รีเซต

ผลการค้นหา “Midnight love ” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
รีวิว​ Midnight At The Pera Palace (2022) เข้าไปในโรงแรมแล้วโผล่ออกมาในปี 1919
อ่าน

รีวิว​ Midnight At The Pera Palace (2022) เข้าไปในโรงแรมแล้วโผล่ออกมาในปี 1919

  เป็นหนัง original series ของ Netflix จากประเทศตุรกี มีทั้งหมด 8 ตอน ตอนละ 45-46 นาที ที่ตัวหนังมีเนื้อหาที่ลึกลับเป็นอย่างมากให้ความรู้สึกและกลิ่นอายเหมือนหลุดเข้าไปในหนังสือหรือหนังซีรีส์สืบสวนสอบสวนสักเรื่องของอกาธา คริสตี้ ที่มีธีมเรื่องและพล็อตแนวแฟนตาซีเหนือจริงเกี่ยวกับการที่ตัวละครหลักสามารถย้อนเวลาได้ เรื่องย่อ https://www.instagram.com/p/CZqwwKgg1xQ/ เล่าเรื่องชีวิตที่น่าเบื่อของนักเขียนบทกวีวรรณกรรม เธอถูกส่งไปทำงานที่โรงแรม Pera Palace ก่อนที่โรงแรมจะไฟตก ตอนเธอพิมพ์งาน และพอเธอเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง เธอก็พบว่าเธอกำลังอยู่ในยุค 1919  ความรู้สึกที่ดู https://www.instagram.com/p/CaB8jNwAMQA/ ภาษาที่ใช้ในเรื่องสวยเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนในวันหยุด การดำเนินเนื้อเรื่องแรกๆแอบๆน่าเบื่อนิดหน่อย โลเคชันค่อนข้างสมจริงเลย นักแสดงที่แคสมามองว่าหน้าตาน่ารักดีและอินกับบทบาท แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติเลย มีการใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบแสงสลัวๆหน่อย การเปิดไฟแบบติดๆดับๆพล็อตเรื่องทำให้คนดูสงสัยและอยากรู้ว่าทำไมจู่ๆตัวเอกในเรื่องถึงไปโผล่ในปี 1919 และตอนจบของเรื่องจะเป็นยังไง โปรดักชันซีรีส์เรื่องนี้คืองานดีเลย คอสตูม เมคอัพ แอ็คติ้งค่อนข้างสมจริง เพลง วงดนตรี งานเลี้ยง และการเต้นรำในห้องโถงที่ใส่เข้ามาในหนังก็โคตรเข้ากับปี 1919 เลยและพอดำเนินไปกลางๆเรื่อง หนังกลับสนุกใช้ได้ เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในหนังสือนิยายฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนของอกาธา คริสตี้เลย หนังให้โทนมู้ดลึกลับเป็นอย่างมากแต่กลับไม่รู้สึกเครียดเลย เพราะเราไม่รู้ว่าผู้กำกับอยากจะเล่าอะไรให้คนดูฟัง โดยรวมก็ตื่นเต้นดีและทำให้อยากรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นใน E.P. ต่อไปด้วย เพราะนอกจากเธอจะต้องหาทางช่วยเหลือหยุดยั้งเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นในประเทศตุรกีแล้ว เธอยังต้องหาวิธีกลับไปในโลกยุคปัจจุบันของเธออีก  https://www.instagram.com/p/CakkCu3AQPS/ สำหรับใครที่เป็นนักเขียนหนังสือ และไม่รู้จะหาพลอตเรื่องยังไงหรือบรรยายสถานที่โลเคชันและการแต่งตัวหรือไม่รู้ว่าจะใช้ภาษายังไงหรือพลอตตัน คิดไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไรดี แนะนำหนังซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ เพราะภาษาที่ใช้ในเรื่องนัันทั้งคมคายและสวยมากจริงๆ กาารเก็บรายละเอียด ฉาก เนื้อเรื่อง โลเคชันก็ดีมากๆด้วย ผู้เขียนต้องยอมรับฝีมือผู้กำกับคนนี้เลย โดยรวมก็ชอบมากๆ คะแนนรีวิว 8.5/10   บทความอื่นๆที่น่าสนใจชวนดูและยินดีจะแนะนำมินิซีรีส์ Wednesday จากจินตนาการของทิม เบอร์ตัน ที่ทุกนคาดหวังของปี​ 2022รีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่รีวิว Do Revenge (2022) เจ็บลึกกับบาดแผลเหมือนรอยสักของคนที่โดนเพื่อนแกล้งเลยวางแผนซ้อนแผน รีวิวหนัง มายาพิศวง Six Characters (2022) เมื่อตัวละครมีชีวิตของตัวเองและปรากฎตัวขึ้นเพื่อแก้เรื่องราวของตัวเองในตอนจบรีวิว การ์ตูน Zom​ 100​ : Bucket List​ of​ The​ Dead​ ที่จะเข้า Netflix ปี 2023 ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 โดย IG : hazalkayaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย IG : hazalkayaเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!

Midnight in Soul
อ่าน

Midnight in Soul

                     ร้านอาหารที่ผสมผสานทั้งอาหารสไตล์ฟิวชั่น อาหารจานเดียว รวมถึงร้านที่เป็นแบบกึ่งผับกึ่งบาร์ในตัวเหมาะกับวัยรุ่นและวัยทำงาน ทางร้านจะมีจุดให้ฝึกยิงธนูด้วยนะคะเป็นมุมเล็ก ๆ น่ารัก ๆ  หากใครที่สนใจต้องโทรมาคุยกับเจ้าของร้านก่อนนะคะ ราคาราว ๆ 20-40บาทต่อชั่วโมง ร้านจะเปิดตั้งแต่ 16.00น.จนถึงเที่ยงคืนเลย ช่วงเวลาที่เราไปยังเป็นตอนหัวค่ำบรรยากาศจะแตกต่างออกไปคนละอารมณ์เลยแต่ถ้าใครมีโอกาสได้ไปช่วงดึกหน่อย ๆบรรยากาศจะเป็นแบบบาร์มีแสงไฟสลัว ๆ เปิดเพลงคลอเบา ๆ ชวนให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลายเหมาะกับการนั่งดื่มสังสรรค์กลุ่มเพื่อน                        ร้านอาหารมีขนาดเล็กตกแต่งสไตล์บ้าน ๆ ดูเป็นกันเองเหมือนนั่งอยู่บ้านตัวเองยังไงยังงั้น ส่วนเรื่องของอาหารมีตั้งแต่อาหารไทยจานเดียว อาหารสไตล์ฝรั่งพวกสปาเกตตี พาสต้า รวมไปจนถึงอาหารสไตล์เกาหลีซึ่งถือว่าเป็นเมนูหลัก ๆ ที่คนนิยมสั่งมารับประทานกันมาก                             วันนี้เลยจะขอแนะนำเมนูมาม่าผัดกิมจิ+ไข่ดาว รสชาติกิมจิเปรี้ยวหวานกำลังดีความกรอบของผักกาดขาวเมื่อโดนกัดเสียงดังฟังชัด กลิ่นหอมของพริกกับซอสเกาหลีหอมลงตัวพอดี สรุปราคาจานละ 75 บาท อีกเมนูเป็นข้าวผัดเบคอนรสชาติกลาง ๆ แต่มีกลิ่นหอมไหม้ของเม็ดข้าวที่ผัดกับกระทะ ราคาอยู่ที่ 70 บาท ให้คะแนนรสชาติอาหาร 8/10                          เครื่องดื่มจะเน้นไปทางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลัก ลูกค้าสามารถหยิบเครื่องดื่มได้เองจากตู้เครื่องดื่มเลยค่า แนะนำว่าต้องอายุเกิน 20 ปีขึ้นไปนะคะจึงจะเข้าร้านได้ เตาขนาดเล็กวางถัดออกไปเป็นเตาย่างเนื้อโคขุน ลูกค้าสามารถสั่งเนื้อเสียบไม้มาย่างกินเป็นกับแกลบกับเครื่องดื่มเข้ากันมาก ๆ เลยละค่ะ ใครที่ไม่อยากออกจากบ้านทางร้านก็มีเดลิเวอรี่ส่งตรงถึงหน้าบ้านเลยค่ะ ช่องทางการสั่งก็จะเป็น Grab food กับ Food panda ตามที่ลูกค้าสะดวก                        ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวถนนเส้นสะพานใหม่บริเวณใกล้ ๆ ป้อมตำรวจ อย่าลืมแวะมาร้าน Midnight in Soul บรรยากาศดีเหมือนนั่งอยู่บ้านตัวเอง เจ้าของก็น่ารักเป็นกันเองมาก ๆ ค่ะ ราคาอาหารไม่แพงแถมมีกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกค้าทำด้วยค่ะ   พิกัดร้าน: 278 ถนนเทิดพระเกียรติ ซอย 2 ตำบล เวียง อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงราย  เบอร์ติดต่อ: 065-863-9238 ช่วงเวลา: 16.00-00.00 น. มีลานจอดฟรีด้านในร้าน   ภาพโดยผู้เขียน  

รีวิว The Midnight Gospel (ไม่​สปอยล์)
อ่าน

รีวิว The Midnight Gospel (ไม่​สปอยล์)

The Midnight Gospel (เดอะ​ มิดไนท์​ กอสเปิล)                                                                            รีวิว​ซีรีส์จาก​Netflix (ปรัชญา​เต็มที่)                                                                                               (ไม่​สปอยล์)ความยาว​: 30 นาทีต่อตอน​ (8 ตอน)ประเภท​: เเอนิเมชั่น​/ เเฟนตา​ซีโชว์​รัน​เนอร์​: เพนเดลตัน​ วอร์ดThe Midnight Gospel คือผลงานเรื่องใหม่​ของผู้สร้างหนึ่งในการ์ตูนที่เเอดชื่นชอบที่สุดก็คือ​ Adventure Time ส่วนตัวชอบเเค่ซีซั่น​เเรกๆ​ ในปีนี้​ พวกเขา​มากับผลงานใหม่ที่อยู่คนละขั้ว​กับ​การ์ตูนเรื่องใหม่​ของพวกเขา                                                                    เครดิตภาพจาก Official Teaser บน Youtubeเรื่องย่อ​: เเคลนซีย์​ นักพอดแคสต์หนุ่มคนหนึ่งที่เดินทาง​รอบจักรวาลผ่านเครื่องจำลอง​ที่​พาเขาไปสัมภาษณ์​ผู้คนที่อยู่ในดาวเคราะห์​ที่กำลังล่มสลาย                                                                    เครดิตภาพจาก Official Trailer บน Youtubeรีวิว: ส่วนตัว​ผิดคาด​กับที่คาดหวังไว้มาก​ ตอนเเรกนึกว่า​จะมาเเนว​Adventure Time ที่ผจญภัย​รอบจักรวาล​เเบบเลือดสาด​ เเต่​ไม่ใช่​ ซีรีส์เรื่องนี้​ใส่ประเด็น​ปรัชญา​เข้ามาเยอะมากๆ​ บางคนอาจจะ​ไม่ชินในตอนเเรกๆ​ เเต่​เชื่อว่า​คุณจะอินในตอนหลังๆ​ สำหรับ​ข้อดี​ก็คือตัวซีรีส์เล่าเพลิน​ ไม่ได้มีจุดน่าเบื่อ​อะไรมาก​ เเต่สำหรับข้อเสีย​คือ​ซีรีส์เน้นบทสนทนา​หนักๆ​ที่เต็มไปด้วย​คำ​ศัพท์​เเละปรัชญา​มี่อัดเเน่น ทั้งการสะท้อนถึงสังคม​ ศาสนา​ เเละ​ความเชื่อในหลายๆมุมมอง​ ซึ่ง​ไม่ได้จะเหมาะสำหรับ​ทุกๆคน​เท่าไหร่​ เเละ​ก็ควร​ที่​จะ​ศึกษา​บางอย่าง​ก่อน​ สรุปเเล้ว​เป็นซีรีส์ที่​เป็นการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ผิดคาดมาก​ ตอนเเรก​นึกว่าจะเป็นเเนวผจญภัย​ เเต่​กลับ​เป็น​การ​สัมภาษณ์​ที่เสียดสีสังคมเน้นๆ​ เเล้วซีรีส์นี้ไม่เหมาะสำหรับ​เด็กอย่างเเรงครับ​ บางเนื้อหาในฉากก็ค่อนข้าง​เเรง​พอสมควร​หากใครจะดู​ ผมเเนะนำให้คุณ​ควรที่​จะเตรียมตัว​เตรียมใจ​กับปรัชญา​ที่สะท้อน​ถึงศาสนา​อย่าง​การมีชีวิตให้มีคุณค่า​ การ​เกิดเเก่เจ็บเเละตาย​เเละ​บาปกกรรมในนรกที่ผู้คนต้องพบเจอ​ เนื่องจาก​ในเรื่อง​นี้​สร้างขึ้นมาเป็นเเอนิเมชั่น​ ก็ขอเตือน​ผู้ใหญ่​ให้ไม่ให้​เด็กดูนะครับ​ เนื้อหา​เเละฉาก​มัน​รุนเเรงเเละเข้าใจยากจริงๆ​ ครับ​ ขอให้เข้าใจด้วย​                                                                    เครดิตภาพจาก Official Trailer บน Youtube+:- ภาพสวย​มาก​ งานดี- อัดเเน่นไปด้วยปรัชญา​- ดนตรีประกอบ​ใส่มาได้อย่างลงตัว- การพากย์เข้ากับตัวละครมากๆ​ หายห่วง​- ฉากเลือดสาด​การันตี​ความโหด​- เล่าเพลิน​ น่าติดตามอยู่ -:- ไม่ได้ดูง่ายๆ​- ไม่เหมาะสำหรับเด็กอย่างเเรง​- ควรทำการบ้านก่อนดู- เต็มไปด้วยฉากสนทนา​ที่เเฝงไปด้วยปรัชญา​ที่หนักเเน่น                                                                    เครดิตภาพจาก Official Trailer บน Youtubeหากใครชอบ​ดูการ์ตูน​ติดเรท​ ขอเเนะ​นำ​Rick and Morty ครับ​ เเต่ถ้าจะเอาเเบบฮาร์ทคอร์​ก็เเนะนำ​ Love, Death and Robots ครับ​ ทั้งหมดนี้อยู่บน Netflix เรียบร้อยเเล้วครับ​ เอาไป​ 7.5/10 (คะเเนน​เฉลี่ย) เขียนโดย เเอดมินจากเพจหมาโรงหนัง หรือชื่ออังกฤษ Doggywatch ครับ

"ต่อ ธนภพ" เตรียมเปิด "Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล" ลงจอ 6 มี.ค.นี้
อ่าน

"ต่อ ธนภพ" เตรียมเปิด "Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล" ลงจอ 6 มี.ค.นี้

