รีเซต

ผลการค้นหา “Restart(ed)” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ชูสินเชื่อ “SMEs Re-Start” ธุรกิจเที่ยวกู้สูงสุด 5 ล้าน สิ้นสุด 31มี.ค.นี้
อ่าน

ชูสินเชื่อ “SMEs Re-Start” ธุรกิจเที่ยวกู้สูงสุด 5 ล้าน สิ้นสุด 31มี.ค.นี้

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เดินหน้าเติมทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ผ่านมาตรการทางการเงิน สินเชื่อ SMEs Re-Start วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท จับมือ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน สามารถกู้พร้อมค้ำ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ รวมถึงเอสเอ็มอีทุกประเภทที่เป็นคู่ค้ากับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เข้าถึงแหล่งเงินทุนนำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือสำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยยกระดับกิจการ รองรับกำลังซื้อนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่จะกลับมา สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวตามนโยบายภาครัฐ สำหรับสินเชื่อ SMEs Re-Start คุณสมบัติกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.5% ต่อปี หรือ MLR -1.25% วงเงินกู้ ได้แก่ กลุ่มบุคคลธรรมดา สูงสุด 1 ล้านบาท และกลุ่มบุคคลธรรมดาจด VAT หรือนิติบุคคล สูงสุด 5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี พร้อมปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน 24 เดือน และสามารถใช้ บสย. ค้ำประกันร่วมได้ เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566

Shut down หรือ Restart Windows หรือ macOS ด้วยการใช้คีย์บอร์ด
อ่าน

Shut down หรือ Restart Windows หรือ macOS ด้วยการใช้คีย์บอร์ด

ถ้าเรามีเหตุทำให้ใช้เมาส์ไม่ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และบนโน้ตบุ๊ก แล้วต้องการ Shut down หรือ Restart คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะบน Windows หรือบน macOS ก็สามารถทำได้ โดยเราจะใช้การกดปุ่ม ALT + F4 บน Windows และใช้ Control + Eject บน macOS ลองไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันสำหรับ Windows1. กดปุ่ม Alt บนคีย์บอร์ดค้างเอาไว้ โดยปุ่ม Alt จะมีอยู่สองฝั่งจะใช้ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาก็ได้ตามถนัดครับ2. กดปุ่ม F4 บนคีย์บอร์ด ซึ่งจะอยู่ด้านบนของคีย์บอร์ด เราจะเห็นปุ่มนี้อยู่ด้านบนโดยมีปุ่ม F และมีหมายเลขกำกับอยู่ด้านหลังเรียงต่อกันตั้งแต่ F1 ถึง F12การกดปุ่ม ATL และ F4 ควบคู่กันนั่นคือการสั่งปิดโปรแกรมใดๆ ที่กำลังทำงานอยู่สำหรับโน้ตบุ๊กบางรุ่นบางยี่ห้อ อาจจะต้องกดปุ่ม Fn ควบคู่กับการกดปุ่ม ATL + F4 ไปด้วย โดยจะต้องกดเป็น Fn + ALT + F4 3. กดปุ่ม ALT + F4 ไปเรื่อยๆ จนปิดโปรแกรมที่ทำงานทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย และกดจนกระทั่งพบกับหน้าต่าง Shut Down Windows4. จากหน้าต่าง Shut Down Windows เราสามารถเลือกตัวเลือกให้การสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ โดยเราสามารถที่จะเลือกตัว Shut down เพื่อปิดคอมพิวเตอร์หรือเลือก Restart เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ออกจาก Windows แล้วเริ่มทำงานใหม่ก็ได้ โดยถ้าอยากจะเลือกตัวเลือกให้ลองกดปุ่ม Tab บนคีย์บอร์ดจนกระทั่งตัวเลือกถูกโฟกัสอยู่ (โดยจะมีเส้นรอบๆ ช่องนั้น) แล้วใช้ลูกศรบนคีย์บอร์ดกดขึ้นหรือลงเพื่อเลือกตัวเลือกที่ต้องการ หลังจากนั้นกดปุ่ม OK เพื่อยืนยันการทำงานนะครับ5. อีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้ได้คือใช้การกดปุ่ม Windows Key + X บนคีย์บอร์ดเมื่อกดแล้วเราได้เมนูในส่วนของ Power User Menu ปรากฏขึ้นมา ให้เราใช้ลูกศรบนคีย์บอร์ดในการเลื่อนไปยังคำสั่ง Shut Down, Restart หรืออื่นๆ ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Enter เพื่อยืนยันการทำงานสำหรับ Mac1. กดปุ่ม Control หรือ Ctrl บนคีย์บอร์ดค้างเอาไว้ โดยปุ่ม Control นี้จะมีสองอยู่สองฝั่ง สามารถใช้ฝั่งใดก็ได้ตามที่ต้องการ2. กดปุ่ม Power (ถ้าไม่มี Touch ID) หรือกดปุ่ม Media Eject (ถ้ามี Touch ID) จะหน้าต่างขึ้นมาให้เราเลือกการทำงานว่าจะ Restart, Sleep, Shutdown หรืออื่นๆ ให้เราใช้ลูกศรบนคีย์บอร์ดเลือกตัวเลือกที่ต้องการหลังจากนั้นกดปุ่ม Return (หรือ Enter)ถ้าเครื่อง Mac นั้นมี Touch ID การกดปุ่ม Power จะไม่ได้ผลนะครับ3. มีอีกทางเลือกให้การใช้ Shortcut บนคีย์บอร์ดของ Mac โดยการกดปุ่ม Control + Command + Power หรือ Control + Command + Media Eject เพื่อสั่งให้ Mac ทำการ Restart และใช้การกดปุ่ม Control + Command + Option + Power หรือ Control + Command + Option + Media Eject ในการ Shut Down Macเพียงเท่านี้เราก็สามารถ Shut Down เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้แล้ว เมื่อเกิดเหตุเมาส์ไม่ยอมทำงาน 😄ภาพโดยนักเขียนหมีขั้วโลก ทอดกรอบ〔´(エ)`〕เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คอนเสิร์ต Ed Sheeran แนะเลี่ยงจราจรรอบสนามราชมังคลากีฬาสถาน 10 กุมภาพันธ์ 2567
อ่าน

คอนเสิร์ต Ed Sheeran แนะเลี่ยงจราจรรอบสนามราชมังคลากีฬาสถาน 10 กุมภาพันธ์ 2567

คอนเสิร์ต Ed Sheeran 2024 ในไทย 10 กุมภาพันธ์ 2567 แนะเลี่ยงจราจรเส้นทางรอบสนามราชมังคลากีฬาสถานเฟซบุ๊ก 1197 สายด่วนจราจร แจ้งประชาสัมพันธ์ผู้ใช้เส้นทาง ถนนหัวหมาก ซอยรามคำแหง 24 ถนนถาวรธวัช เนื่องในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย มีงานแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ Ed Sheeran + - = x Mathematics Tour Bangkok 2024 (เอ็ด ชีแรน เดอะ แมทธิเมติกส์ ทัวร์ แบงค็อก 2024) ณ ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.00 น. เปิดเข้าชมงานตั้งแต่ เวลา 16.00 น.ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมความพร้อมวางแผนในการเดินทาง หากไม่มีความจำเป็น แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางในช่วงเวลาดังกล่าว (**ไม่อนุญาตให้รถจอดภายใน กกท.**)ข้อมูลจาก 1197สายด่วนจราจรภาพจาก TNN ONLINE

ASPS เปิดโผ 6 หุ้นเด่น  ธีม Restart Economy
อ่าน

ASPS เปิดโผ 6 หุ้นเด่น ธีม Restart Economy

ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ระบุในยามที่ตลาดหุ้นโลกผันผวน แต่ตลาดหุ้นไทยในวานนี้ยังฟื้นตัวต่อเนื่องอีก 9.76 จุด หรือ 0.6% ถือว่าปรับขึ้นได้โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ในภูมิภาค บวกกับต่างชาติมีการสลับเข้ามาซื้อหุ้น 600 ล้านบาท หนุนให้เดือน ต.ค. ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% mtd (สูงสุดเป็นอันดับ 13 จากข้อมูลตลาดหุ้นใน Bloomberg 92 ประเทศ) ภาพการฟื้นของเศรษฐกิจที่เห็นชัดขึ้นทั้งจากปริมาณวัคซีนสะสมในปีนี้ 178 ล้านโดส ครอบคลุมการฉีดได้คนละ 2 เข็มทั้งประเทศ อีกทั้งไทยยังเริ่มเจรจาจองซื้อยารักษา Covid-19 จาก MerckCo เสริมความคาดหวัง ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ในส่วนของ Valuation ตลาดหุ้น ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประมาณการ EPS64F ที่ 73.6 บาท/หุ้น และคงเป้าหมายดัชนีปลายปีที่ 1670 จุด ส่วนปี 2565 เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน EPS65F ที่ 80 บาท/หุ้น เติบโตราว 8.8% (ตัวเลขยังไม่นิ่ง) ภายใต้ระดับ Market Earning Yield Gap. เฉลี่ยในอดีต 3.9% จะได้ดัชนีเป้าหมายเบื้องต้นปี 2565F ที่ 1816 จุด แม้ระยะสั้น SET Index อาจจะย่ําฐานจากความผันผวนของปัจจัยภายนอก แต่ยังมีหุ้นที่น่าสะสม และหวังผลในการเติบโตตามการฟื้นของเศรษฐกิจในประเทศ กลยุทธแนะนําสะสมหุ้นในธีม Restart Economy ที่มีความโดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม ดังนี้ ADVANC พื้นฐานมั่นคงสูง และโดนผลกระทบ COVID น้อย อีกทั้งพร้อมฟื้นตัวนับจาก 4Q64 โดยมี Upside เพิ่มเติมในอนาคต จากหลาย New S Curve ที่เตรียมไว้ ขณะที่ Valuation ไม่แพง เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต AEONTS สินเชื่อฟื้นตัว จากผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนทิศทางกําไรฟื้นตัวในปี 2564/65 ขณะที่ราคาหุ้นมีค่า PER ปี 2564/65 ที่ 10 เท่า ต่ำกว่า KTC ที่มี PER ปี 2564 (Consensus) ที่ 23 เท่า อยู่มาก CPALL สถานการณ์รอบด้านเอื้อเห็นภาพธุรกิจหลักฟื้นตัว ธุรกิจโดยรวมจากนี้ ประเมินจะดีขึ้นต่อเนื่องทั้งปัจจัยหนุนภายนอกจากการคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ+การปรับโครงสร้างดีต่อระยะยาว ขณะที่การปรับโครงสร้างกลุ่มกระทบกําไรระยะสั้นบ้าง แต่ระยะยาวดีขึ้นชัดเจนในทุกด้าน CPN คาด 3Q64 ต่ําสุดของปี ก่อนเข้าสู่การฟื้นตัวในไตรมาสต่อไป หวังการฟื้นตัวเร็ว หลังคลาย Lockdown และเปิดประเทศได้ ขณะที่งบการเงินยังแข็งแรง อยู่รอดท่ามกลางวิกฤติ และเติบโตจากแผนลงทุนใหม่ ทั้งซื้อกิจการ SF, โครงการ Block A สยาม สแควร์, โครงการ Dusit Park และ Embassy เฟส 2 KBANK รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากสุดในกลุ่มฯ จากโครงสร้างสินเชื่อ SME ราว 33% ของพอร์ตสินเชื่อธนาคารฯ คาด Credit Cost อยู่ในการบริหารจัดการ และมีลุ้นต่อยอดเทคโนโลยีการเงินในอนาคต ตาม SCB ที่นําร่องแล้ว ช่วยยกระดับ ROE และผลักดัน PBV ซื้อขายให้กลับสูงกว่า 1 เท่า ในระยะยาว TOP เศรษฐกิจคลี่คลาย+ช่วงฤดูกาล หนุนความต้องการใช้ปิโตรเลียมเติบโต คาด 4Q64 กําไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่น ขณะที่ปัจจัยบวกระยะยาวยังมี คือการซื้อ Chandra แม้ช่วงสั้นจะกดดันจากการเพิ่มทุน

CPF พัฒนาโมเดล "โรงเรียนต้นแบบ" หนุนโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED
อ่าน

CPF พัฒนาโมเดล "โรงเรียนต้นแบบ" หนุนโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นมีส่วนร่วมสร้างรากฐานระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐานให้ประเทศไทย ขับเคลื่อนโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED พัฒนาโมเดลโรงเรียนต้นแบบ ส่งเสริมด้านวิชาการ วิชาชีพ และดิจิทัล เพื่อยกระดับผลการประเมินคุณภาพโรงเรียน เน้นทำโครงการที่เกิดประโยชน์จริงและยั่งยืน นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ ในฐานะประธานคณะบริหารโครงการสานอนาคตการศึกษา หรือ คอนเน็กซ์ อีดี เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED) และร่วมขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทย โดยในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนพัฒนาโมเดล โรงเรียนต้นแบบ หรือ School Model มุ่งเน้นส่งเสริมด้านวิชาการ วิชาชีพ และดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินงานปี 2565 ที่ประกอบด้วย การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาโรงเรียนด้วยโมเดลต้นแบบ การผนึกกำลังจากหลายหน่วยงาน สร้างการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอกองค์กร และติดตามความคืบหน้าของโครงการต่อยอดเพื่อความยั่งยืนซีพีเอฟ ตระหนักดีถึงความสำคัญของการพัฒนาการศึกษา เป็นพื้นฐานของการสร้างการเติบโตให้แก่เด็กและเยาวชนไทย ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ซึ่งโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย นางสาวพิมลรัตน์ กล่าวสำหรับโมเดลต้นแบบที่ซีพีเอฟนำมาเป็นโมเดลพัฒนาโรงเรียน ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก คือ ด้านวิชาชีพ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น โครงการอัจฉริยะยุวเกษตร ทำสวนผักผลไม้ครบวงจร ปลูกง่าย ได้ผลเร็ว นำมาแปรรูปได้ การสร้างระบบน้ำอัตโนมัติ การใช้ปุ๋ยให้เหมาะกับพืชและดิน โครงการฟาร์มไก่พันธุ์ไข่ เสริมทักษะทางด้านอาชีพให้แก่นักเรียน รู้จักวิธีการเลี้ยงไก่ที่ถูกต้อง สามารถนำไปเป็นอาชีพ สร้างรายได้ ที่สำคัญคือ ผลผลิตจากไข่ไก่ นำมาเป็นอาหารกลางวัน และมูลไก่สามารถนำมาทำเป็นปุ๋ย โครงการร้านกาแฟเด็กน้อย ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะด้านการประกอบอาชีพและการค้าขาย เรียนรู้การบันทึกรายรับ-รายจ่าย คำนวณผลกำไรและขาดทุน รวมไปถึงการส่งเสริมการค้าในชุมชนนอกจากนี้ ได้มีการพัฒนาโมเดลใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านทักษะการเรียนรู้ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นการพัฒนาครูและผู้เรียน ให้มีคุณลักษณะและทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา เน้นให้ผู้สอนและผู้เรียนมีเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงสื่อดิจิทัล แพลตฟอร์มในการบริหารการเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้จากทุกมุมโลก เช่น โครงการ Notebook for Education และโครงการ ICT Talentทั้งนี้ ภายใต้กลยุทธ์ ปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานแบบครบวงจรทั้ง 4 กระบวนการ ประกอบด้วย การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาโรงเรียนด้วยโมเดลต้นแบบ การผนึกกำลังจากหลายหน่วยงาน สร้างการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอกองค์กร และติดตามความคืบหน้าของโครงการต่อยอดเพื่อความยั่งยืน บริษัทฯ ได้วางรูปแบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยจัด CPF School Partner Meeting แลกเปลี่ยนประสบการณ์ผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) ของบริษัท การจัด CPF School Virtual Meeting ประชุมกับผู้บริหารและคณะครู เพื่อติดตามผลการดำเนินโครงการ CONNEXT ED ที่ได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟ และร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อยกระดับการศึกษาสู่ความสำเร็จ ทั้งนี้ บริษัทฯ เน้นการดูแลผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) ด้วยโปรแกรม Onboarding : Welcome School Partner โดยทางซีพีเอฟได้จัดปฐมนิเทศต้อนรับพนักงานจิตอาสาผู้นำรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจัดมาเป็นรุ่นที่ 4 แล้วปัจจุบัน มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ CONNEXT ED ในความดูแลและรับผิดชอบของซีพีเอฟ 301 โรงเรียน ใน 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสระบุรี โดยมีผู้นำรุ่นใหม่ของซีพีเอฟ (SP) ร่วมเป็นจิตอาสามาทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับคณะผู้บริหารของโรงเรียน เพื่อให้เกิดการวางแผนและการจัดการที่ดี ตอบโจทย์ความต้องการและสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ตามวิสัยทัศน์ของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษาไทย คือ ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพคน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

เกินคุ้ม! Ed Sheeran กับกิจกรรมสุดฮิตในประเทศไทย
อ่าน

เกินคุ้ม! Ed Sheeran กับกิจกรรมสุดฮิตในประเทศไทย

เพิ่งจบไปหมาดๆ สำหรับคอนเสิร์ต Ed Sheeran Mathematics Tour Bangkok 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่ผ่านมา โดยก็มีแฟนเพลงให้การตอบรับเข้าร่วมรับหนุ่ม Ed Sheeran ทำการแสดงเป็นจำนวนมาก แต่ที่เห็นว่านอกจากจะได้มาพบปะกับแฟนเพลงชาวไทยแล้ว คงหนีไม่พ้นกิจกรรมที่นักร้องหนุ่มดูจะปลื้มกับซอฟท์พาวเวอร์ไทยแลนด์หลายอย่าง ตั้งแต่ก่อนเริ่มคอนเสิร์ตก็ไม่พลาดที่จะขอไปลองชิมอาหารร้านดังอย่าง "เจ๊ไฝ" ซึ่งแน่นอนว่านักร้องหนุ่มก็มีสีหน้าท่าทางที่แฮปปี้แบบขั้นสุดที่ได้ชิมอาหารไทย พร้อมทั้งยังได้แชะภาพร่วมกับเชฟคนดังอีกด้วย ขอบคุณภาพประกอบจาก IG : @gaggan_anand หลังจากนั้นก็ยังคงเก็บกิจกรรมสุดฮอตที่หลายคนอยากลองทำอย่างการสักลาย โดยในครั้งนี้หนุ่ม Ed Sheeran ที่เขาเองก็สักลายตามตัวในหลายๆ รูปเช่น "นวมมวยสามอัน" ที่เขาสักเอาไว้ที่แขนขวา หรือจะเป็นรูปสิงโตที่หน้าอกของเขา แต่ครั้งนี้มาเมืองไทยทั้งที ไม่พลาดที่จะขอสักยันต์สายมูอย่าง "ยันต์แปดทิศ" กับอ.เหน่ง แถมยังทำคลิป พร้อมแคปชั่นลงในอินสตาแกรมส่วนตัวอีกด้วยว่า "วันนี้ได้รับการสักยันต์แบบพื้นเมืองที่ประเทศไทย" แถมความพิเศษของรูปยันต์ที่สักบนตัวเขายังเป็นลายที่ถูกออกแบบขึ้นมาพิเศษไม่เหมือนใครอีกด้วย ขอบคุณภาพประกอบจาก IG :@teddyspotos ขอบคุณภาพประกอบจาก IG : @teddyspotos โดยไม่จบเพียงเท่านั้นแต่หนุ่ม Ed Sheeran ยังไม่พลาดแวะ 7-ELEVEN เพื่อเดินเลือกหาขนมถุงในแบบฉบับของไทย แถมยังทำคลิปน่ารักๆ รีวิวขนมในเซเว่นออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามในติ๊กต๊อกอีกด้วย เรียกว่านักร้องหนุ่มคงถูกประเทศไทยตกเข้าอย่างจัง ถือเป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ครั้งหน้าไม่รู้ว่าหากได้มีโอกาสเยือนเมืองไทยอีกนักร้องหนุ่มจะเลือกกิจกรรมอะไรทำอีก เรียบเรียงโดย เลิศดนัย วัธนจิตต์

