ผลการค้นหา “The Warp Effect ” - ทรูไอดี

8 นักแสดง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป พร้อมเปิดวาร์ป!

       เรียกว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่กำลังมาแรงมากจริง ๆ ค่ะสำหรับเรื่อง “The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป” แนวแฟนซีรอมคอมจากทาง GMM ที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจน่าติดตามมาก แถมในเรื่องนี้ยังได้เหล่านักแสดงมากฝีมือมากมายเลยวันนี้เราเลยไม่รอช้า!อยากจะพาเพื่อน ๆ มาส่องความปังและรู้จักเหล่านักแสดงกันให้มากขึ้น ผ่านทาง ‘8 นักแสดงThe Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป พร้อมเปิดวาร์ป!’ มาดูกันว่ามีใครกันบ้าง แต่ละคนสวยหล่อมีความโดดเด่นมากแค่ไหร รวมถึงในซีรีส์นั้นแสดงเป็นบทบาทและคาแรคเตอร์อะไร หากเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วนั้น ก็ตามมาดูกันเลยค่า~ GMMTV 2022 | The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปhttps://youtu.be/eBwCNO-XkaY1.) นิว ฐิติภูมิ       มาเริ่มกันที่นักแสดงหนุ่มหล่อคนแรกในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect นั่นคือ “นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ” เขาเกิดวันที่ 30 มกราคม 2536 ปัจจุบันอายุ 29 ปี ในพาร์ทของการศึกษา หนุ่มนิวจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โปรไฟล์ปังไม่ไหว!♥️https://www.instagram.com/p/CmBz6InPRjt/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการของนิว ฐิติภูมิ       โดยเส้นทางการเข้าสู่วงการของหนุ่มนิว ฐิติภูมิ เริ่มต้นจากการที่เขานั้นเป็นนายแบบ และเริ่มมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นในบทบาทของพิธีกรจากรายการ Five Live Fresh และก็ได้มีผลงานการแสดงหลากหลายเรื่อง และเรื่องที่ทำให้หนุ่มนิวมีชื่อเสียงเลย นั่นคือซีรีส์วายเรื่อง Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว ในบท ครูพี่เก้า จากทาง GMM และบทบาทของ ขจร ในภาพยนตร์เรื่อง Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ เรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อที่โด่งดังและมีอินเตอร์แฟนทั่วโลกเลยละค่ะ ^^https://www.instagram.com/p/CkvUkw4vV5i/?igshid=YWJhMjlhZTc=นิว ฐิติภูมิ รับบท อเล็กซ์       โดยในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป หนุ่มนิวแสดงเป็น “อเล็กซ์” เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ที่มีหน้าตาหล่อแต่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเลย ไม่เคยมีความรัก มีคาแรคเตอร์เรียบร้อย มีความขี้กลัวหน่อย ๆ แต่มีเรื่องเดียวที่เขาชื่นชอบมาก นั่นคือการถ่ายภาพ และยังเป็นคนที่มีความใฝ่ฝันในการมีเซ็กส์มาก ๆ แต่แล้วในคืนปาร์ตี้คืนหนึ่งทำให้ชีวิตเขากลับเปลี่ยนแปลงไป! ช่องทางการติดตามนิว ฐิติภูมิInstagram : @newwieeTwitter : @new_thitipoom2.) ฟ้า ยงวรี       ในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปนางเอกของเรื่องนั่นคือสาว “ฟ้า ยงวรี อนิลบล” เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2542 ปัจจุบันอายุ 23 ปี เป็นคนจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในพาร์ทของการศึกษา เธอจบการศึกษา จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชานักบินพาณิชย์ สถาบันการบินhttps://www.instagram.com/p/ClRRhK4JmXu/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของฟ้า ยงวรี      ในเส้นทางการเข้าสู่วงการของสาวฟ้า ยงวรีเริ่มต้นในตอนที่เธออายุ 15 ปี จากการเป็นพิธีกรรายการ คิดสนุก และได้เริ่มต้นแสดงในคาแรคเตอร์ของตัวร้ายในละครเรื่อง เพชรกลางไฟ และต่อมาก็มีผลงานออกมาเรื่อย ๆ อย่างในผลงานซีรีส์ล่าสุดของเธอที่โด่งดังและปังมาก นั่นคือซีรีส์เรื่องด้วยรักและหักหลัง P.S. I Hate You นั่นเอง ปัจจุบันสาวฟ้าเป็นนักแสดงภายในสังกัด GMM https://www.instagram.com/p/CIVFfWUpZFr/?igshid=YWJhMjlhZTc=ฟ้า ยงวรี รับบท จีน       โดยในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป สาวฟ้ารับบทเป็น “จีน” เธอเป็นสาวสวยแซ่บ ที่มีความ เฟมินิสต์แบบเต็มสตรีม เป็นเพื่อนร่วมห้องของอเล็กซ์ อีกทั้งยังเป็นประธานชมรมหนังสั้น รวมถึงนักสิทธิเรียกร้องตัวยงของโรงเรียนอีกด้วยและที่สำคัญที่สุดคือจีนนั้นยังเป็นคนที่อเล็กซ์จะเสียเวอร์จิ้นให้อีกด้วย! ช่องทางการติดตามฟ้า ยงวรีInstagram : @fahyongwaree3.) ซิง หฤษฎ์       นักแสดงหนุ่มหล่อในซีรีส์เรื่องซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป นั่นคือหนุ่ม “ซิง หฤษฎ์ ชีวการุณ” เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2540 ปัจจุบันอายุ 25 ปี เป็นคนจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในพาร์ทของการศึกษา ซิงจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ภาควิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ https://www.instagram.com/p/Cit2abgBb0Z/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของซิง หฤษฎ์       หนุ่มซิงได้เข้าสู่วงการบันเทิงโดยการแคสติ้งเป็นนักแสดงในซีรีส์เรื่อง Lovesick the Series (รักวุ่น วัยรุ่นแสบ) ในบทบาทของ เป้อ หรือ เปเปอร์ และต่อมาหนุ่มซิงก็ได้มีผลงานตามออกมามากมาย และในปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัดGMMTV https://www.instagram.com/p/ClTZTwXBft4/?igshid=YWJhMjlhZTc=ซิง หฤษฎ์ รับบท ซีอิ๊ว       ในซีรีส์เรื่องซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป หนุ่มซิง หฤษฎ์ รับบทเป็น “ซีอิ๊ว” เขาเป็นเพื่อนซี้เพื่อนสนิทของอเล็กซ์ เป็นหนุ่มเนิร์ดที่บ้านเปิดร้านถ่ายรูป แต่ซีอิ๊วเป็นคนที่มีความสนใจเรื่องของดาราศาสตร์ สิ่งมีชีวิตนอกโลกเป็นคนที่ชักชวนให้อเล็กซ์เปิดโลกกว้าง แถมยังเชี่ยวชาญในเรื่อง 18+ สุด ๆ ช่องทางการติดตามซิง หฤษฎ์Instagram : @ssingssTwitter : @ssingss4.) ไซซี อภิชญา       นักแสดงสาวคนต่อมาในเรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป  “ไซซี อภิชญา แซ่จัง” เกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายนพ.ศ. 2542 ปัจจุบันอายุ 23 ปี ในพาร์ทของการศึกษา ไซซีจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยนานาชาติจีนมหาวิทยาลัยกรุงเทพhttps://www.instagram.com/p/Ce5E-oPpVNX/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของไซซี อภิชญา       โดยสาวไซซีได้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงในการแสดงเรื่อง อัศจรรย์คุณครูเทวดา และ Mv เพลง อยากเป็นแฟนเธอ (ต้องพึ่งเทวดา) feat. เสนาหอย ของ แมดมังกีส์ และสาวไซซีก็ได้มีผลงานการแสดงตามมาอีกมากมาย อีกทั้งปัจจุบันเธอยังเป็นหนึ่งในศิลปิสาวจากวงเกิร์ลกรุ๊ปซิสซี่ (SIZZY) ปัจจุบันเธอเป็นนักแสดงใน GMMhttps://www.instagram.com/p/Cfax-Bep2bJ/?igshid=YWJhMjlhZTc=ไซซี อภิชญา รับบท หลิว       โดยในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป สาวไซซี อภิชญา รับบทเป็น “หลิว” เป็นสาวสวยสุดน่ารักที่ซีอิ๊วได้ไปเจอในงานปาร์ตี้และยังเป็นสาวที่ดูเหมือนว่าซีอิ๊วจะแอบชอบอีกด้วยhttps://www.instagram.com/p/CmEZy04JuTu/?igshid=YWJhMjlhZTc=ช่องทางการติดตามไซซี อภิชญาInstagram : @ciizezphrTwitter : @Ciize155cm5.) แจน พลอยชมพู       มาต่อกันที่นักแสดงคนต่อมาในซีรีส์เรื่องซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป นั่นคือ “แจน พลอยชมพู ศุภทรัพย์” เธอเกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2538 ปัจจุบันอายุ 27 ปี สาวแจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ จากวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ https://www.instagram.com/p/CiUybDtp3kB/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของแจน พลอยชมพู       ในเส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของแจน พลอยชมพูเริ่มต้นขึ้นจากการเล่นโฆษณาเครื่องดื่ม B-ing คู่กับสาวคิมแทยอน และได้มีผลงานการแสดงแรก รุ่นพี่ Secret Love ตอน Puppy Honey และใครหลายคนรู้จักสาวแจนในผลงานซีรีส์วายอย่างเรื่อง SOTUS The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ในบทบาทของ แพรไพลิน อีกทั้งแจนยังเป็นหนึ่งในเมมเบอร์จากเกิร์ลกรุ๊ป SIZZY ปัจจุบันสาวแจนอยู่ในสังกัด GMMhttps://www.instagram.com/p/Cjz5WCbLuyh/?igshid=YWJhMjlhZTc=แจน พลอยชมพู รับบท นิ่ม       ในซีรีส์เรื่องซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป สาวแจน รับบทเป็น “นิ่ม” เป็นเพื่อนของอเล็กซ์อีกหนึ่งคนเธอนั้นเป็นสาวสวยเลสเบี้ยนสุดคูลที่เป็นถึงลูกเจ้าของค่ายมวย! เป็นคนห้าว ๆ แต่มีความจริงใจ เป็นคนที่คอยช่วยเหลือปกป้องเพื่อน ๆ อยู่เสมอเลยช่องทางการติดตามแจน พลอยชมพูInstagram : @janhaeTwitter : @Janhae6.) จีจี้ ชณันภัสร์        นักแสดงคนต่อมาในซีรีส์เรื่องรูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect นั่นคือสาวสวยออร่าเด่นอย่าง “จีจี้ ชณันภัสร์ กมลคีรีลักษณ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2539 ปัจจุบันอายุ 26 ปี น้ำหนัก 49 กิโลกรัม ส่วนสูง 167 เซนติเมตรhttps://www.instagram.com/p/ClTXe1LrNUB/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของจีจี้ ชณันภัสร์        ในส่วนของเส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของจีจี้ ชณันภัสร์ เริ่มต้นจากการแสดงในซีรีส์เรื่อง ที่เธอฝากฝีไม้ลายไม้ไว้ยาวเป็นหางว่าว และตามมาด้วยผลงานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็รคั่นกู (คู่กัน) , ยามหล่อบอกต่อว่ารัก, Love Songs Love Series ตอนก็เคยสัญญา, Our Sky ตอน ปิ๊กโรม , Wolf เกมส์ล่าเธอ Endless Love และอื่น ๆ อีกมากมายเรียกว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่โดดเด่นมากจริง ๆ ปัจจุบันสาวจีจี้เป็นนักแสดภายใต้สังกัด GMMhttps://www.instagram.com/p/CfBxmskr0To/?igshid=YWJhMjlhZTc=จีจี้ ชณันภัสร์ รับบท แคท       ในซีรีส์เรื่องรูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect สาวจีจี้รับบทเป็น “แคท” เธอนั้นเป็นเหมือนกับสาวป๊อป ฟีลแบบ Girl of my dream ของใครหลาย ๆ คนในโรงเรียนเลยละค่ะ เป็นสาวสวยน่ารักมีเสน่ห์มาก อีกทั้งยังเป็นคนที่อเล็กซ์แอบชอบแอบปลื้มหนักมากhttps://www.instagram.com/p/CmWJY9_r3Nz/?igshid=YWJhMjlhZTc=ช่องทางการติดตามจีจี้ ชณันภัสร์Instagram : @ggigieTwitter : @im_ggigie7.) ภูวิน ภูวินทร์       นักแสดงคนต่อมาในซีรีส์เรื่องรูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect นั่นคือหนุ่มหล่อมากความสามารถอย่าง “ภูวิน ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ปัจจุบันอายุ 19 ปี โดยหนุ่มภูวินกำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยhttps://www.instagram.com/p/ClStTMIpX4C/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่ระบบภูวิน ตั้งศักดิ์ยืน       เส้นทางการเข้าสู่วงการของหนุ่มภูวินเริ่มต้นในปี 2558 โดยเขามีผลงานละครเรื่อง หนึ่งในทรวง และต่อมาได้แสดงในซีรีส์เรื่องเลือดมังกร อีกทั้งผลงานที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักหนุ่มภูวินเลย นั่นคือซีรีส์เรื่อง อาตี๋ของผม , ปลาบนฟ้า (Fish Upon the Sky) และในตอนนี้หนุ่มภูวินกำลังมีผลงานซีรีส์วายเรื่องเพื่อนายแค่หนึ่งเดียว Never Let Me Gohttps://www.instagram.com/p/CmCCY9GJIvI/?igshid=YWJhMjlhZTc=ภูวิน ภูวินทร์ รับบท ไอซ์       ในซีรีส์เรื่องรูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect หนุ่มภูวิน ภูวินทร์ แสดงเป็น “ไอซ์” เขาเป็นน้องชายของอเล็กซ์ เป็นหนุ่มน้อยสุดทะเล้น มีความตลกฮา และยังเป็นหนุ่มหล่อที่มีความฉลาดมากช่องทางการติดตามภูวิน ตั้งศักดิ์ยืนInstagram : @phuwintangTwitter : @phuwintang8.) ซิลวี่ ภาวิดา       สาวสวยคนสุดท้ายท้ายสุดในซีรีส์เรื่องรูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect นั่นคือสาว “ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ” เกิดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2538 ปัจจุบันอายุ 27 ปี ในพาร์ทของการศึกษา สาวซิลวี่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาดุริยางคศิลป์ เอกดุริยางคศิลปดนตรีตะวันตกด้านขับร้องเพลงคลาสสิก ระดับเสียงเมซโซ-โซปราโน (Mezzo Soprano) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย https://www.instagram.com/p/ClGcrNcP4zY/?igshid=YWJhMjlhZTc=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของซิลวี่ ภาวิดา       โดยซิลวี่ได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดในรายการร้องเพลงชื่อดังอย่าง The Star ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 7 และได้ติด 1 ใน 8 ต่อมาสาวซิลวี่ก็ได้กลับมาประกวดอีกครั้งในรายการ The Voice Thailand Season 6 ในทีมของโค้ช โจอี้ บอย และจากจุดนี้เองทำให้ซิลวี่ได้มีผลงานออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลง เดินแบบและผลงานการแสดงhttps://www.instagram.com/p/CizTwQGr3Xt/?igshid=YWJhMjlhZTc=ซิลวี่ ภาวิดา รับบท มอลลี่       ในซีรีส์เรื่องรูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect สาวซิลวี่ ภาวิดาแสดงเป็น “มอลลี่” เป็นแฟนกับนิ่ม ซึ่งเธอนั้นเป็นรุ่นพี่ของนิ่ม 1 ปี กำลังเรียนมหาลัยอยู่ ซึ่งนิ่มเป็นคนไปจีบมอลลี่เองเป็นสาวน่ารักที่มีคาแรคเตอร์ทะเล้น มีความตลก เฮฮามาก และยังชอบทำให้นิ่มหึงอีกด้วยhttps://www.instagram.com/p/CmGIxfirM6c/?igshid=YWJhMjlhZTc=ช่องทางการติดตามซิลวี่ ภาวิดาInstagram : @silvypavidaTwitter : @silvymusic_ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ 8 นักแสดง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป พร้อมเปิดวาร์ป! เรียกได้ว่านักแสดงแต่ละคนในซีรีส์นั้นมีความฟิตติ้งเหมาะกับบทบาทที่ได้รับมาก ๆ แสดงได้ธรรมชาติสุดอะไรสุด แถมมีความเข้าขากันมากทำให้ดูไปแล้วอินไปกับการแสดงของพวกเขามากเลยละค่ะ โดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามรับชมซีรีส์ รูปลับรหัสวาร์ปThe Warp Effect ได้ทุกวันจันทร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมย้อนหลังฟรีที่แรก เวลา 22.30 น. ได้ที่ Viu ไปค่ะไปลุยแก้ปริศนากับอเล็กซ์กัน! ^^ #GMMTV #TheWarpEffectEP1เครดิตภาพหน้าปกโดย@ciizezphr : ภาพหน้าปก1 / @ssingss : ภาพหน้าปก2 / @newwiee : ภาพหน้าปก3 / @fahyongwaree : ภาพหน้าปก4 / @ggigie : ภาพหน้าปก5 / @silvypavida : ภาพหน้าปก6 /@janhae : ภาพหน้าปก7 / @phuwintang : ภาพหน้าปก8เครดิตภาพประกอบบทความโดย@GMMTV : ภาพที่1 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่14 / ภาพที่15 / ภาพที่16 / ภาพที่19 / ภาพที่20 / ภาพที่24 / ภาพที่25 / ภาพที่26 / ภาพที่29 / ภาพที่30 / ภาพที่34 / ภาพที่35 / ภาพที่36 / ภาพที่39 / ภาพที่40 @newwiee : ภาพที่2 / ภาพที่3 @fahyongwaree : ภาพที่7 / ภาพที่8@ssingss : ภาพที่12 / ภาพที่13 @ciizezphr : ภาพที่17 / ภาพที่18 /  / ภาพที่21 @janhae : ภาพที่22 / ภาพที่23 @ggigie : ภาพที่27 / ภาพที่28 / ภาพที่31 @phuwintang : ภาพที่32 / ภาพที่33@silvypavida : ภาพที่37 / ภาพที่38 / ภาพที่41 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL​​GMMTV 2022 | The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปบทความที่น่าสนใจ : https://intrend.trueid.net/post/332065https://intrend.trueid.net/post/333707📣 เปิดวาร์ป ทำความรู้จัก อัปเดตข่าวสารศิลปินดาราได้ที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ซุปตาร์มาแรง” 😆✨

รีวิวซีรีส์ "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" ช่อง GMM25 ผลงานการแสดง นิว ฐิติภูมิ, ฟ้า ยงวรี

ซีรีส์ "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" เป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ รวมทั้งความรักของหนุ่มสาววัยมัธยมและวาร์ปไปในวัยวันที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างน่ามหัศจรรย์ เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเพศศึกษาได้อย่างตรงไปตรงมา น่าติดตาม สนุกไปกับเรื่องราวที่แตกต่างไปจากซีรีส์ทั่วไปผ่านนักแสดง นิว ฐิติภูมิ, ฟ้า ยงวรี, จุง อาเชน, ซิง หฤษฎ์, แจน พลอยชมพู, ภูวินทร์, ไซซี อภิชญา, จีจี้ ชณันภัสร์, ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์, โต๋ ทินพันธ์, มาร์ค ภาคิน, ซิลวี่ ภาวิดา, เบส จีระ ฯลฯ เรื่องย่อ "รูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect""อเล็กซ์" (นิว ฐิติภูมิ) นักเรียนชั้นมัธยมปลาย อยู่ในครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายคือ ปู่ พ่อ และ ไอซ์ (ภูวินทร์) น้องชาย ชีวิตของอเล็กซ์ค่อนข้างกดดันเพราะพ่อเป็นหมอ และน้องชายก็เรียนเก่งกว่า ตัวเขาเองไม่รู้ว่าจะเรียนต่อทางด้านไหนเพราะสิ่งเดียวที่เป็นความชอบคือการถ่ายรูป อเล็กซ์นั้นเป็นหนุ่มน้อยที่ยังคงรักษาความเวอร์จิ้นไว้ เพราะก่อนที่แม่จะเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเขาให้สัญญากับแม่ไว้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครจนกว่าอายุจะครบ 18 ปี ก่อนถึงวันเกิดอเล็กซ์ได้ของขวัญที่ไม่รู้ว่าใครส่งมาให้เป็นกล้องถ่ายรูปโพลารอยด์ เขาจึงใช้กล้องถ่ายรูปเพื่อน ๆ ซึ่งก็คือ ซีอิ๊ว (ซิง หฤษฎ์) กับ นิ่ม (แจน พลอยชมพู) เพื่อนสนิทที่สุดของเขา, หลิว (ไซซี อภิชญา) หวานใจของซีอิ้ว, แคท (จีจี้ ชณันภัสร์) สาวสวยประจำรุ่น, อาร์มี่ (ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์) และ โจ (โต๋ ทินพันธ์) ที่มีใจให้กันแต่ต้องปกปิดไม่ให้ใครรู้, มอลลี่ (ซิลวี่ ภาวิดา) รุ่นพี่ที่เป็นแฟนของนิ่ม และ จีน (ฟ้า ยงวรี) สาวเฟมินิสต์ซึ่งเป็นเพื่อนที่อเล็กซ์แอบชอบ รวมทั้ง โรส (เบส จีระ) กับคนรัก เจได (มาร์ค ภาคิน) ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อน ๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นอเล็กซ์กับจีนเมามาก ทำให้อเล็กซ์ผิดสัญญาที่ให้กับแม่ไว้เขามีความสัมพันธ์กับจีนและเมื่อตื่นขึ้นมาอเล็กซ์ก็พบว่าตัวเองได้วาร์ปไปในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า และที่ต้องตกใจสุด ๆ ก็คืออาชีพของเขาคือหมอสูตินรี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพศที่มีชื่อเสียงมาก ๆ และเขาก็ต้องเจอกับปริศนาที่มาพร้อมกับรูปโพลารอยด์ในคืนนั้นที่แต่ละรูปเหตุการณ์กลับไม่เหมือนเดิม ซึ่งเขาต้องแก้ปริศนาจากทุก ๆ รูปให้ได้ เพื่อไม่ให้ชีวิตต้องตกอยู่ในหายนะที่ถาโถมเข้ามาทุกทิศทุกทาง และจะต้องหาทางกลับไปในปัจจุบันให้ได้ !นักแสดงและบทบาทที่ได้รับนิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ  รับบท  อเล็กซ์"อเล็กซ์" รักการถ่ายรูปมาก และการเป็นช่างภาพของเขาก็ทำให้วาร์ปไปในอนาคต ที่ทำให้ต้องตกใจมาก เพราะผู้คนรอบตัวเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างคาดไม่ถึง!ฟ้า ยงวรี อนิลบล  รับบท  จีน"จีน" จากเด็กสาวที่แสนจะสดใส กลายมาเป็นผู้กำกับหญิงมากความสามารถ แต่กลับซ่อนปมบางอย่างไว้ในใจ และปมนั้นก็มีอเล็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องซิง หฤษฎ์ ชีวการุณ  รับบท  ซีอิ๊ว"ซีอิ๊ว" เพื่อนสนิทของอเล็กซ์ ที่ 10 ต่อมาเมินอเล็กซ์ซะงั้น กว่าจะง้อให้กลับมาเป็นเพื่อนได้ก็เล่นเอาเหนื่อยไซซี อภิชญา แซ่จัง  รับบท  หลิว"หลิว" สนใจ "ซีอิ๊ว" มาตั้งแต่มัธยม 10 ปีต่อมาก็ได้เป็นแฟนกัน แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ต้องปรับความเข้าใจแจน พลอยชมพู ศุภทรัพย์  รับบท  นิ่ม"นิ่ม" สาวสายบู้เพื่อนสนิทของอเล็กซ์ที่ 10 ปีต่อมาเธอประเคนหมัดใส่อเล็กซ์ด้วยความแค้น มันเกิดอะไรขึ้น!จีจี้ ชณันภัสร์ กมลคีรีลักษณ์  รับบท  แคท"แคท" เป็นสาวรักความอิสระ เมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้เป็นเช่นไร 10 ต่อมาก็ยังคงเป็นเช่นนั้นภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน  รับบท  ไอซ์"ไอซ์" ผู้ซึ่งถูกคาดหวังจากครอบครัวในฐานะเด็กเรียนดี 10 ปีต่อมา เส้นทางชีวิตของเขาเปลี่ยนจนอเล็กซ์แปลกใจฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ดิษฐพิสิษฐ์  รับบท  อาร์มี่"อาร์มี่" ผู้ซึ่งประกาศความเป็นศัตรูกับอเล็กซ์มาโดยตลอด แต่ 10 ปีต่อมากลับกลายเป็นเพื่อนรักโต๋ ทินพันธ์ ตันตุ้ย  รับบท  โจ"โจ" มีใจให้ "อาร์มี่" แต่เพราะหน้าที่การงานทำให้เขาต้องตัดใจ แต่ "อาร์มี่" รึจะยอมซึ่งอเล็กซ์ก็พร้อมเชียร์ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ  รับบท  มอลลี่"มอลลี่" รัก "นิ่ม" ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่เพราะอเล็กซ์ทำให้โดนเทซะดื้อ ๆ และนั่นแหละ อเล็กซ์ต้องแก้ไขมาร์ค ภาคิน คุณาอนุวิทย์  รับบท  เจไดจุง อาเชน ไอย์ดึน  รับบท  โทนี่เบส จีระ เจริญธมะสุข  รับบท  โรส"เจได" กับ "โรส" รักกันมาตั้งแต่มัธยม 10 ปีต่อมาก็ยังเป็นเช่นนั้น ส่วน "โทนี่" นั้นเป็นคนของอนาคต ที่ทุกคนต่างก็รู้จักในฐานะพระเอกคนดังหลังจากที่ได้รับชม "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" ชอบความเป็นซีรีส์แนวใหม่ ที่ไม่ได้ดูเพียงแค่ความบันเทิง แต่เป็นซีรีส์ที่นำเสนอในเรื่องของการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา ที่จะทำให้เข้าใจเรื่อง sex มากขึ้น ผ่านเรื่องราวที่ออกจะดูหวือหวาในการแสดงออกของตัวละครที่แสดงความชัดเจนทั้งคำพูดและการกระทำเมื่อต้องการจะสื่อความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา แต่เมื่อซีรีส์เน้นนำเสนอในความเป็นคอมเมดี้ กลับทำให้ซีรีส์น่าติดตาม สนุกไปกับเนื้อเรื่องและซึมซับรับสิ่งที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอได้ด้วยความรู้สึกดี ๆ เคมีพระนางของ "นิว" ในบท "อเล็กซ์" กับ "ฟ้า" ในบท "จีน" ในช่วงต้นมีความน่ารักสดใส สไตล์เด็ก ๆ และในช่วง 10 ปีต่อมาที่ความสดใสของจีนหายไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง เป็นความแตกต่างทางด้านความรู้สึกที่ทั้ง "นิว" และ "ฟ้า" ต่างก็แสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเคมีที่เข้ากันอย่างลงตัว ชอบเวลาที่ทั้งคู่มองสบตากัน ยิ้มให้กันมีความน่ารักและอบอุ่นจนสัมผัสได้ตัวละครที่ชอบในเรื่องนี้ ภาพรวม ๆ คือชอบนักแสดงทุกคนเพราะต่างก็สวมบทบาทได้อย่างเข้าถึงความเป็นตัวละครนั้น ๆ แต่ที่ชอบเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็น "อเล็กซ์" กับ "ไอซ์" สองพี่น้องที่เปิดมาฉากแรกก็ตีกันเลย พี่ชายปากดีกับน้องชายปากแจ๋วที่เถียงกันได้ทุกเรื่อง แต่เมื่อติดตามความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้ก็ได้เห็นถึงความรักความห่วงใยที่ต่างก็มีให้กัน เป็นพี่น้องคู่น่ารักที่เชื่อว่าแฟน ๆ ที่ติดตามจะรักความน่ารักของ  "อเล็กซ์" กับ "ไอซ์"  และแน่นอนว่าจะรัก "นิว" และ "ภูวินทร์" มากขึ้นเช่นกัน การดำเนินเรื่อง "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" เป็นการเล่าเรื่องที่การตัดต่อค่อนข้างกระชับฉับไว ผ่านตัวละครหลาย ๆ คู่ หลาย ๆ เรื่องราว จึงชวนติดตามอยู่ตลอดเวลา เพราะมีการทิ้งปมปัญหาของแต่ละคู่ให้ต้องไปลุ้นกันในฉากต่อ ๆ ไป และตอนต่อ ๆ ไปอยู่ตลอดเวลา ติดตามเรื่องราวของคู่ไหนเป็นพิเศษก็ต้องติดตามชมกันไปยาว ๆ ซึ่งทำให้ความน่าติดตามต่อไปมีความลุ้นและรอคอยจะรู้เรื่องราวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เป็นความรู้สึกที่ทำให้ประทับใจซีรีส์เรื่องนี้มาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับเราแล้วเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ย้อนกลับมาดูซ้ำ ให้คะแนนแบบที่เคยให้ 10/10 ไม่หักเลยค่ะ  "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" ผลงานซีรีส์จากค่าย GMMTVเป็นซีรีส์ที่เน้นเรื่องราวของเพศศึกษา ซึ่งการเล่าเรื่องราวความรักผ่านความสัมพันธ์ในหลาย ๆ รูปแบบ ทำให้เรื่องลับ ๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญของชีวิตที่หลาย ๆ คน ไม่กล้าเปิดเผย ไม่กล้าที่จะเรียนรู้ หรือไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตอยางไรในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ ผู้กำกับการแสดง "โจ้ ทิชากร ภูเขาทอง" และ "นิว ภิญญา จู่คำศรี" ได้ถ่ายทอดสิ่งที่ควรจะเรียนรู้ สิ่งที่ควรปฏิบัติ และมุมมองคิดต่าง ๆ ผ่านบทละครได้อย่างยอดเยี่ยมและมีประโยชน์มาก ๆ ดังนั้นติดตามซีรีส์เรื่องนี้จึงทั้งสนุกและได้ความรู้ด้วย ขอบคุณภาพประกอบจาก gmmtv ปก ภาพที่ 1 ภาพที่ 2ภาพที่ 1 ภาพที่ 2  ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6 ภาพที่ 7 ภาพที่ 8  ภาพที่ 9 ภาพที่ 10 ภาพที่ 11 ภาพที่ 12 ภาพที่13 ภาพที่ 14-16 ภาพที่ 17-18 ภาพที่ 19 ภาพที่ 20-21 ภาพที่ 22 ภาพที่ 23 ภาพที่ 24-25 ภาพที่ 26 ภาพที่ 27 ภาพที่ 28 ภาพที่ 29จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รู้จัก ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ หนุ่มหล่อมาดกวน จาก The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป พร้อมเปิดวาร์ป!

       เรียกได้ว่ากระแสแรงฮอตไม่ไหวแล้วสำหรับซีรีส์สุดฮาแนวแฟนซีเรื่องใหม่จากทาง GMM อย่าง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ซึ่งเป็นซีรีส์ที่มีการบอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มสุดเวอร์จิ้นอย่าง อเล็กซ์ ที่แม่ของเขากำชับห้ามมีความสัมพันธ์ก่อนอายุ 18 เด็ดขาด! แต่แล้วเขาก็ผิดคำสัญญานั้น ทำให้เกิดเรื่องราวแปลก ๆ ขึ้นกับเขา ซึ่งนอกจากพล็อตเรื่องที่มีความน่าสนใจแล้วนั้น หนึ่งในนักแสดงหนุ่มหล่อที่หลายคนให้ความสนใจเลย นั่นคือบทบาทของ ‘อาร์มี่’ ที่แสดงโดยหนุ่มหล่อมาดทะเล้นอย่างหนุ่ม “ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์” วันนี้เราเลยอยากจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับหนุ่มคนนี้ผ่านทาง ‘รู้จัก ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ หนุ่มหล่อมาดกวน จาก The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป พร้อมเปิดวาร์ป!’ หากเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วนั้นก็ตามมากันเลยค่า~ ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์       ซุปตาร์หนุ่มคนนี้ก็คือ “ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ดิษฐพิสิษฐ์” เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2540 ปัจจุบันอายุ 25 ปี ปัจจุบันหนุ่มฟลุ๊คเป็นนักแสดงสังกัด GMMTV https://www.instagram.com/p/CkDsztEpr25/?igshid=YmMyMTA2M2Y=พาร์ทการศึกษาของหนุ่มฟลุ๊ค ภูสิษฐ์- ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ - ระดับปริญญาตรีในสาขาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์วิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์https://www.instagram.com/p/Cd0d4yfJTLo/?igshid=YmMyMTA2M2Y=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของฟลุ๊ค ภูสิษฐ์       โดยหนุ่มฟลุ๊คได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการที่เขาได้ร่วมในการแสดงซีรีส์เรื่อง Heart beat เพี้ยนแล้วไง รักนายแล้วกัน แต่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ออกฉาย ต่อมาในปี 2563 หนุ่มฟลุ๊คก็ได้แสดงในบทบาทของ เวย์ จากซีรีส์เรื่อง The Shipper จิ้นนายกลายเป็นฉัน ซึ่งจากการแสดงครั้งนี้เองทำให้หนุ่มฟลุ๊คเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในปี 2565 ที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นปีที่เติบโตของหนุ่มฟลุ๊คเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเจ้าตัวมีผลงานมากถึง 3 เรื่อง นั่นคือซีรีส์เรื่อง ใครคืออองชองเต , ซุปตาร์กับหญ้าอ่อน และ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป และในปี 2566 ที่กำลังจะถึงหนุ่มฟลุ๊คกำลังจะมีผลงานซีรีส์เรื่อง ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe จากทาง GMM เรียกว่าแฟนคลับหนุ่มฟลุ๊คเตรียมชมได้เลยค่า https://www.instagram.com/p/CZTRKSJJ_DR/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ รับบท อาร์มี่       ในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป จากทาง GMM หนุ่มฟลุ๊คแสดงเป็น “อาร์มี่” ซึ่งเป็นเพื่อนของอเล็กซ์เป็นคนที่มีนิสัยแสบซ่ามาก ชอบแกล้งเพื่อน มีความป่วนไม่เบา ส่วนตัวเราชอบ Ep.5 เป็นฉากที่อเล็กซ์ตื่นมาแล้วก็เจอกับอาร์มี่ แล้วอาร์มี่ก็มีการแกล้งทำเป็นจู๋จี๋กับอเล็กซ์ เป็นอะไรที่บอกเลยว่าขำฮามาก🤣 ซึ่งในเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าบทบาทของ อาร์มี่และหนุ่มฟลุ๊คมีความคล้ายกันมาก ทำให้แสดงออกมาแล้วมีความธรรมชาติสุดอะไรสุดจริง ๆ ค่ะGMMTV 2022 | The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปhttps://youtu.be/eBwCNO-XkaYhttps://www.instagram.com/p/CnO0pezJsqq/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CnCRtwmpdmJ/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CnO_RTtpBxn/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       อุปนิสัยและคาแรคเตอร์ของหนุ่มฟลุ๊คที่เพื่อน ๆ จะต้องโดนตกกันอย่างแน่นอน นั่นคือเขาเป็นหนุ่มสายอารมณ์ดี เป็นคนสดใส ร่าเริง อารมณ์ดี มีความเป็นตัวของตัวเองมาก ๆ ใครอยู่ใกล้แล้วเป็นจะต้องมีรอยยิ้มอยู่เสมอ♥️https://www.instagram.com/p/CmoKq6HP3OQ/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       ในพาร์ทไลฟ์สไตล์ของหนุ่มฟลุ๊คก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจ เจ้าตัวชื่นชอบในการออกกำลังกาย ชอบเล่นกล้าม เป็นคนที่ชื่นชอบสถานที่ธรรมชาติ ชอบภูเขา ทะเล บอกได้เลยว่าหนุ่มฟลุ๊คนั้นเป็นอีกหนึ่งหนุ่มหล่อที่มากความสามารถแล้วยังเป็นคนที่น่ารักโดดเด่นมาก ๆ อีกด้วยค่ะ nbsp;https://www.instagram.com/p/Ch9-9-7JBVw/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CYq0yO7pAO5/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CXySp1bpz3g/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       การแต่งตัวและสไตล์การแต่งตัวของหนุ่มฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ เขาเป็นคนที่แต่วตัวได้น่ารัก มีความมินิมอล เน้นโทนสีที่เป็นโทนดำ ไม่ก็เอิร์ทโทน ซึ่งมองแล้วคือเข้ากับเจ้าตัวมาก ๆ https://www.instagram.com/p/CbzGJjnJ3Cy/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/Ci70VZ8JTQ0/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตามฟลุ๊ค ภูสิษฐ์Instagram : @flukepusit_Twitter : @capitalflukeเป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ รู้จัก ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ หนุ่มหล่อมาดกวน จาก The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป พร้อมเปิดวาร์ป! เรียกได้ว่าหนุ่มฟลุ๊คนั้นเป็นหนุ่มหล่อมากความสามารถอีกหนึ่งคนที่มีความหล่อ เก่ง และมีคาแรคเตอร์ที่น่ารักมาก และในซีรีส์เรื่อง The Warp Effect ก็ต้องบอกเลยว่าหนุ่มฟลุ๊คเล่นได้ธรรมชาติมาก โบ๊ะบ๊ะสุด ไม่ว่าฉากไหนซีนใดคือเอาอยู่หมัดมาก! เพื่อน ๆ คนไหนชื่นชอบและเลิฟหนุ่มฟลุ๊คก็สามารถเข้าไปฟอลโล่ได้ตามช่องทางต่าง ๆ และสุดท้ายนี้เพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง รูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect ทุกวันจันทร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมย้อนหลังฟรีได้ที่ Viu เวลา 22.30 น. #GMMTV #TheWarpEffectเครดิตภาพหน้าปกโดย @flukepusit_ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3เครดิตภาพประกอบบทความโดย @flukepusit_ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 / ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่12 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL​​GMMTV 2022 | The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปบทความที่น่าสนใจ : https://intrend.trueid.net/post/340481https://intrend.trueid.net/post/334757📣 เปิดวาร์ป ทำความรู้จัก อัปเดตข่าวสารศิลปินดาราได้ที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ซุปตาร์มาแรง” 😆✨

รู้จัก ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ -โต๋ ทินพันธ์ คู่จิ้นใหม่ GMMTV ซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป

       เรียกว่าเป็นกระแสและหลายคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากเลยละคะสำหรับคู่จิ้นคู่ใหม่ของทาง GMM อย่างสองหนุ่มหล่อน่ารักอย่าง “ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ -โต๋ ทินพันธ์” จากซีรีส์เรื่อง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ที่ต้องบอกเลยว่าหลังจากมีฉากเลิฟซีคู่กันแล้ว เห็นได้ถึงเคมีเคใจที่ส่งให้กันแบบฟุ้งกระจายมากจริง ๆ 🥺🫶🏻💗 วันนี้เราเลยอยากจะพาเพื่อน ๆ มาส่องความหล่อปัง จิ้นกระจายของทั้งสองหนุ่ม ผ่านทาง ‘ทำความรู้จัก ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ -โต๋ ทินพันธ์ คู่จิ้นใหม่ GMMTV’ ประวัติคร่าว ๆ ความน่ารักที่ทำให้แฟนคลับชื่นชอบ ผลงานน่าสนใจของทั้งคู่ และทั้งคู่จิ้นในเรื่องไหนพร้อมเปิดวาร์ปให้ได้ไปติดตามกัน หากเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วนั้นก็ตามมาดูกันเลยhttps://www.instagram.com/p/CnRixEkpYNM/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://twitter.com/thor_thinnaphan/status/1613130670511132673?s=46t=eygynpJRktwTUnGvtbJYBQฟลุ๊ค ภูสิษฐ์        หนุ่มคนแรกที่เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกัน นั่นก็คือหนุ่ม “ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ดิษฐพิสิษฐ” เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมพ.ศ. 2540 ปัจจุบันอายุ 25 ปี ในพาร์ทของการศึกษา เขาเรียนจบในระดับปริญญาตรีในสาขาการเมืองการปกครองคณะรัฐศาสตร์วิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นนักแสดงสังกัด GMMTV https://www.instagram.com/p/CZRw-31J01S/?igshid=YmMyMTA2M2Y=เส้นทางการเข้าสู่วงการของฟลุ๊ค ภูสิษฐ์        โดยเส้นทางการเข้าสู่วงการของหนุ่มฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ เริ่มต้นขึ้นจากการที่เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงซีรีส์เรื่อง Heart beat เพี้ยนแล้วไง รักนายแล้วกัน แต่น่าเสียดายที่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ออนแอร์ แต่หนุ่มฟลุ๊คก็ไม่หยุดหย่อนในการเส้นทางสายบันเทิงเพราะในปี 2563 หนุ่มฟลุ๊คก็ได้แสดงซีรีส์เรื่อง The Shipper จิ้นนายกลายเป็นฉัน ในบทบาทของ เวย์ ซึ่งจากบทบาทนี้เองทำให้ใครหลายคนเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาเขา ต่อมาในปี 2565 ที่ผ่านมานั้น เรียกว่าเป็นปีของหนุ่มฟลุ๊คเลยละค่ะ เพราะเขามีผลงานซีรีส์มากถึง 3 เรื่อง ใครคืออองชองเต ในบทบาท นที , ซุปตาร์กับหญ้าอ่อน รับบท ณดลและThe Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป รวมถึงในปี 2566 ที่กำลังจะถึง หนุ่มฟลุ๊คก็มีผลงานรอจ่อจอ นั่นคือซีรีส์เรื่องชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Bab แนวรอมคอม แฟนคลับรอติดตามกันได้เลยน้าhttps://www.instagram.com/p/Cj-iR4Op1Wx/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ผลงานห้ามพลาดของฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ใครคือ…อองชองเต (Enchante’) (2565)        ผลงานห้ามพลาดของหนุ่มฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ก็เป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้เลย นอกซะจากซีรีส์เรื่อง “ใครคือ…อองชองเต (Enchante’)” จากทาง GMM ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนนอกคนหนึ่งที่กลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทยและบังเอิญเจอข้อความแปลก ๆ ที่ถูกส่งมาในนามของอองชองเต อยู่บ่อย ๆ ทำให้เขาต้องออกตามหาอองชองเตตัวจริง โดยในเรื่องนี้หนุ่มฟลุ๊คแสดงเป็น “นที” เขาเป็นรุ่นพี่ปี 3 เทพด้านศิลปะ แห่งคณะศิลปกรรม แถมยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในหนุ่มที่เสนอตัวว่าเป็นอองชองเต เป็นหนุ่มนิ่ง ๆ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นคนที่ชัดเจนในความรู้สึกมากๆ ซึ่งหนุ่มฟลุ๊คนั้นบทบาทของนทีก็ต้องบอกเลยว่าโดดเด่นมาก ๆ แสดงออกมาได้ดีมาก ส่งอินเนอร์และฟีลลิ่งของตัวละครมายังคนที่ได้รับชมได้แบบปั๊วะมาก! [Official Trailer] ใครคืออองชองเต | Enchantéhttps://youtu.be/7nBxV1IRIcghttps://www.instagram.com/p/CXbAqEMJDpU/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CaJid0Gp3iM/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CZlEazPpxNH/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       อุปนิสัยและคาแรคเตอร์ของหนุ่มฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ที่เรียกว่าเพื่อน ๆ จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน นั่นก็คือเขาเป็นหนุ่มอารมณ์ดี มีความเฮฮามาก เป็นคนที่มีความตลก ทะเล้น ทำให้คนรอบข้างยิ้มได้อยู่เสมอ อีกทั้งในเรื่องของวงการบันเทิง หนุ่มฟลุ๊คเป็นคนที่มีความพยายามมาก มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ทำให้แฟนคลับที่ติดตามจะเห็นถึงการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเขานั่นเองละค่ะ แบบนี้แล้วจะไม่ให้หลงรักหนุ่มฟลุ๊ตได้ยังไงละคะ https://www.instagram.com/p/CYJfze2p5ds/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตามฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ Instagram : @flukepusit_Twitter : @capitalflukeโต๋ ทินพันธ์       หนุ่มคู่จิ้นของหนุ่มฟลุ๊คมีชื่อว่าหนุ่ม “โต๋ ทินพันธ์ ตันตุ้ย” เขาเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 ปัจจุบันอายุ 26 ปี ในด้านของการศึกษา หนุ่มโต๋จบปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษา ครูพละ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตลำปาง ปัจจุบันหนุ่มโต๋ยังเป็นนักแสดงในสังกัดของ GMM อีกด้วยhttps://www.instagram.com/p/CeGaDaErRgv/?igshid=YmMyMTA2M2Y=เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของโต๋ ทินพันธ์       โดยหนุ่มโต๋นั้นเป็นคุณครูพละสุดหล่อจาก โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จังหวัดลำปาง และจากจุดนี้เองทำให้ใครหลายคนมองเห็นถึงความโดดเด่นของเขา และในปัจจุบันหนุ่มโต๋ก็มีผลงานซีรีส์ 3 เรื่อง นั่นคือ พี่ช้าง You Fight, and I Love , แล้วแต่ดาว Star In My Mind ในบทบาทของ โนเอล และซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ของทาง GMM https://www.instagram.com/p/CmViBszS8rr/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ผลงานห้ามพลาดของโต๋ ทินพันธ์แล้วแต่ดาว Star In My Mind (2565)        ผลงานห้ามพลาดของหนุ่มโต๋ ทินพันธ์ นั่นก็คือซีรีส์วายสุดน่ารักอย่าง “แล้วแต่ดาว Star In My Mind” จากทาง GMM โดยเป็นเรื่องราวความรักกาาแอบรักของดาวเหนือและคาบคลื่น โดยในเรื่องนี้หนุ่มโต๋แสดงเป็น “โนเอล” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพื่อนซี้ของคาบคลื่น เป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน เป็นห่วงเป็นใยเพื่อน แถมเขายังเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษากับคาบคลื่นอยู่เสมอ แถมความน่ารักของโนเอลคือจะคอย Cheer up คาบคลื่นอยู่ตลอด เรียกว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีความน่ารักมาก ๆ ซึ่งหนุ่มโต๋ก็สามารถพรีเซ้นท์ความเป็น โนเอล ออกมาได้ดีมาก ๆ อินเนอร์ การสื่ออารมณ์คือปังมาก อาจจะเพราะด้วยความที่คาแรคเตอร์ของโต๋และโนเอลค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกันด้วยนั่นเองค่ะ[Official Trailer] แล้วแต่ดาว | Star In My Mindhttps://youtu.be/LbxTzpWqGWEhttps://www.instagram.com/p/CdP4fdOrVlj/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/Cez4iQHL5gU/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       อุปนิสัยและคาแรคเตอร์ความน่ารักของหนุ่มโต๋ ทินพันธ์ที่แฟนคลับรู้จักแล้วจะต้องหลงรัก♥️ โดยหนุ่มโต๋นั้นเรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อหน้าใสสุดน่ารัก เป็นคนอารมณ์ดี เป็นหนุ่มที่มองมุมไหนก็ดูตะมุตะมิไปซะหมด เป็นคนที่มีความอ่อนโยนในตัวเอง เป็นคนที่สดใส มีการวางตัวที่ดี ต้องบอกเลยว่าเป็นหนุ่มหล่อหน้าใสในวงการอีกหนึ่งคนที่ใครได้รู้จักเป็นจะต้องหลงในเสน่ห์ของเขาเลยละค่ะhttps://www.instagram.com/p/Cj5Oik3Sldp/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตามโต๋ ทินพันธ์Instagram : @thor.thinnaphanTwitter : @thor_thinnaphanฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ -โต๋ ทินพันธ์       โดยผลงานที่ทำให้ทั้งสองหนุ่มฟลุ๊ค ภูสิษฐ์  และ โต๋ ทินพันธ์ นั้นได้กลายเป็นคู่จิ้นฟินเวอร์คู่ใหม่ของทาง GMM นั่นก็คือซีรีส์สุดฮาแนวแฟนซีอย่างเรื่อง “The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป” จากทาง GMMTV นั่นเองละค่ะ โดยเป็นเรื่องราวของการค้นหาความจริงบางอย่างของ อเล็กซ์ เด็กหนุ่มวัย 18 โดยในเรื่องนี้หนุ่มฟลุ๊คแสดงเป็น “อาร์มี่” ซึ่งเป็นเพื่อนของอเล็กซ์ มีนิสัยและคาแรคเตอร์ที่เรียกว่าทะเล้นมาก เป็นคนเฮฮา ตลก ชอบแกล้งชอบหยอกเพื่อน โดยเฉพาะกับอเล็กซ์คือเรียกว่าเจอกันทีไร อาร์มี่จะแกล้งอเล็กซ์อยู่เสมอ และหนุ่มโต๋ แสดงเป็น “โจ” เป็นคาแรคเตอร์ของหนุ่มหล่อที่เป็นเพื่อนของอเล็กซ์ มีความซี้กับอาร์มี่มาก ๆ ชนิดที่ว่าไปไหนไปกัน GMMTV 2022 | The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปhttps://youtu.be/eBwCNO-XkaYhttps://www.instagram.com/p/Cm_mYaDpOvh/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ รับบท อาร์มี่https://www.instagram.com/p/CnO0pezJsqq/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CXTjaB8JYzq/?igshid=YmMyMTA2M2Y=โต๋ ทินพันธ์ รับบท โจhttps://www.instagram.com/p/Cm6pQZayWsl/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CnDo-5FyHxA/?igshid=YmMyMTA2M2Y=        และฉากที่เรียกว่าทำเอาแฟนคลับสาววายนี่ต้องกรี๊ดฟินเวอร์ นั่นก็คือฉากที่อาร์มี่และโจมีการดูหนังและกินป็อปคอร์นกัน เรียกว่าเป็นฉากเลิฟซีนที่ฟินจิ้นแบบจิกหมอนแบบสุด อีกทั้งเป็นคู่ที่มีความเคมีเคใจเข้ากันมาก ไม่แปลกใจเลยที่ฟลุ๊คและโต๋นั้นเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ที่หลายคนต่างก็ต้องพูดถึง♥️https://www.instagram.com/p/CnN2U6cSyhN/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ ทำความรู้จัก ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ -โต๋ ทินพันธ์ คู่จิ้นใหม่ GMMTV ต้องบอกเลยว่าทั้งฟลุ๊คและโต๋นั้นต่างก็เป็นสองหนุ่มมาแรงจากทางค่าย GMM ที่มีความเคมีเข้ากันมาก ๆ แสดงออกมาได้ดี ทำให้คนดูรู้สึกอินกับเรื่องราวที่เขาถ่ายทอกออกมา สุดยอดมากเลย :) โดยเพื่อน ๆ คนไหนชื่นชอบและอยากติดตามสองหนุ่มคู่จิ้นฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ และ โต๋ ทินพันธ์ ก็สามารถเข้าไปฟอลโล่ได้ตามช่องทางต่าง ๆ ได้เลยค่ะ อีกทั้งอย่าลืมติดตามเอาใจช่วยคู่ของอาร์มี่และโจได้ในซีรีส์ รูปลับรหัสวาร์ปThe Warp Effect ทุกวันจันทร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และรับชมย้อนหลังฟรีที่แรก เวลา 22.30 น. ได้ที่ Viu #GMMTV#TheWarpEffectเครดิตภาพหน้าปกโดย @flukepusit_ : ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 @thor.thinnaphan : ภาพหน้าปก3  เครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย@flukepusit_ : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่14 / ภาพที่15@thor_thinnaphan : วิดีโอที่1@thor.thinnaphan : ภาพที่8 / ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่12 / ภาพที่13 / ภาพที่16 / ภาพที่17 / ภาพที่18 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL​​[Official Trailer] ใครคืออองชองเต | Enchanté[Official Trailer] แล้วแต่ดาว | Star In My MindGMMTV 2022 | The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน

รีวิวซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ซีรีส์เพศศึกษาที่มากกว่าเพศ

หลายปีมานี้เรื่องเพศศึกษา (Sex Education) ได้ถูกนำมาสอนผ่านสื่อต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่าสังคมไทยกำลังเปิดกว้างให้กับเรื่องนี้มากกว่าแต่เกินค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าจะพูดถึงซีรีส์ไทยเรื่องไหนที่ถ่ายทอด Topic ตรงนี้ตรง ๆ ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไรจนการมาถึงของซีรีส์เรื่องนี้ เราจึงถือโอกาสมารีวิวซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนที่ยังงง ๆ ว่ามันคือซีรีส์เกี่ยวกับอะไรกันนะ จะมีแต่ฉากอย่างว่ารึป่าว มีสาระไหม สนุกหรือน่าติดตามอย่างไร มาอ่านต่อกันได้เลยจ้าซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป เกี่ยวกับอะไร?https://fb.watch/hTYR_Opmat/เรื่องราวของเด็กหนุ่มอายุ 17 ปีอย่าง อเล็กซ์ (นิวฐิติภูมิ) ที่ใช้ชีวิตอยู่พร้อมคำพูดสุดท้ายของแม่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุว่า "ลูกต้องรักษาเวอร์จิ้นให้ได้จนถึงอายุ 18" แต่ท่ามกลางเพื่อนในกลุ่มที่ต่างก็สละเวอร์จิ้นกันไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนชายสุดเนิร์ด ซีอิ๊ว (ซิง หฤษฎ์) กับเลสเบี้ยนสุดเท่ นิ่ม (แจน พลอยชมพู) มันกลับทำให้อเล็กซ์ยิ่งอยากจะสละความซิงความโสดของเขาไปให้เร็วที่สุด และแล้วอเล็กซ์ก็ตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่างานปาร์ตี้ที่บ้านเจได (มาร์ค ภาคิน) เขาจะต้องเสียเวอร์จิ้นให้จงได้ และคืนนั้นเองเขาก็ได้เจอกับ จีน (ฟ้า ยงรวี) สาวสวยสุดแซ่บ ซึ่งเหมือนว่าคืนนั้นเขาจะเสียซิงให้กับเธอไปแล้วแต่ทว่าพอรุ่งเช้าอเล็กซ์กลับพบว่าตัวเองมาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 27 ปี พร้อมกับหน้าที่ของสูตินารีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพศแบบรู้ลึกรู้จริง เขาได้แต่สับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็พบปริศนาบางอย่างที่มาพร้อมกับรูปโพลารอยด์ในปาร์ตี้คืนนั้น สุดท้ายแล้วเขาจะค้นหาเจอต้นตอของความลึกลับทั้งหมดได้หรือไม่ จะกลับไปเป็นเด็ก 17 ได้อีกครั้งหรือเปล่า ต้องรอติดตามชม!รีวิวพล็อตซีรีส์เรื่องนี้https://fb.watch/hTYWoMvJVF/ก่อนอื่นเราขอพูดถึงพล็อตของซีรีส์น่าดูเรื่องนี้ก่อนนะ ส่วนตัวรู้สึกเหมือนพล็อตมีการใช้แรงบันดาลใจมาจากหนังตะวันตกหลายเรื่อง เนื่องจากกลิ่นอายความเป็นหนังรักวัยรุ่น High School อยู่ค่อนข้างชัดเลย เช่น ตัวเอกยังไม่เสียเวอร์จิ้นแล้วอยากเสียในงานปาร์ตี้, การย้อนวัยข้ามไปอายุแก่กว่าตัวเอง, เรื่องราวของเพศศึกษา ซึ่งเราก็โอเคนะ เพราะไม่ค่อยเห็นซีรีส์ไทยเลือกพล็อตแบบตะวันตกมายำกันแบบนี้เท่าไร ส่วนใหญ่ถ้าเห็นจะออกเป็นไทยปกติ หรือไม่ก็อิงไปทางเกาหลีหน่อย ๆ ทำให้รู้สึกถึงความโมเดิร์นแล้วก็รู้สึกเข้ากับเส้นเรื่องที่อยากเล่าเรื่อง "เพศศึกษา" ได้ดี ถือว่าทีมเขียนบทเลือกธีมการเล่าเรื่องมาค่อนข้างโอเคมาก ๆ รีวิวการแสดง https://fb.watch/hTYZx7lNER/ซีรีส์ใหม่เรื่องนี้อาจทำให้เรารู้สึกผิดหวังไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าบทพูดของแต่ละตัวละครไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เรารู้สึกไม่อินไปกับการพูดคุยของแต่ละตัวละครในเรื่อง ส่วนตัวรู้สึกว่าเหมือนดูซีรีส์ที่ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นฟอร์มยักษ์อะไร เหมาะกับการดูเพลิน ๆ ซึ่งอาจจะเป็นความตั้งใจให้บทพูดเป็นแบบง่าย ๆ กระชับ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นมากกว่าก็เป็นได้สำหรับการแสดงของทีมนักแสดงหลักค่อนข้างรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีเลยนะ ยังทำให้เราอินได้อยู่เรื่อย ๆ แต่สำหรับทีมนักแสดงเสริมอาจจะมีหลายฉากที่เหมือนท่องบทเกินไปหน่อย ทำให้เนื้อเรื่องดูดรอปลงตามไปด้วยรีวิวโปรดักชันhttps://fb.watch/hTZ0bj9Jxg/การตัดต่อและถ่ายทำยังเป็นการใช้เทคนิคแบบเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นในซีรีส์วัยรุ่นเรื่องเพศศึกษาหลาย ๆ เรื่องที่เคยมีก่อนหน้านี้ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าการถ่ายทำซีรีส์แนวรอมคอมแบบปกติ อีกทั้งยังไม่มีการครีเอทฉากที่น่าสนใจเท่าไร ถ้าใครเคยดู Sex Education จะรู้สึกว่าเขาพยายามครีเอทฉากเกี่ยวกับเรื่องเพศได้สมูทไปกับเรื่องแต่ไม่จมหายตายละตินไปกับฉากอื่น ๆ สำหรับเรื่องนี้รู้สึกว่ามองข้ามเรื่องฉาก 18+ เกินไปหน่อย อีกทั้งเพลงหรือ Effect ประกอบไม่ค่อยช่วยส่งมู้ดภายในเรื่อง ทำให้อารมณ์ของคนอื่นอาจไม่ไปกับภาพที่ตาเห็นเท่าไร แต่ชอบการจัดแสงเล่นสีในเรื่องนะ มีความสวยลึกซึ้งและใช้จิตวิทยาของสีได้ค่อนข้างดีสิ่งที่ชอบในซีรีส์เรื่องนี้ https://fb.watch/hTZ4lQZr5G/สิ่งที่เห็นชัดเจนและชอบมาก ๆ ในซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ความดีงามของโปรดักชันหรืองานที่ตาเห็น แต่เป็น Message ที่ทีมสร้างต้องการสื่อสารและสะท้อนออกมายังคนดู เช่น ประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศ ที่มันหลากหลายจริง ๆ ไม่ได้จำกัดเพศแบบแต่ก่อน ที่สำคัญยังทำให้เนื้อเรื่องของคำว่าหลากหลายทางเพศมีมิติมากขึ้นด้วย เช่น การอยากมีลูกของคู่LGBTQ ซึ่งเราไม่เคยเห็นในซีรีส์ไทยเรื่องไหนมาก่อน หรือ การต้องฝ่าฟันกับคำว่าเหมาะสมไหมระหว่างเพศและอาชีพที่เราเป็น ซึ่งมันดีมาก ๆ รวมถึงปัญหาความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเพศศึกษาที่เรื่องนี้เขาก็สอดแทรกมาตลอดเรื่องที่สำคัญปมหลักของเรื่องของอเล็กซ์ก็ยังทำออกมาได้ดี เนื้อหาน่าติดตามมาก ๆ ใครที่กำลังลังเลว่าจะดูดีไหม แนะนำแบบนี้ละกันนะ ถ้าคุณอยากเรียนรู้เรื่องเพศแบบย่อยง่าย อยากสัมผัสฟีลรักวัยรุ่นและการสืบสวนหาปริศนาพร้อมความตื่นเต้น แนะนำว่าห้ามพลาดเลยคะแนนจากผู้เขียน 6.5/10ติดตามซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปได้ทาง Viuตัวอย่างซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปhttps://youtu.be/eBwCNO-XkaYขอบคุณภาพหน้าปกภาพที่ 1 : GMMTV OFFICIAL ขอบคุณภาพประกอบภาพที่ 1 : GMMTVภาพที่ 2 : GMMTVภาพที่ 3 : GMMTVภาพที่ 4 : GMMTVภาพที่ 5 : GMMTVวิดีโอประกอบวิดีโอที่ 1 : GMMTV OFFICIAL HASHTAG#GMMTV #TheWarpEffectEP4 #TheWarpEffectEP1 #รูปลับรหัสวาร์ป คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน

รีวิว The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ซีรีส์ไทยที่ไม่ใช่แค่เรื่องเพศศึกษา สนุก ครบทุกอารมณ์

ซีรีส์ "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" ผลงานการกำกับโดย โจ้-ทิชากร ภูเขาทอง, นิว-ภิญญา จู่คำศรี จากค่าย GMMTV เป็นซีรีส์ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนอยากดูตั้งแต่ได้เห็นทีเซอร์กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากเป็นแฟนตัวยงของผู้กำกับที่ประทับใจจากทุก ๆ ผลงานที่ผ่านมา ก็ยังมีเหล่านักแสดงที่รอชมผลงานของพวกเขาอยู่แล้ว อาทิ นิว ฐิติภูมิ, ฟ้า ยงวรี, ซิง หฤษฎ์, แจน พลอยชมพู, ภูวินทร์, จุง อาเชน ฯลฯ และที่สนใจมากเป็นพิเศษก็คือเรื่องราวของซีรีส์ที่เล่าเรื่องแตกต่างจากซีรีส์วัยรุ่นทั่วไป โดยเน้นถึงเรื่องราวการมีเพศสัมพันธ์ที่ควรจะเรียนรู้ทำความเข้าใจทั้งในเรื่องการปฏิบัติและทัศนะคติต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ๆ เป็นซีรีส์ที่ต้องบอกเลยว่าเนื้อเร่ื่องแปลกใหม่ สนุก ชวนลุ้นไปกับการค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นผ่านรูปลับและชีวิตของทุก ๆ ตัวละครในเรื่องนี้ เรื่องย่อ "รูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect"อเล็กซ์ (นิว ฐิติภูมิ) วัย 17 ปี ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับครอบครัว ซึงอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ปู่ พ่อ และ ไอซ์ (ภูวินทร์) น้องชายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เพราะไอซ์เรียนเก่ง เป็นความหวังของพ่อที่วาดหวังไว้ว่าจะอยากให้เป็นหมอเช่นเดียวกัน ในขณะที่อเล็กซ์รักการถ่ายรูปแต่ก็ยังไม่รู้ว่าหลังจากจบมัธยมปลายแล้วจะเรียนอะไรต่อไป อเล็กซ์ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครเป็นพิเศษ เพราะก่อนที่แม่ของเขาจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เขาเคยให้สัญญากับแม่ว่าจะรักษาเวอร์จิ้นไว้จนกว่าอายุจะครบ 18 ปี ไม่อย่างนั้นเขาจะพบกับความหายนะอย่างคาดไม่ถึง แต่ด้วยวัยที่อยากเรียนรู้ อยากมีประสบการณ์อย่างเพื่อน ๆ ที่สละเวอร์จิ้นกันไปหมดแล้วอเล็กซ์จึงขัดคำสั่งในวันที่เขาได้กล้องถ่ายรูปโพลารอยด์มาอย่างปริศนา ซึ่งเขาได้ใช้กล้องนี้ถ่ายรูปเพื่อน ๆ ในวันที่เขาและเพื่อน ๆ ไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน เจได (มาร์ค ภาคิน) เพื่อนร่วมชั้นเรียน ค่ำคืนนั้นอเล็กซ์เมามาก เมื่อตื่นขึ้นมาเขากลับพบว่าตัวเองคือหมอหนุ่มอายุ 27 ปี เป็นหมอสูตินรีที่เก่งมาก ๆ และได้พบว่ามีภาพถ่ายจากกล้องโพลารอยด์หลายภาพ เป็นภาพเพื่อน ๆ ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน อเล็กซ์จึงต้องค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้วาร์ปมาอยู่ในอนาคต และเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาหลังจากที่เขาเมาหลับไปจนถึงปัจจุบัน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเพื่อน ๆ ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกเลย ไม่ว่าจะเป็น ซีอิ๊ว (ซิง หฤษฎ์), นิ่ม (แจน พลอยชมพู), หลิว (ไซซี อภิชญา), แคท (จีจี้ ชณันภัสร์), อาร์มี่ (ฟลุ๊ค ภูสิษฐ์), โจ (โต๋ ทินพันธ์), มอลลี่ (ซิลวี่ ภาวิดา) เพื่อนอีกหลาย ๆ คน รวมทั้ง จีน (ฟ้า ยงวรี) ผู้กำกับการแสดงมากความสามารถในปัจจุบัน ที่เขาไม่รู้ว่าค่ำคืนนั้นเขาได้เสียความบริสุทธิ์ให้เธอไปแล้วหรือยัง ! ดูไปลุ้นไปว่าเรื่องราวในวัย 27 ปีของอเล็กซ์กับเพื่อน ๆ จะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันก็อยากรู้ว่าเขาจะย้อนกลับไปอดีตในวัย 17 ปีของเขาได้อีกหรือเปล่า!"รูปลับรหัสวาร์ป The Warp Effect" เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราว Sex Education ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเพศศึกษา แต่หมายรวมถึงสิทธิเหนือเรือนร่างที่ใครจะมาละเมิดไม่ได้ได้อย่างมีชั้นเชิง ผ่านเรื่องราวสนุก ๆ ที่เริ่มต้นจากเรื่องวุ่น ๆ ของอเล็กซ์ที่ถูกคำสาปของแม่ไม่ให้มีความสัมพันธ์กับสาวไหนได้ตลอดรอดฝั่งเพราะอายุยังไมถึง 18 ปี รวมทั้งเรื่องราวในชีวิตของเพื่อน ๆ ของเขาเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านนักแสดงที่โชว์ความสามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครนั้น ๆ ได้อยางสนุกมาก ๆ ให้คะแนนความสนุก 10/10 ไม่มีหักเลยค่ะ และที่สำคัญเนื้อหาของเรื่องยังแทรกความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศในหลาย ๆ เรื่องผ่านการแสดงออก ผ่านความนึกคิดของตัวละครที่ไม่ทำให้เสียอรรถรสในการชม เราเชื่อว่าวัยรุ่นซึ่่งเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็นอยากทดลอง รวมทั้งวัยผู้ใหญ่ที่บางครั้งอาจจะคิดน้อยเกินไป หรือรู้แล้วยังทำในเรื่องที่ไม่ควรทำได้ตระหนักรู้ผ่านเหตุการณ์ในซีรีส์เรื่องนี้ได้ในหลาย ๆ แง่มุม อยากให้ติดตามชมกันค่ะ เพราะไม่บ่อยเลยที่ซีรีส์ไทยจะนำเสนอเรื่องราวเพศศึกษาอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้  อเล็กซ์-ซีอิ๊ว-นิ่ม นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ  รับบท  อเล็กซ์ซิง หฤษฎ์ ชีวการุณ  รับบท  ซีอิ๊วแจน พลอยชมพู ศุภทรัพย์  รับบท  นิ่มอเล็กซ์, ซีอิ๊ว และ นิ่ม เป็นเพื่อนสนิทกัน อเล็กซ์ เป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย คำสาปของแม่ทำให้เขาตกอยู่ในความกังวล แม้ว่าจะวาร์ปมาในเวลาอีก 10 ปีต่อมา และได้พบกับ จีน เพื่อนนักเรียนที่เขามีความรู้สึกดี ๆ ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเธอ ที่ทำให้ความรู้สึกดี ๆ ที่จีนมีให้เขาเปลี่ยนแปลงไป, ซีอิ๊ว ผู้ซึ่งให้ความสนใจในเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศอย่างมากแม้ว่าจะอยู่ในช่วงวัยเรียน และเมื่อเติบโตขึ้นมาก็ยิ่งให้ความสำคัญกับรสนิยมทางเพศในแบบของตัวเอง โดยลืมไปว่าความรักมีหลายด้านที่จะต้องประคับประคองกันไปกับ หลิว ซึ่งเป็นคนรักของเขา ขณะที่ นิ่ม มีความรักแบบหญิงรักหญิง ผู้ซึ่งให้ความสำคัญกับความรัก พร้อมที่จะทำให้คนที่อยู่ด้วยมีความสุข แม้ว่าบางเรื่องจะไม่เห็นด้วย ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 3 คนนั้น คือความเข้าใจกันและกันในความเป็นเพื่อนที่ต่างก็ยอมรับได้ในสิ่งที่เพื่อนเป็น ทำให้ไม่ว่าจะมีเรื่องบาดหมางกันมาแต่ก็คอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอจีน-มอลลี่-แคท-หลิวฟ้า ยงวรี อนิลบล  รับบท  จีนซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ  รับบท  มอลลี่จีจี้ ชณันภัสร์ กมลคีรีลักษณ์  รับบท  แคทจีน, มอลลี่, แคท, หลิว เป็น 4 สาว ที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของผู้หญิงวันนี้ จีน สาว เฟมินิสม์ (Feminism) ที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ผู้หญิงมีโอกาสได้ใช้ผ้าอนามัยฟรี ทั้งยังต่อต้านการบูลลี่ในโรงเรียน, มอลลี่ ที่พร้อมปรกาศตัวเป็น Non-binary ผู้หญิงที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นเพศไหนเพราะทุกคนต่างก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน, แคท หญิงสาวผู้ซึ่งเลือกที่จะไม่ใช้ชีวิตที่จะผูกมัดกับใคร เลือกที่จะไม่จดจำเรื่องไม่ดีเพื่อให้ชีวิตได้มีความสุขในทุก ๆ วัน และ หลิว คนรักของซีอิ๊ว ที่ตัดสินใจพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าความรักไม่ใช่เพียงแค่ความสุขจากความสัมพันธ์ทางเพศเท่านั้น แต่ยังมีด้านอื่น ๆ ที่จะต้องดูแลกัน เอาใจใส่กันอาร์มี่-โจฟลุ๊ค ภูสิษฐ์ ดิษฐพิสิษฐ์  รับบท  อาร์มี่โต๋ ทินพันธ์ ตันตุ้ย  รับบท  โจ อาร์มี่,โจ เริ่มต้นความสัมพันธ์จากความเป็นเพื่อน แต่เมื่อรู้ตัวว่ามีใจให้กัน อาร์มี่ เลือกที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ในขณะที่ โจ เลือกที่จะซ่อนเร้น เพราะหน้าที่การงานไม่สามารถทำให้เขาเปิดเผยตัวตนได้ ซึ่งอาร์มี่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำให้โจยอมรับความรู้สึกของตัวเอง และเปิดใจให้เขาไอซ์-ขิมภูวิน ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน  รับบท  ไอซ์ชาลีดา กิลเบิร์ต รับบท ขิมไอซ์,ขิม คู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความเข้าใจ แต่ไอซ์กลับเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาให้ความสุขกับขิมได้อย่างเต็มที่หรือเปล่า เมื่อได้ฟังแนวความคิดของเพื่อนชายที่มีความเชื่อในแบบผู้ชาย ในขณะที่ขิมช่วยให้ความมั่นใจไอซ์กลับมาด้วยการพูดอย่างตรงไปตรงมาถึงความต้องการของผู้หญิง เป็นการสื่อสารเพื่อหาจุดที่ลงตัวของความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดที่คู่รักพึงมีต่อกันโทนี่จุง อาเชน ไอย์ดึน  รับบท  โทนี่โทนี่ เป็นนักแสดงหนุ่ม ที่ได้ร่วมงานกับ จีน ด้วยมาดหล่อ ๆ เท่ ๆ  ที่แม้บทบาทจะไม่มากนัก แต่ "จุง" ก็สามารถถ่ายทอดความเป็นโทนี่ได้อย่างน่ารักน่าติดตาม                       ซีรีส์ "The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป" เล่าเรื่องราวความรักในหลากหลายรูปแบบของความสัมพันธ์อย่างจริงจัง เต็มไปด้วยความรู้ ขณะเดียวกันก็สนุกในแนวคอมเมดี้ สนุกไปกับเรื่องราวที่ดำเนินเรื่องอย่างฉับไว ตัดต่อได้อย่างเร้าใจชวนให้ติดตามเรื่องราวของทุกตัวละครว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร เป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ประทับใจมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้ติดตามชมกันต่ะขอบคุณภาพประกอบจาก gmmtvภาพปก-ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6 ภาพที่ 7 ภาพที่ 8-9  ภาพที่ 10 ภาพที่ 11 ภาพที่ 12-13 ภาพที่ 14 ภาพที่ 15 ภาพที่ 16Communityคอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์

The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 (ตอนจบ)

เรื่องย่อซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 ทุกวันจันทร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 เริ่มตอนแรก 12 ธันวาคมนี้ นำแสดงโดย นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ โคจรมาประชันบทบาทเป็นครั้งแรกกับสาวสวย ฟ้า ยงวรี อนิลบล ร่วมเสริมทัพความแซ่บเต็มพิกัดด้วยนักแสดงคุณภาพ

รวมลิงค์ดูซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 ย้อนหลัง ทุกตอน ทาง TrueID

The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 ย้อนหลัง ทุกตอน ทาง TrueIDนำแสดงโดย "นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ" โคจรมาประชันบทบาทเป็นครั้งแรกกับสาวสวย "ฟ้า ยงวรี อนิลบล" ร่วมเสริมทัพความแซ่บเต็มพิกัดด้วยนักแสดงคุณภาพ เรื่องย่อ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 รวมลิงค์ดูซีรีส์ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 ดูย้อนหลังละคร The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25 ดูได้วันนี้ถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2569 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.1 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.2 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.3 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.4 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.5 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.6 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.7 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.8 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.9 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.10 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.11 คลิก ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป EP.12 สมัครแพ็กเกจ TrueID+ ผ่านแอป TrueID หรือ กล่อง TrueID TV วันนี้ รับสิทธิ์ดูฟรี 30 วัน สมัครเลยhttps://home.trueid.net/trueidplus (ดูย้อนหลัง The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ปดูได้วันนี้ถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2569) อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : เรื่องย่อ The Warp Effect รูปลับรหัสวาร์ป ช่อง GMM25

รูปลับรหัสวาร์ป

ตัวอย่าง: รูปลับรหัสวาร์ป

▶️คลิป : เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ EP 80 Affect Vs Effect ความหมายต่างกันอย่างไร

หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่า Affect และ Effect เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ขอบอกเลยว่าต่างกันทั้งการออกเสียง และความหมาย แต่ที่เรามักสับสนกันนั้นเพราะ 2 คำนี้ มีความต่างกันแค่เพียงนิดเดียว วันนี้เรามาไขข้อข้องใจนี้กัน ดูคลิปนี้เก็ทแน่นอน📌 เฉลยคำศัพท์  laGo = Goal แปลว่า เป้าหมายช่องทางการติดตาม อังกฤษออนไลน์ - แอมไฟน์ แต๊งกิ้วTrue ID: https://creators.trueid.net/@117825FACEBOOK PAGE: https://www.facebook.com/englishonlineimfinethankyou YOUTUBE: https://www.youtube.com/channel/UCWfLIf66fDJuI86DqRPLGgQ 

จันทร์สุดเศร้า เสาร์ร่าเริง "Weekend Effect" มีผลต่อสุขภาพจิตคนทำงาน

เชื่อว่านี่เป็นประสบการณ์ที่คนวัยทำงานทุกคนต้องมี พอถึงวันศุกร์ที่ไรความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่สะสมมาทั้งสัปดาห์หายวับเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งใกล้ช่วงเลิกงานวันศุกร์ ระดับความร่าเริงพุ่งถึงขีดสุด แต่เมื่อวันจันทร์วนมาถึงใหม่ จิตใจกลับมาเหี่ยวเฉาอัตโนมัติ สิ่งนี้ในทางจิตวิทยา เรียกว่า Weekend Effect หากไม่จัดการให้ดี มีผลต่อสุขภาพจิตคนทำงานแน่นอน Weekend Effect คืออะไร?เริ่มแรก Weekend Effect มีที่มาจากปรากฏการณ์ที่ผลตอบแทนของหุ้นในวันศุกร์มักจะสูงกว่าวันจันทร์อย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ผลตอบแทนในวันจันทร์บางครั้งอาจติดลบหรือใกล้เคียงกับศูนย์ ทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นต่างพากันเครียด ห่อเหี่ยว และอาจหนักจนถึงซึมเศร้าได้เลยทีเดียวต่อมา Weekend Effect ถูกนำมาใช้อธิบายสภาพจิตใจของคนทำงาน และพนักงานบริษัททั่วไป ที่เผชิญกับภาวะความเครียดเมื่อถึงวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นทำงานวันแรกของสัปดาห์ (หลายครั้ง เรียกว่า ภาวะซึมเศร้าในวันจันทร์ หรือ Monday Blue) ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับวันศุกร์ วันสุดท้ายของการทำงาน ที่จิตใจของพวกเขา จะกลับมาร่าเริงลิงโลดอีกครั้ง เพราะจะได้หยุดพักซักทีWeekend Effect มีผลต่อสภาพจิตWeekend Effectอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาวในกลุ่มคนทำงานที่มีความเครียดสูง อาจนำไปสู่อาการเครียดสะสม ที่มีผลต่อทั้งสุขภาพจิตและร่างกายคนที่รู้สึกกดดันมากเป็นพิเศษในวันจันทร์ และมีความคาดหวังในชีวิตสูงซึ่งพอไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ทำให้มีอาการเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว อาจจะนำไปสู่โรคซึมเศร้า หรือ โรควิตกกังวล ในอนาคตได้งานวิจัยชี้ Weekend Effect มีผลกับการทำงานของแพทย์มีงานวิจัยที่ชี้ว่า ว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อาจมีผลลัพธ์ในการรักษาแย่กว่าผู้ที่เข้ารับการรักษาในช่วงวันธรรมดา กล่าวคือ ผู้ป่วยเหล่านี้อาจมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเสียชีวิตมากกว่า แม้ว่าสาเหตุที่แน่ชัดยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ปัจจัยที่เป็นไปได้รวมถึง การขาดแคลนบุคลากรในช่วงสุดสัปดาห์ แพทย์ที่มีประสบการณ์น้อยกว่าปฏิบัติงานในวันหยุด และความล่าช้าในการเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยต่างๆตามข้อมูลจาก Patient Safety Network แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลช่วงดึกของวันศุกร์ไปจนถึงวันอาทิตย์ มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนมากกว่าขณะที่การศึกษาเมื่อปี 2017 นักวิจัยสรุปว่า ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้นถึง 19% ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติในวันธรรมดามีข้อโต้แย้งว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อาจเป็นเพราะผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในช่วงเวลาดังกล่าวมักมีอาการรุนแรงกว่าอย่างไรก็ตาม งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ที่ดำเนินการนาน 14 ปี ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ (Helsinki University Hospital) คัดค้านว่า แผนกศัลยกรรม อายุรกรรม ประสาทวิทยา สูตินรีเวช และเวชศาสตร์การคลอด เป็นแผนกที่ไวต่อ Weekend Effect มากที่สุด ดูแลสุขภาพจิต ลดผลกระทบที่อาจะเกิดขึ้นจาก Weekend Effect1. ปรับมุมมองต่อวันจันทร์แทนที่จะมองว่าวันจันทร์เป็น “วันแย่ๆ” ลองเปลี่ยนเป็น “การเริ่มต้นใหม่” ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวันจันทร์ เช่น ดื่มกาแฟแก้วโปรด หรือจัดโต๊ะทำงานให้สดชื่น2. จัดสมดุลระหว่างงานและชีวิต หรือ Work-Life Balanceพยายามอย่าทำงานล่วงเวลาในวันธรรมดา เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าใช้ชีวิตส่วนตัวแค่เสาร์-อาทิตย์ วางแผนทำกิจกรรมที่ชอบหลังเลิกงาน เช่น ออกกำลังกาย หรือดูซีรีส์สั้นๆ3. วางแผนวันจันทร์ล่วงหน้าจัดตารางงานวันจันทร์ตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อไม่ให้รู้สึกกดดันตอนเริ่มต้นสัปดาห์4. ใช้เวลาวันหยุดให้มีคุณภาพแทนที่จะนอนอย่างเดียว ลองทำกิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกเติมเต็ม เช่น พบปะเพื่อน ทำอาหาร เล่นดนตรี และหลีกเลี่ยงการเช็กอีเมลงานในวันหยุด5. ฝึกสติและการรับรู้ตนเอง (Mindfulness)ใช้เวลา 5–10 นาทีต่อวันในการทำสมาธิหรือหายใจลึกๆ เพื่อช่วยให้จิตใจสงบ สังเกตอารมณ์ตัวเองเมื่อใกล้ถึงวันจันทร์ และพยายามเข้าใจโดยไม่ตัดสินตัวเอง6. หากอาการรุนแรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากรู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือหมดแรงตลอดเวลา หรือสังเกตได้ว่า สภาวะทางอารมณ์จาก Weekend Effect เริ่มมีผลกระทบกับงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบไปขอคำปรึกษากับจิตแพทย์

“ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก” มีโอกาสละลาย-พังทลาย แบบ Domino Effect แค่ไหน?

p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px Thonburi} p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px 'Helvetica Neue'} p.p3 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px 'Helvetica Neue'; min-height: 15.0px} p.p4 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px 'Helvetica Neue'; color: #dca10d} span.s1 {font: 13.0px 'Helvetica Neue'}ธารน้ำแข็งทเวตส์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นน้ำแข็งWest Antarcticขนาดมหึมาถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของขนาดและไม่เสถียรมากที่สุดในโลกและมันก็กำลังละลายจากวิกฤตโลกเดือดโดยธารน้ำแข็งทเวตส์นี้ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นแล้วถึง4%และละลายหมดจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นถึง65เซนติเมตรกระทบต่อผู้คนตามแนวชายฝั่งเกือบ100ล้านคนทั่วโลกจึงเป็นที่มาของฉายาธารน้ำแข็งวันสิ้นโลกและมีทฤษฎีหนึ่งที่กำลังเป็นที่พูดถึงคือการที่ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลกจะละลายและพังทลายลงเหมือนโดมิโนได้---ธารน้ำแข็งพังทลายแบบโดมิโน---LiveScienceอธิบายอ้างอิงทฤษฎีเรียกว่ามารีนไอซ์คลิฟฟ์อินสเตบิลิตี้(Marine Ice Cliff Instability)หรือแปลไทยตรงๆก็คือความไม่เสถียรของผาน้ำแข็งในทะเลซึ่งเป็นที่พูดถึงในแวดวงวิทยาศาสตร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาคำอธิบายคือธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาหรือขั้วโลกใต้จะมีส่วนที่ลอยน้ำอยู่เป็นส่วนต่อขยายเรียกว่าหิ้งน้ำแข็งหิ้งน้ำแข็งนี้มีความสำคัญช่วยค้ำยันไม่ให้น้ำแข็งไหลออกสู่ทะเลแต่วิกฤตโลกเดือดทำให้หิ้งน้ำแข็งนี้ละลายและจมลงทะเลมากขึ้นเรื่อยๆบางครั้งก็ในระยะไม่กี่สัปดาห์และไม่กี่เดือนแล้วถ้าหิ้งน้ำแข็งของธารน้ำแข็งทเวตส์พังทลายลงก็จะก่อให้เกิดผาน้ำแข็งกว้าง120กิโลเมตรที่ต้องเผชิญหน้ากับกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรที่ไหลเข้าปะทะโดยตรงผาน้ำแข็งนี้รับแรงปะทะไม่ได้มากยิ่งผาสูงก็ยิ่งเปราะบางจนทลายลงมหาสมุทรได้แล้วมันเป็นโดมิโนเอฟเฟกต์อย่างไรนั่นเพราะเมื่อผาน้ำแข็งหนึ่งพังทลายลงก็จะเผยให้เห็นผาน้ำแข็งชั้นต่อๆมาด้านหลังที่ต้องปะทะเข้ากับกระแสน้ำทะเลกลายเป็นโดมิโนที่ล้มต่อๆกันไปอย่างไรก็ดีทฤษฎีนี้ถูกท้าทายด้วยข้อเท็จจริงว่าไม่มีใครไปสังเกตการณ์ธารน้ำแข็งนี้ตลอดเวลาจึงไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่---คำอธิบายใหม่ต่อทฤษฎีและล่าสุดก็มีคำอธิบายใหม่จากนักวิทยาศาสตร์ขั้วโลกชื่อแมทธิวมอร์ลิเกมที่ทำการศึกษาและท้าทายหลักคิดการทลายลงของผาน้ำแข็งว่าหากผาน้ำแข็งไม่ได้สูงถึง135เมตรมันก็จะไม่ทลายลงมาง่ายเช่นนั้นทีมของเขายังใช้โมเดล3มิติเพื่อทำความเข้าใจว่าหลักการMarine Ice Cliff Instabilityจะใช้ได้กับธารน้ำแข็งทเวตส์หรือไม่แล้วพบว่าหากหิ้งน้ำแข็งของธารน้ำแข็งวันสิ้นโลกทลายลงในวันนี้จะทำให้ธารน้ำแข็งไหลออกสู่มหาสมุทรเร็วขึ้นและทำให้ส่วนหน้าของธารน้ำแข็งบางลงนั่นหมายความว่าผาน้ำแข็งก็จะไม่สูงถึงขนาดที่จะทลายลงโดยง่ายนั่นเอง---ข่าวดีเล็กๆในข่าวร้าย---แต่นี่เป็นเพียงข่าวดีทางวิชาการเล็กๆในความเป็นจริงอันเลวร้ายว่าธารน้ำแข็งวันสิ้นโลกกำลังละลายเร็วกว่าปกติทีมนักวิจัยที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ใช้ข้อมูลเรดาจากอวกาศในการเอ็กซเรย์ธารน้ำแข็งบ่งชี้ว่าแผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกนั้นมีความเสี่ยงต่ออุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้นมากกว่าที่เราเคยคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้เสียอีกน้ำทะเลที่มีรสเค็มและความอุ่นของน้ำมาบรรจบกับธารน้ำแข็งทำให้เกิดการละลายอย่างรุนแรงที่ใต้ธารน้ำแข็งและอาจกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลที่เกินกว่าที่เราเคยประมาณการกันเอาไว้อ้างอิง:https://www.livescience.com/planet-earth/antarctica/thwaites-glacier-won-t-collapse-like-dominoes-as-feared-study-finds-but-that-doesn-t-mean-the-doomsday-glacier-is-stablehttps://www.rollingstone.com/politics/politics-features/the-doomsday-glacier-113792/https://www.nature.com/articles/nature17145

RATCH ร่วงหนัก โบรกฯ มองรับผลกระทบ dilution effect จากเพิ่มทุน

ทันหุ้น-หุ้นบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATC ราคาปรับตัวลง 8.21% โบรกเกอร์มองได้รับผลกระทบจากความกังวล dilution effect จากเพิ่มทุน รวมถึงราคาเพิ่มทุนที่อาจกดดันราคาตลาด ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น RATCH เช้านี้อยู่ที่ 47.50 บาท ลบ 4.25 บาท หรือ 8.21% ระหว่างวันราคาลงมาต่ำสุดที่ 45.75 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 2,243.32 ล้านบาท บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่ามีมมอง Negative ในระยะสั้นต่อการเพิ่มทุนของ RATCH ในระยะสั้นคาดราคาหุ้นจะถูกกดดันจากความกังวล dilution effect ที่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่มทุน น (control dilution คาดราว -35% และ Price dilution คาดราว -8%) ซึ่ง EPS dilution ยังไม่ชัดเจนขึ้นกับผลประกอบการของโรง Paiton, ราคาเพิ่มทุนที่อาจกดดันราคาตลาด และ return ของเงินลงทุนที่จะนำไปใช้ยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ RATCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า RHIS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้น 45.515% ใน PT Paiton Energy ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซีย ขนาด 2,045 MW (ประกอบด้วย 2 unit ขนาด 1,230 MW COD 1999 และ 815 MW COD 2012)มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเหลือ 21 ปีเท่ากันทั้ง 2 unit โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าซื้อเสร็จสิ้นภายใน มี.ค.2565 นอกจากนี้ได้ประกาศเพิ่มทุน 769.23 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มทุน 1.885 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ระยะเวลาจองซื้อคาดอยู่ในช่วงธ.ค.2564-มี.ค.2565 เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปใช้ลงทุนโครงการในอนาคต จ่ายชำระคืนหนี้สินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ฝ่ายวิจัยบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุอีกว่า ประเด็นลบการเพิ่มทุน จะกลบประเด็นบวกการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Paiton ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ RATCH ได้ราว 930.8 MWe หรือราว 12% ของกำลังการผลิตทั้งหมดที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในมือปัจจุบัน จะรับรู้กำไรได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป โดยประเมินบื้องต้นหากให้กำไร MW ละ 4 ล้านบาท โรงไฟฟ้า Paiton จะสร้างกำไรได้ราว 3,723 ล้านบาทต่อปี โดยในปี 2565 จะรับรู้ 3 ไตรมาสจะมีกำไรราว 2,792 ล้านบาท หรือเป็น upside ต่อกำไรปกติที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ราว 39% โดยประเมินว่าการเข้าซื้อ Paiton จะใช้เงินราว 6.2 หมื่นล้านบาท IRR ราว 8.9% อายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าราว 21 ปี เงินกู้ของ Paiton อยู่ที่ราว 6.3 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยราว 5.1% เป็นต้น จะได้ upside ต่อราคาเป้าหมายของปี 2564 ราว -4.85 บาทต่อหุ้น ซึ่ง net กับ dilution ที่เกิดจากการเพิ่มทุนราว 9.7 บาทต่อหุ้น ดังนั้นสุทธิแล้วมี downside ต่อราคาเป้าหมายปี 2564 ราว -4.85 บาทต่อหุ้น กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 67 บาทต่อหุ้น แต่ในระยะสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อน มองระดับราคาที่ปลอดภัยในการเข้าซื้อราว 39 บาทต่อหุ้น เพื่อรับ upside จากการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Paiton โดยยังคงมุมมอง RATCH น่าสนใจ เพราะมีปัจจัยบวกระยะสั้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/64 ฟื้นตัว และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่รอ COD ตลอดครึ่งปีหลัง และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงไฟฟ้าใหม่ การฟื้นตัวของกำไรปกติมีต่อเนื่องในปี 2564-2565 รวมถึงมีโรงไฟฟ้าใหม่ COD หนุนกำไรต่อเนื่องในระยะยาว 2566-2568 และ dividend yield สูงราว 5% เด่นสุดในกลุ่ม

Butterfly Effect : จัดฟุตบอลโลกทุกสองปี กระทบวงการฟุตบอลหญิงอย่างไร ? | Main Stand

"ฟุตบอลโลกกำลังจะจัดขึ้นทุกสองปี" นี่คือประโยคที่แฟนฟุตบอลได้ยินกันบ่อยขึ้นในระยะหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ จิอานนี่ อินฟานติโน่ ประธานของ FIFA ยังคงยืนยันที่จะให้โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นจริงให้ได้ หากฟุตบอลโลกขยับมาจัดขึ้นทุกสองปีจริง ย่อมมีการถกเถียงถึงข้อดี-ข้อเสียเป็นธรรมดา แต่หนึ่งในวงการที่หลายคนวิตกกังวลว่าจะได้รับผลกระทบร้ายแรงและส่งผลเสียอย่างไม่น่าเชื่อคือ วงการฟุตบอลหญิง ที่กำลังก้าวสู่จุดพีคเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ Main Stand ขอนำเสนอผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลหญิง หากแผนการปฏิรูปฟุตบอลโลกเกิดขึ้นจริง ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการทำลายความสนใจและรากฐานของเกมลูกหนังหญิงเลยทีเดียว คนดูเยอะแล้วทำไมไม่จัดให้บ่อยขึ้น ? นับตั้งแต่ฟุตบอลโลกหญิงจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1991 ที่ประเทศจีน ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุก 4 ปีเช่นเดียวกับฟุตบอลโลกชาย และยังคงดำเนินการแข่งขันโดยเว้นระยะห่าง 4 ปีแบบนี้เรื่อยมา จนกระทั่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นของวงการฟุตบอลหญิงในระยะหลังทำให้ FIFA รู้สึกว่าการจัดฟุตบอลโลกหญิงทุก 4 ปี อาจไม่ใช่คำตอบที่ใช่อีกต่อไป ย้อนกลับไปยังฟุตบอลโลกหญิง 2019 ที่จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในสายตาของ FIFA และอาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีผู้ชมมากกว่า 1 พันล้านคนที่ติดตามการแข่งขันรายการนี้ โดยเกมนัดชิงชนะเลิศระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับ เนเธอร์แลนด์ มีผู้ชมทั้งหมด 82 ล้านคน มากกว่านัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกหญิง 2015 ถึง 56 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสหรัฐอเมริกาที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิง 2019 หลังคว้าชัยชนะเหนือเนเธอร์แลนด์ด้วยสกอร์ 2-0 พวกเขาได้รับเงินรางวัลจากการคว้าแชมป์โลกเป็นเงิน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเงินรางวัลที่เคยมอบให้สหรัฐอเมริกา หลังพวกเธอคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิง 2015 และคว้าเงิน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐกลับบ้าน การเติบโตอย่างต่อเนื่องของฟุตบอลโลกหญิง ทั้งในแง่ความสนใจจากผู้ชมและเงินรางวัลที่ตอบสนองการแข่งขันของนักกีฬา ส่งผลให้ FIFA เกิดไอเดียบรรเจิดว่า ในเมื่อฟุตบอลโลกหญิงได้รับความนิยมมากขนาดนี้แล้ว "ทำไมเราไม่จัดมันให้บ่อยขึ้นเป็นทุก 2 ปีล่ะ" ความสำเร็จของฟุตบอลโลกหญิง 2019 จึงกลายเป็นไอเดียตั้งตนที่ทำให้ FIFA หวังผลักดันให้ฟุตบอลโลกหญิงจัดการแข่งขันทุกสองปี และเริ่มผลักดันโปรเจ็กต์นี้อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา "เราจำเป็นต้องมองให้ออกว่าเราสามารถสร้างอีเวนต์ใหญ่แบบไหนได้บ้าง เพราะฉะนั้นเรากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้อยู่ นั่นเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด" จิอานนี่ อินฟานติโน่ ประธาน FIFA กล่าวถึงแนวคิดการจัดฟุตบอลโลกหญิงทุกสองปี สำหรับ FIFA การจัดฟุตบอลโลกหญิงดูจะเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมและนำมาสู่การสร้างรายได้มหาศาลแก่วงการฟุตบอล แต่สำหรับแฟนลูกหนังทั่วโลก นี่เป็นหนึ่งในความคิดงี่เง่าที่สุดที่ออกมาจาก FIFA เพราะแฟนบอลทั่วโลกต่างเห็นตรงกันว่า เหตุผลที่ทำให้ฟุตบอลโลกเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่พิเศษและมีความสำคัญที่สุดในโลกกีฬา เนื่องจากมันจัดการแข่งขันขึ้นทุก 4 ปี ไม่ต่างจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ด้วยเหตุนี้นิตยสาร Forbes จึงเคยเขียนบทความเชิงล้อเลียนด้วยการแนะนำไอเดียแก่ FIFA ว่า หากคิดจะปรับเปลี่ยนให้ฟุตบอลโลกหญิงแข่งทุกสองปี ทำไมไม่มองให้ไกลกว่านั้น แล้วเปลี่ยนมาจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงทุกปี, ทุกเดือน หรือทุกวันไปเลย ซึ่งการล้อเลียนในลักษณะนี้ ถือเป็นการโจมตี FIFA ว่าแนวคิดในการเปลี่ยนมาจัดฟุตบอลโลกหญิงให้บ่อยขึ้นนั้นช่างตลกขบขัน แต่ถึงจะถูกเสียดสีอย่างไร FIFA ก็ยังคงผลักดันให้การจัดฟุตบอลโลกทุกสองปีเกิดขึ้นให้ได้ โดยในเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา จิอานนี่ อินฟานติโน่ ยังคงยืนยันถึงแผนการผลักดันให้เกิดการจัดฟุตบอลโลกทุกสองปี โดยจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับวงการฟุตบอลได้ถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อบวกกับเสียงตอบรับของผู้อาวุโสในวงการลูกหนัง ทั้ง อาร์แซน เวนเกอร์ และ เซปป์ แบล็ตเตอร์ จึงดูเหมือนว่าโอกาสที่ฟุตบอลโลกจะเปลี่ยนมาจัดขึ้นทุกสองปีมีเพิ่มขึ้น และอาจเกิดขึ้นจริงได้ในไม่ช้านี้ ทำลายความน่าสนใจ กระแสถูกบดบังโดยฟุตบอลชาย ถึงตรงนี้คงต้องอธิบายให้เข้าใจชัดเจนก่อนว่า แผนการปรับเปลี่ยนฟุตบอลโลกให้มาแข่งขันกันทุกสองปีของ จิอานนี่ อินฟานติโน่ หมายถึงฟุตบอลโลกทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ซึ่งถ้ามองกันตามหน้ากระดาษ หากฟุตบอลโลกเกิดการปฏิรูปครั้งใหญ่ตามความต้องการของ FIFA จริง ดูเหมือนว่าฟุตบอลชายและฟุตบอลหญิงน่าจะได้รับผลกระทบในระดับเดียวกัน แต่ถ้ามองกันตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอลในปัจจุบัน ทุกคนทราบดีว่า FIFA ไม่เคยให้ความสนใจกับวงการฟุตบอลหญิงในระดับเดียวกับฟุตบอลชายเลย ไม่ว่าจะในแง่ของการลงทุนเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงหรือค่าตอบแทนที่นักฟุตบอลหญิงได้รับซึ่งแตกต่างจากฟุตบอลชายหลายเท่าตัว การปรับเปลี่ยนฟุตบอลโลกให้มีการแข่งขันทุกสองปีของ FIFA แท้จริงแล้วจึงไปโฟกัสที่ผลประโยชน์ที่จะได้จากวงการฟุตบอลชายเป็นหลัก โดยแทบจะไม่ได้คิดถึงฟุตบอลหญิงเลย หากการแข่งขันฟุตบอลโลกทั้งชายและหญิงถูกปรับเปลี่ยนให้มาแข่งขันกันทุกสองปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสปอตไลท์ที่วงการฟุตบอลหญิงเคยได้รับย่อมน้อยลงไปอีก เพราะแค่นับเอาตารางการแข่งขันฟุตบอลโลกชายรอบคัดเลือกและรอบสุดท้ายมารวมกัน ในทางปฏิบัติเท่ากับว่าเกิดการแข่งขันฟุตบอลโลกชายทุกปี ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นคงไม่มีใครจะหันมาให้ความสนใจกับฟุตบอลหญิงในระดับเดียวกับในปัจจุบันเป็นแน่ ซึ่งถ้ามองในมุมนี้เท่ากับว่า จำนวนผู้ชมฟุตบอลโลกหญิงที่อ้างอิงจากรอบชิงชนะเลิศครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 ที่มีตัวเลขเติบโตถึง 56 เปอร์เซ็นต์ อาจลดลงเนื่องจากความน่าสนใจที่หายไป ยิ่งเมื่อบวกกับแผนการของอินฟานติโน่ที่จะปรับฟุตบอลยูโรให้แข่งขัน 2 ปีครั้งตามไปด้วย นั่นอาจทำให้ความนิยมของฟุตบอลยูโรหญิงที่เพิ่งทำลายสถิติผู้ชมในสนามและทางโทรทัศน์ลดลงมาด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแค่ทวีปยุโรปที่ได้รับผลกระทบ แต่สำหรับฟุตบอลหญิงในภูมิภาคอื่นก็จะต้องรับผลจากความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นนี้ด้วย ถึงแม้จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวของกับแผนปฏิรูปครั้งใหญ่ของ FIFA โดยตรง เพราะท้ายที่สุดแล้วแฟนฟุตบอลทั่วโลกก็จะโฟกัสไปยังการแข่งขันระดับสูงของฟุตบอลชายที่แน่นเอี้ยดตลอดทั้งปีอยู่แล้ว หากฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรถูกปรับเปลี่ยนให้มาแข่งขันทุกสองปีจริง สื่อจากต่างประเทศคาดการณ์ว่า FIFA น่าจะใช้ประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการจัดฟุตบอลโลกบ่อยขึ้นมาเป็นเครื่องหว่านล้อมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลหญิงเห็นด้วยกับแผนการปฏิรูป โดยอ้างว่าฟุตบอลหญิงทั่วโลกจะได้งบประมาณพัฒนาวงการที่มากขึ้น หากยอมปรับให้ฟุตบอลโลกหญิงแข่งขันทุกสองปี แน่นอนว่าประเด็นนี้ถูกสื่อต่างประเทศกล่าวหาว่าเป็นอีกหนึ่งคำลวงของ FIFA เนื่องจากในปัจจุบัน FIFA มีเงินสำรองไว้ในคลังสูงถึง 2.74 พันล้านบาท หรือราว 9 หมื่นล้านบาท หากพวกเขาจริงใจจะพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงจริงก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ฟุตบอลโลกจัดขึ้นทุกสองปีก็สามารถเพิ่มงบประมาณในส่วนนั้นได้ เมื่อบวกกับประวัติที่พวกเขาไม่สามารถบรรลุแผนการ Women's Football Strategy ที่หวังเพิ่มให้ผู้หญิงเล่นฟุตบอลมากขึ้น ยิ่งทำให้ทุกคนเชื่อว่า FIFA ต้องการเพิ่มมูลค่าให้วงการฟุตบอลชายโดยไม่สนใจเลยว่าฟุตบอลหญิงจะได้รับผลกระทบอย่างไร มองข้ามความสำคัญรากฐานการพัฒนาฟุตบอลหญิง ESPN เคยเสนอทางเลือกว่า รายการเดียวที่ FIFA ควรเพิ่มให้กับวงการฟุตบอลหญิงคือ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก เนื่องจากวงการฟุตบอลหญิงยังไม่แข็งแกร่งและยังต้องพึ่งพาการพัฒนาผ่านการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศ การเพิ่มทัวร์นาเมนต์ที่ทรงคุณค่าอย่างฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก จึงอาจจะสามารถช่วยกระตุ้นการแข่งขันในระดับสโมสร ซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในระดับรากฐานต่อไป การแข่งขันในระดับสโมสรไม่เพียงจะสำคัญต่อรากฐานของวงการฟุตบอลหญิง แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดแฟนฟุตบอลระดับท้องถิ่นให้หันมาสนใจเกมลูกหนังในรูปแบบนี้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วหลายฝ่ายเชื่อว่านักฟุตบอลหญิงที่ลงเล่นในปัจจุบันจะกลายเป็นแบบอย่างใกล้ตัวให้แฟนบอลได้เดินตามและนำมาสู่การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักฟุตบอลหญิงทั่วโลก มากกว่าการปั้นภาพซูเปอร์สตาร์ในระดับชาติแต่ละเลยการพัฒนาในระดับรากฐาน หากการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงถูกจัดขึ้นปีละสองครั้งจริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่างบประมาณที่แต่ละชาติจะได้รับเพื่อพัฒนาฟุตบอลหญิง (ซึ่งไม่มากมาตั้งแต่ต้น) จะถูกโยนลงไปใส่ฟุตบอลทีมชาติจนหมด ยิ่งไปกว่านั้นความสนใจของฟุตบอลหญิงก็จะไปอยู่ที่การแข่งขันฟุตบอลโลกที่จัดต่อเนื่องราวกับบอลลีก นี่จึงเป็นดาบสองคมที่จะกลับมาทำลายฟุตบอลหญิงในระดับสโมสร ซึ่งถือเป็นรากฐานของวงการฟุตบอลหญิงทั่วโลก เมื่อหันมามองสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ฟุตบอลโลกหญิงเพิ่งประกาศเพิ่มทีมเข้าร่วมแข่งขันจาก 24 ทีมสู่ 32 ทีม ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2023 ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกหนึ่งปีข้างหน้า ซึ่งการเพิ่มทีมครั้งนี้ก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากพออยู่แล้ว เนื่องจากฟุตบอลโลกหญิง 2019 สหรัฐอเมริกาเพิ่งถล่มทีมชาติไทยจนกลายเป็นสถิติใหม่ถึง 13-0 แสดงให้เห็นว่าบางทีมในฟุตบอลโลกหญิงยังห่างชั้นกันเกินไป แต่แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแต่ละชาติให้แข็งแกร่งทัดเทียมกัน FIFA กลับเลือกที่จะเพิ่มทีมเข้าไปในฟุตบอลโลกหญิงอีก ฟุตบอลโลกหญิงจึงน่าจะยังไม่ต้องการการยกระดับทัวร์นาเมนต์ไม่ว่าจะรูปแบบใดในเร็ววันนี้ เพราะวงการฟุตบอลหญิงยังไม่สามารถเติบโตได้รวดเร็วพอที่จะพร้อมรองรับการแข่งขันของ 32 ทีมทุกสองปีได้อย่างแน่นอน สิ่งที่วงการฟุตบอลหญิงต้องการจริง ๆ ในเวลานี้คือการเพิ่มจำนวนเงินทุนที่จะลงมาช่วยเหลือนักฟุตบอลหญิง พร้อมกับพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในระดับรากฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่วยเหลือนักเตะที่ถูกสโมสรปล่อยตัว, ผลักดันค่าเหนื่อยนักเตะให้มีจำนวนใกล้เคียงกับฟุตบอลชายมากขึ้น หรือการเพิ่มงบประมาณสนับสนุนสโมสรรวมถึงทีมชาติให้มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูนักฟุตบอลหญิงตามสมควร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีข่าวมากมายเกี่ยวกับนักฟุตบอลหญิงระดับทีมชาติที่ต้องเจอกับปัญหากับเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็น นักเตะไนจีเรียที่ถูกเบี้ยวโบนัสในปี 2019, แข้งทีมชาติบราซิลหลายรายที่ต้องถอนตัวเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคม, นักฟุตบอลหญิงทีมชาตออสเตรเลียสไตรก์เมื่อปี 2015 เนื่องจากต้องการค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น, ผู้เล่นของตรินิแดดและโตเบโกขอเงินบริจาคผ่านทางโซเชียลมีเดียเมื่อปี 2018 เพื่อจะได้มีเงินไปเล่นฟุตบอลโลกหญิงรอบคัดเลือก รวมถึงกรณีนักเตะจาเมกาที่เดินทางมาแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2019 ด้วยเงินส่วนตัวของลูกสาว บ็อบ มาร์เลย์ หาก FIFA ยังเลือกที่จะเพิ่มการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงเป็นสองปีต่อครั้งตามแผนการเดิมที่วางเอาไว้ร่วมกับฟุตบอลชาย นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของระเบิดเวลาของวงการฟุตบอลหญิง เพราะในขณะนี้ที่ฟุตบอลโลกหญิงแข่งขันกัน 4 ปีต่อครั้ง บางประเทศยังไม่มีเงินสนับสนุนนักเตะของตัวเองอย่างเพียงพอได้เลย สถานการณ์จึงอาจแย่ลงมากหากความเปลี่ยนแปลงที่พูดถึงตลอดทั้งบทความนี้เกิดขึ้นจริง แม้ FIFA จะสามารถกล่าวได้ว่าพวกเขาทำแบบสำรวจความต้องการของแฟนบอลกว่า 30,000 คนจากทั่วโลก และได้ผลลัพธ์ว่ามีคนจำนวนเกินครึ่งที่อยากเห็นฟุตบอลโลกหญิงบ่อยกว่าหนึ่งครั้ง แต่หากพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันของวงการฟุตบอลหญิง มันเป็นเรื่องดีกว่าที่ความฝันของแฟนบอลเหล่านั้นจะต้องถูกยืดเวลาออกไป นี่เป็นช่วงเวลาที่ FIFA ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างเม็ดเงินมหาศาลที่มีโอกาสได้จากเหล่าสปอนเซอร์และค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์กับการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงจากรากฐาน ด้วยการเพิ่มงบประมาณลงไปให้มากขึ้นแล้วต่อยอดความนิยมจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากพวกเขาเลือกที่จะขยับการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นทุกสองปีตามแผนงานที่วางไว้แหล่งอ้างอิง https://www.si.com/soccer/2019/10/18/womens-world-cup-tv-viewers-fifa-record-uswnthttps://www.forbes.com/sites/howardmegdal/2019/12/20/fifa-wants-womens-world-cups-every-two-years-but-why-stop-there/?sh=2a5153623191https://www.sportingnews.com/us/soccer/news/fifa-world-cup-every-two-years-biennial-explain-next/ra9621bnjzas1umf7tbfycadmhttps://www.espn.com/soccer/fifa-womens-world-cup/story/4017616/fifa-considering-staging-womens-world-cup-every-two-years-infantinohttps://www.espn.com/soccer/fifa-world-cup/story/4469462/a-world-cup-every-two-years-the-pros-and-cons-of-fifa-chief-arsene-wengers-blueprinthttps://www.espn.com/soccer/fifa-womens-world-cup/story/4562876/why-fifas-push-for-a-biennial-world-cup-hurts-the-womens-gamehttps://www.espn.com/soccer/fifa-world-cup/story/4553518/fifas-biennial-world-cup-proposal-has-majority-backing-president-gianni-infantino ข่าวที่เกี่ยวข้อง ใครได้ใครเสีย : หาก FIFA จัดฟุตบอลโลกทุก 2 ปี ผลประโยชน์ตกที่ใคร ? | Main Stand Manga Matchi the Series : "มาดามแป้ง" มีคาแร็กเตอร์คล้ายใครในบรรดาผู้จัดการหญิงมังงะกีฬาญี่ปุ่น ? | Main Stand OFFICIAL : ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะ 'ชบาแก้ว' ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่อินเดีย ------------------------------------------------- ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!! รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ คลิกที่นี่ อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณคลิกเลย!!หรือ กด *301*32# โทรออก หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด*301*36#โทรออก มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะ ตามประสาคนรักกีฬากันได้ที่ TrueID Community คลิกเลย!

ยอดผู้ใช้ ChatGPT พุ่ง จาก Ghibli Effect ไม่แน่ชัดผิดลิขสิทธิ์หรือไม่?

กระแสความนิยมในการสร้างภาพแบบGhibliด้วยเครื่องมือสร้างภาพของChatGPTทำให้การใช้งานแชทบอทของOpenAIพุ่งขึ้นอย่างทวีคูณในสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ล้มเหลวและจำกัดการใช้งานของฟีเจอร์นี้ชั่วคราวกระแสไวรัลนี้ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกพากันแชร์ภาพที่ได้จากสไตล์การวาดมือของสตูดิโอแอนิเมชันชื่อดังจากญี่ปุ่น ‘Studio Ghibli’ ซึ่งก่อตั้งโดยผู้กำกับชื่อดัง ฮายาโอะ มิยาซากิ และรู้จักกันดีจากภาพยนตร์ เช่น ‘Spirited Away’ และ ‘My Neighbor Totoro’ ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดSimilarwebเผยว่าผู้ใช้งานที่ใช้งานChatGPTรายสัปดาห์เฉลี่ยเกิน150ล้านคนเป็นครั้งแรกในปีนี้แซม อัลท์แมน ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในโพสต์บน X เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 มี.ค.) โดยเปรียบเทียบกับการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้หนึ่งล้านคนในห้าวันหลังจากการเปิดตัวที่ร้อนแรงของ ChatGPT เมื่อมากกว่าสองปีก่อนจำนวนผู้ใช้งานที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ รายได้จากการสมัครสมาชิกภายในแอปพลิเคชัน และการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก SensorTower หลังจากที่บริษัท AI ได้เปิดตัวอัปเดตโมเดล GPT-4o ซึ่งสามารถสร้างภาพได้ในระดับที่มีความซับซ้อนมากขึ้นการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและผู้ใช้งานรายสัปดาห์ของ ChatGPT เพิ่มขึ้น 11% และ 5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ในขณะที่รายได้จากการซื้อในแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น 6% แชทบอทได้รับผลกระทบจากข้อผิดพลาดและการล่มของระบบในขนาดเล็กในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากความนิยมในเครื่องมือสร้างภาพของมันอย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความไม่แน่นอนทางกฎหมาย โดยการใช้งานเครื่องมือ AI อย่างแพร่หลายเพื่อสร้างผลกระทบจาก Ghibli ยังนำไปสู่คำถามเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ที่อาจเกิดขึ้นเอวาน บราวน์ พันธมิตรจากสำนักงานกฎหมาย Neal McDevitt กล่าวว่า ภูมิทัศน์ทางกฎหมายของภาพที่สร้างโดย AI ซึ่งเลียนแบบสไตล์ที่โดดเด่นของ Studio Ghibli ยังเป็นพื้นที่ที่ไม่แน่นอน กฎหมายลิขสิทธิ์มักจะคุ้มครองแค่การแสดงออกเฉพาะเจาะจงเท่านั้น ไม่ใช่สไตล์ศิลปะเองOpenAI ไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ในการฝึกอบรมโมเดล AI และความถูกต้องทางกฎหมายของฟีเจอร์ล่าสุดนี้

(COVID-19 EFFECT) 7 New Normal VS 7 Old Normal (ยอมรับ ปรับตัว)

New Normal คือ สิ่งที่เมื่อก่อนยังไม่เกิดขึ้นหรือไม่ได้รับความนิยม  แต่เรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม   ยกตัวอย่างเช่น  -  การประชุมออนไลน์ จากเมื่อก่อนเป็นตัวเลือกสำรองเพราะคนยังเดินทางมาประชุมแบบเห็นหน้าได้  ต่อไปนี้ จะเป็นทางเลือกสำคัญในการจัดประชุมในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องมาพบกัน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง โดยปัจจุบันมีพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 เป็นแนวทางในการประชุมแบบออนไลน์ -  การทำงานที่บ้าน (Work From Home)  จากเมื่อก่อนการทำงานต้องมารวมกันในที่ทำงาน การทำงานที่บ้านจะเป็นการทำงานในเวลานอกทำการ เช่น ตอนกลางคืนหรือวันเสาร์ วันอาทิตย์ ต่อไปนี้ Work From Home จะเป็นเรื่องปกติที่องค์กรต่างๆ จะพิจารณาให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการทำงาน สาเหตุที่ทำให้เกิด New Normal คือมีเหตุการณ์สำคัญมากระทบเช่น สถานการณ์แพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส (COVID-19) ทำให้เกิดวิธีการทำงานหรือวิธีการดำเนินชีวิตใหม่ๆ ที่จะกลายเป็นเรื่องปกติใหม่หรือ  New Normal   ต่อไปนี้คือ New Normal  7 ข้อที่จะเกิดขึ้น และสิ่งปกติเดิมหรือ Old Normal  7 ข้อเช่นกันที่จะอยู่ในสังคมต่อไปยากที่จะเปลี่ยนแปลง 7 New Normal 1. ขาดอินเตอร์เน็ตเหมือนขาดใจ  อินเตอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานเช่นเดียวกับไฟฟ้า น้ำประปา เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานและการเงิน เช่นการโอนเงินผ่าน Mobile Banking ,การจ่ายเงินมื่อซื้อของออนไลน์  ลองจินตนาการว่า ถ้าอินเตอร์เน็ตเกิดเสียนานๆ จะเกิดอะไรขึ้น อินเตอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่ขาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว 2. ความสะอาดคิอที่ 1 คนจะให้ความสำคัญกับความสะอาดมากขึ้น เพราะปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เชื้อไวรัส COVID-19 ไม่แพร่กระจายมากคือการล้างมือบ่อยๆ ไม่จับหน้าจับจมูกตัวเอง  ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19  คนจะล้างมือบ่อยมาก บางคนพูดทีเล่นทีจริงว่าล้างมือจนลายมือแทบจะหายไปหมดแล้ว   3. เสื้อผ้า หน้า ผม และหน้ากากอนามัย เราเลือกชุดทำงานพร้อมหน้ากากอนามัย  การสวมหน้ากากอนามัยกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะจะช่วยป้องกันเชื้อโรคในอากาศ ป้องกันควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์  ป้องกันฝุ่น P.M.25 และหน้ากากอนามัยจะกลายเป็นแฟชั่น มีความสวยงามมีหลายรูปแบบให้เลือกใส่กัน 4. ห่างๆ แบบห่วงๆ  โชคดีที่คนไทยไม่นิยมแตะเนื้อต้องตัวกันทำให้ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค ต่อจากนี้หลายธุรกิจจะต้องคำนึงถึงระยะห่างระหว่างบุคคลในธุรกิจของตนเอง เช่น การนั่งดูภาพยนตร์จะต้องนั่งแยกกัน (คนที่มาดูคนเดียวคงเฉยๆ แต่คนที่มาเป็นคู่อาจจะแปลกๆ หน่อย) ที่นั่งในระบบขนส่งสาธารณะ เช่นรถทัวร์ เครื่องบิน จะขายแบบเว้นที่นั่ง ซึ่งจะทำให้ราคาตั๋วแพงขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้คาดว่ายอดขายรถยนต์ส่วนตัวจะเพิ่มสูงขึ้น 5.  ทำงานก็ได้  เลี้ยงลูกก็ดี หลายคนได้รับประสบการณ์ใหม่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นี้ก็คือทักษะการทำงานที่บ้านพร้อมกับต้องเลี้ยงลูกไปด้วยเนื่องจากโรงเรียนปิด  ในช่วงแรก หลายคนอยากให้โรงเรียนเปิดเร็วๆ หรืออยากไปขอบคุณคุณครูที่ก่อนหน้านี้ช่วยเลี้ยงลูกที่โรงเรียน แต่เมื่อสถานการณ์บังคับโรงเรียนยังปิดต่อ พ่อแม่หลายคนคิดวิธีในการทำงานพร้อมเลี้ยงลูก เช่นการหาการหาบทเรียนออนไลน์ให้ลูกเรียน เรียนทำกับข้าวทาง Youtube กับลูก มีบางคนเอางานตัวเองให้ลูกทำก็มี ข้อดีของการทำงานที่บ้านคือทำให้สายสัมพันธ์ของครอบครัวแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น   6. ซื้อของออนไลน์เก่ง  สำหรับคน GenY การซื้อของออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรืออาหาร เป็นเรื่องคุ้นเคยอยู่แล้ว ต่อไปนี้ คน Baby Boomer และ คนGenX จะสั่งออนไลน์ได้คล่องแคล่วมากขึ้น เพราะจะไปซื้อของที่ร้านค้าก็กลัวติดเชื้อโรค  ถ้าไม่กล้าสั่งก็จะไม่มีของกินไม่มีของใช้  ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ Mobile Banking จะไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับ ฺBaby Boomer และ GenY อีกต่อไป 7. เสน่ห์ปลายจวักจะกลับมา   ข้อดีของการทำงานที่บ้านคือการลดเวลาในการเดินทาง ทำให้หลายคนมีเวลาฝึกทักษะอื่นๆ ที่ตนเองชื่นชอบหรือสถานการณ์บังคับ  เช่น เมื่อไม่ต้องการออกไปซื้ออาหารก็ต้องหัดทำอาหารเองผ่าน Youtube หลายคนฝึกทำเก่งจะถึงขั้นทำขายผ่านออนไลน์ เช่น บริการ LILUNA Food Hero เป็นแอปพลิเคชั่นบนมือถือที่ให้คนทำอาหารโพสต์อาหารที่ทำได้ แล้วถ้าใครเห็นแล้วชอบทานก็สั่งอาหารได้เลย  และนอกจากเรื่องทักษะการทำอาหารที่เพิ่มขึ้น หลายคนก็มีทักษะอื่นๆ เช่น ฝึกเต้น cover นักร้องที่ตนเองชื่นชอบ ฝึกตัดผมตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่ทำให้เรามีทักษะมากขึ้นเมื่อต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ 1. น้ำใจคนไทย  จากสถานการณ์ที่ยากลำบากในหลายๆ เรื่องเช่น ซึนามิ โคลนถล่ม น้ำท่วมหรือโรคระบาด  เราได้เห็นน้ำใจคนไทยหลั่งไหลให้กันและกัน เช่นการบริจาคหน้ากากอนามัย face shield ให้กับโรงพยาบาล  แจกสิ่งของให้กับคนที่ไม่มีรายได้ ถึงแม้จะมีปัญหาในการแจกสิ่งของบ้าง แต่น้ำใจคนไทยที่จะช่วยเหลือคนอื่นยังมีมากมายเหมือนเดิม 2.  รถติด  จากประสบการณ์ของผู้เขียนซึ่งอยู่กรุงเทพฯ และเดินทางไปทำงานตามปกติ  พบว่าต้นเดือนเมษายน 2563 รถยนต์บนถนนจะน้อยมาก การจราจรไม่ติดขัด แต่พอช่วงหลังสงกรานต์ที่ไม่ได้หยุดงานเป็นครั้งแรกพบว่า การจราจรหนาแน่นมากขึ้น  คาดว่าหลังจากยกเลิกมาตรการปิดเมือง บรรยายรถติดที่คุ้นเคยก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง 3.ฝุ่น  P.M. 2.5  หลายปีที่ผ่านมา ในช่วงต้นปีจะมีปัญหาฝุ่น P.M 2.5 เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และจังหวัดในภาคเหนือ ตอนนี้ยังไม่เห็นทางที่ จะแก้ปัญหานี้ได้  (การฉีดน้ำขึ้นไปบนท้องฟ้าไม่น่าจะใช้ทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน)  เรื่องฝุ่น P.M. 2.5 จะยังเป็น Old Normal ที่ได้เจอกันต่อไป   4. การเผาป่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกช่วงต้นปีเหมือนกับปัญหาฝุ่น P.M. 2.5 แม้ว่าจะมีกฏหมายลงโทษแต่ดูเหมือนว่าไม่ทำให้ปัญหานี้ลดลง อีกเรื่องที่เกี่ยวกับต้นไม้ที่เป็นปัญหามาตลอด คือการตัดต้นไม้ในกรุงเทพฯ  เพราะจะมีปัญหาทุกครั้ง เช่นการตัดต้นไม้จนเหลือแต่ตอ คาดว่าเรื่องนี้จะยังเป็นปัญหาต่อไป   5.  อุบัติเหตุช่วงเทศกาล  ประเทศไทยมีเทศกาลหยุดยาวสำคัญอยู่ 2 เทศกาลคือ ปีใหม่ และสงกรานต์ ซึ่งจะเกิดอุบัติเหตุทำให้คนเสียชีวิตจำนวนมากหรือที่เราเรียกว่า 7 วันอันตราย ในปี พ.ศ. 2563 เทศกาลสงกรานต์ไม่ใช่วันหยุดจึงไม่มี 7 วันอันตราย คาดว่า เมื่อเหตุการณ์ไวรัสคลี่คลาย 7 วันอันตรายก็จะกลับมาในช่วง 2 เทศกาลดังกล่าวเหมือนเดิม 6.  การเอารัดเอาเปรียบ  ข่าวหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น  แอลกอฮอลล์ขึ้นราคาเป็น 10 เท่า หน้ากากอนามัยขาดตลาด  ไข่ไก่ขาดตลาดระยะหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ในขณะที่หลายคนมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น คนบางคนก็พร้อมที่จะหาทางเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลา  7.  ขยะพลาสติก 1 ม.ค. 2563 เป็นวันเริ่มต้นการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวก ซึ่งถือว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ หลายคนสั่งอาหารผ่านระบบ food delivery สิ่งที่มาพร้อมกับอาหารคือบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร ถุงพลาสติกที่ทำให้เกิดขยะจำนวนมาก  ซึ่งถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะลดขยะเหล่านี้   ไม่ว่าจะ New Normal หรือ Old Normal ทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตคือการปรับตัว   ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเราทำใจยอมรับ เข้าใจ ศึกษาและปรับตัวก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข  ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการปรับตัวกับเรื่องใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึงครับ  ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  www.canva.com . www.pixabay.com , https://commons.wikimedia.org/ , www.pxhere.com . www.flickr.com   ภาพปก / ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 /  ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7 / ภาพประกอบที่ 8 / ภาพประกอบที่ 9 / ภาพประกอบที่ 10 / ภาพประกอบที่ 11

"ทรีนีตี้" ฟันธง January effect มาแน่ เหตุเงินไหลเข้าหนุนดัชนีวิ่งขึ้นต่อ Q1 อาจแตะ 1,680-1,800 จุด

ทรีนีตี้ ฟันธง January effect มาแน่ เหตุเงินไหลเข้าหนุนดัชนีวิ่งขึ้นต่อ Q1 อาจแตะ 1,680-1,800 จุด ทั้งปีให้กรอบ 1,500-1,800 จุด นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือน ม.ค.2565 ว่า มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดปรากฎการณ์ January effect จากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เอื้ออำนวย ทั้งสภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูง เงินทุนไหลเข้า ช่วงต้นปีและการซื้อกลับของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ ซึ่งจะหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้ จากระดับปิดปี 2564 ที่1,657.62 จุดและภายในไตรมาสแรกของปี 2565 มีโอกาสเห็นดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,680 จุดในกรณีฐานและระดับ 1,800 จุดในกรณีดีสุด ทั้งนี้ ทรีนีตี้ ประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 2565 บนสมมติฐาน EPS ของตลาดปี 2566 ที่ 107 บาท และพี/อี กรณีฐานที่ 15.7 เท่า จะได้ระดับดัชนีที่ 1,680 จุด ส่วนในกรณีดีสุด เทียบเคียงพี/อี ที่ 16.8 เท่า และสมมติฐาน EPS เดียวกัน จะได้ระดับดัชนีดีสุดที่ 1,800 จุด ซึ่งหากจะเห็นตัวเลข 1,800 จุดนี้ มองว่าจะต้องเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 นี้ ซึ่งประเมินว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี ในทางกลับกัน มองแนวรับดัชนีกรณีฐานที่ระดับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเคียงพี/อี 16.8 เท่า และสมมติฐาน EPS ปี 2565 ที่ 96 บาท ส่วนในกรณีเลวร้ายสุด หากเกิดกรณีลบเช่น Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในไตรมาส 1 และรัฐบาลไทยหันกลับมาใช้มาตรการ Lockdown คนในประเทศอีกครั้ง มองระดับแนวรับที่ลึกที่สุดของ SET อยู่ที่ 1,500 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่าพี/อี 15.7 เท่า บนสมมติฐานตัวเลข EPS เดียวกัน นายณัฐชาต กล่าวว่า ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำนักลงทุนให้ถือครองหุ้นไทยเพื่อ Let profit run ได้ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในประเทศเกิดใหม่ที่ปรับตัวได้ดีในช่วงต้นปีนี้ รับการไหลกลับเข้ามาบางส่วนของเงินทุนจากประเทศพัฒนาแล้ว ในฐานะที่เป็นประเทศที่ยังคง Laggard ทั้งในด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและระดับ Valuation ที่ยังอยู่ต่ำโดยเปรียบเทียบ พร้อมทั้งยังไม่มีความเสี่ยงด้านการเข้มงวดของนโยบายการเงินและนโยบายการคลังแต่อย่างใด ในส่วนธีมการลงทุนประจำเดือนมกราคมนี้ แนะนำนักลงทุนถือครองหุ้น 2 กลุ่มเดิมต่อไป นั่นก็คือ 1) กลุ่มที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศที่มีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องและมีปัจจัยกระตุ้นรออยู่ เช่น มาตรการ ช้อปดีมีคืน อาทิ KBANK, BBL, BJC, CPALL, HMPRO, DOHOME, COM7, M, ORI, SPALI, SIRI, BEM, BTS, PLANB, MAJOR, VGI, PFREIT และ 2) กลุ่มหุ้นปันผลสูงที่มีความเชื่อมั่นเกินกว่า 80% ว่าจะให้ผลตอบแทน Total return เป็นบวกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ SCC, TISCO, AP, ADVANC, PTT, INTUCH, BBL, LH, GUNKUL, PTTEP, SIRI, SENA, SC, MAJOR, TOG, PSH สำหรับกรณีที่กองทุน LTF ที่ผู้ลงทุนถือครองมาครบ 7 ปีจะไถ่ถอนนั้น ประเมินว่าในเดือนมกราคมจะมีมูลค่าเม็ดเงินราว 11,000 ล้านบาท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแต่อย่างใด เพราะกองทุนต่างๆ น่าจะเตรียมสภาพคล่องไว้รองรับแล้ว เห็นได้จากการขายหุ้นไทยของนักลงทุนสถาบันช่วงปลายปีที่ขายสุทธิไปกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าสามารถรองรับ LTF ที่จะไถ่ถอนได้เพียงพอแล้ว ที่สำคัญ น่าจะทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ หันกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยได้ในช่วงเดือนมกราคม ดังภาพที่เคยเกิดขึ้นมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมาที่เปิดให้มีการไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบกำหนด

GALACTIC WARS อนิเมชั่น ไซไฟ ฝีมือเด็กไทยเจ้าของช่อง BikMCTH

คงได้เห็นทีเซอร์เปิดตัวกันไปบ้างแล้วสำหรับ Minecraft Short Animation Series GALACTIC WARS ผลงานสุดอลังการล่าสุดจากช่อง BikMCTH ครีเอเตอร์ภายใต้สังกัด Online Station ที่เคยสร้างเสียงฮือฮามาแล้วกับผลงาน พระธาตุลำปางหลวง และ,MISSION TO MARS ผ่านตัวเกมสุดฮิตแนว sand box อย่างเกมMinecraftและผลงานล่าสุดที่รับประกันความว้าว สุดตื่นตาตื่นใจที่รวบรวมเอากองยานเรือ และกองเรือรบ จากของแต่ละจักรวาล เช่น จักรวาล Star Trek จักรวาล Space Battleship Yamato จักรวาล Aoki Hagane no Arpeggio Ars Nova และ จักรวาลของ BikMCTH ที่จะมาปกป้องโลกและต่อสู้กับศัตรูที่ยากจะต่อกร จุดเริ่มต้นของซีรีย์ชุดนี้ ได้แรงบันดาลใจมากจาก บิ๊ก เจ้าของช่อง BikMCTH หลงไหลในการชอบดูหนังและอนิเมชั่นแนวไซไฟ สงครามอวกาศ เลยมีความสนใจที่อยากจะลองทำในสิ่งใหม่ ๆ ที่ต่างออกไปจากเดิม โดยซีรี่ส์ชุดนี้ บิ๊กตั้งใจอยากจะสื่อให้เห็นถึง ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ถึงแม้จะมาต่างจักรวาล แต่สิ่งที่เดียวที่ต้องปกป้องก็คือ บ้าน ของพวกเราเองในซีรีย์ชุดนี้ บิ๊กจะพาเราออกไปท่องจักรวาลเพื่อไปพบกับ เหล่าบรรดากองยานรบ และกองเรือรบต่างๆที่เต็มไปด้วยแสนยายุภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกที่มาของแต่ล่ะจักรวาลได้อย่างชัดเจนและ ซีรีส์ชุดนี้เราจะได้ดูกันตอนแรก ในช่วงกรกฎาคมนี้แน่นอน และจะมีมาให้ชมกันถึง 4-5 ตอน ด้วยคุณภาพสเกล 21:9 ความชัดระดับ4K ทำให้รู้สึกเหมือนได้ชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กันเลยทีเดียว ที่มาพร้อมกับซาวด์ที่ผ่านกระบวนการความคิดโดยการใช้ธีมเพลงที่ต่างกันออกไปของแต่ละที่มาและเสียงเอฟเฟคเฉพาะยานแต่ละลำ ได้อย่างลงตัวที่สุด สำหรับใครที่เป็นแฟนช่อง BikMCTH อยู่แล้วเตรียมรอชมผลงาน GALACTIC WARS นี้ได้เลย และใครที่ชื่นชอบหลงใหลในเรือรบและยานรบบวกกับแนวไซไฟแฟนตาซีในอวกาศยิ่งต้องห้ามพลาด รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน และคราวนี้ Online Station จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเหล่าบรรดากองยานรบ และกองเรือรบต่างๆ แบบที่ไม่มีเจาะลึกแน่นอนยังไงก็ฝากติดตามผลงานซีรี่ย์ชุดนี้ที่รวมความประทับใจหลายๆอย่างของเหล่าบรรดายานรบและเรือรบ ส่วนใครที่ยังไม่เคยได้สัมผัสความอลังการของทุกๆผลงานที่ผ่านมาติตตามได้ที่ช่อง :https://bit.ly/OS_BikMCTHร่วมสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยการข้ามกาแล็กซี่ครั้งนี้ไปด้วยกัน

นักวิทย์ฯ อาจพบดาว “ทาทูอิน” จากหนัง Star Wars อาจมีอยู่ในชีวิตจริงของเรา

การค้นพบครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ผ่านวารสาร Science Advances เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ อาจค้นพบดาวเคราะห์ที่ค้ลายคลึงกับ “ดาวทาทูอิน” โลกแห่งทะเลทรายที่มีอยู่ในภาพยนตร์ Star War ซึ่งถือเป็นบ้านของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ดาวเคราะห์ดวงนี้ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 120 ปีแสง สิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ มองว่า ดาวเคราะห์นี้ คล้ายกับดาวทาทูอิน คือการที่ดาวเคราะห์นี้ โคจรรอบดาวแคระน้ำตาล 2 ดวง ขณะที่ ดาวทาทูอิน มีชื่อเสียงว่า เป็นเมืองที่มีดวงอาทิตย์คู่ นั่นหมายความว่า ดาวทาทูอินนี้ โคจรรอบดาวฤกษ์ 2 ดวงด้วยเช่นกันทั้งนี้ ดาวแคระน้ำตาล มีอีกชื่อว่า ดาวฤกษ์ที่ล้มเหลว เนื่องจากเป็นวัตถุที่มีมวลมากกว่าขีดจำกัดมวลของดาวเคราะห์ แต่ก็ไม่มากพอที่จะเป็นดาวฤกษ์ แม้ว่า ดาวทั้ง 2 ดวง จะมีความสว่างน้อยกว่า ดวงอาทิตย์ แต่แนวคิดเนื่องการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง ในหนัง Star War ทำให้นักวิทยาศาสตร์อดเปรียบเทียบกับดาวทาทูอินไม่ได้นอกจากนี้ เส้นทางการโคจรดาวเคราะห์ดวงนี้ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นดาวเคราะห์ในนิยายวิทยาศาสตร์ เพราะว่า มันโคจรเป็นมุมแหลม 90 องศา ไม่ได้โคจรเป็นระนาบเดียวกับดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่เราเคยเห็น “ดาวเคราะห์โคจรรอบดาวคู่เหล่านี้ เป็นตัวกระตุ้นจินตนาการ พวกมันมีอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์มานานหลายสิบปี ก่อนที่เราจะรู้ว่า พวกมันอาจมีอยู่ในชีวิตจริงด้วยซ้ำ และยังเป็นดาวเคราะห์ประเภทที่แตกต่างจากระบบสุริยะของเรา” โธมัส เบย์ครอฟท์ ผู้เขียนงานวิจัย กล่าว การค้นพบนี้ อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติในอนาคตได้แหล่งข้อมูลอ้างอิง:Scientists may have discovered an unusual planet, just like Luke Skywalker’s home - AP

ผู้กำกับ The Last Jedi เผยความในใจ อยากกลับมาทำหนังในจักรวาล Star Wars อีกครั้ง

ถึงกระแสตอบรับ ‘Star Wars: The Last Jedi’ จะออกมาค่อนข้างเสียงแตก มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ตัวผู้กำกับอย่าง ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) ก็ออกมาเปิดเผยว่าเขาอยากกำกับหนังในจักรวาลนี้เรื่องอื่น ๆ ต่อไปอีกในอนาคต จอห์นสันกล่าวเรื่องนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Variety ช่วงโปรโมต ‘Glass Onion: A Knives Out Mystery’ โดยบอกว่าเขายังรู้สึกกระตือรือร้นที่จะกลับไปยังจักรวาลอันไกลโพ้น เพราะการทำหนังในจักรวาล Star Wars คือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของตัวเอง ถึงขนาดวิงวอนต่อพระเจ้าขอให้สักวันได้กลับไปทำหนังสักเรื่องในจักรวาลนี้กันเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจอห์นสันจะมีโอกาสทำตามสิ่งที่เจ้าตัวตั้งความหวังเอาไว้หรือไม่ เพราะล่าสุดโปรเจกต์ไตรภาคที่วางไว้ว่าจะเล่าเรื่องราวของตัวละครใหม่ ๆ ในมุมไกลโพ้นของจักรวาล Star Wars ที่ยังไม่เคยมีใครกล่าวถึงก็ถูกยกเลิกไปแล้วด้วย รับชม ‘Star Wars: The Last Jedi’ รวมถึงหนังและซีรีส์อื่น ๆ ของแฟรนไชส์นี้ได้ที่ Disney Plus Hotstar อ้างอิง: ign

ปรากฏการณ์แส้ม้า ในห่วงโซ่อุปทาน (Bullwhip Effect in Supply Chain)

(Photo by lalesh aldarwish from Pexels)ปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดการผันผวนในการบริหารงานโซ่อุปทาน คือ ในกรณีที่สินค้าขาดหรือสินค้าล้นตลาด เหตุผลก็เพราะเราไม่สามารถรู้ความต้องการของลูกค้า หรือความต้องการถูกแปรปรวนหรือผันผวน ก็ด้วยเพราะการที่โซ่อุปทาน (Supply Chain) มีหลายขั้นตอน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดบ้าง เกินบ้าง ก็คือ แต่ละหน่วยงานในโซ่อุปทาน ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างตัดสินใจ ไม่ทำงานเป็นทีมและข้อมูลความต้องการของลูกค้า ไม่สามารถไหลมาถึงปลายทางภายในองค์กรได้ปัจจัยที่ส่งผลกับ ปรากฏการณ์แส้ม้า (Bullwhip Effect)1. การประมาณการความต้องการ (Demand Forecasting)(Photo by Andrea Piacquadio from Pexels)การประมาณการความต้องการ มีความสำคัญก็เพราะถ้าตลอดทาง ถ้าเราไม่รู้ความต้องการต้นทาง (ของลูกค้า) ทำให้การคาดการณ์ของเราเกิดจากการคาดเดา ถ้าผู้ผลิตปลายทาง สามารถรู้ได้ว่าต้นทาง (ลูกค้า) ต้องการเท่าไหร่ มันก็จะลดความผันผวนลงได้แต่ปัจจุบันนี้ เราไม่รู้ลูกค้า (End User Requirement) ว่าต้องการอะไร เราจะรู้แต่เพียงว่า Retail ต้องการ อะไร Wholesales ต้องการอะไร ขบวนการนี้จึงก่อให้เกิดความผิดเพี้ยนจากการประมาณความต้องการของสินค้า วิธีแก้ไขปัญหาแบ่งปันข้อมูล ระบบ IT ต้องเข้ามาช่วย เช่น ลูกค้าหยิบสินค้าปุ๊บสามารถรู้ได้เลย ซึ่งเป็นประวัติการณ์ซื้อจาก End User จริงข้อมูลจากจุดขาย (Point of Sales) ต้องแชร์กันข้อมูลที่แม่นยำที่สุด จะมาจากข้อมูลที่อยู่ใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด (ที่เรียกว่า ปรากฏการณ์แส้ม้า เพราะ เมื่อเราสะบัดแส้ จะเกิดคลื่น ซึ่งคลื่นที่ติดกับตัวเราจะใหญ่ แล้วจะเล็กลงๆๆ นั่นก็คือความแปรปรวนของความต้องการของลูกค้า) 2. การปันส่วนสินค้า (Product Sharing)(Photo by Kaboompics .com from Pexels)เมื่อมีความต้องการสินค้าเข้ามามากกว่ากำลังการผลิต หรือความสามารถการผลิตที่เรามี ซึ่งยอดซื้อที่เรารับเข้ามาจะบิดเบียนความเป็นจริงและเมื่อเราเอาข้อมูลการสั่งซื้อชุดนี้ เพื่อไปเตรียมการสั่งซื้อวัตถุดิบต่างๆ อาจจะผิดพลาดได้ เพราะข้อมูลสั่งซื้อที่ใช้ ไม่ได้มาจากความเป็นจริง วิธีแก้ไขปัญหาเราต้องดูประวัติการซื้อขายของลูกค้าแต่ละราย แทนที่จะดูจากยอดคำสั่งซื้อ แล้วจึงนำมาปันส่วน3. การจัดชุดคำสั่งซื้อ (Order Batching)(Photo by Frans Van Heerden from Pexels)บางครั้งลูกค้าสั่งของเข้ามา ซึ่งยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนที่เราจะดำเนินการส่งของ เราจึงกักตุนสินค้าไว้ ไม่ทำการส่ง โดยไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบ ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าของยังขาดอยู่ จึงอาจจะมีการสั่งของซ้ำ วิธีแก้ไขปัญหาหาขนาดของการจัดส่งที่หลากหลายนำระบบ IT เข้ามาใช้จ้าง Out Source เพื่อ ตอบสนองความความต้องการ (Provide Service) ให้เราได้หลากหลาย4. การตั้งราคาสินค้า (Product Pricing)(Photo by Miguel Á. Padriñán from Pexels)เนื่องจากการเลือกสินค้าในปัจจุบัน ลูกค้าอาจจะยังไม่ซื้อสินค้านั้นโดยทันที ถ้าลูกค้าไม่มั่นใจว่า สินค้าชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ถูกที่สุด ที่ไหนๆ ก็ไม่ถูกไปกว่านี้อีกแล้ว มันก็เลยกลายเป็นว่าความต้องการของลูกค้าอาจจะไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริง เพราะว่าลูกค้าจะรอเพื่อให้ได้ของที่ถูกที่สุด เพราะฉะนั้นปริมาณสินค้าที่อยู่บนชั้นวางสินค้า อาจไม่ได้สะท้อนภาพความต้องการที่แท้จริงวิธีแก้ไขปัญหาบอกไปเลยว่าที่นี่ถูกที่สุด การันตีให้เลย ทำให้เขาเกิดความมั่นใจว่าสินค้าเราถูกแล้ว ใช้แล้ว ไม่โดนหลอกแน่ๆ5. การวัดผลการดำเนินงานของการทำงาน(Photo by Lukas from Pexels)ในกระบวนการการบริหารการจัดการทั้งหมดตั้งแต่สั่งซื้อสินค้า ผลิต และส่งถึงผู้บริโภค ถ้าแต่ละกระบวนการแย่งกันทำให้เกิด Performance ที่ดีจะกลายเป็นดีใครดีมัน มันไม่ทำให้เกิด Performance ที่เป็นองค์รวม แต่ละหน่วยงานก็จะมองแค่ส่วนงานของเขา ทำให้แค่ส่วนงานของตนเองดีอย่างเดียว ทำให้ข้อมูลบิดเบือนจากความเป็นจริง วิธีแก้ไขปัญหาใช้เป้าหมายขององค์กรเป็นส่วนรวม เป็นภาพใหญ่ และให้แต่ละฝ่ายทำอย่างไรก็ได้ ให้ไปสนับสนุนเป้าหมายหลักขององค์กร โดยให้เห็นถึงความเกี่ยวเนื่องกันของเป้าหมายใหญ่กับเป้าหมายย่อยของแต่ละแผนก (อาจจะทำ KPI)ให้ทุกคนมองเห็นตลอดโซ่อุปทาน (Supply Chain) ว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งกิจกรรมในโซ่อุปทานนั้น จะไม่เป็นอิสระต่อกัน เพราะเวลาลูกค้ามองเรา มองว่าตัวองค์กรไม่ดี ไม่ใช่แผนกไหนหรือหน่วยงานไหนไม่ดี เราจึงต้องทำให้เกิด Supply Chain Collaboration หรือการร่วมมือกันในโซ่อุปทานนำแนวคิดของบัญชีมาใช้ ที่เรียกว่า ABC (Activity Base Costing) คิดต้นทุนตามฐานกิจกรรม สรุปก็คือ ประเด็นสำคัญในการแก้ไข ปรากฏการณ์แส้ม้า ในห่วงโซ่อุปทาน (Bullwhip Effect) คือ การบริหารจัดการข้อมูล (Information Management) อ่านบทความทั้งหมดได้ที่  นิยมเล่าเป็นเรื่องผู้เขียนเป็นเจ้าของ Blog : http://businessconnectionknowledge.blogspot.com ครับ   

[ทริคนักตัดต่อ] ทำ Effect เปลี่ยนฉากแบบเท่ ๆ

What is Premiere pro ?Premiere pro หรือย่อ ๆ ว่า Pr เป็นโปรแกรมสำหรับตัดแต่งวิดีโอในเครือ Adobe บริษัทเจ้ายักที่พัฒนาโปรแกรมด้านกราฟิกมาหลายรูปแบบทั้ง Photoshop ไว้แต่งรูป หรือ illustrator ไว้วาด ออกแบบรูปในเชิงตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ โดยเจ้า Premiere pro นับว่าเป็นโปรแกรมตัดต่อที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง เพราะมีลักษณะการใช้งานที่ไม่ยากจนเกินไป แถมมีประสิทธิภาพในการแต่งวิดีโอได้ค่อนข้างสูง นั้นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมมันจึงฮิตกันขนาดนี้ แด่นักตัดต่อทุกท่าน ไม่ว่าจะหน้าเล็ก หน้าใหม่ หน้าใหญ่ ไข่แดงจากที่ไหนก็ตามยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ทริคสำหรับนักตัดต่อและในทริคนี้ผมจะมาเสนอวิธีการทำ Effect เปลี่ยนฉากเท่ ๆ ง่าย ๆ กัน (หรือเราเรียกกันว่า Transition)https://www.youtube.com/watch?v=GpIg9Isr0co นี่คือตัวอย่างของคำว่า Transition ครับ เป็นวิดีโอของข้าพเจ้าเองแต่ในวันนี้เราจะมาเอา Transition ไสลด์ไปด้านซ้าย ขวา แบบเบสิคก่อน อยากได้เพิ่มเติมก็บอกได้นะ 1. ขั้นแรกนำ Footage ของเราเข้าสู่โปรแกรมให้เรียบร้อย โดยจะมีสองวิดีโอชนกัน2. จากนั้นไปที่ New Item - Adjustment Layer3. ตั้งค่า Adjustment Layer ตามแต่ขนาดวิดีโอของเรา4. จากนั้นลากมาใส่ไว้ด้านบนของวิดีโอเรา5. ลากมาไว้กึ่งกลางช่วงที่เราอยากให้มันมี Effect เปลี่ยนฉาก6. พิมพ์หาใน Effect ว่า Cross Dissolve7. ลากมาใส่กึ่งกลางระหว่างสองวิดีโอ Effect ตัวนี้จะทำให้การเปลี่ยนฉากค่อย ๆ Fade เข้าหากันเป็นต้น8. จากนั้นพิมพ์หา Effect ว่า Offset 9. ลากมาใส่ Adjustment Layer เอฟเฟคตัวนี้คือ จะทำการดันภาพวิดีโอเราซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายตามแต่ต้องการ10. ติ๊กช่องรูปนาฬิกาที่วงสีแดงไว้ครับ จากนั้นสร้างจุด Keyframe ไว้สองจุดดังรูป11.โดย Keyframe ตัวแรกนั้นไม่ต้องเปลี่ยนการตั้งค่าอะไร แต่คีย์ที่สองให้เราลากตัวเลขตามแต่ว่าเราจะให้มันเปลี่ยนฉากไวแค่ไหน ก็ตัวเลขน้อยแค่นั้น ทั้งนี้ก็คืออยู่กับว่าเราให้ Layer Adjustment นั้นยาวขนาดไหนด้วยนะครับ12. Effect ก็จะทำงานของมันแล้ว เป็นการเปลี่ยนฉากซ้ายไปขวา แบบเท่ ๆ (แต่ถ้าปรับด้านขวาจะเป็นขึ้น - ลง นะครับ ตรงนี้ต้องลองเล่นดูถึงจะเข้าใจได้)13. จากนั้นเพิ่มความคลูเข้าไปอีกโดยการไปที่ Effect - Directional Blur14. ลากมาใส่ Adjustment Layer15. กระทำเเหมือนตะกี้เลย แต่จะสร้าง Keyframe ไว้สองจุดในช่วงแรกดังรูป สองจุดช่วงหลังดังรูปโดยสองจุดช่วงแรกจุดแรกตั้งค่าไว้ที่ 0จุดที่สองตั้งค่าไว้ที่ 10 จุดที่สามตั้งค่าไว้ที่ 10จุดสี่ตั้งค่าไว้ที่ 0เหตุต้องทำแบบนี้เพราะเราต้องการเวลามันสไลด์เปลี่ยนฉาก ให้มีเบลอ ๆ มานิดนึง16. จะเห็นได้ว่าตอนมันเปลี่ยนฉากมีเบลอ ๆ เข้ามาแล้วนั้นเอง17. การใช้ Offset นี้ไม่สามารถบอกได้ว่า ต้องตั้งค่า เฟรมสุดท้ายที่ตัวเลขใด เราต้องค่อย ๆ เลื่อนหาจุดที่ลงตัวเองเองนะ18. ความไวจะอยู่ที่เจ้านี้ ปรับลดให้พอเหมาะตามความต้องการ19. เป็นอันเสร็จพิธีเพียงเท่านี้เราก็จะได้ Effect เปลี่ยนฉากเท่ ๆ แก่วิดีโอเราแล้ว ทั้งนี้มันจะแอดวานซ์กว่าบทความก่อน ๆ หน่อย เรื่องของการตั้ง Keyframe ทั้งนี้ต้องลองไปเล่นกันดูนะ แล้วจะร้องอ๋อเลยสุดท้ายขอฝากเพจหน่อย Funfrom production เป็นเพจทำวิดีโอ ทำหนัง ทำนู้นนี้นั้นแหละลิงค์ด้านล่างนี้เป็นวิดีโองานแต่ ที่ข้าพเจ้าเองนำมาตัดแต่งให้ดูนี่แหละhttps://www.facebook.com/626028341230797/videos/181145899996399/ สำหรับทริคครั้งนี้ก็หมดแล้ว ไว้พบกันใหม่ทริคต่อไปครับ อย่าลืมติดตามกันด้วยล่ะ รูปภาพด้วย : ข้าพเจ้าเอง

เลเซอร์ “Death Star” ทำลายดวงดาวแบบ “Star Wars” นักวิทย์ฯ จีนอ้างทำสำเร็จแล้ว

Death Star ควบรวมลำแสงเลเซอร์ ทั้งหมด 8 สาย แล้วยิงออกไปเป็นเส้นเดียว ทำลายดาวอัลเดรันทั้งดวง ฉากนี้ กลายเป็นที่จดจำของใครหลายคน ที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันโหดร้ายของจักรวรรดิกาแลกติกการทำลายล้างดาวทั้งดวง ด้วยการควบรวมเลเซอร์เข้าด้วยกัน อาจกลายเป็นจริงในอนาคต เมื่อนักวิทยาศาสตร์จีน อ้างว่า พวกเขาคิดค้นหลักการทำงานของอาวุธนี้ได้แล้ว ตามการรายงานของ Live Science---นักวิทย์ฯ จีน เผยสร้างอาวุธเลเซอร์บีมสำเร็จ---แม้จะยังไม่แน่ชัดว่า ทีมวิจัยได้แรงบันดาลในการสร้างเลเซอร์บีมมาจากภาพยนตร์ Star Wars หรือไม่ แต่นักวิทยาศาสตร์จีน ออกมากล่าวว่า พวกเขาได้สร้างอาวุธคลื่นไมโครเวฟชนิดใหม่ ที่เอาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงหลายตัวรวมเข้าด้วยกัน แล้วส่งพลังงานทั้งหมดไปที่เป้าหมายเดียวกันระบบการทำงานของอาวุธนี้ ประกอบด้วยเครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟ ประจำตามจุดต่าง ๆแต่ละเครื่องจะยิงลำแสงด้วยการซิงโครไนซ์ที่มีความแม่นยำสูง แล้วแสงเหล่านี้จะรวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นลำแสงอันทรงพลัง และโจมตีไปยังเป้าหมายเดียว---หลักการทำงานอาวุธเลเซอร์---ฟังแล้วดูเหมือนจะง่าย แต่เรื่องนี้ยากกว่าที่คิด เพราะคลื่นไมโครเวฟ เป็นลำแสงพลังงานแคบ ที่จำเป็นต้องจัดตำแหน่งอย่างแม่นยำ เพื่อนำมาบรรจบกัน นั่นหมายความว่า จังหวะเวลาที่แสงเหล่านี้ถูกยิงออกมา จะมีเวลาควบคุมเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจากข้อมูลของทีมวิจัย ระบุว่า เครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟแต่ละตัว ยังต้องวางอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งอย่างแม่นยำ โดยจะต้องอยู่ภายในระยะคลาดเคลื่อนได้แค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ว่าระบบนำทางดาวเทียม BeiDou ของจีน ระบุตำแหน่งที่แม่นยำได้ภายในระยะ 1 เซนติเมตร หรือ 0.4 นิ้ว ซึ่งนั่นยังไม่เพียงพอสำหรับอาวุธชนิดใหม่นี้ ทีมวิจัยจึงได้ติดตั้งอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งด้วยเลเซอร์ ไว้บนเครื่องส่งแต่ละตัว เพื่อให้ได้ระบบกำหนดตำแหน่งที่มีความแม่นยำในระดับมิลลิเมตร และเครื่องส่งต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์ด้วย เพราะหากพื้นผิวมีการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความ ตัวปล่อยคลื่นจะไม่ได้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง และอาวุธจะไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้นี่ไม่ใช่ความยากเพียงเรื่องเดียวของการสร้างเลเซอร์ Death Star เพราะการยิงแบบซิงโครไนซ์ จะต้องเกิดขึ้นภายใน 170 พิโควินาที หรือเท่ากับ 170 ในสัดส่วน 170 ล้านล้านวินาที หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เวลามันสั้นแค่ไหน คอมพิวเตอร์ทั่วไปใช้ระยะเวลา 330 พิโควินาทีในการประมวลผล 1 รอบแต่ทีมวิจัยได้เชื่อมต่อแพลตฟอร์มส่งสัญญาณโดยใช้ใยแก้วนำแสง เพื่อให้มั่นใจว่า แสงเลเซอร์ทั้งหมดจะซิงโครไนซ์กันได้อย่างเหมาะสม และควบคุมจากระยะไกลได้---เลเซอร์ Death Star ในชีวิตจริง ยังคงห่างไกล---South China Morning Post รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จีนในโครงการนี้ อ้างว่า กำลังรวมพลังงานของลำแสงไมโครเวฟที่มาบรรจบกัน มีผลรวมเท่ากับ 1+1 มากกว่า 2 หมายความว่า คลื่นไมโครเวฟ 2 คลื่น เมื่อรวมกัน จะทรงพลังมากกว่า 2 เท่าตัวนั่นเอง แม้ว่าแนวคิดนี้จะขัดกับกฎการอนุรักษ์พลังงาน (Conservation of energy)ถึงกระนั้น ทีมวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการควบรวมลำแสงคลื่นไมโครเวฟได้ในสภาวะแวดล้อมที่ควบคุมได้ แต่สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย ซึ่งเรื่องนี้ เป็นความท้าทายอย่างมาก สำหรับเครื่องมือเทคโนโลยีใด ๆ ที่จำเป็นต้องพึ่งพาความแม่นยำสูงในระดับนี้หากจะพูดง่าย ๆ ก็คือ อาวุธเลเซอร์ Death Star ที่จะสามารถทำลายล้างดาวดวงหนึ่งได้ในชีวิตจริง ยังคงเป็นเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากยิ่งนักแปล-เรียบเรึยง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์แหล่งข้อมูลอ้างอิง:https://www.livescience.com/technology/engineering/chinese-scientists-claim-they-have-built-a-death-star-inspired-beam-weaponhttps://www.scmp.com/news/china/science/article/3284794/chinese-scientists-say-they-have-made-converged-energy-beam-weapon-reality

[รีวิวเกม] Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp สงครามถล่มเมืองฉบับน่ารัก

หนึ่งในเกมที่ได้รับผลกระทบเพราะสงครามจริง ๆ ก็มีอยู่บนโลกนี้ เพราะว่าหลังจากเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ Nintendo ตัดสินใจเลื่อนวันวางขาย Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp ออกไปจากเดิมต้องออกต้นปี 2022 เลื่อนยาวมาออกปี 2023 เรียกว่ารอกันข้ามปีเลย เหตุผลก็ง่าย ๆ เพราะเกมมันมีธีมการทำสงครามบุกเมือง ทำให้ปู่นินกังวัลว่ามันจะส่งผลกระทบกับคนที่เล่นโดยเฉพาะเด็ก ๆ ทำให้ทางค่ายตัดสินใจเลื่อนยาว แม้ว่าตอนนี้สงครามจริงยังไม่จบแต่แฟน ๆ ก็จะได้เล่นกันแล้ว โดยตามชื่อที่มันเป็นภาครวมฮิตเกม Advance Wars 2 ภาค ที่เคยออกบน Gameboy Advance มาทำภาพใหม่หมดวางขายบน Nintendo Switch ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ส่วนเรื่องราวใน Advance Wars จะเกิดระหว่างสงครามที่มีการรบกันของ 4 ประเทศหลัก ตัวเอกจะอยู่กับกองกำลังของประเทศ Orange Star ที่ถูกรุกรานจากเพื่อนบ้านนาม Blue Moon ที่เกิดต่อเนื่องจนถึงภาค 2 ความดีงามคือภาครีเมกนี้จะมีการลงทุนสร้างคัตซีนเป็นการ์ตูนแอนิเมชันมาให้ชมด้วย ทำให้มันดูดีกว่าต้นฉบับบน GBA มาก กราฟิกปรับใหม่หมดแบบยกเครื่อง แน่นอนว่าในเมื่อมันเป็นการีเมกยกเครื่องใหม่ในแง่ของกราฟิก ทำให้ภาพมันแตกต่างจากต้นฉบับบน Gameboy Advance มากแต่ยังคงอยู่ในรูปแบบเกมเพลย์ 2 มิติ แต่ทุกอย่างจะออกแบบมามีมิติกว่าเดิมที่ชอบมากคือกราฟิกในส่วนของแอนิเมชันที่ใส่มาแบบจัดเต็มมาก โดยเฉพาะตอนใช้ท่าไม้ตายจะตัดภาพเป็นการ์ตูนมาให้ชมกันเลยทำให้มันแตกต่างจากต้นฉบับมาก นอกจากนนี้มีการลงทุนใส่คัตซีนมาใหม่ทั้งหมด รวมทั้งมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาตลอดทำให้ในแง่การนำเสนอถือว่าไม่ได้ดูเชยอะไรแม้ว่าหากเทียบกับมาตรฐานเกมในปัจจุบันมันจะดูธรรมดาไปหน่อย อีกส่วนที่ทำได้ดีตามมาตรฐานคือเพลงประกอบที่ไม่ได้มาแนวสงครามที่เน้นความรุนแรงอะไร แม้จะมีธีมเกี่ยวกับกองทหารแต่ก็เหมือนกับการชมการ์ตูนเด็กที่มาแนวทหารมากกว่า เกมเพลย์ยังเหมือนเดิม รูปแบบการเล่นส่วนนี้ยังคงเหมือนเดิมที่เป็นเกม RPG แนววางแผนการรบเทิร์นเบสแบบใส่คำสั่งแล้วเดินคนละตาแบบเดียวกับต้นฉบับไม่เปลี่ยนแปลง และทั้ง 2 ภาคที่มารวมฮิตก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากนักในส่วนของเกมเพลย์หลัก ผู้เล่นจะได้เลือกบังคับกองทัพของเราไปต่อสู้กับศัตรูบนฉากที่แบ่งออกเป็นช่อง ๆ เหมือนหมากรุก ส่วนตัวละครกองทัพของเราจะมีหลากหลายรูปแบบทั้งกองทหารราบธรรมดาที่มาพร้อมปืนกล หรือรถถังหลากหลายประเภทที่มีทั้งยิงระยะใกล้และระยะไกล รวมทั้งยังมีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์และกองเรือ ที่สามารถเดินทางได้รวดเร็วและข้ามทะเล, แม่น้ำหรือภูเขาได้รวมทั้งยังโจมตีได้ระยะไกลว่า นอกจากนี้ยังมีประเภทที่เป็นยานพาหนะที่เราสามารถขนส่งทหารราบขนส่งไปจุดที่ไม่สามารถไปได้ ไม่ใช่เกมเด็ก ๆ วางแผนกลยุทธ์ หากมองแค่ภาพมันจะเหมือนเกมสำหรับเด็ก หรือแนววางแผนที่เล่นง่ายเป็นเกมแก้เซ็งฆ่าเวลา แต่ความจริงแล้วมันมีความยากพอตัวไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนกราฟิก เพราะว่าเกมเพลย์แม้จะเรียบง่ายแค่ต่อสู้กำจัดศัตรูหรือยึดเมือง แต่เมื่อเล่นจะพบว่าศัตรูในเกมมีความฉลาดและสามารถวางกลยุทธ์ที่ซับซ้อนชนิดทำให้ผู้เล่นปวดหัวจนแพ้ได้ง่าย ๆ ฉากในเกมมีความซับซ้อนบางครั้งมีจุดที่ผู้เล่นต้องระวังไม่เช่นนั้นจะโดนลอบโจมตีได้ นอกจากนี้การเติมพลังในซีรีส์นี้จะใช้การเดินกลับไปที่เมืองที่เรายึดได้เพื่อเติมกองกำลังในทัพ ทำให้การต่อสู้มีการเดินหน้าลุย และยังมีส่วนที่ผู้เล่นต้องถอยทัพเพื่อหาทางกลับเมืองไปเติมพลัง แถมยังมีบางฉากที่จะเล่นกับความมืดที่ผู้เล่นจะมองไม่เห็นในบางจุดทำให้มีโอกาสโดนซุ่มโจมตีได้ ทำให้มันมีความหลากหลายและสนุกกว่าที่คาดไว้มาก ส่วนของใหม่ที่เสริมเข้ามาในภาค Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp นอกจากกราฟิกที่เสริมเข้ามาจนแทบจะเป็นเกมใหม่แล้วยังมาพร้อมโหมดที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างฉากได้เอง แล้วเอามาเล่นแข่งกันได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดเล่นกับเพื่อนผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ได้ด้วย ทำให้มันมีอะไรให้ทำมากว่าต้นฉบับ สำหรับการกลับมาอีกครั้งของซีรีส์เกมเก่าแก่อย่าง Advance Wars 1+2 Re-Boot Camp ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาดมาก มีการอัปเกรดกราฟิกใหม่แต่ยังอยู่ในกรอบของเดิมไม่ได้ฉีก ทำให้มันยังคงดูคลาสสิกแถมด้วยความรุนแรงก็ไม่มีแม้จะเป็นเกมแนวสงครามก็ตาม ใครอยากเล่นเกมแนววางแผนการรบที่สนุกแนะนำให้ไปหามาเล่นได้เลย

มหาวิบัติสงครามซี World War Z

เรื่องย่อมหาวิบัติสงครามซี World War Z ชื่อเรื่อง มหาวิบัติสงครามซี World War Zประเภท แอคชั่น / ระทึกขวัญผู้กำกับมาร์ค ฟอร์สเตอร์นำแสดงโดย มิรีลล์ เอโนส, แบรด พิตต์, ดาเนียลล่า เคอร์เทส, เจมส์ แบดจ์ เดล, ลูดี โบเคนความยาว 111 นาที

สวยทุกคู่! อาดิดาส ปล่อยคอลเลคชั่นพิเศษ ฉลอง40 ปี STAR WARS : THE EMPIRE STRIKES BACK

อาดิดาส ออริจินอลส์ ปล่อยคอลเลคชั่นสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี Star Wars : The Empire Strikes Back นำเสนอคาร์แรคเตอร์ของ 4 ตัวละครโปรดผ่านสนีกเกอร์ 4 โมเดลที่เหล่าสาวกต้องเก็บสะสม เดินทางมาครบ 40 ปีแล้ว สำหรับ Star Wars : The Empire Strikes Back ภาพยนตร์ลำดับที่สองแห่งอาณาจักรสตาร์วอร์ส หนึ่งในภาพยนตร์ชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่นี้ อาดิดาส ออริจินอลส์ ได้รังสรรค์รองเท้าคอลเลคชั่นพิเศษสุดลิมิเต็ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครดังในภาพยนตร์ 4 ตัวคือ แลนโด คาลริสเซียน (Lando Calrissian), โบบา เฟทท์ (Boba Fett), ฮาน โซโล (Han Solo) และ ชิวแบคคา (Chewbacca) เริ่มที่สนีกเกอร์คู่แรก เป็นการนำเสนอเครื่องแต่งกายของแลนโด คาลริสเซียน ผ่านโมเดลNMD_R1 V2ที่โดดเด่นด้วย upper ผ้าเมชสีดำตัดกับสีฟ้าอ่อน และรายละเอียดฟอยล์สีทองเหนือ midsole พื้นบูสต์ นอกจากนี้ยังมี lace jewel และ sockliner ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ รวมถึงรูปแลนโด คาริสเซียนบนลิ้นรองเท้าด้วย สำหรับสนีกเกอร์คู่ที่สองนั้นเป็นของนักล่าค่าหัวอวกาศอย่าง โบบา เฟทท์ ที่ทางอาดิดาสเลือกใช้โมเดลTop Tenซึ่งเป็นรองเท้าที่ถูกปล่อยออกมาในปี 1979 หรือเพียงหนึ่งปีก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกฉาย ซึ่งดีไซน์มินิมอลของ Top Ten ก็ทำให้มันเหมาะที่จะนำเสนอลุคของนักล่าค่าหัวคนนี้เป็นที่สุด โดยส่วน upper วัสดุหนังเป็นสีมะกอกตัดกับเส้นสีแดงและน้ำเงินเช่นเดียวกับชุดเกราะของโบบา เฟทท์ เพิ่มกิมมิกให้ดูมีฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยกระเป๋าบริเวณข้อเท้าที่ซ่อนประโยคเด็ดของเฟทท์อย่าง Hes no good to me dead. เอาไว้ นอกจากนี้ยังมี sockliner ที่ออกแบบมาเป็นรูปโบบา เฟทท์กำลังยืนอยู่ข้างกองทหารของดาร์ธ เวเดอร์ที่ฐานของแลนโด คาริสเซียนด้วย ส่วนสนีกเกอร์คู่ที่สามเป็นของฮาน โซโล อีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในภาพยนตร์ตระกูลสกายวอล์คเกอร์ นำเสนอความเด็ดขาดของแม่ทัพ Millennium Falcon ผ่านดีไซน์เรียบหรูของZX 2K BOOSTที่ใช้สีดำบริเวณ upper ตัดกับสีแทนเช่นเดียวกับชุดของนักสำรวจในภาพยนตร์ เสริมด้วยเข็มขัดหนังที่ซ่อนข้อความ Never Tell Me the Odds และ Its Not Wise to Upset a Wookiee เชื่อมกับหัวเข็มขัดขนาดใหญ่ที่สื่อถึงความพร้อมในการต่อสู้ ปิดท้ายด้วย sockliner รูปฮาน โซโล เชือกรองเท้า และ lace jewel ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ปิดท้ายคอลเลคชั่นด้วยอีกหนึ่งตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง ชิวแบคคา ที่อาดิดาสเลือกใช้โมเดลRivalry Hiในการเชิดชูความซื่อสัตย์ของเผ่าพันธุ์ Wookiee ขนาด 7 ฟุต 5 นิ้วตัวนี้ นอกจากขนสีน้ำตาลอ่อนที่ปกคลุมส่วน upper แล้ว ยังมีเข็มขัดของชิวแบคคาที่เชื่อมกับลิ้นรองเท้ารูปชิวแบคคาด้วย นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอยู่ที่รูปบน sockliner เชือกรองเท้าสีขน wookiee และ lace jewel แบบพิเศษ เพื่อให้คอลเลคชั่นนี้มีความเอ็กซ์คลูซีฟมากยิ่งขึ้น รองเท้าแต่ละคู่จะมาพร้อมกับกล่องรองเท้าแบบพิเศษและโปสเตอร์สำหรับเก็บสะสม ซึ่งโปสเตอร์ทั้ง 4 แบบถูกดีไซน์มาให้เรียงต่อกันเป็นภาพใหญ่ได้อีกด้วย พบกับ Star Wars : The Empire Strikes Back ได้ที่ร้านอาดิดาส ออริจินอลส์ สยามเซ็นเตอร์ เท่านั้น โดยมีวันวางจำหน่ายและราคาตามรายละเอียดด้านล่างนี้ - LANDO: NMD_R1 วันที่ 18 กันยายน 2563 ราคา 6,500 บาท - BOBA FETT: TOP TEN HI วันที่ 25 กันยายน 2563 ราคา 3,800 บาท - HAN SOLO: ZX 2K BOOST วันที่ 9 ตุลาคม 2563 ราคา 6,500 บาท - CHEWBACCA: RIVALRY HI วันที่ 22 ตุลาคม 2563 ราคา 5,200 บาท ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/adidasTH และทางอินสตาแกรม @adidasThailand ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ADIDASxSTAR WARS!! กำเนิดรองเท้าสุดคูล LUKE SKYWALKER STAN SMITH อย่างคูล!! ภาพแรก สนีกเกอร์สุดเฟี้ยว NIKE SB DUNK HIGH "DORAEMON" -------------------------------- ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก คลิกที่นี่ ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station คลิกที่นี่

LANEIGE Clear C Advanced Effector EX เคล็ดลับผิวกระจ่างใส

          สำหรับสาว ๆ ที่ประสบกับปัญหา ผิวหน้าไม่กระจ่างใสเปล่งประกายมีออร่า ไม่ชุ่มชื้น โทนสีผิวไม่สม่ำเสมอ และไม่เนียนนุ่ม เราพบกับตัวช่วยดี ๆ อีกหนึ่งตัวช่วย ที่อยากแนะนำให้กับสาว ๆ  คือ "LANEIGE Clear C Advanced Effector EX" แบรนด์จากเกาหลี ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสูตรใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากสูตรเดิม เพื่อตอบโจทย์กับผิวที่มีปัญหาดังกล่าว          "LANEIGE Clear C Advanced Effector EX" สูตรปรับปรุงใหม่ล่าสุดนี้ ด้วยพลังแห่งวิตามินซีที่เข้มข้นถึง 92.5% จากสารสกัดซูเปอร์เบอร์รี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยตัวนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซีทั่วไปถึง 4 เท่า เพราะฉะนั้น สาว ๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากวิตามินซีอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว ตัวนี้ยังช่วยในเรื่องผิวสะอาดกระจ่างใสเปล่งประกายอย่างมีออร่า และด้วยสูตรน้ำ จึงทำให้ซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ          LANEIGE Clear C Advanced Effector EX สูตรปรับปรุงใหม่นี้ จะมาพร้อมกับสำลีเนื้อนุ่มพิเศษ มี 2 ด้าน คือ ด้านที่เป็นรอยคลื่น และด้านเรียบ การใช้งานเพียงหยดลงบนสำลี ใช้เป็นประจำทุกวัน เช้าและกลางคืน เช็ดให้ทั่วใบหน้าในช่วงเช้า ใช้สำลีด้านที่เป็นรอยคลื่นเช็ดให้ทั่วใบหน้า เป็นการทำความสะอาดผิวหน้า ก่อนการแต่งหน้า ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวกระจ่างสดใสตลอดวันในช่วงกลางคืน ใช้สำลีด้านเรียบเช็ดทั่วใบหน้า และใช้การตบเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า ช่วยให้สารต้านอนุมูลอิสระซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว คงความชุ่มชื้นตลอดคืน(ข้อมูลจาก : laneige)LANEIGE Clear C Advanced Effector EX บรรจุอยู่ภายในกล่อง เรียบหรูดูแพง ฝากล่องมีภาษาเกาหลี ภายในประกอบด้วยตัวขวดผลิตภัณฑ์ LANEIGE Clear C Advanced Effector EX และสำลีสำหรับเช็ดผิวหน้าขวดค่อนข้างใหญ่ เรียบหรูดูแพง เป็นแก้วนะคะ ปริมาณ 250 ml เป็นแบบหัวกดปั๊ม ทำให้ใช้งานสะดวกสำลีเนื้อนุ่มพิเศษ บรรจุสำลีทั้งหมด 100 แผ่น หลังกล่องระบุวิธีใช้อย่างละเอียด ทิศทางการเช็ดหน้าเช้า และกลางคืน(เครดิตรูปจาก : UnMe)          จากการทดลองใช้เอง โดยพื้นฐานปกติของผิวหน้าเราเป็นผิวที่ค่อนข้างแพ้ง่าย ทดลองใช้หลายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวหน้า และช่วยผิวกระจ่างใส จะเกิดการแพ้บ้าง สิวผดขึ้นบ้าง แต่สำหรับตัวนี้ เราเคยใช้แผ่นทดลองที่ทาง LANEIGE ส่งมาให้ แล้วไม่รู้สึกแพ้ เลยตัดสินใจซื้อขวดใหญ่มาลองใช้ ซื้อจาก LANEIGE Official Store ใน LAZADA ตอนแรกก็กังวล กลัวจะแพ้อีก กลัวเสียดายของอีก แต่หลังจากใช้มา 1 สัปดาห์กว่าแล้ว ยังไม่เกิดการแพ้แต่อย่างใด มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และรู้สึกได้ถึงผิวหน้าที่เปลี่ยนแปลง จากที่ปกติเป็นคนมีรอยสิว และผิวไม่ค่อยชุ่มชื้น ถึงแม้แต่งหน้าไปทำงาน แต่ระหว่างวันจะรู้สึกไม่สดใสแล้ว พอตกเย็นผิวยิ่งหมองคล้ำ ตั้งแต่ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ระหว่างวันเราไม่รู้สึกถึงความหมองคล้ำ เหนื่อยล้าของผิวหน้าเลย และเมื่อใช้ในเวลากลางคืน ไม่รู้สึกเหนียวหน้า เช้ามาจะรู้สึกถึงความชุ่มชื้นของผิวหน้า ในเรื่องของรอยสิวนั้นไม่ได้หายหมดไปในทันที แต่ผิวหน้ามีความกระจ่างใสขึ้นเรื่อย ๆ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลูกรักสำหรับเราที่อยากรีวิวให้เป็นตัวเลือกสำหรับสาว ๆ           หากสาว ๆ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ช่วยในเรื่องผิวกระจ่างสดใส ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มอบความชุ่มชื้น และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เหมาะกับคนแพ้ง่าย เราขอแนะนำ "LANEIGE Clear C Advanced Effector EX" ตัวนี้ไว้เป็นตัวเลือกอีก 1 ตัวให้ทดลองใช้กันนะคะ แต่หากกังวลว่าจะแพ้ แนะนำให้ลองซื้อขนาดเล็กมาทดลองใช้กันก่อนนะคะ            

ชวนมาฟังเสียง Sound Effect ใน MV Heavy Rotation - BNK48 ยิ่งฟังยิ่งอิน

สวัสดีครับทุกคนเชื่อว่า ณ เวลานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักน้อง ๆ BNK48 ที่มาพร้อมกับความน่ารักสดใสใน Single ล่าสุดที่มีชื่อว่า "Heavy Rotation" วันนี้อยากชวนทุกคนมาฟังเสียง Sound Effect ใน MV Heavy Rotation ของน้อง ๆ BNK48 ฟังไม่ผิดครับทุกคน ผมกำลังชวนให้ทุกคน "ฟังเสียง Sound Effect" Sound Effect ก็คือเสียงประกอบที่ใช้ในการเล่าเรื่องฉากต่าง ๆ ซึ่งจะได้ยินในช่วงเปิดเรื่องและท้ายเรื่องของ MV นี้ ความน่าสนใจของ MV ตัวนี้ไม่ใช่แค่งานภาพ แต่งานเสียงนั้นมีเรื่องราวและนัยยะที่น่าสนใจไม่แพ้กันถ้าทุกคนพร้อมแล้วก็มาฟังเสียง Sound Effect กันเลยครับเพื่ออรรถรสในการอ่าน ดู MV ได้ที่ลิงก์นี้ครับ https://youtu.be/d1lgOyQvkugTC หมายถึง Time Code หรือเวลาใน MV ครับ Intro 1 “คนฟังตื่น แต่น้องยังไม่ตื่น” (TC 0:01-0:11)ข้อความบอกเวลาเปลี่ยนจาก 6:59 เป็นเวลา 7:00 น. มาพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกดิจิตอลเสียงความถี่สูงปลุกคนฟังอย่างผมให้ตั้งใจดูการเดินทางของน้อง ๆ ที่อยู่ตรงหน้าอย่างจดจ่อภาพรถตู้วิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับทิวเขาสวยอยู่ไกล ๆ เป็นฉากถัดมา พร้อมกับเสียงกดปุ่มจากเครื่องเล่นเทป เสียงเข็มนาฬิกาที่เร็วกว่าหน่วยวินาทีดังขึ้น นอกจากจะตอกย้ำการทำภารกิจให้เสร็จทันเวลาแล้ว ยังช่วยเร่งจังหวะการเล่าเรื่องอีกด้วยผมลองเดาเล่น ๆ ในใจว่าคัทต่อไปจะต้องเห็นน้อง ๆ อยู่ในรถตู้และหยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานเหมือนภาพยนตร์ไทบ้าน x BNK48แต่ไม่ใช่เลย...กลายเป็นภาพน้อง ๆ หลับ (แต่คนขับไม่หลับ) ปรากฏอยู่ตรงหน้าพร้อมกับเสียงกรอเทปคาสเซ็ต เปรียบเสมือนการกรอไปหาเพลงโปรดที่อยากฟังไปเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกัน เสียงนาฬิกาปลุกที่ยังดังอย่างไม่สิ้นสุดราวกับน้องโดนปลุกแต่ยังไม่ตื่น เริ่มก้องขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเอฟเฟค Reverbในทางภาพยนตร์ การใช้เสียงที่ขาดความชัดเจน ผิดไปจากธรรมชาติของเสียงเดิมมีความหมายแฝงในแง่ของการเล่าเรื่องเสมอณ จุดนี้ ผมตีความได้ว่า เสียงทั้งหมดนั้นเหมือนอยู่ในภวังค์ของน้อง ๆ ที่กำลังหลับใหลอยู่หลังจากนั้นเสียง Reverse ที่เล่าจากหลังไปหน้า ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาจากเบาไปหาหนัก พร้อมกับช็อต Close-up น้องเจน เซ็นเตอร์ของเพลงนี้เป็นการใช้เสียงที่เล่นกลับจากหลังไปหน้าแบบผิดธรรมชาติโดยตั้งใจ เพื่อสร้างจังหวะในการไปสู่เรื่องต่อไปได้อย่างน่าสนใจถ้าสมมติว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปเป็นดั่งความฝันในภวังค์ ก็ชวนให้นึกถึงคำพูดของน้องเจนใน Girl Don’t Cry ที่ว่าโลกของ BNK48 เปรียบเสมือนโลกเทพนิยายที่สวยงามIntro 2 “ไม่ได้เดินอย่างเดียวดาย” (TC 0:12-0:24)เปิดเรื่องที่สองที่จะเล่าคู่ขนานไปกับเรื่องแรกด้วยเสียงเปิดสวิตช์ไฟดังขึ้นกลางห้องมืดพร้อมกับเสียงเดินของน้องเจนเพียงคนเดียวที่ดังก้องราวกับอยู่ในโรงละคร ช่วยสะท้อนขนาดของพื้นที่แห่งนี้ว่าใหญ่แค่ไหนหลังจากนั้นเสียง Feedback ที่ดังขึ้นทันทีที่น้องเจนจับไมโครโฟนพร้อมกับเสียงเคาะหัวไมค์ทุ้ม ๆ เป็นลูกเล่นที่นักออกแบบเสียงมักใช้เป็นประจำ ซึ่งไม่ได้สื่อว่าไมโครโฟนเสียหรือใช้การไม่ได้ แต่ให้ความหมายว่า ไมโครโฟนเปิดไว้พร้อมใช้งานแล้วความน่าสนใจของฉากนี้ไม่ใช่แค่การหยิบเสียงไมค์หอนจากคลังเสียง (Sound Effect Library) มาวาง ๆ ไปตามภาพ แต่เป็นการให้สิ่งของเล่าเรื่องตัวของมันเองด้วย Sound Effect ที่แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันในขณะเดียวกัน เสียงดังกล่าวอาจจะสื่อถึงความกังวลในจิตใจของน้องเจนได้เช่นกันในแง่ของการเล่าเรื่อง อาจหมายถึงความท้าทายครั้งใหม่ที่น้องเจนจะต้องผ่านไปให้ได้ในฐานะเซ็นเตอร์ผู้ชนะการเลือกตั้ง ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคนแต่แล้วความกังวลก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงฉาบกลองที่ถูกเล่นกลับหลัง (Reverse Cymbal) และเสียงเอฟเฟค Frequency Sweep ที่ค่อย ๆ ดังขึ้นมาก่อนเข้าเพลง พร้อมกับเสียงกุ๊งกิ๊งใส ๆ (Chime) คลอไปกับเสียงนับ One Two Three Four ของน้องเจน สร้างความน่ารักสดใสได้อย่างลงตัวการใช้ Sound Effect ที่มีย่านความถี่สูงช่วยดึงความสนใจของผู้ฟัง และสร้างสีสันให้กับ Intro ของเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผมเองไม่เคยได้ยินจาก Heavy Rotation เวอร์ชั่นไหน ๆ มาก่อนการมีน้อง Senbatsu ทั้งหมดวิ่งออกมาพร้อมกันอย่างร่าเริง เป็นสัญญาณว่าการเดินทางแห่งความสนุกได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้ฟังเพลงไป ดู MV จะได้ฟีลมากแต่ทุกการเดินทาง มีเริ่มต้น ก็ต้องมีสิ้นสุดใช่ไหม?สิ้นสุดคือจุดเริ่มต้น (TC 5:00 - 6:00)"Heavy Rotation” คือคำสุดท้ายที่น้องเจนร้อง ผมได้ยินเสียง Reverb ก้อง ๆ ที่หางเสียงคำว่า Rotation ในตอนแรกผมเข้าใจว่าเสียงก้องนั้นติดมาจากในเพลง แต่เมื่อลองฟังเปรียบเทียบกับเสียงเพลงใน MV แล้ว ทำให้เข้าใจว่า มีการใช้ลูกเล่นนี้อย่างตั้งใจเฉพาะใน MV เท่านั้น เพื่อทำให้เสียงร้องก้องกังวานและมีมิติมากขึ้นเสียง Rotation ดังสะท้อนไปทั่วโรงละครที่กว้างใหญ่แต่กลับไร้ผู้ชมมีเพียงเสียงพลุดังขึ้นท่ามกลางเก้าอี้ว่างเปล่าไร้คนนั่งในช่วงนี้ ผมเริ่มรู้สึกว่าความ Dramatic กำลังใกล้เข้ามาแล้วเสียงเปียโนบรรเลงเพลงในท่อน Bridge ค่อย ๆ ดังขึ้นอย่างพริ้วไหวพร้อมกับภาพของน้อง ๆ BNK48 ทั้ง 16 คน กอดคอ หยอกล้อและยิ้มให้กัน บรรยายความอบอุ่นของฉากนี้ได้เป็นอย่างดีเสียงลมพัดผ่านดอกหญ้าค่อย ๆ ดังขึ้นและเร็วขึ้นจนเงียบหายไป ทำหน้าที่เหมือนเสียง Reverse ใน Intro นำผมไปสู่การจบภารกิจทำ MV บอกรัก ด้วยเสียงกดปุ่มหยุดเครื่องเล่นเทปพร้อมคำว่า “เลิกกอง” เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางในวันนี้จริง ๆ แล้วมันอาจจะไม่ใช่จุดสิ้นสุดหากแต่มันคือจุดเริ่มต้นการเดินทางของวง BNK48 ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคนอีกครั้งณ ตอนนี้ ผมเข้าใจว่า MV จบแล้วแต่...มันยังไม่จบEnd Credit ที่หยุดดูไม่ได้จริง ๆ (TC 6:04 - 7:29)เสียงเครื่องเล่นเทปดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับการกดปุ่ม Play เล่นเพลง Heavy Rotation อีกครั้งภาพของน้อง ๆ Senbatsu ทั้ง 16 คนออกมาแจกความสดใสด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเองทำเอาผมเสียอาการอย่างไม่ต้องสงสัยแต่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ การใช้เสียง Wind Chime ที่มีความไพเราะ ใส และกังวานตรง End Credit เปรียบเสมือนโมบายรูปหัวใจตรงพื้นหลังที่ดังกระทบกัน สื่อถึงเสียงของความสุขที่ดังก้องอยู่ในหัวใจของน้อง ๆ BNK48 ทุกคนและจะดังไปถึงหัวใจของเหล่าโอตะทุกคนและจะเป็นอยู่อย่างนั้นตลอดไปเป็นอย่างไรบ้างครับ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการรับชมความน่ารักของน้อง ๆ BNK48 และฟังเสียง Sound Effect ใน MV Heavy Rotation กันนะครับ สุดท้ายนี้ขอชื่นชมน้อง ๆ BNK48 ทีมงาน Production และ Post-production ทุกท่านที่สร้างสรรค์ MV ตัวนี้ได้อย่างลงตัว ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบครับ ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้าครับ สวัสดีครับ ขอขอบคุณภาพประกอบhttps://m.facebook.com/bnk48official/photos/a.849182701875656/3011166112343960/?type=3 จากเพจ BNK48 Official Facebookhttps://www.facebook.com/bnk48official/photos/a.849974175129842/3011774905616414/?type=3 จากเพจ BNK48 Official Facebookhttps://m.facebook.com/bnk48official/photos/a.849974175129842/3014430272017544/?type=3 จากเพจ BNK48 Official Facebookhttps://www.facebook.com/bnk48official/photos/a.849974175129842/3011152739011964/?type=3 จากเพจ BNK48 Official Facebookhttps://www.facebook.com/ManeemejaiPhotographer/photos/a.262119030584255/3059945280801602/?type=3 จากเพจ Maneemejaihttps://www.facebook.com/bnk48official/photos/a.3022123901248181/3022125261248045/?type=3 จากเพจ BNK48 Official Facebook             

รวมคลิปวิดีโอสอนการใช้งาน "Adobe After Effect" สำหรับผู้เริ่มต้น

"Adobe After Effect" จัดเป็นซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้าน Motion Graphic งานด้าน Visual Effect หรือจะเป็นงานด้าน Graphic ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวประกอบโดยสามารถเอามาใช้งานร่วมกับตัดต่อวิดีโอด้วยซอฟแวร์ Adobe Premiere Pro ได้ด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสำหรับใครที่เคยมีประสบการณ์ใช้งาน Adobe Photoshop หรือ Adobe Illustrator ก็มีหลักการใช้งานอย่างคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นหากใครที่กำลังมองหาแหล่งเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน Adobe After Effect ก็จะขอแนะนำคลิปการสอนต่าง ๆ บน YouTube ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้1. สำหรับผู้เริ่มต้นการใช้งานก็ขอแนะนำคลิปสอนจากช่อง "Kripart" ซึ่งได้สอนอธิบายได้เข้าใจอย่างง่ายมาก โดยเริ่มตั้งแต่ "สอน Adobe After Effect CC: มือใหม่ เริ่มต้นใช้ AE (ล่าสุด cc 2017)" คลิปวิดีโอนี้จะเป็นการแนะนำและทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวซอฟแวร์ Adobe After Effect ไม่ว่าจะเป็นการอธิบายส่วนต่าง ๆ ของตัวซอฟแวร์อย่างคร่าว ๆ การอธิบายทำความรู้จักกับคำว่า Composition หรือจะเป็นการ Import File จากภาพนิ่งเอามาใช้งาน เป็นต้น"สอน After Effect CC 2018 EP.2 พื้นฐานการเคลื่อนไหว" ส่วนนี้จะเป็นคลิปสอนเกี่ยว การตั้งค่า Composition ต่าง ๆ เข้าใจในเรื่องของ Keyframe เบื้องต้น (มีไฟล์ประกอบการสอนให้ดาวน์โหลดอีกด้วย)"สอน After Effect CC 2018 EP.3 พื้นฐานการเคลื่อนไหว" ส่วนนี้จะเป็นการกำหนดคุณสมบัติของ Composition เพิ่มเข้ามานอกจากนี้หากใครสนใจศึกษาเพิ่มเติ่มก็เข้าไปที่ Playlist "Premiere Pro After Effect" ซึ่งได้รวบรวมคลิปสอน Adobe After Effect เอาไว้อย่างมากมาย แต่ด้วยความที่ Adobe After Effect สร้างงานที่มักเอาไปประกอบงานตัดต่อวิดีโอ ผู้สอนของคลิปนี้จึงทำเป็น Playlist ที่มีเนื้อหาสอนการใช้งาน Adobe Premiere Pro เอาไว้ด้วย ซึ่งถือเป็น Playlist ที่วางเนื้อหาได้อย่างคุ้มค่า (หากเรียนทุกวิดีโอใน Playlist นี้ ก็จะสามารถทำงานเกี่ยวกับสื่อภาพเคลื่อนไหวได้เป็น)เนื้อหาสำหรับผู้ที่สนใจเรียนการใช้ Adobe After Effect เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานหรือผู้ที่ไม่เคยใช้งานโปรแกรมนี้มาก่อนแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนจนสามารถใช้งานโปรแกรม Adobe After Effect ใช้เป็นจนคล่องรีวิวสำหรับเนื้อหาการเรียนของช่องนี้ : สำหรับคนที่เริ่มต้นนั้นเมื่อลองได้เรียนจากที่นี่ก็จะสามารถเข้าใจและเอาไปใช้ประยุกต์กับงานจริงได้เป็น ซึ่งเนื้อหาการสอนไม่น่าเบื่อเลย จุดเด่นคือจะมีการสอนการใช้งานทั้ง Adobe After Effect ควบคู่ไปกับการเอาไปใช้กับการงานประกอบการตัดต่อวิดีโอกับโปรแกรม Adobe Premiere Pro เพราะว่าในการทำคลิปวิดีโอจริง ๆ ไม่ใช่แค่ว่าเราจะใช้เพียงแค่ 1 โปรแกรมเท่านั้น แต่เราจะต้องใช้ความสามารถและฟังก์ชั่นของแต่ละโปรแกรมเข้ามาประกอบกันอีกด้วย ดังนั้นแล้วใน Playlist "Premiere Pro After Effect" ของช่อง Kripart เปรียบเหมือนการสอนงานด้านการทำคลิปวิดีโอที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงผู้ที่ต้องการทำงานโปรเจคคลิปวิดีโอทั้งการตัดต่อและการทำ Effect ต่างประกอบที่สามารถทำได้เป็นจริง ๆ 2. อีกส่วนนึงที่น่าสนใจซึ่งจะสอนการทำ Motion Graphic โดยใช้  Adobe After Effect เป็นหลัก จึงขอแนะนำ Playlist "Motion Graphic" ของช่อง "Giggswill" ซึ่งถือว่าเป็น Playlist สำหรับการเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยว Adobe After Effect ในแง่ของการทำงานจริง ๆ ซึ่งมีเนื้อหาการสอนเยอะมาก ซึ่งสอนความรู้ได้อย่างแน่นมาก และเนื้อหาในการสอนก็ถือว่าดีมาก รวมถึงยังมีไฟล์ประกอบการสอนให้ดาวน์โหลดอีกด้วย เนื้อหาช่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจการใช้งาน Adobe After Effect เป็นมาบ้างแล้ว โดยเนื้อหาจะเน้นการประยุกต์ใช้งานประเภท Motion Graphic และเอามาประยุกต์ใช้กับการทำวัตถุ Effect ต่าง ๆ เพื่อเอามาประกอบคลิป รีวิวเนื้อหาการเรียนจากช่องนี้ : สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้จากช่องนี้คือ การที่ได้รู้จักการทำ Motion Graphic ด้วยการเอาโปรแกรม Adobe After Effect มาใช้การทำเป็นหลัก ที่นี่มีการสอนทำ Effect ที่เอาไปใช้ในงานทางด้าน Motion Graphic อย่างมากมายหลายหลาย รวมถึงทักษะความสามารถในการใช้งานตัวโปรแกรม Adobe After Effect ที่เรียนรู้การทำ Effect ที่หลากหลายขึ้นซึ่งมีประโยชน์ในการเอาไปต่อยอดงานคลิปวิดีโอหรืองานทำภาพเคลื่อนไหว และรวมถึงการเอามาพัฒนางานที่มีความซับซ้อนในระดับสูงขึ้น ในแง่การสอนนั้น ผู้สอนของช่องนี้สอนดีและอธิบายละเอียดเป็นขั้นเป็นตอนอย่างดีมาก ทำให้เข้าใจอย่างรวดเร็วและทำให้รู้สึกว่างาน Motion Graphic โดยใช้ Adobe After Effect มาประยุกต์ในการใช้งานนั้นไม่ยากจนเกินไป3. อีกส่วนที่อยากจะแนะนำที่ใช้สำหรับงานประยุกต์ใช้จริง โดยจะขอรวบรวมจากคลิปวิดีโอสอนจากที่ต่าง ๆ ก็จะมีคลิปสอนยกตัวอย่างเช่น"สอน After Effects #03 - Random Light Text ทำตัวหนังสือกระพริบแบบสุ่ม" ซึ่งสอนโดยช่อง "BaanMotion" โดยส่วนสำหรับคลิปนี้จะเป็นการสอนการสร้าง Effect ของวัตถุรูปภาพหรือวัตถุตัวอักษรที่เราสร้างขึ้นมาแล้วให้มันมีกระพริบของตัววัตถุในลักษณะของการ Random Light Text ขึ้นมา (โดยคลิปนี้จะสอนตั้งแต่การสร้างวัตถุของรูปภาพหรือวัตถุตัวอักษรออกมาก่อน) ด้วยระยะเวลาในการสอนของคลิปนี้ประมาณ 12 นาทีก็จะสามารถสร้างเทคนิคนี้แล้วเอาไปประยุกต์ใช้อย่างง่ายดาย "วิธีทำแทบรายการแบบง่าย [Title Bar,Lower Third] โดยใช้ After Effect" สอนโดย "HOW TU" สำหรับตัว Title Bar จะเป็นแถบแสดงข้อมูลของชื่อรายการของคลิปหรืออาจจะเป็นชื่อช่องหรือ Channel ของคลิปนั้นซึ่งมักจะแสดงในลักษณะเป็นโลโก้ แต่เป็นโลโก้ที่แสดงเป็นภาพเคลื่อนไหวโดยมีการแสดง Effect ต่าง ๆ ที่เพิ่มสีสันเข้าไปในคลิป โดยเนื้อหาการสอนในคลิปนี้จะมีการสอนตัวอย่างของการสร้าง Title Bar อยู่ 2 ตัวอย่างซึ่งเป็นตัวอย่างง่าย ๆ แต่ผู้เรียนก็จะสามารถเอาไปต่อยอดในการสร้าง Title Bar ด้วยตัวเองในรูปแบบของตัวเองอย่างแน่นอน ระยะเวลาในสอนประมาณ 8 นาที "วิธีทำ Effect วาดเส้นเท่ๆ SCRIBBLE Animation in AFTER EFFECT" สอนโดย "Creative S" โดยจะสอนการวาดวัตถุ Effect เส้นเท่ห์ ๆ ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นตาม MV ต่าง ๆ โดยเอามาประกอบใช้ร่วมกับโปรแกรม Adobe Premiere Pro โดยมีระยะเวลาในการสอนประมาณ 9 นาที"วิธีทำตัวหนังสือไฟวิ่งใน After Effects แบบง่ายๆ" สอนโดย "thaiphotos" ส่วนนี้จะสอนการทำวัตถุ Effect ตัวอักษรที่เป็นมีลักษณะเป็นไฟลุกหรือไฟวิ่งซึ่งเป็น Effect ที่เอาไปประกอบการเปิดหรือปิดหรือขั้นระหว่างคลิป ระยะเวลาในการสอนประมาณ 12 นาทีสิ่งที่จะได้จากตัวอย่างคลิปที่เลือกมานั้น : คือจะได้ทักษะในการทำวัตถุ Effect ที่มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงเข้าใจเทคนิคการใช้ Adobe After Effect อื่น ๆ เพิ่มเข้ามาสิ่งที่ได้จากแหล่งความรู้ที่แนะนำไปนั้นหากได้เข้าไปศึกษาและทำตามก็จะสามารถใช้งาน Adobe After Effect ได้อย่างแน่นอน ความจริงแล้วมีคลิปการสอนเกี่ยวกับตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานตัว Adobe After Effect อยู่ด้วยกันหลายคลิป ซึ่งที่เลือกมาก็เน้นสำหรับผู้เริ่มต้นและเน้นเข้าใจการใช้งานจริง ทั้งนี้ทั้งนั้นการมีทักษะความรู้ด้าน Photoshop และ Illustrator ก็มีส่วนช่วยในการประยุกต์ใช้ Adobe After Effect อยู่ไม่น้อย ซึ่งหากใครยังไม่มีพื้นฐาน Photoshop ก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ แนะนำ channel บน youtube สอน photoshop "BStudio Thailand" เหมาะสำหรับคนที่เริ่มจาก 0 และผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการใช้งาน Illustrator สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ แนะนำ Channel สอน Adobe Illustrator บน youtube “Gorra Designที่มาภาพ : ปกหลังบทความ : https://www.pexels.com / รูปที่ 1: จาก YouTube (ช่อง Kripart) / รูปที่ 2 : จาก YouTube (ช่อง Giggswill) / รูปที่ 3 จาก YouTube (ช่อง thaiphotos)