รีเซต

ผลการค้นหา “khemjira ep 10 preview” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
OpenAI เปิดตัว "o1-preview" โมเดล AI ใหม่แก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้
อ่าน

OpenAI เปิดตัว "o1-preview" โมเดล AI ใหม่แก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้

บริษัท OpenAI ผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เปิดตัว o1-preview โมเดล AI ใหม่ที่เน้นการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในด้านวิทยาศาสตร์ การเขียนโค้ด และคณิตศาสตร์ โดยโมเดลนี้ถูกฝึกให้ใช้เวลาไตร่ตรองก่อนตอบสนองผู้ใช้งาน เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและความแม่นยำภายหลังการทดสอบพบว่า o1-preview โมเดลทำผลงานได้ใกล้เคียงกับนักศึกษาปริญญาเอกในวิชาฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา พร้อมทั้งมีความสามารถด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้น ระบบนี้สามารถใช้งานได้ทั้งในบริการสนทนาด้วยปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT และ API สำหรับให้นักพัฒนานำไปใช้งานจุดเด่นในด้านความปลอดภัย โดยปัญญาประดิษฐ์ถูกฝึกให้เข้าใจและปฏิบัติตามกฎต่าง ๆ ด้านความปลอดภัย ความสามารถในการใช้เหตุผลภายใต้บริบทต่าง ๆ หากผู้ใช้งานพยายามหลีกเลี่ยงกฎต่าง ๆ ตัวโมเดล o1-preview ตัวใหม่ทำคะแนนได้ 84 จาก 100 คะแนน เมื่อเทียบกับโมเดล GPT-4 ตัวเก่าที่ทำได้เพียง 22 คะแนนนอกจากนี้ทีมงานผู้พัฒนายังได้ร่วมมือกับรัฐบาลกลางทำการทดสอบและประเมินภายในกรอบของกฎหมาย และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ โดยมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวด รวมไปถึงทำข้อตกลงร่วมกับสถาบันความปลอดภัยด้านปัญญาประดิษฐ์ AI ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร โดยให้สถาบันต่าง ๆ เข้าร่วมการทดสอบแบบจำลองสำหรับงานวิจัยก่อนใคร และการทดสอบแบบจำลองภายหลังเปิดให้บริการสู่สาธารณะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งาน o1-preview โมเดล AI รุ่นใหม่ล่าสุด คาดว่าเป็นกลุ่มของนักวิจัยทั่วโลกที่ต้องการเครื่องมือหรือผู้ช่วยใกนแก้ไขปัญหาซับซ้อนในสาขาวิทยาศาสตร์ การเข้ารหัส คณิตศาสตร์ และสาขาที่คล้ายคลึงกัน ตัวอย่างการใช้งาน เช่น นักวิจัยด้านการแพทย์เพื่อใส่คำอธิบายประกอบข้อมูลการเรียงลำดับเซลล์ โดยนักฟิสิกส์เพื่อสร้างสูตรคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนที่จำเป็นสำหรับออปติกควอนตัม และโดยนักพัฒนาในทุกสาขาเพื่อสร้างและดำเนินการเวิร์กโฟลว์หลายขั้นตอนที่มาของข้อมูล OpenAI

เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series EP.1 : "เก่ง-น้ำปิง" ตอนแรกทำหลอนจนแทบนอนไม่หลับ!
อ่าน

เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series EP.1 : "เก่ง-น้ำปิง" ตอนแรกทำหลอนจนแทบนอนไม่หลับ!

ซีรีส์ที่คนไทยต้องดู! พลาดไม่ได้สักนาที เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวให้ชวนติดตาม สำหรับซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series จากค่าย ดูมันดิ ภายใต้การผลิตของ บริษัท มันดีเวิร์ค จำกัด โดยได้ออนแอร์ EP แรก เป็นที่เรียบร้อยเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม ทำเอาใจเต้นแรงตั้งแต่ฉากแรก ด้วยเสียงเรียกหา เขมจิรา ที่สะพรึงและเยือกเย็นจนติดหู ซึ่งทุกการปรากฏตัวของตัวละครเต็มไปด้วยซีนที่น่าทึ่งในเรื่องของการถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดง ตอกย้ำความปังและความชื่นชอบซีรีส์ของแฟน ๆ ด้วย #เขมจิราต้องรอดEP1 ที่ขึ้นเทรนด์อันดับในไทย 1 บนแอปพลิเคชัน X ตามติดด้วย #Khemjira The SeriesEP1 ที่ติดเทรนด์มาพร้อมกัน โดยแฟน ๆ ต่างโพสต์ชื่นชมในเรื่องการแสดงของนักแสดง และโปรดักชั่น ทั้งการถ่ายทำ การจัดฉาก สเปเชียลเอฟเฟกต์ และการตัดต่อที่ละเอียดทุกอย่าง จนไม่อยากกะพริบตา เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series EP.1 ดูทีวีออนไลน์ ช่องวัน31 ดูคนเดียวมีสะดุ้ง ดูเป็นกลุ่มก็ยังหลอนไปกับแต่ละฉาก โดยทีมนักแสดงนำอย่าง เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย, น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง, เติ้ล มติมันท์ ศรีบุญเรือง, เฟิร์สวัน วรรณกร เรืองรัตน์, และ ปัง พิรุฬห์วัตน์ พรมรัตน์ ได้มาชวนกันมาดู EP 1 เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ไปพร้อมกัน ขนาดถ่ายทำและรู้ถึงทุกฉากแล้ว เมื่อได้มานั่งดูด้วยกันก็ยังลุ้นและชวนขนหัวลุกตาม แต่ก็ปลื้มใจที่ซีรีส์เรื่องนี้ที่เพิ่งจะออนแอร์ไป EP แรกก็ประทับใจแฟนคลับแล้ว แค่ EP 1 ก็ทำเอาแฟน ๆ อยากดูต่อทันที ด้วยเนื้อเรื่องที่ทิ้งท้ายให้ชวนติดตามกับการเอาตัวชีวิตรอดของ เขมจิรา จากการตามรังควานของผีสาวจากอดีตชาติอย่าง รำพึง และ พ่อครูภรัณ ที่จะยอมช่วย เขมจิรา หรือไม่ ย้ำเลยว่าเป็นซีรีส์ที่คนไทยต้องดู ไม่ใช่แค่การฉากที่ชวนขนลุกเท่านั้น แต่ยังมีวัฒนธรรมอิสานที่สอดแทรกเข้ามาอย่างลงตัว พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมือมากมาย ที่ไม่ควรพลาดสักฉากเดียว ติดตามซีรีส์ เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ได้ทุกวันเสาร์เวลา 21.30 น. ทางช่อง One31

2022 Year in Review: สุดยอด 5 เทรนด์ปี 2022 จากกองบก. Tech by True Digital
อ่าน

2022 Year in Review: สุดยอด 5 เทรนด์ปี 2022 จากกองบก. Tech by True Digital

จาก New Normal สู่ Next Normal จนมาถึง Now Normal โลกเปลี่ยนแปลงไปเพราะโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อต้นปีมีเทคโนโลยีที่ทั้งถูกคาดการณ์ว่าจะกำเนิดใหม่ ทั้งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาให้กับชีวิตผู้คน ในขณะที่ตลอดปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีหลายอย่างก็ถูกเฝ้ามองว่าจะเป็นไปในทิศทางใด จะเปลี่ยนชีวิตและพฤติกรรมของเราได้หรือไม่ หรือจะกลายเป็นเพียงฟองสบู่ที่แตกไปเสียก่อน ดังนั้น ก่อนหมดปี 2022 นี้ Tech By True Digital จึงได้กลับไปย้อนดูว่ามีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอะไรบ้างที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาที่เราได้นำเสนอมาโดยตลอด มีเทรนด์เทคโนโลยีใดที่ไม่อาจมองข้ามได้ และนี่คือ 5 เรื่องราวเทรนด์เทคโนโลยีจากบทความของเราที่ทีม Editor ของ Tech By True Digital ยกให้เป็นที่สุดของปี 2022 [AI in Dating] รักยุคใหม่ เทคโนโลยีช่วยอะไรบ้าง Editors Opinion: เรามองว่านี่คือการใช้เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของคนในแง่มุมของความรู้สึก ความรักและความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องซับซ้อนที่จับต้องได้ยาก แต่เทคโนโลยีทำให้ง่ายและปลอดภัยได้ In Brief: ปี 2022 ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของ AI ที่แม้แต่อุตสาหกรรม Online Dating ที่มีการแข่งขันสูง ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็หันมาใช้ AI เข้ามาช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อให้บริการของแบรนด์ตนเองแตกต่างจากคู่แข่ง โดยมีตั้งแต่การใช้ AI แมตช์คู่ให้แม่นยำมากขึ้น หลายบริษัทปรับอัลกอริธึมของการแมตช์ให้สามารถซับซ้อนมากขึ้นกว่าแค่ดูลักษณะทางกายภาพภายนอก ให้สามารถดูไปถึงรายละเอียดเบื้องลึกต่าง ๆ เช่น บุคลิกภาพของผู้ใช้งาน รสนิยมทางดนตรี ความเชื่อ ทัศนคติ เป็นต้น หรือแม้กระทั่งการนำ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์และพฤติกรรมการส่งข้อความ เพื่อวิเคราะห์บทสทนาจากการแชทระหว่างคู่ที่แมตช์ให้ เพื่อพิจารณาการเข้ากันได้ของคู่ที่ถูกแมตช์ ทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องเสียเวลาไปออกเดตกับคนที่ไม่ได้ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง AI บนอุตสาหกรรมนี้ยังก้าวไปถึงขั้นของการดูแลความปลอดภัยบนพื้นที่ Online Dating ในการตรวจจับ spam และมิจฉาชีพ รวมถึงการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน ด้วยการลดเนื้อหาที่ไม่พึงประสงค์ให้น้อยที่สุด ตรวจสอบเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลดและกรองสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ภาพลามกอนาจาร หรือหัวข้อที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีช่วยนำทางและให้ทางเลือกที่สะดวกสบายขึ้นในการสร้างความรักและความสัมพันธ์ในอย่างที่ต้องการ อ่านบทความฉบับเต็ม รักยุคใหม่ เทคโนโลยีช่วยอะไรบ้าง ได้ที่นี่ [Telemedicine] ป่วยแล้วไม่ไปไหน หาหมอทางไกลใกล้กว่าที่คิด Editors Opinion: Telemedicine เข้ามามีบทบาทมากขึ้นตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและการใช้งานเครื่องมือ Health Tech มากขึ้น เรามองว่าหากผู้คนเข้าใจการใช้งานและเริ่มใช้ Telemedicine เป็นมากขึ้น เทคโนโลยีจะช่วยให้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ในเวลาและสถานที่ที่สะดวกต่อตนเอง และไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วยก่อนด้วย In Brief: Telemedicine หรือการรักษาในแบบทางไกลเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีด้านสุขภาพ หรือ Health Tech ที่กลายเป็นทางเลือกให้กับผู้คนมากขึ้นนับแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีส่วนช่วยให้คนทั่วไปสามารถรักษาสุขภาพได้อย่างถูกต้องกับผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องรอให้เกิดการเจ็บป่วย และยังลดข้อกังวลเกี่ยวกับการเดินทาง สถานที่รักษาพยาบาล เวลา และการเสียโอกาสอื่น ๆ เช่น เวลาที่อาจหายไปจากการทำงานในการมาพบแพทย์ และด้วยรูปแบบของการปรึกษาที่ไม่จำเป็นต้องเดินทาง จึงทำให้ผู้เข้ารับการปรึกษาสามารถเลือกปรึกษาได้ในเวลาและสถานที่ที่สะดวกต่อตนเอง เป็นต้น การปรึกษาแพทย์ในแอปพลิเคชัน Telemedicine สามารถทำได้ตั้งแต่ การรับการรักษา การปรึกษาเรื่องข้อกังวลในชีวิตประจำวัน เช่น การปวดเมื่อย อาหารการกิน ไปจนถึงการแนะนำความเข้าใจที่อาจคาดเคลื่อนด้านสุขภาพต่าง ๆ ไปจนถึงการจัดการความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ การติดตามอาการป่วยเรื้อรัง หรือรับยารักษาเป็นประจำ โดย Telemedicine ยังช่วยในการเก็บข้อมูลคำวินิจฉัย บันทึกอาการ วิธีปฏิบัติตัว รวมไปถึงรายการยาที่สั่งจ่าย ทำให้นอกจากผู้ป่วยจะสามารถย้อนกลับมาดูข้อมูลต่าง ๆ ของตัวเองได้แล้ว ยังมีประโยชน์ในอนาคต หากผู้ป่วยต้องการนำประวัติการรักษาจากแอปพลิเคชันไปรักษาต่อกับแพทย์อื่น ๆ ผู้ป่วยก็สามารถนำประวัติการใช้ยาและการวินิจฉัยไปอ้างอิงเพื่อรักษาต่อได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่อีกด้วย ทั้งนี้ Telemedicine อาจยังไม่สามารถเป็นคำตอบที่ทดแทนได้ในทุกกรณี โดยกรณีฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ หรือโรคอุบัติเฉียบพลัน การนำตัวผู้ป่วยให้ถึงมือแพทย์ที่สถานพยาบาลยังคงเป็นเรื่องจำเป็นเช่นเดิม อ่านบทความฉบับเต็ม สรุป 4 Bites จากรายการ Tech-a-Bite Ep.5 ป่วยแล้ว (ไม่) ไปไหน หาหมอทางไกลใกล้กว่าที่คิด ได้ที่นี่ [AI Art] AI in Your [Emotive] Area: ภาพฝัน ศรัทธา และใจประดิษฐ์ Editors Opinion: AI เคยถูกมองว่าไม่สามารถเข้ามาทดแทนมิติที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกนึกคิด หรืองานสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ความสุนทรียภาพและความลุ่มลึกทางอารมณ์ได้ จนกระทั่งการมาถึงของ AI Art ที่ทำเอาคนทำงานศิลปะนั่งไม่ติด เพราะ AI Art สามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้จริง แม้จะยังมีข้อถกเถียงเรื่องความเป็นต้นฉบับและลิขสิทธิ์อยู่ แต่ก็เริ่มมีการซื้อขายผลงาน AI Art กันแล้ว เรามองว่าการเตรียมตัวให้เท่าทันเทคโนโลยีจะทำให้คนและเทคโนโลยีอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล In Brief: AI หรือ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำงานเลียนแบบระดับการรับรู้และประมวลผลสติปัญญาแบบมนุษย์ ได้เข้ามาทำงานที่เกี่ยวข้องกับสุนทรียภาพทางอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ชีวิตจิตใจ และความศรัทธาแล้ว หลังจากที่เคยถูกมองว่าไม่อาจเข้ามาทดแทนมิตินี้ได้ AI Art ถูกพูดถึงในวงกว้างมากขึ้นตั้งแต่กลางปี 2022 เมื่อมีการนำเสนอโปรแกรมสร้างภาพศิลปะโดย AI อาทิ Midjourney ของ Leap Motion, DALL-E ของ OpenAI และ Imagen ของ Google ที่ให้ผู้ใช้งานป้อนคีย์เวิร์ดที่อยากให้มีในภาพ หรือบรีฟว่าต้องการให้ภาพออกมาเป็นอย่างไร เป็นสไตล์แบบไหน จากนั้น AI ก็จะสร้างภาพออกมาจากชุดข้อมูลที่ถูกเรียนรู้ไว้ก่อนหน้านั้น ออกมาเป็นงานศิลปะชนิดที่แยกไม่ออกว่าเป็นผลงานของคนหรือ AI ที่วาด และนำไปขายสร้างรายได้ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม AI Art ยังถูกตั้งคำถามมากมายว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ เพราะคือการนำผลงานศิลปะของศิลปินหลาย ๆ ภาพที่มีลิขสิทธิ์ไปเป็นภาพต้นแบบในการพัฒนา ดังนั้นภาพ AI Art ที่ถูกออกแบบมาจากโปรแกรมเหล่านี้จึงมีความผสมผสานของภาพที่มีลิขสิทธิ์อยู่ และสไตล์ที่ติดมาจากภาพต้นฉบับก็ถูกตั้งคำถามว่าจะถือเป็นของใคร อ่านบทความฉบับเต็ม AI in Your [Emotive] Area: ภาพฝัน ศรัทธา และใจประดิษฐ์ ได้ที่นี่ [PDPA กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล] รู้จัก PDPA ก่อนคลิก Yes บรรทัดฐานใหม่ชีวิตดิจิทัล Editors Opinion: PDPA เป็นเรื่องสำคัญและอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอย่างที่เราอาจไม่ทันได้รู้ตัวว่าได้ให้การยินยอมจัดเก็บข้อมูลที่ระบุตัวตนของเราไปแล้ว ในโลกที่ขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีทุกวันนี้ เราจึงจำเป็นต้องตระหนักถึงสิทธิที่เรามีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกันบริษัทต่าง ๆ ก็ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึง PDPA เพื่อทำให้กระบวนการคุ้มครองเกิดขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ และสร้างมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยตามกฎหมายให้องค์กรยึดถือได้อย่างยั่งยืน In Brief: PDPA คือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ Personal Data Protection Act มีขึ้นเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทุกคน โดยมีผลบังคับใช้ในไทยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา หลักการสำคัญคือ บริษัทต่าง ๆ ที่มีการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยและปฎิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ให้ดำเนินต่อไปได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น เสริมสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรมในการดำเนินงานขององค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เช่น มีการทำงาน สั่งซื้อของและอาหารผ่านบริการออนไลน์ต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่มีข้อมูลที่ระบุตัวตนของเราได้ ซึ่งถ้าหากรั่วไหลออกไปอาจสร้างความเสียหายได้ บริษัทที่มีการจัดเก็บข้อมูลจึงต้องมีการแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ว่า มีการนำข้อมูลของลูกค้าไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง อย่างไร เป็นต้น ดังนั้น PDPA คือสิทธิของทุกคนที่มีต่อข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ที่ควรให้ความสำคัญ ตระหนัก และเรียนรู้ถึงสิทธิที่ตนเองมี ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเพิกถอนคำยินยอม การรับรู้ว่าองค์กรมีการเก็บข้อมูลประเภทไหน ใช้อย่างไร หรือมีการส่งต่อข้อมูลนี้ไปที่ใดบ้าง รวมทั้งหมั่นตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของแต่ละบริการที่สมัครใช้งาน เพื่อรับทราบความเปลี่ยนแปลงในการใช้ข้อมูล ประเภทของข้อมูลที่เปลี่ยนไป รวมถึงสิทธิพึงมีของทุกคนอีกด้วย อ่านบทความฉบับเต็ม สรุป 4 Bites จากรายการ Tech-a-Bite Ep.7 รู้จัก PDPA ก่อนคลิก Yes บรรทัดฐานใหม่ชีวิตดิจิทัล ได้ที่นี่ [AI Carbon Neutrality] How Analytics And AI Can Help Achieve Carbon Neutrality Editors Opinion: วิกฤติสภาพภูมิอากาศของโลกเป็นเรื่องที่รอไม่ได้และจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การนำเทคโนโลยีมาช่วยชี้วัดความสามารถในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรหรือภาคประชาชน เพื่อชดเชยการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม ถือเป็นหนทางในการช่วยปกป้องโลกและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้ In Brief: คาร์บอนเครดิต หรือ ใบอนุญาตแทนปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ 1 ตันที่ถูกกำจัดออกจากชั้นบรรยากาศ คือหนึ่งในวิธีการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ให้กับโลก ซึ่งโดยปกติแล้ว องค์กรต่าง ๆ มักมีการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก ระหว่างการดำเนินงานขององค์กร ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม แต่ละองค์กรจึงต้องมีการทำกิจกรรมเพื่อลด ทำลาย หลีกเลี่ยง หรือตรวจจับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่หากองค์กรใดไม่ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อมข้างต้น องค์กรดังกล่าวก็สามารถซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อรักษาสมดุลให้กับปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม โดยคาร์บอนเครดิตส่วนใหญ่จะมาจากแหล่งรวมคาร์บอนที่ก่อให้เกิดการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ อาทิ พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรกรรม เป็นต้น ตัวเลขคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ดังกล่าวจากแต่เดิมที่ใช้แรงงานคนจำนวนมากและระยะเวลานานในการวัดและแปลผล ถูกแทนที่ด้วย Analytics และ AI เพื่อใช้ในการวัดความสามารถในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนเพื่อแปลผลเป็นตัวเลขคาร์บอนเครดิต ซึ่งทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยมีวิธีการคือใช้การเปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นที่ในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อวัดชีวมวลเหนือพื้นดินของพื้นที่ป่าไม้และคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในพื้นที่ จากนั้นจึงแปลผลเป็นตัวเลขคาร์บอนเครดิตของพื้นที่นั้น ๆ ก่อนนำเข้าสู่ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต และด้วยการนำเทคโนโลยีเพื่อวัดคาร์บอนเครดิตที่ง่ายนี้เองจะทำให้ทุกคนตั้งแต่บุคคลทั่วไปจนถึงรัฐบาลที่มีพื้นที่สีเขียวเป็นของตัวเองนั้นมีโอกาสในการเข้าถึงการซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้ ทุกภาคส่วนจึงสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตของโลกเรา อ่านบทความฉบับเต็ม How Analytics And AI Can Help Achieve Carbon Neutrality ได้ที่นี่ และนี่คือ 5 เรื่องราวเทรนด์เทคโนโลยีจาก Tech By True Digital ที่ทีม Editor ยกให้เป็นที่สุดของปี 2022 Tech By True Digital ยังคงเฝ้ามองการพัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชีวิตผู้คนและโลกใบนี้ต่อไปเพื่อนำเรื่องราวมาอัปเดตให้ผู้อ่านก่อนใครที่นี่ Tech By True Digital ขอบคุณสำหรับการติดตามและสนับสนุนตลอดทั้งปีที่ผ่านมา -------------------- เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณคลิกเลย!! รู้ทันกันโควิด หรือกด*301*35# โทรออก ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม. คลิกเลย TrueID Community

รู้จัก 5 นักแสดง เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)
อ่าน

รู้จัก 5 นักแสดง เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)