พร้อมเสิร์ฟความสนุกอรรถรสใหม่ที่จะสะกดคนดู ให้ต้องมนตร์กับความพิศวงที่ชวนลุ้นระทึกไปกับซีรีส์ฟอร์มยักษ์ "Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล" จาก GMMTV ถ่ายทอดเรื่องราวปริศนาสุดลึกลับเกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ยามรัตติกาลที่เปรียบเสมือนเป็นดินแดนต้องมนตร์ของคนต้องคำสาป นำโดยนักแสดงมากฝีมือ "ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร" ที่โคจรมาประชันบทบาทกับทีมนักแสดงคุณภาพ กัน อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข, เฟย ภัทร เอกแสงกุล, น้ำตาล ทิพนารี วีรวัฒโนดม, พลอยภัช ภัชธร ธนวัฒน์ ฯลฯ รังสรรค์ความสนุกผ่านฝีมือของผู้กำกับคนเก่ง หนุ่ม อรรถพร ธีมากร แล้วมาร่วมตามหาคำตอบที่ท้าให้คุณพิสูจน์กับปริศนาที่ถูกซ่อนไว้ GMMTV 2023 ยกทัพดารา 100 ชีวิตเปิดตัวซีรีส์ใหม่ 19 เรื่องและ 1 ภาพยนตร์สุดปัง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ โดม (กัน อรรถพันธ์) พนักงานร้านกาแฟกำลังเจอทางตันด้วยพิษเศรษฐกิจที่ทำให้ร้านกาแฟต้องปิดตัวลง แต่โดมก็ได้รับข้อเสนอจาก คทา (ต่อ ธนภพ) ลูกค้าปริศนาขาประจำที่มักสั่งกาแฟ แต่ไม่แม้แต่ยกมาจิบ ชวนให้เขามาทำงานที่พิพิธภัณฑ์ลึกลับที่เปิดให้เข้าชมเฉพาะเวลาหลังอาทิตย์ตกดินด้วยกัน โดมตอบรับข้อเสนอของคทาอย่างเลือกไม่ได้ คืนแรกของการทำงานในพิพิธภัณฑ์ โดมได้เจอกับ ไตรภพ (เฟย ภัทร) ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์รัตติกาล ที่ห้ามโดมไม่ให้เข้าไปยุ่งกับ โซน16 โซนต้องห้าม ทว่าเรื่องเล่าลึกลับของ จูน (น้ำตาล ทิพนารี) เพื่อนร่วมงานสาวน่ารักสดใส เกี่ยวกับเจ้าสาวชุดแดง ทำให้โดมเข้าไปยุ่งกับโซนอันตรายนี้ และปลุกอาถรรพ์ของสิ่งของในโซน16 ขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ ทำให้คทาผู้เป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ต้องเข้ามาจัดการ ผลลัพธ์จากการกระทำของโดม เป็นเหตุให้ของอาถรรพ์เกือบทั้งหมดในโซน16 หลุดลอดออกไปด้านนอก พวกเขาจึงต้องช่วยกันตามหาของกลับคืนมาให้ได้ แต่ก็มีอุปสรรคมาขัดขวาง นั่นก็คือ อันทิกา (สายป่าน อภิญญา) หญิงสาวที่มาพร้อมกับพลังลึกลับและจุดประสงค์ซ่อนเร้น เรื่องราวความลึกลับของแดนต้องมนต์ และกลุ่มคนมากด้วยปริศนาจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดเด็ดขาด! ติดตามชมซีรีส์ "Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล" ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 6 มีนาคม นี้ และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/gmmtvofficial IG YouTube Twitter Weibo : GMMTV อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : GMMTV 2023 ยกทัพดารา 100 ชีวิตเปิดตัวซีรีส์ใหม่ 19 เรื่องและ 1 ภาพยนตร์สุดปัง

The Midnight Pilgrims หนังแฟนตาซีญี่ปุ่นสุดป่วง
อ่าน

The Midnight Pilgrims หนังแฟนตาซีญี่ปุ่นสุดป่วง

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ชื่อเต็มว่า Yaji and Kita : The Midnight Pilgrims คงต้องบอกว่ามันเป็นอะไรที่แปลก และแฟนตราซีสุด ๆ แต่มันมีเนื้อหาแบบครบรส มีทั้งความตลก มีทั้งจิกกัดสังคมญี่ปุ่น ในหลาย ๆ แง่มุมซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกในปี 2005 ซึ่งเป็นการเขียนบทและกำกับโดย Kankurô Kudô ซึ่งดัดแปลงจากมังงะของ Kotobuki Shiriagari ในตอนที่ออกฉายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ถือว่าสร้างความฮือฮา ได้พอสมควรไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่ รวมถึงนักแสดงหลัก ที่มารับบทในเรื่องนี้ด้วย cr images-na ซึ่งเนื้อหาหลัก เป็นเรื่องราวของ 2 ตัวเอกคือ  Yaji และ Kita คู่รักเพศเดียวกัน ที่เป็นเซเลปของหมู่บ้าน แต่ Yaji นั้นแต่งงานกับหญิงสาว แต่ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้ภรรยาเสียชีวิตและเลือกมาใช้ชีวิตกับ Kita คู่รักแต่เขาติดยา ซึ่งทั้งสองคนต้องการหาความแปลกใหม่ในชีวิต ไม่อยากอยู่ในสภาพเดิม ๆ แต่แล้วในที่สุดโชคชะตาก็ทำให้พวกเขาได้ออกเดินทางไปยัง Ise หรือ Ice Sanctuary ซึ่งเป็นสถานที่ ที่  Yaji เชื่อว่าจะทำให้เขาพบสิ่งดี ๆ และจะช่วยให้ Kita เลิกจากการติดยาได้cr. gayasiafilm จุดเด่นของภาพยนตร์ Yaji and Kita : The Midnight Pilgrimsเนื้อหาที่นำเสนอถือเป็นความแปลกใหม่ เรื่องราวsหลักจะดำเดินเรื่องอยู่ในยุคสมัยเอโดะ หรือญี่ปุ่นยุคซามูไร แต่นำเสนอได้แบบคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความรักของเพศเดียวกัน เรื่องของยาเสพติด (มีฉากเสพเฮโรอีน) โดยการนำเสนอไม่ได้ย้อนยุคแบบธีมของเรื่อง แต่เป็นการนำเสนอในมุมที่เห็นแล้วต้อง เฮ้ย กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ Yaji กับ Kita ออกเดินทางด้วย มอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ ฉากหลังเป็นถนนในกรุงโตเกียวที่ทันสมัย หรือ ฉากความเป็นเซเลปของหมู่บ้าน กับเสื้อผ้าซามูไรสไตล์ฮิบฮอป คูล ๆ และอีกหลาย ๆ ฉากที่ไม่คิดว่าทีมงานจะใส่ความเป็นปัจจุบันเข้าไปในหนังก็มีให้เห็น และเรื่องราวก็จะดำเนินไปพร้อมกับการเดินทางของทั้งสองคน ที่ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มุกตลกแบบญี่ปุ่น ที่ต้องบอกว่าอาจจะเข้าใจยากสักนิด แต่นักแสดงในเรื่องจะทำให้เราขำได้ นักแสดงหลัก คงต้องบอกว่าเป็นอีกเรื่องที่จ้างร้อยเล่นร้อยล้าน กันแทบทุกตัวละคร เพราะเป็นหนังแนวแฟนตาซี ดังนั้นความใหญ่แบบรัชดาลัยเธียร์เตอร์ มีให้เห็นกันแทบทุกฉาก โดยนักแสดงหลักตัวเดินเรื่องคือ Tomoya Nagase กับบท Yaji robei ที่ต้องบอกว่าเล่นได้ดีกับหนังแนวนี้จริง ๆ ทั้งหน้าตา ท่าทาง ที่ทำให้หัวเราะได้ในหลาย ๆ ฉากเล่นแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ความเป็นไอดอลของญี่ปุ่นกันเลย แถมมารับบทเกย์ก็ทำได้เนียนมาก Shichinosuke Nakamura กับบท Kita hachi ที่แสดงได้เนียนเช่นกัน กับบทเกย์ติดยา รวมทั้งนักแสดงในเรื่องก็ถือว่าทำให้ขำได้ในหลายตอน cr. i.ytimg จุดด้อยของภาพยนตร์ Yaji and Kita : The Midnight Pilgrimsคงต้องบอกว่ามันแฟนตาซีเกินคาดคิด เหมือนจะจับโน่นนิดนี่หน่อย มาผสมกันเป็นเรื่องราว ที่ต้องบอกว่าแทบจะดูไม่รู้เรื่องในครั้งแรก ว่าต้องการสื่ออะไร มันเป็นเอาเรื่องราวที่มีในยุคนั้นมาเล่าเป็นภาพยนต์และยำมันชนิดที่ว่าดูไปก็ งง ไป ตลก ไป ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีสาระอะไรหนักมากมาย เป็นหนังที่ดูแนวคิดแฟนตาซีของผู้สร้างหนังญี่ปุ่น แต่ก็อาจทำให้เบื่อได้นิดๆ กับช่วงเวลาของหนัง 120 นาทีที่มันไม่มีอะไรเลย แต่ต้องยอมรับชั้นเชิงการนำเสนอที่ทำให้อดติดตามจนจบไม่ได้ เพิ่มเติมท้ายเรื่อง หากสนใจติดตามดูตัวอย่างได้ที่ https://youtu.be/3pRvmcBE2bkccr. asianwiki 

The Midnight Studio ภาพถ่ายสุดท้ายที่มากกว่าความทรงจำ #WSMay
อ่าน

The Midnight Studio ภาพถ่ายสุดท้ายที่มากกว่าความทรงจำ #WSMay

วันนี้จะมารีวิวซีรีส์เกาหลี The Midnight Studio หรือ ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล  คือซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกแฟนตาซีที่ผสมผสานความลึกลับและดราม่า ซีรีส์ออกเรื่องนี้ตั้งแต่มีนาคม 2024 เราก็รอ True ลงครบ 16 ตอนดูรวด เดียวจนจบ บอกได้เลยว่ามีหลากหลายอารมณ์มาก สนุก ลุ้น และซึ้งกินใจจนน้ำตาไหลในหลายๆ ตอน  รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เราทั้งถูกใจงานโปรดักชันของซีรีส์เรื่องนี้ โดยเฉพาะการจัดแสง สี และองค์ประกอบศิลป์ที่สร้าง “อารมณ์กึ่งแฟนตาซี” ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอีกใบ  อีกทั้งนักแสดงนำ อย่าง จูวอน และ ควอนนารา ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้เข้มข้น และมีเสน่ห์ล้นจอ รวมถึงบทที่มีความลึกลับ และเรื่องราวดราม่าของแต่ละวิญญาณแต่ละดวงว่าจะเป็นอย่างไร และยังมีปมผูกกันไว้ให้ลุ้นในทุกๆ ตอน   เรื่องย่อของซีรีย์เรื่องนี้ก็คือ "ซอกีจู" (รับบทโดย จูวอน) ช่างภาพหนุ่มที่สืบทอดกิจการห้องถ่ายภาพพิเศษที่เหมือนเป็นคำสาปของตระกูล ให้บริการถ่ายภาพ “ครั้งสุดท้าย”  โดยก่อนถ่ายภาพสุดท้ายต้องทำภารกิจความปรารถนาค้างคาของวิญญาณให้สำเร็จ แล้วจึงถ่ายภาพเพื่อส่งวิญญาณเหล่านั้นไปเกิด ซอกีจูทำงานร่วมกับทีมงานที่เป็นผี คือ "โกแดริ" (ยูอินซู) หรือผู้ช่วยโก ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายขายให้กับห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล และ "แพคนัมกู" (อึมมุนซอก) ผู้ช่วยงานเบ็ดเตล็ด ที่เคยเป็นนักสืบมาก่อนและตายในขณะปฏิบัติหน้าที่ ยังค้างคาใจไปไหนไม่ได้เพราะติดตามคดีฆาตกรรม ซึ่งช่วยกันทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง การมาของ "ฮันบม" (ควอนนารา) ทนายความสาวที่มีทำให้พลังพิเศษในการป้องกันผีร้าย และมีปมที่มีความเกี่ยวพันกันในอดีตทำให้มาพบกันในปัจจุบัน ทำให้เรื่องราวยิ่งเข้มข้นและน่าติดตาม แต่ละตอนมีเรื่องราวของ ‘ความผูกพัน’ และ ‘การปล่อยวาง’ แม้จะเป็นซีรีส์แฟนตาซี แต่ในแต่ละตอนกลับสะท้อนอารมณ์ของผู้คนที่มี “บางสิ่งยังค้างคา” ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเสียใจ หรือความผิดพลาดในอดีต เป็นซีรีส์ที่ทำให้คนดูรู้สึกตั้งคำถามกับชีวิตตัวเอง ผสมผสานแนวแฟนตาซี-กฎหมาย-ดราม่าได้ลงตัว นอกจากความเหนือธรรมชาติ ซีรีส์ยังสอดแทรกเรื่องของความยุติธรรม การต่อสู้ทางกฎหมาย และบทบาทของทนายความได้อย่างกลมกล่อม มีทั้งฉากสะเทือนใจ ฉากฟีลกู้ด ขำขัน และฉากชวนระทึก เรียกว่าอารมณ์ครบ จบในเรื่องเดียว สำหรับใครที่มองหาซีรีส์ที่มีทั้งพล็อตแปลกใหม่ ซึ้ง เศร้า หลอน และมีเสน่ห์เฉพาะตัว “ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล” คือคำตอบที่ใช่บนแพลตฟอร์ม TrueID ที่ไม่ควรพลาด!  ดูได้ที่ https://www.trueid.net  ---- ภาพประกอบบทความ จาก x.com ของ ENA_official  : ภาพที่ 2 , ภาพที่ 6  ภาพประกอบบทความ จาก x.com ของ TrueID : ภาพที่ 5 ภาพปกและภาพประกอบบทความ จาก trueid.net :  ภาพที่ 1, 3, 4      เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !      

[ชวนดู] The Midnight Gospel การ์ตูนสีสดใสที่ไม่ธรรมดา
อ่าน

[ชวนดู] The Midnight Gospel การ์ตูนสีสดใสที่ไม่ธรรมดา

หากพูดถึงการ์ตูนแล้ว คนเราจะนึกถึงแอนิเมชันสำหรับเด็กที่ดีไซน์ตัวละครออกมาให้มีรูปลักษณ์น่ารักๆ และมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ไม่รุนแรง เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่วันนี้การ์ตูนที่จะหยิบยกมาแนะนำนั้นแตกต่างออกไป การ์ตูนเรื่องนี้ก็คือ The Midnight Gospel (เดอะมิดไนท์ กอสเปิล)แม้ว่า เดอะมิดไนท์ กอสเปิล ดูเผินๆ จะเป็นการ์ตูนที่มีความน่ารักฟรุ้งฟริ้งสีสันสดใส แต่คุณอย่าได้ถูกภาพลักษณ์นั้นหลอกลวงเป็นอันขาด เพราะเดอะมิดไนท์ กอสเปิลเป็นการ์ตูนที่กำหนดเรทไว้ที่16+ เนื่องเพราะมีฉากฆ่าฟันกันเลือดสาดแทบทุกตอน มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมไปถึงเรื่องปรัชญาที่ลึกซึ้งและประเด็นของศาสนาต่างๆ ยากที่เด็กทั่วไปจะเข้าใจเนื้อเรื่องคร่าวๆเดอะมิดไนท์ กอสเปิล ดำเนินเรื่องโดย แคลนซีย์ หนุ่มผิวสีชมพูผู้เดินทางไปยังโลกเสมือนต่างๆ ผ่านเครื่องจำลองจักรวาลสีขาวที่มีลักษณะพิลึกพิลัน เขาเดินทางไปเพื่อจัดทำรายการพูดคุยกับตัวละครในโลกต่างๆ และนำรายการนี้เผยแพร่ไปทั่วอวกาศความรู้สึกหลังดูการ์ตูนเรื่องนี้อย่างที่บอกไปว่าการ์ตูนเรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยปรัชญา ดังนั้นทุกตอนจะมีแต่บทพูดเป็นส่วนใหญ่ และขอบอกว่าตอนที่ดูยากสุดก็คือตอนแรก เพราะเริ่มเรื่องขึ้นมาเขาจะไม่ได้อธิบายอะไรให้เรารู้มากเท่าไหร่ เราต้องดูการกระทำของตัวละครเองเพื่อค่อยๆ ทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ ในตอนแรกอาจจะน่าเบื่อไปหน่อยแต่เนื้อเรื่องของเดอะมิดไนท์ กอสเปิลจะค่อยๆ สนุกไปทีละขั้นและเริ่มมีปริศนาถาโถมเข้ามา ในตอนจบเองปริศนาบางอย่างก็อาจจะไม่ได้เคลียร์จนกระจ่างแต่เรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ความหมายของอะไรหลายๆ อย่างเพิ่มขึ้น ดนตรีในเรื่องมีความไพรเราะแต่แปลกหูพอสมควรเข้ากับเนื้อเรื่องที่พิสดารหลังจากดูจนจบ ส่วนตัวคิดว่าเดอะมิดไนท์ กอสเปิลเหมาะสำหรับคนที่อยากเสพการ์ตูนสายอาร์ต เพราะภาพสวยมากและมีหลายๆ อย่างในเรื่องที่นำเสนอออกมาได้อย่างแปลกประหลาดทั้งยังมีความหมายโดนนัยแฝงอยู่ในแต่ละฉาก นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่อยากฝึกการฟังภาษาอังกฤษ เพราะสำเนียงการพูดฟังได้ง่าย แต่ศัพท์บางคำในเรื่องค่อนข้างยากไปหน่อย และยังเหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเรื่องปรัชญาต่างๆ คุณจะได้รับปรัชญาจากเรื่องนี้ไปแบบเต็มๆแต่การ์ตูนเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีความละเอียดอ่อนในด้านศาสนา เพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาอยู่หลายตอนทีเดียว ทั้งยังไม่เหมาะสำหรับเด็กอย่างมาก เพราะมีทั้งฉากเลือดสาดที่ฆ่าฟันกันแบบจัดเต็มตั้งแต่ตอนแรก รวมถึงมุกตลกร้ายและตัวละครบางตัวที่ดีไซน์มาแล้วมีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องThe Midnight Gospel (เดอะมิดไนท์ กอสเปิล) ออกฉายในปี ค.ศ. 2020 ปัจจุบันสามารถรับชมได้ใน Netflix มีทั้งหมด 8 ตอน ซึ่งยาวตอนละประมาณครึ่งชั่วโมงรับรองว่าเรื่องนี้พิสดารมาก ใครชอบรายการทีวีที่มีเนื้อหาแปลกๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด!

ข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือมหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน THE MIDNIGHT LIBRARY
อ่าน

ข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือมหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน THE MIDNIGHT LIBRARY

 หนังสือมหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน THE MIDNIGHT LIBRARY หนังสือหมวดวรรณกรรมแปลที่แฝงข้อคิดสำหรับการใช้ชีวิตของคนเรา เขียนโดย Matt Haig เรารู้สึกว่าเป็นหนังสือวรรณกรรมที่ดีมากๆเล่มหนึ่ง อ่านสนุกและมีเรื่องราวให้เราได้เรียนรู้ ข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือมหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืนสิ่งที่ทำให้คนเราเสียใจมากที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปคือสิ่งที่ “ไม่ได้ทำ”ในแต่ละช่วงชีวิต ในแต่ละช่วงเวลา ชีวิตเราอยู่บนทางเลือกมากมาย เราไม่สามารถเลือกได้หมดทุกอย่างเราเลือกเส้นทางเดินได้เพียงไม่กี่ทาง เราเลือกทำได้ไม่กี่สิ่ง เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอกที่มันจะต้องมีเส้นทางที่เราไม่ได้เลือก มีชีวิตที่เราไม่ได้เป็น เราสามารถเลือกได้เพียงทางที่เราอยากเดินไปมากที่สุดเท่านั้นสิ่งที่เราเลือกนั้นคงจะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา ขึ้นอยู่กับว่าเรามีมุมมองอย่างไรต่อสิ่งที่เราเลือกนั้น เราไม่สามารถเลือกทำทุกอย่างได้ เราเลือกได้แค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นทุกๆชีวิตมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่เป็นของตัวเอง ไม่มีชีวิตไหนดีที่สุด ไม่มีชีวิตไหนถูกต้องที่สุด ไม่มีชีวิตใดสมบูรณ์แบบที่สุด ในทุกๆชีวิตมีทั้งความทุกข์ ความสุข หัวเราะ ร้องไห้ สงบ วุ่นวาย ไม่มีชีวิตไหนที่ไม่ต้องพบกับความผิดหวัง ทุกๆเส้นทางที่เลือกเดินมีสิ่งที่พบเจอแตกต่างกันไป แต่ไม่มีเส้นทางไหนเลยที่เราจะพบเจอความสุขความสบายไปตลอดเส้นทาง หรืออาจจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบก็ได้ แต่บังเอิญว่ามันไม่ใช่เรา หลายๆคนอาจต้องเผชิญกับความผิดหวัง ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แล้วจัดการกับความคิดและจิตใจของตัวเองไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาและมีชีวิตอยู่แบบครึ่งเป็นครึ่งตาย แต่ในเมื่อเรามีชีวิตอยู่แล้วเราจะอยู่แบบครึ่งเป็นครึ่งตายไปทำไม                                                                  ชีวิตเรามีเพียงชีวิตเดียว มีโอกาสได้ใช้ก็ใช้ซะอดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วและเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้คือปัจจุบันสิ่งที่เราทำได้มีเพียงแค่วันนี้ ในอดีตเราอาจจะมีสิ่งที่เราอยากทำมากมายแต่เราไม่ได้ทำ แต่การที่ไปนั่งเสียใจอยู่กับมันนั้นไม่มีประโยชน์ใดๆเลย หากเรามีความฝัน หากเรามีสิ่งที่อยากทำ เราก็ลงมือทำตามความฝันของเรา เดินไปบนเส้นทางที่เราอยากเดิน เพราะมันทำให้เรามีความสุขกับชีวิต ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นทำในสิ่งที่อยากทำ เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น ชีวิตเราเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆได้เสมอเพราะว่าเรายังมีชีวิตอยู่ เพราะว่าเรายังมีลมหายใจเราอาจจะมีความเสียใจหรือเสียดายที่ได้ทำหรือไม่ได้ทำอะไรไปบ้าง แต่ทุกๆสิ่งที่เราทำและไม่ได้ทำทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเราควรทำหรือไม่ทำอะไรอีกในปัจจุบัน เพื่อให้ตัวเองในอนาคตไม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำหรือไม่ได้ทำในอดีต และเพื่อให้ตัวเองได้ภาคภูมิใจกับตัวเอง บนชีวิตคนเรามีสิ่งที่ต้องเลือกเสมอเลือกที่จะทำเลือกที่จะไม่ทำ และเมื่อเราเลือกแล้วมันคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา เรายังมีเวลาชีวิตสำหรับการเดินตามความฝันของตัวเอง ไม่มีอะไรสายเกินไป อะไรที่เราอยากทำแล้วไม่เคยทำก็ลองทำ เราลองทำสิ่งใหม่ๆได้เสมอ กระบวนการเรียนรู้มีได้ไม่สิ้นสุด ในอดีตเราอาจจะมีสิ่งที่เราอยากทำมากมายแล้วเราไม่ได้ทำมันไม่เป็นไรเลย นั่งเสียดายไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสิ่งที่เราทำได้มันคือวันนี้ วันนี้มีอะไรที่เราอยากทำมันก็ทำมันเลย ไม่ต้องลังเล และไม่ต้องมานั่งเสียดายหรือเสียใจอีกในอนาคต ลองเพื่อให้รู้ว่าเราชอบมันไหม ลองเพื่อให้รู้ว่าสิ่งไหนใช่สำหรับเรา เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเราได้ลองทำชีวิตเราเราเป็นคนเขียนมันขึ้นมาเอง จากมุมมองของเรา จากสิ่งที่เราเลือกทำ การจะมีชีวิตที่ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น ความคิด ทัศนคติของตัวเราเอง และสิ่งที่เราเลือกที่จะทำเราอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วเราไม่รู้สึกเสียใจกับอะไรเลย เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นดีที่สุดแล้วสำหรับเรา  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งดีและไม่ดีทำให้เราเป็นเราแบบในวันนี้ เพราะถ้าหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยเราอาจจะไม่ได้เป็นเราแบบในวันนี้ และเราชอบตัวเราเองในปัจจุบัน                                                       ไม่มีสิ่งใดดีกว่าสิ่งใด ทุกๆชีวิตล้วนมีเหตุผลในการมีอยู่ของตัวเองเครดิตรูปภาพภาพปกโดย JillWellington / pixabay    ตกแต่งโดย Konbondinภาพประกอบภาพ1 โดย Konbondinภาพ2 โดย ThomasWolter / pixabayภาพ3 โดย un-perfekt / pixabayภาพ4 โดย rakicko / pixabayภาพ5 โดย gene1970 / pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิวซีรีส์เรื่อง The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล
อ่าน

รีวิวซีรีส์เรื่อง The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล

เรื่องย่อ ซีรีส์เรื่อง The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล เป็นเรื่องราวของ ซอกีจู ซึ่งรับบทโดย จูวอน ซึ่งเขานั้นเปิดร้านถ่ายภาพแห่งรัตติกาล สำหรับให้บริการผีโดยเฉพาะ ซึ่งพวกเขาเองก็มีทีมงานผีอยู่อีก 2 ตน แต่แล้วอยู่ๆนางเองของเรา (ควอนนารา รับบทเป็น ฮันบม) นั้นก็เข้ามาด้วยความสามารถพิเศษซึ่งสามารถปกป้องวิญญาณร้ายได้ ที่สำคัญที่สุดเธอมีความสามารถเปิดประตูที่มีแต่เจ้าของร้านเท่านั้นที่เปิดได้ ก็ต้องมาลุ้นกันค่ะ ว่านางเองจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยพระเอกของเราให้ผลจากคำสาปได้ยังไงhttps://youtu.be/dM3yxBflQG4?si=avuw4SH0GsjB5fUZฉายทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 22:00 น. (ตามเกาหลี)ซึ่งเริ่มตอนแรก วันที่ 11 มีนาคม - 6 พฤษภาคม 2024รับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ทางแอป TrueID เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกแฟนตาซี มีทั้งหมด 16 ตอน นักแสดงนำจูวอน (Joo Won) รับบทเป็น ซอกีจูเขาเป็นทายาทรุ่นที่ 7 ของตระกูลที่โดนสาปว่าต้องอายุสั้นและรับใช้วิญญาณ แล้วทุกรุ่นที่ผ่านมาจะต้องตายหรือหายสาบสูญไปตอนอายุ 35 ปีเสมอ ซึ่งเขาเองเป็นคนน่ารักและตลกเอามากๆ แต่คือพยายามสุดเพื่อให้ดูเหมือนไม่เห็นผี แต่ก็ไม่เห็นรอดเลยสักครั้งผลงานก่อนหน้านี้My Sassy GirlAliceStealer: The Treasure Keeper ควอนนารา (Kwon Nara) รับบทเป็น ฮันบมทนายความสาวผู้รักในความยุติธรรมเป็นที่สุด เธอเป็นคนดื้อดึงเป็นที่สุด แต่ลึกๆก็เป็นคนใจดีมีน้ำใจคนนึงค่ะ สำคัญมากเพราะเธอเป็นคนเดียวที่มีความสามารถพิเศษในการป้องกันผีร้ายค่ะ แต่….. (ไปฟังสปอยล์ด้านล่างได้เลยค่ะ)ผลงานก่อนหน้านี้Bulgasal วิญญาณอมตะธุรกิจปิดเกมแค้นSuspicious Partner จากการที่ดูไปแล้วสี่ตอนคือเปิดเรื่องมาแบบว่าฮาแก๊งค์ของพระเอกสุดๆไปเลยค่ะ คือแก๊งค์นี้เป็นแก๊งค์ที่น่ารักตลกแล้วก็บ๊องๆเอามากๆเลยค่ะ แต่คือผู้เขียนงงมากที่เวลาแบบผีของแบบพระเอกนะคะ หยิบจับอะไรขึ้นมาคือทุกอย่างมันก็จะลอยขึ้น คือพวกเขาไม่แคร์คนรอบข้างหน่อยเลยเหรอค่ะ ว่าจะตกใจขนาดไหนคือแบบถ้าเป็นชีวิตจริงก็คือคนน่าจะรับกันไม่ได้กว่านี้ 555 แล้วคงจะต้องหาหมอผีมาไล่ผีอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งผู้เขียนคิดว่ามันควรจะต้องเนียนกว่านี้ป่ะค่ะ แบบให้ดูเหมือนธรรมชาติที่สุดอ่ะค่ะ ไม่ใช่แบบอยู่อยู่ของลอยขึ้นมาเองโดยที่แบบไม่แคร์มนุษย์ที่มองไม่เห็นอย่างเราเลยค่ะ แล้วก็ตอนพระเอกคุยโทรศัพท์แต่ถึงจะใส่หูฟังก็เถอะ แต่แบบไม่มีคำว่าเนียนเลยค่ะ (แต่แบบนี้แหละคือเสน่ห์ของซีรีส์แนวคอมมาดี้ค่ะ คือมันก็สอดความตลกเอาไว้ในแต่ละตอนแหละค่ะ)ส่วนนางเอกของเราคืออีพีที่สี่ถึงแม้จะเสียน้ำตากันไปบ้างแต่ก็เริ่มสนุกมากขึ้นแล้วค่ะ แล้วคิดว่าอีพีห้าต้องสนุกมากๆยิ่งกว่าค่ะ เพราะว่ามันจบโดยที่นางเอกของเราได้เห็นผีแล้วทุกคน ซึ่งนางเอกก็ดูแบบ cool cool นะดูไม่กลัวอะไร แต่ดูจาก TEASER แล้วเหมือนว่านางเอกนะคะทุกคนถึงแม้จะมีมีความสามารถในการป้องกันผีร้าย แต่ถ้าอยู่คนเดียวมันก็ไม่เป็นผลค่ะ ซึ่งต้องอยู่กับพระเอกเท่านั้นค่ะ มันถึงจะมีสามารถในการป้องกันวิญญาณร้ายได้ ซึ่งนี่แหละทุกคน ผู้เขียนคิดว่ามันจะเป็นการกระชับมิตรระหว่างพระเอกนางเอกเค้าค่ะ และคิดว่าน่าจะมีฉากโรแมนติกให้เราได้เห็นบ้างแหละเอาจริงๆผู้เขียนชอบซีรีส์เกาหลีแนวผีวิญญาณมากๆนะคะ เพราะจากเรื่องที่ผ่านมาที่เคยดู รู้สึกว่ามันสนุกดีอ่ะมันเป็นเรื่องแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ แต่ผู้เขียนก็รู้สึกว่าทำไมผู้เขียนเสียน้ำตาให้กับซีรีส์เรื่องนี้ไม่แพ้เรื่อง Queen of the tears เลยนะคะเนี่ย ร้องไห้ทุกตอนงงไปหมด ถึงยังไงเรื่องนี้ก็สนุกมากๆค่ะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนอยากให้ทุกคนไปลองติดตามดูนะคะลองเปิดใจดูแล้วจะเจอความสนุกอย่างแน่นอนค่ะเรื่องนี้ผู้เขียนให้ 9 เต็ม 10 ค่ะ   ภาพปกตกแต่งโดย Canva - รูปที่1 รูปที่2 รูปที่3ขอบรูปและวิดีโอจาก YouTube และ Facebook TrueID - วิดีโอ 1 รูปที่ 3ขอบคุณรูปภาพจาก ig 주원 joowon (@zu.won_moon.jun.won)​​​​​​ - รูปที่1 รูปที่ 4ขอบคุณรูปภาพจาก ig hv_nara - รูปที่ 2 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี ! 

รีวิวMidnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอด คึกคัก น้ำตาซึม
อ่าน

รีวิวMidnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอด คึกคัก น้ำตาซึม

“การเป็นโรคร้าย...ไม่เคยปิดกั้นพรสวรรค์ของคุณ ถ้าคุณไม่ปิดกั้นตัวเอง” นี่คือประโยคที่สะท้อนหัวใจของภาพยนตร์ ‘Midnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป’ ได้อย่างงดงาม หนังรักโรแมนติกดราม่าจากเกาหลีใต้ ที่รีเมกมาจากหนังญี่ปุ่นสุดซึ้งในปี 2006 (Midnight Sun: 24 ชม. ขอรักเธอทุกวัน) และยังเคยถูกรีเมกเป็นเวอร์ชันอเมริกัน ในปี 2018 มาก่อนด้วย แม้ผู้เขียนจะไม่เคยดูต้นฉบับญี่ปุ่น แต่ยอมรับเลยว่ามีความคาดหวังสูงกับเวอร์ชันเกาหลีนี้  และก็ไม่ผิดหวังเท่าไร เพราะหนังสามารถเล่าเรื่องออกมาได้น่ารัก อบอุ่น คิกคักในช่วงแรก ก่อนจะพาคนดูไหลไปกับอารมณ์เศร้าแบบน้ำตาซึมในช่วงหลังได้อย่างลงตัว 💧 รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ Midnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป 🌙 อีมีซอล (รับทโดย จองจีโซ) เด็กสาวป่วยโรค แพ้แสงแดดรุนแรง จนไม่สามารถออกจากบ้านในเวลากลางวันได้ เธอใช้ชีวิตอยู่ในห้องที่มีม่านกรองแสงตลอดเวลา มีเพียงตอนกลางคืนเท่านั้นที่เธอจะได้ออกไปสัมผัสลมเย็น และโลกภายนอก แม้ชีวิตจะเงียบเหงา แต่ มีซอล กลับมีพรสวรรค์ด้านดนตรี ทั้งร้อง เล่นกีตาร์ และแต่งเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแต่โลกไม่เคยได้ฟังเสียงของเธอเลย จนวันหนึ่ง...เธอได้พบกับ มินจุน (รับบทโดย ชาฮักยอน) หนุ่มใจดีพ่อค้าผลไม้ ที่มักแวะผ่านมาในละแวกบ้าน เขาเข้ามาทำให้โลกกลางคืนของ มีซอล สว่างขึ้นทีละนิด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อย ๆ เติบโตท่ามกลาง เสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และบทเพลงเพราะ ๆ ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน รีวิวหนัง กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป ถือเป็นการรีเมกครั้งที่ 3 ของ “Midnight Sun” และเวอร์ชันเกาหลีนี้ก็เลือกเล่าในโทน รอมคอมผสมดราม่า ตามสไตล์เกาหลีแท้ ๆ  ครึ่งแรกเบา ๆ และสดใส มีมุกตลกจังหวะดี ส่วนครึ่งหลังเปลี่ยนอารมณ์กลายเป็นดราม่าซึ้งกินใจ ความโดดเด่นของตัวละคร มีซอล เป็นตัวแทนของคนที่มีความฝันแต่ถูกจำกัดด้วยร่างกาย เธอร้องเพลงเก่ง เขียนเพลงเก่ง แต่กลับซ่อนตัวจากโลกเพราะกลัวสายตาคนอื่น ขณะเดียวกัน มินจุน ก็เป็นเหมือน “แสงจันทร์” ที่ส่องทางให้เธอนั้นกล้าก้าวออกมา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้เร่าร้อน แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ละมุน และความเข้าใจที่ค่อย ๆ เติบโต จนเราแอบยิ้มตามได้ตลอดทั้งเรื่อง เสียงเพลง คือหัวใจของหนัง หนึ่งในจุดแข็งที่สุดของ Midnight Sun เวอร์ชันเกาหลี ส่วนตัวว่ามันคือ “ดนตรี” เราจะได้ฟังเสียงใส ๆ ของ จองจีโซ แบบเต็มอิ่ม และยังได้ชมผลงานจาก อีชานฮยอก (AKMU) ที่มารับหน้าที่ Music Director เป็นครั้งแรก เขาเป็นคนแต่ง และเรียบเรียงเพลงประกอบหลักทั้งหมด ทำให้บรรยากาศของหนังละมุน ละไม อินจนต้องแอบฮัมเพลงตาม จุดที่ยังรู้สึกขัดใจนิดหน่อย ถึงแม้พล็อตจะอบอุ่น และมีจุดดราม่าที่พาเสียน้ำตาได้ แต่ต้องยอมรับว่าเคมีของนักแสดงนำ ส่วนตัวแอบรู้สึกว่ายังไม่เข้ากันมากนัก ทำให้บางฉากรู้สึกขาดประกายความหวาน อีกทั้ง คอสตูมของนางเอก ก็ยังดูไม่ค่อยเข้ากับลุคของตัวละครเท่าไหร่ (แอบขัดใจอยู่ไม่น้อย) มุมกล้องโดยรวมเรียบง่าย แต่ก็มีบางช็อตที่ถ่ายออกมาได้สวยมาก โดยเฉพาะฉากกลางคืนที่มีแสงไฟและเสียงเพลงคลอเบา ๆ  ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ สรุปรีวิว Midnight Sun เวอร์ชันเกาหลี “กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป” เป็นหนังรักโรแมนติกอบอุ่นที่มีครบทั้งเสียงหัวเราะ และน้ำตา แม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกด้าน แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ และมีพลังบางอย่างที่ทำให้คนดูอย่างเรา รู้สึกอยากใช้ชีวิตอย่างไม่ยอมแพ้ ถ้าคุณชอบหนังรักเกาหลีที่มีทั้งความน่ารัก คิกคัก ซึ้ง และเพลงเพราะ ๆ แบบสายละมุน เรื่องนี้คือคำตอบที่ดีมากอีกเรื่องหนึ่ง รับชมได้แ้วทาง Netflix หมายเหตุ : รีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึก และความคิดเห็นส่วนตัวล้วน ๆ  จะ ' ใช่ ' สำหรับคุณหรือเปล่า ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง! ตัวอย่าง Midnight Sun YouTube  :  @Sahamongkolmajor https://www.youtube.com/watch?v=FvLCGYYEUko บทความแนะนำ รีวิวFirst Lady(2025) เมื่อความฝันกลายเป็นฝันร้าย รีวิวCrime Scene Zero(2025) วาไรตี้เกาหลีสุดลุ้น ชวนไขปริศนา รีวิวYou Are the Apple of My Eyeหนังรักแรกแสนอบอุ่นที่ต้องดู รีวิวTo The Moon2025ซีรีส์เพื่อนหญิงพลังหญิง ฮาได้ ดราม่าโดน รีวิวShin’s Project(2025) มิสเตอร์ชินรับจบ ทุกความป่วน รีวิวYou and Everything Else(2025)มิตรภาพหวาน ขม และกลมกล่อม ขอบคุณภาพประกอบ Instagram  :  by4mstudio.official  ภาพปก / ภาพที่  1 / ภาพที่  2, 3, 4, 5, 6, 7 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

love is love!
อ่าน

love is love!

ผมเชื่อเหลือเกินว่าแทบจะทุกคนจะรู้จักคำว่า “รัก” เป็นอย่างดี แต่อาจจะมีที่มา หรือความเข้าใจความหมายของคำดังกล่าวต่างกัน หากเรานำคำนี้ไปถามคนบางกลุ่ม เราอาจจะได้คำตอบที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า กลุ่มคนเหล่านั้นมีผลประโยชน์ (มากน้อย) อย่างไร  หากเรามอง ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน อาจมีบางท่านให้คำนิยามว่า ความรักคือความปรารถนาดีต่อกันและกัน ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๖๐๘๓/๒๕๔๖ ที่กล่าวว่า “.. ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริงคือความปรารถนาดีต่อคนที่ตนรักความยินดีที่คนที่ตนรักมีความสุข การให้อภัยเมื่อคนที่ตนรักทำผิด และการเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขของคนที่ตนรัก จำเลยปรารถนาจะยึดครองผู้ตายเพื่อความสุขของจำเลยเอง เมื่อไม่สมหวังจำเลยก็ฆ่าผู้ตาย เป็นความผิดและการกระทำที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของจำเลยโดยฝ่ายเดียว มิได้คำนึงถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้ตาย หาใช่ความรักไม่ ..." นอกจากนี้ในเชิงความสัมพันธ์ของมนุษย์ เราอาจวิเคราะห์ในอีกนัยหนึ่ง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นรวมถึงสิ่งไม่มีชีวิตได้ เหล่านี้ล้วนสะท้อนจาก มิติทางกฎหมาย เช่น กฎหมายอาญา ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วย ละเมิด และ/หรือทรัพย์ เป็นต้น ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์อาจสะท้อนจากการประกาศใช้กฎหมายเป็นการเฉพาะ อาทิ พรบ. พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ พ.ศ.2557 เหล่านี้ย่อมสะท้อนถึงความรักที่เรามีต่อสิ่งของ และสัตว์ ตามลำดับ อนึ่ง ในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์นั้น อาจไปได้ไกลถึงสถาบันครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ-แม่-ลูก ซึ่งรับรองโดยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ:ครอบครัว กล่าวคือ กฎหมาบรับรองสถานะความเป็นบิดา มารดาและบุตร รวมถึงส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวให้มีอยู่ตราบนานเท่านาน โดยเปิดโอกาสให้บุคคลใดก็ตาม (ไม่จำกัดเพศ) ที่หาญกล้ามาทำให้สถาบันครอบครัวสั่นคลอนจำต้องรับโทษทางกฎหมาย ตามมาตรา 1516 ที่บัญญัติว่า “เหตุฟ้องหย่า มีดังต่อไปนี้                     (๑)* สามีหรือภริยา อุปการะเลี้ยงดู หรือ ยกย่อง ผู้อื่น ฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้ หรือ มีชู้ หรือ ร่วมประเวณีกับ ผู้อื่น เป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่ง ฟ้องหย่าได้...” ซึ่งโปรดสังเกตคำว่า “ผู้อื่น” นั้นแปลว่ากฎหมายไม่คำนึงถึงเพศในลักษณะเฉพาะ แม้ว่าสามีหรือภริยา จะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเพศเดียวกัน เขาหรือเธออาจถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ และอาจถือเป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่าได้และในทางกลับกันหากมองในมุมกฎหมายอาญานั้น มีการการเปลี่ยนแปลง/แก้ไขกฎหมายเพื่อลงโทษการข่มขืนเพศเดียวกันได้ เช่น มาตรา “มาตรา ๒๗๖ (ที่ว่า) “ผู้ใดข่มขืนกระทำาชำาเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำ ให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง (ที่กล่าวก่อนหน้านี้) ได้กระทำโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรส และคู่สมรสนั้นยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ ในกรณีที่ศาลมีคำ พิพากษาให้ลงโทษจำคุก และคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้” โปรดอ่านอีกครั้งและ ผมขออนุญาตกล่าวเหตุผลเดิมคือ กฎหมายอาญามุ่งจะลงโทษการกระทำความผิดทางอาญาในความผิดเดิมที่เคยกำหนดให้เฉพาะบุคคลต่างเพศกระทำได้เท่านั้นส่งผลให้ผมมานั่งใคร่ครวญว่า การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายดังกล่าวนั้นพยายามลงโทษบุคคลอย่างเสมอภาคกัน (หรือไม่?) โดยไม่เปิดช่องโหว่ทางกฎหมายให้บุคคลเพศเดียวกันสามารถรอดพ้นเงื้อมมือทางกฎหมายได้หากกระทำความผิด การแก้ไขทางกฎหมายจึงน่าจะสะท้อนหรือสอดคล้องกับความเป็นไปทางสังคมได้อย่างลงตัว แต่ในขณะเดียวกันผมกลับมองว่า คนในกลุ่ม LGBTQ อาจต้องรับผิดรับโทษดังที่ผมกล่าวมาข้างต้น กลับกันสิทธิที่คนกลุ่มดังกล่าวพึงมีพึงได้กฎหมายยังหาได้รับรองไม่ ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากจะสะท้อนว่า “เรา (กฎหมาย)เป็นธรรม แล้วหรือ?” กล่าวในอีกนัยหนึ่งคือ หากเป็นการลงโทษคนกลุ่ม LGBTQ อาจต้องรับผิดตามกฎหมายเฉกเช่นเดียวกับ straight แต่ในขณะเดียวกัน คนกลุ่ม LGBTQ หาได้มีสิทธิเสมอ straight ไม่                   ด้วยเหตุนี้ ผมจึงอยากสร้างแรงกระเพื่อมเชิงสังคมและกฎหมายว่า “เราควรให้การรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานแก่คนกลุ่มนี้แล้วหรือยัง” สิทธิขั้นพื้นฐานในกรณีนี้ คือ “ความรัก” ที่ทุกคนทราบความหมายแต่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม                 นอกจากนี้ผมยังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า คนกลุ่มความหลากหลายทางเพศไม่สมควรได้รับการรับรองทางกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มฝ่ายคัดค้านที่อ้างเรื่อง แนวคิดอนุรักษ์นิยมที่มุ่งคุ้มครองความรักเฉพาะ ชาย-หญิงเท่านั้น ไม่คุ้มครองเพศเดียวกัน แต่ผมขออนุญาตตั้งข้อสังเกตว่า ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ถูกร่างในสมัยที่การเรียกร้องสิทธิในกลุ่ม LGBTQ ยังไม่ได้รับความสนใจเฉกเช่นปัจจุบัน การคุ้มครองความสัมพันธ์เฉพาะชาย-หญิงในสมัยดังกล่าวย่อมคาดหมายได้ แต่กลับไม่สอดคล้องกับกระแสในยุคปัจจุบัน   ด้วยเหตุนี้ในเมื่อกฎหมายทั้งสองฉบับได้แก้ไขบทลงโทษแก่เพศเดียวกันแล้ว เพราะเหตุใดจึงยังไม่ยอมรับรองสิทธิบุคลในกลุ่มดังกล่าวเสียที                   หลายท่านอาจจะเห็นแย้งว่า ครม.อนุมัติหลักการในร่าง พรบ.คู่ชีวิตแล้ว จึงน่าจะถือเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อคนในกลุ่ม LGBTQ ... ก็จริงอย่างที่ท่านว่า แต่การแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่ง่ายกว่าหรือครับ? ทั้งนี้เพื่อรับรองสิทธิในความเป็นพลเมือง (Civil right) ในส่วนของการสร้างครอบครัวระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน เฉกเช่นเดียวกับ คู่รักต่างเพศ ยิ่งเราพยายามสร้างกฎหมายที่มีลักษณะเฉพาะบังคับความรักไม่ว่าจะเพศ และ/หรือ สถานะภาพใด ย่อมเป็นการยากที่เราจะกล้าบอกกับสังคมโลกว่า เราปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม ... รักก็ คือ รัก ครับ อย่าทำให้เรื่องมันยากไปกว่านี้ ฝากไว้ให้คิดครับ ผมเรียนสอบถามผู้ใหญ่ในบ้านเมืองครับว่า เมื่อไหร่จะเลิกมอง LGBTQ เป็นผู้ถูกกระทำเสียที โลกเขาไปถึงไหนแล้วครับ การที่กฎหมายรับรองไม่ได้ทำให้ให้ประเทศดูไร้อารยธรรม กลับกันประเทศไทยจะน่าอยู่มากขึ้นเป็นกอง อย่างน้อยเศรษฐกิจหลายต่อหลายประเทศก็ถูกขับเคลื่อนโดย LGBTQ นะครับ อย่าให้ต้องถึงขนาดกฎหมายรับรองสถานะทางกฏหมายของ AI ก่อน  ภาพโดย https://images.app.goo.gl/PCvqJqQjLd5d3m3HA) เลยครับ (เรียนตามตรงผมละอาย)! (ภาพโดย https://conservativememes.com/i/lgbt-straight-comment-like-none-20939290) ท้ายนี้นะครับ หากสนใจเรื่อง ความหลกหลายทางเพศจะมีการจัดประชุมสัมนาที่ คณะนิติศาสาตร์จุฬา  “คู่ชีวิต = คู่สมรส ?” วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00-16.00 น.ณ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (http://www.law.chula.ac.th/event/7168/?fbclid=IwAR0hfL6zfcOoc5R9tNUBa8WwsMVGrANlFvGnVcpoI1hZ4nGT6P6XaaDA0Bw) 

รีวิว ซีรี่ส์ ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล The Midnight Studio (2024) TrueID
อ่าน

รีวิว ซีรี่ส์ ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล The Midnight Studio (2024) TrueID

รีวิว ซีรี่ย์ ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล The Midnight Studio รับชมได้ช่องทาง TrueID สำหรับเรื่องนี้ เนื่องจาก กีวี่เองก็เป็นคนนึงที่ชอบถ่ายภาพ พอเห็นชื่อเรื่องที่มีเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายภาพ มีกล้องแบบโบราณ แถมเป็นแนว รัก โรแมนติกเบาๆ สบายๆ คอมมาดี้ ก็เลยยิ่งต้องตามไปดูแน่นอน หลังจาดูจบแล้ว แสง สี เสียง ก็สวยมาก การจัดวาง มุมมองต่างๆ ก็สวยงาม ถ้าใครที่ชื่นชอบ แนวนี้ ก็ต้องไม่พลาดเลยค่ะ ความมุ้งมิ้ง ระหว่างนางเอกกับพระเอก ก็มีให้ฟินกันเป็นระยะๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เป็นซีรี่ย์ แนว โรแมนติก คอมมีดี้ ดราม่า แฟนตาซี เรียกว่าครบรส ในเรื่องเดียว เป็นละครต้นฉบับของGenie TV โดยสตรีมอยู่แพลตฟอร์มของ Genie TV จากนั้นมีการออกอากาศตอนแรกทาง ENA โดยปัจจุบันสามารถรับชมทุกตอนได้ทาง TrueID มีทั้งหมด 16 ตอน    โดยมีนักแสดงนางเอกสาว ฮัน บอม (รับบทโดย ควอน นารา) เป็นทนายอิสระ ซึ่งในอดีตก็เคยเป็นอัยการประจำปริษัทแห่งหนึ่ง  พระเอกหนุ่ม ซอ กี จู (รับบทโดย จูวอน) เป็นช่างถ่ายภาพ ที่มีลูกค้าที่เป็นคนตายเท่านั้น เพราะอะไรต้องลองไปติดตามกันดู โดยมี ผีที่เป็นผู้ช่วย ซอ กี จู อีก 2 ตน คือ ผู้ช่วยผู้จัดการโก (รับบทโดย ยู อิน-ซู) อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่ตัวแทนฝ่ายขายลูกค้าของสตูดิโอถ่ายภาพ และ  แพ็ก นัม-กู (รับบทโดย อึม มุน-ซุก) อดีตนักสืบคดีฆาตกรรมที่รับผิดชอบงานเบ็ดเตล็ดในสตูดิโอถ่ายภาพ สำหรับเรื่องนี้เป็น ซีรีย์ที่เล่นกับอารมณ์ของความตายเป็นอย่างมาก เพราะเล่นเอาผู้เขียนน้ำตาร่วงไปหลายตอนเลยทีเดียว แต่ก็ทำให้ได้เข้าใจเรื่องการจากลาแบบตลอดกาล ซึ่งทุกคนจะต้องเจออย่างแน่นอน เปิดต้นเรื่องมาก็น่าติดตามมากดูได้รวดเดียวจบไม่น้อยกว่า 3 ตอนแน่นอน การผูกเรื่องต่างๆ ทำให้น่าติดตาม และการคลี่คลายปม  ที่เกิดขึ้นก็สมเหตุสมผล ทั้งรัก เกลียด เศร้า ผูกพัน มีดราม่าที่ไม่น่าอึดอัด ความรักที่กำลังพอดี แต่ความเศร้าเปิดให้เต็มที่ เรียกน้ำตาได้เลยทีเดียว แต่ก็เป็นการจบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง ไม่ต้องทิ้งให้สงสัย หรือเผื่อมีภาคต่อไป  ในทุกตัวละครจะมีบทบาทสำคัญ ที่ผูกเรื่องความสัมพันธ์ไว้ได้ดีมาก กับการมาพบกันและช่วยเหลือกัน ไม่มีจุดบอดที่ทิ้งปมอะไรค้างไว้ เคลียร์ทุกประเด็นที่มีการผูกปมเอาไว้ เรื่องฉากแสงสีเสียง ก็ทำได้อย่างดี แนบเนียนไม่หลอกตา เป็นผีที่ไม่ได้ทำให้น่ากลัวจนเกินไป เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ก็ทำได้อย่างลงตัว ซึ่งก็เป็นจุดเด่นจุดนึงของเรื่องนี้    โดยส่วนตัวก็ชอบมากๆ เริ่มจากเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพบุคคล เพราะมีหลากหลายอารมณ์ มีการเคลื่อนไหว เป็นภาพแห่งความทรงจำในหลายหลายช่วงเวลา พอเห็นเรื่องนี้ก็ไม่ต้องคิดมาก เปิดดูตอนแรกก็หยุดดูไม่ได้กันเลยทีเดียว แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นการถ่ายภาพคนตาย แต่ก็เป็นคนตายที่มีชีวิต และมีเรื่องราวมากมาย การที่ให้คนตายได้แก้ไขอะไรบางอย่างในวาระสุดท้าย พร้อมภาพสุดประทับใจก่อนจากไปตลอดกาล แถมยังได้อินไปกับความรัก ที่ค่อยเป็นค่อยไประหว่างนางเอกและพระเอก ที่จะมีบทบาทคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดทั้งเรื่องจนเกินความรักความผูกพันขึ้นมา  แม้ว่าในชีวิตจริง จะเคยการจากลาตลอดกาลมาแล้วบ้าง แต่ก็ไม่ลึกซึ้งเท่านี้ เมื่อครั้งที่เสียคุณพ่อไป ก็ยังไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันมากเพราะกำลังเป็นวัยรุ่น แต่ก็ได้จากลาคนที่ผูกพันมากกว่า คือคุณป้าที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ  และท่านก็ใจดีมากๆ คงจะใกล้เคียง กับนางเอกก็ทำให้ได้อินไปกับบทบาทได้ไม่ยาก ส่วนตัวก็ให้คะแนนไปเลย 9/10        ถ้าใครยังไม่ได้ดู ก็เป็นเรื่องนึงที่แนะนำคนที่ชอบสายแฟนตาซี รักโรแมนติก ดราม่านิดๆ มาดูกันนะคะ ดูแล้วเป็นอย่างไรบ้างก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ไว้พบกันใหม่กับการรีวิวแนะนำซีรีย์เรื่องหน้าค่ะ ภาพปก ภาพปก ภาพประกอบ 1, 4 จาก ig zu.won_moon.jun.won 2, 3, 6 จาก ig hv_nara 5 จาก ig k.a_innsoo 7 จาก ig monsterz_sic เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

“อุ๊งอิ๊ง” ร่วมงานแถลงข่าว “The Celebration : Right to Love”
อ่าน

“อุ๊งอิ๊ง” ร่วมงานแถลงข่าว “The Celebration : Right to Love”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมภายใต้แคมเปญ The Celebration : Right to Love เพื่อร่วมฉลองในโอกาสที่ประเทศไทยมีกฏหมายสมรสเท่าเทียมนับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์กรภาครัฐและเอกชนร่วมจัดงานเฉลิมฉลองด้วยมหกรรมอีเว้นท์ตลอดเดือนแห่ง Pride อย่างยิ่งใหญ่สำหรับงาน Pride Month ซึ่งผู้คนทั่วโลกให้ความสำคัญและจัดกิจกรรมในเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลก เป็นโอกาสอันดี ที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเดสติเนชั่นในดวงใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จะร่วมกันจัดงานฉลอง Pride Month กรุงเทพมหานครมีศักยภาพในทุกมิติ มีความหลายหลายที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกไลฟ์สไตล์และความสนใจ และหนึ่งในโกลบอลคอมมูนิตี้ที่สำคัญ คือกลุ่ม LGBTQ+ การจัดงาน Pride Month จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในทุกมิติ ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่(เมื่อวันที่ 14 พ.ค.67)ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์

LOXLEY จัดกิจกรรม “Pay the Love forward” ครั้งที่ 4
อ่าน

LOXLEY จัดกิจกรรม “Pay the Love forward” ครั้งที่ 4

บมจ.ล็อกซเล่ย์ นำโดย รัตนา วัชรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่าย และ บจก.รักษาความปลอดภัย เอเอสเอ็ม แมเนจเมนท์  (ASM) จัดกิจกรรม “Pay the Love forward” ครั้งที่ 4 ชวนทีมโค้ชจิตอาสาจาก สมาพันธ์โค้ชนานาชาติ กรุงเทพฯ (ICF Bangkok Chapter) พร้อมด้วย นักกีฬาฟุตบอลคนตาบอดทีมชาติไทย สังกัดโครงการ "ล็อกซเล่ย์-เอเอสเอ็ม สปอร์ต ฮีโร่" ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ เพิ่มพลังบวกให้กับน้องๆ เยาวชนชายจาก ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ปทุมธานี และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.นครปฐม

ชวนดู! Midnight Sun หนังเกาหลีแนวโรแมนติกดราม่า Netflix
อ่าน

ชวนดู! Midnight Sun หนังเกาหลีแนวโรแมนติกดราม่า Netflix

ภายใต้แสงจันทร์ที่เงียบงัน มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่อาจใช้ชีวิตในแสงอาทิตย์ได้ Midnight Sun (2025) ซีรีส์เกาหลีรีเมกจากภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของหญิงสาวผู้มีชีวิตจำกัดเพียงในยามค่ำคืน กับ ชายหนุ่มธรรมดาที่กลายมาเป็น “แสงสว่าง” เดียวในโลกของเธอ เรื่องราวที่อ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเจ็บปวดนี้ ไม่เพียงว่าด้วยความรัก แต่ยังพูดถึงความกล้าที่จะใช้ชีวิตแม้รู้ว่าเวลาที่เหลืออาจไม่ยาวนานพอ และนี่คือ 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดซีรีส์อบอุ่นหัวใจเรื่องนี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1. เรื่องรักแสนเปราะบางท่ามกลาง “โรคที่ไม่อาจเจอแสงแดด”   https://www.instagram.com/p/DKfyBotPymD/?igsh=MTdwMWZ5NGx6OW53Zw== Midnight Sun ถ่ายทอดเรื่องราวของ “มิซอล” หญิงสาวผู้มีชีวิตจำกัดอยู่เพียงในยามค่ำคืน เพราะเธอป่วยด้วยโรค Xeroderma Pigmentosum (XP) ซึ่งทำให้ผิวหนังของเธอไม่สามารถสัมผัสแสงแดดได้เลยแม้แต่น้อย การออกไปข้างนอกในตอนกลางวันอาจหมายถึงอันตรายถึงชีวิต เธอใช้ชีวิตอย่างเงียบงันอยู่หลังหน้าต่าง จนกระทั่งได้พบกับ “มินจุน” ชายหนุ่มธรรมดาที่เดินผ่านหน้าบ้านของเธอทุกวัน และกลายเป็นคนที่เธอเฝ้ามองอย่างเงียบๆมานาน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นอย่างแผ่วเบาแต่กลับงอกงามท่ามกลางข้อจำกัด เป็นเรื่องรักที่งดงามแต่แฝงไว้ด้วยความเปราะบาง ชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามถึง “คุณค่าของการมีชีวิตอยู่” และ “สิ่งที่เรียกว่าความรักแท้”     2. เสียงเพลงคือหัวใจของเรื่อง — เมื่อดนตรีกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยของคนสองคน   https://www.instagram.com/p/DKfyABbtiJP/?igsh=MXNweWZxYnRyaGNpdw== ซีรีส์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องรักโรแมนติก แต่ยังแฝงด้วยพลังของ “เสียงเพลง” ที่เป็นทั้งสัญลักษณ์ของอิสรภาพ ความฝัน และการเยียวยาใจ มิซอลใช้เสียงเพลงเป็นเครื่องมือสื่อสารกับโลกภายนอก เธอร้องเพลงใต้แสงจันทร์ราวกับเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากกรงแห่งโรคร้าย ขณะที่มินจุนกลายเป็นผู้ฟังคนสำคัญ ผู้มอบแรงบันดาลใจให้เธอกล้าที่จะร้องเพลงต่อไป การผสมผสานระหว่างโทนอบอุ่นของเสียงอะคูสติกและบทเพลงที่แฝงความเศร้า ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อ่อนโยนแต่ทรงพลัง ใครที่ชอบแนวดนตรีและเรื่องราวที่พูดถึง “การเติบโตผ่านศิลปะ” น่าจะหลงรักตั้งแต่ตอนแรก     3. การแสดงสุดละเอียดของ Jung Ji-so และ Cha Hak-yeon ที่ทำให้เรื่องนี้ “จับใจ”   https://www.instagram.com/p/DJ3cCI1SVXs/?igsh=aGxtazMxdXJsOW9o Jung Ji-so (จาก Parasite และ The Glory) รับบทเป็นมิซอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ — ทั้งอ่อนโยน นุ่มนวล แต่แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็งของหญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับชะตากรรมของตัวเอง ในขณะที่ Cha Hak-yeon (หรือ N จากวง VIXX) ถ่ายทอดบทบาทของมินจุน ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจในแบบที่ไม่ต้องพูดมากแต่สัมผัสได้ เคมีของทั้งคู่ไม่ได้เร่าร้อน แต่กลับอ่อนโยนและจริงใจ เป็นความสัมพันธ์ที่ค่อยๆเติบโตจนผู้ชมรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้ง พลังการแสดงของทั้งสองทำให้ “ความรักของคนที่มีเวลาไม่มาก” กลายเป็นสิ่งงดงามเกินคำบรรยาย     4. งานภาพและบรรยากาศกลางคืนที่สวยราวบทกวี   https://www.instagram.com/p/DJ2lF9Jpl41/?igsh=empocTZvMWVwejYw เพราะตัวละครเอกไม่สามารถอยู่ในแสงอาทิตย์ได้ ทีมงานจึงเลือกถ่ายทอดโลกของเธอผ่าน “แสงจันทร์” “ไฟริมถนน” และ “เงา” ที่ทาบทับบนใบหน้าในยามค่ำคืน ทุกเฟรมของ Midnight Sun จึงเปรียบเหมือนภาพวาดเคลื่อนไหว เต็มไปด้วยโทนสีน้ำเงินอมเทาและแสงอบอุ่นจากไฟส้มที่สื่อถึง “ชีวิตที่ยังคงมีประกายแม้อยู่ในความมืด” การใช้แสงและเงาในเรื่องนี้ไม่เพียงเพิ่มความโรแมนติก แต่ยังสื่อถึงสภาวะภายในใจของตัวละคร: เธอกลัวแสง แต่โหยหามัน และในขณะเดียวกัน แสงของความรักก็กลายเป็นสิ่งเดียวที่ส่องนำทางเธอให้มีชีวิตอยู่ต่อไป     5. การรีเมกที่ไม่ลอกต้นฉบับ แต่ “ตีความใหม่ให้ร่วมสมัยและลึกซึ้งกว่าเดิม”   https://www.instagram.com/p/DJ5J6QANuSL/?igsh=OWFjZmdwYnJleTNh Midnight Sun (2025) เป็นการรีเมกจากต้นฉบับญี่ปุ่นชื่อเดียวกัน ซึ่งต่อมาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด แต่เวอร์ชันเกาหลีเลือกที่จะไม่เดินตามเส้นทางเดิมทั้งหมด ผู้กำกับตีความใหม่ให้เข้ากับวัฒนธรรมเกาหลีและยุคสมัยปัจจุบัน โดยเพิ่มมิติทางอารมณ์ ความสัมพันธ์ของครอบครัว และแรงกดดันจากสังคม ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่เพียง “โศกนาฏกรรมของหญิงสาวป่วยหนัก” แต่เป็นภาพสะท้อนของคนรุ่นใหม่ที่ต้องต่อสู้เพื่อความฝันและความรักในโลกที่จำกัด ผลลัพธ์คือรีเมกที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยแต่สดใหม่ มีอารมณ์ร่วมและสมจริงมากขึ้น ทั้งในบทสนทนา รายละเอียดของตัวละคร และการเล่าเรื่องที่ละเมียดละไมในแบบซีรีส์เกาหลีแท้ ๆ     ในโลกที่หมุนเวียนด้วยความเร่งรีบและแสงสว่างเจิดจ้ารอบตัว Midnight Sun ชวนเราหยุดนิ่งลงสักครู่ เพื่อมองเห็น “แสงเล็ก ๆ” ในหัวใจของตัวเองอีกครั้ง ผ่านเรื่องราวของหญิงสาวที่ไม่อาจใช้ชีวิตใต้ดวงอาทิตย์ แต่กลับกลายเป็นแสงที่สวยงามที่สุดในค่ำคืนของใครบางคน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงเล่าความรักระหว่างคนสองคน หากยังพูดถึงความหมายของการ “มีชีวิตอยู่” อย่างเต็มที่ แม้เวลาที่เหลืออาจสั้นแค่เสี้ยวลมหายใจ หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ให้ทั้งรอยยิ้ม น้ำตา และแรงบันดาลใจในคราวเดียว — Midnight Sun (2025) คือเรื่องที่คุณไม่ควรปล่อยผ่าน   ขอขอบคุณ @by4mstudio.officials  ภาพปก ภาพที่ 1/2/3/4/5 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิวซีรีส์ The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล ที่ TrueID
อ่าน

รีวิวซีรีส์ The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล ที่ TrueID

ใครที่เคยเป็นแฟนซีรีส์เกาหลี เรื่อง Hotel Del Luna เราอยากแนะนำให้มาดูเรื่องนี้ The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก แฟนตาซีเรื่องราวของช่างภาพต้องคำสาปที่อายุสั้น และต้องรับหน้าที่สืบทอดเป็นช่างถ่ายภาพวิญญาณ กับทนายสาวสุดมั่นที่มีพลังป้องกันวิญญาณ นำแสดงโดย จูวอน / ควอนนารา ซึ่งตอนนี้สามารถดูซับไทยได้แล้วที่ TrueID จ้ารีวิวหลังดูพล็อตเรื่อง / เรื่องย่อThe Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก แฟนตาซีที่เดินเรื่องผ่าน ซอกีจู (จูวอน) ทายาทรุ่นที่ 7 ที่มารับหน้าที่ในการถ่ายภาพให้วิญญาณผ่านกล้องต้องคำสาปประจำตระกูลที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นพร้อมคำสาปที่ทำให้ผู้ที่รับหน้าที่สืบทอดมีอายุแค่ 35 ปี ซึ่งตัว ซอกีจู ก็เหมือนรู้เวลาตายตัวเองจึงเริ่มนับเวลาถอยหลัง และยิ่งใกล้ถึงวันที่อายุครบ 35 ปี เขายิ่งถูกวิญญาณไล่ล่า โชคดีที่ได้มาพบกับ ฮันบม (ควอนนารา) ทนายสาวเจ้าของห้องที่เขาเช่าต่อ ที่ดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างที่ช่วยปกป้องเขาจากวิญญาณที่ตามไล่ล่าได้ใครที่คาดหวังว่าเปิดเรื่องมาจะได้เห็นโมเม้นต์หวานสบตาของพระนางจับมือสู้ชีวิตบอกเลยว่าอาจจะหลุดขำ เพราะนอกจากไม่มีโมเม้นต์หวานซึ้งรักแรกพบแล้ว ความรู้สึกแรกของนางเอก คือ มองว่าพระเอกน่าจะเป็นบ้าเพราะมีท่าทางประหลาด ส่วนพระเอกเองก็เกือบดีใจที่ได้เจอคนเห็นผีเหมือนกัน สรุปพอรู้ความจริง+เจอนิสัยนางเอกที่เจ้าเล่ห์ก็เปลี่ยนความคิดทันที เพราะฉะนั้นคนดูก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าในอนาคตจะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้พระนางเราหันมายิ้มให้กันแทนแยกเขี้ยวใส่กัน 5555นักแสดง / คาแรคเตอร์ซอกีจู (จูวอน) - ทายาทรุ่นที่ 7 ของตระกูลที่รับหน้าที่ช่างถ่ายภาพวิญญาณ เพราะรู้ว่าชีวิตตัวเองจะไม่ต่างจากทายาทรุ่นก่อนๆ จึงเตรียมนับเวลาถอยหลังของตัวเอง เป็นคนโดดเดี่ยวเพราะอาที่เสียไปทำให้ไม่มีใครในชีวิต จะมีก็แต่วิญญาณผู้ช่วยช่างภาพ และฮันบมที่เป็นเหมือนแสงสว่างในวันที่ถูกวิญญาณไล่ล่าเพราะใกล้ถึงเวลาที่เขาต้องจากไปฮันบม (ควอนนารา) - ทนายสาวที่ตกอับ แต่มีความมุ่งมั่นและเชื่อในความยุติธรรม ไม่ก้มหัวให้คนไม่ดี ครั้งแรกที่ได้พบกับซอกีจู เธอมองเขาว่าเป็นคนประหลาด และทำให้เธอได้เจอกับเรื่องราวประหลาดไม่หยุดสำหรับเคมีคู่ จูวอน - ควอนนารา ส่วนตัวว่าน่ารักดูสู้กันได้อยู่ เพราะช่วงแรกๆ สิ่งที่เห็นบ่อยๆ คือนางเอกพยายามใช้แผนการต่างๆ เพื่อให้พระเอกย้ายออกจากบ้าน ส่วนพระเอกก็เมินเก่ง เพราะเขารู้ดีว่าจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน เรียกได้ว่าเป็นคู่กัดที่สมน้ำสมเนื้อกันมาก อย่างที่เกริ่นไว้ในช่วงต้นว่าในเรื่องนี้จะได้เห็นโม เม้นต์ หวานกันไหมก็ต้องมารอลุ้นกัน แต่ที่ได้เห็นกันแน่นอนน่าจะเป็นพาร์ ท ช่วยเหลือกัน หรืออาจะเป็นแนวช่วยไปมาได้ใกล้ชิดกันก็ตกหลุมรักกันความประทับใจส่วนตัวชอบ ภาพถ่ายเรื่องราวของเด็กแฝด ที่ทำให้พระนางเกือบเข้าใจผิด ซึ่งในอีพีนี้ดูแล้วซาบซึ้งกับความรู้สึกของเด็กชายทั้งสองคนที่ต้องมาพลัดพรากกันเพราะเหตุนี้ และนอกจากความซาบซึ้ง คือ เราได้เห็นมุมใหม่ๆ ที่สดใสของพระเอกที่พยายามดูแลและเอาใจเด็กเพื่อทำตามสิ่งที่เด็กชายปรารถนา เรียกได้ว่าอีพีนี้อีพีเดียวได้เห็นหลากหลายมุมที่ซีรีส์พยายามถ่ายทอดได้อย่างครบรสอีกส่วนที่ประทับใจ คือ CG ซีนสตูดิโอถ่ายภาพที่ตกแต่งได้สวยงามน่าหลงใหลมาก ไม่แปลกเลยที่นางเอกพอเปิดประตูเข้าไปจะเดินดูต่อไปเรื่อยๆ เพราะในสตูดิโอถ่ายภาพแต่งได้อย่างคลาสสิกลงตัวมาก แสงสีต่างๆ ก็สวยแบบสะกดตาสะกดใจจริงๆสุดท้ายนี้ สำหรับใครที่อยากตามไปดู The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาล ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก แฟนตาซี ที่มีทั้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติ คำสาป ยมทูต ก็สามารถตามไปดูซีรีส์ซับไทยกันได้ที่ ทรูไอดี ตัวอย่าง The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาลhttps://www.facebook.com/share/v/RRUvp1ZoUr6DfwTH/?ขอบคุณภาพและวิดีโอประกอบบทความ ดังนี้Facebook TrueID : ตัวอย่าง The Midnight Studio ห้องถ่ายภาพแห่งรัตติกาลX (Twitter) ENA : ภาพหน้าปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7ติดตามอ่านรีวิวซีรีส์ ละคร หนัง เรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ เล่าจากลัง  เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

[รีวิว+แนะนำซีรีส์] Midnight at the Pera Palace เที่ยงคืน ณ เปราพาเลซ
อ่าน

[รีวิว+แนะนำซีรีส์] Midnight at the Pera Palace เที่ยงคืน ณ เปราพาเลซ

สวัสดีค่า วันนี้จะมาแนะนำซีรีส์เรื่อง "Midnight at the Pera Palace หรือ เที่ยงคืน ณ เปราพาเลซ" เป็นซีรีส์ย้อนเวลาฉบับตุรกี ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของตุรกีในสมัยก่อนเคล้าไปกับเรื่องราวทางการเมืองและความรัก เรื่องราวจะเป็นยังไงลองอ่านบทความนี้กันดูนะคะ:)เรื่องย่อ: 'เอสรา'ได้เดินทางไปทำข่าวการครบรอบ 130 ปี ของโรงแรมเพร่า พาเลซ และได้ค้นพบกับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับการย้อนเวลา โดยเธอเองได้ย้อนเวลากลับไปในปี 1919 และกลายมาเป็น 'เพริเด' หญิงสาวที่เป็นผู้พลิกประวัติศาสตร์ตุรกี ในระหว่างทางเธอได้พบกับเรื่องราวมากมาย เพื่อให้ตุรกีได้ประกาศอิสรภาพ นอกจากนั้นการย้อนเวลาทำให้เธอได้ค้นพบความจริงบางอย่าง ความจริงนั้นจะเป็นอะไรต้องลองไปดูกัน~1. เนื้อเรื่องสำหรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เดินไปพร้อมกับประวัติศาสตร์ของตุรกี โดยในปี 1919 เป็นปีที่ตุรกีได้ประกาศอิสรภาพ ทำให้ผู้ชมจะได้เรียนรู้และซึมซับประวัติศาสตร์ไปโดยไม่รู้ตัว เพราะซีรีส์ดูเพลินมากๆ แรกๆอาจจะงงเพราะตัวละครมีชื่อที่จำค่อนข้างยากและยิ่งอิงประวัติศาศาสตร์ด้วยอาจจะต้องทำความเข้าใจเพียงเล็กน้อย ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการย้อนเวลา และการย้อนเวลานั้นก็จะมีองค์ประกอบต่างๆมากมายที่ทำให้ย้อนเวลามาได้ ซึ่งในส่วนนี้ตอนหลังๆก็จะขยายปมให้เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง และเนื้อเรื่องบางครั้งเราอาจจะเดาได้ แต่บางครั้งกลับทำให้เราคาดไม่ถึงเลยว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ บางคนดูร้ายแต่กลับไม่ได้ร้าย แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ยังไม่ได้เฉลยและเป็นหัวใจของซีรีส์เรื่องนี้เลยคือจะรู้ได้ยังไงว่าต้องไปห้องนี้เพื่อเป็นประตูสู่การย้อนเวลา แล้วการย้อนเวลาไปในแต่ละครั้งทำไมถึงไปในแต่ละปีไม่ซ้ำกันสักครั้ง คงต้องรอซีรีส์มาขยายปมในซีซั่น 2 คาดว่าปีหน้าจะได้รับชมกันแล้ว~2. องค์ประกอบของเรื่อง2.1 ฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก สำหรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉากสวยมาก ทำให้ได้เห็นของโบราณเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นรถ โทรศัพท์ ลิฟต์ หรือแม้แต่บรรยากาศต่างๆ ทำให้ได้กลิ่นอายยุคนั้นจริงๆ2.2 การแต่งกาย จะบอกว่าเสื้อผ้าเรื่องนี้คือดีทุกชุด แต่ละชุดแบ่งให้เห็นชัดเจนเลยว่าตัวละครนี้มีฐานะแค่ไหน เป็นใคร ทำอะไร และจะได้เห็นชุดสูทสมัยก่อน เดรสผู้หญิง เสื้อคลุม และกระเป๋า บางชุดมีความเป็นตุรกีมากๆโดยชุดภายในเรื่องนี้จะเหมือนอยู่ในงานเลี้ยงตลอดเวลา เพราะจัดเต็มกันจริงๆ ฮ่าๆ3. นักแสดงเอสรา/เพริเด รับบทโดย Hazal Kaya หญิงสาวที่จะมาพลิกประวัติศาสตร์ตุรกี เอสราจะเป็นคนที่กล้า บ้าบิ่น และสู้ไม่ถอย ซึ่ง Hazal Kaya แสดงเป็นเอสราได้แตกต่างกับเพริเดอย่างชัดเจนมาก ทำให้ผู้ชมมองออกเลยว่านี่คือตัวละครคนละคนกันนะ ซึ่ง Hazal Kaya เป็นคนที่มีเสน่ห์มากๆ โดยเฉพาะตอนใส่ชุดในสมัยก่อนคือสวยแบบมากจริงๆฮาลิท รับบทโดย Selahattin Pasali   เป็นชายหนุ่มที่ตอนแรกดูจะเป็นคนร้ายๆ นิ่งๆ ดูเจ้าเล่ห์ แต่ในความเป็นจริง พ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนอ่อนโยนมาก บทของฮาลิทจะค่อนข้างหักมุมนิดนึง แต่ Selahattin Pasali แสดงเป็นฮาลิทได้เหมาะสมมาก แบบเห็นความแตกต่างของอารมณ์อย่างชัดเจนว่านี่คือกำลังมีความรักนะอาห์เมท รับบทโดย Tansu Biçer เป็นผู้จัดการโรงแรมที่ได้ย้อนเวลากลับมาในปี 1919 ด้วยเช่นกัน เรียกว่าจะเป็นเพื่อนกับเอสราก็ได้ เพราะคอยสนับสนุนเอสราและช่วยเหลือเอสราในปี 1919 แต่ชายหนุ่มคนนี้มีความลับที่ผู้เขียนดูแล้วตกใจกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ ซึ่ง Tansu Biçer แสดงเป็นอาห์เมทได้น่าสนใจมาก เพราะ ดูใจร้ายแต่อบอุ่นในเวลาเดียวกัน ซึ่งเก่งมากๆเลยช่องทางการรับชม: ดูได้ทาง Netflix มี 8 ตอน ตอนละ ประมาณ 40 นาที (ตอนนี้มีแค่ซีซั่นเดียวนะคะ และสามารถรับชม Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีได้แล้วค่ะ)4. ความรู้สึกหลังรับชมหลังจากดูซีรีส์เรื่องนี้จบผู้เขียนรู้สึกว่าทำไมซีรีส์ดีๆแบบนี้ถึงได้พึ่งมาดูนะ เพราะไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศในเรื่อง เส้นเรื่อง และนักแสดง ก็ดีมากๆ ในตอนแรกผู้เขียนรู้สึกว่าซีรีส์จะใช้เวลาปูเรื่องสักหน่อย แต่ถ้าไปสักกลางเรื่องมันจะเข้มข้น แบบอยากดูตอนต่อไปสุดๆ เพราะ เส้นเรื่องยังทำให้ผู้เขียนลุ้นและตื่นเต้นมากโดยเฉพาะเรื่องการย้อนเวลา ได้ทิ้งปมไว้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งเรื่องความรัก ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว้าวมาก ตอนเฉลยปม พอดูตอนจบผู้เขียนย้อนกลับมาดูตอนแรกเพื่อเก็บรายละเอียดอีกรอบ ทำให้พบว่าซีรีส์เหมือนวนเป็นวงกลมว่าถ้าดูตอนจบแล้วจะทำให้คุณสงสัยและย้อนกลับมาดูตอนแรกได้ไม่ยากเลย ฮ่าๆยิ่งไปกว่านั้นซีรีส์เรื่องนี้ยังมีการควบรวบปัจจุบันไว้คลายๆ อย่างเช่น เอาเพลง Oops!... I Did It Again ของ Britney Spears มาร้องในเวอร์ชั่นที่แตกต่างไปจากเดิมและเพราะมากด้วยสิ สิ่งทีผู้เขียนประทับใจมากที่สุดเลยคือการเอาประวัติศาสตร์มาย่อยให้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น อาจจะมีบางส่วนที่ถูกเติมแต่งขึ้นมา แต่ก็ยังคงความเป็นประวัติศาสตร์ในภาพรวมไว้ และที่สำคัญซีรีส์เรื่องนี้ยังใช้สถานที่จริง ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงยังไงยังงั้นถ้าใครอยากดูซีรีส์ตุรกีที่มีเรื่องราวอิงประวัตศาสตร์ ปะปนไปด้วยการเมืองและความรัก ไม่ควรพลาดเลยนะคะ กับซีรีส์เรื่อง "Midnight at the Pera Palace เที่ยงคืน ณ เปราพาเลซ"Trailerhttps://youtu.be/FQV-mmufV3Yที่มาภาพภาพปกInstagram: netflixturkiye ภาพที่ 1 2ภาพประกอบInstagram: netflixturkiye ภาพที่  1 3 7 8 9 10 11 12Instagram: hazalkaya ภาพที่ 5 6 13Instagram: perapalacehotel ภาพที่ 2 4Instagram: selahattinpasali ภาพที่ 1ที่มาวิดีโอMeia-Noite no Hotel Pera Palace | Teaser oficial | Netflix / Youtube: Netflix Brasilจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

ซีรีส์จีน Fall in Love with a Fox บ่วงเสน่ห์เล่ห์สิคาล ที่ TrueID
อ่าน

ซีรีส์จีน Fall in Love with a Fox บ่วงเสน่ห์เล่ห์สิคาล ที่ TrueID

ซีรีส์จีน Fall in Love with a Fox บ่วงเสน่ห์เล่ห์สิคาล มาพบกับภารกิจกอบกู้ทวงคืนความยุติธรรมของเธอกับเขา มือสังหารสาวที่ความจำเลือนหายไป กับนักดนตรีกู่ฉินที่แอบซ่อนแผนการบางอย่างเอาไว้ กลายเป็นปฏิบัติการที่คลุกเคล้าไปด้วยความสัมผัสใกล้ชิดแห่งหัวใจ ซีรีส์ที่ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายดังของ หนานเจี่ยนฉิ่วถ่วน มาพร้อมกับทัพนักแสดงเพียบ นำโดย "หวันเหยียนลั่วหรง" ประกบ "สวีห่าว" ติดตามรับชมตอนใหม่ได้ทุกวัน เวลาประมาณ 17.00 น. ในรูปแบบซับไทย เริ่มตอนแรก 20 กันยายนนี้ ดูได้ดูฟรีที่ทรูไอดี

"ฮาร์ธ–นนท์" โคจรส่งความฟิน ในซีรีส์  ‘Live in Love รักผ่านไลฟ์’
อ่าน

"ฮาร์ธ–นนท์" โคจรส่งความฟิน ในซีรีส์  ‘Live in Love รักผ่านไลฟ์’

ประเดิมเป็นผู้ผลิตซีรีส์เรื่องแรก สำหรับ STUDIO ON FIRE (สตูดิโอ ออน ไฟเยอร์) ใน "Live in Love รักผ่านไลฟ์ The Series" นำแสดงโดย "ฮาร์ธ ชินดนัย เดชะวลีกุล" และ "นนท์ รัชชานนท์ กันเพรียง" จากหนังสือนิยายของนักเขียนนิยายวายชื่อดังในนามปากกา ยอนิม สู่ซีรีส์สุดอบอุ่นหัวใจ Studio On Fire ( สตูดิโอ ออน ไฟเยอร์ ) สตูดิโอน้องใหม่ประเดิมจัดสร้างผลงานภาพยนตร์ ด้วยมินิซีรีส์เรื่องแรก Live in Love รักผ่านไลฟ์ The Series บทประพันธ์ของนักเขียนขวัญใจผู้อ่านสายวาย ยอนิม เจ้าของนิยายเรื่อง Love Syndrome รักโคตรๆโหดอย่างมึง , Why? ทำไมต้องร้าย ทำไมต้องรัก และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ทางสตูดิโอ ออน ไฟเยอร์ นำลิขสิทธิ์บทประพันธ์เรื่อง Live in Love รักผ่านไลฟ์ ของ ยอนิม สไตล์ค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ เต็มไปด้วยความฟิน จิ้น ละมุน ใจฟู และอบอุ่น มาสร้างเป็นมินิซีรีส์ Live in Love รักผ่านไลฟ์ เดอะซีรีส์ เป็นเรื่องราวในช่วงเวลาโควิดที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้านกันเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องเรียนออนไลน์และทำกิจกรรมส่วนใหญ่ที่บ้าน โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่ ถูกเล่าผ่านสองตัวละครหลักอย่าง กล้า ชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ใจแข็งดั่งหินผา ที่ได้บังเอิญได้มาพบกับ เค้ก รุ่นน้องต่างมหาวิทยาลัยผ่านการ ไลฟ์ ทางสื่อโซเชียลของเพื่อนสนิท จากหัวใจที่ไม่เคยมองหรือแม้แต่ให้ความหวังใคร ก็เริ่มสนใจในรอยยิ้มสดใสแสนซื่อนั้นขึ้นมา ใครจะไปรู้ว่าเพียงหนึ่งคำพูดที่แซวกันเล่นๆ ชื่อน่ากินหว่ะ จากปากของกล้าต่อเค้กนั้น ได้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์เพียงชั่วข้ามคืนกับแฮชแท็ก #กล้ากินเค้กไหม จนต่อยอดเป็นเรื่องราวความรักให้พวกเราได้อ่าน และกำลังจะได้รับชมกัน เร็วๆนี้ คู่จิ้นคู่ซี้อย่าง #ฮาร์ธนนท์ ฮาร์ธ ชินดนัย เดชะวลีกุล และ นนท์ รัชชานนท์ กันเพรียง มารับบท #กล้าเค้ก หลังจากได้ร่วมงานกันไปเล็กๆน้อยๆในบทบาทของ #นันแม็ค เรื่อง #LoveSyndrome #รักโคตรๆโหดอย่างมึง3 จนแฟนๆตกหลุมรักตามกันไปก่อนหน้านี้ ยอนิม เจ้าของบทประพันธ์เรื่อง Live in Love รักผ่านไลฟ์ มีการพูดถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องนี้ไว้ว่า... แรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องนี้ เริ่มมาจากช่วงโควิด ช่วงแรกๆที่มีการกักตัว มีเคอร์ฟิว ก็เลยลองเข้าโซเชียลไปดูอะไรแก้เบื่อ แล้วบังเอิญไปเจอคลิปที่มีน้องๆ เค้าไลฟ์สดคุยกันกับเพื่อนแล้วมีคนตัดมาลง ก็เลยลองเข้าไปดู แล้วเห็นว่าน้องๆคุยกันน่ารักดี แก้เครียดให้เราได้ บางคนมารู้จักกันทางไลฟ์สดก็มี ก็เลยเกิดความคิดที่ว่า บางครั้งความรู้สึกดีๆ มิตรภาพดีๆ ก็มีให้กันผ่านโซเชียลได้นะเลยจุดประกาย อยากแต่งเรื่องราวที่เริ่มต้นจากการ พบเจอทางโลกโซเชียลบ้าง เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นสไตล์การแต่งนิยายที่แตกต่างจากเรื่องที่ผ่านๆมาของ #ยอนิม โดยสิ้นเชิง เพราะในช่วงโควิดได้งานเขียนน่ารักๆที่ฮีลใจตัวเองบ้างก็คงจะดียอนิมกล่าว คู่จิ้นคู่ซี้ที่รับบทนำอย่าง ฮาร์ธ-นนท์ เผยความรู้สึกว่า ดีใจที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้งตื่นเต้นที่ได้เป็นนักแสดงนำซีรีส์เรื่องนี้หลังจากทั้งสองคนได้อ่านหนังสือนิยายไปแล้วก็มีความคิดเห็นมาบอกเล่าให้ฟังดังนี้ ฮาร์ธ-ชินดนัย เดชะวลีกุล แสดงความคิดเห็นว่า รู้สึกชื่นชอบนิยายเรื่องรักผ่านไลฟ์มากๆครับ ตั้งแต่ขณะที่กำลังอ่านอยู่ก็ได้แต่อมยิ้มไป บางทีก็หลุดเขินขึ้นมาเมื่อเห็นภาพว่าเป็นตัวเองเล่น มันเป็นความรัก ความโรแมนติก ที่อยู่ในระดับชีวิตจริงมากๆครับ เลยทำให้เชื่อมั่นได้ว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงตัวละครเหล่านี้ และฟินไปกับซีรีส์เรื่องนี้ได้แน่นอน ผมว่าทุกคนสามารถมีพี่กล้า หรือน้องเค้ก เป็นของตัวเองในชีวิตจริง คือมันจับต้องได้ บวกกับคาแรคเตอร์อื่นๆที่มาเติมเต็มความครบรสสมดุลให้กับเนื้อเรื่อง ยกให้เป็นหนังสืออีกเล่ม ที่อยากให้ทุกคนได้อ่านเลยครับ พร้อมมากที่จะเริ่มทำงานกับตัวละคร กล้า อย่างสุดกำลังไปเลยครับ นนท์ -รัชชานนท์ กันเพรียง ก็ได้กล่าวไว้ดังนี้ รู้สึกตื่นเต้นมากๆที่ได้รับบทบาท ตัวละคร เค้ก เพราะว่าคาแร็คเตอร์ของเค้กค่อนข้างแตกต่างจากตัวผมพอสมควรในเรื่องของบุคลิก ที่เป็นคนซื่อๆ มึนๆ ดูไม่มีพิษมีภัย (แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวผมจริงๆดูมีพิษมีภัยนะครับ 555+) แต่ในขณะเดียวกันก็ตามคนทัน ดูคนออก แต่ทำเป็นไม่รู้เท่านั้นเอง ซึ่งแตกต่างจากตัวผมเองพอสมควร แต่ก็จะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ชอบ ดนตรี และ เล่นเกมส์ จึงเข้าใจในบางสิ่งที่เค้กต้องการจะสื่อและรู้สึกผูกพันได้ง่าย โดยรวมคือชอบตัวละครนี้เลยครับ อยากรู้แล้วว่าตอนได้เข้าฉาก จะเป็นยังไง สนุกแค่ไหน รอติดตามรับชมกันเลยครับ ร่วมลุ้นไปพร้อมๆกันว่า กล้า กับ เค้ก จะได้พบกันในชีวิตจริงเมื่อไหร่ และเขาทั้งสองจะผ่านอุปสรรค ทั้งสถานการณ์ที่ต้องรักษาระยะห่าง และอุปสรรคความรักไปได้อย่างไร แล้วสุดท้าย #กล้ากินเค้กไหม มาหาคำตอบ และ ร่วมเสพความอบอุ่นใจฟูไปพร้อมๆกันเร็วๆนี้ ใน Live in Love รักผ่านไลฟ์ The Series

รีวิวMidnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป หนังรักครบรส
อ่าน

รีวิวMidnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป หนังรักครบรส

Midnight Sun: กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป "ไม่ใช่แค่หนังรัก แต่คือคอนเสิร์ตฮีลใจ" สำหรับคอหนังรักที่เคยอินกับ Midnight Sun ไม่ว่าจะเวอร์ชันญี่ปุ่น หรือ อเมริกา เตรียมมุง 'กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป' (태양의 노래 เวอร์ชันเกาหลี) ที่จะมาขโมยหัวใจอีกครั้ง! พร้อมเพลงเพราะบาดใจ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! หนังเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวความรักระหว่าง อีมีซอล (จองจีโซ) สาวน้อยมากพรสวรรค์ที่ต้องใช้ชีวิตในยามค่ำคืนเท่านั้น เพราะเธอป่วยเป็นโรคแพ้แสงแดดอย่างรุนแรง (Xeroderma Pigmentosum หรือ XP) กับ มินจุน (ชาฮักยอน) หนุ่มพ่อค้าผลไม้สุดอบอุ่น ที่เข้ามาเติมเต็ม 'แสงสว่าง' ให้กับโลกที่มืดมิดของเธอ ในเวอร์ชันนี้เลือกนำเสนอในโทน รอมคอม (Rom-Com) ผสมดราม่า ตามสไตล์เกาหลี ที่รับประกันว่าครึ่งแรกจะพาคุณหัวเราะคิกคักกับความน่ารักของพระ-นาง แต่ครึ่งหลัง เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้เลย เพราะดราม่าจะมาพร้อมความซึ้งกินใจจนน้ำตาไหลพราก ๆ ! รีวิว Midnight Sun: กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป "Midnight Sun: กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป" เวอร์ชันเกาหลีที่รีเมกมานั้น ได้เติมความสดใสสไตล์รอมคอมเกาหลีเข้าไปอย่างลงตัว ทำให้หนังรัก พล็อตซึ้งเรื่องนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่ ฟีลกู้ดเกินคาด ความน่ารักละมุน ที่ทำให้คุณยิ้มตามไม่รู้ตัว ถึงแม้เรื่องราวของ มีซอล (จองจีโซ) สาวน้อยที่ป่วยเป็นโรคแพ้แสงแดด (XP) และต้องใช้ชีวิตเฉพาะยามค่ำคืน จะฟังดูเศร้า แต่หนังเลือกที่จะเล่าเรื่องความรักของเธอกับ มินจุน (ชาฮักยอน) พ่อหนุ่มรถผลไม้ ด้วยโทนที่ เบาๆ และสดใส ในช่วงครึ่งแรก มุกตลก โบ๊ะบ๊ะ จังหวะดีและความสัมพันธ์ที่ ค่อยเป็นค่อยไป ทำให้เราหัวเราะคิกคักตามได้อย่างง่ายดาย เคมีของทั้งคู่อาจไม่ได้หวือหวาเร่าร้อนจนต้องกรี๊ด แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ อบอุ่น และจริงใจ ราวกับแสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างบ้านของ มีซอล การที่ มินจุน เข้ามาทำให้ มีซอล กล้าก้าวออกจากโลกเล็กๆ ของตัวเอง สะท้อนแก่นเรื่องที่ว่า ความเข้าใจ และแรงสนับสนุน คือรากฐานที่สวยงามที่สุดของความรัก บทเพลงแห่งดวงดาว ที่เพราะจับใจ ถ้าจะมีจุดไหนที่ต้องคารวะให้กับหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง นั่นคือ ดนตรีประกอบ ที่ถูกยกระดับให้เป็น จุดแข็งที่สุด จนแทบจะเรียกได้ว่านี่คือมินิคอนเสิร์ตฮีลใจ! ต้องปรบมือให้กับ อีชานฮยอก (AKMU) ที่มารับหน้าที่ Music Director และรังสรรค์เพลงประกอบหลักทั้งหมดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เพลงดีงามทุกเพลงจริงๆ เสียงร้องที่ใส และไพเราะของ จองจีโซ นั้นสะกดคนดูให้อินไปกับความฝัน และอารมณ์ของ มีซอล ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพลงเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่พื้นหลัง แต่เป็นหัวใจที่เต้นอยู่ตลอดทั้งเรื่อง สร้างบรรยากาศที่ ละมุนละไม จนรับรองว่าดูจบแล้วจะต้องตามหาเพลย์ลิสต์เพลงในหนังมาฟังต่ออย่างแน่นอน พลังบวกเกินร้อย จุดประกายให้ "กล้าใช้ชีวิต" แม้จะมีฉากดราม่าเรียกน้ำตาในช่วงหลัง แต่แก่นสารสำคัญของ "Midnight Sun" คือการส่งต่อ แรงบันดาลใจสุดพลัง ให้กับทุกคนที่กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดทางร่างกาย ความกลัว หรือความไม่มั่นใจในตัวเอง มีซอล คือตัวแทนของผู้ที่มีพรสวรรค์แต่ถูกปิดกั้น ขณะที่ มินจุน ทำหน้าที่เป็นเหมือน "แสงสว่าง" ที่คอยให้กำลังใจ หนังกระตุ้นให้เราตระหนักว่า ชีวิตนั้นมีเวลาจำกัด และเราควร กล้าที่จะฉายแสง ทำตามความฝันในทุกๆ วันอย่างมีความหมาย โดยไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา นี่คือ หนังรักที่ดูจบแล้วไม่แค่ซึ้ง แต่ยังรู้สึก มีพลังบวก พร้อมกลับไปเผชิญหน้ากับโลกภายนอกอีกครั้ง สรุปรีวิว: "กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป" Midnight Sun เป็นหนังรักที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างรอมคอมใสๆ ดราม่าซึ้งกินใจ และดนตรีประกอบระดับมาสเตอร์พีซที่ตราตรึงใจเราไปอีกนาน ลองเปิดใจดู แล้วคุณจะรู้ว่า กลางคืนที่มืดมิด ก็สว่างไสวได้ด้วยความรัก และเสียงเพลง รับชมได้แล้วทาง Netflix ตัวอย่าง Midnight Sun Youtube  :  @Sahamongkolmajor https://www.youtube.com/watch?v=FvLCGYYEUko บทความแนะนำ รีวิวTo The Moon2025 ซีรีส์ที่จะเปลี่ยนโลกการเงินให้สนุกขึ้น รีวิวYou Are the Apple of My Eyeรักแรกสุดอบอุ่นและชวนคิดถึง รีวิวMobius(2025)ไซไฟวนลูปดราม่าแอ็กชันเดือด ฮาแบบไม่ตั้งตัว รีวิวShin’s Project(2025) มิสเตอร์ชินรับจบ อบอุ่น ฮา ซึ่ง รีวิวA Hundred Memories(2025) มิตรภาพ ความฝัน และรักสามเส้า รีวิวYou and Everything Else(2025)มิตรภาพทั้งรักทั้งหมั่นไส้ ภาพประกอบ Instagram : by4mstudio.official  ภาพปก  /  ภาพ 1  /  ภาพ 2, 3, 6  /  ภาพ 4  /  ภาพ 5, 7  /  ภาพ 8    จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รักคือ? Love is?♥️
อ่าน

รักคือ? Love is?♥️

♥️ความรัก♥️คืออะไร...? 🤔หลายคนคงจะได้ยินกันบ่อยจนชินหูว่า "รักคืออะไร?" ได้ยินกันจนเบื่อที่จะตอบกันเลยทีเดียว😆 ว่าแต่ อืม...นั่นสิ...รักคืออะไร?และใครสามารถนิยามหรือบ่งบอกตัวตนของมันได้ไหม? ..แน่นอนครับ ความคิดและมุมมองของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ไม่สามารถกำหนดให้มันเป็นหลักสากลได้ ซึ่งผมอยากจะแชร์มุมมองการนิยามความรักในแบบของผมให้ท่านผู้ฟัง ได้ฟังกันครับ.....👇---ถ้าจะให้เปรียบความรักเป็นดั่งเช่นสิ่งของหรือทรัพยากรต่างๆ ตัวผมจะเปรียบให้เป็นดั่งเช่น "น้ำเปล่า" ใช่แล้วครับ น้ำเปล่าที่เราใช้ดื่มในทุกๆวันนี่แหละครับ เพราะว่า...ถ้าเราดื่มน้ำมากจนเกินไป = มันก็จะจุกถ้าเราดื่มน้ำน้อยจนเกินไป = มันก็จะกระหายแล้วทำยังไงดีล่ะ ...เราควรดื่มมันอย่างพอดี บริโภคอย่างพอเหมาะ ไม่เยอะเกินไป ไม่น้อยเกินไป  เพราะเราจะไม่ดื่มเลยก็ไม่ได้ เพราะน้ำเป็นสิ่งที่มนุษย์ "ขาดไม่ได้" นั่นเองครับ 😊ความรักก็เช่นกัน รักเขามาก สุดท้ายไม่เป็นดั่งที่เราหวัง เราก็เจ็บมากรักน้อยไป สุดท้าย เขาก็ไปมีคนใหม่ที่ดีกว่าเราควรรักแบบพอดีๆ รักแบบไม่ให้ขาด และไม่มากจนเราต้องเจ็บเอง การเผื่อใจไว้บ้าง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผิดหรือเห็นแก่ตัว มันเป็นการรักแบบอยู่ในเซฟโซน โดยที่เค้าก็ได้ความรักจากเรา และเราก็ไม่เสี่ยงกับความรัก  ก็..วินๆกันไปคำว่าชั่วฟ้าดินสลายมันไม่มีอยู่จริง มันอาจจะเปรียบได้แค่เลเวลของรัก แต่ไม่สามารถการันตีคำว่า นิจนิรันดร์ได้เลย ถ้าจะให้เปรียบเป็นวงกว้าง ผมคิดว่ารักคือ "บ้านหลังใหญ่" หรือหัวข้อใหญ่ ที่แตกเป็นหัวข้อย่อยหลายๆองค์ประกอบ เช่น ความห่วงใย,ความคิดถึง,แคร์,ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน,ความเข้าใจ และอีกหลายๆข้อมารวมกันการมีแค่ความรักที่เปรียบดังหัวข้อใหญ่อย่างเดียว แต่ปราศจากหัวข้อย่อยต่างๆ นั่น คำว่ารักมันก็ไร้ความหมาย เพราะมันไร้ซึ่งความรู้สึกและความชุ่มชื่นหัวใจดังนั้น ความรักจึงเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ ที่มีสิ่งต่างๆมารวมกัน พ่อ แม่ ลูก และคนอื่นๆ ก่อเกิดความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ และกำลังใจ♥️💪 แล้วความรักนั้นมีรูปแบบไหนบ้างล่ะ?ถ้าจะให้ตอบมันก็มีหลากหลายรูปแบบ แบบชายรักหญิง ชายรักชาย หญิงรักหญิง กะเทยรักทอม และอีกเยอะแยะมากมายที่เราอาจจะไม่รู้จัก บางทีคำตอบที่ดีที่สุดอาจจะเป็นที่ว่า "รักไร้รูปแบบ" "รักไม่จำกัดเพศ" "รักไม่จำกัดอายุ"และ"รักไม่จำกัดรูปร่างหน้าตา"สุดท้ายนี้ความรักจะเป็นเช่นไร อยู่ที่เราจะปรุงแต่งให้มันเป็น คนที่ใช่ไม่จำเป็นต้องพยายาม ยังไงก็ใช่ ส่วนคนที่ไม่ใช่ ต่อให้พยายามเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่อยู่ดี  ขอบคุณท่านผู้อ่านที่อ่านจบนะครับ ฝากติดตามผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ เครดิตภาพภาพที่1. Ben_Kerckx/pixabayภาพที่2. cocoparisienne/pixabayภาพที่3. FrankWinkler/pixabayภาพที่4. GDj/pixabayภาพปกแต่งโดยผู้เขียน จากแอป Canvaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ดูจบแล้วมารีวิว(+บ่น) MIDNIGHT MASS พิธีมิสซาตอนเที่ยงคืน
อ่าน

ดูจบแล้วมารีวิว(+บ่น) MIDNIGHT MASS พิธีมิสซาตอนเที่ยงคืน

"เกิดเป็นคนธรรมดาทั้งที รู้ตัวอีกทีกลายเป็นแวมไพร์ไปซะแล้ว"คำโปรยข้างบนคือ Define หรือนิยามที่กำหนดซีรีส์นี้แบบคร่าวๆ แต่เอาจริงๆ คุณเคยดู ซีรีส์ที่แบบ น่าเบื่อไหม แบบ เล่าอะไรก็ไม่รู้ อยู่กับที่ พอBuildมาแล้ว สุดท้าย ไปนั่งคุย แล้วก็เล่าซะยาวเหยียดเลย แต่ประเด็นอยู่ท้ายๆที่เล่า มันจะมีแบบนี้บ่อยคือแบบ " เกิดปม Build นั่งคุย" วนไปแบบนั้น ตอนแรกคือเห็นใน trailer คือโคตรน่าสนใจเลยแบบ มันเงินอะไรขึ้นบนเกาะนี้เนี่ย พอมาดูจริงๆเเล้ว กว่าจะถึงประเด็นนี่คือเลี้ยวเยอะมาก แบบ จับตัวละครมานั่งคุย สาเหตุ นู่น นั่นนี่ ถ้ายกตรงนี้ออกไปคือซีรีส์จะจบได้ภายใน 3-4 ตอน จริงๆคือมี 7 ตอนครับที่ยาวเพราะนั่นแหละครับ มานั่งเล่าสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ แล้วตรงส่วนนี้คือน่าเบื่อมาก เอาจริงๆ Essence(แก่นเเท้) ของเรื่องนี้คือ  มีสารที่ทำให้คนที่กินเข้าไปสลบไปพักนึง และมีความต้องการธาตุเหล็กมากที่อยู่ในเลือดมนุษย์ และโดนแสงอาทิตย์ไม่ได้ โดยมี Bev Genne ที่คลั่งศาสนาบงการเกาะนี้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเอาจริงๆ ตอนจบของตังละครตัวนี้คือผมไม่สะใจนะมีความรู้สึกแค่ว่า "เออทำกับเค้าแบบนี้ก็ควรจบแบบนี้แหละ" อะไรประมาณนี้ซึ่งเอาจริงๆ ซีรีส์นี้ "จืดมาก ๆ"  ตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็มี ความเป็น Thriller อยู่บ้างทำให้บรรยากาศดูระทึกขวัญพอสมควรแต่ก็นั่นหละมันก็มีแค่นั้น เพราะ Conflict ค่อนข้างบาง เนื้อเรื่องค่อนข้างน่าเบื่อยอย่างที่บอกไป มันจะมีบางฉากที่แบบ "ไปจากตรงนี้เถอะ รำคาญ" อะไรแบบนี้เลย ทั้งๆที่ประเด็นสารที่ทำให้คนอื่นมีผลข้างเคียงเป็นแวมไพร์เนี่ยมันเล่นได้เยอะมากๆเลยนะ อย่างเช่นแบบ ประเด็นที่ออกแดดไม่ได้และจะโดนเผาอะไรแบบนี้ สามารถเล่นได้ และ ประเด็น เทวทูต  ที่เป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด ก็สามารถเล่นได้เหมือนกันเพราะ นักบวช Pruitt ที่หายไปตั้งแต่ต้นเรื่องก็เล่นได้เพราะ ดูมาถึงตอนจบก็ค่อนข้างงงว่าเทวทูตนั่นคือบาทหลวง Pruitt หรือเปล่ามีการ foreshadow(จั่ว,ลางบอกเหตุ) เอาไว้เหมือนไบ้ว่า บาทหลวง Pruitt จะเป็นปมใหญ่ตอนท้ายๆ และ เทวทูตที่โผล่มาตอนท้ายๆก็สอดคล้องกับสาเหตุที่จั่วไว้ตอนเริ่มแรกพอดี ก็อาจจะบอกได้ว่า บาทหลวง Pruitt คือเทวทูตตนนั้นหรือเปล่า อันนั้นเป็นปมนึงและมีอีกหลายๆปมที่เรื่องนี้สามารถจับเอามาเล่นได้เยอะมากครับแต่เค้าเลือกการเฉลี่ยประเด็นผิดไปหน่อย ถ้าเลือกพวกปมที่เป็นแก่นแท้ของเรื่องและมาขยี้ได้มากกว่านี้ผมว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนัง Thriller (ระทึกขวัญ) ที่กลมกล่อมเรื่องนึงเลยครับแต่เค้าเลือกเล่ามุมนี้ แปลกใจมากที่คะแนนพุ่งไป 7.8 หรือผมอาจไม่สนุกในรสนิยมผม ก็อย่างที่ว่าไปเเหละครับ รสนิยมความบันเทิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองดูก็ได้ครับ คุณอาจชอบเรื่องนี้ก็ได้ หรืออาจมีใครรู้สึกเหมือนผม ก็ลองดูแล้วกันครับสำหรับคะแนนที่ผมจะให้ คือ 5/10 ครับไม่ได้ดีไม่ได้แย่อยู่ในระดับ intermediate กลางๆ  มีช่วงให้น่าเบื่อบ้าง ก็ประมาณนี้ครับ   ขอบคุณภาพสวยๆจาก Twitter : Midnight Massภาพปกภาพประกอบ ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !