โซน ได้แก่ Main Street USA, Tomorrowland, Fantasyland, Adventureland และโซนใหม่ Toy Story LandMain Street USA - มีร้านขายของที่ระลึก มี cafe ใครอยากซื้อที่คาดผมดิสนีย์ หรือของฝากอื่น ๆ จัดได้เลยจ้าTomorrowland - ของเล่นที่ต้องเล่นในโซนนี้คือ Hyperspace Mountain สำหรับเราคือ สนุกมาก สวยมาก ถ้ามาถึงปุ๊ปควรรีบไปเล่นก่อนแถวยาว คล้ายรถไฟเหาะในร่ม สวยมาก แต่มืดสนิท ใครกลัวความมืด ไม่แนะนำ ใครเวียนหัวง่าย เป็นโรคหัวใจ ใด ๆ ไม่แนะนำ น่าจะเป็นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวสุดในดิสนีย์แลนด์ที่นี่แล้ว แต่อย่างเราไม่กลัวใด ๆ ชอบมาก อยากเบิ้ลสัก 10 รอบFantasyland - ดินแดนนี้มีแต่ความน่ารัก Small world น่ารักมาก ตัวจ้อย ๆ นั่งชมเพลิน ๆ Mickey's PhilharMagic ก็ดี เป็นการชมละคร 3D น่ารักมาก ๆ ดำเนินเรื่องราวได้กินใจมาก คนชอบดิสนีย์น่าจะถูกใจ และ Winnie the Pooh น่ารักมากเหมือนกัน นั่งในรถรูปถังหมี ดูเรื่องราวของน้องหมีพูห์ ฟิน ^__^Adventureland - อันนี้จะเป็นโซนเน้นความตื่นเต้นผจญภัยไปในดินแดนลึกลับ เหมือนกำลังเข้าสู่ป่าอเมซอน ชอบเอนเนอจี้ผู้บรรยาย Jungle River Cruise มาก (ชื่อ Eric เผื่อใครไปเจอ 55555) จะเป็นการให้นั่งเรือชมป่า เขาทำดีอยู่น้า เรือจะแบ่งออกเป็น 3 ลำ 3 ภาษา เราก็เลือกขึ้นเอาตามภาษาที่เราอยากฟัง ก็คือ English, Mandarin (จีนกลาง) และ Cantonese (จีนกวางตุ้ง ที่คนฮ่องกงเขาพูดกัน) Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars ดีมาก รถไฟเหาะกลางแจ้ง ดีมาก ตื่นเต้น มีลูกเล่น อย่างดีเลย แต่วันที่เราไปคือวันสุดท้ายที่เปิดทำการ ช่วงนี้ยังปิดอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะปิดถึงเมื่อไหร่ เช็คกันด้วยน้าที่ชอบสุด ๆ จริง ๆ รู้สึก memorable ที่สุดในวัน คือ Mystic Manor ไม่อยากสปอยจริง ๆ ว่าข้างในเป็นยังไง แต่เราชอบมาก ควรเข้า !!!สุดท้าย Toy Story land - มันเป็นน่ารักมากกก แต่ร้อน ยกให้เป็นโซนที่ร้อนที่สุด แดดเปรี้ยง ๆ แบบไม่รู้จะไปหลบตรงไหนเลย แต่น่ารักมากจริง คุณกัปตันวู้ดดี้พูดตลอดเวลาเลย ของเล่นที่มีให้เล่นก็จะมีเล่นน้อง Slingy Dog Spin, Toy Soldier Parachute Drop แล้วก็เครื่องเล่นที่คล้าย ๆ ไวกิ้ง จำชื่อไม่ได้ สนุกเหมือนกันแต่ร้อนมากฮือ 555555 เครื่องเล่นอื่น ๆ ก็ยังมีทั้งม้าหมุน ถ้วยหมุน (มึนเว่อ ตอนเดินลงนี่เซเลย 555555) ก็สามารถเดินเก็บเล่นให้ครบทุกเครื่องเล่นได้ตามอัธยาศัย เล่นวันเดียวก็หมดแล้ว บางเครื่องเล่นเราเบิ้ลหลายรอบด้วย ซึ่งถ้าใครเล่นเสร็จแล้ว อยากช้อปปิ้งหาของที่ระลึก ก็สามารถเข้าร้านขายของได้ โดยแทบจะมีอยู่ทุกหัวมุมถนนเลย แต่แต่ละร้านจะขายของไม่เหมือนกันนะ ถ้าชอบก็ซื้อเลย เราเองได้แฟ้มมา น่ารักมากกกกกกกกก ราคา 69 HKD ของอื่น ๆ เช่น พิน ก็จะราคาราว ๆ 79, 89, 109 HKD แล้วแต่ลาย ของขายมีหลากหลายทั้งตุ๊กตา แก้ว เครื่องเขียน เป็นต้นใครหิว ในสวนสนุกก็มีของขายน้า เช่น ไอติมหูมิกกี้ น่ารักอีกแล้ว ใช้คำว่าน่ารักรอบที่ 1,000 โดยแท่งนี้ราคา 45 HKD ของคาวของหวานมีทั้งไอติม น้ำหวาน ป๊อปคอร์น ขาหมู ของ fast food กินเล่น ไปจนถึงร้านอาหาร บุฟเฟต์ เลือกตามที่ชอบเลย ราคาก็จะแรงนิดนึงตามความเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ปล. ที่นี่รับเงินสด รับ Octopus รับบัตรทุกชนิด มาได้เลยจ้าาาาพอทำนู่นทำนี่ไปมา ก็หมดไปเกือบวันแล้ว เหนื่อยแล้วแต่ยังต้องสู้ต่อ เพื่อการแสดงไฟตอน 21.00 น. ตรง! อย่าลืมไปหาจับจองที่ยืนชมดี ๆ กันนะทุกคน เอาแบบว่าเห็นทั้งปราสาท ทั้งน้ำพุ เพราะมันสวยมากจริง ๆ เราเองดูด้วยตาแล้วรู้สึกประทับใจมาก ตอนถ่ายในโทรศัพท์มันไม่สวยเท่า อยากให้ทุกคนได้ลองไปเห็นด้วยตัวเองจริง ๆ ความยาวของการแสดงจะยาวประมาณ 20 นาที เรียงเนื้อเรื่องของการนำเสนอดีมาก เพลงเพราะ ใครเป็นสาวกดิสนีย์รู้จักการ์ตูนเยอะ ๆ จะรู้สึกเข้าใจมาก ๆ ถึงเรื่องราวที่ดำเนินไป ประทับใจมากจริง ๆ คุ้มค่าแก่การรอคอยเมื่อโชว์จบก็จะมีการประกาศ ทุกคนก็จะทยอยเดินทางกลับ เรากลับ MTR เหมือนเดิม ใครพัก Disneyland Resort ก็กลับที่พักใกล้ ๆ ใครฝากกระเป๋าไว้ก็ไปเอา (มีที่ให้ฝากกระเป๋า เอามาฝากได้เลย) ถือเป็นวันนึงในทริปฮ่องกงที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่จ่ายไป คุ้มเวลาที่ออกมาจากที่พักตั้งแต่ 8.30 น. แล้วกว่าจะถึงก็ 22.00 น. :-)เที่ยวให้สนุกนะค้าบบบ ขอให้เป็น magical day ของทุกคน 🌷Credit: All photos and cover photo taken by hockiii (content creator)Photo 1-7 from template: Brown Doodle Company profile Presentation / @noisyframe / Canva อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
hockiii • 14 มิ.ย. 66
อ่าน
รีวิว Universal Studios Singapore 2023 สวนสนุกระดับโลก จองง่ายๆ ผ่าน Klook
ใครไปสิงคโปร์ แน่นอนว่าสถานที่เที่ยวที่ต้องอยู่ในลิสของทุกคนก็คือ "Universal Studios Singapore" สวนสนุกระดับโลกไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย นั่งเครื่องมา 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วนั่งรถไฟฟ้ามายังเกาะเซนโตซ่าก็ถึงแล้ว ที่นี่มีหลากหลายธีม หลากหลายเครื่องเล่นแนะนำกัน เดี๋ยวจะมาแนะนำกันให้ครบทุกที่ใน Universal Studios Singapore กันเลยทีเดียว ก่อนมาเที่ยวที่นี่ แฮมได้จองกับ "Klook" เว็ปไซต์สำหรับจองเครื่องบิน รถไฟ เข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จองง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน ใช้สะดวกผ่านทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android แถมทาง "Klook" มีโปรโมชั่นเด็ดๆเข้ามาตลอดอีกด้วยดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidหรือบน Website ขั้นแรกเราค้นหาได้ทั้งชื่อสถานที่ท่องเที่ยว หรือประเทศที่ต้องการเดินทางไป แล้วอ่านรายละเอียดแพ็กเกจ โปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆก่อนทำการสั่งซื้อ หลังจากนั้นใส่จำนวนของผู้เดินทางสั่งซื้อ กรอกรายละเอียดการติดต่อ และสุดท้ายการชำระเงิน ไม่กี่ขั้นตอนเลยจริงๆ 5-10 นาทีก็เสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว เข้าใช้งานหน้า Klookค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว “Universal Studios Singapore”อ่านรายละเอียดของแพ็กเกจเลือกแพ็กเกจที่ต้องการกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ชำระเงิน จองตั๋วเรียบร้อย เราก็มากันที่ Universal Studios Singapore กันเลย การเดินทางนั้นง่ายๆมากๆ นั่งรถไฟฟ้าสายสีส้มหรือสีม่วงลงที่สถานี HarbourFront แล้วออกทางออก ViVo City ทางออก E แล้วขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์มายังชั้น 3 ไปต่อรถไฟฟ้าโมโนเรลสาย Sentosa Express ลงสถานี "Waterfront" แล้วเดินต่อไปตามป้ายก็จะพบกับลูกโลกสัญลักษณ์ของ Universal Studios จุดนี้ มาถึงแล้ว ไม่แวะถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:00 น. ถึง 18:00 น. ปิดทุกวันอังคาร https://www.instagram.com/p/CsNYz9boRXK/ ผ่านจุดแลนด์มาร์กแล้ว มาต่อกันเลยกับภายในสวนสนุก ที่นี่ หากคุณไม่อยากต่อแถวนาน แนะนำซื้อแบบ Express ได้ มีทั้งราคา 60 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1,500 บาท (ใช้ได้ 1 ครั้ง) หรือ 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,500 บาท (ใช้ได้แบบอันลิมิต) แต่สำหรับแฮมถ้าอยากซื้อจริงๆ แนะนำซื้อผ่าน Klook ราคาจะถูกกว่า ***ทริคส่วนตัว***แนะนำว่าไปในวันธรรมดา เช่น วันพุธหรือวันพฤหัสบดี คนจะน้อยมาก แต่วันเสาร์ อาทิตย์ จะใช้เวลารอเครื่องเล่นแบบนานสุดๆ แต่เครื่องเล่นอันที่รอไม่นาน 45-60 นาที ถือว่าชิลๆอยู่นะ หรือจะไปเก็บมุมถ่ายรูป หรือ Meet and Greet กับเหล่าการ์ตูนดังๆ ถ่ายรูปดูโชว์ก่อนก็ได้ แล้วช่วงบ่ายๆ ก็กลับมาเล่นเครื่องเล่น เพราะนักท่องเที่ยวบางส่วนเดินทางกลับแล้ว เพราะตอนช่วงบ่าย 4 โมงเย็น (วันพฤหัสบดี) กลับมาเล่นทรานฟอร์เมอร์ ใช้เวลารอคิว 10 นาที เดินไปถึงเครื่องเล่นไม่ต้องรอคิวเลย เข้ามาจุดแรกกับธีม "Hollywood" เป็นจุดทางเข้าไม่ว่าเข้ามาหรือออกจะผ่านจุดนี้ มุมถ่ายรูปเพียบ หากใครไม่รีบก็แวะมาถ่ายรูปหรือช้อปปิ้งก่อนกลับกันได้ จุดนี้เองมีจุดที่สามารถ Meet and Greet กับเหล่า Minions และ Kung Fu Panda ใครชื่นชอบตัวละครไหนก็สามารถเช็คตารางเวลาพบปะได้ใน Application Universal Studios Singapore ได้เลย จุดต่อมากับธีม "New York" ให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่อเมริกา จุดนี้มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายน้ำดื่ม ที่ชมโชว์ต่างๆ และมุมถ่ายรูปอีกเพียบ นอกจากนั้นสามารถพบปะกับเหล่าตัวการ์ตูน Sesame ได้อีกด้วย มาถึงส่วนสวนสนุกกันแล้วกับธีม "Sci-Fi City" อันนี้ต้องบอกว่า มาถึง Universal Studios Singapore แล้วต้องมาเล่นกับ TRANSFORMERS ความสนุกแบบ 3D สุดมันส์ ที่นี่เราเลือกเข้าช่วงบ่ายแก่ๆ ประมาณบ่าย 3 ได้ ใช้เวลารอเพียง 10 นาที เข้าไปถึงได้เล่นเลย คะแนนเต็ม 10 ให้ไปเลย 9 คะแนน หากใครมีเวลาก็เบิ้ล 2-3 รอบกันไปเลย นอกจากนั้นถัดมาก็พบกับเครื่องเล่นรถไฟเหาะ มีทั้งหมด 2 สี สีแดง (HUMAN) และสีน้ำเงิน (CYLON) ตัวสีน้ำเงินนี่เรายกให้เป็นที่หนึ่งของที่นี่เลยนะ ความมันส์แบบระดับเกิน 10 คะแนนเต็ม เรียกได้ว่าไม่มีจุดให้หยุดหวาดเสียวเลย มันส์ตลอดทาง แนะนำว่าก่อนเข้าไปเล่นให้ฝากของมีค่าไว้ที่ล็อคเกอร์ก่อนนะ ต้องเข้าไปตัวเปล่าเท่านั้น โทรศัพท์ การ์ด หรือของเล็กๆน้อยๆก็ต้องฝากทั้งหมด หลุดจากธีม Sci-Fi City แล้วก็จะพบกับ "Ancient Egypt" คาแรคเตอร์จากภาพยนตร์เรื่อง "MUMMY" หลายคนมาเล่นเครื่องเล่นนี้แล้วยกให้เป็นเครื่องเล่นที่หวาดกลัวสุดๆ อันนี้แฮมให้ 7 คะแนน ถัดมาเป็นส่วนของ "The Lost World" เข้าไปผจญภัยกับเหล่าไดโนเสาร์ ที่นี่ แนะนำให้เตรียมเสื้อกันฝนจากไทยมาเลย เพราะที่นี่มีเครื่องเล่นที่เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ที่สำคัญคือมีให้พบปะกับเจ้าไดโนเสาร์เสมือนจริงอีกด้วย ต่อไปกับสุดท้าย "Far Far Away" ความสนุกใสๆ น่ารักกับเหล่าตัวการ์ตูนจากเรื่อง Shrek ที่นี่แนะนำเข้ามาชม Shrek ในรูปแบบ 4D ขอบอกว่าสนุกมาก ดูเพลินๆผจญภัยสนุกๆไปกับ เชร็ค ดองกี้ และฟีโอน่า ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีได้ อันนี้แฮมให้ 10 เต็มเลย เพลินมากๆ แถมของขายน่ารักอีกด้วย ที่น่าเสียดายคือมีส่วนปรับปรุงอยู่ ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นธีมของการ์ตูนเรือง Madagascar จะเป็นเครื่องเล่นแบบชิลๆ ชมสัตว์ตัวละครในเรื่อง แต่ตอนนี้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในโซนนี้ คิดว่าภายในเร็วๆนี้ปี 2 ปี อาจจะสามารถเปิดตัวและใช้งานได้แล้ว เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Universal Studios Singapore ปี 2023 (พฤษภาคม) ที่นี่เหมาะกับทุกวัยเลย หากใครมีเวลาสั้นๆ อยากมาเที่ยวสวนสนุกระดับโลก บินมาแปปเดียวก็มาสนุกกับที่นี่ได้ ที่สำคัญจองกับ Klook มีโปรดีๆ ราคาเด็ด แถมจองไว้ สะดวกอีกด้วยนะเธอ https://intrend.trueid.net/post/305929 อ่านคอนเทนต์เพิ่มเติมได้ที่ :รวมศัพท์ภาษาไทย กับคิมซอนโฮ ในแฟนมีต 2023 KIM SEON HO ASIA TOUR IN BANGKOKเที่ยวญี่ปุ่นกับ 3 พิกัดดูภูเขาไฟฟูจิ แบบจัดเต็มเที่ยวเชียงใหม่ กับ Klook แอปเดียวตอบโจทย์ทริปในสไตล์คุณ แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”
hamzberry • 23 พ.ค. 66
อ่าน
พาชมวิว มหานคร สกายวอล์ค กรุงเทพฯ โปรสุดคุ้ม จองง่ายผ่าน Klook
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันหยุดนี้ถ้าใครไม่มีแพลนออกต่างจังหวัด เราอยากชวนไปรับลม ชมวิวกรุงเทพฯ จากมุมสูงกันที่ ตึกมหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon Skywalk) ค่ะ ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือพื้นกระจกลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ที่ชั้น 78 กับความสูงถึง 314 เมตร โดยข้างบนนี้ยังมี Rooftop Bar แบบสามารถมองเห็นกรุงเทพได้แบบ 360 องศา ใครที่ไม่กลัวความสูง ชอบความตื่นเต้น ห้ามพลาดเลยค่ะก่อนจะไปเรามาจองตั๋วกันก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อบัตรที่หน้างาน และเช่นเคยเหมือนทุกทริปที่ผ่านมา เราเลือกจองที่พักผ่านแอป Klook ค่ะ เพราะเค้าเป็นแพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการทางการท่องเที่ยว ที่มักจะมีโปรโมชั่นราคาดีออกมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะจองเที่ยวบิน โรงแรม เช่ารถ หรือกิจกรรมต่างๆ จองง่าย สะดวก ครบจบไม่ต้องจองหลายแอปฯ ให้ยุ่งยากเลยค่ะโดยสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยใช้งานเราแนะนำลองโหลดมาใช้งานดูได้เลยค่ะ โดยใช้ได้ทั้งระบบ IOS และระบบ Android หรือว่าจะเลือกจองผ่าน Website ก็ได้ค่ะดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidจองผ่านเว็บไซต์ได้ที่นี่ บัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon SkyWalk) ในกรุงเทพฯ 1.เข้าแอปพลิเคชั่น Klook กดเลือกหัวข้อ กิจกรรมและบริการ2.พิมชื่อ บัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon SkyWalk) ในกรุงเทพฯ 3.เลือกประเภทแพ็คเกจ 4.เลือกวันที่จะเข้าใช้บริการ5.กดที่จองตอนนี้6.กรอกข้อมูลรายละเอียดการจองให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และหากใครมีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่น หรือเครดิตจาก Klook ก็สามารถระบุไปได้เลยก่อนการกดชำระเงินค่ะ7.เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นกด “ดำเนินการชำระเงิน” ก็เป็นอันเรียบร้อยรอรับอีเมลยืนยันการจองได้เลยจองตั๋วเรียบร้อยแล้วไปตะลุยมหานคร สกายวอล์คกันค่ะเมื่อมาถึงเราต้องไปติดต่อที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว เพื่อแลกบัตรเข้าชมเป็นบัตรแข็งก่อนนะคะ โดยแค่เพียงเปิด E-Voucher ที่เราจองล่วงหน้ามาผ่าน Klook เจ้าหน้าที่เค้าจะทำการแสกน QR Code แล้วออกบัตรแข็งให้เราอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่เราจองมาเป็นแพ็คเกจแบบ Mahanakhon Food จะสามารถเข้าชมได้ภายในอาคารและชั้นดาดฟ้า และยังมีคูปองไว้ทานอาหาร ที่ห้องอาหาร Mahanakhon Cube อีก 200 บาทค่ะ ก่อนขึ้นลิฟต์จะต้องมีการตรวจแสกนกระเป๋าก่อน ฟีลเหมือนกำลังจะขึ้นเครื่องเลยค่ะ โดยห้ามนำน้ำดื่มขึ้นไป ขาตั้งกล้องอันใหญ่ก็ไม่สามารถเอาขึ้นได้นะคะ ต้องฝากของไว้ด้านล่าง ซึ่งมีตู้รับฝากของแบบดิจิทัล สะดวกรวดเร็ว ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ผ่านจากจุดนี้ก็จะเป็นช่วงระทึกใจแล้วค่ะ เพราะเราจะได้ขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงที่จะพาเราขึ้นไปยังชั้น 74 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 50 วินาทีเท่านั้น ซึ่งระหว่างที่ลิฟต์กำลังขึ้นไป ผนังลิฟต์ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นจอ LCD กราฟฟิกสีสันสดใส ให้เราเพลินเพลินจนลืมว่า เราขึ้นมาถึงจุดหมายชั้นที่ 74 แล้วในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที!!!ชั้น 74 เป็นจุดชมวิวภายในอาคารให้เราสามารถมองเห็นมุมมองกรุงเทพมหานคร แบบ 360 องศา มีมุมจุดขายของที่ระลึก และมีตู้ขายโปสการ์ดพร้อมตู้ไปรษณีย์สีแดงที่เราสามารถซื้อโปสการ์ดบนนี้แล้วหย่อนใส่ตู้ส่งได้เลย ถือว่าเป็นตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยเลยค่ะจากชั้น 74 เราสามารถขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้นลอยชั้น 75 ซึ่งจะเป็นจุดขึ้นลิฟต์แก้วไปยัง Rooftop Bar ชั้น 78 ได้ หรือใครจะเดินบันไดวนขึ้นไปเองก็ได้เหมือนกัน ซึ่งในจุดก่อนขึ้นลิฟต์นี้ เจ้าหน้าที่จะแจกถุงเท้าให้คนละคู่ สำหรับไว้ใส่เวลาเดินบนพื้นกระจกสกายวอร์คค่ะบรรยากาศชั้น Rooftop ชั้น 78 มองเห็นกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาไฮไลท์บนชั้น 78 จะมีพื้นกระจกลอยฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความสูง 310 เมตร โดยจะต้องสวมถุงเท้าที่เจ้าหน้าที่ให้มา และฝากสิ่งของไว้ที่ชั้นวางของด้านนอก ซึ่งเค้าห้ามพกโทรศัพท์ หรือกล้องถ่ายรูปติดตัว กุญแจ หรือของมีคมทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นกระจก ส่วนช่างภาพสามารถยืนถ่ายภาพได้หลังเส้นที่กั้นไว้ค่ะส่วนตัวตอนเราไปยืนข้างบนก็ไม่รู้สึกหวาดเสียวเท่าไหร่ แต่พอมองลงไปที่พื้นเท่านั้นแหละ รู้สึกเข่าอ่อนค่ะ แนะนำว่าถ้าใครใจไม่ได้แข็งพอ อยากถ่ายรูปสวยๆ ก็อย่ามองลงไปข้างล่างนะคะ :Dถัดมาอีกด้านเดินขึ้นบันไดไปอีกนิด จะเป็นจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา ซึ่งเป็นจุดสูงสุด เดอะ พีค (The Peak) ที่มีความสูงเหนือพื้นถึง 314 เมตรค่ะ มีเก้าอี้สีเหลืองสดใสให้นั่งชมวิวดาดฟ้า แต่กลางวันก็ร้อนเอาเรื่องอยู่นะคะ แนะนำว่ามาขึ้นมาสักช่วงเย็น 5 โมงกว่าๆ แสงกำลังสวยค่ะนอกจากจุดชมวิวแล้ว บนชั้น 78 ยังมี Rooftop Bar ที่สามารถสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบเบาๆ นั่งชมวิวกรุงเทพฯได้แบบชิลๆ แต่คูปองอาหาร 200 บาท ที่ได้รับมาจากแพ็คเกจจะไม่สามารถใช้บนนี้ได้นะคะชมวิวเต็มอิ่ม ดื่มด่ำกับบรรยากาศกรุงเทพฯ ยามเย็นแล้วก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ นานๆ ทีได้มาสูดอากาศบนที่สูงแบบนี้ก็ทำให้สมองโล่งๆโปร่งดีเหมือนกัน ซึ่งเท่าที่สังเกตที่นี่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวคนไทยเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติมากกว่า ที่สำคัญต่างชาติเค้าดูตื่นเต้น Amazing กับวิวกรุงเทพฯ บ้านเรามากเลยค่ะ น่าภูมิใจจริงๆ ขากลับลิฟต์จะมาจอดที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นในส่วนของ King Power Duty Free ทั้งหมดค่ะ มีของที่ระลึกและของแบรนด์เนมปลอดภาษีให้เลือกมากมาย ก่อนกลับแวะทานอาหารโดยใช้คูปองที่ร้านอาหาร Thai Taste Hub Mahanakho อยู่คนละอาคารกับตึกมหานครนะคะแต่อยู่ใกล้ๆกัน ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 80 บาท ส่วนใหญ่เป็นสตรีท ฟู้ด มีร้านเจ้าดังหลายร้านให้เลือกเลยค่ะ รสชาติดี สมราคาเลย คูปองมูลค่า 200 บาทไม่สามารถแลกคืนได้ค่ะเวลาทำการ เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 22.00 น. (ตรวจสอบรอบการให้บริการอีกครั้งที่เวปไซต์)Facebook : King Power Mahanakhonพิกัด : ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร 114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500การเดินทาง สามารถนั่ง BTS ลงที่สถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3GPS : Google mapหวังว่ารีวิว พาชมวิว มหานคร สกายวอล์ค กรุงเทพฯ โปรสุดคุ้ม จองง่ายผ่าน Klook จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ไว้พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ :D ภาพปกและประกอบทุกภาพโดย ผู้เขียน ตกแต่งโดย canvaนางแบบ ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
28Sept • 8 พ.ค. 66
อ่าน
รีวิว บุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ชั้นดาดฟ้า กลางใจกรุง จองง่ายๆ ได้ที่ Klook
กำลังมองหาบุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพฯ ไว้สำหรับวันพิเศษกันอยู่ไหมคะ? เพราะวันนี้เรามีบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ บุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 ที่อยากมาแนะนำความอิ่มคุ้ม อาหารหลากหลายแบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อิตาเลียน ญี่ปุ่น และจีน มาพร้อมกับวิวหลักล้านที่มองเห็นวิวทั่วกรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา เรียกได้ว่าอิ่มทั้งกายและใจในที่เดียวบุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 จองยังไง?วิธีการจองนั้นง่ายแสนง่าย เพื่อนๆ สามารถเข้าไปจองกันได้ที่ www.Klook.com หรือสามารถจองผ่านแอปพลิเคชันในมือถือได้ง่ายๆ แค่เพียงไม่กี่ขั้นตอนดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidหลังดาวน์โหลดแอปมาเรียบร้อยแล้ว ขั้นแรกให้ Log in ได้ตามช่องทางที่สะดวก จากนั้นกดมาที่หน้า Home แล้วเสิร์จคำว่า Baiyok Sky Hotel 81 Floor หรือจะพิมพ์ง่ายๆ ว่า ใบหยก ชั้น 81 จากนั้นให้คลิกเข้าไปได้เลยค่ะสำหรับ บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ บุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 ที่จองผ่านแอป Klook จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ราคา ได้แก่Bangkok Balcony Buffet Dinner (Indoor) ราคา 1,190 (จาก 2,280) Dinner Buffet with Premium Balcony Seating at Sky Box (Outdoor) วันจันทร์-พฤหัสบดี ราคา 1,750 (จาก 3,200) / วันศุกร์-วันเสาร์ ราคา 2,150 (จาก 3,998) กดเลือกแพ็กเกจที่เราต้องการ เลือกวัน เวลา และจำนวนที่นั่งที่ต้องการจอง จากนั้นก็กดชำระเงินเพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการจองบุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 ผ่านแอปพลิเคชัน Klook พอวันถึงที่เราจองไว้ ให้ขึ้นลิฟต์จากชั้น G มาที่ชั้น 19 จากนั้นเปิดแอปพลิเคชัน Klook กด Voucher เพื่อให้พนักงานที่โซน Ticket Counter ยิงบาร์โค้ดก็เป็นอันเสร็จพอได้เราตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถขึ้นไปชมวิวบนตึกใบหยกตามชั้นต่างๆ ก่อนค่ะ ชั้นแวะแรกคือจุดชมวิว ชั้น 77 ห้องจะเป็นห้องโล่ง มีกระจกให้เรามองเห็นวิวโดยรอบ ถัดมาคือหอชมวิว ชั้น 84 นับว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงในกรุงเทพฯ ความเก๋คือตัวพื้นเขาจะหมุนแบบ 360 องศา ทำให้เรามองเห็นวิวของเมืองหลวงได้จากมุมสูง วิวสวยทั้งช่วงเย็นและค่ำ พอใกล้ถึงเวลาก็ลงไปรอเข้ากินบุฟเฟ่ต์ ชั้น 81 (สามารถเดินลงบันไดจากชั้น 84 มายังชั้น 81 ได้เลย) แนะนำว่าให้ไปพอดีกับเวลาที่ระบุไว้บนตั๋วจะได้เข้าห้องอาหารได้เลย ไม่ต้องยืนรอนานค่ะ รีวิว บุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ วิวหลักล้าน อาหารหลากหลายเข้ามาถึงห้องอาหารก็ Enjoy your dinner ได้เลย เวลาในการทานทั้งหมด 2 ชั่วโมง มีโซนอาหารให้เลือกอย่างหลากหลาย ครบรส ทั้งคาวและหวาน บุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 มีอะไรบ้าง? หากเดินวนมาจากมุมอาหาร จะมีรายการอาหารให้เลือก ดังนี้ค่ะเป็ดปักกิ่ง+หมูกรอบซุปเนื้อตุ๋น+เมนูกุ้งกุ้งอบวุ้นเส้น+ข้าวผัด+เมนูเนื้อชาบูเนื้อ สไตล์น้ำตกแบบไทยๆ + เมนูต้มยำและซุปต่างๆอาหารญี่ปุ่น ปลาแซลมอน ปลาดิบ ซาชิมิ และซูชิหลายหน้าสเต๊กครบครัน ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และปลาแซลมอนหนังกรอบโซนอาหารทะเล กุ้งแม่น้ำย่าง ปลาหมึกย่าง หอยนางรม และเมนูยำรสแซ่บสปาเกตตีและผัดไทยเทมปุระ พิซซ่า เฟรนช์ฟรายส์ของทอดยอดนิยม เช่น ลูกชิ้น ฮ่อยจ๊อปีกไก่ทอด โซนผักสลัดสำหรับสายสุขภาพเมนูของหวาน ทั้งเค้กแบบฝรั่ง เช่น Red velvet, Chocolate cake, Coffee cake และขนมหวานแบบไทยๆ เช่น เปียกปูน ขนมกล้วย ขนมมัน วุ้น ตะโก้ ลูกชุบ กล้วยเชื่อม และขนมค่อมแพนเค้กเนื้อนุ่มสดใหม่ + เครปซูเซทและซอฟต์ไอศกรีมข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน + โซนผลไม้สดจบที่โซนเครื่องดื่ม มีทั้งชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ จากรายการ station อาหารให้เลือกด้านบนจะเห็นได้เลยว่ามีให้เลือกหลากหลายมาก หลังจากที่พนักงานต้อนรับพามายังโต๊ะที่เราจองไว้แล้วก็สามารถเลือกตักหรือสั่งอาหารที่อยากทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ สั่งได้แบบไม่อั้น!! เดินวนกันสักพักก็ได้มาครบหลากเมนู เต็มโต๊ะ หากถามว่าเมนูไหนอร่อยบ้าง? ในนามของคนชอบกินแบบเรา บอกได้เลยว่าอร่อยแทบจะทุกเมนู อารมณ์ประมาณว่าตักมา 10 ก็อร่อยโดนใจไปซะทุกจาน ทุกเมนูอร่อย..คุ้มค่าอย่างที่ควรจะเป็น สำหรับใครที่กลัวว่าพอเป็นแบบบุฟเฟ่ต์แล้วคุณภาพจะไม่ดีเท่าไหร่ ข้อนี้ไม่ต้องกังวลไปเลยล่ะ คุ้มที่สุด สุดๆ ของความคุ้มคือ กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งสดมาก มันกุ้งเน้นๆ ทุกตัว ความดีงามคือเขาย่างมาที่ความสุกแบบกำลังดีมาก (ก.ไก่ ล้านตัว) ไม่แห้งไป เป็นความสุกที่เนื้อกุ้งสดๆ เด้งๆ ในปากเราแบบกำลังดี ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดที่รสชาติก็เยี่ยม ฟินมาก สรุปรวมเราเอ็นจอยกับกุ้งเผาไปประมาณ 5 รอบ (รอบละ 2-3 ตัว) ต่อด้วยหอยนางรม ตัวหอยไซซ์กลาง-เล็ก แต่รับประกันความสดค่ะ ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว เสิร์ฟมากับเครื่องยำทั้งหอมเจียว พริกสด กระเทียมสด และมะนาว อันนี้ก็ดี หรือใครจะสั่งแบบที่เขายำให้เลยก็มีเหมือนกันค่ะ กับยำหอยนางรม เครื่องพูนๆ หอมกลิ่นน้ำพริกเผา อร่อยสะใจมาก อีกเมนูที่คุ้มมาก อร่อยมาก คือ เป็ดปักกิ่ง + หมูกรอบ ที่เขาจะเสิร์ฟพร้อมกันใน 1 จาน อย่างละ 2 คำ ตัวเป็ดปักกิ่งหนังกรอบ ห่อเข้ากับแตงกวาและต้นหอมและน้ำจิ้มรสเค็ม อร่อยดีค่ะ ส่วนหมูกรอบดีมากๆ หนังกรอบทุกชิ้น เอามาวางไว้นานแค่ไหนก็ยังกรอบ เมนูนี้เราก็จัดไปประมาณ 4 จาน เห็นจะได้ ถัดไปที่เมนูเส้นๆ ที่เราสั่งมาจะเป็น สปาเกตตีเพสโตซอส และ สปาเกตตีคาโบนาร่า ดีงามมากๆ เพราะพนักงานจะปรุงแบบสดใหม่ต่อออเดอร์ เส้นสปาเกตตีสุกกำลังดี คลุกมากับซอสที่หอมอร่อย ใครสายสปาเกตตีจัดไปได้เลยไม่ผิดหวัง หรือจะลองเมนูไทยๆ อย่างผัดไทยก็มีให้เลือกสั่งด้วยเหมือนกันค่ะสายอาหารญี่ปุ่นก็มีเนื้อปลาดิบให้สั่งได้ตามชอบ ทั้งปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาบะดอง ปูอัด พร้อมทั้งเมนูซูชิให้เลือกกินอีกหลายคำ สเต๊กก็ไม่น้อยหน้าเพราะพนักงานจะย่างและอุ่นร้อนไว้เรื่อยๆ ทั้ง สเต๊กเนื้อสันนอกออสเตรเลีย สเต๊กซี่โครงแกะออสเตรเลีย สเต๊กหมูคุโรบตะ และสเต๊กแซลมอน มีเครื่องเคียงและซอสให้ตักได้ตามใจชอบ พอจบของคาวก็ปิดด้วยหวาน สิ่งหนึ่งที่ชอบเราคือ portion มาแบบชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ทำให้เรากินทุกอย่างได้หลากหลาย เราสั่งมาเป็น Red velvet และขนมไทย ขนมค่อม เปียกปูน กล้วยเชื่อมและขนมวุ้น อร่อยทั้งเค้กและขนมไทย รสชาติคือดีทุกชิ้น หรือจะเป็นขนมหวานชื่อดังของไทยทั้ง ข้าวเหนียวมะม่วง และ ข้าวเหนียวทุเรียน ที่กล้ารับประกันได้เลยว่าอร่อยมากกกก ข้าวเหนียวมูนหวาน เค็ม มัน แบบลงตัวที่สุด กินคู่กับมะม่วงรสหวานอร่อย หรือจะเป็นน้ำกะทิทุเรียนก็ลงตัว สั่งมากินได้แบบไม่มีผิดหวัง ปิดท้ายอีกนิด (นิดมาหลายจานมาก 5555+) ด้วยของหวานแบบทำสดใหม่ หอมฉุย อย่าง แพนเค้กเนื้อนุ่ม และ เครปซูเซทเสิร์ฟพร้อมไอศกรีม พอจะหมดเวลาพี่พนักงานก็จะเดินมาแจ้งเวลาที่เหลือ กินจนหมด จัดแจงเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นบันไดจากชั้น 81 ไปที่ชั้น 84 ดูวิวเมืองยามค่ำกันอีกสักเล็กน้อยก่อนกลับบ้าน วิวสวย บรรยากาศเย็นๆ เบาสบายหัวใจสุดๆ สรุปรวมความประทับใจ บุฟเฟ่ต์ใบหยก ชั้น 81 บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ใจกลางกรุง รายละเอียดบุฟเฟ่ต์ Bangkok Balcony Buffet ชั้น 81 ตึกใบหยกสกาย ราคา 1,190/ท่าน เวลาในการทาน 2 ชั่วโมงเมนูอาหาร รสชาติ ความหลากหลาย 10/10 เมนูครบครันทั้งของคาว ข้าว/กับข้าว เมนูเส้น อาหารทะเล กุ้ง ปลาหมึก หอยนางรม อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน ของหวานครบทุกชาติ รสชาติอร่อยคุ้มค่าทุกเมนูเมนูห้ามพลาด กุ้งย่าง ยำหอยนางรม เป็ดปักกิ่ง+หมูกรอบ สปาเกตตี ส่วนของหวานเป็นพวกขนมไทย ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียนความคุ้มค่าคุ้มราคา 10/10 เราจองมากับแอป Klook หัวละ 1,190 (จาก 2,280) เทียบกับอาหารหลากชนิดที่ได้นั้นคุ้มเลยทีเดียว แค่เมนูอาหารทะเลก็ไปทางคุ้มแล้ว พร้อมกับวิวสวยๆ ให้ได้พักผ่อนหย่อนใจ คือดีมากๆ พนักงาน 9/10 โซนด้านล่างก่อนขึ้นมาชั้นดาดฟ้าจะงงๆ หน่อยสำหรับครั้งแรก อาจจะมีพนักงานให้ถามน้อยหน่อยค่ะ แต่พอขึ้นมาชั้นดาดฟ้า พนักงานคอยดูแลเราเยอะขึ้น ส่วนพนักงานในโซนบุฟเฟ่ต์ดูแลดีมาก พนักงานแต่ละ station ก็น่ารัก พร้อมจัดให้เราทุกเมนู และพนักงานที่คอยช่วยเคลียร์จานบนโต๊ะให้เราก็ดูแลดีสุดๆ ค่ะ จานไหนหมดก็เก็บให้ทันที เราจะได้มีที่วางเมนูใหม่ๆ ตลอด ตรงนี้ประทับใจเลย ความสะดวก 10/10 ส่วนตัวเรามองว่าเดินทางสะดวกดีค่ะ แต่อาจจะไกลรถไฟฟ้าไปหน่อย แต่ถ้ามีรสส่วนตัวหรือแท็กซี่ก็ไม่ยาก การขึ้นไปชั้นดาดฟ้าด้วยลิฟต์ก็มีพนักงานบริการตลอดทุกชั้น วันที่เราไปคนจะค่อนข้างเยอะหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่ได้รอนานมากขนาดนั้นสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ บุฟเฟ่ต์อาหาร ตึกใบหยก อยู่ล่ะก็สามารถจองล่วงหน้าได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Klook หรือเว็บไซต์ www.Klook.com ให้การจองทุกมื้ออาหารเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ทั้งนี้บุฟเฟ่ต์ตึกใบหยก เขามีให้เลือกหลายชั้น หลากเมนูอาหารมากค่ะ ตึกใบหยก บุฟเฟ่ต์ 2566บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันไทย-นานาชาติ Kitchen Above The Cloud ชั้น 76 78บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันซีฟู้ด ติ่มซำ ชั้น 79บุฟเฟ่ต์อาหารค่ำไทย-นานาชาติ ห้องอาหาร Bangkok Sky ชั้น 78บุฟเฟ่ต์อาหารจีน ห้องอาหาร Stella Palace ชั้น 79บุฟเฟ่ต์พรีเมียม ห้องอาหาร Bangkok Balcony ชั้น 81 โซนด้านใน และ Sky Box ด้านนอกบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำ ห้องอาหาร Crystal Grill ชั้น 82อยากไปลองชิมอาหารอร่อยๆ พร้อมบรรยากาศดีๆ วิวสวยสุดลูกหูลูกตาที่ตึกใบหยก กดจองได้ง่ายๆ ที่ Klook พร้อมให้คุณได้ฟิน อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ แค่เพียงไม่กี่ขั้นตอน!! เส้นทาง บุฟเฟ่ต์อาหารค่ำไทย-นานาชาติ @ตึกใบหยกภาพปก โดย ผู้เขียนภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
Onetotea92 • 8 พ.ค. 66
อ่าน
เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ Klook บริการ City Bus Transfer รับ-ส่ง กรุงเทพ - พัทยา
ข่าวดีสำหรับสายช้อปทุกคน เซ็นทรัลพัฒนา ได้จับมือกับ KLOOK เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการเปิดให้บริการ City Bus Transfer รถบัสรับ-ส่งระหว่าง กรุงเทพฯ-พัทยา ระหว่าง เซ็นทรัลเวิลด์-เซ็นทรัล วิลเลจ-เซ็นทรัล พัทยา เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และกระตุ้นเศรษฐกิจค่ะ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาที่เมืองไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีจำนวนไม่ต้ำกว่า 5 ล้านคน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จึงได้จับมือกับ KLOOK (คลูก) แพลตฟอรม์ อีคอมเมิรซ์ ด้านการท่องเท่ียวช้ันนำ เปิดพื้นที่ของศูนย์การค้าที่เป็น Strategic location และเป็นศูนย์ฯ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากอย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล วิลเลจ และ เซ็นทรัล พัทยา ให้เปิดจุดให้บริการรถบัสรับ-ส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทั้งจองง่าย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วการเดินทางออนไลน์ได้อย่างสบายใจ พร้อมทั้งสามารถจองและซื้อตั๋วเดินทางได้ทันทีในวันที่ต้องการเดินทาง เพียงกดยืนยันสั่งซื้อล่วงหน้าภายใน 2 ชั่วโมง ทุกคนก็สามารถเลือกแพ็กเกจเดินทางและวันที่ต้องการเดินทางได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากศูนย์การค้าที่ร่วมรายการ ดังนี้ สมัครสมาชิก The1Tourist เพื่อรับ Welcome Package (แพ็กเกจส่วนลดร้านค้า) มูลค่ากว่า3,000บาท, premium gift กระเป๋ าใส่เหรียญ good goods, และ Wi-Fi 2 ชม. ฟรี! แลกรับเครื่องดื่มสมุนไพร 1 แก้ว เมื่อซื้อสินค้าในศูนย์ฯครบ 1,500 บาท ราคาค่าบริการ City Bus Transfer (ราคาต่อรอบ/ต่อคน)เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพัทยา 190 บาทเซ็นทรัลพัทยา เซ็นทรัลเวิลด์ 190 บาทเซ็นทรัลพัทยา เซ็นทรัลวิลเลจ เซ็นทรัลเวิลด์ 190 บาท พบกับกิจกรรมดีๆ และสิทธิพิเศษอีกมากมาย รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.klook.com/en-US/preview/activity/83758/
ข่าว ประชาสัมพันธ์ • 2 พ.ค. 66
อ่าน
รีวิว ดินเนอร์หรูบุฟเฟ่ต์ตึกใบหยก ชั้น 81 ราคาพิเศษผ่าน klook
รีวิว ดินเนอร์หรูบุฟเฟ่ต์ตึกใบหยก ชั้น 81 เป็นบุฟเฟต์นานาชาติ Bangkok Balcony (Indoor) แถมได้ชมวิวเมืองกรุงเทพแบบ 360 องศา แน่นอนเราจองล่วงหน้าผ่าน klook แถมมีส่วนลดคุ้มกว่าไปซื้อที่ตึกใบหยกโดยตรง จากราคา1190 บาท เราจองผ่าน klook ได้ในราคา 1150 บาทพิเศษ! รับส่วนลด 5% เมื่อจองผ่านแอป Klook ครั้งแรก ใช้โค้ด "BetterOnApp" เพื่อรับส่วนลดได้เลยขั้นตอนการจองบุฟเฟ่ต์ใบหยกชั้น 81เปิดแอป klook ตรงช่องค้นหาคำว่า ใบหยกบุฟเฟ่ต์ เราเลือกจองชั้น81ค่ะเลือกวันและเวลาที่จะไปกิน ตรวจสอบราคาแล้วกดชำระเงินโล้ด โดยเพื่อน ๆ สามารถยกเลิกฟรีล่วงหน้า 72 ชั่วโมงหรือก่อน 3 วัน อันนี้ดี เราชอบมากจะได้เลื่อนนัดไปกินพร้อมกันกับเพื่อนค่ะ ^^พอถึงวันนัด จะมีพนักงานโทรมาคอนเฟิร์มเราล่วงหน้าด้วยนะ การเดินทางไปกินบุฟเฟ่ต์ ให้เพื่อน ๆ ไปที่ตึกใบหยก 2 หรือ Baiyoke Sky Hotel Bangkok ขึ้นลิฟต์ไปแลกบัตรที่ชั้น 18 ก่อน แค่เปิดแอป klook ให้พนักงานแสกนQR Code ก็ได้บัตรแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าใครมีบัตรแล้วสามารถขึ้นลิฟต์แก้วไปที่ชั้น81 ได้เลยเราจองไว้เวลา 17.00 น.ระหว่างรอเราสามารถไปเดินเล่นถ่ายรูปชมวิวเมืองที่ชั้น81 ก่อนได้ค่ะเย่ พอถึงเวลา 17.00น. เราก็ยื่นคูปองให้พนักงาน เค้าจะพาเราไปยังโต๊ะอาหาร แต่ละโต๊ะจะมีเลขที่ซึ่งตรงกับคูปองของเรา จะบอกว่าวิวสวยมาก มองไปได้สุดลูกหูลูกตา ช่วงเวลานี้บอกเลยว่าเป็นดินเนอร์วิวหรูที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดบุฟเฟ่ต์ตึกใบหยก ชั้น 81 ไลน์อาหารเค้าน่ากินมาก ๆ เลย มีอาหารญี่ปุ่น จีน ยุโรป หรือไทยก็มีหมด ไม่ว่าจะเป็นซูชิซาชิมิ เป็ดปักกิ่ง สเต็ก ผัดไทย หอยนางรม ซุปเห็ด และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือกุ้งแม่น้ำย่างแบบไม่อั้น มันเริ่ดมากคุ้มสุด อย่าลืมเผื่อท้องไว้ชิมขนมเค้กและไอติมด้วยนะฟินสุด ๆเราบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก จองง่ายผ่าน klook แนะนำต้องมากินให้ได้อาหารดี วิวสวยหลักล้าน พนักงานดูแลน่ารักสุภาพทุกคน แล้วเพื่อน ๆ จะติดใจแบบเราค่ะ ^^ Bangkok Balcony Buffet @ 81 Floor Baiyoke Towerเวลาทานบุฟเฟ่ต์ 2 ชั่วโมงโรงแรมใบหยกสกาย 222 ถนนราชปรารภ แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400พิกัด : รูปทั้งหมดโดยครีเอเตอร์https://intrend.trueid.net/post/357020หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
หนอนหลบฝน • 22 เม.ย. 66
อ่าน
รีวิว สวนน้ำ สยามอะเมซิงพาร์ค กรุงเทพ Siam Amazing Park 2023 ดีลคุ้มที่ Klook
สวนสยาม อะเมซิ่งพาร์ค (Siam Amazing Park) สถานที่คลายร้อนสุดมันส์ที่มาได้ทั้งครอบครัว วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เราไม่รอช้า ออกมาหาความสนุกสุดเหวี่ยง ณ สวนสยาม อะเมซิ่งพาร์ค นี้ เลยขอมาแบ่งปันความสนุกด้วยกันใน "รีวิว สวนน้ำ สยามอะเมซิงพาร์ค กรุงเทพ Siam Amazing Park 2023 ดีลคุ้มที่ Klook" ว่าแล้วเราไปซื้อตั๋วพร้อมออกไปผจญภัยยังสวนน้ำแห่งนี้กันเลยค่ะ^^ก่อนเริ่มการเดินทาง เราเริ่มจองตั๋วผ่านทางเว็บไซต์ Klook กันค่า^^1. เราเริ่มต้นโดยการหาข้อมูลเพื่อซื้อตั๋วในราคาดีลสุดคุ้ม และโปรโมชั่นเด็ดๆ จากเว็บไซต์ www.klook.com/th นี้เลยค่า หรือเพื่อนๆ สามารถโหลดแอปพลิเคชันมาใช้ได้เลย จากนั้นให้เพื่อนๆ "ลงทะเบียน" เพื่อเข้าสู่ระบบก่อนนะคะ โดยสามารถทำผ่าน facebook, gmail, apple ID หรือเบอร์โทรศัพท์ก็สะดวกมากๆ เลยค่ะ^^2. เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย ให้เพื่อนๆ ไปยังเมนู "กิจกรรมและบริการ" จากนั้นจะค้นหาคำว่า "สวนน้ำ" คลิกค้นหา ก็จะเจอบัตรสวนน้ำ ยามอะเมซิงพาร์ค กรุงเทพ แล้วค่า^^3. ให้เพื่อนๆ กรอกรายละเอียดการจอง เช่น วันที่ และเลือกประเภทบัตร จากนั้นกด "จองตอนนี้" ค่ะ^^4. ถัดมาให้เพื่อนๆ กรอกข้อมูล เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร อีเมล และในส่วนช่องโปรโมชั่น หากเพื่อนๆ มีโค้ดส่วนลดก็สามารถพิมพ์ใส่ได้เลย จากนั้นก็กด "ชำระเงิน" ค่ะ เมื่อชำระเงินเรียบร้อยก็จะได้ตั๋วบัตรเข้าสวนสยามในรูปแบบไฟล์ PDF โดยสามารถนำ QR Code นี้ไปแลกตั๋วเข้าสวนสยามได้เลยค่าาา^^ หรือหากเพื่อนๆ จะมาซื้อตั๋วที่สวนน้ำ สยามอะเมซิงพาร์ค ก็สามารถมาซื้อได้ตรงจุดจำหน่ายบัตรนี้ได้เลยค่า^^โซน Adventure Worldเมื่อตั๋วพร้อมแล้ว เราไปตะลุยภายในสวนสยาม อะเมซิ่งพาร์ค กันเลยค่า^^ โดยโซนแรกที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปวอร์มเสียงกรี๊ดกันก่อนนั้น ก็คือโซน Adventure World โดยโซนนี้จะมีเครื่องเล่นน่าตื่นเต้นให้เพื่อนๆ ได้มาเล่นกันไม่ว่าจะเป็น Twin Dragon, Tagada Diso, Monster, Astrofighter, RockRoll และ Astro Liner ค่า^^ สำหรับเราแล้วเลือกเล่นหนวดปลาหมึกยักษ์สีชมพูอย่างตัว Monster นี้เลย^^ อยากบอกว่าตื่นเต้นเล็กน้อย และเริ่มมากขึ้นเมื่อเครื่องหนวดหมึกนี้หมุนขึ้นสูงเลยค่ะ555 ถัดมาก็มาลองเจ้าตัว Astrofighter เป็นตัวที่ไม่หวาดเสียวเลยค่า เครื่องจะพาเราเอียงไปมาเหมือนนั่งยานอวกาศไปตะลุยนอกโลก เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่เพื่อนๆ มาลองเล่นได้เลย ^^ โซน Xtreme Worldเมื่อเราวอร์มเสียงกรี๊ดกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปวัดใจกับเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่โซน Xtreme World กันเลยค่า555 โดยโซนนี้เป็นโซนที่น่าตื่นเต้นเต็มคาราเบลสำหรับเราเลยก็ว่าได้555 โดยเครื่องเล่นมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Vortex, Boomerang, Log Flume, Take off, Enterprise, Balloon Race, Break Dance, Ranger และ Condor ค่า สำหรับเราแล้ว เครื่องเล่นที่ประทับใจที่สุดคงเป็น Balloon Race ที่ทำให้เราได้ล่องลอยบนลูกโป่ง ลอยเหมือนอยู่ในการ์ตูนดิสนี่เลยค่า เราชอบมากๆ แต่สำหรับเพื่อนๆ ท่านอื่นก็อาจจะตื่นเต้นแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ555โซน Small Worldฮึบไว้! แล้วไปต่อกันกับโซน Small World ที่รวมเครื่องเล่นเบาๆ ให้เด็กเล็ก หรือวัยรุ่นอย่างเราได้มาลอง อย่างเครื่องเล่นอย่าง Mini Astrofighter, Mini Carousel, Mini Boat, Mini Motorcycle, Swan และ Play Port สำหรับเราแล้ว เราว่าโซนนี้เหมาะมากๆ สำหรับเด็กเล็กที่จะได้มานั่งเครื่องเล่นในฝันกันเลย อีกหนึ่งโซนที่น่ารัก มุ้งมิ้ง น่าเล่นไม่แพ้โซนอื่นเลยค่า^^โซน Family Worldโซน Family World มีเครื่องเล่นน่าสนุกอย่าง The Merry Go Round, Si-Am Tower, Big Double Shock และ Jurassic Adventure โซนนี้อยากบอกว่า เป็นโซนที่เราชอบมากๆ เพราะสามารถไปร่วมสนุกกันได้ทั้งครอบครัวเลยค่า^^ และเราก็ได้เลือกมาตะลุยยังดินแดน Jurassic Adventure ที่พาเรานั่งรถไปตะลุยยังป่าจำลอง ได้เห็นสัตว์ป่าในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างแมมมอธ และไดโนเสาร์เลยค่า^^ อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่เราอยากให้เพื่อนๆ ได้มาลองนั่นก็คือ Si-Am Tower ที่เรานั้นจะได้มีโอกาสได้มานั่งเครื่องหอคอย ไต่ระดับอย่างช้าๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อชมวิวสวยๆ ของสยามอะเมซิงพาร์ค (Siam Amazing Park) แห่งนี้ ขอบอกว่าวิวสวย จนต้องหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเก็บไว้เลยค่า^^โซน Water Worldและเมื่อร่างกายต้องการวิตามินsea เราก็มาตะลุยยังโซนนี้กันเลย นั่นก็คือ โซน Water World ที่เพื่อนๆ จะสามารถมาตะลุยดินแดนน้ำแห่งนี้ เติมความชุ่มฉ่ำกันได้ทั้งครอบครัวเลยค่า^^ โดยโซนนี้มีมุมให้เพื่อนๆ ได้มาเล่นน้ำแบบชิลๆ หรือจะแบบสนุกสุดเหวี่ยงด้วยโซนเครื่องเล่นอย่าง Wave Pool, Si-Am Lagoon, Speed Slide, Super Spiral, Flowing Pool และ Mini Slide ค่า อีกหนึ่งโซนที่เราชอบมากๆ ที่จะได้มีโอกาสมาคลายร้อนกันแบบจุใจได้ที่โซนนี้เลย^^โซน บางกอกเวิลด์ (Bangkok World)ปิดท้ายด้วยโซนใหม่สุดอย่างโซน บางกอกเวิลด์ (Bangkok World) ที่รวบรวมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นทั่วกรุงเทพฯ มาไว้ตรงนี้ ให้เพื่อนๆ ได้มาเช็กอินถ่ายรูปสุดชิค พร้อมไปชิม ช้อป ชิล ของกินอร่อยๆ จากร้านค้าบริเวณนี้กันเลยค่า^^ อีกหนึ่งโซนที่เราชอบ เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้เลือกถ่าย แถมยังคุ้มแทบไม่ต้องไปไหนไกล แค่มา บางกอกเวิลด์ Bangkok World หนึ่งวันก็เหมือนได้ไปเที่ยวรอบกรุงเทพฯ เลยค่า^^หนังสือเล่มไหน ก็เขียนไม่สนุกเท่าเราได้ออกมาสัมผัสด้วยตัวเราเองเลย^^ วันหยุดจากการทำงาน หรือจะปิดเทอมใหญ่นี้ เพื่อนๆ ไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน สยามอะเมซิงพาร์ค (Siam Amazing Park) เป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดคุ้ม ที่หากเพื่อนๆ ได้มาต้องหอบความสนุกกลับไปอย่างแน่นอน โดยที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. สวนน้ำปิด 17.00 น. และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของทาง สยามอะเมซิ่งพาร์ค (Siam Amazing Park) ได้เลยค่า ^^รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดย : ผู้เขียน (Montita)แผนที่ : แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”
Montita • 27 มี.ค. 66
อ่าน
พาเที่ยวดรีมเวิลด์ (Dream World) 2023 จองบัตรผ่าน Klook ส่วนลดสุดคุ้ม
ถ้าพูดถึงวัยทำงานของบางคนก็คงเหนื่อยกับการทำงานมากๆ ทำงานเหนื่อยก็คงอยากพักผ่อน อยากย้อนวัยไปเป็นเด็กๆ ที่ไม่ต้องเหนื่อยกับงานขนาดนี้ อยากย้อนวัยเป็นเด็กไปเล่นได้อย่างเต็มที่ มาค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปย้อนวัยเป็นเด็ก โดยการไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆในดรีมเวิลด์กันค่ะ ไปกรี๊ดให้หายเครียดกันเลยค่ะดรีมเวิลด์ (Dream World) เป็นสวนสนุกที่ต้องเสียค่าเข้า ทั้ง เด็กและผู้ใหญ่ค่ะ มีหลายราคาให้เลือกเลยค่ะ วันนี้เรามีวิธีการจองง่ายๆ ไม่ต้องไปรอต่อคิวที่หน้าทางเข้าเลยค่ะ โดยเราจะจองผ่าน Klook นั้นเอง และเราสามารถเลือกราคาเลือกวันที่ ที่จะไปได้เลยค่ะ รายละเอียดต่างๆของบัตร โปรคุ้มๆ บัตรลดราคากันเพียบเลยค่ะ เราไปดูขั้นตอนการจองกันเลยค่ะ พิเศษ! ใช้โค้ด BetterOnApp รับส่วนลด 5% เมื่อจองผ่านแอปครั้งแรก1. เข้าไปที่ Klook หรือสำหรับใครที่โหลดแอปมาแล้วก็กดไปที่หน้าบัญชีเลยค่ะ 2. กดไปที่ เข้าสู่ระบบ/ลงชื่อสมัครใช้ เลยค่ะ 3. เราจะเข้าสู่ระบบโดยผ่านทาง facebook นะคะ คนไหนสะดวกแบบไหนก็ลุยเลยค่ะ 4. กดดำเนินการต่อค่ะ 5. กดไปที่หน้าแรก เพื่อค้นหาสถานที่ที่เราจะไปค่ะ 6. เสิร์ช “บัตรเข้าสวนสนุกดรีมเวิลด์” กดค้นหาเลยค่ะ 7. ขึ้นหน้าดรีมเวิลด์ จะขึ้นราคาค่าเข้าให้เราเลือกค่ะ 8. เราเลือกวันที่ที่เราจะไปก่อนค่ะ 9. เลือกวันที่เราสะดวกได้เลยค่ะ 10. เมื่อเราเลือกวันที่เรียบร้อยก็จะกลับมาเลือกราคาค่าเข้าที่เราต้องการค่ะ วันนี้เราเลือก “บัตรดรีมเวิลด์วีซ่า” จำนวน2 คนค่ะ ราคาบัตรละ 600 บาทค่ะ มีส่วนลดเหลือ 575 บาทค่ะ 11. เราตรวจสอบว่าเลือกบัตรราคาถูกไหม วันที่ที่ต้องการแล้ว ก็กดไปที่หน้าชำระเงินเลยค่ะ 12. เมื่อกดที่หน้าชำระเงินแล้วจะขึ้นให้เรากรอกข้อมูลค่ะ เราก็กรอกตามที่ขึ้นได้เลยค่ะ แค่นี้ ก็เรียบร้อยค่ะ ได้บัตรราคาเข้ามาแล้ว ก็ไปลุยย้อนเวลาเป็นเด็กกันเลยค่ะ เมื่อเรามาถึงที่ ดรีมเวิลด์ นะคะ เราซื้อบัตรมาแล้ว เราก็สามารถมารับบัตรเข้าเล่นเครื่องเล่น ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้เลยค่ะ นั่งรอรับบัตรแบบแอร์เย็นๆเลยค่ะ เมื่อเราได้บัตรมาแล้วก็เข้าไปเล่นกันเลยค่ะ ทางสวนสนุกจะแจกแผนที่ของสวนสนุกมาให้เราได้ดูกันด้วยนะคะ เอาไว้เผื่อหลงทางค่ะ เพราะพื้นที่ใหญ่มาก!!! แนะนำเตรียม ยาดม ยาลม ยาหม่องมากันด้วยนะคะ วัยเราๆอาจต้องใช้ค่ะ เมื่อเข้ามาข้างในนะคะ สิ่งแรกที่เราจะเห็นก็คือมุมถ่ายรูปสุดฮิตกันค่ะ ถ่ายรูปกันให้หน่ำใจ ไปอวดโซเชียลได้เต็มที่ค่ะ วันนี้บัตรที่เราได้มา จะสามารถเข้าเล่นได้ทุกเครื่องไม่จำกัดรอบเลยค่ะ ยกเว้น บ้านผีสิง เอเลี่ยน และรถบั้มค่ะ เล่นได้รอบเดียวเท่านั้น บัตรนี้ไม่รวม เมืองหิมะ ,โกคาร์ท,จักรยานน้ำ ,เรือบั๊ม , ปืนลม , และเกมชิงรางวัลต่างๆนะคะ วันที่เรามาเป็นวันเสาร์นะคะ ทางสวนสนุกจะมีโชว์พิเศษทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ให้เราดูด้วยนะคะ นั้นก็คือ โชว์ Hollywood Action เวลา 13:00 และ โชว์ The Colors of the World parade เวลา 15:00 ค่ะ วันนี้เราได้ดู Hollywood Action ด้วยค่ะ สนุกตื่นเต้นมากๆค่ะ เพื่อนๆคนไหนที่อยากเข้าเล่นอย่างอื่นที่บัตรไม่เข้าร่วมก็สามารถซื้อบัตรแยกได้นะคะ วันนี้เราได้เข้าเมืองหิมะ ไปคลายร้อนค่ะ ราคาบัตรแยก ผู้ใหญ่ 160บาท เด็ก 140 บาทค่ะ เราได้ย้อนวัยไปเป็นเด็กได้เล่นหลายที่มากๆ ได้กรี๊ดจนหายเครียดเลยค่ะ สนุกมากๆ เลยค่ะเพื่อนๆคนไหน อยากไปย้อนวัยแบบเรา ก็ลุยเลยค่ะ สนุกมันส์มากๆค่ะ แนะนำลองเล่นเครื่องเล่นที่ไม่เคยเล่นสักครั้งในชีวิตค่ะ ที่ ดรีมเวิลด์ มีจุดถ่ายรูปเยอะมากๆ มีของกินรองรับให้ทุกคนแน่นอนค่ะ จุใจคนหิวแน่นอนค่ะ และทาง ดรีมเวิลด์ ยังมีเกมชิงรางวัลต่างๆให้เราเลือกเล่นอีกมากมายเลยค่ะ เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ เป็นยังไงกันบ้างค่ะ กับการพาย้อนวัยไปเป็นเด็กอีกครั้งที่ ดรีมเวิลด์ (Dream World) เพื่อนๆคนไหนที่มีโอกาศ ก็อย่าลืมไปจองบัตรผ่าน Klook และย้อนวัยเด็กที่ดรีมเวิลด์ กันเยอะๆนะคะ ข้อมูล ดรีมเวิลด์ (Dream World) ที่ตั้ง : 63 หมู่ที่ 1 ถนน รังสิต-องครักษ์ ตำบล บึงยี่โถ อำเภอ ธัญบุรี จังหวัด ปทุมธานี เวลาเปิดบริการ : จันทร์-ศุกร์ 10:00-17:00 วันเสาร์ และอาทิตย์ 09:30 - 18:00 พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hn7rYHoV7whDTezn7?g_st=icเว็บไซต์ : https://www.facebook.com/dreamworldpark?mibextid=LQQJ4d ภาพถ่ายทั้งหมด โดย : gift_tanita กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Gift17 • 14 มี.ค. 66
อ่าน
รีวิว ที่พักพัทยา Arbour Hotel and Residence Pattaya จองโปรสุดคุ้มผ่าน Klook
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เพิ่งผ่านหยุดยาวปีใหม่มาไม่นาน สายเที่ยวอย่างเราก็เริ่มมองหาที่เที่ยวอีกแล้ว ทริปนี้เรามีโอกาสไปเที่ยวที่พัทยามาค่ะ และเลือกพักที่โรงแรม Arbour Hotel and Residence Pattaya ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา โรงแรมสวย ใหม่ ทำเลดี เดินทางสะดวก เลยจะมารีวิวเผื่อเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่พักพัทยา วิวสวย มุมถ่ายรูปปัง ไว้เป็นตัวเลือกเผื่อสนใจค่ะ และเช่นเคยเหมือนทุกทริปที่ผ่านมา เราเลือกจองที่พักผ่านแอป Klook เพราะ Klook เค้าเป็นแพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการทางการท่องเที่ยว ที่มักจะมีโปรโมชั่นราคาดีออกมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะจองเที่ยวบิน โรงแรม เช่ารถ หรือกิจกรรมต่างๆ จองง่าย สะดวก ครบจบไม่ต้องจองหลายแอปฯให้ยุ่งยากเลยค่ะ โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยใช้งานเราแนะนำลองโหลดมาใช้งานดูได้เลยค่ะ โดยใช้ได้ทั้งระบบ IOS และระบบ Android หรือว่าจะเลือกจองผ่าน Website ก็ได้ค่ะดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Android จองโรงแรม Arbour Hotel and Residence Pattaya ผ่าน Klook จองได้ ที่นี่ 1.เข้าแอปพลิเคชั่น Klook กดเลือกหัวข้อโรงแรมและที่พัก2.พิมชื่อโรงแรม อาร์เบอร์ โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ หรือกดที่นี่ อาร์เบอร์ โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ เลือกวันที่จะเข้าพัก3.เลือกประเภทห้องพัก และกด จองตอนนี้4.กรอกข้อมูลรายละเอียดการจองให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และหากใครมีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่น หรือเครดิตจาก Klook ก็สามารถระบุไปได้เลยก่อนการกดชำระเงินค่ะ เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นกด “ดำเนินการชำระเงิน” ก็เป็นอันเรียบร้อยรอรับอีเมลยืนยันการจองได้เลยโรงแรม Arbour Hotel and Residence Pattaya ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองพัทยา ตัวโรงแรมไม่ได้ติดทะเล แต่ก็มีวิว Rooftop สระว่ายน้ำสวยจึ้งมาทดแทน อาคารเป็นตึกดีไซน์เก๋ มีทั้งหมด 24 ชั้น มีที่จอดรถสำหรับแขกที่มาพักอยู่ซอยด้านข้างโรงแรม เมื่อเข้ามาจะเจอล๊อบบี้เช็คอินที่ตกแต่งโทนฟ้าขาว ระหว่างรอเช็คอินมีพนักงานเดินมาเสริฟ Welcome Drink เป็นพีชโซดา อร่อยชื่นใจมากมายจนอยากขอเบิ้ลอีกแก้วเลยค่ะ :)เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเช็คอินไม่นาน ก็ให้คีย์การ์ดพร้อมแจ้งรายละเอียดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโรงแรม และแจ้งเวลาอาหารเช้า ห้องพักของที่นี่มีหลายรูปแบบแต่มีอ่างอาบน้ำทุกห้อง ห้องที่เราจองมาเป็นห้องประเภท Deluxe Double Ocean View ค่ะ อยู่ชั้นที่ 20 ของโรงแรม ขนาดห้อง 35 ตร.ม. กว้างขวาง แบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยลงตัว ดูแล้วไม่อึดอัด ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่พิเศษคือมีเครื่องซักผ้าและเครื่องครัว ไมโครเวฟ จาน-ชามสำหรับทำอาหารเล็กๆ น้อยๆด้วยค่ะ เหมาะมากสำหรับการมา Long Stay ที่นี่ พื้นที่ห้องกว้างขวาง ไม่อัดอัด เตียงนอนจะเป็นขนาด King Size มีทีวีติดผนังอยู่ปลายเตียงนอนดูทีวีได้สบายชิลๆ เลยมุมห้องติดกับระเบียงจะมีโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน ส่วนระเบียงมีพื้นที่ให้อออกไปยืนรับลม ชมวิวเมืองพัทยาได้แบบสุดลูกหูลูกตา และมองเห็นทะเลอยู่ไกลๆ ที่ระเบียงมีปลูกต้นไม้ไว้ให้ความรู้สึกร่มรื่นมาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง เปิดประตูมาจะเจอกับอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำแยกโซนเปียกกับโซนแห้งชัดเจน ส่วนห้องอาบน้ำและห้องน้ำจะเปิด-ปิดด้วยประตูบานเลื่อนสไลด์บานเดียวกัน ไฮไลท์ที่เราชอบมาก คือกระจกกั้นห้องน้ำที่เป็นระบบ Privacy Glass สามารถปิดให้ทึบได้ หรือถ้าอยากแช่อ่างแล้วดูทีวีในห้องไปด้วยก็แค่เปิดสวิตช์ กระจกก็จะใส :Dใครสายแช่อ่างอย่าลืมเตรียม Bubble Bath มาด้วย แต่ถ้าไม่ได้พกมา ที่นี่เค้าก็มีบริการในราคา 250 บาทตีฟองกันจุกๆ ไปเลยค่ะ ไฮไลท์สระว่ายน้ำ และ Rooftop สุดปัง วิวสวยสะกดที่ชั้น 24ถึงแม้ที่นี่จะไม่ติดทะเล แต่ถ้าเจอ Rooftop วิวอลังการแบบนี้ ก็ยอมไม่เห็นทะเลค่ะ เค้าดีไซน์ตึกออกมาได้ดี มุมแสงที่สาดลงมาทั้งช่วงเช้าและบ่ายคือดีงามไปคนละแบบ โซน Rooftop Bar และโซนสระว่ายน้ำจะอยู่คนละฝั่ง จะมานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินชิลๆ ก็ให้ฟีลโรแมนติกดีค่ะ สระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระเกลือ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวเมืองและวิวทะเลอยู่ไกลๆ ช่วงเช้าพระอาทิตย์จะขึ้นตรงฝั่งสระว่ายน้ำ แนะนำให้ขึ้นมาสัก 7 โมงเช้าแสงกำลังสวย และคนไม่เยอะค่ะโซน Rooftop จะมีเครื่องดื่มจำหน่าย โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ในส่วนนี้แขกที่ไม่ได้พักในโรงแรมสามารถขึ้นมานั่งสั่งเครื่องดื่มที่นี่ได้ด้วยค่ะ มีที่นั่งส่วนของบาร์ และส่วนที่เค้าจำลองชายหาดขนาดย่อมมาไว้บนนี้ มีบีนแบ็กให้นั่ง มีร่มชาดหาดกาง ให้อารมณ์เหมือนนั่งชิลอยู่ริมหาด สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มจากบาร์มาทานตรงนี้ได้ค่ะจาก Rooftop ชั้น 24 เดินลงบันไดมาที่ชั้น 23 จะเป็นส่วนของฟิตเนส ,สปา และห้องอาหาร Fundamentals ที่ให้บริการทั้งอาหารเช้าจนถึงค่ำ รวมถึงเป็นคาเฟ่ที่มีขนมและกาแฟ วิวกระจกใสอลังการเห็นเมืองพัทยาแจ่มชัดเลยค่ะอาหารเช้าสุดปัง ที่ห้องอาหาร Fundamentalsอาหารเช้าของที่นี่จะเริ่มเวลา 07.00-10.00 น. โดยเราจะต้องเลือกว่าจะมาทานรอบไหน เพื่อลดการแออัด โดยจะเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าแบบ A La Carte ทำสดใหม่จานต่อจานค่ะ เราสามารถเลือกสั่งเมนูไหนก็ได้ทานได้ไม่จำกัดภายใน 1 ชม. นอกจากนี้ยังมีอาหารทานเล่นในไลน์บุฟเฟ่ต์ส่วนกลาง เช่น สลัดผัก เบเกอรี่ ขนมต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่ม ผลไม้ หยิบมาทานได้เลยส่วนตัวชอบการจัดการเรื่องอาหารเช้าของทีนี่มาก อาหารอร่อยทุกอย่างเลยค่ะสำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักพัทยา เดินทางสะดวก มี Rooftop สวยๆ ไว้ถ่ายรูป เราแนะนำที่ Arbour Hotel and Residence Pattaya เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง และคุ้มค่าเงินที่จ่ายแน่นอน แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ :)Facebook : Arbour Hotel and Residence Pattayaอัตราค่าห้องพัก : ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการจอง ณ ขณะนั้นพิกัด : 99/10 พัทยา อำเภอบางละมุง ชลบุรี หรือ Google Mapติดต่อสอบถาม : Line: @arbourpattayaเบอร์ติดต่อ : +66(0)38-195-600, +66(0)38-195-601 เครดิตภาพปกและภาพทุกภาพ : โดยผู้เขียน ตกแต่งภาพโดย canva นางแบบ :ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
28Sept • 28 ม.ค. 66
อ่าน
ล่องเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซสกรุงเทพ บุฟเฟ่ต์สุดหรู ชมวิวแม่น้ำ พลุปีใหม่ 2023 ดีลสุดคุ้มที่ Klook
ฮัลโหลทุกคน … สุดสัปดาห์นี้ใครที่ยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวไหน หรือไปดินเนอร์ที่ไหนให้โรแมนติก เราอยากจะชวนมาล่องเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซสสุดหรู มาชมบรรยากาศกรุงเทพมหานครในตอนกลางคืนที่สวยไปอีกแบบ รอบนี้เราจองไปกับ Klook แพ็กเกจสุดคุ้ม “แพ็กเกจล่องเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส” ซึ่งวิธีการจองก็ง่ายมาก เรามาดูวิธีการจองกันเลยขั้นตอนที่ 1 ให้เราเข้า www.Klook.com เลือกที่กิจกรรมและบริการต่างๆ ของทางเว็บไซต์ จากนั้นให้เราเลือก “แพ็กเกจล่องเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซสในกรุงเทพมหานคร” และกดจองตอนนี้ขั้นตอนที่ 2 ให้เราเลือกวัน เวลา จำนวนคนที่เราจะไปให้เรียบร้อย แนะนำว่าให้ดูวันและเวลาให้ดีๆ กันผิดพลาดค่ะ จากนั้นให้เรากด จองตอนนี้ ได้เลยขั้นตอนที่ 3 กรอกข้อมูลการจอง ชื่อผู้จอง เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลประเภทอาหาร อีเมลในการรับเอกสารการจองให้เรียบร้อยครบถ้วน จากนั้นให้กด “ดำเนินการชำระเงิน” จากนั้นถ้าเรามีส่วนลดเราสามารถใส่ได้ในหน้าถัดไป และกดดำเนินการจองได้เลยขั้นตอนที่ 4 หลังจากที่เราดำเนินการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เราสามารถดูรายละเอียดการจองได้ และทาง Klook จะส่งเอกสารการจองและรายละเอียดทั้งหมดให้ทางอีเมลที่เราได้กรอกเอาไว้ ก่อนที่เราจะไปขึ้นเรือ เราจะต้องไป check in ที่เรือเจ้าพระยาปริ๊นเซสก่อนนะคะ ซึ่งใน ICONSIAM จะมีบริษัทเรือหลายเจ้าเลย จะเริ่ม check in ในเวลาประมาณ 17.30 น.เป็นต้นไป ในส่วนนี้เราจะมารับ voucher เพื่อนำไปขึ้นเรือที่ท่า ICONSIAM เราได้ท่าเรือที่ 2 บริเวณหน้า ICONSIAM ตรงท่าเรือ มีการจัดเเสดงน้ำพุที่สวยงาม บรรยากาศดีมาก ระหว่างที่เรารอเรือ ทางบริษัทมีบริการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย น่ารักสุดๆ เมื่อเรือมาถึง ทุกคนต้องติดสติ๊กเกอร์ที่ทางบริษัทจัดเอาไว้ให้ และเดินขึ้น เรือของเจ้าพระยาปริ๊นเซส ใหญ่และกว้าง สามารถบรรทุกคนได้ประมาณ 492 คน เรือแบ่งเป็น 2 ชั้น อย่างเป็นระเบียบ ภายในเรือสะอาดมากๆ เราได้ชั้นที่ 2 ใกล้นักดนตรีเลย มองเห็นวิวได้อย่างชัดเจน เราสามารถเดินลงไปถ่ายที่หน้าเรือได้ เรือล่องไปจนถึงหน้าเอเชียทีค แล้ววนกลับ ลมดีมากๆ นักร้องก็ร้องเพลงเพราะ เราชอบมาก และที่คุ้มไปมากกว่านั้นเลย แพ็กเกจล่องเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ มีอาหารให้เราได้เลือกหลากหลายมาก รสชาติดีอร่อย เติมได้ไม่อั้น กินได้อย่างจุใจไปเลย ส่วนอาหารทะเล เราชอบทานกุ้ง ซึ่งกุ้งก็ตัวใหญ่มากๆ จิ้มกับน้ำจิ้มสุดแซ่บ ฟินสุดๆ อาหารรสชาติดีมาก และมีให้เลือกหลากหลายเลย ทั้งอาหารไทย แกง อาหารฝรั่ง ส่วนตัวชอบซุปเห็ด เพราะรสชาติลงตัว ไม่เลี่ยนจนเกินไป ส่วนอาหารไทยรสชาติกลางๆ ไม่เผ็ดไปหรือจืดจนเกินไป ทานได้ทุกคน อาหารโปรดเลย กุ้ง 🦐 ที่เราชอบเลย คือ ตัวใหญ่มาก ที่สำคัญคืออาหารทะเลของเขาสดจริงๆ เรากินแล้วไม่คาวเลย เอาใจไปเลย 🤩🤩🤩 และก็ตบท้ายด้วยผลไม้ และของหวานคือ ทับทิมกรอบ ที่รสชาติกำลังดี ไม่หวานไม่มันจนเกินไปและที่ทำให้เราประทับใจอีกอย่างเลย คือวิวกรุงเทพ บรรยากาศ ตอนกลางคืน ที่เราไม่เคยคิดว่าจะสวยขนาดนี้ช่วงปีใหม่นี้ ใครสนใจอยากพาครอบครัวไปล่องเรือ นั่งชมบรรยากาศชิลๆ ไฟสวย ๆ ตามข้างทางแม่น้ำเจ้าพระยาคลิกจองเลย แพ็กเกจล่องเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซสในกรุงเทพฯ ดีลดี ๆ จาก Klook คุ้มเว่อร์ เราอยากจะชวนทุกคนมาสัมผัส เพราะดีมาก 🥰 ผู้เขียนเรียบเรียงบาทความเองทั้งหมดผู้เขียนถ่ายรูปเองทั้งหมด หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
tw*****@hotmail.com • 28 ธ.ค. 65
อ่าน
รีวิว เที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน กิน เที่ยว พักจองดีลคุ้ม ๆ ผ่าน Klook
ปลายปีแบบนี้เชื่อว่า "เชียงใหม่" คงเป็นจังหวัดยอดฮิตของใครหลายคนที่ต้องการใช้เวลาวันหยุดยาวเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน วันนี้เราเลยจะมาแชร์ทริปเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน ให้เพื่อนๆ ไว้เป็นไอเดียจัดทริปเที่ยวรับลมหนาวที่เชียงใหม่กัน และในการเดินทางทุกครั้งเรามักจะเลือกวางแผนการเดินทางโดยมีตัวช่วยดีๆ อย่าง Klook แพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการทางการท่องเที่ยว ที่มีโปรโมชั่นราคาดีออกมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะจองเที่ยวบิน โรงแรม เช่ารถ หรือกิจกรรมต่างๆ จองง่าย สะดวก ครบจบไม่ต้องจองหลายแอปฯให้ยุ่งยาก วางแผนจองที่พัก-กิจกรรมกับโปรสุดคุ้มผ่าน Klookขั้นแรกเลยให้เพื่อนๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Klook มาก่อน โดยใช้ได้ทั้งระบบ IOS และระบบ Android เลย หรือว่าจะเลือกจองผ่าน Website ก็ได้ค่ะดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidหลังจากที่ดาวน์โหลดแอปทำการ Log In เข้าระบบให้เรียบร้อย โดยทริปนี้เราเลือกพักที่โรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ เพราะที่ตั้งโรงแรมอยู่ในทำเลดี ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากสนามบิน ขั้นตอนการจองก็ไม่ยากตามนี้เลย1.เข้าแอปพลิเคชั่น Klook กดเลือกหัวข้อโรงแรมและที่พัก 2.พิมชื่อโรงแรม U Nimman Chiang Mai หรือกดที่นี่ U Nimman Chiang Mai เลือกวันที่จะเข้าพัก3.เลือกประเภทห้องพัก และกด จองตอนนี้ 4.กรอกข้อมูลรายละเอียดการจองให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และหากใครมีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่น หรือเครดิตจาก Klook ก็สามารถระบุไปได้เลยก่อนการกดชำระเงินค่ะ เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นกด “ดำเนินการชำระเงิน” ก็เป็นอันเรียบร้อยรอรับอีเมลยืนยันการจองได้เลย และอีกหนึ่งกิจกรรมที่อยู่ในแพลนการเดินทางเที่ยวเชียงใหม่ในครั้งนี้คือ การไปลองใช้ชีวิตอยู่กับช้างครึ่งวันที่ ปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี ซึ่งที่นี่เค้าจะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสใกล้ชิดกับช้าง ไม่ใช่แค่การป้อนอาหาร ป้อนผลไม้ แต่เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งกิจกรรมดีๆแบบนี้ก็สามารถจองผ่านแอปพลิเคชั่น Klook ได้เช่นกัน ตามขั้นตอนดังนี้1.เข้าแอปพลิเคชั่น Klook กดเลือกหัวข้อ กิจกรรมและบริการ2.พิมชื่อ บัตรเข้าปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี 3.เลือกวันที่ทำกิจกรรม เลือก จองตอนนี้ จากนั้น สามารถระบุได้ว่าจะเลือกเป็นกิจกรรมแบบครึ่งวันเช้า หรือครึ่งวันบ่าย จากนั้นกด ถัดไป4.กรอกข้อมูลรายละเอียดการจองให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ชื่อโรงแรมที่เราพัก (รถจะมารับ-ส่งที่โรงแรม) หากใครมีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่น หรือเครดิตจาก Klook ก็สามารถระบุไปได้เลยก่อนการกดชำระเงินค่ะ เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นกด “ดำเนินการชำระเงิน” ก็เป็นอันเรียบร้อย รีวิวทริปเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน พร้อมแล้วออกเดินทางกันDay 1 เช็คอินโรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ เที่ยวสวนส้มเปาเปา ม่อนแจ่มโรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนนิมมาน ทำเลใจกลางเมืองเชียงใหม่ ศูนย์รวมแหล่งร้านอาหาร คาเฟ่ ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว อยู่ติดกับ One Nimman และห้าง Maya ซึ่งฝั่งตรงข้ามของโรงแรมก็คือ Think Park ที่มีโซนร้านอาหารอาหารและคาเฟ่จุดเช็คอินชิคๆ อยู่เพียบจุดเด่นของโรงแรมยู นิมมาน เชียงใหม่ นอกจากทำเลดีแล้ว ระบบเช็คอิน-เช็คเอาท์ ยังเป็นแบบแฟร์ๆ คือเช็คอินเวลาไหน ก็เช็คเอาต์เวลานั้นได้ เรียกว่าอยู่กันครบ 24 ชม.ไปเลย เหมาะมากสำหรับคนที่เดินทางกลับด้วยเครื่องบินและกลับไฟล์ดึก ก็ไม่ต้องรีบเช็คเอาต์นอนเล่นชิลๆ รอเวลาขึ้นเครื่องอยู่ในโรงแรมได้เลยเพราะอยู่ใกล้สนามบินแค่ 10 นาทีเท่านั้น ห้องพักที่เราจองมาวันนี้เป็นห้องแบบ Premium Deluxe Room อยู่ชั้น 3 ขนาดห้อง 36 ตรม. ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องกว้าง เตียงใหญ่ ทีวีติดผนัง มีโซฟากลมสำหรับนั่งพักผ่อน โต๊ะทำงาน ส่วนพื้นที่โซนห้องอาบน้ำ-ห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวแยกกันชัดเจน ไฮไลท์ของที่นี่คือ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 5 เพราะมองเห็นเห็นวิวเมืองและถนนนิมมานทั้ง 2 ด้าน บรรยากาศดีสุดๆ นี่ถ้าอากาศไม่หนาวคงได้ลงเล่นน้ำแน่ๆ แต่เนื่องจากตอนที่เราไปอุณภูมิประมาณสิบกว่าองศา เลยขอพักไว้ก่อนค่ะ หนาวไม่ไหว :Dมาต่อกันที่อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ หากไม่ลงมาทาน ก็สามารถแจ้งพนักงานจัดขึ้นไปเสิร์ฟให้ที่ห้องเวลาไหนก็ได้ค่ะ ไลน์อาหารมีให้เลือกทานหลากหลาย เบเกอรี่จัดมาให้แบบจุกๆ สะใจกันไปเลย สามารถเลือกนั่งทานได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoorหลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย จุดหมายของเราในวันนี้คือไปเที่ยวสวนส้มค่ะ ช่วงปลายปีแบบนี้เค้าว่ากันว่าจะเป็นฤดูกาลที่ส้มเชียงใหม่อร่อยที่สุด เราเลยบุกไปพิสูจน์ที่ สวนส้มเปาเปา ม่อนแจ่ม เลยว่าจริงมั้ย?สวนส้มเปาเปา ม่อนแจ่ม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที เรารีวิวแบบละเอียดเอาไว้ที่ รีวิว "สวนส้มเปาเปา" ไร่ส้มเชียงใหม่ เก็บส้มกินได้ ถ่ายรูปสวย หากใครสนใจสามารถกดลิ้งค์เข้าไปดูได้เลยค่ะDay 2 โปรแกรมทัวร์ปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี ชมบรรยากาศคลองแม่ข่ายามค่ำคืนอย่างที่เราเกริ่นไปตอนต้นว่า เราได้จองแพ็กเกจทัวร์ปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี แบบครึ่งวันผ่าน Klook มาแล้วซึ่งสะดวกมากๆ เจ้าหน้าที่ของปางช้างมารับที่โรงแรมตรงเวลาประมาณ 6.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางไปปางช้างที่อำเภอแม่วางประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ซึ่งแพ็กเกจทัวร์แบบครึ่งวันจะเริ่มตั้งแต่ 06:30-13:30 น.โดยประมาณ (มีบริการรถรับ-ส่งถึงโรงแรมฟรี)ปางช้าง เอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี ที่นี่เค้าเป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยช้างในปางจะเป็นช้างจากปางขี่ ปางโชว์ รวมถึงช้างแก่ที่ปลดระวางนำเข้ามาดูแล ซึ่งนอกจากศูนย์ที่เชียงใหม่แล้ว เค้ายังมีสาขาในพื้นที่อีก 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พัทยา และสมุยค่ะ เท่าที่เห็นไม่ค่อยมีคนไทยเข้ามาเที่ยวสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่ชื่นชอบสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยเราเป็นพิเศษโดยเมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่บรีฟข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี จากนั้นก็จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างทางร่างกายของช้าง และพฤติกรรมของช้างให้ฟังจากนั้นทางศูนย์ได้เตรียมชุดควาญช้างให้เราเปลี่ยน เพื่อไปทำกิจกรรมให้อาหารช้าง เล่นกับช้าง เรียนรู้กรรมวิธีทำวิตามินบำรุงร่างกายให้ช้าง ทำสปาในบ่อโคลน อาบน้ำให้ช้างในแม่น้ำ และจบด้วยการรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ก่อนกลับช่วงหนึ่งเจ้าหน้าที่พูดถึงการสังเกตสุขภาพของช้างให้สังเกตที่อึ และลองให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ทดลองหยิบอึช้างมาบี้ดู ถ้าอึเป็นก้อนและมีเส้นใยอาหารจากที่ช้างกินเข้าไป (ช้างกินผลไม้และหญ้าเป็นหลัก) ก็แสดงว่าลำไส้ยังปกติดี สุขภาพแข็งแรงอยู่ค่ะ และนี่เป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรกของเราในการสัมผัสอึช้างอย่างใกล้ชิด มันก็ไม่น่าแหวะอย่างที่คิดนะคะ :Dส่วนตัวเราประทับใจกับกิจกรรมที่นี่มาก เพราะถือเป็นครั้งแรกเลยที่เราได้ใกล้ชิดกับช้างมากขนาดนี้ ได้ลองปั้นวิตามินบอลซึ่งมีส่วนผสมของหญ้าและพรีไบโอติกที่ดีต่อระบบลำไส้ช้าง แล้วเอาไปป้อนถึงปาก มันดีต่อใจจริงๆ ใครอยากเปิดประสบการณ์แบบเรา ก็จองกิจกรรมดีๆ แบบนี้ได้ที่ Klook เลย!! หลังจากกลับมาจากปางช้าง ช่วงเย็นเราก็แวะไป คลองแม่ข่า จุดเช็คอินน้องใหม่ยอดฮิตของเชียงใหม่ อยู่แถวถนนช้างคลาน ซึ่งเดินทางสะดวกและไม่ไกลจากตัวเมือง คลองแม่ข่า เป็นคลองโบราณสายหนึ่งของเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีการปรับปรุงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอิน ถ่ายรูป เป็นถนนคนเดินที่มีของกินให้เลือกมากมาย พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/WHUyL5hpD3caFHht7ที่ตั้ง : คลองแม่ข่า ถนนระแกง ต. ช้างคลาน อ. เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ Day 3 จิบกาแฟกลางป่าที่บ้านธารชีวี ไหว้พระวัดถ้ำเชียงดาว นอนพักที่ ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาวเราเช็คเอาต์ออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อเดินทางต่อ โปรแกรมวันนี้จะพักค้างคืนที่เชียงดาว ระหว่างทางแวะจิบกาแฟที่คาเฟ่ “บ้านธารชีวี” 𝗧𝗔𝗥𝗡𝗖𝗛𝗘𝗩𝗘𝗘 ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แมะ ที่นี่เป็นทั้งโฮมสเตย์และคาเฟ่ บรรยากาศเงียบสงบ ได้ยินเสียงน้ำไหลจากลำธารตลอดเวลา เหมาะกับการมาพักผ่อนชิลๆ ช่วงที่เราไปอากาศค่อนข้างหนาวสิบกว่าองศา น้ำในลำธารเย็นเจี๊ยบ บ้านธารชีวี Tarnchevee :: แม่แมะ เชียงดาว เชียงใหม่พิกัด : บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่GPS : https://goo.gl/maps/4CHmmfKsydRxqS2a7โทร : 099 414 4265พิกัดต่อไปคือ วัดถ้ำเชียงดาว ซึ่งจะอยู่ที่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาวเลย ภายในวัดมี ถ้ำเชียงดาว ที่มีทั้งหินงอกหินย้อยสวยงามซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าถ้ำคนละ 40 บาท บริเวณหน้าถ้ำจะมีน้ำจากในถ้ำไหลออกมาตลอดเวลาจนเกิดเป็นสระน้ำใส บรรยากาศเงียบสงบ เย็นใจไปหมดเลย GPS ถ้ำหลวงเชียงดาว : https://goo.gl/maps/TaUJNJEZdqDZWrJg8 ขับรถมาต่อมาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่พักของเราคืนนี้ ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาว โดยเราจองที่พักล่วงหน้าผ่าน Facebook ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาว ในราคาคนละ 750 บาท/คืน รวมอาหารมื้อเย็นและเช้า เลือกนอนแบบบ้านเป็นหลังค่ะ ซึ่งทีนี่เค้าก็มีทั้งแบบบ้านเป็นหลังและแบบเต๊นให้บริการด้วยถนนระหว่างการเดินทางขึ้นมาที่นี่ค่อนข้างแคบ เวลารถสวนมาต้องชะลอ ใช้ความระมัดระวังในการขับค่อนข้างมาก แต่ไม่ค่อยชันมากเท่าไหร่ค่ะอากาศข้างบนหนาวมาก ช่วงที่เราไปอุณภูมิราวๆ 12 องศา ที่พักไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ต้องเตรียมไปเอง เป็นโฮมสเตย์แบบบ้านๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า แต่มีไฟจากโซลาร์เซล์ให้แสงสว่างอยู่นะคะ และไม่มีปลั๊กไฟ ชาร์ตแบตไม่ได้ดังนั้นเตรียมพาวเวอร์แบงค์ไปให้พร้อมค่ะ โฮมสเตย์บนดอยหลวงนี้เจ้าของเป็นเครือญาติกันหมด และถึงแม้เราไม่ได้พักที่นี่ แต่สามารถเดินไปถ่ายรูป อุดหนุนร้านกาแฟ ร้านชาของที่พักนั้นๆได้ ซึ่งก็มีหลายที่ ตั้งอยู่ติดๆกันเลยค่ะ Day 4 ถ่ายรูปกับถนนเส้นทาง ทช.ชม. 3024 สวนสนแม่แตง เดินทางกลับวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราอยู่เชียงใหม่ ขากลับลงมาจากเชียงดาว แวะถ่ายรูปบนถนนเส้นทาง ทช.ชม. 3024 หรือถนนเส้นทางชนบทเชียงใหม่ ถนนเส้นนี้มีต้นยางนายักษ์ที่สูงชะลูดเรียงกันไปตลอดทางเส้นถนนที่คดเคี้ยว ใครที่มาเชียงดาวห้ามพลาด แต่ต้องระวังรถหน่อยนะคะ เพราะเป็นทางสัญจรที่มีรถวิ่งอยู่ตลอดเวลา ขากลับระหว่างทางแวะเที่ยวถ่ายรูปเล่นที่ สวนสนแม่แตง เป็นสวนผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้สนสองใบ มีต้นสนสูงใหญ่เรียงรายเป็นแถว คนนิยมมาถ่ายรูป เช็คอิน บรรยากาศที่ร่มรื่น มุมถ่ายรูปเยอะ อากาศเย็นสบาย โดยมีหุ่นน้องกวางน้อยตัวนี้รอต้อนรับเพื่อนๆอยู่ด้านหน้าเลยที่จอดรถ : มีบริเวณพื้นที่จอดรถพิกัด : สวนผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้สนสองใบ ทางหลวงหมายเลข107 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่GPS : https://goo.gl/maps/iJy3W8G4XdMNippK9หวังว่าโปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืนจะเป็นประโยชน์ เป็นไอเดียให้เพื่อนๆวางแผนทริปไปเที่ยวเชียงใหม่หนาวนี้กันนะคะ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่า ^^ เครดิตภาพทุกภาพโดย: ผู้เขียนนางแบบในภาพ :ผู้เขียน แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”
28Sept • 28 ธ.ค. 65
อ่าน
พาเที่ยว ดรีมเวิลด์ (Dream World) เวอร์ชั่นอัพเดต 2022 จองบัตรพร้อมรับโปรโมชั่นสุดคุ้มจาก Klook
ไหนใครคิดถึงการไปเที่ยวสนุกบ้าง เราคนนึงที่ไม่ได้มาเที่ยวสวนสนุกนานมากๆ แล้วตอนนี้สวนสนุกดรีมเวิลด์ได้เปิดทำการอีกครั้งแล้ว เลยอยากพาทุกคนมาชมสวนสนุก Dream World แบบฉบับอัพเดต 2022 ว่ามีเครื่องเล่นอะไรน่าสนใจ จุดถ่ายรูปมุมไหนสวยๆปังๆก่อนจะไปชมบรรยากาศก็ต้องทำการซื้อบัตรกันก่อนเลย เราก็ได้ทำการจองบัตรแบบออนไลน์ผ่าน Klook ที่สำคัญได้บัตรแบบ VIP ไม่ต้องไปต่อแถวรอซื้อบัตรเข้าสวนสนุก แถมมีโปรโมชั่นส่วนลดอีกด้วยพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-*โค้ดส่วนลดหมดเขต 31 ธ.ค. 65 วิธีการจองบัตรสวนสนุก Dream World แบบสุดพิเศษผ่านเว็บ/แอปพลิเคชั่น Klookเข้ามาที่เว็บ : https://www.klook.com/th/activity/363-dream-world-bangkok/ทำการเลือกประเภทของบัตร ของเราเลือก [แพ็กเกจคอมโบ] บัตรดรีมเวิลด์วีซ่า + บัตรเข้าบ้านหิมะ และวันที่ที่ต้องการจะเข้าชมเลือกจำนวนคน โดยหน้านี้จะแสดงราคาบัตร หน้านี้จะบอกราคาของบัตรแต่ละชนิดด้วยและเป็นราคาที่ลดจากราคาปกติแล้วเรียบร้อย ส่วนด้านขวามือจะมีรายละเอียดแพ็กเกจ รวมถึงวิธีการเดินทางไปยังสวนสนุกอีกด้วยกรอกข้อมูลส่วนตัวของเรา (สามารถใส่รหัสโปรโมชั่นได้ที่ขั้นตอนนี้)ชำระเงิน โดยสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้เลยเพียงเท่านี้การซื้อบัตรก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นเราจะได้รับไฟล์ QR Code เพื่อนำมาสแกนรับบัตรเข้าสวนสนุก โดยยื่น QR Code ให้กับเจ้าหน้าที่สแกน ง่ายๆแบบนี้เลย ไม่ต้องต่อคิวรอนานเลย VIP สุดๆ ในการรับบัตรเราจะต้องเข้าไปที่ห้องประชาสัมพันธ์ของสวนสนุกนะคะสวนสนุก Dream World อัพเดต 2022หลังจากที่เราได้รับสายรัดข้อมือแล้วก็มาลุยกันเลย ได้เวลาทัวร์สวนสนุก Dream World แบบฉบับอัพเดตปี 2022 จะมีอะไรบ้าง สิ่งแรกพอเราเดินเข้ามาก็จะเจอกับเจ้าลูกโลกกลมๆ ให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกัน และระหว่างทางเดินก็จะมีสวนที่ตกแต่งเป็นรูปหัวใจน่ารักเต็มไปหมด เดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับอ่างน้ำขนาดใหญ่โดยจะมีป้ายบอกสถานที่ให้เรา ว่าทางซ้ายหรือทางขวามีอะไรบ้างเราเดินเลี้ยวมาทางขวาก็จะเจอกับเครื่องเล่นแรกเลยก็คือ Water Fun สนามเล่นน้ำขนาดใหญ่ ให้เด็กๆได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นมากมาย ทั้งสไลด์เดอร์ อุโมงค์น้ำ และก็มีถังเก็บน้ำขนาดยักษ์คอยเทน้ำลงมา สีสันก็สดใสน่าเข้าไปเล่นมากเดินมาอีกหน่อยก็จะเจอกับจุดถ่ายรูป Photopia เป็นดินแดนมหัศจรรย์สุดน่ารัก มีทั้ง บ้านฮอบบิท, ปราสาทอัศวิน, บ้านขนมสีสันสดใส และมุมดอกไม้ที่ให้เราได้ถ่ายรูป เดินเข้ามามุมนี้แล้วรู้สึกเหมือนกับเราหลุดไปอยู่อีกโลกนึงเลย ทุกอย่างสวยงามไปหมดเดินมาอีกหน่อยก็จะเจอกับบ้านยักษ์ บริเวณด้านหน้ามีต้นทานตะวันเรียงรายกันเต็มไปหมด และมีจุดให้เราสามารถยืนตรงกลางของสวนดอกทานตะวันด้วยใครหิวๆ ก็สามารถแวะหาอะไรรองท้องที่ร้านอาหาร ก่อนที่จะไปถึงเครื่องเล่นถัดไปได้เลยเครื่องเล่นในดวงใจ Sky Coaster สนุกมากๆ ความเสียวให้ 7/10 เหมือนเราลอยอยู่ในอากาศ ตอนไปอยู่ด้านบน เราสามารถมองเห็นทั้งสวนสนุกเลยต่อมากับ Hurricane เครื่องเล่นนี้ก็หวาดเสียว เหมือนเราได้ตีลังกาอยู่กลางอากาศ หมุนไปหมุนมาบนความสูงกว่า 20 เมตรวิหคสายฟ้าหรือ Thunder Bird เหมือนจะเป็นเครื่องเล่นไม่น่ากลัว แต่จริงๆแล้วก็แอบหวาดเสียวอยู่นะ เดินมาอีกก็จะเจอกับเครื่องเล่น Grand Canyon เครื่องเล่นอันนี้เปียก อย่าลืมใส่เสื้อกันฝนด้วยนะ และสนุกมาก สามารถนั่งไปกับเพื่อนๆแบบเป็นแก๊งได้เลยมาถึงไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ต้องเป็น Tornado ความเสียวเอาไปเลย 10/10 สนุกมาก เหมือนหัวเราจะชี้ลงมาที่พื้นเลย ตัวเราก็ถูกแก่วงไปแกว่งมาในอากาศ เคว้งคว้างสุดๆ ตอนลงมาก็เดินเซกันไปถ้วนหน้าสุดท้ายมากันที่ เมืองหิมะ ขอมาพักจากเครื่องเล่นหวาดเสียงต่าง บัตรที่เราซื้อมาสามารถเข้าเมืองหิมะได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น ด้านในอากาศในนี้หนาวมาก อุณหภูมิอยู่ที่ -5 องศา แนะนำว่าให้ใส่กางเกงขายาวมาเพราะจุดนี้มีบริการให้แค่ถุงเท้า เสื้อโค้ท และรองเท้าบูทให้ยืม ในนี้มีหิมะด้วยนะและจุดถ่ายรูปน่ารักกับน้องหมี กวาง และบ้านหิมะเต็มไปหมดเลย และยังมีให้เราได้เล่นสไลด์เดอร์หิมะอีกด้วยใครอยากล่าของรางวัล ก็จะมีซุ้มให้เล่นเกมส์ ปาลูกโป่ง ยิงเป้าฯลฯ ให้เราได้เล่นกันไปตลอดทางเลย แต่ตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายด้วยนะขบวนพาเหรดจะมีทุกๆ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 15.00 น. แล้วก็สามารถมาถ่ายรูปกับมาสคอตได้เลย และในบริเวณรอบสวนสนุกก็จะมีโซนให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะมากฝากคลิปวิดีโอความสนุกของพวกเราด้วยนะคะบรรยากาศโดยรวมของสวนสนุกตอนนี้ก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง ในการรอคิวเล่นเครื่องเล่นต้องรอเครื่องละประมาณ 20-30 นาทีหรือบางเครื่องเล่นก็สามารถเข้าไปเล่นได้เลย ส่วนการบริการก็ดีมาก พนักงานให้การต้อนรับและดูแลเราอย่างดีเลย การเดินทางมายังสวนสนุก Dream World สามารถเดินทางมาได้โดยรถบัส นั่งรถประจำทางสาย ปอ.538 (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ -ดอนเมือง - สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี) หรือสาย 523 (หมอชิต - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) หรือนำรถยนต์ส่วนตัวมาเอง แล้วก็อย่าลืมจองบัตรเข้าสวนสนุกผ่าน Klook ด้วยนะคะ สวนสนุก Dream Worldที่อยู่: 62 หมู่ 1 ถนนรังสิต-องครักษ์ (กม.7) ตำบลบึงยี่โถ จังหวัดปทุมธานี 12130เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10.00 น. - 17.00 น. (18.00 น. ของวันเสาร์-อาทิตย์)ราคา : [แพ็กเกจคอมโบ] บัตรดรีมเวิลด์วีซ่า + บัตรเข้าบ้านหิมะ ราคา 586 บาท (จาก 740 บาท)โทร : 02 577 8666 พิกัด : Facebook : https://www.facebook.com/journeyyymeYouTube : Journeyyy-meบทความ True ID : https://creators.trueid.net/@Journeyyymeภาพถ่ายและภาพหน้าจอโดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Journeyyyme • 8 ธ.ค. 65
อ่าน
เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ดีลดีย์ สุดคุ้ม ที่พักเลิศ กิจกรรมมันส์ๆ ไปกับ Klook
ใกล้สิ้นปีทั้งที หลายคนคงอยากให้รางวัลตัวเองที่ทำงานมาอย่างหนักด้วยการไปเที่ยวภูเขาสวยๆ ที่พักดีย์ๆ พร้อมกิจกรรมสุดมันส์กันที่ "เชียงใหม่" ด้วยงบไม่แรง เราขอแนะนำการจองดีลดีย์ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น "Klook (คลูก)" ทั้งที่พัก รถเช่า กิจกรรมต่างๆ ครบจบในแอปเดียว ที่เรามีโอกาสได้จองจึงขออาสามาแนะนำและรีวิวเพื่อให้เพื่อนๆ ได้มีข้อมูลก่อนจะไป…โดยแอปพลิเคชั่น Klook เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มที่รวบรวมที่พัก รถเช่า กิจกรรม และอื่นๆ อีกมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคัดสรรจากทั่วทั้งโลกเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้ไปยังในสถานที่ต่างๆ ตามความต้องการอย่างง่ายดายและไร้ขีดกำกัด ให้เราได้ท่องเที่ยวได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว (ดาวน์โหลด IOS , Andriod) พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-*โค้ดส่วนลดหมดเขต 31 ธ.ค. 65 การจองที่พักเชียงใหม่ไหนๆ เราก็จะไปเที่ยวเชียงใหม่ทั้งที ก็ต้องมีการเตรียมพร้อมทริปกันสักเล็กน้อย เริ่มจากการจองที่พักเชียงใหม่ ระรินจินดา เวลล์เนส สปา รีสอร์ท (RarinJinda Wellness Spa Resort) ผ่านแอป Klook ก็ได้ส่วนลดปังๆ จองง่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนไม่กี่วิธีดังนี้1.เข้าไปที่แอปพลิเคชั่น Klook หรือ https://bit.ly/3AvSvZP และ เลือกโรงแรมและที่พัก2.เลือกจุดหมายปลายทางที่เราจะไป ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ แอ๋วเชียงใหม่3.เลือกจำนวนห้องพักและผู้เข้าพัก4.เลือกวันที่เช็คอินและเช็คเอาท์สามารถเช็คราคาจากปฎิทินได้เลย5.กดค้นหา6.เลือกที่พักไปที่ ระรินจินดา เวลล์เนส สปา รีสอร์ท 7.เลือกห้องพักที่เราต้องการและกรอกข้อมูลผู้เข้าพัก8.กดจองตรงนี้และอ่านรายละเอียดการเข้าที่พัก หากใครมีรหัสส่วนลดโปรโมชั่นสามารถใช้ได้ในขั้นตอนนี้9.กดดำเนินการชำระเงินและจะมีอีเมลส่งมายืนยัน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะการจองรถเช่าเชียงใหม่มีที่พักแล้วเราก็ต้องมีรถเช่ากันสักหน่อย เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ แถมยังได้ไปเที่ยวหลายๆ ที่อีกด้วยและยังคุมงบการเดินทางไม่ให้บานปลาย ให้ทุกๆ การเดินทางของเราเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่จองผ่าน Klook ดังนี้1.เข้าไปที่แอปพลิเคชั่น Klook และเลือกรถเช่าและรถรับส่ง2.ระบุสถานที่รับรถและคืนรถ (รถเช่าเชียงใหม่) เลือกวันและเวลา3.กดเลือกรถที่ต้องการ4.ตรวจสอบข้อมูลการรับและคืนรถ พร้อมกรอกข้อมูลส่วนตัวและกดถัดไป5.กดดำเนินการชำระเงิน ซึ่งเราสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้ตอนนี้ หลังจากชำระเงินแล้วก็เป็นอันสิ้นสุดการจองกิจกรรมที่เชียงใหม่ภายในแอปพลิเคชั่นก็มีกิจกรรมมากมายในเชียงใหม่ให้เราได้เลือกพร้อมทั้ง "โปรโมชั่นสุดคุ้มเมื่อจองผ่าน Klook" เราจึงเลือกจองกิจกรรมมันส์ๆ พร้อมเพิ่มความตื่นเต้นที่มาเชียงใหม่แล้วไม่ควรพลาดกันที่ "โป่งแยง จังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์" ได้ดีลราคาถูกกว่าหน้างานประหยัดสุด ๆ เพียงจองง่ายๆ ดังนี้1.เข้าไปที่แอปพลิเคชั่น Klook และเลือกกิจกรรมและบริการ2.เลือกสถานที่ที่เราต้องการทำกิจกรรม ซึ่งเราเลือกเป็นที่โป่งแยง จังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์3.จากนั้นเลือกกิจกรรมที่เราต้องที่จะทำและกดจองตรงนี้4.เลือกวันและจำนวนคน 5.กด "ชำระเงินและดำเนินการ" เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วหากใครมีส่วนลดหรือโค้ดโปรโมชั่นก็สามารถกรอกลงในช่อง "รหัสโปรโมชั่น" และกด "แลก" จากนั้นราคาก็จะลดลงไปอีก จากราคาถูกแล้วก็ถูกอีก ประหยัดหลายต่อมากๆ เลยDAY 1เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตื่นเต้นมากค่ะ นี่ถือเป็นทริปใหญ่สิ้นปีก่อนเริ่มปีใหม่ ได้นั่งมองวิวเมืองจากด้านบนและก้อนเมฆบนเครื่องบินได้สักพักก็ถึงสนามบินเชียงใหม่แล้วค่ะ เมื่อมาถึงสนามบินเชียงใหม่เราก็โทรหารถเช่าที่เราจองผ่านแอป Klook ได้เลยค่ะ เราเลือกให้มาส่งรถที่สนามบินเชียงใหม่และส่งรถคืนที่สนามบินก่อนกลับได้เลยค่ะ สะดวกสบายสุดๆเมื่อได้รถแล้วเราก็เดินทางไปที่พัก "ระรินจินดา เวลล์เนส สปา รีสอร์ท (RarinJinda Wellness Spa Resort)" ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์กับพนักงานโดยเรากดเข้าไปที่ "ดูเวาเชอร์" ที่แอปKlook จากนั้นนำให้พนักงานดูเท่านี้ก็สามารถเข้าพักได้แล้วค่ะ "ระรินจินดา เวลล์เนส สปา รีสอร์ท (RarinJinda Wellness Spa Resort)" เป็นรีสอร์ทที่มีความหรูหราและบรรยากาศดีย์ ติดริมแม่น้ำปิง มีสปาระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ใกล้กับสนามบินเชียงใหม่และสถานที่ยอดฮิตหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น ประตูท่าแพ ถนนคนเดินเชียงใหม่ เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ ตลาดวโรรสและอื่นๆ อีกมากมาย"ระรินจินดา" มีการตกแต่งที่หรูหราท่ามกลางกลิ่นอายของความย้อนยุคบ้านไม้เก่าแก่ผสมสผสานความเป็นโมเดิร์น สไตล์ไทยร่วมสมัย มีสระว่ายน้ำกลางรีสอร์ท ต้นไม้ล้อมๆ รีสอร์ท ให้ความร่มรื่นถือเป็นช่วงเวลาแห่งการได้พักผ่อนที่แท้จริงห้องพักก็มีให้เราเลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Deluxe, Deluxe Pool Access และ Wellness Suite ที่ห้องพักหรูหรา พื้นกว้างขวาง เหมาะแก่การมาพักผ่อนกับครอบครัว คนรัก เพื่อน ให้เราได้ดื่มด่ำกับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่โดยเราได้เลือกเป็นห้อง Deluxe Pool Access ที่มาพร้อมแพ็กเกจอาหารเช้าริมแม่น้ำปิงที่ Deck One และสปาแบบ Hydro pool ที่จองผ่าน Klook ที่ได้ดีลมาในราคาสุดคุ้มในตัวห้อง Deluxe Pool Access มีอ่างอาบน้ำในตัวที่สามารถเชื่อมกับตัวห้องนอนได้ ริมระเบียงวิวสระน้ำกลางรีสอร์ท และมีที่โซฟานั่งพักผ่อนภายในห้องพักในยามเช้านั่งทานอาหารริมแม่น้ำปิงที่ Deck One ที่มีอาหารหลากหลายสไตล์ให้เราได้เลือกสรรไม่ว่าจะเป็นเซตอาหารเช้าอินโดจีน ราเมง เคบับไก่ สลัด น้ำผลไม้สกัดและโกโก้เย็น และแพ็กเกจสปาแบบ Hydro pool หรือวารีบำบัด เป็นสระสปาไฮโดรพูลน้ำอุ่นทั้ง 8 ฐานครบตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ใช้น้ำพ่นสำหรับสปาวารีบำบัด มีคุณประโยชน์ต่อการหมุนเวียนของเลือดในร่างกายและยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้ออีกด้วยข้อมูลสถานที่ ระรินจินดา เวลล์เนส สปา รีสอร์ทที่อยู่สถานที่: ถนนเจริญรัตน์ 14 ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50000พิกัด : https://goo.gl/maps/9DRcaNmasBzNdHQb7เวลา : เช็คอิน12:00 , เช็คเอาท์14:00โทร : 053-303030ราคา : เริ่มต้น 3,500 บาทที่จอดรถ : มี Line : @Rarinjinda หรือคลิก https://lin.ee/KdneUNgFacbook : RarinJinda Wellness Spa and Resortมาเชียงใหม่ทั้งทีก็ต้องมากินมาลองกินข้าวซอยกันที่ "ร้านข้าวซอยนิมมาน" เจ้าเด็ดเจ้าดังในเชียงใหม่ที่ใครมาแล้วไม่ควรพลาดเพราะการันตีด้วยรางวัลมิชลิน 2 ปีซ้อน ตั้งอยู่ในซอยนิมมานเหมินทร์ ตัวเมืองเชียงใหม่ห่างจากตัวเมืองเพียง 4 กิโลเมตร จุดเด่นของข้าวซอยนิมมานคือเป็นเส้นที่ทำกันสด ๆ มีทั้งเส้นนุ่มและเส้นกรอบ พร้อมทั้งการผสมผสานที่ไม่ได้มีแค่ข้าวซอยไก่หรือเนื้อ แต่ยังมีจำพวก ทะเล หมูทอดและอื่นๆ ให้เราได้ลิ้มลองต้นฉบับกันที่นี่ รสชาติมีความกลมกล่อม ที่ลงตัวของเส้น เครื่องเคียงและเนื้อสัตว์ ราคาเริ่มต้น 90 บาท ใครมาเชียงใหม่ก็อย่าลืมแวะกันนะข้อมูลสถานที่ ข้าวซอยนิมมานที่อยู่สถานที่: 22 ถนน นิมมานเหมินท์ ซอย 7 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200พิกัด : https://g.page/KAOSOYNIMMANSOI7?shareเวลา : เปิดปิด 11.00น. - 20.00น.โทร : 053 894 881ราคา : เริ่มต้น 90 บาทที่จอดรถ : มี Facbook : ข้าวซอยนิมมานมาเยือนเชียงใหม่ทั้งทีก็ต้องมากราบไหว้ขอพรวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ยาวนานหลายร้อยปีกันที่ "วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร" พระอารามหลวง เป็นอีกหนึ่งวัดที่สายบุญไม่ควรพลาด โดยวัดนี้ห่างจากตัวเมือง 20 กว่ากิโลเมตร โดยมีเจดีย์ทรงเชียงแสงสีทองอร่ามตรงอยู่กลางวัด เป็นวัดที่มีความสำคัญกับจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา วิจิตรศิลป์บรรจงอย่างงดงาม โดยทางเดินขึ้นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูนใครที่มาเยือนเชียงใหม่ก็ต้องมากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลข้อมูลสถานที่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารที่อยู่สถานที่: 9 หมู่ที่ 9 อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200พิกัด : https://goo.gl/maps/jrTwoVQR8QMbXVEB8เวลา : 06.00น.-20.00น. (เปิดทุกวัน)ราคา : นั่งรถแดงไปกลับ 100 บาทหรือขับรถขึ้นไปเองได้ที่จอดรถ : มี Facbook : วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร Doi SuthepDAY 2กิจกรรมมันส์สุดเหวี่ยง เปิดประสบการณ์ความท้าทาย เพิ่มความตื่นเต้นให้กับตัวเองกันที่ "โป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์และซิปไลน์" (Pongyang Jungle Coaster Zipline) ตั้งอยู่อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ ที่เราได้จองผ่าน Klool ราคาสุดคุ้มถูกกว่าหน้างานไปอีก เมื่อถึงแล้วเราก็ยื่น "เวาเชอร์"ในแอปพลิเคชั่นให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ดู จากนั้นก็จะได้รับเหรียญและสายรัดข้อมือตามกิจกรรมที่เราจองมาได้เลย โป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์และซิปไลน์ เป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างหลากหลายให้เราได้เลือกลองเปิดประสบการณ์ให้กับตัวเองถึง 5 ฐาน แต่เราของลองสัก 2 ฐาน ฮ่าฮ่า โดยกิจกรรมที่เราเลือกเริ่มจากแบบชิลล์ก่อนคือ 1. Jungle Bike เป็นการปั่นจักรยานบนเชือกสลิงทั้งไปและกลับ ต้องอาศัยความเร็วในการปั่นและการทรงตัวเล็กน้อย ส่วนเรานั้นรีบปั่นเลยรีบถึง ฮ่าฮ่าส่วนกิจกรรมที่สองเพิ่มความโหด มันส์ เสียวขึ้นมาหน่อยกับ 2.Jungle Coastor ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ ให้ฟิลแบบรถไฟเหาะ ความเร็วที่เราสามารถควบคุมเองได้ ระยะทาง 800 เมตร เส้นทางคดโค้งผ่านป่า ต้นไม้ น้ำตก บรรยากาศดีมากๆ หลังจากเล่นเครื่องเล่นแล้ว ใครอยากจะนั่งพักที่นี่เขาก็มีร้านคาเฟ่ ที่บรรยากาศดีเย็นสบายให้เราได้นั่งชมวิวกันสักหน่อย ส่วนอีก 3 กิจกรรมเราขอพักยกก่อนนะครั้งหน้ามาใหม่จะมาเล่นแน่นอน ฮ่าฮ่าข้อมูลสถานที่ โป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์และซิปไลน์ที่อยู่สถานที่: ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่พิกัด : https://goo.gl/maps/6Ua8fya82q7ymKoLAเวลา : จันทร์ - ศุกร์ 08:30 - 17:00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 08:30 - 17:30 น.โทร : 0944249691ราคา : กิจกรรมเริ่มต้น 150 บาทที่จอดรถ : มี Facbook : Pongyang Jungle Coaster Zipline CampResortเดินทางต่ออีกนิดเพียง 3 กิโลเมตร ก็สามารถขึ้นไปชมสวนดอกไม้บน "ม่อนแจ่ม" ที่เราเองใช้คำว่า สวย ได้เปลืองมากกับที่นี่ มีวิวภูเขาแบบอลังการงานสร้าง สวยแบบภาพวาด สวยแบบตะโกน นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้กลางหุบเขาให้เราได้ไปถ่ายรูป เช็คอินกัน ค่าเข้าคนละ 40 บาท มีพร็อบตะกร้า ร่ม ดอกไม้ ให้เราได้สวยในทุ่งดอกไม้หรือใครอยากจะลองใส่ชุดมุ้งถ่ายรูปที่นี่เขาก็มีให้เช่า 50 บาท เรามาทั้งทีก็ต้องจัดสักหน่อยเพิ่มน่ารักให้กับตัวเองข้อมูลสถานที่ ม่อนแจ่มที่อยู่สถานที่: ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่พิกัด : https://goo.gl/maps/WAaMfFNgi2z7JTD78เวลา : 07.00น. - 20.00น. (เปิดทุกวัน)ราคา : ค่าเข้าชมดอกไม้ 20 บาท , ค่าเช่าชุดมุ้ง 50 บาทที่จอดรถ : ค่าจอดยนต์ 30 บาท , มอเตอร์ไซต์ฟรีDAY 3 ก่อนกลับเราก็มาแวะแลนด์มาร์คของจังหวัดเชียงใหม่ที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูป เช็คอิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า "เฮามาแอ๋วเชียงใหม่แล้วก๋า" กันที่ "ประตูท่าแพ" และถ่ายรูปกับเจ้านกพิราบสวยสักหน่อยประตูท่าแพ เป็น 1 ใน 5 ของประตูเมืองชั้นในของเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันเป็นเพียงประตูเดียวที่มีบานประตูหลงเหลือให้เราได้ชม นอกจากนี้สามารถชมวิวภูเขาผ่านประตูได้อีกด้วยค่ะ รอบๆ ประตูก็มีร้านอาหารมากมายให้เราได้เลือกชิมกัน ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ต้องมาถ่ายรูปกับเจ้านกพิราบตอนบิน บริเวณนั้นจะมีคนขายอาหารนกและไล่นกให้บินตอนเราถ่ายรูป ค่าอาหารนก 20 บาท ค่าไล่นกก็แล้วแต่จะให้ค่ะข้อมูลสถานที่ ประตูท่าแพที่อยู่สถานที่: ถนนท่าแพ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่พิกัด : https://goo.gl/maps/xntgUsTBa9Hvvwq48เวลา : เปิดตลอดเวลาราคา : ค่าอาหารนก 20 บาทที่จอดรถ : มี เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับทริปดีย์ๆ ดีลสุดคุ้มกับ Klook ที่ให้เราได้ท่องเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนแบบจุกๆ มันส์ๆ สะดวกสบาย ราคาไม่แรง พร้อมทั้งส่วนลดและโปรโมชั่นเจ๋งๆ หวังว่าเพื่อนๆ จะชื่นชอบและประทับใจกับแอปพลิเคชั่น Klook และทริปเชียงใหม่ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าเน้อจ้าววว... ***หมายเหตุ***ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดอ่านรายละเอียดก่อนไป ภาพทั้งหมดโดย "ไอรดาพาไปไหน"#Klook #จองทริปกับKlook #จองกับKlook #เที่ยวเชียงใหม่ #ระรินจินดา เวลล์เนส สปา รีสอร์ท #ข้าวซอยนิมมาน #พระธาตุดอยสุเทพ #โป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์และซิปไลน์ #ม่อนแจ่ม #ประตูท่าแพ #ไอรดาพาไปไหน 🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”
ไอรดาพาไปไหน • 22 พ.ย. 65
อ่าน
พาชมวิว ตึกมหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon SkyWalk) กรุงเทพฯ จองง่ายๆ ผ่าน Klook พร้อมโปรโมชั่นเลิศๆ
สวัสดีค่ะทุกคน เรามีที่เที่ยวสนุกๆในกรุงเทพฯ มาแนะนำ ไม่ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนหรือแฟนก็ได้หมดเลย ก็คือที่นี่ "ตึกมหานคร" (Mahanakhon SkyWalk) เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ว้าวมากๆเพราะแค่ตึกก็มีการดีไซน์ที่หรูหราและโดดเด่นไม่เหมือนใครแล้ว ภายในตึกนั้นก็จะมีกิจกรรมสนุกๆมากมายให้เราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ใครกำลังมองหาบัตรเข้าชมราคาดี ส่วนลดปังๆ สามารถจองผ่านทางแอป "Klook" ได้เลยโดยแอป 'Klook' เป็นแอปที่รวบรวมกิจกรรมท่องเที่ยวไว้มากมายทั้งในและต่างประเทศ แถมยังมีโปรโมชั่นดีๆมากมาย ทั้งส่วนลดและสิทธิพิเศษ วิธีการเข้าไปจองผ่านทางแอปก็ง่ายและสะดวกมากๆ สามารถเข้าไปจองผ่านทางเว็บไซต์หรือผ่านแอปพลิเคชั่น 'Klook' โดยเลือกกิจกรรมที่เราสนใจ ทำการจอง และชำระผ่านทางแอปได้เลย ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้เราได้จองบัตรเข้าชมผ่านทางแอปพลิเคชั่น Klook ขั้นตอนด้านล่างจะเป็นวิธีการจองบัตรเข้าชม เพื่อนๆสามารถทำตามได้เลยค่ะดาวน์โหลดตามลิงก์นี้ IOS , Andriodพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-ขั้นตอนการจองกิจกรรม Mahanakhon SkyWalk ผ่านแอป Klookขั้นตอนการจองก็ง่ายแถมยังสะดวกมากๆ โดยทำตามขั้นตอนนี้ได้เลยเข้าไปที่แอป Klook แล้วเลือก “กิจกรรมและการบริการ”เลื่อนไปที่กิจกรรม "บัตรเข้าชม มหานคร สกายวอร์ค" จากนั้นเลื่อนลงมาเพื่อทำการเลือกแพ็กเกจต่อไปเลือกแพ็กเกจบัตรเข้าชมแบบ "ผู้ใหญ่ เด็ก หรือ ผู้สูงอายุ" ซึ่งราคาแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันออกไปเลือกวันที่ต้องการเข้าชม โดยสามารถเช็คราคาจากปฏิทินได้เลยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมตามประเภทของบัตรที่เราต้องการตรงเมนูนี้เลยกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนตอนรับบัตรเข้าชม สามารถกรอกรหัสโปรโมชั่นได้ที่ขั้นตอนนี้ และทำการกดจองได้เลยกดชำระเงิน แต่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยชมตึกมหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon SkyWalk) กรุงเทพฯเราเดินทางกันมาด้วย MRT โดยมาลงที่สถานีสีลม หรือ BTS สถานีช่องนนทรีได้เลย พอออกมาจากสถานีก็สามารถเดินผ่านทางเชื่อมเข้าสู่อาคารเพื่อมายัง ตึกมหานครได้เลย พอเรามาถึงก็เพียงแค่เปิด QR Code ที่เราจองผ่านทางแอป Klook ให้พนักงานพร้อมกับยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนแค่นี้ก็ได้บัตรเข้าชมมาแล้วทุกคน เป็นขั้นตอนที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากๆ แถมตอนนี้ยังมี Voucher ส่วนลดอีก 1,000 บาทแจกให้ด้วย คุ้มสุดๆไปเลยเมื่อเราได้บัตรมาแล้วก็ต่อแถวเพื่อที่จะขึ้นลิฟต์ได้เลย แต่ก่อนเข้าไปจะมีการสแกนอุปกรณ์ต่างๆเพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคนนะคะ ไม่ต้องตกใจไป เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอกับ Digital Wall ก่อนที่เราจะขึ้นลิฟต์กัน แต่ละจุดก็จะมีพนักงานคอยบอกทางตลอดไม่ต้องกลัวหลงเลยชั้นที่ 1 จะมีจุดไฮไลท์คือ มหานคร สกายไรด์ เป็นเครื่องเล่น VR ที่จะพาเราโลดเล่นไปบนท้องฟ้าพาชมวิวกรุงเทพฯ แบบเสมือนจริง โดยที่เราสามารถควบคุมการบินเองได้ด้วย ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเสมือนจริงมาก ส่วนนี้จะมาค่าบริการแยกอยู่ที่ 250 บาท/คน/ครั้งจุดเด่นที่นี่ก็จะเป็นลิฟต์มัลติมีเดียตัวนี้เลย (ภาพตรงกลาง) โดยผนังรอบลิฟต์จะมีมีเดียให้เราได้ชมภาพวิวกรุงเทพฯขณะที่เรากำลังขึ้นลิฟต์ ดูแล้วเพลินมากๆเลย ได้เห็นวิวแม่น้ำ อาคารบ้านเรือนเสมือนเราเป็นนกบินไปรอบเมืองกรุงเทพฯเลย และลิฟต์ที่มีความเร็วมากๆใช้เวลาเพียงแค่ 50 วินาทีก็พาเรามาถึงยังชั้น 74 แล้วชั้น 74 จะเป็นจุดชมวิวรอบอาคารแบบ 360 องศา และก็จะมีมุมถ่ายรูปมากมาย โดยบริเวณพื้นก็จะมีดีเทลเล็กๆเป็นแผนที่เมืองกรุงเทพฯ บริเวณทางที่เราจะขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้น 75 ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกและตู้โปสการ์ดด้วยชั้น 75 จะมีลิฟต์ที่ชื่อว่า Hydraulic Glass เป็นลิฟต์กระจกใสที่จะพาเราไปยังชั้น 78 นั่นเอง หรือเราสามารถเดินขึ้นไปโดยใชับันไดรอบๆลิฟต์กิจกรรมไฮไลท์ต้องที่ ชั้น 78 มาถึงเราก็จะเจอกันร้านอาหารและคาเฟ่ SkyBeach ที่มาในธีมสีเหลืองสดใส มีที่นั่งให้เราเลือกมากมาย นั่งทานขนมไปด้วยมองวิวรอบกรุงเทพไปด้วย เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอกับ พื้นกระจกลอยฟ้า ที่มีความสูงถึง 310 เมตร สำหรับใครที่ชอบความตื่นเต้นก็สามารถเข้าไปยืนบนกระจกได้ เราเข้าไปยืนได้สักครู่เดียวเท่านั้นก็ถึงกับยอมแพ้เพราะสูงมากจริงๆ ใจหวิวเลยทีเดียว ที่สำคัญอย่าลืมใส่ถุงหุ้มรองเท้าที่พนักงานแจกให้ด้วยนะ ส่วนบริเวณนี้เราไม่สามารถนำโทรศัพท์และกล้องถ่ายรูปเข้าไปได้เพื่อความปลอดภัยนะคะ แต่เราสามารถถ่ายรูปได้จากจุดที่กำหนดไว้เท่านั้นบนชั้นดาดฟ้าก็มีมุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปเต็มไปหมด หากใครมาช่วงกลางวันแนะนำให้ให้เตรียมแว่นกันแดดมาด้วย เพราะอากาศค่อนข้างร้อน ส่วนที่นั่งก็มีเพียงพอให้สำหรับทุกคนได้นั่งพัก ส่วนแสงก็ดีมากๆ รับรองถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาดูดีอย่างแน่นอน มองไปรอบๆก็จะเห็นแต่วิวกรุงเทพฯ มองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาเลยสามารถเข้าไปชมวิดีโอ พาชม มหานครสกายวอร์ค ได้เลย ถ้าชอบก็ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะสุดท้ายกิจกรรมนี้คุ้มมาก ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ของการไปเที่ยวที่มีทั้งกิจกรรมสุดหวาดเสียวและได้เห็นวิวกรุงเทพแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแบบ 360 องศา แถมยังได้ขึ้นลิฟต์ที่มีความอลังการและรวดเร็วสุดๆ ที่ดีไปกว่านั้นก็คือการจองบัตรกิจกรรมในครั้งนี้ผ่านแอป Klook ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน และไม่ต้องกังวลว่าบัตรจะหมดรึป่าวด้วย วันหยุดนี้ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนก็เชิญมาทำกิจกรรมสนุกๆแบบนี้ที่นี่เลยค่ะที่อยู่: คิง เพาเวอร์ มหานคร 114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10.00 น. - 00.00 น.โทร: 02 677 8721พิกัด: Facebook : https://www.facebook.com/journeyyymeYouTube : Journeyyy-meบทความ True ID : https://creators.trueid.net/@Journeyyymeภาพถ่ายและภาพหน้าจอโดยผู้เขียนอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี!
Journeyyyme • 11 พ.ย. 65
อ่าน
รีวิวที่พักสวยภูเก็ต Dewa Phuket ตะลุยกินร้านอร่อย จองดีลคุ้มสุดปัง ผ่าน Klook
เคยมั้ยทำงานจนหัวฟู แล้วอยากมีฟีลไปนั่งโง่ๆริมทะเล ... ใช่ค่ะ เมื่อใจมันเซ ทะเลคือจุดหมายเหมือนเพลงที่เค้าร้องจริงๆ ทริปนี้เราวางแผนการเดินทางไว้ 3 วัน 2 คืน เป้าหมายคืออยากไปพักผ่อน เปลี่ยนที่นอน สูดอากาศดีๆริมทะเล แล้วก็หาของกินอร่อยๆ ที่ภูเก็ต และแน่นอนเมื่อชีวิตได้รู้จักกับ Klook ก็พบว่าการวางแผนท่องเที่ยวมันง่ายขึ้นมากๆ เพราะเค้าเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับจองกิจกรรมท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบิน โรงแรม เช่ารถ หรือกิจกรรมต่างๆ ได้ง่าย สะดวก ครบจบในที่เดียว แถมยังชอบจัดโปรปังๆ อยู่บ่อยๆ เรียกว่าครบจบในแอปเดียวเลยค่ะ ซึ่งพอลองใช้บริการแล้วประทับใจมาก เพราะได้ราคาคุ้มสุด ๆขั้นแรกเลยให้เพื่อนๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Klook มาก่อน โดยใช้ได้ทั้งระบบ IOS และระบบ Android เลย หรือว่าจะเลือกจองผ่านเวปไซต์ก็ได้ค่ะ ดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidหรือบน Website หลังจากที่ดาวน์โหลดมาเรียบร้อยแล้ว ทำการ Log In เข้าระบบใช้งาน จากนั้นจะเข้ามาที่หน้าหลัก เราสามารถเลือกจองกิจกรรมที่ต้องการได้เลย ซึ่งในทริปภูเก็ตนี้ เราจองทั้งสายการบิน โรงแรม และรถเช่า เรียกว่าจองทุกอย่างได้ครบจบภายใน Klook แอปเดียว ตอบโจทย์ชีวิตเรามากๆค่ะพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-อันดับแรกเลยคือต้องวางแผนจองที่พักก่อน โจทย์ที่พักตลอด 3 วัน 2 คืนที่ภูเก็ตของเราคือ ใกล้หาด ใกล้สนามบิน แล้วก็เข้าเมืองได้สะดวก และที่นี่คือคำตอบ Dewa Phuket Resort Villas จะเข้าเมืองภูเก็ตก็ใกล้ หรือจะไปเที่ยวพังงาก็ไม่ไกลจนเกินไป รีสอร์ทใกล้หาดในยางที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับการมาทิ้งตัวเอื่อยๆ นอนมองทะเล พักกายพักใจมากๆเลย ว่าแล้วก็ทำรายการจองโรงแรมได้ตามขั้นตอนนี้ได้เลย หรือว่าจะกดจองผ่านหน้าเวปไซต์ที่ลิ้งค์นี้ก็ได้ 📌 ทางไปจองที่ Klook : Dewa Phuket Resort Villas ที่นี่อยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียงแค่ไม่กี่นาที ตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบนั่งรถนานๆแบบเราที่สุด ทำเลที่ตั้งอยู่ริมหาดในยาง ติดกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถเพียงแค่ถนนกั้นค่ะ บรรยากาศร่มรื่นบรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวสูงเหมาะสำหรับการพักผ่อนที่แท้จริง แถมราคาก็ไม่แรงจนเกินไป ถ้าเทียบกับทำเลที่ตั้งของโรงแรม ที่แค่เดินไม่กี่ก้าวก็เจอชายหาดแล้วโดยสำหรับห้องพักที่นี่เค้าจะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนพูล วิลล่า และโซนห้องพักดีลักซ์ ซึ่งมีห้องพักให้เลือกถึง 4 แบบค่ะ คือ ห้อง Deluxe และ ห้อง Deluxe Garden ขนาด 38 ตร.ม., Pool Villa ขนาด 70 ตร.ม. ซึ่งทริปนี้เราเลือกพักเป็นห้องพักแบบ One-Bedroom Suite พร้อมอาหารเช้า จำนวน 2 คืน ราคา 6,709 บาท ค่ะ ซึ่งถ้าเทียบราคาแล้วจองผ่าน Klook ได้ราคาถูกกว่าจองผ่านเคาน์เตอร์ค่ะบรรยากาศของที่นี่จะตกแต่งสไตล์บูติกรีสอร์ท เน้นโทนสีฟ้าโทนสว่าง กว้างขวาง และร่มรื่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสปา พื้นที่สำหรับทานอาหาร และมีคาเฟ่อยู่ติดริมหาดในยางเลยค่ะมาดูบรรยากาศภายในห้องพักกันค่ะ ห้องค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่ใช้สอยแยกเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว มีส่วนห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน และส่วนครัวทำอาหารได้ มีอุปกรณ์ทำครัวให้ มีทีวี 2 เครื่อง คือในห้องนอน และห้องนั่งเล่น มีระเบียงด้านนอกสำหรับนั่งทานอาหารวิวสวนด้วยมีฟิตเนสและส่วนสปาให้บริการ สระว่ายน้ำที่นี่จะมี 2 จุด คือโซนติดกับล๊อบบี้ของโรงแรม และโซนห้องพัก สระว่ายน้ำกว้างขวางดีค่ะอาหารเช้าที่นี่ บริการแบบบุปเฟ่ต์ ไลน์อาหารไม่เยอะเท่าไหร่ เป็นเมนูอาหารเช้าแบบปกติ และมีโซนที่เป็นอาหารพื้นเมืองของภูเก็ต เช่น ขนมจีนน้ำยาต่างๆ ,หมี่ผัดฮกเกี้ยน จุดเด่นที่เราชอบที่นี่คือ ความสงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ พนักงานอัธยาศัยดี อีกอย่างคือที่ทำเลที่ตั้งของโรงแรม ถ้าอากาศดีฟ้าเปิดจะสามารถดูพระอาทิตย์ตกจากหน้าหาดในยางได้เลย แต่เสียดายวันที่เราไปพัก เป็นช่วงที่ภูเก็ตฝนตกแทบจะทั้งวัน ทั้งคืน ฟ้าปิด เลยอดดูพระอาทิตย์ตกสวยๆเลย ส่วนด้านข้างของโรงแรมสามารถข้ามถนน ผ่านป่าสนทะเล เดินลงหาดในยางได้เลย สะดวกมากๆโดยรวมแล้วเราประทับใจที่นี่นะ ทั้งทำเลที่ตั้ง บรรยากาศ ราคาสมเหตุสมผล ยิ่งจองผ่าน Klook ได้ส่วนลดคุ้มสุด แถมยังอยู่ติดหาดในยาง และใกล้สนามบินมาก เป็นอีกหนึ่งที่พักในภูเก็ตที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ และอย่างที่บอกทริปนี้ เรามีโอกาสใช้บริการจองรถเช่าภูเก็ตผ่าน Klook มีรถเช่าหลายเจ้าให้เลือก ราคาสุดพิเศษ ซึ่งพอเดินทางไปถึงสนามบินภูเก็ต ก็ไปติดต่อเคาเตอร์รถเช่าภายในสนามบินและรับรถได้เลย สะดวกรวดเร็ว รถใหม่ น้ำมันเต็มถัง คืนรถก็ง่ายไม่ยุ่งยาก พนักงานบริการดี เลิศสุด📌 ทางไปจองรถเช่าที่ Klook : บริการรถเช่าและเนื่องจากไฟลท์บินที่เราจองเป็นไฟลท์เช้า มื้อแรกของภูเก็ตจึงขอไปจัดขนมจีนเจ้าดังของภูเก็ตร้าน ขนมจีนสะพานหิน ร้านที่ว่าใครไปภูเก็ตต้องห้ามพลาด ร้านใหญ่อยู่ข้าง ๆ วงเวียนสะพานหิน มีขนมจีนหลายน้ำแกง ทั้งน้ำยาปู น้ำยา น้ำพริก แกงเนื้อ แกงไตปลา น้ำยาป่า เขียวหวาน มีเครื่องเคียงไก่ทอด ห่อหมก ทอดมัน ผักเติมได้ไม่อั้น ราคาเริ่มต้นจานละ 40 บาทเท่านั้นเพจ : ขนมจีนสะพานหินเปิดทุกวัน 08:30-19:00น.พิกัด : สะพานหิน ภูเก็ต (ตรงวงเวียนหอย)ตาม Google map : https://g.page/KanomChinSaphanHin?share ของคาวจบแล้วต่อด้วยของหวานกัน ที่ร้าน Pornthip Oldtown - พรทิพย์ โอลด์ทาวน์ คาเฟ่ขนมหวานพื้นเมืองภูเก็ตในซอยรมณีย์ เมนูของหวานดั้งเดิมของคนภูเก็ตหลายคนน่าจะเคยได้ยิน โอ๊ะเอ๊ว ส่วนอีกเมนูที่อยากแนะนำเลยคือ บิโกหมอย ใช่ค่ะ พิมไม่ได้ผิด เมนูนี้ชื่อ บิโกหมอย คนต่างถิ่นแบบเราฟังก็แปลกหูน่าดู ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มาดูหน้าตากันบีโกหมอย ที่แท้เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน คำว่า บีโก แปลว่า ข้าวเหนียวดำ ส่วนคำว่า หมอย แปลว่า ต้ม บีโกหมอยเลยแปลว่า ข้าวเหนียวดำต้ม หรือ #ข้าวเหนียวดำเปียก นั่นเอง กินเป็นของหวานแบบฟิวชั่นคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น มะม่วง ลำไย พุดดิ้ง ไอติมรสชาติข้าวเหนียวดำ ราดน้ำกะทิ เค็ม นัวๆ กินกับมะม่วงสุกรสเปรี้ยวหวาน เข้ากันได้ดีเลย มาเที่ยวภูเก็ตต้องมาลองเลย นอกจากนี้บริเวณชั้น 2 ของร้านยังจัดมุมถ่ายรูปไว้ด้านนอกระเบียงเห็นวิวซอยรมณีย์ด้วย สายถ่ายภาพต้องไม่พลาดร้าน : Pornthip Phuket ของฝากภูเก็ตพิกัด : ย่านเมืองเก่าถนนถลาง (ร้านตั้งอยู่ในซอยรมณีย์)เวลา : เปิดทุกวัน 09:00 - 18:30 น.วันเสาร์ปิด 20:00 น. วันอาทิตย์ปิด 22:00 น.ร้านลับที่ไม่อยากให้พลาดอีกร้านคือ ร้านสังกะสี ร้านดังที่คนพื้นถิ่นรู้กันดีถึงความอร่อย ไม่เน้นบรรยากาศแต่รสชาติเกินราคา หากเพื่อนๆไปภูเก็ตแล้วกำลังมองหาร้านอร่อย ราคาไม่แรง แนะนำที่นี่เลย ปริมาณเยอะและราคาถูก เมนูเด็ดที่ห้ามพลาด เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบ แกงส้มปลากะพงต้นตำรับภูเก็ตแท้ๆ ปลาทอดขมิ้นชิ้นโต เราสั่งไป 4 อย่าง ปริมาณอาหารเสริฟมาจานใหญ่ เบ็ดเสร็จมื้อนี้อยู่ที่ 575 บาทเท่านั้น ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับร้านอาหารในเมืองท่องเที่ยว ร้าน สังกะสี (sangkasi)เปิด 09:00 - 21:00 น. ( ปิดวันจันทร์ )ถนนเยาวราช , ภูเก็ต( ร้านจะตั้งอยู่ถนนเยาวราช เยื้องโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต )เบอร์โทร 076-216662ที่จอดรถ(จอดข้างทาง) เครดิตภาพทุกภาพ : โดยผู้เขียนนางแบบในภาพ :ผู้เขียนเองจ้าอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
28Sept • 24 ต.ค. 65
อ่าน
พาเที่ยวสวนสัตว์ Safari World ซื้อโปรสุดคุ้มที่ Klook วันหยุดในกรุงเทพ
สวัสดีค่ะ วันนี้ Nuiizthewriter จะอาสาพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวสถานที่ใกล้ชิดกับสัตว์ป่าแสนน่ารักอย่าง ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ซื้อโปรสุดคุ้มที่ Klook นอกจากจะได้จุด Check In ถ่ายรูปสวย ๆ เที่ยวชมสัตว์ป่าน่ารัก ๆ ได้อย่างใกล้ชิดแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายในสวนสัตว์แห่งนี้ เราจะมาแนะนำโปรเที่ยวเด็ด ๆ สุดคุ้มต้อนรับฤดูหนาว กับ Klook รับรองถูกใจ Concept "เที่ยวดี + ราคาถูก" อย่างเรา ๆ แน่นอน เอาล่ะ ตามมาดูพร้อมกันเลย (ปล. ลายแทงอยู่ท้ายบทความนี้อย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนน้า...)พาเที่ยวสวนสัตว์ Safari World ซื้อโปรสุดคุ้มที่ Klook วันหยุดในกรุงเทพเอาหล่ะค่ะ เมื่อเราทำการจองผ่าน แอป Klook เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่เราไปถึงสวนสัตว์ ให้เราเดินไปแลกรับบัตรที่อาคารสมาชิก ฯ ได้เลย เท่านี้เราก็พร้อมเข้าไปผจญภัยกันแล้วล่ะค่ะพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-สำหรับ Safari World นั้น สวนสัตว์แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่โซน Marine Park ที่มีทั้งสัตว์นานาชนิดทั่วโลก และโชว์สุดยิ่งใหญ่ตระการตาโซน Safari Park เป็นโซนสวนสัตว์เปิด (ใครมีรถยนต์สามารถเข้าไปได้แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) ซึ่งเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสกับสัตว์ป่ากันแบบใกล้ชิด และเราสามารถเที่ยวชมทั้งสองโซนนี้ได้ตลอดทั้งวัน แต่แนะนำว่าบริหารเวลาดี ๆ นะคะ บอกเลย...เราเริ่มต้นกันที่โซน Marine Park ก่อน ทันทีหลังจากเดินผ่านประตูเข้าไป จะพบกับ นกแก้วมาคอร์ (Macaw) สีสันสดใสหลายสิบตัวที่ส่งเสียงต้อนรับอย่างกับ Concert เลยล่ะประตูทางเข้าโซน มารีนปาร์ค (Marine Park)Jungle Walkสงครามจารกรรม (Spy War)เรามุ่งไปยังจุดแสดงที่ชื่อว่า สงครามจารกรรม (Spy War) ซึ่งเป็นการแสดงชุดแรกที่เราได้รับชม บอกเลยว่าตื่นเต้นมาก ๆ ปิดหูหลบเสียงระเบิดแทบไม่ทัน หันไปมองไม่เฉพาะพวกเรา แต่รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้าชมพร้อมกันกันส่งเสียงฮือฮากันเลยทีเดียวศูนย์เพาะพันธุ์ไข่ (Eggs World)หลังจากชมการแสดงเสร็จ เราเดินไปต่อที่ ศูนย์เพาะพันธุ์ไข่ (Eggs World) ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวงจรวิวัฒนาการ และการเจริญเติบโตของสัตว์ปีก ตั้งแต่ปฏิสนธิในไข่ฟองเล็กไปจนถึงออกจากไข่ และถ้าโชคดีจะเห็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานผ่านห้องกระจกแบบใกล้ชิดกันอีกด้วยวอลรัส (Walrus)ถัดมาก็เป็นโซน วอลรัส (Walrus) ความพิเศษของที่นี่ คือ ทาง Safari World เป็นที่แรกที่สามารถให้กำเนิดลูกวอลรัสตัวแรกของอาเซียน ซึ่งน้องมีชื่อว่า น้อง New Normal มาอวดโฉมให้พวกเราได้ดูกันด้วย แต่ที่จะสร้างเสียงหัวเราะคือตัวพ่อชอบโชว์การว่ายน้ำหล่อนั่นแหละ 555https://vt.tiktok.com/ZSRqwJhM1/จากนั้นเราใช้วิธีเดินไปตามจุดต่าง ๆ ที่สนใจ เช่น ศาลาเลี้ยงยีราฟ (Giraffe) ที่มียีราฟให้ชมและป้อนอาหารมากกว่า 200 ตัว ซึ่งไม่ผิดจากที่พูดเลย ทั้งนี้ โปรดระวังน้ำลายน้องด้วยนะ อิอิ ตามด้วยเดินย้อนมาดูน้อง อูฐ (Camel) และไปดูน้อนจิงโจ้ใจเกเรโชว์กล้ามให้สาว ๆ ได้หวั่นไหวที่โซน Camp Kangaroo เป็นต้นสวนแฟนซีปลาคาร์ฟ (Fancy Carp Garden) จุดพักเหนี่อยของเราแล้วแวะทานอาหารกันต่อที่ร้าน Animal Cafe ซาฟารีเวิลด์ (Safari World)พอเดินจนแบตหมดแล้ว กินพลังงานพวกเราไปเยอะพอสมควรเลย เพื่อไม่ให้เป็นลมกันไปก่อน เราจึงแวะพักเติมพลังกันที่ ร้าน Animal Cafe คาเฟ่ สุดฮอตประจำสวนสัตว์แห่งนี้ ที่มีเมนูน่ารัก ๆ ให้เลือกสั่งมากมายเมนูอาหารและขนมหวานที่ร้าน Animal Cafeเราเลือกสั่ง ข้าวแกงกะหรี่รูปโลมา ซึ่งรสชาตินั้นถือว่าไม่จัดจ้านเกินไป ตบท้ายด้วยของหวาน เป็น ซอฟท์เสิร์ฟม้าลาย ที่น่าหยิบมาถ่ายรูปเป็นที่สุด ถ้าใครอยากกิน Burger เนื้อเสือ (ล้อเล่น 55+) แวะ Tiger Burger ได้เลย...โชว์โลมา (Dolphin Show) รอบเวลา 13.30 น.หลังจากกินข้าวจนอิ่มหนำแล้ว เราไปชมการแสดงโลมาต่อ (Dolphin Show) ยอมรับเลยว่าทึ่งกับความสามารถของนักแสดงและโลมาที่ผสานกันได้อย่างไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเป็นการขี่โลมา หรือการกระโดดหมุนตัวตามคำสั่งครูฝึก ซึ่งสามารถเรียกเสียงปรบมือและเสียงเฮจากผู้ชมได้มากเลยทีเดียว ก่อนไปขอแชะรูปกับน้อนซะหน่อย...Adventure Island แหล่งรวมเครื่องเล่นสนุก เช่น Croco Bingo, Monkey Ball, Steal the fish, Fruity dart เป็นต้นCowboy Stunt Show เป็นโชว์สุดท้ายที่เราได้ชมในโซน มารีน ปาร์ค (Marine Park) ก่อนจะไปตะลุยโซน ซาฟารี ปาร์ค (Safari Park) กันค่ะLet' Go Safari Parkหลังจากเต็มอิ่มในโซน Marine Park แล้ว เราจึงเดินออกมาซื้อตั๋วขึ้นรถมินิบัส เพื่อเข้าชมโซน Safari Park ในราคาคนละ 80 บาท เพราะเราไม่ได้นำรถยนต์ส่วนตัวไป ส่วนใครที่อยากจะกลับเข้าโซน Marine Park อีกรอบ อย่าลืมปั๊มแขนกับเจ้าหน้าที่ก่อนออกจากโซนกันด้วยนะ เผื่อใครจะวกเข้าไปเก็บตกภาพสวย ๆ ตลอดเส้นทางระหว่างที่นั่งชม Safari Park ในช่วงแรก ๆ เราจะเห็นสัตว์ป่าแอฟริกา (Africa) มากมาย เช่น ม้าลาย แรด นก ยีราฟ และกวาง หลากหลายสายพันธุ์สัตว์ที่นี่ใช้ชีวิตกัน Chill ไม่ค่อยตื่นคนเลยเข้ามาแล้วอย่างแรกที่เจอเยอะสุด ๆ ก็คือ น้องนกขายาวพวกนี้ค่ะ ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไรเหมือนกัน แต่มีเยอะมาก ๆ ทั้งบนพื้นและบนต้นไม้เลย...โซนสัตว์ดุร้าย สิงโต เสือโคร่ง และหมีสักพักเราจะเข้าสู่โซนสัตว์อันตรายค่ะ เข้ามาก็เจอกลุ่มสิงโตเจ้าป่ากันก่อนเลย คิดว่าต้องดูดุร้ายแน่ ๆ แต่กลายเป็นว่าได้มาดูน้อง ๆ นอนกลิ้งเอกขเนก เล่นกันอยู่ ถัดมาอีกหน่อยเป็นน้องเสือ ซึ่งก็ไม่ต่างกันค่ะ ส่วนมากไปนอนหลบแดดกันอยู่ใต้เงาร่มไม้ เพราะตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ แล้วสำหรับใครอยากใกล้ชิดกับเจ้าเสือโคร่งให้มากยิ่งขึ้น ทาง Safari World เค้ามีกิจกรรม Feeding Show ตั้งแต่เวลา 09:45 น. เราจะได้มีโอกาสให้อาหารนักล่าแห่งพงไพรแบบใกล้ชิดจนแทบจะหยุดหายใจกันไปเลยนะ แต่เราไม่เอาละหนึ่ง 555ถือเป็นจุดที่ตื่นเต้นที่สุดของการผจญภัยครั้งนี้นอกจากที่ถ่ายมาก็ยังมีสัตว์อีกหลายพันธุ์เลยล่ะค่ะที่เราจะได้เจอแบบเดินเข้ามาหารถใกล้ ๆ เช่น หมี ควายป่า กวาง นกกระจอกเทศ และอีกมากมาย ใครมาซาฟารีเวิลด์แล้วไม่ได้เข้าซาฟารีพาร์คถือว่ามาไม่ถึงเลยล่ะค่ะ ส่วนใครอยากไปเที่ยวแบบเรา สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนผจญภัยในป่าแอฟริกาจริง ๆ ไม่ต้องซื้อตั๋วไปไหนไกล แอฟริกาก็มาตั้งอยู่ใกล้ ๆ บ้านเรานี่เอง จองผ่าน Klook ได้เลย ไปดูลายแทงกันค่ะ...รีวิว ขั้นตอน วิธีการจอง บัตรเข้าชมสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ซื้อโปรสุดคุ้มที่ KlookHow to booking on Klook บัตรเข้า ฯ นั้น มีช่องทาง ดังนี้เว็บไซต์ www.klook.com/th/แอปพลิเคชัน Klook สามารถ Download Application ได้ที่นี่ สำหรับ Android : Play Store, IOS : Apple Store เข้าสู่ขั้นตอน และวิธีการจอง ผ่านเว็บไซต์ www.klook.com/th/ กันเลยค่ะ1. เมื่อคลิกเข้าสู่เว็บไซต์/แอป Klook แล้ว ต้องลงทะเบียน/เข้าสู่ระบบก่อน โดยเราเลือกเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Facebook หรือหากเป็นการ Log in ใช้งานครั้งแรก เราต้องลงชื่อสมัครใช้งานก่อน พร้อมกรอกข้อมูลเบื้องต้นให้ครบถ้วน2. หลังจากที่เราเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ไปที่หน้าหลัก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า "บัตรเข้าชมสวนสัตว์ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) ในกรุงเทพฯ" และกดปุ่มค้นหา รอสักพักจะปรากฎ List ที่เกี่ยวข้องขึ้นมา โดยคลิกบริการที่ต้องการ บัตรเข้าชมสวนสัตว์ซาฟารีเวิล์ด (Safari World) ในกรุงเทพฯ จากนั้นให้คลิกปุ่มคำว่า "เลือก"3. ต่อมาแอปจะปรากฎหน้าต่างให้เรา เลือกแพ็กเกจ จำนวนคน/วัน/เวลาที่สะดวก + กดปุ่ม "จองตอนนี้" โดยมีราคาบัตร ดังนี้ บัตรผู้ใหญ่ จากราคา 800 บาท/คน เหลือเพียง 750 บาท/คน/วันบัตรเด็ก (อายุ 2 -12 ปี) จากราคา 700 บาท/คน เหลือเพียง 650 บาท/คน/วันเวาเชอร์แทนเงินสด มูลค่า 500 บาท สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม เหลือเพียง 450 บาท คูปองถ่ายภาพ 800 บาท เหลือเพียง 720 บาทจากนั้นต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดผู้จองอีกครั้ง เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ เพื่อไปยังหน้าชำระเงิน พร้อมเลือกวิธีการชำระเงินแล้ว จึงกดปุ่ม "ดำเนินการต่อ" ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วค่ะ ทั้งนี้ เราสามารถตรวจดูรายการจองได้ตลอดในแอป Klook รวมถึงไว้ใช้สำหรับยื่นให้พนักงานดูอีกครั้งในวันเวลาจริงที่เราเดินทางไปถึงค่ะหมายเหตุ : ภาพปก ภาพถ่ายประกอบบทความ ภาพที่ 1 - 21 ถ่ายโดยผู้เขียนเอง บทความแนะนำ รีวิว สวนน้ำโพโรโระ อควาพาร์ค (Pororo Aquapark) กรุงเทพฯ ซื้อโปรสุดคุ้มที่ Klookรีวิว บุฟเฟ่ต์ Baiyoke Buffet ซื้อโปรสุดคุ้มที่ Klookนวดเท้า ราคาสุดคุ้มที่ Centara Watergate Pavillion Hotel Lotus จองผ่านแอป GoWabiนั่งรถไฟเที่ยวใกล้กรุงเทพ : หอภาพยนตร์ (Film Archive) ศาลายา จังหวัดนครปฐมนั่งรถไฟ เที่ยวใกล้กรุงเทพ สมุทรสาคร ไป เช้า - เย็น กลับนั่งรถไฟเที่ยว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (รถไฟลอยน้ำ)ส่องร้านอาหาร Silom Edge (สีลมเอจ) เปิด 24 ชั่วโมงหอชมเมืองสมุทรปราการ ที่เที่ยวแห่งใหม่ แจกพิกัดถ่ายรูป 2022พาส่อง SiamScape ชั้น 10 สวนลอยฟ้าใจกลางสยาม (SkyScape)8 พิกัดถ่ายรูป สยามสแควร์ (SIAM SQUARE Bangkok)อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
NuiiztheWriter • 18 ต.ค. 65
อ่าน
Review Update: Bangkok Sky Restaurant ชั้น 78 ใบหยกสกาย ดีลสะดวกผ่าน Klook แบบคุ้ม ๆ
ได้กลับมาเยือน Bangkok Sky Restaurant ชั้น 78 ใบหยกสกายอีกรอบ แบบชิวสุด ทั้งทานอาหารและชมวิว แบบไม่ต้องวอล์กอินมาจองหน้างาน และไม่ต้องกลัวคิวเต็ม เพราะเที่ยวนี้มีการจองด้วยดีลแบบใหม่ ที่สะดวก ง่าย ผ่านเว็บไซต์ Klook.com/th จองล่วงหน้าแล้วขึ้นไปฟินกันได้เลยทีเด็ดของ Bangkok Sky Restaurant วิวหลักล้าน อาหารหลักหมื่น ในราคาหลักร้อย คือรีวิวสั้นง่ายได้ใจความของ Bangkok Sky Restaurant ชั้น 78 ใบหยกสกาย เพราะนี่คือห้องอาหารวิวพาโนรามา ของชั้น 78 บนหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย นี่คืออาหารบุฟเฟต์นานาชาติแบบเต็มรูปแบบ ที่จัดใหญ่จัดเต็มทั้งอาหารทะเลแบบยกมาทั้งเรือ กุ้ง หอยนางรม ปู หอยแมงภู่ ปลาหมึกมาแบบไม่อั้น มีให้เลือกทั้งแบบเผา น้ำจิ้มแซบ หรือ แบบทะเลถังซอสเข้มข้น ทุกอย่างคือสดมากแบบคัดคุณภาพ และยังมีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เสิร์ฟพร้อมผัดไทย ซอสกลมกล่อม ส่วนตัวคือให้อาหารทะเลชนะเลิศ ตั้งแต่หอยนางรมที่สดมาก ตัวใหญ่เนื้อแน่นเด้ง มีความครีมมี่ น้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน ไม่เผ็ดมาก รสชาติเหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีพริกสด กระเทียมสับ มะนาวผ่า หอมเจียว เสิร์ฟแบบไทยแท้ คือคุ้มในคุ้มสุดๆ แถมยังมีครัวญี่ปุ่นด้วย มีทั้งซาซิมิปลาสดๆ ทูน่า แซลมอน ท้องแซลมอน ซูชิหลายหน้า เทมปุระก็ทอดใหม่ๆ ร้อนๆ ใช้ของดีทั้งหมด สดสุดๆ ดีไปจนถึงยำสาหร่าย ปูอัด เสิร์ฟไม่อั้นเช่นกัน อย่าลืมแวะครัวไทยไปกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนื้อวากิว อีก 1 ทีเด็ดที่ยกให้เป็นเมนูท็อปของที่นี่ เพราะเนื้อสุกกำลังดี ซุปเข้มข้น เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือพรีเมี่ยมที่ดีต่อใจมาก นอกจากนั้นก็ยังมีโซนสเต็ก มีทั้งเนื้อออสเตรเลีย ปลาแซลมอน ลิ้นวัวสเต็ก ย่างโชว์แบบกลิ่นหอมอลังการ แจ้งความสุกที่ชอบได้ มีมันบดเนื้อนุ่ม รสชาติดี ผักย่าง เกรวี่เข้มข้นอร่อย และซอสขาวเข้ากับแซลมอน รวมถึงอาหารอิตาเลี่ยน ทั้งพิซซ่า มีหลายหน้า แป้งบางกรอบอร่อย ชีสยืดเป็นชีสชั้นดีอยากให้ลอง และสปาเก็ตตี้คาโบนาราทำใหม่ๆ เติมไม่อั้น รสชาติดีไม่เลี่ยน เส้นสุกกำลังดีเครื่องดื่มรวมในบุฟเฟ่ต์ยกเว้นแอลกอฮอล์ มีทั้งน้ำอัดลม น้ำหวาน ชานมไข่มุกก็เด็ด มีของหวานทั้งไทยฝรั่ง ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง อันนี้คืออร่อยสุดๆ เค้กหลายรสชาติ แยมโรล ครัวซองต์ เบเกอรี่ดีมากทุกอย่าง เนื้อนุ่มครีมเนียน ตบท้ายพร้อม ชา หรือ กาแฟร้อนก็เหมาะ รวมหมดในบุฟเฟ่ต์ ทั้งหมดนี้เราจะนั่งทานพร้อมบรรยากาศหลักล้าน วิวกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน แบบพาโนรามา 360 องศา ณ ชั้น 78 ของใบหยกสกาย หนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยบุฟเฟ่ต์นั้นจำกัดเวลาที่ 2 ชั่วโมง แต่หลังทานเสร็จสามารถขึ้นไปที่จุดชมวิว บนชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84 ได้แบบไม่จำกัดเวลา จะอยู่บนนั้นนานแค่ไหนก็ได้ ช่วงนี้อากาศเริ่มดี รับรองฟิน ไม่ผิดหวังสะดวกกว่าด้วยการจองผ่านเว็บไซต์ Klook.com/thด้วยความคุ้มของ Bangkok Sky Restaurant ชั้น 78 ใบหยกสกาย บวกกับการเปิดประเทศแล้ว ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้กลับมาคึกคักอีกรอบ ทั้งคนไทยต่างชาติใครก็อยากมา จนบางวันคิวเต็ม วอล์กอินมาอาจไม่ได้เข้าแต่ตอนนี้มี เว็บไซต์ Klook.com/th ที่เปิดให้จองได้ผ่านเว็บไซต์แบบสะดวกกว่า สามารถจองล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องมารอลุ้นว่าคนจะเต็มไหม แค่กดเข้าไปที่ เว็บไซต์ https://www.klook.com/th/ เลือกล็อกอินผ่านเฟซบุ๊กก็ง่าย พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-ล็อกอินแล้วก็กดไปที่หน้ากิจกรรม บุฟเฟ่ต์ห้องอาหารชั้น 78 โรงแรมใบหยกสกาย พร้อมบัตรเข้าจุดชมวิว จากนั้นก็สามารถเลือกวันและเวลาที่เราสะดวก แล้วกรอกข้อมูล รายละเอียดการจองได้เลย ราคาพิเศษที่ Klook เหลือคนละ 860 บาทเท่านั้น (Net) กดจ่ายเงินก็ง่ายเหมือนซื้อของออนไลน์ทั่วไปตอนนี้ Klook มีโปรจองครั้งแรกลด 5% ด้วย สามารถยกเลิกฟรีภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเวลาจอง จบขั้นตอนแบบง่ายมาก ก็จะได้อีเมลล์ยืนยัน พร้อมคิวอาร์โค้ด เอาไว้ยื่นให้พนักงานก่อนเข้าห้องอาหาร Bangkok Sky ชั้น 78 ใบหยกสกาย เปิดให้บริการทุกวัน (รอบละ 2 ชั่วโมง) เวลา 17.00 – 19.00 น. และ 19.00 – 21.00 น. หากขับรถมาก็สามารถจอดรถได้ฟรี 6 ชั่วโมง โดยสแตมป์ได้ที่ฟร้อนท์ ส่วนรถสาธารณะก็เดินไม่ไกลจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลม ภาพและเรื่องโดย SANDTARอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
sandtar • 18 ต.ค. 65
อ่าน
ที่พักสวยภูเก็ต Cape Sienna พาเที่ยว Aquaria Phuket กับ Klook
ไปเที่ยวภูเก็ตยังไงให้ไม่บ๊ง นอนดี กินดี เที่ยวดี ราคาโคตรดี ต้องอ่านคอนเทนท์นี้เท่านั้น!! ก่อนอื่นเกริ่นนำก่อนว่า เป็นคนชอบเที่ยวในราคาที่คุ้มค่า โดยส่วนใหญ่จะจองตรง หรือซื้อโปรเด็ดๆกับโรงแรม หรือ ที่เที่ยว แต่ตั้งแต่รู้จักคุณ Klook… ก็ขอบาย OTA เจ้าอื่นทันที Klook (คลุก) คือ แพลตฟอร์มการจองทั้งกิจกรรม โรงแรม รถเช่า และอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว นางมีกิจกรรมมากกว่า 490,000 กิจกรรม ทั้งใน และต่างประเทศ เชื่อป่ะ มากกว่า 300 ประเทศทั่วโลก คือ ที่เดียวจบ ครบทั้งทริปเริ่มต้นวางแผนการเดินทางโดยการใช้ App Klook ก่อนเลย ใช้งานง่ายมาก กด สอง สาม ที คือ โอ้ว จบละหรอ คอนเฟิร์มทันที ไม่ต้องกลัวพลาด หรือ ตกรถ ตกเรือ หรือ โดนเทกลางอากาศแน่นอน ทริปนี้ เอมกับพี่นุ่น ตั้งใจไปฟินกันที่ภูเก็ต นอนสวย ริมทะเล ขับรถเที่ยวเกาะ และแน่นอนไปดูปลาาาาาาาาาา แบบฝรั่งมังค่า ที่ Aquaria ที่เค้าว่ากันว่า เป็น Aquarium ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อ่ะ และ ยังมี AR Trick Eye ที่เป็น Trick Eye Museum แรกที่ใช้ AR ประกอบ คือมันเว่อร์วังมาก ซื้อตั๋วทั้ง 2 อย่างนี้ ผ่านน้อง Klook เช่นกัน ตามสเต็ปข้างล่างเลย พร้อมแล้วก็ลุยเลยที่พักภูเก็ตเที่ยวนี้ เราเลือก Cape Sienna Phuket Gourmet Hotel Villas ที่หาดกมลา โรงแรมสวย เงียบสงบ ห่างไกลความวุ่นวาย เหมาะมากกับการพักผ่อนที่ชิวสุดๆ และที่สำคัญ Roof Top Bar คือ ขึ้นชื่อเรื่องวิวมาก เดี๋ยวมีให้ดูด้านล่างแน่นอน วิธีการจองก็คือ ก็เลือกว่าจะ จอง โรงแรม รถเช่า หรือ กิจกรรม หลังจากนั้นก็กดเลือกสถานที่ที่เราจะไป และทำการชำระเงิน คือแบบ ง่ายยิ่งกว่านับ หนึ่ง สอง ซั่ม อีกอ่ะแกรรรรรรรร มาภูเก็ต ก็ต้องขับรถนะ เพราะสถานที่แต่ละที่ของเค้าก็คือ ไกลกันพอดู ขึ้นเขา ลงห้วยบ่อยมาก เราแนะนำจองรถกับ Drive Car Rental รถราคาดี สะอาด และที่สำคัญบริการดีมากกกกกกก (อันนี้ขอชมจากใจ เพราะใช้บริการรถเช่าหลายที่มาก จะเจ้าดัง หรือ เจ้าเล็ก อันนี้บริการดีสุดจริงๆ) เช่นกัน อันนี้ เราก็จองผ่าน app Klook เหมือนกัน มันสะดวกมาก เลือกได้ว่าจะรับรถที่ไหน หรือ ส่งคืนที่ไหน คือดีงาม พระรามแปดมากมาถึงสนามบิน ก็เดินมารับรถกันก่อน เค้าเตอร์นางจะอยู่ฝั่ง International Terminal นะ โทรหาเค้าได้เลย รับได้แบบ ปุ๊บปั๊บ รถพร้อมค่าเราได้รถมาแล้ว พร้อมออกเดินทาง ไปยัง โรงแรมที่พักของเราในทริปนี้ทันที ห้องโดยสารสะอาด น้ำมันเต็มถังไม่ต้องกังวลใดใด มาถึงแล้วววววว ล๊อบบี้โรงแรม Cape Sienna Phuket Gourmet Hotel Villas ขึ้นลิฟต์มาถึง ก็คือ ว้าว มาก ตะลึงกับวิวที่เห็นตรงหน้ามาก แบบ อยู่ดีดีก็ลืมความเครียดไปซะงั้นอ่ะเราจองห้อง Honeymoon Suite Sea View มันมาพร้อมเจ้าอ่าง Jacuzzi นอกระเบียงที่เห็นวิว 180 องศา แบบตาแตกมาก ดูได้จากรูปที่ลงไว้ คือสวยไม่ไหว ด้วยความ Honeymoon Suites อ่ะนะ นางก็จัดคู่หงษ์ พร้อมกุหลาบมาโรยตัว เอ้ย มาสร้างบรรยากาศ ฟินๆ ห้องกว้าง ไม่อึดอัด แต่เอาจริงทุกอย่างไม่เพอร์เฟคเท่าวิวจริงๆ มันว้าวมาก ในห้องมี amenities ตามปกติโรงแรมทั่วไป ไม่ได้ขาดตกบกพร่องใดๆเลย ตกแต่งสบายตา พี่นุ่นนั่งทำงานได้สบายมาก เพราะ โต๊ะทำงาน คือ มองวิวเต็มลูกตามาก แสงข้างนอกคือดีงาม ถ่ายรูปปังมากมายโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น สนามเทนนิส สปา ห้องคาราโอเกะ ด้วยนะ ลองถามๆ พนักงานดู ห้องนี้ โรงแรมขายประมาณ 3-4 พันช่วงโปร ลองจองดูนะตกเย็น เราไม่ออกไปไหนแน่นอน เพราะที่โรงแรม มีห้องอาหาร 3 ห้อง ที่ตอบโจทย์เราได้สบายๆ และที่สำคัญเหมือนที่เราเกริ่นนำก่อนหน้านี้แล้วว่า VANILLA SKY BAR GASTRO PUB คือ Roof Top Bar ที่ห้ามพลาดเมื่อไปภูเก็ตจริงๆ มันถูกจริตคนชอบสร้าง Content มากเชื่อแม่ วิวพระอาทิตย์ตกตอนเย็นคือ อลังการงานสร้างมาก แบบ เอ๊ะ จ่ายค่าเครื่องดื่ม หลักร้อย แต่วิวตรงหน้าคือหาค่าเปรียบไม่ได้อ่ะ เอาจริง น้องหัวใจ ที่ตั้งเด่นบริเวณล๊อบบี้ ทำให้อยากหยุดถ่ายรูปสักหน่อย ดูชิวมาากๆเลยทีเดียวTHE POOLSIDE BAR RESTAURANT ก็คือ All Day Dining ที่เสิร์ฟทั้งอาหารเช้า ถึงค่ำ ให้เลือกทานได้ และยังสามารถเอ็นจอยความงดงามของหาดกมลาได้แบบสุดลูกหูลูกตาอีกด้วยชิวมากกกกกกก แดดดีมาก แสงสวยมากกกกกCape Sienna Phuket Gourmet Hotel Villas - SHA Extra Plus อยู่ห่างประมาณ 40 นาทีจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต แถมโรงแรมมีบริการรถรับส่งฟรีไปยังหาดกมลา เวลา เปิดปิด 06:30น ถึง 23:30น แถมยังมี Happy Hour ตอน 16:30 - 17:30 ด้วยนะ ก็ดื่มชิวๆกันไป นั่งริมสระก็คือ รูปปัง เปลี่ยนชุดว่ายน้ำด่วนๆ สวยเน๊าะ มีเปลให้นอนฟังเสียงคลื่นด้วยๆ ที่โรงแรมมีแบบวิลล่า ด้วย เผื่อใครที่มากันเป็นครอบครัวใหญ่ ก็สามารถจับจองเป็นวิลล่าหลายห้องนอนได้เช่นเดียวกัน VANILLA SKY BAR GASTRO PUB นี่เลย จะหันด้านนี้ หรือ จะหันด้านไหน ก็ไม่มีอะไรมาบัง ยกเว้นคนรักที่นั่งฝั่งตรงข้ามของคุณ เอิ้วววววววววว เครื่องดื่มคือสวยงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก อร่อยอีกตั่งหาก เลิฟฟฟฟฟฟอะ เวลาเปิด ปิด ของ Vanilla Sky 17:00- 24:00 ทุกวันนะจ๊ะ แกรรรรร ดูความวิว แหกรูปดูใกล้ๆ ว่ามันสวยแบบไม่บันยะบันยัง มันสวยวัวตายควายล้มอ่ะ ลมดี ฟินไม่ไหว PLUM PRIME STEAKHOUSE คือที่ที่เรามาทานข้าวเย็นกับพี่นุ่น คือ จากไม่ได้หวีทอะไรกันมาก ก็คือนึกว่าจะโดนขอแต่งงานละ หวาน มว๊ากกกกกกกกกกกกกก บรรยากาศคือบิ้วเว่อร์ แนะนำเลยนะคะ คู่รักใดๆ เหมาะมากจริงมุมนี้เลยนะ จองเต็มไปไกลเลยนะ เราก็อดนั่ง เราแนะนำพวกเทอจองกัน แล้วไปสวีทกันให้โลกอิจฉาเลยค่ะอาหารอร่อยทุกอย่าง บริการเป็นเลิศ ยิ่งกว่ามิชลินสตาร์ ตกเย็นด้วยวิวแบบนี้ หาที่ไหนได้อีก บอกแม่ซิเช้าวันใหม่ เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ที่ห้องอาหาร THE POOLSIDE BAR RESTAURANT มีอาหารให้เลือกทานหลากหลายตามสไตล์โรงแรม 5 ดาว แต่ที่แน่ๆ คือ วิวดีมากค่ะรูปล้านใบละตอนนี้ ลงไม่หมด อ่ะ เราหาเวลาออกมาเที่ยวบ้างดีกว่า Aquaria Phuket อยู่ในห้างเซ็นทรัล ฟอเรสต้า (เซ็นทรัลใหม่) ชั้นใต้ดิน ถ้าหาไม่เจอ แนะนำถามพนักงานได้เลยจ้ะ น้องจะอยู่ที่เดียวกันกับ AR Trick Eye ด้วย ก็มาที่เดียว ได้เที่ยว 2 อย่าง ออกแนว ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัวที่นี่เค้ามีปลาหลากหลายชนิดมากกกก รวมถึงน้องฉลามตัวโต และที่สำคัญ ไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้น้องแพนกวินตัวป้อมๆ แกรรรรร มันน่ารักตะมุตะมิมากกกกกกกกเดินไปชิวไป มีให้อาหารปลากระเบนด้วยนะ คือดีย์ต่อใจมากกกรวมๆ เป็นกิจกรรมที่ฮีลจิตใจมาก อยากให้ลองไปนั่งโง่ๆ ดูปลาเหมือนเรา แล้วจะฟินมากจริงๆพอเดินออกจาก Aquaria เราจะพบกับ AR Trick Eye Museum ที่สนุกสนานเฮฮามาก คือ Trick Eye ปกติก็แค่ 3D ใช่ป่ะ แต่อันนี้คือ ถ้าใช้ APP AR ของนางด้วยก็คือ มีเคลื่อนไหว มันคือสนุกสนาน มีเรื่องราวดีๆให้หัวเราะตลอดทุกรูปอ่ะ ดูดิ มีฟองอากาศบุ๋งๆ เต็มไปหมดดดดดต่างๆ ก็คือ สนุกสนานมาก อยากให้มาเที่ยวกันเยอะๆ ทริปนี้ต้องขอบคุณ Klook ที่ทำให้คนอย่างเอมมี่กับพี่นุ่น สนุกแบบราคาประหยัด และยังได้รูปแบบจุใจอีกตั้งหาก ไว้พบกันใหม่ทริปหน้านะ ทริปนี้ขอลาไปก่อน บ๊าย บายยยยย ภาพและคอนเทนท์ดีดีจาก Trip Diary : เที่ยวนี้ไปไหนดี กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
TripDiaryเที่ยวนี้ไปไหนดี • 27 ก.ย. 65
อ่าน
Bangkok Balcony สุดยอดบุฟเฟ่ต์ชั้น 81 ใบหยกสกาย ใจกลางกรุงเทพฯ อิ่มจุกคุ้มค่า ชมวิว ราคาเบาๆ จองง่ายผ่าน Klook แค่ไม่กี่คลิก
เพื่อนๆ กำลังมองหาร้านอาหารดีๆ สักร้านที่ #ราคาคุ้มค่า จะ#ปาร์ตี้ กับเพื่อนร่วมงานก็ได้ หรือฉลองใน #วันพิเศษ หรือโอกาสพิเศษใดๆ ก็แล้วแต่ แถมถ้ากินได้ไม่อั้นด้วยยิ่งดี วันนี้ผู้เขียนเอง เลยอยากจะมารีวิวร้าน #บุฟเฟ่ต์ #ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์ แถมยังได้ชมวิวที่ไม่เหมือนร้านใดๆ ในกรุงเทพอีกด้วย อาหารก็อร่อย ตั้งแต่ของคาวจนของหวาน แถมยัง #จอง ร้านนี้ได้ง่ายๆ ผ่าน #Klook อีกต่างหาก และร้านนั้นคือ “Bangkok Balcony” บุฟเฟ่ต์ที่สูงที่สุดใจกลางกรุงเทพบุฟเฟ่ต์จุกๆ ล้นๆ สั่งได้ไม่อั้น ราคาเพียง 1150.- บาทเท่านั้น (โซนด้านใน)พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-ก่อนจะมาทานร้านนี้ได้นั้น ขอแนะนำวิธีการจองง่ายๆ ผ่าน Klook แค่ไม่กี่คลิกเท่านั้นเข้า Application klook กดช่องค้นหา พิมพ์ ใบหยก แล้วกดเลือกร้านได้เลยกดเลือก เพื่อเลือก Package ที่อยากจะทานใน Package จะมีให้เลือก 2 แบบคือโซนด้านใน แล ะด้านนอก ราคาจะต่างกันพอสมควร หากคิดว่าอยากได้บรรยากาศ แนะนำเลือกโซนด้านนอกไปเลย แต่ถ้าเน้นกิน ห้องแอร์เย็นๆ เลือกโซนด้านในไปเลยเลือก วันที่สนใจ เวลาที่อยากได้ ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รอบหากเป็นโซนด้านใน แต่ถ้าด้านนอก มีรอบเดียวเข้าได้ตั้งแต่ 17:00 น. ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกฟินๆ จากนั้นกด “จองตอนนี้”ระบบจะสรุปการจองให้ หากข้อมูลไม่ถูกต้อง สามารถกดปุ่ม “” ย้อนกลับไปแก้ไขข้อมูลก่อน ถ้ามีโค้ดส่วนลดใดๆ ที่ใช้ได้รีบกรอกโลดกดชำระเงิน โดยสามารถชำระผ่านได้ทั้ง บัตรเครดิต / โอนเงินผ่าน Mobile Banking / True Money และอื่นๆ อีกมากมายหลังจากชำระเงินเสร็จสิ้น ก็เตรียมไปทานอาหารกันวิวสวยๆ จากชั้น 84การเดินทางมาที่ใบหยกสกายนั้น แนะนำว่าขับรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกที่สุด ที่จอดรถเยอะมากและมี รปภ. ให้บริการทุกชั้นจอด หรือนั่งรถโดยสารสาธารณะต่างๆ มาลงที่หน้าปากซอยราชปรารภ 3 แล้วเดินเข้ามาอีกนิดเพื่อขึ้นตึกแลกตั๋วก่อนขึ้นตึกด้วยนะ ไม่งั้นไม่ได้ขึ้นนาาเมื่อมาถึงแล้ว เราจะต้องทำการไปแลกตั๋วขึ้นตึกกันก่อน โดยกดลิฟท์มาชั้นที่ 18 เดินไปที่เคาเตอร์ แล้วจากนั้นแจ้งพนักงานว่าทานอาหารที่ร้านอาหารใด พนักงานก็จะทำการเช็คข้อมูลและให้ตั๋วมา โดยตั๋วของห้องอาหาร ห้องอาหารชั้น 81 โซน Bangkok Balcony นั้น สามารถขึ้นไปชมวิวกรุงเทพได้ทั้งชั้น 77 และชั้น 84 ที่เป็นดาดฟ้าหมุนรอบ 360 องศา เห็นไปไกลถึงอ่าวไทยได้หากวันนั้นท้องฟ้าแจ่มใส แนะนำว่าหากทานรอบ 19:00 น. มาถึงสัก 6 โมงเย็นรอดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ คุ้มที่สุดจุดชมวิวชั้น 77 เดินได้รอบๆ สามร้อยหกสิบองศาวิวสวยจากชั้น 84 ยืนเฉยๆ ใน Sky Box และรอชมวิวรอบกรุงเทพในส่วนของห้องอาหารนั้น ธีมอาหารจะเป็นอาหารนานาชาติ ทั้งเอเชีย และยุโรป ผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นไทยๆ เรา หรือจะเป็นวัตถุดิบนำเข้ามูลค่าสูงๆ ก็มีเช่นกัน โซนอาหารเองก็จะไล่ไปตั้งแต่ เครื่องดื่ม ของคาวจนถึงของหวาน เมื่อถึงรอบเวลาทานอาหาร พนักงานก็จะพาเราไปที่โต๊ะตามเบอร์ แล้วหลังจากนั้นอยากจะสั่ง หรือจะทานอะไร ก็ไปต่อคิวตามโซนต่างๆ หรือสั่งไว้แล้วพนักงานไปเสิร์ฟโดยการบอกเบอร์โต๊ะ ซึ่งอย่างหลัง จะเป็นเมนูที่ใช้เวลาทำนานสักหน่อย นอกจากนี้ เมนูกับข้าวต่างๆ ที่ตักทานได้ จะมีให้บริการตลอดแนวเช่นกัน หากขี้เกียจรอโซนสเต็กสเต็กฟัวกราส์ สั่งได้ไม่อั้น ชิ้นใหญ่จุใจ ไม่คาวเลยสเต็กเนื้อสันออสเตรเลียโซนแรกที่อยากแนะนำ และน่าจะเป็นโซนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ สเต็ก ที่จะมีเนื้อสัตว์ให้เราเลือกหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสันออสเตรเลีย ซี่โครงแกะออสเตรเลีย หมูคุโรบุตะ ปลาแซลมอน และที่น่าจะขายดีที่สุด ต้องยกให้ ฟัวกราส์ ที่แทบจะหาร้านบุฟเฟ่ต์เรทนี้มีให้ทานไม่อั้น การจัดจานจะมีความเป็นโมเดิร์น น้อยแต่มาก ที่แนะนำให้สั่งคือ เนื้อแกะ อาจจะมีกลิ่นสาบซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ทำออกมาได้นุ่มมาก ส่วนฟัวกราส์ จะเสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบ รสชาติดีไม่คาว มีความกึ่งสุกกึ่งดิบพอดี โดย portion ที่เสิร์ฟจะเล็กๆ เหมาะกับเน้นทานได้หลากหลายเมนู แต่ถ้าชอบ สั่งรัวๆ ได้สเต็กซี่โครงแกะ ออสเตรเลียพิซซ่าทำสดๆฮาวายเอี้ยน และ ซีฟู้ด หน้าตาที่คุ้นเคยแต่ถ้าอยากทานแนวอาหารอิตาเลียน ก็มีพิซซ่าให้เลือกสั่ง 2 หน้า อย่างซีฟู้ด และฮาวายเอี้ยน หน้าตาที่คุ้นเคย แต่อย่าทานเยอะมาก เดี๋ยวจะจุกซะก่อน ส่วนที่น่าทานอีกอย่างเลยคือสปาเกตตี้ ซึ่งมีให้เลือกอีก 2 แบบคือ เพสโต้ และ คาโบนารา ชอบเลี่ยนหรือชอบหอมสมุนไพร จิ้มได้เลยกุ้งเผามันเยิ้ม กับสปาเกตตี้เพสโต้ทรัฟเฟิลเข้มๆ หอมๆเช่นเดียวกันกับสายซุป ที่นี่ก็มีซุปเห็ดทรัฟเฟิล และซุปล๊อบสเตอร์ ตักได้ไม่อั้น รสชาติก็ใช้ได้ กลิ่นและรสทรัฟเฟิลชัดเจนดี คุ้มกว่านี้คงไม่มีอีกแล้วซุปล็อบสเตอร์กุ้งเผาไม่อั้น กับซีฟู้ดรสแซ่บกุ้งๆ กับเมนู ข้าวผัดกุ้งทะเลผัดผงกะหรี่อีกโซนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน รวมทั้งกลิ่นลอยมาแต่ไกล คือ อาหารซีฟู้ด ซึ่งนำเสนอ กุ้งเผาไซส์เล็ก ไม่อั้น เสิร์ฟจานละสองตัว แต่จะกินกี่ร้อยจานก็ได้หากคุณทานหมด หอยนางรมสดและย่าง เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงแบบทรงเครื่อง อันนี้ก็ดีเช่นกัน แต่ถ้าอยากแบบผสมผสาน ก็มีเมนูอย่างผัดไทกุ้งเผา หรือสปาเกตตี้เพสโต้กุ้งเผา ที่ทำให้มื้ออาหารนี้ไม่จำเจ ส่วนใครที่ชอบทานกับข้าว ข้าวผัดกุ้ง หรือทะเลผัดผงกะหรี่ ไม่ควรพลาด กุ้งทะเลใส่เยอะแบบจุกๆหอยนางรมสด เต่งๆ อูมามิสดๆแบบนี้ ต้องทรงเครื่องสิใครไม่กินสด แบบย่างก็มีเหมือนกันย่างแบบนี้ ก็ฟินไปอีกแบบ อย่าลืมราดซีฟู้ดแล่หนังเป็ด เพื่อนำไปทำเป็นเมนู เป็ด ปัก กิ่งงงเตรียมเสิร์ฟ เป็ดปักกิ่งเดินขึ้นไปอีกนิด เป็นโซนอาหารเอเชีย ที่จะมีทั้งฝั่งจากจีน นำเสนอเมนูราคาแพงแต่กินไม่อั้นอย่าง เป็ดปักกิ่ง หมูกรอบ หมูแดง และหมูหัน เสิร์ฟเป็นจานๆ โดยเฉพาะเมนูอย่างเป็ดปักกิ่ง เมนูนี้ปกติไปทานภัตตาคารอาหารจีนมีไม่ต่ำกว่าพัน อันนี้กินให้เกินสัก 10 ชิ้น ก็เกินราคาบุฟเฟ่ต์ไปแล้วหมูกรอบชิ้นโต หนังกรอบหมูกรอบ หมูแดง หมูหัน และเป็ดปักกิ่งงงงน่ากินมาก กับโซน อาหารญี่ปุ่นมาฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง อันนี้เน้นเสิร์ฟสด อยากทานอะไรสั่งได้ ก็จะมี ปลาซาบะ หมึกยักษ์ น้องส้มแซลมอน อากามิจากทูน่าหางเหลือง และปูอัด ใครเลิฟแซลมอนและทูน่า สั่งแบบซาชิมิคุ้มสุดๆ หรืออยากจะทานเป็นซูชิ มีพร้อมเสิร์ฟ หยิบใส่จานได้ทันที แต่ถ้าอยากทาน วากิว ก็จะมีเสิร์ฟเป็นชาบูวากิว หรือจะเป็น วากิวน้ำตก อันนี้ก็ดี รสชาติน้ำตกเข้มข้น วากิวนุ่มละลายในปากซาซิมิรวมๆใครไม่กินเนื้อ ก็มีคุโรบุตะสไลด์ในซุปน้ำตกนะเครื่องดื่มหลากหลาย อยากเปลี่ยนเป็นแนวไหน มีหมดย้ายมาดูโซนเครื่องดื่มกันบ้าง ตรงนี้ก็จะเน้นเป็นเครื่องดื่ม น้ำผลไม้ แต่ถ้าอยากทานชาไทยไข่มุก ก็มีให้ตักไข่มุกไม่อั้น และน้ำอัดลมกดได้รัวๆ ทุกรสชาติข้าวเหนียวมะม่วง เมนูยอดฮิตและโซนสุดท้ายอย่างโซนของหวาน จะมีให้เลือกทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ เค้กในตู้ที่อยากทานอะไร บอกพนักงานได้ หรือของหวานทำสดๆ อย่างเครปซูเซท เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลาหอมๆ และเมนูขนมประจำชาติที่ต่างชาติอยากทานคือ ข้าวเหนียวมะม่วง ที่จะได้กลิ่นอบควันเทียนในน้ำกะทิด้วยเครปซูเซทสำหรับโดยรวมของโซน Bangkok Balcony ถือว่าสอบผ่านสำหรับการเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ที่ รสชาติดี เสิร์ฟไม่อั้น ไม่มีกั๊กของ อยากทานเท่าไร สั่งได้ แต่ขอให้ทานให้หมดเพื่อไม่ให้เกิด Food waste ก็พอ ส่วนการบริการ รวดเร็ว เสิร์ฟไว service mind ดีเว่อ แถมมีเดินไล่ถามทุกโต๊ะเพื่อขอ Recommend ไปปรับปรุงอีก จะมีบุฟเฟ่ต์ร้านไหนมาถามความเห็นลูกค้าทุกโต๊ะแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว หากชอบบุฟเฟ่ต์ หรืออยากชวนคู่รักไปเดต พร้อมกับบรรยากาศที่ไม่มีร้านไหนที่ให้ได้ขนาดนี้ กดจองผ่าน klook จิ้ม ใบหยก Bangkok Balcony เลือกวันและเวลา ชำระเงิน และเตรียมตัวมาทานได้เล้ยย สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้แล้ว หากตามมากินที่ร้านนี้แล้ว ก็สามารถมา Comment หรือแชร์ประสบการณ์ความอร่อยได้ ที่ Comment ด้านล่างรีวิวนี้ กดแชร์แบ่งปันความอร่อยให้กับเพื่อนๆ และอย่าลืมกดติดตามผู้เขียนเพื่อไม่ให้พลาดรีวิวร้านอาหารใหม่ๆ และเป็นกำลังใจให้กับทางเพจได้รีวิวอาหารต่อๆ ไป บุฟเฟ่ต์ห้องอาหารชั้น 81 โรงแรมใบหยกสกาย โซน Bangkok Balconyพิกัดความอร่อย: 222 @ 81 Fl. Baiyoke Sky Tower ซอยราชปรารภ 3เวลาเปิดปิด: ทุกวัน 17:00 – 23:00 Link: Facebook / website บทความที่เพื่อนๆ อาจสนใจCopper Buffet บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยมกับวัตถุดิบสุด Exclusiveปิดร้านเก่า เปิดร้านใหม่ไฉไลกว่าเดิม กับร้าน LYNXเตี๋ยวคอปเปอร์ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกพรีเมี่ยมฝุดๆ อร่อยแค่ไหน ลองกดจิ้มลิ้งสิScenebangkok Café Patisserie คาเฟ่น้องใหม่ อาหารขั้นเทพ #ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน#บทความดังกล่าวถูกเรียบเรียงและแต่งขึ้นโดยนักเขียนเองทั้งหมด#รูปใดๆที่มีติดภาพบุคคลอื่นผู้เขียนได้ขออนุญาตทั้งหมดแล้ว
เป็ดน้อยพากิน • 20 ก.ย. 65
อ่าน
รีวิว สวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค เล่นคุ้มเกินคุ้มกับดีลจาก Klook โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม
สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้พาย้อนวัยสวมบทบาทเป็นนักผจญภัยตะลุยสวนสยาม ทะเลกรุงเทพ หรือชื่อใหม่ “สวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค Siam Amazing Park" บอกเลยว่าไปครั้งนี้เล่นคุ้มเกินคุ้ม เพราะซื้อดีลจาก Klookภาพจำวัยเด็กของเราคือสไลเดอร์สายรุ้งและซาวนด์เพลงตื่อดื่อดื๊อตื่อดื่อ นอกจากนี้ ยังเป็นสวนสนุกในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนก็ว่าได้ เพราะเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 เปลี่ยนผ่านมาหลายยุคสมัยสุดๆ ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องเคยมาเล่นเครื่องเล่นที่สวนสยามอย่างน้อยก็อาจจะเคยมากับโรงเรียนตอนเข้าค่ายลูกเสือ และวันนี้สวนสยามโฉมใหม่ปี 2565 จะเป็นยังไงบ้าง ไปพิสูจน์กันด้วยตัวเองเลยดีกว่าก่อนจะเดินทางก็ต้องเตรียมตัวไปแบบคุ้มๆ เราเลือกจองดีลผ่าน Klook แอปที่รวมทั้งการท่องเที่ยว กิจกรรม โรงแรมที่พักในประเทศและต่างประเทศ ขั้นตอนการจองดีลก็ง่ายและสะดวกมาก สามารถทำตามได้ดังนี้:พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-1.ล็อกอินบนเว็บไซต์ Klook หรือใครที่มีแอปพลิเคชันก็สามารถใช้ได้ ใครที่ยังไม่มีบัญชี ต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบก่อนโดยทำผ่านได้ทั้ง Gmail, Facebook, Apple ID หรือเบอร์โทรศัพท์2. ไปที่แท็บกิจกรรมและบริการ ค้นหาคำว่า “สวนสยาม” จะพบดีลของ “บัตรเข้าสวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค” จิ้มเลย3. เลือกวันที่ต้องการเข้าใช้บริการ และจำนวนคน จากนั้นกด “จองตอนนี้” และกรอกข้อมูลรายละเอียดผู้จองกด "บันทึก"4. ในส่วนนี้จะช่องมีโปรโมชันด้วย ใครที่มีรหัสส่วนลด สามารถนำมาใส่เพื่อรับส่วนลดได้ จากนั้นก็กดชำระเงินได้เลยค่ะ เมื่อชำระเรียบร้อยก็จะขึ้นในหน้าของสมาชิกตรง “การจอง” โดยตัวบัตรเข้าสวนสยามจะเป็นรูปแบบไฟล์ PDF ที่มี QR CODE อยู่มุมบนขวา เราสามารถใช้สแกนผ่านเข้าประตูสวนสยามไปเล่นเครื่องเล่นได้แบบนี้เลยเดินทางไปกันเลย! ด้วยความที่ไม่ได้มานานมากๆ เกือบขับรถเลยค่ะ เพราะทางเข้าของ Siam Amazing Park ต้องเข้าตรงป้ายที่มีคำว่า Bangkok World และก็นำรถจอดไว้เรียบร้อยจากนั้นเราก็สแกน QR CODE เข้าสวนสยามได้เลย แต่ถ้าจะ Walk-in ซื้อตั๋วเข้าก็จะตรงมาที่จุด Ticket สีแดงๆ แห่งนี้เข้ามาปุ๊บก็เจอกับเครื่องเล่นของสายหวานอย่างม้าหมุน 2 ชั้น น่ารักมาก เล่นเลยละกัน ประเดิมแบบเบาๆ *ม้าหมุน 2 ชั้น อยู่ในเครื่องเล่นโซน Family Worldปล. ติดใจมากก่อนกลับก็มานั่งอีกรอบภายในสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คแห่งนี้ แบ่งเป็น 5 โซนด้วยกัน คือ โซนที่ 1: Xtreme World เดินถัดจากม้าหมุนก็จะเป็นโซนนี้เลย รวบรวมเครื่องเล่นสุดตื่นเต้นและหวาดเสียว ฟีลเร้าใจ ผู้ใหญ่ชอบเลยโซนนี้เช่น บูมเบอแรง รถไฟเหาะตีลังกาสุดโหด, เบรกแดนซ์รถสายซิ่งพร้อมเพลงและไฟสุดมันส์, บอลลูนเหินฟ้า หน้าตาน่ารัก หมุนเหวี่ยงอ่อนโยน แต่คนข้างหน้าเราแอบกรี๊ดอยู่นะวอร์เท็กซ์รถไฟเหาะเกลียว สีม่วงแดงในตำนาน แค่เห็นก็เสียววูบแล้วล่องซุงมหาสนุกหรือ Log Flume ต่อคิวประมาณนึงเลย เครื่องเล่นนี้ฮิตพอๆ กับ Vortex และ Boomberang เลยในที่สุดก็ได้เล่น ภาพก่อนเล่นอย่างชิล เล่นจบหน้าจืดเลย เสียววูบวาบอยู่นะว่าไป วิวด้านบนจากปากพี่สิงโตและพี่เสือสวยใช้ได้เลยโซนที่ 2: Adventure World เครื่องเล่นไม่เน้นเสียวแต่สนุก เน้นความเร็วและความหมุนๆ เหวี่ยงกรุบกริบ เช่น เรือมังกรสองหัว, จานดิสโก้, เครื่องบินประจัญบาน, เก้าอี้อวกาศ, กระสวยอวกาศ, จานบินสวนสนุก และผจญภัยแดนไดโนเสาร์ นั่งรถทัวร์ชมและฟังบรรยายเรื่องราวของไดโนเสาร์ มีทั้งความรู้และบรรยากาศแบบเสมือนจริง โดยจุดสังเกตทางเข้าคือกอริลล่าตัวยักษ์ พร้อมนั่งรถแล้ว ไปกันเลย โซนที่ 3: Family World สมชื่อโซนเลย ใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ เครื่องเล่นได้โซนนี้ที่เราเล่นคือ Si-Am Tower หอคอยชมวิวสวนสยามแบบหมุนรอบตัว 360 องศา ชมวิวทั่วสวนสยามแบบเพลินและเย็นฉ่ำสุดใกล้ๆ กันมีแผนที่สวนสยามขนาดใหญ่ ใครกลัวหลงหรือลืมสถานที่ไหนก็ถ่ายรูปไว้กันลืมได้เลยและบิ๊ก ดับเบิ้ลช็อค หรือบ้านผีสิงนั่นเอง แต่ตอนที่เราไปก็ปิดให้บริการอยู่โซนที่ 4: โซนเอาใจเด็กอย่าง Small Word เครื่องเล่นขนาดเล็กสำหรับน้องๆ เช่น มอเตอร์ไซค์วิบากเล็ก, ม้าหมุนเล็ก, เครื่องบินประจัญบานเล็ก, เรือหรรษา, เรือหงส์, และบ้านบอลสุดฮิตของเด็กๆ ต่อแถวกันเล่นอย่างเพลิดเพลินและสุดท้ายโซนที่ 5: Water World หรือสถานีสวนน้ำนั่นเอง พบกันเครื่องเล่นแนวสไลเดอร์มากมายทั้ง Super Spiral สีสันสวยงามต่อกันที่สไลด์เดอร์สายรุ้ง ที่มีความสูงเท่าตึก 7 ชั้น ลื่นไหลลงมาทีน้ำกระเซ็นสุดๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชื่นชอบมากและจะพลาดไม่ได้กับทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดถึง 13,600 ตารางเมตร น้ำสวยใส มีคลื่น มีโขดหิน ต้นมะพร้าวครบทะเลกรุงเทพฯจริงๆ ใครที่ไม่มีชุดว่ายน้ำ สามารถมาเช่าได้นะคะ หรือจะเช่าห่วงยาง ตู้ล็อกเกอร์ก็มี มีไดร์เป่าผมให้ใช้ด้วย หยอดเพียง 10 บาทเท่านั้นเดินๆ เล่นๆ ก็ต้องมีหิวบ้าง ภายในสวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค มีร้านอาหารทั้งบริเวณโซนเครื่องเล่น Log Flume ล่องซุงมหาสนุก, ภัตตาคาร Sally, และ Si-Am Shop เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่ทุกมุมในสวนสยาม แต่วันนี้เราฝากท้องไว้กับเซตไก่แร็ปและโค้ก 89 บาท ถ่ายไม่ทันเพราะหิวมาก ราคาก็กลางๆ ไม่สูงมาก Amazing Shop เป็นอีกช็อปที่มีสินค้าขายแต่จะมีแค่เครื่องดื่มกับขนมเล็กๆ น้อยๆสำหรับวันนี้ ความประทับใจเต็ม 10 ทั้งการบริการ ความสะอาด ความปลอดภัยก็เชื่อมั่นได้ มีพนักงานประจำทุกเครื่องและคอยอธิบายการเล่นเครื่องเล่นด้วย *สำหรับเด็กเล็กควรมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ แม้ว่าวันนี้เครื่องเล่นบางเครื่องจะมีการปิดให้บริการชั่วคราว ซึ่งน่าเสียดายมากเลย อาจจะต้องไปใหม่อีกรอบ และอากาศอาจร้อนไปบ้าง แต่ผู้เข้าใช้ทุกคนไม่มีใจร้อน ต่อคิวใช้เครื่องเล่นรวมกันอย่างเพลิดเพลิน สมกับสโลแกน สวนสยาม...โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม สุดท้ายนี้ ใครที่ดููรีวิวจบแล้วอยากเที่ยวสวนสยามจากปกติที่ซื้อหน้าทางเข้า ราคา 900 บาท แต่หากจองผ่าน Klook จะจ่ายเพียงคนละ 450 บาท และก็จะได้บัตรแอดเวนเจอร์ที่เล่นได้ทุกเครื่องเล่นแบบไม่จำกัดครั้ง และเข้าสวนน้ำได้ด้วย สุดปัง! ข้อมูลเพิ่มเติม ที่ตั้ง: 203 ถนนสวนสยาม แขวง/เขต คันนายาว กรุงเทพฯ 10230 โทรศัพท์ : 02-105-4294พิกัด Google Map: https://g.page/siamamazingpark?share เวลาทำการ: จันทร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.วิธีการเดินทางรถยนต์: เราเดินทางโดยการขับรถส่วนตัวจากโซนรัชดา-ห้วยขวาง ขับมาทางประดิษฐ์มนูญธรรมและเลี้ยวเข้าประเสริฐมนูญกิจวิ่งตรงไปรัชดา-รามอินทรา แล้วตัดเข้าถนนสวนสยามรถเมล์สาย 36ก,60,71,73ก,96,115,168 เพื่อเข้าสวนสยามรถเมล์ปรับอากาศสาย : ปอ.168, ปอ.519 (ผ่านด้านหน้าสวนสยาม)รถตู้ : มีนบุรี - อนุเสาวรีย์, มีนบุรี - ปากเกร็ด, มีนบุรี - อนุเสาวรีย์ทางด่วน 3 ด่วน ลงแฟชั่นไอส์เเลนด์ต่อ อ่านบทความรีวิวอื่น ๆ เพิ่มเติมของเราได้ที่ = Phiphiphyภาพประกอบบทความโดย Phiphiphy ผู้เขียนห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป
Phiphiphy • 18 ก.ย. 65
อ่าน
5 ขั้นตอนซื้อดีลล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมรับประทานมื้อค่ำบนเรือเมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise) ผ่าน klook
ใครอยากไปล่องเรือพร้อมรับประทานอาหารค่ำชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาสุดคุ้มตามรีวิวเรามาได้เลย วิธีจองง่ายมากแค่จองผ่าน Klook 5 ขั้นตอนจบครบในที่เดียว ในรีวิวนี้เราจะอธิบายขั้นตอนการจอง การเตรียมตัว ทริคสำหรับที่นั่งวิวสวย และ รีวิวการใช้บริการเรือ เมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise) ค่ะขั้นตอนการจองแพ็กเกจล่องเรือเมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise) พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-ไปที่ website https://www.klook.com/th/ จากนั้น log in ซึ่งสามารถ log in ได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น gmail, facebook, apple id หรือ เบอร์โทรศัพท์ เราเลือก log in ผ่าน gmail ก็สะดวกและรวดเร็วดีนะเสิร์ชหาแพ็กเกจชื่อ แพ็กเกจล่องเรือเมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise) พร้อมรับประทานอาหารค่ำ เพื่อนๆสามารถ copy ชื่อแพ็กเกจของเราไปวางได้เลยนะ จะขึ้นแพ็กเกจแบบในรูปกดเข้ามาในแพ็กเกจ จากนั่นเลื่อนลงมาหาคำว่า "ตัวเลือกแพ็กเกจ" จะมี 2 ตัวเลือก ให้เลือก [Special Promotion]แพ็กเกจล่องเรือพร้อมบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำ [19.45 - 21.45] (ICONSIAM Pier) แล้วเลือกวันที่ต้องการใช้บริการ จากนั้นระบุจำนวนสมาชิกที่ไปกับเรา ระบบจะคำนวณราคาให้เรียบร้อยเลยตรวจสอบวันและจำนวนสมาชิกที่ร่วมเดินทางจากนั้นกด "จองตอนนี้" จากนั้นกรอกข้อมูลผู้ติดต่อดำเนินการชำระเงิน จากนั้นจะได้คูปองสำหรับเอาไว้โชว์ให้เจ้าหน้าที่จุดลงทะเบียนดูเพื่อติดต่อรับบัตรขึ้นเรือการเตรียมตัวก่อนไปขึ้นเรือสำหรับสาวๆ แน่นอนว่าต้องเตรียมคอสตูมเป็นอย่างแรกแน่นอน เราทำการบ้านมาให้แล้วสีขาวชนะค่ะ 555 เพราะว่าเป็นตอนกลางคืน บรรยากาศโดยรอบคือมืดไปหมด มีแต่แสงไฟเท่านั้น ซึ่งสีขาวนี่แหละเป็นสีช่วยชีวิตทำให้เราผ่องขึ้นมาอีกโทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องการรับบัตรขึ้นเรือ ได้ความว่ามีเคาน์เตอร์ให้ลงทะเบียนรับบัตรที่ชั้น G ของ ICONSIAM บริเวณข้างร้าน Naraya สามารถมาเช็คอินได้ตั้งแต่ 18.30-19.30 น. แต่ในวันที่เราไปเป็นตอนเย็นหลังเลิกงาน รถติดมากจึงใช้วิธีโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเราไปขึ้นเรือทันแน่ๆ แต่อาจจะเช็คอินที่เคาน์เตอร์ไม่ทัน เจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ แจ้งว่าถ้าถึงห้างเกิน 19.20 น.แนะนำให้ไปเจอที่ท่าเรือ 2 ไปให้ทันก่อน 19.45 น. จะมีเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนอีกจุดค่ะสิ่งที่ต้องรู้คือเรือมี 2 ชั้น ชั้นบนแบบในรีวิวคือโซน outdoor ชั้นล่าง indoor ห้องแอร์ แน่นอนว่าการมาล่องเรือแบบนี้ต้องชั้นบน ถึงจะได้บรรยากาศและวิวสวยที่สุด เราจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอเป็นโซนด้านบน ตอนแรกจะขอบริเวณหัวเรือที่เป็นโซนฮอตฮิต แต่ว่าโทรจองช้าไป เจ้าหน้าที่เค้าบอกทริคมาว่าถ้าอยากนั่งโซนนั้นแนะนำโทรจองล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์ค่ะ การใช้บริการเรือเมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise)ต้องมาให้ตรงเวลา เพราะเรือไปและกลับตรงเวลามาก แพ็กเกจนี้ 19.45 น. คือเวลาที่เปิดให้ขึ้นเรือ 20.00 น. คือเวลาที่เรือออก ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงพอดี กลับมายังท่าเรือ iICONSIAM เวลา 22.00 น. เป๊ะตอนไปเช็คอิน เปิดหน้าคูปองให้เจ้าหน้าที่ดู จะได้บัตรขึ้นเรือ และ sticker หมายเลขโต๊ะมาติดไว้ที่เสื้อ แน่นอนว่าเป็นการป้องกันนั่งผิดโต๊ะ อย่างตอนไปใช้บริการเราเจอคนที่ไปใช้บริการด้วยกันมานั่งผิดโต๊ะ จึงแจ้งพนักงานบนเรือให้ช่วยจัดการให้ พนักงานรีบเข้าไปแจ้งให้แขกรับทราบและดำเนินการเปลี่ยนแก้วเครื่องดื่มบนโต๊ะให้ใหม่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากแขกท่านนั้นได้ดื่มเครื่องดื่มไปแล้วไลน์อาหารจะอยู่บริเวณตรงกลางเรือ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ก็จะต้องใช้ความไวในการตักอาหารนิดนึง ส่วนตัวเราไปตักอาหารไม่ค่อยทัน เพราะคนบนเรือเยอะมาก แต่พนักงานก็เติมอาหารตลอดจนคนบนเรือเริ่มไม่มาตักอาหารแล้วจึงหยุดเติมเรือลำใหญ่ ไม่เวียนหัวสามารถนั่งทานไป รับชมวิวไปได้อย่างราบรื่นบนเรือมีการแสดงและดนตรีตลอดการเดินทาง หากไม่ชอบเสียงดังแนะนำโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ขอโต๊ะที่ไม่ติดลำโพง ก่อนวันเดินทางค่ะสรุปแล้วเราให้ 9/10 คะแนนสำหรับแพ็กเกจนี้ ราคาคุ้มค่า คนละ 690 บาท ได้ชมวิวสวยๆยามค่ำคืนของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไปกลับตรงเวลา อาหารรสชาติดี มีให้เลือกหลากหลาย แต่ขอหัก 1 คะแนนตรงที่คนเยอะมาก ไม่มีการจัดระเบียบในการตักอาหาร ทำให้ไปตักอาหารไม่ทันค่ะข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือเมอริเดียน ครูซ (Meridian Cruise)Facebook: https://www.facebook.com/themeridiancruiseเบอร์โทร: 02-081774, 06-6115-1464LINE ID: @Meridiancruiseภาพถ่ายโดยนักเขียนช่องทางการติดตามผลงานรีวิวของเราFacebook: https://www.facebook.com/KmcnsDiaryTrue ID: https://creators.trueid.net/@popkmcnอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Kmcn • 12 ก.ย. 65
อ่าน
รีวิว VERSO Hua Hin ที่พักสุดหรู เปิดใหม่ และสวนน้ำVana Nava ปี2022 ในแพ็กเกจราคาสุดปัง! กับแอป klook จองง่ายโปรเลิศ!
ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่หัวหินกันค่ะ รอบนี้เราเลือกพักที่ VERSO Hua Hin และไปเล่น VR Slide เครื่องเล่นแบบใหม่ แบบสับ กันที่สวนน้ำ Vana Nava โดยรอบนี้เราจองที่พัก และกิจกรรมสวนน้ำ ผ่านแอปพลิเคชั่น Klook ใน ConceptYour World Of Joy เปิดประสบการณ์แห่งความสนุกได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนใกล้บ้านหรือการผจญภัยในโลกกว้าง สำหรับคนที่อาจจะเพิ่งเคยได้ยินแอปนี้ เราจะมาบอกบุญให้ฟังกันอีกครั้ง แอป Klook เป็นแอปที่รวบรวมแพ็กเกจ โปรสุดปัง! อีกทั้งบริการการจองโรงแรม แพ็กแกจทัวร์ กิจกรรมต่างๆ สวนสนุก สวนน้ำ บริการเช่ารถ สปา หูวววว มากมาย อยากให้ลองเข้าไปดูกันเองมากๆครบ จบ ที่เดียว พูดไปก็จะเอ๊ะ เธอมันขายของรึป่าว? เราเลยนำวิธีการจองที่แสนจะง่ายมาให้ทุกคนได้ดูกันเห็นๆเลยว่าง่ายจริ๊งงง เราจะใส่ขั้นตอนไว้ให้ใต้รีวิวต่างๆนะคะ หัวหิน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางแสนง่ายใกล้กรุงเทพฯ เหมาะมากๆกับการฮีลอกฮีลใจฉบับมนุษย์เงินเดือนที่ลางานนานไม่ได้ แต่มันบ่ไหวแล้ววว ร่างกายต้องการพักผ่อน หัวหินเลยจ้า ตอบโจทย์ สุดๆ!!VERSO Hua Hin - a Veranda CollectionVERSO Hua Hin - ที่พักสุดหรู เปิดใหม่ ตั้งอยู่ที่เขาตะเกียบ ติดริมทะเล และร้านอาหารอร่อยๆเพียบ เวลาที่เราเข้าเช็คอินเป็นช่วง 14.00น. พนักงานบริการดีมากๆ ยิ้มแย้ม ให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดี ระหว่างที่รอเช็คอินทางโรงแรมมี Welcome Drink ให้ดื่ม รสชาติสดชื่นสุดๆ เหมาะกับอากาศดับร้อนได้เลยFacilities : สระว่ายน้ำ (มีทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่) , สปาและทรีทเม้นต์ , ยิม , คิดส์ คลับห้องที่เราเลือกพักเป็นห้อง Ocean Front King จองผ่านแอป Klook คือได้ราคาดีไม่ไหว คุ้มมากกับราคาที่ได้มา ภายในห้องจะได้ เตียงคิงไซส์ อ่างอาบน้ำวิวแบบจึ้ง แบบสับ มองเห็นทะเล สระว่ายน้ำ และเขาตะเกียบ รูปที่ได้คือเป็นร้อยค่าาา ถูกใจเราสุดๆพาทัวร์ห้องพักกันแล้ว คราวนี้เราจะพาไปทัวร์สระว่ายน้ำที่ดีไซน์แสนเกร๋กันบ้าง รูปที่ถ่ายออกมาก็คือดีไม่ไหว ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็จึ้ง! แพ็กเกจที่เราเลือกมีอาหารเช้ารวมอยู่ด้วย เลยมีเก็บภาพมารีวิวเล็กๆน้อยๆให้ทุกคนได้ดูกันด้วยค่ะ ตัวไลน์อาหารมีให้เลือกทั้งอาหารไทย หรือเป็นฟีล Breakfast เบาๆก็มี ส่วนตัวเราชอบติ่มซำ กับชาร้อน ได้ฟีลที่แตกต่างออกไปจากชีวิตประจำวันเราดีค่ะ โดยรวมแล้วเราประทับใจสุดๆ ยิ่งได้ราคาที่ถูกลงจากการจองผ่านแอป Klook แล้วยิ่งปลื้มปิติไปอี๊กกกก ราคาดี ที่พักจึ้ง รูปสุดปั๊วะ มันเลิศ! มาค่ะทุกคน มาหาทำกันพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-ขั้นตอนและวิธีการจองที่พัก VERSO Hua Hinไปที่หน้าโรงแรม และที่พัก และเลือกโรงแรมที่ต้องการเข้าพัก VERSO Hua Hin - a Veranda Collectionเลือกวันที่พัก และจำนวนห้องพักเลือกห้องพักที่ต้องการเข้าพักกรอกข้อมูล รายละเอียดการจองหากมีรหัสโปรโมชั่นส่วนลดสามารถกดเลือกใช้ และกด “ดำเนินการชำระเงิน”แผนที่ : Vana Nava Hua HinVana Nava Hua Hin - สวนน้ำวานา นาวา เป็นสวนน้ำที่ได้รับการออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติและถูกสร้างภายใต้แนวความคิด “วอเตอร์ จังเกิ้ล” แห่งแรกในเอเชีย บัตรเข้าสวนน้ำครั้งนี้เราก็ จองผ่านแอป Klook ในแพ็คเกจ บัตรเข้าสวนน้ำ (บัตรเข้าสวนน้ำ+VR Slide ไม่จำกัด+ล็อกเกอร์+ผ้าเช็ดตัว) ทำให้เราสะดวกสุดๆ แค่กดใช้เวาเชอร์ก็ได้รับแท็ก RFID สำหรับเข้าสวนน้ำ(สีน้ำเงิน) ใช้ล็อกเกอร์ และ เล่นVR Slide(สีเหลือง) และผ้าขนหนูค่ะVR (Virtual Reality) เป็นการผสมผสานกับการเล่นสไลเดอร์น้ำให้สนุกและสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยจะมีแว่น VR และห่วงยางสีชมพู เล่นกับเครื่องเล่น Master Blaster สไลเดอร์สีเหลือง ตัวเรื่องราวใน VR มีให้เลือกทั้งหมด 3 ธีมด้วยกันGalaxy Voyage ออกตะลุยอวกาศ กับเหล่าเอเลี่ยนจากต่างดาวSnow World เป็นอาณาจักรในโลกที่มีแต่หิมะ Mysterious Jungle ผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ ในป่าพิศวง เราเลือกเล่นทุกธีมเลย ความรู้สึกสำหรับเราคือทำให้รู้สึกตื่นเต้นและเร้าใจมากขึ้นจริงๆ เรากับแฟนเล่นกันเต็มอิ่มสุดๆ เดินวนเล่นหลายรอบมาก แนะนำเลยค่ะ แพ็คเกจนี้เลิศ!เล่น VR กันเสร็จก็มาชิลๆตรง โซนฟิชเชอร์แมนส์ทาเวิร์น แอบเสียดายคนเยอะไปหน่อย เลยไม่ค่อยได้เก็บรูปมาฝาก แต่อยากจะบอกว่าชิลดีมากๆเลยค่ะโซนนี้ เราสามารถสั่งเครื่องดื่มตรงบาร์ด้านหลังได้ด้วยนะ ขั้นตอนและวิธีการจองสวนน้ำ Vana Nava Hua Hinไปที่หน้ากิจกรรม และเลือกกิจกรรมที่ต้องการเลือกวันใช้บริการ เลือกแพ็กเกจ และจำนวนบัตรกรอกข้อมูลการติดต่อหากมีรหัสโปรโมชั่นส่วนลดสามารถกดเลือกใช้ และกด “ดำเนินการชำระเงิน”เวลาทำการ : วันจันทร์-วันอาทิตย์: 11:00-17:00 น.แผนที่ : นอกจากบริการจองที่พัก และกิจกรรมต่างๆแล้ว อย่างที่บอกว่าถ้าใครไปเที่ยวต่างจังหวัด อยากจะหาเช่ารถขับไปเอง ทางKlook เค้าก็มีบริการนี้อยู่ ครบมากๆ และที่สำคัญจองง่าย ราคาแพ็กเกจก็ดีงามสุดๆค่ะขั้นตอนวิธีการจองรถเช่า Car Rentalsไปที่หน้ารถเช่าและรถรับส่งเลือก เช่ารถภายในประเทศ , สถานที่รับและส่งคืนรถ สามารถเลือกได้ว่าต้องการส่งรถคืนที่เดิมหรือไม่ , วันที่และเวลารับรถ ,วันที่และเวลาส่งคืนรถ เลือกประเภทและรุ่นรถยนต์กรอกข้อมูลผู้ขับขี่หากมีรหัสโปรโมชั่นส่วนลดสามารถกดเลือกใช้ และกด “ดำเนินการชำระเงิน”ภาพทั้งหมดจาก thisisstang : ของนักเขียนเองฝากกดติดตาม Page FB : เย็นนี้กินไรดี : เป็นเพจของนักเขียนเองวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
thisisstang • 8 ก.ย. 65
อ่าน
ชมวิว มหานคร สกายวอล์ค (Mahanakhon SkyWalk)ในกรุงเทพฯ ในราคาดี จองง่าย ได้ที่ klook
วันนี้ผู้เขียนขอพาไปชมวิวที่ มหานคร สกายวอร์ค จุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม และทันสมัยในใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ที่ อาคาร คิงเพาเวอร์ มหานคร ใครที่ชอบการชมวิวสูงเห็นทั้งเมืองแบบนี้ ห้ามพลาดที่นี่นะ และตอนนี้ผู้เขียนอยากบอกว่า ทาง klook มีราคาที่ดีต่อใจ มาให้ด้วย สำหรับการจองบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอร์ค(Mahanakhon SkyWalk) สามารถจอง ผ่านทาง klook Application หรือ ทาง Website ได้เลย ขั้นตอนการจองง่ายมากค่ะพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.- ในการเข้าชม มหานคร สกายวอร์ค (Mahanakhon SkyWalk) ในกรุงเทพฯ ของผู้เขียน ได้ทำการซื้อบัตรผ่านทาง klook (คลูก) โดยมีขั้นตอนการจองง่ายๆ ดังนี้ขั้นตอนที่ 1 : log in บนเว็บไซต์ klook หรือ Application klookขั้นตอนที่ 2 : ไปที่หน้ากิจกรรม ‘บัตรเข้าชม มหานคร สกายวอร์ค’ขั้นตอนที่ 3 : เลือกวันที่ต้องการใช้บริการขั้นตอนที่ 4 : เลือกประเภทแพ็กเกจ[บัตรเข้าชม มหานคร สกายวอล์ค ภายในอาคารและชั้นดาดฟ้า+คูปองเงินสดมูลค่า 200 บาท] และเลือกจำนวนคน จากนั้น กด ‘จองตองนี้’ขั้นตอนที่ 5 : เพิ่มข้อมูลการติดต่อให้ถูกต้องและครบถ้วนขั้นตอนที่ 6 : ขั้นตอนนี้ ถ้าใครมีรหัสโปรโมชั่นอื่นๆ ที่เข้าร่วม สามารถกรอกที่ช่อง รหัสโปรโมชั่น และ กด ดำเนินการต่อ ขั้นตอนที่ 7 : การชำระเงิน สามารถเลือกวิธีการชำระ (ในรูปภาพ) ตามที่สะดวกได้เลยขั้นตอนที่ 8 : เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะได้ตั๋ว E-voucher ดูได้ทาง อีเมล หรือ บัญชีของเราในแอปพลิเคชั่นตึกคิงเพาเวอร์ มหานคร บริเวณด้านหน้าและทางเข้าตึกค่ะ ทางผู้เขียน มารถยนต์ส่วนตัว จอดรถไว้ที่ ตึกมหานครคิวบ์ สำหรับการนำรถยนต์ส่วนตัวมา มีที่จอดรถให้ และจอดรถฟรี 4 ชม. จุดแลก E-voucher จาก klook เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ต้องไปแลกตั๋ว E-voucher จากทาง klook เป็นตั๋วบัตรแข็ง ก่อนนะคะ (ตั๋วที่ได้จะตรงตามกับที่ทางเราจองเลยค่ะ)จุดบริการถ่ายรูป ได้ตั๋วบัตรแข็งมาแล้ว ได้เวลาขึ้นไปชมวิวกันแล้วค่ะ แต่ก่อนที่จะเดินไปลิฟต์ จะมีบริการถ่ายรูปให้ค่ะ ได้ทั้งหมด 3 แอค 4 ฉาก ซึ่งแบบที่ได้จะเป็นวิวตึก คิงเพาเวอร์ มหานครภาพจากทางพนักงานบริการถ่ายรูป Set รูปถ่ายที่ได้มา ราคาทั้งหมด 400 บาท จะได้รับต่อเมื่อเราชมวิวด้านบนและลงมาด้านล่างเรียบร้อยแล้วค่ะ (สำหรับใครที่สนใจอยากเก็บภาพสวยๆใช้บริการการถ่ายรูปได้เลย) ลิฟต์ที่พาเราขึ้นมา ภายในตัวลิฟต์จะแสดงกราฟฟิกวีดีโอ ตึกคิงเพาเวอร์ มหานคร ที่ไฮเทค (คนเต็มลิฟต์ถ่ายภาพมาได้เท่านี้จริงๆ 555)มุมถ่ายรูป ชั้น 74 จากนั้นลิฟต์ จะพาเราขึ้นมาชั้น 74 เร็วมากๆ ซึ่งชั้นนี้เป็นการชมวิวเมืองกรุงเทพฯ แบบ in door มีมุมถ่ายรูปที่อาร์ตๆ ชอบมุมนี้มาก และยังสามารถเดินดูได้ รอบชั้นเลยค่ะร้านขายของที่ระลึก ชั้น 74 เมื่อเราถ่ายรูปชั้น 74 กันหนำใจแล้ว จากนั้นจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 78 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดและชมวิวแบบ out door กันบันไดทางขึ้นไปชั้น 78 เพื่อชมวิวแบบ out door 360 องศาเดินเล่นชมวิวบนพื้นกระจกลอยฟ้า มาถึงชั้นนี้แล้ว สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คือ การลงไปชมวิวเบื้องล่างแบบไม่มีอะไรบังสายตา ผ่านกระจกนิรภัยขนาดใหญ่ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ขึ้นมาแล้วต้องกล้าไปยืนบนกระจกนะทุกคน 555อัฒจันทร์ ที่อยู่ชั้น 78 ขึ้นไปชั้นสูงสุดทั้งที ไปนั่งชมวิว 360 องศา บนอัฒจันทร์กันสักหน่อย แต่ช่วงที่ผู้เขียนไป อาจจะร้อนไปบ้าง แต่วิวตรงหน้าก็ทำให้ทนร้อนได้อยู่นะ สีอัฒจันทร์สดใสแบบนี้ ทำให้รูปที่ได้มาสดใสไปตามกันรูฟท็อปบาร์ บนชั้น 78 ด้านบนจะมีบาร์ด้วยค่ะ ใครที่ชอบเครื่องดื่มสไตล์นี้ ก็จัดไป ส่วนผู้เขียน ขอเป็นสายถ่ายรูปกับบาร์แทนดีกว่า บาร์น่ารักสดใสมากๆมุมถ่ายรูปอื่นๆบนชั้น 78 เดินวนรอบๆแล้ว จะว่าไปก็มีมุมถ่ายรูปเล่นเรื่อยๆนะ ใครที่ขึ้นไปแล้ว ก็เดินถ่ายไปเลยรอบชั้น ถ่ายรูปออกมาแล้ว ได้วิวดีๆเป็นฉากอย่างถูกใจเลย หลังจากถ่ายครบทุกมุม ทุกวิวบนชั้น 78 แล้ว เราก็ลงไปข้างล่างกันค่ะ ลิฟต์จะพาลงมา และเจอกับเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำภาพที่ปริ้นออกมาแล้ว มาให้เราค่ะ (ภาพที่เราถ่ายก่อนขึ้นไปด้านบน ตัวอย่างรูปแสดงไว้ เนื้อหาข้างบนแล้วนะคะ) ราคา 400 บาท ส่วนใครสะสม postcard ก็ซื้อที่นี่ได้เลย ใบละ 20 บาท สินค้าอื่นๆก็มีขายนะ โซนที่ติดกัน เป็นโซนขายพวกเครื่องสำอางค์ ก่อนลงไปชั้นล่างก็มีให้แวะ shopping เพิ่มอีกด้วย ก่อนจะกลับบ้าน ผู้เขียนแวะไปใช้คูปองทานอาหาร 200 บาท ตามแพ็กเกจ ที่จองไป ที่ตึกคิวบ์ สามารถไปใช้ได้ทั้งที่งาน ไทย เทสต์ ฮับ มหานครหรือ มหานคร อีทเทอรี่ โดยผู้เขียนใช้บริการที่โซนอาหาร ไทย เทสต์ ฮับ ค่ะอาหารที่ ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร จานใหญ่มาก ตามราคาแหละ 555 รสชาติก็โอเคอยู่นะ แต่จานใหญ่จนกินไม่หมดเลยทุกคน สำหรับใครที่อ่านรีวิวจบแล้ว อยากขึ้นไปชมวิวบนตึก คิงเพาเวอร์มหานคร สามารถจองบัตรเข้าชมง่ายๆได้ที่ เว็บไซต์ klook หรือ แอปพลิเคชั่น klook ตอนนี้ได้เลยจ้า มหานคร สกายวอร์ค (Mahanakhon SkyWalk)⏰: ทุกวัน เวลา 10.00-19.00น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 18.30 น.)🚘: มีที่จอดรถ ฟรี 4 ชม.พิกัด : เครดิตรูปภาพปกบางส่วน(ที่เป็นรูปขนาดใหญ่) และภาพที่ 10 : โดย Kingpowermahanakhonเครดิตรูปภาพปก(ขนาดเล็ก) : โดยผู้เขียนตกแต่งภาพปก : Canva Applicationรูปภาพที่เหลือและรีวิว : โดยผู้เขียน (ig : life.ilike) #รีวิว #มหานครสกายวอล์ค #MahanakhonskyWalk #ตึกคิงเพาเวอร์ #เที่ยวกรุงเทพฯ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Natpromise • 25 ส.ค. 65
อ่าน
ชวนเที่ยวสวนสัตว์ ซาฟารีเวิลด์ Safari World ซื้อบัตรผ่าน Klook สะดวก ง่าย ได้ส่วนลด!
เที่ยวซาฟารีเวิลด์ Safari World สวนสัตว์เปิดในกรุงเทพ ชมโชว์สัตว์แสนรู้น่ารัก ป้อนอาหารสัตว์ ถ่ายรูป ครบใน 1 วัน ส่องดูราคาพิเศษ ที่ klook จ่ายเพียง 750 บาท เข้าได้ทั้ง 2 โซน ทั้งมารีนปาร์คและซาฟารีปาร์ค คุ้มสุดๆพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.-เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.-เราเป็นคนชอบเที่ยวสวนสัตว์อยู่แล้ว แต่ซาฟารีเวิลด์ Safari World เป็นที่เดียวที่ไม่เคยไปเลย โชคดีเลื่อนหาดีลท่องเที่ยวในแอป klook มีเปิดให้จองตั๋วซาฟารีเวิลด์ในราคาคุ้มๆ เลยลองอ่านรายละเอียดดู เราเคยใช้งานแอป klook แล้ว ก่อนหน้าโควิดเวลาไปต่างประเทศเค้าจะชอบมีดีลดีๆ ตลอด พวกตั๋วสถานที่ท่องเที่ยวนี่ราคาดีเลย ถูกกว่าหน้าเคาน์เตอร์มาก จนถึงตอนนี้เค้ามีดีลสถานที่รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ในไทยแล้วนะ แนะนำให้โหลดติดเครื่องไว้ จะไปเที่ยวไหน ทานอะไร ลองกดหาดูในแอปก่อน ใช้ง่าย สะดวกดี ประหยัดด้วย ชี้เป้าวิธีการจองบัตรเข้าซาฟารีเวิลด์ Safari World ได้ราคาพิเศษผ่าน klook คลิก — บัตรเข้าชมสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ในกรุงเทพฯดาวน์โหลดแอป klook ได้ที่ — iOS / Androidเว็บไซต์ klook.com — คลิกล็อคอินให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็กดเลือกแพ็กเกจที่ต้องการได้เลยเลือกวัน และจำนวนที่ต้องการ พอชำระเงินเรียบร้อยแล้ว แล้วเราก็จะได้รับเมลคอนเฟิร์มการจองทันที เป็นอันว่าเรียบร้อย สะดวกสุดๆ พอไปถึงแล้วก็โชว์ Voucher นี้ที่ห้องสำหรับสมาชิกได้เลย ไม่ต้องไปเบียดคนหรือเข้าคิวตรงเคาน์เตอร์ปกติให้เสียเวลา มาเริ่มกันเลย เราจะพาเที่ยวแบบแยกส่วนละกัน เพราะตอนแรกได้ยินว่ามีทั้งมารีนปาร์ค ซาฟารีปาร์ค คนไม่เคยไปอย่างเราก็จะงงๆ หน่อย คร่าวๆ คือ ซาฟารีปาร์คเป็นส่วนของสวนสัตว์เปิด ขับรถเข้าไปอย่างเดียวไม่ต้องเดิน ส่วนมารีนปาร์คจะเป็นสวนสัตว์แบบทั่วไป ส่วนของการแสดง สัตว์ที่โชว์อยู่ในกรง ร้านอาหาร ซุ้มเกม ฯลฯ จะอยู่ในส่วนมารีนปาร์คทั้งหมดทางเข้าจะมี 2 ฝั่งแบบนี้ และด้านหน้าก็มีขายบัตรแบบแยกด้วย สำหรับคนที่อยากเข้าแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ซื้อบัตรเฉพาะส่วนนั้นได้ แต่บัตรเข้าซาฟารีเวิลด์ที่เราซื้อจาก klook ในราคา 750 บาท เข้าได้ทั้งสองส่วนเลย จะเข้าอันไหนก่อนหลังก็ได้ แต่ต้องเอา voucher ไปโชว์ในห้องสมาชิก ให้เค้าออกบัตรกระดาษมาให้ก่อนนะจอดรถแล้วไม่ต้องไปยืนออรอคิวที่หน้าเคาน์เตอร์ขายบัตร เดินเข้ามาเลยก็จะเจอห้องสมาชิกอยู่ทางซ้ายมือ เอา Voucher ที่มี QR Code ไปสแกนแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ได้ทันทีได้บัตรเข้าซาฟารีเวิลด์กระดาษมาแบบนี้ เป็นอันว่าเรียบร้อยยยเราเลือกเข้าไปในส่วนของมารีนปาร์คก่อน (อันนี้ถ้าอยากจะออกมา แล้วค่อยเข้าไปใหม่ภายในวันเดียวกัน แจ้งเจ้าหน้าที่ได้นะ เค้าแสตมป์ข้อมือให้ เราจะกลับเข้าไปใหม่ได้) ตรงนี้เป็นด้านหน้า ข้างในกว้างมากๆ ดูจากแผนที่ในโซนมารีนปาร์ค เอาแค่เดินให้ทั่วก็ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงได้เลยตารางเวลาสำหรับการแสดงของสัตว์ชนิดต่างๆ และการแสดงแอคชั่น ตรงนี้เข้าชมได้ฟรีทุกโชว์ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หลังจากนี้เราก็เริ่มเดินชมน้องๆ สัตว์ชนิดต่างๆ กันเล้ย ^_^ เค้ามีหลายโซนมาก ป่าดงดิบนกเงือก ตรงนี้เค้าทำเป็นทางเดินเฉพาะ แล้วนกเงือกก็จะอยู่ในกรงข้างทาง มีหลายสายพันธุ์นะ น้องสีสวยมากเลยLemuria โซนของลิง และลีเมอร์ต่างๆ เค้าทำทางให้น้องปีนข้ามไปมาได้ด้วยนะ น้องไม่กลัวคน ปีนเล่นกันสนุกสนานเลยเสือดาว น้องดูแข็งแรงปราดเปรียวมากกก ตอนแรกเราไปนั่งชิดกรงเลย ปรากฏว่าน้องย่อตัวไปข้างหลังแล้วกระโจนใส่ 555+ ไวมากกกกศาลาเลี้ยงยีราฟ ส่วนที่เราชอบที่สุดเลย บนนี้วิวสวยมากแบบมากๆ ถ่ายรูปได้ แล้วก็มีอาหารให้ป้อนยีราฟด้วยนะ ด้านล่างที่มองเห็นจะเป็นส่วนของซาฟารีปาร์คที่เราจะขับรถเข้าไปดูกันอีกทีด้วยชอบมากกก เลยซื้ออาหารป้อนน้องไป 1 ถัง น้องมารอกินกันเต็มเลย ^^วอลรัส น้องน่ารักมากกกกก แถมฉลาดมากๆ พี่ที่ดูแลสั่งให้นั่งไหว้ ตบมือ ก็ทำได้หมด เอ็นดูน้องงง มีวอลรัสทั้งหมด 4 ตัวนะตรงนี้นกแก้วมาคอว์และโซนนก โอเค…ความเจี๊ยวจ๊าวทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว 5555+ นกแก้วมาคอว์สีสวยสด อยู่ในกรงใหญ่ เวลาร้องทีนี่เสียงดังไปทั่วแมนนาที หรือพะยูนหางกลม หรือที่คนชอบเรียกว่าวัวทะเลนั่นเอง มีอยู่ที่นี่เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยด้วยนะ! มาเที่ยวซาฟารีเวิลด์แล้วแวะมาหาน้องด้วยยย อ้วนกลมน่ารักจริงๆนกฟลามิงโก้สีชมพู อยู่กันเป็นฝูงเลยนอกจากสัตว์ที่อยู่ในกรงแล้ว สัตว์ที่เราเข้าไปป้อนอาหารและถ่ายรูปได้ ก็เช่น ช้าง จิงโจ้ อูฐ คาปิบาราอยู่ข้างนอกก็มองเห็น แต่ถ้าอยากเข้าไปใกล้ๆ จับตัวน้องหรือถ่ายรูปข้างๆ ก็ซื้ออาหารป้อนน้องได้ในราคาชนิดละ 100 บาทจ้าตรงนี้เป็นโซนของนกซันคอนัวร์ เสียค่าอาหารนก 50 บาทแล้วเข้าไปป้อนนกได้เลยร้านอาหารด้านในมีบางส่วนที่ปิดอยู่ มีร้านขายเครื่องดื่มและขนมด้วย ราคาทุกร้านพอๆ กัน เริ่มต้นเฉลี่ยแล้วประมาณ 100 บาทขึ้นไป มีซุ้มเกมนิดหน่อย เผื่อใครอยากลองเล่นชิงรางวัล ได้เวลาแล้ว เรากลับไปที่รถ เพื่อจะไปในส่วนของซาฟารีปาร์คกัน ทางวนรถไม่ยาก มีป้ายบอกตลอดห้ามเปิดกระจกหรือประตู ห้ามลงจากรถเด็ดขาด ขับช้าๆ ระวังสัตว์ที่เดินไปมาด้วยเริ่มจากตรงนี้ ค่อยๆ ขับไปตามทาง มันคือพื้นที่กว้างๆ ที่เราเห็นตอนไปให้อาหารยีราฟนั่นเอง มีทั้งม้าลาย ยีราฟ นกกาบบัว นกกระเรียน ฯลฯ ชอบตรงไหนจอดชิดขอบทางไว้แล้วถ่ายรูปได้ ขับช้าๆ นะ!บางทีน้องก็มาเดินข้างๆ บางทีก็มาเดินข้ามถนนเฉย ต้องระวังและจอดรอจนกว่าน้องจะเดินผ่านไปเองบอกตามตรงเราคิดว่ามีแค่นี้แหละ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ออกละ แต่คิดผิดจ้า 55555+ ขับต่อไปได้อีกไกล เจอหลายส่วนมาก และก็จะมีป้ายคอยบอกตลอดว่าสัตว์ในโซนนั้นๆ คืออะไรบ้างเข้ามาในโซนของกวางแล้ว มองจากฝั่งมารีนปาร์คไม่เห็นแล้วนะตรงนี้ น้องคนนี้น่ารักมากเลย มายืนข้างๆ หันหน้ามามองด้วย ^___^ถัดจากน้องกวางแสนน่ารัก นกที่อยู่ทั่วไปหมด กับควายสุดเท่แล้ว มาต่อกันที่โซนสัตว์อันตราย จะเป็นประตูไฟฟ้าบานใหญ่มากๆ เพื่อความปลอดภัย ถ้าไปถึงแล้วประตูยังไม่เปิดก็จอดรอสักครู่นะ แน่นอนว่าในโซนสัตว์อันตราย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และจอดรถ (ลายซาฟารี) อยู่ในบริเวณใกล้ๆ ตลอด ก็ต้องย้ำอีกครั้งว่าห้ามลงจากรถ ห้ามเปิดกระจกหรือประตูเด็ดขาดเลย ขับช้าๆ ถ้ารถเสียให้บีบแตร แล้วเจ้าหน้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนนี้กว้างมากๆ ขับเข้ามาลึกเหมือนกันกว่าจะเจอ และเค้าแยกสัตว์แต่ละชนิดด้วย ไม่ใช่ทุกชนิดอยู่รวมกันนะสัตว์อันตรายตัวแรกที่เจอก่อนใครเลย ก็คือฝูงสิงโต! น้องไม่ได้อยู่ในคอกกั้นใดๆ อาศัยอยู่อย่างอิสระเลยถัดมาเป็นเสือเบงกอล มันวิ่งอยู่ข้างนอกรถนี่เองงงง O_O ไม่มีรั้วกั้นด้วย ใกล้มาก!! ตื่นเต้นสุดดดดต่อจากเสือจะมีฮิปโปด้วย แต่เราถ่ายรูปไม่ได้ น้องอยู่ในบ่อน้ำไกลหน่อย ^^” เห็นตอนที่โผล่ขึ้นมาแวบนึงน้องตัวใหญ่มาก และโซนสุดท้ายจะเป็นหมี จบโซนสัตว์อันตรายตรงนี้ก็วนออกได้เลยสรุปว่าเป็นทริปที่ประทับใจ เอาจริงๆ ทีแรกเราแอบคิดว่าค่ากิจกรรมในซาฟารีเวิลด์นับว่าแพงนะ ไหนจะอาหารเครื่องดื่ม ไอติม ก็สตาร์ทประมาณ 100 บาทแล้ว ป้อนอาหารสัตว์ก็ชนิดละ 100 บาท ล่องเรือริเวอร์ไวล์คนละ 230 บาท แม้แต่ถ่ายรูปกับสัตว์แต่ละชนิดก็ตัวละ 100 บาทต่อคนแน่ะแต่พอขับรถออกมาก็เข้าใจได้ เหตุผลที่ค่าบัตรแต่ละอย่างค่อนข้างสูง เพราะสวนสัตว์ก็มีต้นทุนที่สูงเหมือนกัน และสัตว์แต่ละชนิดเท่าที่เห็นก็ได้รับการดูแลอย่างดี อ้วนท้วนสมบูรณ์ เราไปคุยกับพี่เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลวอลรัส เค้าเล่าให้ฟังว่าในแต่ละวัน วอลรัส 1 ตัวต้องกินอาหาร 4 มื้อ มื้อละ 10 กิโลกรัม! แล้วเค้ามี 4 ตัว ต้องกินปลาทั้งหมดวันละ160 กิโลกรัม!!! โอ้โหหหห! นี่แค่วอลรัสอย่างเดียวนะเนี่ย!! เราแอบส่องดูในถังอาหารที่เค้าป้อนน้องด้วย ปลาที่ให้เป็นอาหารของวอลรัสก็สด อาหารในกรงของพวกนก ลิง ฯลฯ ก็ดูใหม่ สถานที่ถึงแม้จะเปิดมาตั้งแต่ปี 2531 แต่ก็สะอาดสะอ้าน มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด ที่เรารู้สึกดีก็คือชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ต่างๆ ดูดี อาหารที่ให้น้องก็สด ดูใหม่และสะอาด ปริมาณมากเพียงพอ ไม่มีแมลงไต่ตอม ไม่ใช่อาหารเก่าๆ ที่ถูกทิ้งไว้จนเน่าเหม็นคากรง สัตว์ดูแข็งแรง ไม่เซื่องซึม ตามตัวตามขนก็สะอาดปกติไม่มีแผล และที่สำคัญสภาพในกรงก็สะอาด ไม่มีสิ่งปฏิกูล สัตว์ที่อยู่ในบ่อน้ำ น้ำก็สะอาด ใส ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือตะไคร่เกรอะกรัง เห็นแล้วก็รู้ว่าเค้าดูแลอย่างดีจริงๆ นั่นแหละดังนั้นค่าบัตร 750 บาทที่จ่ายไป เราถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคาสุดๆ ถ้าอยากสนับสนุนทางสวนสัตว์เพิ่มด้วยการถ่ายรูปหรือป้อนอาหารน้องๆ ก็ถือว่าโอเค เพราะน้องก็ได้กิน สวนสัตว์ก็ได้ค่าอาหารน้องเพิ่ม เราก็ได้รูปสวยๆ ลงโซเชียลเป็นที่ระลึกด้วย ไม่ติดเลยใครหาที่เที่ยว 1 วัน แบบ One Day Trip ในกรุงเทพฯ ขับรถใกล้ๆ ใช้เวลาทั้งวันแบบสบายๆ แนะนำที่นี่เลย ซาฟารีเวิลด์ Safari World จะมากับเพื่อน กับแฟน กับครอบครัวก็แฮปปี้ หรือจะพาเด็กๆ มาเที่ยวก็รับรองสนุก ได้ประสบการณ์ดีๆ กลับไปทุกคนแน่นอนจ้า ^_^พิกัด :ซาฟารีเวิลด์ Safari World99 ถนนปัญญาอินทรา เขตคลองสามวา กรุงเทพ 10510 วันเวลาทำการ :วันอังคาร - ศุกร์ 09.00 น. - 17.00 น.วันเสาร์ - อาทิตย์ 09.00 น. - 17.30 น.ปิดวันจันทร์ เบอร์ติดต่อ : 025181000Google Map : คลิก เว็บไซต์ : ซาฟารีเวิลด์เพจ Facebook : Safari WorldLine Official : SafariWorld Official จองบัตรเข้าซาฟารีเวิลด์ Safari World ได้ราคาพิเศษผ่าน klook คลิก — บัตรเข้าชมสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ในกรุงเทพฯ ดาวน์โหลดแอป klook ได้ที่ — iOS / Androidเว็บไซต์ klook.com — คลิก*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565
Kaew • 3 ส.ค. 65
อ่าน
พาชมวิว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ จองง่าย โปรเลิศที่ klook
พาชมวิว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ จองง่าย โปรเลิศที่ klookเพื่อน ๆ คนไหนมีความใฝ่ฝันที่อยากจะขึ้นไปชมวิวมุมสูง บนตึกสูงเสียดฟ้ากลางมหานครกรุงเทพฯ กันบ้างคะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมวิว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ จุดชมวิวที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมภาพบรรยากาศสวย ๆ มุมถ่ายภาพปัง ๆ ในราคาที่ต้องบอกเลยว่า "จองง่ายมาก" และที่สำคัญ "โปรเลิศ" ใคร ๆ ก็สามารถขึ้นไปฟูลฟีลฮีลใจบนนั้นได้ ตามเรามาดูกันเลยว่า มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk อยู่ที่ไหนของกรุงเทพฯ ,เดินทางอย่างไร, ค่าเข้าเท่าไหร่, จองผ่านแอปพลิเคชันไหนได้ราคาพิเศษ บริการดี คุ้มค่า และโปรโมชั่นดีที่สุด ถ้าอยากรู้ต้องอ่านบทความนี้เลยค่ะเพราะเราอัปเดตมาให้คุณแล้ววันนี้พวกเราเลือกเดินทางโดยใช้บริการซื้อตั๋ว ชมวิว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ จองง่าย โปรเลิศที่ klook (คลูก) แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ยอดนิยม ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในเรื่องของการท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยภายในแอปพลิเคชันนี้จะรวบรวมบริการท่องเที่ยว และแพ็กเกจปัง ๆ ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแพ็กแกจทัวร์ รถเช่า การจองโรงแรมต่าง ๆ เอย ๆ โปรปัง ๆ เพียบ ที่สำคัญยังจองง่ายมากอีกด้วย เราใช้บริการจองบัตรชมวิว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ ผ่านแอปพลิเคชัน klook โดยเลือกใช้บริการและแพ็คเกจ [วันหยุดสุดสัปดาห์] แพ็กเกจมหานครฟู้ด (บัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ภายในอาคารและชั้นดาดฟ้า + คูปองเงินสดมูลค่า 200 บาท)ตามมาดูขั้นตอนการจองกันเลยจ้าพิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.- Step 1 : ล็อกอินบนเว็บไซต์ klookStep 2 : ไปที่หน้ากิจกรรม บัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์คStep 3 : เลือกวันที่ต้องการใช้บริการStep 4 : เลือกประเภทแพ็กเกจ [วันหยุดสุดสัปดาห์] แพ็กเกจมหานครฟู้ด (บัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค ภายในอาคารและชั้นดาดฟ้า + คูปองเงินสดมูลค่า 200 บาท)Step 5 : เลือกจำนวนStep 6 : กดจองตอนนี้ Step 7 : กรอกข้อมูลรายละเอียดการจอง *ขั้นตอนนี้ถ้าใครมีโค้ดโปรโมชั่นอื่น ๆ ที่เข้าร่วมรายการก็สามารถใส่ได้ในช่องกรอกรหัสโปรโมชั่นได้ค่ะ Step 8 : กด 'ดําเนินการชําระเงิน' วิธีการชำระเงิน มี 4 ช่องทาง ได้แก่TrueMoneyบัตรเครดิต/บัตรเดบิตPayPalAtomeเมื่อเสร็จขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เราจะได้ตั๋วในรูปแบบของ E-Voucher ซึ่งส่งเข้ามาที่อีเมลของเรา ในวันที่ไปเพื่อน ๆ สามารถติดต่อที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว และแสดง E-Voucher ให้เจ้าหน้าที่ดูเพื่อทำการออกตั๋วพร้อมรับคูปองเงินสดมูลค่า 200 บาทได้เลยค่ะ ใครที่นำรถมาสามารถประทับตราจอดรถฟรีได้ 4 ชั่วโมงตรงจุดนี้เลยนะก่อนพาเพื่อน ๆ ขึ้นไปชมวิวด้านบน ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ คร่าว ๆ สักนิดนะคะ คิง เพาเวอร์ มหานคร ตั้งอยู่ใจกลางมหานครกรุงเทพฯ เป็นตึกสูงรูปทรงทันสมัย มีรูปร่างที่ต่างจากตึกทั่วไป เปิดใช้เมื่อปี 2559 ได้รับการขึ้นอันดับให้เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2561 ซึ่งจุดที่เราจะพาไปชมวิวชื่อว่า มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk เป็นจุดสูงสุดด้านบน ประกอบด้วยหนึ่งในพื้นกระจกลอยฟ้าที่กว้างที่สุดในโลกที่ชั้น 78 และวิวแบบ 360 องศา ที่สามารถเห็นไปจนถึงเส้นขอบฟ้าของมหานครกรุงเทพตอนนี้เราก็พร้อมที่จะนำเพื่อน ๆ เข้าไปในตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร มหานครกันแล้วการชมวิวของเราในครั้งนี้ เริ่มจากการเดินเข้าไปในตัวตึกเพื่อแสดง E-Voucher จาก Klook ที่ได้รับในอีเมล เพื่อติดต่อรับบัตรที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วด้านซ้ายมือ โดยแพ็กเกจที่เราจองมาทางเจ้าหน้าที่จะออกตั๋วซึ่งเป็นบัตรแข็งให้เราถือขึ้นไปชมวิวคนละ 1 ใบ พร้อมกับคูปองอาหาร+เครื่องดื่มเงินสด มูลค่า 200 บาท เพื่อใช้ที่ Mahanakhon Eatery ตึกมหานครคิวบ์ ซึ่งอยู่อีกอาคารเมื่อเพื่อน ๆ ได้ตั๋วแล้วก็เดินตามเจ้าหน้าที่ไปที่จุดสแกนกระเป๋าได้เลยจ้า เราจะบอกว่ามาที่นี่รู้สึกอุ่นใจมาก เพราะเขามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและพาเดินไปยังทุกจุด เพื่อน ๆ ไม่ต้องกลัวหลงทางหรือไม่รู้ว่าจะไปต่อที่จุดไหนยังไงดีเลยนะ พอเราเดินผ่านจุดสแกนกระเป๋ามาแล้ว จะเจอกับจุดถ่ายภาพ ซึ่งในแพ็คเกจที่เราซื้อมาจะได้เป็นอัลบั้มภาพถ่ายที่ระลึกเก๋ ๆ หลังจากที่เราเดินลงมาจากสกายวอล์คแล้วด้วยจ้าจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่บริการถ่ายภาพให้เราพอกรุบกริบ แนะนำว่าห้ามกระพริบตาน๊าเดี๋ยวภาพออกมาไม่สวย เพราะเขาจะนำภาพเราไปใส่ลงแบ็คกราวน์ที่เป็นวิวตึกและมุมสวย ๆ เพื่อทำอัลบั้มให้เราเป็นที่ระลึกจ้า พอถ่ายภาพเสร็จเขาก็จะนำเดินไปขึ้นลิฟต์ เปิดวาร์ปขึ้นไปชมวิวด้านบนกันต่อเลยจ้าไฮไลท์จุดที่ 1 ลิฟต์โดยสารสุดไฮเทค ที่จะช่วยให้เราเปิดประสบการณ์การขึ้นลิฟต์ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยลิฟต์นี้จะพาเราวาร์ปไปสู่ชั้น 74 ด้วยอัตราความเร็ว 50 วินาที ในขณะที่เราโดยสารภายในลิฟต์ ทั้งห้องโดยสารจะฉายภาพกราฟฟิกบนจอ LED แสดงแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจได้อย่างสุดล้ำบนผนังทั้ง 4 ด้านแบบเต็มพื้นที่หลังจากลิฟต์เริ่มเคลื่อนตัว (มีคลิปด้านล่างบทความจ้า) ไฮไลท์จุดที่ 2 จุดชมวิวแบบ indoor ตื่นเต้นได้แป๊บเดียว ลิฟต์ก็พาพวกเราวาร์ปมายังชั้นที่ 74 ซึ่งเป็นจุดชมวิวแบบ indoor ซึ่งวิวสวยมาก เป็นการเริ่มต้นเตรียมความพร้อมรับความตื่นเต้น ที่กำลังจะทำให้แอนดรินารีนหลั่งแบบสูงสุดก่อนขึ้นไปยังสกายวอล์คด้านบน ซึ่งชั้นนี้ก็จะมีลิฟต์แก้วสุดหรูที่จะนำเราวาร์ปขึ้นไปชมความงามบนชั้นสูงสุด หรือใครจะเลือกทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเองโดยการเดินขึ้นบันไดวนเพื่อขึ้นไปสู่ด้านบนชั้น 78 แบบพวกเราก็ได้ ...หอบแฮ่กเลย ไฮไลท์จุดที่ 3 จุดชมวิวแบบ outdoor 360 องศา บอกเลยว่าจุดนี้มันคือความเป็นที่สุดที่พวกเราตามหา จุดชมวิวมุมสูงที่ช่วยให้พวกเรารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นจากวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา มองเห็นตึกสูงตระหง่านใหญ่น้อยสุดตา วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเรือเล็กใหญ่สัญจรไปมา ไปจนถึงถนนที่มีรถวิ่งขวักไขว่ จุดนี้น่าจะถูกใจคนชอบถ่ายรูปมาก ๆ เลยค่ะ จะชวนเพื่อนถ่ายรูปฟีลแฟน หรือจะยืนกางแขนจริตชะนีรักโลกก็ไม่ไหวจะปัง วิวอลังการมาก พวกเรานี่กดชัตเตอร์กันแบบรัว ๆ เลยอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนมาสัมผัสจุดนี้ด้วยกันค่ะ ไฮไลท์จุดที่ 4 รูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ใครที่กลัวว่าขึ้นมาด้านบนนี้แล้วจะไม่มีเครื่องดื่มแก้คอแห้งนะจ๊ะ ชั้นนี้มีรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยเปิดให้บริการอยู้จ้า ราคาไม่แพงเลยนะ สั่งแล้วยกมานั่งดื่มชมวิวสวย ๆ ที่เก้าอี้หน้าบาร์ได้เลย ชิลไปอีกกรุบไฮไลท์จุดที่ 5 พื้นกระจกลอยฟ้า (Glass Tray) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พื้นกระจกใสลอยฟ้าที่พร้อมท้าทายคนไม่กลัวความสูง ให้ลงไปสัมผัสถ่ายภาพกันแบบชิล ๆ บนพื้นกระจกใสขนาดประมาณ 63 ตารางเมตร โดยสิ่งที่อยู่เบื้องล่างเท้าของเรา ก็คือ ทิวทัศน์มุมสูงของกรุงเทพฯ ที่ความสูง 310 เมตร ที่จะทำให้เราใจสั่นกันเลยทีเดียว เพื่อน ๆ ที่จะเข้าไปบริเวณพื้นกระจก จะต้องสวม Cover shoe หรือผ้าคลุมรองเท้าทุกคน เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนกับพื้นกระจก และต้องทำตามกฏอย่างเคร่งครัด คือ ห้ามนำสัมภาระใด ๆ ติดตัวเข้าไปไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายภาพ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ เขามีชั้นวางของคอยให้บริการค่ะ ส่วนผู้ที่ต้องการถ่ายภาพอนุญาตให้ตากล้อง ยืนถ่ายภาพได้หลังเส้นที่กำหนดเอาไว้ไฮไลท์จุดที่ 6 อัฒจรรย์สูงเสียดฟ้า จุดนี้ คือจุดสูงสุดของตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ซึ่งอัฒจรรย์ถูกออกแบบเป็นพื้นที่ไล่ระดับลงมา บริเวณนี้จะมีเบาะรองนั่งสีเหลืองเรียงรายเป็นระเบียบ ให้เราได้นั่งชมวิวเอนหลังพิงกายแบบชิล ๆ ชมวิวเบื้องหน้าได้แบบผ่อนคลาย ก่อนจะเดินขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดที่เรียกว่า The Peak ซึ่งเป็นจุดชมวิวร้อยล้านและเป็นจุดที่สูงที่สุดของตึกแห่งนี้พวกเราใช้เวลาอยู่บน SkyWalk นานพอสมควรเพราะแพ็คเกจที่เราซื้อผ่าน klook ไม่มีการจำกัดเวลาการเข้าใช้บริการสถานที่ อยู่บนนั้นกันได้ยาว ๆ เลย ซึ่งการเดินทางมาแตะขอบฟ้าของมหานครกรุงเทพฯ ของพวกเราทริปนี้ ช่วยฟีลฟูลความรู้สึกและเปิดประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และสร้างความทรงจำดี ๆ ให้กับพวกเราอย่างมาก เป็นความสวย เสียว ที่ฟินจนอยากจะมาเช็คอินอีกหลาย ๆ ครั้งก่อนที่จะลงมายังชั้นล่าง เราสามารถลงมายังชั้น 74 เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึก หรือใช้บริการกล้องส่องทางไกลแบบซูม ๆ เพื่อมองดูวิวที่ไกลออกไปได้อีกด้วยนะ และเราสามารถใช้บริการลิฟต์เพื่อลงมายังด้านล่างได้จากชั้นนี้เลย หลังออกจากลิฟต์โดยสารจะเจอกับเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจุดนี้เราจะได้รับอัลบั้มภาพที่ระลึกพร้อมกับช็อตประทับใจที่เขาถ่ายให้เรา จากนั้นก็เดินตามทางที่เขากำหนดมาลงบันไดเลื่อนไปยังทางออก ซึ่งระหว่างทางเพื่อน ๆ ยังสามารถแวะช็อปปิ้งสินค้าในโซนคิง เพาเวอร์ ได้ด้วยนะก่อนกลับพวกเราแวะไปใช้คูปองอาหาร+เครื่องดื่มที่ Mahanakhon Eatery ตึกมหานครคิวบ์ โดยเลือกจิบกาแฟพร้อมครัวซองต์อุ่น ๆ ที่คาเฟ่ต์ด้านล่าง และทั้งหมดนี้ คือ รีวิว พาชมวิว มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalk กรุงเทพฯ จองง่าย โปรเลิศที่ klook แอปพลิเคชันที่ช่วยให้เราได้เที่ยวอย่างคุ้มค่าในราคาที่ปังเวอร์ เพื่อน ๆ ที่อยากมาสัมผัสกับโมเมนต์ดี ๆ อย่างพวกเราแนะนำให้มาช่วงเย็น ๆ นะคะ ประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไปอากาศด้านบนจะไม่ร้อน แถมยังสามารถนั่งชิลรอชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ด้วย และถ้ากำลังมองหาช่องทางการจองบัตรเข้าชมง่าย ๆ โปรปัง ๆ ราคาดี ๆ บริการดี ๆ แนะนำกดเข้าไปที่นี่เลยจ้า klook แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ#มหานครสกายวอล์ค #MahanakhonSkyWalk #kingpowerMahanakhon #Skywalk #Mahanakhon #จองตั๋วชมมหานครสกายวอล์ค #klook #จองตั๋วผ่านklook #อัปเดตตั๋วเข้าชมมหานครสกายวอล์ค #โปรปังบัตรชมมหานครสกายวอล์ค #ตึกสูงที่สุดในประเทศไทย #รูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย #พาชมวิวมหานครสกายวอล์ค #วิธีจองตั๋วผ่านklook https://www.tiktok.com/@dj.rtidreview/video/7123580934451957018?_t=8UEyvD49Knx_r=1มหานคร สกายวอล์ค Mahanakhon SkyWalkเวลาทำการเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 22.00 นาฬิกา (รอบสุดท้ายที่เปิดให้เข้า คือ 21.00 น.)เว็บไซต์kingpowermahanakhonที่ตั้งตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร 114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500วิธีการเดินทางนั่ง BTS ลงที่สถานีช่องนนทรี ทางออกหมายเลข 3รถส่วนตัว มีบริการที่จอดรถฟรี 4 ชั่วโมงพิกัด► Review / ภาพโดย :Owl Society ► ภาพปก และ ภาพที่ 11, 35 โดย : kingpowermahanakhon► ออกแบบปกและออกแบบภาพประกอบ : CANVA► Facebook : ดัดจริตติดรีวิว► Instagram : 25_oct_nana► tiktok : Owlsociety / ดัดจริตติดรีวิว *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565
𝓞𝔀𝓵 𝓼𝓸𝓬𝓲𝓮𝓽𝔂 • 2 ส.ค. 65
อ่าน
รีวิว เที่ยวสวนสนุก Dream World แบบ VIP ด้วยโปรโมชั่นดีๆ จาก Klook
ทุกคน จำได้ไหมว่าตัวเองได้ไปเที่ยวสวนสนุกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ สำหรับเรานานมากกกก นานจนแทบลืมไปแล้วว่าความสนุกสุดๆ เป็นยังไง จนได้มาเจอโปรโมชั่นจองบัตรเข้าสวนสนุก Dream World ผ่านทาง Klook ก็เลยทำให้นึกอยากจะกลับไปเที่ยวสวนสนุกอีกสักครั้ง ว่าแล้วก็ไม่รอช้า กดจองเลยดีกว่า!!!การจองบัตรผ่านเว็บ Klook เราจะได้ส่วนลดจากโปรโมชั่นดีๆ ให้เราเที่ยว Dream World แบบ VIP แถมวิธีจองก็ง่ายมาก เดี๋ยวเราจะรีวิวให้ดูว่าจองยังไงในตอนท้ายของบทความนะ พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.- เก็บโค้ดเลยที่นี้ คลิกเลยแต่ก่อนอื่น เราจะพาไปรีวิวในสวนสนุกก่อนดีกว่า มาดูกันค่ะว่าเดี๋ยวนี้ Dream World เป็นยังไง และมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราเดินทางไป Dream World ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งไปถึงแล้วหาที่จอดรถสบายมาก เพราะที่จอดรถกว้างขวางสุดๆ สำหรับใครที่อยากเล่นแบบเต็มอิ่ม แนะนำให้ไปตอนเช้าหน่อย เพราะ Dream World กว้างมาก ถ้าไปสายเดี๋ยวจะเที่ยวไม่ครบนะเราไปถึงสวนสนุกตอนประมาณ 11 โมงครึ่ง (นี่เช้าแล้ว?) ไปถึงก็เดินไปที่ห้องรับรองซึ่งอยู่ใกล้ๆ ส่วนจองตั๋วปกติ เพื่อรับบัตรคิว ซึ่งเป็นห้องรับรองสำหรับคนที่จองผ่านออนไลน์มาแล้ว นั่งรอในห้องแอร์เย็นๆ สวยๆ สักพักเขาก็เรียกให้ไปรับบัตรหลังจากได้บัตรมาแล้ว เราก็จะได้แถบกระดาษใส่ข้อมือ ซึ่งทำให้เรากลายเป็นนักท่องเที่ยว VIP ไปในทันที ฮ่าๆๆ เพราะกระดาษใส่ข้อมือนี้แหละ ที่จะเป็นเหมือนบัตรผ่านประตูเข้าไปเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างได้ตามที่เราต้องการในเมื่อพร้อมแล้ว เราก็ไปตะลุยสวนสนุก Dream World กันเลยจ้า!!!สิ่งแรกที่เห็นหลังจากผ่านประตูเข้าไป ก็คือบรรยากาศแห่งความสุขของสวนสนุก ที่เต็มไปด้วยรูปปั้นตัวการ์ตูนมากมาย และเดินมาสักพักก็พบกับตัวตลกโบโซ่ที่ยืนต้อนรับเราอย่างเป็นมิตรเครื่องเล่นแรกที่เราเล็งไว้ ก็คือ เคเบิ้ลคาร์ เพราะอยากเห็นภาพรวมของสวนสนุกก่อนว่ามีอะไรให้เราเล่นบ้าง เคเบิ้ลคาร์เป็นกระเช้าลอยฟ้า แม้จะเป็นคนกลัวความสูงนิดหน่อย ก็นั่งได้สบาย นั่งแล้วก็จะได้ชมวิวสวยๆ ถ่ายรูปเพลินๆ ได้เห็นบรรยากาศของสวนสนุกโดยรอบหลังจากนั้นก็ไปตะลุยดินแดนแห่งจินตนาการที่ Photopia ซึ่งมีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย เหมาะสำหรับคนที่อยากได้รูปเก๋ๆ เป็นที่ระลึก และไปถ่ายรูปกับสัตว์น่ารักๆ ที่มุม แอนิมอลฟาร์ม ด้วยพูดถึงเครื่องเล่นในสวนสนุก Dream World ที่นี่มีทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กๆ และเครื่องเล่นสำหรับผู้ใหญ่ ใครที่ชอบความท้าทาย ต้องจัดไป ทั้งไวกิ้งส์ เฮอริเคน สกายโคสเตอร์ ซูเปอร์สแปลช ฯลฯ ซึ่งถึงแม้จะดูน่าเสียวไส้ แต่เครื่องเล่นเหล่านี้ก็ปลอดภัยได้มาตรฐานนะ ส่วนใครเป็นสายซอฟท์แบบเรา อาจเลือกเล่นเครื่องเล่นเบาๆ อย่าง แกรนด์แคนยอน วิหคสายฟ้า หรือ รถไฟโมโนเรล ก็ได้เหมือนกันหลังจากเดินเที่ยวชมนั่นนี่อยู่สักพักก็ชักจะหิวข้าว ก็เลยต้องแวะหาของกินสักหน่อย ซึ่งตอนแรกเราก็แอบคิดว่าในดรีมเวิลด์ของกินจะราคาสูงไหมนะ แต่พอไปซื้อจริงๆ ก็ราคาไม่สูงเลย ดีงามมากไม่เอาเปรียบผู้บริโภค รสชาติก็โอเค อร่อยดีด้วยเมื่อท้องอิ่มแล้ว ก็ต้องลุยกันต่อที่ เมืองหิมะ คือจะบอกว่า ถ้ามาดรีมเวิลด์แล้วไม่ได้เข้าเมืองหิมะก็เหมือนมาไม่ถึง!!! และความที่เรามีบัตร VIP ที่จองผ่าน Klook ก็ทำให้เราเข้าเมืองหิมะได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใดกติกาการเข้าเมืองหิมะก็คือ เราต้องเซฟร่างกายของเราให้อบอุ่นค่ะ ดังนั้น ก่อนเข้าประตูเขาจะให้ถุงเท้าเรามาใส่ ให้ยืมเสื้อกันหนาว และรองเท้าสำหรับลุยหิมะด้วย เรียกว่าเราไม่ต้องเตรียมอะไรมาจากบ้านก็เข้าได้ (แต่แนะนำให้ใส่กางเกงขายาวมาก็ดีนะ) เอาละ! เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จสรรพก็เข้าไปด้านในได้เลยทุกคนคะ เมืองหิมะหนาวมาก! แต่ก็สนุกมาก! ในเมืองหิมะมีเครื่องเล่น เป็นสไลเดอร์หิมะด้วย เราสามารถไปต่อคิวเล่นได้เลย จะเล่นหลายๆ รอบก็ได้ ตอนลื่นไถลลงมาก้นกระเด้งดึ๋งๆ เป็นอะไรที่สนุกมาก ที่จริงเราอยากเล่นซ้ำหลายๆ รอบเลย แต่ทนความหนาวไม่ไหว ต้องขอจรลีหนีออกมาก่อนจ้า ออกจากเมืองหิมะมา ก็ได้เจอขบวนพาเหรดพอดี ก็เลยได้ยืนดูและถ่ายรูปเจ้าหญิงแสนสวย ดูเพลินจนแอบคิดว่า ถ้าเราเป็นเด็กๆ ที่นี่คงเป็นดินแดนแห่งความฝันและความสุขของเราแน่นอน จบจากขบวนพาเหรดก็เข้าไปดู 4D แอดเวนเจอร์ เป็นภาพยนตร์ 4 มิติสั้นๆ ตลก น่ารักดีและต่อด้วยห้อง เอเลี่ยน ซึ่งถ้าใครกลัวความมืด ก็ต้องมีหลอนกันบ้างแหละเล่นไปเล่นมา เดินเพลินๆ ก็แทบจะหมดวัน แต่ไม่เหนื่อยเลย เพราะสนุกมากๆ และโชคดีที่วันที่เราไป แดดไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ เลยชิลมากจริงๆ ค่ะสำหรับใครที่อยากไปเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์ ไปเที่ยวย้อนวัย สนุกกับเครื่องเล่น ในบรรยากาศแห่งความสุข เราแนะนำให้ไปนะ ได้พลังใจกลับมามากมาย และอย่างที่บอกว่า ถ้าอยากได้ราคาโปรโมชั่นที่ช่วยให้เราเที่ยวสนุกอย่างประหยัด ก็สามารถจองผ่านเว็บ Klook ได้ วิธีการจองบัตรด้านล่างนี้เลยจ้า ขั้นตอนแรกให้เข้าไปที่เว็บ Klook โดยคลิกที่ลิ้งก์นี้ได้เลย https://www.klook.com/th พอเข้าไปแล้วเราจะเห็นโปรโมชั่น กิจกรรมดีๆ มากมาย กระตุ้นต่อมความอยากเที่ยวของเราเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังเล็งหาที่เที่ยว พักผ่อนหย่อนใจแบบดีๆ เราว่าเว็บนี้ตอบโจทย์สุดๆ ลองแวะเข้าไปดูกันได้นะ แต่ถ้าใครอยากจะตรงเข้าไปจองบัตรสวนสนุก Dream World เลย เข้าทางลิงก์นี้เลยก็ได้ https://www.klook.com/th/activity/363-dream-world-bangkokพอเข้าไปแล้วก็จะเห็นหน้าตาประมาณนี้ เราก็เลื่อนลงมาด้านล่างจะเห็นปุ่มให้กดจองบัตร ซึ่งมีหลายแบบให้เราเลือก สำหรับเราเลือกแบบ [แพ็กเกจคอมโบ] บัตรดรีมเวิลด์วีซ่า + บัตรเข้าเมืองหิมะ พอกดคลิกประเภทที่เราอยากได้แล้ว เราก็กดเลือกวันที่ที่เราจะไป และกดจำนวนคนที่จะไปด้วยกัน หลังจากนั้นระบบก็จะขึ้นราคาบัตรที่หักส่วนลดแล้วมาให้เราดู แล้วก็กดจองได้เลยพอกดจองแล้ว เขาก็จะให้เรากรอกข้อมูลต่างๆ ของเรา และก็ไปยังหน้าชำระเงิน เลือกวิธีการชำระเงิน กดปุ่ม "ดำเนินการต่อ" ก็เป็นอันเรียบร้อย หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ไฟล์ QR Code เพื่อใช้แสกนรับบัตรที่หน้าสวนสนุก เราก็แค่เซฟใส่โทรศัพท์เอาไว้ได้เลยจ้า พอถึงวันไปเที่ยว เราก็ยื่นให้พนักงานสแกน ง่ายมากๆ ไม่ต้องปริ้๊นท์ออกมาให้เปลืองกระดาษก็ได้นะแค่นี้เราก็ได้บัตรไปเที่ยวสวนสนุก Dream World ในราคาพิเศษ แถมไม่ต้องไปต่อคิวหน้างานอีกต่างหาก ลองดูนะ มันเริ่ดจริงๆ จ้าภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน (แอดมินเพจไปดีมาดี)https://www.facebook.com/pideemadeefanpage*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565
หวานน้อย • 27 ก.ค. 65
อ่าน
รีวิว 'สวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค' เล่นเครื่องเล่น สวนน้ำแบบจุใจ ด้วยโปรสุดคุ้มจาก Klook
สวัสดีค่า มีใครกำลังตามหาที่เที่ยวช่วงวันหยุดอยู่ไหมเอ่ย ต้องบอกเลยว่าถ้าใครกำลังอยากได้ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำเพียบ ต้องแนะนำให้มาเที่ยวที่ ‘สวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค’ เลยค่ะ! เพราะที่นี่ไม่เพียงเป็นสวนสนุกให้เราได้เล่นเครื่องเล่นอย่างหลากหลาย แต่ยังมีสวนน้ำขนาดใหญ่สุด Amazing ที่มีหลายโซนให้เราเล่นมาก ๆ คือถ้าใครอยากไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ได้เล่นน้ำเหมือนได้ไปชายทะเล ต้องแนะนำให้มาที่ สวนสยามอะเมซิ่งพาร์คเลย ยิ่งถ้าอยากได้บัตรเที่ยวราคาคุ้ม ๆ สบายกระเป๋า ต้องแนะนำให้จองผ่าน ‘Klook’ เลยค่ะ! ขอแนะนำก่อนว่า ‘Klook’ เป็นแอปที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวให้เราจองเยอะมาก ๆ และเป็นแอปที่มีดีลส่วนลด โปรโมชั่นสุดคุ้มด้านกิจกรรมและการท่องเที่ยวให้เยอะมากค่ะ ซึ่งวิธีการจองก็ง่ายมาก เพียงเข้าผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น Klook แล้วกดเลือกกิจกรรมที่เราต้องการ ทำการจอง แล้วจ่ายเงิน ก็จะได้ดีลสุดคุ้มราคาน่ารักมาอยู่ในมือแล้วค่ะ โดยเพื่อน ๆ สามารถทำตามขั้นตอนนี้เลยนะคะ พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.- เก็บโค้ดเลยที่ https://bit.ly/3b1QSZQ ขั้นตอนการจองดีล ‘เที่ยวสวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค’ แบบคุ้ม ๆ1.เข้าลิงก์เว็บไซต์ Klook หรือเข้าทางแอปพลิเคชั่น เพื่อทำการจอง https://bit.ly/3b1QSZQ จากนั้นให้กดเลือก ‘ตรวจสอบการใช้งาน’ เพื่อเลือกวันที่เราจะไปเที่ยว 2..กดเลือก ‘วันที่ต้องการไปเที่ยว’ เมื่อกดแล้ว จะเด้งไปที่หน้าแรก และขึ้นวันที่เราจองให้เห็นทันที 3.กดเลือกประเภท ‘บัตรแอดเวนเจอร์’ ที่เราต้องการ จากนั้นทาง Klook จะให้เราทวนข้อมูลอีกรอบว่าใช่ไหม ถ้าถูกต้องแล้วก็กด ‘จองตอนนี้’ สำหรับคนที่จะเลือกดีลเดียว หรือ กด ‘หยิบใส่ตะกร้า’ สำหรับคนที่ต้องการเลือกอีกหลายดีลได้เลยค่ะ โดยเมื่อกด ‘จองตอนนี้’ แล้วก็ให้กรอกรายละเอียดข้อมูลติดต่อของเราได้เลยค่ะ 4. เมื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวเรียบร้อย ก็สามารถชำระเงินผ่านเว็บไซต์ หรือ แอป Klook ได้เลย ตรงนี้ถ้าใครมีรหัสโปรโมชั่น ก็สามารถใส่ ‘รหัสโปรโมชั่น’ เพื่อใช้เป็นส่วนลดต่อได้ค่ะ คุ้มในคุ้ม! จากนั้นให้กด 'ชำระเงิน' เราก็สามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น Klook หรือเว็บไซต์ Klook ได้เลย โดยหลังชำระเงินแล้ว ก็จะขึ้นในข้อมูลการจองของเราเลยค่ะ ตรงนี้ตัวบัตรจะมาเป็นไฟล์ PDF ที่มา QR CODE ให้เราแสกนผ่านประตูสวนสยามได้ง่าย ๆ เลยล่ะ เพียงเท่านี้ก็ได้ดีลสุดคุ้มจาก Klook ไปเที่ยว สวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค แล้ว! รีวิวที่เที่ยว ‘สวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค’ ไม่ต้องไปเที่ยวไกลก็สดชื่น และผ่อนคลายช่วยวันหยุดได้!ถ้าใครอยากเล่นน้ำที่เหมือนได้ไปเที่ยวทะเลจริง ๆ พร้อมกับได้พักผ่อน สนุกไปกับเครื่องเล่นหลากหลายแบบ เดียร์แนะนำว่า ต้องมาเที่ยวที่สวนสยามอะเมซิ่งพาร์คเลยค่ะ! เพราะที่นี่มีเครื่องเล่นให้เราเลือกหลายโซน เหมาะทั้งมาเที่ยวกับแก๊งเพื่อน เที่ยวกับครอบครัว และเที่ยวกับคนรัก โดยเมื่อผ่านเข้าประตูหลัก แล้วเดินมาเรื่อย ๆ ทันที่เรามองเห็นทางเข้าสีแดงสลับสีรุ้งตรงหน้า ก็รู้ทันทีเลยว่า ถึงสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คแล้วค่ะ เพราะตรงจุดนี้จะมีจุดจำหน่ายบัตรเครื่องเล่น และทางเข้าที่กว้างขวางมาก ๆ ซึ่งถ้าเป็นปกติ หากไม่ได้จองตั๋วบัตรผ่านประตูทางออนไลน์ เราก็ต้องเดินไปซื้อที่จุดจำหน่ายตั๋ว ที่อยู่ด้านขวามือนะคะ อันนี้ก็อาจจะต้องใช้เวลาต่อคิวหน่อยแต่ถ้าใครไม่อยากต่อคิว และต้องการโปรโมชั่นบัตรผ่านประตูสุดคุ้ม แนะนำให้จองตั๋วผ่าน Klook ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์เลยค่ะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องยืนต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วหน้าสวนสยามเลย เพียงแค่เปิด QR CODE ที่อยู่ในบัตร แล้วเดินไปสแกนตรงเครื่องที่เป็นประตูเปิดปิด ก็สามารถเข้าได้แล้วค่ะตรงนี้ถ้าหากซื้อบัตรผ่านประตูหน้าทางเข้าสวนสยามเลย ก็จะราคาอยู่ที่ 900 บาทต่อคนนะคะ แต่ถ้าอยากจ่ายในราคาสบายกระเป๋ามากขึ้น เดียร์แนะนำให้จองผ่าน Klook ดีกว่า เพราะจะซื้อบัตรผ่านประตูได้ในราคาคุ้มมากขึ้น เพียงจ่ายคนละ 430 บาทเท่านั้น ก็จะได้บัตรแอดเวนเจอร์ 1 ใบ ที่สามารถเล่นทุกเครื่องเล่นในสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คได้แบบไม่จำกัดครั้ง พร้อมเล่นสวนน้ำได้ไม่อั้น สามารถเข้าได้ทุกเครื่องเล่นเหมือนจ่ายในราคาเต็มเลยล่ะค่ะ เลิศมาก! ซึ่งหลังจากสแกน QR CODE เพื่อเข้าประตูมา เราก็จะเห็นม้าหมุนสองชั้น เครื่องเล่นอันโด่งดัง ตั้งอยู่เลยทางเข้าแบบสวย ๆ เลยค่ะ ตรงนี้จะเป็นเด็กและผู้ใหญ่ก็สามารถเข้ามาเล่นได้ทั้งนั้นนะคะ โดยในสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คจะมีโซนให้เราเล่นทั้งหมด 5 โซน คือโซนที่ 1 : Xtreme World เป็นโซนเครื่องเล่นสุดตื่นเต้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเล่นเครื่องเล่นแบบหวาดเสียว ระทึกใจ โซนนี้จะเป็นเครื่องเล่นขนาดใหญ่ ที่มีความเร็ว และหลายคนชื่นชอบมากโซนที่ 2 : Adventure World เป็นอีกหนึ่งโซนเครื่องเล่นที่สนุกสุดเหวี่ยง โซนนี้มาพร้อมกับเครื่องเล่นที่มีความเร็ว และมีเครื่องเล่นแบบหมุนให้เที่ยวเล่นแบบเพลิน ๆโซนที่ 3 : Family World โซนเครื่องเล่นแบบชิล ๆ ที่ทำให้เราพักผ่อนได้เต็มที่ โซนนี้จะช่วยให้เราใช้เวลากับครอบคัวได้อย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวันโซนที่ 4 : Small Word เป็นโซนเครื่องสำหรับเด็ก ๆ ที่ช่วยกระตุ้นความสนุกสนานในการผจญภัยได้เต็มเปี่ยมโซนที่ 5 : Water World เป็นโซนสวนน้ำที่ทุกคนชื่นชอบ โดยมีเครื่องเล่นหลากหลาย และมีทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาด 13,600 ตารางเมตร พร้อมเสียงและคลื่นยักษ์ที่ทำให้เรารู้สึกสนุก เหมือนได้ไปท้องทะเลจริง ๆ ซึ่งหลังจากที่เราเห็นม้าหมุนสองชั้นตรงทางเข้าประตูแล้ว เราก็จะพบโซนเครื่องเล่น Xtreme World ที่ด้านขวามือเลยค่ะ และเครื่องเล่นแรกที่อยากแนะนำสำหรับคนชอบความเร็ว และความตื่นเต้น ก็คือ เครื่องเล่นบูมเบอแรง นั่นเอง! เป็นเครื่องเล่นที่การันตีความมันส์ได้ดีแบบสุด ๆ เพราะเป็นเครื่องเล่นแบบรถไฟที่พอหมุนไปจนสุดทางแล้ว ก็จะถอยหลังกลับมา ทำเอาผู้เล่นสนุกระทึกมาก ๆ เลยทีเดียว โดยเครื่องเล่นบูมเบอแรงอันนี้ เป็นเครื่องเล่นที่ได้ยินเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ เยอะมากเลยค่ะ บอกเลยว่าถูกใจสายชอบความตื่นเต้นแน่นอน หลังจากเล่นเครื่องเล่นบูมเบอแรงเสร็จแล้ว เราก็สามารถเดินตรงเข้าไปด้านใน เพื่อไปเล่นเครื่องเล่นอื่นได้ต่อเลยค่ะ หรือถ้าใครอยากเล่นซ้ำอีกรอบก็ไม่ว่ากัน ซึ่งทางไปตรงนี้ก็จะมีทางแยกให้เราเลือกว่า จะเดินตรง หรือ เดินแยกไปทางขวาค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ต้องหลงแต่อย่างใด เพราะที่สวนสยามอะเมซิ่งพาร์คมีป้ายบอกทางไปเล่นเครื่องเล่นไว้อย่างชัดเจน โดยตรงนี้เดียร์เลือกเดินไปทางตรงค่ะ เพราะอยากไปเล่นสวนน้ำที่อยู่ด้านในนั่นเอง เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอน้ำพุที่มีหนุมารตั้งตระหง่านตรงหน้าค่ะ เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่สามารถบันทึกความทรงจำการมาเที่ยวได้เลย นอกจากนี้ถ้าใครอยากเห็น ตำแหน่งเครื่องเล่นในสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คแบบโดยรวม ทางด้านซ้ายมือของน้ำพุ ก็จะมีแผนที่ขนาดใหญ่บอกพิกัดไว้อยู่ค่ะพอมาถึงจุดน้ำพุหนุมาร ก็จะมีทางให้เราเลือกเดินไปอีกหลายทางเลย โดยถ้าไปทางซ้ายก็จะเจอเครื่องเล่นรถไฟเหาะ ซูเปอร์เกลียวเหาะมหาสนุกในโซน Xtreme World และเครื่องเล่นจานหมุนดิสโก้ ปลาหมึกยักษ์ กระสวยอวกาศ ในโซน Adventure World ค่ะ ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวแบบครอบครัวก็สามารถขึ้นไปเล่นไซแอมทาวเวอร์ หรือหอคอยชมวิวปรับอากาศสุดเย็นฉ่ำ ที่หมุนรอบตัว 360 องศา ให้เราได้ชมวิวกันแบบเพลิน ๆ นอกจากนี้ถ้าใครเล่นแล้วรู้สึกหิว อยากหาอะไรทาน ก็สามารถเข้าไปซื้ออาหารและขนมได้ในร้าน Willy’s Si-Am Tower Shop ได้เลยค่ะ สะดวกมากและแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าหากใครต้องการไปเที่ยวสวนน้ำ ก็สามารถเดินเลยน้ำพุหนุมารเป็นทางตรงได้เลยค่ะ เมื่อเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอโซนอาหารอีกครั้ง ตรงนี้ถ้าใครหิวก็แวะพักทานก่อนได้นะคะ แต่ถ้าใครต้องการเล่นสวนน้ำ สามารถเดินตรงได้ยาว ๆ เลย นอกจากนี้ในสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คก็ไม่ได้มีเพียงสวนน้ำนะคะ แต่ยังมีสวนสัตว์ย่อม ๆ ที่มีน้องม้าแคระ และน้องหงส์ที่อยู่กับสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คมาอย่างยาวนาน ให้เราได้ทักทายก่อนเข้าสวนน้ำอีกด้วย แต่ละตัวน่าเอ็นดูมาก ๆ [ในภาพจะมีคุณลุงผู้ดูแลม้าอยู่ด้วยค่ะ ใจดีมาก ๆ เลย ตรงนี้ทางเราก็ขออนุญาตจากคุณลุงนำมาลงรีวิวแล้วค่า]และในที่สุดเมื่อเราได้เล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ พร้อมเดินแวะทักทายน้องม้าแล้ว ก็มาถึงโซนสวนน้ำ Water World ซึ่งเป็นหนึ่งโซนไฮไลท์ของที่นี่แล้วค่ะ บอกเลยว่าเป็นโซนสวนน้ำที่มีเครื่องเล่นให้เล่นเยอะมาก และข้างในก็กว้างมาก ๆ อีกด้วย เมื่อเข้ามาก็จะเจอซูเปอร์สไปรัล เครื่องเล่นสไลเดอร์ที่มีรางน้ำคดเคี้ยว สูงถึง 20 เมตร ให้เราได้เล่นกันแบบสนุกสนาน ตรงนี้หลังจากทุกคนเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำด้านหน้าทางเข้าแล้ว ก็สามารถเดินเข้ามาเล่นได้ชิลล์ โดยถ้าใครอยากเล่นทะเลเทียม และสวนน้ำแบบจุใจ ก็แนะนำว่าให้เดินเข้าไปอีกนะคะ เพราะจะมีเครื่องเล่นในสวนน้ำรอเราอีกเพียบ เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบโซนว่ายน้ำที่ให้เราได้ทั้ว่ายน้ำ และเล่นเครื่องเล่นได้อย่างสนุกสนานโดยจะมีน้ำวน หรือ สระว่ายน้ำที่ออกแบบมาให้ว่ายวนเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ ตรงนี้เราสามารถว่ายได้อย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ น้ำในสระสวยสะอาด ใสแจ๋วมาก ๆ ตรงนี้ถึงแม้คนจะเยอะแต่น้ำก็ยังใสดีมาก ๆ เลยค่ะ ประทับใจมากถัดเข้าไปก็จะมีเครื่องเล่นสไลเดอร์สีรุ้งอันโด่งดังที่เรามักเห็นในโฆษณาโทรทัศน์บ่อย ๆ (เอ๊ะ เป็นประโยคที่บอกอายุได้เลยหรือเปล่าเนี่ย ฮา) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางสระน้ำวน ต้องบอกเลยว่าเป็นสไลเดอร์ที่มีความยาวและสีสันสวยสดใสมาก ซึ่งเครื่องเล่นสไลเดอร์ยักษ์นี้ ถือเป็นพระเอกตลอดกาลของสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คเลยค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นสไลเดอร์ยักษ์ 7 สีสายรุ้งแล้ว ยังมีความสูงมากถึง 21 เมตร ซึ่งเท่ากับตึก 7 ชั้น เป็นเครื่องเล่นสุดฮอตฮิตที่มีคนมาสัมผัสมากกว่า 20 ล้านคนแล้วล่ะค่ะ OH MY GOD มาก ๆ และความสนุกประทับใจก็ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ เพราะเมื่อเดินเข้าไปในโซนสวนน้ำเรื่อย ๆ ก็จะเจอสิ่งที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือ ทะเลเทียมขนาดใหญ่ ที่เห็นปุ๊บต้องตาวาว เพราะเหมือนเห็นท้องทะเลจริง ๆ เลยล่ะค่ะ เป็นทะเลเทียมที่ทางสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คออกแบบมาได้สวยมาก ๆ น้ำทะเลใส่แจ๋ว สะอาดน่าว่าย มีหอคอยประภาคารตกแต่งอย่างสวยงาม ริมชายหาดก็มีเก้าอี้ชายหาดให้เราเอนตัวพักผ่อนแบบชิล ๆ อีกด้วยซึ่ง 1 ในความพิเศษของเครื่องเล่นทะเลเทียม ที่อยากให้ทุกคนมาก็คือ นอกจากจะมีน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาดแล้ว ยังมีคลื่นซัดหาดเบา ๆ พร้อมเสียงคลื่น สร้างบรรยากาศเหมือนได้พักผ่อนที่ทะเลจริง ๆ ได้ดีมาก เป็นทำเลน้ำจืดที่เห็นแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายมากเลยทีเดียว ยิ่งถ้าใครอยากสร้างความผ่อนคลายสดชื่นแบบเต็มพิกัด ต้องแนะนำให้ลงเล่นเลยค่ะ โดยทะเลเทียมนี้แม้จะเป็นเครื่องเล่นที่ไม่จำกัดความสูง แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กสูงต่ำกว่า 131 ซม. ก็ควรใช้บริการกับผู้ปกครองเพื่อความปลอดภัยนะคะ ^^ เรียกได้ว่าสวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค เป็นแลนด์มาร์คสุดอะเมซิ่งที่ต้องแนะนำเลยค่ะ เพราะมาแล้วได้ผ่อนคลายกายใจแบบสุด ๆ ยิ่งถ้าได้มาเล่นสวนน้ำนะ ยิ่งได้ความสดชื่นผ่อนคลายไปเพิ่มอีกเต็ม ๆ นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เดียร์รู้สึกว่ามาทริปอย่างคุ่มค่าก็คือ เราสามารถซื้อตั๋วเครื่องเล่น หรือบัตรผ่านประตูเข้าสวนสยามอะเมซิ่งพาร์ค จากแอป Klook ได้ในราคาสุดคุ้มเพียง 430 บาทเท่านั้น (จากราคาปกติ 900 บาท) ถ้าใครอยากมาเที่ยวผ่อนคลายใจแบบคุ้ม ๆ สนุกแฮปปี้ก็ต้องแนะนำเลยค่า แผนที่ วิธีเดินทางหากใครอยู่บางนาแบบเดียร์ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก โดยขับรถส่วนตัวมาทางมอเตอร์เวย์บางนา แล้วเลี้ยวซ้ายออกเส้นมีนบุรี ก่อนมุ่งตรงไปยังซอยสวนสยามมาด้วยรถตู้สาย มีนบุรี-จตุจักร, มีนบุรี-ปากเกร็ด, มีนบุรี-แคราย, มีนบุรี-อนุเสาวรีย์ ทางด่วน 3 ด่วนหรือ 2 ด่วน แล้วลงแฟชั่นไอซ์แลนด์ ก่อนต่อรถเมล์สาย 36ก, 60, 71, 73ก, 178, 115 เพื่อเข้าสวนสยามอะเมซิ่งพาร์คมาด้วยรถเมล์ปรับอากาศสาย 60, 71, 156, 178, 73ก, 36ก, 168 ที่ตั้ง : เลขที่ 203 ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. 10230เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น. (ติดต่อได้ที่ 02 - 105 – 4294)พิกัด : https://g.page/siamamazingpark?share เครดิตรูปภาพ : ภาพปกและภาพประกอบบทความ ถ่ายโดยผู้เขียนเอง *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565
Dearzuffi • 8 ก.ค. 65
อ่าน
เที่ยวเชียงใหม่ กับ Klook แอปเดียวตอบโจทย์ทริปในสไตล์คุณ
เชียงใหม่ จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของใครหลาย ๆ คน การมาเชียงใหม่ทั้งที อาจจะต้องมีการแพลนโปรแกรมกันล่วงหน้าว่าจะไปไหนบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไร ที่พักที่ไหนดี ราคาถูกบ้าง และในหลายๆสถานที่ก็อาจจะอยู่ห่างจากที่พักหรือสถานที่ที่คุณพักอยู่ จำเป็นต้องใช้รถเช่า แต่คำถามก็เกิดขึ้นมาทันที ที่ไหนละที่จะจองได้ราคาถูก และถูกใจเราแบบไม่ต้องหาให้เหนื่อย ? นั่นแหละค่ะ แฮมมีคำตอบมาแนะนำในคอนเทนต์นี้เลย จองง่ายๆ กับ Klook แอปพลิเคชั่นที่คุณสามารถจองรถยนต์ จองโรงแรม จองที่เที่ยวชื่อดังต่างๆ ง่าย สะดวก รวดเร็ว แถมราคาถูกมาก ไม่รอช้าดีกว่า แฮมจะมาแนะนำการจองง่ายๆ กับ Klook กัน ลุยเลยย !พิเศษ! ผู้ใช้ใหม่ Klook ใช้โค้ดส่วนลด TRUEIDNEW100 รับส่วนลด 100.- เมื่อจองกิจกรรมในไทย ขั้นต่ำ 1,000.- เก็บโค้ดเลยที่ https://bit.ly/39gTJxJ ขั้นแรกเลย ดาวน์โหลด Klook ได้ทั้งระบบ IOS และระบบ Android กันก่อนเลยดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidหรือบน Website https://www.facebook.com/klookth/posts/pfbid0rUnpxEBn1uTsxqcWQHcughjB5CHbRXeobygeW9z1MQ7Xb9B9WeH1Y8TkqEcrBQUTl ดาวน์โหลดมาเรียบร้อยแล้ว มาเริ่มกันเลยกับการ Log In เข้าระบบใช้งานกันก่อน และหลังจากนั้น เข้ามาที่หน้าแรก เราสามารถเลือกได้เลยว่าอยากจะจองอะไรกันบ้าง มีพร้อมในหน้าแรกเลยทั้ง โรงแรมที่พัก, แหล่งท่องเที่ยวและบัตรเข้าชม, บริการรับส่งสนามบิน, บริการเช่ารถ, จองตั๋วเครื่องบิน, สปา และอื่นๆ เรียกได้ว่าจัดทริปเดียว สามารถจองทุกอย่างภายใน Klook จบพร้อม ทริปนี้ตั้งใจไปตะลุยแอดเวนเจอร์กันที่ "โป่งแยงแอดเวนเจอร์ (Pong Yang Adventure Park)" ขับรถเพลินๆมาไม่นาน ที่นี่เป็นที่ท่องเที่ยวเชิงแอดเวนเจอร์ โดยพระเอกของที่นี่เลยคือ "จังเกิ้ล โคสเตอร์" เครื่องเล่นเหมือนรถโกคาร์ทวิ่งไปตามราง ที่จำกัดน้ำหนักไม่เกิน 150 กิโลกรัม นั่งได้ 2 ท่าน ทำความเร็วประมาณ 40 นาที ขอบอกว่าสนุกมาก สนุกสุดๆ พวกเราเล่นที่นี่ไปทั้งหมด 3 รอบด้วยกัน รอบละ 150 บาท นอกจากนั้นที่นี่ยังมีอีกหลายๆ กิจกรรมให้ได้เล่นกัน อาทิ ควิ๊ก จัมพ์, จังเกิ้ล ไบค์, ไจแอ้นท์ สวิง, สไลเดอร์ เป็นต้น โดยใช้เวลากันแทบทั้งวันก็ว่าได้ หากใครอยากสัมผัสกิจกรรมสุดเหวี่ยงที่นี่ ห้ามพลาดเลยจริงๆ Pongyang Jungle Coaster Zipline CampResort : https://goo.gl/maps/pgMvSBePM5tnysKU6 Facebook Page : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08:30 - 17:00 น.📌 ทางไปจองที่ Klook : Pongyang Jungle Coaster Zipline CampResort เที่ยวเพลินๆวันแรกกันไปแล้ว เรากลับมาเข้าที่พัก ซึ่งที่พักที่เราพักนั้นที่ "U Nimman Chiang Mai" อยู่ตรงแยกรินคำเลย ที่นี่โรงแรมระดับ 5 ดาวก็ว่าได้ ด้วยสถานที่ตั้งอยู่ในแหล่งฮิปของชาวเชียงใหม่แล้ว ยังอยู่ในพื้นที่แหล่งธุรกิจการค้าของเชียงใหม่อย่าง "ถนนนิมมานเหมินทร์" อีกด้วย เราเลือกห้องประเภท Premium Deluxe Corner ไว้ เราจองกับ "Klook" ไว้ อยู่ที่ 5,454 บาท (รวมภาษี) ซึ่งราคาถูกกว่าการจองผ่านเคาน์เตอร์อีกด้วย เข้ามาห้องแล้ว ขอบอกว่ากว้างขวางมาก แบ่งสัดส่วนไว้อย่างดี แถมมีพื้นที่อย่างไม่อึดอัดเลย ยิ่งเราเป็นพวกที่ต้องทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว ห้องพักนี้ยังมีส่วนโต๊ะทำงานแยกส่วนไว้อีกมุมหนึ่งของห้องอีกด้วย ที่สำคัญคือ สระว่ายน้ำที่นี่มุมดี วิวสวยสุดๆ ทั้งเห็นดอยสุเทพ ศูนย์การค้าเมญ่า และแยกรินคำ ให้ฟิลความเป็นเมืองเชียงใหม่ได้อย่างลงตัวสุดๆ แถมอาหารเช้าที่นี่ก็มีตัวเลือกเยอะมาก ใครชอบอาหารไทย จีน ฝรั่ง สามารถเลือกทานได้เลยU Nimman Chiang Mai : https://g.page/UNimman?shareFacebook Page : เข้า Check In - Check Out ตามเวลาที่เราเข้าพักในวันแรก📌 ทางไปจองที่ Klook : U Nimman Chiang Mai นอกเหนือจากนั้นที่เราอยากแนะนำความพิเศษของ Klook คือ สามารถจองรถเช่าในเชียงใหม่ได้อีกด้วยนะ มีตัวเลือกหลายๆเจ้า หลายๆราคาสุดพิเศษปังๆอีกด้วย เห็นแล้วใช่ไหม "แค่เพียงคุณมี Klook แอปเดียวทริปของคุณก็ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป" ใครกำลังมีทริปสุดพิเศษ หรือใครกำลังมองหาที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ดีลเด็ดๆ โปรปังๆ ละก็ ต้องรีบไปโหลดแล้วหละ ส่วนใครที่ไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วไม่รู้จะเที่ยวไหนดี จะไปส่วนไหนของเชียงใหม่ได้บ้าง ธรรมชาติ วัด วัฒนธรรม เทศกาล เยอะแยะไปหมด แฮมมัดรวมแต่ละคอนเทนต์ของเชียงใหม่มาฝากเพื่อนๆ เรียบร้อย ไปตามรอยกันได้เลยน้าา https://intrend.trueid.net/post/209451 https://intrend.trueid.net/post/265081 https://intrend.trueid.net/post/196319 https://intrend.trueid.net/post/198434 https://intrend.trueid.net/post/197357 https://intrend.trueid.net/post/278309 https://intrend.trueid.net/post/272325 https://intrend.trueid.net/post/272630 อ่านคอนเทนต์เพิ่มเติมได้ที่ :รีวิวที่พักวิวทุ่งนา โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย ส่องวิถีชีวิตชุมชนแบบสโลว์ไลฟ์10 ที่เที่ยว สระบุรี จังหวัดที่ไม่ใช่แค่ทางผ่านมหากาพย์รีวิว Bangkok Marriott Hotel The Surawongse ที่พักกรุงเทพฯ ระดับ 5 ดาว สุด Luxury *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565
hamzberry • 30 มิ.ย. 65
ดูเพิ่มเติม