        เป็นหนึ่งซีรีส์ปัง ๆ อีกเรื่องที่ใครหลายคนตั้งตารอเลยละค่ะ สำหรับ “เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)” จากทางค่าย Mandee Work ซึ่งเป็นวายแนวโรแมนติก ระทึกขวัญ ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของ เขมจิรา เขานั้นเป็นชายหนุ่มที่ดูธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วภูมิหลังของเขาคือเป็นผู้กลับชาติมาเกิด แต่ต้องเผชิญคำสาปและวิญญาณร้ายจากอดีต เพื่อหาทางรอดจากการตาย! โดยเรียกว่าพล็อตเรื่องเข้มข้นชวนลุ้นมาก อีกทั้งในเรื่องนี้ก็ยังมีเหล่านักแสดงปัง ๆ หลากหลายคนมาจอยในเรื่อง ก่อนจะไปดูซีรีส์เรื่องนี้กัน ก็ตามมาลุยดูโปรไฟล์นักแสดงแต่ละคนกันเล้ย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Teaser Documentary บันทึกของเขมจิรา | เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series https://m.youtube.com/watch?v=-dvgZdGxIaA 1.) น้ำปิง นภัสกร           “น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง” เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2544  จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยน้ำปิงได้เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางบันเทิงในการแสดง Mv เพลง โต๊ะริมของนน ธนนท์ และผลงานซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ถือเป็นการแสดงแบบจริง ๆ จัง ๆ ของเขาเลยละค่ะ https://www.instagram.com/p/DGavko_Sp5k/?igsh=NDFma2s2aDJwZzNt น้ำปิง นภัสกร รับบทเป็น “เขมจิรา” เขาคือเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ ที่จะต้องเผชิญกับคำสาปตระกูล อีกทั้งเธอยังถูกวิญญาณอดีตชาติอย่าง รำพึง ตามหลอกหลอน ทำให้ชีวิตปกติกลายเป็นไม่ปกติ! ซึ่งเขามีความสามารถเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นวิญญาณ มีพลังอาคม ช่องทางการติดตามน้ำปิง  นภัสกร   IG : @nampingster 2.) เก่ง หฤษฎ์          “เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย” เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2542 ที่จังหวัดพะเยา จบการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยพะเยา โดยหนุ่มเก่งนั้นได้แจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักแบบปัง ๆ จากภาพยนตร์เรื่อง วิมานหนาม ในบทบาท จิ่งนะ และซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ถือว่าเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของเขา https://www.instagram.com/p/DNDsYruJ5LT/?igsh=MTByMzJyNW5vNGRpNg== เก่ง หฤษฎ์ รับบทเป็น “พ่อครูภรัณ” เขาเป็นผู้มีวิชาอาคมไสยขาว ซึ่งเป็นคนที่เก่งและมีพลังมาก ซึ่งต่อมาเขาก็ได้มาช่วยเหลือเขมจิราในการแก้คำสาป ปลดปล่อยวิญญาณ และได้เปิดโปงความจริงเรื่องราวในอดีตชาติ ช่องทางการติดตามเก่ง หฤษฎ์ IG : @harit_keng 3.) เฟิร์สวัน วรรณกร         “เฟิร์สวัน วรรณกร เรืองรัตน์” เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543 จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาเป็นนักแสดงและนายแบบหนุ่มหล่อหน้าใหม่จากค่าย Domundi TV โดยในปี 2565 เขาเคยเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดรายการThe Star ค้นฟ้าคว้าดาว เขามีผลงานที่ใครหลายคนจับตามองเลยคือซีรีส์เรื่อง ภพเธอ Love Upon a Time Series https://www.instagram.com/p/DKRkU2yz_42/?igsh=ZGkzNHR1eDJveGgx เฟิร์สวัน วรรณกร รับบทเป็น “เจตนา” เขาคือศิษย์ของพ่อครูภรัณ มีวิชาอาคมติดตัว เป็นผู้ช่วยสำคัญในภารกิจต่อกรกับคำสาป อุปนิสัยของเขาคือจะเป็นหนุ่มสุขุม ฉลาด แต่เรื่องงานคือจริงจัง เรียกว่าเป็นหนึ่งคาแรคเตอร์ที่มีความสำคัญในเรื่อง ช่องทางการติดตามเฟิร์สวัน วรรณกร IG : @firstone.wnk 4.) เติ้ล มติมันท์        “เติ้ล มติมันท์ ศรีบุญเรือง” เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2541 ที่จังหวัดกาญจนบุรี จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาเป็นนักแสดงและศิลปินจากค่าย Domundi TV ที่กำลังมีผลงานเรื่อง เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series) https://www.instagram.com/p/C7ZXuDRvpfg/?igsh=MXkxOWMxZjNvbXpmcw== เติ้ล มติมันท์ รับบทเป็น “ชาญวิทย์” เขาเป็นเพื่อนที่พร้อมลุยไปกับเขมจิราอย่างไม่ถอย โดยเขาจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยในการค้นหาคำตอบเกี่ยวกับคำสาป และเขตลี้ลับ ช่องทางการติดตามเติ้ล มติมันท์  IG : @tle_mtm 5.) กรีน อัษฎาพร        “กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” หรือ กรีน AF5 เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2532 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ สาขาการออกแบบภายใน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยสาวกรีนได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิง จากการการประกวดในรายการ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่น 5 และได้รับรางวัล รองชนะเลิศ อันดับ 5 และมีผลงานเรื่องแรกคือ หอบรักมาห่มป่า https://www.instagram.com/p/DKJ0Pspzzmn/?igsh=NGo3amVxenloajJ1 กรีน อัษฎาพร รับบทเป็น “รำพึง” เธอคือวิญญาณผีสาวจากอดีตชาติ ที่ตามมาหลอกหลอนและทวงชีวิตเขมจิราอย่างไม่ลดละ เพราะเธอมีปมแค้นและความอาฆาตฝังลึกมากว่า 400 ปี!  ช่องทางการติดตามกรีน อัษฎาพร IG : @green_ausadaporn ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รู้จัก 5 นักแสดง เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series) ซีรีส์แนวลึกลับ โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 21:30 น. ช่อง One31 และเวลา 22:30 น. (Uncut Version) แอป/เว็บไซต์ iQIYI เลยค่า ^^  เครดิตภาพหน้าปก @KhemjiraSeries ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 เครดิตภาพประกอบบทความ @KhemjiraSeries : ภาพที่1 / ภาพที่3 / ภาพที่5 / ภาพที่7 / ภาพที่9 / ภาพที่11 @nampingster : ภาพที่2  @harit_keng : ภาพที่4 @firstone.wnk : ภาพที่6  @tle_mtm : ภาพที่8  @green_ausadaporn : ภาพที่10  เครดิตวิดีโอประกอบบทความ Mandee Channel Teaser Documentary บันทึกของเขมจิรา | เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

เปิดวาร์ป 6 นักแสดง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2025
อ่าน

เปิดวาร์ป 6 นักแสดง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2025

           เป็นซีรีส์ที่ถือว่ามาแรงมาก ๆ สำหรับ “เขมจิราต้องรอด  Khemjira The Series” โดยเป็นซีรีส์แนว Romantic Horror ที่ผสมความรักข้ามภพชาติกับบรรยากาศสยองหลอน และเสริมด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมอีสานในบางฉาก บอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่โดนคำสาปจากอดีตชาติ นอกจากเนื้อหาจะดีแล้วนั้น ในเรื่องนี้ก็ยังได้นักแสดงมากฝีมือหลากหลายคนมาจอยในเรื่องอีกด้วย และในวันนี้ เราจะชวนเพื่อน ๆ มารู้จักนักแสดงในเรื่องนี้กัน!  รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1.) น้ำปิง นภัสกร น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2544  จบการศึกษาจาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เป็นนักแสดงและศิลปินทางค่าย DOMUNDI         หนุ่มน้ำปิงเป็นหนุ่มหล่อน่ารัก ที่ได้เล้าสู่วงการบันเทิง จากการที่เขาได้แสดง Mv เพลง โต๊ะริม ของหนุ่มนน ธนนท์ และเขาก็ได้มีผลงานการแสดงมาแล้วบ้าง อาทิ ภาพยนตร์ ดับแสงรวี และซีรีส์ Night Dream คืนของฉันฝันของเธอ            น้ำปิง นภัสกร แสดงเป็น ‘เขมจิรา’ ตัวละครหลักของเรื่อง เขาเป็นชายหนุ่มมที่โดนคำสาปสืบเชื้อสายกว่า 400 ปี ที่ถูกเลี้ยงให้เป็นชื่อของผู้หญิงเพื่อหลบคำสาปตระกูล ที่ว่า ผู้ชายจะตายก่อนอายุ 21 ช่องทางการติดตามน้ำปิง นภัสกร Instagram : @nampingster 2.) เก่ง หฤษฎ์ เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2542  จบการศึกษาหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา แขนงวิชา ภาษาไทย วิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา  เป็นนักแสดงและศิลปินทางค่าย DOMUNDI          โดยหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ได้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ดังอรื่อง วิมานหนาม ในคาแรคเตอร์ของ จิ่งนะ และซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ถือว่าเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของเขาเลย         เก่ง หฤษฎ์ แสดงเป็น ‘พ่อครูภรัณ’ อาจารย์อาคมไสยขาว ผู้มีอดีตร่วมชาติและความผูกพันกับเขมจิรา และในชาตินี้เขาก็ต้องช่วยเขมจิรา ช่องทางการติดตามเก่ง หฤษฎ์ Instagram : @harit_keng 3.) กรีน อัษฎาพร กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2532  จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ สาขาการออกแบบภายใน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ         สาวกรีน อัษฎาพร เริ่มต้นเข้าวงการบันเทิง จากการประกวดและได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ อันดับ 5 มาครองในรายการ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่น 5 และปี 2554 ก็ได้แสดงเป็นครั้งแรกกับละครเรื่อง หอบรักมาห่มป่า และตามม่ด้วย หยกเลือดมังกร คีตโลกา เรียกว่าสาวกรีนนั้นเป็นนักแสดงสาวสวยอีกหนึ่งคนวในวงการที่สุดยอดมาก!           กรีน อัษฎาพร แสดงเป็น ‘รำพึง’ วิญญาณหญิงสาวจากอดีตชาติที่ตามหลอกหลอน ตามรังควาน และจ้องจะเอาชีวิตของเขมจิรา เธอเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในคำสาปและความแค้นที่ต้องคลี่คลาย ช่องทางการติดตามกรีน อัษฎาพร Instagram : @green_ausadaporn 4.) เติ้ล มติมันท์ เติ้ล มติมันท์ ศรีบุญเรือง เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2541 จบการศึกษาจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เป็นนักแสดงและศิลปินทางค่าย DOMUNDI           หนุ่มเติ้ล มติมันต์ เป็นรู้จักบน TikTok และต่อมาเขาก็ได้ปรากฎตัวในโปรเจกต์ DMD Cover โดยหนุ่มเติ้ลมีความสามารถในการแต่งเพลง และมีเพลงเป็นของตัวเองนั่นคือ เป็นเธอได้ไหม           เติ้ล มติมันท์ แสดงเป็น ‘ชาญวิทย์’ โดยเขานั้นเป็นเพื่อนชมรมจิตอาสาของทั้งเขมจิรา และชาญวิทย์ เป็นเนิร์ดหนุ่มแว่นที่เห็นทั้งสองทำตัวแปลก ๆ แต่ต่อมาเขาก็ได้เข้ามาร่วมปกป้องและให้กำลังใจในการแก้ไขคำสาปนี้ ช่องทางการติดตามเติ้ล มติมันท์ Instagram : @tle_mtm 5.) เฟิร์สวัน วรรณกร เฟิร์สวัน วรรณกร เรืองรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543  จบการศึกษาจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เป็นนักแสดงและศิลปินทางค่าย DOMUNDI           โดยหนุ่มเฟิร์สวัน วรรณกรเป็นที่รู้จักจากการเคยเป็นผู้หนึ่งในผู้เข้าประกวดรายการ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 และต่อมาเขาก็มีผลงานการแสดงซีรีส์เรื่องแรกคือ ภพเธอ Love Upon a Time Series ซึ่งเขาเป็นหนุ่มหล่อที่น่ารักที่มีความแพรวพราวมาก!           เฟิร์สวัน วรรณกร แสดงเป็น ‘เจตนา’ เพื่อนสนิทสุดซี้ของเขมจิรา เขานั้นเป็นหนุ่มที่เฮฮา สนุกสนาน ทะเล้น อีกทั้งเขายังเป็นคนที่มีบทบาทในการช่วยเหลือเขมจิรา โดยได้พาเขมจิราไปเจอกับพ่อครูภรัณ ผู้มีวิชาอาคม ช่องทางการติดตามเฟิร์สวัน วรรณกร Instagram : @firstone.wnk 6.) เจนิส เจณิสตา เจนิส เจณิสตา พรหมผดุงชีพ  เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2538  จบการศึกษาใน ระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยมหิดล         เจนิสได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการรับงานงานทางด้านโฆษณา และเธอก็ได้เป็นที่รู้จักและโด่งดังมาก ๆ ในละครเรื่องเมีย 2018 ในบทบาทของ พลอยใส และเธอก็มีผลงานปัง ๆ มากมาย อาทิ The Husbands สามีสีทอง , เหมือนเราเคยรักกัน            เจนิส เจณิสตา แสดงเป็น ‘เขมจิราในอดีตชาติ’ ซึ่งเป็นบทที่สำคัญในเนื้อเรื่องที่เธอนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของคำสาปทั้งหมด (?) ช่องทางการติดตามเจนิส เจณิสตา Instagram : @janistarr ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ เปิดวาร์ป 6 นักแสดง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2025 โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 21:30 น. ช่อง One31 และเวลา 22:30 น. (Uncut Version) ทาง iQIYI เลยค่า ^^ #เขมจิราต้องรอดseries #KhemjiraTheSeries #MandeeWork เครดิตภาพหน้าปกโดย @harit_keng : ภาพหน้าปก1 / @nampingster : ภาพหน้าปก2 / @green_ausadaporn : ภาพหน้าปก3 / @tle_mtm : ภาพหน้าปก4 / @firstone.wnk : ภาพหน้าปก5 / @janistarr : ภาพหน้าปก6 เครดิตภาพประกอบบทความโดย @KhemjiraSeries ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6  จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รู้จัก น้ำปิง นภัสกร จาก เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series
อ่าน

รู้จัก น้ำปิง นภัสกร จาก เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series

         เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ใครหลายคนหวีดหนักมาก สำหรับ “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” เป็นซีรีส์บอยเลิฟแนวระทึกขวัญที่พล็อตสนุกจึ้งมาก! และในครั้งนี้ก็ได้นักแสดงนำอย่าง “น้ำปิง นภัสกร” ที่เขามาแสดงเป็น เขมจิรา นายเอกของเรื่องนั่นเอง และในวันนี้เราเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ มารู้จักหนุ่มหล่อน่ารักคนนี้กันใน ‘รู้จัก น้ำปิง นภัสกร นายเอกใน เขมจิราต้องรอด  Khemjira The Series’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! น้ำปิง นภัสกร          ชื่อของหนุ่มน่ารักคนนี้คือ “น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง” เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2544 ปัจจุบันอายุ 24 ปี เขาจบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกว่าโปรไฟล์ปัง!  https://www.instagram.com/p/DGavko_Sp5k/?igsh=NDFma2s2aDJwZzNt         โดยหนุ่มน้ำปิงได้เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางบันเทิงในการแสดง Mv เพลง โต๊ะริมของนน ธนนท์ และด้วยความเป็นหนุ่มหล่อหน้าหวาน ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ต่อมาเขาได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงและนายแบบหน้าใหม่ของค่าย ดังอย่าง DOMUNDI และแฟนคลับก็ได้รู้จักเขามากขึ้นในรายการ DMD Friendship the Reality เขาแสดงครั้งแรกในปี 2566 กับภาพยนตร์เรื่อง ดับแสงรวี และซีรีส์ Night Dream คืนของฉันฝันของเธอ เรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อที่ชิมลางการแสดงมาแล้วทั้งสองจอ! https://www.instagram.com/p/DHn3k3QS9t0/?igsh=Zmg1eHFkNTNmdzN1            และด้วยความปังแพรวพราว ทำให้หนุ่มน้ำปิง ก็ได้แสดงครั้งแรกบทบาทนำแบบเต็มตัวครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” โดยเป็นซีรีส์แนวบอยเลิฟ ไสยศาสตร์ ที่ได้ดัดแปลงจากนิยายออนไลน์ยอดนิยมของ “คาลิ” และสร้างโดย Mandee Work บอกเล่าเรื่องราวของ “เขมจิรา” เป็นชายที่เกิดมาในตระกูลคำสาป เขาตามผีหลอกหลอนไม่เว้นวัน และหวังจะเอาชีวิตเขา! ต่อมาเขาจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากพ่อครูภรัณ ผู้มีวิชาอาคม ให้มาช่วยเหลือสู้กับคำสาปและผีตนนี้! https://www.instagram.com/reel/DMcyfF-zZZQ/?igsh=eHg1dGpkM3RsMmJs https://www.instagram.com/reel/DMP4uc2prsK/?igsh=b3U4cjBtZWlvaDk=           ในเรื่องนี้หนุ่มน้ำปิง นภัสกร รับบทเป็น “เขมจิรา” เขาคือเด็กหนุ่มที่ได้เผชิญกับคำสาปตระกูล ซึ่งเขาถูกวิญญาณอดีตชาติอย่าง ผีรำพึง ตามหลอกหลอน และหวังจะเอาชีวิต ทำให้เขาหาทางออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จ เขามีความสามารถเหนือธรรมชาติ อาทิ มองเห็นวิญญาณ มีพลังอาคม ต่อมาคนที่จะมาช่วยเหลือเขาคือพ่อครูภรัณ https://www.instagram.com/p/DNDxOk6SIBT/?igsh=ems4cWtxdWc5eHZt         โดยน้ำปิงในบทบาทของ เขมจิรา เป็นอะไรที่แบบฟิตติ้งมาก! แสดงเก่ง แสดงดี มีการแสดงอารมณ์ ใช้อินเนอร์ ผ่านทางสีหน้า น้ำเสียง หรือภาษากาย ที่แบบเป็นธรรมชาติมาก แถมหนุ่มน้ำปิงในเรื่องก็ยังมีเคมีเคใจที่ฟินมากกับหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ ซึ่งเมื่อแสดงด้วยกันแล้วคือโบ๊ะบ๊ะสุด ลุคดี เหมาะสมกับคาแรคเตอร์ของน้ำปิง บอกเลยว่าเป็นหนึ่งผลงานนำของน้ำปิงที่สุดยอดมาก🫶🏻 https://www.instagram.com/p/DNLaPijSDz3/?igsh=MWltMjN3YTJudjVxOA== ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รู้จัก น้ำปิง นภัสกร นายเอกใน เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series โดยเพื่อน ๆสามารถติดตามหนุ่มน้ำปิง  นภัสกร ได้ทาง Instagram : @nampingster และสามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 21:30 น. ช่อง One31 และเวลา 22:30 น. (Uncut Version) ทาง iQIYI เลยค่า ^^  เครดิตภาพหน้าปกโดย @nampingster ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3   เครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย @nampingster : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 @mandeeworkofficial : วิดีโอที่1  จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รู้จัก 6 นักแสดง เขมจิราต้องรอด khemjira the series 2025
อ่าน

รู้จัก 6 นักแสดง เขมจิราต้องรอด khemjira the series 2025

วาร์ป 6 นักแสดง เขมจิราต้องรอด khemjira the series 2025 ซีรีส์แนวดราม่าลี้ลับ-แฟนตาซี ที่เล่าเรื่องราวของ “เขมจิรา” หญิงสาวที่ถูกวิญญาณจากอดีตชาติตามหลอกหลอนและท้าทายให้เธอต้องเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น พร้อมกับการเปิดเผยความลับและปมปริศนาในครอบครัว ซีรีส์นี้ผสมผสานความสยองขวัญและความโรแมนติกในฉากหลังที่สวยงามของภาคเหนือไทย นักแสดงนำได้แก่ น้ำปิง นภัสกร เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย และ กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล  นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบอีกมากมายที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและเนื้อเรื่องให้เข้มข้นและน่าติดตามตลอดซีรีส์ วันนี้จะมีใครบ้างมาส่องกันค่ะ! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!!   1. น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง   https://www.instagram.com/p/DHn3k3QS9t0/?img_index=1 วันเกิด: 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 อายุ: 24 ปี บ้านเกิด: อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน การศึกษา: คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักแสดงสังกัดค่าย: DOMUNDI และ MANDEEWORK เส้นทางงาน ไลฟ์สไตล์ เล่นมิวสิควิดีโอเพลง “โต๊ะริม” ของ นนท์ ธนนท์ ซึ่งทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เข้าร่วมรายการ “DMD Friendship The Reality” ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ของค่าย DOMUNDI หนุ่มหน้าใส สุขุม และมีเสน่ห์เฉพาะตัว ชื่นชอบการถ่ายภาพและการเดินทาง 🎬 ผลงานเด่น ซีรีส์ Night Dream คืนของฉันฝันของเธอ  เป็นซีรีส์วายแนวโรแมนติกที่เล่าเรื่องราวของเพื่อนสนิทในวัยเรียนที่กลับมาเจอกันอีกครั้งในช่วงใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัย ดับแสงรวี ภาพยนตร์ไทยแนวรัก สยองขวัญ รับบทเป็น พุดซ้อ เขมจิราต้องรอด รับบท เขมจิรา เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมคำสาปประจำครอบครัว หากเป็นชายต้องเสียชีวิตก่อนอายุ 21 ปี บ้านจึงตั้งชื่อเป็นผู้หญิงเพื่อแก้เคล็ด ต้องสู้กับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติและความเชื่อมโยงกับอดีตชาติ เพื่อพยายามมีชีวิตรอด Instagram: @nampingster,      2. เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย    https://www.instagram.com/p/DMm-1PpJlMe/?img_index=1 วันเกิด: 19 สิงหาคม พ.ศ. 2542 อายุ: 26 ปี บ้านเกิด: อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา  การศึกษา: จบหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา (ภาษาไทย) จาก วิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา  นักแสดงสังกัดค่าย: DOMUNDI และ MANDEEWORK เส้นทางงาน ไลฟ์สไตล์ เริ่มเป็นที่รู้จักจาก คลิปไวรัลบน TikTok ในบทบาท “ครูภาษาไทยหล่อ” ที่มีผู้ชมหลายล้านวิว จากนั้นเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ “DMD Friendship The Reality” ของค่าย Domundi TV บุคลิกเงียบ สุขุม และมีมาดครู ทำให้ดูน่าเชื่อถือ แต่มีมุมลึกที่อินกับบทมากเพราะสะท้อนรากเหง้าที่บ้านทำสวนภาคเหนือ 🎬 ผลงานเด่น ภาพยนตร์ “วิมานหนาม” (ปี 2024) – บท จิ่งนะ เป็นผลงานการแสดงทางการครั้งแรก โดยแสดงร่วมกับนักแสดงชื่อดังหลายคน ถือเป็นการแจ้งเกิดเต็มตัว  บท “จิ่งนะ” ไม่มีผลงานอื่นก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็น นักแสดงหน้าใหม่ ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เขมจิราต้องรอด รับบท ภรัณ พ่อครูสายอาคมไสยขาว อายุประมาณ 30 ปี ผู้มีวิชารักษาและรู้เรื่องกรรม เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขมจิราในอดีตชาติ เลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเวรกรรมของผู้อื่นในตอนแรก แต่สุดท้ายช่วยเหลือเขมจิราในการต่อสู้กับคำสาป Instagram: @harit_keng     3. เติ้ล มติมันท์ ศรีบุญเรือง   https://www.instagram.com/p/DJ1GJWuvnoi/?img_index=1 วันเกิด: 13 กันยายน พ.ศ. 2541 อายุ: 27 ปี  บ้านเกิด: จังหวัดกาญจนบุรี การศึกษา: จบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักแสดงสังกัดค่าย: DOMUNDI และ MANDEEWORK เส้นทางงาน ไลฟ์สไตล์ เติ้ลเป็นนักแสดงจากค่าย Domundi TV ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นผู้เข้าแข่งขันในเรียลลิตี้ “DMD Friendship The Reality” ก่อนเข้าสู่วงการแสดงเต็มตัว มีความสนใจด้านดนตรีและการร้องเพลง โดยได้แต่งเพลงเอง เช่น เพลง "เป็นเธอได้ไหม" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก เฟิร์สวัน และปล่อยในรูปแบบ MV ที่เขาทำเองตั้งแต่ต้น และมีการขอบคุณทีมผลิตอย่างอบอุ่นผ่านโซเชียล  🎬 ผลงานเด่น  DMD Friendship The Realityผู้เข้าแข่งขัน (แขกรับเชิญ) 2024 Secret Love (ซีรีส์ยาว 81 ตอน)รับบทหลัก “จิน” ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวนักแสดงในบทซีรีส์เต็มตัว  เขมจิราต้องรอด รับบท ชาญวิทย์ เด็กหนุ่มที่แสวงหาคำตอบในสิ่งที่สงสัย ใช้ความคิดวิเคราะห์ กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ร่วมลุยกับเขมจิราและเจตเพื่อความปลอดภัย Instagram: @tle_mtm     4. เฟิร์สวัน วรรณกร เรืองรัตน์   https://www.instagram.com/p/C80s_UavDzg/?img_index=1 วันเกิด: 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543 อายุ: 22 ปี  บ้านเกิด: จังหวัดเชียงใหม่ การศึกษา: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เส้นทางงาน ไลฟ์สไตล์ เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้าแข่งขันรายการ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 ถึงแม้จะไม่เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย เข้าสู่ ค่าย Domundi TV ช่วงปลายปี 2565 และเริ่มเตรียมผลงานซีรีส์เต็มตัวเรื่องแรกในชื่อ "ภพเธอ – Love Upon a Time Series" เป็นคนภายนอกดูสดใสร่าเริง แต่เมื่อสมัยเด็กเป็นคนเนิร์ด ชอบเล่นเกมคนเดียว ไม่ชอบออกจากบ้าน 🎬 ผลงานเด่น ภพเธอ Love Upon a Time Series – ถือเป็นผลงานซีรีส์อย่างเป็นทางการเรื่องแรกของเขา เพิ่งเปิดตัวเป็นศิลปินภายใต้ค่าย DMD Music กับซิงเกิลแรก “First Love” ซึ่งสร้างสรรค์เสียงเพลงรักแบบละมุนโดยโปรดิวเซอร์ชื่อดัง แจ๊ป The Richman Toy และภัฏ สิทธิเดชากรณ์ เขมจิราต้องรอด รับบท เจตนา ศิษย์ของภรัณ มีสัมผัสพิเศษและความรู้ด้านอาคม ใกล้ชิดกับเขมจิราในฐานะ เพื่อนสนิทและคนคอยช่วยเหลือในการต่อสู้กับฝ่ายลึกลับ Instagram: @firstone.wnk     5. กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล   https://www.instagram.com/p/DMmfk8JTmQk/?img_index=1 วันเกิด: 14 กันยายน พ.ศ. 2532 อายุ: 35 ปี  บ้านเกิด: อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  การศึกษา:ป.ตรีจาก คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ (ออกแบบภายใน) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ป.โท MBA (ธุรกิจอุตสาหกรรม) จากสถาบันเดียวกัน จบในปี 2559 ใช้เวลาเรียน 2 ปี  เส้นทางงาน ไลฟ์สไตล์ เข้าสู่วงการจากการประกวดรายการ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย (AF5) รหัส V16 และได้รองชนะเลิศอันดับ 5  เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับ ช่อง 7HD ตั้งแต่ปี 2554 ก่อนจะกลายเป็นนักแสดงอิสระหลังหมดสัญญา ชอบดูหนัง, ว่ายน้ำ และเล่นแบดมินตัน; เคยเที่ยวยุโรปกับครอบครัวเป็นความประทับใจสูงสุด จริงจังกับชีวิตการทำงาน 🎬 ผลงานเด่น ละครโทรทัศน์หลายเรื่อง เช่น: ขมิ้นกับปูน (รับบท ปัทมา ซึ่งได้รับคำชมอย่างมาก) ภาพยนตร์ มินตรา (บุษบา) ในปี 2562 รับบท มินตรา/มิน มิดไมล์ (Racing Love) ในปี 2554 รับบท แก้มหอม เขมจิราต้องรอด รับบท รำพึง วิญญาณผีสาวที่ตามหลอกหลอนเขมจิรา โดยมีแรงผลักดันจากอดีตชาติ ตัวละครหลักในฝ่ายเหนือธรรมชาติที่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเขมจิรา Instagram: @green_ausadaporn     6. เจนิส เจณิสตา พรหมผดุงชีพ   https://www.instagram.com/p/DJZA4NCTUWC/?img_index=1 วันเกิด: 18 มีนาคม พ.ศ. 2538  อายุ: 27 ปี  บ้านเกิด: จังหวัดตรัง การศึกษา: สำเร็จระดับปริญญาตรี จาก มหาวิทยาลัยมหิดล  เส้นทางงาน ไลฟ์สไตล์ เริ่มต้นจากการรับถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ และเล่นเอ็มวี ก่อนเข้าสู่วงการแสดงเต็มตัว จุดแจ้งเกิดเป็นที่รู้จักในบท พลอยใส จากละครเรื่อง เมีย 2018 (รักเลือกได้) ซึ่งแม้จะขึ้นจอเพียงไม่กี่ฉาก แต่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมจนกลายเป็นที่รู้จักกว้างขวางเธอเป็นคนชอบดูแลตัวเอง สุขภาพ ชอบกิน 🎬 ผลงานเด่น  ละครโทรทัศน์ (ปีพ.ศ. 2560–2567) เพลงบินใบงิ้ว (2565) – รับบท แสงนวล และคว้ารางวัล นักแสดงสมทบหญิงดีเด่น จากเวที “มณีเมขลา” ครั้งที่ 3 Together With Me: อกหักมารักกับผม (2560) – รับบท เนื้อแพร เขมจิราต้องรอด รับบท เขมมิกา (อดีตชาติของ เขมจิรา) แสดงบทเขมจิราในอดีตชาติ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของคำสาปและความแค้นที่ตามสะสมมายาวนานกว่า 400 ปี Instagram: @janistarr     ติดตามความสนุกและความลึกลับของซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด” ได้ทางช่อง ทางช่องวัน 31 ทุกวันเสาร์ เวลา 21:30 น. สำหรับเวอร์ชัน UNCUT สามารถรับชมได้ทางแอป iQIYI เริ่มออกอากาศตอนแรกวันที่ 9 สิงหาคมนี้ อย่าพลาดชมการแสดงสุดประทับใจจากทีมนักแสดงคุณภาพ นำโดย น้ำปิง นภัสกร, เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย, อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล และ นักแสดงคนอื่นๆที่พร้อมจะพาคุณดำดิ่งสู่โลกเหนือธรรมชาติและความลับที่รอให้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วมลุ้นไปกับเขมจิราที่ต้องเอาตัวรอดในเหตุการณ์ชวนขนลุกครั้งนี้!   ขอขอบคุณ ภาพปก 1 โดย @nampingster / 2 โดย @harit_keng / 3 โดย @tle_mtm / 4 โดย @firstone.wnk / 5 โดย @green_ausadaporn / 6 โดย @janistarr ภาพที่ 1 โดย @nampingster / 2 โดย @harit_keng  / 3 โดย @tle_mtm / 4 โดย @firstone.wnk / 5 โดย @green_ausadaporn / 6 โดย @janistarr   จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !  

รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ซีรีส์จาก DMD
อ่าน

รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ซีรีส์จาก DMD

           มาแล้ววววว หลังจากรอคอยมานานแสนนาน สำหรับ “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” ซีรีส์บอยเลิฟระทึกขวัญจากทางบ้าน DoMunD ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของเขมจิรา ที่เขานั้นได้ถูกตามล่าจากแรงอาฆาตของผีรำพึง ทำให้เขาได้พ่อครูภรัณมาช่วย เรียกว่าพล็อตดี ตื่นเต้นสุด ๆ!✨ และในวันนี้เราเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาดูซีรีส์เรื่องนี้ผ่านทาง ‘รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series (2025) ซีรีส์ระทึกขวัญ จาก DMD’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ซีรีส์ เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series          ซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” บอกเล่าเรื่องราวของ “เขมจิรา (รับบทโดย น้ำปิง นภัสกร)” เขาคือชายหนุ่มอายุ 20 ปี ที่ได้เติบโตมาพร้อมคำสาปโบราณของตระกูลที่สืบทอดกันกว่า 400 ปี โดยหากเป็น ลูกชายจะตายก่อนอายุครบ 21 ปี เป็นเหตุให้เขาได้เปลี่ยนชื่อ โดยเขาโดนผี “รำพึง” (รับบทโดย กรีน อัษฎาพร)” วิญญาณจากอดีตชาติตามอาฆาต และต้องการที่จะฆ่าเขา ทำให้เขาได้ไปขอความช่วยเหลือจาก “พ่อครูภรัณ (รับบทโดย เก่งหฤษฎ์)” ผู้ซึ่งมีวิชาไสยขาวที่เก่งกล้า เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ต้องไปติดตามค่า นักแสดง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series น้ำปิง นภัสกร รับบทเป็น “เขม เขมจิรา จันทราพิสุทธิ์” เก่ง หฤษฎ์ รับบทเป็น “ภีม ภรัณ เรืองเดช”          สำหรับซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” เป็นซีรีส์แนวบอยเลิฟ โรแมนติก ผสมผสานความระทึกขวัญ สยองขวัญ ที่ดัดแปลงจากนิยายของ Cali โดยมีคาแรกเตอร์หลักคือ “เขม” เด็กหนุ่มที่ภายนอกดูธรามดา แต่เขานั้นมองเห็นผีและมีคำสาปว่าจะตายก่อนอายุ 21 ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้ชีวิตประจำวันของเขาเจอแต่เรื่องแปลกประหลาดโดยเขาก็อยากให้พ่อครูภรัณ ซึ่งเป็นพ่อครูสายธรรมมะ มาช่วยเหลือปัดเป่าไล่ผีและช่วยเรื่องผีที่ตามอาฆาตเขา           โดยในซีรีส์เรื่องนี้มีคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ ผสมผสานความแฟนตาซี สยองขวัญ ความรัก และสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งผ่านการเผชิญกับเรื่องราวอุปสรรคที่เหนือธรรมชาติอย่างการตามไล่ล่าจากผี เป็นซีรีส์ที่มีการเดินเรื่องน่าติดตามจังหวะดี พรีเซ้นท์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ การดำเนินเรื่องค่อนกระชับ เล่าถึงที่มาที่ไปของตัวละครหลักอย่าง ‘เขมจิรา’ ที่ต้องพบเจอกับเรื่องราวสุดหลอน และโยงไปสู่ตัวละครอย่าง ‘พ่อครูภรัณ’           และแน่นอนว่าเพื่อน ๆ คนไหนเป็นสาวกซีรีส์จากทางบ้าน DoMunDi จะรู้เลยว่านอกจากพล็อตเรื่องจะมีเซอร์ไพรส์อยู่เสมอแล้วนั้น จุดเด่นสำคัญอีกหนึ่งอย่างเลยคือ ด้านโปรดักชัน สำหรับซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด มีภาพและแสงสวยมีการโทนภาพที่เข้ากับธีมที่เป็นแนว สยองขวัญ+โรแมนติก มีมู้ดแอนด์โทน Dark ที่ช่วยเสริมอารมณ์ฉากระทึกขวัญในเรื่อง มุมกล้องดีมาก แถมในเรื่องนี้ก็ยังมีฉากและพร็อพจัดเต็ม อย่างฉาก พิธีกรรมไสยศาสตร์ คือดูน่ากลัว มีความขลัง รวมถึงแค่พาร์ทแรกออกมาก็เสิร์ฟผีหลอน ๆ แบบรัว ๆ เรียกว่าเป็นซีรีส์แนวสยองขวัญที่ทำถึง!          และที่ปังอีกหนึ่งเรื่องเลยคือ การออกแบบคาแรกเตอร์ และคอสตูมของนักแสดง ที่โดดเด่น อย่างคาแรคเตอร์ของ ‘เขมจิรา’ จะเป็นแนวแบบวัยรุ่นทั่วไป แต่งตัวง่าย ๆ สบาย ๆ และคาแรคเตอร์ของ ‘พ่อครูภรัณ’ การแต่งตัวจะมาในแนวแบบโบราณ เป็นผ้าคลุมลายไทยที่เน้นดีเทลจึ้ง ๆ เรียกว่าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้ใครหลายคนจะต้องอวยยศ         โดยซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ก็ยังมีเคมีเคใจระหว่างนักแสดงนำในเรื่องอย่างหนุ่มหล่อเข้ม “เก่ง หฤษฎ์” และนายเอกหน้าหวานสุดน่ารัก “น้ำปิง นภัสกร” ที่บอกเลยว่าเคมีเข้ากันมาก โดยมีการสัมผัสได้ตั้งแต่แรกพบ มีการแสดงออกทั้งจากสายตา , บทพูดที่ส่งกัน ซึ่งอาจจะไม่ได้ฟินจิ้นแบบแรง ๆ แต่จะมีการเล่าแบบเป็นแนวความผูกพัน , ปกป้องกันและกัน ใครชอบฟีลแบบ emotional connection ที่สัมผัสผ่านตัวละคร จะต้องห้ามพลาดเลยน้า         และในซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังมีคู่รองอย่าง “เติ้ล มติมันท์ และเฟิร์สวัน วรรณกร” และนักแสดงสมทบปัง ๆ อีกมากมายเลยอาทิ กรีน อัษฎาพร , เจนิส เจณิสตา , เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ และอีกมากมาย ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series (2025) ซีรีส์ระทึกขวัญ จาก DMD โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 21:30 น. ช่อง One31 และเวลา 22:30 น. (Uncut Version) ทาง iQIYI เลยค่า #9สิงหาเขมจิรามาแล้ว #เขมจิราต้องรอดseries #KhemjiraTheSeries #MandeeWork เครดิตภาพหน้าปก @KhemjiraSeries ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความ @KhemjiraSeries ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 / ภาพที่9 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิว เขมจิราต้องรอด  Khemjira The Series 2025 #เก่งน้ำปิง
อ่าน

รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2025 #เก่งน้ำปิง

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series มาวันแรกวันที่ 9 สิงหาคม 2025 มีทั้งหมด 12 ตอน ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 21.30 น. ทางช่อง one 31 นำแสดงโดยน้ำปิง นภัสกร ที่มารับบท เขมจิรา ประกบคู่กับเก่ง หฤษฎ์ ที่มารับบท พ่อครูภรัณ บอกเล่าเรื่องราวของเขมจิราที่เกิดมาพร้อมคำสาปของตระกูลว่าจะต้องตายก่อนอายุ 21 ปีจึงต้องไปให้พ่อครูภรัณช่วย เรื่องราวจะสนุกแค่ไหนเชิญไปอ่านกันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เป็นเรื่องราวของเขมจิราที่ตระกูลฝั่งแม่ของเขาโดนคำสาป ถ้าเป็นเด็กผู้ชายจะตายโหงก่อนอายุ 21 ปี ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงจะต้องพรากจากคนที่รัก ซึ่งตอนนี้เขมจิราอายุ 20 ปีแล้ว คำสาปจึงเริ่มที่จะรุนแรงขึ้น เขมจิราโดนรำพึงผีสาวตามรังควานเพราะความผิดในอดีต โชคดีเขามีเจตเพื่อนสนิทที่คอยมาช่วยดูแลเขาซึ่งเจตนั้นก็พอจะมีอาคมอยู่บ้างจึงพยายามช่วยเขมจิรา พวกเขากำลังจะไปออกค่ายอาสาแต่มีปัญหาบางอย่างจึงไม่ได้ไป สุดท้ายเจตจึงเสนอรุ่นพี่ว่าให้มาที่อุบลบ้านเกิดของเจตเพราะเจตจะให้เขมจิราไปหาพ่อครูภรัณเพื่อขอให้พ่อครูภรัณช่วยเขมจิรา แต่พ่อครูกลับบอกว่าเขาจะไม่ยุ่งกับกรรมของคนอื่นทั้งที่เขมจิราเป็นคนรักเก่าของเขาชาติที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลังเลเพราะความผูกพันในอดีตชาติ สุดท้ายเขมจิราจะรอดไหมก็ต้องไปดูกัน เขมจิราตอนเด็กพ่อแม่ตั้งชื่อให้เขาว่าเขมจิราซึ่งคล้ายชื่อของผู้หญิงเพราะตระกูลของแม่เขาโดนคำสาปว่าถ้าเป็นเด็กผู้ชายจะต้องตายโหง ถ้าเป็นผู้หญิงจะไม่ได้อยู่กับคนรัก เขามองเห็นผีมาตั้งแต่เด็ก ตอนหมอผีบอกว่าจะทำให้เขาไม่เห็นผีก็ไม่ยอมเพราะถ้าแม่เขาตายไปเขาก็จะไม่เห็นแม่ เรื่องนี้น้ำปิงเล่นออกมาได้ดูเป็นคนสุภาพ เรียบร้อย พ่อครูภรัณเป็นชายหนุ่มอายุอานามก็ปาเข้าไป 30 ปีแล้ว เขาเป็นคนใช้อาคมไสยขาวที่เรียกว่ามีวิชาแก่กล้ามีประสบการณ์ปราบผีมามากมาย แต่เขานั้นเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมและถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวกับเวรกรรมของผู้อื่น ตอนเจตพาเขมจิรามาให้เขาช่วยเขาจึงปฏิเสธ เรื่องนี้เก่งเล่นออกมาได้ดูเป็นคนนิ่งๆ ไม่กลัวใคร   เสื้อผ้าและคอสตูมทำออกมาได้ดูสวยงามตามบริบทเนื้อเรื่อง ชุดเขมจิราจะเป็นชุดวัยรุ่นธรรมดาๆ ออกแนวสบายๆ แต่ใส่ออกมาก็น่ารักมาก ส่วนชุดพ่อครูภรัณก็เป็นแนวเท่ๆ ทันสมัย เข้าใจแฟชั่น ใส่ออกมาคือหล่อสุดๆ ฉากก็ทำออกมาได้ตรงตามแนวของซีรีส์ เป็นแนวบ้านเรือนในชนบท ฉากผีก็หลอนมาก ชอบที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวระทึกขวัญที่ทำออกมาได้ดูน่ากลัวไม่น้อย แต่ก็ลุ้นมากว่าผีจะออกมาตอนไหน บางทีก็มีฉากผีโผล่มาให้สะดุ้งเล่น แต่ซีรีส์ก็ยังมีความโรแมนติกอยู่ด้วย เพราะชาติก่อนเขมจิรากับพ่อครูเคยเป็นคนรักกันมาก่อน จึงผูกพันกัน ดูแล้วรู้สึกว่าครบรส ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกดราม่าระทึกขวัญที่ดูสนุก พล็อตเรื่องคือเขมจิราที่โดนคำสาปว่าจะมีอายุได้ไม่เกิน 21 ปี เขมที่ปีนี้อายุ 20 แล้วทำให้เจอเรื่องคอขาดบาดตายตลอด เขาจึงต้องไปให้พ่อครูภรัณช่วย ตอนแรกครูภรัณก็ไม่อยากยุ่งเพราะเขามองว่าเป็นกรรมใครกรรมมัน สุดท้ายเขมจิราจะรอดพ้นวันเกิดอายุ 21 ปีไหมก็ต้องไปดูกัน เดินเรื่องได้ไม่เร็วมาก แต่ก็ดูสนุก ลุ้นมาก ใครชอบแนวนี้ไปตามได้ค่ะ ซีรีส์วายที่น่าสนใจช่วงนี้ รีวิว ทำนายทายทัพ My Magic Prophecy 2025 #จิมมี่ซี รีวิว DOGBRO หมาน้องเดอะซีรีส์ 2025 ซีรีส์ดูสบายๆ ฟินๆ รีวิว Doctor's Mine หมอน่ารักคนนี้เป็นของผม 2025 รีวิวซีรีส์ Dating Game เดทเกมนี้ ต้องได้ใจนาย 2025 รีวิว จาฤกรติชา Memoir Of Rati 2025 เกรท อิน อ้างอิง ภาพปก ตกแต่งโดย canva ภาพที่1-4 ขอบคุณภาพจาก X: เขมจิราต้องรอด จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รู้จัก เจนิส เจณิสตา จาก เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series
อ่าน

รู้จัก เจนิส เจณิสตา จาก เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series

          เป็นหนึ่งในซีรีส์บอยเลิฟแฟนซีที่กระแสดีมาแรงไม่ไหว! สำหรับ “เขมจิราต้องรอด  Khemjira The Series” และหนึ่งในนักแสดงที่น่าจับตามองเลยคือ “เจนิส เจณิสตา” สาวหมวยสุดน่ารักที่ใครหลายคนชื่นชอบเธอมาก ๆ โดยในวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับสาวสวยหมวยคนนี้ผ่านทาง ‘รู้จัก เจนิส เจณิสตา สาวหมวยจากเขมจิราต้องรอด  Khemjira The Series’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เจนิส เจณิสตา           “เจนิส เจณิสตา พรหมผดุงชีพ” เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2538 ปัจจุบันอายุ 30 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยมหิดล https://www.instagram.com/p/C5LVl0oSouI/?igsh=MWYwcTBtMnUxcjQ0OA==           สาวเจนิสได้เริ่มต้นเส้นทางสู่วงการบันเทิงจากงานแสดงโฆษณาและเป็นเอ็กซ์ตร้า ก่อนที่เธอได้เข้าสู่วงการแสดงเต็มตัวจากซีรีส์ Together With Me อกหักมารักกับผม และผลงานที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักเลยคือละครเรื่อง เมีย 2018 ในคาแรคเตอร์ของ พลอยใส ที่ทำให้ใครหลายคนถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก และมีผลงานปัง ๆ มากมาย อาทิ แก่นแก้ว, เมียหลวง, เพลงบินใบงิ้ว https://www.instagram.com/p/DGIkVWLS_wO/?igsh=cHFwb3duMW5wYjRk          และที่เพื่อน ๆ หลายคนจะต้องหลงรักสาวเจนนิสเลยคือความน่ารัก ตรงไปตรงมาและจริงใจ โดยสาวเจนิสนั้นเป็นคนที่นิสัยแมน ๆ เป็นคนที่พูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง อีกทั้งหากเพื่อน ๆ คนไหนติดตามแพลตฟอร์ม Tiktok ของเธอ จะรู้เลยว่าสาวเจนนิสเป็นคนที่ฮามาก มีความธรรมชาติ บอกหมดแบบไม่มีกั๊ก โดยจะมีช่อง “คู่มือเตรียมดัง” ซึ่งจะเปิดเผยพวกเบื้อหลังการเป็นดารา คือฮา เม้าแฟ้ดเหมือนคุยกับเพื่อนสาวมาก รวมถึงเธอยังเป็นคนที่ทุ่มเทและพัฒนาตัวเองตลอด โดยจะเห็นเลยว่าสาวเจนนิสนั้นมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดเสมอ บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในสาวสวยน่ารักที่สวย เก่ง น่ารัก ตลกธรรมชาติเวอร์🤣💕🫶🏻 https://www.instagram.com/p/DL4g6tNzMhn/?igsh=cGJrN2xqdml4cnBk         โดยผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของสาวเจนนิสนั่นคือ ซีรีส์แนวบอยเลิฟแฟนซีเรื่อง “เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)” ที่บอกเล่าเรื่องราวของ เขมจิรา เด็กหนุ่มที่ติดคำสาปเฉพาะตระกูล โดยหากเขาได้เกิดเป็นผู้ชายจะต้องตายก่อนอายุ 21 ทำให้เขาถูกเลี้ยงด้วยชื่อผู้หญิงเพื่อพยายามเลี่ยงและหลบหนีคำสาป Official Trailer | เขมจิราต้องรอด | Khemjira The Series https://m.youtube.com/watch?v=PV7rg5Pl-7Q           และในครั้งนี้เธอก็ได้แสดงเป็น “เขมจิรา (ในอดีตชาติ)” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชัน โดยภูมิหลังของเขมจิราคือ ในอดีตชาติเขมจิราเป็นตัวละครที่มีกรอบความสัมพันธ์กับภรัณ ทั้งสองเป็นชีวิตคู่ที่ทิ้งรอยหรือบ่วงกรรมไว้ และสิ่งนี้เองก็ได้ส่งผลต่อเรื่องราวปัจจุบัน เรียกว่าเขมจิราเวอร์ชันนี้เป็นเหมือนกันจุดเริ่มต้น ของความผูกพัน อารมณ์ ความรัก และคำสาปเลยละค่ะ             ซึ่งแม้ว่าพาร์ทของสาวเจนนิสยังไม่ได้เปิดเผยการแสดง แต่ก็แอบแง้ม ๆ เห็นภาพของสาวเจนนิสที่มีการใส่ชุดฟีลพีเรียด ซึ่งเป็นอะไรที่สวยสง่า น่ารักมาก แถมเธอยังมีหน้าตาคล้าย ๆ กับหนุ่มหน้าหวาน น้ำปิง นภัสกร หรือเวอร์ชัน เขมจิรา ในปัจจุบันอีกด้วย ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รู้จัก เจนิส เจณิสตา สาวหมวยจากเขมจิราต้องรอด  Khemjira The Series โดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามสาวเจนิส เจณิสตาได้ทาง Instgram : @janistarr และสามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 21:30 น. ช่อง One31 และเวลา 22:30 น. (Uncut Version) ทาง iQIYI เลยค่า ^^  เครดิตภาพหน้าปกโดย @janistarr ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 เครดิตภาพประกอบบทความโดย @janistarr : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 @KhemjiraSeries : ภาพที่4 / ภาพที่5 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย Mandee Channel Official Trailer | เขมจิราต้องรอด | Khemjira The Series จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

Google ปล่อย Android 14 Developer Preview 2 ออกมาให้นักพัฒนาได้ทดสอบแล้ว
อ่าน

Google ปล่อย Android 14 Developer Preview 2 ออกมาให้นักพัฒนาได้ทดสอบแล้ว

หลังจากที่ Google ได้ปล่อยซอฟต์แวร์ Android 14 เวอร์ชัน Developer Preview ตัวแรก ออกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุด Google ได้ปล่อยเวอร์ชัน Developer Preview ตัวที่ 2 ที่ได้รับการปรับปรุงความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัย, ศักยภาพโดยรวม และยกระดับประสบการณ์การทำงานทั้งด้านแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟนพับหน้าจอ นี่เป็นการทดสอบเพื่อปรับปรุงศักยภาพการทำงานของซอฟต์แวร์ก่อนที่ Google จะปล่อยเวอร์ชัน Beta ออกมาใช้ผู้ใช้ทั่วไปได้ทดสอบในเดือนเมษายน 2023 นี้ Android 14 Developer Preview 2 ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการอนุญาตให้แอปต่าง ๆ เข้าถึงได้เฉพาะรูปภาพและวิดีโอได้เท่านั้น โดยมีให้เลือกว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงทั้ง 2 รายการ หรือไม่อนุญาตให้เข้าถึงเลยทั้งหมด Android 14 Developer Preview 2 ได้รับการปรับปรุง API แพลตฟอร์ม Credential Manager ที่อนุญาตให้แอปดำเนินการลงชื่อด้วยการใช้ Passkey ให้มี UI ที่ดีขึ้น อีกทั้งแอปที่ต้องการเข้าถึงการทำงานพื้นหลังจะต้องได้รับอนุญาตก่อนด้วย Android 14 Developer Preview 2 ยังได้รับการปรับปรุงระบบจัดการความจำของ Android ทำให้มีการใช้ข้อมูลในขณะที่แอปทำงานบนพื้นหลังได้ดีขึ้น และยังสามารถจัดการข้อมูลตามภูมิภาคของผู้ได้ดีขึ้น เช่น หน่วยวัดอุณหภูมิ, วันแรกของสัปดาห์, การแสดงรูปแบบตัวลขบนระบบ โดยอ้างอิงจากภูมิภาคของผู้ใช้ Google ได้เปิดให้นักพัฒนาที่ใช้สมาร์ตโฟน Pixel รุ่น 4a 5G เป็นต้นไป สามารถติดตั้ง Android 14 Developer Preview 2 ได้ อ้างอิง

รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ซีรีส์วายทาง iQIYI
อ่าน

รีวิว เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ซีรีส์วายทาง iQIYI

เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2025 สวัสดีค่ะวันนี้ดิฉันจะมาป้ายยาซีรีส์วายใหม่เรื่อง " เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series "ซีรีส์แนวสยองขวัญ, โรแมนติก เริ่มตอนแรกวันที่ 9 สิงหาคมนี้  ดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันของ คาลิ ผลงานการกำกับของรอน ภัทรภณ โตอุ่น,อ๊อฟชั่น กิตติพัฒน์ จำปาและเด่น ภาณุวัฒน์ อินทวัฒน์ นอกจากนี้ยังได้นักแสดงนำอย่างหนุ่มสุดหล่อเก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย  มาประกบคู่กับหนุ่มหล่อหน้าหวานน้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง บอกเล่าเรื่องราวความรัก ความแค้น และชะตาต้องคำสาป ที่ต้องตายเมื่อก่อนอายุ 21 ปี  เขมจิรา จึงต้องทำทุกวิธีเพื่อให้ภรัณ พ่อครูหนุ่มช่วยเขาให้มีชีวิตรอด  ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่ารับชม และแฟนๆต่างรอคอยกันอย่างล้นหลาม  มาค่ะดิฉันจะพาไปป้ายยา รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ตัวอย่าง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series https://youtu.be/PV7rg5Pl-7Q?si=JfRbGKyy0v87d_3h แนว : สยองขวัญ, โรแมนติก จำนวนตอน :  12 ตอน รับชมได้ทาง: iQIYI เรื่องย่อ เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series  เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series ในเรื่องเล่าถึง เรื่องราวความรัก ความแค้น และชะตาต้องคำสาปของเด็กชายทุกคนที่เกิดมาในครอบครัวที่ถูกสาป เชื่อกันว่าหากมีลูกสาวเกิดในครอบครัวนี้ก็จะปลอดภัย แต่หากเป็นลูกชายก็จะเสียชีวิตก่อนอายุ21 ปี แม่ของเขาจึงตั้งชื่อให้เขาเหมือนกับชื่อลูกสาวว่า เขมจิรา ซึ่งแปลว่า "ปลอดภัยตลอดไป" เขมเชื่อเช่นนั้นจนกระทั่งอายุครบสิบเก้าปี  ก็เริ่มเกิดเรื่องชวนพิลึกพิลั่นขึ้นกับเขา เขาถูกวิญญาณร้ายตามหลอกหลอนจนต้องไปหาพ่อครูฝีมือดีอย่าง ภรัณ เพื่อช่วยตัวเขาเองให้มีชีวิตรอดจากคำสาปที่ว่า  ไปติดตามกันต่อในซีรีส์ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวความจะลงเอยเช่นไร  และเขมจิราจะคอดชีวิตได้หรือไม่ ป้ายยา เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series        ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์วาย แนวสยองขวัญ-โรแมนติก ที่ดิฉันดูแล้วรู้สึกว่าน่ากลัว แต่ก็ยังน่ารักและชวนให้หัวใจเต้นแรงมาก แต่ละตัวละครมีเสน่ห์และมีสีสรรค์มาก ทั้งความกวน ความหล่อ และความตลกที่ใส่มาอย่างลงตัว ผสมกับความรักได้แบบดีงาม แถมด้วยพล็อตที่แปลกใหม่ ทำให้น่าดูมากยิ่งขึ้น และยังได้พระ-นายที่หล่อ เท่  และน่ารักพอกัน มาเป็นตัวดึงให้เราอยากติดตามตอนต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในเรื่องบอกเล่าเรื่องราวชะตาต้องคำสาปของเขมจิราที่ต้องตายก่อนอายุ 21 ปี เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด เพื่อนของเขาแนะนำให้เขารู้จักกับพ่อครูหนุ่มสุดหล่ออย่าง ภรัณ แม้เขาจะเย็นชา และออกปากว่าช่วยไม่ได้ แต่เขมจิราก็ไม่ละความพยายาม เมื่อต้องมาอยู่ร่วมบ้านภายใต้ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่ผูกพันกัน ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้  เขมจิรากลายเป็นคนที่ภรัณต้องทำทุกวิธีเพื่อปกป้อง  บอกเลยว่ามีแต่ความฟิน จิกหมอนกระจายอย่างแน่นอนกับลูกหยอด ลูกอ้อน และความน่ารักของพวกเขา โดยรวมถือว่าเนื้อเรื่องสนุก และดูเพลิน แถมตัวนักแสดงก็เคมีเข้าขากันค่ะ    เคมีนักแสดงเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้น่าดูยิ่งขึ้น พระ-นายถ่ายทอดอารมณ์ ความขัดแย้ง และความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติ แถมด้วยฉากฟินๆที่ทำให้เราได้หัวใจสั่นกันหลายฉากอย่างแน่นอน ส่วนฉากสยองขวัญบอกเลยว่าทำออกมาได้น่ากลัวมาก ยิ่งฉากทำพิธียิ่งทำให้เราชื่อว่าพระเอกคือพ่อครูตัวจริง ความขลังเอย ความหล่อเอย เสิร์ฟมาแบบเต็มๆแน้นๆ ส่วนเสื้อผ้าหน้าผม คอสตูม จัดสรรค์มาอย่างดี เน้นแบบสไตล์วัยรุ่น ช่วยเสริมให้ทั้งคู่สวยหล่อและเข้ากับคาแรกเตอร์ได้เป็นอย่างดี  รอรับชมกันฟินๆได้เลยค่ะ      ถ้าคุณชอบซีรีส์แนวสยองขวัญ, โรแมนติก ชวนจิกหมอน ที่ทั้งหวาน ซึ้ง แถมด้วยความระทึกขวัญ แต่ก็ยังน่ารักเขมจิราต้องรอด Khemjira The Series  คือหนึ่งในเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นพล็อตที่ดึงดูดตั้งแต่ตอนแรก  ซีรีส์เรื่องนี้ให้มากกว่าความบันเทิง เตรียมตัวดื่มด่ำกับเรื่องราวสุดเข้มข้นนี้ไปพร้อมๆกันค่ะ... เครดิตภาพและวิดิโอ Twitter:เขมจิราต้องรอด | Khemjira The Series:หน้าปก ตัดต่อโดยผู้แต่ง Krambo Youtube:Mandee Channel :รูปที่ 1 Twitter:เขมจิราต้องรอด | Khemjira The Series:รูปที่ 2/3/4/5/6 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

[Hands-on Preview] Diablo 4 เล่าให้ฟังหลังได้ทดลองเล่นจริง
อ่าน

[Hands-on Preview] Diablo 4 เล่าให้ฟังหลังได้ทดลองเล่นจริง

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมานะครับ ทางทีมงานได้รับเชิญจาก Blizzard Entertainment ให้เข้าร่วมทดสอบเกม Diablo 4 กันก่อนใคร ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ก็ยังมีการสัมภาษณ์ทีมงานผู้พัฒนาเกมกันสด ๆ อีกด้วย ตัวเกมที่เราได้ทดลองเล่นนั่นยังเป็นเวอร์ชันที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา และยังไม่เสร็จสมบูรณ์สักเท่าไร โดยเนื้อหาที่เราได้เข้าถึง ก็จะเป็นเพียงโซนใน Act 1 และ Act 2 บางจุด พร้อมกับตัวละครทั้งหมด 3 Class ได้แก่ Rogue, Sorceress และ Barbarian และจำกัด Level สูงสุดที่ 25 และไม่จำกัดเวลาในการเล่น การทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันกับสื่อเจ้าอื่น ๆ ทั่วทั้งโลก แน่นอนว่าตัวเกมมีแต่เวอร์ชันภาษา ENG เท่านั้น โดยมีการทิ้งท้ายไว้ว่า “จะมีภาษาอื่น ๆ เพิ่มเติมหลังจากวางจำหน่าย”  ด้วยเวลาที่ไม่จำกัด ทางเราเองก็เล่นกันอย่างเต็มที่ และหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับเหล่าผู้พัฒนาหลังเล่นเสร็จแล้ว ก็ต้องบอกกันตามตรงเลยครับว่า งานนี้ Blizzard อาจจะกลับมาผงาดอีกครั้งก็เป็นได้นะ Story เนื้อเรื่อง Diablo 4 จะสานต่อจาก Diablo 3 หลังจากการตายของ Malthael ในภาค Reaper of Souls มีผู้คนล้มตายมากมายแหล่ะเหล่าผู้คนก็ต่างพากันเอาชีวิตรอดออกจากยุคมืด เวลาผ่านมาหลายปีหลังจากที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวกันได้แล้ว ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่จะทำให้โลก Sanctuary แห่งนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล Diablo 4 จะพูดถึงการมาของ Lilth ลูกสาวของ Mephisto, Lord of Hatred บอสใน Diablo 2 ที่เธอได้ถูกอัญเชิญมาด้วยพิธีกรรมมืดบางอย่าง พร้อมกับกลุ่มลัทธิที่ต้อนรับการมาของ Lilth โดย Concept ของ Diablo 4 นั้น ทีมงานได้ตั้งใจให้มีความดาร์กที่สุดเท่าที่เคยทำมา Theme ของเกมคือ “กลับสู่ความมึด” ทำให้มีความสยองและความแฟนตาซี แน่นอนว่าเกมนี้ไม่เหมาะกับเด็ก ๆ และจะเป็นภาคที่มีเนื้อเรื่องใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด เพราะว่า Lilth นั้นเธอเป็นผู้สร้าง Sanctuary และเหล่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ รวมไปถึงตัวเอกด้วยเช่นกัน ปกติแล้วใน Diablo เราจะได้เห็นการเล่าเรื่องแบบ Angel ปะทะ Demon ซึ่งเราจะรู้สึกเหมือนเป็นตรงกลางมาตลอด แต่คราวนี้เราจะได้เห็นมุมมองของเหล่ามนุษย์มากยิ่งขึ้น โดยนี่จะเป็นภาคที่มีเรื่องราวใหญ่ต่อมากที่สุดเท่าที่ Diablo เคยทำมาเลยล่ะ Art ในเกม Diablo 4 ก็คือการดึงเอาแนวทางของภาค เก่า ๆ กลับมาเป็นเสาหลัก โดยเฉพาะฉากโหด ๆ หรือฉากสยองขวัญ  Diablo 4 จะมีเปิดอิสระ ให้ผู้เล่นไปไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ โดยผู้เล่นไม่จำเป็นต้องสนใจเนื้อเรื่องหลักเลยก็ได้ โดยการสำรวจนั้นจะมีรางวัลดี ๆ มากมาย โดยทีมงานได้สร้างโลกที่ใหญ่ที่สุดในซีรีส์เท่าที่เคยทำมา โดยผู้เล่นสามารถเดินทางข้ามโซนได้อย่างไร้รอยต่อ เดินได้ทั้งแผนที่โดยไม่ต้อง Teleport เลย  และเป็นครั้งแรกในซีรีส์ สำหรับ Diablo 4 จะมีแคมเปญเนื้อเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง เส้นเรื่องจะแตกแขนงออกไป โดยเราจะเลือกเองได้ว่าจะเล่นเนื้อเรื่องแบบไหน ยกตัวอย่างเช่น บางจุดของเนื้อเรื่อง จะมีบางช่วงที่กลุ่มของตัวละครอาจจะแยกทางกัน ในระหว่างที่เราสำรวจโลก เราจะได้เจอ Camp ที่ถูกพวกมอนสเตอร์ยึดครองอยู่ และเราสามารถเข้าไปยึดคืนมาได้ และมันจะสร้างการเปลี่ยนแปลงของโลกในเกมแบบถาวร เพราะสถานที่เหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนจากสถานที่ชั่วร้าย เป็นหลักพักพิงของนักผจญภัยต่าง ๆ รวมไปถึงเราด้วย  เราอาจจะอยากแวะไปทำเควสอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเควสหลัก หรือออกสำรวจโลกได้ โดยที่ไม่มีอะไรมาขวางทาง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเราก็ต้องทำเควสหลักให้ครบอยู่ดีครับ ถึงจะเข้าสู่บทสรุปเรื่องราวในแต่ละช่วงได้ Gameplay Diablo 4 ยังคงรูปแบบ Gameplay เดิม ๆ เอาไว้ ก็คือยังคงความเป็น ARPG แบบเดิม แต่เพิ่มเติมคือคราวนี้ตัวเกมจะใช้ Art Style แบบภาค 1-2 แต่หยิบเอารูปแบบ Gameplay ของ Diablo 3 ที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมมาปรับใช้ และมีการเพิ่มสกิล Dodge เข้ามาให้ใช้กันทุก Class เป็นสกิลติดตัวมาเลย ทำให้การเคลื่อนไหวนั้นลื่นไหลมากกว่าเดิม ต้องยอมรับเลยว่าเกม ARPG แอ็กชันแบบเลือดสาสนั้นมันเหมาะสม และเกิดมาเพื่อ Diablo จริง ๆ ผสมผสานกับ Gameplay ที่ลื่นไหลมากกว่าเดิม ทำให้นี่คือ Diablo ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยก็ว่าได้ สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะรอคอยอยู่ ก็คือระบบ Character customize หรือการปรับแต่งตัวละคร โดยคราวนี้เราจะสามารถเลือกเล่น Class ไหนก็ได้ โดยทุก Class ก็จะสามารถเลือกเพศได้ พร้อมปรับแต่งหน้าตา ทรงผมได้อย่างอิสระ โลกในเกมคราวนี้จะไม่มีการแบ่งแผนที่อีกต่อไป นั้นหมายความว่าทุกโซนในเกมจะเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อระหว่างฉาก จะไม่มีการโหลดฉากอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามพวก Dungeon ต่าง ๆ ก็ยังเป็นแบบสุ่มเหมือนเดิม ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์ของ Diablo ที่มีมาตลอดทุกภาค ใน Diablo 4 จะไม่มีระบบนำทางตามรอยเท้าแบบภาคที่แล้วมา และตัวเกมต้องใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ทำให้ตลอดการเล่น เราอาจจะเข้าไปเจอกับผู้เล่นคนอื่น ๆ รวมไปถึง World Boss ที่จะสุ่มเกิดขึ้นมาตามจุดต่าง ๆ ให้อารมณ์เหมือนกับเล่นเกม MMORPG เลยทีเดียว และนี่เป็นครั้งแรกของ Diablo ที่ผู้เล่นสามารถแชร์โลกระหว่างกันได้ นั่นรวมไปถึงระบบการเล่นแบบ Cross Platfrom ด้วย ไม่ว่าใครจะเล่นอยู่เครื่องไหน ก็สามารถมาเล่นด้วยกันได้ และยังสามารถเล่นแบบ Local Play ได้อีกด้วย และนอกจากนี้ผู้เล่นยังมีโอกาสจะได้เจอกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ระหว่างการเดินทาง ในบางจุดก็จะมีอย่าง World Boss  โผล่ขึ้นมา และถ้าหากผู้เล่นเข้าไปสู้คนเดียว มันก็คงจบไม่สวยแน่นอน ระบบสกิลต่าง ๆ พื้นฐานแล้วยังคงคล้าย ๆ กับ Diablo ภาคก่อน ๆ มีการแยก Active Skill และ Passive Skill ที่ชัดเจน และสามารถ Upgrade สกิลเดิมได้ แต่ที่ถูกปรับใหม่เลยก็คือ Paragon ที่จะทำให้ตัวละครของผู้เล่นมีความแตกต่างจากคนอื่น ๆ ได้ไปหลายสายมาก ๆ พวกชุด อาวุธ เครื่องประดับต่าง ๆ ก็ยังคงเดิมเอาไว้ โดยภาคนี้จะเอา Item แบบ Unique กลับมา พวกของอย่าง Legendary เองก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่หายไปไหน และเราสามารถทำการย้ายความสามารถจาก Item ชิ้นนึง ไปอย่างชิ้นอื่น ๆ ได้อีกด้วย สรุปแล้ว Diablo 4 นั้นยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้เป็นอย่างดี โดยการกลับไปใช้แนวทางเดิม ๆ ของภาค 1-2 ทำให้แฟน ๆ หลายคนชอบใจเป็นอย่างมาก โดยสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับ Diablo 4 ก็คือการที่ตัวเกมเลือกเดินทางสู่ Open World เต็ม ๆ นี่ล่ะ มันจะทำให้ผู้เล่นมีแนวทางที่หลากหลายในการดำเนินเรื่องของตัวเองเป็นอย่างดี แนวทางของ Diablo 4 นั้น Blizzard ตั้งใจจะให้เป็นเกมแนว Live Service ที่จะเปิดให้บริการไปยาว ๆ พร้อมกับมี Season Pass และร้านขายของออนไลน์ แน่นอนว่าทุกอย่างที่ขาย จะเป็นเพียงแค่แฟชัน หรือของตบแต่งตัวละครเท่านั้น รับประกันได้เลยว่าจะไม่มี Pay 2 Win แน่นอน นอกจากนี้ทาง Blizzard เองก็ยังบอกไว้ด้วยว่า พวกเขาเอาใจใส่ผู้เล่นในทวีป SEA เป็นอย่างมาก ผู้เล่นไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่อง Ping หรือการเชื่อมต่อต่าง ๆ เพราะพวกเขามั่นใจว่าจะมอบประสบการณที่ยอดเยี่ยมให้ผู้เล่นชาว SEA อย่างแน่นอน Diablo 4 จะวางจำหน่ายวันที่ 4 มิถุนายน 2023 สำหรับ PC Battle.net, PlayStation 4/5, Xbox On และ Xbox Series S/X

ชวนติดตาม Khemjira The Series 2025 สู้กับคำสาปร้ายประจำตระกูลในเขมจิราต้องรอด
อ่าน

ชวนติดตาม Khemjira The Series 2025 สู้กับคำสาปร้ายประจำตระกูลในเขมจิราต้องรอด

https://www.youtube.com/watch?v=WADsk88cA0c                      ผู้เขียนเคยได้ตามข่าวอยู่พักหนึ่งเกี่ยวกับ เขมจิราไม่รอด แต่เมื่อมีการเปลี่ยนผู้จัด เปลี่ยนนักแสดงชุดใหม่ กลายเป็น เขมจิราต้องรอด ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ไม่แปลกใจเลยเพราะแฟนนิยายเขาตั้งตารอคอยมาก ผู้เขียนไมม่เคยอ่านก็ไปตามอ่าน ยังคิดเลยว่าถ้าพวกเขาหลุดออกมาจากโลกนิยาย กลายเป็นซีรีส์ จะให้ความรู้สึกยังไง ไปตามอ่านกันเลยครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://www.instagram.com/p/C74OKC-um4d/                       เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคำสาปร้ายประจำตระกูล มีอดีตชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งประเด็นความรัก ความอาฆาตแค้น จนเกิดเป็นความพลัดพราก และการกลับมาพบกันอีกครั้ง เรื่องราวไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ที่น่าติดตามคือพระเอกเป็นหมอธรรมที่ทำหน้าที่ปัดเป่า ปกป้องหมู่บ้าน คอยช่วยเหลือผู้คนจากดวงวิญญาณร้าย ใหม่มาก ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลยในวงการซีรีส์วาย ยิ่งในตัว PILOT เขมจิราต้องรอด มันน่าดูมาก มูดแอนด์โทนดีมาก ฉากหมอธรรมปราบผีก็ให้ความรู้สึกขลัง ฉากผีอาละวาดก็ให้ความรู้สึกหน้ากลัว เราจึงต้องร่วมกันติดตามว่าคนที่เกิดมาพร้อมชะตาต้องคำสาปแบบเขมจิรา จะต้องทำวิถีทางไหนบ้างให้มีชีวิตรอด และภรัณจะช่วยลบล้างคำสาปนี้ได้หรือไม่เป็นการค้นหาอดีตชาติ บอกเล่าความรัก และความอาฆาต ดลบันดาลให้คนที่เคย พลัดพราก กลับมาพบกัน... https://www.instagram.com/p/C8E5yxvMxVA/                      ภรัณ (รับบทโดย เก่ง หฤษฎ์) หมอธรรม หรือ หมอผีผู้แกร่งกล้าในวิชาอาคมที่สืบทอดมาจากครอบครัว ใคร ๆ ต่างเรียกเขาว่า "พ่อครู" ถึงจะเป็นคนแข็งกร้าว แต่เขาได้ใช้วิชาที่มีช่วยเหลือผู้อื่นจนเป็นที่เคารพนับถือ ถ้าไม่ใช่เก่งก็ไม่รู้จะให้ใครแล้วอะ เพราะเก่งแสดงนเราเชื่อว่าเป้นพ่อครูที่มีวิชาอาคม เป็นพ่อครูที่ติดแกรมด้วยแหละ https://www.instagram.com/p/C8E55kwMoOH/                       เขมจิรา (รับบทโดย น้ำปิง นภัสกร) เด็กหนุ่มผู้เกิดมาพร้อมคำสาปของตระกูลที่ต้องถึงฆาตเมื่ออายุ 21 ปี ชีวิตที่ถูกวิญญาณร้ายตามรังควาน แม้จะต้องอยู่อย่างหวาดกลัวหรือยากลำบากแค่ไหน แต่เขาก็พร้อมจะสู้เพื่อมีชีวิตรอด แต่เราเห็นถึงความเหนื่อยล้าของตัวละคร ตอนบอกกับพ่อครูว่าไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะยอมแพ้ เกือบร้องไห้ตามเลย https://www.instagram.com/p/C8E5eimsuND/                      รำพึง (รับบทโดย กรีน อัษฎาพร) ดวงวิญญาณร้ายที่เป็นผู้สาปแช่งตระกูลของเขมจิรา เธอมีความแค้นและความอาฆาตจากความเจ็บปวดในอดีต ที่ไม่มีวันให้อภัยได้ พี่กรีนเล่นเป็นผี ฝีมือระดับนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงเลย ในส่วนของตัวละครรำพึง เป็นปมที่อยากรู้มาก ว่าตระกูลของเขมจิราเคยไปทำอะไรไว้ นางถึงได้แค้นขนาดนี้ https://www.instagram.com/p/C74N8PtOcHG/?img_index=3                       ความรู้สึกที่ได้รับชมก็คือประทับใจเลย นั่งนับวันเวลาทุกวัน ว่าจะมาเมื่อไหร่ และผู้เขียนชอบมากซีรีส์ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความเชื่อ ความศรัทธา เหมือนเรากำลังเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นไปด้วย เราจึงหวังว่าจะได้เห็นภาษา การแต่งกาย และอาหารที่เป็นของประจำถิ่นจริง ๆ ทีมงานอาจจะต้องทำงานหนักหน่อย แต่ถ้าทำงานละเอียดออกมาได้ดี พิถีพิถันกับองค์ประกอบต่าง ๆ ในแต่ละฉากเพิ่มมากขึ้น ซีรีส์ก็จะออกมาดีทั้งโปรดักชั่นและเนื้อหา เพราะโปรดักชั่นผู้เขียนไม่ห่วงเหมือนกัน ค่ายนี้ทำถึงอยู่แล้ว ในส่วนของนักแสดง ไม่ขอแตะเลย เพราะมันดีมาก ลงตัวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ยิ่งฉากหวาน ๆ นะ เขินไม่ไหว เผลอบิดตัวด้วยความเขินไปฉากหนึ่ง เกือบลืม เอ็นดูเจ้ากุมารสองตนมาก ตอนยืนอยู่ด้านหน้าเคียงข้างพ่อครู เพื่อประจันหน้ากับรำพึง ฉากนี้ขนลุกมาก                        สรุปแล้วเป็นซีรีส์วายที่ผู้เขียนตั้งตารออีกเรื่องหนึ่งเลย และมีข้อมูลว่าตอนนี้ซีรีส์ได้เปิดกล้องถ่ายทำแล้วตั้งแต่วันที่ 12 เวลา 12 นาฬิกา วันอังคาร ขึ้น 12 ค่ำ เดือนสิบสอง (12) ปีมะโรง ฤกษ์งามยามดีสุด ๆ ดังเป็นพลุแตกแน่นอน โดยสามารถรอติดตามรับชมได้ภายในปี 2568 ทางช่อง one31 ฝากด้วยนะครับ คะแนนความน่าดู 10/10 ขอขอบคุณ เครดิตภาพปก จาก khemjiratheseries 1 , 2 , 3 เครดิตวิดีโอ จาก Mandee Channe เครดิตรูปภาพที่ 1 จาก khemjiratheseries เครดิตรูปภาพที่ 2 จาก khemjiratheseries เครดิตรูปภาพที่ 3 จาก khemjiratheseries เครดิตรูปภาพที่ 4 จาก khemjiratheseries เครดิตรูปภาพที่ 5 จาก khemjiratheseries บทความแนะนำ ชวนติดตาม Duang With You Series เคมีสุดปีศาจพร้อมเปิดวาปนักแสดง รีวิวซีรีส์สุดฟิน Only Boo (2024) อยากเป็นที่รัก แต่คงเป็นได้แค่ที่แกง รีวิวซีรีส์สุดฟิน I Feel You Linger In The Air สัมผัสความรักสุดพิถีพิถันในหอมกลิ่นความรัก รีวิวซีรีส์สุดฟิน City of Stars (2024) โรแมนติกคอมเมดี้ฟีลกู้ดไปกับเฟื่องนคร   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

[Review] The Last of Us Part I ผลงานที่ดีที่สุดใน PlayStation 5
อ่าน

[Review] The Last of Us Part I ผลงานที่ดีที่สุดใน PlayStation 5

หากเรามองย้อนกลับไปในช่วงยุคปี 2008-2013 ต้องบอกว่ากระแสเกม Survival รูปแบบแนว post-apocalyptic นั้นได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมาก จุดเริ่มต้นของมันมาจากแนวคิดง่าย ๆ กับเกมที่ออกแบบให้ผู้เล่นได้ “เอาชีวิตรอด” ในโลกที่ล่มสลาย (post-apocalyptic world) ลองนึกภาพดูถ้าหากเหล่าสัตว์ร้ายในรูปแบบต่าง ๆ ได้เข้ายึดครองโลกทั้งใบ และเรากับมนุษย์กลุ่มเล็ก ๆ เป็นผู้รอดชีวิตที่เหลือ มันจะเกิดอะไรขึ้น โดยจุดเริ่มต้นของมันเริ่มต้นมาจากเกมอย่าง Wasteland และ Fallout ที่ได้สร้างฐานของผู้เล่นแนวนี้เอาไว้บ้าง จนมาถึงในช่วงปี 2009 เมื่อเกมเมอร์ได้สัมผัสกับ Left 4 Dead ที่นอกจาก Resident Evil แล้ว ก็มีเกมนี้ล่ะทำให้เห็นว่าถ้าหากเกิด Zombie Outbreak จริง ๆ จะเป็นอย่างไร และแน่นอนกับซีรีส์เรื่อง The Walking Dead และท้ายสุดที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้อย่าง Arma 2 DayZ ที่เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเกมแนวนี้กันเลยทีเดียว เหล่าทีมงานค่ายใหญ่ ๆ ก็ต่างพากันตามกระแส และเข็นผลงานของตัวเองออกมา และหนึ่งในนั้นก็คือ Naughty Dog ผู้ที่ได้เข็นผลงานระดับขึ้นหิ้งอย่าง The Last of Us ออกมาในปี 2013 ด้วยแนวคิดง่าย ๆ ที่โยนผู้เล่นเข้าไปในโลก post-apocalyptic พร้อมกับการเล่าเรื่องขั้นเทพที่ทีมงานได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแล้วกับ Uncharted ทั้งสามภาค และทำให้มันกลายเป็นสุดยอดงานเกมที่อยู่ในใจเกมเมอร์หลายคนทั่วโลก The Last of Us วางจำหน่ายไปในปี 2013 ใน PlayStation 3 จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วกว่า 9 ปี (ก็นานอยู่นะ) พูดกันตามตรงเลยว่า ด้วยเกมที่เก่าถึง 9 ปี หากเอามาเทียบกับเกมใหม่ ๆ ยุคนี้ ก็ยังมีหลายเกมที่เทียบชั้นกับ The Last of Us ไม่ได้เลย ด้วยการที่ตัวเกมมันสร้างมาตรฐานไว้สูงมาก ๆ สูงจน Naughty Dog ก็คงจะมีชะงักไปกันบ้าง เพราะไม่รู้ว่าจะสร้างภาคต่อกันออกมาให้ดีกว่าเดิมยังไง ผลงานล่าสุดที่เราเห็น ก็มีเพียงแต่ Uncharted 4 ที่อยู่ดี ๆ ก็กลับมาสานต่อเรื่องราวที่จบเป็นไตรภาคไปแล้ว กับภาคต่ออย่าง The Last of Us Part II ที่เสียงวิจารณ์แตกกันไปในทางดีและไม่ดี ทำเอาแฟน ๆ ถึงกับสงสัยเลยว่า แล้วงานต่อไปของ Naughty Dog จะเป็นอะไร IP ใหม่ ? หรือกลับมาจบไตรภาค The Last of Us ให้ครบ 3 ภาคสักที แต่ดูเหมือนสาวกก็ยังคงต้องรอกันอีกสักพักเลย เพราะผลงานล่าสุดของพวกเขานั้นก็คือ The Last of us Part I นั่นเองครับผม เป็น Remake ไม่ใช่ Remastered ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า ผมชอบ The Last of us ภาคแรกมาก ๆ เลย และผมยกให้มันเป็นสุดยอดเกมในใจมาตลอด แต่ในส่วนของ Part II นั้น ผมจะขอไม่พูดถึง เพราะผมเองสารภาพเลยว่า ทุกวันนี้ผมก็ยังเล่น Part II ไม่จบ เพราะว่าไม่ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างในเกมนั้นมาก ๆ สาเหตุหลัก ๆ ก็คือเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของตัวละคร และการยัดเยียดที่มันมากเกินไป จนทำให้รู้สึกไม่สนุก ไม่มีอารมณ์ร่วมกับมันสักเท่าไร และสุดท้ายก็คือมันเป็น 30FPS เมื่อ The Last of us Part I ประกาศว่าจะมีการนำเอามา Remake ใหม่ ด้วย Engine ของภาค 2 พร้อมกับปรับกราฟิกใหม่ และวางจำหน่ายใน PC ด้วย ในตอนแรกผมเองก็รู้สึกแบบ “เฮ้ย มาว่ะ” แต่พอกลับมาคิดดูดี ๆ ผมก็กลับคิดว่า “เดี๋ยวนะ เกมมันเก่าขนาดนั้นแล้วหรอ” เอลลี่ เราจะไม่มีโอกาสที่จะ Remaster อีกแล้ว !! (ว่าไปนั่น) “The Last of Us Part 1 เป็นการ Remake ไม่ใช่ Remaster” โอเค หลังจากที่ผมเล่นมาจนจบเป็นรอบที่ 5 แล้ว (2 ครั้งใน PS3 และ 2 ครั้งใน PS4 ล่าสุดคือรอบเดียวใน PS5) ผมขอบอกเลยว่า นี่มันเป็นการ Remaster จากการ Remaster อีกที งงไหมครับ? เข้าใจกันง่าย ๆ The Last of us Part I มันเป็นเกม PS5 ที่ Remaster มาจาก The Last of Us Remastered ใน PS4 ที่มันถูก Remaster มาจากเกมต้นฉบับใน PS3 นั้นเอง บอกตามตรงว่าผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า Naughty Dog คิดอะไรอยู่ ถึงหยิบเอาเกมมา Remaster ซ้ำซ้อนแบบนี้ และยังขายในราคาเต็ม 69.99 USD แถมยังตัดโหมด Multiplayer ออกไปอีกด้วย ทั้งเกม ผมขอย้ำเลยว่า ทั้งเกม มันไม่ได้ต่างอะไรไปจากเดิมเลย เนื้อเรื่อง การเล่าเรื่อง มุมกล้อง หรือแม้แต่ Gameplay เองก็ยกมาจากภาคต้นฉบับทั้งหมด จะมีก็พวก UI และ QoL บางจุดในเกมที่หยิบเอาของ Part II มาใช้ รวมไปถึง Animation บางอย่าง และความฉลาดของ AI ที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว มันก็คือ ผมขอยก Quotes ของผมด้านบนมาใช้ “มันเป็นการ Remaster ที่ Remaster มาจากการ Remaster อีกที“ เกมจะเล่าเรื่องแบบเดิมเป๊ะทุกอย่าง ไม่ต่างไปจากเดิม เพิ่มเติมคือหน้าตาของตัวละครที่ถูกปรับปรุงตบแต่งใบหน้าให้สมจริงขึ้น แต่โดยรวมก็ยังเหมือนเดิม เสียงพากย์แบบเดิม มุมกล้องแบบเดิม เล่าเรื่องแบบเดิม หรือแม้แต่ฉากจบของเกม ที่ยังก็เหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสเล่าเรื่องเพิ่มเติมในส่วนของตัวละครตัวนั้น (พ่อของ Abby) ได้แล้วแท้ ๆ เผื่อจะได้ทำให้เนื้อเรื่องใน Part II มันมีเหตุผลขึ้นมาบ้าง อาหารจานเดิม เพิ่มเติมคือร้านใหม่ ถ้าหากจะบอกว่ามันไม่มีอะไรพัฒนาเลย ก็อาจจะใจร้ายกันไปสักหน่อย จริง ๆ แล้วต้องยอมรับนะครับว่าการที่ The Last of us ภาคแรกมาอยู่ใน Engine ของภาค 2 เนี่ย มันทำให้เราเหมือนได้กินข้าวร้านเดิม เพิ่มเติมคือร้านมีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ผลที่ออกมาคือมันก็ยังอร่อยเหมือนเดิม เป็นรสชาติที่เราชอบ และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมาก ๆ และท้ายสุดแล้วมันก็ยังเป็นอาหารจานเดิม จานที่เราเคยกินมาแล้ว และกินมาตลอดหลายปี เป็นรสชาติที่เราจำได้ดี The Last of us Part I คืออาหารจานเดิม มาจากเชฟคนเดิม และเพิ่มเติมคือมันมาอยู่ในร้านใหม่ ร้านที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว แน่นอนว่ามันทำให้ผมรู้สึกอร่อยเหมือนเดิมเลย คือตลอด 14 ชั่วโมงของเนื้อเรื่องหลัก ผมสนุก ตื่นเต้น และติดตาม ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ก็ต้องบอกเลยว่าเกมมันสนุกจริง ๆ ต่อให้อีก 10 ปี 20 ปี ผมกลับมาเล่น ก็ยังคงรู้สึกแบบนี้เหมือนเดิม มีอยู่หลายจุดที่ผมมองแล้วรู้สึกว่า เออ มันพัฒนาขึ้นจริง ๆ เรื่องแรกเลยก็คือกราฟิก ที่มันสวยมาก ๆ สวยจนแบบว่า เออผมเข้าใจเลย ว่าถ้าหาก Part II มันมาอยู่ใน PS5 บ้าง มันจะสวยไปได้ขนาดไหน แสง สี เงา รายละเอียดพื้นผิว จัดเต็ม ทำเอา PS5 ของผมได้ใช้งานจริง ๆ จัง ๆ สักที หลังจาก Horizon Forbidden West ที่เกมนั้นก็หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน มาพร้อมกับ Animation ทั้งเกมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ขณะเล่น ส่งผลให้การบังคับ มันรู้สึกมีน้ำหนักมากขึ้น การใช้อาวุธระยะประชิดมันสัมผัสได้ถึงความแรง อาวุธปืนที่ปรับปรุงใหม่ เมื่อผู้เล่นโดนยิง หรือยังใส่ศัตรู จะมีแรงกระแทกที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน ตรงนี้ผมชอบมากเลย เพราะถ้าเราลองเล่นเวอร์ชัน PS5 และกลับไปเล่นเวอร์ชัน PS4 ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าใน PS4 นั้น กระสุนปืนมันไร้น้ำหนักมาก ๆ อีกเรื่องนึงที่ก็ไม่พูดก็คงไม่ได้ ก็คือซับไทยครับ เรารู้กันว่าเกมของ Sony ยุคหลัง ๆ นี้จะมีซับไทยกันหมดแล้ว และใน The Last of us Part I ก็ทำออกมาได้ดีมากเลย ไม่มีอะไรติดขัด พูดง่าย ๆ คือแปลออกมาได้ดี localized หรือ แปลเป็นภาษาท้องถิ่น ให้เกมเมอร์ชาวไทยเข้าใจ และเรียบเรียงวางคำออกมาได้ค่อนข้างดี มีการใช้คําศัพท์ที่ถูกต้อง อ่านแล้วไม่งง ภาษาที่พวกเราชาวเกมเมอร์เข้าใจได้ อันนี้ขอชื่นชม สรุป ถ้าหากผมจะแนะนำให้เพื่อนที่ผมรู้จัก ที่ยังไม่เคยได้เล่นเกมนี้เลย แน่นอนว่าผมจะบอกให้เพื่อนคนนั้นไปสอยเอา The Last of us Part I มาเล่นให้ได้ และห้ามพลาดเด็ดขาด มันก็เหมือนกับตอนที่ผมบอกให้เพื่อนไปสอย The Last of Us Remastered มาเล่นให้ได้ในยุค PS4 คือมันเป็นความรู้สึกเดียวกันเลยครับ แต่สำหรับผม รอบนี้ผมพูดตามตรงเลยว่า The Last of us Part I มันไม่ควรจะมีอยู่ ไม่ควรจะเกิดขึ้น และปล่อยให้มันเป็นตำนานอยู่แบบนั้นล่ะดีแล้ว การที่ Naughty Dog หยิบเอาเกมมา Remaster ซ้ำซ้อนแบบนี้ และขายในราคาเต็ม ผมมองว่ามันเป็นอะไรที่โคตรจะ cash grab และเป็นการหากินกับเหล่าแฟนบอยกันง่าย ๆ เกินไป ตั้งแต่ผมเล่นเกมมา ยังไม่เคยเจอเกมไหนที่จะเอามา Remaster กันซ้ำซ้อนแบบนี้เลย ภาพเปรียบเทียบทั้งสองเวอร์ชัน PS5 ซ้ายมือ และ PS4 ขวา อีกทั้งสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยที่สุด ก็คือการที่มันไม่มีโหมด Multiplayer มาให้ด้วย สำหรับผมและเชื่อว่าอีกหลาย ๆ คนมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ โหมด Multiplayer ของเกมนี้อย่าง Factions เนี่ยมันทำออกมาดี และสนุกมาก ๆ ทุกวันนี้ใน PS4 ก็ยังมีคนเล่นกันอยู่เรื่อย ๆ แต่ใน PS5 กลับถูกตัดไป และไม่มีแผนจะใส่เข้ามาตั้งแต่ทีแรกด้วย (แล้วตรูจ่ายราคาเต็มไปเพื่ออะไร !!) หากเรามองในแง่ของเกม ๆ นึงแล้ว The Last of us Part I มันเป็นเกมที่ยังคงยอดเยี่ยม ต่อให้ผ่านไปอีกสัก 10 ปี มันก็ยังคงยอดเยี่ยม และมันจะอยู่ในใจผมตลอดชีวิตแน่นอน 10 เต็ม 10 ไม่หัก และมันจะอยู่ตลอดไป แต่ถ้าหากเรามองในแง่ของเกมที่ Remaster หรือแบบที่ทาง Naughty Dog พูดไว้ว่า “The Last of Us Part 1 เป็นการ Remake ไม่ใช่ Remaster” ผมก็ต้องขอพูดตรงนี้เลยว่า นี่มันเป็นสุดยอดมหากาพย์ cash grab ในวงการเกมที่ต้องจารึกเอาไว้ประวัติศาสตร์ และมันเป็นการ Remake เกมที่ “ไร้ค่า” มากที่สุดสำหรับผมเลยครับ พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

[พักก่อน Ep.154] เติบโตไปด้วยกัน Review การใช้ชีวิตหลังรัฐบาลประกาศ "เคอร์ฟิว"
อ่าน

[พักก่อน Ep.154] เติบโตไปด้วยกัน Review การใช้ชีวิตหลังรัฐบาลประกาศ "เคอร์ฟิว"

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน หลังจากที่ได้มีประกาศออกมาแล้วสำหรับช่วงเวลาเคอร์ฟิวที่ห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 4 ทุ่ม จนถึงตี 4 แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราคนหนึ่งที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เรียกว่าเปรียบเสมือนการดับไฟโลกอีกใบของเราเลยก็ว่าได้ สำหรับสายสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูงยามราตรีอย่างเรา ๆ ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการใช้ชีวิตกันสักเล็กน้อย เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข และปลอดภัยต่อเชื้อไวรัสCOVID-19  เริ่มกันที่ช่วงเวลาของการวางแผนเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภค เราจำเป็นจะต้องวางแผนการซื้อสินค้าที่คุ้มค่ามากที่สุด และต้องมีคุณภาพในการเก็บรักษาที่ดีที่สุด โดยเบื้องต้นนั้นเราจะคำนวณออกมาเป็นแบบรายเดือนค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสินค้าในประเภทของอาหาร หรือของใช้ส่วนตัวก็ต้องคำนึงด้วยว่าจะเพียงพอต่อการใช้ในช่วงระยะเวลานี้หรือไม่? และสิ่งสำคัญที่สุดที่เราจำเป็นต้องมีติดบ้าน นั้นคือยาสามัญประจำบ้านนั้นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ยาแก้ปวดหัว หรือแม้แต่ยาแก้ท้องอืดก็ตาม เพราะในช่วงเวลาหลังเคอร์ฟิวแล้วนั้น เป็นไปได้ยากมากที่เราจะเดินออกไปซื้อยาเหล่านี้ เพราะทุกร้านค้าก็ต้องร่วมมือกับการประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งการคำนวนณงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าแบบรายเดือนก็มีความจำเป็นเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าเราจะซื้อเท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งนั้นเป็นการใช้เงินแบบไม่วางแผนที่อาจจะส่งผลเสียตามมาในวันข้างหน้าก็ได้นะคะ ดังนั้นนอกจากเราจำเป็นที่จะต้องคำนวณงบประมาณที่จำกัดอย่างคุ้มค่ามากที่สุดกับสินค้าต่าง ๆ เราก็ควรจะกันเงินในส่วนของยามฉุกเฉินเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นอีกการวางแผนทางด้านการเงินที่รัดกุมมากยิ่งขึ้นยังไงล่ะคะ แถมยิ่งในช่วงเวลาแบบนี้ด้วยแล้ว การมีเงินสดเก็บเอาไว้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะคะ อีกสิ่งที่เราได้เรียนรู้มากขึ้นหลังจากการประกาศเคอร์ฟิว นั้นคือการจัดการเวลาในการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวันนั้นเองค่ะ เพราะเรียกได้ว่าจากที่คิดจะไปไหนก็ไปทันที อีกทั้งบางครั้งก็ยังลืมดูเวลาอีกด้วย ซึ่งแตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิงเลยทีเดียวค่ะ เดี๋ยวนี้เวลาคิดจะไปไหน หรือทำอะไร สิ่งแรกก็คือต้องก้มดูนาฬิกาก่อนเลยอันดับแรก ว่าขณะนี้เป็นเวลาเท่าไหร่ ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากน้อยแค่ไหน และจะกลับถึงที่พักทันเคอร์ฟิวหรือเปล่า เรียกว่าตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเข้านอน เราต้องบริหารเวลาให้พอเหมาะพอดีกับแต่ละสถานที่ที่เราจะไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด อย่างการไม่ทัน BTS ขบวนสุดท้าย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เราเข้าบ้านหลังเคอร์ฟิวได้เลยนะคะ อีกหนึ่งสิ่งที่เราได้พบเจอในช่วงเวลาที่เราไม่สามารถออกนอกบ้านได้กับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น ก็เห็นจะเป็นความมีน้ำใจของเพื่อนข้างห้องในยามที่เราคับขันนี้แหละค่ะ ที่เรียกว่าเป็นความทรงจำหนึ่งในช่วงเคอร์ฟิวที่แสนประทับใจมากเลยทีเดียว ยอมรับเลยว่าในช่วงหลังประกาศเคอร์ฟิวนั้นเราได้มองเห็นโลกอีกมุมหนึ่งที่มีทั้งผู้คนต่างพากันช่วยเหลือบุคคลที่ด้อยกว่า และผู้คนที่เห็นตัวเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งเราคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะช่วยทำให้เราได้เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อม ๆ กับปัญหาเหล่านี้ จนเรามีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่งสำหรับเรื่องราวอื่น ๆ ต่อไปได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด  

ส่อง 5 ผลงานหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ บัวห้อย หรือ พ่อครูภรัณ จากซีรีส์ เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2024
อ่าน

ส่อง 5 ผลงานหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ บัวห้อย หรือ พ่อครูภรัณ จากซีรีส์ เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2024

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคนไหนใครรอดูผลงานซีรีส์เรื่อง เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 2024 บ้างคะ เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนคงโดนมนต์สะกดพ่อครูสุดหล่ออย่าง ภรัณ ตกกันเป็นแถว วันนี้เลยจะพาเพื่อน ๆ มาตามส่องผลงานการแสดงและรายการโชว์ต่าง ๆ ของหนุ่ม เก่ง หฤษฎ์ กันว่าเขาคนนี้มีผลงานเรื่องอะไรให้เพื่อน ๆ ได้ตามเก็บตามดูย้อนหลังกันบ้าง เอาเป็นว่าไปตามดูกันต่อเลยกับส่อง 5 ผลงานหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ บัวห้อย หรือ พ่อครูภรัณ จากซีรีส์ เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series 20241.ผลงานภาพยนตร์เรื่อง The Paradise of Thorns (2024)ความยาว : 2 ชั่วโมงประเภท : สยองขวัญ ดราม่าประกาศฉาย : วันที่ 28 เดือน พฤษจิกายน 2024เรื่องนี้เป็นการตีแผ่เรื่องราวของ LGBTQ+ โดยนำแสดงผ่านตัวละครทองคำกับเสกที่ทั้งสองอยู่กินร่วมกันมาหลายปี จนสามารถสร้างรากฐานชีวิตด้วยกันได้ทั้งในการปลูกสวนทุเรียน อยู่ด้วยกันอย่างเรียบง่าย แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อเสกได้เสียชีวิตลง จากในตอนนั้นเรื่องความรักระหว่างชายและชายยังไม่มีสิทธิในการจดทะเบียนสมรสใด ๆ มรดกที่ร่วมสร้างด้วยกันมาก็ต้องเป็นของแม่เสก ทองคำเองจึงพยายามทำทุกวิถึทางเพื่อเอาทรัพย์สินที่ทั้งสองร่วมสร้างด้วยกันมากลับคือ ในเรื่องหนุ่ม เก่ง หฤษฎ์ รับบทเป็น นักแสดงสมทบในเรื่อง ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือการตีแพร่ประเด็นเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศได้ดีมาก ๆ และยังเป็นกระจกสะท้อนให้คนในสังคมอีกด้วย2.Zomvivor (2024)ประเภท : สยองขวัญ วัยรุ่นประกาศฉาย : ยังไม่มีข้อมูลคาดว่าในปี 2024 ผลงานซีรีส์เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของเหล่าวัยรุ่นที่กำลังเติบโตมาในช่วงที่กำลังมีไวรัสระบาด ประชากรภายในเมืองเมื่อได้รับเชื้อเหล่านี้เข้าไปจะทำให้พวกเขาต้องกลายมาเป็นซอมบี้อย่างน่ากลัว เหล่าวัยรุ่นพวกนี้จึงสร้างกลุ่มกันมาแล้วหนี้เข้าไปในโรงเรียนเพื่อคิดหาวิธีหยุดยั้งทุกอย่าง ทว่าความจริงเขากลับมีชีวิตอยู่เพื่อรอการจากไป เมื่อเชื้อกำลังตามตัวพวกเขา ในเรื่องหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ รับบทเป็น ภัทร ความน่าสนใจในเรื่องนี้คือมีความแปลกใหม่ในการเล่าเรื่องราวความสยองขวัญเกี่ยวกับซอมบี้ ซึ่งยังไม่ค่อยเห็นซีรีส์ของไทยแนว ๆ นี้มาก่อน เลยเป็นสิ่งที่ชวนดูมาก ๆ 3.รายการ SosatSeoulsayhttps://www.youtube.com/watch?v=iUtjTHS7Y1Aโดยรายการนี้จะเป็นการเข้าไปค้นกระเป๋าเหล่าดาราว่าแต่ละคนพกอะไรมากันบ้าง บอกเลยว่าสนุกสนานแน่นอน เพราะว่าทุกสิ่งที่ได้เห็นหนุ่มเก่งและหนุ่มน้ำปิงพกติดกระเป๋ามานั้น จะมีอะไรบ้างสามารถมาตามเก็บโมเม้นฟิน ๆ ของเก่งน้ำปิงได้ที่รายการนี้เลย แน่นอนว่าความฟินของสาววายทะลุจอเข้าสู่กระแสเลือดอย่างแน่นอน รับชมกันไปจุก ๆ ถึงเกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม ฃ4.รายการ DMD Friendship the Reality (2023)https://www.youtube.com/watch?v=EiHXhwvvQZwรายการนี้จะเป็นการให้เหล่านักแสดงจากค่ายดูมันดิแสดงความสามารถทั้งทางด้านการร้องเพลง การเต้น หรือการเล่นดนตรี เพื่อคัดเลือกเข้ามาเล่นซีรีส์ ซึ่งแน่นอนว่าหนุ่มเก่งก็จะได้ร่วมแสดงผลงานร่วมกับหนุ่มน้ำปิง บอกเลยว่าเป็นโชว์ที่ทำถึงมาก ๆ คนดูต่างชื่นชมในความสามารถของทั้งคู่ และสร้างกระแสความฮิตในโลกออนไลน์กันเป็นแถวเมื่อเหล่าชาวเน็ตได้เห็นความสามารถทางด้านการร้องเพลงของหนุ่มเก่ง หฤษฎ์ จนหลาย ๆ โดนตกและกลายมาเป็นแฟนคลับหนุ่มเก่งทันทีเลย5.Khemjira (2024)https://www.youtube.com/watch?v=WADsk88cA0cประเภท : ลึกลับ โรแมนติกประกาศฉาย : ยังไม่มีข้อมูลผลงานซีรีส์เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มต้องอาภัพอย่างเขมจิราที่เขากลายเป็นคนที่วิญญาณตามติด จนชีวิตไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขาเลยต้องหาคนที่เข้ามาช่วยเหลือให้เร็วที่สุด เลยได้มารู้จักกับพ่อครู ภรัณ พ่อครูที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า เขามีความเก่งทางด้านไสยาสน์ในการปราบเหล่าวิญญาณร้าย นำแสดงโดยหนุ่ม เก่ง หฤษฎ์ จนกลายมาเป็นความใกล้ชิดและผูกพันระหว่างพ่อครูกับเขมจิรา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปตามดูกันต่อ ความน่าสนใจในเรื่องนี้คือมันมีกลิ่นอายความไสยาสน์ที่ทำให้คนดูว้าวสุด ๆ มีแปลกใหม่ของพล็อตนิยายวาย ไม่จำเจซ้ำ ๆ ช้ำ ๆ ในบทเดิม ๆ บอกเลยว่าแค่ปล่อยไพรอทมาก็ทำถึงใจแล้วฝากผลงานทางทรูไอดีด้วยนะคะมารู้จัก เหลียงหย่งฉี(Liang Yong Qi) หรือ เสินปิ่งซิว หนุ่มหล่อสุดร้ายจากซีรีส์ มรสุมชีวิต The Double (2024) /เรียกข้าว่าคุณหนูอันดับหนึ่งรีวิวซีรีส์ มรสุมชีวิต The Double (2024) เรื่องราวการแก้แค้นของเซวียฟางเฟยมารู้จัก ชุ่ยหยู่ซิน(Cui Yu Xin) หรือ โจวหยู พระเอกสุดหล่อจากซีรีส์ คำรัก คำลวง Liars in Love (2024)ภาพปก:harit_keng:1/2/3วิดีโอประกอบ:SosatSeoulsay:1/วิดีโอประกอบ:Mandee Channel:2/วิดีโอประกอบ::Mandee Channel3ภาพประกอบ:gdh559club:1/ภาพประกอบ:zomvivorseries: จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

[พักก่อน Ep.77] Review : Batiste Dry Shampoo.
อ่าน

[พักก่อน Ep.77] Review : Batiste Dry Shampoo.

จะออกไปผจญภัยข้างนอกทั้งทีก็ต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่เครื่องนอน ไปจนถึงเหล่าสกินแคร์ต่าง ๆ แน่นอนว่าสายแอดเวนเจอร์ก็ย่อมเลือกแต่สิ่งที่จะช่วยลดระยะเวลาในการจัดการเรื่องของตัวเองเพื่อไปสนุกกับกิจกรรมในด่านข้างหน้า อย่าง การประทินผิว หรือการเมคอัพ ที่เรียกว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียวแต่จะแอดเวนเจอร์ทั้งที่เราไม่สบายตัว หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อันนี้ก็เห็นทีจะไม่ได้นะคะ เพราะต้องให้เกียรติเพื่อนร่วมทางของเราด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการไม่ชอบใจจนไม่สามารถไปสนุกกับการเดินทางข้างหน้าด้วยกันได้ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เหล่าสายผจญภัยต้องมีอย่างดรายแชมพูก็จัดว่าเป็นสิ่งจำเป็นเลยก็ว่าได้นะคะBatiste Dry Shampoo. เป็นดรายแชมพูในรูปแบบของสเปรย์นั่นเองค่ะ ซึ่งในครั้งนี้เราเลือกขนาดไซส์มินิ ที่เหมาะสำหรับการพกพามานำเสนอกันในขนาด 30 กรัม กลิ่นเชอร์รี่ ซึ่งตัวขวดสเปรย์มีลวดลายที่บ่งบอกถึงกลิ่นได้ดีเลยทีเดียว เพียงแค่แวบแรกที่มองขวดก็สัมผัสได้ถึงความสนุกสนานที่กำลังจะเกิดขึ้นกันแล้วแน่นอนว่าพอพูดถึงดรายแชมพู บางคนก็ต้องสงสัยว่าเราจะสามารถสระผมในรูปแบบแห้ง ๆ โดยที่ไม่มีน้ำได้ด้วยหรอ คำตอบอยู่ที่เจ้าขวดนี้แหระค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้แต่ดรายแชมพูตลอดเลยนะคะ เพราะดรายแชมพูถูกผลิตขึ้นมาเพียงเพื่ออำนวยความสะดวกให้สำหรับใครที่ไม่สะดวกที่จะทำความสะอาดเส้นผมได้ในขณะนั้น แต่ถึงยังไงก็ต้องสระผมด้วยแชมพูปกติเช่นเดิมนะคะความรู้สึกหลังการใช้  Batiste Dry Shampoo.เรียกว่าสามารถเป็นตัวช่วยที่ดีในการเดินทางท่องเที่ยวได้ดีจริง ๆ ค่ะ สำหรับเจ้าดรายแชมพู เพราะสามารถช่วยตอบโจทย์ปัญหาในเรื่องของศรีษะที่มันเหนียวได้ดีเป็นพิเศษ ในกรณีที่เราเดินทางแล้วอาจจะไม่สะดวกกับการที่ต้องใช้แชมพูกับปริมาณน้ำในจำนวนที่เยอะ ในขณะนั้น หรืออาจจะเพราะด้วยสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม อาจมีส่วนที่ทำให้เรามีอาการป่วยได้เช่นเดียวกัน ดรายแชมพูตัวนี้สามารถช่วยลดความมันบนเส้นผมได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะ แถมยังมีกลิ่นเชอร์รี่ที่ไม่ได้ตีกับกลิ่นความมันแต่อย่างใด นับว่าตอบโจทย์เลยค่ะ แถมยังสามารถปล่อยผมได้ตามปกติอีกด้วย ไม่ต้องทนมามัดผมให้การถ่ายรูปออกมาดูไม่สวยงามอีกต่างหาก จัดว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับนักเดินทางตัวยงที่ต้องมีติดกระเป๋าเป้เอาไว้ซะแล้วล่ะค่ะ เพราะมันสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในยามคับขันได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ แถมยังมีกลิ่นที่หอมสดใส ไม่ปวดหัว ช่วยลดความมันให้เส้นผมกลับมาพริ้วไหวเสมือนได้สระผมมาเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งราคายังน่ารักมาก ๆ เช่นเดียวกัน ตัวนี้เราซื้อจากวัตสัน ในราคาช่วงโปรโมชั่นแค่เพียง 40 บาทเท่านั้นเองค่ะ ถ้าหากว่าใครสนใจจะลองใช้ดูแล้วล่ะก็ รีบไปตามหากันก่อนสินค้าจะหมดนะคะภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด       

[พักก่อน Ep.92] Review : Mentholatum Acnes Wash.
อ่าน

[พักก่อน Ep.92] Review : Mentholatum Acnes Wash.

สิ่งจำเป็นสำหรับสาว ๆ ที่นอกเหนือจากเครื่องสำอางค์ที่จะช่วยเติมแต่ง และประทินโฉมให้สวยงามแล้วนั้น การล้างเครื่องสำอางค์ออกก็จัดว่าเป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน ถัดมาจากคลีนซิ่งสำหรับเช็ดเครื่องสำอางค์ที่ต้องพิถีพิถันในการเลือกแล้วนั้น โฟมล้างหน้าก็เป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างที่ต้องเลือกให้ถูกกับผิวด้วยนะคะสาเหตุสำคัญของการเกิดผิวที่ไม่เรียบเนียน หรือการเกิดสิว ริ้วรอยต่าง ๆ แทบจะ 99% ที่เกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาดนั้นเองค่ะ และอีกส่วนที่สำคัญก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผิวหน้าของเราเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในด้านลบที่จะตามมา ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเสีย แทนการมีผิวสวยได้นะคะสาวกหน้าแห้ง ต้องมารวมกันตรงนี้! วันนี้มีโฟมล้างหน้าตัวเด็ดมาแนะนำกันค่ะ ขอรับรองในเรื่องของราคาได้เลยว่าไม่แรงอย่างแน่นอนMentholatum Acnes Deep Cleansing Whitening Wash. หลายคนต้องเคยได้ยินแบรนด์นี้มาจากหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เรียกว่าแทบจะเป็นตัวแทนในการรักษาสิวได้อีกแบรนด์เลยก็ว่าได้ ตัวแพคเก็จก็เหมือนโฟมล้างหน้าทั่วไปปกติ พร้อมกับสีเขียวที่เป็นสีประจำแบรนด์ สูตรที่เราซื้อมาคือ สูตรสีฟ้า ซึ่งจะมีแผ่นป้ายแปะอยู่ด้านบนของหลอด ช่วยลดรอยแดงจากสิวนั้นเองค่ะตัวเนื้อโฟมจะมีลักษณะเป็นสีเหมือนไข่มุก และมีเมดบีทส์เม็ดสีเหลืองเล็ก ๆ ผสมกันอยู่ค่ะ เรื่องของกลิ่นแน่นอนว่าเป็นกลิ่นที่ออกแนวธรรมชาติตามสไตล์ของ Mentholatum เลย และจากการทดสอบส่วนตัวจากผิวของเราที่ค่อนข้างแห้ง มีสิว รวมทั้งรอยสิวอยู่บ้าง ไม่มีอาการแพ้ใด ๆ เกิดขึ้นนะคะ คำเคลมจากแบรนด์ สูตรที่เราเลือกมานี้ เป็นสูตรช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิว ผิวสะอาดล้ำลึก และกระจ่างใส ซึ่งมีเม็ดบีทส์ขนาดที่เล็กพิเศษคอยทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่าง ๆ อย่างล้ำลึกแม้ในรูขุมขน ด้วยคุณค่าของพืช 7 ชนิดที่มีส่วนช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส ช่วยลดความมัน รอยสิว แถมยังปลอบประโลมผิวที่เป็นสิวอีกด้วยนะคะความรู้สึกหลังการใช้หลังจากที่กล่าวมาข้างต้นว่าเราเป็นคนผิวแห้งแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการลดความมันบนใบหน้าก็จะยิ่งทำให้ผิวเราดูแห้งลงไปอีก เรียกว่าซับหน้าด้วยกระดาษทิชชู่ กระดาษก็ติดหน้าเราเลย แต่ทำไมเราถึงพึงพอใจ และยังคงใช้อยู่ แน่นอนว่ามันต้องมีข้อดีค่ะ สิ่งที่เราชอบของโฟมล้างหน้าตัวนี้นั้นคือ การรักษาสิว และรอยแดงของสิวนั้นเองค่ะ บอกก่อนว่ารอยสิวนี้จะหมายถึงรอยเกิดใหม่สด ๆ ร้อน ๆ ประมาณว่าก่อนจะล้างหน้าก็คือเราบีบสิวจนเกิดรอยแดงก่อนนั้นเองค่ะ เมื่อเราล้างหน้าด้วยโฟมทันที ไม่มีอาการแสบใด ๆ นะคะ บริเวณที่เราบีบสิว และสัมผัสได้ด้วยตาว่ารอยแดงนั้นมีการกระจายตัวที่แคบลง จากที่แดงเห่อเต็มหน้าผาก แถมเมื่อทิ้งเวลาผ่านไปสักพักหลังล้างหน้าเสร็จก็รู้สึกได้ว่า ผิวเริ่มกลับมาสมดุลเช่นเดิมซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้สิวเราลดลง ถึงแม้ว่าความประทับใจหลังซับหน้าทันทีจะแห้งมากไปหน่อย แต่ด้วยผลลัพธ์อื่น ๆ เราพร้อมให้อภัยเสมอสำหรับใครที่กำลังมองหาโฟมล้างหน้าดี ๆ สักตัว ราคาเบา ๆ แต่คุณภาพเน้น ๆ Mentholatum Acnes Deep Cleansing Whitening Wash. ก็ค่อนข้างน่าสนใจอยู่มากทีเดียวนะคะ มาในขนาด 100 กรัม ในราคา 125 บาทเท่านั้นเองในวัตสัน ยิ่งมีโปรด้วยแล้วก็ยิ่งถูกลงไปอีก อยากได้ผิวสวย แต่ราคาเบา ๆ ลองไปตามหามาใช้กันดูนะคะภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด    

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.4
อ่าน

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.4

สวัสดีจ้าา.. ช่วงนี้ทำงานลืมวันลืมคืนไปเลย ถึงจะมาช้าแต่ก็มานะ เอาเป็นว่าไม่พูดเยอะไป "รีวิว เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.4" กันเลยดีกว่า ฮื้อ... ใจหายเหมือนกันใกล้จบเต็มทีแล้วกับเรื่องราวของตัวละครสารวัตร – ไทน์ พูดแล้วก็ขอพักซับน้ำตาแป๊บหนึ่งละกันมาค่ะเข้าเรื่องกันดีกว่า ต้องบอกเลยว่าวนดูหลายรอบมาก รวมไปถึงดูรีแอคหลาย ๆ ช่องด้วย อย่าให้นับนิ้วเลยค่ะเกรงว่าจะไม่พอ กระแสของตอนนี้พูดไปในทิศทางเดียวกันคือปริ่ม ยิ้มไม่หุบ ละมุนมาก เอาจริงขนาดเป็นช่วงไทน์อินสปอร์นเซอร์ยังน่าดู ขอบอกเลยว่าเป็นหนึ่งชั่วโมงที่มวลความสุขโอบกอดร่างกายไว้อบอุ่นจนลืมเวลาไปเลย ไล่มาตั้งแต่ตอนที่พี่ดิมคุยกับสารวัตรว่า "สาธร – ลาดพร้าว นี่เรียกรักทางไกลหรอวะ" แค่นี้ก็รู้แล้วค่ะว่าเป็นพาร์ทคนคลั่งรักเปิดมาเป็นเรื่องราวของสารวัตรบ้าง ตลอด 2 สัปดาห์ที่ไม่เจอไทน์ความคิดถึงมันท่วมท้นจริง ๆ ถึงขั้นนอนฝันกอดตุ๊กตา พลูโตชอบซีนนี้มากเลยค่ะ พี่ไบร์ทน้องวินเล่นงานสายตาดีมาก แสดงออกจนรู้สึกได้ว่าคิดถึงกันจริง ๆ ต่อด้วยซีนเฉลยว่าสารวัตรเองก็อยู่ริมสระน้ำ เห็นไทน์ร้องไห้ต่อหน้า เห็นทั้งความอ่อนแอและความเข้มแข็งของแฟน แต่เลือกจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะเมื่อรู้ว่าไทน์พยายามสารวัตรก็ยิ่งต้องพยายาม เรื่องราวความรักทุกคู่ดำเนินไปในทิศทางดีขึ้น แมน – ไทน์ มีความสุขดีเพราะเชื่อใจกันและกัน แต่ก็มีหึงหวงบ้างตามประสารักทางไกล , มิล – ผู้กอง เริ่มหวานขึ้น แบบฉบับแฟนเด็กขี้อ้อน , ดิม – กรีน จะตอนจบอยู่แล้วยังป่วนไม่หยุด แต่ก็ถือเป็นสีสันน่ารักเพราะไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะแฮปปี้เอนดิ้งเกินไป และคู่สุดท้ายที่ยังต้องลุ้น บอส – หมอแพร แค่หยอด ๆ ยังไม่จีบจริงจังสักกกที ใกล้ตอนจบแล้วน่าอยากเห็นมุมบอสบ้างสิ่งที่พลูโตตอบตัวเองได้ตอนดูจบก็คือ ในการใช้ชีวิตคู่ย่อมมีปัจจัยหลายอย่างคั่นกลางคนสองคนเสมอ แต่ถ้าเชื่อใจกัน ให้ใจกันและพยายามมากพอ ไม่มีอะไรหรอกจะคั่นใจเราได้  ถ้าใจมองว่าสุขก็คือสุข (อย่างตอนที่แมนเฟสไทม์คุยกับไทป์) ใจมองว่าทุกข์ก็คือทุกข์ (อย่างคู่ดิมกรีนที่แง่งอนไม่จบสักที) ตัวพลูโตเองลองปล่อยใจเสพสิ่งที่ซีรีส์อยากสื่อ ไม่มีคำถามว่าทำไมไม่โทรหากันล่ะ ทำไมพี่ดิมต้องทำยังงี้ล่ะ ทำไมบอสต้องสกรีนชื่อผิดล่ะ เมื่อทำใจเป็นกลางไม่ตั้งคำถาม ก็ดูเหมือนว่าจะเจอคำตอบเร็วขึ้นค่ะขอบคุณซีรีส์ดีๆ ที่เข้ามาเยียวยาจิตใจในช่วงเคร่งเครียด อีกไม่กี่วันก็จะตอนจบแล้ว ใครอยากติดตามสามารถรับชม "เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still Togerther The Series" ทางช่อง GMMTV(กดหมายเลข 25) เวลา 21:30 สามารถดูย้อนหลังได้ทาง Line TV เวลา 23:00   เครดิตรูปรูปปก : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่1 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่2 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่3 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่4 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่5 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่6 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่7 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TV      แนะนำเรื่องน่าสนใจ"Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.1"“Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.2”“Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.3” "เพลงฮิตมาแรง ยังคู่กัน""เพราะเรา(ยัง)คู่กัน เริ่มออนแอร์ 14 สิงหาคมนี้"จบจ้าา...พักดื่มน้ำแป๊บบ!!!  

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.1
อ่าน

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.1

ฮะโหล! พลูโตตัวจริงเสียงจริงมาแล้วจ้าาา หายหน้าจากบทความไปนานเลย ไม่ใช่อะไรนะช่วงนี้มีงานให้ปั่นเยอะเหลือเกิน วันนี้อารมณ์ดีเลยว่าจะมา "รีวิว เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP1" สักหน่อยจ้า ขอเล่าถึงความคาดหวังส่วนตัวก่อนแล้วกัน จากตอนแรกก็ถือว่าจบสมบูรณ์ได้ใจความแล้วนะ แต่อาจจะรวบรัดไปหน่อย ซีนสวีทหวานน้อยไปหน่อย ทำให้เกิดตอนพิเศษที่แต่งเนื้อเรื่องขึ้นใหม่เพื่อเอาใจแฟนๆ โดยเฉพาะ ตัวพลูโตก็อยากเห็นซีนหวานๆ ซีนอมยิ้มแก้มแตก ให้สมกับที่ไบร์ทวิน เอ้ย! สารวัตร – ไทน์ เป็นแฟนกันแล้ว ไปค่ะ! ไปตามอ่านกันเปิดมาเป็นการเล่าย้อนเนื้อเรื่องในตอนแรก 'เพราะเราคู่กัน 2gether The Series' ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งหลงรักไทน์ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป จนไทน์ต้องมาขอร้องให้สารวัตรเป็นแฟนโดยมีข้อแม้ว่าถ้าไทน์เข้าชมรมดนตรีได้ สารวัตรถึงจะยอม แล้วความพยายามของไทน์บวกความหลังที่สารวัตรหลงรักไทน์อยู่แล้วทำให้เขาไปขอร้องพี่ดิมให้รับไทน์เข้าชมรมได้สำเร็จ เหตุการณ์ต่อจากนั้นคือการแกล้งๆ จีบโดยใช้ความรู้สึกจริงของสารวัตรที่อยากดูแลปกป้องไทน์ แกล้งกันไปแกล้งกันมาจนเป็นแฟนกันยังไงไปตามดูได้ที่ Line TV คลิกเลย ‘เพราะเราคู่กัน 2gether The Series’เนื้อเรื่อง EP1 เปิดมาคลี่คลายปมเก่า ทั้งเรื่องแพมเพื่อนสาวคนสนิทของสารวัตร และเรื่องที่ไทน์เข้าชมรมดนตรีได้โดยมิชอบ เดินเรื่องกระชับและแบ่งแอร์ไทม์ให้ทุกคู่โดยไม่ตัดฉุบฉับจนหงุดหงิด ทั้งยังแฝงคีย์เวิร์ดดีๆ หลายประโยคเช่น "บางทีคนเราก็ไม่รู้ว่าทำอะไรพลาดไป จนกว่ามันจะพลาด""เราแคร์คนทั้งโลกไม่ได้นะ เราแคร์แค่คนที่เขาแคร์เราก็พอ"สิ่งที่สังเกตได้คือตัวละครมีมิติขึ้น มีอะไรให้ทำมากขึ้น คาดเดายากพล็อตไม่ช้ำ ในส่วนของนักแสดงสวยหล่อขึ้นมาก ทักษะการแสดงดีเยี่ยมโดยเฉพาะคู่สารวัตร – ไทน์ สายตาหวานเยิ้ม น้ำเสียงคีย์ล้านแปด ละมุนชนิดที่ว่าถ้าคุณไม่ดู 'ยังคั่นกู' คุณจะไม่ได้ยินเสียงแหบพร่าของไบร์ทวินแน่ คู่สำคัญอีกคู่ 'ดิมกรีน' (กาย ศิวกร , กันต์ กรวิชญ์) มาคราวนี้เปิดตัวเป็นคู่กันแล้ว ยิ่งปั่นป่วนยกกำลังสองน่าจะได้เห็นความโป๊ะป๊ะในตอนต่อๆ ไปอีกแน่ และที่ขาดไม่ได้เลยของซีรีส์เรื่องนี้คือเพลงประกอบ เปิดมาตอนแรกก็ได้ฟังเสียงหวานๆ ของน้องวินเลยจ้า ต้องชื่นชมจากใจจริงว่าน้องวินมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดมาก คงเป็นเพราะการเรียนร้องเพลงอย่างหนักและมีเนื้อเสียงที่ดีอยู่แล้วด้วยในส่วนของโปรดักชั่น ในตอนพิเศษคุณจะได้เห็นทุกอย่างใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียน ห้องชมรม รังรัก ได้เห็นแสงสีแบบใหม่ๆ ที่ขับให้ตัวละครมีเสน่ห์ขึ้น ซึ่งนักวิจารณ์ในช่องรีแอคหลายๆ ท่านก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานละเอียด ทั้งที่มีเวลาถ่ายทำไม่มาก หากคุณกำลังหาซีรีส์เบาสมองดูสักเรื่องไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้ค่ะ ครบรสจริงๆ แม้จะมาเป็นตอนพิเศษเพียง 5 ตอน แต่อัดแน่นไปด้วยนักแสดงวัยรุ่นฝีมือดีหลายท่าน มุมมองความรักหลายแบบ และที่สำคัญเพลงเพราะๆ มีให้ติดตามทุกตอน สามารถรับชมได้ที่ช่อง GMMTV(กดหมายเลข25) เวลา 21:30 น. หรือรับชมย้อนหลังได้ที่ Line TV เวลา 23:00 น. ขอบคุณที่ติดตามอ่าน สวัสดีค่ะ เครดิตรูปรูปปก : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่1 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่2 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่3 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่4 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่5 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TV     แนะนำเรื่องน่าสนใจ"เพลงฮิตมาแรง ยังคู่กัน""เพราะเรา(ยัง)คู่กัน เริ่มออนแอร์ 14 สิงหาคมนี้""เพราะเรา(ยัง)คู่กัน กำลังจะกลับมาให้คุณจิ้นฟินเร็วๆ นี้""เรื่องลับๆ วิน เมธวิน ที่แฟนคลับต้องรู้"

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.3
อ่าน

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.3

สวัสดีจ้าา.. เจอะเจอกับพลูโตอีกแล้ว เข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า เพราะว่าวันนี้ขอคีพคาแรกเตอร์หม่นนิดหนึ่ง พลูโตจะไม่มาขายขำใดๆ เพราะพาร์ทนี้คุณสารวัตรทำไทน์คนชิคชิคร้องไห้ โอ๊ย! หัวอกแม่ไทน์แหลกสลายยามเห็นน้ำตาลูกหยดแหมะๆ ก็จะให้ยิ้มยังไงล่ะคะ น้องวิน เมธวิน เล่นดีตีบทกระจุยชนิดที่ว่าถ้าวาร์ปเข้าจอไปได้จะปรี่ไปซับน้ำตาให้เลย งอนอยู่แหล่ะ! ไม่พูดเยอะ! ไป "รีวิว เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.3" กันเลยดีกว่าจากพาร์ทที่แล้วจบตรงที่ทั้งสองชมรมเคลียร์กันได้ , สารวัตร – ไทน์ รับบทประธานเต็มตัว , แมน – ไทป์ แยกกันใช้ชีวิตแต่ยังประคองความรักไว้ด้วยความเชื่อใจ , มิล – ผู้กอง เริ่มเปลี่ยนไปเพื่อให้รู้ใจตัวเองมากขึ้น ถ้าสังเกตดีๆ ทุกคู่มีเหตุมาคั่นกลางตลอด ราวอยากสะท้อนว่าโลกความเป็นจริงไม่มีอะไรคู่กันเสมอไป ทุกอย่างจะคงอยู่หรือเปลี่ยนไปนั้นอยู่ที่ความรัก ความเข้าใจของคนสองคนมากกว่า สารวัตร เล่าย้อนไปถึงตอนที่เขาไปทุกคอนเสิร์ตเพื่อตามหาไทน์แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำๆ จนคิดจะตัดใจ วันนั้นวงพี่ดิมเข้าแข่งด้วย เพราะคำพูดพี่ดิมทำให้สารวัตรเลือกสู้ต่อ ตรงนี้พลูโตรู้สึกว่าคีย์เวิร์ดที่ซีรีส์ถ่ายทอดออกมาดีมาก ใช้ได้จริงกับทุกคนเลยค่ะบอกเล่าเรื่องสารวัตรไปแล้ว เชื่อว่าทีมเมียสารวัตรทั้งหลายต้องใจบางหลงรักเด็กชุดนักเรียนแน่ แฟนคลับรู้ดีค่ะว่านิสัยสารวัตรกับไบร์ทตรงกันสุดๆ มันอินในอินน่ะ เขาคือคนที่ไม่ควรผิดหวังใดๆ ใช่ค่ะ! ถ้าโชคชะตายังไม่เหวี่ยงไทน์คนชิคชิคมา ทีมเมียพร้อมต่อแถวยื่นใบสมัครฆ่าเวลาไปก่อน ปลื้มปริ่มกับความรักได้ไม่นาน นาทีแห่งการจากลาก็มาถึง ดูสดรอบแรกพลูโตก็แอบงงว่าทำไมไทน์ถึงอินจัดขนาดนั้น แต่พอได้ดูซ้ำอีกสักรอบสองรอบก็เข้าใจได้ ยอมรับจากใจจริงว่ารอบแรกที่ดูไม่อินเลยค่ะ มัวแต่ว้าวกับการแสดงของน้องวินอยู่ ซีนอารมณ์ เล่นคนเดียวกับตุ๊กตา บทยาวมากและเป็นเวลากลางคืนริมสระน้ำ ขณะที่พลูโตอึ้งอยู่สมองก็คิดไปว่าหน้าเซตตอนนั้นน้องวินต้องเจออะไรบ้าง แน่นอนว่าต้องมีสายตาอยากกลับบ้านของทีมงาน มีบรรยากาศรอบตัวคึกคักแต่ต้องบิลด์เศร้า เผลอๆ อาจจะมียุงมีแมลงรบกวนด้วย แล้วนี่คือนักแสดงหน้าใหม่เพิ่งมีผลงานชิ้นแรก มันว้าวมากเลยนะคะ ทำได้ดีมาก มาตรฐานสูงมากจริงๆ แอบเห็นพี่ออฟผู้กำกับทวิตว่าให้โอกาสวินดีไซน์อารมณ์ซีนนี้เองด้วย น้องวินเก่งมากๆ ขอชื่นชมจากใจเลยค่ะพอเห็นน้ำตาไทน์ หัวอกแม่ไทน์ก็อยากฟาดสารวัตรสักที โอ๊ย! จะอะไรนักหนาเนี่ย จะทุ่มเทให้ชมรมยังไงก็ควรกลับมาหากันบ้างป่าว อยากจะรู้จริงเลยว่าห้องซ้อมบ้านพี่ดิมอยู่ไหน มันไกลกันนักหนาเหรอ แท็กซี่ไปถึงไหม พลูโตจะโทรเรียกให้เดี๋ยวนี้เลย ถ้าใครอยากรู้เหมือนพลูโตต้องติดตามค่ะ สามารถรับชม "เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still Togerther The Series" ทางช่อง GMMTV(กดหมายเลข 25) เวลา 21:30 สามารถดูย้อนหลังได้ทาง Line TV เวลา 23:00   เครดิตรูปรูปปก : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่1 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่2 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่3 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่4 : GMMTVThailandรูปที่5 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่6 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่7 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TV    แนะนำเรื่องน่าสนใจ"Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.1"Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.2”

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.2
อ่าน

Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.2

ฮะโหล! เทสๆ ..ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์... ฟินไม่ไหวจริงๆ ค่ะคุณขาาา สายตาหวานฉ่ำของน้องไบร์ทตอนร้องเพลงนี้ทำพลูโตหลงใหลจนหาทางออกไม่เจอเลย กว่าจะสลัดเสียงหวานๆ ออกจากหูลุกขึ้นมาดีดนิ้วลงแป้นพิมพ์ได้ก็ตอนนี้แหล่ะ มาค่ะ! เชิญรับอ่าน "รีวิว เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.2" ได้เลยตอนนี้พิเศษกว่าตอนแรกเพราะได้รุ่นพี่กีตาร์ไฟในตำนานมาเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น คุณเจนนี่ ปาหนัน ผู้เป็นไอดอลของพลูโตนี่เอง ถ้าวัดระดับความจิ้นฟินเขินตัวบิดไม่เป็นตัวเองสุดต้องยกให้พี่เจนนี่เลยค่ะ น่าอิจฉามากๆ การได้ร่วมงานกับสองหนุ่มไบร์ทวินถือว่าสู่ขิตวิถีติ่ง เปิดเรื่องมาด้วยภาระหน้าที่ เมื่อสารวัตรเป็นประธานชมรมดนตรีและไทน์ถูกขอร้องให้เป็นประธานชมรมหลีด ความลงตัวที่เคยมีมาตลอด กลายเป็นความขัดแย้งเพราะทั้งสองชมรมต่างต้องใช้เสียงในการทำงาน ขนาดไทน์คนที่คลั่งไคล้เพลงสคลับสุดๆ ยังปฏิเสธจะฟังเพลงที่สารวัตรตั้งใจร้องเหตุเพราะทำงานมาเหนื่อย แต่ทั้งสารวัตร – ไทน์อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ ทั้งสองจึงประคับประครองและให้กำลังใจกันและกัน ในขณะที่คู่พี่ดิม – กรีน มีบทบาทมากขึ้นเพราะรับบทนางแง่งอนกับพ่อบ้านเอาแต่ใจ ความวุ่นวายของเรื่องเกิดจากคู่นี้เลยค่ะ เป็นตัวแทนของคนที่มีอะไรไม่คุยกันตรงๆ แล้วพอแง่งอนกันไปมาก็ทำให้คนรอบข้างพลอยลำบากใจไปด้วย คู่ไหนที่ทะเลาะกันบ่อยๆ อยากให้ลองดูนะคะ แล้วคุณจะแหม่!!! เหมือนพลูโตพาร์ทพี่มิล – ผู้กอง เดินเรื่องพอให้ได้ลุ้นกันแล้ว ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกงค์เพื่อนจะสร้างตำนานรักรอบสองได้ไหม แต่ดูทรงเหมือนจะไปป่วนเขามากกว่าเพราะลำพัง 'บอส' ก็ยังเอาตัวเองไม่รอด มาถึงพาร์ทแมน – ไทป์ กันบ้าง คู่นี้เปิดมาตีโจทย์ความรักแบบผู้ใหญ่ที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับความรัก พลูโตสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ซ่อนในตัวพี่ไทป์ คนแข็งๆ ตีหน้าขรึมกลับอ่อนไหวมาก ได้เห็นมุมไม่มั่นใจตัวเองทั้งที่ภายนอกดูเป็นคนเด็ดขาดคำไหนคำนั้น ในขณะที่คนเรื่อยเปื่อยอย่างแมนกลับมีมุมเข้มแข็งและมั่นคงกับความรัก ไปดูกันได้นะไมค์ท็อปแท็ปแสดงดีมากเลย ขอบอก!!ปิดตอนด้วยซีนฉลองวันเกิดไทน์ บรรยากาศสุดชิล แสงไฟสลัวคลอเสียงร้องเพลงเกากีตาร์สุดอบอุ่น ซีนนี้ใครดูต้องยิ้มตามแน่ค่ะ เพราะมันลงตัวดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ให้ความรู้สึกว่าความรักก็เป็นเรื่องแค่นี้เอง ..แค่คนสองคนเข้าใจกัน และพิเศษสุดๆ มีเพลงหวานอย่าง 'รักนิรันดร์' เสริมให้ยิ่งฟินคูณล้าน ประโยคสุดปังของตอนนี้ขอยกให้ "พี่อ้อยพี่ฉอดบอกไว้ว่า อย่าให้ความขัดแย้งเรื่องงานมาปนกับเรื่องความรักนะคะ" ถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ เชิญติดตามได้เลย "เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still Together The Series" ทางช่อง GMMTV(กดหมายเลข 25) เวลา 21:30 สามารถดูย้อนหลังได้ทาง Line TV เวลา 23:00  เครดิตรูป​​​​​​รูปปก : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่1 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่2 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่3 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่4 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่5 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TVรูปที่6 : เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Line TV    แนะนำเรื่องน่าสนใจ"Review เพราะเรา(ยัง)คู่กัน EP.1""เพลงฮิตมาแรง ยังคู่กัน""เพราะเรา(ยัง)คู่กัน เริ่มออนแอร์ 14 สิงหาคมนี้""เพราะเรา(ยัง)คู่กัน กำลังจะกลับมาให้คุณจิ้นฟินเร็วๆ นี้"

[พักก่อน Ep.94] Review : Provamed Vitamin E Serum.
อ่าน

[พักก่อน Ep.94] Review : Provamed Vitamin E Serum.

หน้าหนาวก็ผ่านไปแล้ว เมื่อไหร่คนมีใจจะผ่านมา ผ่าม! ขอเปิดต้นเรื่องด้วยคำคมกันสักหน่อย เพื่อไม่ให้ดูเป็นทางการมากเกินไป และแน่นอนว่าช่วงนี้กำลังจะใกล้เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์เข้าไปทุกทีแล้ว หลังจากที่ประเทศไทยหนาวอยู่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่นั้นก็ทำให้เราใจชื้นเพราะว่าเราได้สัมผัสกับความหนาวที่หนาวกว่าทุกปี แม้เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตามแต่ยังมีอีกเรื่องที่แม้ความหนาวจะหมดไป มันก็ยังคงอยู่กับเราในทุกฤดูกาลนั้นก็คือ ปัญหาของผิว นี้แหระค่ะ นับว่าเป็นปัญหาที่ตามมาแบบไม่หยุดพักกันเลย ยิ่งช่วงเปลี่ยนฤดูกาลด้วยแล้ว ไหนจะต้องป่วย ไหนผิวจะต้องเปลี่ยนแปลงที่อาจจะส่งผลให้ความสมดุลบนใบหน้าเปลี่ยนไป จนก่อให้เกิดปัญหาของผิวหน้าตามมาไอเท็มเด็ด ๆ ที่จะขอนำเสนอกันสักหน่อยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อ สำหรับใครที่กำลังมองหามอยเจอร์ไรเซอร์ดี ๆ หรือครีมบำรุงผิวเพื่อช่วยเยียวยาปัญหาผิวต่าง ๆ ให้ดีขึ้นProvamed Vitamin E Serum. หลอดจิ๋วแต่สรรพคุณเกินขนาดมาก เป็นเซรั่มวิตามินอีเข้มข้น ที่จะเข้ามาช่วยเยียวยาความบอบช้ำของผิวเราได้ มาในขนาดจิ๋วมาก ๆ ด้วยขนาด 5 มล. เรียกว่ากำหลอดไว้ในมือก็มิดจนมองไม่เห็นเลย แน่นอนว่าสกินแคร์ดี ๆ ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติก็ต้องมีสีเขียวเป็นเอกลักษณ์ ลักษณะเนื้อเซรั่มเป็นสีใส มีกลิ่นคล้าย ๆ ว่านหางจระเข้แต่ก็แอบได้กลิ่นน้ำหอมโดด ๆ ขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ใช่กลิ่นที่รุนแรงนะคะ ลักษณะของเนื้อเซรั่มสามารถเกลี่ยง่าย แต่มีความหนืดผสมอยู่ในปริมาณเล็กน้อย อาจจะต้องรอเวลาสักเล็กน้อยเพื่อรอให้เซรั่มซึมเข้าผิวจนไม่หลงเหลือเนื้อเซรั่มเอาไว้บนผิวคำเคลมจากแบรนด์ เป็นเซรั่มที่เข้มข้นเป็นพิเศษ ด้วยวิตามินอีเข้มข้นถึง 40 เท่า ที่จะช่วยฟื้นฟูอย่างเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีสารสกัดสำคัญอีกหลายชนิดที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นแบบเร่งด่วน ลดการอักเสบของผิว กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีเป็นพิเศษ พร้อมทั้งปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ และแสงแดด UVA ที่จะช่วยลดปัญหาในเรื่องของริ้วรอยอีกด้วยความรู้สึกหลังใช้ในช่วงที่กำลังเข้าสู่หน้าหนาว หน้าที่แห้งอยู่แล้วก็แห้งมากกว่าเดิม สัมผัสของคืนแรกที่ตื่นมาหลังใช้เซรั่มคือ ดี ถึงแม้จะยังคงทิ้งความมันเอาไว้บนใบหน้าบ้าง แต่ก็รู้สึกชอบที่ได้สัมผัสกับหน้าที่ดูอิ่มน้ำในทุก ๆ เช้าหลังการล้างหน้า แถมยังได้กำไรตรงที่เวลาแต่งหน้าคือ เครื่องสำอางค์ติดหน้าชนิดที่ว่าเลิกงานแล้วก็ยังเหมือนเพิ่งแต่งหน้าไปเมื่อเช้าเลยทีเดียว ทั้งทีเมื่อก่อนจะเริ่มลอยออกมาจากผิว แถมยังทำให้ผิวดูโทรมอีกด้วย เซรั่มวิตามินอีอาจจะไม่ได้ช่วยเรื่องของสิว หรือรอยสิวได้ดีเท่าไหร่ แต่ถ้าหากใครที่ต้องการความชุ่มชื้นมาเติมเต็มให้ผิวหน้าดูอิ่มเหมือนผิวฉ่ำน้ำดูสุขภาพดี ต้องไปจัดตัวนี้มาบำรุงกันด่วน ๆ เลยค่ะขนาด 5 มล. ที่เราซื้อมา ถ้าหากจำราคาไม่ผิดจะอยู่ที่ประมาณ 100 บาทนิด ๆ ถ้าหากว่าซื้อเพราะต้องเดินทางและจำเป็นต้องซื้อในขนาดที่สามารถพกพาได้ง่าย เรียกว่าทั้งขนาด ,สรรพคุณ และราคาตอบโจทย์ทั้งหมดเลยก็ว่าได้นะคะ หรือถ้าหากใครอยากได้ไซส์ 30 มล. ก็สามารถหาซื้อได้แล้วเหมือนกันในราคา 450 บาทเท่านั้นค่ะ ที่วัตสันทั่วประเทศเลย ของถูกและดีแบบนี้ก็ต้องบอกต่อซิคะภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด    

[พักก่อน Ep.71] Review : AMPLE:N Peptide Shot.
อ่าน

[พักก่อน Ep.71] Review : AMPLE:N Peptide Shot.

ถ้าคุณผิวแห้งแสดงว่าเราเป็นเพื่อนกัน เหล่าบรรดาสาวผิวแห้งจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ในปริมาณที่เข้มข้นกว่าปกติ หรือสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื้น ใครว่าผิวแห้งจะไม่เป็นสิว นั้นเป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ แม้ผิวแห้งจะมีความมันที่น้อยกว่าคนผิวหน้ามัน และมีรูขุมขนที่เล็ก แต่เมื่อไหร่ที่หน้าขาดความสมดุลอย่างปริมาณน้ำบนผิว สิวก็มาเยือนเช่นเดียวกันค่ะAMPLE:N Peptide Shot. เป็นเซรั่มโปรตีนที่มีสารที่ให้ความชุ่มชื้นค่อนข้างเข้มข้นสำหรับเราเลยค่ะ AMPLE:N จัดว่าเป็นแบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมจากประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ ลักษณะเป็นขวดแก้วที่มีการออกแบบฝาปิดอย่างแน่นหนา ที่มองภายนอกแล้วให้ความรู้สึกมีราคามากเลยค่ะ ทั้งที่จริง ๆ ราคาแต่เพียงหลักร้อยเท่านั้นลักษณะของเนื้อเซรั่มเป็นสีเหลืองใส และมีความพิเศษที่เส้นใยที่ทางแบรนด์แจ้งว่ามันคือเส้นใยโปรตีน ที่เมื่อทาลงบนผิวแล้วจะซึมซาบลงบนผิวทันที ไม่ทิ้งความเป็นเส้น ๆ เอาไว้บนผิวอย่างแน่นนอน เนื้อเซรั่มค่อนข้างเข้มข้นแต่ก็ยังสามารถเกลี่ยง่าย ซึมเร็ว แต่ไม่ได้ซึมจนถึงกับหน้าแห้ง ยังคงหลงเหลือความชุ่มชื้นบนผิวหน้าอยู่พอสมควร มีกลิ่นของน้ำหอมอ่อน ๆ บาง ๆ ที่หอมอยู่นะคะ ไม่รุ้สึกเลยว่าเป็นกลิ่นสังเคราะห์สรรพคุณหลัก ๆ เลยของเซรั่มตัวนี้คือ เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว ที่จะมีส่วนช่วยรักษาสมดุลบนใบหน้า ซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงความอิ่มน้ำหลังจากตื่นนอนแค่เพียงคืนเดียว ความรู้สึกหลังการใช้เซรั่มเรื่องของผิวหน้าฉ่ำน้ำในคืนเดียวอันนี้ต้องยกให้เขาจริง ๆ ค่ะ เพราะคืนแรกที่ได้ใช้ตื่นมาหน้านิ่มมาก ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วหน้าจะค่อนข้างแห้งเรียกว่าแห้งแบบลูบไปแทบไม่มีความมันบนใบหน้าเลยค่ะ ซึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป ชอบมากที่ตื่นมาจับหน้าแล้วรู้สึกว่ามีน้ำมาเติมเต็มให้กับผิว รู้สึกว่าผิวฟูขึ้น แทบไม่อยากจะล้างหน้าเลยทีเดียว ยิ่งใช้หลังแต่งหน้าด้วยแล้วยิ่งช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนมากขึ้นด้วยนะคะ เพราะเนื้อเซรั่มที่ยังคงความเหนียวบนหน้าเอาไว้จึงช่วยยึดเกาะบรรดาเมคอัพทั้งหลายเอาไว้บนหน้าได้นานขึ้นไปอีก แต่แนะนำว่าให้ทาจุดเล็ก ๆ พอนะคะ เนื้อเซรั่มเข้มข้นจริง ๆ ค่ะ ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นหน้าเยิ้มระหว่างวันแทนได้ หลังจากใช้ต่อเนื่องไปสักพักใหญ่ ๆ เรียกว่าจนเซรั่มเหลืออยู่ก้นขวด สัมผัสได้เลยว่าผิวดูสุขภาพดีขึ้นมาก ๆ ไม่ลอก ไม่แสบผิวเท่าเมื่อก่อน บรรดาริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้น ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าหากใช้ต่อเนื่องมันต้องส่งผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้แน่นอน ส่วนใครที่แพ้น้ำหอมแนะนำให้ลองเทสอาการแพ้ดูก่อนอันดับแรกนะคะ เพื่อความปลอดภัยค่ะสำหรับสาวที่มีผิวหน้าแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้นมาเติมเต็ม ต้องลองหา  AMPLE:N Peptide Shot. มาลองใช้กันดูนะคะ ราคาน่ารักมาก ๆ เราซื้อมาในช่วงโปรโมชั่นที่ร้าน Multybeauty ที่สยาม ราคา 299 บาทเท่านั้นเองค่ะ ราคาดี แพ็คเกจดี แถมผลลัพธ์ที่ได้ก็ดี ต้องไปตำมาเพิ่มแล้วค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด    

[พักก่อน Ep.78] Review : BK Ance Expert Bright.
อ่าน

[พักก่อน Ep.78] Review : BK Ance Expert Bright.

หลังจากผ่านมรสุมเรื่องสิว ๆ กันมาอย่างหนักหน่วง ก็เตรียมตัวเข้าสู่มหกรรมรักษาร่องรอยที่เหลือเอาไว้บนผิวหน้า เครียดเรื่องเป็นสิวแล้ว ก็ต้องมากังวลต่อกับเรื่องรอยสิวต่าง ๆ นี้ซิคะ ถึงจะเรียกว่าครบสูตรของแท้ เดี๋ยวนี้มีหลายแบรนด์ที่ได้ผลิตครีมบำรุงต่าง ๆ เพื่อเข้ามาช่วยเยียวยาความหม่นหมองในใจในเรื่องของรอยดำ รอยแดง ต่าง ๆ ที่เกิดจากสิวเรื่องสิว เรื่องรอย ในยุคสมัยใหม่นี้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเหล่าบรรดาคลินิคเสมอไปแล้ว ด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ได้ผลิตสารสกัดออกมาในรูปแบบของครีมบำรุงที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดง่ายขึ้น แถมยังมีราคาที่ต้องจับได้ ไม่ต้องเสียเงินในการรักษาผิวหน้าในราคาแพงอีกต่อไปBK Ance Expert Bright. ขนาด 30 กรัม นี้นับว่าเป็นครีมบำรุงตัวเด็ด ตัวดัง อีกตัวหนึ่งที่เหล่าสาวกแฟนคลับในเรื่องของการรักษาสิว และรอยสิวส่วนใหญ่ต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน มาในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์แบบหลอดกด ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับหลอดของโฟมล้างหน้าที่จะต้องตั้งด้วยการเอาหัวลง ด้วยการผสมสีระหว่างหลอดสีขาว และตราสัญลักษณ์บนหลอดสีเขียวพาสเทล ที่ให้ความรู้สึกไม่ทำร้ายผิวหน้าอันบอบบางของเรา ก็นับว่าตอบโจทย์ในเรื่องของความรู้สึกแรกพบได้ดีเลยค่ะเนื้อครีมเป็นสีขาว เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวหน้าแต่อย่างใด มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เหมือนจะเป็นกลิ่นจากสารสกัดจากธรรมชาติที่อยู่ในส่วนผสมของครีม ไม่ได้มีกลิ่นที่จัดจ้านแต่อย่างใด ด้วยความเป็นเนื้อครีมจึงยังคงทิ้งความชุ่มชื้นเอาไว้บนผิวหนังหลังจากที่ครีมได้ซึมเข้าไปแล้วความรู้สึกหลังใช้ BK Ance Expert Bright.แรกเริ่มเดิมทีเราทดลองจากการใช้ในรูปแบบซองที่มีขายอยู่ที่เซเว่น ซึ่งแน่นอนว่าการที่มันพัฒนาจนกลายมาเป็นขนาดหลอด 30 กรัมนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน หลังจากที่เราได้ใช้ BK Ance Expert Bright. ก็สัมผัสได้ถึงรอยแดงที่จางลงหลังจากที่เราได้สังเกตตัวเอง ใน 2 อาทิตย์ นับว่าประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนเรื่องของรอยดำก็อาจจะใช้เวลาที่นานหน่อย แต่สุดท้ายเมื่อใช้ติดต่อกันจนครบ 1 เดือนก็สัมผัสได้ใบหน้าที่มีร่องรอยที่จางลงทั้งรอยดำ และรอยแดง แถมยังได้กำไรจากผิวหน้าที่ดูสุขภาพดี มีความชุ่มชื้น ใบหน้ากระจ่างใส แถมสิวใหม่ก็ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกด้วยนะคะโดยครีมบำรุงตัวนี้สามารถทาได้ทั่วทั้งใบหน้า หรือทาแค่เพียงเฉพาะจุดที่มีรอยสิวก็ได้เช่นเดียวกัน แต่เราจะเน้นในการทาแบบเฉพาะจุดค่ะ เพราะช่วยประหยัดครีมได้ด้วย (ความงกของผู้หญิง!) แนะนำว่าให้ทาหลังทาครีมมทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หรือพูดง่าย ๆ คือทาตัวสุดท้ายเลยค่ะ เพราะด้วยเหตุผลอะไรก็ยังไม่ทราบได้ ถ้าหากทาครีมตัวนี้ก่อนแล้วมีตัวอื่นทาทับ ครีมจะลอกหลุดออกมานั้นเองค่ะ และถ้าหากว่าจะทาก่อนแต่งหน้าด้วยล่ะก็ การลงเฉพาะจุดแบบบาง ๆ นับว่าสำคัญกับความเรียบเนียนของใบหน้ามากเลยทีเดียว มิเช่นนั้นแล้วอาจจะเกิดอาการหน้าเป็นคราบได้นะคะ เรียกว่าตอบโจทย์สาวกของการรักษาสิว และรอยสิวได้ดีมากเลยค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องรอยแล้ว ยังมรส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดสิวใหม่อีกด้วยนะคะ ในขนาด 30 กรัม ราคาเพียงแค่ 299 บาทเท่านั้น เผลอ ๆ อาจถูกกว่านี้ด้วยในช่วงที่วัตสันมีโปรโมชั่น ต้องรีบไปตำกันมาด่วน ๆ เลยค่ะ คอนเฟิร์มว่าไม่ผิดหวังแน่นอนภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด    

[พักก่อน Ep.79] Review : Neutrogena Alcohol - Free Toner.
อ่าน

[พักก่อน Ep.79] Review : Neutrogena Alcohol - Free Toner.

สุขภาพผิวหน้าที่ดีต้องเริ่มต้นจากการล้างหน้า เพราะการล้างหน้าคือสาเหตุหลักที่มีส่วนช่วยในการชี้วัดสุขภาพของผิวเป็นด่านแรกเลยก็ว่าได้นะคะ ถ้าหากขั้นตอนในการล้างหน้าที่ไม่สะอาดเพียงพออาจจะส่งผลให้ผิวหน้าได้รับผลกระทบตามมาทั้งสิวอุดตัน หรือแม้แต่สิวอักเสบ เคล็ดลับในการสร้างผิวหน้าให้ดูสดใส และสุขภาพดี จำเป็นต้องพิถีพิถันในทุก ๆ ขั้นตอนเลยจริง ๆ ค่ะเช่นกันค่ะ การใช้โทนเนอร์ก็นับว่าเป็นสิ่งจำเป็น และสำคัญรองลงมาจากการทำความสะอาดผิวหน้า เพราะหลังจากที่ผิวได้ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมีการปรับสมดุลหน้ากันเกิดขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมให้ผิวได้รับการบำรุงจากสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไปยังไงล่ะคะสำหรับใครที่มีผิวอยู่ในประเภทบอบบาง และแพ้ง่าย โทนเนอร์ที่เราอยากนำเสนอในวันนี้คือ Neutrogena Alcohol - Free Toner. ตัวแพคเกจมาในรูปแบบของขวดสีฟ้าสดใส พร้อมกับฉลากที่เขียนเอาไว้ตัวใหญ่ชัดเจน ว่าเป็นโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ จึงมั่นใจได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ ผิวจะไม่ได้รับความเสียหายจากโทนเนอร์ตัวนี้แน่อนตัวน้ำของโทนเนอร์มีลักษณะเป็นสีใส เหมือนน้ำเปล่า มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่คล้ายกับกลิ่นแป้งเด็กมาก ๆ เรียกว่าเช็ดโทนเนอร์ไปด้วยฟื้นฟูจิตใจด้วยกลิ่นนี้ไปด้วยพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ น้ำโทนเนอร์ไม่ได้มีความเหนียว หนืดอะไรคะ สามารถเทลงบนสำลีเช็ดหน้าแล้วเช็ดได้ตามสะดวกเลยจากคำเคลมของทางแบรนด์ Neutrogena Alcohol - Free Toner. เป็นโทนเนอร์ที่เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า และปรับสภาพผิวหน้าให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป อีกทั้งยังเป็นสูตรพิเศษที่ไร้การผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วย อ่อนโยนต่อผิว และชวยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวอีกด้วยความรู้สึกหลังใช้ Neutrogena Alcohol - Free Toner.หลังจากที่เช็ดหน้าด้วยทิชชู่หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว จะใช้โทนเนอร์เช็ดตามทันทีเพื่อไม่ให้ขาดตอน สัมผัสที่ได้ในช่วงของการทาสกินแคร์ต่อมาคือ ให้ความรู้สึกเหมือนทาครีมบนผิวที่เปียกน้ำมาก ชอบในฟีลที่ผิวเด้ง ๆ นุ่ม ๆ เวลาทาครีม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำมาต่อเนื่องประมาณเกือบเดือน สกินแคร์ที่เคยทาซึมเข้าผิวได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่าช่วงแรก ๆ ที่ไม่ใช้โทนเนอร์เลย เพราะสัมผัสได้ถึงครีมที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าในช่วงเช้าของการตื่นนอนในปริมาณที่น้อยลงมาก ๆ และทุกครั้งที่ได้สัมผัสผิวหน้า จะรู้สึกดีมาก ๆ ที่หน้าดูอิ่มน้ำจากการสกินแคร์ที่เห็นผล ส่วนหนึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะการปรับสมดุลของผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนการลงสกินแคร์ที่เป็นส่วนช่วยในการสร้างผิวที่สุขภาพดีที่ตอบสนองต่อการบำรุงที่มากขึ้นใครมองหาโทนเนอร์ที่เหมาะสำหรับผิวที่ค่อนข้างบอบบาง และแพ้ง่าย ตัวนี้ก็ควรค่าแก่การลองนะคะ มาในขนาด 150 มล. ที่ใช้มาเกือบเดือนแล้วก็ยังไม่หมดเลยค่ะ แถมราคาตอนที่เราซื้อมาในช่วงโปรโมชั่นของวัตสัน แค่เพียง 99 บาทเท่านั้น จากราคาเต็ม 189 บาท เรียกว่าถูก และดี ยกนิ้วให้เลยค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด    

[พักก่อน Ep.64] Review : Ten Ten Nail Colors.
อ่าน

[พักก่อน Ep.64] Review : Ten Ten Nail Colors.

เรื่องสวย ๆ งาม ๆ แถมถูก และดี ขอให้ไว้ใจผู้หญิงอย่างเรา ๆ เรียกว่าเรามีพลังวิเศษในชนิดที่ว่าตามสืบยิ่งกว่าโคนัน รู้เรื่องสารพัด รู้ทุกช่องทางที่มีของเซลล์ รวมทั้งของดีที่ต้องรีบไปตำ ขอแค่มาถามว่าต้องการอะไร? แบบไหน? เราก็พร้อมจะแจ้งพิกัด พร้อมทั้งเผยสรรพคุณละเอียดยิบ เรียกว่าพรีเซนเตอร์ต้องเข้ามาทาบทามแล้วล่ะค่ะของถูกและดีในวันนี้ จะขอยกให้เป็น The best of my nails color. กันเลยค่ะ ซึ่งก็คือ สีทาเล็บในดวงใจนั้นเองค่ะ ใครที่ประสบปัญหาไม่อยากเข้าร้านทำเล็บเพราะงบเกินจำกัด หรือเลือกซื้อสีทาเล็บมาแล้วสีดันไม่ตรงปกซะนี้ มันน่าเจ็บใจนัก ไม่ต้องหัวร้อนกันไปค่ะ วันนี้ขอนำเสนอสีทาเล็บที่แสนจะคุ้มค่ามาให้สาว ๆ ได้ไปตำกันTen Ten Nail Colors. เห็นแพคเก็จแล้วบางคนถึงกับร้อง อ่อ!! ใครที่เป็น FC วัตสัน แน่นอนว่าต้องเคยเห็น หรือบางคนอาจจะยกให้เจ้ายาทาเล็บตัวนี้เป็นแบรนด์ที่ชื่นชอบที่สุดไปแล้วก็ได้ แพคเกจหรูหราไฮโซมาก มาในรูปแบบของขวดทรงเหลี่ยม วางบนโต๊ะกระจกแล้วให้ความรู้สึกเป็นลูกคุณหนูมาก แถมสัญลักษณ์มินิมอลที่ดูไม่รกตามากเกินไปก็ยิ่งช่วยทำให้น้องดูธรรมดา แต่น่ารักสุด ๆ หลายคนที่ซื้อมาครั้งแรก อาจจะงงกับการเปิดฝาขวดที่พยายามบิดฝา แต่บิดยังไงฝาก็ไม่ยอมเปิด ขอให้หยุดบิดค่ะ! แล้วดึงขึ้นเหมือนดึงฝาสเปรย์ทั่วไป ก็จะได้พบกับฝาอีกชั้นที่เป็นแบบเกลียวหมุน เรียกว่าประทับใจทั้งการดีไซน์ ทั้งประโยชน์ในการทำฝาแบบนี้เลยค่ะ เพราะเราเคยซื้อน้ำยาทาเล็บที่เป็นแบบหมุนแล้วทาได้ทันทีเลย ปัญหาของมันก็คือ แม้เราจะไม่ได้เปิดฝาทิ้งเอาไว้ แต่สีในขวดก็ดันแห้งแข็งซะงั้น เรียกว่าตอบโจทย์สายประหยัด และสายสะสม อย่างเรามากค่ะต่อไปมาดูถึงความหนาแน่นของสี เราเคยซื้อสีขาวในราคาประหยัดมาหลายต่อหลายแบรนด์ และแน่นอนว่าไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่ความขาวจะเป็นสีขาวตามปก สีที่ได้จะเป็นสีที่ออกขาวใส เรียกว่าทาทับกันไปหลายรอบเลยทีเดียวค่ะ กว่าจะได้โทนสีขาวอย่างที่ต้องการ แถมยังหลุดลอกไวอีกต่างหาก ถึงกับต้องกุมขมับ แต่เราก็ไม่ลดละความพยายามในการตามหาสีขาวที่ได้ดั่งใจ จนมาเจอของแบรนด์ Ten Ten Nail Colors นี้แหละค่ะ เห็นสีตั้งแต่ภายนอกขวดก็โล่งใจแล้วว่าต้องขาวได้ดั่งใจแน่ ๆ พอมาลองเทสดู กรี๊ดมาก! โทนสีขาวที่ตามหาอยู่ที่นี้ ตรงนี่เอง เม็ดสีขาวแน่นมาก เรียกว่าทาแค่รอบเดียวก็ขาวได้ใจไปเลย แถมยังติดทนนานกว่าทุก ๆ แบรนด์ที่เคยใช้มาอีกต่างหากประทับใจทั้งคุณภาพ และราคาจริง ๆ ยกให้เป็นแบรนด์ในดวงใจไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เวลานึกถึงสีทาเล็บก็ตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์ของ Ten Ten Nail Colors. เลยทีเดียว ราคาอยู่ที่ขวดละ 36 บาทเท่านั้นเองค่ะ แถมยังมีทั้งสีพื้น และสีที่ผสมกลิตเตอร์ โดยเฉพาะความกลิตเตอร์ ที่ให้มาแน่น ๆ และติดเล็บได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ ใครที่กำลังตามหาโทนสีที่เวลาทาเล็บออกมาแล้วตรงปกแบบไม่ต้องเข้าร้าน ต้องมาตำแล้วค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่วัตสันทั่วประเทศไทยเลยค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด     

[พักก่อน Ep.108] Review : Tutu Buterfly Velvet Lipstick 605
อ่าน

[พักก่อน Ep.108] Review : Tutu Buterfly Velvet Lipstick 605

เรื่องความงามขอให้ไว้ใจหญิง เพราะไม่ว่าอะไรจะดี จะเด็ดขนาดไหนหญิงก็หามาได้ทุกอย่างจริง ๆ ยิ่งถ้าเป็นช่วง Sale ตัวแดงด้วยแล้วล่ะก็ อย่าไปรอช้า! ต้องรีบพุ่งตัวออกไปให้ไวเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันคนอื่นเขา ของดีราคาคุ้มค่าไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ ทุกช่วงเวลา คติที่สำคัญคือ ถูก และดีต้องมีติดบ้าน ดั่งยาสามัญประจำบ้านนั้นเองค่ะ  สำหรับความคุ้มค่าในวันนี้มาจากร้าน Multybeauty สาขา สยามค่ะ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นร้านที่รวบรวมทั้งของดี ของเด็ด ของหายากที่มาในราคาคุ้มค่าสบายกระเป๋า แถมยังมีช่วงโปรโมชั่นลดกระหน่ำ เซลล์ลดราคากันให้ตาแตกอยู่บ่อยครั้งจนทำให้เรากลายเป็นสาวกอีกคนของร้านนี้ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ หนึ่งสิ่งที่เราอยากรีวิวในวันนี้ จะเป็นเรื่องของเมคอัพ นั้นคือ Tutu Buterfly Velvet Lipstick 605 นั้นเองค่ะ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มาในราคาสุดแสนประหยัดเลยจริง ๆ อีกทั้งแพคเก็จที่ได้ถูกออกแบบมาถูกจริตหัวใจของเราเป็นที่สุด ทั้งในเรื่องของความดูแพง ความเพชรต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมกับดีไซน์ของลิปสติกที่มาในรูปทรงคล้ายกับผีเสื้อตามชื่อรุ่นของแบรนด์เลย ลิปสติกหนึ่งแท่งจะได้ส่วนประกอบจากกล่องสีชมพูสดใส ที่มีความเรืองแสงของขอบสีเงินที่สะดุดตามาก อีกทั้งมีฐานรองลิปสติกด้านในที่มาในโทนสีเดียวกัน โดยมีพื้นผิวเสมือเป็นผ้ากำมะหยี่ เรียกว่าสามารถทำให้หัวใจของสาวกของน่ารักปุ๊กปิ๊กต้องละลายไปตาม ๆ กันเลยทีเดียวค่ะ สีที่เราเลือกมาคือ สี 605 ซึ่งเป็นสีที่มาในโทนของสีส้มอิฐ ที่บอกเลยว่าก็ยังคงเป็นกระแสฮอตฮิตที่ยังคงได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก สำหรับโทนนี้ อีกทั้งใกล้เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์แล้ว สีสันที่สดใสจึงกำลังจะขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งของเมคอัพแล้วล่ะค่ะ เนื้อสีมีความหนาแน่นที่ค่อนข้างเนียน ละเอียด พอสมควรเลยทีเดียวค่ะ เนื้อลิปสติกจะมีความชุ่มชื้น ที่ทำให้ปากดูฉ่ำน้ำ เหมือนชื่อรุ่นของแบรนด์นั้นคือ Velvet นั้นเองค่ะ สีมีความชัดเจนตรงปก ไม่ผิดพี้ยนแต่อย่างใด แต่ก็แอบมีหลุดลอกออกบ้างตามสไตล์ของเนื้อลิปแบบ  Velvet ซึ่งจำเป็นต้องมีการเติมระหว่างวัน เรียกว่าได้ลุค Korea Girl อยู่เหมือนกันนะคะ อีกทั้งจากราคาที่ติดป้ายเอาไว้ 159 บาท เราจึงหยิบมาอย่างไม่ลั่งเล เพื่อเดินมาชำระเงินที่หน้าเคาร์เตอร์ แต่ก็ต้อพบกับเหตุการณ์สุดช็อคที่เกิดขึ้นเมื่อพนักงานแจ้งราคาอีกครั้งคือ 89 บาท ตอนนั้นเราเองถึงกับยืน งง ๆ แปปนึง เพราะราคามันลดลงแทบครึ่ง ๆ จากราคาที่ติดป้าย แต่ก็ควักเงินจ่ายไวเหมือนกันนะคะ ( รู้เลยว่า งก! ) จนมาดูบิลก็ต้องถึงกับร้อง อ่อ! เพราะลิปตัวนี้เซลล์อยู่ค่ะ จึงทำให้ราคาลดลง แอบคิดในใจว่ารู้อย่างงี้ คงได้มากกว่าหนึ่งกล่องแน่ ๆ ( แสดงความงกอีกครั้ง ) ใครที่กำลังมองหาลิปสติกราคาเบา ๆ แต่ได้คุณภาพที่คุ้มค่า แถมแพคเก็จยังน่ารักปุ๊กปิ๊ก บวกกับความหรูหราจากการดีไซน์ และการตกแต่ง พูดไปใครจะเชื่อว่าราคาเพียงแค่ 89 บาทเท่านั้น ต้องรีบไปตำกันด่วน ๆ แล้วนะคะ ภาพถ่ายจากผู้เขียนทั้งหมด

[พักก่อน Ep.76] Review : Bifesta Acne Care Cleansing Lotion.
อ่าน

[พักก่อน Ep.76] Review : Bifesta Acne Care Cleansing Lotion.

สาวผิวแห้งอย่าเลื่อนผ่านบทความนี้! หากใครที่กำลังประสบปัญหาในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่อาจจะเป็นกังวลได้ว่ามันเหมาะกับสภาพผิวแห้งอย่างเราหรือเปล่า เพราะด้วยผิวที่แห้ง จนถึงแห้งมาก การใช้ผลิตภัณฑ์ทั่ว ๆ ไปอาจจะส่งผลให้ผิวยิ่งแห้งลงไปมากกว่าเดิม และก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมาอีกมากมาย    ใครว่าผิวแห้งจะไม่เป็นสิว คุณคิดผิดค่ะ! จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะผิวมัน หรือผิวแห้ง ก็สามารถเป็นสิวได้ทั้งนั้น ถ้าหากว่าเลือกผลิตภัณฑ์ผิด ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้า วันนี้คนผิวแห้งอย่างเรามีผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งที่เป็นขั้นตอนแรกเริ่มในการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสิวนั่นเองค่ะ Bifesta Acne Care Cleansing Lotion. ขนาด 90 มล. โลชั่นในรูปแบบของคลีนซิ่งทำความสะอาดเมคอัพบนผิวหน้า ที่มาด้วยรูปแบบขวดเล็กน่ารักสีขาว กะทัดรัด พกพาง่าย แถมยังมีสูตรบอกอย่างชัดเจนบริเวณหน้าขวด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว มาพร้อมกับสีเขียวมินท์สดใส ยิ่งช่วยทำให้ดูเป็นมิตรกับผิวเรามากขึ้นอีกด้วยสำหรับคลีนซิ่งสูตรสำหรับผิวที่มีปัญหาสิวนี้ จากคำเคลมของแบรนด์คือ เป็นสูตรไมเซล่า วอเตอร์ ที่จะช่วยดักจับสิ่งสกปรกบนผิวหน้า พร้อมทั้งฆ่าเชื้อสิว และลดอาการอุดตันจากการเช็ดหน้าไม่เกลี้ยงที่เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดสิวอีกด้วยนะคะ อีกทั้งตัวขวดจะเป็นแบบทึบแสงซึ่งแตกต่างกับสูตรอื่น ๆ ที่เป็นแบบโปร่งใสนั่นเองค่ะกลิ่นของคลีนซิ่งไม่ได้มีกลิ่นที่แรงแต่อย่างใด ยังคงมีกลิ่นความหอมอ่อน ๆ ที่เป็นมิตรกับจมูกเช่นเคย เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบน้ำใส ไม่มีสี และไม่มีความเหนียวของคลีนซิ่งแต่อย่างใด เรียกว่าหยดบนสำลีเช็ดหน้าแค่เพียง 2 - 3 หยดก็กระจายได้เต็มสำลีเลยค่ะหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ Bifesta Acne Care Cleansing Lotion. แน่นอนตามการเปิดเรื่อง เราเป็นคนผิวแห้งค่ะ อีกทั้งเวลาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการรักษาสิวเรามักจะมีอาการระคายเคือง และมีผดขึ้นตามมา เนื่องมากจากว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการรักษาสิวนั้นจะช่วยลดความมันบนใบหน้าจนหมดจด ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนเป็นสิวที่มีผิวมันค่ะ แต่สำหรับคนเป็นสิวผิวแห้งนั้น ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องใหญ่อย่างยิ่งที่จะต้องรักษาสิว ควบคู่ไปกับเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย เราเฝ้าตามหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์จนมาเจอคลีนซิ่งตัวนี้ ที่เราลองเสี่ยงซื้อเจ้าขวดเล็กมาจากเซเว่นในราคา 99 บาทเท่านั้น เพราะแต่เดิมเราใช้สูตรสีชมพูสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยอยู๋แล้ว จึงเกิดความอยากลองเจ้าตัวนี้เป็นพิเศษ ครั้งแรกที่ใช้ผิวหน้ายังคงปกติ ไม่มีผดขึ้น แถมยังรู้สึกว่าหน้าไม่ได้แห้งจนแสบ เหมือนผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัวที่เจอมา แต่ก็ยังทดลองใช้มาเรื่อย ๆ จนหมดขวดเล็กหนึ่งขวด จึงได้ผลว่าควรไปตำขวดใหญ่มาซะโดยดี ชอบในความที่ช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ แถมยังสามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดเลยทีเดียวค่ะ ไม่ทำให้ผิวแดงแห้ง หรือลอกแสบแต่อย่างใดเลยสำหรับใครที่ผิวแห้งเช่นเดียวกับเรา และกำลังมองหาคลีนซิ่งที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาอาการหน้าแห้งไม่ให้แห้งลงไปอีก แถมยังช่วยบรรเทาเรื่องของสิวให้ดีขึ้น ทำความสะอาดก็หมดจดไม่ทิ้งอาการอุดตัน ต้องลองไปตำขนาดไซส์มินิ 90 มล. มาทดลองดูนะคะ แล้วคุณอาจจะกลายเป็นแฟนคลับตัวยงเหมือนเราเลยก็ได้ภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด