TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “The Sun From Another Star” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
ถ้าเธอไม่รู้ - Vitamin D from The Sun : ความรักด้วยความมองโลกในแง่ดี
บทนำเพลง "ถ้าเธอไม่รู้" ของวง "Vitamin D from The Sun" เป็นเพลงที่มีความสดใสและเนื้อหาที่น่ารักที่สะท้อนความรักและความห่วงใยในแง่ดีอย่างมีนิยมในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านมาอ่านรีวิวบทเพลง "ถ้าเธอไม่รู้" ของวง "Vitamin D from The Sun" กันครับ ติดตามอ่านในบทความนี้ได้เลยครับการเล่าเรื่องในบทเพลงเพลง "ถ้าเธอไม่รู้" ของวง "Vitamin D from The Sun" มีแก่นเรื่องเกี่ยวกับความรักที่มองโลกในแง่ดี โดยการเปรียบเทียบความรักกับสิ่งแสดงความรักเช่น "หวังเอาไว้สักวัน เธอกับฉันคงได้รักกัน" เพื่อให้เข้าใจถึงความใส่ใจและความห่วงใยที่ผู้ร้องมีต่อคนรัก นี่เป็นแนวคิดที่น่าประหลาดแต่ก็น่ารักในทางของเพลงที่สร้างสรรค์ออกมาท่อนเพลงที่ชอบโอ้วเธอคือความฝัน ที่ห่างไกลจากฉัน หวังเอาไว้สักวันเธอกับฉันคงได้รักกัน พอความฝันระเหย ความจริงก็เปิดเผยฉันถูกเธอเมินเฉย ไม่อาจจะสมหวังได้เลยผู้เขียนชอบเพลงท่อนนี้มากที่สุด เพราะ ท่อน "โอ้วเธอคือความฝัน ที่ห่างไกลจากฉัน หวังเอาไว้สักวัน" บอกเล่าความรู้สึกความฝันในใจที่อยากเป็นแฟน พร้อมทั้งความรักมักเกิดขึ้นระหว่างบุคคลที่มีความแตกต่างกันทั้งในด้านบุคลิกภาพและวิธีการคิด การยอมรับและคำนึงถึงความแตกต่างนี้อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณกลายเป็นแหล่งความหลากหลายและเติบโตไปพร้อมกันส่วนท่อน "เธอกับฉันคงได้รักกัน พอความฝันระเหย ความจริงก็เปิดเผย" บอกเล่าความรู้สึกที่อยากให้กลับมารักกัน พร้อมทั้งชี้ว่าโอกาสแก่คนรักในการแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกของเขา และให้โอกาสแก่ตัวเองในการเรียนรู้และปรับตัวต่อการแสดงความคิดเห็นนั้นโดยเฉพาะท่อน "ฉันถูกเธอเมินเฉย ไม่อาจจะสมหวังได้เลย" บ่งบอกถึงอารมณ์ของการถูกเมินเฉย ผ่านการสร้างความสัมพันธ์ที่ทั้งคนสองคนรู้สึกดีและมีความเพลิดเพลินในความรัก พร้อมทั้งข้อขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของความรัก แต่การแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์และไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนสามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ดำรงไปได้ เนื้อเพลงเล่าเรื่องนำเสนอได้เป็นอย่างดีเสน่ห์ดนตรี และเอ็มวีเสน่ห์ของดนตรี คือ ดนตรีที่มีเสียงกีตาร์ที่น่าฟังและโดดเด่น รวมถึงซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มความจัดจ้านให้กับเพลงสามารถสร้างประสบการณ์ฟังที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นขึ้นได้ และ เสน่ห์ของเอ็มวี บอกเล่าเรื่องราวผ่านฉากของการร้องเพลงที่ดูสนุกสนาน เป็นสัญญะที่แสดงถึงความรักที่ดีต้องเริ่มต้นจากความสุขของตนเอง การดูแลและเป็นอยู่ด้วยตนเองอย่างดีจะช่วยเสริมความสุขในความรักสรุปส่งท้ายเพลง "ถ้าเธอไม่รู้" ของวง "Vitamin D from The Sun" เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่มีความไพเราะผ่านดนตรีที่สนุกสนานและน่าเต้นที่เสริมเสริมบรรยากาศของเพลงอย่างดี มันเป็นเพลงที่จะทำให้คุณอยากร้องร้องและเต้นรำไปพร้อมกับเสียงดนตรีสดใสที่น่ารักให้กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยฟัง เพลง "ถ้าเธอไม่รู้" ของวง "Vitamin D from The Sun" อย่าลืมไปติดตามฟังกันนะครับฟังเพลงเต็มได้ที่นี่เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=hiCaYrFMNcIเครดิตรูปภาพภาพหน้าปก จาก Vitamin D from The Sunภาพที่ 1 จาก Vitamin D from The Sunภาพที่ 2 จาก Vitamin D from The Sunภาพที่ 3 จาก Vitamin D from The Sunภาพที่ 4 จาก Vitamin D from The Sunเครดิตวิดีโอถ้าเธอไม่รู้ | Vitamin D from The Sun【Official MV】เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Story • 2 ต.ค. 66
อ่าน
ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว (MY LOVE FROM THE STAR)
ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว (MY LOVE FROM THE STAR) ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ 10.00 น. ทางช่อง7สี
เรื่องย่อละคร • 18 ก.ย. 57
อ่าน
Letter from the sun ครั้งนั้น...ไม่เคยลืม ช่อง Thai PBS (ตอนจบ)
เรื่องย่อละคร Letter from the sun ครั้งนั้น...ไม่เคยลืม ช่อง Thai PBS ทุกวันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 20.15น. ทั้งหมด 2 ตอน เริ่มวันศุกร์ที่24และวันเสาร์ที่25มีนาคม นี้นำแสดงโดย จี๋ สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร และ มายด์ วรัทยา ว่องชยาภรณ์ เสนอละครส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม สอดแทรกสาระความรู้คู่ความบันเทิง เติมเต็มความสนุกครบทุกอรรถรส โดยไทยพีบีเอส ร่วมกับ ศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและเผยแพร่เรื่องราวทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับมิติต่างๆในสังคมไทย ซึ่งต่อยอดจากงานวิจัยสู่ละคร ผลิตโดย บริษัท จูเวไนล์ จำกัด กำกับการแสดงโดย จีรภา ระวังการณ์
เรื่องย่อละคร • 24 มี.ค. 66
อ่าน
Another หรือ Other ดี ภาษาอังกฤษน่ารู้
การใช้คำนามในภาษาอังกฤษจำเป็นต้องมีคำนำหน้านามอาจจะเพื่อสื่อสารเรื่องจำนวน เช่น many, much, two, three, a lot of เป็นต้น, แสดงความเจาะจง เช่น the, this, that, these, those เป็นต้น, แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น my, your, his, her, their, its, our เป็นต้น, หรือเพื่อเหตุผลทางไวยกรณ์อื่นๆ เช่น a/an หรือ the เป็นต้น กลุ่มคำนำหน้านามส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เป็นคำแทนคำนามได้เลยโดยไม่ต้องพูดคำนามซ้ำ โดยบางคำจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนตัวสะกดเพื่อเปลี่ยนหน้าที่จากคำนำหน้านามที่ต้องมีคำนามตามเป็นคำแทนคำนามที่ไม่ต้องมีนามตามอีกแล้วยกตัวอย่างเช่นถาม: "Would you like some sugar?" ****"some" (คำนำหน้านามบอกจำนวน) + "sugar" (คำนาม)****ตอบ: "Yes, a little, please." ****"a little" เป็นคำแทนคำนามเลยซึ่งในกรณีนี้เป็นคำว่า "sugar"****หรือถาม: "My car is blue." "my" (เป็นคำนำหน้านาม) + "car" (คำนาม)ตอบ: "What color is yours?" "yours"เป็นคำแทนคำนามซึ่งในกรณีนี้เป็นคำว่า "car" แต่ "your" เปลี่ยนเป็น "yours" เพราะหน้าที่ไม่เหมือนกัน**** your + นาม = yours ****บทความนี้แนะนำการใช้คำนำหน้านามที่มักจะสับสนกันในกลุ่ม "Another, Other, The Other" เนื่องจากมีหลายรูปและความหมายไม่เหมือนกันคำนำหน้าคำนามในกลุ่มนี้ถูกใช้ในกรณีไล่สิ่งต่างๆ ตามลำดับสามารถนำมาใช้แทนคำที่บอกลำดับได้ เช่น the second หรือ the last เป็นต้นคำว่า "another" เป็นคำที่นำมาใช้นำหน้าคำนามที่เป็นเอกพจน์หรือหนึ่งสิ่ง โดยจะให้ความหมายว่า "อีกอันหนึ่ง" ซึ่งจะเป็นอันดับที่ 2 ขึ้นไปแต่จะไม่ใช่อันสุดท้าย เมื่อสังเกตุตัวสะกดก็จะเห็นรูป "an" + "other" ซึ่งคำว่า "an" จะให้ความหมายเอกพจน์หรือหนึ่งสิ่งอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น"I want another cup of coffee." แปลว่า "ฉันต้องการกาแฟอีกซักแก้ว""I want another day at the beach." แปลว่า "อยากจะใช้เวลาอีกสักวันที่ชายหาด""I want another chair." แปลว่า "ขอเก้าอี้เพิ่มอีกหนึ่งตัว""I apply for another job." แปลว่า "ฉันสมัครงานเพิ่มไปอีกหนึ่งที่""another" เมื่อใช้เป็นคำแทนคำนามไม่ต้องเปลี่ยนรูป ยกตัวอย่างเช่น"I spend a day at the beach." "I want another." แปลว่า "ฉันใช้หนึ่งวันที่ชายหาดอยากจะอยู่อีกวัน" (another แทนคำว่า another day)"Thanks for the coffee." "Can I have another?" แปลว่า "ของคุณสำหรับกาแฟขออีกแก้วได้ไหม" (another แทนคำว่า another cup of coffee)"I apply for a job today." "I think I should apply for another." แปลว่า "ฉันไปสมัครงานวันนี้แต่คิดว่าน่าจะสมัครเพิ่มอีกที่" (another แทนคำว่า another job)คำว่า "other" เป็นคำที่นำมาใช้นำหน้าคำนามที่เป็นพหูพจน์โดยให้ความหมายว่า "อื่นๆ" (อีกมากมาย) ให้ความหมายไม่เจาะจงจำนวนและ "other" จะใช้ในกรณีเป็นส่วนที่เหลือหรือส่วนสุดท้าย ตัวอย่างจากภาษาไทยที่ใช้ "บางคนก็แบบนั้นบางคนก็แบบนี้" จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งสิ่งนั้นเป็นกลุ่มๆ ส่วนที่เหลือจะใช้คำว่า "other" นำหน้าเนื่องจากไม่มีการเจาะจงจำนวนที่แน่นอนยกตัวอย่างเช่น"Some people like light colors." "Other people like dark colors." แปลว่า "บางคนชอบสีสว่างบางคนชอบสีเข้ม"เมื่อ "other" ไม่มี 's' จะทำหน้าที่เป็นคำนำหน้านามพหูพจน์แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นรูปเติม 's' หรือ others จะเป็นคำแทนคำนาม ยกตัวอย่างเช่น"Some like light colors." "Others like dark colors." แปลว่า "บางคนชอบสีสว่างบางคนชอบสีเข้ม""some" และ "others" แทนคำว่า "people" เลยไม่ต้องมีคำนามตามคำนามนับไม่ได้ไม่สามารถใส่เป็นจำนวนได้จึงไม่สามารถใช้ได้กับทั้ง another และ other รวมถึงสำนวนอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันด้วย ได้แก่ "some other + นามเอกพจน์" ยกตัวอย่างเช่น"I can't do it now." "I will do it some other time." แปลว่า "ตอนนี้ไม่ว่างจะทำคราวหน้า" "I want to see some other house." หรือ "I want to see another house." ทั้งสองอันนี้ความหมายเดียวกัน แปลว่า "อยากดูบ้านอีกหลังหนึ่ง" แต่อันที่สองจะฟังเป็นธรรมชาติกว่าอีกสำนวนที่เป็นของคำในกลุ่มนี้คือ "each other" และ "one another" ทั้งสองคำนี้ทำหน้าที่เป็นกรรมของประธานพหูพจน์เท่านั้นโดยให้ความหมายว่า "กันและกัน" ความแตกต่างของสองคำนี้คือ "each other" แทน 2 สิ่ง และ "one another" แทน 3 สิ่งขึ้นไปยกตัวอย่างเช่น"We both love each other." แปลว่า "เราสองคนรักกัน""Thai people love one another." แปลว่า "คนไทยรักกัน"คำว่า "the other" เป็นคำที่นำมาใช้นำหน้าคำนามได้ทั้งที่เป็นพหูพจน์และเอกพจน์โดยให้ความหมายว่า "ที่เหลือ" เป็นความหมายเจาะจงจำนวน เพราะเป็นที่เหลือจากสิ่งที่กล่าวไปแล้วและจะใช้ในกรณีเป็นส่วนสุดท้ายเท่านั้น หากเหลือหนึ่งอย่างจะตามด้วยคำนามเอกพจน์และถ้าเหลือสองอย่างขึ้นไปจะตามด้วยคำนามพหูพจน์ในกรณีที่เหลือเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น "I have three cars." "One car is blue." "Another car is black." "The other car is white." หากต้องการใช้ pronoun แทนคำว่า "car" จะเป็นดังต่อไปนี้"I have three cars." "One is blue." "Another is black." "The other is white." แปลว่า "ฉันมีรถสามคัน คันแรกสีฟ้า อีกคันสีดำ คันสุดท้ายสีขาว" **เหลือรถอีกคันเดียว the other ไม่ต้องเปลี่ยนรูป***ในกรณีที่เหลือสองอย่างขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่น"I have five cars." "One car is blue." "Another car is black." "The other cars are white." หากต้องการใช้ pronoun แทนคำว่า "car" จะเป็นดังต่อไปนี้"I have five cars." "One is blue." "Another is black." "The others are white." แปลว่า "ฉันมีรถห้าคัน คันแรกสีฟ้า อีกคันสีดำ สามคันสุดท้ายสีขาว" **เหลือรถสามคันใช้ "the others" แทนรูปเดิม*** ครูด้วงEnglish Forward Unlimited เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Kru_Duang_English • 7 พ.ค. 64
อ่าน
เคมีดีเวอร์! ณเดชน์ แมท ควงคู่ฟิตติ้ง You who came from the star เวอร์ชั่นไทย
เดินหน้าฟิตติ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับโปรเจคใหญ่ของ พี่หน่อง อรุโณชา บอสใหญ่ ค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ที่รับคว่าลิขสิทธิ์ You who came from the star ซีรี่ส์ชื่อดังจากเกาหลี ไม่ต้องพูดถึงความโด่งดังในประเทศเกาหลี เพราะซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นที่รู้จักในหลายๆ ประเทศ และถือเป็นการจุดพลุให้พระเอกอย่าง คิม ซูฮยอน ดังขึ้นเป็นพระเอกแนวหน้า นอกจากนั้น นางเอกอย่าง ชอน จีฮยอน ก็กลับมามีดังอีกครั้ง ล่าสุดได้จัดฟิตติ้งไปเมื่อวานนี้ โดยมีพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูิมิยะ มารับบทนำประกบคู่ แมท-ภีรนีย์ นอกจากนั้นยังได้ อาย กมลเนตร,มาสุ จรรยางค์ดีกุล และ ก็อต อิทธิพัทธ์ มาสร้างความอิมแพคให้น่าติดตามชม ส่วนจะออนแอร์เมื่อไรนะ โปรดติดตามกันต่อไป วันนี้เรารวบรวมภาพฟิตติ้งมาให้ชมกัน ขอบคุณภาพจากอินสตราแกรม Neephat , dew_ka , tkb_ch3 , verasalon อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID
ข่าวละคร • 11 ก.ย. 60
อ่าน
ฟินเวอร์!! ณเดชน์ - แมท จับคู่บวงสรวง My love from the star ลิขิตรักข้ามดวงดาว
ได้ฤกษ์บวงสรวงเปิดกล้องกันแล้ว สำหรับละครซีรี่ส์ My love from the star ลิขิตรักข้ามดวงดาว ที่ดัดแปลงมาจากซีรี่ส์เกาหลีชื่อดังอย่าง You who came from the stars (ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว) ซีรี่ส์ที่สร้างความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วทโดยผู้จัดฯ คนเก่ง “หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์” แห่ง “ค่ายบรอดคาซท์ฯ” ซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตในเวอร์ชั่นไทย และได้ 2 ซุปเปอร์สตาร์อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ มาประกบคู่กับ แมท-ภีรนีย์ คงไทย เป็นครั้งแรก งานนี้รับประกันสร้างเสียงฮือฮา!! ไม่แพ้เวอร์ชั่นเกาหลีอย่างแน่นอน พร้อมเหล่านักแสดงมากฝี มือที่มำร่วมสร้ำงสีสันให้กับละครเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น มาสุ จรรยางค์ดีกุล,อาย-กมลเนตรม, ก๊อต-อิทธิพัทธ์, เดี่ยว-สุริยนต์, โยเกิร์ต-ณัฐฐชำช์, ฝน-สรวงสุดำ, ฮันนี่-ภัสสร , ปุ๊-มนตรี, หมู-พิมพ์ผกา, หยวน-กวินรัฎฐ์, เปรี้ยว-อนุสรา, เอ็ดดี้เฮง-สมยศ งานนี้รับประกันสร้างเสียงฮือฮา!! ไม่แพ้เกาหลีอย่างแน่นอน ซึ่งมีจะเปิดกล้องกันในปลายเดือนพ.ย.นี้ติดตามชม My love from the star ลิขิตรักข้ามดวงดาว ได้เร็วๆ นี้ทางช่อง 3 อ่านข่าวอื่นๆ : เรื่องย่อละคร ลิขิตรักข้ามดวงดาว MY LOVE FROM ANOTHER STAR 10 ลุค แมท ภีรนีย์ มาเต็ม แค่ชุดก็เวอร์ ลิขิตรักข้ามดวงดาว ไม่ดังให้มันรู้ไป ประเดิมฉากใหญ่!! ณเดชน์-แมท บวงสรวงละคร ลิขิตรักข้ามดวงดาว อีกครั้ง
ข่าวละคร • 16 พ.ย. 60
อ่าน
My love from the star เรื่องนี้คือ The best
สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เรื่องนี้ถือเป็น the best ที่สุดสำหรับเราเลยค่ะ เป็นเรื่องที่โด่งดังมากๆในปี 2014 พระเอกนางเอกของเรื่องก่อนแสดงเรื่องนี้ก็ถือว่าอยู่ระดับแถวหน้าอยู่แล้ว แต่เมื่อซีรีส์เรื่องนี้ออกฉาย ทั้งคิม ซูฮยอนและจอน จีฮยอนได้กลายเป็นนักแสดงนำหญิงและชายที่ค่าแสดงต่อตอนพุ่งเป็นอันดับหนึ่งของเกาหลี My love from the star หรือยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว ออกอากาศทางช่อง SBS จำนวน 21 ตอน เป็นซีรีส์ประเภท Romance Comedy Time travel ได้นักแสดงนำอย่างKim Soo Hyun รับบท Do Min Joon โทมินจุนJeon Ji Hyun รับบท Chun Song Yi ชอนซงอีPark Hae Jin รับบท Lee Hwi Kyung อีฮวีกยองYoo In Na รับบท Yoo Se Mi ยูเซมีShin Sung Rok รับบท Lee Jae Kyung อีแชกยองAhn Jae Hyun รับบท Chun Yoon Jae ชอนยุนแจ(น้องชายซงอี) เมื่อ 400 ปีก่อนพระเอก(โท มินจุน)ได้จากดาวอื่น และได้มาพบกับเด็กสาวที่กำลังเจอเคราะห์กรรมจากที่กำลังจะแต่งงาน สามีกลับเสียชีวิต เด็กสาวถูกแม่สามีวางแผนฆ่าตามลูกชายไปเกือบเสียชีวิตแต่ได้พระเอกช่วยไว้ ทั้งสองจึงได้กลับมาบ้านเดิมของเด็กสาว มีคนมาตามฆ่าเด็กสาวจนเกิดเรื่องทำให้พระเอกไม่สามารถกลับยานตัวเองได้ และเด็กสาวได้ตายไปโดยพระเอกไม่สามารถช่วยได้ เมื่อไม่สามารถกลับไปได้พระเอกได้อยู่ในโลกมาจนถึงปัจจุบัน นางเอก(ชอน ซงอี)นางเอกแถวหน้าของวงการเกาหลี เธอมักใช้คำเกาหลีผิดจนความหมายผิดเพี้ยน มีแต่คนที่คอยซ้ำเติมต่อว่าเธอ นางเอกได้ย้ายที่อยู่จนได้มาอยู่ข้างห้องพระเอก ตอนแรกเธอเข้าใจว่าเขาเป็นโรคจิต ต่อมาพระเอกได้กลายมาเป็นอาจารย์ที่สอนในวิทยาลัยที่เธอเรียน จากที่ต่างไม่ชอบกันก็มีเหตุให้นางเอกต้องมาพึ่งพระเอกจากการที่นางถูกหาว่าเป็นต้นเหตุให้นางเอกในวงการอีกคนฆ่าตัวตาย และนางเอกก็ได้แฟลชไดร์ฟลับจากในงานที่เกิดเรื่อง ส่งผลให้นางเอกได้รับอันตรายแต่ได้พระเอกมาคอยช่วยเหลือ จากที่ดูเรื่องนี้จบ บอกเลยว่า 10เต็ม10 ไม่มีจุดไหนให้ติเลย เล่นดี เนื้อเรื่องดี เล่นสมบทบาท ฟิน ลุ้น ซึ้ง นักแสดงหน้าตาดี(อันนี้เกี่ยวไหม) ‘โท มินจุนชี่’ ‘โทเมเนเจอร์’คำนี้ฮิตมากในปี 2014 มีเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นในเรื่องหากให้เล่าคงเล่าไม่หมด ระหว่างความรักกับการที่จะได้กลับไปยังโลกที่จากมา พระเอกจะเลือกอะไร เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้แนะนำให้ไปหาดูนะคะ ตัวเรานั้นดูซีรีส์เรื่องนี้เป็นรอบที่ 4 แล้วค่ะ หากใครยังไม่ได้ดู อย่าลังเล แล้วคุณจะไม่พลาดซีรีส์สนุกๆภาพประกอบซีรีส์Credit ภาพจาก : sbs / sbs / sbs / sbs / sbs / sbs
Sunisaa • 11 ส.ค. 63
อ่าน
ลิขิตรักข้ามดวงดาว MY LOVE FROM ANOTHER STAR ช่อง 3 HD
เรื่องย่อ ลิขิตรักข้ามดวงดาว My Love From Another Star ดูทีวีออนไลน์ช่อง 3HD คลิก! ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 เริ่มตอนแรก วันอังคารที่ 17 กันยายนนี้
เรื่องย่อละคร • 13 ก.ย. 62
อ่าน
ชวนดู My Love from the Star ฟินไปกับโอปป้า คิมซูฮยอน
คิมซูฮยอน โอปป้าเบอร์ 1 ทั้งกระแสและค่าตัว สามีแห่งชาติที่แท้ทรู หล่อ มีสเน่ห์ น่ารัก น่าหลงใหล ทำเอาบรรดาติ่งหรือแฟนคลับหัวใจละลาย ดูไปฟินไป คิมซูฮยอน มีผลงานโดดเด่นมากมาย เริ่มจาก Dream High, The Moon Embracing the Sun และภาพยนตร์ Real หลังจากเข้ากรมไปเมื่อ 23 ตุลาคม 2560 และปลดประจำการเมื่อ 1 กรกฎาคม 2563 แฟนคลับต่างก็เฝ้ารอชมผลงานใหม่ของคิมซูฮยอนอีกครั้ง และซีรีส์เรื่องใหม่ก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะออนแอร์ทาง Netflix ในวันที่ 20 มิถุนายน 2563 นี้ ระหว่างรอ เราไปดู My Love from the Star ให้หายคิดถึงก่อนเลยไม่มีใครคาดคิดว่าในจักรวาลกว้างใหญ่นี้จะมีอะไรซ่อนไว้บ้าง เมื่อสิ่งต่าง ๆ ได้บังเกิด คงอยู่ และกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน เรื่องราวจากดวงดาวอันไกลโพ้น หรือเรื่องราวในอดีตนับร้อย ๆ ปีที่ผ่านมา ก็เป็นประหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าค้นหา เมื่อชายหนุ่มจากดาวดวงอื่น มีอันต้องมาอยู่บนโลกและมีอายุยืนยาวถึง 400 ปี เงื่อนปมต่าง ๆ กับชีวิตที่ยืนยาวถึงเพียงนั้น เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างไร มุ่งหวังอะไร และมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง ติดตามได้ใน My love from the star ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว เรื่องราวของความรักละมุนพร้อม ๆ กันเลยย้อนกลับไปในยุคโชซอน โทมินจุน รับบทโดย คิมซูฮยอน เขาเดินทางมายังโลกพร้อมกับวัตถุประหลาดคล้ายแผ่นจาน เสียงดังกึกก้อง แล้วแผ่นจานนั้นก็หายลับไปในท้องฟ้า โทมินจุนมีความสามารถที่แตกต่างจากมนุษย์บนโลกใบนี้ เขาสามารถได้ยินผู้คนพูดคุยกันถึงแม้จะอยู่ที่ไกลกัน สามารถมองเห็นเรื่องราวต่าง ๆ ได้ เขามีพลังในการเคลื่อนย้ายวัตถุสิ่งของต่าง ๆ และสามารถเทเลพอร์ตได้ ในช่วงที่เขาเดินทางมายังโลกเขาได้ช่วยชีวิตเด็กสาวคนหนึ่งไว้ ซึ่งในอีก 400 ปีต่อมาก็คือ ชอนซงอี รับบทโดย ชอนจีฮยอน ซึ่งมีหน้าตาคล้ายเด็กสาวเมื่อ 400 ปีคนนั้น และโทมินจูก็ได้ช่วยให้ชอนซงอีรอดพ้นจากการถูกรถบรรทุกชนไว้ด้วย เหตุการณ์นั้นทำให้ชอนซงอีจดจำและเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ส่วนลึกในหัวใจของเธอตลอดมาหลังจากที่โทมินจุนได้ช่วยชอนซงอีรอดพ้นจากการถูกรถบรรทุกชน อีก 12 ปีต่อมา ชอนซงอีได้กลายมาเป็นดาราชั้นนำมีชื่อเสียงโด่งดังและมีอันต้องมาอยู่คอนโดติดกับโทมินจุน เรื่องราวความรักหนุ่มต่างดาวกับสาวชาวโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้น แต่ก็กลับกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อเวลาของโทมินจุนในโลกใบนี้เหลืออีกเพียง 3 เดือนเท่านั้นชอนซงอีมีเพื่อนวัยเด็กคือ ยูเซมี รับบทโดย ยูอินนา ซึ่งเป็นดาราเหมือนกัน และอีฮวีคยอง รับบทโดย พัคแฮจิน ก็มีความซับซ้อนในเรื่องความสัมพันธ์ ยูเซมีหลงรัก อีฮวีคยอง แต่ อีฮวีคยอง กลับหลงรักชอนซงอี ขณะที่ชอนซงอียังมีความทรงจำและคิดถึงชายหนุ่มคนที่ช่วยเธอให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น เรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้นตามมาทั้งโทมินจุนและชอนซงอี ต่างตกหลุมรักกัน แต่โทมินจุน พยายามที่จะไม่แสดงออกเพราะเขาตัดสินใจว่าอีกสามเดือนข้างหน้าเขาจะกลับไปยังดวงดาวที่เขาจากมา หากโทมินจุนเลือกที่จะรักและอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป ร่างกายของเขาจะสูญสลาย ท้ายที่สุดแล้วเขากลับตัดสินใจที่จะอยู่กับชอนซงอีและยอมทิ้งทุกอย่าง ชอนซงอีเมื่อทราบความจริงก็ขอให้โทมินจุนกลับไปยังดวงดาวของตัวเอง เรื่องเศร้าน้ำตาซึมสั่นสะเทือนอารมณ์จึงเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองที่รักกันมากแต่ต้องตัดสินใจจากลาว่ากันว่าคนเราเมื่อรักกันแล้ว แม้รู้ว่าจะต้องเลิกรากัน ก็ควรที่จะก็รักษาหรือคงความสัมพันธ์ แสดงความรักต่อกันเหมือนประหนึ่งว่าไม่มีวันพรุ่งนี้ และถึงแม้จะรู้ว่าอนาคตข้างหน้าสำคัญ แต่ ณ ขณะนี้ก็สำคัญเช่นกัน สำหรับความรักแล้วคนเราก็โง่แบบนี้แหละ เวลาอาจทำให้ทุกอย่างดีขึ้นก็จริง เราอาจลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้ หากเกิดอะไรขึ้นหรือปล่อยให้มันผ่านไปทั้งที่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ เราจะแน่ใจได้หรือไม่ว่าจะไม่รู้สึกอะไร โทมินจุนโศกเศร้าและตั้งคำถามกับตัวเองแบบนี้ตลอดเวลา เขาจะปล่อยให้วันนี้ผ่านเลยไปโดยไม่ทำอะไร หรือจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อให้อยู่ในความทรงจำตลอดไปMy love from the star โด่งดังเรตติ้งทะลุจอ ด้วยเรื่องราวเนื้อหาที่น่าติดตาม แปลกใหม่ และที่สำคัญมี คิมซูฮยอน โอปป้าระดับท็อปเท็นมาละลายหัวใจสาว ๆ ยิ่งทำให้ดังมากขึ้น และนอกจากจะประสบความสำเร็จในเรื่องเรตติ้งและโด่งดังแล้ว My love from the star ยังได้รับรางวัลต่าง ๆ อีกมากมายด้วยMy love from the star นำแสดงโดย คิมซูฮยอน ชอนจีฮยอน ยูอินนา และพัคแฮจิน โดยมี จาง แทยู เป็นผู้กำกับ สามารถรับชม My love from the star ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว ได้ทาง Netflix ผ่านทางกล่อง True ID ได้แล้วในตอนนี้และอย่าพลาดติดตามซีรีส์เรื่องใหม่ของคิมซูฮยอน It's Okay, to not be Okay ทาง Netflix ในวันที่ 20 มิถุนายน 2563 นี้ ตอนนี้ตามชม 🎞 Teaser : It's Okay, to not be Okay ไปพลาง ๆ ก่อน ขอบคุณภาพประกอบจาก asianwiki.com : My_Love_From_the_Star
เจ้าแก้วหน้อย • 12 มิ.ย. 63
อ่าน
รีวิว ครีมกันแดด U STAR Vit C Sun Cream SPF 50 PA+++ ปกป้องผิวพร้อมบำรุงในขั้นตอนเดียว
สวัสดีค่ะทุกคน บทความนี้เรามีกันแดดดี ๆ มาแนะนำค่ะ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้ครีมกันแดดเป็นไอเทมที่ใครก็ขาดไม่ได้แน่นอน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายสูตรให้เราได้เลือกใช้ แต่ความพิเศษของกันแดดหน้าวิตซีที่เราจะมาแนะนำในบทความนี้คือน้องเป็นกันแดดที่นอกจะช่วยปกป้องผิว น้องยังช่วยบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใสได้ในขั้นตอนเดียวอีกด้วยU STAR Vit C Sun Cream SPF 50 PA+++ ยูสตาร์ วิตซี ซัน ครีม เอสพีเอฟ 50 พีเอ+++ ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า สูตรบางเบาพิเศษ ปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะพร้อมบำรุงผิวUltrafine Titanium Technology อนุภาคเล็ก ปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของ ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัยอนุพันธ์วิตามินซีเข้มข้น และ Red Fruit Complex ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำAloe Vera + Bisabolol ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองปราศจาก Paraben, Alcohol, Mineral Oil, MIT, SLS/SLES ปริมาณสุทธิ 50 กรัม ราคา 79 บาท (ราคาปกติ 195 บาท) บรรจุภัณฑ์ มาในรูปแบบหลอดบีบ ขนาดกำลังดี พกพาง่าย ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วนเนื้อสัมผัส เข้มข้น แต่บางเบา เวลาเกลี่ยเนื้อจะเนียน ๆ ไม่เหลวและไม่เหนียว เนื้อลื่น เกลี่ยง่าย ซึมลงผิวเร็ว หลังครีมซึมลงผิว ผิวจะมีความชุ่มชื้น ไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่อุดตันรูขุมขน ที่สำคัญไม่เปลี่ยนสีผิว สามารถเมคอัพต่อได้เลยจ้าเนื้อครีมมีสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ หอมติดผิว ใครที่แพ้น้ำหอม อาจต้องลองเทสดูก่อนนะคะ ส่วนตัวเป็นคนผิวผสม มันบริเวณทีโซน หน้ามันระหว่างวันง่าย หลังทาหน้าจะชุ่มชื้นขึ้น สามารถลงผลิตภัณฑ์ตัวอื่นได้ไม่ทำให้เป็นขุย ขณะเกลี่ยเนื้อครีมอาจติดคิ้ว ติดผมไปบ้าง หน้าอาจดูเทา ๆ แต่อย่าตกใจไปค่ะ สักแปปครีมก็ซึมลงผิวแบบสวย ๆ ไม่เป็นคราบขาว ไม่หนักผิว แต่งหน้าต่อได้เลย สีเครื่องสำอางค์ไม่เพี้ยน แถมช่วยให้เครื่องสำอางค์อยู่ทน ไม่ไหลเยิ้มระหว่างวันอีกด้วยประสิทธิภาพในการกันแดดดีมาก โดดแดดจัดไม่แสบร้อนผิว กันน้ำ กันเหงื่อได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ เราคิดว่าคนที่มีผิวผสมถึงผิวมันน่าจะชอบเลยค่ะ เพราะน้องไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่ทำให้หน้ามันเร็ว แต่น้องมีน้ำหอม ใครที่ไม่ชอบหรือแพ้ อาจต้องเลี่ยงนะคะ ตอนแรกเห็นราคาคือแอบตกใจนิด ๆ เพราะเป็นกันแดดที่ราคาเบา แต่เนื้อดีมาก ๆ ประสิทธิภาพในการกันแดดทำได้ดีเลยค่ะ แถมยังเพิ่มการบำรุงผิวไปด้วย เรียกได้ว่าคุ้มคูณสอง เป็นกันแดดถูกและดี ที่ควรมีควรตำ น้อง ๆ นักเรียน หรือคนงบน้อย ที่กำลังมองหากันแดดราคาย่อมเยาว์ แต่คุณภาพเริ่ด ๆ เราขอแนะนำ กันแดดวิตซี ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะคะ สามารถหาซื้อได้ในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หรือ CJ ใกล้บ้านได้เลยนะคะภาพประกอบบทความทั้งหมดโดย MinAromatic : ผู้เขียน
MinAromatic • 4 มี.ค. 67
อ่าน
เอิง-เอย วางไมค์ สวมบทแฝดพลัดพราก หากันจนเจอ ใน Wifi Society ตอน Be Another Me สวัสดีฉันที่รัก
เมื่อโชค และโลกโซเชี่ยล พาคนหน้าเหมือน 2 คนมาเจอกัน ที่มาของ Wifi Society ซีรี่ส์เรื่องร้อนจากโลกออนไลน์ ตอนล่าสุด Be Another Me สวัสดีฉันที่รัก เรื่องของชายหนุ่ม 2 คน นำแสดงโดย เอิง-ดนุพรรษ์ และ เอย-ธนพรรษ์ ยาท้วม 2 หนุ่มพี่น้องฝาแฝด นักร้องนำและมือกีตาร์ วงซัมเมอร์สต๊อป ที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีฝาแฝดเพราะต้องแยกจากกันตั้งแต่เด็ก แต่โชคชะตาก็นำพาให้คนทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ ทั้งคู่เริ่มสงสัยว่าตัวเองมีฝาแฝด เลยออกตามหากันอีกครั้งด้วยวิธีการของตัวเอง โดยมีโลกโซเชี่ยลเป็นสื่อกลาง ขณะที่คนหนึ่งมีชีวิตสุขสบาย ส่วนอีกคนกลับต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองคนเหมือนกันคือ การต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังในเมืองที่กว้างใหญ่ ตามหาอยู่นาน จนในที่สุดก็บังเอิญมาเจอกันและได้ทำความรู้จักพูดคุยกันผ่านโลกโซเชี่ยล จากนั้นทั้งคู่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้เจอกันจริงๆ สักที วินาทีที่เจอกันครั้งแรกของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด ติดตามชม Wifi Society ซีรี่ส์เรื่องร้อนจากโลกออนไลน์ ตอน Be Another Me สวัสดีฉันที่รัก วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค.นี้ เวลา 15.00 น. ทางช่อง one ที่เสาอากาศดิจิตอล ช่อง 31 หรือกล่องรับสัญญาณดาวเทียมและเคเบิลทีวี ช่อง 41 และอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/wifisociety หรือ IG : Wifi_society ชมทีวีออนไลน์ช่อง One HD แบบสดๆ ได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety
ข่าวละคร • 22 พ.ค. 58
อ่าน
ชวนชม Jeongnyeon: The Star Is Born (2024)
ชวนชม Jeongnyeon: The Star Is Born (2024) เหล้าเก่าในขวดใหม่ของ "คิมแทรี" ที่ใส่ใจรายละเอียดเริ่มต้นอย่างครบครันทั้งความฝันและความพยายามตามมาด้วยดราม่าขอบตาอุ่นชื้นตั้งแต่ต้น มาอีกแล้วกับงานที่ผู้เขียนไม่มีทางที่จะไม่ดูหรือปฏิเสธที่จะดูกลับกันคือต่อให้มีร้อยเหตุผลที่จะไม่ดูแต่ถ้ามีเพียงเหตุผลเดียวพอที่จะให้ดูผู้เขียนต้องดูและเหตุผลนั้นคือคิมแทรี ใช่แล้วเธอคือเหตุผลเดียวที่จะเจียดเวลาที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ยในแต่ละวันมาดูงานใหม่ของเธอที่ออกอากาศทุกคืนวันเสาร์และอาทิตย์แต่ผู้เขียนจะดูค่ำๆวันจันทร์เพราะตอนกลางคืนมักทนง่วงไม่ไหว นั่นเพราะผู้เขียนเมื่อได้แรกพบคิมแทรีใน Mr. Sunshine (2018) เป็นต้นมาก็ตามเก็บและตามดูงานของเธอทุกเรื่องย้ำว่าทุกเรื่องที่หาดูได้ตั้งแต่ The Handmaiden (2016),1987: When The Day Comes (2017),Little Forest (2018),Space Sweepers (2021),Alienoid 1-2 (2022-2024) ที่เป็นงานหนัง ส่วนงานซีรีส์ตั้งแต่ Twenty Five Twenty One (2022),Revenant (2023) และเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องล่าสุดเอาแบบเกือบครบกันไป นั่นหมายความว่าผู้เขียนหลงไหลบางอย่างในตัวคิมแทรีแน่นอนส่วนสำคัญคือการแสดงของเธอที่มีพลังสะกดคนดูเสมอมาและเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นในจุดเริ่มต้นนี้ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 หลังสงครามเกาหลียุนจองนยอน (คิมแทรี) เด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับเสียงร้องเพลงดั่งสวรรค์ประทานอาศัยในเมืองมกโพกับแม่และพี่สาว แต่แม้เสียงร้องเพลงของจองนยอนจะมีความพิเศษแต่แม่ของเธอซอยองรเย (มุนโซรี) กลับห้ามไม่ให้ร้องเพลงจนกระทั่งเธอร้องเพลงในตลาดแล้วมุนอ๊กกยอง (จองอึนแช) นักแสดงละครเวทีกุกกึกที่เป็นการแสดงหญิงล้วนจากคณะแมรันกุกกึกมาได้ยินเข้าก็ประทับใจจึงให้ตั๋วกับจองนยอนให้ไปดูการแสดง หลังจากที่ได้ดูจองนยอนก็เหมือนกับถูกมนต์สะกดและกลายเป็นมีความฝันที่จะเป็นนักแสดงกุกกึกชื่อดังดั่งเช่นมุนอ๊กกยอง ทว่าปัญหาอยู่ที่แม่ผู้เข้มงวดของเธอที่พอรู้ว่าจองนยอนแอบไปฝึกการแสดงกุกกึกเพื่อออดิชันเข้าคณะแมรันก็โกรธและขังเธอไว้ จนเมื่อมุนอ๊กกยองจะกลับกรุงโซลที่จองนยอนจะไปด้วยยุนจองจา (โอกยองฮวา) ก็ทนไม่ได้ที่เห็นน้องต้องเจ็บปวดจึงแอบปล่อยน้องออกมา และที่คณะแมรันที่มีหัวหน้าคณะจอมเฮี้ยบคือคังโซบก (รามีรัน) คงไม่ง่ายที่ฝันของจองนยอนจะเป็นจริง เหล้าเก่าในขวดใหม่แต่ถูกปรุงเพิ่มอย่างกลมกล่อมก่อนบรรจุอย่างเนี้ยบด้วยการใส่รายละเอียดทั้งดราม่าและเรื่องเชิงวัฒนธรรม แรกเลยต้องชื่นชมการเขียนบทของทางเกาหลีอีกครั้งว่าเก่งจนไม่รู้จะอวยยังไงกับการช่างสรรหาเรื่องมาปรับแต่งให้อะไรที่เป็นของเก่าเล่าซ้ำกลายเป็นเหมือนใหม่ อย่างเรื่องนี้ก็คือเรื่องของการล่าฝันและแรงบันดาลใจที่ต้องฝ่าฟันไปให้ถึงที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แถมยังมีการต้องเผชิญกับสถานการณ์และคู่แข่งในฐานะเด็กฝึกที่เป็นเหมือนเรื่องราวในโรงเรียนมัธยมที่เคยเห็นในงานแนววัยรุ่นแน่นอนมีดราม่าอยู่เบื้องหลังแน่เพราะตัวละครแม่ออกตัวแรงขนาดนี้ แต่การเอาเรื่องที่เคยเห็นมาแบบนี้มาเล่าโดยที่ไม่มีสัมผัสเรื่องอื่นเลยต้องนับว่าเยี่ยมคือรู้นะว่ามันคือแนวเรื่องเดิมแต่ปรับฉากทัศน์แต่ไม่รู้สึกว่าหยิบเอามาจากเรื่องไหน แถมยังเล่าเรื่องค่อนข้างตรงไปตรงมามีซับซ้อนหน่อยๆในดราม่าที่เบื้องหลังแต่ความเจ๋งคือการเอาเรื่องเชิงวัฒนธรรมคือการเอาการแสดงโบราณที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นมาเป็นเบื้องหลังที่ดูไปก็ไม่ต่างจากลิเกบ้านเรา เมื่อเรื่องถูกประกอบจากหลายส่วนแล้วแต่ละส่วนมีความเร้าใจในตัวเองมาพร้อมรายละเอียดที่ละเมียดจึงออกมาเข้มขลัง หลักๆคือเรื่องของการเดินตามความฝันด้วยอารมณ์ประมาณจะไม่กลับหลังถ้ายังไม่ได้ดีที่ถ้าท่านอ่านเป็นทำนองก็ไม่น้อยแล้วนะอายุ แน่นอนสำหรับบางคนการมีความฝันก็เป็นเรื่องที่เยี่ยมแล้วเพราะบางคนแม้แต่ฝันยังไม่กล้า ทำให้ได้ตอนแรกที่ทรงพลังมีทุกอารมณ์ที่จะทำให้คนดูรู้สึกถึงอิ่มเอมตื้นตันขนลุกขอบตาชื้นเศร้าซึ้งและสงสัยว่าทำไมแม่จึงเป็นแบบนั้นซึ่งก็เดาไม่น่ายาก ตอนแรกจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่พลังแรงจนไม่ควรพลาดก่อนที่เมื่อมาถึงตอนที่สองเมื่อปรับเข้าสู่การเป็นเด็กฝึกที่ต้องอยู่ร่วมกับเด็กวัยเดียวกันก็ปรับมาเป็นงานแนววัยรุ่นวัยเรียนได้ดี เพราะทุกอย่างที่มีในงานแนวนี้ก็มาครบการวางตัวคู่แข่งและสถานการณ์การกลั่นแกล้งที่เคยเห็นกันมาทั้งที่รู้นะว่าตัวจองนยอนเองจะผ่านแต่ละเรื่องไปได้แต่ก็ยังไม่วายลุ้นเอาใจช่วยอยู่ดี และสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นความเข้มข้นตามแนวที่มาพร้อมกับฉากหลังเป็นของโบราณที่น่าสนใจจึงเป็นความขลัง อีกครั้งที่ "คิมแทรี" สามารถทำให้ขนแขนแสตนด์อัพได้กับการแสดงของเธอที่มาพร้อมยอดฝีมือที่รายล้อม ด้วยความที่คิมแทรีได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ค่อนข้างเลือกบทเห็นได้จากการที่ฝีมือระดับนี้แต่เครดิตผลงานกลับมีไม่มาก ดังนั้นแรกเลยคือเมื่อเห็นว่าเป็นงานใหม่ของคิมแทรีก็เชื่อไว้ก่อนได้เลยว่าบทต้องออกมาดีมีระดับคิมแทรีจึงรับงานแสดงซึ่งเมื่อมองจากสองตอนแรกที่ได้ดูโดยเฉพาะกับตอนแรกที่คิมแทรีประชันกับมุนโซรีในบทแม่อีกครั้งหลังจาก Little Forest (2018) ซึ่งบอกเลยว่าตอนแรกนั้นเป็นจุดเริ่มที่ยอดเยี่ยมมีครบทุกอารมณ์ในเวลาเพียงเท่านั้นด้วยด้วยการแสดงระดับเยี่ยมๆของทั้งสองแม้ว่าจะชัดเลยว่าเรื่องนี้มีคิมแทรีเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคิมแทรีเองยังสามารถทำให้คนดูขนลุกไปกับการแสดงของเธอได้แทบทุกซีนทุกอารมณ์โดยเฉพาะการ้องเพลงที่เชื่อเถอะว่ามันมาจากการทำงานและการฝึกฝนอย่างหนัก แล้วหลังจากนั้นมาทุกการเผชิญหน้ากันของคิมแทรีกับรามีรันก็กลายเป็นฉากที่มีพลังยังไม่รวมถึงความกะโปโลสุดเดชของคิมแทรีที่เยี่ยมจริงๆ ง่ายๆคือแค่ดูการแสดงของ "คิมแทรี" ก็คุ้มค่าสมราคาแต่ยังมีความสนุกมีเรื่องกระชากอารมณ์ให้ต้องติดตาม โดยส่วนตัวแล้วการได้ดูคิมแทรีแสดงและยังแสดงได้ในระดับนี้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วกับสองตอนเริ่มต้น แน่นอนในเนื้อหาที่เป็นแนวประโลมโลกสร้างแรงบันดาลใจไปกับความฝันที่อาจไม่ยิ่งใหญ่แต่ใหญ่พอและอาจใหญ่เกินไปสำหรับบางคนที่ไม่กล้าฝันที่เริ่มต้นแค่การอยากกมีเงินมีทองเลี้ยงปากท้องแม่และพี่ให้อยู่สบาย ก็ไม่ตางจากเนื้อเพลงของราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์เพลงนักร้องบ้านนอกที่เอาง่ายๆคือเรื่องประมาณนี้มันไม่เคยง่ายยิ่งฝันนั้นยิ่งใหญ่หนทางยิ่งลำบาก แต่เมื่อเรื่องเดินตามแนวนี้ชื่อเรื่องก็บอกโทนโท่ก็คงพอรู้ว่าบทสรุปจะออกมาแบบไหนแต่ไม่ว่ายังไงก็ยังเอาใจช่วยอยู่ดีด้วยการแสดงที่ได้ใจเต็มที่ไปแล้วโดยคิมแทรี แล้วอุปสรรคนั้นอาจจะมาจากภายในคือตัวเองบ้างหรือไม่ยังไม่อาจทราบได้แต่มาจากภายนอกคือคู่แข่งตัวเอ้มีแน่นอนแล้วเมื่อคนดูเทใจให้จองนยอนไปแล้วความสนุกความกระชากอารมณ์ที่มีจึงทำให้ไม่ว่ายังไงก็ต้องติดตาม ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3,4,5,6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram tvn_drama จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
ดูไปบ่นไป • 17 ต.ค. 67
อ่าน
5 เรื่องน่ารู้จาก A Star is Born
A Star is Born อีกหนึ่งหนังตัวเต็งที่น่าจะได้เข้าชิงออสการ์ในปี 2019 กับผลงานการกำกับ และแสดงนำครั้งแรกของแบรดลี่ย์ คูเปอร์ พร้อมด้วยการได้นักร้องสาวเสียงดี เลดี้ กาก้า มารับบทนางเอกครั้งแรก พร้อมกับเรื่องราวการเดิมตามความฝันและความรักของคนสองคน ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังมิวสิคคัล ที่น่าดูที่สุดเรื่องหนึ่งของเพลงนี้ ตั้งแต่เพลงประกอบที่แสนไพเราะ ชวนประทับใจ การแสดงแบบทุ่มสุดตัวของสองนักแสดงนำ ที่ล้วนการันตีว่า A Star is Born เป็นหนังคุณภาพที่คอหนังไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับโพสต์นี้ จึงขอหยิบยก 5 เรื่องน่ารู้ก่อนที่เราจะไปดูหนังเรื่องนี้กัน ว่ากว่าที่จะมาเป็นโปรเจ็กต์นี้ หรือกว่าที่หนังออกมาเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้เราได้ชมกันนั้น มีเบื้องหลัง มีอะไรน่าสนใจบ้าง1. A Star is Born เวอร์ชั่นนี้เป็นการรีเมคครั้งที่สาม จากหนังสุดคลาสสิกชื่อเดียวกันA Star is Born เคยถูกสร้างมาแล้วถึง 2 รอบ ด้วยกัน และในเวอร์ชั่นนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ 3 ที่ได้นักแสดงนำมากฝีมือและฝากผลงานมากมายอย่าง แบรดลี่ย์ คูเปอร์ และที่เซอร์ไพรส์มากกว่าคือ การที่ได้นักร้องสุดจี๊ดและแซ่บ อย่าง เลดี้ กาก้า มารับบทนางเอกหนังเรื่องนี้! ซึ่งเรื่องรางในภาคนี้ จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกับทั้ง 2 เรื่องก่อนหน้านี้ และด้วยความละเอียดของบท เราจะพาคุณไปพบกับบทบาทในภาคก่อนๆกันในปี 1937 ในเวอร์ชั่นกำกับ โดย วิลเลียม เอ. เวลล์แมน ได้นักแสดงนำอย่าง เฟรดริก มาร์ช และ เจเน็ต เกย์เนอร์ เนื้อหาว่าด้วย นอร์แมน เมน(มาร์ช) นักแสดงที่ใกล้ตกอับ กับเอสเธอร์ บลอดเจตต์ ( เกย์เนอร์) สาวที่มีความทะเยอทะยาน อยากเป็นนักแสดงฮอลลีวูด ซึ่งภาพยนตร์ในเวอร์ชั่นนี้ ได้เข้าชิงออสการ์ครั้งที่10 ถึง 7 สาขา และได้รับรางวัลมา 1 สาขา คือ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปลายปี 1952 ในเวอร์ชั่นการกำกับโดย จอร์จ คูเกอร์ ได้รับมอบหมายจาก ซิดนีย์ ลัฟต์ ให้นำหนังเรื่องดังกล่าวมาปัดฝุ่นทำใหม่ในเวอร์ชั่นมิวสิคัล โดยต้องมี จูดี้ การ์แลนด์ ภรรยาของลัฟต์แสดงนำ และได้ เจมส์ เมสัน มารับบทนำอีกคน เนื้อหาค่อนข้างเปลี่ยนจากเดิมเล็กน้อยจากเวอร์ชั่นก่อน โดยที่ กาแลนด์ ได้รับบทสาวที่กำลังจรัสแสง ส่วน เมสัน ได้รับบทนักแสดงที่ค่อยๆ ดับ เพราะติดการดื่มอย่างหนัก ทั้งกาแลนด์และเมสัน ได้เข้ารับรางวัลลูกโลกทองคำ และในเวอร์ชั่นนี้ ก็ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 6 สาขาด้วยกันถัดมาในปี 1976 มีแฟรงก์ เพียร์สัน กำกับการแสดง และมี คริส คริสตอฟเฟอร์สัน กับ บาร์บรา สไตรน์แซนด์ (เธอควบตำแหน่งผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ด้วย) ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ จะเน้นความโรแมนติกและดราม่าของตัวละคร ทั้งนักร้องและนักดนตรีเต็มตัว คริส คริสตอฟเฟอร์สัน รับบท ทร็อกสตาร์ ขี้เหล้าที่เมาเละลงจากเวที ชอบไปสิงอยู่กับบาร์ ที่มีตัวละครของสไตรน์แซนด์ เป็นนักร้องรับจ้าง ก่อนดาวทั้งสองดวง จะรักกันและมีชีวิตที่สวนทางกัน แม้ตะมีชื่อเดียวกันแต่ในเวอร์ชั่นนี้จะมีความต่างจากสองเวอร์ชั่น จึงไม่ถูกนับว่าเป็นการรีเมคจากสองฉบับก่อนหน้า2. เปลี่ยนมือผู้กำกับ นักแสดงหลายรอบ หว่าจะมาลงเอยที่ แบรดลี่ย์ คูเปอร์เดิมที A Star is Born เป็นโปรเจ็กต์ที่ทาง วอร์นเนอร์บราเธอร์ ตั้งใจจะทำตั้งแต่ปี 2011 โดยวางตัวผู้กำกับรุ่นเก๋าอย่างคลินต์ อีสต์วูด มามำหน้าที่สร้างสรรค์เรื่องราว พร้อมวางตัว ลีโอนาร์โด ดีคาร์ปริโอ รับบทนำคู่กับ บียอนเซ่ จนกระทั่งข่าวคราวของหนังก็เงียบหายไป พร้อมกับรายชื่อนักแสดงชายมากมายที่มีข่าวลือว่าจะมารับบทนำในหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ ทอม ครูซ , วิล สมิธ และคริสเตียน เบลล์ผ่านไปจนกระทั่งปี 2012 หนังยังหาตัวนักแสดงนำไม่ได้ พร้อมกับ บียอนเซ่ที่ต้องถอนตัว เพราะตั้งครรภ์ และสุดท้ายในปี 2015 คลิน อีสต์วู้ด ก็ต้องถอนตัวไปอีกคนเพราะเขาหันไปทำโปรเจ็กต์ Jersey Boy แทน จนกระทั่ง ทางค่ายที่พยายามหาผู้กำกับที่จะมาแทนที่อีสต์วู้ด จนไปลงเอยที่ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ ที่ตั้งใจจะกำกับหนังภายใต้นามบริษัทที่เขาเปิดร่วมกับ ทอดด์ ฟิลิปป์ ผู้กำกับจาก The Hangoverอย่าไรก็ดี แบรดลีย์ คูเปอร์ เองก็เคยผ่านการแสดงกับบทบาทสุดหินมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะ American Sniper (2014) ที่รับรางวัลออสการ์มา และตีบทแตกได้อย่างสมจริง3. ความท้าทายครั้งสำคัญ กับการควบหน้าที่แสดงนำ และกำกับครั้งแรกของ แบรดลี่ย์ คูเปอร์อย่างที่หลายๆ คนคงทราบกันดีว่า A Star is Born เป็นผลงานประเดิมการกำกับหนังครั้งแรกของ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ แถมเขายังควบตำแหน่งในการร่วมเขียนบท และแสดงนำในหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่าพอหนังที่ คูเปอร์ จะทำเป็นการรีเมคหนังคลาสสิก ขึ้นหิ้ง ก็ได้มีหลายๆ เสียงวิจารณ์เขาว่าเป็นการกล้าหาญ กล้าดีเกินไปหรือเปล่า สำหรับผู้กำกับหน้าใหม่ และด้วยอาถรรพ์หนังรีเมคที่มันช่างรุนแรงอย่างที่เราเคยเห็นหลายต่อหลายเรื่องแต่ คูเปอร์ ก็ได้ออกมาเปิดใจว่า "ผมรู้สึกอยากกำกับหนังมาตลอด เพราะหนังมีบทบาทในชีวิตช่วงวัยเด็กของผมมาก ทั้งคอยเยียวยา ปลุกพลัง สร้างแรงบันดาลใจ แต่เราเลือกหนังไม่ได้ ซึ่งผมมีมุมมองของหนังเรื่องนี้ และรู้ตัวเองว่าอยากเล่าเรื่องความรัก และผมคิดว่าน่าจะเอาดนตรีมารวมด้วยได้ เพราะไม่มีอะไรจะสื่อสารได้ดีไปกว่าการร้องเพลง เพราะเราปิดบังอะไรไม่ได้ และมันมีหลายเหตุการณ์ ทั้งภาพและเสียงที่มารวมเข้าด้วยกัน จนสุดท้ายเกิดภาพที่ทำให้ผมคิดว่า 'หนังเรื่องนี้ใช่เลย'"นอกจากการประเดิมงานกำกับครั้งแรก ใน A Star is Born คูเปอร์ ยังต้องโชว์พลังเสียงด้วยการร้องเพลงประกอบหนังด้วยตนเองอีกด้วย เขาก็ต้องไปเข้าคอร์สเรียนร้องเพลงหลายเดือน ก่อนที่จะมาเริ่มแสดงหนังเรื่องนี้ โดยคูเปอร์ ต้องไปฝึกสำเนียงคันทรี่ แบบเท็กซัสให้ดูสมจริงที่สุด4. การรับบทนางเอกครั้งแรกของ เลดี้ กาก้า กับภาพลักษณ์ที่ไม่มีใครเคยเห็นหลังจากที่ก่อนหน้านี้นักร้องเสียงทรงพลังอย่าง เลดี้ กาก้า ได้เคยเข้ามาร่วมแสดงสมทบในซีรีส์ทีวีหลายเรื่อง อย่างเช่น American Horror Story แต่สำหรับใน A Star is Born ถือว่าเป็นครั้งแรกในการรับบทนำ ในหนังใหญ่ และแน่นอนว่าพอเป็นครั้งแรกในการรับบทสำคัญ อย่างบทนางเอก ก็ทำให้เธอกังวลอยู่ไม่น้อย จนกระทั่ง คูปเปอร์ ได้ยื่นข้อเสนอ ที่จะให้เธอ มาช่วยสอนเทคนิคการร้องเพลงให้เขา และเขาจะช่วยแนะนำเทคนิค ด้านการแสดงให้เธอ จนทำให้ กาก้า ยอมตกลงที่จะรับบทนำในหนังเรื่องนี้แน่นอนว่าพอหนังเรื่องนี้มีชื่อนักร้องชื่อดังอย่าง เลดี้ กาก้า มารับบทนางเอก เราจะได้ฟังพลังเสียงอันไพเราะ และทรงพลังของเธอ พร้อมการแสดงที่ทุ่มสุดตัวแล้ว กาก้า ยังยอมลงทุนเผยใบหน้าที่แท้จริงของเธอแบบหมดเปลือกในหนังเรื่องนี้ด้วย หลายคนที่รู้จัก เลดี้ กาก้าต่างคงจะคุ้นเคยกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางแบบจัดเต็มของเธอ แต่ในบท แอลลี่ กาก้าต้องล้างเครื่องสำอางทั้งหมด เพื่อให้เธอดูเปิดเผย และเป็นธรรมชาติที่สุด ฉะนั้นในหนังเรื่องนี้คุณจะได้เห็นหน้าสดที่สุด ของนักร้องสาวคนนี้แบบที่ไม่เคยปรากฏในสื่อไหนมาก่อน5. Shallow เพลงประกอบสุดไพเราะจากสองนักแสดงนำเมื่อปี 2017 เราได้ซาบซึ้ง และและประทับใจไปกับ City of Stars จาก La La Land ในปีนี้เราจะได้ประทับใจไปกับบทเพลงจาก A Star is Born ด้วยเพลงประกอบที่รับประกันว่าเพราะทุกเพลง ด้วยการได้ เลดี้ กาก้า และ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ มาร่วมขับร้องด้วยตัวเองแบรดลี่ย์ คูเปอร์ เคยออกมาเผยถึงเบื้องหลังของเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ว่า " ตอนที่แต่งเพลงเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อหนังเรื่องนี้ ทุกเพลงเกิดขึ้นจากเสียงของแจ็คสัน จนกระทั่งเขาได้พบกับแอลลี่ ได้ตกหลุมรักกัน และเดินทางไปด้วยกัน ทั้งคู่ต่างค่อยๆ เติบโตขึ้นพร้อมๆ กัน กับวงของเขา พวกเราจึงได้สร้างเพลงเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นเส้นทางของพวกเรา คุณจะเห็นทั้งเพลงที่เธอร้อง Cover เพลงของแจ็คสัน เพลงของแอลลี่และแจ็คสันที่ร้องด้วยกัน และเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น”หนึ่งในเพลงเด็ดของหนังเรื่องนี้ก็คือ Shallow เพลงที่ทั้งสองนักแสดงนำขับร้องคู่กัน โดยเหตุผลที่หนังเลือกที่จะใช้เพลงนี้เป็นเพลงโปรโมทเพราะว่าเนื้อหาของเพลงนี้เปรียบเสมือน การปลอบใจ ให้กำลังใจกันระหว่าง แอลลี่ และแจ๊คสัน ในการเดินตามความฝันของตนเอง ในเพลงนี้เราจะได้เห็นทั้งคูเปอร์ และกาก้า โชว์พลังเสียงกันอย่างเต็มที่ ด้วยทั้งเสียงร้องอันไพเราะ ความหมายของเพลงที่เปี่ยมความหมาย เชื่อว่า Shallow ได้กลายเป็นตัวเต็งในการเข้าชิงออสการ์ สาขา เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยจากสองนักแสดงนำขับร้องด้วยตัวเองลิ้งสำหรับฟังเพลง Shallowhttps://www.youtube.com/watch?v=bo_efYhYU2A Cr.ภาพประกอบ https://www.facebook.com/StarIsBornMovie/ลิ้งต้นฉบับบทความ https://www.facebook.com/pg/IWatchmoviesalot/photos/?tab=albumalbum_id=2199024826837822สามารถติดตามอ่านรีวิวหนัง และข่าวสารหนัง เพิ่มเติมได้ที่(เพจของผู้เขียน) https://www.facebook.com/IWatchmoviesalot
Poklubu • 12 เม.ย. 63
อ่าน
รีวิวซีรีส์ Jeongnyeon: The Star Is Born (2024)
Series Review Jeongnyeon: The Star Is Born (2024) แรงบันดาลใจเปี่ยมล้นบนเรื่องความฝันและการฝ่าฟันที่ถ่ายทอดได้อย่างยิ่งใหญ่โดย "คิมแทรี" และเหล่ายอดฝีมือรอบกายเธอ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! แรงบันดาลใจคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะสามารถบันดาลให้ใครหลายคนหรือบางคนทำอะไรสักอย่างอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ต่อสังคมหรือบางครั้งอาจเป็นเพียงเรื่องเล็กๆที่ไม่ได้มีผลอะไรในวงกว้างแต่มันอาจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของตัวเองนั่นก็อาจมาจากแรงบันดาลใจ แล้วแรงบันดาลใจนี่เองที่มักถูกยึดโยงกับความฝันที่สำหรับคนบางคนก็มีฝันที่ไกลที่ใหญ่พอที่จะเปลี่ยนอะไรบางอย่างแต่สำหรับบางคนก็อาจเป็นแค่เรื่องง่ายๆแต่อย่างน้อยการมีฝันที่จะทำหรือจะเป็นอะไรกระทั่งจะทำเพื่อใครก็ยังดีกว่าไม่มีความฝัน เพราะมีความฝันจึงมีแรงบันดาลใจที่จะวกกลับไปที่กล่าวมาข้างต้นแต่บางคราวสถานการณ์ในชีวิตที่เป็นอยู่อาจทำให้ความฝันที่ก่อเกิดแรงบันดาลใจถูกหลงลืมปล่อยทิ้งไว้ จึงอาจต้องมีอะไรมากระตุ้นเตือนว่าทุกคนต่างมีความฝันและเคยมีแรงบันดาลใจแต่มันถูกปล่อยทิ้งไว้ให้สนิมเกาะเกรอะกรังเต็มไปด้วยฝุ่นและสิ่งกระตุ้นนั้นอาจมาจากเพลงที่ฟังหนังที่ดูหรือละครที่ได้ติดตาม แล้วบางครั้งการมีฝันที่เริ่มจากเรื่องเล็กน้อยแต่อาจลงเอยด้วยความยิ่งใหญ่เช่นเรื่องนี้ที่เพิ่งจบลงไป ยุนจองนยอน (คิมแทรี) เด็กสาวกะโปโลจากมกโพผู้มีเสียงร้องเพลงดั่งสวรรค์บันดาลแต่ถูกแม่ (มุนโซรี) ห้ามไม้ให้ร้องเพลงอย่างน่าแปลกใจยิ่ง วันหนึ่งเสียงร้องของเธอไปเข้าหูของมุนอ๊กกยอง (จองอึนแช) เจ้าชายพระเอกแห่งคณะกุกกึกหญิงล้วนแมรันกุกกึกจนประทับใจจึงชวนจองนยอนไปดูการแสดง แล้วเมื่อได้ดูการแสดงกุกกึกที่มีทั้งการร้องการเต้นและการแสดงจองนยอนจึงเหมือนถูกมนต์สะกดจนเธอตัดสินใจที่จะไปสอบเข้าคณะแมรัน ทว่าอุปสรรคใหญ่คือแม่จองนยอนจึงหนีออกจากบ้านโดยมีความฝันเล็กที่ยิ่งใหญ่คือการกลายเป็นดวงดาวที่อยู่คนละฟากฟ้าด้วยการเป็นนักแสดงกุกกึกชั้นแนวหน้า แต่ที่คณะแมรันทางเดินนั้นไม่ง่ายเลยเพราะเด็กบ้านนอกอย่างจองนยอนต้องผ่านการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองมากมายและหนึ่งในนั้นคือคู่แข่งที่อาจมีความฝันเดียวกันคือฮอยองซอ (ชินเยอึน) แน่นอนเมื่อที่ยืนบนจุดสูงสุดย่อมมีเพียงที่เดียวอุปสรรคที่ขวางหน้าจองนยอนจึงมาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าแรงบันดาลใจของจองยอนมีมากพอที่จะไปถึงฝันหรือไม่ เหล้าเก่าในขวดใหม่ว่าด้วยเรื่องความฝันและแรงบันดาลใจผ่านบทละครที่เนียนกริบ เรื่องของการมีฝัน การล่าฝัน การฝ่าฟัน แรงบันดาลใจที่มาพร้อมความมุ่งมั่นจะเป็นหรือจะทำบางอย่างเพื่อไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดเอาจริงคือไม่รู้ว่าผ่านตามามากขนาดไหนเพราะถ้านึกย้อนไปก็นับไม่ถ้วน นั่นคือบทละครของเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่เลยก็คือเด็กบ้านนอกหนึ่งที่เข้าสู่เมืองหลวงเพื่อเป็นดารา สิ่งที่ตามมาคือเรื่องการแข่งขันการต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงที่ยืนบนจุดสูงสุดเป็นดาวจรัสฟ้าที่มีเพียงแค่ดวงเดียวซึ่งการต่อสู้นั้นจะเป็นดราม่าที่มาจากทั้งภายนอกและภายในตัวเอง แต่เรื่องแบบนี้อาจคุ้นยิ่งกว่าคุ้นก็ยังสามารถขายได้เรื่อยๆด้วยการเรียบเรียงบทให้ดีและกับเรื่องนี้มันคือการแสดงซ้อนการแสดงที่ถ้าลงลึกไปอีกคือการต่อสู้กันระหว่างพรสวรรค์และพรแสวงที่ออกมาเนียนกริบ ส่วนดราม่าซ้อนก็มาครบทุกระบวนท่าแต่สิ่งที่ทำให้สามารถดึงความสนใจได้ในความเก่าคร่ำคร่าของพล็อตคือเนื้อหาที่เล่าเรื่องของการแสดงละครเวทีกุกกึกที่คู่ควรต่อการรำลึกถึงจึงอาจต้องยอมรับว่าเข้าใจเล่น มีความเข้มข้นเร้าใจตามแนวผสานกับดราม่าในแบบเกาหลีที่มาพร้อมการขายวัฒนธรรมกลายๆ ถ้านี่คือการเอาเหล้าเก่าลงไปใส่ในขวดใหม่ที่บรรจุภัณฑ์น่าสนใจในความคลาสสิคที่ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงการแสดงลิเกบ้านเราเพราะมันดึงความสนใจได้ตั้งแต่แรกเห็นว่ามันจะออกมายังไง เพราะเหล้ามันก็คือเหล้ามันจะมีรสชาติที่กลมกล่อมหอมหวนก็ต่อเมื่อมันถูกหมักบ่มเป็นเวลานานและกับพล็อตเรื่องโบราณเช่นนี้ก็ไม่ต่างกัน รสชาติของมันจึงเป็นความเข้มข้นได้ตามแนวที่มันเป็นเพราะอย่างที่บอกถ้าทำถึงรสชาติก็จะดีและเรืองนี้เป็นแบบนั้น เพราะแรกเลยคือการมาขายของเชิงวัฒนธรรมทำให้คนดูสนใจแล้วว่าอะไรคือการแสดงกุกกึกหญิงแล้วเหตุใดเด็กบ้านนอกอย่างจองนยอนจึงต้องมนต์สะกดนั้น แล้วตามมาด้วยดราม่าในแบบเกาหลีที่ตัวร้ายจะไม่โหวกเหวกโวยวายกรี๊ดลั่นบ้านแต่ร้ายลึกมีจังหวะผ่อนหนักผ่อนเบามีบีบมีขยี้ในเวลาที่เหมาะที่ควร ทำให้ทุกอย่างในจำนวนสิบสองตอนคือการขายวัฒนธรรมที่อาจถูกลืมเล่าในแบบ K-Drama ที่เข้มข้นเร้าใจและลงตัว ฝันที่ยิ่งใหญ่อาจเริ่มต้นด้วยเรื่องเล็กๆแต่เมื่อขนาดความฝันมันใหญ่ขึ้นแค่แรงบันดาลใจที่มากล้นอาจไม่เพียงพอ เพราะเรื่องความฝันเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลไม่ควรมีใครก้าวก่ายกันในเรื่องความฝันต่อให้เป็นบุพการีก็ไม่ยกเว้น ยุนจองนยอนและฮอยองซอต่างมีฝันและมีต้นทุนสูงเพราะอยู่ในร่มเงาของแม่ผู้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในทางของตน แต่ฝันของบางคนอาจเริ่มต้นที่เรื่องเล็กๆคือการมีเงินมากพอที่จะทำให้ครอบครัวสุขสบายแต่การจะเป็นแบนั้นสิ่งที่ต้องทำต้องเดินไปอาจเป็นเรื่องใหญ่ สองคนสองคู่แข่งในเรื่องนี้ต่างก็ถูกครอบงำความฝันจากแม่เพียงแค่มันเป็นคนละมิติจองนยอนคือแม่กดไว้เพราะตัวเองเคยผิดพลาดสูญสิ้นส่วนยองซอก็คือแม่ต้องการความยิ่งใหญ่ให้เหมือนตนเองแต่มั่นมันถูกแล้วหรือ แล้วที่ยืนบนจุดสูงสุดมันมีพื้นที่จำกัดเพียงที่เดียวแค่แรงบันดาลใจที่มากอาจไม่พอเพราะสิ่งที่ฝันมันใหญ่เกินตัวสิ่งที่ต้องต่อสู้จึงอาจมาจากภายในตัวเอง เพราะในที่สุดการชนะที่แท้จริงบนเส้นทางฝันอาจไม่ใช่การชนะคู่แข่งแต่เป็นการชนะใจตัวเองด้วยการยอมรับในความสามารถของคู่แข่งที่ความจริงไม่ได้มีอะไรขุ่นข้องหมองใจกันแต่มันแค่ความฝันพาดทับกันเท่านั้นที่สื่อให้เห็นในการแสดง "ตำนานเจดีย์แฝด" ในตอนสุดท้าย การถ่ายทอดบทบาทด้วยการแสดงซ้อนการแสดงได้อย่างยิ่งใหญ่ของ "คิมแทรี" ที่ถูกรายล้อมด้วยเหล่ายอดฝีมือ ถ้านับจากการดูคิมแทรีแสดงมาทุกเรื่องยอมรับว่าแต่ละเรื่องต้องมีบทที่เลิศเป็นตัวนำแล้วการแสดงของเธอจะออกมาเป็นความยิ่งใหญ่และเรื่องนี้คิมแทรีทำได้อย่างนั้น เพราะบทยุนจองนยอนเริ้มต้นด้วยฝันเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ความซับซ้อนมากมายจึงอยู่ในตัวละครนี้ทั้งเรื่องของแม่ พรสวรรค์ และความทะนงตนบนความถ่อมตัว และเป็นการแสดงซ้อนการแสดงที่เป็นการแสดงละครเวทีที่ต้องร้องต้องเต้นที่มองเห็นคือคิมแทรีต้องทำงานหนักทำการบ้านมาอย่างดีจึงเล่นได้ชวนขนลุกแทบทุกฉากทุกซีน แค่ลำพังคิมแทรีก็ทำให้เรื่องนี้ออกมายิ่งใหญ่อลังการเชิงอารมณ์มากพอแล้วยังได้นักแสดงรอบกายระดับยอดฝีมืออย่างรามีรันและมุนโซรีมาเป็นสายลมไต้ปีกที่ยอดเยี่ยม และที่ต้องไม่ลืมคือการแสดงซ้อนการแสดงที่ไม่แน่ใจนักว่าจงใจตามหลังอยู่ก้าวหนึ่งในการแสดงกุกกึกหรือเป็นรองคิมแทรีเพราะการแสดงยังสู้คิมแทรีไม่ได้จริงๆของชินเยอึนแต่นั่นกลับทำให้มิติเชิงลึกของเรื่องออกมาเยี่ยม และแน่นอนงานด้านภาพที่ไม่หลุดเลยในการเป็นละครย้อนยุคเพลงประกอบที่ปลุกเร้าแรงบันดาลใจขับส่งอารมณ์ได้อย่างถึงใจ พล็อตอาจเหมือนพบได้ทั่วไปแต่กลายเป็นความยิ่งใหญ่เพราะสามารถปลุกเร้าแรงบันดาลใจขนลุกน้ำตาซึมได้เรื่อยๆ แม้ว่าความรู้สึกที่มีอาจต้องยอมรับว่ายังต้องการบางอย่างจากเรื่องนี้ที่บทสรุปอยู่บ้างแต่นั่นมันคือความต้องการส่วนตัวคือจบดีแต่ไม่อิ่ม ยอมรับว่าผู้เขียนไม่ได้ดูละครเกาหลีออกอากาศสดแบบดูทุกคืนที่ออกอากาศมานานแล้วเพราะส่วนใหญ่จะดูวันรุ่งขึ้นของสองตอนที่ออกอากาศเช่นถ้าออกอากาศเสาร์อาทิตย์ก็จะดูวันจันทร์สองตอน แต่เรื่องนี้ที่เริ่มต้นดีตอนกลางก็ยังดึงดูดจนต้องรอเวลาสามทุ่มของคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์เพื่อต้องรอตอนต่อไปอีกที ทั้งที่ความจริงพล็อตเรื่องแบบนี้สามารถพบเจอได้ทั่วไปกวาดตามองในแอปสตรีมมิ่งใดก็มีแต่ก็เหมือนฝันของจองนยอนที่อาจเป็นเรื่องง่ายๆธรรมดาๆแต่สุดท้ายกลายเป็นความยิ่งใหญ่ ที่ว่ายิ่งใหญ่คือการเอาวัฒนธรรมที่คู่ควรต่อการอนุรักษ์มาขายได้ดีผ่านการเป็นละครย้อนยุคที่สมบูรณ์ แล้วตลอดสิบสองตอนยอมรับเลยว่าทุกลูกเล่นที่ใส่มาสามารถปลุกเร้าแรงบันดาลใจจนขนลุกน้ำตาซึมได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6,7,8 จาก Instagram tvn_drama เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ดูไปบ่นไป • 20 พ.ย. 67
อ่าน
รู้จักนักแสดง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark
ป้ายยามินิซีรีส์จีนไปแล้ว! วันนี้ขอมาเปิดวาร์ปนักแสดงต่อ สำหรับนักแสดงจากเรื่อง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark มินิกำลังเป็นที่พูดถึงด้วยโทนแฟนตาซี–โรแมนซ์ที่เข้มข้น เล่าเรื่องความรักต้องห้ามระหว่าง “เทพรัตติกาลผู้เย็นชา” และ “หญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจ” การผูกพันที่พัวพันกับชะตากรรมหลายชาติภพ นอกจากเส้นเรื่องที่ทั้งโรแมนติกและดราม่าแล้ว เคมีของสองนักแสดงนำก็น่าจับตามอง จนแฟนๆต่างอยากรู้จักตัวจริงของพวกเขามากขึ้น วันนี้หนอนจะพาไปเปิดวาร์ปพระนางทั้งสองคนจากเรื่องนี้กันค่ะ! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ✨ หวังจื่ออี๋ (Wang Ziyi) เกิดวันที่: 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1996 อายุ: 29 ปี บ้านเกิด: มณฑลชานซี ประเทศจีน เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้าร่วมรายการ Idol Producer และเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Nine Percent ก่อนจะผันตัวมามุ่งงานเดี่ยวเต็มตัวด้านการแสดง หวัง จื่ออี๋ฝากผลงานไว้หลายเรื่อง และใน ดวงตะวันในรัตติกาล เขารับบทเป็น เย่เฉินเยวียน เทพรัตติกาลผู้เย็นชา ปัจจุบันสังกัด Wang Ziyi Studio ดูแลงานศิลปินและการแสดงของเขา ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark รับบท เย่เฉินเยวียน เทพรัตติกาล (Night God) ผู้มีอำนาจและสิทธิ์เหนือเทพอื่นๆ โดยสถานะและชะตาของเขามีความเกี่ยวพันกับความมืดและเวลากลางคืน เย่เฉินเยวียนเป็นตัวละครชายหลัก มีบุคลิกเยือกเย็น มักสร้างระยะห่างกับผู้อื่น แต่ภายในมีเงื่อนปมอดีตและภารกิจที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ยาวนาน 🌙 ฉี่อวี่เฉิน (Qi Yuchen) เกิดวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1997 อายุ 28 ปี บ้านเกิด: เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน การศึกษา: Hong Kong Shue Yan University – Business School เธอเริ่มต้นจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์/เน็ตไอดอลก่อนก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจีนแผ่นดินใหญ่ เธอชื่นชอบเรื่องของแฟชั่น การท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังตะลุยกิน เป็นคนเข้าถึงง่าย และ น่ารัก ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark รับบท ไป๋เสี่ยวอิ๋ง หญิงสาวธรรมดาที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “ปีศาจ” เธอมาจากโลกมนุษย์ และ มีความอ่อนโยน จริงใจ แต่ต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธ และความโหดร้ายของโลกเทพที่ไม่ยอมรับเธอ เธอและเย่เฉินเยวียนต้องพบกัน ทดสอบกันในหลายชาติกำเนิด ผ่านความเจ็บปวด ขัดแย้ง และ รักที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของหวัง จื่ออี๋ ที่ถ่ายทอดบทเทพรัตติกาลได้ทั้งสง่างามและน่าค้นหา ผสานเข้ากับการแสดงของฉี่ อวี่เฉินที่สะท้อนทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็งของไป๋เสี่ยวอิ๋ง ทำให้ ดวงตะวันในรัตติกาล กลายเป็นซีรีส์ที่แฟนๆสายโรแมนติก–แฟนตาซีไม่ควรพลาด ยิ่งเมื่อได้รู้จักตัวจริงของสองนักแสดงนำแล้วก็ยิ่งทำให้การติดตามเรื่องราวความรักข้ามภพชาตินี้มีรสชาติและน่าประทับใจมากขึ้นกว่าเดิม สามารถติดตามตัวซีรีส์ได้ที่ WeTV ขอขอบคุณ 王子异 และ 漆昱辰Duebass ภาพปก 1/2/3/4 ภาพที่ 1/2/3/4 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
หนอน • 17 ก.ย. 68
อ่าน
รู้จักนักแสดง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark (2025)
มาใหม่ค่า! สำหรับ “ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark” ซึ่งซีรีส์จีนแนวเทพเซียน ผสมผสานความโรแมนติก ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของ ไป๋เสี่ยวอิ๋ง หญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจมาตั้งแต่เกิด ต้องออกเดินทางเพื่อฝึกฝนและแก้แค้นให้พ่อ เธอได้พบกับ เย่เฉินเยวียน เทพรัตติกาลผู้เย็นชา ผู้ซ่อนอดีตอันเจ็บปวดไว้ภายใน ทั้งสองร่วมมือกันเปิดโปงความลับในโลกเซียน และต่อสู้กับพลังมืดที่คุกคามทุกสรรพสิ่ง พร้อมทั้งเรียนรู้ความรักท่ามกลางแสงและเงา และนอกจากนี้ก็ยังได้นักแสดงนำสุดปังหลากหลายคนมาแสดงในเรื่อง และในวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาดูนักแสดงแต่ละคนในเรื่องนี้กันผ่านทาง ‘รู้จักนักแสดง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark (2025) ซีรีส์จีนแนวเทพเซียน’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1.) หวังจื่ออี้ (Wang Ziyi) “หวังจื่ออี้ (Wang Ziyi) 王子异” ฉายาในวงการคือ Boogie เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1996 ที่มณฑลชานซี ประเทศจีน ต้นสังกัดของเขาคือ CUBE Entertainment China โดยหนุ่มหวังจื่ออี้ได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการอย่างเป็นทางการในปี 2017 โดยได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง BBT ภายใต้สังกัด Simply Joy Music และในปี 2018 เขาเข้าร่วมรายการ Idol Producer ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเขาในการได้รับความนิยม หลังจากจบในอันดับที่ 7 จากทั้งหมด และได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง Nine Percent เขาเป็นหนุ่มหล่อที่มาผลงานการแสดงมากมาย อาทิ ซีรีส์ We Are All Alone , Hello Beautiful Life หวังจื่ออี้ รับบทเป็น “เย่เฉินเยวียน (Ye Chenyuan)” เขาคือเทพรัตติกาลผู้เย็นชาแต่ลึกลับ เขาเป็นเทพผู้ครอบครองพลังแห่งความมืด แต่ในขณะเดียวกันก็มีจิตใจอ่อนโยนซึ่งซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเยือกเย็น จริง ๆ แล้วเขานั้นอดีตอันเจ็บปวดที่ทำให้เขาตัดขาดจากโลกภายนอก บทบาทนี้ก็เรียกว่ามีมิติมาก ๆ ทำให้หวังจื่ออี้ได้แสดงทั้งด้านแข็งแกร่ง นิ่งเฉียบ และด้านอ่อนไหวทางอารมณ์ที่ละเอียดลึกซึ้ง คือ 10/10 ไปเลย ช่องทางการติดตามหวังจื่ออี้ Weibo : @王子异 2.) ชีอวี้เฉิน (Qi Yuchen) “ชีอวี้เฉิน (Qi Yuchen) 漆昱辰” หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Qi Qi เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1997 ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน โดยสาวชีอวี้เฉินเริ่มต้นเส้นทางบันเทิงจากการเป็น นางแบบ และเน็ตไอดอล ต่อมาเธอได้เดบิวต์งานแสดงครั้งแรกในปี 2020 กับบทในภาพยนตร์ Ten Years Of Loving You เธอนั้นมีผลงานทั้งโทรทัศน์และภาพยนตร์เพิ่มขึ้น อาทิ Warm Meet You (2022) และมีบทบาทในซีรีส์ และหนังหลากหลายเรื่อง อาทิ Jade Whisk Saddle , เรื่อง Double Love (2024) และ The Unexpected Marriage ชีอวี้เฉิน รับบทเป็น “ไป๋เสี่ยวอิ๋ง (Bai Xiaoying)” หญิงสาวที่ถูกประณามว่าเป็น “ปีศาจ” เพราะเธอถือกำเนิดมาพร้อมกับพลังพิเศษที่ไม่มีใครเข้าใจ ทำให้เธอถูกสังคมรังเกียจมาตลอดชีวิต เธอเปรียบเสมือนกับตัวแทนของ ดวงตะวัน ที่ถูกซ่อนอยู่ในความมืด เธอมีหัวใจที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ บทบาทของชีอวี้เฉินในเรื่องนี้เรียกว่าท้าทายมากๆ เพราะต้องแสดงความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ตั้งแต่ความสิ้นหวัง ความแค้น ความกลัว ไปจนถึงความรักที่ค่อยๆซึมลึกเข้ามา ช่องทางการติดตามชีอวี้เฉิน Weibo : @漆昱辰Duebass ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รู้จักนักแสดง ดวงตะวันยามในรัตติกาล The Sun in the Dark (2025) ซีรีส์จีนแนวเทพเซียน โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark” ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 9:00น. ที่ WeTV เท่านั้น เครดิตภาพหน้าปกโดย @白夜宸缘起三生官微 ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 / ภาพหน้าปก4 / ภาพหน้าปก5 เครดิตภาพประกอบบทความโดย @白夜宸缘起三生官微 : ภาพที่1 / ภาพที่3 / ภาพที่5 @王子异 : ภาพที่2 @漆昱辰Duebass : ภาพที่4 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadaysgirl • 19 ก.ย. 68
อ่าน
( รีวิว ) The Moon Embracing the Sun ดราม่าน้ำตาไหล
ในช่วงเวลาที่เหงา ๆ ก็อยากหาซีรีส์สักเรื่องดู แต่ไม่รู้จะดูเรื่องอะไรนั้น คอซีรีส์พีเรียดห้ามพลาดเรื่องเด็ดขาดเลยค่ะ The Moon Embracing the Sun หรือชื่อไทยก็คือ จันทราโอบตะวัน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ ลิขิตรักตะวันและจันทรา เป็นซีรีส์แนวพีเรียดที่ไม่ได้อิงทางประวัติศาสตร์ ทุกอย่างในเนื้อเรื่องเกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่งทั้งสิ้น ตอนนี้มีให้ได้รับชมแล้วใน Netflix จำนวนตอนทั้งหมด 20 ตอน ดูกันจุก ๆ ไปเลยครั้งแรกที่เริ่มดูเกิดมาจากความชอบส่วนตัวที่มีให้กับนักแสดงท่านหนึ่งนะคะ ความรู้สึกที่ได้ดูตั้งแต่แรกจนจบต้องบอกว่าสนุกและดราม่าค่อนข้างหนัก เพราะทางเดินความรักของคู่พระนางไม่ได้โรยโดยกลีบกุหลาบมีอุปสรรคมากมาย การแก่งเเย่งชิงดีชิงเด่น การถูกหักหลัง การต่อสู้ทั้งศึกนอกศึกใน เป็นอะไรที่คนดูจะได้ลุ้นตามตลอดทั้งเรื่อง ความประทับใจที่มีต่อเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นความรักที่พระเอกมีให้แก่นางเอกค่ะ ต้องบอกว่าเขารักกันมากจริง ๆ โรเเมนติก รักเดียวใจเดียว นอกจากซีนดราม่าที่เกิดแล้ว ก็ยังมีซีนตลก ๆ ให้ได้รับชมด้วย ตัวอย่างเช่น ซีนที่พระเอกกับขันที หรือซีนที่พระเอกเซอไพรส์นางเอก แต่ก็ดันโบ๊ะบ๊ะซิสคอม ทำให้ซีรีส์ไม่ได้อึดอัดจนมากเกินไป เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากบทซีรีส์ที่สนุกน่าติดตามแล้วยังมี สิ่งที่โดดเด่นอื่นอีกนั่นก็คือ ความหล่อทะลุจอของพระเอกของเรา " คิมซูฮยอน" นั่นเองค่ะ หล่อจนอิจฉานางเอกไปตาม ๆ กัน ซึ่งนอกจากนี้ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีหนังสือนวนิยายฉบับแปลไทยให้เราได้อ่านกันด้วยนะคะ เอาไว้หลังดูซีรีส์ใครชอบก็สามารถไปตามเก็บแบบหนังสือกันได้ ส่วนตัวพีชได้อ่านแบบคร่าว ๆ บอกเลยค่ะว่าสนุกไม่แพ้กัน สามารถไปหาซื้ออ่านได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปค่ะความประทับใจสำหรับเรื่องนี้คงไม่มีที่สิ้นสุุดค่ะ เพราะเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตาม ที่สำคัญเรียกน้ำตาได้ตลอดไม่ใช่เเค่เฉพาะซีนพระเอกนางเอก ยังมีซีนพระเอกและพี่ชายพระเอกด้วย คนที่ได้รับชมบางคนอาจจะได้อยู่ทีมพี่ชายพระเอกเป็นก็ได้ค่ะ ฝากทุก ๆ คน ที่เป็นคอซีรีส์พีเรียดหรือไม่ได้เป็น ลองเก็บรีวิวการรีวิวของพีชไปพิจารณาไว้เป็นทางเลือกในการรับชมซีรีส์ด้วยนะคะ บอกเลยว่าห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด ฟินน้ำตาแตกแน่นอน เครดิตรูปภาพรูปปก : imbc , netflix / รูปที่1 : imbc / รูปที่2 : imbc / รูปที่3 : imbc
peachmint • 17 มิ.ย. 63
อ่าน
Re: Zero - Starting Life in Another World แอนิเมชั่นภาพสวย ที่ลวงคนดูมาพังตับ
เมื่อใครได้เห็นโปสเตอร์หรือสื่อโฆษณาจากแอนิเมชั่นเรื่อง Re: Zero - Starting Life in Another World ด้วยความที่ภาพของอนิเมชั่นเรื่องนี้มีความสวยงามดู ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวละครที่ดูมีมิติ ดูน่ารัก และฉากหลังที่ดูสวยงาม ก็ชวนให้หลงใหล จนอยากเข้าไปรับชม อย่าเพิ่งก่อน กรุณาเตรียมใจกับเนื้อเรื่องก่อน ที่มา : https://web.facebook.com/ReZero.fans/photos/a.544081055756679/1486598274838281/?type=3theater สำหรับใครที่เป็นสายที่ชอบเรื่องราวแฟนตาซี แนวผจญภัยต่างโลก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่ชอบการหลุดเข้าไปในโลก โดยตัวเอกของเรื่องที่มีชื่อว่า นัทสึกิ สุบารุ ผู้ซึ่งได้หลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีโลกนี้ โลกที่ผู้คนสามารถใช้เวทมนตร์ได้ แล้วได้ไปพบเข้ากับตัวละครเอกในเรื่องอีกตัวนึง ชื่อว่า “เอมิเลีย” ซึ่งมีลักษณะพิเศษ และเป็นตัวละครที่ช่วยแจกความสดใสในเรื่อง แต่การดำเนินเรื่องนั้นย่อมมีอุปสรรคและขวากหนาม เมื่อสุบารุอยากจะช่วยให้เอมิเลียได้กลายเป็นราชาคนต่อไป ซึ่งเนื้อเรื่องในการทะลุไปในโลกครั้งนี้จะแตกต่างกับการดำเนินเรื่องในแนวการทะลุเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเหมือนกับการเล่นเกม ซึ่งจะมีจุด Set Point หรือจุดที่เซฟไว้ว่าต่อให้ตัวสุบารุตาย ก็จะกลับมายังจุด Set Point จุดเดิม โดยจะมีการเล่นเหตุการณ์ซ้ำไปมา จนกว่าจะผ่านจุด Set Point ตัวนี้ได้ แล้วก็จะมีเหตุการณ์ใหม่ขึ้นมาแทนที่มา : https://web.facebook.com/ReZero.fans/photos/a.544081055756679/1488784901286285/?type=3theater เรื่องราวการดำเนินเรื่องในโลกต่างแดนนั้นควรจะเป็นเรื่องราวที่สวยงาม แต่ดันไม่ใช่กับแอนิเมชั่นเรื่องนี้ สำหรับใครที่ชอบชีวิตที่ค่อนข้างจะความเป็นจริงที่มีทั้งความสุขและความทุกข์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างหักมุมในบางช่วงบางตอน ซึ่งทำให้คนดูมีทั้งอารมณ์เศร้า ความสุข ตลกและตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งไม่สามารถคาดเดาเนื้อเรื่องที่จะดำเนินต่อไปได้ ซึ่งนี่ถือเป็นความสนุกที่แตกต่างจากแอนิเมชั่นเรื่องอื่น ที่มา : https://movie.trueid.net/series/rKljB1Ol02pD/E3Pv9BA2x0Va สุดท้ายนี้ผู้เขียนอยากจะฝากถึงเหล่าผู้ชมอนิเมชั่นทุกท่านว่า แอนิเมชั่นที่มีภาพสวยงามชวนให้ติดตาม เมื่อรวมตัวเข้าไปดูแล้วอาจจะพบเจอกับความจริงเขาว่า ความสวยงามที่ชวนให้หลงเข้าไปดูเนื้อเรื่องนั้น แท้จริงแล้วผู้เขียนหรือผู้สร้างอนิเมชั่นนั้นได้มีการสอดแทรกเรื่องราวอื่น ๆ ไว้ให้เป็นแง่คิดสำหรับเตือนใจ เพราะสำหรับผู้เขียนเองนั้นรู้สึกว่า การถ่ายทอดเรื่องราวและความผิดพลาดในการเลือกทางเดินของตัวละครเอกที่ชื่อว่า "สุบารุ" นั้น ได้สอนแนวคิดว่าคนเรามีทางเลือกได้หลายทาง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลือกทางเดินผิดพลาดหรือพลาดพลั้ง ก็อาจจะมีบ้างที่เราจะต้องผิดหวังและเสียใจกับมัน ซึ่งความพยายามของตัวละครทำให้เห็นว่า ถึงแม้จะเลือกทางเดินที่ผิดไปบ้าง แต่ความพยายามไม่เคยสูญเปล่า เพราะความพยายามสามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้จริงที่มา : https://movie.trueid.net/series/rKljB1Ol02pD/E3Pv9BA2x0Va ผู้เขียนจะทิ้งลิงก์อนิเมชั่นด้านล่างที่ถูกลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นอนิเมชั่นที่รับชมฟรีได้ในเว็บไซต์ True ID Movie ซึ่งมีทั้งหมด 25 ตอน เป็นซับไทยทั้งหมด ขอให้สนุกกับการรับชมเชิญรับชม ➸➸➸➸➸➸ https://movie.trueid.net/series/rKljB1Ol02pD/E3Pv9BA2x0Vaติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ ➸➸➸➸➸➸ https://web.facebook.com/ReZero.fans/ *** หมายเหตุพังตับ,ปวดตับหรือตับพัง เป็นศัพท์ที่ใช้ในการดูหนังหรือดูแอนิเมชั่น ซึ่งสื่อถึงเรื่องราวที่มีชวนให้เครียด หรือตกใจได้ง่าย ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการอินในเนื้อเรื่อง จนเกิดอาการหน่วง ๆ ในจิตใจ ไม่เหมาะกับใครที่เป็นสายจิตใจบอกบาง อยากดูหนังหรือแอนิเมชั่นคลายเครียด เพราะอาจจะทำให้เครียดกว่าเดิมออกแบบหน้าปกโดย https://www.canva.com/ที่มาของภาพหน้าปก https://movie.trueid.net/series/rKljB1Ol02pD/E3Pv9BA2x0Va
MOmoHana • 30 มี.ค. 63
อ่าน
รีวิวซีรีส์ เฟื่องนคร(2024) City of Star The Series
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทางช่อง one31 เรื่อง เฟื่องนคร City of Star The Series ตอนละ 45 นาที มาวันแรก 2 กุมภาพันธ์ 2024 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 22:15 น. ทางช่อง ONE 31 ดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 23.15 น. บนแอป iQIYI นำแสดงโดยจ๊อบ กฤษ อหันทริก รับบท เฟื่องนคร และพอร์ช ศิฑา กาญจนอลงกรณ์ รับบท กรมท่าเป็นเรื่องราวของเฟื่องนครที่อยู่ๆ ก็สมัครเล่นแอปเซนดาย่าซึ่งเป็นแอปโซเซียลมีเดียคล้ายเฟสบุ๊ค เอ็กซ์ และอินสตาแกรม แต่ทุกอย่างที่คุณโพสต์หรือคอมเมนต์บนแอปนี้จะต้องเป็นข้อความที่ก่อให้เกิดพลังบวกเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะโดนทีมงานลบทิ้ง ด้วยความที่เป็นดาราดังทำให้พอเขาสมัครแอปนี้คนไทยก็หันมาเล่นแอปนี้มากขึ้นจนทีมงานของแอปตรวจไม่ทัน แอปนี้มีบริษัทแม่อยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ประเทศสหรัฐอเมริกาและมีทีมงานที่เป็นคนไทยเพียงคนเดียวคือกรมท่า ทำให้กรมท่าที่ลาพักร้อนยาวเพื่อกลับไทยต้องขนงานกลับมาทำด้วย เฟื่องนครยังย้ายมาอยู่บ้านข้างๆกับบ้านของกรมท่า แม่กรมท่าก็เอ็นดูเฟื่องนครมาก ถึงขนาดเรียกเป็นลูกอีกคนแถมยังให้กุญแจบ้านเฟื่องนครไว้ด้วยทำให้กรมท่าหมั่นไส้เฟื่องนครมากเพราะมาแย่งความรักจากแม่เขาไป แต่ไม่รู้ทำไมเฟื่องนครกลับพยายามเข้ามาตีสนิทกับกรมท่า ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปดูค่ะเฟื่องนครเป็นดาราตัวร้ายที่ดังมากแต่ตัวจริงกลับดูสุภาพ เรียบร้อย ดูเป็นคนมีมาดนิดๆแต่ก็ดูเข้าถึงง่ายไม่ถือตัว เป็นคนเฟรนลี่ เข้ากับคนง่าย ด้วยความที่เป็นดาราดังเวลาออกไปข้างนอกจึงต้องใส่แว่นดำตลอดไม่ให้ใครจำได้ ถ้าเผลอถอดแว่นแฟนคลับก็จะมารุมทันที เลิกเล่นโซเซียลมีเดียมานานมากแต่กลับสมัครแอปเซนดาย่า ดูพยายามเข้าหากรมท่า พยายามเข้ามาตีสนิท นักแสดงแสดงได้ดูเนี๊ยบ เท่กรมท่าเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ทำงานอยู่ฝ่ายพัฒนาแอปซานดาย่า ทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นคนสดใส ร่าเริง มองโลกให่แง่ดี ดูซื่อๆ เป็นคนแบ๊วๆใสๆแต่ถ้าจริงจังขึ้นมาก็ดูเอาเรื่องอยู่ เป็นคนขี้เล่น อารมณ์ดี เป็นคนไม่คิดร้ายกับใคร ด้วยความที่แม่เอ็นดูเฟื่องนครมากจึงแอบหมั่นไส้เฟื่องนคร นักแสดงแสดงได้ดูซื่อๆ เหมือนเด็กเสื้อผ้าทำออกมาได้ดีมาก ชุดแต่ละชุดดูแล้วมีความสวยงามเหมาะสมกับฉากและเนื้อเรื่องขณะนั้น ชุดทั้งของเฟื่องนครและกรมท่ามีทั้งชุดที่ดูดีเป็นทางการใส่ออกมาแล้วหล่อมาก มีทั้งชุดสบายๆที่ก็ดูดีสุดๆ ฉากก็มีการจัดออกมาให้ดูดีสวยงาม แสงก็ทำให้ดูเหมาะกับเนื้อเรื่องพล็อตเรื่องคือเป็นเรื่องราวของตัวร้ายอันดับหนึ่งของเมืองไทยเฟื่องนครได้โหลดแอปพลิเคชั่นเซนดาย่าซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสังคมออนไลน์ที่มีกฎว่าทุกโพสต์จะต้องมีเนื้อหาแบบพลังบวกเท่านั้น คนเลยแห่กันมาเล่นจนกรมท่าที่ลาพักร้อนอยู่ต้องมาดูแลแอปนี้ กรมท่าบังเอิญไปเจอเฟื่องนครกับกรตอนที่กรอาการหอบกำเริบจึงอาสาไปซื้อยากับเฟื่องนครแต่กลับโดนแฟนคลับรุม กรมท่าจึงไปดึงเฟื่องนครออกมาทำให้แฟนคลับโพสต์ด่ากรมท่าแต่กรมท่าก็ไม่โกรธเพราะเข้าใจว่าแฟนคลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมาเฟื่องนครก็ได้ขอร้องให้กรมท่ามาดูแลตนเพราะผู้จัดการเกิดเหตุมาดูแลไม่ได้ ด้วยความที่ต้องอยู่ด้วยกันทุกวันกรมท่าจึงได้เห็นมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นของเฟื่องนครที่เป็นคนมีพลังบวกจากใจจริงๆอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกดราม่าคอมเมดี้ที่ดูเพลินและสนุกมาก เนื้อหาไม่หนักมากในตอนแรกแต่ก็อาจมีดราม่าในตอนท้ายๆก็ได้ ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก Twitter: CityofStartheseries #ซีรีส์ไทย #ซีรีส์วาย #ซีรีส์วายไทย #รีวิวซีรีส์วาย #รีวิวซีรีส์วายไทย #ซีรีส์วาย2024 #ซีรีส์วายมาใหม่ #่ซีรีส์วายone31 #one31 #เฟื่องนคร #ซีรีส์เฟื่องนคร #ซีรีส์วายiQIYI #ซีรีส์วายเฟื่องนคร #เฟื่องนครนักแสดงนำ #จ๊อบ กฤษ อหันทริก #พอร์ช ศิฑา กาญจนอลงกรณ์ #กรมท่าเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Faifun • 6 ก.พ. 67
อ่าน
SONGS FROM THE ROAD
SONGS FROM THE ROAD รวบรวมคลิปจาก YouTube
เรื่องย่อละคร • 6 ม.ค. 57
อ่าน
กัปตันอาร์กุส ยิ้มไม่หุบ!! กระแสดี Descendents of the sun ดังในไทย พร้อมบินข้ามฟ้าร่วมงานทรูโฟร์ยู
กระแสซีรี่ส์ Descendents of the sun แรงจนฉุดไม่อยู่ ถึงจะจบไปแล้วแต่ยังคงเป็นที่พูดถึง ซึ่งหนึ่งในนักแสดง Devid lee mcinnid ที่รับบทเป็นตัวร้ายของเรื่อง บินลัดฟ้ามาเมืองไทยเพื่อร่วมเล่นละครกับทางช่อง ทรูโฟร์ยู ดิจิตอลฟรีทีวีช่อง 24 งานนี้เจ้าตัวเอ่ยปากตื่นเต้นมากเป็นพิเศษที่ได้มาร่วมงานกับคนไทย เมื่อวันที่มาถึงสนามบินก็ได้การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนคลับพร้อมขอขวัญมากมาย นี้เป็นเรื่องพิเศษสุดสำหรับการเป็นนักแสดงของเขาเลยทีเดียว ส่วนเรื่องโปรเจคพิเศษที่มารับเล่นกับละครเรื่อง What Lies Beneath ทางช่อง True4U นั้นเป็นการเจรจาของผู้กำกับที่บังเอิญไปเจอเขาที่เกาหลี จากการพูดเล่นในวันนี้นำมาสู่การเซ็นสัญญาร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่ง Devid lee mcinnid ออกอาการตื่นเต้นที่จะได้มาร่วมงานกับโปรดักชั่นและทีมงานในเมืองไทยมาก ที่ตัดสินใจมารับเล่นเพราะเห็นว่า ธุรกิจทางด้านทีวีดิจิตอลกำลังเติบโตมากขึ้น พร้อมทั้งยังอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ซึ่งในเรื่อง What Lies Beneath เขารับบทเป็น Harry พระเอกหนัง Hollywood ที่เลือกเบล (มายด์ วิรพร จิรเวช สุนทรกุล) มาเล่นบทนางเอกในหนังที่มาถ่ายที่ประเทศไทยเขาอาจจะเป็ นทั้งมารหัวใจและอาจจะเป็นเทพบุตร ที่ช่วยทำให้เบลและทิม(พระเอกหนุ่มเกาหลีที่ยังไม่เปิดตัว)รักกัน นอกจากเรื่องละครแล้วเขาจะใช้เวลาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลา 15 วัน ในการพักร้อนของเขา ติดตามชมผลงานของหนุ่มคนนี้ได้เร็วๆ นี้ทาง ทรูโฟร์ยู ดิจิตอลฟรีทีวีช่อง 24 ชมทีวีออนไลน์ช่องทรูโฟร์ยู ดิจิตอล ฟรีทีวี แบบสดๆ ได้ที่นี่
ข่าวบันเทิง • 18 พ.ค. 59
อ่าน
รีวิวอนิเมะ Re:Zero - Starting Life in Another World รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก
สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้จะพามารีวิวอนิเมะเรื่อง Re:zero Starting Life in Another World รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เป็นอนิเมะที่สร้างจากนิยายของ อาจารย์ทัปเป นากาสึกิ ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2016 ซึ่งพูดถึง ซุบารุ นัตสึกิ เด็กหนุ่มธรรมดาที่ถูกส่งเข้าไปในโลกแฟนตาซีโดยไม่มีการเตรียมตัวใด ๆ เมื่อเมื่อได้พบกับเด็กสาวชื่อเอมิเลีย จากนั้นเรื่องราวของ ซุบารุ ในต่างโลกก็ได้เริ่มขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้อนิเมะเรื่องนี้น่าติดตามคือความสามารถเฉพาะตัวของ ซุบารุ ซึ่งเขาสามารถกลับไปยังช่วงเวลาที่แล้วเมื่อเขาตาย การดำเนินเรื่องไม่เพียงแต่มีความสนุกสนานและการผจญภัยเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความน่าสนใจเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ ความเจ็บปวด และการเสียสละเมื่อ ความสามารถของ ซุบารุ ทำให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์และความเสียใจ การตัดสินใจที่เขาทำในเวลาผ่านไปนั้นมีผลกระทบต่อชีวิตของตัวเขาและคนรอบข้างอย่างมาก หนึ่งในจุดเด่นของ "Re:Zero" คือการสร้างตัวละครที่มีความสมจริงและซับซ้อน เราจะได้เห็นการเติบโตของ ซุบารุ และการพัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ เช่น เอมิเลียเรมและแรม ที่มีความสำคัญมากในเส้นทางของตัว ซุบารุ ตัวละครทั้งสองมีเรื่องราวและแรงจูงใจที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเข้าถึงตัวละครได้เนื้อเรื่องจะค่อยๆเปิดปมตัวละครและพัฒนาการของตัวละครซึ่งเป็นจุดที่สนุกมากๆ สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ ในด้านภาพและเสียง อนิเมะนี้ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพที่สวยงามและการออกแบบตัวละครที่น่าจดจำ พร้อมด้วยเพลงประกอบที่สร้างอารมณ์ ทำให้แต่ละฉากมีความเข้มข้นและน่าติดตาม โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่แสดงความดุเดือดและการเคลื่อนไหวที่สมูทไม่ขัดตาเวลาดู ด้วยความหลากหลายของอารมณ์จากความเศร้า ความหวัง และความตื่นเต้น "Re:Zero" เป็นอนิเมะที่มีความลึกซึ้ง นอกจากการผจญภัยในโลกอื่นแล้วยังสะท้อนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการตัดสินใจและผลที่ตามมา โดยรวมแล้วอนิเมะเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก ถือว่าเป็นอนิเมะที่น่าจดจำเรื่องหนึ่ง และเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด! เครดิตภาพ ช่องทาง official Re:zero จาก x ภาพปกhttps://x.com/rezero_official ภาพที่1 https://x.com/rezero_official ภาพที่2https://x.com/rezero_official ภาพที่3https://x.com/rezero_official ภาพที่4https://x.com/rezero_official เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
คุณกันยา • 7 พ.ย. 67
อ่าน
ชำแหละความหมายในเพลง 'My Love Is Like a Star' ของ 'Demi Lovato'
'My Love Is Like a Star' ของ 'Demi Lovato' ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ค่อนข้างจะมีความหมายที่ดี อีกทั้งยังเป็นเพลงที่เธอใช้สื่อสารกับแฟนคลับทั่วโลกของเธออีกด้วย นอกจากนั้นยังถือเป็นเพลง RB ที่ค่อนข้างกลมกล่อมและละเมียดละไม เหมาะกับการกล่อมจิตใจของคุณในช่วงที่สถานการณ์ของโลกกำลังกระท่อนกระแท่น ดังนั้นวันนี้ผมจึงมาวิเคราะห์และเจาะเนื้อหาเพลงให้กับทุกคนครับ ภาพจาก : Demi Lovato Facebook Official The space in between us Starts to feel like the world’s apart Like I’m going crazy And you say it’s raining in your heart You’re telling me nobody’s there To dry up the flood Oh but that’s just crazy ‘Cause baby I told ya I’m here for goodท่อนแรกของเนื้อเพลงกล่าวว่า "ช่องว่างระหว่างเรามันเริ่มเหมือนอยู่กันคนละโลก ฉันรู้สึกเหมือนจะบ้าและคุณรู้สึกว่าเหมือนมีฝนตกอยู่ในหัวใจคุณ. คุณบอกกับฉันว่าไม่มีใครที่จะช่วยทำให้น้ำที่ท่วมในหัวใจมันแห้งหายไปได้ แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะฉันนี่แหละจะเยียวยาคุณเอง"สำหรับท่อนนี้นั้นเป็นเดมี่พยายามสื่อสารถึงสภาวะหัวใจของคนคนหนึ่งซึ่งกำลังบอบช้ำกับรักที่อยู่ทางไกล คนคนนั้นอาจรู้สึกว่าเขาโดดเดี่ยวและมันเกินเยียวยาที่ใครจะมาแก้ไขได้ แต่จริง ๆ แล้วเธอ (เดมี่) เชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่ทำให้เขาหายได้ My love’s like a star, yeah You can’t always see me But you know that I’m always there When you one shining Take it as mine And remember I’m always nearต่อมาในท่อนฮุคเธอกล่าวต่อว่า "ความรักของเราเปรียบเหมือนกับเหล่าดวงดาว คุณมองเห็นมันไม่ได้ตลอด แต่คุณรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่เสมอ เมื่อคุณดวงดาวดวงไหนส่องสว่าง จำไว้นะว่านั่นคือฉันที่อยู่ข้าง ๆ คุณ"ท่อนต่อมาเดมี่เปรียบเปรยความรักของเธอเป็นดวงดาว ที่ถึงแม้ว่าคุณอาจไม่เห็นดวงดาวในยามอรุณรุ่ง แต่เมื่อถึงพลบค่ำคุณจะเห็นมันได้เสมอ ซึ่งเธอต้องการสื่อสารว่า ถึงแม้ความรักระยะทางไกลมันจะทำให้ทั้งคู่ไม่เห็นหน้าค่าตากัน แต่จริง ๆ แล้วความรักมันยังคงเหมือนเดิมและอยู่ในใจเสมอ ภาพจาก : Demi Lovato Facebook Official If you see a comet Baby I’m on it Making my way back home Just follow the glow yeah It won’t be long Just know that you’re not aloneท่อนฮุคต่อมาเธอกล่าวว่า "ถ้าคุณเห็นดาวตก ที่รักฉันอยู่ในนั้น ฉันกำลังเดินทางกลับบ้าน แค่เดินตามแสงประกายของมัน มันใช้เวลาไม่นานมากหรอก แค่ให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว"ท่อนนี้เป็นท่อนที่เชื่อมโยงมาจากท่อนที่แล้ว เป็นการเปรียบเปรยว่าเธอนั้นเป็นดาวตก และการเดินทางของดาวตกนั้นมันรวดเร็วมาก ซึ่งเธอพยายามสื่อสารว่าเธอจะไปหาเขาให้ได้โดยเร็วที่สุดนั่นเอง และเดมี่ยังบอกอีกว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ตราบใดที่ยังเห็นดวงดาว โปรดจำไว้ว่าความรักที่เธอมีให้เขามันก็จะคงไว้อยู่อย่างนั้น You say that time away makes your heart grow numb But I can’t stay just to prove you wrong Oh look at how far we’ve come Don’t you know Don’t know that you’re the oneท่อนต่อมาเดมี่กล่าวว่า "คุณบอกว่าฉันอยู่ห่างจากคุณมันทำให้หัวใจคุณย่ำแย่ ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณเพื่อพิสูจน์ได้ว่ามันไม่จริง แต่ที่รักคุณลองมองย้อนไปสิว่าเราเดินทางกันมาไกลแค่ไหน และคุณไม่รู้เหรอว่าคุณคือคนเดียวในหัวใจของฉัน"ท่อนนี้เดมี่พยายามสื่อสารถึงเขาว่า ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันอาจทำให้จิตใจของเขาแย่ลง แต่ถ้ามองย้อนถึงเส้นทางรักของเธอและเขา ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคมามากมาย เรื่องระยะเส้นทางมันเป็นเรื่องที่อาจยาก แต่มันก็ไม่มีทางที่จะทำให้ทั้งคู่เลิกกันได้ เดมี่ยังคงย้ำอีกว่าเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในหัวใจเธอภาพจาก : Demi Lovato Facebook Official จากเนื้อหาเพลงทั้งหมดนั้นสรุปได้ว่าเดมี่ต้องการกล่าวถึงความรักทางไกล ที่ต้องยอมรับว่าทุกคู่อาจเกิดการสั่นคลอนในความรัก แต่ตราบใดที่ทั้งสองคนยังไว้เนื้อเชื่อใจและมั่นคงในคนรัก ระยะทางนั้นก็ไม่สามารถมาพรากให้ทั้งคู่แยกกันได้ เพราะถ้าเรามั่นคงเราจะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้ว คุณอยู่ใกล้กันตลอดเวลา เพราะคนรักของคุณจะอยู่ภายในหัวใจเสมอ ภาพหน้าปกจาก : Demi Lovato Facebook Official
Miguel_Chan • 24 เม.ย. 63
อ่าน
An Insight from a Tech Woman to #EmbraceEquity
An Insight from a Tech Woman to #EmbraceEquity เปิดมุมมองผู้หญิงสายเทคว่าอยาก #EmbraceEquity แบบใดให้กับโลกใบนี้ Tech By True Digital ชวนเปิดมุมมองผู้หญิงสายเทคกับแคมเปญ #EmbraceEquity ของวันสตรีสากลหรือ International Womens Day 2023 โดย #EmbraceEquity หมายถึงการโอบรับความเสมอภาค ด้วยการตระหนักรู้และให้คุณค่ากับคุณสมบัติเฉพาะ ประสบการณ์ และความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสและทรัพยากรที่จะเติบโตได้อย่างเท่าเทียมกัน ในโอกาสนี้ Tech By True Digital จึงนำบทสัมภาษณ์ผู้บริหารหญิงจาก True Digital Group คุณฐิติรัตน์ ศิริพัฒนาเลิศ Head of Information Security and Data Management Division, True Digital Group และ ดร.ชนนิกานต์ จิรา Head of Digital Academy, True Digital Group ที่มาเล่ามุมมองของผู้หญิงสายเทค ว่าจากบทบาทหน้าที่ของตนเองในแวดวงเทคโนโลยี ยังมีอะไรที่อยากพัฒนาเพื่อผู้หญิง หรืออยากใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการ #EmbraceEquity แบบใดให้กับสังคมและโลกใบนี้ คุณฐิติรัตน์ ศิริพัฒนาเลิศ Head of Information Security and Data Management Division, True Digital Group การ #EmbraceEquity ต้องมากกว่าเพศสภาพแต่เป็นความหลากหลายของคน คุณฐิติรัตน์ หรือ คุณหนุ่ย คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงเทคโนโลยีมานานกว่า 23 ปี โดยปัจจุบันคุณหนุ่ย ดำรงตำแหน่ง Head of Information Security and Data Management Division หรือหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านความปลอดภัยระบบข้อมูลสารสนเทศ ของ True Digital Group ดูแลรับผิดชอบกลุ่มธุรกิจไซเบอร์ซิเคียวริตี้ ที่ให้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ติดตั้ง บริหารจัดการระบบความปลอดภัย ตรวจจับภัยคุกคามและแก้ไขสถานการณ์แบบอัตโนมัติ รวมทั้งการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร โดยล่าสุด คุณหนุ่ยเพิ่งได้รับรางวัล Transformative CIO" ประจำปี 2565 จากนิตยสาร ET CIO South East Asia ในฐานะผู้บริหารดีเด่นที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นผู้นำขับเคลื่อนให้เกิดการทรานสฟอร์มสู่ยุคดิจิทัลและนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์แพลตฟอร์มการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพและยังเป็นผู้บริหารที่ให้ความสำคัญต่อการแบ่งปันองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญแก่สาธารณชนอย่างต่อเนื่อง รางวัล Transformative CIO" ประจำปี 2565 จากนิตยสาร ET CIO South East Asia ที่มา: https://www.truedigital.com/ สำหรับคุณหนุ่ยแล้ว ความท้าทายของการทำงานด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศสภาพ เพราะด้วยความหลากหลายของงานต่าง ๆ ในกลุ่มธุรกิจนี้ ทำให้ไม่ว่าเพศสภาพใด ก็สามารถปฏิบัติงานได้เช่นเดียวกัน หากแต่การทำตัวเองให้ทันต่อความรู้ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ใหม่ ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้สามารถตรวจจับและหยุดยั้งภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีต่างหากคือความท้าทายในสายงานนี้ที่แท้จริง ความเป็นผู้หญิงอาจทำให้ต้องมีบทบาทเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานนั่นคือบทบาทของการเป็นแม่และการดูแลครอบครัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความสามารถในการทำงานแตกต่างจากเพศอื่นเลย คุณหนุ่ยและทีมงานทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ ที่มา: https://www.truedigital.com/ An Insight from a Tech Woman to #EmbraceEquity มองจากมุมของความเป็นผู้หญิง คุณหนุ่ยมองว่าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเปิดกว้างเพื่อผู้หญิงและทุกเพศสภาพแล้ว แต่ยังหวังที่จะเห็นผู้หญิงหรือเพศสภาพหญิงทำงานสายเทคมากขึ้น ซึ่งการที่ผู้หญิงยังทำงานในแวดวงนี้อยู่ไม่มากเท่าที่ควร อาจเพราะยังมีความเชื่อว่างานในสายเทค คอมพิวเตอร์ หรือวิศวกรรมไอที นั้นเป็นงานสำหรับผู้ชาย แต่นั่นเกิดจากความเชื่อแบบเดิมและความรู้อันจำกัดว่างานในสายเทคนั้นมีหลากหลายประเภท การเริ่มต้นให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพ เนื้อหาของงาน และการเติบโตในสายอาชีพโดยเฉพาะงานด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้นั้นจึงเป็นสิ่งที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องให้ความสำคัญและควรเริ่มต้นตั้งแต่ระดับมัธยม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเตรียมพร้อมคนสำหรับสายงานนี้ เพราะภายในปี 2025 โลกต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์กว่า 6 ล้านคน ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ที่กำลังเข้าสู่สายงานนี้ที่ไม่ได้จำกัดเพศสภาพอีกต่อไป ผู้หญิงอาจมีความละเอียดอ่อนมาก ยิ่งเหมาะกับงานด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ เช่น การดูแลเคสต่าง ๆ แต่ Soft Skills บางประการที่จำเป็น เช่น ความสามารถในการโน้มน้าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เห็นถึงความสำคัญของ ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง หรือการสื่อสาร ก็ไม่ได้ถูกกำหนดโดยเพศสภาพเช่นเดียวกัน เพศหญิง เพศชาย หรือ LGBTQ+ หากมีทักษะทางสังคมเหล่านี้ ก็สามารถทำงานนี้ได้ คุณหนุ่ยและทีมงานทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ ที่มา: https://www.truedigital.com/ ซึ่งหากถามถึงการ #EmbraceEquity เพื่อความเท่าเทียมของทุกเพศสภาพในการทำงานนั้น คุณหนุ่ยจึงมองลึกไปมากกว่านั้น เพราะความเท่าเทียมที่เธออยากให้สังคมโอบกอด คือ การเปิดรับความหลากหลายของคนในการทำงานที่ ไม่ใช่แค่เพศหญิง เพศชาย หรือ LGBTQ+ แต่ยังรวมไปถึงผู้คนที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายบางประการ แต่มี Passion และชื่นชอบในงานที่ทำ การ #EmbraceEquity ในแบบนี้ต่างหากที่เธอหวังอยากให้เกิดขึ้นในทุกอุตสาหกรรม เพราะเมื่อเราเข้าใจความเสมอภาคที่เกิดจากคุณสมบัติเฉพาะของผู้คนแล้ว มันจะนำมาซึ่งการพัฒนาคนจากศักยภาพของมนุษย์อย่างเท่าเทียม การ #EmbraceEquity ที่มากกว่าเพศสภาพแต่เป็นความหลากหลายของคน รวมถึงผู้ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายคือสิ่งที่อยากเห็นในที่ทำงาน อยากให้เกิดขึ้นในทุกอุตสาหกรรม เพราะนี่คือความเสมอภาคอย่างเท่าเทียม ที่เกิดจากคุณสมบัติเฉพาะของคนอย่างแท้จริง คุณหนุ่ยทิ้งท้ายไว้ว่ายังหวังที่จะเห็นผู้หญิงก้าวเข้ามาทำงานในสายเทคมากขึ้นกว่านี้ และได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้นำในองค์กรสายเทคซึ่งโอกาสเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งเธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเพศสภาพไม่ใช่ตัวกำหนดความสามารถในบทบาทหน้าที่ของการทำงาน ดร.ชนนิกานต์ จิรา Head of Digital Academy, True Digital Group ความรู้เป็นเครื่องมือแห่งโอกาสที่จะ #EmbraceEquity อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ดร.ชนนิกานต์ จิรา หรือ ดร.เฟิร์น ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Head of True Digital Academy ซึ่ง True Digital Academy เป็นหน่วยธุรกิจของ True Digital Group ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล ตลอดจนพัฒนา Talent Solutions ให้แก่บุคลากรและองค์กรในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเป็นหัวเรือใหญ่ของหน่วยธุรกิจนี้ ทำให้ ดร.เฟิร์นต้องเข้าใจและรับรู้ภาพรวมทั้งหมดของ True Digital Academy ตั้งแต่กลยุทธ์ การตลาด การพัฒนาโปรแกรมด้านการเรียนรู้ใหม่ ๆ ตลอดจนการสร้างและดูแลการเติบโตของระบบนิเวศ True Digital Academy ทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เพียงผู้เรียน ทีมผู้สอน และพันธมิตรต่าง ๆ แต่หมายรวมถึงทีมงานของตนเองด้วย ดร.เฟิร์นลลงนาม MoU พัฒนาหลักสูตรและอบรมทักษะดิจิทัลให้แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตร Introduction to Digital Age โดย True Digital Academy ที่มา: https://www.facebook.com/TrueDigitalGroup/ ดร.เฟิร์นมองว่านอกจากความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพให้บุคลากรในไทยให้มีทักษะความสามารถด้านดิจิทัลทัดเทียมกับสากลซึ่งคือหัวใจของ True Digital Academy แล้ว ยังจำเป็นต้องเข้าใจตลาดแรงงานสมัยใหม่และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา การช่วย Upskill และ Reskill ทักษะของคนจะช่วยให้บุคลากรและองค์กรสามารถ Stay Relevant หรือคงความสำคัญได้ และไม่ปิดกั้นโอกาสที่จะ Reinvent หรือค้นพบตัวเองได้ใหม่อยู่เรื่อย ๆ ได้เจอโอกาสใหม่ และสิ่งใหม่ที่ตัวเองชอบ ซึ่งความท้าทายในการทำงานที่ถูกกำหนดด้วยปัจจัยหลายด้านนี้เองจึงมีขอบเขตที่กว้างไกลกว่ามิติของเพศสภาพ แต่คือการโฟกัสไปที่ว่าได้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วหรือยัง และการผลักดันธุรกิจให้รุดไปข้างหน้าถูกทำควบคู่ไปกับการดูแลคนในทีมให้เติบโตแล้วหรือไม่ ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือการผลักดันธุรกิจไปพร้อมกับการดูแลคนในทีมเพื่อให้สอดคล้องกับเส้นทางการเติบโตรายบุคคล และการสร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมของทีม ให้เป็นที่ที่เอื้อแก่การเติบโตตามเส้นทางเฉพาะและตามความหมายในการทำงานของแต่ละคน ดร.เฟิร์นและทีมงาน True Digital Academy An Insight from a Tech Woman to #EmbraceEquity แม้จะเชื่อมั่นว่าผู้หญิงนั้นมีความสามารถและทำงานในสายงานเทคได้ไม่แพ้เพศสภาพใด แต่ ดร. เฟิร์นก็ยอมรับว่าเมื่อดูตัวเลขจากตลาดแรงงานแล้ว ยังถือว่ามีผู้หญิงที่ทำงานอยู่ในแวดวงนี้เป็นจำนวนน้อย กล่าวคือ แรงงานผู้หญิงที่อยู่ในวงการเทคมีเพียง 25% ของแรงงานทั้งหมด และน้อยลงอีกในตำแหน่งผู้บริหาร ซึ่งมีเพียง 11% เท่านั้น อ้างอิง 1 จากการเป็นผู้บริหารหญิงในสายงานเทคนี้เอง ดร.เฟิร์นจึงมีแนวคิดที่กำลังทำอยู่และพยายามทำต่อไปเพื่อปิดช่องว่างนี้ด้วยการเปิดมุมมองให้กับผู้หญิงทุกคนที่ไม่จำเป็นต้องทำงานในสายเทคแต่มีความท้าทายที่คล้ายคลึงกัน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อเติบโตไปร่วมกัน ด้วยการเป็น Mentor หรือให้คำปรึกษากับผู้หญิงไม่ว่าจะอยู่ในวงการเทคหรืออุตสาหกรรมใด เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเติบโตและเส้นทางที่เหมาะสมในแบบฉบับของตนเอง มากไปกว่านั้น ดร.เฟิร์นเชื่อว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้หญิงควรได้มีโอกาสเห็นตัวอย่างหรือ Role Model ที่เป็นผู้หญิงในลักษณะหรือสไตล์ที่ตรงกับตนเอง เข้าถึงได้ เพื่อนำไปปรับให้เข้ากับตัวเอง และการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความท้าทายเพื่อให้เติบโตไปร่วมกัน ในขณะเดียวกัน ความท้าทายเรื่องการพัฒนาศักยภาพของ คน ภายใต้ True Digital Academy จึงทำให้มุมมองที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียมและการ #EmbraceEquity ให้กับโลกใบนี้ของดร.เฟิร์น คือการสนับสนุนกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี สิ่งสำคัญคือการตระหนักถึงคุณสมบัติเฉพาะของคนแต่ละคน แล้วให้เครื่องมือแห่งโอกาสที่ True Digital Academy มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการเรียนรู้ กิจกรรม ทุนสนับสนุน ตลอดจนระบบนิเวศและเครือข่ายที่สร้างขึ้น เพื่อให้คนได้เพิ่มพูนความรู้และศักยภาพตนเอง ส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มโอกาสในความก้าวหน้าทางอาชีพและความเป็นอยู่ เพิ่มการเข้าถึงโอกาสและการจ้างงาน เพิ่มโอกาสการสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยี และขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ทั้งตนเองและองค์กร เพื่อให้ที่สุดแล้วการพัฒนาศักยภาพตนเองที่เน้นการตอบโจทย์รายบุคคคล จะเอื้อให้เกิดการพัฒนาที่อยู่บนเส้นทางที่เหมาะกับคุณสมบัติเฉพาะ ประสบการณ์ และความต้องการของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ดร.เฟิร์นมองว่านี่คือการ #EmbraceEquity หรือความเท่าเทียมที่แท้จริง ดร.เฟิร์นระหว่างบรรยายคอร์ส Digital Transformation Canvas Workshop โดย True Digital Academy ที่มา: https://www.facebook.com/TrueDigitalAcademy/ เมื่อถามถึงการ #EmbraceEquity เพื่อความเท่าเทียมของทุกเพศสภาพในการทำงาน ดร.เฟิร์นบอกไว้อย่างน่าประทับใจว่า ที่ True Digital Academy นั้น แนวคิดความเท่าเทียมของทุกเพศสภาพไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นวัฒนธรรมของทีม การสร้างความรู้สึกปลอดภัยแก่ทุกเพศสภาพคือการ #EmbraceEquity โอบรับความเท่าเทียมที่ True Digital Academy ทำจนเป็นบรรทัดฐาน ทำจนเป็นแนวปฏิบัติขั้นพื้นฐาน จนแทรกซึมอยู่ใน DNA เรามี DNA ของทีมที่ #EmbraceEquity เพื่อความเท่าเทียมของทุกเพศสภาพเป็นแนวปฏิบัติพื้นฐาน เราสร้างบรรยากาศการทำงานและวัฒนธรรมของทีมที่เปิดกว้าง ให้เกียรติ และให้ความรู้สึกปลอดภัยและเสมอภาคแก่ทุกเพศสภาพ และเป็น The Best Place to Work สำหรับทุกคน ดร.เฟิร์นหวังให้ความเสมอภาคจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นฐานการดำเนินชีวิตและการทำงาน ที่คนทุกคนตระหนักรู้และกลายเป็นเรื่องปกติที่ปฏิบัติต่อกัน และยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งในการร่วมกันพัฒนาไปสู่สังคมแห่งความเสมอภาคที่สมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ สิทธิและความเท่าเทียมของทุกเพศสภาพเป็นสิ่งที่สังคมตระหนักรู้ และให้ความสำคัญ แม้ในวันนี้เพศสภาพจะไม่ใช่ตัวกำหนดความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอีกต่อไป แต่กว่าจะถึงวันที่สังคมไม่นำเพศสภาพมากำหนดคุณค่านี้ ก็มีผู้หญิงอีกหลายคนซึ่งได้ต่อสู้กับมายาคติทางเพศเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ Tech By True Digital ขอร่วมชื่นชมผู้หญิงทุกคนและผู้ที่อยู่เบื้องหลังการส่งเสริมให้เกิดความเสมอภาค คำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลและสร้างความมั่นใจว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียมไม่ว่าเป็นเพศสภาพใด --------------------------------------------- อ้างอิง: https://www.eu-startups.com
Tech By True Digital • 22 มี.ค. 66
อ่าน
รีวิวซีรีส์ ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark (2025)
เป็นซีรีส์จีนที่มาใหม่สำหรับ “ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark” โดยเป็นซีรีส์จีนแนวโรแมนติก เทพเซียนที่บอกเล่าเรื่องราวความรักและการต่อสู้ระหว่างสาวผู้ถูกตีตราว่าเป็น ปีศาจ และประมุขเผ่าราตรี บอกเลยว่าพล็อตดีเข้มข้นมาก! และในวันนี้ทางเราไม่รอช้า จะชวนเพื่อน ๆ มาดูซีรีส์เรื่องนี้ใน ‘รีวิว ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark (2025) ซีรีส์จีนแนวเทพเซียน’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ซีรีส์ ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark ซีรีส์เรื่อง “ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark” บอกเล่าเรื่องราวของ “ไป๋เสี่ยวอิ๋ง (แสดงโดย ชีอวี้เฉิน)” เธอเป็นหญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “ปีศาจ” ตั้งแต่เกิด เพราะเธอมี “ความชั่วร้าย” ในตัว เมื่อริเริ่มชีวิต เธอเผชิญกับเหตุการณ์โหดร้ายเพราะ ครอบครัวถูกสังหารหมู่ ทำให้เธอมีเป้าหมายตั้งใจ “บำเพ็ญเซียน” เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับครอบครัว แต่ในเส้นทางนั้น ไป๋เสี่ยวอิ๋งก็ได้พบกับ “เย่เฉินเยวียน หรือ เทพรัตติกาล (แสดงโดย หวังจื่ออี้)” ผู้มีบทบาทสำคัญในโลกของเหล่าเทพเซียนและด้านมืด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจากการเผชิญหน้า ต่อสู้ และขัดแย้ง ต่อมาก็ค่อย ๆ ก่อตัวเป็น ความรัก ที่ท้าทายในโลกที่เต็มไปด้วยแผนการชั่วร้ายของประมุขเซียนที่คอยบงการเทพรัตติกาลอยู่เบื้องหลัง เรื่องราวครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ก็ต้องไปติดตามค่ะ นักแสดง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark ชีอวี้เฉิน แสดงเป็น “ไป๋เสี่ยวอิ๋ง” ถูกตราหน้าว่าเป็น “ปีศาจ” ตั้งแต่เกิด คำนึงถึงความยุติธรรมและความลับในอดีตที่เกี่ยวกับครอบครัวของเธอ หวังจื่ออี้ แสดงเป็น “เย่เฉินเยวียน” เขาคือ เทพรัตติกาล (Night God) มีบุคลิกดูเย็นชา โหดร้ายภายนอก แต่จริง ๆแล้วมีด้านอ่อนโยน สำหรับในซีรีส์เรื่อง “ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark” ก็มีธีมของเรื่องที่เรียกว่าน่าสนใจมาก เป็นแนวแบบแสงสว่าง และความมืด โดยสะท้อนผ่านความสัมพันธ์ของตัวเอกสองคน ไป๋เสี่ยวอิ๋ง ที่เหมือน แสงสว่าง และเย่เฉินเยวียน เทพรัตติกาลที่แทน “ความมืด” ความขัดแย้งและการสมานฉันท์ระหว่างสองสิ่งนี้เป็นจุดดึงดูดใจหลักของเรื่อง อีกทั้งการที่ไป๋เสี่ยวอิ๋งต้องต่อสู้กับการถูกตราหน้า ความเจ็บปวดในอดีต และภาระคำสาป เธอจึงได้ฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นคนใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมยอมรับตัวตนจริง ๆ ของเธอเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดของเรื่องที่ Shine มาก ๆ และในซีรีส์เรื่อง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark ก็ยังมีการดำเนินเรื่องที่เรียกว่าสนุกมาก เปิดเรื่องด้วยภาพของ ไป๋เสี่ยวอิ๋ง ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจตั้งแต่เกิด ครอบครัวของเธอถูกสังหารอย่างปริศนา สร้างแรงจูงใจให้เธอออกเดินทางฝึกฝนเพื่อแก้แค้น โชคชะตานำพาให้เจอกับ เทพรัตติกาล เย่เฉินเยวียน ปมเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแสงและความมืดถูกตั้งขึ้นอย่างชัดเจน แถมในซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังแฝงไปด้วยการเมืองในโลกเทพเซียน การวางแผน การทรยศ และเกมอำนาจของเหล่าผู้ทรงอิทธิพล ทำให้ตัวละครต้องคอยระวังและแก้ไขปมปัญหาที่ซับซ้อน บอกเลยว่ามันหยดทุกจุดแน่นอนค่า โปรดักชันในซีรีส์เรื่อง ดวงตะวันในรัตติกาล ก็ขออวยเลยว่าดีงามมาก ๆ งานภาพและกราฟิก มีการใช้เทคนิค CGI ในการสร้างฉากแฟนตาซี เทพเซียน และฉากต่อสู้พลังเวทที่อลังการมาก ดูแล้วแบบอินมาก เอฟเฟกต์สวยงาม และในเรื่องนี้ก็ยังสร้างฉากได้อย่างสมจริง และรายละเอียดชุดและฉากหลังดูหรูหราและมีความเป็นจีนโบราณผสมแฟนตาซี ทำให้เหมาะสอดคล้องกับคาแรคเตอร์ เคมีของนักแสดงหลักในเรื่องก็ขอบอกเลยว่าดีมาก อย่างนางเอกสาวสวยหน้าหวาน “ชีอวี้เฉิน” และพระเอกมาดเท่ “หวังจื่ออี้” นักแสดงทั้งคู่แสดงออกมาได้อย่างลงตัว มีความรู้สึกทั้งความตึงเครียด ความขัดแย้ง และความหวานแบบที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน มีทั้งความไม่เข้าใจ ความท้าทาย และความผูกพันที่ลึกซึ้ง ซึ่งทำให้คนดูแบบเราอินตามได้ง่าย ฉากที่ทั้งคู่ร่วมมือกันสู้ หรือฉากที่มีความเปราะบางทางใจ แสดงออกได้ดีจนรู้สึกถึงความจริงใจและการเสียสละแบบปังมาก บอกเลยว่าเป็นหนึ่งพาร์ทที่ใครหลายคนดูแล้วจะต้องชื่นชอบแน่นอนค่ะ ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รีวิว ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark (2025) ซีรีส์จีนแนวเทพเซียน โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark” ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 9:00น. ที่ WeTV เท่านั้น เครดิตภาพหน้าปกโดย @白夜宸缘起三生官微 ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความโดย @白夜宸缘起三生官微 ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadaysgirl • 17 ก.ย. 68
อ่าน
ทำความรู้จัก5สาว เพื่อนหญิงพลังหญิงใน jeongnyeon the star is born
jeongnyeon the star is born คือซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของ ยุนจองนยอน หญิงสาวที่เติบโตเป็นเด็กขายปลาอยู่ที่มกโพ เธอมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลงแต่แม่มีสิ่งที่ห้ามให้เธอทำอย่างเด็ดขาดคือการร้องเพลง วันหนึ่งเธอได้เข้าไปรู้จักกับคณะแสดงละครหญิงล้วน ที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในภวังค์และต้องการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในคณะนี้เพราะเธอรู้ว่าสามารถทำความฝันของเธอที่พาครอบครัวออกมาจากความลำบากได้ และเธอต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคมากมายเพื่อขึ้นเป็นตัวจริงของคณะนี้ให้ได้ และวันนี้เราจะพาไปรู้จัก5นักแสดงหญิงของเรื่องนี้กัน https://youtu.be/flyRF30gmFY?si=VbKrZSlfM99pnjWA คิมแทรี รับบทเป็น ยุนจองนยอน https://www.instagram.com/p/Cy5w8hxPJig/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== คิม แทรีเกิด 24 เมษายน 1990 ปัจจุบันอายุ 34 ปี คิมแทรีจบการศึกษาจาก Kyung Hee University หลังจากเรียนจบแทรีได้เข้าไปทำงานในคณะละครเวทีซึ่งเธอทำงานเป็นฝ่ายช่างเทคนิค และก็ผ่านการทดสอบออดิชั่นหลายครั้งกว่าจะได้ขึ้นแสดงบนเวที เธอได้เริ่มเข้ามาสู่วงการบันเทิงอย่างจริงจังในปี 2016 ซึ่งมีทั้งผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือ The Handmaiden เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ระดับตำนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงที่น่าจับตามองมากๆ และในปีเดียวกันก็ได้เดบิวต์ผลงานซีรีส์เรื่องแรกคือ Entourage ในปี 2017-2018 ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเธอในวงการภาพยนตร์และซีรีส์ ซีรีส์ที่ทำให้เธอถูกจับตามองอย่างมากคือ Mr. Sunshine ซีรีส์เรื่องแรกที่เธอรับบทนำ หลังจากนั้นแทรีก็ห่างไปจากการแสดงพักใหญ่แต่ก็ยังมีงานในวงการอยู่เป็นประจำ จนในปี 2022 ซีรีส์ Twenty-Five Twenty-One เป็นซีรีส์ที่เรียกว่าตอนรับการคัมแบคของแทรีได้อย่างดีเพราะมีการตอบรับที่ดีทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ และในปีเดียวกันก็มีภาพยนตร์เรื่อง Alienoid ภาพยนตร์ที่นำเอาเหล่าตัวท็อปเกาหลีมาร่วมกัน ในปี 2023 ซีรีส์ Revenant เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้องยอมรับฝีมือการแสดงของแทรีมากๆ เพราะเขาต้องแสดงบทที่เหมือนมีผีเข้าสิงซึ่งทำเอาหลอนจริงๆเลย ในปีนี้กับซีรีส์ Jeongnyeon: The Star Is Born ซีรีส์ที่ถูกจับตามองตั้งแต่เห็นรายชื่อนักแสดง เธอรับบทเป็น ยุนจองนยอน หญิงสาวที่ฝันอยากเป็นนักแสดงในโรงละครหญิงเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว เรื่องนี้เราได้เห็นความหลากหลายทางการแสดงของแทรีมากยิ่งขึ้น เห็นพัฒนาการตั้งแต่เป็นเด็กขายปลา จนสามารถเข้ามาอยู่ในคณะได้ ต่อไปคงต้องจับตาดูพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ต่อไปว่าจะไปในทิศทางไหน https://www.instagram.com/p/CzARZJcvOg2/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ คิม แทรี Kim Tae-ri เกิด 24 เมษายน 1990 อายุ 34ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2016 ต้นสังกัด Management MMM IG kimtaeri_official ชินเยอึน รับบทเป็น ฮอยองซอ https://www.instagram.com/p/C_u7W9uvY31/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ชิน เยอึนเกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1998 ปัจจุบันอายุ 26ปี เยอึนเกิดมาในครอบครัวที่เห็นคุณปู่เป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็กความฝันของเธอก็คือการเป็นนักแสดงนั้นเอง ซึ่งเธอได้เข้าเรียนที่ Anyang Arts High School เอกการแสดง หลังจากจบการศึกษาก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Sungkyunkwan เรียนเอกศิลปะการแสดง เยอึนเริ่มเข้ามาในวงการครั้งแรกจากการถ่ายแบบนิตยสาร ก่อนที่จะได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงในเว็บดราม่า A-Teen ทั้ง 2 ซีซั่นและในปีเดียวกันได้เป็นนางเอกMV ของDay6 เพลง Shoot Me ปี 2019 ได้เป็นMCรายการเพลง Music Bank คู่กับชเวโบมิน ผลงานที่ทำให้เธอถูกจับตามองมากๆคือ The Glory กับการรับบทเป็นพัคยอนจินตอนเด็ก ซึ่งเล่นได้ดีจนถูกใจใครหลายๆคน และในปีนี้กับซีรีส์ Jeongnyeon: The Star Is Born บท ฮอยองซอ เด็กสาวผู้ที่เกิดมาในครอบครัวที่ทางบ้านเป็นนักโอเปร่า ทั้งคุณแม่และพี่สาว แต่ตัวเองอยากทำตามความฝันโดยการเป้นนักแสดง แม่ของเธอจึงไม่ค่อยพอใจนักแต่ถึงยังไงก็กดดันว่าจะต้องเป็นตัวเด่นในคณะให้ได้ เธอจึงไม่ได้สนใจใครรอบข้างนอกจากตนเอง ชอบตรงที่ซีรีส์เลือกที่จะให้ตัวจองนยอนกับยองซอดูมีความไม่เหมือนกันและต้องมาพักห้องเดียวกันแถมยังเป็นคู่แข่งกันอีก ก็แอบหวังว่าในอนาคตทั้งคู่จะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ https://www.instagram.com/p/C_shNQrvohv/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ ชิน เยอึน Shin Ye-eun เกิด 18 มกราคม 1998 อายุ 26ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2018 ต้นสังกัด Npio IG __shinyeeun รามีรัน รับบทเป็น คังโซบก https://www.instagram.com/p/C6tduUFPiwI/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== รา มีรัน เกิด 6 มีนาคม 1975 ปัจจุบันอายุ 49ปี มีรันเดบิวต์การแสดงครั้งแรกในภาพยนตร์ Lady Vengeance ในปี 2005 หลังจากนั้นเธอก็ได้แสดงภาพยนตร์มาอีหลายเรื่องแต่มักไม่ได้รับบทที่โดดเด่นเท่าไหร่ ในปี 2009 ได้แสดงซีรีส์เรื่องแรก คือ Cinderella Man ซึ่งการเริ่มต้นครั้งนี้ก็ได้เป็นตัวประกอบอีกเช่นเคย แล้วในที่สุดก็มีภาพยนตร์ที่ทำให้คนเริ่มสนใจเธอมากขึ้นกับภาพยนตร์เรื่อง Dancing Queen เธอมีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มากมายแต่ส่วนใหญ่เป็นบทสมทบและรับเชิญ แต่ต้องยอมรับว่าถึงบทน้อยแค่ไหนแต่เธอไม่ตายบท เพราะความสามารถของเธอที่ทะลุออกมา ถ้าให้พูดถึงซีรีส์ที่ประทับใจของเขาคือเรื่อง The Good Bad Mother ปี 2023 ในบทแม่ผู้เสียสละ ตอนดูการแสดงของเขาก็แอบคิดว่ากว่าแสงจะส่องมาถึงก็ช่วงของการรับบทแม่แล้วสินะ และเรื่องล่าสุดกับ jeongnyeon the star is born บท คังโซบก ผู้ดูแลคณะละคร เรื่องนี้มีรันได้แสดงถึงความน่ากลัวและน่าเกรงขามในคนเดียว ถึงแม้ยังออกมาไม่มากเท่าไหร่แต่เชื่อว่าตัวละครนี้น่าจะต้องมีอะไรแน่ๆ https://www.instagram.com/p/C_KA8m2P-Km/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ รา มีรัน Ra Mi-ran เกิด 6 มีนาคม 1975 อายุ 49 ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2005 ต้นสังกัด C-JeS Studios IG ramirani668 จองอึนแช รับบทเป็น มุนอ๊กคยอง https://www.instagram.com/p/DAm9RbPTmzG/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== จอง อึนแช ชื่อเดิมคือ จอง ซอลมี เกิด 24 พฤศจิกายน 1986 ปัจจุบันอายุ 37ปี อึนแชเคยอาศัยอยู่ที่ลอนดอนระยะหนึ่ง อึ่นแชได้เข้าวงการมาครั้งแรกในฐานะนางแบบโฆษณา ซึ่งมีผลงานโฆษณาที่ดีมากมายทำให้เธอได้รางวัล Asia Model Festival Awards ครั้งที่ 6 เขาได้เดบิวต์ผลงานการแสดงครั้งแรกในปี 2010 ในภาพยนตร์ Haunters และซีรีส์ Pasta โดยเป็นนักแสดงรับเชิญ หลังจากนั้นเขามีผลงานมาเรื่อยๆ ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ ในปี 2014 ได้แสดงภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ เรื่อง The Fatal Encounter ในปี 2018 ได้แสดงบทนำในซีรีส์ The Guest ในปี 2020 เธอได้แสดงซีรีส์ The King: Eternal Monarch ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เธอเป็นที่พูดถึงอย่างมากด้วยการแสดงและความสวยที่ออกมาตอนนั้นก็ต้องสะดุดตา ปี2022 ซีรีส์ Anna เรียกว่าเป็นหนึ่งผลงานที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจในการแสดงของอึนแชมากๆ เพราะดูแสดงได้ดีมีมิติ เข้าฉากกับซูจีก็คือไม่จม และล่าสุดกับซีรีส์ jeongnyeon the star is born บท มุนอ๊กคยอง ในแสดงชายหลักของคณะละครผู้ที่มีสาวน้อยสาวใหญ่ตามกรี๊ด และด้วยเนื่องจากโรงละครนี้มีแต่ผู้หญิงต้องหาคนมาแสดงเป็นนักแสดงชาย ตัวของอ๊กคยองจึงคิดว่า จองนยอนจะมาแทนตนเองได้ เรื่องนี้เราลบภาพการแสดงเรื่องอื่นๆของอึนแชไปเลยเพราะ ความหล่อเท่ของเขา และเคมีกับแทรีคือ10เต็ม10 https://www.instagram.com/p/C9_SnUay_CJ/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ จอง อึนแช Jung Eun-chae เกิด 24 พฤศจิกายน 1986 อายุ 37 ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2010 ต้นสังกัด Project Hosoo IG jungeunchae_ คิมยุนฮเย รับบทเป็น ซอฮเยรัง https://www.instagram.com/p/C71IwYESfq7/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== คิม ยุนฮเย เกิด 24 พฤษภาคม 1991 ปัจจุบันอายุ 33ปี เขาเข้าวงการมาจาก ปกนิตยสาร Vogue Girl Korea ปี 2002 ผลงานแรกคือการแสดง MV เพลง Don't Go, My Love ของ Lim Jeong-hee และได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงครั้งแรกในภาพยนตร์ My Son ปี 2007 และปี 2010 ได้แสดงในซีรีส์เรื่องแรกคือ My Mom! Super Mom! ในปี 2013 ได้รับบทนำในภาพยนตร์ครั้งแรก เรื่อง Steel Cold Winter ซีรีส์ที่ทำให้ยุนฮเยเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ 18 Again ในปี 2020 ปี 2021 ในซีรีส์ Vincenzo ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นจนมีผลงานมากมายที่เสนอมาให้เขา ปี 2022 ซีรีส์ Shooting Stars และในปีนี้กับซีรีส์ Goodbye Earth ที่เรียกว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงอีกก้าวหนึ่ง และเรื่องล่าสุดกับ jeongnyeon the star is born บท ซอฮเยรัง หญิงสาวที่เป็นนักแสดงหญิงหลักใน คณะละครแห่งนี้ เรียกว่าเป็นคนที่ทั้งสวยมีความสามารถและเก่งจนที่ยากที่จะหาใครมาเทียบได้ บทนี้ถึงจะออกมาไม่มากแต่กลับเป้นบทที่เรารูสึกชอบมากๆ อาจจะดูนิ่งแต่ก็ดูไม่ได้มีพิษภัยอะไร เป็นอีกหนึ่งตัวละครในเรื่องที่น่าสนใจ https://www.instagram.com/p/Cmv2UEJprQG/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ คิม ยุนฮเย Kim Yoon-hye เกิด 24 พฤษภาคม 1991 อายุ 33 ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2002 ต้นสังกัด J-Wide Company IG kimyoonhye_ เครดิต ปก ปก1 tvn_drama วิดีโอ วิดีโอที่1 tvndrama รูป รูปที่1 /รูปที่2 kimtaeri_official /รูปที่3 /รูปที่4 __shinyeeun /รูปที่5 / รูปที่6 ramirani668 /รูปที่7 /รูปที่8 jungeunchae_/รูปที่9 /รูปที่10 kimyoonhye_ จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
KReview • 17 ต.ค. 67
อ่าน
พร้อมคัมแบ็ค!! บูรณ์ The Star 9 คว้า ป.ตรีมหิดล เตรียมหวนคืนวงการ
หายหน้าหายตาไปซะนาน ล่าสุดนักแสดงหนุ่ม บูรณ์-ธันยบูรณ์ วงศ์วาสิน พร้อมกลับมาลุยงานบันเทิงแล้วจ้า!! เพราะเพิ่งคว้าปริญญาตรี คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์ มานอนกอดสมดั่งความตั้งใจ โดยในวันรับพระราชทานปริญญาบัตรที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีเพื่อนสาวคนสนิ๊ทสนิทอย่าง แจม-ปาณิชดา แสงสุวรรณ นักแสดงช่อง 7 และเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ อาทิ ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม, ดิว-นัทธพงศ์ พรมสิงห์, พาย-พิมพ์พัชร วัชรเสวี, มะปราง-อลิสา ขุนแขวง มาร่วมแสดงความยินดีเพียบ ทีมงานบันเทิงทรูไลฟ์ขอแสดงความยินดีกับหนุ่มบูรณ์ด้วยจ้า! อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร เรียบเรียงข้อมูลโดยทีมงาน dara.truelife.com
ข่าวบันเทิง • 4 ก.ย. 59
อ่าน
Review Game : LAst WEEK 2 - Another Incident
LAst WEEK - Another Incident หรือ Last WEEK ภาคที่ 2 เป็นเกม RPG Maker แนว Horror Adventure สร้างโดยคุณ Mayko ภาคนี้เป็นภาคต่อของ LAst WEEK โดยในภาคนี้จะเป็นเหตุการณ์ก่อนภาค 1 เล่าถึงเรื่องราวของ 'ราตรี' เด็กหญิงผู้ถูกเลือกให้เป็นเครื่องสังเวยในวันครบรอบวันสถาปนาโรงเรียนปีที่ 47เนื้อเรื่องเรื่องราวเริ่มต้นจากราตรีตื่นขึ้นมาในห้องเรียนเก่า ๆ ที่ดูไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้ว เธอค้นพบว่าตัวเองอยู่ในอาคารศูนย์ชั้นใต้ดินของโรงเรียนวิถีศาสตร์ ติดอยู่ในอาคารร้างที่ไร้ทางออกและตัวเธอเองถูกนำมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับอะไรบางอย่างที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ สิ่งเดียวที่พอจะเป็นเบาะแสในการเอาตัวรอดได้คือบันทึกของเหยื่อคนก่อนหน้าเธอที่หลงเหลือเอาไว้ แม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้คือเธอจะต้องหาทางออกไปข้างนอกให้ได้ตัวละครตัวละครที่แนะนำจะเป็นตัวละครหลัก ๆ นะคะ ยังคงมีตัวละครอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ บางตัวละครถ้าแนะนำจะเป็นการสปอยภาค 1 สำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่น ดังนั้นผู้เขียนจึงไม่หยิบมาแนะนำ (ให้ผู้เล่นไปลุ้นกันเองดีกว่าค่ะ!)- ราตรี (Ratri)เหยื่อสังเวยในวันครบรอบปีที่ 47 ของโรงเรียนวิถีศาสตร์ เธอเป็นเพื่อนสนิทของพิม- ไลลา (Laila)เด็กผู้หญิงที่ราตรีเจอเธอตกบันไดเพราะวิ่งหนีตัวประหลาด- กันยา (Kanya)เด็กผู้หญิงที่ช่วยราตรีไว้จากการโดนเงาไล่ล่า- ตะวัน (Tawan)เด็กผู้หญิงที่ราตรีเจอโดยบังเอิญ กำลังหาทางออกจากอาคารศูนย์เหมือนกับราตรี- พิม (Pim)เพื่อนสนิทของราตรี เธอพยายามช่วยราตรีให้ออกมาจากอาคารศูนย์ตัวอย่างภายในเกมหน้าเข้าเกมบรรยากาศภายในเกมปริศนาในเกมห้องเปลี่ยนปฏิทินความรู้สึกหลังเล่นความรู้สึกหลังเล่นจบนั้น ต้องบอกเลยว่าภาคนี้เป็นภาคที่ปิดได้อย่างสวยงามจริง ๆ สำหรับคนที่เล่นภาคแรกมาแล้ว พอมาเล่นภาคนี้เหมือนเจอจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปในภาคแรกทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ดีมาก ๆในส่วนของเกมเพลย์นั้นยังคงเป็นการตามหาปฏิทินเพื่อข้ามวันแบบเดียวกับภาคแรก เพียงแต่ว่าภาคนี้ความน่ากลัวจะน้อยลง ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องจะมากขึ้น และมีการเพิ่มอุปกรณ์บางอย่างเข้ามาให้ผู้เล่นได้คอยกังวลจนต้องดูเป็นช่วง ๆ นอกจากแบตเตอรี่และเลือดที่ลดเรื่อย ๆ ด้วย พล็อตเรื่องของภาคนี้จะเป็นเหตุการณ์ช่วงก่อนเกิดการสังหารหมู่ เป็นวันครบรอบวันสถาปนาโรงเรียนปีที่ 47 และนักเรียนที่หายตัวไปในปีนี้คือราตรี เธอถูกเลือกให้เป็นเหยื่อสังเวย แม้จะสิ้นหวังแต่เพราะเธอยังไม่อยากตาย เธอจึงพยายามหาทางออกจากอาคารปิดตายนี้ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบภาคนี้มาก โดยเฉพาะไลลา เป็นตัวละครที่ทำให้รู้สึกประทับใจแปลก ๆ (และน้องน่ารักด้วย!)สำหรับใครที่อยากเล่น สามารถเข้าไปโหลดได้จากเพจของคุณ Mayko ได้ตามลิงค์ข้างล่างเลย เกมนี้สนุกมากเลยนะคะ แนะนำให้เล่นภาค 1 แล้วต่อภาค 2 เลย จะทำให้อินกับเนื้อเรื่องมากขึ้นค่ะhttps://www.facebook.com/pg/Mayko.R.Active/photos/?tab=albumalbum_id=409648219240156ref=page_internal"นายสิ้นหวังเพราะนายเชื่อในอนาคตใช่ไหมล่ะ แต่ฉันไม่สิ้นหวังเพราะฉันเชื่อในตัวเอง""ฉันไม่มีหรอกโปรแกรมคำนวณว่าทางไหนเจ็บน้อยที่สุด ก็ไม่มีมนุษย์คนไหนมีแต่พวกเขาก็ยังใช้ชีวิตต่อไปได้"คะแนนเกมเพลย์ : 9 คะแนนตัวละคร : 9.5 คะแนนเนื้อเรื่อง : 9.5 คะแนนสรุปโดยรวม 9 คะแนนเครดิต : ภาพประกอบทั้งหมดมาจากในเกม บันทึกโดยผู้เขียน
Airin • 26 เม.ย. 63
อ่าน
Spiral From The Book of Saw
เรื่องย่อ Spiral From The Book of Saw ชื่อเรื่อง Spiral From The Book of Sawประเภท สยองขวัญนำแสดงโดยคริส ร็อก, มอร์แกน เดวิด โจนส์, อาลี จอห์นสันกำกับโดย ดาร์เรน ลินน์ บัสแมนกำหนดฉาย 4 พฤศจิกายน 2021ความยาว 93 นาที 🔴 อ่านเรื่องย่อและรายละเอียดเกี่ยวกับหนัง Spiral From The Book of Saw ได้ที่นี่ 🔴
เรื่องย่อหนัง • 2 ต.ค. 64
อ่าน
รีวิวซีรีส์จีน ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark 2025
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวมินิซีรีส์จีน เรื่อง ดวงตะวันในรัตติกาล The Sun in the Dark มาวันแรกวันที่ 14 กันยายน 2025 มีทั้งหมด 24 ตอน ออกอากาศทาง WeTV นำแสดงโดยนางเอกสาวชีอวี้เฉิน ที่มารับบท ไป๋เสี่ยวอิ๋ง ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มหวังจื่ออี้ ที่มารับบท เย่เฉินเยวียน บอกเล่าเรื่องราวของนางเอกที่ถูกมองว่าเป็นตัวกาลกิณีมาตั้งแต่เกิดเธอจึงบำเพ็ญเพียรเพื่อแก้แค้นให้แม่ เรื่องราวจะสนุกแค่ไหนเชิญไปอ่านกันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เป็นเรื่องราวของไป๋เสี่ยวอิ๋งนางเอกของเรื่องที่ตอนเด็กถูกหาว่าเป็นตัวกาลกิณีทำให้มีแต่คนรังเกียจ ต่อมาแม่ของเธอโดนเย่เฉินเยวียนพระเอกของเรื่องที่เป็นเทพราตรีฆ่าตาย ทำให้เธอแค้นเทพราตรีมากจึงพยายามปีนบันไดสวรรค์เพื่อไปฝึกเป็นเซียน เธอโชคดีได้อวิ๋นเหยาเซียนท่านหนึ่งรับเป็นศิษย์ นางเอกจึงได้มาเรียนเป็นเซียนกับพวกเซียน แต่แล้วพระเอกกลับมาบุกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่ที่นางเอกบำเพ็ญอยู่เพื่อแย่งดาบศักดิ์สิทธิ์ของพวกเซียนไป แต่เขากลับบังเอิญโดนเชือกผูกวิญญาณพันธนาการวิญญาณเขากับร่างของนางเอกไว้ ตอนแรกทั้งคู่ก็เป็นเหมือนคู่กัดกันแต่เมื่ออยู่ด้วยกันเพราะถูกผูกวิญญาณติดกันทำให้เกิดเป็นความผูกพันจนกลายเป็นความรัก พระเอกยอมเสียสละตนเองเพื่อนางเอกและยังเปิดเผยแผนการร้ายของประมุขเซียนอีกด้วย ไป๋เสี่ยวอิ๋งตั้งแต่เด็กผู้คนต่างบอกว่าเธอเป็นตัวกาลกิณีเพราะเลือดของเธอสามารถกัดกร่อนทุกสิ่งได้ ชาวบ้านต่างบอกว่าเธอเป็นคนเผ่าราตรีคนพากันขับไล่รังเกียจ เธอกับแม่บังเอิญอยู่ตอนที่เทพราตรีปรากฏตัว คนอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันตายหมดรวมทั้งแม่นางเอกทำให้นางเอกแค้นพระเอกมาก เรื่องนี้ชีอวี้เฉินเล่นออกมาได้ดูมุ่งมั่น แต่ก็ดื้อรั้นพอตัว เย่เฉินเยวียนเป็นเทพราตรี ปรากฏตัวที่ไหนคนที่นั่นก็จะตายหมดมีเพียงนางเอกที่เจอพระเอกแล้วยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นประมุขเผ่าราตรีที่ได้บรรลุพลังสูงสุดแล้วจึงจะไปแย่งดาบศักดิ์สิทธิ์ที่สำนักเซียนจนโดนเซียนคนหนึ่งใช้เชือกผูกวิญญาณมาต่อสู้กับเขา แต่เชือกกลับผูกวิญญาณพระเอกไว้กับร่างนางเอก เรื่องนี้หวังจื่ออี้เล่นออกมาได้ดูนิ่งๆ แต่ก็แอบกวน เสื้อผ้าและคอสตูมทำออกมาได้ดูมีความสวยงาม ชุดนางเอกเป็นชุดแนวเซียนหญิงที่ดูอ่อนช้อยงดงาม สีออกอ่อนๆ เครื่องประดับเครื่องหัวไม่มากแต่ก็จัดว่าดูดี ส่วนชุดพระเอกก็เป็นชุดเทพเซียนที่ดูอลังการ ใส่ออกมาก็ดูหล่อมาก ฉากก็มีหลากหลายทั้งบนสวรรค์ โลกมนุษย์ ป่าเขาลำเนาไพรก็ดูเป็นธรรมชาติสวยงาม ชอบเคมีของพระนางเรื่องนี้มาก ตอนแรกก็เป็นศัตรูกันแต่เดาว่าสุดท้ายจะต้องมาร่วมมือกันเพื่อช่วยโลกจากแผนการของประมุขแดนเซียน เป็นแนวความรักปนความแค้นที่นางเอกแค้นพระเอกที่เป็นสาเหตุให้แม่เธอตาย แต่ก็ดูแล้วออกแนวจากศัตรูสู่การเป็นคู่รัก ตอนแรกก็เป็นคู่ปรับแต่สุดท้ายก็มารักกัน ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซีที่ดูสนุก พล็อตมีความสร้างสรรค์ดูแล้วไม่ซ้ำซากจำเจ เป็นเรื่องราวของนางเอกที่ต้องการเป็นเซียนเพื่อมาฆ่าพระเอกที่เป็นเทพราตรีเพราะต้องการแก้แค้นให้แม่ แต่ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันและร่วมกันเปิดเผยแผนการร้ายของประมุขเซียน เดินเรื่องได้ค่อนข้างเร็ว ค่อยๆ เล่าที่มาที่ไปของตัวละคร ใครชอบแนวนี้ไปตามได้ค่ะ บทความ "ซีรีส์จีน" ที่กำลังออนแอร์ช่วงนี้ รีวิว สู่ภูผามหาสมุทร The Journey of Legend 2025 #เฉิงอี้ รีวิวซีรีส์จีน แรงไฟในบุปผา Wild Ambition Bloom 2025 รีวิว ไฟแค้นเจ้าหญิงเงามืด The Maid 2025 เติ้งข่ายจ้าวซีซี รีวิวซีรีส์จีน ห้วงรักเพลิงแค้น A Fleeting Dream 2025 รีวิว ร่องรอยในทรงจำ Footprints of Change 2025 #เฉิงเหล่ย อ้างอิง ภาพปก ตกแต่งโดย canva ภาพที่1-4 ขอบคุณภาพจาก Weibo: 白夜宸缘起三生官微 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Faifun • 16 ก.ย. 68
ดูเพิ่มเติม