TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Star and Sky” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
รีวิวเพลง "ท้องฟ้ากับแสงดาว (Star&Sky)" จากเสียงเพราะ ๆ "หลุยส์ ธณวิน" เพลงประกอบซีรีส์ "Star & Sky : แล้วแต่ดาว | ขั้วฟ้าของผม"
ฟังเพลงจากเสียงเพราะ ๆ ของ "หลุยส์ ธณวิน ธีรโพสุการ" มาแล้วหลายเพลง ทำให้พูดได้ว่าชอบเสียงนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินจากเพลง "ข้าง ๆ" ที่ได้ยินผ่าน ๆ จากที่คนอื่นฟังอยู่ จนต้องหาฟังเอง จนได้รู้ว่าเป็นเพลงประกอบซีรีส์ "ปลาบนฟ้า Fish upon the sky" ที่ร้องโดย "หลุยส์ ธณวิน" ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงนำด้วย เริ่มแรกที่ชอบก็คือน้ำเสียงนุ่ม ๆ ที่มีความหวานละมุนอย่างมีสไตล์ มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ฟังแล้วก็อยากจะวนกลับมาฟังอีก และแน่นอนว่าทำให้ต้องตามฟังเพลงอื่น ๆ และไม่พลาดเพลงใหม่ที่ออกมา ซึ่งก็คือเพลง "ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)" เพลงประกอบซีรีส์ “Star Sky : แล้วแต่ดาว | ขั้วฟ้าของผม” ทางช่อง GMMTV "หลุยส์ ธณวิน" มีความสามารถทั้งการร้อง การเต้น เล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงใช้ความสามารถที่มีทดสอบความสามารถของตัวเอง กระทั่งได้เป็นศิลปินค่าย "Mello me" มีผลงานเพลง "สอน (Teach me)" และเมื่อเข้าร่วมออดิชั่นกับ "GMM Grammy" โปรเจค "BRAVO! BOYS" ก็ได้เป็น 1 ใน 8 ของโปรเจคนี้ จากนั้นมีผลงานซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวอาหารไทย "นางสาวก้นครัว" ในบท "จอม" ผู้ช่วยพ่อครัวที่เก่งเรื่องชิม และรักรุ่นพี่อย่าง "พี่แต๋ว" (กิ้บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์) ตั้งแต่แรกพบ เป็นหนุ่มน้อยกับความรักน่ารัก ๆ ที่สดใสมาก ๆ จากนั้น "หลุยส์" มีแฟน ๆ ติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ จากบท “มีน” ในซีรีส์ “ปลาบนฟ้า” ที่ “หลุยส์” ร้องเพลง"ข้าง ๆ" ประกอบซีรีส์เรื่องนี้ด้วย และเพลง "ข้าง ๆ" ก็เป็นเพลงหนึ่งที่เหล่านักแสดงนำ ปอนด์ ณราวิชญ์, ภูวินทร์, นีโอ ตรัย และ หลุยส์ ธณวินได้นำมาร้องและเต้น ในคอนเสิร์ต "FISH UPON THE SKY LIVE FAN MEETING วันที่ปลาเต็มฟ้า" ซึ่งท่าเต้น "ปลาบนฟ้า" ของทั้ง 4 หนุ่ม เป็นที่ประทับใจแฟน ๆ และเราก็ได้เห็นสไตล์การร้องเพลง "ข้าง ๆ" ของ "หลุยส์" ที่แตกต่างไปจากเดิม ผลงานการแสดงเรื่องใหม่ของ "หลุยส์" ที่ใกล้จะเปิดกล้อง คือซีรีส์เรื่อง "คาธ" ทาง GMMTV แต่แล้วระหว่างนี้ เราก็ไม่ต้องรอกันนานเกินไปที่จะได้เห็นผลงานของ "หลุยส์" เพราะหลังจากที่เข้าไปเป็นสมาชิก "SAFE HOUSE บ้านลับจับ LIVE SEASON 3" ให้ได้เห็นความสามารถ ความน่ารัก ความฮา ของหลุยส์กันแล้ว "หลุยส์" ก็ได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ “Star Sky : แล้วแต่ดาว | ขั้วฟ้าของผม” ซึ่งซิงเกิลเพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” ออกมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2022 ได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งติดอันดับ 6 มาแรงใน YouTube ด้วย เพลงถูกปล่อยออกก่อนวันที่ซีรีส์ Ep.4 ออกอากาศ แต่ในซีรีส์ Ep. 1-3 นอกจากเพลง "แล้วแต่ดาว (My Starlight)" ที่ "จุง อาเชน ไอย์ดึน" ร้องไว้เพราะมาก ๆ เราก็จะได้ฟังเพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” ในช่วง End Credit ถ้าใครที่เป็นแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของ "หลุยส์" อยู่แล้ว ก็จะจำเสียงได้ทันที เพราะน้ำเสียงของ "หลุยส์" มีเอกลักษณ์ เมื่อเพลงนี้ถูกนำมาทำเป็นมิวสิควิดีโอ ก็เรียกได้ว่าเป็นเพลงธีมหลักของซีรีส์ "StarSky" เพราะได้เล่าเรื่องราวความรักของเรื่อง "แล้วแต่ดาว" และ "ขั้วฟ้าของผม" ไปพร้อม ๆ กัน เหมือนเราได้ดูเรื่องย่อของซีรีส์ ผ่านบทเพลงที่มีน้ำเสียงเพราะ ๆ ของ "หลุยส์" ให้ฟังกันhttps://www.youtube.com/watch?v=q1ED0Ty8X_o เรื่องราวใน MV เพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” เป็นการสลับภาพระหว่าง "หลุยส์" ที่ร้องเพลง กับเหตุการณ์ในซีรีส์ ซึ่งถูกตัดมาเป็นช่วงที่น่าประทับใจของ "คาบคลื่น" (จุง อาเชน ไอย์ดึน) กับ "ดาวเหนือ" (ดัง ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ) จากเรื่อง "แล้วแต่ดาว" และ "ขั้วฟ้า" (เมฆ จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์) กับ "ปริ้นซ์" (มาร์ค จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์) จากเรื่อง "ขั้วฟ้าของผม" ซึ่งหลาย ๆ ฉากใน MV จาก "แล้วแต่ดาว" เราได้ดูกันแล้ว แต่เพราะ MV ถูกปล่อยออกมาหลังจากจบ Ep3. จึงทำให้เราได้เห็นฉาก ๆ อื่น ที่ยังไม่ได้ออกอากาศของทั้งสองเรื่อง โดยเฉพาะฉากซึ้ง ๆ ในตอนท้าย ที่เชื่อว่าทุกคนคงอยากจะดูให้จบฉาก เช่นเดียวกับเราแน่ ๆ แต่ภาพใน MV ตัดจบไปซะก่อน...เสียดายกันเลยทีเดียว^^เพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” เป็นผลงานภายใต้การดูแลของ “บอย สมภพ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เราฟังเพลงของเขาอยู่เสมอ ๆ ทุก ๆ บทเพลงเพราะมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงประกอบจากซีรีส์วายหลาย ๆ เรื่อง เป็นเพลงที่ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดูซีรีส์ก็ต้องหาฟัง เพราะไม่เพียงแต่จะอินไปกับซีรีส์ ท่วงทำนองและเสียงร้องนั้นก็ทำให้อินไปไปกับบทเพลงได้อย่างลึกซึ้ง "บอย สมภพ" เป็นศิลปินที่โดดเด่นในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงมาโดยตลอด และเมื่อมาเป็นเบื้องหลังให้ “หลุยส์” จึงไม่มีอะไรที่ธรรมดาเลย ผลงานที่ออกมา เต็มไปด้วยคุณภาพทั้งจากการทำงานเบื้องหลังและเบื้องหน้าที่เราได้ฟังเพลงกัน ซึ่งเพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” ในฐานะคนฟังเพลงที่ไม่ได้ติดตามซีรีส์ก็ฟังได้ไพเพราะไปตามเนื้อหาและอารมณ์เพลง แต่ถ้าได้ติดตามซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ก็จะยิ่งได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น เพราะเนื้อเพลงถูกร้อยเรียงมาจากเรื่องราวในซีรีส์นั่นเองเนื้อเพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” กล่าวถึงความรู้สึกของคนที่แอบชอบกัน และให้กำลังใจกันว่าทุกคนต่างก็มีความรัก และไม่ใช่ใคร ๆ ก็จะสมหวังในความรักได้ทันที ต่างก็ต้องตามหา ต่างก็พบอุปสรรค และร้องไห้ไปกับความรักที่ไม่สมหวัง แต่ความรักก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนตามหาและเป็นความหวังอยู่เสมอ แม้จะเป็นแค่ความฝันแต่นั่นก็คือความหวัง เป็นเพลงที่สร้างพลังบวก สร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เกิดขึ้นในหัวใจของทุก ๆ คนอย่างงดงามมาก ๆ ฟังเพลงนี้เพียงไม่กี่รอบก็ติดหูในทันที ร้องคลอตามได้เลย ซึ่งเรานี่แอบร้องคลอตามเบา ๆ ไม่กล้าส่งเสียงออกมาดัง ๆ เพราะรับรองเลยว่าเสียงหลงไปทางไหนไม่รู้ เพลงนี้เป็นเพลงที่เนื้อหาของเพลงเข้าใจง่าย ด้วยท่วงทำนองของเพลงฟังสบาย ๆ แต่การร้องของ "หลุยส์" ไม่ง่ายเลย วิธีการร้องเต็มไปด้วยเทคนิคของการใช้โทนเสียงสูง เสียงต่ำ ด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ ละมุน ๆ ของ “หลุยส์” สามารถถ่ายทอดเพลงรักลึกซึ้งออกมาได้อย่างอบอุ่น ทั้งจากความรักของ "คาบคลื่น-ดาวเหนือ" และ “ขั้วฟ้า-ปริ้นซ์” ที่แม้วาเส้นทางความรักจะแตกต่างกัน แต่ด้วยความรู้สึก “รัก” ต่างก็รู้สึกเช่นกันว่า ไม่ว่าเส้นทางความรักจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน แต่ก็พร้อมที่จะฝ่าฟันไป เพราะ...เธอจะมีฉันที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ...ซึ่งท่อนที่เราชอบมากที่สุด คือ "...หากว่าเธอคือทะเล ฉันจะเป็นดั่งพื้นทราย หากว่าเธอคือท้องฟ้า ขอให้ฉันเป็นแสงดาวเหนือที่นำทาง ให้หัวใจเธออยู่ข้างกัน ดั่งท้องฟ้ากับแสงดาว..." ที่ไม่ได้บอกความหมายเพียงคู่รักที่มีความรักต่อกัน แต่ยังหมายรวมถึงความรักระหว่างพี่น้อง "ขั้วฟ้า-ดาวเหนือ" ที่จะดูแลกันและกันตลอดไป เป็นเพลงที่มีเนื้อร้องที่ผสมผสานกับท่วงทำนองได้อย่างลงตัว และแน่นอนว่า "หลุยส์" ร้องเพลงนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ ภาพที่ออกมาให้ชมกัน ใน MV เพลง “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” เปิดภาพมุมกว้างได้อย่างสวยงามมาก ๆ เป็นการเปิดภาพ 2 สถานที่ เพื่อซีรีส์ 2 เรื่อง เปิดสถานที่แรก "ทะเล" พร้อมด้วยเสียงเปียโนเพราะ ๆ เพื่อสื่อถึงซีรีส์ "แล้วแต่ดาว" และเปิดอีกสถานที่ "ภูเขา" เพื่อสื่อถึงซีรีส์ "ชั้วฟ้าของผม" สไตล์การแต่งตัวของ "หลุยส์" ใน MV ได้แบ่งเป็นสองโทนสี ในเรื่อง "แล้วแต่ดาว" อยู่ในชุดโทนสีฟ้า-ขาว เสื้อสเวตเตอร์สีฟ้า สวมเสื้อคอปกไว้ข้างใน กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ ส่วนอีกชุดหนึ่งเป็นโทนสีน้ำตาล เสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลเข้ม กับเสื้อกันหนาวแขนกุดสีอ่อน ๆ กับกางเกงผ้าสีอ่อน ๆ ซึ่งเป็นสีโทนเดียวกับโปสเตอร์ของซีรีส์ บรรยากาศในภาพเหมือนอยู่เมืองหนาว แต่สำหรับการแต่งตัวสไตล์นี้ ช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยท่ามกลางสายลมแสงแดด ระหว่างการถ่ายทำคงจะร้อนน่าดู แต่ภาพที่ออกมาสวยมาก ๆ "หลุยส์" ร้องเพลง ยิ้มสดใส และภาพฉากหลังที่เป็นท้องฟ้า ทะเล ภูเขา สวยงามจับใจ บทเพลง และ MV “ท้องฟ้ากับแสงดาว (StarSky)” เป็นเพลงที่ให้ความสุขกับคนฟังอย่างเราทั้งจากบทเพลงที่ไพเราะ ภาพธรรมชาติที่สวยงาม ภาพความประทับใจจากซีรีส์ และได้สัมผัสถึงความสดใสของ "หลุยส์" เจ้าของเสียงเพลงเพราะ ๆ นี้ ที่มีให้เห็นตลอดเวลา ที่ผ่านมา เราเห็น "หลุยซ์" กับความตั้งใจในทุก ๆ ผลงานมาตลอด เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่เราได้เห็นถึงความตั้งใจนั้น และแน่นอนว่า เรารอฟังเพลงต่อ ๆ ไป และรอติดตามทุก ๆ ผลงานของ "หลุยส์" รวมทั้งซีรีส์เรื่อง "คาธ" ที่อีกไม่นานจะได้ชม ติดตาม "หลุยส์ ธณวิน"IG :: Louis_thanawinTwitter :: Louis_thanawin ขอบคุณภาพประกอบจาก IG :: Louis_thanawin, GMMTV ภาพปก ภาพที่1-3 ภาพประกอบ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3-4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6 ภาพที่ 7 ภาพที่ 8-9 ภาพที่ 10 ภาพที่ 11 ภาพที่ 12YouTube : GMMTV RECORDS จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
ฉันท์ชมา • 6 พ.ค. 65
อ่าน
เตรียมตัวและชวนดู STAR WARS: RISE OF SKYWALKER (สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์)
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายๆท่านต้องรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ STAR WARS หรือ สตาร์ วอร์ส กันมาบ้างใช่ไหมล่ะครับ ถึงแม้อาจจะไม่ได้รู้จักโดยเฉพาะเจาะจงแต่ผมเชื่อว่า หากได้ยินชื่อของ STAR WARS แล้วละก็จะต้องนึกถึง เจได หรือผู้ที่มีอาวุธเป็นดาบที่มีไฟเหมือนหลอดไฟนีออนบ้านเรา ซึ่งสามารถเรียกได้ว่า Lightsaber หรือในภาษาไทยเรียกว่า กระบี่แสงนั้นเอง ซึ่งบอกได้เลยว่าเจ้า Lightsaber หรือกระบี่แสงนี่เนี่ย เป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับแฟรนไซส์หนังดังตลอดกาลที่การันตีกันมาอย่างรุ่นสู่รุ่นกันมากับ STAR WARS อย่างแน่นอนครับ!Photo: Pixabay ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าในบทความนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงเฉพาะเจาะจงว่า เจ้า Lightsaber หรือกระบี่แสงคืออะไรกัน เพราะทุกท่านรู้หรือไม่ครับว่า แท้จริงแล้ว STAR WARS มีอะไรมากกว่าแค่เจ้า Light Saber และเจไดมากนะครับ! โดยในบทความนี้จะเน้นไปที่ความรู้เกี่ยวกับ STAR WARS เบื้องต้น และชวนไปดู STAR WARS: The Rise of Skywalker (กำเนิดใหม่สกายวอร์คเกอร์)ที่กำลังจะฉายในโรงภาพยนตร์ในเร็วๆนี้ โดยมีกำหนดฉายเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ครับ โดยแฟรนไชส์ส่วนมากของ STAR WARS จะมีตารางฉายในช่วงเดือน ธันวาคม อยู่แล้วครับผม Photo: IMDB STAR WARS มีประวัติกันมาอย่างยาวนานโดยกำเนิดขึ้นจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า George Walton Lucas หรือ จอร์จ ลูคัส ครับ โดยเดิมทีแล้วนั้น แฟรนไชส์ STAR WARS ถูกสร้างขึ้นมาภาคแรกหรือครั้งแรกเมื่อปี คริสต์ศักราช 1977 หรือปี พุทธศักราช 2520 กันเลยทีเดียวครับ โดยภาคแรกของแฟรนไชส์เรื่องนี้นั้น ถูกเริ่มโดยนับว่าเป็น ภาคที่ 4 ของหนังแฟรนไชส์ STAR WARS เพราะผู้สร้างได้ให้เหตุผลไว้ว่า ในปีนั้นเทคโนโลยีของยุคสมัยนั้น ไม่สามารถที่จะสร้างภาค 1 2 3 ได้ จึงจำเป็นที่จะขอสร้าง ภาค 4 ก่อนครับ โดยรายได้เป็นไปได้ด้วยดีครับ จนในที่สุด ปี 1980 จึงได้มี STAR WARS ภาคที่ 5 ออกมาทันทีครับผม และภาคที่ 5 นี้ยังถูกยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดของภาพยนตร์แฟรนไชส์ดังของ STAR WARS กันเลยทีเดียวครับPhoto: Pixabay โดยเนื้อเรื่องหลักของ STAR WARS ในช่วงแรกจะเน้นไปที่เกี่ยวกับการเมือง การคอร์รัปชันต่างๆ และเป็นเรื่องของ ด้านสว่าง และด้านมืด ครับ ด้านสว่าง หากให้อธิบายสั้นๆง่ายๆก็คือ เจได ที่เป็นฝ่ายคนดี ซึ่งด้านมืดหมายถึง ซิธ เป็นเหมือนเช่นเดียวกับเจได มีพลังและสามารถใช้กระบี่แสงได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า เจไดสามารถได้รับพลังมาจากการฝึกที่ตั้งมั่นและมีสมาธิ แต่ซิธกลับได้พลังเหล่านั้นมาด้วยความโกรธและเกลียดแค้นครับ แต่หากถามว่าพลังด้านใดมากหรือเยอะกว่ากันแล้ว.....ผมคงตอบได้เป็นกลางๆว่า เก่งกันในคนละรูปแบบครับผมRise of Skywalker คืออะไร? ต้องขอบอกแบบนี้ไว้ก่อนเลยนะครับว่าคำว่า Skywalker เป็นชื่อนามสกุลของเจไดคนหนึ่งที่มีพลังมหาศาลและเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายอย่างมากในยุคที่เกิดสงครามขึ้นนั่นเอง แล้วทำไมภาคนี้ถึงมีชื่อว่า Rise of Skywalker หรือกำเนิดใหม่สกายวอร์คเกอร์ ผมว่า....ท่านผู้อ่านทุกท่านต้องไปติดตามกันเองในตัวของภาพยนตร์กันเองแล้วล่ะครับ ผมค่อนข้างที่จะรับรองได้เลยว่าผู้รับชมที่เป็นแฟนเดนตายของ STAR WARS ต้องมีร้อง ว้าว และกรี๊ดกันออกมาอย่างแน่นอนครับผมแล้วแบบนี้ไม่รู้จัก STAR WARS มาก่อนเลยจะสามารถดูได้ไหมเนี่ย? ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ ดูได้และสามารถดูได้อย่างสนุกแน่นอนครับ สำหรับคนที่มาดูเพราะความบันเทิง เช่น ไม่มีอะไรดู อยากดูหนังฟอร์มยักษ์ ก็จัดไปครับ แต่ถ้าหากว่า ไม่เคยดู STAR WARS มาก่อนเลย แล้วจู่ๆจะมาดูภาคนี้แล้วหวังจะมาดูรู้เรื่องผมว่า คงเป็นไปได้ยากครับผม ยังไงก็ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ การเป็นไปเป็นมาของตัวละครกันมาเบื้องต้นก็ดีครับผม เพราะโดยรวมแล้ว STAR WARS ภาคนี้เป็น ภาคที่ 9 และถือเป็นภาคสุดท้ายของ Saga นี้แล้วครับ ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนรับชมจะช่วยได้มากเลยครับผมPhoto: Pixabay เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ข้อมูลเบื้องต้นที่ผมนำมาให้ท่านผู้อ่านพอหอมปากหอมคอสำหรับภาพยนตร์ STAR WARS ผมก็หวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะได้รับความบันเทิงและข้อมูลความรู้ที่ผมนำมาฝากนะครับ สำหรับวันนี้กระผมขอลาไปก่อนครับ ขอบคุณและสวัสดีครับ
MZ • 2 ม.ค. 63
อ่าน
งานออกแบบเครื่องบินสุดล้ำ “Sky OV” แรงบันดาลใจจาก “Star Wars”
ไม่แน่ว่าหน้าตาของเครื่องบินโดยสารในอนาคต อาจจะไม่ใช่แบบที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ เมื่อมีนักออกแบบชาวบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ที่ได้นำเสนอผลงานดิไซน์เครื่องบินโดยสารสุดล้ำในชื่อว่าสกาย โอวี (Sky OV)ที่เคลมว่ามาพร้อมความสามารถในการบินเร็วเหนือเสียง พร้อมรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนกับหลุดมาจากภาพยนตร์ดังสตาร์ วอร์ส (Star Wars)ภาพจาก Oscar Vialsนักออกแบบที่ใช้ชื่อบนแพลตฟอร์มยูทูบว่าออสการ์ วีเนียลส์ (Oscar Vials)ได้เผยโฉมผลงานออกแบบที่หวังว่าจะเป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางเชิงพาณิชย์รุ่นต่อไป ที่ใช้พลังงานสะอาด ไม่ปล่อยมลพิษสู่โลกในส่วนของรูปลักษณ์เครื่องบินลำนี้ จะแตกต่างจากเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปโดยจะมีหน้าตาคล้ายกับยานอวกาศ ส่วนตัวปีกทั้งสองข้างสามารถยืดหดได้ ควบคุมการทำงานด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ เอไอ (AI) สั่งปรับให้รับการไหลเวียนของอากาศ ส่วนภายในตกแต่งกว้างขวาง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ค่อนข้างหรูหราภาพจาก Oscar Vialsในขณะที่เครื่องยนต์จะใช้เป็นระบบแบบไร้ใบพัด ช่วยลดเสียงรบกวนในการบิน ส่งแรงผลักได้มากกว่า โดยเคลมว่าใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ทขนาดเล็กถึงร้อยละ 50 และใช้พลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในการขับเคลื่อน ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสเปกของเครื่องบินลำนี้ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 300 คน รองรับน้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 70 ตัน เดินทางด้วยความเร็วแบบบินล่องที่ 1.2 มัค หรือประมาณ 1,480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 1.5 มัค หรือประมาณ 1,830 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยระยะทางบินสูงสุดที่ 16,600 กิโลเมตรภาพจาก Oscar Vialsอย่างไรก็ตามตอนนี้ สกาย โอวี (Sky OV) ก็ยังเป็นแค่ผลงานออกแบบเท่านั้นแต่ทางผู้ออกแบบก็หวังว่าแนวคิดที่เขานำเสนอนี้ สามารถต่อยอดไปใช้งานได้จริง และเชื่อว่าถ้าทำได้สำเร็จก็อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับเครื่องบินโดยสารพาณิชย์แบบใหม่ ที่ออกมาตอบโจทย์การเดินทางที่ทั้งรวดเร็วฉับไว และได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในหนังไซไฟล้ำ ๆ ไปด้วยข้อมูลจากthe-sun, lifestyleasia, travelandleisureasia, behance
TNN ช่อง16 • 9 พ.ย. 66
อ่าน
รีวิว Star Wars: The Rise of Skywalker "กำเนิดใหม่สายเลือดตระกูลล่องนภา"
แฟนเซอร์วิสเยอะเกินไปจนเนื้อหาเละบทสรุปสุดท้ายของไตรภาคใหม่ภายใต้การนำของดิสนี่ย์ และเป็นการกลับมาคุมบังเหียนเป็นผู้กำกับอีกครั้งของ เจ.เจ เอบรามส์ อีกด้วยแต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ได้รับหลังออกจากโรงกลับกลายเป็นว่ารู้สึกเฉย ๆ ต่อการปิดตำนานอันยิ่งใหญ่กว่า 40 ปีไปเสียอย่างนั้นเพราะความที่หนังอัดความ "แฟนเซอร์วิส" ที่มากไปจนกลบเรื่องราวหลักไปหมดStar Wars: The Rise of Skywalker จะย้อนกลับไปสู่ความคลาสสิคเรียบง่ายของไตรภาคออริจินัลโดยเฉพาะในส่วนของการเดินเรื่องที่เน้นเรียบ ๆ ไม่หวือหวาหรือฉีกกรอบเหมือนใน The Last Jedi เลยทำให้เรื่องราวในภาคที่ 9 นี้ค่อนข้างเพลย์เซฟอยู่ในกรอบพอสมควรซึ่งเผลอ ๆ มันเพลย์เซฟกว่าภาค The Force Awakens เสียด้วยซ้ำนอกจากความเพลย์เซฟเล่นง่ายแล้วความรวดเร็วของการเดินเรื่องในช่วงแรกถือว่าเร็วถึงเร็วมากไม่ให้ผู้ชมได้ซึมซับเนื้อหาแต่กลับตัดสลับเปลี่ยนฉากพาผู้ชมไปยังเหตุการณ์ใหม่ทันที เหมือนพยายามยัดเนื้อหาให้กับคนดูให้มากที่สุดไปให้ถึงจุดหมายเร็วที่สุดแต่ท้ายที่สุดแล้วผลของการทำแบบนั้นทำให้คนดูไม่ได้อินกับเนื้อหาที่ปูมาเลยและมันจะส่งผลให้ช่วงสุดท้ายของเรื่องดูแย่มากเข้าไปอีกแน่นอนว่าหนังเลือกที่จะตามรอยไตรภาคเก่า ๆ คงเป็นเหตุจากภาค The Last Jedi ที่แหกขนบธรรมเนียมหนังไปจนหมดทำให้มีทั้งเสียงชมและตำหนิดังนั้นการที่ผู้กำกับเลือกที่จะหันไปสู่ความดั้งเดิมของมันก็ต้องพบกับความจืดชืดของเนื้อหาแต่ถึงอย่างนั้นผู้กำกับก็เพิ่มสีสันด้วยการยกทัพฉากเซอร์วิสมาให้แฟน ๆ เยอะมากทีเดียวมี Easter Egg หรือตัวละครลับโผล่มาเยอะมากเชื่อได้เลยว่าแฟน ๆ ต้องฟินแน่นอนจริงอยู่การใส่ฉากแฟนเซอร์วิสเป็นสิ่งที่ทำให้สาวกตื่นตาตื่นใจหากแต่ความ "เยอะ" ที่มากไปก็ทำให้ตัวหนังดูล้นเกินพอดีและหาจุดลงตัวไม่ได้หนำซ้ำบรรดาฉากที่ว่ามากลับสอดแทรกอย่างจงใจไม่มีการอารัมภบทหรือการบิ้วท์อัพก่อน ทำให้เวลาเห็นฉากดังกล่าวไม่รู้สึกอินไปกับมันเท่าที่ควร (บางฉากก็ทำได้ว้าวจริง ๆ อยู่นะ) เหมือนกับพยายามเอาใจสาวกจนเกินพอดีทำให้มันกลบเนื้อหาหนังไปหมดความที่ยัดเนื้อหาโดยไม่มีการบิ้วท์มาก่อนแบบนี้มันก็ทำให้การคลี่คลายปมประเด็นที่ผูกไว้ตั้งแต่ภาคที่ 7 ด้วยครับซึ่งในภาคที่ 9 ก็เฉลยออกมาแต่ไม่ทำให้รู้สึกอึ้งหรือตกใจอะไรแถมยังรู้สึกถึงความ "แถ" ของผู้กำกับอีกด้วยแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ!บาดแผลของ Star Wars: The Rise of Skywalker ยังไม่หมดแค่นี้ยังมีในส่วนของการชูตัวละครหลักอย่าง เรย์ ที่เก่งเทพผิดหูผิดตาจากสองภาคก่อนลิบลับเลยทำให้ไม่น่ารู้สึกเอาใจช่วยนางเท่าไหร่รวมถึงการกระทำแบบแปลก ๆ ไร้เหตุผลหรือการนำตัวละครเก่า ๆ บางตัวกลับมาไม่สมศักดิ์ศรีเป็นเพราะขาดการอธิบายที่ดีก็ยิ่งทำให้ตัวละครนั้นดูไม่ทรงพลังเท่าเมื่อก่อนทำให้น่าเสียดายเสียของอย่างยิ่งอย่างไรก็ดีครับแม้จะมีข้อเสียให้สับเยอะแต่ข้อดีของภาคนี้ก็อยู่ที่นักแสดงหลักอย่าง เดซี่ ริดลี่ย์ กับ อดัม ไดรเวอร์ ที่รับบทเป็น เรย์ กับ ไคโล เรน (เบน) ล่ะครับทั้งสองเคมีเข้ากันลงตัวการแสดงออกทางสีหน้าแววตาโดยที่ไม่พูดอะไรสามารถสื่อให้คนดูเข้าใจได้ว่าทั้งสองคิดอย่างไร ใครที่เป็นคู่จิ้น Reylo แล้วล่ะก็มีหลายฉากให้ฟินหนักมากครับStar Wars: The Rise of Skywalker มันก็ยังเป็นหนังที่สาวกต้องตามเก็บต้องดูให้ได้ ตัวหนังอุดมไปด้วยฉากแฟนเซอร์วิสอันมหาศาล การเล่าเรื่องที่เพลย์เซฟเล่นง่าย ๆ ตามสไตล์ดิสนี่ย์และขนบธรรมเนียมเดิม ฉากแอ็คชั่นจัดหนักกว่าทุกภาคทั้งดวลดาบไลท์เซเบอร์หรือขับยานอวกาศไล่ยิงมีให้หมดไม่มีกั๊ก หากดูเพลิน ๆ เอาบันเทิงไม่คิดอะไรก็พอได้ครับ ทว่านี่คือหนังเพื่อปิดฉากตำนานอันยิ่งใหญ่ 40 กว่าปีถ้าหากหนังมีเวลาอธิบายค่อย ๆ เล่าเรื่องและไม่ยัดเยียดฉากเซอร์วิสมากไปก็คงจะดีกว่านี้แต่ส่วนตัวแล้วมันยังทำหน้าที่ของมันได้ไม่ดีเลย6.5/10 (C+ Rank)ที่มารูปภาพ: https://www.starwars.com/films/star-wars-episode-ix-the-rise-of-skywalker#StarWarsTheRiseofSkywalker
AZM_TH • 10 ม.ค. 63
อ่าน
ลำดับการชม STAR WARS ก่อนชม STAR WARS: THE RISE OF SKYWALKER! (STAR WARS TIMELINE)
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน จากบทความที่แล้วที่ผมได้พูดถึงเรื่องที่เป็น Basic หรือพื้นฐานเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง STAR WARS ไว้นะครับ และผมยังได้บอกไว้ว่าผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง STAR WARS อย่าง จอร์จ ลูคัส ได้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้โดยการเรียงลำดับในรูปแบบของภาคที่ Star Wars: A New Hope 4 (1977) ต่อมาคือ Star Wars: The Empire Strikes Back 5 (1980) Star Wars: Return of the Jedi 6 (1983) และหลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 10 กว่าปี จอร์จ ลูคัสจึงได้ฤกษ์ของการปล่อยหนังภาคที่ 1 ออกมาครับ โดยใช้ชื่อภาคว่า Star Wars: The Phantom Menace ในปี 1999 ซึ่งนับเป็นภาคที่ 1 ของแฟรนไชส์หนังดังอย่าง STAR WARS ครับPhoto: Pixabay โดยก่อนอื่นเลยผมจะขอบอกลำดับเวลาของการสร้างในแต่ละภาคก่อนนะครับว่า ภาคใดถูกสร้างขึ้นมาก่อนภาคใดบ้างนะครับ หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในจักรวาลภาพยนตร์ของ STAR WARS นะครับผ ลำดับของการสร้างภาพยนตร์ STAR WARSStar Wars: A New Hope (1977)Star Wars: The Empire Strikes Back (1980)Star Wars: Return of the Jedi (1983)Star Wars: The Phantom Menace (1999)Star Wars: Attack of the Clones (2002)Star Wars: Revenge of the Sith (2005)Star Wars: The Clone Wars (2008)Star Wars Rebels (2014-2018)Star Wars: The Force Awakens (2015) Rogue One: A Star Wars Story (2016)Star Wars: The Last Jedi (2017)Solo: A Star Wars Story (2018)Star Wars Resistance (2018)The Mandalorian (2019)Star Wars: The Rise of Skywalker (2019) Photo: Pixabay ตอนนี้ผู้อ่านอาจเกิดความสงสัยใช่ไหมครับว่า "แล้วแบบนี้ควรจะดูตามแบบที่ภาพยนตร์ฉาย หรือว่าควรไล่ดูตั้งแต่ภาคหนึ่งดีล่ะเนี่ย?" แท้จริงแล้วท่านผู้อ่านสามารถดูได้ทั้งสองแบบเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของลำดับการสร้างภาพยนตร์ และในรูปแบบของการไล่ลำดับของภาคหนึ่งถึงภาคที่หก แต่มีผู้ที่ชื่นชอบ STAR WARS หลายๆท่านหรือที่ถูกเรียกกันว่า STAR WARS FANS จะแนะนำให้ดูโดยเรียงลำดับจากการฉายมากกว่าครับ โดยเรียงจากภาค 4-5-6 และจากนั้นจึงไปต่อที่ 1-2-3 ครับ เพราะหากดูในรูปแบบนี้ทาง STAR WARS FANS บอกว่าจะให้อารมณ์และสามารถเข้าถึงความเป็น STAR WARS ได้มากกว่าครับ... ผมขอสรุปการชม STAR WARS ไว้เป็นรูปภาพเข้าใจได้ง่ายๆดังนี้นะครับ... ดังนั้นผมจึงขอสรุปบทความนี้ได้ว่า ท่านผู้อ่านสามารถรับชมได้ทั้งใน 2 รูปแบบ ทั้งเรียงลำดับเนื้อเรื่อง (ภาค 1 - ภาค 9) หรือสามารถรับชมได้ทั้งในรูปแบบของการสร้าง (ภาค 4 - 5 - 6 แล้วจึงไปต่อที่ 1 - 2 - 3 - 7 - 8 - 9) ซึ่งหากถามตัวของผมแล้วเนี่ยดูในรูปแบบไหนดีที่สุด ผมบอกได้เลยครับว่า ทั้งสองแบบมีประสบการณ์ที่ได้รับจากการชมค่อนข้างแตกต่างกันครับ ส่วนตัวของผมรับชมจากลำดับการสร้าง มันค่อนข้างมีความเซอร์ไพรส์อยู่บ้างครับ มันเข้าถึงความเป็น STAR WARS และเข้าถึงในช่วงปีของที่เขากำลังสร้างครับ แต่หากรับชมตามลำดับเนื้อเรื่องก็สามารถเข้าใจได้โดยง่ายครับผม.... เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ข้อมูลที่ผมนำมาฝากกันวันนี้ ไม่ว่าจะรับชม STAR WARS ในรูปแบบใดก็ขอให้มีความสุขกับการรับชม STAR WARS: The Rise of Skywalker ที่กำลังฉายโรงภาพยนตร์นะครับ สำหรับวันนี้ ขอบคุณและสวัสดีครับ
MZ • 6 ม.ค. 63
อ่าน
ชวนชม Jeongnyeon: The Star Is Born (2024)
ชวนชม Jeongnyeon: The Star Is Born (2024) เหล้าเก่าในขวดใหม่ของ "คิมแทรี" ที่ใส่ใจรายละเอียดเริ่มต้นอย่างครบครันทั้งความฝันและความพยายามตามมาด้วยดราม่าขอบตาอุ่นชื้นตั้งแต่ต้น มาอีกแล้วกับงานที่ผู้เขียนไม่มีทางที่จะไม่ดูหรือปฏิเสธที่จะดูกลับกันคือต่อให้มีร้อยเหตุผลที่จะไม่ดูแต่ถ้ามีเพียงเหตุผลเดียวพอที่จะให้ดูผู้เขียนต้องดูและเหตุผลนั้นคือคิมแทรี ใช่แล้วเธอคือเหตุผลเดียวที่จะเจียดเวลาที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ยในแต่ละวันมาดูงานใหม่ของเธอที่ออกอากาศทุกคืนวันเสาร์และอาทิตย์แต่ผู้เขียนจะดูค่ำๆวันจันทร์เพราะตอนกลางคืนมักทนง่วงไม่ไหว นั่นเพราะผู้เขียนเมื่อได้แรกพบคิมแทรีใน Mr. Sunshine (2018) เป็นต้นมาก็ตามเก็บและตามดูงานของเธอทุกเรื่องย้ำว่าทุกเรื่องที่หาดูได้ตั้งแต่ The Handmaiden (2016),1987: When The Day Comes (2017),Little Forest (2018),Space Sweepers (2021),Alienoid 1-2 (2022-2024) ที่เป็นงานหนัง ส่วนงานซีรีส์ตั้งแต่ Twenty Five Twenty One (2022),Revenant (2023) และเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องล่าสุดเอาแบบเกือบครบกันไป นั่นหมายความว่าผู้เขียนหลงไหลบางอย่างในตัวคิมแทรีแน่นอนส่วนสำคัญคือการแสดงของเธอที่มีพลังสะกดคนดูเสมอมาและเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นในจุดเริ่มต้นนี้ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 หลังสงครามเกาหลียุนจองนยอน (คิมแทรี) เด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับเสียงร้องเพลงดั่งสวรรค์ประทานอาศัยในเมืองมกโพกับแม่และพี่สาว แต่แม้เสียงร้องเพลงของจองนยอนจะมีความพิเศษแต่แม่ของเธอซอยองรเย (มุนโซรี) กลับห้ามไม่ให้ร้องเพลงจนกระทั่งเธอร้องเพลงในตลาดแล้วมุนอ๊กกยอง (จองอึนแช) นักแสดงละครเวทีกุกกึกที่เป็นการแสดงหญิงล้วนจากคณะแมรันกุกกึกมาได้ยินเข้าก็ประทับใจจึงให้ตั๋วกับจองนยอนให้ไปดูการแสดง หลังจากที่ได้ดูจองนยอนก็เหมือนกับถูกมนต์สะกดและกลายเป็นมีความฝันที่จะเป็นนักแสดงกุกกึกชื่อดังดั่งเช่นมุนอ๊กกยอง ทว่าปัญหาอยู่ที่แม่ผู้เข้มงวดของเธอที่พอรู้ว่าจองนยอนแอบไปฝึกการแสดงกุกกึกเพื่อออดิชันเข้าคณะแมรันก็โกรธและขังเธอไว้ จนเมื่อมุนอ๊กกยองจะกลับกรุงโซลที่จองนยอนจะไปด้วยยุนจองจา (โอกยองฮวา) ก็ทนไม่ได้ที่เห็นน้องต้องเจ็บปวดจึงแอบปล่อยน้องออกมา และที่คณะแมรันที่มีหัวหน้าคณะจอมเฮี้ยบคือคังโซบก (รามีรัน) คงไม่ง่ายที่ฝันของจองนยอนจะเป็นจริง เหล้าเก่าในขวดใหม่แต่ถูกปรุงเพิ่มอย่างกลมกล่อมก่อนบรรจุอย่างเนี้ยบด้วยการใส่รายละเอียดทั้งดราม่าและเรื่องเชิงวัฒนธรรม แรกเลยต้องชื่นชมการเขียนบทของทางเกาหลีอีกครั้งว่าเก่งจนไม่รู้จะอวยยังไงกับการช่างสรรหาเรื่องมาปรับแต่งให้อะไรที่เป็นของเก่าเล่าซ้ำกลายเป็นเหมือนใหม่ อย่างเรื่องนี้ก็คือเรื่องของการล่าฝันและแรงบันดาลใจที่ต้องฝ่าฟันไปให้ถึงที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แถมยังมีการต้องเผชิญกับสถานการณ์และคู่แข่งในฐานะเด็กฝึกที่เป็นเหมือนเรื่องราวในโรงเรียนมัธยมที่เคยเห็นในงานแนววัยรุ่นแน่นอนมีดราม่าอยู่เบื้องหลังแน่เพราะตัวละครแม่ออกตัวแรงขนาดนี้ แต่การเอาเรื่องที่เคยเห็นมาแบบนี้มาเล่าโดยที่ไม่มีสัมผัสเรื่องอื่นเลยต้องนับว่าเยี่ยมคือรู้นะว่ามันคือแนวเรื่องเดิมแต่ปรับฉากทัศน์แต่ไม่รู้สึกว่าหยิบเอามาจากเรื่องไหน แถมยังเล่าเรื่องค่อนข้างตรงไปตรงมามีซับซ้อนหน่อยๆในดราม่าที่เบื้องหลังแต่ความเจ๋งคือการเอาเรื่องเชิงวัฒนธรรมคือการเอาการแสดงโบราณที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นมาเป็นเบื้องหลังที่ดูไปก็ไม่ต่างจากลิเกบ้านเรา เมื่อเรื่องถูกประกอบจากหลายส่วนแล้วแต่ละส่วนมีความเร้าใจในตัวเองมาพร้อมรายละเอียดที่ละเมียดจึงออกมาเข้มขลัง หลักๆคือเรื่องของการเดินตามความฝันด้วยอารมณ์ประมาณจะไม่กลับหลังถ้ายังไม่ได้ดีที่ถ้าท่านอ่านเป็นทำนองก็ไม่น้อยแล้วนะอายุ แน่นอนสำหรับบางคนการมีความฝันก็เป็นเรื่องที่เยี่ยมแล้วเพราะบางคนแม้แต่ฝันยังไม่กล้า ทำให้ได้ตอนแรกที่ทรงพลังมีทุกอารมณ์ที่จะทำให้คนดูรู้สึกถึงอิ่มเอมตื้นตันขนลุกขอบตาชื้นเศร้าซึ้งและสงสัยว่าทำไมแม่จึงเป็นแบบนั้นซึ่งก็เดาไม่น่ายาก ตอนแรกจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่พลังแรงจนไม่ควรพลาดก่อนที่เมื่อมาถึงตอนที่สองเมื่อปรับเข้าสู่การเป็นเด็กฝึกที่ต้องอยู่ร่วมกับเด็กวัยเดียวกันก็ปรับมาเป็นงานแนววัยรุ่นวัยเรียนได้ดี เพราะทุกอย่างที่มีในงานแนวนี้ก็มาครบการวางตัวคู่แข่งและสถานการณ์การกลั่นแกล้งที่เคยเห็นกันมาทั้งที่รู้นะว่าตัวจองนยอนเองจะผ่านแต่ละเรื่องไปได้แต่ก็ยังไม่วายลุ้นเอาใจช่วยอยู่ดี และสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นความเข้มข้นตามแนวที่มาพร้อมกับฉากหลังเป็นของโบราณที่น่าสนใจจึงเป็นความขลัง อีกครั้งที่ "คิมแทรี" สามารถทำให้ขนแขนแสตนด์อัพได้กับการแสดงของเธอที่มาพร้อมยอดฝีมือที่รายล้อม ด้วยความที่คิมแทรีได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ค่อนข้างเลือกบทเห็นได้จากการที่ฝีมือระดับนี้แต่เครดิตผลงานกลับมีไม่มาก ดังนั้นแรกเลยคือเมื่อเห็นว่าเป็นงานใหม่ของคิมแทรีก็เชื่อไว้ก่อนได้เลยว่าบทต้องออกมาดีมีระดับคิมแทรีจึงรับงานแสดงซึ่งเมื่อมองจากสองตอนแรกที่ได้ดูโดยเฉพาะกับตอนแรกที่คิมแทรีประชันกับมุนโซรีในบทแม่อีกครั้งหลังจาก Little Forest (2018) ซึ่งบอกเลยว่าตอนแรกนั้นเป็นจุดเริ่มที่ยอดเยี่ยมมีครบทุกอารมณ์ในเวลาเพียงเท่านั้นด้วยด้วยการแสดงระดับเยี่ยมๆของทั้งสองแม้ว่าจะชัดเลยว่าเรื่องนี้มีคิมแทรีเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคิมแทรีเองยังสามารถทำให้คนดูขนลุกไปกับการแสดงของเธอได้แทบทุกซีนทุกอารมณ์โดยเฉพาะการ้องเพลงที่เชื่อเถอะว่ามันมาจากการทำงานและการฝึกฝนอย่างหนัก แล้วหลังจากนั้นมาทุกการเผชิญหน้ากันของคิมแทรีกับรามีรันก็กลายเป็นฉากที่มีพลังยังไม่รวมถึงความกะโปโลสุดเดชของคิมแทรีที่เยี่ยมจริงๆ ง่ายๆคือแค่ดูการแสดงของ "คิมแทรี" ก็คุ้มค่าสมราคาแต่ยังมีความสนุกมีเรื่องกระชากอารมณ์ให้ต้องติดตาม โดยส่วนตัวแล้วการได้ดูคิมแทรีแสดงและยังแสดงได้ในระดับนี้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วกับสองตอนเริ่มต้น แน่นอนในเนื้อหาที่เป็นแนวประโลมโลกสร้างแรงบันดาลใจไปกับความฝันที่อาจไม่ยิ่งใหญ่แต่ใหญ่พอและอาจใหญ่เกินไปสำหรับบางคนที่ไม่กล้าฝันที่เริ่มต้นแค่การอยากกมีเงินมีทองเลี้ยงปากท้องแม่และพี่ให้อยู่สบาย ก็ไม่ตางจากเนื้อเพลงของราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์เพลงนักร้องบ้านนอกที่เอาง่ายๆคือเรื่องประมาณนี้มันไม่เคยง่ายยิ่งฝันนั้นยิ่งใหญ่หนทางยิ่งลำบาก แต่เมื่อเรื่องเดินตามแนวนี้ชื่อเรื่องก็บอกโทนโท่ก็คงพอรู้ว่าบทสรุปจะออกมาแบบไหนแต่ไม่ว่ายังไงก็ยังเอาใจช่วยอยู่ดีด้วยการแสดงที่ได้ใจเต็มที่ไปแล้วโดยคิมแทรี แล้วอุปสรรคนั้นอาจจะมาจากภายในคือตัวเองบ้างหรือไม่ยังไม่อาจทราบได้แต่มาจากภายนอกคือคู่แข่งตัวเอ้มีแน่นอนแล้วเมื่อคนดูเทใจให้จองนยอนไปแล้วความสนุกความกระชากอารมณ์ที่มีจึงทำให้ไม่ว่ายังไงก็ต้องติดตาม ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3,4,5,6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram tvn_drama จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
ดูไปบ่นไป • 17 ต.ค. 67
อ่าน
5 เรื่องน่ารู้จาก A Star is Born
A Star is Born อีกหนึ่งหนังตัวเต็งที่น่าจะได้เข้าชิงออสการ์ในปี 2019 กับผลงานการกำกับ และแสดงนำครั้งแรกของแบรดลี่ย์ คูเปอร์ พร้อมด้วยการได้นักร้องสาวเสียงดี เลดี้ กาก้า มารับบทนางเอกครั้งแรก พร้อมกับเรื่องราวการเดิมตามความฝันและความรักของคนสองคน ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังมิวสิคคัล ที่น่าดูที่สุดเรื่องหนึ่งของเพลงนี้ ตั้งแต่เพลงประกอบที่แสนไพเราะ ชวนประทับใจ การแสดงแบบทุ่มสุดตัวของสองนักแสดงนำ ที่ล้วนการันตีว่า A Star is Born เป็นหนังคุณภาพที่คอหนังไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับโพสต์นี้ จึงขอหยิบยก 5 เรื่องน่ารู้ก่อนที่เราจะไปดูหนังเรื่องนี้กัน ว่ากว่าที่จะมาเป็นโปรเจ็กต์นี้ หรือกว่าที่หนังออกมาเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้เราได้ชมกันนั้น มีเบื้องหลัง มีอะไรน่าสนใจบ้าง1. A Star is Born เวอร์ชั่นนี้เป็นการรีเมคครั้งที่สาม จากหนังสุดคลาสสิกชื่อเดียวกันA Star is Born เคยถูกสร้างมาแล้วถึง 2 รอบ ด้วยกัน และในเวอร์ชั่นนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ 3 ที่ได้นักแสดงนำมากฝีมือและฝากผลงานมากมายอย่าง แบรดลี่ย์ คูเปอร์ และที่เซอร์ไพรส์มากกว่าคือ การที่ได้นักร้องสุดจี๊ดและแซ่บ อย่าง เลดี้ กาก้า มารับบทนางเอกหนังเรื่องนี้! ซึ่งเรื่องรางในภาคนี้ จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกับทั้ง 2 เรื่องก่อนหน้านี้ และด้วยความละเอียดของบท เราจะพาคุณไปพบกับบทบาทในภาคก่อนๆกันในปี 1937 ในเวอร์ชั่นกำกับ โดย วิลเลียม เอ. เวลล์แมน ได้นักแสดงนำอย่าง เฟรดริก มาร์ช และ เจเน็ต เกย์เนอร์ เนื้อหาว่าด้วย นอร์แมน เมน(มาร์ช) นักแสดงที่ใกล้ตกอับ กับเอสเธอร์ บลอดเจตต์ ( เกย์เนอร์) สาวที่มีความทะเยอทะยาน อยากเป็นนักแสดงฮอลลีวูด ซึ่งภาพยนตร์ในเวอร์ชั่นนี้ ได้เข้าชิงออสการ์ครั้งที่10 ถึง 7 สาขา และได้รับรางวัลมา 1 สาขา คือ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปลายปี 1952 ในเวอร์ชั่นการกำกับโดย จอร์จ คูเกอร์ ได้รับมอบหมายจาก ซิดนีย์ ลัฟต์ ให้นำหนังเรื่องดังกล่าวมาปัดฝุ่นทำใหม่ในเวอร์ชั่นมิวสิคัล โดยต้องมี จูดี้ การ์แลนด์ ภรรยาของลัฟต์แสดงนำ และได้ เจมส์ เมสัน มารับบทนำอีกคน เนื้อหาค่อนข้างเปลี่ยนจากเดิมเล็กน้อยจากเวอร์ชั่นก่อน โดยที่ กาแลนด์ ได้รับบทสาวที่กำลังจรัสแสง ส่วน เมสัน ได้รับบทนักแสดงที่ค่อยๆ ดับ เพราะติดการดื่มอย่างหนัก ทั้งกาแลนด์และเมสัน ได้เข้ารับรางวัลลูกโลกทองคำ และในเวอร์ชั่นนี้ ก็ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 6 สาขาด้วยกันถัดมาในปี 1976 มีแฟรงก์ เพียร์สัน กำกับการแสดง และมี คริส คริสตอฟเฟอร์สัน กับ บาร์บรา สไตรน์แซนด์ (เธอควบตำแหน่งผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ด้วย) ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ จะเน้นความโรแมนติกและดราม่าของตัวละคร ทั้งนักร้องและนักดนตรีเต็มตัว คริส คริสตอฟเฟอร์สัน รับบท ทร็อกสตาร์ ขี้เหล้าที่เมาเละลงจากเวที ชอบไปสิงอยู่กับบาร์ ที่มีตัวละครของสไตรน์แซนด์ เป็นนักร้องรับจ้าง ก่อนดาวทั้งสองดวง จะรักกันและมีชีวิตที่สวนทางกัน แม้ตะมีชื่อเดียวกันแต่ในเวอร์ชั่นนี้จะมีความต่างจากสองเวอร์ชั่น จึงไม่ถูกนับว่าเป็นการรีเมคจากสองฉบับก่อนหน้า2. เปลี่ยนมือผู้กำกับ นักแสดงหลายรอบ หว่าจะมาลงเอยที่ แบรดลี่ย์ คูเปอร์เดิมที A Star is Born เป็นโปรเจ็กต์ที่ทาง วอร์นเนอร์บราเธอร์ ตั้งใจจะทำตั้งแต่ปี 2011 โดยวางตัวผู้กำกับรุ่นเก๋าอย่างคลินต์ อีสต์วูด มามำหน้าที่สร้างสรรค์เรื่องราว พร้อมวางตัว ลีโอนาร์โด ดีคาร์ปริโอ รับบทนำคู่กับ บียอนเซ่ จนกระทั่งข่าวคราวของหนังก็เงียบหายไป พร้อมกับรายชื่อนักแสดงชายมากมายที่มีข่าวลือว่าจะมารับบทนำในหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ ทอม ครูซ , วิล สมิธ และคริสเตียน เบลล์ผ่านไปจนกระทั่งปี 2012 หนังยังหาตัวนักแสดงนำไม่ได้ พร้อมกับ บียอนเซ่ที่ต้องถอนตัว เพราะตั้งครรภ์ และสุดท้ายในปี 2015 คลิน อีสต์วู้ด ก็ต้องถอนตัวไปอีกคนเพราะเขาหันไปทำโปรเจ็กต์ Jersey Boy แทน จนกระทั่ง ทางค่ายที่พยายามหาผู้กำกับที่จะมาแทนที่อีสต์วู้ด จนไปลงเอยที่ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ ที่ตั้งใจจะกำกับหนังภายใต้นามบริษัทที่เขาเปิดร่วมกับ ทอดด์ ฟิลิปป์ ผู้กำกับจาก The Hangoverอย่าไรก็ดี แบรดลีย์ คูเปอร์ เองก็เคยผ่านการแสดงกับบทบาทสุดหินมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะ American Sniper (2014) ที่รับรางวัลออสการ์มา และตีบทแตกได้อย่างสมจริง3. ความท้าทายครั้งสำคัญ กับการควบหน้าที่แสดงนำ และกำกับครั้งแรกของ แบรดลี่ย์ คูเปอร์อย่างที่หลายๆ คนคงทราบกันดีว่า A Star is Born เป็นผลงานประเดิมการกำกับหนังครั้งแรกของ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ แถมเขายังควบตำแหน่งในการร่วมเขียนบท และแสดงนำในหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่าพอหนังที่ คูเปอร์ จะทำเป็นการรีเมคหนังคลาสสิก ขึ้นหิ้ง ก็ได้มีหลายๆ เสียงวิจารณ์เขาว่าเป็นการกล้าหาญ กล้าดีเกินไปหรือเปล่า สำหรับผู้กำกับหน้าใหม่ และด้วยอาถรรพ์หนังรีเมคที่มันช่างรุนแรงอย่างที่เราเคยเห็นหลายต่อหลายเรื่องแต่ คูเปอร์ ก็ได้ออกมาเปิดใจว่า "ผมรู้สึกอยากกำกับหนังมาตลอด เพราะหนังมีบทบาทในชีวิตช่วงวัยเด็กของผมมาก ทั้งคอยเยียวยา ปลุกพลัง สร้างแรงบันดาลใจ แต่เราเลือกหนังไม่ได้ ซึ่งผมมีมุมมองของหนังเรื่องนี้ และรู้ตัวเองว่าอยากเล่าเรื่องความรัก และผมคิดว่าน่าจะเอาดนตรีมารวมด้วยได้ เพราะไม่มีอะไรจะสื่อสารได้ดีไปกว่าการร้องเพลง เพราะเราปิดบังอะไรไม่ได้ และมันมีหลายเหตุการณ์ ทั้งภาพและเสียงที่มารวมเข้าด้วยกัน จนสุดท้ายเกิดภาพที่ทำให้ผมคิดว่า 'หนังเรื่องนี้ใช่เลย'"นอกจากการประเดิมงานกำกับครั้งแรก ใน A Star is Born คูเปอร์ ยังต้องโชว์พลังเสียงด้วยการร้องเพลงประกอบหนังด้วยตนเองอีกด้วย เขาก็ต้องไปเข้าคอร์สเรียนร้องเพลงหลายเดือน ก่อนที่จะมาเริ่มแสดงหนังเรื่องนี้ โดยคูเปอร์ ต้องไปฝึกสำเนียงคันทรี่ แบบเท็กซัสให้ดูสมจริงที่สุด4. การรับบทนางเอกครั้งแรกของ เลดี้ กาก้า กับภาพลักษณ์ที่ไม่มีใครเคยเห็นหลังจากที่ก่อนหน้านี้นักร้องเสียงทรงพลังอย่าง เลดี้ กาก้า ได้เคยเข้ามาร่วมแสดงสมทบในซีรีส์ทีวีหลายเรื่อง อย่างเช่น American Horror Story แต่สำหรับใน A Star is Born ถือว่าเป็นครั้งแรกในการรับบทนำ ในหนังใหญ่ และแน่นอนว่าพอเป็นครั้งแรกในการรับบทสำคัญ อย่างบทนางเอก ก็ทำให้เธอกังวลอยู่ไม่น้อย จนกระทั่ง คูปเปอร์ ได้ยื่นข้อเสนอ ที่จะให้เธอ มาช่วยสอนเทคนิคการร้องเพลงให้เขา และเขาจะช่วยแนะนำเทคนิค ด้านการแสดงให้เธอ จนทำให้ กาก้า ยอมตกลงที่จะรับบทนำในหนังเรื่องนี้แน่นอนว่าพอหนังเรื่องนี้มีชื่อนักร้องชื่อดังอย่าง เลดี้ กาก้า มารับบทนางเอก เราจะได้ฟังพลังเสียงอันไพเราะ และทรงพลังของเธอ พร้อมการแสดงที่ทุ่มสุดตัวแล้ว กาก้า ยังยอมลงทุนเผยใบหน้าที่แท้จริงของเธอแบบหมดเปลือกในหนังเรื่องนี้ด้วย หลายคนที่รู้จัก เลดี้ กาก้าต่างคงจะคุ้นเคยกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางแบบจัดเต็มของเธอ แต่ในบท แอลลี่ กาก้าต้องล้างเครื่องสำอางทั้งหมด เพื่อให้เธอดูเปิดเผย และเป็นธรรมชาติที่สุด ฉะนั้นในหนังเรื่องนี้คุณจะได้เห็นหน้าสดที่สุด ของนักร้องสาวคนนี้แบบที่ไม่เคยปรากฏในสื่อไหนมาก่อน5. Shallow เพลงประกอบสุดไพเราะจากสองนักแสดงนำเมื่อปี 2017 เราได้ซาบซึ้ง และและประทับใจไปกับ City of Stars จาก La La Land ในปีนี้เราจะได้ประทับใจไปกับบทเพลงจาก A Star is Born ด้วยเพลงประกอบที่รับประกันว่าเพราะทุกเพลง ด้วยการได้ เลดี้ กาก้า และ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ มาร่วมขับร้องด้วยตัวเองแบรดลี่ย์ คูเปอร์ เคยออกมาเผยถึงเบื้องหลังของเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ว่า " ตอนที่แต่งเพลงเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อหนังเรื่องนี้ ทุกเพลงเกิดขึ้นจากเสียงของแจ็คสัน จนกระทั่งเขาได้พบกับแอลลี่ ได้ตกหลุมรักกัน และเดินทางไปด้วยกัน ทั้งคู่ต่างค่อยๆ เติบโตขึ้นพร้อมๆ กัน กับวงของเขา พวกเราจึงได้สร้างเพลงเหล่านี้ขึ้นมา เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นเส้นทางของพวกเรา คุณจะเห็นทั้งเพลงที่เธอร้อง Cover เพลงของแจ็คสัน เพลงของแอลลี่และแจ็คสันที่ร้องด้วยกัน และเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น”หนึ่งในเพลงเด็ดของหนังเรื่องนี้ก็คือ Shallow เพลงที่ทั้งสองนักแสดงนำขับร้องคู่กัน โดยเหตุผลที่หนังเลือกที่จะใช้เพลงนี้เป็นเพลงโปรโมทเพราะว่าเนื้อหาของเพลงนี้เปรียบเสมือน การปลอบใจ ให้กำลังใจกันระหว่าง แอลลี่ และแจ๊คสัน ในการเดินตามความฝันของตนเอง ในเพลงนี้เราจะได้เห็นทั้งคูเปอร์ และกาก้า โชว์พลังเสียงกันอย่างเต็มที่ ด้วยทั้งเสียงร้องอันไพเราะ ความหมายของเพลงที่เปี่ยมความหมาย เชื่อว่า Shallow ได้กลายเป็นตัวเต็งในการเข้าชิงออสการ์ สาขา เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยจากสองนักแสดงนำขับร้องด้วยตัวเองลิ้งสำหรับฟังเพลง Shallowhttps://www.youtube.com/watch?v=bo_efYhYU2A Cr.ภาพประกอบ https://www.facebook.com/StarIsBornMovie/ลิ้งต้นฉบับบทความ https://www.facebook.com/pg/IWatchmoviesalot/photos/?tab=albumalbum_id=2199024826837822สามารถติดตามอ่านรีวิวหนัง และข่าวสารหนัง เพิ่มเติมได้ที่(เพจของผู้เขียน) https://www.facebook.com/IWatchmoviesalot
Poklubu • 12 เม.ย. 63
อ่าน
รีวิวซีรีส์ Jeongnyeon: The Star Is Born (2024)
Series Review Jeongnyeon: The Star Is Born (2024) แรงบันดาลใจเปี่ยมล้นบนเรื่องความฝันและการฝ่าฟันที่ถ่ายทอดได้อย่างยิ่งใหญ่โดย "คิมแทรี" และเหล่ายอดฝีมือรอบกายเธอ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! แรงบันดาลใจคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะสามารถบันดาลให้ใครหลายคนหรือบางคนทำอะไรสักอย่างอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ต่อสังคมหรือบางครั้งอาจเป็นเพียงเรื่องเล็กๆที่ไม่ได้มีผลอะไรในวงกว้างแต่มันอาจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของตัวเองนั่นก็อาจมาจากแรงบันดาลใจ แล้วแรงบันดาลใจนี่เองที่มักถูกยึดโยงกับความฝันที่สำหรับคนบางคนก็มีฝันที่ไกลที่ใหญ่พอที่จะเปลี่ยนอะไรบางอย่างแต่สำหรับบางคนก็อาจเป็นแค่เรื่องง่ายๆแต่อย่างน้อยการมีฝันที่จะทำหรือจะเป็นอะไรกระทั่งจะทำเพื่อใครก็ยังดีกว่าไม่มีความฝัน เพราะมีความฝันจึงมีแรงบันดาลใจที่จะวกกลับไปที่กล่าวมาข้างต้นแต่บางคราวสถานการณ์ในชีวิตที่เป็นอยู่อาจทำให้ความฝันที่ก่อเกิดแรงบันดาลใจถูกหลงลืมปล่อยทิ้งไว้ จึงอาจต้องมีอะไรมากระตุ้นเตือนว่าทุกคนต่างมีความฝันและเคยมีแรงบันดาลใจแต่มันถูกปล่อยทิ้งไว้ให้สนิมเกาะเกรอะกรังเต็มไปด้วยฝุ่นและสิ่งกระตุ้นนั้นอาจมาจากเพลงที่ฟังหนังที่ดูหรือละครที่ได้ติดตาม แล้วบางครั้งการมีฝันที่เริ่มจากเรื่องเล็กน้อยแต่อาจลงเอยด้วยความยิ่งใหญ่เช่นเรื่องนี้ที่เพิ่งจบลงไป ยุนจองนยอน (คิมแทรี) เด็กสาวกะโปโลจากมกโพผู้มีเสียงร้องเพลงดั่งสวรรค์บันดาลแต่ถูกแม่ (มุนโซรี) ห้ามไม้ให้ร้องเพลงอย่างน่าแปลกใจยิ่ง วันหนึ่งเสียงร้องของเธอไปเข้าหูของมุนอ๊กกยอง (จองอึนแช) เจ้าชายพระเอกแห่งคณะกุกกึกหญิงล้วนแมรันกุกกึกจนประทับใจจึงชวนจองนยอนไปดูการแสดง แล้วเมื่อได้ดูการแสดงกุกกึกที่มีทั้งการร้องการเต้นและการแสดงจองนยอนจึงเหมือนถูกมนต์สะกดจนเธอตัดสินใจที่จะไปสอบเข้าคณะแมรัน ทว่าอุปสรรคใหญ่คือแม่จองนยอนจึงหนีออกจากบ้านโดยมีความฝันเล็กที่ยิ่งใหญ่คือการกลายเป็นดวงดาวที่อยู่คนละฟากฟ้าด้วยการเป็นนักแสดงกุกกึกชั้นแนวหน้า แต่ที่คณะแมรันทางเดินนั้นไม่ง่ายเลยเพราะเด็กบ้านนอกอย่างจองนยอนต้องผ่านการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองมากมายและหนึ่งในนั้นคือคู่แข่งที่อาจมีความฝันเดียวกันคือฮอยองซอ (ชินเยอึน) แน่นอนเมื่อที่ยืนบนจุดสูงสุดย่อมมีเพียงที่เดียวอุปสรรคที่ขวางหน้าจองนยอนจึงมาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าแรงบันดาลใจของจองยอนมีมากพอที่จะไปถึงฝันหรือไม่ เหล้าเก่าในขวดใหม่ว่าด้วยเรื่องความฝันและแรงบันดาลใจผ่านบทละครที่เนียนกริบ เรื่องของการมีฝัน การล่าฝัน การฝ่าฟัน แรงบันดาลใจที่มาพร้อมความมุ่งมั่นจะเป็นหรือจะทำบางอย่างเพื่อไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดเอาจริงคือไม่รู้ว่าผ่านตามามากขนาดไหนเพราะถ้านึกย้อนไปก็นับไม่ถ้วน นั่นคือบทละครของเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่เลยก็คือเด็กบ้านนอกหนึ่งที่เข้าสู่เมืองหลวงเพื่อเป็นดารา สิ่งที่ตามมาคือเรื่องการแข่งขันการต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงที่ยืนบนจุดสูงสุดเป็นดาวจรัสฟ้าที่มีเพียงแค่ดวงเดียวซึ่งการต่อสู้นั้นจะเป็นดราม่าที่มาจากทั้งภายนอกและภายในตัวเอง แต่เรื่องแบบนี้อาจคุ้นยิ่งกว่าคุ้นก็ยังสามารถขายได้เรื่อยๆด้วยการเรียบเรียงบทให้ดีและกับเรื่องนี้มันคือการแสดงซ้อนการแสดงที่ถ้าลงลึกไปอีกคือการต่อสู้กันระหว่างพรสวรรค์และพรแสวงที่ออกมาเนียนกริบ ส่วนดราม่าซ้อนก็มาครบทุกระบวนท่าแต่สิ่งที่ทำให้สามารถดึงความสนใจได้ในความเก่าคร่ำคร่าของพล็อตคือเนื้อหาที่เล่าเรื่องของการแสดงละครเวทีกุกกึกที่คู่ควรต่อการรำลึกถึงจึงอาจต้องยอมรับว่าเข้าใจเล่น มีความเข้มข้นเร้าใจตามแนวผสานกับดราม่าในแบบเกาหลีที่มาพร้อมการขายวัฒนธรรมกลายๆ ถ้านี่คือการเอาเหล้าเก่าลงไปใส่ในขวดใหม่ที่บรรจุภัณฑ์น่าสนใจในความคลาสสิคที่ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงการแสดงลิเกบ้านเราเพราะมันดึงความสนใจได้ตั้งแต่แรกเห็นว่ามันจะออกมายังไง เพราะเหล้ามันก็คือเหล้ามันจะมีรสชาติที่กลมกล่อมหอมหวนก็ต่อเมื่อมันถูกหมักบ่มเป็นเวลานานและกับพล็อตเรื่องโบราณเช่นนี้ก็ไม่ต่างกัน รสชาติของมันจึงเป็นความเข้มข้นได้ตามแนวที่มันเป็นเพราะอย่างที่บอกถ้าทำถึงรสชาติก็จะดีและเรืองนี้เป็นแบบนั้น เพราะแรกเลยคือการมาขายของเชิงวัฒนธรรมทำให้คนดูสนใจแล้วว่าอะไรคือการแสดงกุกกึกหญิงแล้วเหตุใดเด็กบ้านนอกอย่างจองนยอนจึงต้องมนต์สะกดนั้น แล้วตามมาด้วยดราม่าในแบบเกาหลีที่ตัวร้ายจะไม่โหวกเหวกโวยวายกรี๊ดลั่นบ้านแต่ร้ายลึกมีจังหวะผ่อนหนักผ่อนเบามีบีบมีขยี้ในเวลาที่เหมาะที่ควร ทำให้ทุกอย่างในจำนวนสิบสองตอนคือการขายวัฒนธรรมที่อาจถูกลืมเล่าในแบบ K-Drama ที่เข้มข้นเร้าใจและลงตัว ฝันที่ยิ่งใหญ่อาจเริ่มต้นด้วยเรื่องเล็กๆแต่เมื่อขนาดความฝันมันใหญ่ขึ้นแค่แรงบันดาลใจที่มากล้นอาจไม่เพียงพอ เพราะเรื่องความฝันเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลไม่ควรมีใครก้าวก่ายกันในเรื่องความฝันต่อให้เป็นบุพการีก็ไม่ยกเว้น ยุนจองนยอนและฮอยองซอต่างมีฝันและมีต้นทุนสูงเพราะอยู่ในร่มเงาของแม่ผู้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในทางของตน แต่ฝันของบางคนอาจเริ่มต้นที่เรื่องเล็กๆคือการมีเงินมากพอที่จะทำให้ครอบครัวสุขสบายแต่การจะเป็นแบนั้นสิ่งที่ต้องทำต้องเดินไปอาจเป็นเรื่องใหญ่ สองคนสองคู่แข่งในเรื่องนี้ต่างก็ถูกครอบงำความฝันจากแม่เพียงแค่มันเป็นคนละมิติจองนยอนคือแม่กดไว้เพราะตัวเองเคยผิดพลาดสูญสิ้นส่วนยองซอก็คือแม่ต้องการความยิ่งใหญ่ให้เหมือนตนเองแต่มั่นมันถูกแล้วหรือ แล้วที่ยืนบนจุดสูงสุดมันมีพื้นที่จำกัดเพียงที่เดียวแค่แรงบันดาลใจที่มากอาจไม่พอเพราะสิ่งที่ฝันมันใหญ่เกินตัวสิ่งที่ต้องต่อสู้จึงอาจมาจากภายในตัวเอง เพราะในที่สุดการชนะที่แท้จริงบนเส้นทางฝันอาจไม่ใช่การชนะคู่แข่งแต่เป็นการชนะใจตัวเองด้วยการยอมรับในความสามารถของคู่แข่งที่ความจริงไม่ได้มีอะไรขุ่นข้องหมองใจกันแต่มันแค่ความฝันพาดทับกันเท่านั้นที่สื่อให้เห็นในการแสดง "ตำนานเจดีย์แฝด" ในตอนสุดท้าย การถ่ายทอดบทบาทด้วยการแสดงซ้อนการแสดงได้อย่างยิ่งใหญ่ของ "คิมแทรี" ที่ถูกรายล้อมด้วยเหล่ายอดฝีมือ ถ้านับจากการดูคิมแทรีแสดงมาทุกเรื่องยอมรับว่าแต่ละเรื่องต้องมีบทที่เลิศเป็นตัวนำแล้วการแสดงของเธอจะออกมาเป็นความยิ่งใหญ่และเรื่องนี้คิมแทรีทำได้อย่างนั้น เพราะบทยุนจองนยอนเริ้มต้นด้วยฝันเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ความซับซ้อนมากมายจึงอยู่ในตัวละครนี้ทั้งเรื่องของแม่ พรสวรรค์ และความทะนงตนบนความถ่อมตัว และเป็นการแสดงซ้อนการแสดงที่เป็นการแสดงละครเวทีที่ต้องร้องต้องเต้นที่มองเห็นคือคิมแทรีต้องทำงานหนักทำการบ้านมาอย่างดีจึงเล่นได้ชวนขนลุกแทบทุกฉากทุกซีน แค่ลำพังคิมแทรีก็ทำให้เรื่องนี้ออกมายิ่งใหญ่อลังการเชิงอารมณ์มากพอแล้วยังได้นักแสดงรอบกายระดับยอดฝีมืออย่างรามีรันและมุนโซรีมาเป็นสายลมไต้ปีกที่ยอดเยี่ยม และที่ต้องไม่ลืมคือการแสดงซ้อนการแสดงที่ไม่แน่ใจนักว่าจงใจตามหลังอยู่ก้าวหนึ่งในการแสดงกุกกึกหรือเป็นรองคิมแทรีเพราะการแสดงยังสู้คิมแทรีไม่ได้จริงๆของชินเยอึนแต่นั่นกลับทำให้มิติเชิงลึกของเรื่องออกมาเยี่ยม และแน่นอนงานด้านภาพที่ไม่หลุดเลยในการเป็นละครย้อนยุคเพลงประกอบที่ปลุกเร้าแรงบันดาลใจขับส่งอารมณ์ได้อย่างถึงใจ พล็อตอาจเหมือนพบได้ทั่วไปแต่กลายเป็นความยิ่งใหญ่เพราะสามารถปลุกเร้าแรงบันดาลใจขนลุกน้ำตาซึมได้เรื่อยๆ แม้ว่าความรู้สึกที่มีอาจต้องยอมรับว่ายังต้องการบางอย่างจากเรื่องนี้ที่บทสรุปอยู่บ้างแต่นั่นมันคือความต้องการส่วนตัวคือจบดีแต่ไม่อิ่ม ยอมรับว่าผู้เขียนไม่ได้ดูละครเกาหลีออกอากาศสดแบบดูทุกคืนที่ออกอากาศมานานแล้วเพราะส่วนใหญ่จะดูวันรุ่งขึ้นของสองตอนที่ออกอากาศเช่นถ้าออกอากาศเสาร์อาทิตย์ก็จะดูวันจันทร์สองตอน แต่เรื่องนี้ที่เริ่มต้นดีตอนกลางก็ยังดึงดูดจนต้องรอเวลาสามทุ่มของคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์เพื่อต้องรอตอนต่อไปอีกที ทั้งที่ความจริงพล็อตเรื่องแบบนี้สามารถพบเจอได้ทั่วไปกวาดตามองในแอปสตรีมมิ่งใดก็มีแต่ก็เหมือนฝันของจองนยอนที่อาจเป็นเรื่องง่ายๆธรรมดาๆแต่สุดท้ายกลายเป็นความยิ่งใหญ่ ที่ว่ายิ่งใหญ่คือการเอาวัฒนธรรมที่คู่ควรต่อการอนุรักษ์มาขายได้ดีผ่านการเป็นละครย้อนยุคที่สมบูรณ์ แล้วตลอดสิบสองตอนยอมรับเลยว่าทุกลูกเล่นที่ใส่มาสามารถปลุกเร้าแรงบันดาลใจจนขนลุกน้ำตาซึมได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6,7,8 จาก Instagram tvn_drama เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ดูไปบ่นไป • 20 พ.ย. 67
อ่าน
รีวิวซีรีส์ เฟื่องนคร(2024) City of Star The Series
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทางช่อง one31 เรื่อง เฟื่องนคร City of Star The Series ตอนละ 45 นาที มาวันแรก 2 กุมภาพันธ์ 2024 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 22:15 น. ทางช่อง ONE 31 ดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 23.15 น. บนแอป iQIYI นำแสดงโดยจ๊อบ กฤษ อหันทริก รับบท เฟื่องนคร และพอร์ช ศิฑา กาญจนอลงกรณ์ รับบท กรมท่าเป็นเรื่องราวของเฟื่องนครที่อยู่ๆ ก็สมัครเล่นแอปเซนดาย่าซึ่งเป็นแอปโซเซียลมีเดียคล้ายเฟสบุ๊ค เอ็กซ์ และอินสตาแกรม แต่ทุกอย่างที่คุณโพสต์หรือคอมเมนต์บนแอปนี้จะต้องเป็นข้อความที่ก่อให้เกิดพลังบวกเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะโดนทีมงานลบทิ้ง ด้วยความที่เป็นดาราดังทำให้พอเขาสมัครแอปนี้คนไทยก็หันมาเล่นแอปนี้มากขึ้นจนทีมงานของแอปตรวจไม่ทัน แอปนี้มีบริษัทแม่อยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ประเทศสหรัฐอเมริกาและมีทีมงานที่เป็นคนไทยเพียงคนเดียวคือกรมท่า ทำให้กรมท่าที่ลาพักร้อนยาวเพื่อกลับไทยต้องขนงานกลับมาทำด้วย เฟื่องนครยังย้ายมาอยู่บ้านข้างๆกับบ้านของกรมท่า แม่กรมท่าก็เอ็นดูเฟื่องนครมาก ถึงขนาดเรียกเป็นลูกอีกคนแถมยังให้กุญแจบ้านเฟื่องนครไว้ด้วยทำให้กรมท่าหมั่นไส้เฟื่องนครมากเพราะมาแย่งความรักจากแม่เขาไป แต่ไม่รู้ทำไมเฟื่องนครกลับพยายามเข้ามาตีสนิทกับกรมท่า ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปดูค่ะเฟื่องนครเป็นดาราตัวร้ายที่ดังมากแต่ตัวจริงกลับดูสุภาพ เรียบร้อย ดูเป็นคนมีมาดนิดๆแต่ก็ดูเข้าถึงง่ายไม่ถือตัว เป็นคนเฟรนลี่ เข้ากับคนง่าย ด้วยความที่เป็นดาราดังเวลาออกไปข้างนอกจึงต้องใส่แว่นดำตลอดไม่ให้ใครจำได้ ถ้าเผลอถอดแว่นแฟนคลับก็จะมารุมทันที เลิกเล่นโซเซียลมีเดียมานานมากแต่กลับสมัครแอปเซนดาย่า ดูพยายามเข้าหากรมท่า พยายามเข้ามาตีสนิท นักแสดงแสดงได้ดูเนี๊ยบ เท่กรมท่าเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ทำงานอยู่ฝ่ายพัฒนาแอปซานดาย่า ทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เป็นคนสดใส ร่าเริง มองโลกให่แง่ดี ดูซื่อๆ เป็นคนแบ๊วๆใสๆแต่ถ้าจริงจังขึ้นมาก็ดูเอาเรื่องอยู่ เป็นคนขี้เล่น อารมณ์ดี เป็นคนไม่คิดร้ายกับใคร ด้วยความที่แม่เอ็นดูเฟื่องนครมากจึงแอบหมั่นไส้เฟื่องนคร นักแสดงแสดงได้ดูซื่อๆ เหมือนเด็กเสื้อผ้าทำออกมาได้ดีมาก ชุดแต่ละชุดดูแล้วมีความสวยงามเหมาะสมกับฉากและเนื้อเรื่องขณะนั้น ชุดทั้งของเฟื่องนครและกรมท่ามีทั้งชุดที่ดูดีเป็นทางการใส่ออกมาแล้วหล่อมาก มีทั้งชุดสบายๆที่ก็ดูดีสุดๆ ฉากก็มีการจัดออกมาให้ดูดีสวยงาม แสงก็ทำให้ดูเหมาะกับเนื้อเรื่องพล็อตเรื่องคือเป็นเรื่องราวของตัวร้ายอันดับหนึ่งของเมืองไทยเฟื่องนครได้โหลดแอปพลิเคชั่นเซนดาย่าซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสังคมออนไลน์ที่มีกฎว่าทุกโพสต์จะต้องมีเนื้อหาแบบพลังบวกเท่านั้น คนเลยแห่กันมาเล่นจนกรมท่าที่ลาพักร้อนอยู่ต้องมาดูแลแอปนี้ กรมท่าบังเอิญไปเจอเฟื่องนครกับกรตอนที่กรอาการหอบกำเริบจึงอาสาไปซื้อยากับเฟื่องนครแต่กลับโดนแฟนคลับรุม กรมท่าจึงไปดึงเฟื่องนครออกมาทำให้แฟนคลับโพสต์ด่ากรมท่าแต่กรมท่าก็ไม่โกรธเพราะเข้าใจว่าแฟนคลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมาเฟื่องนครก็ได้ขอร้องให้กรมท่ามาดูแลตนเพราะผู้จัดการเกิดเหตุมาดูแลไม่ได้ ด้วยความที่ต้องอยู่ด้วยกันทุกวันกรมท่าจึงได้เห็นมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นของเฟื่องนครที่เป็นคนมีพลังบวกจากใจจริงๆอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกดราม่าคอมเมดี้ที่ดูเพลินและสนุกมาก เนื้อหาไม่หนักมากในตอนแรกแต่ก็อาจมีดราม่าในตอนท้ายๆก็ได้ ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก Twitter: CityofStartheseries #ซีรีส์ไทย #ซีรีส์วาย #ซีรีส์วายไทย #รีวิวซีรีส์วาย #รีวิวซีรีส์วายไทย #ซีรีส์วาย2024 #ซีรีส์วายมาใหม่ #่ซีรีส์วายone31 #one31 #เฟื่องนคร #ซีรีส์เฟื่องนคร #ซีรีส์วายiQIYI #ซีรีส์วายเฟื่องนคร #เฟื่องนครนักแสดงนำ #จ๊อบ กฤษ อหันทริก #พอร์ช ศิฑา กาญจนอลงกรณ์ #กรมท่าเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Faifun • 6 ก.พ. 67
อ่าน
ชำแหละความหมายในเพลง 'My Love Is Like a Star' ของ 'Demi Lovato'
'My Love Is Like a Star' ของ 'Demi Lovato' ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ค่อนข้างจะมีความหมายที่ดี อีกทั้งยังเป็นเพลงที่เธอใช้สื่อสารกับแฟนคลับทั่วโลกของเธออีกด้วย นอกจากนั้นยังถือเป็นเพลง RB ที่ค่อนข้างกลมกล่อมและละเมียดละไม เหมาะกับการกล่อมจิตใจของคุณในช่วงที่สถานการณ์ของโลกกำลังกระท่อนกระแท่น ดังนั้นวันนี้ผมจึงมาวิเคราะห์และเจาะเนื้อหาเพลงให้กับทุกคนครับ ภาพจาก : Demi Lovato Facebook Official The space in between us Starts to feel like the world’s apart Like I’m going crazy And you say it’s raining in your heart You’re telling me nobody’s there To dry up the flood Oh but that’s just crazy ‘Cause baby I told ya I’m here for goodท่อนแรกของเนื้อเพลงกล่าวว่า "ช่องว่างระหว่างเรามันเริ่มเหมือนอยู่กันคนละโลก ฉันรู้สึกเหมือนจะบ้าและคุณรู้สึกว่าเหมือนมีฝนตกอยู่ในหัวใจคุณ. คุณบอกกับฉันว่าไม่มีใครที่จะช่วยทำให้น้ำที่ท่วมในหัวใจมันแห้งหายไปได้ แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะฉันนี่แหละจะเยียวยาคุณเอง"สำหรับท่อนนี้นั้นเป็นเดมี่พยายามสื่อสารถึงสภาวะหัวใจของคนคนหนึ่งซึ่งกำลังบอบช้ำกับรักที่อยู่ทางไกล คนคนนั้นอาจรู้สึกว่าเขาโดดเดี่ยวและมันเกินเยียวยาที่ใครจะมาแก้ไขได้ แต่จริง ๆ แล้วเธอ (เดมี่) เชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่ทำให้เขาหายได้ My love’s like a star, yeah You can’t always see me But you know that I’m always there When you one shining Take it as mine And remember I’m always nearต่อมาในท่อนฮุคเธอกล่าวต่อว่า "ความรักของเราเปรียบเหมือนกับเหล่าดวงดาว คุณมองเห็นมันไม่ได้ตลอด แต่คุณรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่เสมอ เมื่อคุณดวงดาวดวงไหนส่องสว่าง จำไว้นะว่านั่นคือฉันที่อยู่ข้าง ๆ คุณ"ท่อนต่อมาเดมี่เปรียบเปรยความรักของเธอเป็นดวงดาว ที่ถึงแม้ว่าคุณอาจไม่เห็นดวงดาวในยามอรุณรุ่ง แต่เมื่อถึงพลบค่ำคุณจะเห็นมันได้เสมอ ซึ่งเธอต้องการสื่อสารว่า ถึงแม้ความรักระยะทางไกลมันจะทำให้ทั้งคู่ไม่เห็นหน้าค่าตากัน แต่จริง ๆ แล้วความรักมันยังคงเหมือนเดิมและอยู่ในใจเสมอ ภาพจาก : Demi Lovato Facebook Official If you see a comet Baby I’m on it Making my way back home Just follow the glow yeah It won’t be long Just know that you’re not aloneท่อนฮุคต่อมาเธอกล่าวว่า "ถ้าคุณเห็นดาวตก ที่รักฉันอยู่ในนั้น ฉันกำลังเดินทางกลับบ้าน แค่เดินตามแสงประกายของมัน มันใช้เวลาไม่นานมากหรอก แค่ให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว"ท่อนนี้เป็นท่อนที่เชื่อมโยงมาจากท่อนที่แล้ว เป็นการเปรียบเปรยว่าเธอนั้นเป็นดาวตก และการเดินทางของดาวตกนั้นมันรวดเร็วมาก ซึ่งเธอพยายามสื่อสารว่าเธอจะไปหาเขาให้ได้โดยเร็วที่สุดนั่นเอง และเดมี่ยังบอกอีกว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ตราบใดที่ยังเห็นดวงดาว โปรดจำไว้ว่าความรักที่เธอมีให้เขามันก็จะคงไว้อยู่อย่างนั้น You say that time away makes your heart grow numb But I can’t stay just to prove you wrong Oh look at how far we’ve come Don’t you know Don’t know that you’re the oneท่อนต่อมาเดมี่กล่าวว่า "คุณบอกว่าฉันอยู่ห่างจากคุณมันทำให้หัวใจคุณย่ำแย่ ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณเพื่อพิสูจน์ได้ว่ามันไม่จริง แต่ที่รักคุณลองมองย้อนไปสิว่าเราเดินทางกันมาไกลแค่ไหน และคุณไม่รู้เหรอว่าคุณคือคนเดียวในหัวใจของฉัน"ท่อนนี้เดมี่พยายามสื่อสารถึงเขาว่า ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันอาจทำให้จิตใจของเขาแย่ลง แต่ถ้ามองย้อนถึงเส้นทางรักของเธอและเขา ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคมามากมาย เรื่องระยะเส้นทางมันเป็นเรื่องที่อาจยาก แต่มันก็ไม่มีทางที่จะทำให้ทั้งคู่เลิกกันได้ เดมี่ยังคงย้ำอีกว่าเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในหัวใจเธอภาพจาก : Demi Lovato Facebook Official จากเนื้อหาเพลงทั้งหมดนั้นสรุปได้ว่าเดมี่ต้องการกล่าวถึงความรักทางไกล ที่ต้องยอมรับว่าทุกคู่อาจเกิดการสั่นคลอนในความรัก แต่ตราบใดที่ทั้งสองคนยังไว้เนื้อเชื่อใจและมั่นคงในคนรัก ระยะทางนั้นก็ไม่สามารถมาพรากให้ทั้งคู่แยกกันได้ เพราะถ้าเรามั่นคงเราจะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้ว คุณอยู่ใกล้กันตลอดเวลา เพราะคนรักของคุณจะอยู่ภายในหัวใจเสมอ ภาพหน้าปกจาก : Demi Lovato Facebook Official
Miguel_Chan • 24 เม.ย. 63
อ่าน
ทำความรู้จัก5สาว เพื่อนหญิงพลังหญิงใน jeongnyeon the star is born
jeongnyeon the star is born คือซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของ ยุนจองนยอน หญิงสาวที่เติบโตเป็นเด็กขายปลาอยู่ที่มกโพ เธอมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลงแต่แม่มีสิ่งที่ห้ามให้เธอทำอย่างเด็ดขาดคือการร้องเพลง วันหนึ่งเธอได้เข้าไปรู้จักกับคณะแสดงละครหญิงล้วน ที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในภวังค์และต้องการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในคณะนี้เพราะเธอรู้ว่าสามารถทำความฝันของเธอที่พาครอบครัวออกมาจากความลำบากได้ และเธอต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคมากมายเพื่อขึ้นเป็นตัวจริงของคณะนี้ให้ได้ และวันนี้เราจะพาไปรู้จัก5นักแสดงหญิงของเรื่องนี้กัน https://youtu.be/flyRF30gmFY?si=VbKrZSlfM99pnjWA คิมแทรี รับบทเป็น ยุนจองนยอน https://www.instagram.com/p/Cy5w8hxPJig/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== คิม แทรีเกิด 24 เมษายน 1990 ปัจจุบันอายุ 34 ปี คิมแทรีจบการศึกษาจาก Kyung Hee University หลังจากเรียนจบแทรีได้เข้าไปทำงานในคณะละครเวทีซึ่งเธอทำงานเป็นฝ่ายช่างเทคนิค และก็ผ่านการทดสอบออดิชั่นหลายครั้งกว่าจะได้ขึ้นแสดงบนเวที เธอได้เริ่มเข้ามาสู่วงการบันเทิงอย่างจริงจังในปี 2016 ซึ่งมีทั้งผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือ The Handmaiden เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ระดับตำนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงที่น่าจับตามองมากๆ และในปีเดียวกันก็ได้เดบิวต์ผลงานซีรีส์เรื่องแรกคือ Entourage ในปี 2017-2018 ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเธอในวงการภาพยนตร์และซีรีส์ ซีรีส์ที่ทำให้เธอถูกจับตามองอย่างมากคือ Mr. Sunshine ซีรีส์เรื่องแรกที่เธอรับบทนำ หลังจากนั้นแทรีก็ห่างไปจากการแสดงพักใหญ่แต่ก็ยังมีงานในวงการอยู่เป็นประจำ จนในปี 2022 ซีรีส์ Twenty-Five Twenty-One เป็นซีรีส์ที่เรียกว่าตอนรับการคัมแบคของแทรีได้อย่างดีเพราะมีการตอบรับที่ดีทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ และในปีเดียวกันก็มีภาพยนตร์เรื่อง Alienoid ภาพยนตร์ที่นำเอาเหล่าตัวท็อปเกาหลีมาร่วมกัน ในปี 2023 ซีรีส์ Revenant เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้องยอมรับฝีมือการแสดงของแทรีมากๆ เพราะเขาต้องแสดงบทที่เหมือนมีผีเข้าสิงซึ่งทำเอาหลอนจริงๆเลย ในปีนี้กับซีรีส์ Jeongnyeon: The Star Is Born ซีรีส์ที่ถูกจับตามองตั้งแต่เห็นรายชื่อนักแสดง เธอรับบทเป็น ยุนจองนยอน หญิงสาวที่ฝันอยากเป็นนักแสดงในโรงละครหญิงเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว เรื่องนี้เราได้เห็นความหลากหลายทางการแสดงของแทรีมากยิ่งขึ้น เห็นพัฒนาการตั้งแต่เป็นเด็กขายปลา จนสามารถเข้ามาอยู่ในคณะได้ ต่อไปคงต้องจับตาดูพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ต่อไปว่าจะไปในทิศทางไหน https://www.instagram.com/p/CzARZJcvOg2/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ คิม แทรี Kim Tae-ri เกิด 24 เมษายน 1990 อายุ 34ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2016 ต้นสังกัด Management MMM IG kimtaeri_official ชินเยอึน รับบทเป็น ฮอยองซอ https://www.instagram.com/p/C_u7W9uvY31/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ชิน เยอึนเกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1998 ปัจจุบันอายุ 26ปี เยอึนเกิดมาในครอบครัวที่เห็นคุณปู่เป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็กความฝันของเธอก็คือการเป็นนักแสดงนั้นเอง ซึ่งเธอได้เข้าเรียนที่ Anyang Arts High School เอกการแสดง หลังจากจบการศึกษาก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Sungkyunkwan เรียนเอกศิลปะการแสดง เยอึนเริ่มเข้ามาในวงการครั้งแรกจากการถ่ายแบบนิตยสาร ก่อนที่จะได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงในเว็บดราม่า A-Teen ทั้ง 2 ซีซั่นและในปีเดียวกันได้เป็นนางเอกMV ของDay6 เพลง Shoot Me ปี 2019 ได้เป็นMCรายการเพลง Music Bank คู่กับชเวโบมิน ผลงานที่ทำให้เธอถูกจับตามองมากๆคือ The Glory กับการรับบทเป็นพัคยอนจินตอนเด็ก ซึ่งเล่นได้ดีจนถูกใจใครหลายๆคน และในปีนี้กับซีรีส์ Jeongnyeon: The Star Is Born บท ฮอยองซอ เด็กสาวผู้ที่เกิดมาในครอบครัวที่ทางบ้านเป็นนักโอเปร่า ทั้งคุณแม่และพี่สาว แต่ตัวเองอยากทำตามความฝันโดยการเป้นนักแสดง แม่ของเธอจึงไม่ค่อยพอใจนักแต่ถึงยังไงก็กดดันว่าจะต้องเป็นตัวเด่นในคณะให้ได้ เธอจึงไม่ได้สนใจใครรอบข้างนอกจากตนเอง ชอบตรงที่ซีรีส์เลือกที่จะให้ตัวจองนยอนกับยองซอดูมีความไม่เหมือนกันและต้องมาพักห้องเดียวกันแถมยังเป็นคู่แข่งกันอีก ก็แอบหวังว่าในอนาคตทั้งคู่จะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ https://www.instagram.com/p/C_shNQrvohv/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ ชิน เยอึน Shin Ye-eun เกิด 18 มกราคม 1998 อายุ 26ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2018 ต้นสังกัด Npio IG __shinyeeun รามีรัน รับบทเป็น คังโซบก https://www.instagram.com/p/C6tduUFPiwI/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== รา มีรัน เกิด 6 มีนาคม 1975 ปัจจุบันอายุ 49ปี มีรันเดบิวต์การแสดงครั้งแรกในภาพยนตร์ Lady Vengeance ในปี 2005 หลังจากนั้นเธอก็ได้แสดงภาพยนตร์มาอีหลายเรื่องแต่มักไม่ได้รับบทที่โดดเด่นเท่าไหร่ ในปี 2009 ได้แสดงซีรีส์เรื่องแรก คือ Cinderella Man ซึ่งการเริ่มต้นครั้งนี้ก็ได้เป็นตัวประกอบอีกเช่นเคย แล้วในที่สุดก็มีภาพยนตร์ที่ทำให้คนเริ่มสนใจเธอมากขึ้นกับภาพยนตร์เรื่อง Dancing Queen เธอมีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มากมายแต่ส่วนใหญ่เป็นบทสมทบและรับเชิญ แต่ต้องยอมรับว่าถึงบทน้อยแค่ไหนแต่เธอไม่ตายบท เพราะความสามารถของเธอที่ทะลุออกมา ถ้าให้พูดถึงซีรีส์ที่ประทับใจของเขาคือเรื่อง The Good Bad Mother ปี 2023 ในบทแม่ผู้เสียสละ ตอนดูการแสดงของเขาก็แอบคิดว่ากว่าแสงจะส่องมาถึงก็ช่วงของการรับบทแม่แล้วสินะ และเรื่องล่าสุดกับ jeongnyeon the star is born บท คังโซบก ผู้ดูแลคณะละคร เรื่องนี้มีรันได้แสดงถึงความน่ากลัวและน่าเกรงขามในคนเดียว ถึงแม้ยังออกมาไม่มากเท่าไหร่แต่เชื่อว่าตัวละครนี้น่าจะต้องมีอะไรแน่ๆ https://www.instagram.com/p/C_KA8m2P-Km/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ รา มีรัน Ra Mi-ran เกิด 6 มีนาคม 1975 อายุ 49 ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2005 ต้นสังกัด C-JeS Studios IG ramirani668 จองอึนแช รับบทเป็น มุนอ๊กคยอง https://www.instagram.com/p/DAm9RbPTmzG/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== จอง อึนแช ชื่อเดิมคือ จอง ซอลมี เกิด 24 พฤศจิกายน 1986 ปัจจุบันอายุ 37ปี อึนแชเคยอาศัยอยู่ที่ลอนดอนระยะหนึ่ง อึ่นแชได้เข้าวงการมาครั้งแรกในฐานะนางแบบโฆษณา ซึ่งมีผลงานโฆษณาที่ดีมากมายทำให้เธอได้รางวัล Asia Model Festival Awards ครั้งที่ 6 เขาได้เดบิวต์ผลงานการแสดงครั้งแรกในปี 2010 ในภาพยนตร์ Haunters และซีรีส์ Pasta โดยเป็นนักแสดงรับเชิญ หลังจากนั้นเขามีผลงานมาเรื่อยๆ ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ ในปี 2014 ได้แสดงภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ เรื่อง The Fatal Encounter ในปี 2018 ได้แสดงบทนำในซีรีส์ The Guest ในปี 2020 เธอได้แสดงซีรีส์ The King: Eternal Monarch ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เธอเป็นที่พูดถึงอย่างมากด้วยการแสดงและความสวยที่ออกมาตอนนั้นก็ต้องสะดุดตา ปี2022 ซีรีส์ Anna เรียกว่าเป็นหนึ่งผลงานที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจในการแสดงของอึนแชมากๆ เพราะดูแสดงได้ดีมีมิติ เข้าฉากกับซูจีก็คือไม่จม และล่าสุดกับซีรีส์ jeongnyeon the star is born บท มุนอ๊กคยอง ในแสดงชายหลักของคณะละครผู้ที่มีสาวน้อยสาวใหญ่ตามกรี๊ด และด้วยเนื่องจากโรงละครนี้มีแต่ผู้หญิงต้องหาคนมาแสดงเป็นนักแสดงชาย ตัวของอ๊กคยองจึงคิดว่า จองนยอนจะมาแทนตนเองได้ เรื่องนี้เราลบภาพการแสดงเรื่องอื่นๆของอึนแชไปเลยเพราะ ความหล่อเท่ของเขา และเคมีกับแทรีคือ10เต็ม10 https://www.instagram.com/p/C9_SnUay_CJ/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ จอง อึนแช Jung Eun-chae เกิด 24 พฤศจิกายน 1986 อายุ 37 ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2010 ต้นสังกัด Project Hosoo IG jungeunchae_ คิมยุนฮเย รับบทเป็น ซอฮเยรัง https://www.instagram.com/p/C71IwYESfq7/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== คิม ยุนฮเย เกิด 24 พฤษภาคม 1991 ปัจจุบันอายุ 33ปี เขาเข้าวงการมาจาก ปกนิตยสาร Vogue Girl Korea ปี 2002 ผลงานแรกคือการแสดง MV เพลง Don't Go, My Love ของ Lim Jeong-hee และได้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงครั้งแรกในภาพยนตร์ My Son ปี 2007 และปี 2010 ได้แสดงในซีรีส์เรื่องแรกคือ My Mom! Super Mom! ในปี 2013 ได้รับบทนำในภาพยนตร์ครั้งแรก เรื่อง Steel Cold Winter ซีรีส์ที่ทำให้ยุนฮเยเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ 18 Again ในปี 2020 ปี 2021 ในซีรีส์ Vincenzo ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นจนมีผลงานมากมายที่เสนอมาให้เขา ปี 2022 ซีรีส์ Shooting Stars และในปีนี้กับซีรีส์ Goodbye Earth ที่เรียกว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงอีกก้าวหนึ่ง และเรื่องล่าสุดกับ jeongnyeon the star is born บท ซอฮเยรัง หญิงสาวที่เป็นนักแสดงหญิงหลักใน คณะละครแห่งนี้ เรียกว่าเป็นคนที่ทั้งสวยมีความสามารถและเก่งจนที่ยากที่จะหาใครมาเทียบได้ บทนี้ถึงจะออกมาไม่มากแต่กลับเป้นบทที่เรารูสึกชอบมากๆ อาจจะดูนิ่งแต่ก็ดูไม่ได้มีพิษภัยอะไร เป็นอีกหนึ่งตัวละครในเรื่องที่น่าสนใจ https://www.instagram.com/p/Cmv2UEJprQG/?utm_source=ig_web_copy_linkigsh=MzRlODBiNWFlZA== ประวัติ ชื่อ คิม ยุนฮเย Kim Yoon-hye เกิด 24 พฤษภาคม 1991 อายุ 33 ปี เริ่มเข้าวงการ ปี 2002 ต้นสังกัด J-Wide Company IG kimyoonhye_ เครดิต ปก ปก1 tvn_drama วิดีโอ วิดีโอที่1 tvndrama รูป รูปที่1 /รูปที่2 kimtaeri_official /รูปที่3 /รูปที่4 __shinyeeun /รูปที่5 / รูปที่6 ramirani668 /รูปที่7 /รูปที่8 jungeunchae_/รูปที่9 /รูปที่10 kimyoonhye_ จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
KReview • 17 ต.ค. 67
อ่าน
พร้อมคัมแบ็ค!! บูรณ์ The Star 9 คว้า ป.ตรีมหิดล เตรียมหวนคืนวงการ
หายหน้าหายตาไปซะนาน ล่าสุดนักแสดงหนุ่ม บูรณ์-ธันยบูรณ์ วงศ์วาสิน พร้อมกลับมาลุยงานบันเทิงแล้วจ้า!! เพราะเพิ่งคว้าปริญญาตรี คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์ มานอนกอดสมดั่งความตั้งใจ โดยในวันรับพระราชทานปริญญาบัตรที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีเพื่อนสาวคนสนิ๊ทสนิทอย่าง แจม-ปาณิชดา แสงสุวรรณ นักแสดงช่อง 7 และเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ อาทิ ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม, ดิว-นัทธพงศ์ พรมสิงห์, พาย-พิมพ์พัชร วัชรเสวี, มะปราง-อลิสา ขุนแขวง มาร่วมแสดงความยินดีเพียบ ทีมงานบันเทิงทรูไลฟ์ขอแสดงความยินดีกับหนุ่มบูรณ์ด้วยจ้า! อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร เรียบเรียงข้อมูลโดยทีมงาน dara.truelife.com
ข่าวบันเทิง • 4 ก.ย. 59
อ่าน
The Skywalker Ranch ฟาร์มสร้างสรรค์ Star Wars
การสร้างสรรค์งานศิลป์ ไม่ว่าจะแขนงใดก็ตาม ศิลปินทุกคนล้วนต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการสร้างสรรค์ความคิด เพื่อผลิตผลงานออกมา ซึ่งจะเล็กหรือใหญ่ ก็ล้วนแต่ความต้องการ แต่คนระดับโลก ที่ให้กำเนิดภาพยนตร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานของวงการอย่าง จอร์จ ลูคัส ก็ถือเป็นศิลปินคนหนึ่งที่มีพื้นที่ส่วนตัวในการสร้างสรรค์ไอเดีย และสถานที่ของเขาก็ได้ให้กำเนิดตำนาน สตาร์ วอร์ส และสร้างความตราตรึงไปทั่วโลก ซึ่งสถานที่แห่งนั้น มาจากที่แห่งนี้ The Skywalker RanchRanch ที่แปลตรง ๆ ก็คือ ฟาร์ม หากตีความหมายตรง ๆ ก็เรียกว่านี่คือ ฟาร์มของสกายวอล์คเกอร์ ตัวละครเอกของภาพยนตร์ชุดอันยิ่งใหญ่ ที่ จอร์จ ลูคัส ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นการส่วนตัว อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องและอนุญาตเข้าได้เท่านั้น ซึ่งฟาร์มภาพยนตร์ของจอร์จ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด ในแคลิฟอร์เนียมีมากมายที่ไว้ใช้ถ่ายทำหรือแบ่งปันไอเดียกัน เพียงแต่ของ จอร์จ ลูคัส นั้น มีความเป็นธรรมชาติและมีบรรยากาศที่ดีเหมือนเป็นบ้านไร่ที่เต็มไปด้วยความสงบ ปราศจากการรบกวนเพื่อการสร้างสรรค์ได้เต็มที่แรงบันดาลใจของ Skywalker Ranch เกิดขึ้นในตอนที่ จอร์จ ลูคัส ยังเป็นเพียงนักศึกษาวิชาภาพยนตร์ในมหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ในราวปี 1960 จอร์จได้บอกเล่าว่าภายในมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่นั้น เป็นเขตแดนเล็ก ๆ ที่คนสร้างสรรค์ได้แบ่งปันความคิดร่วมกันอย่างเป็นกันเอง ซึ่งถือว่าเป็นแวดล้อมที่ดีกว่าการเป็นแบบฮอลลีวู้ด ที่ออกจะเป็นลักษณะโรงงานมากกว่าต่อมา ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า เพื่อนสนิทของจอร์จ ได้เดินทางไปยุโรป และเห็นสตูดิโอขนาดเล็กที่อยู่ภายในแมนชั่นมากมาย ที่ให้บรรยากาศที่ดีและไม่เหมือนเป็นโรงงาน นั่นจึงทำให้ทั้งคอปโปล่าและลูคัส ได้คิดสร้างสตูดิโอในอุดมคติของพวกเขาขึ้นมาว่า จะต้องเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ เพื่อให้นักทำหนังมาทำงานและสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ร่วมกันในปี 1978 อันเป็นช่วงที่เขาประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์เรื่อง อเมริกันกราฟฟิติ (American Graffiti) กับ สตาร์ วอร์ส ความหวังใหม่ (Star Wars: Episode IV – A New Hope) ที่ทั้งสองเรื่องทำรายได้มหาศาลและเข้าชิงออสการ์ด้วยนั้น ทำให้ จอร์จ ลูคัส มีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินขนาดกว้างได้มากมาย และเขาได้ทำการซื้อที่ดินขนาด 4,700 เอเคอร์ในเมือง นิคาสิโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อสร้างฟาร์มภาพยนตร์ของเขา“เพื่อให้เป็นสถานที่ที่คนทำหนังและเพื่อนร่วมงานของลูคัสฟิล์ม สามารถมาพบปะ เรียนรู้ร่วมกัน เขียน ปรุงแต่งและทดลองร่วมกันด้วยแนวคิดใหม่ ๆ ได้” (ที่มาของคำกล่าว)สำหรับ จอร์จ ลูคัส ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่แรกที่มาจากความคิดของเขา ซึ่งที่แห่งแรกนั้น ก็คือ อเมริกันโซโทรป (American Zoetrope) สตูดิโอจำลองที่เขากับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ร่วมสร้างกันขึ้นมา ซึ่งให้อารมณ์เป็นสำนักงานมากกว่าจะเป็นบ้าน เขาได้ดัดแปลงจากโกดังแห่งหนึ่งในซาน ฟรานซิสโก จนกระทั่งได้ย้ายไปหลายที่ ซึ่งอเมริกันโซโทรปนี้เอง ที่ได้เป็นสตูดิโอสำหรับงานโพสต์โปรดักชั่นของภาพยนตร์ดังมากมาย อาทิ เดอะ ก็อดฟาเธอร์ ภาค 1 กับ 2 และ แดร็กคูล่า ฉบับปี 1992 ซึ่งปัจจุบัน อยู่ภายใต้การดูแลของ โรมัน และ โซเฟีย ลูก ๆ ของฟรานซิส ที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เช่นกันและประสบการณ์ที่ได้สร้าง อเมริกันโซโทรป มาด้วยกันนั้น จอร์จ ลูคัส จึงพอจะเห็นว่าการจะสร้างสตูดิโอที่ดี และเอื้ออำนวยต่อการสร้างสรรค์นั้น ต้องเป็นอย่างไร โดยในที่ดิน 4,700 เอเคอร์นั้น มีส่วนที่ทำเป็น Skywalker Ranch เพียง 235 เอเคอร์เท่านั้น พื้นที่ที่เหลือจึงเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติและการเกษตรภายในตัวแมนชั่น จอร์จได้จ้างสถาปนิกมืออาชีพมาออกแบบการก่อสร้าง การจัดวางตัวอาคาร โดยเน้นให้บรรยากาศต้องเงียบสงบที่สุด ตัวแมนชั่นต้องกลมกลืนกับแผ่นดินจนไม่สามารถมองเห็นถนนหลวงได้ และต้องไม่แยกตึกกัน เพื่อไม่ให้เกิดการบังสายตากันเอง และสร้างลานจอดรถใต้ดิน เพื่อให้รถยนต์จอด ไม่มาเรียงรายหน้าบ้านให้รกสายตา รวมถึงระบบน้ำประปา ที่ฝังไว้ใต้ดินเช่นกัน ซึ่งภายในอาณาจักรนี้ มีพนักงานดูแลทั้งหมด 35 คน รวมถึงหน่วยดับเพลิงที่เพียบพร้อมด้วยอึปกรณ์ครบครัน ซึ่งหน่วยดับเพลิงนี้ ยังได้คอยให้ความช่วยเหลือบ้านใกล้เรือนเคียงในกรณีที่เกิดเหตุขึ้นด้วยหัวใจหลักของการสร้างสรรค์ ก็ไม่พ้นคลังข้อมูล และนั่นคือห้องสมุด ที่เป็นสถานที่โปรดปราณของเหล่านักเขียน ซึ่งใน Skywalker Ranch ก็ได้เนรมิตห้องสมุดสุดวิจิตรขึ้นมา เพื่อให้นักเขียนสามารถเกิดความคิดใหม่ ๆ และสามารถหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ภายในห้องนี้ อีกทั้งยังมีบรรณารักษ์อีก 4 คนคอยดูแลจอร์จ ลูคัส ยังถือว่างานเขียนบทและการตัดต่อภาพยนตร์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง เขาจึงได้ออกแบบห้องตัดต่อให้แสงสว่างเข้าถึง อากาศถ่ายเท โดยสิ่งที่ขวางกั้นห้องตัดต่อมีเพียงขอบประตูกับหน้าต่างเท่านั้น เพราะจอร์จถือว่า มือตัดต่อ ต้องใช้ชีวิตอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 10 ชั่วโมง และเป็นงานที่ละเอียดอ่อน จึงต้องมีบรรยากาศที่ดีด้วยเช่นกันความละเอียดอ่อนของสถานที่แห่งนี้ จึงทำให้เห็นว่าภาพยนตร์หลายเรื่องที่ จอร์จ ลูคัส ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาจนครองใจผู้ชมไปทั่วโลกนั้น ก็เกิดจากหลายสิ่งหลายอย่างรวมกัน รวมถึงบ้านไร่อันเงียบสงบ ที่ได้สร้างตำนานดัง ๆ มากมายอาทิ สตาร์ วอร์ส, อินเดียน่า โจนส์ และเรื่องอื่น ๆ ที่มาใช้ฟาร์มแห่งนี้ รังสรรค์งานขึ้นเป็นภาพยนตร์ให้ชาวโลกได้รับชม และปฏิเสธไม่ได้ว่า การค้นหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ต้องเริ่มด้วยการปลีกตัวไปสู่ความเป็นอิสระจากสิ่งที่กักขัง เพื่อที่จะได้มองเห็นสิ่งใหม่ไว้ใช้ในการสร้างผลงาน ซึ่งจอร์จเข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดี Skywalker Ranch หรือฟาร์มของสกายวอล์คเกอร์ จึงเปรียบเสมือนพลังของเหล่าเจได ที่ช่วยปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากความตึงเครียดและความวุ่นวายทั้งหลาย อันเป็นต้นแบบที่หลายบริษัทควรใส่ใจและเอาเป็นแบบอย่างหากต้องการรู้ว่า ฟาร์มแห่งนี้ สร้างสรรค์งานออกมามีคุณภาพได้มากขนาดไหน ก็ขอเชิญไปพิสูจน์ได้ใน Star Wars: Episode IX - The Rise of Skywalker: สตาร์ วอร์ส กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ ที่นำมาฉายทางทรูไอดีแล้ว คลิกที่นี่ เพื่อรับชมได้เลยอ้างอิงข้อมูลและรูปภาพhttps://en.wikipedia.org/wiki/Skywalker_Ranchhttps://www.lucasfilm.com/campuses/skywalker-ranch/https://www.zoetrope.com/นิตยสาร Starpics Special ฉบับ Star Wars
Kittipat Boyd • 8 พ.ค. 63
อ่าน
“แบมบี้ The star 9” กลับสู่อ้อมกอดแม่แล้ว หลังโดนแฟนหนุ่มเทที่ลอนดอน
แบมบี้ The star 9 กลับสู่อ้อมกอดแม่แล้ว หลังโดนแฟนหนุ่มเทที่ลอนดอน อุส่าห์ลงทุนไปหาแฟนหนุ่มถึงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่กลับถูกคนที่ตัวเองรักเทไม่เป็นท่า สำหรับสาวสวย แบมบี้ สิรินโสพิศ หรือ แบมบี้ The star 9 ลูกสาวของ สาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทย การเดินทางไปอังกฤษครั้งแรกด้วยตัวคนเดียวของ แบมบี้ เรียกว่าตลอดทั้งเส้นทางเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เพราะแฟนหนุ่มไม่ยอมมารับและยังส่งกูเกิ้ลแมพมาให้ โดยให้เหตุผลว่าเขาง่วงและจะเข้านอนแล้ว งานนี้ แบมบี้ จึงต้องลากกระเป๋าหนัก 32 กก. ไปตามทางต่างๆด้วยตัวคนเดียวในซอยเปลี่ยวๆตอนดึกอยู่เพียงลำพังจนชาวเน็ตที่เห็นคลิปใน TikTok ส่งกำลังใจช่วยด้วยความสงสารพร้อมกับเชียร์ให้เธอเลิกแฟนหนุ่มคนนี้ซะ ล่าสุด แบมบี้ ได้ตัดสินใจตีตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว โดยมีคุณแม่ สาวิณี และคนในครอบครัว พร้อมกับน้องสุนัขแสนรักมารับถึงสนามบิน โดยเธอได้โพสต์คลิปลงใน Tiktok และเขียนแคปชั่นว่า... ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ อยู่ในอ้อมกอดของคนที่รักเราที่สุดแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ มีค่ามากๆค่ะ #bambinie ซึ่งเป็นภาพแห่งความประทับใจของใครหลายๆคน ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย เช่น บ้านคือที่อบอุ่นและปลอดภัย ที่สุดค่ะดีใจด้วยนะค่ะถึงบ้านแล้ว,ดีใจที่เห็นคลิปนี้,ดีใจที่เห็นคุณปลอดภัย.เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ เพราะเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้เหมือนกันไม่ลืมไม่กลับไป..สาบานจะไม่ทำกับใครแบบที่เราเจอ,พี่เลือกถูกแล้วค่ะ ที่กลับมาหาครอบครัว นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางคนเข้ามาถามเรื่องแฟนอีกด้วยว่าสรุปแล้วเป็นยังไง ซึ่งบางคนคาดเดาว่าน่าจะไม่ได้ไปหาแฟนแล้วหรือเปล่าเพราะวันรุ่งขึ้น แบมบี้ ก็รีบกลับมาเมืองไทยเลย
ดาราเดลี่บันเทิง • 18 ส.ค. 65
อ่าน
SKYรายได้กระฉูด68% ท่องเที่ยว-ผู้โดยสารดัน
#SKY #ทันหุ้น SKY อวดโค้งแรกปี 2567 กวาดรายได้ 1,379 ล้านบาท โตแรง 68% มีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% รับท่องเที่ยวคึกคัก ยอดผู้โดยสารทะลัก ดันรายได้จากโครงการเกี่ยวกับสนามบินพุ่งหนุนธุรกิจ Aviation Tech และ Airport Services เติบโตต่อเนื่อง โชว์แบ็คล็อกแกร่ง 2.2 หมื่นล้านบาท นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทสามารถทำรายได้ 1,379 ล้านบาท เติบโตขึ้น 68% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 117 ล้านบาท เติบโต40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยการเติบโตที่ต่อเนื่องนั้นมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ยอดผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาสแรก 2567 มียอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 22.84% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2566ส่งผลให้รายได้จากโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยาน อาทิ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทมีการรับรู้รายได้จากบริษัทในเครืออย่าง บริษัท เมทเธียร์ จำกัด และบริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทอื่นที่มีศักยภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ *ขยายการเติบโต นายสิทธิเดช กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567นอกจากการพัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีด้าน Aviation Tech อย่างต่อเนื่องในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสนามบินแล้ว สกาย กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าจัดทัพโครงสร้างธุรกิจในเครือ เพื่อรองรับการขยายการเติบโตของแต่ละธุรกิจให้มีความชัดเจน โดยมีบริษัท เมทเธียร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) เจาะกลุ่มโครงการขนาดกลางถึงขนาดใหญ่รวมถึงผู้ให้บริการรายอื่นที่ต้องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงยกระดับการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและการทำความสะอาดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และบริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) ดูแลงานประมูลไอทีโซลูชันภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้เข้ายื่นไฟลิ่งขาย IPO 140 ล้านหุ้น คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จในปีนี้ *แบ็กล็อกแน่น ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทได้เข้าทำสัญญาใหม่และมีงานที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต (Backlog) อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 22,000ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ให้กับสกาย กรุ๊ปในอีกอย่างน้อย 6-7 ปี สกาย กรุ๊ป เรามองหาโอกาสใหม่ในการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ และเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อรับมือกับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ อาทิ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล ไปจนถึงการขยายสู่ธุรกิจเทคโนโลยีด้านต่างๆ ในอนาคตเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าในภาพรวมบริษัทจะยังคงเติบโตได้อย่างมั่นคง นายสิทธิเดช กล่าว
ทันหุ้น • 16 พ.ค. 67
อ่าน
Trails in the Sky 1st Chapter การรีเมคของเกมระดับตำนาน
ผมขอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยครับ... เป็นเวลานานมากที่ผมมองซีรีส์เกมที่ชื่อว่า "Trails" หรือ "Kiseki" ด้วยสายตาที่เคลือบแคลงสงสัย ผมได้ยินเสียงร่ำลือจากเพื่อนๆ ถึงความยิ่งใหญ่ของมัน เรื่องราวที่มีมาจากต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 13 ภาค ใช้เวลาเล่นนับพันชั่วโมง... และคำถามในใจผมก็ดังขึ้นมาเสมอว่า "มันจะคุ้มค่ากับเวลาขนาดนั้นเชียวหรือ?" ผมเคยคิดว่ามันคงเป็นเพียง JRPG สูตรสำเร็จที่ถูกยืดออกไปเท่านั้น แต่แล้ว... โชคชะตาก็นำพาผมมาพบกับ Trails in the Sky 1st Chapter ฉบับรีเมค และหลังจากที่ผมเล่นได้ไปสักพัก เมื่อเวลาผ่านไปผมทำได้เพียงแค่วางคอนโทรลเลอร์ลง แล้วพูดกับตัวเองเบาๆ ว่า... "เราคิดผิดมาโดยตลอด" นี่ไม่ใช่แค่การรีวิวเกมครับ แต่นี่คือจดหมายรัก คือคำสารภาพจากใจของคนที่เคยไม่เชื่อ สู่เกมที่มอบประสบการณ์การผจญภัยอันสนุกสนานที่เปี่ยมด้วยหัวใจแห่งความสุขมากที่สุดในเกมหนึ่งของชีวิต และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการให้คะแนน 10/10 กับเกมนี้... ถึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายที่สุดสำหรับผม เกมเพลย์ สิ่งแรกที่ทำให้ผมประหลาดใจคือระบบการต่อสู้ที่ "ลึก" เกินกว่าที่ตาเห็น ในเวอร์ชันรีเมคนี้ มันไม่ใช่แค่เกมเทิร์นเบสธรรมดาๆ แต่มันคือกลยุทธ์การวางแผนอย่างแท้จริง หัวใจของมันคือ "ไทม์ไลน์" ที่แสดงลำดับการโจมตีของทุกตัวละครในสนามรบ และหน้าที่ของเราไม่ใช่แค่การเลือกคำสั่งที่แรงที่สุด แต่คือการ "ควบคุม" ไทม์ไลน์นั้นให้อยู่ในกำมือ ผมยังจำความรู้สึกตอนสู้กับบอสตัวหนึ่งได้ดี มันกำลังจะร่ายเวทมนตร์ทำลายล้างใส่ปาร์ตี้ของผม และเทิร์นของมันก็ใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ผมสังเกตเห็นว่าการโจมตีครั้งล่าสุดของโจชัว ทำให้เกจ CP (Craft Points) ของเขาเต็ม 100 พอดี ในเสี้ยววินาทีนั้น ผมตัดสินใจกดใช้ท่าไม้ตาย "S-Craft" ผ่านระบบ "S-Break" ทันที! ร่างของโจชัวพุ่งจากท้ายแถวของไทม์ไลน์ขึ้นมาอยู่หน้าสุด แซงคิวบอสตัวนั้น แล้วปลดปล่อยท่าไม้ตายออกไป ไม่ใช่แค่สร้างความเสียหายมหาศาล แต่มันยังขัดจังหวะการร่ายเวทมนตร์ของบอสได้สำเร็จ วินาทีนั้น... ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นยอดนักวางแผนเลยครับ! มันคือความรู้สึกของการพลิกสถานการณ์ด้วยการตัดสินใจที่เฉียบคมเพียงครั้งเดียว ยังไม่หมดแค่นั้น ระบบ "โบนัส" ที่จะสุ่มบัฟต่างๆ มาวางบนไทม์ไลน์ ยิ่งเพิ่มมิติทางกลยุทธ์เข้าไปอีก คุณอาจจะเห็นโบนัส "Critical 100%" อยู่บนเทิร์นของศัตรู แต่ถ้าคุณมีตัวละครที่สามารถใช้ท่า "Delay" หน่วงเทิร์นศัตรูได้ คุณก็สามารถ "ขโมย" โบนัสนั้นมาเป็นของเราได้ มันเปลี่ยนการต่อสู้ให้กลายเป็นการชิงไหวชิงพริบที่สนุกและตื่นเต้นตลอดเวลา และระบบที่เปรียบเสมือนเสาหลักของเกมนี้ทั้งหมดคือ "Orbment" ที่คล้ายกับระบบ Materia ใน Final Fantasy VII มันคือการบังคับให้เราต้องคิดอย่างรอบคอบว่าจะสร้างตัวละครแต่ละตัวไปในทิศทางไหน เอสเทลของผมกลายเป็นนักรบสายพลังทำลายล้าง อัดแน่นไปด้วยควอตซ์เพิ่มพลังโจมตี ในขณะที่โจชัวผู้ปราดเปรียว กลายเป็นตัวละครสารพัดประโยชน์ที่ทั้งโจมตีเร็วและใช้เวทมนตร์สนับสนุนได้ มันคือระบบที่เรียบง่ายแต่เปิดกว้างให้เราได้ทดลองอย่างอิสระ เนื้อเรื่อง ถ้าเกมเพลย์คือสมองที่เฉียบคม เรื่องราวและตัวละครก็คือ "จุดแข็ง" ที่แสนอบอุ่นของเกมนี้ครับ สิ่งที่ผมรักที่สุดใน Trails in the Sky คือการที่มันไม่ได้เล่าเรื่องของ "ผู้ถูกเลือก" ที่ต้องกอบกู้โลก แต่เป็นเพียงเรื่องราวการเดินทางของเด็กหนุ่มสาวสองคน เอสเทล และ โจชัว ที่มีความฝันอยากจะเป็น "เบรเซอร์" (นักแก้ไขปัญหาสารพัดนึก) ที่เก่งกาจเหมือนพ่อของพวกเขา มันคือจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยแบบคลาสสิกที่ผมโหยหามานาน คล้ายกับความรู้สึกที่ได้เล่น Dragon Quest เป็นครั้งแรก เป้าหมายของพวกเขาเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: "ออกเดินทางไปบนผืนดินที่พวกเขาตั้งใจจะปกป้องด้วยสองเท้าของตัวเอง" และบนเส้นทางนั้น เราก็ได้พบกับเหล่าตัวละครสมทบที่ผมกล้าพูดได้เลยว่า "ยอดเยี่ยมทุกตัว" ไม่ว่าจะเป็น อาเกต นักดาบจอมหัวรั้นแต่จิตใจดี, โอลิวิเย่ร์ เจ้าชายเพลย์บอยผู้สร้างสีสันและความปวดหัว, หรือ เชราซาร์ด เบรเซอร์รุ่นพี่สุดเซ็กซี่ ทุกคนล้วนมีเสน่ห์และบทบาทที่น่าจดจำ ไม่มีตัวละครไหนเลยที่ผมรู้สึกว่า "น่ารำคาญ" หรือ "อยากให้มีบทน้อยกว่านี้" พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นกลุ่มเพื่อนที่ค่อยๆ สนิทสนมกันจริงๆ ผ่านการเดินทางที่ยาวนาน แต่ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงคือ "โลกในเกม" ของอาณาจักรลิเบอร์ลครับ ทุกครั้งที่คุณผ่านเหตุการณ์สำคัญในเนื้อเรื่องไป บทสนทนาของ NPC ทุกตัวในเมืองจะเปลี่ยนไปทั้งหมด! พวกเขาจะพูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น พูดถึงข่าวลือต่างๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่ได้หยุดนิ่งรอเราอยู่เฉยๆ แต่มันกำลังดำเนินต่อไปพร้อมกับเรา มันคือความใส่ใจในรายละเอียดในระดับที่ผมไม่เคยเห็นจากเกมไหนมาก่อน และมันให้รางวัลกับความช่างสังเกตของผมอย่างมหาศาล ถ่ายทอดออกมาได้อย่างทรงพลัง แม้จะเป็นเกมที่รีเมคมาจากรากฐานเก่า แต่ทีมงานได้ขัดเกลางานภาพและเสียงจนมันเปล่งประกายได้อย่างน่าทึ่ง เพลงประกอบที่เป็นเวอร์ชันรีมิกซ์จากต้นฉบับนั้นยอดเยี่ยมมาก มันสามารถถ่ายทอดทั้งความรู้สึกของการผจญภัยอันสดใสและความลึกลับของแผนการร้ายที่ซ่อนอยู่ได้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องทึ่งจนอ้าปากค้าง คือ "การกำกับคัทซีน" ครับ ผมขอยกฉากหนึ่งที่ตราตรึงอยู่ในใจผมจนถึงตอนนี้ คือฉากการต่อสู้ด้วยดาบระหว่าง โคลเอ้ และ เอสเทล ในการแสดงละครเวที มันไม่ใช่แค่คัตซีนที่ตัวละครสองตัวยืนฟันดาบใส่กัน แต่มันคืองานออกแบบท่าเต้นที่งดงามและงานกล้องที่น่าทึ่ง กล้องหมุนตามการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนที่กำลังร่ายรำเพลงดาบใส่กันอย่างดุเดือดแต่ก็สวยงาม ผมเผลอกลั้นหายใจไปตลอดทั้งฉาก และเมื่อมันจบลง ผมถึงกับต้องวางจอยเพื่อตั้งสติ... นี่คืองานศิลปะ คือการเล่าเรื่องผ่านภาพเคลื่อนไหวที่ทรงพลังอย่างแท้จริง บทส่งท้าย Trails in the Sky 1st Chapter คือเกม RPG ที่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มเสียงว่า "นี่คือเกมที่คุณต้องเล่น" มันคือประตูบานแรกที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับใครก็ตามที่อยากจะเข้าสู่โลกของ JRPG และในขณะเดียวกัน มันก็คือบทเรียนชั้นครูในการออกแบบเกมสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของแนวนี้ "จิตวิญญาณ" ที่เกมนี้ทิ้งไว้ในใจของผม คือ "ความสุขของการเดินทางที่เรียบง่าย" มันคือการย้ำเตือนเราว่า เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการกอบกู้โลกเสมอไป บางครั้งมันก็เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ ของเด็กสองคนที่แค่อยากจะเดินตามรอยเท้าของพ่อ, อยากจะช่วยเหลือผู้คน, และอยากจะรู้จักโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ให้มากขึ้น มันคือความอบอุ่นของมิตรภาพ, ความตื่นเต้นของการค้นพบ, และความรู้สึกดีๆ ที่จะคงอยู่กับคุณไปอีกนานหลังจากเล่นจบ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนๆ ถึงรักซีรีส์นี้มากขนาดนี้ และการรอคอย Trails 2nd ฉบับรีเมค ก็ได้กลายเป็นการรอคอยที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความตื่นเต้นที่สุดของผมในตอนนี้แล้วครับ เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 22 ก.ย. 68
อ่าน
รีวิวซีรีส์เกาหลี Jeongnyeon: The Star is Born (2024) นำแสดง คิมแทรี, จองอึนแช
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์เกาหลี เรื่อง Jeongnyeon: The Star is Born มาวันแรกวันที่ 12 ตุลาคม 2024 ได้นักแสดงนำอย่างคิมแทรีมารับบท ยุนจองนยอน และจองอึนแชมารับบทเป็น มุนอ๊กคยอง เป็นเรื่องราวของยุนจองนยอนที่เดินทางมาที่โซลเพื่อเข้าคณะละครเพราะอยากรวย เรื่องราวจะน่าติดตามแค่ไหนก็เชิญไปอ่านกันได้เลย เป็นเรื่องราวของยุนจองนยอนนางเอกของเรื่องที่เป็นคนมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงแต่แม่ของเธอกลับมีปมหลังบางอย่างจึงไม่ยอมให้เธอร้องเพลง เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไปขุดหอยมาขายที่ตลาดจนกระทั่งวันหนึ่งเธอขัดคำสั่งแม่ร้องเพลงที่ตลาด ตอนนั้นมีนักแสดงกุกกึกหญิงคนหนึ่งมาได้ยินเธอร้องเพลง นักแสดงคนนั้นคือมุนอ๊กคยองเธอเห็นว่านางเอกมีพรสวรรค์มีชองกูซองคือเสียงบริสุทธิ์ที่ไพเราะ เธอจึงให้บัตรนางเอกมาดูการแสดงของเธอนางเอกจึงได้ไปดูกับพี่สาว หลังจากกลับมาจากโรงละครนางเอกก็ฝันอยากเป็นนักแสดงจึงไปหามุนอ๊กคยอง มุนอ๊กคยองเลยบอกว่าอยากให้นางเอกไปออดิชันเป็นนักแสดงพันโซรีที่โรงละครชื่อดังที่เธอสังกัดอยู่ แต่แม่นางเอกก็ไม่ยอมจับนางเอกขังไว้ มุนอ๊กคยองจึงไปเจอพี่สาวนางเอกและบอกว่าให้นางเอกมาให้ทันวันนี้เพื่อเดินทางไปออดิชัน สุดท้ายพี่สาวนางเอกเลยพานางเอกไปหามุนอ๊กคยอง นางเอกจะได้เป็นนักแสดงหรือไม่ก็ต้องไปดูกัน ยุนจองนยอนเป็นเด็กสาวบ้านนอกที่อาศัยอยู่กับแม่และพี่สาว เธอนั้นชอบร้องเพลงและยังร้องเพลงเพราะมากแต่ไม่รู้ทำไมแม่นางเอกจึงไม่อยากให้เธอร้องเพลงขนาดห้ามไม่ให้ร้องเพลงให้ใครฟัง พอแม่รู้ว่าเธอไปร้องเพลงที่ตลาดก็ลงโทษเธอ แต่เธอก็ยังไม่ล้มเลิกที่จะร้องเพลงต่อไป เรื่องนี้คิมแทรีเล่นออกมาได้ดูเหมือนเด็กสาวที่มีความฝัน ดูสดใส ร่าเริง ไม่กลัวใคร มุนอ๊กคยองเป็นนักแสดงในสังกัดเมรันกุกกึกที่มีชื่อเสียง เธอดังมากจนได้ไปแสดงตามที่ต่างๆ นอกเมืองหลวง วันหนึ่งเธอเจอนางเอกร้องเพลงอยู่ก็เห็นว่ามีพรสวรรค์เลยมาชวนนางเอกไปเป็นนักแสดงพันโซรี แต่กลับมีข่าวลือว่าเธอสูบฝิ่นทำให้โดนพักงานชั่วคราว เรื่องนี้จองอึนแชเล่นได้ดูสมบทบาทมาก ตอนแสดงเป็นนักแสดงชายก็ทำได้ดูเหมือนผู้ชายจริงๆ เสื้อผ้าด้วยความที่เป็นยุคโบราณนิดๆ ไม่ถึงกับยุคโซซอนแต่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในปี 1956 ทำให้ชุดมีความโบราณหน่อยๆ ชุดนางเอกจะเป็นชุดแบบคนโบราณเลย ส่วนชุดมุนอ๊กคยองจะดูเป็นชุดสมัยใหม่มากกว่า คนบ้านนางเอกซึ่งเป็นชาวชนบทก็ใส่ชุดโบราณ ในขณะที่คนในเมืองใส่แบบสมัยใหม่ ฉากก็ทำออกมาได้ดูสวยงามสมจริง บ้านนางเอกก็เป็นบ้านคนโบราณ ส่วนบ้านในเมืองก็ดูใหม่กว่า ชอบมุนอ๊กคยองมากเพราะนักแสดงเล่นได้ดีมากคือดูเป็นคนสุภาพ มีมารยาท และดูใจดีมาก ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ก็แสดงบทพระเอกที่เป็นผู้ชายได้ดีมาก ตอนเห็นครั้งแรกเรายังคิดว่าเป็นผู้ชายเลย คือเก่งมากๆ คือดูเป็นผู้หญิงหล่อสุดๆ แถมยังนิสัยน่ารัก ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นแนวย้อนยุคตามหาความฝันของนางเอกที่อยากเป็นนักแสดงเพราะอยากรวยมีเงินเยอะมาให้แม่กับพี่สาว พล็อตเรื่องนั้นแปลกใหม่มาก ไม่ซ้ำใคร เป็นการเดินทางตามความฝันของนางเอกที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายแต่ก็ยังยืนหยัดจะสู้ต่อไป เดินเรื่องได้ค่อนข้างกระชับรวดเร็วแต่ก็เล่าได้ครบถ้วนทำให้เราเข้าใจบริบทเนื้อเรื่อง ใครชอบแนวนี้ไปตามได้ค่ะ อ้างอิง ภาพปก ตกแต่งโดย canva ภาพที่ 1 / 2 / 3 / 4 ขอบคุณภาพจาก X: tvN ซีรีส์เกาหลีที่น่าสนใจช่วงนี้ รีวิวซีรีส์เกาหลี ห้องพิจารณาคดีแห่งปีศาจ(2024) The Judge From Hell นำแสดง พัคชินฮเย คิมแจยอง รีวิวซีรีส์เกาหลี แผนรักคว้าใจซินเดอเรลล่า(2024) Cinderella at 2 AM ทาง Viu นำแสดง ชินฮยอนบิน มุนซังมิน รีวิวซีรีส์เกาหลี รักนี้ DNA กำหนด(2024) DNA Lover ทาง Viu นำแสดง ชเวชีวอน จองอินซอน รีวิวซีรีส์เกาหลี เมนูแซ่บท่านประธาน(2024) Spice up Our Love นำแสดง อีซังอี ฮันจีฮยอน รีวิวซีรีส์เกาหลี เมื่อรักเลือนจาก(2024) What Comes After Love นำแสดง อีเซยอง เคนทาโร่ ซาคากุจิ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Faifun • 15 ต.ค. 67
อ่าน
ส่อง 5 ความน่ารัก จุง อาเชน หนุ่มหล่อหน้าคมจาก Star In My Mind
เรียกว่ากระแสมาแรงแซงทางโค้งมาก ๆ สำหรับซีรีส์บอยเลิฟชื่อดังอย่าง “แล้วแต่ดาว Star In My Mind” ซึ่งเป็นซีรีส์จากทางGMMTV แนวรักโรแมนติกสุดฟินที่พูดถึงเรื่องราวของการแอบรัก และได้นำแสดงโดยนักแสดงหน้าใหม่ไฟแรงอย่างหนุ่มหล่อ “จุง อาเชน ไอย์ดึน” แสดงก็แสดงเป็น ‘คาบคลื่น’ ซึ่งจะมีคาแรคเตอร์ที่มีความเนี๊ยบสุด เย็นชามาก ปากแข็ง และมีนิสัยที่ชอบคิดไปเองเรียกว่าเป็นหนึ่งคาแรคเตอร์ที่ใครเจองี้เป็นต้องใจสั่นจริง ๆ ค่ะ โดยวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับหนุ่มหล่อคนนี้กันให้มากขึ้นใน ‘5 ความน่ารัก จุง อาเชน หนุ่มหล่อหน้าคมจาก Star In My Mind’ มาดูกันว่าหนุ่มจุงจะมีความน่ารักอย่างไร มีโมเมนต์ไหนที่แฟนคลับจะต้องโดนตกไปแบบเต็ม ๆ หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมาดูกันได้เลยค่า🥹💗🤏🏻รู้จักจุง อาเชน จากซีรีส์วายเรื่องแล้วแต่ดาว | Star In My Mind1.) การแสดงสุดต๊าซของหนุ่มจุง มาดูกันที่ความคิ้วท์ข้อแรกของหนุ่มจุงที่เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนจะต้องโดนเขาตกกันไปแบบไม่ต้องสงสัยเลยนั้นก็คือ การแสดงสุดต๊าซของหนุ่มจุง นั่นเองค่ะ โดยหนุ่มจุงนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่เคยผ่านการแสดงมาแล้วนั่นก็คือซีรีส์วายเรื่อง “Moons2 The Series (เดือนเกี้ยวเดือน 2)” ในบทบาทของ ‘มิ่งขวัญ’ โดยมีคาแรคเตอร์ที่ดื้อ ๆ มีความกวนโอ๊ยมาก ซึ่งก็มีความโดดเด่นไม่ใช่น้อย ๆ เลยละค่ะ 2Moons2 The Series เดือนเกี้ยวเดือน 2 เริ่ม EP.1 29 มิ.ย.นี้ | Mello Thailandhttps://youtu.be/Sn8SbbYOcCIhttps://www.instagram.com/p/B7kaM-ngucf/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/B7X1LErAFp5/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/B8Jo3VrALPA/?igshid=YmMyMTA2M2Y= และในล่าสุดในปี 2022 หนุ่มจุงก็ได้ซีรีส์บอยเลิฟสุดฟินอย่าง “แล้วแต่ดาว Star In My Mind” กับทางค่าย GMMTV ซึ่งแสดงคู่กับหนุ่มดัง ณัฎฐ์ฐชัย ที่เรียกว่าแค่ปล่อยทีเซอร์เรียกน้ำย้อยจนได้ออนแอร์เพียงแค่ 4 EP. ก็ทำเอาแฟน ๆ นี่หวีดกรี๊ดกันแบบสลบเลยละค่ะ โดยหนุ่มจุงได้รับบทบาทนักแสดงนำอย่าง ‘คาบคลื่น’ เป็นคาแรคเตอร์ที่มีความดุ ๆเงียบขรึม แถมขี้หึงสุด ๆ โอ้ยขอบอกเลยว่ากร้าวใจไม่ไหว! เป็นบทบาทที่เหมาะกับหนุ่มจุงมาก ทั้งคาแรคเตอร์และนิสัยต่าง ๆ เรียกว่าฟิตติ้งมากแม่✨ #StarAndSkySeries #GMMTV2022 #GMMTVGMMTV 2022 | Star and Sky : แล้วแต่ดาว Star in My Mind | ขั้วฟ้าของผม Sky in Your Hearthttps://youtu.be/wcTJWp5Q0Xghttps://www.instagram.com/p/CXAhC0RBfQY/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CcYGqhwhhgB/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CcJ63q2LNVg/?igshid=YmMyMTA2M2Y=2.) ความสามารถในการร้องเพลงและการเต้นของหนุ่มจุงที่คุณจะต้องร้องว้าว! ต้องบอกเลยว่าหนุ่มจุงนั้นนอกจากเป็นหนุ่มหล่อที่มีผลงานด้านการแสดงสุดปังแล้วนั้น หนุ่มจุงจะเป็นคนที่เก่งกู๊ดและชื่นชอบในเรื่องของการเป็นศิลปินร้องเพลงอีกด้วย โดยหนุ่มจุง อาเชน นั้นเจ้าตัวเคยเป็นเด็กฝึกกับทางค่าย Insight Entertainment ซึ่งเป็นค่ายเดียวกับสองหนุ่มชื่อดัง น้องนาย และแพทริคจากวง INTO1 โดยได้มีโปรเจกต์ผลงานเพลงออกมา ในฐานะวง OXQ โดยชื่อว่า “ผมเองครับ (ME)” และเพลงที่มีชื่อว่า “I LIKE U SUMMER (ฤดูเรา)” ซึ่งบอกเลยว่าทั้งนอกจากการร้องแล้วนั้นการเต้นของหนุ่มจุงก็คือต๊าซไม่ไหว มี Movement ที่ดีจึ้ง แข็งแรง ไลน์การเต้นสวยจึ้ง แถมยังพริ้วสวยอย่าบอกใคร!OXQ - ผมเองครับ (ME) [MV ทางการ]https://youtu.be/XzDHomqex9EINSIGHT ROOKIES - I LIKE U SUMMER (ฤดูเรา) |【Official MV】https://m.youtube.com/watch?v=xUj_a-ffsOs และล่าสุดหนุ่มจุงก็มีผลงานซิงเกิ้ลเดี่ยวเป็นคนตัวเองซึ่งมีชื่อว่า “แล้วแต่ดาว (My Starlight)” ซึ่งเป็นเพลงประกอบซีรีส์บอยเลิฟชื่อดังอย่าง Star In My Mind ที่เป็นเพลงช้า ๆ ซึ้ง ๆ อินกินใจแบบไม่ไหว~ โดยเสียงของหนุ่มยังเป็นเอกลักษณ์ มีความหวานละมุน มีเทคนิคการร้องที่เรียกว่าดีงามมาก ๆ ทำเอาคนที่ได้ฟังนี่เคลิ้มไปแบบเต็ม ๆ เลยละ♥️🤟🏻แล้วแต่ดาว (My Starlight) Ost.แล้วแต่ดาว | Star In My Mind - Joong Archenhttps://youtu.be/Dt4Rp05OImEhttps://www.instagram.com/p/CcDiOkEhUlR/?igshid=YmMyMTA2M2Y=So hot มากแม่!https://www.instagram.com/reel/CafVRiwBBEI/?utm_source=ig_embedutm_campaign=loadinghttps://www.instagram.com/reel/CRVoSOxFXx6/?utm_source=ig_embedig_rid=7fe68f5c-19cc-461b-b8c9-c18b50b77e60ig_mid=88C6C178-9D8C-42C8-AA08-48260A221F19https://www.instagram.com/reel/CR1IIotFKiD/?utm_source=ig_embedig_rid=0a725335-2555-4218-b25e-bcd0893e4652ig_mid=1212D8F5-7A80-484B-8300-CDEF48FA999F3.) นิสัยและคาแรคเตอร์ที่น่ารักของหนุ่มจุง ความคิ้วท์ของหนุ่มจุงที่ทำให้เพื่อน ๆ โดนตกในข้อต่อมาก็คือ นิสัยและคาแรคเตอร์ที่น่ารักของหนุ่มจุง นั่นเองละค่ะโดยหนุ่มจุงนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่มีนิสัยและคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกับบทบาทของ คาบคลื่น ในซีรีส์ Star In My Mind สุด ๆ เพราะเจ้าตัวเป็นหนุ่มที่แอคทีพ เป็นคนสดใสร่าเริง อารมณ์ดี ชอบทำอะไรโก๊ะ ๆ ทะเล้น ๆ ตลกฮา ๆ ให้เห็นอยู่เสมอ ไม่คีพลุคใด ๆ เฟรนลี่มาก อย่างใน Safe House SS3 เราจะเห็นว่าหนุ่มจุงเป็นคนที่ไฮเปอร์สุดและทำอะไรฮาให้เห็นอยู่เสมอ อีกทั้งเขายังมีทัศนคติที่ดี มองโลกบวก มีนิสัยมุ่งมั่นในการทำงานสุด ๆ เล่นเป็นเล่น ทำงานเป็นทำงาน เรียกว่าหนุ่มจุงเป็นหนุ่มที่นิสัยน่ารักโซคิ้วท์ขนาดนี้ ก็โดนตกไปเลยสิคะ!🥰🤟🏻https://www.instagram.com/p/CVfdk3mB62j/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CWicTKnBBL4/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CSOgXzEB_54/?igshid=YmMyMTA2M2Y=4.) ไลฟ์สไตล์ที่ติดตามของจุง ความน่ารักชวนโดนตกของหนุ่มจุงในข้อต่อมาก็คือ ไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจและน่าติดตามของจุง นั่นเองละค่ะ โดยหนุ่มจุงนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่แอคทีพมาก ๆ หนุ่มจุงชื่นชอบการถ่ายภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพวิว ภาพงาน Arts หรือการถ่ายภาพตัวเอง แถมมีมุมการถ่ายภาพที่ดูเก๋น่ามองสุด ๆ ชอบไปเที่ยวคาเฟ่ ธรรมชาติต่าง ๆ หรือต่างประเทศ หนุ่มจุงเป็นหนุ่มสายศิลป์ หากมีเวลาว่างเจ้าตัวก็จะชอบไปเสพศิลป์ ดูงาน Arts ต่าง ๆ อีกทั้งหนุ่มจุงยังชื่นชอบการออกกำลังกายเข้าฟิตเนสมาก ๆ แถมยังชอบเล่นกีฬา อย่างเช่นบาสเกตบอล หรือ ตีเทนนิส ทำให้หุ่นของหนุ่มจุงนั้นฟิตแอนด์เฟิร์มแบบไม่ไหว nbsp;ต้องบอกเลยว่าเป็นหนุ่มหล่อหน้าคมที่มีไลฟ์สไตล์และ Activities ที่น่าสนใจติดตามมากมายเลยละค่ะสุดยอดมากแม่🥹🫶🏻https://www.instagram.com/p/CIdIdP2gHaX/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CXImZwZBghN/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CQvjPrnswOn/?igshid=YmMyMTA2M2Y=5.) สไตล์การแต่งตัวสุดเท่ของหนุ่มจุง✨ เดินทางมาถึงความคิ้วท์จนตกโดนจกข้อสุดท้ายของหนุ่มจุงกันแล้วค่ะ ซึ่งนั่นก็คือ สไตล์การแต่งตัวสุดเท่ของหนุ่มจุงนั่นเองค่ะ โดยหนุ่มจุงเป็นคนที่มีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจนมาก เขาชื่นชอบการแต่งตัวแบบเท่ ๆ คุมโทนน้ำตาล ขาว-ดำ หรือเป็นพวกสีทึบเป็นหลัก และจะมีกิมมิคเป็นไอเทมเสริมลุคเล็กน้อยทำให้ลุคนั้นดูน่าดึงดูดสายตาค่ะ เรียกว่าเป็นหนุ่มที่น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ของแท้แน่นอนเล้ย👏🏻https://www.instagram.com/p/CRB3BySMyqS/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CQcwqMAsNRt/?igshid=YmMyMTA2M2Y= ซึ่งลุคการแต่งตัวของหนุ่มจุงที่ทางเราเลิฟมาก ๆ เลยก็คือลุคที่หนุ่มจุงเลือกสวมเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวคอปก มีการใส่เปิดช่วงอกเล็กน้อย จากนั้นแมทช์ด้วยกางเกงยีนส์สีเข้มขายาว จากนั้นปิดท้ายคอมพลีทลุคด้วยไอเทมและกิมมิคง่ายๆ อย่างสร้างคอสีทองและกระเป๋าจิ๋วทรงสามเหลี่ยม แบบ Cross Body จากแบรนด์ CELINE นั่นเองละค่ะ บอกเลยว่าเป็นหนึ่งลุคที่หล่อเท่มีสไตล์สุด ๆ ชนิดที่ว่าเห็นปุ๊ป ปิ๊งปั๊ปยังไงยังงั้นเลย♥️ https://www.instagram.com/p/CbpTk4xLIo1/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตามของจุง อาเชนInstagram : @chen_rcjTwitter : @ChenRcjก็จบลงไปนะคะสำหรับ 5 ความน่ารัก จุง อาเชน หนุ่มหล่อจาก Star In My Mind ต้องบอกเลยว่าหนุ่มจุงนั้นเป็นหนุ่มหล่ออีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่นอกจากความหล่อและความสามารถแล้วนั้น เจ้าตัวก็ยังเป็นหนุ่มที่มีนิสัยและคาแรคเตอร์ที่น่ารักชวนฟินสุด ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ใครหลาย ๆ จะโดยจุงตกไปแบบเต็ม ๆ หากเพื่อน ๆ คนไหนชื่นชอบและอยากซัพพอร์ตเจ้าตัว ก็สามารถเข้าไปฟอลโล่ได้ตามช่องทางต่าง ๆ ได้เลยค่า🤟🏻 และสุดท้ายนี้เพื่อน ๆสามารถเข้าไปรับชมซีรีส์ แล้วแต่ดาว Star In My Mind ได้ในทุก ๆ วันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง Gmm25 หรือรับชมย้อนหลังฟรีที่แรกทาง Viu เวลา 22.30 น. ได้เลยค่า ^^ #จุงอาเชนเครดิตภาพหน้าปกโดย @chen_rcjภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 เครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย @chen_rcjภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / วิดีโอที่1 / วิดีโอที่2 / วิดีโอที่3 / ภาพที่8 / ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่12 / ภาพที่13 / ภาพที่14 / ภาพที่15 / ภาพที่16 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย- 3Plus : - 2Moons2 The Series เดือนเกี้ยวเดือน 2 เริ่ม EP.1 29 มิ.ย.นี้ | Mello Thailand- GMMTV OFFICIAL : - GMMTV 2022 | Star and Sky : แล้วแต่ดาว Star in My Mind | ขั้วฟ้าของผม Sky in Your Heart- MotiveVillageOfficial : - OXQ - ผมเองครับ (ME) [MV ทางการ]- Insight Entertainment : - INSIGHT ROOKIES - I LIKE U SUMMER (ฤดูเรา) |【Official MV】- GMMTV RECORDS : - แล้วแต่ดาว (My Starlight) Ost.แล้วแต่ดาว | Star In My Mind - Joong Archenเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
nowadays girl☀︎︎ • 22 เม.ย. 65
อ่าน
สมายด์ The Star8 หรือ โสรญา ฐิตะวชิระ นักแสดงดาวรุ่งหน้าใส วัยทีนที่น่าติดตาม
สวัสดีคอบันเทิงชาวทรูไอดีทุกคน ครั้งนี้เราขอเอาใจเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบสาวไทยน่ารักใสๆ สไตล์วัยทีนกันหน่อย ใครที่ชอบศิลปินในวงการบันเทิงที่เป็นผลผลิตจากเวทีเดอะสตาร์ต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักพร้อมอัพเดทความสวยงามน่ารักของน้อง สมายด์ เดอะสตาร์ 8 กันหน่อย เพราะเธอคือสาวน้อยมากความสามารถที่เคยผ่านเวที The Star มาแล้ว และตอนนี้เธอก็มีผลงานในวงการบันเทิงมาแล้วมากมาย ดังนั้นใครที่อยากรู้จักเธอมากกว่านี้ก็ตามมาเลยครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักประวัติโดยย่อของศิลปินสาวสวยคนนี้กันก่อนดีกว่า น้องสมายด์ เดอะสตาร์ 8 เธอมีชื่อจริงว่า โสรญา ฐิตะวชิระ (ชื่อเดิม ภาลฎา ฐิตะวชิระ) เธอเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2539 ปัจจุบันอายุ 27 ปี เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันเธอเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่มีผลงานด้านการแสดงมาแล้วมากมาย สำหรับเส้นทางสู่วงการบันเทิงของน้องสมายด์นั้นได้เริ่มขึ้นจากการเข้าประกวดร้องเพลงในรายการ เดอะสตาร์ ค้าฟ้าคว้าดาว ซีซั่น 8 ซึ่งในครั้งนั้นเธอได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย แม้จะไม่ได้คว้าตำแหน่งชนะเลิศ แต่ฝีไม้ลายมือของเธอก็ดีพอที่จะเข้าตาแมวมอง จนทำให้เธอได้เข้าสู่วงการบันเทิง และเป็นที่รู้จักกันในนาม "สมายด์ เดอะสตาร์ 8" นั่นเอง เธอได้รับการชักชวนให้เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเซ็นสัญญากับต้นสังกัดอย่าง Exact บริษัทในเครือของ GMM Grammy หลังจากนั้นเธอก็เริ่มมีผลงานปล่อยออกมามากมาย ทั้งงานเพลง งานละคร และภาพยนตร์ สำหรับผลงานเพลงของน้องสมายด์ที่เด่นๆ ประกอบด้วย เพลง หลอกนานๆ เพลงประกอบละครไอ้คุณผี (พ.ศ. 2556), เพลง ปาก - SPEAK YOUR MIND เพลงประกอบละคร ปาก (พ.ศ. 2561) และ เพลง คิดอะไรอยู่ เพลงประกอบละคร ผู้ใหญ่สันต์ กํานันศรี (พ.ศ. 2564) เป็นต้น ส่วนผลงานด้านการแสดงของเธอนั้นมีมากมาย เช่น ซีรีส์เรื่อง เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน ตอนที่ 2 ตาย-ตาม (พ.ศ. 2557), Love Rhythms ตอน Daddy จำเป็น (พ.ศ. 2557) และ Love Songs Love Series To Be Continued ตอน ขอบคุณที่รักกัน (พ.ศ. 2561) ผลงานละครทีวีที่น่าจดจำของเธอ ได้แก่ ฝันเฟื่อง (พ.ศ. 2557) ที่เธอรับบทเป็น กุ๊กกิ๊ก, ขุนปราบดาบข้ามภพ (พ.ศ. 2561) ที่เธอรับบท แก้ว ในอดีต และ ก้านตอง ศิริมณีแก้ว ในปัจจุบัน, และ ภูผาผีคุ้ม (พ.ศ. 2564) ที่เธอรับบทเป็น เดือน ส่วนผลงานภาพยนตร์ของเธอนั้นมีเรื่องเดียวคือ แผลเก่า (พ.ศ. 2557) ที่เธอรับบท เป็นชมพู่ นั่นเอง สำหรับผลงานของน้องสมายด์ที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษก็คงจะเป็นละครเรื่อง ภูผาผีคุ้ม (พ.ศ. 2564) ซึ่งเป็นเรื่องราวผจญภัยแฟนตาซี ออกแนวผีๆ ที่น้องสมายด์ได้รับบทนำเป็นเดือน ที่จะต้องช่วยพาพระเอกออกตามหาสมบัติเพื่อปลดปล่อยวิญญาณของผีเฝ้าสมบัติทั้ง 8 ดวง ซึ่งละครเรื่องนี้มีความสนุกน่าตื่นเต้น ประกอบกับพระเอกนางเอกเล่นได้ดี ตีบทแตก มีเคมีที่ตรงกัน จึงถือเป็นอีกหนึ่งผลงานแสดงของน้องสมายด์ที่น่าติดตามมากๆ ส่วนผลงานละครอีกเรื่องของน้องสมายด์ที่ผมชื่นชอบก็คือเรื่อง ขุนปราบดาบข้ามภพ (พ.ศ. 2561) เป็นเรื่องราวแนวผจญภัยแฟนตาซีที่น่าตื่นเต้น เมื่อขุนปราบ แห่งกรุงศรีอยุธยา ผู้มีวิชาล้ำลึกอย่างการพรางตัว และกายเหล็ก ได้ประสบกับเหตุการณ์ประหลาดที่เหมือนกับโชคชะตาเล่นตลกให้เขาเดินทางข้ามเวลามายังยุคปัจจุบัน แล้วได้พบกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า ก้านตอง (รับบทโดยน้องสมายด์) ความสนุกจึงเริ่มขึ้น เพราะก้านตองต้องหาทางช่วยขุนปราบกลับไปยังช่วงเวลาเดิมเพื่อที่เขาจะได้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยกอบกู้กรุงศรีอยุธยา เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่สนุกดี และน้องสมายด์ก็เล่นได้ดีตีบทแตกด้วย และนี่ก็คือน้องสมายด์ The Star8 อีกหนึ่งศิลปินนักแสดงดาวรุ่งขวัญใจชาวไทยที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอบันเทิงกันทุกคน หลังจากที่ได้อ่านจบไป ใครที่ชื่นชอบสาวสวยคนนี้ก็อย่าลืมกดติดตามพร้อมเป็นกำลังใจให้เธอได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย Facebook: สมายด์ The Star8Instagram: smile.paradaเครดิต ภาพปกและภาพ 1/ ภาพปกและภาพ 2/ ภาพปกและภาพ 3/ ภาพปกและภาพ 4/ ภาพปกและภาพ 5/ ภาพ 6/ ภาพ 7/ ภาพ 8/ ภาพ 9คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน
Sujate Wanchat • 16 เม.ย. 66
อ่าน
รีวิวหนัง A Star is Born (2018) - เริ่มต้นด้วยความรัก จบกันด้วยความเศร้า
"A Star is Born" เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าดนตรีที่ออกฉายในปี 2018 กำกับโดย Bradley Cooper และเขียนบทโดย Eric Roth, Cooper และ Will Fetters ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำกลับมาสร้างใหม่เป็นครั้งที่ 4 โดยดัดแปลงจากเรื่องราวต้นฉบับปี 1937 ติดตามเรื่องราวของ Jack Maine (รับบทโดย Bradley Cooper) นักร้องคันทรีร็อคที่กำลังตกอับ และ Ally (รับบทโดย Lady Gaga) นักร้องสาวที่มีพรสวรรค์ แต่ขาดความมั่นใจเนื้อเรื่องย่อJack Maine นักร้องชื่อดังที่กำลังต่อสู้กับโรคพิษสุราเรื้อรังและภาวะสูญเสียการได้ยิน เขาได้พบกับ Ally นักร้องสาวที่มีพรสวรรค์ แต่ขาดความมั่นใจ Jack มองเห็นพรสวรรค์ของ Ally และพยายามช่วยเธอให้มีชื่อเสียง ทั้งสองตกหลุมรักกัน และความสัมพันธ์ของพวกเขาช่วยให้ทั้งสองคนเติบโตข้อมูลประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, ดนตรีนำแสดงโดย: Bradley Cooper, Lady Gaga, Sam Elliott, Andrew Dice Clay, Dave Chappelleผู้กำกับ: Bradley Cooperความยาว: 2 ชั่วโมง 15 นาทีตัวอย่างหนังhttps://www.youtube.com/watch?v=nSbzyEJ8X9Eความรู้สึกหลังดูของมีค่ามากแค่ไหนแต่ถ้าอยู่ผิดที่ คนก็ไม่เห็นคุณค่า เช่นเดียวกับ Ally (รับบทโดย Lady Gaga) นักร้องสาวมากพรสวรรค์ ผู้ได้ Jack Maine (รับบทโดย Bradley Cooper) มาผลักดันให้เธอขึ้นไปเป็นดาวดวงหนึ่งในฟากฟ้า ของวงการดนตรี จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้รักกันนี้ความคิดแรกของผม ก่อนที่จะได้ดูหนังเรื่อง "A Star is Born” ผมคิดว่าเป็นหนังรักทั่วๆ ไป หวานหยอดย้อย แต่ที่ไหนไหน ดราม่าช่วงหลังแม่งมาเต็ม ทั้งเรื่องภูมิหลังตัวละคร กับเรื่องโรคที่ตัวเอกของเราต้องเผชิญ เป็นหนังรักช่วงต้น แต่ดราม่ามาตอนท้ายๆโดยส่วนตัว ผมขอชื่นชมนักแสดงใน "A Star is Born” โดนเฉพาะ Bradley Cooper ที่ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับและตัวละครหลัก บอกเลยว่า เล่นดีเหมือนเป็นศิลปินจริงๆ ผมลองขอหาข้อมูลเพิ่มมา เห็นว่า Bradley Cooper มีการลงคอร์สร้องเพลงและเล่นกีตาร์ด้วย ขอนับถือ มีส่วนของ Lady Gaga แม้เป็นหนังเรื่องแรก แต่ก็เล่นได้มาได้ดีความรักของคนสองคนเริ่มต้นด้วยความสุขและจบลงด้วยความเศร้า จนเป็นนิยามของหนังเรื่อง "A Star is Born” ได้ดี ถ้าใครอยากดูหนังรักดีๆ สักเรื่อง ผมอยากให้คุณลองหาหนัง "A Star is Born” มาดูครับฉากที่ประทับใจผมชอบฉากร้องคู่กันของพระนางในเพลง Shallow ทั้งสองถ่ายทอดความรู้สึกระหว่างร้องได้ดี แต่ส่วนตัวผมคิดว่า มันยังไม่สุด (เอาจริงๆ คือชอบเพลงนี้ครับ)เครดิตภาพA Star is Born : ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3Warner Bros. Pictures : ตัวอย่างหนังบทความที่น่าสนใจรีวิวหนัง Lady Bird - เราทุกคนมี "วัยรุ่น" แค่ครั้งเดียวรีวิวหนัง The Shape of Water (2017) - ครบรส ทุกอารมณ์ จากผู้กำกับ Guillermo del Toroรีวิวหนัง The Grand Budapest Hotel - หนังสนุกจากผู้กำกับจอมสมมาตร Wes Andersonรีวิวหนัง Notting Hill (1999) - รักบานฉ่ำที่น็อตติ้งฮิลล์รีวิวหนัง The Notebook (2004) - รักเธอหมดใจ ขีดไว้ให้โลกจารึกรีวิวหนัง The Silence of the Lambs - อำมหิตไม่เงียบรีวิวหนัง Dead poet society - สุดยอดหนังดีของคนค้นหาตัวเองรีวิวหนัง Devil's Advocate - อาถรรพ์มัจจุราชเหนือเมฆรีวิวหนัง The Theory of Everything (2014) - ทฤษฎีรักนิรันดรรีวิวหนัง Jack Reacher (2012) - ยอดคนสืบระห่ำเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
คุณบูท • 18 ม.ค. 67
อ่าน
5 เหตุผลที่ต้องหลง ดัง ณัฎฐ์ฐชัย หนุ่มตี๋น่ารักสุดคิ้วท์ จาก Star In My Mind
“ดัง ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ” หนุ่มหล่อน้องใหม่จากทางค่าย GMMTV ที่เรียกว่าเจ้าตัวนั้นได้เดบิวต์และรู้จักกันในบทบาทของ ดาวเหนือ ในผลงานเรื่อง แล้วแต่ดาว Star In My Mind ซึ่งเป็นซีรีส์วายที่เกี่ยวกับการแอบรัก ที่ขอบอกเลยว่าหนุ่มดังได้แสดงศักยภาพในการแสดงออกมาได้ต๊าซปังถูกใจคนดูเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยจะชวนเพื่อน ๆ แฟนซีรีส์มาส่องดูความคิ้วท์พร้อมทำความรู้จักหนุ่มดังคนนี้กันผ่าน ‘5 เหตุผลที่ต้องหลง ดัง ณัฎฐ์ฐชัย หนุ่มตี๋น่ารักสุดคิ้วท์ จาก Star In My Mind’ หากพร้อมโดนตกจากหนุ่มคนนี้แล้วนั้นก็ตามมาชมกันได้เลยค่า💓✨1.) ความหล่อคิ้วท์ของหนุ่มดัง 3 ความคิ้วท์ข้อแรกของหนุ่มดังที่เราอยากจะพาเพื่อน ๆ มาโดนตกกันนั่นก็คือ ความหล่อคิ้วท์ของหนุ่มดัง นั่นเองค่ะโดยหนุ่มดังเป็นหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อและน่ารักมาก ๆ ดูแรก ๆ อาจจะเห็นลุคและบุคลิกที่ดูขรึมมีความนิ่ง แต่ขอบอกเลยว่าเมื่อเขายิ้มแล้วนั้นเป็นอะไรที่สดใสมากกกกกก เหมือนโลกเป็นสีชมพูทันที ฮ่า ๆ ยิ่งบวกกับนิสัยขี้อ้อนทะเล้น ๆด้วยแล้วบอกคำเดียวตุยเยมากแม่!🥹 และนอกเหนือจากความหล่อสุดคิ้วท์แสนละมุนแล้วนั้น หนุ่มดังยังมีส่วนสูงถึง185 เซนติเมตรเลยละค่ะ โอ้โห้เรียกว่า Boy friend Material สุด ๆ เลิฟมากแม๊🤟🏻https://www.instagram.com/p/CcnTy__vFxM/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CcNacHUvCjN/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CKTkB-dlIXg/?igshid=YmMyMTA2M2Y=2.) ความสามารถในการแสดงของหนุ่มดัง หนุ่ม “ดัง ณัฎฐ์ฐชัย” เป็นหนุ่มหล่อน้องใหม่จากทางค่าย GMMTV ซึ่งก่อนหน้านี้หนุ่มดังได้เป็นดรัมเมเยอร์ให้กับทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จากนั้นต่อมาก็ได้เริ่มมีงานเดินแบบ ถ่ายแบบออกมาบ้างประปราย https://www.instagram.com/p/B88EwP5HATh/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/B8Gd_32HW9S/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/B5m7jFCF_x-/?igshid=YmMyMTA2M2Y= โดยต้องบอกเลยว่าหนุ่มดัง เจ้าตัวนั้นนอกจากความหล่อ ร่างดีแล้วนั้นยังเก่งและมีความสามารถในการแสดงอีกด้วยอย่างการแสดงเรื่องแรกของเขาก็คือซีรีส์บอยเลิฟที่เกี่ยวกับการแอบชอบในเรื่อง “แล้วแต่ดาว Star In My Mind (2565)” ที่แสดงเป็น “ดาวเหนือ” เล่นคู่กับหนุ่มหน้าคม จุง อาเชน โดยเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับการแอบรัก ดาวเหนือ (แสดงโดยดัง ณัฎฐ์ฐชัย) ที่เขานั้นได้เจอกับ คาบคลื่น (แสดงโดยจุง อาเชน) อีกครั้ง โดยเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เขาเคยบอกชอบออกไปก่อนจะบินไปเรียนที่ต่างประเทศ แต่ก่อนที่จะไปดาวเหนือได้บอกชอบคาบคลื่นออกไป แต่ดูเหมือนว่าความรักครั้งนั้นจะไม่เป็นผล แต่การโคจรกลับมาหากันของทั้งคู่ในครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวความรักไปแบบสิ้นเชิง โดยเรื่องราวการแอบรักของดาวเหนือจะเป็นอย่างไร ก็ต้องตามไปรับชมและเอาใจช่วยดาวเหนือกันได้ทางแล้วแต่ดาว Star In My Mind ซึ่งสามารถรับชมซีรีส์ได้ในทุก ๆ วันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง Gmm25 หรือรับชมย้อนหลังฟรีที่แรกทาง Viu เวลา 22.30 น. GMMTV 2022 | Star and Sky : แล้วแต่ดาว Star in My Mind | ขั้วฟ้าของผม Sky in Your Hearthttps://youtu.be/wcTJWp5Q0Xghttps://www.instagram.com/p/CXDp66RvYa3/?igshid=YmMyMTA2M2Y= ซึ่งในบทบาทของ ดาวเหนือ ที่หนุ่มดังแสดงจะเป็นหนุ่มที่มีคาแรคเตอร์เนิร์ดหน่อย ๆ อารมณ์ดี ชอบเอาใจใส่ผู้อื่นอยู่เสมอ ในบางมุมก็จะอ่อนแอร้องไห้ง่าย อีกทั้งยังเป็นหนุ่มที่ปากแข็งที่หนึ่ง ด้วยความที่หนุ่มดังแสดงดี เข้าถึงอารมณ์และบทบาททของดาวเหนือเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก สีหน้า แววตา หรือท่าทางต่าง ๆ ทำให้เรียกว่าซีรีส์ออนแอร์ไปไม่กี่ตอนก็ได้รับความสนใจและถูกพูดถึงกันแบบสุดปังจริง ๆ ค่ะ ^^https://www.instagram.com/p/CcF_71Tvl9u/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CcYCKr4PaBw/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CcqCl1BvI1d/?igshid=YmMyMTA2M2Y=3.) นิสัยและคาแรคเตอร์สุดคิ้วท์ของหนุ่มดัง มาถึงความคิ้วท์ของหนุ่มดังในข้อต่อมากันค่ะ นั่นคือ นิสัยและคาแรคเตอร์สุดคิ้วท์ของหนุ่มดัง นั่นเอง✨ โดยหนุ่มดังนั้นเป็นหนุ่มที่มีนิสัยที่น่ารักมาก ๆ อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง พูดจาเพราะ เป็นคนที่ลุคสุภาพเรียบร้อยมองแล้วโซคิ้วท์มาก ขี้อ้อน ชอบการ Skinship เฟรนลี่กับทุก ๆ คน รวมถึงแฟนคลับด้วย เราจะเห็นคลิปที่หนุ่มดังมีการทักทายกับแฟนคลับอยู่เสมอ ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่น่ารักมาก ๆ 🥰 อีกทั้งยังเป็นคนที่ตรงไปตรงมา หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนได้รับชมรายการวาไรตี้โชว์อย่าง SAFE HOUSE SS3 : BEST BRO SECRET GMMTV ที่หนุ่มดังก็เป็นหนึ่งในหนุ่มที่ถูกคัดเลือกให้อยู่ในบ้าน ต้องบอกเลยว่าเจ้าตัวมีมุมทะเล้น ชวนขำชวนฮา แถมโก๊ะ ๆ ให้เห็ยอยู่เสมอ จึงไม่แปลกใจเลยที่หนุ่มดังนั้นจะทำให้หลายคนโดนตกกันแบบรัว ๆ 🤟🏻https://www.instagram.com/p/CaZY2G6vID9/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CaE0d8oPDrk/?igshid=YmMyMTA2M2Y=[REACTION] Trailer แล้วแต่ดาว จากหนุ่มๆ Safe House SS3 | แล้วแต่ดาว | Star In My Mindhttps://youtu.be/rsvANI9RFhI4.) ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มตี๋ดัง ความน่ารักและน่าติดตามข้อต่อมาของหนุ่มดังก็คือ ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มตี๋ดัง นั่นเองค่ะ โดยหนุ่มดังนั้นเป็นหนุ่มที่มีความชิล ๆ ชอบไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ชอบกีฬา Adventure ชอบไปคาเฟ่ ชอบดื่มชาเขียว และยังเป็นคนที่ชอบการถ่ายภาพมาก ๆ อีกทั้งดังยังชอบการออกกำลังกาย เขามักจะเข้าฟิตเนส และชอบกีฬาต่อยมวย นอกเหนือจากนี้แล้วหนุ่มดังยังเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องเกี่ยวกับศิลปะ เราจะเห็นว่าหลายครั้งหนุ่มดังก็จะไปเที่ยวชมพวกศิลปะ หอศิลป์ต่าง ๆ เรียกว่าหนุ่มดังนั้นเป็นหนุ่มหล่อที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายมิติสุด ๆ https://www.instagram.com/p/CRdwtMnr85H/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/B2Ya-mKBwza/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/reel/CPX5ovPnPcu/?igshid=YmMyMTA2M2Y=5.) ลุคแฟชั่นการแต่วตัวของหนุ่มดัง ความคิ้วท์น่าสนใจสุดท้ายของหนุ่มดังก็คือ ลุคแฟชั่นการแต่วตัวของหนุ่มดัง โดยหนุ่มดังเป็นคนที่มีเทสในเรื่องของการแต่งตัวมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวไหนเจ้าตัวก็เลิฟและใส่ขึ้นมาก ๆ อาทิ แนวสตรีท แนวมินิมอล All Black หรือ Basic และมักจะมีกิมมิคหรือไอเทมเสริมลุคอยู่เสมอ อย่างในลุคที่หนุ่มดังชอบมากที่สุดคือเป็นแนวเรียบ ๆ เน้นโทนสีขาวดำ ยีนส์ หรือเอิร์ทโทนประมาณนี้เลยค่ะ https://www.instagram.com/p/CaPOGLgPhKf/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/Cb2N-p7PTox/?igshid=YmMyMTA2M2Y= อย่างในลุคของหนุ่มดังที่เราเห็นแล้วชอบมาก ๆ คือลุคที่หนุ่มดังเลือกสวมเป็นเสื้อไหมพรมแขนกุดสีดำที่บริเวณคอเสื้อและแขนเสื้อแต่งเป็นสีขาวสุดโดดเด่น จากนั้นแมทช์คู่กับกางเกงขายาวสีดำ ในส่วนของไอเทมเสริมลุคก็จะมีเป็นแว่นตากันแดดกรอบขาว สะพายกระเป๋าทรง Cross Body และเป็นต่างหูวงที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของหนุ่มดัง จากนั้นปิดท้ายลุคด้วยรองเท้าผ้าใบสีดำ จากแบรนด์ Balenciaga เรียกว่าเป็นลุคของหนุ่มดังที่หล่อ เท่ คิ้วท์ ครบเครื่องเลยค่ะ 10 เต็มไปเลยยย! เจอลุคนี้เข้าไปก็โดนตกไปเลยสิคะ🥹💗💖✨https://www.instagram.com/p/Cch0DbePiqM/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตามดัง ณัฎฐ์ฐชัยInstagram : @dunknatachaiTwitter : @dunknatachaiเป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 5 เหตุผลที่ต้องหลง ดัง ณัฎฐ์ฐชัย หนุ่มตี๋น่ารักสุดคิ้วท์ จาก Star In My Mind ต้องบอกเลยว่าหนุ่มดังนั้นเป็นหนุ่มหล่อน้องใหม่ในวงการบันเทิงที่มีความสามารถหลากหลาย Shine ออกมาสุด ๆ ชนิดที่ว่าแค่การแสดงเรื่องแรกของเขาก็ทำเอาหลายคนนั้นชื่นชอบและประทับใจเป็นอย่างมากจริง ๆ ค่ะ ♥️ และสุดท้ายนี้เพื่อน ๆ อย่าลืมเข้าไปฟอลโล่ซัพพอร์ตหนุ่มดังกันได้ที่ช่องทางการติดตามด้านบน✨ รวมถึงรับชมซีรีส์เรื่องแล้วแต่ดาว Star In My Mind ซึ่งเป็นซีรีส์เรื่องแรกของหนุ่มดังกันด้วยน้า #dunknatachaiเครดิตภาพหน้าปกโดย @dunknatachai : ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก3 @dunknatachai.family : ภาพหน้าปก2 เครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย @dunknatachaiภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 /ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่12 / ภาพที่13 / ภาพที่14 / วิดีโอที่1 / ภาพที่15 / ภาพที่16 / ภาพที่17 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GMMTV OFFICIAL : GMMTV 2022 | Star and Sky : แล้วแต่ดาว Star in My Mind | ขั้วฟ้าของผม Sky in Your Heart[REACTION] Trailer แล้วแต่ดาว จากหนุ่มๆ Safe House SS3 | แล้วแต่ดาว | Star In My Mindบทความที่น่าสนใจ : - 5 ความน่ารัก จุง อาเชน หนุ่มหล่อหน้าคมจาก Star In My Mind- ทำความรู้จักกับ ซี ทวินันท์ หนุ่มหล่อสุดคิ้วท์น้องใหม่จากทางค่าย GMMTV - 5 ความน่ารักของ จิมมี่ จิตรพล หรือ ไว ในซีรีส์แค่เพื่อนครับเพื่อน Bad Buddy Series! - ทำความรู้จักและเปิดวาร์ป โอม-นนน นักแสดงคู่จิ้นใหม่จาก Bad Buddy Series แค่เพื่อนครับเพื่อน!เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadays girl☀︎︎ • 25 เม.ย. 65
อ่าน
“แบมบี้ The star 9” เลิกแฟนหนุ่มแล้ว ชี้แจ้งคลิป Tiktok เกิดขึ้นจริงไม่ใช่คอนเทนต์
แบมบี้ The star 9 เลิกแฟนหนุ่มแล้ว ชี้แจ้งคลิป Tiktok เกิดขึ้นจริงไม่ใช่คอนเทนต์ กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกโซเชียล สำหรับคลิป Tiktok ของ แบมบี้ The star 9 หลังเดินทางไปหาแฟนหนุ่มที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก แต่ทริปนี้ไม่หวานเจี๊ยบ แต่กลับปนไปด้วยน้ำตาล เพราะโดนฝ่ายชายเทไม่ยอมรับ และยังส่ง Google map ให้เดินทางมาเองอีกด้วย งานนี้ทำเอา แบมบี้ ร้องไห้ตลอดทางเพราะทั้งมืดทั้งเปลี่ยว ไม่รู้เส้นทาง กลัวก็กลัว และยังลากกระเป๋าหนัก 32 กก. ไปคนเดียว รวมทั้งยังเจอคนไล่ด้วยเพราะคิดว่าเป็นขโมย นอกจากที่จะมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ด้วยความสงสาร แบมบี้ แล้วยังเชียร์ให้เลิกกับแฟนหนุ่มคนดังกล่าวอีกด้วย แต่งานนี้ก็มีชาวเน็ตบางคนมองว่าคลิปที่ลงใน Tiktok อาจจะเป็นแค่คอนเท้นต์ที่ทำขึ้นเพื่อเรียกยอดไลค์หรือเปล่าเพราะใน IG ของ แบมบี้ ในทริปเที่ยวลอนดอนที่ผ่านมาก็ดูมีความสุขดี แถมเหตุการณ์ดังกล่าวก็น่าจะเกิดเป็นเดือนแล้ว จนตอนนี้เธอกลับไทยแล้วด้วย ล่าสุด แบมบี้ ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นที่หลายคนสงสัยผ่านไอจีส่วนตัวแล้วว่า... แบมบี้อยากจะขอชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากสองคลิปที่ได้ลงไปทาง TikTok ค่ะ เนื่องจากตอนนี้ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย รวมถึงมีผลกระทบต่อบุคคลที่สาม แบมบี้จึงอยากอธิบายดังนี้ค่ะ คลิปที่ลงไปเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่คอนเทนต์ ลงเพราะอยากแชร์ประสบการณ์ของตนเองเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายหรืออยากให้ต่อว่าถึงบุคคลที่สามค่ะ เหตุผลที่แฟนเก่าไม่ได้มารับที่สนามบิน เพราะเขาอยู่เยอรมนีในตอนนั้นค่ะ ตอนถึงอังกฤษเราได้มีคุยโทรศัพท์กัน เขาแนะนำให้แบมบี้นั่งรถไฟ พอกำลังจะขึ้นรถไฟจากสนามบิน เขาจึงบอกให้แบมบี้ไปตามกูเกิ้ลแมปและขอตัวไปนอนก่อน ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว แบมบี้รู้สึกเคว้งคว้างและกลัวมาก ๆ ค่ะ ไปครั้งแรกและไม่ทราบเส้นทางเลย จึงหวังแค่ว่าจะมีใครสักคนคุยเป็นเพื่อน พอไม่มีก็ยิ่งหวาดกลัว เพราะเจอทั้งคนตะโกนไล่ คนเมาตามถนน รวมถึงเดินคนเดียวบนถนนเปลี่ยว ๆ อีกเป็นชั่วโมง หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นทางแฟนเก่าก็ได้มีติดต่อ โทร. มาขอโทษถึงสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ เราจึงได้เจอกันและอยู่ ต่อด้วยกันมาอีกหนึ่งเดือน ในระยะหนึ่งเดือนนั้นมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายที่ค่อนข้างกระทบจิตใจ เราทั้งสองพยายามประคองความสัมพันธ์ ซึ่งรายละเอียดขอให้เป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ทั้งหมดนี้ทําให้เราไปต่อกันไม่ได้ แบมบี้จึงตัดสินใจจบความสัมพันธ์ และซื้อตั๋วใหม่บินกลับมาเมืองไทยคนเดียวก่อนกําหนดค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วตอนแรกเราแพลนว่าจะกลับมาพร้อมกัน ส่วนเรื่องรูปและวิดีโอทั้งหมดในไอจี ที่หลายคนมองว่าก็มีความสุขดีตอนอยู่อังกฤษ แบมบี้เชื่อว่า ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ รูปภาพและวิดีโอที่เราลง เราเลือกลงแต่รอยยิ้มเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจําอยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นใต้รูปรอยยิ้มอาจมีน้ำตาซ่อนอยู่ก็ได้ค่ะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ แบมบี้ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวที่โพสต์คลิปลงด้วยความคิดไม่รอบคอบ ตอนนี้แบมบี้และแฟนเก่าได้จบความสัมพันธ์เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ที่อังกฤษแล้วค่ะ กรุณาอย่ากล่าวว่าหรือด่าทอบุคคลที่สามเลยนะคะ แบมบี้เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนค่ะ ขอจดจำแต่เรื่องดีดี ให้อภัยซึ่งกันและกัน และเดินหน้าต่อ มีชีวิตที่ดีมีความสุขกันนะคะ ตอนนี้แบมบี้อยู่กับคุณแม่ที่ไทยแล้วนะคะ ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ค่ะ มีคุณแม่ พี่ สแปม และแบมบี้ หากมีคนอื่นกล่าวอ้างถึง นอกจากครอบครัวของเราที่กล่าวไปข้างต้น แบมบี้ขออนุญาตชี้แจ้งว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันมานานมากแล้วนะคะ เรามีกันแค่สามคนแม่ลูกค่ะ ขอขอบพระคุณทุก ๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ มีค่า มาก ๆ ค่ะ แบมบี้จะเข้มแข็งและกลับมายิ้มให้เร็ว ที่สุดค่ะ แบมบี้
ดาราเดลี่บันเทิง • 19 ส.ค. 65
อ่าน
เลเซอร์ “Death Star” ทำลายดวงดาวแบบ “Star Wars” นักวิทย์ฯ จีนอ้างทำสำเร็จแล้ว
Death Star ควบรวมลำแสงเลเซอร์ ทั้งหมด 8 สาย แล้วยิงออกไปเป็นเส้นเดียว ทำลายดาวอัลเดรันทั้งดวง ฉากนี้ กลายเป็นที่จดจำของใครหลายคน ที่แสดงให้เห็นถึงพลังอันโหดร้ายของจักรวรรดิกาแลกติกการทำลายล้างดาวทั้งดวง ด้วยการควบรวมเลเซอร์เข้าด้วยกัน อาจกลายเป็นจริงในอนาคต เมื่อนักวิทยาศาสตร์จีน อ้างว่า พวกเขาคิดค้นหลักการทำงานของอาวุธนี้ได้แล้ว ตามการรายงานของ Live Science---นักวิทย์ฯ จีน เผยสร้างอาวุธเลเซอร์บีมสำเร็จ---แม้จะยังไม่แน่ชัดว่า ทีมวิจัยได้แรงบันดาลในการสร้างเลเซอร์บีมมาจากภาพยนตร์ Star Wars หรือไม่ แต่นักวิทยาศาสตร์จีน ออกมากล่าวว่า พวกเขาได้สร้างอาวุธคลื่นไมโครเวฟชนิดใหม่ ที่เอาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงหลายตัวรวมเข้าด้วยกัน แล้วส่งพลังงานทั้งหมดไปที่เป้าหมายเดียวกันระบบการทำงานของอาวุธนี้ ประกอบด้วยเครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟ ประจำตามจุดต่าง ๆแต่ละเครื่องจะยิงลำแสงด้วยการซิงโครไนซ์ที่มีความแม่นยำสูง แล้วแสงเหล่านี้จะรวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นลำแสงอันทรงพลัง และโจมตีไปยังเป้าหมายเดียว---หลักการทำงานอาวุธเลเซอร์---ฟังแล้วดูเหมือนจะง่าย แต่เรื่องนี้ยากกว่าที่คิด เพราะคลื่นไมโครเวฟ เป็นลำแสงพลังงานแคบ ที่จำเป็นต้องจัดตำแหน่งอย่างแม่นยำ เพื่อนำมาบรรจบกัน นั่นหมายความว่า จังหวะเวลาที่แสงเหล่านี้ถูกยิงออกมา จะมีเวลาควบคุมเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นจากข้อมูลของทีมวิจัย ระบุว่า เครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟแต่ละตัว ยังต้องวางอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งอย่างแม่นยำ โดยจะต้องอยู่ภายในระยะคลาดเคลื่อนได้แค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ว่าระบบนำทางดาวเทียม BeiDou ของจีน ระบุตำแหน่งที่แม่นยำได้ภายในระยะ 1 เซนติเมตร หรือ 0.4 นิ้ว ซึ่งนั่นยังไม่เพียงพอสำหรับอาวุธชนิดใหม่นี้ ทีมวิจัยจึงได้ติดตั้งอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งด้วยเลเซอร์ ไว้บนเครื่องส่งแต่ละตัว เพื่อให้ได้ระบบกำหนดตำแหน่งที่มีความแม่นยำในระดับมิลลิเมตร และเครื่องส่งต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์ด้วย เพราะหากพื้นผิวมีการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความ ตัวปล่อยคลื่นจะไม่ได้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง และอาวุธจะไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้นี่ไม่ใช่ความยากเพียงเรื่องเดียวของการสร้างเลเซอร์ Death Star เพราะการยิงแบบซิงโครไนซ์ จะต้องเกิดขึ้นภายใน 170 พิโควินาที หรือเท่ากับ 170 ในสัดส่วน 170 ล้านล้านวินาที หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เวลามันสั้นแค่ไหน คอมพิวเตอร์ทั่วไปใช้ระยะเวลา 330 พิโควินาทีในการประมวลผล 1 รอบแต่ทีมวิจัยได้เชื่อมต่อแพลตฟอร์มส่งสัญญาณโดยใช้ใยแก้วนำแสง เพื่อให้มั่นใจว่า แสงเลเซอร์ทั้งหมดจะซิงโครไนซ์กันได้อย่างเหมาะสม และควบคุมจากระยะไกลได้---เลเซอร์ Death Star ในชีวิตจริง ยังคงห่างไกล---South China Morning Post รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จีนในโครงการนี้ อ้างว่า กำลังรวมพลังงานของลำแสงไมโครเวฟที่มาบรรจบกัน มีผลรวมเท่ากับ 1+1 มากกว่า 2 หมายความว่า คลื่นไมโครเวฟ 2 คลื่น เมื่อรวมกัน จะทรงพลังมากกว่า 2 เท่าตัวนั่นเอง แม้ว่าแนวคิดนี้จะขัดกับกฎการอนุรักษ์พลังงาน (Conservation of energy)ถึงกระนั้น ทีมวิจัยจีนประสบความสำเร็จในการควบรวมลำแสงคลื่นไมโครเวฟได้ในสภาวะแวดล้อมที่ควบคุมได้ แต่สำหรับโลกแห่งความเป็นจริง มีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย ซึ่งเรื่องนี้ เป็นความท้าทายอย่างมาก สำหรับเครื่องมือเทคโนโลยีใด ๆ ที่จำเป็นต้องพึ่งพาความแม่นยำสูงในระดับนี้หากจะพูดง่าย ๆ ก็คือ อาวุธเลเซอร์ Death Star ที่จะสามารถทำลายล้างดาวดวงหนึ่งได้ในชีวิตจริง ยังคงเป็นเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากยิ่งนักแปล-เรียบเรึยง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์แหล่งข้อมูลอ้างอิง:https://www.livescience.com/technology/engineering/chinese-scientists-claim-they-have-built-a-death-star-inspired-beam-weaponhttps://www.scmp.com/news/china/science/article/3284794/chinese-scientists-say-they-have-made-converged-energy-beam-weapon-reality
TNN ช่อง16 • 1 ธ.ค. 67
อ่าน
THE STAR 12
THE STAR 12 ทุกวันเสาร์ เวลา 20.15 น. ออกอากาศทางช่อง one31 รวบรวมคลิปจาก Youtube : ช่อง one
เรื่องย่อละคร • 20 ก.พ. 59
อ่าน
"A Sky Full Of Stars" ปรากฏการณ์เซอร์ไพรส์ครั้งใหม่จากวงร็อคสุดเท่ "Coldplay"
หลังจากสร้างปรากฏการณ์สายฟ้าแลบที่เซอร์ไพรส์กันไปทั่วโลก ด้วยการประกาศชื่ออัลบั้มล่าสุด Ghost Stories พร้อมสองเพลงใหม่แบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้ง Midnight ที่มาพร้อมมิวสิควิดีโอผสมผสานงานศิลปะอันแสดงความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนความเก๋ เท่ และไม่เหมือนใคร มาจนถึง Magic ซิงเกิ้ลแรกอย่างเป็นทางการ ที่มีจังหวะช้าเสนาะหู มาพร้อมมิวสิควิดีโอในรูปแบบของหนังเงียบในยุค 1920s ว่าด้วยชีวิตของนักมายากลในคณะละครสัตว์ ทั้งยังเป็นการโดดมารับงานแสดงมิวสิควิดีโอเป็นครั้งแรกของนักแสดงสาวชาวจีนระดับฮอลลิวู้ด จางซิยี่ ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Crouching Tiger, Hidden Dragon, Memoirs of a Geisha และอีกมากมาย ไม่เท่านั้น! ล่าสุดวงร็อคสุดเท่ Coldplay ยังปล่อยเพลงใหม่ A Sky Full Of Stars ที่ได้ร่วมงานกับดีเจสุดร้อนแรงแห่งยุค Avicii ที่เจ้าตัวถึงกับออกปากเองว่าเขานั้นเป็นแฟนพันธ์แท้ของวง และดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้มนี้ ทั้งนี้ A Sky Full Of Stars ยังได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ว่าเพลงนี้ จะเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ขึ้นทำเนียบของ Coldplay ถัดจากเพลงฮิตในอดีตอย่าง Yellow, Fix You, Viva La Vida, Every Teardrop Is A Waterfall และ Paradiseติดตามความเคลื่อนไหววงการเพลง ได้อีกช่องทางที่FB : TrueMusicTW: TrueMusic
ข่าวสารวงการเพลง • 25 พ.ค. 57
อ่าน
SKY รายได้พุ่ง 63% แบ็กล็อกแกร่ง ปี 68 รับแรงหนุน Aviation Tech
#ทันหุ้น - SKY ประกาศผลประกอบการปี 2567 ทำรายได้รวม 6,744 ล้านบาท เติบโต 63% จากปีที่ผ่านมา (2566) และมีกำไรสุทธิ 481 ล้านบาท เดินหน้าสู่การเติบโตระยะยาวด้วยแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ธุรกิจ Aviation Tech และ Airport Services ขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมตุนแบ็กล็อกมูลค่าสูงถึง 23,000 ล้านบาท รองรับการเติบโตในอีก 6-7 ปีข้างหน้า การฟื้นตัวท่องเที่ยวหนุนธุรกิจ Aviation Tech โตเด่น นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) (SKY) เปิดเผยว่า SKY Group ในไตรมาส 4/67 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 2,014 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท โดยทั้งปี 2567 มีรายได้รวม 6,744 ล้านบาท เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) พร้อมทำกำไรสุทธิ 481 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ส่งเสริมให้ธุรกิจ Aviation Tech และ Airport Services เติบโตตามไปด้วย ข้อมูลจาก บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) ระบุว่า ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า-ออกประเทศมากถึง 119 ล้านคน ส่งผลให้การดำเนินงานของ SKY ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน ได้แก่ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS), ระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) และระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Biometric) ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยSKY คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทยจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% ในปี 2568 กลยุทธ์กระจายการลงทุน เสริมแกร่งระยะยาว นอกเหนือจากธุรกิจ Aviation Tech ที่ SKY ทำมาอย่างต่อเนื่อง ทาง SKY ยังขยายการลงทุนไปยังกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง และต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วย Smart Facility Management ผ่าน บริษัท เมธเธียร์ จำกัด, ธุรกิจ Call Center ที่นำเทคโนโลยี Large Language Model (LLM) และ AI เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ผ่านการลงทุนใน บริษัท วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล จำกัด และธุรกิจเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลภาครัฐขนาดใหญ่ ผ่านการส่ง บริษัท โปรอินไซต์ จำกัด (มหาชน) (PIS)ซึ่งเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดย SKY วางแผนดำเนินธุรกิจที่มีโครงสร้างรายได้ครอบคลุมทั้งรูปแบบสัมปทาน (Concession), รายได้หมุนเวียน (Recurring Income) และสัญญาระยะยาว (Cash Cow) เพื่อสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงในอนาคต ตุนแบ็กล็อก 23,000 ล้าน มั่นใจการเติบโตระยะยาว นายสิทธิเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ณ สิ้นปี 2567 SKY มีงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 6-7 ปีข้างหน้า พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจในเครือเพื่อรองรับการเติบโตของแต่ละหน่วยธุรกิจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพซึ่งสามารถต่อยอดด้วยเทคโนโลยี เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนให้แข็งแกร่งขึ้น SKY มั่นใจว่าปี 2568 บริษัทจะยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเต็มที่และแผนการขยายธุรกิจในอนาคต
ทันหุ้น • 28 ก.พ. 68
อ่าน
Triumph In The Skies II เหินฟ้าหารัก 2
Triumph in the Skies II เหินฟ้าหารัก 2 ออกอากาศ จันทร์ ศุกร์ เวลา 14:00 15:00 น. ทางช่อง แฟมิลี่
เรื่องย่อละคร • 21 มิ.ย. 58
อ่าน
รีวิวเกม The Legend of Heroes Trails in the Sky the 3rd บทสรุปแห่งท้องนภา
หลังจากความประทับใจอย่างท่วมท้นในสองภาคแรกของ Trails in the Sky ผมก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ดำดิ่งสู่บทสรุปของเรื่องราวบนท้องนภาแห่ง Liberl ใน The Legend of Heroes: Trails in the Sky the 3rd ภาคนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาคต่อ แต่เป็นการเดินทางครั้งใหม่ที่แตกต่างออกไป ที่จะพาเราไปสำรวจก้นบึ้งของจิตใจตัวละคร และเผชิญหน้ากับอดีตที่ถูกฝังไว้ พร้อมกับระบบการเล่นที่ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ภาคนี้ก็เหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งสุข เศร้า ตื่นเต้น และหดหู่ การเดินทางครั้งใหม่ใน Phantasma: โลกแห่งปริศนาและความทรงจำ จากท้องฟ้าสีครามสดใสในภาคก่อนๆ Trails in the Sky the 3rd พาเราดิ่งลงสู่ Phantasma ดินแดนปริศนาที่เต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวและความทรงจำที่ถูกบิดเบือน การเปลี่ยนแปลงสถานที่นี้ไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนฉากหลัง แต่มันส่งผลต่อบรรยากาศของเกมโดยรวมอย่างมาก ผมรู้สึกได้ถึงความอึดอัด ความไม่แน่นอน และความลึกลับที่ปกคลุมอยู่ทุกหนแห่งใน Phantasma การที่ตัวละครหลักในภาคนี้คือ Kevin Graham นักบวชหนุ่มจาก Septian Church ผู้มีอดีตอันดำมืด และ Ries Argent เพื่อนสมัยเด็กของเขา ทำให้เรื่องราวในภาคนี้เข้มข้นและเต็มไปด้วยปมปริศนาที่น่าติดตาม ผมรู้สึกผูกพันกับ Kevin มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้เห็นเขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันเจ็บปวด และพยายามหาทางก้าวข้ามมันไปให้ได้ ระบบการต่อสู้ที่ลึกซึ้งและท้าทายยิ่งกว่าเดิม Trails in the Sky the 3rd ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของระบบการต่อสู้แบบ Turn-based ที่ผสมผสาน Arts (เวทมนตร์) และ Crafts (ท่าไม้ตาย) ได้อย่างลงตัว แต่ภาคนี้มีการปรับปรุงและเพิ่มเติมระบบใหม่ๆ เข้ามา ทำให้การต่อสู้มีความท้าทายและสนุกยิ่งขึ้น สิ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือระบบ "Chain Craft" ที่ทำให้เราสามารถโจมตีต่อเนื่องได้หลายครั้ง หากจัดวางตำแหน่งตัวละครและใช้ท่าไม้ตายที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมี "S-Break" ท่าไม้ตายสุดยอดที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในพริบตา แต่การจะใช้ท่าเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยการวางแผนและการตัดสินใจที่รวดเร็ว การต่อสู้ในภาคนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนภาคก่อนๆ บอสแต่ละตัวมีความสามารถและรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกัน ทำให้ผมต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งกว่าจะเอาชนะได้ แต่เมื่อเอาชนะได้แล้ว ก็รู้สึกถึงความสำเร็จและความภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก ประตูแห่งความทรงจำ: เรื่องราวเบื้องหลังของเหล่าตัวละคร หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Trails in the Sky the 3rd โดดเด่นกว่าภาคอื่นๆ คือ "ประตูแห่งความทรงจำ" (Doors of Memories) ซึ่งเป็นดันเจี้ยนพิเศษที่เปิดโอกาสให้เราได้สำรวจเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครแต่ละตัว ทั้งตัวละครหลักจากภาคก่อนๆ และตัวละครใหม่ที่ปรากฏตัวในภาคนี้ การได้เห็นเรื่องราวในอดีตของ Estelle, Joshua, Olivier, Kloe และตัวละครอื่นๆ ทำให้ผมเข้าใจถึงแรงจูงใจและการกระทำของพวกเขามากขึ้น ผมรู้สึกอินไปกับเรื่องราวของพวกเขา บางครั้งก็หัวเราะไปกับมุกตลก บางครั้งก็น้ำตาซึมไปกับเรื่องราวที่แสนเศร้า ประตูแห่งความทรงจำไม่ได้เป็นแค่ดันเจี้ยนเสริม แต่มันเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มเรื่องราวของ Trails in the Sky ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และทำให้ผมรักตัวละครเหล่านี้มากยิ่งขึ้นไปอีก เสียงเพลงประกอบที่ไพเราะและตราตรึงใจ Falcom Sound Team jdk ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และใน Trails in the Sky the 3rd พวกเขาก็ได้สร้างสรรค์บทเพลงประกอบที่ไพเราะและเข้ากับบรรยากาศของเกมได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เพลงเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่อลังการ ไปจนถึงเพลงประกอบฉากต่อสู้ที่เร้าใจ และเพลงประกอบฉากเศร้าที่ทำให้ผมน้ำตาซึม ทุกบทเพลงล้วนถูกประพันธ์ขึ้นมาอย่างประณีต และช่วยเสริมสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ผมยังจำเพลง "Overdosing Heavenly Bliss" ที่เป็นเพลงประกอบฉากต่อสู้กับบอสใหญ่ได้ติดหู และเพลง "The Merciless Savior" ที่เป็นเพลงประกอบฉากต่อสู้กับ Kevin ในช่วงแรกของเกม ก็ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิมและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ฟัง ประสบการณ์ส่วนตัวและความรู้สึกหลังเล่นจบ การเดินทางใน Phantasma กับ Kevin และ Ries เป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืม มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความเศร้า ความสุข และความประทับใจ ผมรู้สึกผูกพันกับตัวละครทุกตัว และเอาใจช่วยพวกเขาให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ เมื่อเล่นจบ ผมรู้สึกเหมือนได้เติบโตขึ้นไปพร้อมกับตัวละคร ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของมิตรภาพ ความกล้าหาญ และการเผชิญหน้ากับอดีต แม้ว่า Trails in the Sky the 3rd จะไม่ใช่ภาคจบที่สมบูรณ์แบบของเรื่องราวบนท้องนภา แต่มันก็เป็นบทสรุปที่งดงามและน่าจดจำ สรุป: The Legend of Heroes: Trails in the Sky the 3rd ไม่ใช่แค่เกม RPG ที่ดี แต่มันเป็นประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก มันเป็นเกมที่ทำให้ผมหัวเราะ ร้องไห้ และรู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน ถ้าคุณเป็นแฟนเกม RPG ที่ชื่นชอบเรื่องราวที่เข้มข้น ตัวละครที่มีเสน่ห์ และระบบการต่อสู้ที่ท้าทาย Trails in the Sky the 3rd คือเกมที่คุณไม่ควรพลาด และสำหรับผม Trails in the Sky the 3rd คือหนึ่งในเกม RPG ที่ดีที่สุดที่เคยเล่นมา และเป็นเกมที่ผมจะเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 28 ก.พ. 68
อ่าน
MGI Open House “A Star is Born” สุดปัง! เปิดตัวซีรีส์ GL "หยดฝนกลิ่นสนิม" อิงฟ้า-ชาล็อต หวนคู่
บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ล็อคเป้าลุย Super Big Project ไม่พัก นำทัพโดยหัวเรือใหญ่ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สั่งปิด MGI HALL ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK ถ.พระราม 9 จัดงานใหญ่ MGI Open House A Star is Born (เอ็มจีไอ โอเพ่น เฮ้าส์ อะ สตาร์ อิส บอร์น) ประกาศความสำเร็จพร้อมดันโปรเจ็คต์ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน อยู่กับแกรนด์มีแต่รวยกับรวย ประเดิมด้วยซีรี่ส์ iQIYI Original หยดฝนกลิ่นสนิม" (Petrichor the Series) ถือเป็นซีรี่ส์ Girl Love ที่ทุกคนรอคอยและติดตาม แค่ปล่อยตัวอย่างออกมาเพียงนิดก็ติดเทรนด์X และถูกพูดถึงตลอดเวลา โดยเฉพาะการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ อิงฟ้า วราหะ และ ชาล็อต ออสติน ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ผ่านการไขความลับและปริศนา การตามล่าฆาตรกรต่อเนื่องในคดีต่างๆ ฝีมือ 2 ผู้กำกับ ปอย พรรณเรศ รุจิระนันท์ และ น็อต พงศธร ทองเจริญ ร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมาย เรียกได้ว่าผู้ชมได้ลุ้น หมวดตุลย์ และ หมอเฌอรัญชน์ กันเต็มอิ่มในทุก Ep. ออกอากาศ ทุกวันเสาร์ เวลา 21:15 น. ทางช่อง one31และชมออนไลน์เวอร์ชัน Original Uncut บนแอป iQIYI (อ้ายฉีอี้)แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชั้นนำของโลก และ https://www.iq.com ที่เดียวเท่านั้น เริ่มตอนแรก วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญระหว่าง iQIYI และ MGI ในการส่ง iQIYI Original ซีรีส์ Girl Love ไทยเรื่องแรก ออกอากาศไปกว่า 190 ประเทศทั่วโลก โดยได้รับเกียรติจาก 3 ผู้บริหาร 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ คุณ ผ่านศึก ธงรบ ผู้อำนวยการอ้ายฉีอี้ ประจำประเทศไทย, คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน และ คุณสมศรี พฤทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กร บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวความพร้อมร่วมกัน ความปังของแกรนด์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ พิธีกร แชมป์ สกุล ลิมปภานนท์ เริ่มงานแถลงข่าว MISS GRAND THAILAND 2025 A Star is Born ตามหาดาวดวงใหม่ ที่มีครบ Grand Quality ทั้ง 4 B พร้อมทั้งมีความเป็น Beauty Queen Star กับการเข้าสู่ปีที่ 13 ของ MISS GRAND THAILAND ด้วย 7 สาวODaisy (โอเดซี่) ศิลปิน T-POP วงแรกของแกรนด์กับซิงเกิ้ล Times up (ไทม์ อัพ) ตามมาด้วย Grand Fashion Show ATIPA ให้มิสแกรนด์รุ่นพี่ตัวแม่ นำโดย อิงฟ้า วราหะ , ชาล็อต ออสติน ,หลิน มาลิน ชระอนันต์ , อุ้ม ทวีพร พริ้งจำรัส , มีนา ริณา ฉัตรอมรชัย , สแน็ก อัจฉรีย์ ศรีสุข , พัดชาพลอย เรือนดาหลวง ฯลฯ แท็คทีมรุ่นน้องตัวจี๊ด ฟาดแฟชั่นโชว์สุดว้าว เท่านั้นยังไม่หนำใจ คุณเฟิร์น อติภายิ์ คงคาลัย ผู้บริหาร แบรนด์เสื้อผ้า Atipa shop ในฐานะ Super Grand Sponsor ร่วมสนับสนุนการประกวด MISS GRAND THAILAND 2025 ถึง 30,000,000 ล้านบาท! ผู้สนับสนุนยังสุดขนาดนี้ ไม่ต้องถามว่าผู้เข้าประกวด MGT2025 จะสุดขนาดไหน แค่เผยตัวอยู่ในงาน หลายคนก็ฉายแวว A Star is Born ให้เห็นกันแล้ว ก่อนจะได้ร่วมต้อนรับ ผู้อำนวยการกองประกวด (PD) ทั้ง 77 จังหวัด หรูหรา อลังการ กับการแนะนำตัวที่เริ่ดไม่แพ้กัน บอสณวัฒน์ ขึ้นเวทีเปิดโผ รายละเอียดการประกวดระหว่าง เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2568 เพื่อให้นางงามทุกคนได้เตรียมตัวกับกิจกรรมต่างๆมากมาย ที่จะมีขึ้นที่ กรุงเทพ และ สงขลา จังหวัดเจ้าภาพ ซึ่ง คุณอารยา โต๊ะกะสุบ ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์สงขลา และ สงขลา The Host City ประกาศแล้วว่า สงขลา พร้อมมากค่ะ ความปังของแกรนด์ยังไม่จบ กระหึ่มเวทีกันต่อด้วย Grand Fashion Show เปิดตัวเครื่องประดับเพชรแท้ของ MGI แบรนด์ VELORA (เวโลร่า) ความงามเหนือกาลเวลา สวยระยิบระยับ บอสณวัฒน์ เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของเพชร MGI ที่นางแบบกิตติมศักดิ์ สวมใส่ นำโดย บิวตี้ วรัญชนา ระดมเล็ก , อาย ภรภัค วราโสภณภักดี , จานิส ปิยรดา วายุเวช , เอ็มม่า มาตินี่ , จินนี่ ณปภัช รุ่งโรจน์ ,ยุวเฟิร์น ยุวภรณ์ ทรงงาม ,มะปราง สุนทรี อ้วนอินทร์ ,ชูการ์ อรทัย พังจันทร์ ,พราด้า ธัญญ์สิตา ดิรกอนันต์สกุล ,ใบมิ้นท์ กิติยาพร ฟุ้งมี ,ใบเฟิร์น กัญญภัสภร รุ่งเรือง ,หลิน มาลิน ชระอนันต์ ,พัดชาพลอย เรือนดาหลวง ,สแน็ก อัจฉรีย์ ศรีสุข ,มีนา ริณา ฉัตรอมรชัย , อุ้ม ทวีพร พริ้งจำรัส, ชาล็อต ออสติน ปิดท้ายด้วยคู่ฟินาเล่ แจน ณัฏฐ์ฑินี ธนัตพรภิญโญ มิสแกรนด์ลำปาง 2025 ผู้เข้าประกวดที่สามารถทำยอดขายสินค้า MGI ได้มากที่สุด ได้เดินแฟชั่นโชว์ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ เรียกว่า สวย เก่ง ไม่แพ้รุ่นพี่ แต่จะทะยานไปคว้ามง MGT 2025 ได้หรือไม่รอลุ้นได้ในการประกวด MISS GRAND THAILAND 2025 รอบตัดสิน 29 มีนาคม 2568 ปิดท้ายกันด้วยการเปิดตัวธุรกิจใหม่ล่าสุดของบ้านแกรนด์ หมี่มหาชน ฉีกซอง เติมน้ำ ปรุงแจกให้ผู้ร่วมงานได้ชิมด้วยกันเป็นครั้งแรก ทุกเสียงบอกได้คำเดียวว่าอร่อยต้องลอง จับจองลองซื้อมาทานกันได้แล้ววันนี้ในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ MGI
ข่าวละคร • 4 ก.ย. 67
อ่าน
ประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษเรื่อง A Star is Born - อะ สตาร์ อีส บอร์น
TrueID Movies ร่วมกับ WarnerBros Thailand ขอเชิญคุณร่วมกิจกรรมลุ้นรับบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษเรื่อง A Star is Born อะ สตาร์ อีส บอร์น รายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษเรื่อง A Star is Born อะ สตาร์ อีส บอร์น วันพุธที่ 10 ตุลาคม 2561 รับบัตร 19.00 19.50 น. ดูหนัง 20.00 น. สถานที่ โรงภาพยนตร์ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก จำนวน 10 รางวัล 20 ที่นั่ง 1. Boonthai Mokkaravoranant / บุญไทย มกราวรนันท์ 2. MK Kookgaw / สุพจชัย ตั้งมณีพิทักษ์ 3. Soisom Kaewkung /โสมไสว แก้วกุลวณิชย์ 4. ธัญญาภา สุโลวนรณ /ธัญญาภา สุโลวรรณ 5. Saranwich Joe Jarusaranwat / ศรัณวิชญ์ จารุศรัณวัฒน์ 6. JooJoy Cheunjit / บุษบา ชื่นจิตต์ 7. Panadda Srivorrakul / ปนัดดา ศรีวรกุล 8. Jaturaporn Munkongpitukkul / ศศิมา มั่นคงพิทักษ์กุล 9. บุญกิจ ประเสริฐวชิรกุล / บุญกิจ ประเสริฐวชิรกุล 10 Surasak Muangdee / สุรศักดิ์ เมืองดี กติกาการร่วมสนุก 1. กดปุ่ม Share ที่มุมบนซ้ายของหน้ากิจกรรมนี้ เพื่อแชร์ไปยัง Facebook Timeline ของคุณโดยเปิดเป็น สาธารณะหรือก็อปปี้ลิงค์ URL ด้านบนไปแชร์ใน Facebook ของตัวเอง 2. ตอบคำถามตามหัวข้อด้านล่างนี้ พร้อมระบุ ชื่อ-นามสุกล ผ่าน comment box ในหน้ากิจกรรมนี้ เท่านั้น (กรุณาเล่นผ่านเว็บไซต์ที่ลิงค์ http://dara.trueid.net/detail/267408 เท่านั้น) ตัวอย่างการตอบคำถาม “คำตอบของคุณ/ นาย ทรูไอดี มูวี่” โดยตอบคำถามพร้อมชื่อ-สกุล ผ่าน Comment Box ด้านล่างในหน้ากิจกรรมนี้เท่านั้น ** *** ในการรับชมภาพยนตร์ใช้ บัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น (ที่ไม่หมดอายุ) และผู้โชคดี 1 ท่าน สามารถรับบัตรได้ 1 รายชื่อเท่านั้น ไม่สามารถรับบัตรแทนกันได้ รับบัตร 19.00 19.50 น. ดูหนัง 20.00 น. (โต๊ะลงทะเบียนจะเก็บตอน 20.00 น. รายชื่อที่ไปรับเลทกว่าเวลาที่ กำหนดถือว่าสละสิทธิ์) ผู้ที่ได้รับรางวัลในกิจกรรมรอบนี้ หากมีรายชื่อได้รับรางวัลจากเว็บไซต์นี้และในเว็บอื่นเกิน 1 ชื่อ ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ให้เหลือชื่อ เพียง 1 ชื่อ เท่านั้น โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรุณาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ กรณีที่ต้องมีการฝากโทรศัพท์มือถือ, กล้องถ่ายรูป, หรืออื่นๆ ระยะเวลาการร่วมสนุก : ตั้งแต่วันนี้ – 12.00น. วันที่ 08 ตุลาคม 2561 ประกาศผลผู้โชคดี : เวลา 18.00น. 08 ตุลาคม 2561 ขอบคุณผู้สนับสนุนกิจกรรมพิเศษ
ข่าวบันเทิง • 8 ต.ค. 61
ดูเพิ่มเติม