ทำความรู้จัก CONNEXT ED CROWDFUNDING มิติใหม่สร้างอนาคตการศึกษาไทย
อ่าน

ทำความรู้จัก CONNEXT ED CROWDFUNDING มิติใหม่สร้างอนาคตการศึกษาไทย

มิติใหม่ของการมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงอนาคตการศึกษาไทย พร้อมเจาะลึก 5 จุดเด่น การระดมทุนเพื่อการศึกษา ที่การันตีความโปร่งใส เพราะอนาคตการศึกษาของเด็กไทย คืออนาคตของเรา และหนึ่งในการ ให้ ที่มีคุณค่ามหาศาลและยั่งยืน นั่นก็คือการให้การศึกษา รู้หรือไม่ว่า คุณเองก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้โรงเรียนและเยาวชนที่ขาดแคลนทั่วประเทศมีโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้นได้ และวันนี้ โอกาสครั้งใหญ่ที่ทุกคนจะได้เป็น ผู้ให้ เกิดขึ้นจริงแล้วกับการระดมทุนเพื่อการศึกษา (CONNEXT ED CROWDFUNDING) ผ่านแพลตฟอร์มรับบริจาคออนไลน์ connexted.org ของ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี เงินบริจาคส่งตรงถึงโรงเรียน นำไปพัฒนาตรงจุด สะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเพื่อให้สายบุญยุคดิจิทัล ได้รู้จักการระดมทุนเพื่อการศึกษานี้ให้มากยิ่งขึ้น ขอสรุป 5 จุดเด่นที่จะตอบคำถาม เพิ่มความเชื่อมั่น และการันตีความโปร่งใสของ CONNEXT ED CROWFUNDING ดังนี้ 1.การระดมทุนเพื่อการศึกษา (CONNEXT ED CROWDFUNDING) คืออะไร CONNEXT ED CROWDFUNDING เป็นการระดมทุนเพื่อการศึกษามิติใหม่ ครั้งแรกที่คนไทยทุกคนจะได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนได้โดยตรงเพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงอนาคตของเยาวชนไทย ซึ่งเป็นแนวคิดต่อยอดจากการที่ภาคเอกชนและเครือข่ายพันธมิตรกว่า 40 องค์กรได้ร่วมกันดำเนินโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เพื่อร่วมขับเคลื่อนภาคการศึกษาไทยมาตั้งแต่ปี 2559 โดยได้ร่วมกันสนับสนุนทั้งองค์ความรู้ บุคลากร และงบประมาณแก่โรงเรียนทั่วประเทศ รวมมูลค่ากว่า 3,153 ล้านบาท และล่าสุดได้ร่วมกัน จัดตั้งเป็นมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี เพื่อขยายเครือข่ายความร่วมมือ เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมบริจาคออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ connexted.org 2.ระดมทุนแล้วจะนำไปใช้พัฒนาการศึกษาด้านไหน เงินที่ได้จากการระดมทุนมานั้น จะถูกนำไปใช้ตามเจตนาของผู้บริจาค เพราะผู้บริจาคมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าจะบริจาคเพื่อพัฒนาการศึกษาด้านไหน โดยแต่ละโรงเรียนที่ขาดแคลนจะเป็นผู้นำเสนอโครงการที่จะพัฒนาโรงเรียนเข้ามา ซึ่งจะผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการคัดกรองโครงการแล้วว่าเป็นโครงการที่จะตอบโจทย์และช่วยแก้ไขปัญหาตามบริบทของโรงเรียนในพื้นที่นั้น ๆ ได้ โดยจะมีทั้งโครงการเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ที่เด็ก ๆ สนใจ ทั้งด้านสื่อการสอน ไอทีเพื่อการศึกษา เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก วิชาการ รวมถึงการพัฒนาครูผู้สอน การส่งเสริมอาชีพ การซ่อมแซมและปรับปรุงโรงเรียน โครงสร้างพื้นฐาน เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกด้านการศึกษา ตามความต้องการของผู้บริจาค 3.เชื่อถือได้หรือไม่ เงินที่บริจาคทั้งหมดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ connexted.org จะถูกส่งตรงไปยังบัญชีโรงเรียน ซึ่ง ผู้ให้ สามารถตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินงานโครงการ ผ่านระบบบนเว็บไซต์ได้อย่างโปร่งใสและชัดเจน 4.มีวิธีการร่วมบริจาคอย่างไร ทุกคนสามารถเป็น ผู้ให้ ได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่างสะดวก รวดเร็ว ง่าย ๆ เพียงคลิก connexted.org เพื่อเลือกสนับสนุนโครงการพัฒนาโรงเรียนที่ตนเองสนใจ หลังจากนั้นลงทะเบียนสมัครสมาชิก หรือล็อกอินผ่าน Facebook หรือ Gmail ก็สามารถระบุจำนวนเงินบริจาคตามช่องทางที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็น 1. โอนเงินเข้าบัญชีโรงเรียน 2. บัตรเครดิต 3. อี-วอลเล็ท และ 4.สแกน คิวอาร์โค้ด ร่วมบริจาคเพื่ออนาคตการศึกษาไทย คลิกที่นี่ 5.สามารถลดหย่อนภาษีได้หรือไม่ แน่นอนอยู่แล้ว...เพราะทุกการมีส่วนร่วมของคุณผ่านแพลตฟอร์มรับบริจาคออนไลน์ของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดีนี้ ผู้บริจาคสามารถดาวน์โหลดใบรับเงินบริจาคได้ที่หน้าบัญชีสมาชิก อีกทั้งยังรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าอีกด้วย ด้วยความเชื่อที่ว่า การศึกษาเป็นเรื่องของเราทุกคน ซึ่งแม้อาจจะไม่เห็นผลทันที แต่ในอนาคตถ้าเยาวชนของเรามีศักยภาพ สังคมและประเทศก็จะดีตามไปด้วย อันนำไปสู่วงจรการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป มาร่วมสร้างอนาคตของเรา ด้วยการสร้างอนาคตการศึกษาของเด็กไทย ในโครงการระดมทุนเพื่อการศึกษา (CONNEXT ED CROWDFUNDING) ผ่านแพลตฟอร์มรับบริจาคออนไลน์ connexted.org ได้แล้ววันนี้ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการระดมทุนเพื่อการศึกษา (CONNEXT ED CROWDFUNDING) ของ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี ได้ที่ โทร. 02-069-2101 ต่อ 2000 หรืออีเมล Partners.connexted@truecorp.co.th รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

รีวิว Restarted Love (2025) ซีรีส์จีนโรแมนติก จิตวิทยา
อ่าน

รีวิว Restarted Love (2025) ซีรีส์จีนโรแมนติก จิตวิทยา

          เป็นซีรีส์ที่น่าดูจิตวิทยาจัด ๆ สำหรับ “Restarted Love” เป็นซีรีส์จีนแนวโรแมนติกดราม่า บอกเล่าถึง ลู่หมิง และ ซวี่ซิน คู่สามีภรรยาที่ความรักจืดจาง ก่อนเกิดอุบัติเหตุทำให้ซวี่ซินโคม่า ลู่หมิงพบต้นฉบับนวนิยายที่เผยความรู้สึกลึกซึ้งของเธอ โดยเรื่องราวหลังจากนั้นก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้น และในวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาดูซีรีส์เรื่องนี้ผ่านทาง ‘รีวิว Restarted Love (2025) ซีรีส์จีนโรแมนติก’  รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ซีรีส์ Restarted Love         ซีรีส์ “Restarted Love” เป็นซีรีส์จีนที่ได้บอกเล่าเรื่องราของ “ซวี่ซิน (รับบทโดย จ้าวเย่าเคอ)” เธอคือหญิงสาวผู้ตื่นขึ้นจากอาการโคม่าหลังประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เธอพบว่าตนเองอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีชายคนหนึ่งชื่อ “หลู่หมิง (รับบทโดย หลัวเจิ้ง)” เขาคอยดูแลอยู่เคียงข้างอย่างอ่อนโยน โดยได้อ้างว่าเขาเป็นสามีของเธอ และทั้งคู่เคยมีความรักที่ลึกซึ้งอย่างยิ่งก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ และหลู่หมิงยังได้พยายามช่วยซูซินฟื้นฟูความทรงจำ และยังพาเธอไปยังสถานที่ที่เคยมีความทรงจำร่วมกัน แถมเปิดภาพถ่าย พูดถึงเรื่องราวในอดีต แต่ลึก ๆ ในใจของซูซินกลับว่างเปล่า ความทรงจำเหล่านั้นเหมือนมันไม่เคยมีอยู่จริง          แต่จุดพีคและจุดโดดเด่นในซีรีส์เรื่องนี้เลยคือวันหนึ่ง ซูซินเธอได้ต้นฉบับนิยายเล่มหนึ่งในห้องลับ นิยายเล่มนั้นเขียนโดยเธอเองก่อนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งนิยายเรื่องนั้นเป็นแนว stream of consciousness ที่เล่าเรื่องหญิงสาวผู้ติดอยู่ในความรักที่ไม่สามารถหลุดพ้น แต่ที่น่าแปลกประหลาดคือนิยายเล่มนี้ไม่มีตอนจบ และหลู่หมิงสารภาพว่าเขาค้นพบนิยายนี้หลังจากเธอหมดสติไป นักแสดง Restarted Love  หลัวเจิ้ง (Luo Zheng) รับบทเป็น “หลู่หมิง” เขาคือช่างศิลป์ผู้เงียบขรึมที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกลึกซึ้งหลังภรรยาโคม่า จ้าวเย่าเคอ (Zhao Yaoke) รับบทเป็น “ซวี่ซิน” ภรรยาที่เขียนนวนิยายซ่อนความในใจ ก่อนประสบอุบัติเหตุ           โดยซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกระทึกขวัญ ที่ผสมผสานความลึกลับทางจิตวิทยาเข้ากับความรักที่ถูกบิดเบือนถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์อันซับซ้อนของคู่สามีภรรยา ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวของจิตวิทยา โดนได้สอดแทรกเส้นเรื่องคู่ขนานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผ่าน ความทรงจำของซูซินว่าที่แท้แล้วจริงหรือปลอม? หรือความรู้สึกผิดของหลู่หมิงซึ่งนั้นจะเสียใจ หรือกำลังใช้มันเพื่อควบคุม? อีกทั้งยังมีเรื่องของนิยายที่ถูกแต่งเอาไว้ บอกเลยว่าเป็นซีรีส์ที่มีมิติมากดูแล้วทำให้คนดูแบบเราลุ้นและมีจุดที่ต้องเอะใจตาม          และการดำเนินเรื่องของ Restarted Love เรียกว่าสนุก ดูเพลิน มีไคลแมกซ์และจุดเปลี่ยน ซึ่งเรื่องราวค่อย ๆ เปิดเผยว่าอุบัติเหตุอาจมีเบื้องหลังมากกว่าที่คิด แฝงด้วยปมบางอย่างในอดีต ความรักของทั้งคู่ถูกแนวการเล่าเรื่องเป็นใช้การสลับฉากอดีต–ปัจจุบัน บทของตัวละครพูดน้อยแต่เน้นอารมณ์ และมีบรรยากาศ ดนตรีรวมถึงฉากช่วยเสริมความรู้สึกได้ลึกมาก จุดนี้คือ 10/10            และด้วยโทนของเรื่องมีความอึดอัด ตึงเครียด มีความลึกซึ้ง และยังมีองค์ประกอบของจิตวิทยาความหลอนเบา ๆทำให้โปรดักชั่นทำออกมาได้ดีมาก มีความละเอียด โดยมีการถ่ายทำที่เน้นบรรยากาศมืด ๆ ลึกลับ มีสีโทนเย็นและอบอุ่นสลับกัน เพื่อแสดงความขัดแย้งในจิตใจตัวละคร และการใช้มุมกล้องเน้นอารมณ์ตัวละคร อาทิ การถ่ายโคลสอัพใบหน้าเวลาตัวละคร ฉากและโลเคชั่น จะเน้นบ้าน ซึ่งในฉากบ้านหรูที่ดูอบอุ่น แต่กลับกลายเป็น กรงแห่งความทรงจำ คอสตูมและเมคอัพออกแบบมาให้ดูเรียบหรู แต่แฝงด้วยความสงบเยือกเย็น           เคมีของนักแสดงในซีรีส์ Restarted Love ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่อย่างมาก อย่างคู่พระ-นาง “หลัวเจิ้ง (Luo Zheng)” และ “จ้าวเย่าเคอ (Zhao Yaoke)” ซึ่งมีพลังการแสดงที่เข้ากันอย่างลงตัว ทั้งในฉากโรแมนติกหวานซึ้ง และฉากดราม่าระทึกใจ ทั้งสองแสดงออกมาดีมาก มีการส่งสายตาและการส่งอารมณ์แบบเป๊ะมาก บอกเลยว่าเพื่อน ๆ คนไหนชอบซีรีส์ที่แบบส่งอารมณ์จัด ๆ ต้องไปติดตามค่า!  ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รีวิว Restarted Love (2025) ซีรีส์จีนโรแมนติก จิตวิทยา โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง“Restarted Love” ทั้งหมด 15 ตอน รับชมได้ทาง WeTV กำหนดออนแอร์วันที่ 30 สิงหาคม 2025 นี้!  เครดิตภาพหน้าปก @网剧重启的爱情  ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความ @网剧重启的爱情  ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7   จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !  

รีวิว Restarted Love (2025) ซีรีส์จีนโรแมนติกระทึกขวัญ
อ่าน

รีวิว Restarted Love (2025) ซีรีส์จีนโรแมนติกระทึกขวัญ

✨ หากความรักที่ควรเยียวยากลับกลายเป็นพันธนาการ Restarted Love ซีรีส์จีนแนวโรแมนติก–ระทึกขวัญ ที่ตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ของคู่ชีวิต เมื่อ “ความทรงจำ” ถูกรีสตาร์ทใหม่ และสิ่งที่เหลืออยู่คือความรักที่อาจไม่บริสุทธิ์ดังที่เห็น เรื่องนี้ไม่เพียงเล่าเรื่องรัก แต่ยังพาผู้ชมสำรวจด้านมืดของความผูกพันที่ลึกเกินกว่าจะตัดขาด หนอนพามารีวิวค่ะ!! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ Restarted Love (2025)    เล่าถึงชีวิตคู่ของ สวีซิน และ หยวนหยู สามีที่แต่งงานอยู่กินกันมาหลายปี จนความสัมพันธ์ค่อยๆ จืดจางลงเหมือนคนแปลกหน้าที่อาศัยใต้ชายคาเดียวกัน ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อสวีซินประสบอุบัติเหตุร้ายแรงและต้องนอนโคม่าในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน โลกของเธอพลันเปลี่ยนไป เมื่อความทรงจำที่เคยมีกลับเลือนหาย และ สิ่งที่เหลืออยู่คือกรอบความรักที่สามีสร้างขึ้นอย่างแนบเนียนในสายตาคนนอก เธอเหมือนได้รับการดูแลอย่างดีจาก “สามีในอุดมคติ” แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความอึดอัดที่บอกไม่ถูก     นักแสดง Restarted Love (2025)    สวีซิน รับบทโดย จ้าวเหยาเค่อ หญิงสาวผู้เคยมีชีวิตแต่งงานธรรมดากับสามี แต่ความสัมพันธ์ค่อยๆ จืดจางจนเหมือนคนแปลกหน้าในบ้านเดียวกัน หลังอุบัติเหตุครั้งใหญ่ เธอตกอยู่ในภาวะโคม่าและสูญเสียความทรงจำ ตื่นขึ้นมาในโลกที่สามีคอยประคับประคองด้วยความรักอันสมบูรณ์แบบ  หยวนยหู รับบทโดย หลัวเจิ้ง ชายหนุ่มที่ภายนอกดูอบอุ่น เป็น “สามีในอุดมคติ” ที่คอยดูแลภรรยาด้วยความเอาใจใส่ เขาคือคนที่สร้างโลกแห่งความทรงจำใหม่ขึ้นมาให้สวีซินได้พักพิงในช่วงที่เธอสูญเสียทุกสิ่ง แต่เบื้องหลังความรักที่เขามอบให้นั้น แฝงไปด้วยการควบคุมและการปิดบังความจริง      รีวิว Restarted Love (2025)    Restarted Love เปิดเรื่องด้วยชีวิตคู่ที่เหมือนกำลังถึงทางตัน—สามีภรรยาที่เคยรักกันมากกลับเหลือเพียงความสัมพันธ์ที่เย็นชาและห่างเหิน ทว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อสวีซิน ประสบอุบัติเหตุและตกอยู่ในภาวะโคม่า สิ่งที่ตามมาคือการตื่นขึ้นในโลกที่เธอจำอะไรไม่ได้ และ มีเพียงสามีอย่าง หยวนหยู ที่คอยอยู่เคียงข้างด้วยความรักและการดูแลอย่างสมบูรณ์แบบแต่ยิ่งเรื่องดำเนินไป ความสงสัยก็ยิ่งก่อตัว โลกที่ดูงดงามราวกับถูกรีสตาร์ทใหม่จริงหรือไม่?  พล็อตของเรื่องเดินอยู่บนเส้นก้ำกึ่งระหว่าง โรแมนติก กับ ระทึกขวัญ ผู้ชมจะได้เห็นความพยายามของสวีซินที่ต้องค้นหาความจริงท่ามกลางความทรงจำที่พร่าเลือน ขณะที่สามีก็พยายามปิดบังบางสิ่งเพื่อรักษาโลกในฝันนี้ไว้ ความรักที่ควรจะเยียวยากลับกลายเป็นพันธนาการ    แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะถูกวางให้เริ่มต้นจาก “ชีวิตคู่ที่จืดจาง” แต่ทันทีที่นางเอกตื่นจากโคม่า ทุกการปะทะทางสายตาและบทสนทนาสั้น ๆ กลับชวนให้ผู้ชมรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ซ่อนอยู่ใต้บรรยากาศอึดอัดนั้น เคมีของพวกเขาไม่ได้หวานฉ่ำแบบซีรีส์รักทั่วไป ทว่ามีความ ซับซ้อน และ ดิบจริง มากกว่า ความอ่อนโยนของสามีที่แสนอบอุ่น มักจะสั่นคลอนด้วยท่าทีที่เกินกว่าความห่วงใย ขณะที่นางเอกเองก็สับสนระหว่างความรู้สึกปลอดภัยกับแรงกดดันที่มองไม่เห็น   ความประทับใจของ Restarted Love อยู่ตรงที่มันไม่ได้ขายความรักโรแมนติกแบบหวานละมุนอย่างเดียว แต่พาเราเข้าไปอยู่ในโลกที่ความรักกับความลับพันกันจนแยกไม่ออก ทำให้ทุกฉากทุกตอนเต็มไปด้วยบรรยากาศกดดันที่ก่อให้เกิดคำถามอยู่เสมอ—สิ่งที่เห็นคือความรักจริง ๆ หรือแค่ภาพที่ถูกสร้างขึ้น   สิ่งที่น่าประทับใจคือการเล่าเรื่องที่ค่อยๆคลี่ทีละชั้น เริ่มจากภาพชีวิตคู่ธรรมดา ก่อนจะพาเข้าสู่อุบัติเหตุและการสูญเสียความทรงจำ แล้วดึงผู้ชมให้ติดตามไปพร้อมนางเอกในการตามหาความจริง ยิ่งเดินเรื่อง ความรู้สึกยิ่งเข้มข้นขึ้น จากความอบอุ่นกลายเป็นความน่าสงสัย จากความห่วงใยกลายเป็นพันธนาการ และ จากความรักกลายเป็นแรงดึงดูดที่ทั้งอบอุ่นและน่าหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน   ท้ายที่สุด Restarted Love ไม่ใช่แค่ซีรีส์รักดราม่าธรรมดา แต่เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นด้านซับซ้อนของความสัมพันธ์ ระหว่างความรัก ความผูกพัน และการครอบครองที่กั้นกันด้วยเส้นบาง ๆ เรื่องนี้มอบทั้งความอบอุ่น ความกดดัน และความน่าคิดไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับคนที่อยากดูซีรีส์ที่ไม่เดินตามสูตรสำเร็จ และอยากสัมผัสความรักที่มีทั้งหวาน ขม และลึกลับในเรื่องเดียว   ขอขอบคุณ @网剧重启的爱情 ภาพปก ภาพที่ 1/2/3/4 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

BOOK FESTIWOW by SE-ED
อ่าน

BOOK FESTIWOW by SE-ED

  พักเรื่องผี หนีเพื่อน พาน้องเที่ยว ณ เทศกาลงานหนังสือ โดย ซีเอ็ด...          เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา เรากลับมาอยู่บ้านแม่แถวเซ็นทรัล พระราม 2 เห็นป้ายงานเทศกาลหนังสือโดยซีเอ็ด พาดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่สะพานลอยหน้าห้างฯ  เราก็เลยพาน้องไปเดินเที่ยวงาน  งานดีๆ แบบนี้จะพลาดได้อย่างไร... ชื่องาน : BOOK FESTIWOW by SE-ED พิกัด : ห้างเซ็นทรัล พระราม 2 ฮอลล์ ชั้น 4 ติด MK วันจัดงาน : 8-18 พ.ย. 62         บรรยากาศภายในงาน ตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้าฮอลล์ เรากับน้องก็ต้องตื่นตากับสินค้าราคาถูก ทั้งหนังสือ กิ๊ฟท์ช้อป ตัวต่อจิ๊กซอว์ และโซฟาลม ที่นำมาลดราคาถึง 70%          พอเดินเข้าไปในฮอลล์ ก็ระลานตาไปด้วยหนังสือมากกว่า 50 สำนักพิมพ์ เช่น นานมีบุ๊คส์ สถาพรบุ๊คส์ นายอินทร์ ซีเอ็ด เป็นต้น ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 10 บาท และลดราคากว่า 90% ประเมินจากสายตาน่าจะมีหนังสือมากกว่า 100,000 รายการ หลากหลายหมวดหมู่ เช่น วรรณกรรมเยาวชน การ์ตูน นวนิยาย ท่องเที่ยว งานฝีมือ ความรู้ ภาษา จิปาถะ เป็นต้น  นับเป็นงานเทศกาลหนังสือที่จัดได้ใหญ่ของปีนี้ ในย่านฝั่งธนบุรี เลยก็ว่าได้           นอกจากมีหนังสือ เครื่องเขียน กิ๊ฟท์ช้อป เสื้อผ้า กระเป๋า มาจำหน่ายในราคาถูกแล้ว ยังมีกิจกรรมเสวนานักเขียน และกิจกรรมบนเวที มาให้ผู้ร่วมงาน เข้าร่วมกิจกรรมฟรีอีกด้วย (กำหนดการตามป้ายประกาศ)...          สำหรับเรากับน้อง สนใจมุมหนังสือ 10 บาท เป็นพิเศษ ยืนเลือกไม่นาน ก็ได้หนังสือถูกใจเป็นนิยายเล่มโต  วรรณกรรมเยาวชนเล่มเล็ก ๆ ฝึกให้น้องรักการอ่าน และหนังสือท่องเที่ยว ไปในราคาเพียงเล่มละ 10 บาท เซอร์ไพรส์..บางเล่มแค่ 5 บาทเท่านั้น  คุ้มจริงๆ ส่วนน้องได้จิ๊กซอว์ 500 ชิ้น กล่องละ 39 บาท ไปต่อเล่น นอกจากนี้ยังมีของเล่นฝึกพัฒนาการเด็กอีกมากมาย ซึ่งเธออยากได้ไปหมด แต่เรามีงบจำกัด  จึงรีบพาน้องไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ก่อนที่เธอจะเหมาหมด และเราไม่มีเงินจ่าย....  เทศกาลหนังสือโดยซีเอ็ด  จึงเป็นงานดี เหมาะสำหรับผู้รักการอ่านแต่มีงบน้อยอย่างเรา ที่หนึ่งปีจะจัดสักครั้ง ถ้าใครพลาดก็คงต้องรอปีหน้านะ...มาเล่าให้อิจฉา....            แต่ถ้าใครพลาดงานนี้เรามีอีกงานที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ที่จัด ณ เซ็นทรัล พาร์ค พระราม 2 สำหรับผู้ชื่นชอบการกินอาหารทะเล   กับเทศกาลกินปู ดูทะเล ครั้งที่ 17 โดยงานจะจัดระหว่างวันที่  27 พ.ย.- 1 ธ.ค. 62   รีบบอกไว้เนิ่นๆ เดี๋ยวพลาดกันอีก แล้วจะมารีวิวความอร่อยให้น้ำลายสอกันเล่น ตามสไตล์เจ๊ 10 บาท .... แล้วเจอกัน รับประกันความแซ่บค่ะ อ้อ! ในงานมีคอนเสิร์ตให้ดูฟรีด้วยนะ ส่วนมีใครมาบ้างรออ่านในรีวิวเรา หรือในเฟสบุ๊คของห้างเซ็นทรัล พระราม 2 เลย มาไม่ถูกก็สอบถามเส้นทางได้ แอดฯ ใจดี... เครดิตภาพ : เจ๊ 10 บาท

“เอ็ดกีน Monster: The Ed Gein Story” ลง Netflix จุดกระแสฆาตกรในตำนาน
อ่าน

“เอ็ดกีน Monster: The Ed Gein Story” ลง Netflix จุดกระแสฆาตกรในตำนาน

เอ็ดกีนกลับมาอีกครั้งใน “Monster: The Ed Gein Story” บน NetflixNetflix ปลุกตำนานฆาตกรสุดหลอนในซีรีส์ “Monster: The Ed Gein Story” ที่สร้างจากเรื่องจริงของ เอ็ดเวิร์ด ทีโอดอร์ กีน (Edward Theodore Gein) ฆาตกรและโจรขโมยศพชื่อกระฉ่อนจากรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อเหตุในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เรื่องราวของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวละครฆาตกรในภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น Psycho, The Texas Chainsaw Massacre และ The Silence of the Lambsซีรีส์นี้ถ่ายทอดชีวิตของเอ็ด กีนตั้งแต่วัยเด็กที่เติบโตในครอบครัวเคร่งศาสนาและมีแม่ที่ควบคุมชีวิตอย่างเข้มงวด จนถึงจุดที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมและขโมยศพเพื่อนำชิ้นส่วนมาทำของใช้ในบ้าน รวมถึง “ชุดหนังมนุษย์” อันเป็นตำนานที่ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความวิปลาสในโลกอาชญากรรม ซีรีส์ 8 ตอน ถ่ายทอดความสยองและจิตวิทยาอาชญากร“Monster: The Ed Gein Story” ประกอบด้วย 8 ตอนจบ นำแสดงโดย ชาร์ลี ฮันแนม (Charlie Hunnam) ที่ตีความบทบาทของเอ็ด กีนได้อย่างเข้มข้นและน่าขนลุก ผู้ชมจะได้เห็นมิติทางจิตใจของชายที่ถูกกดดันจากสังคมและความโดดเดี่ยว จนนำไปสู่การก่ออาชญากรรมที่โลกไม่เคยลืมนอกจากจะเล่าเหตุการณ์จริงอย่างละเอียด ซีรีส์ยังเจาะลึกด้านจิตวิทยาอาชญากร การสืบสวนของตำรวจ และการเปิดเผยความจริงที่ทำให้สังคมอเมริกันในยุคนั้นต้องสั่นสะเทือนจุดกระแสใหม่บน Netflix และโซเชียลทั่วโลกหลังออกอากาศ “Monster: The Ed Gein Story” ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากแฟนหนังสยองขวัญทั่วโลก หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในผลงานที่ตีแผ่ด้านมืดของมนุษย์ได้อย่างสมจริงที่สุดในยุคนี้ และยังตอกย้ำว่า “เอ็ด กีน” คือแรงบันดาลใจสำคัญที่หล่อหลอมวัฒนธรรมหนังสยองตลอดกว่า 70 ปีที่ผ่านมา">

แชร์เพลงโปรด Ed Sheeran ต้องส่องก่อนลุยคอนเสิร์ต!
อ่าน

แชร์เพลงโปรด Ed Sheeran ต้องส่องก่อนลุยคอนเสิร์ต!

ข่าวนี้ทำเอาแฟนคลับในประเทศไทยฮือฮากันยกใหญ่เพราะ Ed Sheeran นักร้องหนุ่มชาวอังกฤษดีกรีรางวัลแกรมมี่ที่ใครๆต้องรู้จักเขาคนนี้จะมาจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามกีฬาราชมังคลาสถาน เรียกได้ว่าเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่มากๆ แฟนคลับชาวไทยตั้งหน้าตั้งตารอกันตรึม แน่นอนว่าเขาคนนี้เป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลงที่มากความสามารถ และเป็นเจ้าของเพลงดังอย่าง Shape of you เพลงพันล้านวิวที่เป็นกระแสจนหลายๆคนต้องตามได้https://youtu.be/JGwWNGJdvx8?si=0oupkz3XGzxA63T9แน่นอนว่ากว่าจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ชีแรนชื่อนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะพรสวรรค์และพรแสวงของเขาเอง โดยเขาได้หลงรักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แต่โชคไม่ได้เข้าข้างนักเพราะเขาเป็นคนที่พูดติดอ่าง แต่ก็ไม่ลดละความพยายามฝึกร้องเพลงมาเรื่อยๆ จนความสามารถเข้าตานักแสดงฮอลลีวูดและได้อัดเพลง เขาได้ปล่อยอัลบั้มของตัวเองที่มีชื่อว่า + (พลัส) จนเป็นที่รู้จักมากขึ้นและเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวhttps://youtu.be/CuklIb9d3fI?si=0Eern2Q8k7QLds89ชีแรนเคยได้ร่วมงานกับวง Idol K-pop ระดับโลก BTS ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในการแต่งเพลง Permission to dance ซึ่งข่าวนี้ก็มาพร้อมการกลับมาหาของชีแรนหลังห่างหายจากวงการเพลงไปสักพักและกลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ของเขา Bad Habitats ทำเอาแฟนคลับทั้งสองฝั่งดีใจกันยกใหญ่เลย https://youtu.be/_NGQfFCFUn4?si=_AE-MpDUDkmfrxwvพูดถึงเรื่องเพลงแล้วเพลงที่เรารู้สึกชอบที่สุดของ Sheeran อีกเพลงหนึ่งก็คือ Afterglow เป็นเพลงที่เราบังเอิญเลื่อนไปเจอพอดี แล้วก็บังเอิญไปกดฟังอีก เพลงนี้เราฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นมาก ทั้งทำนองเพลงและความหมาย ได้ฟีลพี่เอ็ดมานั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงให้ฟังท่ามกลางวิวธรรมชาติเป็นอะไรที่ฮีลใจมากสุดท้ายนี้แล้วใครที่อยากจะไปคอนเสิร์ตเตรียมตังค์กันไว้ล่วงหน้าเลย งานมี 10 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นช่วงใกล้วาเลนไทน์ซะด้วยงานนี้หาคู่เผื่อไว้ไปคอนเสิร์ตด้วยกันก็น่าจะดีนะ ด้วยบัตรจะเริ่มต้นที่ 1,800 บาทถึงสูงสุด 12,000 บาท สนามกีฬาราชมังใหญ่มากรับรองว่าบรรยากาศภายในงานต้องฟินสุดๆได้เลย โดยบัตรซื้อได้ที่ทางออนไลน์เท่านั้น มาก่อนได้ก่อน แล้วรอไปคอนเสิร์ตพร้อมกันนะ!  ขอบคุณเครดิตภาพจากปก โดย Live Nation TeroShape of you โดย Ed SheeranPermission to dance โดย HYBE LABELSAfterglow โดย Ed SheeranEd Sheeran ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024 โดย Live Nation Tero จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

หอโหวด ๑๐๑ | ROI ED TOWER
อ่าน

หอโหวด ๑๐๑ | ROI ED TOWER

ในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มักจะมีแลนด์มาร์คเด่น ๆ ให้คนจดจำ และอยากไปเยือน อันที่จริง ไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง จึงมีการสร้างแลนด์มาร์คขึ้น หรือเพราะว่ามีแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียง เมือง ๆ นั้นจึงกลายเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวตั้งเป้าหมายไปเยือน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การมีอยู่ของแลนด์มาร์ค มันทำให้เมืองมีจุดสนใจ และทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน ที่ร้อยเอ็ดก็เช่นกัน ร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ตอนกลางของภาคอิสาน เป็นเมืองที่มีความเจริญ ประชากรอยู่อาศัยเยอะ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทุกวันนี้ร่องรอยความเจริญในอดีต ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นเมืองสำคัญ ยังเห็นเด่นชัดก็คือคูเมืองลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ และชื่อสาเกตุนคร ชื่อโบราณของเมือง ยังมีการหยิบยกมาใช้ในบริบทของประวัติศาสตร์  ศิลปวัฒนธรรมอย่างสม่ำเสมอ และล่าสุด ร้อยเอ็ดได้สร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่เอาไว้ที่ใจกลางเมือง  เป็นหอชมเมือง ความสูง 101 เมตร ตามชื่อจังหวัดร้อยเอ็ด ด้วยสถาปัตยกรรมรูปโหวด เครื่องดนตรีพื้นบ้านอิสานชนิดเป่า ที่เราคุ้นเคย ด้วยความสูงเทียบเท่าตึก 35 ชั้น หอโหวด จึงกลายเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่น มองเห็นแต่ไกล เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนร้อยเอ็ด ผมจึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมวิวเมืองร้อยเอ็ดที่หอโหวด ที่ตั้งของหอโหวดอยู่ใจกลางเมือง บริเวณบึงพลาญชัย บึงที่เจ้าเมืองในสมัยโบราณ ให้ราษฎรและไพร่พลขุดขึ้นมาไว้กลางเมือง เพื่อเป็นแหล่งน้ำไว้ใช้สอย หากมีการศึกสงครามถูกข้าศึกล้อมเมืองไว้ ก็สามารถตั้งรับทำศึกในเมืองได้ โดยไม่ขาดแคลนน้ำ ดังนั้นการมาเยี่ยมชมหอโหวด จึงสามารถมาเที่ยวบึงพลาญชัยได้ในจุดเดียวกัน เมื่อมาถึงหอโหวด ผมทึ่งในความสูง ความคิดสร้างสรรค์ และความกล้าลงทุนลงแรงของทางจังหวัด เพราะนี่ไม่ใช่โครงการเล็ก ๆ เลย หอโหวดสูงมาก และเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นจริง ๆ ยิ่งเมื่อคำนึงถึงอาคารส่วนใหญ่ในเมืองร้อยเอ็ด ที่ยังไม่มีอาคารสูงมากนัก หอโหวดยิ่งโดดเด่นมาก เมื่อมาถึงหอโหวด ก็เข้าไปซื้อบัตรเที่ยวชมภายในหอโหวด และเดินตามเจ้าหน้าที่เพื่อไปขึ้นลิฟต์ ระหว่างทางก็ผ่านนิทรรศการความเป็นมาของหอโหวด  จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวด้านบน ซึ่งที่นี่มองเห็นเมืองร้อยเอ็ดได้ครบทั้ง 360 องศา และวิวด้านบนสวยงาม มองเห็นเมืองร้อยเอ็ดได้ไกลสุดลูกหูลูกตา  และถ้าชมวิวด้วยตาเปล่ายังไม่สะใจ หอโหวดก็มีกล้องส่องทางไกลไว้ให้บริการด้วย และที่สำคัญที่สุดและไม่ควรพลาด คือการไปลองสัมผัสความเสียวซ่าน ของสกาย วอล์ค ที่มองลงไปด้านล่างเห็นคนตัวเท่ามด อันนี้สุดยอดจริง ๆ และที่ด้านบนสุดยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญ พุทธพิมานมงคล แต่เสียดายที่เป็นพื้นที่ห้ามถ่ายรูป หากเพื่อน ๆ อยากเห็นคงต้องเดินทางมาดูด้วยตาแล้วหล่ะครับ  แล้วผมก็จบการเยี่ยมชมหอโหวด ไปด้วยความรู้สึกประทับใจ และอยากหาโอกาสกลับมาเยี่ยมชมหอโหวดในยามค่ำคืนอีกสักรอบ อยากเห็นเมืองร้อยเอ็ดในยามราตรี ที่มีแสงไฟยามค่ำคืนว่ามุมมองจะสวยงามขนาดไหน หากมีโอกาส เดี๋ยวเขียนให้อ่านกันนะครับ เรื่องและภาพโดย : Gene                              

Ed Sheeran บิ๊กคนใหม่แห่ง Ipswich Town
อ่าน

Ed Sheeran บิ๊กคนใหม่แห่ง Ipswich Town

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง Ipswich Town ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า “Ed Sheeran นักร้องระดับซุปเปอร์สตาร์แห่งสหราชอาณาจักร จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นส่วนรายเล็กของสโมสร Ipswich Town“ ถามว่าทำไมนักร้องรายนี้ถึงเลือกที่จะเข้าซื้อหุ้นส่วนของทีมฟุตบอล และทำไมต้องเป็นทีมอย่าง Ipswich Town วันนี้เราจะมาเล่าให้ทุกคนอ่านกันEd Sheeran ในวัยเด็กEdward Christopher “Ed” Sheeran เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1991 ใน Halifax, West Yorkshire ก่อนที่เขาจะย้ายเมืองและไปเติบโตที่ Framlingham, Suffolk ในตอนที่เขาอายุได้ 3 ขวบ เขาเติบโตจากที่นี่มาโดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่าที่นี้ก็มีสโมสรฟุตบอลเหมือนกับทุกๆเมืองที่มี และที่ Suffolk นี้ก็เป็นที่ตั้งของสนาม Portman Road รังเหย้าของ Ipswich Town นั่นเองSupporter ในฐานะ Sponsorหลังจากที่เด็กคนนี้เติบโตในการเป็นนักร้องและประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ก่อนฤดูกาล 2021/22 Ipswich Town ก็ได้มีการประกาศว่า Ed Sheeran จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์คาดอกให้กับทีมอย่างเป็นทางการ จะเห็นได้จากสปอนเซอร์คาดอกที่เขียนว่า +-=÷x TOUR ซึ่งนั่นคือการโปรโมททัวร์คนเสิร์ตของเขาที่จะจัดขึ้นในช่วง 2022-2024 ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ ก็เป็นระยะเวลาถึงสามปีแล้วที่ Ipswich Town ยังคงใช้สปอนเซอร์คาดอกเดิมอยู่ แน่นอนว่าการที่เป็นแฟนบอลของ Ed Sheeran มันเหมือนอยู่ในสายเลือดและเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด นั่นจึงทำให้เขาเกิดการตัดสินใจครั้งใหญ่ขึ้นEd Sheeran ก้าวมาเป็นหุ้นส่วนของทีมIpswich Town ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Ed Sheeran เข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยของสโมสรฟุตบอลแล้ว โดยได้ซื้อหุ้นผ่าน Gamechanger 20 Ltd. โดยสัดส่วนของหุ้นอยู่ที่ 1.4% ของหุ้นทั้งหมด และเขามีสิทธิที่จะได้ใช้ที่นั่งในตำแหน่งผู้บริหารที่สนาม Portman Road ในระยะยาว แต่ถึงอย่างนั้นเขาจะไม่เข้าร่วมในฐานะคณะกรรมการของของสโมสรฟุตบอล เพราะเป็นเพียงแค่การลงทุนเฉยๆ และเป็นส่วนน้อยเท่านั้นแน่นอนว่ามันคือความฝันของทุกคน ที่เป็นแผนบอลต่างก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรให้ได้สักครั้ง และเมื่อเข้าทำได้เขาก็มีความสุขมากๆ แต่เขาเองก็ไม่ได้อยากที่จะมีส่วนร่วมบนโต๊ะประชุมสักเท่าไร เขาก็เป็นเพียงแค่แฟนบอลคนนึงดังนั้นเขาจึงขอร้องว่า แฟนๆอย่ามาบอกเขาเรื่องวิธีการทำทีมหรือวิธีการเปลี่ยนแผนใดๆเลยมุมมองของประธานสโมสรต่อ Ed SheeranMark Ashton ประธานของสโมสรเองก็ภาคภูมิใจที่เขาเป็นแผนบอลของที่นี้ตั้งแต่เกิด เป็นพาร์ทเนอร์และสปอนเซอร์ให้กับสโมสรมาตั้งสามปี และในวันนี้เขาก็เข้ามาเป็นหุ้นส่วนน้อยของทีมที่เขารักมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆจริง และเขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมทำงานกับศิลปินระดับโลกรายนี้ที่สโมสรแแห่งนี้เช่นกันสุดท้ายนี้ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมที่จะ กดแชร์ และ กดติดตามเรา เพื่อเป็นกำลังใจและไม่ให้พลาดบทความใหม่ๆของพวกเรา ถ้ามีตรงส่วนไหนที่ผิดพลาด พวกเราขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ในบทความต่อไปจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เจอกันใหม่บทความหน้าครับภาพปกจาก : Canva โดย พงศภัค มีโชค | Facebook Ed Sheeranภาพประกอบที่ 1 : Facebook Ed Sheeranภาพประกอบที่ 2 : Facebook Ipswich Town Football Clubภาพประกอบที่ 3 : X IPSWICH TOWNภาพประกอบที่ 4 : X IPSWICH TOWN ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !

Discovery Channel  ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในรายการผจญภัยสุดท้าทาย ED Stafford Into The Unknown
อ่าน

Discovery Channel ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในรายการผจญภัยสุดท้าทาย ED Stafford Into The Unknown

TrueVisions No.1Documentary แหล่งรวมช่องรายการสารคดีและความรู้ที่ดีที่สุด ชวนติดตามชมสุดยอดรายการผจญภัยที่จะพาคุณร่วมเดินทางอันสุดแสนยากลำบากไปกับพิธีกร Ed Staffordอดีตนายทหารกองทัพบกอังกฤษ ผู้ที่เคยพิสูจน์ความสามารถในการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันต่างๆ จากรายการ Naked Castaway อันโด่งดังมาแล้ว มาคราวนี้เขาจะพาคุณไปสำรวจพื้นที่ลึกลับต่างๆบนโลกที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน จากข้อมูลภาพถ่ายภาพจากดาวเทียมเขาจะต้องทำการค้นหาเป้าหมายและไขปริศนาที่พบโดยใช้ทุกทักษะและความสามารถที่มีอยู่ เพื่อเอาชีวิตรอดจากภูมิประเทศสุดกันดารและสภาพภูมิอากาศอันโหดร้าย มาร่วมติดตามและผจญภัยอันสุดแสนอันตรายที่มีชีวิตเป็นเดิมพันในครั้งนี้ได้ ที่ ทรูวิชั่นส์ ที่เดียว!! ร่วมออกเดินทางไปสู่การเดินทางสุดแสนลำบาก ในรายการ ED Stafford Into The Unknown รับชมได้ทุกวันอังคาร เริ่มวันอังคารที่ 6 ตุลาคม นี้ เวลา 20.00 น. ทางช่อง Discovery Channel (ทรูวิชั่นส์ช่อง 562)รายละเอียดเพิ่มเติม www.truevisionsgroup.com

วิธีเติม -ed ต่อท้ายคำกริยาภาษาอังกฤษ
อ่าน

วิธีเติม -ed ต่อท้ายคำกริยาภาษาอังกฤษ

 สวัสดีคุณผู้อ่านทรูไอดีทุกท่านครับ การเติม -ed ท้ายคำกริยาภาษาอังกฤษ เป็นวิธีที่พบบ่อยในการเปลี่ยนกริยาให้อยู่ในรูปอดีต (Past Tense) และรูป Past Participle การเรียนรู้วิธีการเติม -ed อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกคน บทความนี้จะอธิบายหลักการเติม -ed อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างประโยคและคำอธิบายการใช้งานที่ชัดเจน  หลักการเติม -edมีหลักการเติม -ed ทั่วไป 3 ประการ ดังนี้1.คำกริยาปกติ (Regular Verbs) สำหรับคำกริยาปกติทั่วไป ให้เติม -ed ท้ายคำกริยาตัวอย่าง:Walk – Walked: I walked to the store yesterday.ฉันเดินไปที่ร้านเมื่อวานนี้  Talk – Talked: We talked for hours.เราคุยกันหลายชั่วโมง  Play – Played: The children played in the park.เด็ก ๆ เล่นในสวนสาธารณะ  2.คำกริยาที่ลงท้ายด้วย -e หากคำกริยาลงท้ายด้วย -e อยู่แล้ว ให้ตัด -e ออกก่อนแล้วเติม -edตัวอย่าง:Love – Loved: I loved her from the moment I met her.ฉันรักเธอตั้งแต่แรกพบ  Move – Moved: They moved to a new house last year.พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านใหม่เมื่อปีที่แล้ว  Dance – Danced: She danced all night long.เธอเต้นรำทั้งคืน   3.คำกริยาที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ + y หากคำกริยาลงท้ายด้วยพยัญชนะ + y ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม -edตัวอย่าง:Cry – Cried: She cried when she heard the news.เธอร้องไห้เมื่อได้ยินข่าว  Study – Studied: I studied hard for the exam.ฉันอ่านหนังสือหนักมากสำหรับการสอบ  Carry – Carried: He carried the bag for me.เขาถือกระเป๋าให้ฉัน  ข้อยกเว้น มีคำกริยาบางประเภทที่ไม่ปฏิบัติตามหลักการทั่วไปเหล่านี้ คำกริยาเหล่านี้เรียกว่า คำกริยาผิดกฏ (Irregular Verbs)ตัวอย่าง:Go – Went: I went to the beach last weekend.ฉันไปทะเลเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว  See – Saw: I saw him yesterday.ฉันเห็นเขาเมื่อวานนี้  Take – Took: She took the book from the shelf. เธอหยิบหนังสือออกจากชั้นวาง  การใช้งาน Past Tense Past Tense ใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตตัวอย่าง:I watched a movie last night.ฉันดูหนังเมื่อคืน  She cooked dinner for me.เธอทำอาหารเย็นให้ฉัน We went to the park yesterday.เราไปสวนสาธารณะเมื่อวานนี้  การใช้งาน Past Participle Past Participle ใช้ในหลายรูปแบบประโยค1.รูปประโยค Present Perfect Tense:I have watched many movies this year.ฉันดูหนังหลายเรื่องในปีนี้  She has cooked dinner.เธอทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว  We have gone to the park many times.เราไปสวนสาธารณะหลายครั้งแล้ว  2.รูปประโยค Passive Voice:The movie was watched by many people.หนังเรื่องนี้ถูกดูโดยคนจำนวนมาก  Dinner was cooked by my mother.อาหารเย็นถูกทำโดยแม่ของฉัน  The park has been visited by many tourists.สวนสาธารณะแห่งนี้ถูกเยี่ยมชมโดยนักท่องเที่ยวมากมาย  3.รูปประโยค Conditional Sentences:If I had more time, I would have watched the movie.ถ้าฉันมีเวลามากกว่านี้ ฉันคงได้ดูหนัง   คำศัพท์เกี่ยวกับบทความนี้ 1. store (สทอร์) ร้านค้า2. hour (เอา’เออะ) ชั่วโมง3. news  (นิวซ) ข่าว4. exam (อิกแซม’) สอบ5. weekend (วีค’เอนดฺ) สุดสัปดาห์6. shelf (เชลฟฺ) ชั้นวาง7. tourist (ทัว’ริสทฺ) นักท่องเที่ยว8. bag (แบก) กระเป๋า9. park (พาร์ค) สวนสาธารณะ10. yesterday (เยส’เทอะเด) เมื่อวาน  การเติม -ed ท้ายคำกริยาภาษาอังกฤษเป็นวิธีง่ายๆ ในการเปลี่ยนกริยาให้อยู่ในรูปอดีต (Past Tense) และรูป Past Participle ถ้าหากคุณผู้อ่านได้รู้วิธีการเติม -ed อย่างถูกต้อง จะทำให้คุณเข้าใจหลักแกรมมาร์ของภาษาอังกฤษและสามารถทำข้อสอบภาษาอังกฤษในระดับต่างๆ ได้ ในอนาคต ถ้าหากคุณผู้อ่านชอบบทความที่มีประโยชน์แบบนี้ อย่าลืมแชร์หรือส่งต่อให้เพื่อนๆ ด้วยนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ  ช่องทางการติดตาม อังกฤษออนไลน์ - แอมไฟน์ แต๊งกิ้ว True ID: https://creators.trueid.net/@117825 FACEBOOK PAGE: https://www.facebook.com/englishonlineimfinethankyou Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCWfLIf66fDJuI86DqRPLGgQ  ขอบคุณรูปภาพประกอบ ภาพหน้าปกและภาพประกอบหน้าปกทั้งหมด โดย https://www.canva.com/th_th/ ภาพประกอบ 1-5 จาก https://pixabay.com/th/ภาพที่1 โดย bessi ภาพที่2 โดย natik_1123 ภาพที่3 โดย nwimagesbysabrinaeickhoff ภาพที่4 โดย lazare ภาพที่5 โดย frank_reppoldเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รู้จัก 6 นักแสดง Monster: The Ed Gein Story (2025)
อ่าน

รู้จัก 6 นักแสดง Monster: The Ed Gein Story (2025)

             ในโลกของซีรีส์ “True Crime” ที่ดึงดูดใจผู้ชมให้เข้าไปสำรวจด้านมืดของจิตใจมนุษย์ Monster: The Ed Gein Story (2025) กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ถูกจับตามองอย่างมาก ไม่ใช่เพียงเพราะเนื้อหาที่สะเทือนใจ แต่ยังเป็นเพราะการรวมตัวของนักแสดงฝีมือเยี่ยมหลายคน ที่จะมาถ่ายทอดบทบาท “สัตว์ประหลาดในคราบมนุษย์” ให้มีมิติและความน่าค้นหา วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 6 นักแสดงชั้นนำ ที่เป็นเสาหลักของซีรีส์เรื่องนี้ ผู้ที่จะนำพาเราเข้าไปสู่โลกที่หลอนประสาท ความเจ็บปวดภายใน และแรงจูงใจที่ทำให้ “มอนสเตอร์” ถูกสร้างขึ้น พร้อมไขมุมมองเบื้องหลังการรับบทบทบาท และความท้าทายในการแสดงของพวกเขา!  รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! MONSTER: The Ed Gein Story | Official Trailer | Netflix https://m.youtube.com/watch?v=EDBmpfbnLGk 1.) Charlie Hunnam (ชาร์ลี ฮันแนม) “Charlie Hunnam (ชาร์ลี ฮันแนม)” วันเกิด: 10 เมษายน ค.ศ. 1980 ที่ประเทศอังกฤษ          หนุ่มชาร์ลี ฮันแนมเป็นนักแสดงชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงจากบทบาทในซีรีส์และภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะบทJax Teller ในซีรีส์ Sons of Anarchy Charlie Hunnam รับบท “Ed Gein” เป็นตัวละครหลักของเรื่อง ชายหนุ่มผู้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่โดดเดี่ยว ห่างไกลจากผู้คน และอยู่ภายใต้อิทธิพลของแม่ที่ควบคุมชีวิตทุกอย่าง เขาเป็นคนเก็บตัว พูดน้อย มีบุคลิกเงียบ ๆ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความอึดอัดที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก เมื่อแม่เสียชีวิต ความยึดติดและบาดแผลทางจิตใจที่ไม่เคยได้รักษาก็เริ่มพังทลายลง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมสยองขวัญ โดยการแสดงของ Hunnam ถ่ายทอดมิติความอ่อนแอ ผสมความบ้าคลั่งแบบเงียบๆ ได้อย่างลึกซึ้ง เขาไม่ใช่ฆาตกรเลือดเย็นในแบบที่ผู้ชมเคยเห็น แต่เป็นชายที่โลกทั้งใบของเขาพังลงจากภายในอย่างช้าๆ   2.) Laurie Metcalf (ลอรี เม็ตคาล์ฟ) “Laurie Metcalf (ลอรี เม็ตคาล์ฟ)” วันเกิด: 16 มิถุนายน ค.ศ. 1955 ที่รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา           โดยลอรี เม็ตคาล์ฟเข้าสู่วงการในปี 1974 โดยเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของ Steppenwolf Theatre Company ในเมืองชิคาโก เธอเป็นนักแสดงหญิงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากบทบาทในซีรีส์ Roseanne และภาพยนตร์ Lady Bird  Laurie Metcalf รับบท “Augusta Gein” แม่ของเอ็ดเป็นหญิงที่เคร่งศาสนา ควบคุมลูกแบบสุดขั้ว เธอสั่งห้ามเอ็ดมีเพื่อน มีความรัก หรือเข้าใกล้ผู้หญิงคนใดเธอสอนว่าโลกภายนอกเต็มไปด้วยบาปและความเลวร้าย ตัวละครนี้เปรียบเสมือน “พระเจ้าในบ้าน” สำหรับเอ็ด เขากลัวแม่แต่ก็รักอย่างฝังใจ การแสดงของ Laurie Metcalf นั้นทรงพลังมาก เธอทำให้คนดูรู้สึกถึงความอึดอัดและความเยือกเย็นในการเลี้ยงดูแบบครอบงำ ซึ่งกลายเป็นรากเหง้าของความวิกลจริตในตัวลูกชายของเธอ 3.) Suzanna Son (ซูซานนา ซัน) “Suzanna Son (ซูซานนา ซัน)” วันเกิด: 31 ตุลาคม ค.ศ.1995 ที่สหรัฐอเมริกา             สาวซูซานนา ซันเข้าสู่วงการจากการแสดง Red Rocket (2021) ได้รับบท Strawberry ซึ่งทำให้เธอแจ้งเกิดในวงการทันที นอกจากการแสดง เธอยังเป็น นักดนตรี ที่มีเพลงของตัวเองบน YouTube และแพลตฟอร์มต่าง ๆ สไตล์ของเธอมีความ อินดี้ อาร์ต และย้อนยุค ทั้งในแฟชั่นและงานศิลปะ Suzanna Son รับบท “Adeline Watkins” หญิงสาวผู้เปรียบเสมือนแสงสว่างเดียวในชีวิตของเอ็ด ตัวละครของ Adeline มีความขัดแย้งสูง  เธอรู้สึกสงสารและเอ็นดูเอ็ด แต่ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอเป็นคนอ่อนโยน เต็มไปด้วยความอยากเข้าใจ แต่ก็มีอดีตที่เต็มไปด้วยปมเช่นกัน เธอมีบทบาทสำคัญในการทำให้เอ็ดรู้สึก “มีคนมองเห็น” เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ความใกล้ชิดของเธอก็กลายเป็นชนวนที่ทำให้จิตใจของเอ็ดสั่นคลอนยิ่งขึ้น ช่องทางการติดตาม Instagram : @suzannason 4.) Addison Rae Easterling (แอดดิสัน เรย์) “Addison Rae Easterling (แอดดิสัน เรย์)” วันเกิด: 6 ตุลาคม 2000 ที่สหรัฐอเมริกา              เรย์เริ่มมีชื่อเสียงจากการทำคอนเทนต์ใน TikTok โดยเธอเริ่มทำคลิปวิดีโอเต้น / lip-sync / trend ต่าง ๆ ต่อมาเธอเริ่มมีโอกาสได้งานโฆษณา สปอนเซอร์แบรนด์ต่างๆ เนื่องจากมีแฟนคลับและผู้ติดตามเยอะ มีบทบาททางด้านการแสดง อาทิ ภาพยนตร์ He’s All That (2021) และ Thanksgiving (2023)  Addison Rae รับบท “Evelyn” หญิงสาววัยรุ่นที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่พิการทางขา เธอมาแทนที่เอ็ด ตัวละครนี้แสดงถึงความบริสุทธิ์ที่เอื้อต่อความใคร่รู้ของเอ็ด และกลายเป็นภาพแทนของ ความหลงใหลในสิ่งต้องห้าม ในจิตของเขา ช่องทางการติดตาม Instagram : @addisonraee 5.) Joseph James Pollari (โจเซฟ เจมส์ โปลลาริ) “Joseph James Pollari (โจเซฟ เจมส์ โปลลาริ)” วันเกิด: 9 เมษายน ค.ศ.1994 ที่สหรัฐอเมริกา           เจมส์ได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการปรากฏตัวในรายการ Cold Case ตอน The Hen House โดยรับบทเป็นnewsboy และได้รับบทในภาพยนตร์ Skyrunners (2009, Disney XD) รับบท Tyler Burns ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วยสร้างชื่อให้เขา ผลงานอื่น ๆ ที่โดดเด่น อาทิ ซีรีส์ American Crime 2 , ภาพยนตร์ Love, Simon (2018)  , ภาพยนตร์อินดี้ The Obituary of Tunde Johnson  Joey Pollari รับบท “Anthony Perkins” นักแสดงที่รับบท Norman Bates ใน Psycho ตัวเขาเองต้องเผชิญกับความกดดันจากการแสดงตัวละครที่มีต้นแบบมาจากชีวิตจริงที่โหดร้าย ในเรื่อง เขาเป็นเหมือนกระจกสะท้อนผลกระทบของเรื่องราวของ Ed Gein ต่อคนในวงการศิลปะและภาพยนตร์ ช่องทางการติดตาม Instagram : @joeypollari 6.) Vicky Krieps (วิกกี้ ครีปส์) “Vicky Krieps (วิกกี้ ครีปส์)” วันเกิด: 4 ตุลาคม 1983 เป็นนักแสดงหญิงชาวลักเซมเบิร์ก-เยอรมัน           สาววิกกี้ ครีปส์เริ่มมีบทบาทเล็ก ๆ ในหนัง/โทรทัศน์ในยุโรป ทั้ง Luxembourg, ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยหนังเรื่อง Hanna (2011) เป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วยให้เธอเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น แต่หนังที่ถือว่านำเธอแจ้งเกิดจริง ๆ คือ Phantom Thread (2017) ที่ร่วมแสดงกับ Daniel Day-Lewis ซึ่งบทบาทของเธอได้รับคำชมมากมาย  Vicky Krieps รับบท “Ilse Koch” ตัวละครนี้ปรากฏในความฝันและจินตนาการของเอ็ด เป็นตัวแทนของความรุนแรงจากยุคนาซี และเป็นภาพสะท้อนของความวิปริตที่แฝงอยู่ในมนุษย์ แม้จะไม่ใช่ตัวละครจริงในชีวิตของเอ็ด แต่เธอทำหน้าที่เป็น "เงาแห่งความชั่วร้าย" ที่กัดกินจิตใจเขา ช่องทางการติดตาม Instagram : @vickykrieps และนี่คือ 6 นักแสดงหลักที่พาเราเจาะลึกชีวิตอันมืดมนและซับซ้อนของเอ็ด กีนใน Monster: The Ed Gein Story (2025) แต่ละคนต่างทุ่มเทเต็มที่ทั้งในด้านการแสดงและการสื่อสารอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ความเหงา กดดัน ไปจนถึงความบ้าคลั่ง โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “Monster: The Ed Gein Story” ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix  เครดิตภาพหน้าปก @netflix : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6  @whatonnetflix : ภาพที่7 / ภาพที่8 เครดิตภาพประกอบบทความ @netflix : ภาพที่1  @netflix : ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 เครดิตวิดีโอประกอบบทความ Netflix MONSTER: The Ed Gein Story | Official Trailer | Netflix จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

M E D CLINIC เอสเเมด คลีนิคเวชกรรม
อ่าน

M E D CLINIC เอสเเมด คลีนิคเวชกรรม

"เกิดเป็นผู้หญิง ต้องไม่ลืมดูเเลตัวเองน่ะค่ะสาว ๆ"ทักทายด้วยคำว่า "เฮลโล้วววว คุณผู้อ่านทุกท่าน" วันนี้เเบล็คขอเขียนรีวิวคลินิคเเห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานีค่ะ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านออมทอง ซอย 3BB 300/108 ตำบลรู้สะมิเเล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000 สามารถติดต่อได้ทางเบอร์ 095-4417799 โทรมาปรึกษาฟรีค่ะภาพโดยผู้เขียน...เป็นคลินิคเวชกรรม ซึ่งเรารู้ ๆ กันอยู่เเล้ว เวชกรรมเเปลว่า การรักษาโรค(ถ้าเเปลตามพจนานุกรม) เอ้ะ! รักษาอะไรบ้างน่ะ มาดูกันค่ะM E D CLINIC เอสเเมด คลินิค เป็นคลินิคเวชกรรมสำหรับผู้หญิงค่ะ รักษาสิว ฝ้า-กระ ลดเลือดริ้วรอย เลเซอร์หน้าใส เลเซอร์หลุมสิว เลเซอร์ฝ้า-กระ ฉีดยาโบท็อค เเละศัลยกรรมความงามจากประสบการณ์ของเเบล็ค ไม่ได้มาใช้บริการด้วยตัวเองเเต่เพื่อนชวนมาเป็นเพื่อนค่ะ คือว่า เพื่อนเเบล็คคนหนึ่ง สมมุติมีชื่อว่า "อาลิน" เป็นคนที่มีนิสัยอยากสวย อยากลองเครื่องสำอางทุกอย่างตามโฆษณา อาลินเลยซื้อมาใช้ทุกอย่าง สุดท้ายหน้าพัง! ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลาไปไหนมาไหน เพราะอายที่จะเจอผู้คน อาลินเลยชวนเเบล็คไปคลีนิค ไปหลายคลีนิคมาก ๆ เเต่ไม่หาย ซื้อยามารับประทาน ทาครีมบำรุง เเต่ก็ไม่หายค่ะ...สุดท้ายอาลินเลยตัดสินใจไป M E D CLINIC คลินิคเวชกรรม ปัตตานี พบหมอเเล้วหมอบอกว่าต้องเลเซอร์หลุมสิวเท่านั้น เพราะผิวหน้าพังหมด สิวอุดตันอีกด้วย หมออธิบายว่า "สิวอุดตัน มีลักษณะเป็นตุ่มนูน ซึ่งเป็นลักษณะของสิวหัวปิด เเต่หากพบเป็นจุดดำที่ยอดของตุ่มก็จะเป็นลักษณะของสิวหัวเปิด ปกติจะพบคละ ๆ กัน ต่างกับสิวอักเสบ คือมีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีเเดง ตุ่มหนอง หรืออักเสบ มักจะพบบนใบหน้า หน้าอก เเละหลัง บริเวณที่มีไขมันสะสม""สำหรับเคสของอาลินคือ สิวอุดตัน หมอเเนะนำเลดซอร์หลุมสิวค่ะ" อาลินเลยตัดสินใจทำตามคำเเนะนำของหมอภาพโดยผู้เขียน...หลังจากการทำเลเซอร์ อาลินก็กลับมาหน้าใสเหมือนเดิม อาจจะใช้เวลาหลายเดือน เเต่เธอก็ดีใจที่มีโอกาสได้สวยเหมือนคนอื่น ๆ หลายรอบมากที่อาลินไปคลีนิคตามที่หมอนัด เเละทุกครั้งที่ไปก็จะชวนเเบล็คไปด้วย ด้วยความที่ว่า เเบล็คเป็นคนสิวเสี้ยนเยอะ เลยขอใช้บริการสักหน่อย...เเบล็คดูดสิวเสี้ยนค่ะทุกคน รู้สึกเจ็บนิด ๆ เเต่ก็ยอมอดทนเพื่อให้ใบหน้าเราสะอาด ใส สวย5555ราคาดูดสิวเสี้ยนเพียง 500 บาทต่อครั้งภาพถ่ายโดยผู้เขียน...สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาคลินิคความงาม ขอให้ M E D CLINIC คลินิคเวชกรรมเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณน่ะค่ะ เเบล็อคขอการันตีในผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง หมดปัญหาสิว ฝ้า กระ เเละอื่น ๆ ตามที่ได้อธิบายไว้เเล้วในย่อหน้าที่สอง สำหรับวันนี้เเบล็คขอลาไปก่อน บ๊ายบาย...  

SE-ED  จัดให้!  Pre-order  Box  set  บุพเพสันนิวาส+พรหมลิขิต
อ่าน

SE-ED  จัดให้!  Pre-order  Box  set  บุพเพสันนิวาส+พรหมลิขิต

                 กระแสความนิยมในตัวละครหญิง  ‘แม่การะเกด’  จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสที่แม้จะลาจอแก้วไปได้สักพักใหญ่แล้วแต่ก็มั่นใจได้เลยว่าแฟนละครหลาย ๆ คนคงคิดถึงตัวละครตัวนี้อยู่เสมอ  ยิ่งมีแพลนจากผู้จัดละครออกมาแง้มข่าวถึงภาคต่อของละครเรื่องดังกล่าว  คาดว่าแฟน ๆ ที่ยังคงคิดถึงละครเรื่องนี้คงจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยละครน้ำดีภาคต่อกันอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว  ในขณะที่แฟนละครยังต้องอดใจรอภาคต่อของบุพเพสันนิวาสที่จะมาฉายให้รับชมทางจอแก้ว  ทาง  SE-ED  เขาก็มีข่าวดีสำหรับแฟนละครบุพเพสันนิวาสจะมาแจ้งแฟน ๆ ละครที่รอติดตามเรื่องราวภาคต่อของละครยอดฮิตเรื่องนี้เช่นกันนะ!ขอบคุณภาพจาก  :  https://www.thairath.co.th/novel/Bupphesanniwat/ch1/all                หากใครอดใจรอเรื่องราวภาคต่อของเรื่องบุพเพสันนิวาสทางจอโทรทัศน์ไม่ไหว  ทาง  SE-ED  มีข่าวดีมาแจ้งสำหรับแฟน ๆ ที่ยังฟินไม่หายกับบุพเพสันนิวาส  และยังคงอยากฟินอย่างต่อเนื่องกับ  พรหมลิขิต  เรื่องราวภาคต่อของบุพเพสันนิวาส  ทาง  SE-ED  จัดชุดใหญ่  เปิด Pre-order  Box  set  บุพเพสันนิวาส+พรหมลิขิต  ฉบับนิยาย  เปิด Pre-order  กันยาว ๆ ตั้งแต่วันที่  28  ส.ค.  -  30  ก.ย.  2562  กันเลยทีเดียว!  โดยมีเงื่อนไขรายละเอียดดังต่อไปนี้เงื่อนไขการสั่งจอง• เปิดรับจองวันที่ 28 ส.ค. 62 – 30 ก.ย. 62• รับหนังสือตั้งแต่วันที่  18 ตุลาคม  2562 เป็นต้นไป• ชื่อหนังสือ : ชุด Box set บุพเพสันนิวาส+พรหมลิขิต• บาร์โค้ด 2019082701161• พิเศษสำหรับ Pre-Order ราคา 555 บาท (จากราคาปกติ 585 บาท)(เฉพาะสมาชิกซีเอ็ดการ์ด)• ไม่รวมลดท้ายบิล หรือโปรโมชั่นอื่น• รับเงินจองเต็มจำนวนขอบคุณภาพจาก  www.se-ed.com หากใครสนใจภาคต่ออย่างพรหมลิขิตเพียงเล่มเดียวก็มี  Pre-Order  แล้วเหมือนกัน  โดยมีเงื่อนไขรายละเอียดดังนี้ เงื่อนไขการสั่งจอง• เปิดรับจองวันที่ 25 ส.ค. 62 – 30 ก.ย. 62• รับหนังสือตั้งแต่วันที่  18 ตุลาคม  2562 เป็นต้นไป• ชื่อหนังสือ : พรหมลิขิต• บาร์โค้ด 9786163124159• ราคา 300 บาท (สมาชิกซีเอ็ดการ์ดลด 5%)• รับเงินจองเต็มจำนวน    ขอบคุณภาพจาก  www.se-ed.com (ขอขอบคุณข้อมูลจาก  :  SE-ED Online Shopping)                แฟน ๆ ที่ติดตามเรื่องราวน่ารัก ๆ ของบุพเพสันนิวาสก็อย่าลืม Pre-Order  กันมาเยอะ ๆ นะเพื่อเป็นการสนับสนุนนักเขียนของไทยเจ้าของนามปากกา  ‘รอมแพง’  ให้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเขียนต่อไป  ทิ้งท้ายด้วยความในใจที่ผู้เขียนฝากถึงนิยายภาคต่อบุพเพสันนิวาสเรื่อง  พรหมลิขิต  กว่าจะเขียนภาคต่อได้เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย  ทั้งเรื่องความกดดันและความคาดหวังจากแฟนละครและแฟนนักอ่าน  ความยากเกี่ยวกับการค้นคว้าข้อมูลเรื่องของประวัติศาสตร์ที่ข้อมูลทั้งหายากและมีน้อยนิด  ไหนจะเรื่องของการจัดการบาลานซ์ระหว่างตัวละครเก่าและตัวละครใหม่  แต่ที่สำคัญ  นักเขียนเจ้าของนามปากกาอย่างรอมแพงก็ไม่ทิ้งไลน์เสน่ห์แบบเดิม ๆ ของเรื่องอย่างเรื่อง  ‘อาหาร’  เพราะผู้เขียนทิ้งท้ายไว้ว่านางเอกของเรื่องไม่อินกับเรื่องอะไรเลยนอกจาก  ‘เรื่องกิน’  ไม่แน่ว่าแฟน ๆ อาจได้เห็นเมนูอาหารต่าง ๆ จากในเรื่องพรหมลิขิตเช่นเดียวกับที่แม่การะเกดจากเรื่องบุพเพสันนิวาสได้แสดงฝีไม้ลายมือไว้จนคนโบราณในเรื่องต้องน้ำลายสอไปกับเมนูอาหารยุคปัจจุบันยอดฮิตของแม่การะเกดนั่นเลยทีเดียว!เปิดรับจองที่  SE-ED  ทุกสาขา  และ  www.se-ed.com

Series or Serious : รีวิว Start Up | yellowmellow
อ่าน

Series or Serious : รีวิว Start Up | yellowmellow

ธุรกิจ,โรแมนติก,ตลก,ดราม่า นักเขียนให้คะแนน 9/10 เลยค่า Series or Serious กลับมาอีกครั้งกับเรื่อง Start Up ค่า เพิ่งจบไปได้ไม่นานนี้เองถ้าใครยังไม่เคยดูหรือไม่รู้จักนะคะ สามารถเข้าไปดูได้ที่ Netflix เลยค่า จริงๆนักเขียนว่าเรื่องนี้เน้นตลกและโรแมนติกมากกว่าค่า แต่ก็ยังมีธุรกิจปนอยู่ทุกๆตอนนะคะ รู้สึกว่าเค้านำแนวหนังมาผสมกันได้พอดีเลยค่า เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า :)เรื่องย่อ : เรื่องนี้เป็นเรื่องของการทำธุรกิจ Start Up หรือธุรกิจแบบให้นักลงทุนมาถือหุ้นค่า เริ่มเรื่องโดยคุณย่าของซอดัลมี (นางเอก) เจอกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง จึงขอให้มาช่วยเขียนจดหมายรักไปหาดัลมีเพราะเธอจะได้มีกำลังใจในชีวิต แต่เขียนโดยใช้ชื่อสุ่มๆของเด็กในหนังสือพิมพ์คนหนึ่ง เขาทั้งสองก็เขียนหากันตลอดแต่ไม่เคยเจอหน้ากันจริงๆหลังจากนั้นไม่นานพ่อกับแม่ของดัลมีได้หย่ากันและดัลมีเลือกที่จะไปอยู่กับพ่อ ส่วนพี่สาวเธอ (ซออินแจ) เลือกที่จะไปอยู่กับแม่15 ปีต่อมา ดัลมีได้กลับมาเจอพี่สาวเธออีกครั้งและได้ตั้งพนันว่าสามปีต่อจากปัจจุบัน ใครก้าวหน้าในชีวิตมากกว่ากันจะถือเป็นผู้ชนะ ดัลมีจึงตัดสินใจตามหานัมโดซาน (พระเอก) เพื่อจะได้แสดงให้พี่สาวเธอเห็นว่าเธอก้าวหน้าทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก เมื่อย่าของเธอรู้ คุณย่าจึงต้องขอให้ฮันจีพยองหรือเด็กชายที่มาช่วยเขียนจดหมายเมื่อ 15 ปีก่อน ตามหาโดซานเพื่อจะให้โดซานแกล้งทำเป็นเด็กชายในจดหมาย แต่โดซานสร้างข้อเสนอมาว่าต้องให้เขาและเพื่อนๆ (อิลชอลซาน) (คิมยงซาน) ที่มีชื่อบริษัทว่า “ซัมซานเทค” ได้เข้าร่วมใน Sandbox (ชื่อบริษัท Start Up) แต่เมื่อซอดัลมีเจอตัวนัมโดซานก็ขอเข้าร่วมบริษัทด้วยเพราะนึกว่าเป็นเด็กชายในจดหมายรีวิวจากนักเขียน : เรื่องนี้สะท้อนหลายมุมมองมากเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ Start Up จากที่เริ่มเป็นแค่คน 3 คนจนถึงปัจจุบันกลายเป็นนักธุรกิจที่โด่งดังและรวยได้ เพียงแค่เรามีความพยายามและอดทน อีกมุมมองก็เกี่ยวกับความรักของนัมโดซานและฮันจีพยองที่มีต่อซอดัลมี ฝั่งฮันจีพยอง แม้เขาจะเป็นเพียงแค่เด็กคนนั้นในอดีตและผู้จัดการทีมแแต่เขาก็ทุ่มสุดตัว ยอมเสนอเงินลงทุน ช่วยเหลือทุกอย่าง ทุกเมื่อ เพื่อซอดัลมี ส่วนนัมโดซาน ถึงแม้เขาจะไม่ใช่นัมโดซานในจดหมายแต่เขาคือนัมโดซานในปัจจุบัน เขาก็อยู่เคียงข้างดัลมีตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไร แต่ว่าดัลมีนั้นจะเลือกใครนักเขียนจะไม่สปอยล์นะคะ ต้องไปดูกันเอาเอง จริงๆก็คือลุ้นมากเพราะมีโอกาสทั้งสองฝ่าย เราชอบคู่ของอีชอลซานกัยจองซาฮามาก เป็นคู่ที่มีแต่เรื่องตลกๆเกิดขึ้น คู่นี้ก็ไม่สปอยล์นะคะ จะได้เป็นแฟนกันมั้ยน้า แต่สิ่งที่เราประทับใจที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือครอบครัวค่ะ ถ้าเราสังเกตดีๆเรื่องนี้มีเรื่องครอบครัวมาเกี่ยวเยอะมากๆนะคะ ทั้งครอบครัวโดซาน ครอบครัวดัลมี หรือครอบครัวแบบเพื่อนระหว่างคนในทีม หลังจากดูจบแล้วเรารู้สึกว่าถึงแม้ดัลมีกับอินแจจะไม่ชอบกันแต่จริงๆเขาก็มีความห่วงใย ความรักซ่อนอยู่ ความรักจากคุณย่าให้ฮันจีพยอง ความรักจากเพื่อนๆในทีมที่ไม่เคยทิ้งกัน ไม่เคยลืมกัน เรามีเท่านี้ ชีวิตเราก็ประสบความสำเร็จได้นะคะ ถึงแม้อาจจะเป็นแค่ในใจสำหรับบางคน ใครที่กำลังท้อหรือเหนื่อย นักเขียนเป็นกำลังใจให้น้า สู้ๆค่า เริ่มใหม่แล้วอย่าหยุดพยายามน้าถ้าอยากรู้ว่าซอดัลมีจะจับได้ไหมหรือว่าเธอจะเลือกใครระหว่างฮันจีพยอง เด็กที่เขียนจดหมายกับนัมโดซาน คนที่เธอเข้าใจผิด ก็ต้องไปดูแล้วล่ะค่า ตอนนี้ซีรีย์จบแล้วนะคะ ใครไหวก็สามารถดูวันเดียวจบได้เลยจ้า มีทั้งหมด 16 ตอนค่าวันนี้นักเขียนก็ขอไปพักก่อนนะคะ มีใครอยากให้รีวิวเรื่องไหน คอมเม้นเลยจ้า 💘 - yellowmellow -ขอบคุณรูปภาพจากค่าย tvN : ภาพหน้าปก ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิวซีรีส์ Monster: The Ed Gein Story สร้างจากเรื่องจริง
อ่าน

รีวิวซีรีส์ Monster: The Ed Gein Story สร้างจากเรื่องจริง

เมื่อพูดถึงฆาตกรในตำนาน “เอ็ด กีน (Ed Gein)” คือหนึ่งในฆาตรกรที่ไม่มีวันลบเลือนจากประวัติศาสตร์โลก ผู้สร้างเหตุการณ์สะเทือนขวัญในรัฐวิสคอนซิน อเมริกา และยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญระดับโลกหลายเรื่อง จากแฟ้มคดีจริงระดับตำนานสู่ซีรีส์ Monster: The Ed Gein Story ชวนผู้ชมก้าวเข้าสู่โลกมืดของจิตใจมนุษย์กับความลับที่หลอนสะพรึง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเรื่องราวที่ทั้งสะเทือนขวัญ ความโหดระดับสิบกะโหลก และสร้างจากเรื่องจริง ตามไปเปิดตำนาน ปลุกความหลอนกับรีวิวซีรีส์เรื่อง Monster: The Ed Gein Story กันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ** คำเตือน เนื้อหาอาจมีสปอยล์เล็กน้อย เรื่องย่อ ย้อนกลับไปในชนบทของรัฐวิสคอนซิน เอ็ด กีน (Ed Gein) หรือ เอ็ดดี้ ชายผู้โดดเดี่ยวที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายนอก แต่ซ่อนความลับอันน่าสะพรึงเอาไว้ เมื่อพูดถึง เอ็ด กีน (Ed Gein) ชีวิตของเขาเติบโตกับการเลี้ยงดูโดยแม่เป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางการปลูกฝัง และถูกเลี้ยงดูท่ามกลางความสัมพันธ์ที่กดดัน กลายเป็นแรงผลักดันที่ค่อยๆ บิดเบี้ยวและก่อร่างเป็นปีศาจในจิตใจของเอ็ด กีน (Ed Gein) ต่อมาหลังการสูญเสียแม่ยิ่งทำให้ชีวิตเขาเริ่มโดดเดี่ยว สิ่งนั้นได้นำไปสู่การค้นพบเรื่อง “สยองขวัญ” ที่เกิดขึ้นภายในบ้านและโรงนาของเขา Monster: The Ed Gein Story จึงไม่ใช่เพียงซีรีส์อาชญากรรมที่บอกเล่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนที่สำคัญในการสำรวจด้านมืดภายในจิตใจของมนุษย์ และซีรีส์เรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับตำนานสยองขวัญที่โด่งดัง ไม่ว่าจะเป็น Psycho (1960), The Texas Chain Saw Massacre (1974) และ The Silence of the Lambs (1991)  นักแสดงนำ ชาร์ลี ฮันแนม (Charlie Matthew Hunnam) รับบทเป็น เอ็ด กีน (Ed Gein) สำหรับชาร์ลี ฮันแนม เขาไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์ เพราะเขาเคยสร้างชื่อเสียงจากบทบาท Jax Teller ในซีรีส์เรื่อง Sons of Anarchy (2008) แสดงให้เห็นความเข้มข้นและความซับซ้อนของตัวละคร นอกจากนี้ยังได้แสดงภาพยนต์ Pacific Rim (2013) และ King Arthur ใน King Arthur: Legend of the Sword (2017) ผลงานต่างๆ สามารถพิสูจน์ถึงความสามารถในการถ่ายทอดทั้งบทแอ็กชันและความลึกซึ้งถึงอารมณ์ที่เข้าถึงของตัวละคร ทั้งการแสดงออกผ่านแววตาและท่าทางในบทเอ็ด กีน (Ed Gein) ทำให้สะกดผู้ชมให้จดจ่อและร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวอันเยือกเย็นและสร้างเหตุการณ์สยองขวัญของเขาได้เป็นอย่างดี Ed Gein: ฆาตรกรจากเรื่องจริงในตำนาน เอ็ด กีน (Ed Gein) เกิดในปี ค.ศ.1906 เป็นลูกชายคนที่สองในครอบครัวเกษตรกรรม เติบโตในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความขัดแย้ง เขามีพี่ชายชื่อ เฮนรี่ ซึ่งมีความคิดที่แตกต่างจากเอ็ด เนื่องจากเขาไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่สักเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีพ่อซึ่งติดสุราอย่างหนัก และเมื่อเมาก็มักจะใช้ความรุนแรงในครอบครัว และบุคคลสำคัญที่มีผลต่อจิตใจของเอ็ด กีน (Ed Gein) มากที่สุดคือ "แม่" ซึ่งแม่ของเขาเป็นคนเคร่งครัดศาสนา มีอุปนิสัยดุด่าเสียงดัง พร่ำสอนความคิด จำกัดสิทธิ์เรื่องการใช้ชีวิต และเรื่องเพศของเขามากเกินไป สิ่งต่างๆ เหล่านี้สร้างแรงขับเคลื่อนภายในจิตใจของเอ็ด กีน (Ed Gein) ตลอดมา เอ็ด กีน (Ed Gein) มีอุปนิสัยขี้อาย เก็บตัว และโดดเดี่ยว ด้วยครอบครัวของเอ็ดเป็นครอบครัวเกษตรกรรม มีการสันนิษฐานว่า เอ็ด กีน (Ed Gein) อาจเป็นผู้ลงมือฆ่าพี่ชายตนเอง เมื่อเวลาผ่านไป ราวกับว่าโลกทั้งใบของเอ็ด กีน (Ed Gein) พังทลายลงในพริบตา เมื่อแม่ของเขาเสียชีวิต เหตุการณ์นี้ทำให้เอ็ด กีน (Ed Gein) ต้องอยู่กับความอ้างว้าง และในขณะเดียวกันก็โหยหาการกลับมาของแม่ ความรู้สึกนี้ทำให้เขาเริ่มสับสนและรู้สึกสนใจในร่างกายเพศหญิง จนนำพาให้เอ็ด กีน (Ed Gein) เข้าสู่ความสยองขวัญ เขาเริ่มตระเวนขุดศพผู้หญิงจากสุสาน เพื่อนำผิวหนังและอวัยวะของศพมาตัดเย็บเป็นสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ หน้ากาก รวมไปถึงการตัดเย็บเป็นชุดผิวหนังมนุษย์ที่เขามักจะนำมาสวมใส่อยู่เสมอ รวมทั้งหัวกะโหลกมนุษย์ที่นำทำเป็นภาชนะใส่ถ้วยอาหาร การกระทำของเอ็ด กีน (Ed Gein) กลายเป็นตำนานแห่งความสยองขวัญ สะท้อนความวิปริต อีกทั้งยังเป็นบทเรียนที่สร้างความสยองขวัญไปทั่วอเมริกา และได้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้   สะท้อนประเด็นปัญหาทางจิตวิทยา สังคม สู่ปัญหาอาชญากรรม Monster: The Ed Gein Story นำเสนอเรื่องจริงของเอ็ด กีน (Ed Gein) ที่มากกว่าการถ่ายทอดถึงความโหดร้าย แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาทางจิตวิทยาและสภาพแวดล้อมทางสังคม เป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อหลอมพฤติกรรมอาชญากรรม และทำให้เอ็ด กีน (Ed Gein) เติบโตมากับความหวาดกลัวและการปิดกั้นอารมณ์ ความโดดเดี่ยวและแรงกดดันจากสังคม ซึ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้คนคนหนึ่งกลายเป็น “ฆาตกร” ได้ในที่สุด นอกจากนี้ซีรีส์ยังสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการทำงานของตำรวจและการสืบสวนในยุค 1950s เนื่องจากเทคโนโลยี การตรวจหา DNA และกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน ทำให้การจับกุม รวบรวมหลักฐานมีข้อจำกัด และการระบุผู้เสียชีวิตต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและใช้เวลานานพอสมควร ถือเป็นความท้าทายในการป้องกันและรับมือกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในบริบทสังคมและเทคโนโลยีของยุคนั้น ความประทับใจในซีรีส์ Monster: The Ed Gein Story เป็นซีรีส์ที่หยิบยกชีวประวัติของฆาตกรโรคจิตชื่อดัง “เอ็ด กีน” สำหรับเราเลือกดูมาราธอนรวด จำนวน 8 ตอนจบ และขอยืนยันเลยว่า สยองขวัญถึงขีดสุด! หลังจากการรับชมซีรีส์เรื่องนี้ สิ่งที่สะท้อนออกมาชัดเจน คือการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมที่ผิดเพี้ยน ซึ่งหล่อหลอมให้เอ็ด กีน (Ed Gein) กลายเป็นปีศาจในที่สุด โดยเฉพาะอิทธิพลจากแม่ของเขา ที่ไม่เคยสนับสนุนให้ลูกชายใกล้ชิดกับผู้หญิง และพร่ำสอนว่า “ผู้หญิงคือบาป” เมื่อผนวกกับความรุนแรงในครอบครัว การหมกมุ่นกับหนังสือการ์ตูนนาซี และการแยกตัวจากสังคม เสมือนเป็นผลักดันให้เขาก้าวสู่ด้านมืดจนในที่สุด  สิ่งที่ประทับใจจากซีรีส์มากที่สุด คือ การแสดงของนักแสดงนำอย่าง ชาร์ลี ฮันแนม (Charlie Matthew Hunnam) ที่ถ่ายทอดตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง แสดงออกถึงความอ่อนไหว ความโดดเดี่ยว ไปจนถึงความโกรธอันเยือกเย็นได้อย่างน่าขนลุก อีกทั้งงานโปรดักชันก็ทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายในยุค 1950s ดนตรีประกอบ บรรยากาศ รวมถึงฉากชวนสยองอย่าง “ชิ้นส่วนมนุษย์” ที่สมจริงจนแทบจะทำให้กลืนข้าวไม่ลง (แนะนำให้กินให้อิ่มก่อนดูนะคะ 😂) อีกทั้งการดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อเลยค่ะ ซึ่งซีรีส์จะเล่าเรียงตามปี ค.ศ. ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ตามติดชีวิตของเอ็ด กีน (Ed Gein) ไปทีละเหตุการณ์ โดยรวมแล้วนอกจากความโหดสยอง ยังสะท้อนให้เห็นว่า การเลี้ยงดูในครอบครัวสามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจมนุษย์ได้มากแค่ไหน และยังชี้ให้เห็นถึงการทำงานของตำรวจและกระบวนการยุติธรรมในยุคนั้นได้อย่างน่าสนใจ โดยรวมเราขอให้ความน่าสนใจของซีรีส์อยู่ที่ 9/10 คะแนน เป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การดูมากๆ แต่ต้องขอเตือนว่า ซีรีส์มีเนื้อหาทางเพศ ความรุนแรง และภาพไม่เหมาะสมค่อนข้างมาก เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำค่ะ ตัวอย่างซีรีส์ ประเภทซีรีส์ : อาชญากรรม, สยองขวัญ, ชีวประวัติสร้างจากเรื่องจริง แนะนำอายุที่ควรดู : 18 ปีขึ้นไป ซีรีส์มีเนื้อหาหนักแนวสยองขวัญและจิตวิทยา มีฉากและบทที่อาจกระทบจิตใจผู้ชมที่อายุน้อยหรืออ่อนไหว ภาษาต้นฉบับ : ภาษาอังกฤษ  ความยาวของซีรีส์ : จำนวน 8 ตอน โดยมีความยาวเฉลี่ยต่อตอนประมาณ 50 - 60 นาที สามารถรับชมได้ที่ : Netflix หรือรับชมได้ที่ Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ได้นะคะ 💕 https://www.youtube.com/watch?v=xyJgZTtxAag   https://www.youtube.com/watch?v=BJpYUzgfD44 Monster: The Ed Gein Story คือผลงานจากคดีจริง ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงเล่าชีวิตของฆาตกร แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าของการเลี้ยงดูที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ จนสามารถหล่อหลอมให้กลายเป็นฆาตกรได้ในชั่วพริบตา หากคุณยังอยากสัมผัสเรื่องราวสยองขวัญที่สร้างจากคดีจริง สามารถตามไปดูซีรีส์เรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีซัน 1 Dahmer: The Jeffrey Dahmer Story และซีซัน 2 The Lyle and Erik Menendez Story ก็เป็นซีรีส์อีกสองเรื่องที่ไม่ควรพลาด ร่วมค้นหาความจริงและสัมผัสกับความสยองขวัญไปด้วยกัน เตรียมใจให้พร้อม…แล้วลองเปิดดูซีรีส์กันได้เลยค่ะ ขอบคุณรูปภาพ ภาพปก / ภาพที่1 / ภาพที่2 จาก NetflixTH ภาพที่3 จาก Netflix UK Ireland ภาพที่4 / ภาพที่5 จาก Netflix ขอบคุณวิดีโอ จาก NetflixThailand  ปีศาจ: เรื่องราวของเอ็ด กีน (MONSTER: The Ed Gein Story) | ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ | Netflix  ปีศาจ: เรื่องราวของเอ็ด กีน (MONSTER: The Ed Gein Story) | ทีเซอร์อย่างเป็นทางการ | Netflix     จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิว คอนเสิร์ต Ed Sheeran ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024
อ่าน

รีวิว คอนเสิร์ต Ed Sheeran ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024

“Ed Sheeran ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024” เอ็ด ชีแรน เดอะ แมทธิเมติกส์ ทัวร์ แบงค็อก 2024 นับได้ว่าเป็นการมาเยือนประเทศไทยของ Ed Sheeran ครั้งที่ 3 หลังจากการจัดคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ในปี 2019 ถือได้ว่าเป็นการกลับมาของ เอ็ดในรอบ 4 ปีก็ว่าได้ และในครั้งนี้ก็ได้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2024  ณ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เป็นการจัดคอนเสิร์ตที่ทำลายสถิติของ The Mathematics Tour ที่มีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดในหนึ่งรอบการแสดง เพราะ The Mathematics Tour Bangkok เป็นการเปิดสถานที่ให้ผู้เข้าชมได้เข้าชมแบบเต็มสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน โดยไม่มีการแบ่งครึ่งสนามแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเปิดครบทุกที่นั่งแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว ความจุคนดูได้ประมาณไม่ต่ำกว่า 50,000 คนและเมื่อเข้ามาถึงภายในสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ก็จะเจอกับเวที 360 องศา ที่แค่เห็นก็ร้องออกมาว่าว้าว OMG มันสุดอลังการมาก เวทีที่อยู่กลางสนามและจอแบบวางไว้ทุกมุม เมื่อเทียบกับคอนเสิร์ตอื่นถือว่าคอนเสิร์ตนี้จัดได้ดีมาก ๆ แถมเวทีทั้ง 4 มุมก็ออกแบบมาได้อย่างดีมาก ออกแบบจอให้เหมือนปิ๊กกีตาร์ (Picks) เมื่อกล้องถ่ายศิลปินก็มีกราฟฟิกต่าง ๆ ลูกเล่น ๆ ต่าง ๆ ที่สวยงามแบบประทับใจสุด ๆ และเมื่อเริ่มต้นคอนเสิร์ต ก็เปิดตัวมาด้วย Special Guest ‘Calum Scott’ (คัลลัม สก็อตต์)  นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ นักร้องเสียงทรงพลัง ที่ชนะการประกวด Britain's Got Talent 2015 และมีเพลงที่โด่งดัง อย่างเช่นเพลง "You are the reason" ซึ่งในคอนเสิร์ต Calum ก็ร้องเพลงนี้และแฟน ๆ ชาวไทยก็ร่วมใจกันเปิดแฟลชเป็นทะเลดาวในกับเพลงนี้ Calum ถึงขั้นร้องไห้บนเวที และได้กล่าวออกมาว่าโมเมนท์นี้จะจำไปจนในตาย ซึ่งงานนี้แน่นอนว่า Calum ได้หอบความรักจากแฟน ๆ ชาวไทยกลับบ้านอย่างล้นเหลือแน่ ๆหลังจากที่ Calum ร้องเพลงเสร็จแล้ว ก็ถึงคิวเจ้าของคอนเสิร์ตอย่าง "Ed Sheeran" ที่โผล่ขึ้นมาจากเวทีตรงกลาง ซึ่งพร้อมกับเพลงที่ทรงพลังอย่าง “Tides” ซึ่งคอนเสิร์นครั้งนี้ เอ็ดได้ร้องเพลงถึง 25 เพลง ซึ่งเป็นการเล่นสดที่เล่นตลอดคอนเสิร์ต โดยที่แทบจะไม่หยุดพัก พลังของแอ็ดล้นเหลืออย่างมาก ทั้งร้อง ทั้งเล่น วิ่งวนอยู่ภายในเวที 360 องศาของเค้า แค่เห็นก็เหนื่อยแทน แต่แน่นอนว่าแอ็ดได้สร้างความประทับใจอย่างมากในเวทีนี้ เพลงที่ Ed Sheeran ได้ร้องในวันนั้น 25 เพลง ได้แก่1. Tides2. Blow3. Im A Mess4. Shivers5. The A Team6. Castle on the Hill7. Dont8. Eyes Closed9. Give Me Love10. Ed's Choice11. River, Peru, Beautiful People South of the Border, I Dont Care12. Overpass Grafiti13. End of Youth14. Galway Girl15. Thinking Out Loud16. Love Yourself17. Sing18. Photograph19. Ed’s Choice20. Perfect21. Bloodstream22. After Glow23. YNMIDNY24. Shape of You25. Bad Habitsคอนเสิร์ต "Ed Sheeran" จบลงด้วยพลุที่อลังการ อิ่มใจ และสุดประทับใจเป็นคอนเสิร์ตอีกคอนที่เริ่มต้นปีมาได้อย่างสวยงานและสุดประทับใจสุด ๆ หากใครพลาดโอกาสนี้ บอกได้เลยว่าครั้งหน้าคุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเพราะเป็นคอนเสิร์ตที่สุดประทับใจสุด ๆ จนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ และเชื่อได้ว่าครั้งหน้าเราจะได้มีโอกาสเจอกันอีกนะ "Ed Sheeran"PHOTO CREDIT : Sāw Paed Thanwa ∞ ซาวแปดธันวา เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

Add English จะ Start ไม่ได้อยู่ที่ Fast & Furious
อ่าน

Add English จะ Start ไม่ได้อยู่ที่ Fast & Furious

                                                       Add English จะ Start ไม่ได้อยู่ที่ Fast Furious          จากบทความของ Add English เริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า เริ่มต่อ ไม่รอละนะ อยากจากเน้นให้ผู้อ่านได้เห็นถึง “การตัดสินใจ” ที่จะเริ่มอะไรสักอย่าง ไม่ใช่เพราะเราต้องมีพร้อมทุกอย่างเราถึงจะเริ่ม แต่เพราะเราอยากมีมากขึ้นต่างหากเราถึงตัดสินใจที่จะเริ่มทำอะไรสักอย่าง ท่านผู้อ่านสามารถอ่านย้อนหลังบทความหัวข้อ เริ่มต่อ ไม่รอละนะ นี้ได้นะคะ แต่สำหรับบทความนี้ Add English จะพาเรา “เริ่มต่อ” ค่ะ เพราะการ "เริ่ม" ต้นของหลาย ๆ คนมักจะเป็นสิ่งสำคัญในการไป "ต่อ" เสมอ ระหว่างนี้ขอแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำว่า “เริ่มต้น” ไปด้วยเลย เพื่อให้ทุกคนได้สะสมคำศัพท์ภาษาอังกฤษไปด้วยกันนะคะ คำว่า “เริ่มต้น” ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Start และยังมีคำในภาษาอังกฤษที่มีความหมายเหมือนกันหรือเราจะเรียกว่า synonyms นั่นก็คือคำว่า begin และ commence โดยความแตกต่างระหว่าง begin  start และ commence ในภาษาอังกฤษ คือ คำว่า begin start และ commence ให้ความหมายว่า “เริ่ม” เหมือนกันทั้งสองคำ แต่คำว่า begin จะเป็นทางการมากกว่าคำว่า start และคำว่า commence จะเป็นทางการมากที่สุดเหมาะสำหรับการเขียนหรือบริบททางการมากที่สุดนั่นเอง        Start และ Beginมักจะใช้ เมื่อเริ่มต้นทำบางสิ่งบางอย่างและต่อเนื่องไป เช่น การเริ่มต้นชีวิต การเริ่มต้นอาชีพ การทำงาน เมื่อก่อตั้งบริษัท  หรือมักจะใช้ เมื่อเริ่มต้นเหตุการณ์ กิจกรรมที่เป็น event เช่น เริ่มต้นเกมการแข่งขัน โรงเรียนเปิด        Commenceมักจะใช้ เมื่อเริ่มต้นของสิ่งที่เป็นทางการ เช่น กำหนดการ การประชุมได้เริ่มขึ้นซึ่งการใช้คำแต่ละคำที่มีข้อควรใช้อย่างเฉพาะเจาะจง ก็คือ  ในกรณีที่พูดถึงการเริ่มต้นออกเดินทาง เครื่องจักร การเริ่มธุรกิจ ใช้ start แต่ไม่ใช้ begin        เมื่อเรารู้ความแตกต่างของการใช้ 3 คำนี้แล้วนั้น เรามาลองประยุกต์คำเหล่านี้ให้เข้ากับการดำเนินชีวิตของเรากันบ้าง เพราะการเริ่มต้นที่ดี ไม่ใช่การเริ่มต้นที่ เร็ว แรงง ทะลุนรกอย่างภาพยนตร์เรื่อง Fast Furious เร็ว...แรงทะลุนรก เพราะเราคงไม่มีใครปรารถนาให้ชีวิตของเราทำทุกสิ่งอย่างรวดเร็ว ทันใจ แต่ไร้ทิศทางจนถึงขนาดต้องลงนรก แต่ใครใครก็ปรารถนาให้ชีวิตของเราทุกคนดำเนินไปข้างหน้าอย่างมีทิศทางหรือเป้าหมายในชีวิต ดำเนินไปอย่างไม่ต้องรีบร้อนเกินไป และเรายังมีเวลาเรียนรู้ ศึกษาระหว่างดำเนินชีวิตในแต่ละสิ่งอีกด้วย หากดำเนินสิ่งใดไปแล้วเราพิจารณาแล้วว่าไม่ใช่ ไม่เหมาะกับตัวเรา เรายังมีเวลาใคร่ครวญ พิจารณาและปรับเปลี่ยนวิธีการ ฟังคำแนะนำเพิ่มเติมได้ วันนี้เราคงไม่มีใครปรารถนาให้ชีวิตของเราไปผิดทางเหมือนขึ้นภูเขาผิดลูกจนเสียเวลารูปภาพจาก pexels         วันนี้ Add English อยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกท่านในการ start ณ จุดเริ่มต้นนี้ ไม่ใช่เราจะพุ่งไปโดยไร้ทิศทางหรือเป้าหมาย เพราะมีหลายท่านเคยกล่าวไว้ว่า Direction is so much more important than speed. Many are going nowhere fast. ซึ่งแปลว่า ทิศทางสำคัญกว่าความเร็ว มีหลายคนที่ไปอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองจะไปยังเป้าหมายปลายทางใดรูปภาพจาก stocksnap.ioและอยากจะบอกว่าไม่ต้องเปรียบเทียบชีวิตของเรากับชีวิตของใครเพื่อบั่นทอนตัวเอง ไม่สำคัญว่าเราหยุดเพื่อพิจารณาชีวิตของเราบ่อยหรือต้องปรับแผนการไปต่อของเรากี่ครั้ง แต่อยู่ที่เรากำลังตรวจสอบแนวคิด วิธีการ เส้นทางว่าเรายังอยู่ในแผน อยู่ในเป้าหมายของเราหรือไม่เท่านั้นเอง ซึ่งการเปรียบเทียบที่ดีคือการนำแนวคิดหรือวิธีการที่ถูกต้องและดีเพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตของเรา เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตในแบบที่เป็นเราอย่างมีความสุขนะคะ Add English ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกท่านค่ะรูปภาพจาก freepikหากผู้อ่านบทความท่านใดสนใจอยากหาความรู้ภาษาอังกฤษฟรี ๆ และดี ๆ ก็สามารถติดตาม Add English ในช่องทางอื่นได้ เพื่อทักมาฝึกแชทคุยเป็นภาษาอังกฤษหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับภาษาอังกฤษได้ฟรี ๆ ผ่านทางรูปประกอบโดยเจ้าของบทความLine ID add_english Facebook Fanpage https://www.facebook.com/add.english.7IG ค้นหาว่า add_english_language_centerขอบคุณภาพหน้าปกจาก freepik        

ชวนอ่านหนังสือนิทาน​เริ่มจากเมล็ดเล็ก​ ๆ​ ( It​ Started​ as​ a​ Little​ Seed​)​
อ่าน

ชวนอ่านหนังสือนิทาน​เริ่มจากเมล็ดเล็ก​ ๆ​ ( It​ Started​ as​ a​ Little​ Seed​)​

ชวนอ่านหนังสือนิทาน  เริ่มจากเมล็ดเล็ก ๆ  ( It  Started as a Little Seed )         สวัสดีค่ะทุกคน ใครที่มีลูกหลานอยู่ในวัยที่กำลังเตรียมเข้าอนุบาลหรือชั้นประถม การปูพื้นฐานทางด้านภาษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะการปูพื้นฐานในภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษ การอ่านนิทานจึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยฝึกพัฒนาการทางด้านภาษาได้เป็นอย่างดี โดยช่วยทั้งทักษะการฟัง  พูด  อ่าน  ตลอดจนอาจพัฒนาทักษะทางด้านการเขียนแก่ลูกหลานของท่านได้  วันนี้จึงมาแนะนำหนังสือนิทานเรื่องเริ่มจากเมล็ดเล็กๆ  (It  Started as a Little Seed ) ให้ลูกหลานของคุณได้อ่านกันค่ะ                ที่มาของภาพ :  ภาพถ่ายจากผู้เขียนเอง    หนังสือนิทานเริ่มจากเมล็ดเล็ก ๆ ( It  Started as a Little Seed ) เป็นหนังสือนิทานในชุดเริ่มจากเล็ก ๆ ( From Little Thing ) ที่เขียนโดยคุณสองขา วาดภาพประกอบโดยคุณศศิวิมล  สุนทรวิกรานต์ จากสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ราคาเล่มละ 83  บาท มีจำนวนทั้งหมด 16 หน้า     โดยหนังสือนิทานเล่มนี้เป็นนิทานคำกลอนสั้น ๆ สองภาษาประกอบด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  กลอนที่แต่งเป็นกลอนที่อ่านง่ายมีคำคล้องจอง ใช้คำศัพท์ที่สั้นกะทัดรัด และเข้าใจได้ง่าย ทำให้สามารถใส่ทำนองในบทกลอนให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกสนานกับเนื้อหาของบทกลอนได้ เนื้อหาของหนังสือจึงเหมาะกับเด็กในช่วงอายุ 3 - 5 ปี ที่กำลังอยู่ในวัยหัดพูดเป็นประโยคและเริ่มเปิดรับความเข้าใจทางด้านภาษาอย่างภาษาอังกฤษ ประกอบกับภาพวาดเป็นลายตัวการ์ตูนที่มีสีสันสดใส ลวดลายไม่ซับซ้อน น่าสนใจ ซึ่งผู้เขียนอย่างคุณสองขานั้นต้องการที่จะชวนให้เด็ก ๆ ที่ได้อ่านนิทานได้หันมาสนใจในธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตรอบ ๆ ตัวอย่างพืชพันธ์ุชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ผลไม้ หรือผัก โดยด้านหลังของหนังสือเล่มนี้จะมีวิธีการเพาะถั่วงอกอย่างง่าย ๆ ให้เด็ก ๆ ที่อ่านได้ทดลองปลูกตามอีกด้วย ซึ่งถือเป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจที่ทำให้เด็กสนใจเรื่องราวของพืชพันธ์รอบ ๆ ตัวของเขามากขึ้นและเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็ก ๆ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย          หนังสือนิทานเล่มนี้จึงเป็นอีกเล่มที่อยากให้เด็ก ๆ ที่เป็นลูกหลานของท่านได้ลองอ่านกัน เพราะนอกจากจะได้สนุกสนานกับคำกลอนในเรื่องแล้ว ยังสอดแทรกคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่อ่านง่าย แถมยังเปิดโลกให้เด็กน้อยลูกหลานของท่านได้รู้จักสิ่งมีชีวิตที่เป็นพืชต่าง ๆ รอบตัวของเด็ก อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการในด้านภาษาอังกฤและภาษาไทยให้เพิ่มมากขึ้นและเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีของคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการได้อ่านหนังสือด้วยกัน การเริ่มต้นปลูกต้นไม้และดูแลด้วยกันค่ะ    ที่มาของภาพ ภาพที่ 1-3 ภาพถ่ายจากผู้เขียนเอง / ภาพที่ 4 Pixabay : 9lnw

รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.10 : "เบลล์-ก้อย" พักรบชั่วคราว จับมือนั่งระบายความเศร้า
อ่าน

รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.10 : "เบลล์-ก้อย" พักรบชั่วคราว จับมือนั่งระบายความเศร้า

"รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.10" หลังจาก ดรีมหรือพาฝัน (เบลล์ เขมิศรา พลเดช) รู้ความจริงเรื่องจดหมาย ทำเอาเธอสูญเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก ไหนจะเรื่อง กรณ์ (อัพ ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง) ไหนจะเรื่อง จีหรือจิรภัทร (เกรท สพล อัศวมั่นคง)อีกทั้งยังเรื่องงานวัน Demo Day ทำให้เธอชวนพี่สาว อลิส (ก้อย อรัชพร โภคินภากร) พักรบชั่วคราว ไปนั่งระบายความเศร้า ทำให้รู้ว่าแม้จริงแล้ว อลิสก็รักน้องสาวมากเหมือนกัน กดดูเลย START-UP สตาร์ทอัพ EP.10 รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.10 ที่บ้านต้นไม้ ดรีม หรือ พาฝัน (เบลล์ เขมิศรา) กับ จี หรือ จิรภัทร (เกรท สพล) มาเจอกัน ดรีมแปลกใจมากที่เจอจีมาเอาจดหมายแทน กรณ์ (อัพ ภูมิพัฒน์) แล้วเธอก็โทรหากรณ์ เพื่อถามว่าทำไมจดหมายอยู่ที่จี และคนตรงหน้าไม่ใช่กรณ์ ทำไมเป็นจี กรณ์ยังไม่ทันพูด ดรีมกดวางสาย และถามจีว่าสรุปเรื่องจริงคืออะไร จีเลยยอมเล่าเรื่องจริง เรื่องจดหมายที่ ย่าบุษบา (นีรนุช ปัทมสูต) ให้เขาเขียนถึงดรีมเมื่อ 15 ปีก่อน ดรีมถามจีว่ารู้จักย่าได้ยังไง เขาบอกว่าย่าเป็นผู้มีพระคุณเขา ส่วนกรณ์ เขาเอาชื่อจากหนังสือพิมพ์ที่เคยเป็นข่าวเมื่อตอนเด็กมาตั้งชื่อในจดหมาย จีเล่าต่ออีกว่าเป็นคนตามหากรณ์เอง และบอกให้ไปงานวันเกิด อลิส (ก้อย อรัชพร) จียังอธิบายไม่จบ ดรีมก็เดินจากไป ส่วน แบงค์ หรือ ธนากร (ทะเล สงวนดีกุล) โทรหากรณ์ บอกว่าไม่ต้องห่วงงาน คี หรือ คิรากร (มาร์ท กฤษณะ) ออกอาการเป็นห่วงเพื่อนสุด ๆ ญะญ๋า (แคทยา คัทรียา) เข้ามาพอดี ถามว่ามีเรื่องอะไร คี กับ แบงค์ ตอนแรกไม่ยอมบอก หลังจากญะญ๋ารู้เรื่อง เธอบอกว่าบริษัทพังแน่ ๆ เพราะกรณ์กับดรีมยังมองหน้ากันยังไง ด้านย่าพยายามโทรหาดรีม แต่ยังติดต่อไม่ได้ ดรีมพยายามนั่งคิดทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับจดหมาย ส่วนกรณ์ได้แต่นั่งคิดทบทวนเช่นกัน กระทั่งเห็นดรีมมาหาเขา กรณ์รู้สึกผิด ขอโทษดรีม และพูดเหตุผลที่ทำไมถึงยังยอมรับเป็นกรณ์ในจดหมาย กรณ์บอกว่ารู้สึกเสียใจทุกครั้งที่ดรีมชมกรณ์ในจดหมาย เขาบอกว่าอยากเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างดรีมไปตลอด ดรีมไม่อยากฟัง และเดินจากไป เมื่อกลับถึงบ้าน ย่านั่งรอด้วยความเป็นห่วง แต่ดรีมรีบวิ่งขึ้นห้องนอน จีโทรถามย่าเรื่องดรีม และขอโทษที่เรื่องเป็นแบบนี้ ย่าบอกว่าตนเองเป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมด และเป็นคนผิดเอง ก่อนบอกว่าเดี๋ยวดรีมก็ดีขึ้น ไม่ต้องกังวล ส่วนกรณ์นั่งอยู่ที่เดิมจนฝนตก เช้าวันต่อมา ย่าทำหมูทอดของโปรดไว้ให้ดรีม แต่ดรีมทำตัวเป็นปกติกับย่า ย่าจึงเอ่ยขอโทษดรีมเรื่องจดหมาย ดรีมบอกว่าเธอสับสนไปหมดแล้ว ย่าขอร้องอย่าโกรธจีกับกรณ์ ทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะย่าเป็นคนผิดเอง ดรีมบอกขอเวลา ถ้าพร้อมจะกลับมาเป็นดรีมคนเดิม ส่วนกรณ์บอกดรีมว่าจะขอไปทำงานที่อื่น ถ้าหากดรีมยังไม่สบายใจ เธอยอมรับว่ายังสับสนและรู้สึกแย่มาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ต้องเตรียมตัวเรื่อง Demo Day เธอเป็นห่วงคนอื่น ๆ ในบริษัท ไม่อยากให้ทุกคนอึดอัด เลยขอร้องให้กรณ์ทำตัวปกติ แต่จะคุยกันแค่เรื่องงานเท่านั้น ซักพัก มาร์ค มาช่วนกรณ์ไปทำงานที่กู๊ดโกลด์ สำนักงานใหญ่ พร้อมการันตีรายได้สิบล้านบาทต่อปี แต่กรณ์ลังเล เพราะไม่อยากทิ้งเพื่อนและคนในบริษัท กรณ์ตัดสินใจปฏิเสธมาร์คไป เขาบอกมาร์คว่าความฝันของเขาไม่ใช่เงิน แต่เป็นคน ส่วนจีไปหาย่าที่ร้านโตเกียว และถามหาดรีม ย่าได้แต่โทษตัวเอง ด้านที่ออฟฟิศ 3 กรไทยเทค แบงค์ คี ญะญ๋า เห็นดรีมกับกรณ์เงียบ เลยชวนไปกินข้าวกัน แต่ดรีมปฏิเสธ แกล้งบอกว่ามีนัดแล้ว แบงค์กับคีบอกว่าทำไมดรีมโกรธกรณ์มากมาย ทั้งที่กรณ์พยายามทำเพื่อดรีมมาโดยตลอด ญะญ๋าบอกว่าเข้าใจกรณ์ เพราะแอบชอบคนนึงเหมือนกัน คีทำท่าดีใจ แต่ญะญ๋าบอกว่าล้อเล่น ทำเขาซึมไปเลยจีขอโทษดรีม ที่ทำให้เธออึดอัด จีบอกว่าจริง ๆ แล้วมีเรื่องที่ดรีมยังไม่รู้อีกเรื่อง คือจีกับกรณ์ไม่ได้สนิทกัน และยังออกแนวไม่ชอบกรณ์ด้วยซ้ำ แม้ว่าจะไม่ชอบกรณ์ แต่ก็ไม่อยากให้ดรีมเข้าใจกรณ์ผิด วันนั้นที่กรณ์ไปหาดรีมวันเกิดอลิส กรณ์ไปเอง จีไม่ได้จ้างหรืออะไร ส่วนวันที่จีตามไปหาดรีมที่ชลบุรี เพราะจีเป็นห่วงดรีม เขาสารภาพว่าชอบดรีม เลยอยากตามไปดูแล และบอกดรีมว่า แค่อยากบอกไม่ได้ให้ชอบกลับ ขอแค่อย่าหลบหน้า และทำตัวตามปกติก็พอ ส่วนอลิสได้ประจันหน้ากับผู้ประท้วงอีกครั้ง เธอเจอกับชายคนหนึ่งที่เป็นแกนนำ (พ่อของกรณ์) พร้อมยื่นนามบัตรให้ ทันใดนั้นชายคนนั้น เอ๊ะใจเพราะอลิสอยู่ใน Sandbox จากนั้นหนึ่งในผู้ประท้วง บอกชายคนนั้นว่าลูกชายของเขาก็เข้า Sandbox เหมือนกัน อลิสรีบถามว่าชื่ออะไร หนึ่งในผู้ประท้วงรีบตอบว่าชื่อกรณ์ อลิสได้ทีจึงบอกว่าสิ่งที่กรณ์ทำก็ทำให้คนตกงานเหมือนกัน พ่อของกรณ์รีบแกล้งรับสายภรรยา และรีบกลับบ้าน ด้าน แม่ของอลิสกับดรีม (เข็ม กฤตธีรา) มาหาย่าที่ร้านโตเกียว ทั้งคู่ได้นั่งคุยกัน เธอมาของานย่าทำ และขอโทษที่เคยทิ้ง อดีตสามี หรือ พ่อของอลิสกับดรีม (อิงค์ อชิตะ) ไป ย่าบอกว่ารับทำงานไม่ได้ ทำใจไม่ได้ หลังเลิกงาน ดรีม กับ อลิส เจอกัน ทั้งคู่ทักทายกัน ดรีมชวนอลิสไปหาที่นั่งเล่น จี เรียกกรณ์ไปหา เพื่อให้คำแนะนำเรื่อง Demo Day เพราะคิดว่าดรีมยังไม่น่าจะอยากเจอเขา จียิงคำถามรัว ๆ กรณ์ขอให้จีพูดช้า ๆ จีย้ำกรณ์ให้ช่วยดรีมเตรียมตัวให้ดี กรณ์งงว่าทำไมจีถึงทำดีกับเขาขนาดนี้ จีบอกว่าจะทำหน้าที่เป็นพี่ชายเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสารภาพชอบดรีมไปแล้ว พร้อมขอทวงอดีตในฐานะเจ้าของจดหมาย ส่วนดรีมไปนั่งดื่มกับอลิส ดรีมเริ่มเมา อลิสบอกว่าวันนี้จะพักรบ และขอทำหน้าที่พี่สาว ดรีมเมาและพรรรณาถึงกรณ์ในอดีตกับปัจจุบัน เธอบอกสับสนทั้งเรื่องกรณ์ เรื่องงาน กรณ์มาหาดรีมที่ร้าน และได้ยินสิ่งที่เธอพูดทั้งหมด เพราะอลิสโทรตามมาเอง อลิสบอกให้กรณ์จัดการปัญหาให้เรียบร้อย ไม่อยากเห็นดรีมเศร้า กรณ์พาดรีมไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางเขาขอโทษดรีม เธอบอกว่าสับสน สูญเสียความมั่นใจ ดรีมบอกว่า วันงานวันเกิดอลิส กรณ์เท่มาก ๆ หลังจากวันนั้น ดรีมมั่นใจในตัวเองขึ้นเยอะ เช้าวันต่อมา ดรีม ตื่นมาแล้วโทรหาย่า ถามว่าเธอกลับบ้านมาได้ยังไง ย่าแกล้งบอกว่าเดินกลับมา แล้วแม่ของดรีมก็มาแถวร้านย่าอีกรอบ แต่มี บัณฑูร (พ่อเลี้ยงของอลิส) กับลูกชายมาตามกลับบ้าน ทั้งคู่ทะเลาะกัน บัณฑูรกำลังจะตบแม่ของดรีม แล้วย่ารีบเข้ามาห้าม มาช่วยได้ทัน ต่อมาจี พยายามจะส่งข้อความไปหาดรีมให้กำลังใจ แต่ไม่กล้า จนเขาขอเสื้อจากลูกน้อง ใส่ไปงานเอง ดรีมกับอลิส เจอกันอีกครั้งตอนเช้า อลิสบอกว่ากรณ์ไปส่งดรีมที่บ้าน ดรีมจำอะไรไม่ได้เลย ระหว่างที่สองคนคุยกัน จีเข้ามาทักทาย จีบรีฟ CEO แต่ละบริษัทเรื่อง Demo Day ส่วนกรณ์ยืมสูทแบงค์ ใส่ไปวัน Demo Day เพื่อดรีม ต่อมาอลิสมาเจอกรณ์และถามถึงแม่ ก่อนจะเล่าว่าพ่อกรณ์เป็นแกนนำประท้วง กรณ์ตกใจมาก ที่รู้ว่าพ่อทำงานนี้ เขากลับมาคุยกับพ่อที่บ้าน กรณ์บอกพ่อว่าอยากไปก็ไปได้ ไม่ต้องห่วงอนาคตเขา ไม่ต้องห่วงว่าจะกระทบกับงานเขา กรณ์บอกว่าไม่อยากเป็นความภาคภูมิใจของพ่อ เป็นความภูมิใจให้ใครมันเหนื่อย อยากให้เป็นพ่อลูกที่รักกันแบบพ่อลูก วัน Demo Day ดรีมลองสูทหลายตัวมาก ย่าเข้ามาดูหลาน ดรีมกังวลบอกว่า การพรีเซนต์ของเธอวันนี้ส่งผลต่อความอยู่รอดของบริษัท ส่วนกรณ์ตั้งใจไปช่วยดรีม ดรีมกับอลิสเจอกันตอนเช้า ซักพักมาคนมาทักถามว่า ในโลโก้เด็กที่นั่งชิงช้า ใช่อลิสหรือไม่ เธอตอบว่าใช่ แล้วพ่อเอากระบะทรายมารอง ทำเอาดรีมอึ้งไปเลย และตามไปต่อว่าอลิสที่เราเรื่องของเธอไปเล่า ขโมยความทรงจำของเธอไป กรณ์เข้ามาได้ยิน ขอร้องให้อลิสขอโทษดรีม เรื่องขโมยความทรงจำคนอื่นมาเป็นของตัวเอง และกรณ์เปรียบเทียบกับตัวเอง บอกว่าเข้าใจว่ารู้สึกแย่แค่ไหน ดรีมถามว่าทำไมกรณ์ไม่ใส่สูท เขาบอกว่ามันไม่ใช่ตัวเขา กรณ์บอกว่าไม่อยากให้ดรีมสับสน และขอร้องให้ดรีมลืมกรณ์คนก่อนหน้านี้ไปให้หมด อยากให้ดรีมจำใหม่ว่ากรณ์ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ และไม่ได้เกิดวันที่ 7 รวมถึงบอกว่าที่ 3 กรไทยเทค มาไกลขนาดนี้ เพราะฝีมือดรีมล้วน ๆ ดรีมขอบคุณสำหรับกำลังใจ ซักพักมีเจ้าหน้าที่มาตามดรีมไปซ้อม ส่วนจีตามหาดรีมกับญะญ๋า แล้วแบงค์กับคีมาพอดี จีฝากบอกดรีมว่าไม่ต้องเครียด เขาจะเป็นแผนบีให้เอง คือถ้าพลาดจะออกเงินทุนให้บริษัท 3 กรไทยเทคเอง ทุกคนเอาเรื่องนี้ไปบอกกรณ์ แต่เขากลับไม่สนใจเลยซักนิด และรีบวิ่งไปหามาร์ค ถามว่ายังสนใจบริษัทเขาอยู่มั้ย เพราะเขาไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากใคร อยากเป็นฝ่ายเลือกไม่ใช่ฝ่ายถูกเลือก ติดตามชมซีรีส์ "START-UP สตาร์ทอัพ" ทุกวันศุกร์ - เสาร์ เวลา 20.00 น. ดูฟรีที่เดียวที่ ทรูไอดี ดูได้ทุกเครือข่าย อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : รวมลิงค์ดูซีรีส์ START-UP ย้อนหลัง ทุกตอน ทาง TrueID เรื่องย่อ START-UP (ดูฟรีทุกเครือข่าย ที่เดียวที่ ทรูไอดี) ทรูไอดี เปิดบ้านจัดงาน Start-Up : Open House ชวนจุดพลังไปกับซีรีส์ "START-UP" START-UP สตาร์ทอัพ EP.10 : เบลล์ เศร้าสุดใจ หลังรู้จริงที่ถูกปิดบังมานาน รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.9 : "เกรท" ใจคอไม่ดี "อัพ" ลุยจีบ "เบลล์" แจกจูบแรกให้กัน ก่อนความจริงเปิดเผย! START-UP สตาร์ทอัพ EP.9 : อัพ-เบลล์ จูบแรกสุดฟิน ก้อย เละโดนสาดน้ำปลาร้า! รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.8 : "เบลล์" สุดช็อกหลังรู้เรื่องย่า "อัพ" จำใจคุกเข่าขอร้องแลกกับรอดคดี START-UP สตาร์ทอัพ EP.8 : เบลล์-อัพ กุมขมับ หาเงินทุนเพื่อสานต่อโปรเจกต์ รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.7 : ดีทั้งคู่เลือกไม่ถูกเลย! "อัพ-เกรท" อยากดูแล "เบลล์" START-UP สตาร์ทอัพ EP.7 : "อัพ-เกรท เปิดเกมเดือด หวังชิงหัวใจสาว! งานแสดงที่ไม่ควรพลาดของสาวหมวยมากความสามารถ "ก้อย อรัชพร" รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.6 : "เบลล์" ขอร้อง "เกรท" ช่วยเป็นพี่เลี้ยงใน Sandbox START-UP สตาร์ทอัพ EP.6 : 3 กรแก๊งล่ม อัพ-เล-มาร์ท ถึงจุดแตกหัก รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.5 : "เบลล์-ก้อย-อัพ" สู้ยิบตาเพื่อชนะ เข้า Sandbox ให้ได้! START-UP สตาร์ทอัพ EP.5 : ก้อย ร้ายลึกคิดแผนดับฝัน เบลล์ ตัวแม่ ตัวมัม! "ต่าย เพ็ญพักตร์" สาวสองพันปีกับฝีมือการแสดงชั้นครู ไฮไลต์หนังเด็ด ละครดี ซีรีส์ดัง TrueID ประจำสัปดาห์ 22-28 ม.ค. 67 เปิดวาร์ป "น้ำเพชร ไอลีน" หรือ อลิสา ตอนเด็ก จากซีรีส์ "START-UP" รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.4 : "อัพ-เบลล์" จับมือร่วมทีมเดียวกันพิชิต Sandbox รุ่น 9 "เกรท" คอยดูอยู่ห่างๆ START-UP สตาร์ทอัพ EP.4 :เบลล์ อัพ ก้อย จุดไฟในตัว สมัครเข้า sandbox รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.3 : "อัพ" แคร์ "เบลล์" อยากเห็นมีความสุข ด้าน "ก้อย" โดนพ่อเลี้ยงลดบทบาทจนลาออก START-UP สตาร์ทอัพ EP.3 : เบลล์ เปิดตัว อัพ หนุ่มในสเปค พร้อมสตาร์ทฝัน อัปเดตความสดใส "เข็ม กฤตธีรา" ในวัย 54 โสด สวย สุข ไฮไลต์หนังเด็ด ละครดี ซีรีส์ดัง TrueID ประจำสัปดาห์ 15-21 ม.ค. 67 รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ EP.2 : "อัพ" ตัดสินใจช่วย "เบลล์" จุดเริ่มต้นการเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่ START-UPสตาร์ทอัพ EP.2 : อัพ ยื่นข้อเสนอให้ เกรท พาเข้า Sandbox รีวิว START-UP สตาร์ทอัพ ตอนแรก : "เบลล์-ก้อย-เกรท" เปิดปมชีวิตในอดีต สุข เศร้า เคล้าน้ำตา START-UP สตาร์ทอัพ ตอนแรก : เบลล์-ก้อย ปะทะคารม พร้อมปมในใจ ส่อง 5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมซีรีส์ "START-UP" สตาร์ทอัพ แล้วตามฝันไปด้วยกัน พร้อมดู! เปิดวิธีรับชมซีรีส์ "START-UP" สตาร์ทอัพ ดีเดย์ลงจอตอนแรก 12 ม.ค.นี้ "อัพ ภูมิพัฒน์" ประกบ 3 นางเอก กับ 3 ผลงาน ของ True Original รวมผลงานปัง ๆ ของ "เกรท สพล" พระเอกงานแน่น (ไม่แพ้กล้าม!) รวมผลงานเด่น ของนางเอกคนเก่ง "เบลล์ เขมิศรา" กับพัฒนาการด้านการแสดง เปิดคาแรคเตอร์นักแสดงซีรีส์ "START-UP" ที่มาพร้อมพลัง ความฝัน และความมุ่งมั่น "อัพ-เบลล์-เกรท-ก้อย" ตัวแทนคนมีฝัน ทุ่มสุดจัดเต็มในซีรีส์ "START-UP" เริ่ม 12 ม.ค.นี้ "ก้อย-เบลล์" นำทีมปลุกพลังในเทรลเลอร์แรก ของซีรีส์ "START-UP" เผยโฉมโปสเตอร์ซีรีส์ "Start-up" ครั้งแรก "ก้อย-เบลล์-อัพ-เกรท" พร้อมถ่ายทอดความสนุก True CJ ขนทัพนักแสดงบวงสรวง 5 ซีรีส์ดัง สุดปังอัดแน่นทุกอรรถรส True CJ หยิบซีรีส์ดัง "Start-Up" รีเมคเวอร์ชั่นไทย พร้อมเผยภาพฟิตติ้งเรียกน้ำย่อย

สาวกรันนิ่งแมนห้ามพลาด แฟนมีตติ้ง RACE START Season2 in Thailand 27ก.ย.นี้
อ่าน

สาวกรันนิ่งแมนห้ามพลาด แฟนมีตติ้ง RACE START Season2 in Thailand 27ก.ย.นี้

กำลังไปได้สวยกับการลงสนามผู้จัดงานอีเวนท์เกาหลีอย่างเต็มตัว! สำหรับ บริษัท ทีกรุ๊ปโฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่ประเดิมงานแรกเอาใจแฟนคลับเกาหลีด้วยคอนเสิร์ต “2014 คิมฮยอนจุง เวิลด์ ทัวร์ อิน แบงคอก” (2014 KIM HYUN JOONG WORLD TOUR IN BANGKOK) เวิลด์ทัวร์สุดอลังการของหนุ่มหล่อตัวพ่อแถมความสามารถครบสูตรอย่าง “คิมฮยอนจุง” (Kim Hyun Joong) ซึ่งใกล้ได้ฤกษ์ระเบิดความมันเข้ามาทุกทีแล้ว คือวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2557 ที่จะถึงนี้ เวลา 18:00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี  ใครยังไม่มีบัตรต้องรีบซื้อทาง http://ticket.tgroupthai.com/kimhyunjoong2014/ นาทีนี้ยังมีข่าวล่ามาแรงที่ต้องแจ้งทราบเป็นการด่วนคือ โปรเจ็กต์ลำดับที่ 2 สุดเซอร์ไพรส์! ซึ่งทาง T-Group Holding ประเทศไทย จับมือกับ Urban Works Media Entertainment ประเทศเกาหลีใต้ คอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการแล้ว และภูมิใจนำเสนอข่าวดีสำหรับแฟนคลับรายการเกมโชว์ทางโทรทัศน์ยอดฮิตอันดับหนึ่งของแดนกิมจิที่ครองใจผู้ชมทุกชนชาติไปทั่วโลก เตรียมตัวพบกับงานแฟนมีตติ้งสายฟ้าแลบของเหล่าสมาชิก “รันนิ่งแมน” อันประกอบด้วย จีซอกจิน (Jee Seok Jin), คิมจองกุก (Kim Jong Kook), ฮ่าฮ่า (HaHa), ซงจีฮโย (Song Ji Hyo) และ อีกวางซู (Lee Kwang Soo) ในเอเชียทัวร์ปี 2014 ที่ใช้ชื่อว่า “เรซ สตาร์ท ซีซั่น ทู อิน ไทยแลนด์” (RACE START Season2 in Thailand) วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2557 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้เรียกว่าลัดคิวทุกประเทศมาโผล่ไทยเป็นที่แรกประเดิมตารางทัวร์กันเลยทีเดียว!!  ทั้งนี้ทาง Urban Works Media Entertainment ตัวแทนของเหล่าสมาชิกพิธีกรรายการ “รันนิ่งแมน” ทั้งห้าคนซึ่งจะวิ่งลัดฟ้ามาจัดงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยได้ฝากสาส์นมาให้ชัวร์ใจด้วยว่า “จะมีอีกหนึ่งประเทศที่เข้าร่วมในตารางทัวร์แฟนมีตติ้งซีซั่นนี้ เนื่องจากจำนวนแฟนที่สนับสนุนรันนิ่งแมนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และสมาชิกรันนิ่งแมนเองก็หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอกันบ่อยครั้งขึ้น มาพบกับประเทศที่โชคดีของเรา! เจอกันในวันที่ 27 กันยายน 2557 ที่ประเทศไทย!”  เหล่ารันเนอร์ (ชื่อเรียกแฟนคลับรายการ รันนิ่งแมน) ทั่วไทยจงฟิตร่างกายเตรียมลงสนามกันได้เลย งานนี้ผู้จัดฯ จะเปิดให้จองบัตรก่อนใครในรอบพรีเซล ช่วงเวลาพิเศษ 3 วันเท่านั้นคือ ตั้งแต่วันที่ 8-10 ส.ค.นี้  ติดตามรายละเอียดในส่วนของผังที่นั่ง, ราคาบัตร, สิทธิพิเศษต่างๆ พร้อมทั้งสอบถามเพิ่มเติมได้ทางออฟฟิศเชียลแฟนเพจ www.facebook.com/Tgroupthai  ทวิตเตอร์ @tgroup_thai  อินสตาแกรม @tgroupthai   ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety