ผลการค้นหา “THE STAR” - ทรูไอดี

Broken Star

แพศยา

Star Vs. Food Survival

เอื้อมดาวคว้ารัก

ไปให้ถึงดวงดาว

รักนี้ต้องเจียระไน

อะ สตาร์ อีส บอร์น

“มอเตอร์ไซค์บินได้” Volonaut Airbike การเดินทางยุคใหม่สไตล์ "Star Wars"

โวโลนอต แอร์ไบค์ (Volonaut Airbike) มอเตอร์ไซค์บินได้ที่สามารถลอยตัวและร่อนไปในอากาศได้อย่างอิสระ โดยหลังจากบริษัทปล่อยวิดีโอตัวอย่างออกมา ก็กลายเป็นกระแสพูดถึงบนโลกออนไลน์ ทั้งในแง่ความสามารถที่ดูเหนือจริงจนทำให้หลายคนสงสัย และหน้าตาที่ดูแล้ว เหมือนกับหลุดมาจากภาพยนตร์ไซไฟชื่อดัง สตาร์วอร์ส (Starwars) มอเตอร์ไซค์บินได้ หรือ โฮเวอร์ไบค์ (Hover Bike) คันนี้ ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานเดียวกับที่เคยสร้างความตื่นตาตื่นใจมาแล้วกับ Jetson One โดรนบินส่วนบุคคลขนาดกะทัดรัด อย่างไรก็ตาม มอเตอร์ไซค์บินได้คันนี้ มีความโดดเด่นที่ต่างออกไป ด้วยดีไซน์แบบเปิดโล่ง ไม่มีส่วนครอบศีรษะ และซ่อนส่วนที่เป็นใบพัดหรือเครื่องยนต์ของยานพาหนะเอาไว้ ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสประสบการณ์การบินราวกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นอกจากนี้ การออกแบบที่ปราศจากโครงสร้างภายนอก ยังมอบทัศนียภาพแบบ 360 องศาอย่างเต็มที่โครงสร้างของมอเตอร์ไซค์บินได้รุ่นนี้ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูง ให้คุณสมบัติความแข็งแรงทนทาน ควบคู่ไปกับน้ำหนักที่เบา และด้วยขนาดที่คล่องตัวกว่าโดรนบินส่วนตัวทั่วไป ทำให้มอเตอร์ไซค์บินได้คันนี้ มีความได้เปรียบในการเดินทางในพื้นที่จำกัดและแคบมากกว่าอากาศยานประเภทอื่น ๆ ดังที่บริษัทได้แสดงให้เห็นในการขับขี่ผ่านหุบเขาและป่าไม้อย่างคล่องแคล่วในส่วนของสมรรถนะ บริษัทเผยว่า มอเตอร์ไซค์บินได้คันนี้ ขับเคลื่อนด้วยระบบไอพ่นอันทรงพลัง สามารถรองรับผู้ขับขี่ได้หนึ่งคน และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บริเวณด้านล่างติดตั้งขาตั้งพิเศษที่ช่วยให้ตัวยานยกตัวขึ้นจากพื้นและรองรับการลงจอดได้อย่างนุ่มนวล อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางบริษัทยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลการวางจำหน่าย รวมถึงรายละเอียดการทำงานของมอเตอร์ไซค์บินได้รุ่นนี้ออกมา ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่านี่เป็นผลงานที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแนวคิดยานยนต์แห่งอนาคตที่ถูกนำเสนอด้วยเทคนิคพิเศษทางการถ่ายทำ ซึ่งคงต้องติดตามความเคลื่อนไหวจากทางบริษัทต่อไป">

กีฬาสีไอดอล 2022

นักบินอวกาศบนสถานีอวกาศ ISS ร่วมฉลอง “May the 4th” รับชม Star Wars บนอวกาศ

วันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา นักบินอวกาศขององค์การนาซา (NASA) ซึ่งเป็นสมาชิกของภารกิจ Expedition 54 บนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ได้รวมตัวกันในโมดูล Unity เพื่อเฉลิมฉลองวัน Star Wars โดยการรับชมภาพยนตร์ Star Wars: The Last Jedi ท่ามกลางอวกาศอย่างแท้จริง"> กิจกรรมนี้จัดขึ้นในช่วงเวลาว่าง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมระดับโลกที่ยกให้วันที่ 4 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันแห่ง Star Wars” ซึ่งมีที่มาจากวลีอันเป็นเอกลักษณ์ “May the force be with you” ที่พ้องเสียงกับคำว่า “May the 4th be with you” บรรยากาศภายในสถานีเต็มไปด้วยความสนุกสนานแบบสภาพไร้น้ำหนัก ขณะนักบินอวกาศรับชมเรื่องราวของจักรวาลไกลโพ้น พร้อมแสดงความรักต่อแฟรนไชส์ระดับตำนานด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้นในแบบไร้แรงโน้มถ่วง“𝑰 𝒂𝒎 𝒚𝒐𝒖𝒓 𝒇𝒂𝒕𝒉𝒆𝒓…” คำกล่าวในตำนานจากจักรวาล Star Wars ดังก้องแม้กระทั่งนอกโลก">

เอสวี ลีก ออล สตาร์ เกมส์ 2024/25 อิชิคาวะ

นักวิทย์ฯ อาจพบดาว “ทาทูอิน” จากหนัง Star Wars อาจมีอยู่ในชีวิตจริงของเรา

การค้นพบครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ผ่านวารสาร Science Advances เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ อาจค้นพบดาวเคราะห์ที่ค้ลายคลึงกับ “ดาวทาทูอิน” โลกแห่งทะเลทรายที่มีอยู่ในภาพยนตร์ Star War ซึ่งถือเป็นบ้านของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ตัวเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ดาวเคราะห์ดวงนี้ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 120 ปีแสง สิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ มองว่า ดาวเคราะห์นี้ คล้ายกับดาวทาทูอิน คือการที่ดาวเคราะห์นี้ โคจรรอบดาวแคระน้ำตาล 2 ดวง ขณะที่ ดาวทาทูอิน มีชื่อเสียงว่า เป็นเมืองที่มีดวงอาทิตย์คู่ นั่นหมายความว่า ดาวทาทูอินนี้ โคจรรอบดาวฤกษ์ 2 ดวงด้วยเช่นกันทั้งนี้ ดาวแคระน้ำตาล มีอีกชื่อว่า ดาวฤกษ์ที่ล้มเหลว เนื่องจากเป็นวัตถุที่มีมวลมากกว่าขีดจำกัดมวลของดาวเคราะห์ แต่ก็ไม่มากพอที่จะเป็นดาวฤกษ์ แม้ว่า ดาวทั้ง 2 ดวง จะมีความสว่างน้อยกว่า ดวงอาทิตย์ แต่แนวคิดเนื่องการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง ในหนัง Star War ทำให้นักวิทยาศาสตร์อดเปรียบเทียบกับดาวทาทูอินไม่ได้นอกจากนี้ เส้นทางการโคจรดาวเคราะห์ดวงนี้ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นดาวเคราะห์ในนิยายวิทยาศาสตร์ เพราะว่า มันโคจรเป็นมุมแหลม 90 องศา ไม่ได้โคจรเป็นระนาบเดียวกับดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่เราเคยเห็น “ดาวเคราะห์โคจรรอบดาวคู่เหล่านี้ เป็นตัวกระตุ้นจินตนาการ พวกมันมีอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์มานานหลายสิบปี ก่อนที่เราจะรู้ว่า พวกมันอาจมีอยู่ในชีวิตจริงด้วยซ้ำ และยังเป็นดาวเคราะห์ประเภทที่แตกต่างจากระบบสุริยะของเรา” โธมัส เบย์ครอฟท์ ผู้เขียนงานวิจัย กล่าว การค้นพบนี้ อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติในอนาคตได้แหล่งข้อมูลอ้างอิง:Scientists may have discovered an unusual planet, just like Luke Skywalker’s home - AP

เรือสำราญ Star Voyager แหลมฉบัง - เกาะสมุย - สิงคโปร์ ที่ไทยเป็นครั้งแรก

สายเที่ยว ปักหมุดรอเลย! เรือสำราญ Star Voyager แบรนด์ เรือสำราญ StarDream Cruises มาให้บริการโดยเลือก ประเทศไทย เป็นจุดขึ้นลง (Home Port) เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 22 เมษายน-12 พฤษภาคม 2568 โดยให้บริการใน เส้นทาง ท่าเรือแหลมฉบัง - เกาะสมุย - สิงคโปร์ - แหลมฉบัง 2 ครั้ง (Calls) ใน วันที่ 22-27 เมษายน และ 7-12 พฤษภาคม 2568 นี้ เรือสำราญ Star Voyager แหลมฉบัง - เกาะสมุย - สิงคโปร์ - แหลมฉบังครั้งแรกในไทย เที่ยวปฐมฤกษ์ StarCruises ถือเป็นแบรนด์เรือสำราญที่มีประสบการณ์ให้บริการการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ เชื่อมโยงในภูมิภาคเอเชียมากว่า 30 ปี และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน อินเดีย ไต้หวัน และฮ่องกง ปัจจุบันได้รีแบรนด์ภายใต้ชื่อใหม่คือ StarDream Cruises และเปิดตัวแบรนด์อีกครั้งด้วยการนำ เรือ Star Voyager ให้บริการ เที่ยวปฐมฤกษ์ แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ขึ้นลงที่ไทยเป็นครั้งแรก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ใน เส้นทางแหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง ระยะเวลา 6 วัน 5 คืน โดยจะให้บริการ 2 เที่ยว (Calls) คือ วันที่ 22-27 เมษายน 2568 วันที่ 7-12 พฤษภาคม 2568 ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การให้บริการแบบพรีเมียมตลอด 24 ชั่วโมง มีกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ความสนุกสนานและท้าทาย เช่น การปีนผา ซิปไลน์ รวมถึงการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก ททท. นำการแสดงจาก Alcazar Cabaret Show จากพัทยา ชลบุรี มาสร้างสีสันในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และสร้างความสนุกสนานบนเรือ เพื่อนำเสนอไฮไลท์การท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีด้วย โดยในปัจจุบัน ท่าเรือที่ในการรองรับเรือสำราญ มากที่สุดตามลำดับ ได้แก่ อ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่าเรือน้ำลึก จังหวัดภูเก็ต ท่าเรือศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยนักท่องเที่ยวที่มากับเรือสำราญส่วนใหญ่มาจากประเทศสิงคโปร์ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ตามลำดับ

เอสวี ลีก ออล สตาร์ เกมส์ 2024/25 อิชิคาวะ ไฮไลท์

วิเคราะห์ วอลเลย์บอลหญิง ไทย Vs เกาหลีใต้ ศึก All-Star Super Match ดูวอลเลย์บอลสด (ช่องทางการรับชม)

ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิง ไทย Vs เกาหลีใต้ ศึก All-Star Super Match (พร้อมช่องทางรับชมสด) วันนี้ ทีมวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามนัดที่สอง ในวันนี้ เวลา 15.40 น. หลังจากนัดแรกผ่านไป ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยของเรา สามารถเอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ ด้วยผลสกอร์ 3 ต่อ 1 เซต ซึ่งนัดแรกเราได้เห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองทีม และการวางแผนการเล่นของทั้งสองเฮดโค้ช ได้เห็นถึงการแก้เกมและการเลือกใช้ตัวผู้เล่น และในนักแรกทีมชาติไทยของเราทำได้ดีกว่า สามารถเก็บชัยชนะไปได้ นัดที่สองผลจะออกมาเป็นแบบไหน วันนี้เรามีนัดอย่าลืมมาเชียร์กันเยอะๆครับ     รายการ: วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match นัดที่สอง     คู่ระหว่าง: ทีมชาติไทย Vs ทีมชาติเกาหลีใต้     เวลาแข่งขัน: อาทิตย์ ที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 15.40 น.     ถ่ายทอดสด: ช่อง PPTV 36 ช่อง YouTube  PPTV Sport สภาพความพร้อม วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนในนักกีฬาวอลเลย์บอลชุดนี้ ก็คือเรื่องของทีมเวิร์คมีระเบียบวินัยเปะมาก ไม่ได้อวยแต่การแข่งขันในนัดแรกเราได้เห็นกันแล้วว่า เกมรุกการตบการเสริ์ฟการออกบอลแรกเราทำได้ดีมาก เล่นกันเป็นทีม มันเลยทำให้เกมไหลลื่นมากกว่าทางด้านเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่าเกมในต้นเซตคะแนนจะดูสีสูแต่ในช่วงท้ายเซตไทยเราก็แกเกมได้ตลอด เหนือกว่าผลการแข่งขันที่ดี ก็มีทางด้านนัดตบดาวรุ่งนี่ละ ที่โชว์ฟอร์มเด่นฉายแสงออกมา คนที่น่าจับตามองมากที่สุด ก็คือทางด้าน น้องเปียโน ณัฐริกา วะสาร นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทีดูแล้วอนาคตไกลแน่นอน ซึ่งในนัดแรกทำคะแนนเยอะสุดในทีม ทำไปทั้งหมด 12 คะแนน คาดว่านัดที่สองจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน รายชื่อผู้เล่น ตัวจริง วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย หัวเสา: ดลพร สินโพธิ์,วริศรา สีทาเลิศ บอลเร็ว: ณัฐริกา วะสาร,กัญญารัตน์ ขุนเมือง บีหลัง:ณัฐธิมา กุบแก้ว มือเซต:ณัฏฐณิชา ใจแสน ตัวรับอิสระ: กัลรัตย์ คำวงษ์ สภาพความพร้อม วอลเลย์บอลหญิง เกาหลีใต้ ก่อนเกมโค้ชคัง ก็ได้ออกมาพูดแล้วว่า จะไม่เน้นในเรื่องของการเป็นทีมเวิร์ค เพราะว่านักกีฬามาคนละสโมสรจึงต้องเน้นไปเทคนิคของแต่ละบุคคลไปเลย ดังนั้นก็เห็นได้ชัดเจนว่าระบบทีมเวิร์คของเกาหลีใต้ไม่มีเลย และเมื่อเสียเซตแรกให้กับทีมชาติไทยก็เร่งที่จะเอาคืน จึงสลับตัวผู้เล่นไปมา ทุกเซตจะเปลี่ยนตัวใหม่หมดเลย ในมุมองส่วนตัวแล้วก็อาจจะมองว่าทางด้านโค้ชคัง เลือกที่จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นเยอะเพราะว่ารายการนี้เป็นรายการกระชับมิตร จึงอยากที่จะให้ดาวรุ่งลงไปหาประสบการณ์มากกว่า และที่สำคัญก็ได้ดูฟอร์มการเล่นของนักกีฬาด้วย และจุดเด่นของชุดนี้ก็คือ มีนักกีฬาที่ตบและเสริฟได้นักข้อนี้คือจุดสำคัญ ที่เขาจะใช่ในวันนี้เพื่อเล่นกับทีมชาติไทยของเรา   รายชื่อ ผู้เล่น ตัวจริง วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติเกาหลีใต้ หัวเสา: ลีจัว,เจิ้งหยานจู,คัง-โซฮวี่ บอลเร็ว: ลีดายอน,จอง โฮ-ยอง มือเซต:ปาร์ค ซารัง ตัวรับอิสระ: ฮัน ดาเฮ บทวิเคราะห์ นี่คือการแข่งขันนัดแรกของนักตบสาวไทยเจนใหม่ ต้องยกนิ้วให้เพราะว่าทำผลงานได้ดี นัดที่สองรูปเกมอาจจะไม่ได้แตกต่างจากนัดแรก เราจะได้เห็นตัวหลักที่จะไปทำการแข่งขัน ในรายการระดับโลกของชุดเจนใหม่นี้ลงสนามมากขึ้น ต้องมารอลุ้นว่าใครจะทำผลงานได้ดีอีกแมตช์ คาดว่าทางด้านเกาหลีใต้ ก็คงยังใข้ชุดผู้เล่นเดิมเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป เปรียบเทียบฟอร์มการเล่นนัดแรกเราทำได้ดีกว่าในเรื่องของการเล่นเป็นทีมเกมไหลลื่นส่วนฝั่งเกาหลีใต้เน้นการตีหนักตบปแรงเพื่อลุ้นสกอร์ ลุ้นกันวันนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะ สนุกแน่ห้ามพลาด อย่าลืมเชียร์นักตบสาวไทยของเรากันด้วยนะครับ วันนี้เรามีนัดรอเชียร์กันได้เลย. คาดผลสกอร์ ไทย ชนะ เกาหลีใต้ 3- 1 เซต โปรแกรมการแข่งขัน: วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match นัดที่สอง  คู่ระหว่าง: ทีมชาติไทย Vs ทีมชาติเกาหลีใต้    เวลาแข่งขัน: อาทิตย์ ที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 15.40 น.   ถ่ายทอดสด: ช่อง PPTV 36 ช่อง YouTube  PPTV Sport ขอบคุณ ขอบคุณภาพประกอบ:  Thailand Volleyball Association สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย  ภาพ1 ภาพ2 ภาพ3 ภาพ4 ภาพปก hwihwi_o.o | donphon__11   ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !

"มีน นิชคุณ" บุกร้านก๋วยเตี๋ยว "เฟิสท์ เอกพงศ์" ในรายการ "Job Star…กว่าจะเป็น"

ต้องยกตำแหน่งพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่หล่อเกาหลีเกาใจสุด ๆ ให้ไปเลย สำหรับนักแสดงหนุ่ม "มีน นิชคุณ" หรือ "ปฐวี" จากละคร "เมื่อตะวันลับฟ้าก็จะเป็นเวลาของดวงดาว" ที่ขอไปเรียนรู้อาชีพการเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ในรายการ Job Star...กว่าจะเป็น จากพ่อค้าตัวจริงอย่างพระเอกรุ่นพี่ "เฟิสท์ เอกพงศ์" เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือลำพายแสนอร่อย ซึ่งนอกจากมีนจะบุกไปถึงหลังร้านเพื่อขอเรียนรู้วิชาทำก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ด และถามถึงเคล็ดลับความอร่อยแล้ว มีนยังได้ลองฝึกสกิลการเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าจริง ๆ ด้วย ทำเอาเจ้าตัวตื่นเต้นสุด ๆ พร้อมกับออกปากว่าตอนนี้ตนเองสามารถทำอาหารเพิ่มได้อีกหนึ่งเมนู นอกจากการทอดไข่ และต้มบะหมี่ "มีน นิชคุณ" บุกร้านก๋วยเตี๋ยว "เฟิสท์ เอกพงศ์" ในรายการ "Job Starกว่าจะเป็น" มีน นิชคุณ ได้เผยความรู้สึกในครั้งนี้ว่า รายการ Job Star..กว่าจะเป็น เทปนี้ผมได้มาเรียนรู้การเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวกับพี่เฟิสท์ เอกพงศ์ครับ ก็รู้สึกสนุกและตื่นเต้นด้วย เพราะเป็นครั้งแรกของผมเลย ตอนที่ทำครั้งแรกคือตื่นเต้นมาก ๆ ไม่รู้ว่าต้องจับกระบวยอย่างไร ไม่รู้ว่าจะต้องมีสกิลยังไง วันนี้ก็เลยถือว่าได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ดี ๆ เต็มไปหมดเลยครับ ซึ่งปกติผมก็เป็นคนชอบขายของอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการได้มาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการขายก๋วยเตี๋ยวไปด้วยเลย เพราะปกติผมกินเป็นอย่างเดียวเลย แต่พอได้มาเป็นพ่อค้า ได้มาอยู่ในร้าน ก็ได้รู้จักวิธีการทำในแต่ละขั้นตอนว่าเขาพิถีพิถันมาก ถือเป็นประสบการณ์ใหม่มาก ๆ ยังไงก็ฝากรายการ Job Star..กว่าจะเป็น เทปนี้ด้วยนะครับ รับรองสนุกมาก ๆ เลยแน่นอนครับ" ด้าน "เฟิสท์ เอกพงศ์" เผยว่า ผมก็ดีใจครับ รู้สึกแปลกใหม่ดี ที่มีคนมาเรียนรู้ มาศึกษาในสิ่งที่เรากำลังทำ ก็ทำให้รู้สึกภูมิใจเหมือนกัน เพราะถ้ามันเป็นประโยชน์หรือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมหรือให้กับมีนได้ ก็ยินดีมากเลยครับ ก็ขอบคุณรายการ Job Star..กว่าจะเป็น ด้วยครับ ยังไงก็ฝากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือลำพายไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ ติดตาม มีน นิชคุณ กับการเรียนรู้อาชีพพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวได้ ในรายการ Job Starกว่าจะเป็น ออกอากาศวันเสาร์ที่ 19 เมษายนนี้ เวลา 15.00 น. ทางช่อง 3 ห้ามพลาด อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : ประวัติ มีน นิชคุณ ขจรบริรักษ์

วิเคราะห์ก่อนแข่ง: วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match ทีมชาติเกาหลีใต้ VS ทีมชาติไทย

วิเคราะห์ก่อนการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match ทีมไทย VS เกาหลีใต้ รายการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง นัดพิเศษ เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติไทยของเรา เจอกับทางด้านเพื่อนรักร่วมวงการวอลเลย์บอลหญิง อย่างทางด้านเกาหลีใต้ เตรียมตอนรับนักวอลเล่ย์หญิง ทีมไทยของเรา เตรียมเดินทางไปแข่งในรายการ วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match ซึ่งจะแข่งขันในระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2568 ถือว่าเป็นรายการที่เชื่อมความสำพันธ์ระหว่างไมตรี เพื่อที่จะให้นักกีฬา วอลเลย์บอลหญิง ทั้งสองชาติ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และเพื่อที่จะให้นักกีฬาได้ประลองฝีมือพัฒนา ยกระดับฝีมือตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น และก่อนแข่งได้มีการประกาศรายชื่อนักกีฬา วอลเลย์บอลหญิง ทั้งสองทีมไปแล้ว ไปดูความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนแข่งกันได้เลย ●สภาพความพร้อม นักวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้ทางสมาคมได้ประกาศรายชื่อ นักกีฬา วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทยไปแล้ว ซึ่งทางด้านโค้ชอ๊อดได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่แฟนวอลเลย์บอลหญิงไทยเรา เพราะว่านักกีฬาที่ติดเข้าแคมป์มาในครั้งนี้ ส่วนมากจะเป็นนักกีฬาดาวรุ่งซะเป็นส่วนใหญ่ มีรุ่นพี่ไม่กี่คนที่มีชื่อติดเข้ามา ผลงานล่าสุดของ วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย ลงทำการอุ่นเครื่องกับทางด้านสโมสร นครราชสีมาคิวมินซี ผลการแข่งขัน นักวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทยแพ้ทางสโมสรนครราชสีมาคิวมินซีไป 4-0 เซต และนี่ก็เป็นการอุ่นเครื่องล่าสุดของวอลเลย์บอลหญิง ไทยเรา แต่คาดว่าทางด้านโค้ชอ๊อดจะหาทีมมาอุ่นเครื่องต่อไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะถึงวันแข่งขันจริง ●รายชื่อ วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย  หัวเสา: ดลพร สินโพธิ์,วริศรา สีทาเลิศ,กาญชนา ศรีใสแก้ว,กัตติกา แก้วพิน,สุภาวดี พันวิลัย,นุชนาถ หอมพิทักษ์ ●บีหลัง:ณัฐวรรณ ผาดไทสง,ปพิชญา พลทำ,ธนัชชา สุขสด,ณัฐธิมา กุบแก้ว,นันท์ภัช มูลจะคำ ●ตัวรับอิสระ: ณิชากร วันศุกร์,กัลรัตย์ คำวงษ์ ●เซตเตอร์: กนกพร แสงทอง,ณัฏฐณิชา ใจแสน,ณัฐณิชา แซ่เล้า ●บอลเร็ว: ณัฐริกา วะสาร,กัญญารัตน์ ขุนเมือง,ทัตดาว นึกแจ้ง,หัตถยา บำรุงสุข●สภาพความพร้อม นักวอลเลย์บอลหญิง  ทีมชาติเกาหลีใต้ น่าแปลกใจน่าสังเกตุอยู่เหมือนกัน สำหรับ วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ได้ประกาศรายชื่อนักกีฬาเตรียมลุยศึก All-Star Super Match โดยรายชื่อไม่มีในตำแหน่งบีหลัง ที่เลือกใส่รายชื่อมาก็มีแต่ตำแหน่งหัวเสาทั้งหมดเลย แต่ก็มีบางคนที่เล่นได้ทั้งบีหลังและหัวเสาตัวหลักๆก็จะมีทางด้าน ปาร์ค จอง-อา และก็ขาประจำ ฮี ดา-ฮยอน ก็ยังมีรายชื่อติดมาเหมือนเดิม และมือเซตดาวรุ่งของไฮพาส อย่าง คิม-ดาฮึน มีชื่อติดเป็นที่เรียบร้อยนอกจากนั้นก็มีหน้าเดิมๆอย่าง คัง โซ-ฮวี และก็ตำแหน่งเบอร์ 9หัวเสาตัวตายตัวแทนของ คิม-ดาฮึนที่เธอบอกว่าจะมาแทนเขาในอนาคต และก็ยังมีทางด้าน อี จู-อา สาวเกาหลีใต้ มิดเดิ้ลบล๊อค มือฉมังก็มาในรายการนี้ สำหรับนักวอลเลย์บอลหญิง เกาหลีใต้ชุดนี้ อยู่ในการดูแลของ โค้ชฮุนได อย่าง คัง ซอง-ฮยอง  ●บทวิเคราะห์การแข่งขัน หลังจากได้มีการอุ่นเครื่องนัดล่าสุด ของนัก วอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทย ที่แพ้ทางด้าน นครราชสีมา คิวมินซี ไป 4 ต่อ 0 เซต หลายคนตั้งคำถามว่าในรายการ วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match ที่จะถึงนี้ทีมชาติไทยของเราไหวหรือ? คือต้องบอกอย่างนี้ว่าทางด้านโค้ชอ๊อดได้เลือกนักวอลเลย์บอลชุดนี้มา ก็เพื่อที่จะให้นักวอลเลย์บอลหญิงเราได้โชว์ศักยภาพและฝีมือออกมาให้ได้มากที่สุด ก็เพื่อที่จะตัดตัวไปลุยในศึกเนชันส์ลีกในปีนี้ ใครสามารถทำผลงานได้ดีในรายการนี้ก็อาจจะมีชื่อติดอยู่ใน 14 รายชื่อแรก ในรายการใหญ่ที่กำลังรออยู่ และผลงานในศึกAll-Star Super Match ที่จะจัดขึ้นพูดกันตามตรงทีมชาติไทยของเรา มีเปอร์เซนน้อยมากที่จะชนะเกาหลีใต้ได้ ก็ต้องยอมรับว่า นักวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาติไทยเจนใหม่ชุดนี้ ยังไม่ได้มีฝีมืออยู่ในระดับโลกเหมือนกับรุ่นพี่ เพราะฉะนั้นแล้วต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันต่อไป รายการนี้ใครจะแจ้งเกิดรอลุ้นได้เลย ●คาดผลสกอร์  ทีมชาติไทย แพ้ ทีมชาติเกาหลีใต้ 3-1 เซต โปรแกรมแข่งขัน: วอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match วันอาทิตย์ ที่ 20 เมษายน 2568  เวลา 15.40 น. เวลาประเทศไทย ณ.สนาม ฮวา ซอง สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ถ่ายทอดสดช่อง:PPTV HD 36 ขอบคุณภาพประกอบ: 한국배구연맹 ภาพปก ภาพ1 ภาพ2 ภาพ3 Thailand Volleyball Association สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย  หัตยา บำรุงสุข ภาพ4  ภาพ5  เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

วอลเลย์บอลหญิง เกาหลีใต้ VS ไทย All-Star Super Match ศึกตบสะท้านเอเชีย 20 เม.ย. 68

เตรียมพบกับความมันส์ในศึกวอลเลย์บอล 2025 Korea-Thailand Women's Volleyball All-Star Super Match ระหว่างทีม รวมดาราลีกเกาหลีใต้ (KOVO All-Stars) จากเกาหลีใต้ และ ทีมชาติไทย ออลสตาร์ (Thailand All-Stars) ที่จะลงสนามดวลกันในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 15:40 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ สนามกีฬาฮวาซอง สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ เมืองฮวาซอง ประเทศเกาหลีใต้ แฟนวอลเลย์บอลตัวจริงห้ามพลาด! โดยศึก All-Star Super Match กลับมาจัดอีกครั้งในรอบ 6 ปี หลังจากเคยสร้างความประทับใจให้แฟน ๆ ในช่วงปี 2017-2019 ก่อนที่จะต้องหยุดไปในช่วงโควิด-19 ในปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของ V-League หลังจากที่ปีที่แล้วจัดการแข่งขันซูเปอร์แมตช์ระหว่างเกาหลีและอิตาลี ปีนี้ถึงคิวของเกาหลีใต้และไทย ซึ่งทั้งสองทีมนี้เมื่อเจอกันทีไรก็มักจะสู้กันแบบไม่มีใครยอมใคร สร้างกระแสความตื่นเต้นให้แฟนวอลเลย์บอลได้ลุ้นกันแบบตัวโก่งทุกครั้ง ความพร้อมทีมรวมดาราลีกเกาหลีใต้ คัง ซอง-ฮยอง หัวหน้าโค้ช KOVO All-Stars ของเกาหลีใต้ก็ขนผู้เล่นดาวดังมาอย่างคับคั่ง นำโดยกัปตันทีมคนเก่งอย่างกัปตัน คัง โซ-ฮวี พร้อมด้วยผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ และดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง  ปาร์ค จอง-อา , คิม ดา-อึน , อิม มยอง-อ๊ก และ คิม เซ-บิน จาก Korea Expressway หรือที่บ้านเราเรียก “ไฮพาส” เป็นแกนหลัก พร้อมด้วย ปาร์ค จอง-อา , อี ดา-ฮยอน , ย็อม ฮเย-ซอน , อี ซอน-วู , ปาร์ค ซา-รัง และจอง ยุน-จู ทีมรวมดาราลีกเกาหลีใต้ชุดนี้น่าสนใจมาก โดยมีทั้งหัวเสาอย่าง คัง โซ-ฮวี และปาร์ค จอง-อา รวมถึงมือเซตระดับท็อปของเกาหลี ย็อม ฮเย-ซอน อยู่ในไลน์อัพด้วยทำให้เกมรุกเค้าน่าจะไหลลื่น ขณะที่แนวรับก็แข็งแกร่ง อิม มยอง-อ๊ก ในตำแหน่งลิเบอโร่โชว์ฟอร์มในฤดูกาลนี้กับไฮพาส และบอลเร็วอย่าง อี ดา-ฮยอน และอี ซอน-วู ที่กำลังอยู่ในช่วงพีคของฟอร์มการเล่น บวกกับเสียงเชียร์เจ้าบ้านด้วย น่าจะสู้กับทีมชาติไทยได้อย่างสนุก ความพร้อมทีมชาติไทย โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ก็สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศรายชื่อ 20 นักตบสาวไทย ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างดาวรุ่งฝีมือดี และผู้เล่นมากประสบการณ์ นำโดยกัปตันทีมอย่างธนัชชา สุขสด อดีตผู้เล่นของทีมไฮพาสถึง 2 ฤดูกาล และดลพร สินโพธิ์ ที่เคยสัมผัสบรรยากาศลีกเกาหลีใต้มาแล้วในการแข่งขัน KOVO Cup เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองคนนี้จะเข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของเกาหลีใต้ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นที่ค้าแข้งในลีกต่างประเทศอย่าง ณัฏฐณิชา ใจแสน มือเซตจากทีม PFU BlueCats ในญี่ปุ่น รวมถึงรุ่นพี่อย่าง ทัดดาว นึกแจ้ง และหัตถยา บำรุงสุข ที่จะเข้ามาช่วยประคองน้อง ๆ ดาวรุ่งในทีม ทำให้ทีมชาติไทยชุดนี้เป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับดาวรุ่งคนอื่น ๆ ที่ถูกเรียกตัวมาในครั้งนี้มีทั้ง วริศรา ศรีทาเลิศ , กาญจนา สีใสแก้ว , สุภาวดี พันวิไล , นุชนาถ หอมพิทักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งลิเบอโร่และมือเซต ซึ่งเป็นตำแหน่งที่โค้ชอ๊อดให้ความสำคัญกับการสร้างผู้เล่นหน้าใหม่อย่างจริงจัง ให้โอกาส กัลยารัตน์ คำวงษ์ , ณิชากร วันศุกร์ , ณัฐณิชา แซ่เล้า และกนกพร แสงทอง ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และคาดว่าจะใช้ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเวทีในการคัดเลือกดาวรุ่งเพื่อใช้งานอย่างต่อเนื่องในรายการสำคัญต่าง ๆ ทั้งเนชั่นส์ลีก , ชิงแชมป์โลก ไปจนถึงซีเกมส์ บทวิเคราะห์ การแข่งขันระหว่างทีมรวมดาราลีกเกาหลีใต้ และทีมชาติไทย ชุดดาวรุ่ง ต้องยอมรับว่าฝั่งเจ้าบ้านค่อนข้างจัดเต็ม ทีมเกาหลีใต้ชุดนี้เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับแนวหน้าของลีกที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการแข่งขันในระดับอาชีพมาอย่างมากมาย ส่วนฝั่งทีมชาติไทย จุดเด่นคือดาวรุ่งเหล่านี้ต้องการพิสูจน์ตัวเอง มีความสดใหม่และความกระหายชัยชนะ หลายคนที่ถูกเรียกตัวมาในชุดนี้มีศักยภาพสูง และอาจสร้างความประหลาดใจให้กับทีมเกาหลีใต้ได้แบบเปิดตำรารับมือไม่ทัน แต่ผู้เล่นเหล่านี้อาจยังขาดประสบการณ์ในการแข่งขันระดับนานาชาติ ที่ผ่านมาเราให้โอกาสพวกเค้าน้อยเกินไป การทำให้เล่นเข้าขากันได้อย่างรวดเร็วอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว และสร้างความเข้าใจในเกมร่วมกัน โดยภาพรวมแล้ว รวมดาราลีกเกาหลีใต้ดูเหมือนจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย ด้วยประสบการณ์รวมถึงความได้เปรียบในการเล่นในบ้าน อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทย ชุดนี้ก็ประมาทไม่ได้ หากทีมไทยสามารถเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น และผู้เล่นดาวรุ่งสามารถโชว์ฟอร์มได้ดี ก็มีโอกาสที่จะสร้างความลำบากให้กับทีมเกาหลีใต้ได้เช่นกัน ผลการแข่งขันที่คาด : ทีมชาติไทยออลสตาร์ ชนะทีมรวมดาราลีกเกาหลีใต้ แบบสู้กันเกมยาว การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง All-Star Super Match ระหว่างทีม วี-ลีก ออลสตาร์ พบกับ ทีมชาติไทย ออลสตาร์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 15:40 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ สนามกีฬาฮวาซอง สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ เมืองฮวาซอง ประเทศเกาหลีใต้ ช่องถ่ายทอดสด : PPTV HD 36 ทีมพลังดาวรุ่งของไทย จะสร้างความหวังให้กับแฟนวอลเลย์บอลได้หรือไม่ ศึกวอลเลย์บอลหญิงกระชับมิตรแมตช์นี้ ห้ามพลาด! #วอลเลย์บอลทีมชาติไทย #วอลเลย์บอลหญิง #วอลเลย์บอล  #Volleyball #ดูสดวอลเลย์บอล ภาพประกอบโดย 한국배구연맹 (สหพันธ์วอลเลย์บอลเกาหลีใต้) : อี ดา-ฮยอน , ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 5  , Thailand Volleyball Association สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย (สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย) : วริศรา ศรีทาเลิศ , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4   ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !

รีวิว นั่งเรือ Star Ferry ข้ามฝั่งเกาะฮ่องกง จากTsim Sha Tsui ไป Wan Chai

บทความรีวิวนี้พาทุกคนไปเที่ยวฮ่องกง นั่งเรือข้ามฝากชมวิวอ่าววิคตอเรีย และเมืองทั้งฝั่งเกาลูนและฝั่งฮ่องกง โดยรอบนี้เราจะนั่งจากฝั่งจิมซาจุ่ย Tsim Sha Tsui โดยเราขึ้นเรือ Star Ferry ข้ามไปฝั่งหว่านไจ๋ Wan Chai รีวิวนี้เราจะรีวิวให้ข้อมูลการเดินทางให้ทุกคนสามารถไปเที่ยวได้ตัวเองได้เลย  เริ่มจากเราอยู่ฝั่งจิมซาจุ่ย Tsim Sha Tsui ให้เรามาที่ท่าเรืออยู่ตรงหอนาฬิกา  Clock Tower วิธีการเดินทางมาที่นี้จะนั่งรถบัสหรือรถไฟฟ้า MTR ก็ได้ค่ะ ถ้านั่งรถไฟฟ้า MTR ลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก E เดินมาตามถนน Nathan Road เดินมาเรื่อยๆตามฝั่งอ่าว จะมองเห็นหอนาฬิกา พอเจอหอนาฬิกา เดินเข้ามาริมอ่าว จะเจอท่าเรือแบบในรูปด้านล่างเลยค่ะ  เราจะข้ามฝั่งไป Central Wan Chai เดินตามป้ายสีฟ้าๆแบบนี้ได้เลยค่ะ ระหว่างทางก็จะมีร้านขายน้ำดื่ม ขายของต่างๆ  พิกัดสำหรับท่าเรือ  Star Ferry ฝั่งจิมซาจุ่ย Tsim Sha Tsui : ท่าเรือ Star Ferry มองตามป้ายไว้นะคะ เราเดินตามป้าย To Wanchai / H.K. Convention Exhibition Centre  เดินขึ้นบันไดไปด้านบนได้เลยค่ะ เดินขึ้นไปด้านบนจะเจอทางเดินแบบนี้ ก็เดินไปเรื่อยๆนะคะ เดินไปเรื่อยๆจนถึงจุดชำระเงิน มีป้ายบอกวิธีการชำระเงิน เราใช้บัตร Octopus จ่ายนะคะ   สำหรับการจ่ายค่าเรือโดยสาร เราใช้บัตร Octopus จ่ายได้เลย เหมือนจ่ายตอนขึ้นรถไฟฟ้าเลยค่ะ  วิวหน้าต่างที่ท่าเรือก่อนขึ้นเรือข้ามฝาก พอเรือเทียบท่าเรียบร้อยเราก็ขึ้นได้ค่ะ ที่นั่งเยอะมาก นั่งได้ตามใจชอบค่ะ  ใช้เวลาในเรือเพื่อข้ามฝาก ประมาณ 10 นาทีค่ะ ลมเย็นๆ พัดสบายๆ ชมวิวสองฝั่งและอ่าววิคตอเรีย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่อยากให้ทุกคนที่ได้มาเที่ยวฮ่องกงได้ลองมานั่งเรือข้ามฝากกันนะคะ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Star Ferry ไปอ่านเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ : www.starferry.com.hk มีบอกราคาค่าเรือโดยสารและเวลาการเดินเรือ ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมด : พาย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ชมสด! Job Star กว่าจะเป็น วันนี้ ช่อง 3HD รายการที่พาดารานักแสดง ไปเรียนรู้อาชีพต่าง ๆ ดูสดได้เลยที่นี่

Job Star กว่าจะเป็น ล่าสุดวันนี้ ช่อง 3HD ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 15.00 น. ทางช่อง 3HD Job Star กว่าจะเป็น รายการที่พาดารานักแสดง ไปเรียนรู้อาชีพต่าง ๆ ชมสด Job Star กว่าจะเป็น ออนไลน์! ดูทีวีออนไลน์ ช่อง 3HD Job Star กว่าจะเป็น : ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 15.00 น. รูปแบบรายการ : รายการที่พาดารา นักแสดงคนดัง ไปเรียนรู้อาชีพต่าง ๆ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน Gen Y, Gen Z ช่องทางการรับชม : ช่อง 3HD และ LIVE TV บนทรูไอดี Job Star กว่าจะเป็น รายการที่จะพาดารา นักแสดงคนดัง ไปเรียนรู้อาชีพสมัยใหม่ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน Gen Y, Gen Z เพื่อให้มีข้อมูลและเตรียมตัวในการใช้ชีวิตยุค Society 5.0 ผ่านดารานักแสดงที่คุณชื่นชอบ ว่าเขามีความฝันอยากทำงานอาชีพอะไร และพาไปเรียนรู้กับเจ้าของอาชีพต้นฉบับตัวจริง เสียงจริง รับรองได้ว่าสนุกสนาน ตื่นเต้นในแบบที่คนดูคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน ติดตามรายการ Job Star กว่าจะเป็น ชมสด! รับชมได้ LIVE TV ทางช่อง 3HD ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 15.00 น. ได้ที่นี่! ดูทีวีออนไลน์ ช่อง 3HD ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเฟซบุ๊ก รายการ Ch3Thailand

Aglaea - นักถักทอชะตาแห่ง Okhema (Honkai: Star Rail)

ถ้าพูดถึงตัวละครที่มีกลิ่นอายลึกลับและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ Aglaea ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น เธอเป็นช่างตัดเสื้อแห่ง Okhema และยังเป็นผู้สืบสายโลหิตทองของ Amphoreus ซึ่งทำให้เธอมีพลังที่เชื่อมโยงกับโชคชะตาและอดีตกาล ด้วยความสามารถพิเศษของเธอ Aglaea ไม่ใช่แค่ตัวละครที่มีสไตล์โดดเด่น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวของ Honkai: Star Rail และยังมาพร้อมกับสกิลสุดแหวกแนวที่ทำให้ผู้เล่นต้องสนใจ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าเธอมีอะไรน่าสนใจบ้าง! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ประวัติและบทบาทในเนื้อเรื่อง Aglaea เป็นหนึ่งในผู้สืบสายโลหิตทองของ Amphoreus และมีความสามารถพิเศษในการ "ถักทอ" โชคชะตา ซึ่งเชื่อมโยงเธอกับอดีตอันลึกลับของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เธอมีบทบาทสำคัญในเมือง Okhema ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเชื่อโบราณ Aglaea ต้องเผชิญกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการคืนชีพให้กับ Amphoreus ที่ใกล้ล่มสลาย ด้วยพลังของเธอ เธอสามารถนำพาเหล่าวีรชนไปสู่เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าภายนอกเธอจะดูสุขุมและสง่างาม แต่ภายใต้ความสงบนั้นกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและภาระอันหนักอึ้งที่เธอต้องแบกรับ การออกแบบตัวละคร Aglaea มาในลุคที่หรูหราและแฝงไปด้วยความลึกลับ เธอสวมชุดที่ตกแต่งด้วยลวดลายซับซ้อนที่คล้ายเส้นด้ายสีทองสะท้อนถึงพลังแห่งการถักทอโชคชะตาของเธอ ดีไซน์ของเธอดูเหมือนผสมผสานระหว่างสไตล์แฟชั่นชั้นสูงกับอิทธิพลจากวัฒนธรรมโบราณ สร้างเอกลักษณ์ที่ทั้งสง่างามและแฝงไปด้วยความลึกลับที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนหลงใหล สกิลและความสามารถ ธาตุและ Path: ธาตุ: สายฟ้า Path: ความทรงจำ รายละเอียดสกิล: สกิลโจมตี: สร้างความเสียหายสายฟ้าให้กับศัตรู สกิล Ultimate: ปลดปล่อยพลังแห่งการถักทอ เพิ่มพลังโจมตีให้ทีม และสร้างดาเมจเพิ่มเติม Talent: เพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษเมื่อโจมตีศัตรูที่ติดสถานะดีบัฟ Technique: เพิ่มความสามารถในการควบคุมสนามรบ จุดเด่นในเกมเพลย์: Aglaea เป็นตัวละครสายควบคุมที่สามารถเพิ่มความเสียหายให้ทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เธอเหมาะกับการเล่นในทีมที่เน้นดีบัฟ และช่วยให้การต่อสู้เป็นไปตามแผนได้ง่ายขึ้น วิธีการเล่นและจัดทีม อาร์ติแฟกต์แนะนำ: ชุดที่เพิ่มพลังโจมตีและความเร็ว เพื่อให้เธอสามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่อง Light Cone ที่เหมาะสม: อาวุธที่เสริมพลังสกิลและช่วยให้เธอควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทีมที่เหมาะสม: Aglaea เล่นได้ดีกับตัวละครที่เน้นสร้างดีบัฟ เช่น Sampo หรือ Silver Wolf เธอสามารถช่วยเสริมความเสียหายให้ทีมที่ต้องการควบคุมจังหวะของเกมเพลย์ กระแสจากผู้เล่น หลังจากการเปิดตัว Aglaea ผู้เล่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่สง่างามและเกมเพลย์ที่มีเอกลักษณ์ เธอได้รับการพูดถึงว่าเป็นตัวละครที่ใช้งานได้ดีในทีมที่เน้นกลยุทธ์และการควบคุม เธอได้รับความนิยมในโหมดต่าง ๆ เช่น Abyss และ Forgotten Hall และถือเป็นตัวละครที่เสริมทีมได้ดีในหลายสถานการณ์ บทสรุป Aglaea เป็นตัวละครที่มีเอกลักษณ์ทั้งในด้านเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ การออกแบบของเธอทำให้เธอโดดเด่นในฐานะช่างตัดเสื้อแห่ง Okhema และพลังของเธอในการถักทอโชคชะตาก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอน่าจับตามอง ควรเปิดกาชาหรือไม่? ถ้าคุณชอบตัวละครที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ และเน้นการควบคุมเกมเพลย์ Aglaea เป็นตัวเลือกที่ดีแต่ถ้าคุณต้องการตัวดาเมจหลักที่สร้างความเสียหายได้สูง อาจต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นร่วมด้วย ขอบคุณภาพจาก ภาพปก โดย @honkaistarrail ภาพโลโก้ โดย Facebook Honkai: Star Rail ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6 โดย @honkaistarrail   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !              

"G-Dragon" เตรียมแลนดิ้งสู่เมืองไทย ในงาน "k-star spark in Bangkok 2025"

เรียกว่างานนี้เหล่า V.I.P (ชื่อแฟนคลับ BIGBANG) ห้ามพลาด รีบกดซื้อบัตรคอนเสิร์ตมาร่วมสร้างโมเมนต์ความสนุกไปด้วยกัน กับ G-Dragon เพื่อต้อนรับการมาโชว์คอนเสิร์ตในประเทศไทยในรอบหลายปี กับงาน k-star spark in Bangkok 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นี้ และมาร่วมลุ้นโชว์สุดเซอร์ไพรส์จาก G-Dragon ที่งานนี้อาจจะมีบิ๊ก เซอร์ไพรส์อะไรมาฝากแฟน ๆ ให้ได้สนุกไปด้วยกันแน่นอน งาน k-star spark in Bangkok 2025 นอกจากจะมี G-Dragon แล้วยังมี DAESUNG เพื่อนร่วมวง BIGBANG ที่จะมาสร้างความสนุกเพิ่มขึ้นไปอีก และยังมีศิลปิน K-POP อย่าง DPR IAN, BAMBAM, และ MINNIE ที่จะมอบความสนุกให้กับทุกคนภายในงานอย่างแน่นอน จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ ทาง http://ticketmelon.com บัตรราคา : 8,000 / 7,000 / 5,600 / 4,600 / 3,700 / 2,800 / 1,800 บาท ติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : K-star spark in bangkok 2025 https://www.facebook.com/profile.php?id=61572098023719 X : @k_starsparkBKK Instagram : k_starsparkbkk2025

5 ศิลปิน K-POP สุดร้อนแรง! เตรียมมอบความสนุกในงาน "k-star spark in bangkok 2025"

แค่เพียงปล่อยโปสเตอร์โปรโมท และรายชื่อศิลปิน ออกมาก็เรียกเสียงฮือฮาตอบรับในโลกโซเชียล สำหรับงาน k-star spark in bangkok 2025 ที่จะจัดขึ้น ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน (Rajamangala National Stadium ) ที่เหล่าแฟนคลับชาวไทยจะพบกับเหล่าศิลปิน K-POP สุดร้อนแรง DPR IAN, BAMBAM, DAESUNG, MINNIE และ G-Dragon ที่จะมา spark ความสนุกให้กับแฟนชาวไทยอย่างแน่นอน จำหน่ายบัตรวันแรก วันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น.ทาง http://ticketmelon.com บัตรราคา : 8,000 / 7,000 / 5,600 / 4,600 / 3,700 / 2,800 / 1,800 บาท ติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : K-star spark in bangkok 2025 https://www.facebook.com/profile.php?id=61572098023719 X : @k_starsparkBKK Instagram : k_starsparkbkk2025

รีวิว When the Star Gossip 2025 ซีรีส์รอมคอมอวกาศของ อีมินโฮ x กงฮโยจิน

ท่องอวกาศกับ When the Stars Gossip ดาวระยิบกระซิบรัก ซีรีส์โรแมนติกไซไฟเต็มรูปแบบเรื่องแรกของเกาหลี ต้อนรับการมาถึงของพระเอกตัวท็อป อีมินโฮ ประชันฝีมือนางเอกตัวแม่ กงฮโยจิน พร้อมด้วยทัพนักแสดงเบอร์ใหญ่อีกคับคั่ง เตรียมนับถอยหลังก่อนทะยานสู่จักรวาลอันกว้างไกล สำรวจรักจั๊กจี้หัวใจท่ามกลางสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงระหว่างหมอสูติและกัปตันหญิง รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ When the Stars Gossip ถ่ายทอดเรื่องราวของ กงรยง (รับบทโดย อีมินโฮ) สูตินรีแพทย์ผู้เรียกตัวเองว่า บิดาแห่งการทำคลอด ด้วยหนึ่งสมองกับสองมือที่ช่วยนำพาทารกน้อยออกจากครรภ์มารดาได้อย่างปลอดภัย แต่ถึงกระนั้นเขายังคงเป็นคุณหมอตกอับหาเช้ากินค่ำ ก่อนจะต้องซวยซ้ำซวยซ้อนเมื่อถือวิสาสะผ่าตัดรักษาอาการท้องนอกมดลูกให้กับ ชเวโกอึน (รับบทโดย ฮันจีอึน) ทายาทกลุ่มธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ MZ Group ความหวังดีสุ่มสี่สุ่มห้าส่งผลให้หน้าที่การงานของกงรยงต้องพังทลาย ทางรอดเดียวที่เขาคิดได้คือการคบหากับชเวโกอึนเพื่อตำแหน่งลูกเขยในอนาคตของตระกูลเอ็มซี ชีวิตของกงรยงเดินทางมาถึงจุดพลิกผันอีกครั้ง เมื่อว่าที่พ่อตาทุ่มเงินกว่าเจ็ดหมื่นล้านวอนเพื่อส่งเขาขึ้นยานอวกาศไปกับคณะสำรวจ โดยมีเป้าหมายเบื้องหลังเป็นการทำภารกิจลับเพื่อกอบกู้สายเลือดของตระกูล ท่ามกลางสภาวะไร้น้ำหนักบนห้วงจักรวาลอันไกลโพ้น กงรยงได้พบกับ อีฟคิม (รับบทโดย กงฮโยจิน) นักบินอวกาศหญิงผู้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้บัญชาการเป็นครั้งแรก เมื่อคุณหมอปากกล้าต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกัปตันจอมเคร่งครัด ต่างฝ่ายจึงต้องเผชิญสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปด้วยกัน ก่อนจะกลายเป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งท่ามกลางหมู่ดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ   บทบาทนักแสดง อีมินโฮ รับบทเป็น กงรยง สูตินรีแพทย์ตกอับผู้กลายเป็นว่าที่ลูกเขยของตระกูลแชบอล เอ็มซีกรุ๊ป (MZ Group) เขาเป็นคนหยาบกระด้าง กินเก่ง และยึดมั่นต่อเงินตรามากกว่าความภักดี ทว่าเมื่อออกเดินทางไปกับคณะสำรวจอวกาศเพื่อทำภารกิจลับ เขากลับพบว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักอย่างไม่คาดคิด กงฮโยจิน รับบทเป็น อีฟคิม นักบินอวกาศหญิงเก่งผู้ทำงานหนักเพื่อสำรวจจักรวาลอันกว้างใหญ่ ความตระหนักรู้ต่ออันตรายหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนเข้มงวดกวดขัน เธอภาวนาไม่ให้ตัวเองต้องรับผิดชอบพวกมหาเศรษฐีที่ละลายเงินไปกับการทัวร์อวกาศ แต่แล้วสิ่งที่เธอหลีกหนีมาตลอดกลับเกิดขึ้นจนได้ โอจองเซ รับบทเป็น คังคังซู ทายาทรุ่นสองของกลุ่มการเงินและการธนาคาร รอยัลแบงค์ (Royal Bank) ด้วยมันสมองอันเฉียบแหลมเขาจึงกลายเป็นนักวิจัยแมลงวันผลไม้บนสถานีอวกาศ อีกทั้งยังเคยคบหากับลูกสาวตระกูลเอ็มซีก่อนจะถูกทอดทิ้ง แต่แล้วศัตรูหัวใจของเขากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าต่อตา ฮันจีอึน รับบทเป็น ชเวโกอึน ประธานบริหาร เอ็มซี อิเล็กทรอนิกส์ (MZ Electronics) เธอเผชิญความกดดันหลังสูญเสียแม่ พี่ชาย และยังเลิกรากับคังคังซูหลังเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่แล้วหมอสูติผู้ปรากฏตัวท่ามกลางความยากลำบากกลับทำให้เธอมีโอกาสค้นพบความรักอีกครั้ง   รีวิว When the Stars Gossip ดาวระยิบกระซิบรัก (2025) When the Stars Gossip ดาวระยิบกระซิบรัก ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ไซไฟ ความยาว 16 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ tvN ผลงานจาก นักเขียนซอซุกฮยาง หญิงเก่งผู้สร้างความสำเร็จจากซีรีส์เรื่องดังอย่าง Pasta (2010) Miss Korea (2013) และ Wok of Love (2018) ภายใต้ความร่วมมือของ ผู้กำกับพัคชินอู มือฉมังงานโรแมนซ์เจ้าของซีรีส์ Encouter (2018) Lovestruck in the City (2020) It's Okay to Not Be Okay (2020) และยังเคยทำงานร่วมกันผ่านซีรีส์ Jealousy Incarnate (2016) ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร สนุกและน่าติดตามขนาดไหน ขออาสามารีวิวเป็นแนวทางให้เช่นเคย   ปักหมุดสำรวจอวกาศ ประกาศรักสะเทือนกาแล็กซี When the Stars Gossip ออกเดินทางสำรวจจักรวาลผ่านท้องเรื่องชวนตื่นตาว่าด้วยการผจญอันตรายและความรักที่บานสะพรั่งท่ามกลางหมู่ดาว ซีรีส์แปะยี่ห้อเป็นงาน ออฟฟิศสเปซ ที่จะพาเราเฝ้าติดตามกิจวัตรประจำวันของเหล่านักบินอวกาศที่ต้องปฏิบัติภารกิจเพื่ออนาคตของมวลมนุษยชาติในสภาวะแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ พวกเขาต้องรับมือกับสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตั้งแต่วินาทีแรกแห่งการทะยานออกจากพื้นโลก ผ่านการฝึกอย่างเข้มข้นเพื่อปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ตลอดจนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทั้งที่มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติและความขัดแย้งระหว่างลูกเรือ ถึงแม้ว่า ดาวระยิบกระซิบรัก จะขึ้นโครงพล็อตด้วยท่ามาตรฐานงานอวกาศไซไฟ ทว่าไส้ในกลับเป็นการบอกเล่าความสัมพันธ์ของมนุษย์ตามวิถีละครโรแมนติกคอมเมดี้ ซีรีส์จุดชนวนความบันเทิงผ่านชีวิตของ กงรยง ผู้ประสบพบเจอกับความวุ่นวายตั้งแต่ลืมตาดูโลก จากเด็กกำพร้าที่เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของสาวบาร์ จนโชคชะตานำพาให้กลายเป็นว่าที่ลูกเขยของตระกูลแชบอล  ก่อนจะได้พบกับนักบินอวกาศหัวแข็งอย่าง อีฟคิม อันเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่ดึงดูดหลายชีวิตเข้ามาพัวพัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว แฟนเก่า มิตร และศัตรูที่แวะเวียนเข้ามาตามกฎเกณฑ์ของจักรวาล   โปรดักชันตระการตา โรแมนติกเคล้าเสียงฮาพาฟินเคลิ้ม When the Stars Gossip ทุ่มงบประมาณการผลิตมหาศาลเพื่อนำเทคโนโลยีระดับสูงมาประยุกต์ใช้กับงานโปรดักชัน อาศัยงานคอมพิวเตอร์กราฟิกและวิชวลเอฟเฟกต์เป็นเครื่องมือสร้างความสมจริงทางภาพ กระบวนการผลิตนานกว่าสองปียังสะท้อนความพิถีพิถันของทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่เครื่องแบบที่นักแสดงสวมใส่ไปจนถึงยานอวกาศที่ใช้เดินทางข้ามกาแล็กซี อีกทั้งยังเติมเต็มมิติความเข้มข้นด้วยงานดนตรีที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของจักรวาล ไม่เพียงแต่มอบความบันเทิงเต็มอรรถรสแก่ผู้ชม ทว่ายังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการละครโทรทัศน์เกาหลีอย่างแท้จริง หนำซ้ำ ดาวระยิบกระซิบรัก ยังแจกอมยิ้มรสเปรี้ยวหวานผ่านความโรแมนติกท่ามกลางห้วงอวกาศที่ดูเหมือนจะต้องระแวดระวังกับอันตราย ทว่าซีรีส์เลือกใช้บรรยากาศตลกขบขันช่วยสร้างความผ่อนคลายตลอดเส้นทางการติดตามปมปริศนาและเหตุการณ์ชวนระทึก รวมถึงการออกแบบความสัมพันธ์ที่ส่อแววซับซ้อนยุ่งเหยิง โดยเฉพาะสมการความรักที่มีหลากหลายตัวละครเข้ามาข้องเกี่ยว ตลอดจนแรงจูงใจของแต่ละคนที่จะบานปลายเป็นความขัดแย้งในเวลาต่อมา การสอดแทรกปมปัญหาอย่างน่าติดตามจึงสร้างมวลอารมณ์อันเข้มข้นต่อพาร์ทดราม่าจนทำให้เราไม่สามารถละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว   ทีมนักแสดงเก่งฉกาจ ทำถึงทุกบทบาทสุดท้าทาย When the Star Gossip สร้างปรากฏการณ์อันน่าจับตาด้วยการมาถึงของ อีมินโฮ พระเอกสุดหล่อผู้สร้างความประหลาดใจด้วยเสน่ห์ทางการแสดงที่หลากหลาย ทั้งความตลกขบขันฉบับหมอสูติที่ดูเหมือนจะไม่จริงจังกับอะไรนัก รวมถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความปากร้าย ขณะที่นางเอกสายเท่ กงฮโยจิน ก็มาพร้อมการถ่ายทอดอันทรงพลังในฐานะตัวละครที่ต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง แน่นอนว่าเคมีของทั้งคู่ยังเปรียบเสมือนดวงดาวที่โคจรมาบรรจบกันจนสร้างประกายความรักส่องสว่างไปทั่วซีรีส์ ทั้งการปะทะคารมและฉากโรแมนติกชวนฟินชนิดทำเราเขินจนจิกหมอนเล็บเขียว ขณะเดียวกัน ดาวระยิบกระซิบรัก ยังเสริมทัพด้วยนักแสดงมืออาชีพอย่าง โอจองเซ ผู้ถ่ายทอดบทบาทนักวิจัยอัจฉริยะที่ขาดทักษะการเข้าสังคมออกมาอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นต่อการทำงานที่ตัดกับความสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ ฮันจีอึน ที่สร้างความประทับใจไม่น้อยกับบุคลิกทายาทแชบอลผู้ซ่อนบาดแผลทางใจภายใต้บุคลิกเย่อหยิ่งจองหอง แน่นอนว่าซีรีส์ยังอัดแน่นด้วยทีมสมทบคนคุ้นเคยอาทิ คิมจูฮอน อีเอล อีโชฮี ฮอนัมจุน อีฮยอนคยอน พัคเยยอง และอีกหลายชีวิตที่ขนกันมาสร้างความสนุกและแต่งเติมสีสันของจักรวาลแห่งนี้ด้วยฝีไม้ลายมือที่น่ายอมรับ https://intrend.trueid.net/post/480835   When the Star Gossip ดาวระยิบกระซิบรัก พลิกโฉมหน้าซีรีส์ไซไฟอวกาศด้วยการพาเราออกไปสำรวจความรักท่ามกลางจักรวาลอันเวิ้งว้าง กับการผสมผสานบรรยากาศโรแมนติกเข้ากับเทคโนโลยีสร้างฉากอันล้ำสมัยและตระการตา ระหว่างติดตามชีวิตของตัวละครที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ตามมาด้วยการนำเสนอมุมมองความรักและความสัมพันธ์ของมนุษย์ ขับคลอความสนุกด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊ก ความตลกโปกฮา ผสานดราม่าเข้มข้นกระทบความรู้สึก ถือเป็นการเปิดศักราชอย่างยิ่งใหญ่ที่จะไม่ทำให้คอรอมคอมและคนคลั่งไคล้อวกาศต้องผิดหวังอย่างแน่นอน   ตัวอย่างซีรีส์ (YouTube: Netflix Thailand) ทะยานสู่ When the Stars Gossip ดาวระยิบกระซิบรัก ชวนดูสดทุกสัปดาห์ตลอดทั้ง 16 ตอน อัปเดตตอนใหม่ ทุกคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 21.00 น.  รูปภาพประกอบบทความจาก - Official X: tvN Drama | Netflix K-Content ภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3-1, 3-2, 3-3, 3-4 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 บทความแนะนำจากผู้เขียน - รีวิว Love Scout 2025 ซีรีส์ออฟฟิศโรแมนซ์ ฮันจีมิน x อีจุนฮยอก รับจ้างจัดหารัก - รีวิว Check in Hanyang 2024 ซีรีส์ย้อนยุคโรแมนติกเด็กฝึกโรงเตี๊ยม แบอินฮยอก x คิมจีอึน - รีวิว The Tale of Lady Ok 2024 ซีรีส์ย้อนยุคตำนานแม่นางอ๊ก อิมจียอน x ชูยองอู เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ขอบคุณทุกคน! “เจมีไนน์-โฟร์ท” คว้ารางวัล “AAA Thai Star 2024” ในงาน “2024 Asia Artist Awards”

ขอบคุณทุกคน! เจมีไนน์-โฟร์ท คว้ารางวัล AAA Thai Star 2024 ในงาน 2024 Asia Artist Awards ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ 2024 Asia Artist Awards (AAA) ครั้งที่ 9 จัดขึ้นวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ Impact Challenger Hall เมืองทองธานี ประเทศไทย ที่รวบรวมนักแสดงและศิลปินเกาหลีไว้มากมาย รวมทั้งยังมีศิลปินฝั่งไทยร่วมเดินพรมแดงด้วย ไม่ใช่แค่ดาราและศิลปินเกาหลีเท่านั้นที่ได้รางวัลในงานนี้ เพราะ เจมีไนน์ นรวิชญ์ และ โฟร์ท ณัฐวรรธน์ ก็ได้รับรางวัล AAA Thai Star 2024 ในงานนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 หนุ่มยังได้ขึ้นเวทีโชว์ร้องเพลง ลบยัง (Re-move on) บนเวทีงานนี้ด้วย ล่าสุด เจมีไนน์ ได้โพสต์รูป พร้อมเขียนแคปชั่นขอบคุณรางวันนี้ว่า This means the world to me! Thank you#AAA2024INBKK for giving us this award and thanks to everyone whos been part of my journey, your love and support keep me going. This ones for all of you.Lets keep making something beautiful together! See #AAA2024 ส่วน โฟร์ท ก็ขอบคุณเช่นเดียวกันว่า เป็นเกียร์ติมากๆเลยครับ ที่ได้รับรางวัลและขึ้นไปโชว์ครับ #AAA2024INBKK #AAA2024ทางด้านแฟนคลับเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับรางวัลนี้กันมากมาย เชื่อว่าก้าวต่อไปของ เจมีไนน์-โฟร์ท ต้องคว้าอีกหลายรางวัลมานอนกอดแน่นอนค่า

Star Wars: การเล่าเรื่องที่ไม่เรียงลำดับจากภาคแรกถึงภาคสุดท้าย—อัจฉริยะหรือความบังเอิญ?

ในฐานะแฟนหนัง Star Wars ตัวยงแบบไม่พลาดเลยสักภาค มานั่งคิดนอนคิดว่าการที่ Star Wars ไม่ได้ออกฉายเรียงลำดับตามเนื้อเรื่อง (เริ่มที่ Episode IV แทนที่จะเป็น Episode I) นั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างสรรค์และกลยุทธ์ของผู้กำกับ จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ที่อ้อมคิดก็ได้ก็ประมาณนี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1. ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี จอร์จ ลูคัสมีไอเดียสำหรับ Star Wars มาตั้งแต่ปี 1970 แต่เนื้อหาใน Episode I-III มีฉากสงครามอวกาศและเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย ซึ่งในยุคนั้นไม่สามารถถ่ายทำด้วยเทคนิคที่มีอยู่ได้ ลูคัสจึงเลือกเล่าเรื่อง Episode IV-VI ก่อน เพราะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ด้วยทรัพยากรและเทคโนโลยีในยุค 1970-1980 2. เนื้อเรื่องที่เรียบง่ายแต่ดึงดูดใจ เนื้อเรื่องของ Episode IV (A New Hope) เป็นการเล่าเรื่องแบบ "ฮีโร่เดินทาง" (Hero's Journey) ซึ่งเป็นพล็อตที่ง่ายต่อการเข้าถึง โดยลูคัสตั้งใจให้เรื่องนี้เป็นเหมือน "จุดเริ่มต้น" ของผู้ชมที่ไม่เคยรู้จัก Star Wars มาก่อน เพื่อสร้างฐานแฟนคลับและความนิยมก่อนขยายจักรวาลในภายหลัง 3. ความเสี่ยงทางการเงิน ในช่วงที่สร้าง Episode IV (1977) จอร์จ ลูคัสยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก และสตูดิโอก็ไม่ได้มั่นใจว่า Star Wars จะประสบความสำเร็จ หากลูคัสเริ่มเล่าจาก Episode I ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาการเมืองและความซับซ้อน อาจทำให้ผู้ชมสับสนและลดความสนใจในตัวเรื่อง ดังนั้นเขาจึงเลือกเนื้อหาที่มีตัวละครชัดเจนและเนื้อเรื่องน่าติดตามมากกว่า 4. การวางแผนในอนาคต ลูคัสตั้งใจให้ Star Wars เป็นเรื่องราวมหากาพย์ที่เล่าต่อเนื่องกันหลายภาค การเริ่มต้นด้วย Episode IV ทำให้เขามีพื้นที่สร้างความลึกให้ตัวละครและเนื้อเรื่องในภาคหลัง ๆ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ขยายจักรวาลด้วยพรีเควล (Episode I-III) และภาคต่อในอนาคต 5. กลยุทธ์สร้างความสงสัย การเริ่มเล่าจาก Episode IV ทำให้ผู้ชมเกิดคำถามและความสนใจในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น "ทำไมอานาคิน สกายวอล์คเกอร์ถึงกลายเป็นดาร์ธ เวเดอร์?" หรือ "กำเนิดจักรวรรดิที่ชั่วร้ายมาได้อย่างไร?" ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมติดตามและรอคอยพรีเควลในภายหลัง ความสำเร็จของการเล่าแบบ "ไม่เรียงลำดับ" กลยุทธ์นี้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Star Wars ประสบความสำเร็จในเชิงการเล่าเรื่องและการตลาด นอกจากนี้ยังสร้างความลึกลับและเพิ่มความลึกให้กับจักรวาล Star Wars อีกด้วย การไม่ฉายตามลำดับเป็นเรื่องที่เสี่ยง แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะ Star Wars ได้กลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์!   มุมมองของอ้อมเอง อ้อมคิดว่าถ้าลูคัสเริ่มเล่าเรื่องจาก Episode I มันอาจไม่ดังเท่านี้ เพราะเนื้อหาเต็มไปด้วยเรื่องการเมือง การก่อร่างสร้างจักรวรรดิ และดราม่าหนัก ๆ ซึ่งอาจย่อยยากสำหรับผู้ชมในยุคนั้น การเล่าผ่าน Episode IV-VI ก่อนเหมือนเป็นการ "หย่อนเบ็ด" ให้คนดูติดกับความมันส์ก่อน จากนั้นค่อย ๆ เปิดเผยความลึกของเรื่องใน Episode I-III อีกอย่างที่อ้อมชอบคือ ความลึกลับที่ถูกสร้างขึ้นมา เช่น "ดาร์ธ เวเดอร์มีอดีตยังไง?" หรือ "อานาคินกลายเป็นอะไรแบบนี้ได้ยังไง?" ทำให้แฟน ๆ อยากรอชมพรีเควลเพื่อค้นหาคำตอบ และในที่สุดก็ติดตามแฟรนไชส์นี้ไปยาว ๆ แบบไม่มีทางเลิก! สรุปแล้ว อ้อมมองว่าการเล่าเรื่องแบบ "ไม่เรียงลำดับ" ของ Star Wars คือกลยุทธ์ที่เจ๋งมาก มันทำให้หนังมีความพิเศษและต่างจากหนังเรื่องอื่นในยุคนั้น ไม่แปลกใจเลยที่จักรวาลนี้กลายเป็นตำนานระดับโลก!   อ้างอิง ภาพจาก Facebook Star Wars / ภาพที่ #1 / ภาพที่ #2 / ภาพที่ #3 / ภาพที่ #4 / ภาพที่ #5 / ภาพหน้าปก   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !      

การสำรวจที่ไม่เคยหยุด ทำไม Star Trek ถึงเป็นแรงบันดาลใจ

ต้องยอมรับว่า Star Trek คือหนึ่งในจักรวาลที่มีแฟนคลับแห่ไปตลอดกาลและสร้างตำนานไว้ไม่น้อย ทุกภาคมีความน่าตื่นเต้นและบางครั้งก็ดูเหมือนว่าอะไรที่น่าจะเป็นไปไม่ได้ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพบกับมนุษย์ต่างดาวสุดประหลาด หรือแค่การเดินทางข้ามกาแล็กซีในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนถ้าใครยังไม่เคยดู ตอนนี้เราจะสรุปเรื่องราวให้ฟังแบบขำขันและสนุกสนาน! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Star Trek: The Original Series (1966-1969) เริ่มต้นทั้งหมดด้วย Captain James T. Kirk ผู้คุมยาน Enterprise ในการสำรวจอวกาศ (ในยุคที่ยังไม่มี Wi-Fi เลยนะ) และผู้ช่วยสุดเท่ Spock ที่มีหูแหลมและการแสดงอารมณ์ที่ต่ำมากจนบางครั้งไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างเขากับ Kirk แต่ก็ดูเหมือนจะลงตัวดี เพราะ "ขาด Spock ก็เหมือนขาดอะไรสักอย่างไป" อวกาศในยุคนี้ยังไม่ค่อยมีเรื่องราวที่ดูน่าสนใจเท่าไหร่ แต่มีบางตอนที่พอได้เห็นเทคโนโลยีจากโลกอนาคต เช่น เครื่องโทรศัพท์ที่ตอบได้เอง (สมัยนั้นดูเหมือนเวอร์ชั่นการสนทนาในอนาคตที่ทันสมัยสุด!) Star Trek: The Next Generation (1987-1994) หลังจากนั้นยาน Enterprise ก็ได้เปลี่ยนผู้คุมเป็น Captain Jean-Luc Picard คนนี้เป็นคนที่เรียกว่า "มาดนิ่ง มีสติ" และด้วยการที่มี Data หุ่นยนต์ที่แทบจะเป็นมนุษย์ทุกประการ (แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจเรื่องตลกได้สักที) พวกเขาก็ต้องเดินทางไกลไปในจักรวาลกับทีมงานที่หลากหลาย ทั้ง Riker ลูกเรือหนุ่มหล่อสุดแซ่บ, Worf นักรบจากเผ่าพันธุ์ Klingon ที่สง่างามเหมือนทหารสมาคม, และ Deanna Troi ผู้ช่วยสุดเซนซิทีฟที่สามารถอ่านความรู้สึกของคนอื่นได้ แต่บางครั้งเธอก็ต้องกลั้นขำตอนเห็นเรื่องแปลกๆ ในอวกาศ Star Trek: Deep Space Nine (1993-1999) ถึงจะตั้งอยู่ในสถานีอวกาศที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเจ๋งเหมือนยาน Enterprise แต่นี่คือละครดราม่าระหว่างสถานีอวกาศและสงครามระหว่างพันธมิตรต่างดาวที่ซับซ้อนสุดๆ นักแสดงในภาคนี้ยังเล่นการเมืองได้ราวกับอยู่ใน Game of Thrones หรือ House of Cards กันเลยทีเดียว! ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์, Bajorans, Cardassians และอีกหลายเผ่าพันธุ์ ทำให้ทุกตอนลุ้นไปพร้อมๆ กันว่าใครจะทำอะไรและอันไหนจะไม่เป็นไปตามแผน! ขอบอกว่ามีทั้งดราม่า รัก และการผจญภัยที่สมบูรณ์แบบ! Star Trek: Voyager (1995-2001) ทีนี้เราได้ไปที่ Captain Kathryn Janeway สุดแกร่งที่พาผู้คนในยาน Voyager ติดอยู่ในปลายกาแล็กซีและต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อกลับบ้าน (เหมือนคนที่ต้องต่อคิวชั่วโมงเร่งด่วนในห้าง) ทีมงานในยานนี้ก็มี Seven of Nine หญิงสาวหุ่นดีที่เคยเป็นจักรกลแห่ง Borg (ถ้าเห็นเธอแล้วไม่คิดว่า "ต้องหุ่นแบบนี้สิ!" ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว) Star Trek: Enterprise (2001-2005) นี่คือการเริ่มต้นของทุกอย่างก่อนที่จะมาถึง Captain Kirk ที่ยังไม่ได้เกิด เมื่อเราเห็นการพัฒนา Enterprise NX-01 (ยานแม่ที่ดีกว่าเครื่องบินสายการบินที่เราเคยใช้) อาวุธของจักรวาลเริ่มพัฒนาจากดาวดวงเดิมไปสู่การผจญภัยในอนาคต ที่พร้อมให้เราเรียนรู้การมีมิตรภาพที่ข้ามขีดจำกัดต่างดาว! Star Trek (2009), Star Trek: Into Darkness (2013), Star Trek: Beyond (2016) มาที่ซีรีส์ภาพยนตร์ที่เล่าถึงการรีบูต Star Trek และสร้างทีมใหม่ของ Kirk กับ Spock แต่ครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนให้อีกระดับ (จากที่เคยเป็นรุ่นพ่อเป็นรุ่นลูก!) การปะทะกันระหว่างภาคต่างดาวและมนุษย์ที่ไม่ยอมนั่งนิ่งกับสถานการณ์ใดๆ ในจักรวาล ในภาค Into Darkness ก็มีความขัดแย้งระหว่างการแทรกแซงที่ผิดพลาดและการกลับมาของศัตรูสุดเหี้ยมอย่าง Khan ตัวร้ายที่โผล่มาในโลกของ Star Trek ที่ทำให้ทุกคนในทีมต้องหาทางชนะและแก้ปัญหาที่อาจจะจบลงในมุมมืดของจักรวาล! ดูเหมือนว่า Star Trek จะเป็นการเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แม้จะมีการต่อสู้ระหว่างดาวเคราะห์และการทำลายล้าง แต่ก็ยังมีมิตรภาพ การผจญภัย และแม้แต่เรื่องตลกขำๆ ตามมาหลายภาค! ตอนนี้ที่เหลือคงเป็นการนั่งรอว่าอะไรจะเกิดขึ้นในจักรวาลนี้ต่อไป แล้วก็รอดูสิ่งใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับการสำรวจอวกาศในโลกอนาคตค่ะ!   ทำไมอ้อมถึงชอบหนัง Star Trek? ต้องบอกก่อนว่า อ้อมไม่ได้เป็นแค่แฟนหนังที่ดูเพราะความสนุก แต่จริงๆ แล้ว อ้อมชอบ Star Trek มากเพราะมันให้บทเรียนสำคัญในชีวิตที่เราคาดไม่ถึง! การเดินทางที่ไม่เคยหยุด สำหรับอ้อม Star Trek เป็นเหมือนการเดินทางในอวกาศที่ไม่ได้แค่สำรวจดาวเคราะห์ใหม่ๆ แต่ยังสะท้อนถึงการเดินทางในชีวิตจริง การเรียนรู้จากความผิดพลาดและการเติบโตของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น Captain Kirk ที่เรียนรู้วิธีการเป็นผู้นำที่ดี หรือ Spock ที่พยายามหาความสมดุลระหว่างความเป็นมนุษย์และเหตุผลในตัวเอง แม้กระทั่งคนดูอย่างอ้อมยังรู้สึกได้ว่าเรากำลังเดินทางไปข้างหน้าเสมอ การสำรวจทางจิตใจ มันไม่ใช่แค่เรื่องราวของอวกาศที่ทำให้เราตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์, การเมือง, และวิธีการที่เราปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตต่างดาว ทำให้อ้อมรู้สึกว่า Star Trek เป็นหนังที่ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังท้าทายความคิดและมุมมองในหลายๆ ด้าน การแสดงออกที่มีเสน่ห์ ถ้าคุณเคยเห็น William Shatner ในบท Captain Kirk หรือ Patrick Stewart ในบท Captain Picard คุณคงเข้าใจว่าทำไมตัวละครเหล่านี้ถึงเป็นที่รักของแฟนๆ ทุกยุคทุกสมัย ทั้งสองคนมีการแสดงที่ไม่เหมือนใครและมีเสน่ห์ที่ทำให้เราไม่สามารถหยุดดูได้ แม้ในตอนที่เนื้อเรื่องดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก ความหลากหลายและความเท่าเทียม Star Trek ยังมีความน่าสนใจที่ไม่เหมือนใครในการนำเสนอตัวละครที่มีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องเชื้อชาติ เพศ และลักษณะทางสังคม ทุกๆ ตัวละครไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือไม่ก็ตามได้รับการแสดงออกอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่อ้อมชื่นชมมาก เพราะมันสะท้อนถึงความเชื่อของเราในเรื่องความเท่าเทียมและการยอมรับความแตกต่าง เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต สุดท้าย ความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของตัวละครใน Star Trek ทำให้อ้อมได้รับแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ไม่ว่าเราจะเจออุปสรรคหรือปัญหาที่ยากเย็นแค่ไหน การพยายามต่อสู้และเรียนรู้จากสิ่งต่างๆ คือสิ่งที่สำคัญ การเดินทางในจักรวาลอาจจะเป็นเรื่องของจินตนาการ แต่บทเรียนที่เราได้รับจากมันกลับเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ดังนั้น ถ้าคุณถามอ้อมว่า Star Trek ทำไมถึงเป็นที่ชื่นชอบ อ้อมจะบอกว่า มันไม่ใช่แค่หนังหรือซีรีส์ มันเป็นแรงบันดาลใจและบทเรียนชีวิตที่ไม่มีวันหยุดการสำรวจ 😎   อ้างอิง ภาพจาก Facebook Star Trek / ภาพที่ #1 / ภาพที่ #2 / ภาพที่ #3 / ภาพที่ #4 / ภาพทื่ #5 / ภาพที่ #6 / ภาพหน้าปก   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !      

รีวิวเกม Star Ocean 6 The Divine Force ด่ำดิ่งสู่ห้วงจักรวาลอันไร้ขอบเขต

หกปีแห่งการรอคอย... ในที่สุด Star Ocean 6: The Divine Force ภาคต่อล่าสุดของซีรีส์เกม Action RPG อวกาศสุดคลาสสิกจาก tri-Ace ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกอีกครั้ง แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงของซีรีส์ และระยะเวลาที่แฟนๆ รอคอย ความคาดหวังของใครหลายคนจึงสูงลิบลิ่ว ตัวเกมภาคนี้มาพร้อมกับระบบการเล่นแบบใหม่ โลกอันกว้างใหญ่ไพศาล และเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แต่กระนั้น ภายใต้แสงดาวอันระยิบระยับ กลับมีเงาแห่งปัญหาที่ซ่อนเร้นอยู่ รอคอยให้ผู้เล่นได้สัมผัส     กราฟิกและการนำเสนอ - ความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบ สิ่งแรกที่กระแทกตาผมทันทีที่ก้าวเข้าสู่โลกของ Star Ocean 6 คือ กราฟิกที่... พูดตามตรงคือ "ขัดใจ" อย่างบอกไม่ถูก ทิวทัศน์ ฉากหลัง เอฟเฟกต์เวทมนตร์ ถูกออกแบบมาอย่างอลังการ สวยงามราวกับภาพวาด รายละเอียดของสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ภูเขา หรือเมือง ล้วนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ชวนให้หลงใหล แต่ในทางกลับกัน โมเดลตัวละคร โดยเฉพาะใบหน้า กลับดูแข็งทื่อ ไร้อารมณ์ ราวกับหลุดมาจากยุค PlayStation 3 ผมเข้าใจดีว่าทีมพัฒนาอาจจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างโลกอันกว้างใหญ่ แต่การละเลยรายละเอียดของตัวละคร ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเกม RPG ก็ทำให้รู้สึกสะดุดอยู่ไม่น้อย เหมือนกับภาพวาดชั้นยอด ที่ถูกใส่กรอบรูปราคาถูก ความงามจึงลดทอนลงไปอย่างน่าเสียดาย   ยกตัวอย่างเช่น ฉากต่อสู้กับบอส เอฟเฟกต์แสงสีเสียงตระการตา ฉากหลังพังทลาย ดูอลังการงานสร้าง แต่พอตัดภาพมาที่ตัวละคร กลับเห็นใบหน้าไร้อารมณ์ แถมเท็กซ์เจอร์ยังแตกๆ อีกต่างหาก ความรู้สึก "Epic" ที่ควรจะมี เลยหายไปเกือบหมด   นอกจากนี้ การออกแบบ UI และเมนูต่างๆ ก็เป็นอีกจุดที่ผมรู้สึกไม่ประทับใจ ตัวอักษรเล็ก อ่านยาก ไอคอนไม่ชัดเจน เมนูซ้อนกันหลายชั้น จนหาตัวเลือกที่ต้องการไม่เจอ หลายครั้งที่ผมต้องเสียเวลาไปกับการ "งม" หาเมนู แทนที่จะสนุกไปกับการเล่นเกม ซึ่งเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก โดยรวมแล้ว ในด้านกราฟิกและการนำเสนอ Star Ocean 6 ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แม้จะมีบางจุดที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมก็ตาม   เนื้อเรื่องและตัวละคร - มหากาพย์อวกาศที่น่าติดตาม (ในบางช่วง) Star Ocean 6 พาเราเข้าสู่โลกแห่ง Sci-fi Fantasy ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำยุค กับเวทมนตร์ และการผจญภัยในอวกาศ ได้อย่างลงตัว ตัวเกมมีตัวเอกให้เลือกเล่นสองคน คือ Raymond Lawrence กัปตันยานอวกาศหนุ่มผู้รักอิสระ และ Laeticia Aucerius เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรผู้เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ซึ่งแต่ละคนจะมีมุมมอง และเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับเรื่องราวเดียวกัน แต่ในมุมมองที่หลากหลาย   ในช่วงแรกของเกม ผมรู้สึกตื่นเต้น และอินไปกับเนื้อเรื่องมาก ปริศนาการหายตัวไปของยานอวกาศ ความขัดแย้งระหว่างอาณาจักร และการปรากฏตัวของ "DUMA" อุปกรณ์ลึกลับจากต่างดาว ล้วนถูกปูทางมาอย่างน่าสนใจ ตัวละครแต่ละตัวก็มีบุคลิก และภูมิหลังที่ชัดเจน ทำให้รู้สึกผูกพัน อยากรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น อย่างเช่น Elena นักดาบสาวผู้ซื่อสัตย์ หรือ Midas นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ แต่เมื่อเล่นไปสักพัก ผมกลับรู้สึกว่า เนื้อเรื่องเริ่มอืด ยืดเยื้อ และมีบทพูดที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป หลายครั้งที่ผมรู้สึกเบื่อ และอยากจะกดข้ามบทสนทนาไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะจริงๆ แล้ว Star Ocean 6 มีพล็อตเรื่องที่ดี มีปมปริศนาที่น่าติดตาม แต่การดำเนินเรื่องที่ไม่กระชับ บทสนทนาที่ยืดเยื้อ ทำให้เสียอรรถรสไปพอสมควร     ระบบการต่อสู้ - จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้สนุก หากจะพูดถึงสิ่งที่ Star Ocean 6 ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด คงหนีไม่พ้นระบบการต่อสู้ ที่รวดเร็ว เร้าใจ และเต็มไปด้วยแอ็คชั่น ตัวเกมนำเสนอระบบ "DUMA" อุปกรณ์พิเศษที่ช่วยให้ตัวละครสามารถบิน พุ่ง และโจมตีศัตรูได้อย่างอิสระ เสริมมิติให้กับการต่อสู้ ไม่จำกัดอยู่แค่บนพื้นดินอีกต่อไป   การเคลื่อนที่ และโจมตีในเกมนี้ ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และให้ความรู้สึกอิสระอย่างมาก ผมสนุกไปกับการทดลองคอมโบ และท่าไม้ตายต่างๆ ของตัวละครแต่ละตัว รวมถึงการใช้ DUMA ในการหลบหลีก และเข้าประชิดศัตรู ระบบ Blindside ที่ให้โบนัสเมื่อโจมตีศัตรูจากด้านหลัง ก็เป็นอีกหนึ่งกลไกที่เพิ่มความสนุก และความท้าทายให้กับการต่อสู้ แม้จะมีบางช่วงที่ศัตรู "รุม" เยอะเกินไป จนรู้สึกว่า "เอาเปรียบ" ผู้เล่นไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ผมถือว่าระบบการต่อสู้ของ Star Ocean 6 สอบผ่าน และเป็นจุดเด่นที่ช่วยชูโรงให้กับเกมนี้ได้เป็นอย่างดี   เพลงประกอบ - บทเพลงแห่งดวงดาวที่ยังไม่ตราตรึง ในภาคก่อนๆ เพลงประกอบของ Star Ocean ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่แฟนๆ ชื่นชอบ Motoi Sakuraba นักประพันธ์เพลงคู่บุญของซีรีส์ ได้สร้างสรรค์บทเพลงอันไพเราะ ตราตรึงใจ ไว้มากมาย แต่สำหรับภาคนี้ ผมรู้สึกว่าเพลงประกอบยังไม่โดดเด่น และ "ติดหู" เท่าที่ควร แม้ว่า Sakuraba จะกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง แต่เพลงประกอบส่วนใหญ่ในภาคนี้ กลับฟังดูเรียบๆ ไม่ค่อยมีพลัง ขาดความยิ่งใหญ่ และไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศของเกม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะเพลงประกอบที่ดี จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เหมือนกับการรับชมภาพยนตร์ ที่ขาดดนตรีประกอบ ก็คงไม่ต่างอะไรกับการดูละครใบ้     สรุป - การเดินทางสู่ดวงดาวที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ Star Ocean 6: The Divine Force เป็นเกมที่มีทั้งจุดเด่น และจุดด้อย ในตัวเอง ระบบการต่อสู้ที่รวดเร็ว เร้าใจ โลกอันกว้างใหญ่ ให้สำรวจอย่างอิสระ และเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม (ในบางช่วง) คือสิ่งที่ทำให้ผมสนุกไปกับเกมนี้ แต่กราฟิกที่ไม่สม่ำเสมอ UI ที่ใช้งานยาก การดำเนินเรื่องที่อืดอาด และเพลงประกอบที่ไม่โดดเด่น ก็เป็นปัญหาที่ทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง เหมือนกับจรวดที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่กลับขาดเชื้อเพลิง ทำให้ไปไม่ถึงดวงดาว   โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า Star Ocean 6 เป็นเกมที่ดี แต่ยังไม่ถึงกับยอดเยี่ยม ถ้าคุณเป็นแฟน Star Ocean หรือกำลังมองหาเกม Action RPG สนุกๆ เล่น เกมนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณคาดหวังว่าเกมนี้จะเป็น "Masterpiece" เหมือนกับภาคก่อนๆ คุณอาจจะต้องผิดหวัง   คะแนน: 7/10   ข้อดี: ระบบการต่อสู้ที่รวดเร็ว เร้าใจ และอิสระ ด้วยระบบ DUMA ที่ช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ โลกอันกว้างใหญ่ ให้สำรวจอย่างเต็มที่ เต็มไปด้วยรายละเอียด และความลับที่รอคอยให้ค้นพบ เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม (ในบางช่วง) ด้วยปมปริศนา และความขัดแย้งที่น่าสนใจ ตัวละครที่มีบุคลิก และภูมิหลังที่น่าสนใจ ทำให้ผู้เล่นรู้สึกผูกพัน   ข้อเสีย: กราฟิกที่ไม่สม่ำเสมอ ตัวละครดูแข็งทื่อ ขัดกับฉากหลังที่สวยงาม UI ที่รก และใช้งานยาก ตัวอักษรเล็ก ไอคอนไม่ชัดเจน การดำเนินเรื่องที่อืดอาด มีบทพูดเยอะเกินไป ทำให้บางช่วงรู้สึกน่าเบื่อ เพลงประกอบไม่โดดเด่น ไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศ ขาดความยิ่งใหญ่ และความน่าจดจำ   เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เลเซอร์ “Death Star” ทำลายดวงดาวแบบ “Star Wars” นักวิทย์ฯ จีนอ้างทำสำเร็จแล้ว

Death Star ควบรวมลำแสงเลเซอร์ ทั้งหมด 8 สาย แล้วยิงออกไปเป็นเส้นเดียว ทำลายดาวอัลเดรันทั้งดวง ฉากนี้ กลายเป็นที่จดจำของใครหลายคน ที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันโหดร้ายของจักรวรรดิกาแลกติกการทำลายล้างดาวทั้งดวง ด้วยการควบรวมเลเซอร์เข้าด้วยกัน อาจกลายเป็นจริงในอนาคต เมื่อนักวิทยาศาสตร์จีน อ้างว่า พวกเขาคิดค้นหลักการทำงานของอาวุธนี้ได้แล้ว ตามการรายงานของ Live Science---นักวิทย์ฯ จีน เผยสร้างอาวุธเลเซอร์บีมสำเร็จ---แม้จะยังไม่แน่ชัดว่า ทีมวิจัยได้แรงบันดาลในการสร้างเลเซอร์บีมมาจากภาพยนตร์ Star Wars หรือไม่ แต่นักวิทยาศาสตร์จีน ออกมากล่าวว่า พวกเขาได้สร้างอาวุธคลื่นไมโครเวฟชนิดใหม่ ที่เอาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงหลายตัวรวมเข้าด้วยกัน แล้วส่งพลังงานทั้งหมดไปที่เป้าหมายเดียวกันระบบการทำงานของอาวุธนี้ ประกอบด้วยเครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟ ประจำตามจุดต่าง ๆแต่ละเครื่องจะยิงลำแสงด้วยการซิงโครไนซ์ที่มีความแม่นยำสูง แล้วแสงเหล่านี้จะรวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นลำแสงอันทรงพลัง และโจมตีไปยังเป้าหมายเดียว---หลักการทำงานอาวุธเลเซอร์---ฟังแล้วดูเหมือนจะง่าย แต่เรื่องนี้ยากกว่าที่คิด เพราะคลื่นไมโครเวฟ เป็นลำแสงพลังงานแคบ ที่จำเป็นต้องจัดตำแหน่งอย่างแม่นยำ เพื่อนำมาบรรจบกัน นั่นหมายความว่า จังหวะเวลาที่แสงเหล่านี้ถูกยิงออกมา จะมีเวลาควบคุมเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจากข้อมูลของทีมวิจัย ระบุว่า เครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟแต่ละตัว ยังต้องวางอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งอย่างแม่นยำ โดยจะต้องอยู่ภายในระยะคลาดเคลื่อนได้แค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ว่าระบบนำทางดาวเทียม BeiDou ของจีน ระบุตำแหน่งที่แม่นยำได้ภายในระยะ 1 เซนติเมตร หรือ 0.4 นิ้ว ซึ่งนั่นยังไม่เพียงพอสำหรับอาวุธชนิดใหม่นี้ ทีมวิจัยจึงได้ติดตั้งอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งด้วยเลเซอร์ ไว้บนเครื่องส่งแต่ละตัว เพื่อให้ได้ระบบกำหนดตำแหน่งที่มีความแม่นยำในระดับมิลลิเมตร และเครื่องส่งต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์ด้วย เพราะหากพื้นผิวมีการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความ ตัวปล่อยคลื่นจะไม่ได้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง และอาวุธจะไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้นี่ไม่ใช่ความยากเพียงเรื่องเดียวของการสร้างเลเซอร์ Death Star เพราะการยิงแบบซิงโครไนซ์ จะต้องเกิดขึ้นภายใน 170 พิโควินาที หรือเท่ากับ 170 ในสัดส่วน 170 ล้านล้านวินาที หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เวลามันสั้นแค่ไหน คอมพิวเตอร์ทั่วไปใช้ระยะเวลา 330 พิโควินาทีในการประมวลผล 1 รอบแต่ทีมวิจัยได้เชื่อมต่อแพลตฟอร์มส่งสัญญาณโดยใช้ใยแก้วนำแสง เพื่อให้มั่นใจว่า แสงเลเซอร์ทั้งหมดจะซิงโครไนซ์กันได้อย่างเหมาะสม และควบคุมจากระยะไกลได้---เลเซอร์ Death Star ในชีวิตจริง ยังคงห่างไกล---South China Morning Post รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จีนในโครงการนี้ อ้างว่า กำลังรวมพลังงานของลำแสงไมโครเวฟที่มาบรรจบกัน มีผลรวมเท่ากับ 1+1 มากกว่า 2 หมายความว่า คลื่นไมโครเวฟ 2 คลื่น เมื่อรวมกัน จะทรงพลังมากกว่า 2 เท่าตัวนั่นเอง แม้ว่าแนวคิดนี้จะขัดกับกฎการอนุรักษ์พลังงาน (Conservation of energy)ถึงกระนั้น ทีมวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการควบรวมลำแสงคลื่นไมโครเวฟได้ในสภาวะแวดล้อมที่ควบคุมได้ แต่สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย ซึ่งเรื่องนี้ เป็นความท้าทายอย่างมาก สำหรับเครื่องมือเทคโนโลยีใด ๆ ที่จำเป็นต้องพึ่งพาความแม่นยำสูงในระดับนี้หากจะพูดง่าย ๆ ก็คือ อาวุธเลเซอร์ Death Star ที่จะสามารถทำลายล้างดาวดวงหนึ่งได้ในชีวิตจริง ยังคงเป็นเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากยิ่งนักแปล-เรียบเรึยง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์แหล่งข้อมูลอ้างอิง:https://www.livescience.com/technology/engineering/chinese-scientists-claim-they-have-built-a-death-star-inspired-beam-weaponhttps://www.scmp.com/news/china/science/article/3284794/chinese-scientists-say-they-have-made-converged-energy-beam-weapon-reality

รีวิวเกมเก่า Star Ocean 5 Integrity and Faithlessness เมื่อความคาดหวังสวนทางกับความเป็นจริง

สวัสดีครับเพื่อนๆ เกมเมอร์ทุกท่าน วันนี้ผมจะขอแบ่งปันความรู้สึกและประสบการณ์การเล่นเกม Star Ocean 5: Integrity and Faithlessness เกม JRPG ภาคต่อของซีรีส์ในตำนานที่หลายคนรอคอย ส่วนตัวผมเองก็เป็นแฟนตัวยงของเกมซีรีส์นี้มาตั้งแต่สมัย PlayStation 1 จำได้ว่าตอนนั้น Star Ocean: The Second Story คือเกมที่ผมเล่นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนแผ่นแทบจะพัง พอรู้ข่าวว่าภาค 5 กำลังจะวางจำหน่าย ความรู้สึกตื่นเต้นมันก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที รีบพรีออเดอร์ Deluxe Edition รัวๆ แบบไม่ต้องคิด แต่พอได้สัมผัสกับตัวเกมจริงๆ แล้ว ความรู้สึกมันกลับ "ไม่ได้ว้าว" อย่างที่คิดไว้ เอาล่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าครับว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้น   กราฟิกและการนำเสนอ - สวยแต่ไม่สุด เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าผมค่อนข้างคาดหวังกับเกมนี้ไว้สูง โดยเฉพาะในเรื่องของกราฟิก เพราะคิดว่าด้วยเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน เกม JRPG น่าจะทำภาพออกมาได้สวยงามอลังการ แต่พอได้เห็นกราฟิกของ Star Ocean 5 จริงๆ แล้ว มันกลับทำให้ผมรู้สึก "ผิดหวัง" เล็กๆ คือมันไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้สวยงามสมจริงแบบที่ควรจะเป็น   ยกตัวอย่างเช่น เท็กซ์เจอร์ของวัตถุต่างๆ ในเกม บางอย่างมันดูหยาบๆ เหมือนเกมยุค PS3 ยังไงก็ไม่รู้ แสงเงาก็ดูธรรมดา ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ส่วนโมเดลตัวละครก็ดูแข็งๆ ทื่อๆ ขาดความมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะใบหน้าของตัวละครในฉากคัตซีนนี่ดูแปลกๆ เหมือนหุ่นยนต์ แถมบางครั้งมุมกล้องก็แปลกๆ ซูมเข้าไปใกล้หน้าตัวละครมากเกินไป จนเห็นรูขุมขน (ฮา)   แต่ก็นั่นแหละครับ ถึงแม้กราฟิกจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ฉากต่างๆ ในเกมก็ยังคงความอลังการตามสไตล์ Star Ocean นะครับ มีทั้งเมือง , หมู่บ้าน , ป่าเขา , ทะเลทราย , ดันเจี้ยน คือโลกในเกมมันกว้างใหญ่และมีอะไรให้สำรวจเยอะมาก ผมชอบการออกแบบฉากของ Stahl มาก เป็นเมืองที่ดูยิ่งใหญ่ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม หรือจะเป็นฉาก Parched Plains ที่มีทุ่งหญ้าสีทองอร่าม ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ก็สวยงามจับใจ   ผมว่าถ้าทีมพัฒนาใส่ใจรายละเอียดในส่วนของกราฟิกมากกว่านี้สักหน่อย เกมนี้น่าจะออกมาสมบูรณ์แบบกว่านี้เยอะเลย     เพลงประกอบ - คุณภาพดี แต่ขาดเสน่ห์ สำหรับเพลงประกอบ ผมว่า Star Ocean 5 ทำได้ดีในระดับมาตรฐานของเกม JRPG ครับ เพลงในเกมมีหลากหลายสไตล์ ทั้งเพลงแนวออร์เคสตราที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ เพลงร็อคที่เร้าใจในฉากต่อสู้ เพลงบรรเลงแบบ Piano ที่ให้ความรู้สึกเศร้าสร้อย ซึ่งแต่ละเพลงก็เข้ากับบรรยากาศของเกมได้เป็นอย่างดี   แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ายัง "ขาดไป" ก็คือ "เอกลักษณ์" ครับ เพลงมันเพราะก็จริง แต่พอฟังจบแล้วมันไม่ค่อยติดหู นึกทำนองไม่ออก ต่างจากภาคก่อนๆ ที่เพลงมันจะมีความโดดเด่น มีท่วงทำนองที่จำง่าย ฟังแล้วร้องตามได้ ฮัมเพลงได้ ผมจำได้ว่าสมัยก่อน ผมชอบเปิดเพลงจาก Star Ocean: The Second Story ฟังวนไปวนมา จนแม่ผมบ่นเลยล่ะ (ฮา)   เนื้อเรื่อง - เริ่มต้นดี แต่แผ่วปลาย ในส่วนของเนื้อเรื่อง ผมว่าช่วงแรกๆ ของเกมมันทำได้ดีมาก ปริศนาเกี่ยวกับ "ความบิดเบี้ยวของมิติ" และการปรากฏตัวของ "Ethereal Queen" มันดูลึกลับน่าค้นหา ตัวละครเอกอย่าง Fidel กับ Miki ก็น่ารักดี มีเคมีที่เข้ากัน ดูแล้วลุ้นให้เป็นแฟนกัน (แอบเชียร์คู่นี้อยู่เหมือนกัน)   แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ ผมกลับรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเริ่ม "เอื่อย" และ "น่าเบื่อ" ยังไงก็ไม่รู้ ตัวละคร Relia ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวละครสำคัญ กลับมีบทบาทน้อยมาก ตัวร้ายก็ดูไม่มีมิติ แรงจูงใจก็อ่อน ขาดความน่าสนใจ คือมันขาด "จุดพีค" "จุดหักมุม" หรือ "ฉากดราม่า" ที่จะทำให้คนเล่นรู้สึกอิน รู้สึกตื่นเต้น หรือรู้สึกเศร้าไปกับเนื้อเรื่อง   ยกตัวอย่างเช่น ฉากจบของเกม ที่ควรจะเป็นฉากที่ "ทรงพลัง" และ "น่าจดจำ" ที่สุด กลับทำออกมาได้ค่อนข้าง "ธรรมดา" มาก คือมันไม่ได้แย่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึก "ว้าว" หรือ "ประทับใจ" อะไรเลย     ระบบการต่อสู้ - แอ็คชั่นมันส์สะใจ แต่ AI เพื่อนร่วมทีมยังต้องปรับปรุง สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากใน Star Ocean 5 ก็คือระบบการต่อสู้ครับ เกมเพลย์มันเร็ว ไดนามิก และต่อเนื่อง คือไม่มีการตัดฉากเข้าสู่ฉากต่อสู้ เจอมอนสเตอร์ปุ๊บ ก็สู้กันตรงนั้นเลย ตัวละครแต่ละตัวก็มีท่าไม้ตาย มี Special Arts มี Skills ให้เราได้ผสมผสานคอมโบ สร้างสรรค์ท่าโจมตีได้อย่างอิสระ   แต่สิ่งที่ผมรู้สึกขัดใจก็คือ AI ของเพื่อนร่วมทีม มันค่อนข้าง "งี่เง่า" ครับ ชอบวิ่งเข้าไปหาเรื่องมอนสเตอร์ แล้วก็ตาย ไม่ค่อยช่วยซัพพอร์ตเราเท่าไหร่ บางทีก็ยืนเฉยๆ ให้มอนสเตอร์ตีเล่น คือแบบ เอ่อ... ช่วยสู้หน่อยได้ไหม (ฮา)   ระบบ Private Actions - มีไว้ "ประดับ" มากกว่า "ใช้งาน" ในเกมนี้ จะมีระบบ Private Actions ให้เราได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม พูดคุย ทำความรู้จัก สร้างความสนิทสนม ซึ่งถ้าเราเลือกตอบคำถามถูกใจ ก็จะทำให้ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น   แต่เอาจริงๆ ผมว่าระบบนี้มัน "ไม่มีผลอะไรมาก" กับเนื้อเรื่องหลัก คือต่อให้เราสนิทกับตัวละครแค่ไหน เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเหมือนเดิม ไม่มีฉากจบที่แตกต่าง ไม่มีอีเวนท์พิเศษ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งผมว่ามันน่าเสียดายมาก เพราะระบบ Private Actions มีศักยภาพที่จะทำให้เกมมีความน่าเล่น มีความหลากหลาย และมีความลึกซึ้งมากขึ้น     สรุป - เกมดี แต่ไม่สุด แฟนๆ อาจผิดหวัง โดยรวมแล้ว Star Ocean 5: Integrity and Faithlessness เป็นเกมที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันอาจจะไม่ใช่เกมที่แย่ แต่ก็ไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยม ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์นี้ ผมว่าคุณอาจจะ "ผิดหวัง" กับภาคนี้สักหน่อย เพราะมันไม่ได้พัฒนาไปจากภาคก่อนๆ มากนัก แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ทั่วไป ที่อยากลองเล่นเกม JRPG สนุกๆ สักเกม ผมว่าเกมนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ "พอใช้ได้" ครับ   คะแนน - 6.8/10   เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !