รีเซต

ผลการค้นหา “Lottery Doctor” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
บอร์ดสลากฯ ไฟเขียว Digital Lottery เปิดแผงขายหวยออนไลน์ ดีเดย์งวด 2 พ.ค.65
อ่าน

บอร์ดสลากฯ ไฟเขียว Digital Lottery เปิดแผงขายหวยออนไลน์ ดีเดย์งวด 2 พ.ค.65

วันนี้ (28 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลากฯ) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้จัดทำระบบจำหน่ายสลากผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ชื่อ แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (Digital Lottery) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลาง ให้ผู้ค้าที่มีโควตาสลากฯ ในมือ สามารถนำมาฝากจำหน่ายบนแพลตฟอร์มนี้ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ ธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ทำระบบทั้งหมด ทั้งนี้ แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (Digital Lottery) ในเบื้องต้น จะให้ผู้ค้าที่มีโควตาลงทะเบียนแสดงความจำนงขายสลากบนแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยสำนักงานสลากฯ จะเป็นผู้เก็บสลากตัวจริงไว้ และเมื่อมีการกดซื้อสลากบนแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้ว สลากเลขนั้นจะหมดไป โดยผู้ซื้อจะได้รับใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ข้อความทาง SMS เป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ สำหรับไว้ขึ้นรางวัล สำหรับแพลทฟอร์ม Digital Lottery เป็นอีกช่องทางนี้ที่ช่วยเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายให้กับผู้ค้า แต่ขณะเดียวกันผู้ค้ายังสามารถนำหมายเลข รูปภาพสลากของตัวเอง ไปขายเองได้ด้วยผ่านแท็บเล็ต หรือช่องทางต่างๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังกำหนดเงื่อนไขสำคัญ ให้ขายราคาสูงสุดไม่เกิน 80 บาท หรือหากใกล้วันออกรางวัลแล้วยังขายไม่หมด ผู้ค้าเจ้าของหมายเลข ก็สามารถปรับลดราคาขายให้ต่ำกว่า 80 บาทได้ อีกทั้ง ผู้ค้ายังสามารถเลือกได้ว่าจะฝากขายสลากบนแพลตฟอร์มกี่เล่มก็ได้ เช่น ทั้ง 5 เล่มตามโควตาที่ได้รับ หรือฝากขาย 3 เล่ม และอีก 2 เล่มใช้วิธีการเดินขายแบบเดิมก็ได้ อย่าไรก็ตาม การทำแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าว ตั้งใจให้ผู้ค้าที่มีโควตาอยู่และไปฝากขายบนแพลตฟอร์มอื่น ย้ายมาขายบนแพลตฟอร์มของ สำนักงานสลากฯให้หมด และแพลตฟอร์มนี้นอกจากจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ผู้ค้าแล้ว ผู้ซื้อก็สะดวกขึ้น และยังสามารถซื้อสลากเลขซ้ำกี่ใบก็ได้เท่าที่มีในระบบ รวมถึงเมื่อถูกรางวัลเงินก็จะโอนเข้าบัญชีโดยทันที ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะพยายามเร่งทำแพลตฟอร์มให้แล้วเสร็จ เพื่อจำหน่ายทันงวด 2 พ.ค.65. ภาพจาก TNN ONLINE

รีวิว Doctors TV Series (SBS/2016) ตรวจใจเธอให้เจอรัก
อ่าน

รีวิว Doctors TV Series (SBS/2016) ตรวจใจเธอให้เจอรัก

Doctors TV Series (SBS/2016)สามารถรับชมได้ทาง : https://www.viu.com/ott/th/th/vod/28091/Doctorsหากใครกำลังมองหาซีรี่ส์การแพทย์ที่ไม่ตึงเครียดเกินไป แต่เนื้อหาการแพทย์ก็มีน้ำหนักไม่เบาบาง มีดราม่าเบา ๆ มีความโรแมนติกหวานชวนจิ้น ซีรี่ส์เกาหลี Doctors TV Series (SBS/2016) เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะตอบโจทย์นั้นให้คุณได้ฮเยจอง (Shin-Hye Park) เด็กนักเรียนมัธยมปลายเจ้าปัญหา เธอมักก่อเรื่องน่าปวดหัวที่โรงเรียน เดือดร้อนถึง ยูมินโฮ (Jung Hae-Kyun) คนเป็นพ่อต้องคอยแก้ไขปัญหาให้อยู่เสมอ นั่นเพราะ ฮเยจอง ต้องเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อก็มีภรรยาใหม่ที่ตั้งแง่รังเกียจเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไม่ราบลื่นนัก จนคนเป็นพ่อทนไม่ไหวตัดสินใจพา ฮเยจอง มาทิ้งไว้กับ คังมัลซุน (Kim Young-Ae) ย่าของเธอที่เปิดร้านขายอาหารในต่างจังหวัดแน่ล่ะว่าเด็กมีปัญหาอย่าง ฮเยจอง ยังก่อวีรกรรมไม่เว้นวัน ทั้งลักขโมยและไม่ยอมไปโรงเรียน แต่ในที่สุด คังมัลซุน ก็เข็นหลานสาวตัวดีไปเรียนหนังสือได้สำเร็จ ที่โรงเรียนใหม่เธอได้พบกับครูหนุ่มอย่าง ฮงจีฮง (Kim Rae-Won) ที่โลกมันกลม เมื่อเขากลายเป็นเพื่อนบ้านรั้วเดียวกันกับเธอ ทั้งยังได้เพื่อนใหม่อย่าง ชอนซุนฮี (Moon Ji-In) ที่เป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ดันไม่มีใครคบแถมเป็นคนที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง และ จินซออู (Lee Sung-Kyung) สาวสวยดาวของโรงเรียนที่เพียบพร้อมทั้งการเรียนและฐานะแต่แล้วความไม่เข้าใจกันของทั้งสามคน ได้ทำลายมิตรภาพลงจนทำให้เกิดเรื่องใหญ่บานปลายขึ้นมา ต่างคนต่างแยกย้ายไปคนละทิศละทาง ก่อนที่โชคชะตาจะพาให้ทุกคนกลับมาพบกันที่ ศูนย์การแพทย์กุกอิลสถานที่ที่จะสร้าง เพื่อน มิตรภาพ ความรักและความแค้น เพื่อสะสางเรื่องค้างคาใจในอดีตให้จบลงได้รับอนุญาตการใช้ภาพประกอบบทความจาก : VIUซีรี่ส์การแพทย์เรื่องราว มิตรภาพ ความรัก ความแค้น ของแพทย์ศัลยกรรมประสาท ผลลัพธ์ที่ได้…ถือว่าซีรี่ส์ทำออกมาได้กลมกล่อมนะ คือ ถึงจะบอกว่าเนื้อหาพาทดราม่า มีเรื่องรักหลายเศร้าและปมความแค้นก็จริง แต่การเล่าเรื่องของซีรี่ส์แทบไม่มีอารมณ์ชวนหน่วงหรือน่าขัดใจเลย ตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องเถรตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด ฮ่าฮ่า ใครรู้สึกอย่างไรก็พูดออกไปแบบนั้น รักก็บอกว่ารัก เกลียดใครแค้นใครก็บอกว่าเกลียด ไม่มีมาหักหลัง ใส่หน้ากากเข้าหากัน เรียกว่าเชือดเฉือนสู้กันแบบแฟร์ๆซึ่งหน้านี่แหละ ลักษณะตัวละครโดยทั่วไป เราจึงไม่เห็นใครที่เป็นคนเลวร้ายแบบชัดเจน ถึงจะบอกว่ามีตัวละครที่ทำเรื่องไม่ดีคดโกงก็จริง แต่ระดับความเลวร้ายก็ไม่ถึงกับขาดความละอายต่อการทำชั่วเสียทีเดียวอีกส่วนที่ชอบของซีรี่ส์การแพทย์เรื่องนี้ก็คือ ดูจะใส่ใจกับมาตรฐานฝีมือความน่าเชื่อของคนเป็นหมอ กับซีรี่ส์หลายเรื่องที่ดูผ่านมาสิ่งที่เห็นจนชินตาก็คือ จะมีแค่หมอตัวละครเอกเด่น ๆ เท่านั้นที่มีฝีมือ ส่วนคนอื่นนอกนั้นมักจะกลายเป็นตัวตลกสำหรับคนดู แต่กับซีรี่ส์ Doctors เรื่องนี้ หมอในเรื่องแต่ละคนล้วนมีความสามารถ หากระดับจะแตกต่างกันก็เพียงเล็กน้อยตามอายุงานเท่านั้นการเลือกเคสคนไข้มักจะเป็นไปตามสถานการณ์ มากกว่าการที่เราจะเห็นภาพการวิ่งวุ่น มองหาแต่ตัวละครเอกมาคอยแก้ไขปัญหาให้ หรืออย่าง หมอประจำบ้านที่ยังเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ แม้จะถูกทำให้กลายเป็นส่วนสร้างเสียงหัวเราะ แต่หากเป็นแง่มุมของการแพทย์พวกเขาก็ไม่ได้กลายเป็นตัวตลก หรือขาดความน่าเชื่อถือจากความผิดพลาดได้รับอนุญาตการใช้ภาพประกอบบทความจาก : VIUอีกสิ่งที่ได้เห็นจากซีรี่ส์การแพทย์เรื่องนี้ก็คือเรื่องของ “แรงบันดาลใจ” ในการเลือกเส้นทางการเป็นหมอ อาจจะไม่ได้เรียกว่าเป็นสาเหตุทั้งหมด ของการเลือกทางเส้นนี้ของ ฮเยจอง ก็จริง แต่ในช่วงต้นของซีรี่ส์มีการกล่าวถึง เหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจในแง่มุมที่เป็นบวก นอกจากเรื่องที่เธอต้องการค้นหาความจริงบางอย่าง ที่การเป็นหมอเท่านั้นถึงจะให้คำตอบกับเธอได้อย่างชัดเจนการดำเนินเรื่องของซีรี่ส์ในส่วนของเนื้อหาการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย อาจจะแตกต่างกับเรื่องอื่นตรงที่ ไม่ได้นำเสนอความตื่นเต้น ชวนลุ้น เท่าไหร่ เทียบกับซีรี่ส์การแพทย์ที่ดูผ่านมาหากเป็นฉากในห้องผ่าตัดแล้วล่ะก็ มักสร้างสถานการณ์คับขันมีเหตุการณ์ให้ตื่นเต้นตลอดเวลา อะไรก็ดูมีปัญหายากไปเสียหมด แต่กับซีรี่ส์ Doctors เรื่องนี้อาจจะมีสถานการณ์ให้ได้ลุ้นบ้าง แต่ก็อยู่ในระดับที่เรียกว่าตัวละครยังผ่านไปได้ด้วยดีเนื้อหาส่วนที่สร้างสีสันให้กับซีรี่ส์ จากการที่ลดระดับความน่าตื่นเต้นของฉากการแพทย์ลงไปก็คือ ความโรแมนติกและรักหลายเศร้านี่แหละ แม้ความรักความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระนางจะชัดเจน จนดูว่าไม่น่าจะมีใครเข้ามาแทรกกลางได้ แต่ซีรี่ส์ก็มีตัวละครอย่าง หมอจองยุนโด (Yoon Gyun-Sang) รุ่นพี่ที่ปฏิเสธความรักจากหมอจินซออู เขาตกหลุมรัก ฮเยจอง แม้มันจะเป็นความรักข้างเดียวก็ตาม ส่วน จินซออู เองก็มีความสัมพันธ์แบบเพื่อนพึ่งพายามยาก ฮ่าฮ่า กับ หมอพียองกุก (Baek Sung-Hyun) หมอเพื่อนร่วมรุ่นที่มีไหล่ให้เธอคอยซบเมื่อเจอกับปัญหาทุกครั้งได้รับอนุญาตการใช้ภาพประกอบบทความจาก : VIU      หากถามว่าส่วนไหนของซีรี่ส์ที่ชอบที่สุดคงจะตอบยาก ด้วยทุกอย่างมันค่อนข้างทำออกมาได้ในทางดี คงตอบได้ว่าซีรี่ส์ Doctors เรื่องนี้ อาจจะไม่ใช้ซีรี่ส์การแพทย์ที่มีเนื้อหาชวนลุ้นเข้มข้นนัก แต่ความดีงามของซีรี่ส์คือ ความกลมกล่อม ลงตัว เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนอารมณ์ สำหรับคนที่อยากหลีกหนีซีรี่ส์เนื้อหาหนักอารมณ์ชวนหน่วง แต่ก็ยังตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดีทั้งในแง่เนื้อหาสาระ และแง่มุมความโรแมนติก ชวนจิ้น ฟิน ๆ ความรักของตัวละครในแต่ละคู่ของซีรี่ส์สรุปแล้ว Doctors TV Series (SBS/2016) ตรวจใจเธอให้เจอรัก เป็นซีรี่ส์การแพทย์เนื้อหาย่อยง่าย แต่ก็ไม่ได้เบาบางหรือเนื้อหาขาดน้ำหนัก ตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์มีความน่าเชื่อถือ สามารถทำออกมาได้ดีน่าติดตามตลอด 20 ตอน สนุกครบรสทั้งดราม่าการแพทย์ รักสามเศร้า ปมความแค้นเบื้องหลังของตัวละครDirector: Oh Choong-Hwan, Park Soo-Jinขอบคุณรูปภาพประกอบบทความจากซีรี่ส์ : Doctors TV Series (SBS/2016)สามารถรับชมได้ทาง : https://www.viu.com/ott/th/th/vod/28091/Doctorsเขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง***********************************************************     

[บทความ] ก่อน Hogwarts Legacy เกม Harry Potter เคยเกือบถูกสร้างโดย Nintendo
อ่าน

[บทความ] ก่อน Hogwarts Legacy เกม Harry Potter เคยเกือบถูกสร้างโดย Nintendo

ช่วงนี้เกม Hogwarts Legacy มาแรงมาก ซึ่งเป็นการนำโลกเวทมนตร์ของพ่อมดน้อย Harry Potter มาสร้างเป็นเกมใหม่ และเล่าเรื่องราวในช่วงปี 1890 ทำให้เหมือนเป็นจุดกำเนิดของหลายเรื่องราวในโรงเรียน ฮอกวอตส์ และสำหรับวงการเกม Harry Potter เคยสร้างมาเป็นวีดีโอเกมมายาวนานเกิน 20 ปีแล้ว เชื่อว่าแฟน ๆ คงจะเคยเล่นกันมาบ้างเพราะมันสร้างครบทุกภาค แต่ใครจะเชื่อว่าต้นกำเนิดของเกม Harry Potter เกือบจะไม่ได้ออกบน PlayStation (และ PC) เพราะในปี 1999 Nintendo เกือบได้เป็นผู้สร้างและมีการปล่อยเดโมให้ เจ. เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) ได้ชมแล้ว แต่ในที่สุดทำไมถึงไม่ได้ถูกสร้างออกมาเป็นเกม วันนี้ทีมงาน Beartai จะพาย้อนอดีตไปสู่ยุค Y2K ไปสู่จุดเริ่มต้นของเกม Harry Potter เริ่มต้นในปลายยุค 90S หลังจากนิยาย Harry Potter and the Philosopher’s Stone ประสบความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ ทำให้มีการประกาศสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดงในทันที และยังมาพร้อมกับการหาทีมงานสร้าง Harry Potter เวอร์ชันเกมด้วยเช่นกัน แล้วทำไมทีมงานถึงเลือก Nintendo อาจเป็นเพราะแนวทางการสร้างเกมของปู่นินจะเน้นเล่นได้ทั้งครอบครัวซึ่งเหมาะกับเกมพ่อมดน้อยมาก และก่อนหน้านี้ปู่นินได้สร้างเกมจากภาพยนตร์ James bond 007 Golden Eye ซึ่งเป็นผลงานร่วมกับค่าย RARE ที่ออกเฉพาะ Nintendo 64 ที่ประสบความสำเร็จมาก ทำให้มีการติดต่อให้ปู่นินสร้างเกมจากภาพยนตร์ Harry Potter และจริงจังถึงขนาดทีมงานรวมทั้งตัว เจ. เค. โรว์ลิง เองได้เข้าพบกับ Nintendo และมอบหมายให้ทีมงาน Nintendo Software Technology Corporation หนึ่งในทีมงานของปู่นิน มาเป็นคนสร้าง ทำได้แค่สร้างเดโม โดยทีมงาน เจ. เค. โรว์ลิง ต้องการให้แนวคิดจากหนังสือ Harry Potter and the Philosopher’s Stone ออกมาเป็นเกมได้ครบถ้วนมากที่สุด ทำให้ทีมงานต้องการให้ Nintendo เก็บทุกรายละเอียดของนิยายให้ครบ แต่เนื่องจากทีมงานปู่นินกำลังยุ่งกับการสร้างเกมอื่นอยู่ ทำให้ต้องมีการแบ่งทีมงานออกมาสร้างเดโม โดยแบ่งออกเป็น 2 ทีมงาน โดยทีมแรกจะสร้างเกมแนวแอ็กชันผจญภัยที่อิงจากนิยาย ส่วนอีกทีมจะเน้นไปที่การนำกีฬาควิดดิชมาสร้างเป็นอีกเกม แน่นอนว่าหากมันถูกสร้างมันจะเป็นเกมที่ออกเฉพาะ Nintendo 64 และยังมีการสร้างเดโมเกมเพลย์แบบ 3 มิติมาเพื่อให้ ทีมงาน เจ. เค. โรว์ลิง ได้ชมโดยมีหลุดของข้อมูลว่า มีการสร้างฉากของโรงเรียน Hogwarts ออกมาแล้วรวมทั้งตัวละครที่มีงานออกแบบไปทางการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้ถูกสร้างออกเป็นเกมตัวเต็ม เหตุผลก็ง่ายมากคือในเมื่อปู่นินสร้างจึงต้องการให้เกมออกเฉพาะบนคอนโซล Nintendo เท่านั้นทำให้ข้อตกลง เจ. เค. โรว์ลิง ไม่ได้เกิดขึ้น และสิทธิ์ในการสร้าง Harry Potter ภาคแรกตกเป็นของค่าย Electronic Arts ไป และภาคแรก Harry Potter and the Philosopher’s Stone ออกบน PS1 กับ PC ในปี 2001 ไร้เงา Nintendo 64 แต่ภายหลังก็จะออกบน Game cube ในปี 2003 รวมทั้งยังมีเวอร์ชัน Game Boy และ Game Boy Color ออกมาด้วย เป็นที่น่าเสียดายเพราะสำหรับเวอร์ชัน Nintendo 64 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยหลุดตัวเดโมออกมาให้ชมทั้ง ๆ ที่ความจริงน่าจะทำออกมาได้ดี แต่เนื่องจาก เจ. เค. โรว์ลิง ต้องการให้เกม Harry Potter ไปถึงแฟน ๆ ให้มากที่สุด ทำให้การเลือกทีมงาน EA น่าจะดีกว่าเพราะสามารถสร้างบนคอนโซลได้ทุกเครื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะ เจ. เค. โรว์ลิง ขึ้นชื่อเรื่องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสื่ออื่นที่จะเอา Harry Potter ไปใช้มาตลอดเรียกว่าหากไม่แน่จริงก็จะไม่สามารถผ่านออกไปได้เลย ส่วนเกมจากค่าย EA ที่สร้างบน PS1 ในปี 2001 เชื่อว่าแฟน ๆ ชาวไทยต้องเคยเล่นมาบ้าง เพราะมันออกบน PS1 และ PC รวมทั้งขายในปีเดียวกับภาพยนตร์ Philosopher’s Stone ออกฉายทำให้มันเป็นที่ฮือฮาพอสมควร ส่วนทีมงานที่ EA เลือกมาสร้างคืออดีตลูกหม้อของ Nintendo ที่เคยร่วมกันสร้าง Starfox มาแล้ว EA เป็นเจ้าของสิทธิในการสร้างเกมจาก Harry Potter มายาวนานมาก เพราะได้สร้างจนถึงภาคสุดท้ายของซีรีส์ Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 ที่เกือบทุกภาคจะมาแนวแอ็กชันแก้ปริศนาที่เดินเรื่องแบบนิยายที่ช่วงแรก ๆ ก็ถือว่ายังเล่นสนุกได้แต่ภาคหลัง ๆ มันดูเชยมากแต่ก็ยังมีการผลิตมาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม 2 ภาคสุดท้ายมีการใส่รูปแบบเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 เข้าไป ที่เปลี่ยนจากยิงปืนเป็นยังพลังเวทมนตร์ใส่กันแทน และมีการหลบหลีกด้วยความรวดเร็วจนมันอาจจะเป็นต้นแบบให้เกม Hogwarts Legacy ก็ว่าได้ โดยรวมแล้วก่อนที่จะมาถึงความยอดเยี่ยมใน Hogwarts Legacy ซีรีส์เกม Harry Potter เหมือนเป็นเกมที่ทำออกมาขายพร้อมภาพยนตร์ที่จะฉายมากกว่า เพราะรูปแบบการเล่นก็เรียบ ๆ เน้นเดินเรื่องตามในหนังไม่เน้นเกมเพลย์เท่าที่ควร มีแค่ภาค LEGO ที่พอจะมีความสนุกอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าแฟน Harry Potter คงอยากจะเห็นเวอร์ชันที่ Nintendo สร้างเพราะน่าจะมีความแตกต่างเผลอ ๆ อาจจะสนุกกว่าที่ EA สร้างด้วยซ้ำ

วิธีสมัคร DV Lottery 2026 แบบละเอียดยิบ
อ่าน

วิธีสมัคร DV Lottery 2026 แบบละเอียดยิบ

มาแล้ว DV Lottery 2026 เชื่อว่าหลายๆคน คงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ หนึ่งในนั้นคือตัวข้าพเจ้าเอง^^ ระยะเวลาการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2024 ถึง 5 พฤศจิกายน 2024 และสำหรับใครที่ยังไม่เคยสมัครมาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลไป วันนี้ผมจะมารีวิวขั้นตอนการสมัครแบบละเอียดยิบ เชื่อว่ามือใหม่ทุกคนทำได้แน่นอน แต่ก่อนจะไปสมัคร ต้องมีการเตรียมตัวกันก่อนนิดนึง เพื่อให้ตอนกรอกใบสมัครเป็นไปอย่างราบรื่น นั่นก็คือ การเตรียมรูปภาพเพื่อสมัคร ซึ่งจะมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะหน่อย แต่ผมสรุปมาให้สั้น ๆ คือ แต่งสวยแต่งหล่อ ถ่ายรูปเหมือนถ่ายบัตรประชาชน ถ่ายรูปติดใบปริญญา หน้าตรง ถ่ายให้ชัด ใช้พื้นหลังสีขาว แสงสว่างเพียงพอ ไม่มีเงา ห้ามไดคัทพื้นหลัง ใช้ภาพที่ถ่ายจริงเท่านั้น ขนาดรูปภาพอยู่ที่ 600x600 px แต่ไม่เกิน 1200x1200 px เป็นไฟล์ jpeg เท่านั้น ขนาดไฟล์ไม่เกิน 240 KB จะให้ร้านถ่ายให้หรือถ่ายเองก็ได้นะครับ ส่วนตัวผมถ่ายรูปเอง เสร็จแล้วจะเอาไปปรับขนาดบน Canva เพื่อนๆ เลือกได้ตามถนัดเลยนะครับ  (อ่านรายละเอียดการเตรียมรูปภาพเต็มๆได้ที่นี่ คลิกที่นี่) โอเค เมื่อรูปภาพเราพร้อมแล้ว ก็เตรียมตัวกรอกใบสมัครได้เลยครับ มาหน้าแรก เลื่อนลงมา กดปุ่ม Begin Entry ตามรูปเลย กรอกรหัสตามที่ระบบให้มา เสร็จแล้วกด submit เริ่มที่ข้อที่ 1 เริ่มจากการกรอกนามสกุลก่อน และตามด้วยชื่อ และชื่อกลาง(ถ้ามี) หากไม่มีให้ติ๊กที่ช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆด้านล่าง 2.เลือกเพศ  3.วันเดือนปีเกิด ใส่เป็นตัวเลขเดือน/วัน/ปี ค.ศ.เกิด 4.เมืองเกิด ใส่เป็นจังหวัดที่เกิด 5.ประเทศที่เกิด ใส่เป็นประเทศไทย 6.ประเทศที่มีคุณสมบัติในการสมัคร  ซึ่งประเทศไทยเรามีคุณสมบัติอยู่แล้ว ใครเกิดในประเทศไทย ใช้สิทธิตามประเทศเกิด ให้ตอบ Yes และเลือกประเทศไทย7.ใส่รูปภาพที่เราเตรียมไว้ 8.ที่อยู่ไปรษณีย์ a. จะใส่ชื่อผู้รับหรือไม่ก็ได้  b.ใส่บ้านเลขที่ ใส่คอมม่าหรือเครื่องหมายลูกน้ำก่อนแล้วค่อยใส่หมู่ c.ใส่ซอย, ใส่ถนน (จะใส่หรือไม่ก็ได้) d.ใส่ตำบล e.ใส่อำเภอ, ใส่จังหวัด f.ใส่รหัสไปรษณีย์ (ถ้าไม่มีก็ติ๊กตรงช่องสี่เหลี่ยมด้านล่าง) g.เลือกประเทศไทย   9.ประเทศที่อาศัยอยู่ตอนนี้ ใส่เป็น ประเทศไทย 10.เบอร์โทรศัพท์ จะใส่หรือไม่ก็ได้ ถ้าใส่แนะนำใส่ +66 ตามด้วยเบอร์ เช่น +6689xxxxxxx 11.ใส่อีเมลล์ ใส่ทั้งสองช่องเลย เน้นย้ำว่าต้องเป็นอีเมลล์ที่ยังใช่้งานได้ 12.เลือกการศึกษาสูงสุด ณ ปัจจุบัน โดยจะเรียงตามนี้ Primary School Only คือ จบประถมศึกษา High School, No Degree คือ จบมัธยม แต่ไม่มีวุฒิ High School Degree คือ จบมัธยมมีวุฒิจบ Vocational School คือ จบอาชีวศึกษา Some University Courses คือ กำลังเรียน ป.ตรี University Degree คือ จบ ป.ตรี Some Graduate Level Courses คือ กำลังเรียน ป.โท Master's Degree คือ จบ ป.โท Some Doctorate Level Courses คือ กำลังเรียน ป.เอก Doctorate Degree คือ จบ ป.เอก 13.สถานภาพการสมรส Unmarried = โสดหรือยังไม่สมรส Married and my spouse is NOT a U.S. citizen or U.S. Lawful Permanent Resident (LPR) = สมรส และคู่สมรสไม่ใช่คนอเมริกาหรือคนที่ได้กรีนการ์ดอเมริกา Married and my spouse IS a U.S. citizen or U.S. Lawful Permanent Resident (LPR) = สมรส และคู่สมรสเป็นคนอเมริกาหรือคนที่ได้กรีนการ์ดอเมริกา Divorced = หย่า Widowed = หม้าย Legally Separated = แยกกันอยู่ตามกฎหมาย ข้อนี้ให้ติ๊กที่ช่องสี่เหลี่ยม Enter Spouse Information เพื่อกรอกข้อมูลคู่สมรส 14.จำนวนบุตร ในข้อนี้ให้นับเฉพาะลูกที่มีอายุต่ำว่า 21 ปี บริบูรณ์ และให้นับรวมถึงลูกในเชื้อสายและลูกบุญธรรมตามกฎหมายด้วย และไม่ให้นับบุตรที่มีสัญชาติอเมริกาหรือได้กรีนการ์ดอเมริกา เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ก็กด Continue ถัดไป แล้วเว็บจะขึ้นหน้าสรุปข้อมูลให้ ตรวจเช็คข้อมูลดีๆ อีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็กดสมัครกดส่งข้อมูลได้เลย เสร็จแล้วระบบก็จะขึ้นว่า Success สำเร็จแล้วแบบนี้ สิ่งสำคัญคือ จดหรือเซฟข้อมูลในช่องสีแดงเก็บไว้ให้ดี หรือกดพริ้นเก็บไว้ หรือเซฟเป็นไฟล์ pdf ส่งเข้าอีเมลล์ตัวเอง หรือ google drive เก็บไว้ ส่วนตัวผมตั้งเวลาส่งเมลล์หาตัวเองในปีหน้าที่จะประกาศผลเลย จะได้ไม่ลืม ซึ่งเวลาประกาศผลคือตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2025 ถึง 30 กันยายน 2026 (เวลาที่อเมริกานะครับ ถ้าที่ไทยก็จะเป็นวันที่ 4 พฤษภาคมนะครับ) ใครเข้าใจและพร้อมแล้ว ก็ไปสมัครกันเลย คลิกสมัครที่นี่ ภาพแคประหว่างการใช้งานโดยบ่อแก้ว ภาพปกเทมเพลต จาก Canva โดย Oleg Gapeenko    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !  

รีวิว Doctor Sleep ลางนรก
อ่าน

รีวิว Doctor Sleep ลางนรก

จากหนังภาคแรก “The Shining” ที่เข้าฉายในปี ค.ศ. 1980 ทิ้งช่วงยาวนานกว่า 39 ปี ก็ถึงเวลาสานต่อความหลอนกับหนังภาคต่ออย่าง “Doctor Sleep” หรือชื่อไทย “ลางนรก” ในช่วงแรกๆที่เข้าฉายนั้น ปกติหากเป็นหนังสยองขวัญผมมักจะไปดูในวันแรกที่หนังเข้าฉายเสมอ แต่สำหรับเรื่องนี้ผมเพิ่งได้ไปดูมาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมไม่ไปดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายนั้น เพราะช่วงก่อนหน้านี้ที่ทางค่ายหนังได้ปล่อยตัวอย่างและโปสเตอร์ออกมานั้น ส่วนตัวผมดูแล้วรู้สึกว่าหนังไม่น่าสนใจ ไม่น่าจะสนุก และคงเป็นหนังประเภทที่เข้าถึงยากและชวนง่วง อีกอย่างคือหนังสยองขวัญในตำนานอย่าง  “The Shining” ที่ใครๆต่างก็ชื่นชอบกัน แต่สำหรับผมเองผมกลับไม่ได้ชื่นชอบอะไรขนาดนั้น  แต่พอผมได้ไปดู ในระหว่างที่ดูจนกระทั่งดูจบผมรู้สึกผิดคาดมาก หนังทำออกมาได้สนุกและเข้าถึงได้ง่าย (อาจมีแทรกปรัชญาบ้างเล็กน้อย แต่มันเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย ไม่ต้องอาศัยการตีความที่ซับซ้อนหลายชั้น) หลายๆฉากทำออกมาได้ล้ำจินตนาการ และน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะพวกฉากที่ต่อสู้กันผมชอบมากเป็นพิเศษ มันให้อารมณ์เหมือนเอามนุษย์กลายพันธุ์สายพลังจิตมาต่อสู้กัน ซึ่งตัวหนังทำฉากพวกนี้ออกมาได้ชาญฉลาดมาก ไม่ต้องปล่อยพลังมากมายหรือมีฉากโชว์พลังชนิดที่ว่าบ้านเมืองพังเป็นแถบๆเหมือนหนังหลายๆเรื่อง แต่เอาคนดูได้อยู่หมัด ถ้าจะให้นิยามสั้นๆคงไม่มีคำไหนที่เหมาะไปกว่าคำว่า “น้อยแต่มาก” มันลงตัวมันพอดีในแบบที่มันควรจะเป็นและสิ่งที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือ Sound ประกอบที่ทำออกมาได้ดีมาก นอกจากจะเคารพต้นฉบับในหนังภาคแรกแล้ว ยังเป็นตัวชูโรงทำให้หนังดูโดดเด่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ในหนังแม้ว่าจะมีบางช่วงบางตอนหรือบางฉากที่ดูเอื่อยๆไปบ้าง แต่พอมันมาประกอบกับ Sound ประกอบที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว มันทำให้ฉากนั้นๆดูน่าสนใจไม่น่าเบื่อ ให้ความรู้สึกลุ้นระทึกและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา  ในภาพรวมของหนังถ้าหากจะให้ผมเทียบกับภาคแรก โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ “Doctor Sleep” มากกว่า “The Shining” ผมรู้สึกว่าในภาคนี้ตัวหนังทำออกมาได้กลมกล่อมกว่า มันสนุกครบรสและง่ายต่อการเข้าถึง ไม่ต้องตีความสัญญะอะไรมากมายหากจะให้ผมแนะนำว่าหนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร ผมก็ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคอหนังทั่วไป ที่ต้องการเสพอะไรสนุกๆง่ายๆไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นคอหนังสยองขวัญคุณก็จะสามารถที่จะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก สำหรับใครที่จะไปดูผมแนะนำว่าให้หา “The Shining” มาดูก่อน เพราะจะทำให้ดูหนังเรื่องนี้ได้สนุกขึ้นสมบูรณ์ขึ้น แต่ถึงแม้ว่าไม่ได้ดู “The Shining” ไปก่อนก็ไม่ได้ถึงกับจะดูหนังเรื่องนี้ไม่รู้เรื่อง เพราะหนังได้มีการเล่าที่มาที่ไปของตัวละครต่างๆคร่าวๆให้แล้ว แต่ก็อาจจะทำให้ขาดอรรถรสบางอย่างในการรับชมไปบ้าง        Photo credit: ภาพยนตร์ Doctor Sleep ลางนรก  

ปาร์คยูชอน ฝากความคิดถึงแฟนๆ ชาวไทย กับมินิคอนเสิร์ต “Park Yuchun A Letter of Love Song”
อ่าน

ปาร์คยูชอน ฝากความคิดถึงแฟนๆ ชาวไทย กับมินิคอนเสิร์ต “Park Yuchun A Letter of Love Song”

เตรียมตัวให้พร้อม ต้อนรับเข้าสู่เทศกาลแห่งความรัก ชวนให้หัวใจฟู เพราะทรูไอดี จัดให้ฟิน อินเต็มที่กับกิจกรรมสุดพิเศษ และมินิคอนเสิร์ต ของนักร้องนักแสดงชื่อดัง จากประเทศเกาหลีใต้ ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) ใน Park Yuchun A letter of love song ร่วมสร้างรอยยิ้มและระดมทุนบริจาคให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย ในวันเสาร์ที่ 12 ก.พ. 65 ชมสดพร้อมกัน เวลา 14:30 น. เป็นต้นไป ทางช่อง ID Station สุดพิเศษเฉพาะทรูไอดีที่เดียวเท่านั้น https://ttid.co/KupK/eb5546ef วาเลนไทน์ปีนี้ ทรูไอดีชวนมาอบอุ่นหัวใจไปกับกิจกรรมสุดพิเศษและมินิคอนเสิร์ต A letter of love song ส่งมอบจดหมายรักผ่านบทเพลงอันแสนอบอุ่น จาก ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) มาร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ มูลนิธิออทิสติกไทย และลุ้นเป็นผู้โชคดี 30 ท่าน ที่จะได้รับของขวัญวันวาเลนไทน์สุดพิเศษที่คุณปาร์ค ยูชอนตั้งใจทำมาให้แฟนๆด้วยตัวเองและยังได้ร่วมทำกิจกรรม เล่นเกม และมอบความสุข ความอบอุ่น ให้กับน้องๆออทิสติก ร่วมกันอีกด้วย สามารถสมทบทุนร่วมกับปาร์คยูชอน ด้วยการซื้อ official goods ได้แล้ววันนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทาง ticketmelon โดยรายได้จากการขาย official goods ทั้งหมด หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับมูลนิธิออทิสติกไทย ได้ที่ https://www.ticketmelon.com/logbook/pycaletteroflovesong ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับพลังแห่งความตั้งใจจากปาร์คยูชอน ทั้งบทเพลง, ชื่องาน รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ล้วนถูกออกแบบและวางแผนโดยปาร์คยูชอนทั้งสิ้น โดย ปาร์คยูชอน ฝากความคิดถึงสู่แฟนๆ ชาวไทยสั้นๆ ว่าการได้กลับมาพบกับแฟนๆ ในครั้งนี้ จริงๆ แล้วเป็นตัวผมเองต่างหากที่เป็นฝ่ายที่มีความสุข ดังนั้นจึงอยากจะเจอกับแฟนๆ ให้เร็วที่สุดและบ่อยที่สุด อยากพูดคุยสื่อสารกับแฟนๆ ให้มากขึ้น ในแง่ของการทำงานเองผมจะตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนความรักที่ได้รับมาโดยตลอดขอบคุณที่รอคอยเพื่อจะได้เจอกันนะครับ สามารถรับชมถ่ายทอดสด ความฟิน อินทะลุจอ !! ของศิลปิน ปาร์ค ยูชอน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทางแอปพลิเคชัน TrueID, Facebook TrueID และ ช่อง TrueID Station พิเศษขั้นกว่า ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก เพียงรับชมผ่าน ID Station จะมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมพิเศษ ลุ้นรับการ์ดพร้อมลายเซ็นต์ปาร์คยูชอน (Park Yoochun) จำนวน 5 รางวัล เท่านั้น !! โหลดแอป ล็อคอิน รอเลย https://ttid.co/KupK/5ab4c9cf

รีวิวซีรีย์ญี่ปุ่น : Doctor X Season 1
อ่าน

รีวิวซีรีย์ญี่ปุ่น : Doctor X Season 1

 ช่วงวันหยุดอยู่บ้านหลายวันนี้ แต่ละคนก็คงจะเบื่อ ๆ กันบ้างใช่ไหมคะ? ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี งั้นมานอนชมซีรีย์ญี่ปุ่นกันแบบเพลิน ๆ ดีกว่าค่ะ วันนี้จึงอยากจะมาแนะนำซีรีย์ที่น่าติดตามชมอย่างมากและได้รับความนิยมเลยทีเดียว ซึ่งในตอนนี้ก็กำลังจะมี Season 6 ได้แฟน ๆ ได้รอชมกันแล้ว นั่นก็คือเรื่อง Doctor X เชื่อว่าคงจะคุ้นหูกันบ้างใช่ไหม เพียงแค่เห็นชื่อก็ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหมอแน่นอนค่ะ ซึ่งซีซั่นแรกนี้เริ่มออกอากาศเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2012 ทางช่อง Asahi ของญี่ปุ่นนั่นเองเรื่องย่อสำหรับซีรีย์ญี่ปุ่นชุด Doctor X Season 1 ไดมอน มิจิโกะ ศัลยแพทย์หญิงสุดมั่น ไม่แคร์ใคร แต่ฝีมือการผ่าตัดของเธอนั้นเป็นเลิศ ทุกเคสที่ผ่าตัดด้วยมือของเธอ มิจิโกะมั่นใจมากว่าทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี และมักมีคำคมเด็ดที่พูดออกมาเสมอคือ “ เพราะฉันไม่เคยพลาด “ อย่างไรก็ตามเธอเป็นศัลยแพทย์ที่ไร้หลักแหล่ง ไม่เป็นหลักเป็นฐาน  หรือจะให้เรียกว่าเป็น ศัลยแพทย์อิสระ ก็ได้ จนได้เข้ามาทำงานเป็นศัลยแพทย์แบบ Freelance ให้กับโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง ด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมา ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ยอมทำตำราวิชาการ และจะผ่าตัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้เพื่อนร่วมงานหลายคนไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่นัก แต่เมื่อได้เห็นฝีมือการผ่าตัดของมิจิโกะแล้ว ก็ทำให้พวกขึงกับอึ้งไปเลยค่ะ บางส่วนเริ่มยอมรับในตัวเธอ ในขณะที่บางคน รวมไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ ที่แม้ว่าจะยอมรับมิจิโกะเข้าทำงาน แต่เขาทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองรีวิวความคิดเห็น ให้คะแนน 8.5/10ส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นซีรีย์แนวหมอ ๆ ที่มีเนื้อหาค่อนข้างสนุกเลยค่ะ ซึ่งนางเอกคือ มิจิโกะ ถึงแม้ว่าจะดูหยิ่งและไม่ค่อยเข้ากับใครสักเท่าไหร่นัก แต่เมื่อชีวิตของคนไข้อยู่ในความรับผิดชอบแล้ว เธอก็พร้อมที่จะผ่าตัดรักษาอย่างสุดฝีมือเพื่อให้คนไข้กลับมามีสุขภาพที่ดีนั่นเองค่ะ ซึ่งต่างจากแพทย์บางคนที่แม้จะรับปากว่าพร้อมดูแลคนไข้เสมอ แต่มักจะเลือกทำ เพื่อผลประโยชน์ในหน้าที่การงานของตัวเองจนลืมนึกถึงหลักจรรยาบรรณของแพทย์ค่ะ นอกจากนี้แล้วยังเป็นการสะท้อนให้เห็นอีกหนึ่งมุมมองในการทำงาน ซึ่ง้าหากว่าใครคิดต่างก็มักจะถูกมองว่าไม่เข้าพวกและมักโดนแบนไปในที่สุด จึงทำให้คนส่วนใหญ่มักคล้อยตาม ๆ กันไปแม้ว่าในใจลึก ๆ แล้วจะไม่เห็นด้วยก็ตาม ต่างจาก มิจิโกะ ที่ไม่สนใจว่าใครจะตำแหน่งใหญ่โตสักแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะไม่มีพวก แต่เธอก็สามารถผงาดขึ้นมาเป็นศัลยแพทย์ที่ใคร ๆ ก็ต้องเกรงกลัวเพราะฝีมือของเธอล้วน ๆ ไม่ได้มาจากการพูดประจบสอพลอนั่นเองค่ะถ้าพร้อมแล้วก็ไปชม ซีรีย์ญี่ปุ่นชุด Doctor X Season 1 กันได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ ^^  เครดิตปก  เครดิตภาพที่ 1 เครดิตภาพที่ 2 เครดิตภาพที่ 3 เครดิตภาพที่ 4 

An apple a day keeps the doctor away..จริงหรอ?
อ่าน

An apple a day keeps the doctor away..จริงหรอ?

                                                                            ภาพโดย Rebekka D จาก Pixabay An apple a day keeps the doctor away..จริงหรอ?ประโยคอมตะอย่าง An apple a day keeps the doctor away สร้างความสงสัยกันอย่างแพร่หลายว่าประโยคดังกล่าวนั้นเป็นความจริงหรือไม่ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยคุณประโยชน์มากมายนานาชนิด แต่นั่นจะมากพอให้คนรับประทานห่างไกลโรคได้หรือเปล่าประโยคเบื้องต้นถูกเผยแพร่แบบเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1866 ในนิตยสารเล่มหนึ่งที่เวลส์ และถูกส่งผ่านกันต่อมาเรื่อย ๆ สู่รุ่นลูก รุ่นหลาน มีการดัดแปลงประโยคนี้เรื่อยมาจนเป็นประโยคแบบที่เราได้เห็นในปัจจุบันในปี 1922 และได้มีผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐมิชิแกน พบว่าผลของการเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่รับประทานแอปเปิ้ลเป็นประจำกับผู้ที่ไม่ทาน คือ ผู้ที่ทานจะมีสขุภาพที่ดีกว่า มีพฤติกรรมทางสุขภาพอื่น ๆ ที่ดีกว่า เช่น การสูบบุหรี่ที่ลดน้อยลง แต่กลับไม่พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานแอปเปิ้ลเป็นประจำกับการไปพบแพทย์ว่ามีความเกี่ยวข้องกันแบบมีนัยสำคัญแต่อย่างใดแต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแอปเปิ้ลจะไม่สามารถลดการไปพบแพทย์จริงดังที่ประโยคนั้นได้กล่าวไว้ แต่ในแง่คุณประโยชน์แล้วนั้น แอปเปิ้ลถือเป็นอีกผลไม้ที่มีคุณประโยชน์คุ้มค่าต่อการรับประทาน เช่น- ช่วยชะลอวัย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ- ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด- ช่วยในการลดคอเลสเตอรอล- ช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจก- ช่วยลดไข้และลดอาการอักเสบ                                                                           ภาพโดย congerdesign จาก Pixabay แอปเปิ้ลจะสามารถแบ่งออกอย่างคร่าว ๆ ได้จากสีของมัน ที่จะสามารถบ่งบอกถึงพันธุ์ของมันได้โดยพื้นฐาน ได้แก่แอปเปิ้ลสีเขียว รสชาติจะออกอมเปรี้ยวอมหวาน มีน้ำตาลน้อย และให้พลังงานต่ำที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลทั้งหมด มีไฟเบอร์และวิตามินซีสูง ซึ่งจะช่วยในเรื่องเลือดออกตามไรฟันแอปเปิ้ลสีแดงเข้ม มีรสหวานกว่าแอปเปิ้ลสีอ่อน มี แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มักพบมากในเปลือกของมัน ดังนั้น จึงควรระวังเกี่ยวกับสารตกค้างที่อาจพบเจอได้                                                                       ภาพโดย Tracy Lundgren จาก Pixabay แอปเปิ้ลสีแดงอมชมพู อาจจะไม่หวานหรือกรอบเท่าแอปเปิ้ลสีแดงเข้ม แต่คุณประโยชน์ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย เพราะยังอุดมไปด้วยวิตามินซี และยังป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วยแอปเปิ้ลสีเหลือง มีรสชาติหวาน แต่ไม่ค่อยได้พบเห็นโดยทั่วไป เน้นการให้ประโยชน์ด้านการมองเห็น                                                                             ภาพโดย Couleur จาก Pixabay ไม่ว่าจะสีไหน แอปเปิ้ลต่างก็ให้คุณประโยชน์ที่ไม่แตกต่างกัน แม้ว่าแอปเปิ้ลจะไม่มีผลที่เด่นชัดในเรื่อง keeps the doctor away แต่การรับประทานผลไม้ดี ๆ แบบนี้ อย่างน้อยก็มีผลในเรื่องของสุขภาพและรสชาติก็ยังอร่อยอีกด้วย..                    

"Ghost Doctor" ผีหมอ ! ขอช่วยคน
อ่าน

"Ghost Doctor" ผีหมอ ! ขอช่วยคน

สวัสดีครับ..คอซีรีส์ทุกคน วันนี้ "ผู้เขียน" จะมาพูดถึงซีรีส์แฟนตาซีที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด ! เลยขอบอก ซึ้งซีรีส์เรื่องนี้ได้ปล่อย Teaser ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนกระทั้งได้ออกอากาศตออนแรกเมื่อ วันที่ 3 มกราคม 2565ซีรีส์เรื่อง "Ghost Doctor" เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีคอมเมดี้ ที่เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับวงการแพทย์ และเป็นการกลับมาสวมบทบาทนักแสดงอีกครั้งของ "เรน" ซึ่งได้โคจรมาเจอกับนักแสดงมากฝีมือรุ่นน้องอย่างหนุ่ม "คิมบอม" ที่แฟน ๆ จะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วในซีรีส์หลาย ๆ เรื่อง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของหมอ "ชายองมิน" (แสดงโดย "เรน") หมอศัลยกรรมมือระดับพระกาฬที่เก่งที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ อยู่มาวันหนึ่งเขาได้รับมอบหมายให้ผ่าตัดท่านประทานของโรงพยาบาลที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเสียชีวิต แต่ด้วยความอัจฉริยะของหมอ "ชายองมิน" เขาได้ผ่าตัดเคสนี้ได้อย่างลุล่วงไปด้วยดี แต่ในขณะที่เขารอให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเขาได้รับข้อความบางอย่างให้เขาออกไปข้างนอก เขาจึงออกไปข้างนอกด้วยความเร่งรีบ จนทำให้หมอ "ชายองมิน" ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เขากลายเป็นวิญญาณที่กำลังยืนดูหมอ "โกซึงทัก" (แสดงโดย "คิมบอม") แพทย์ประจำบ้านทายาทเศรษฐี ที่กำลังผ่าตัดร่างกายของเขาอยู่ และเขาได้เห็นว่าหมอ "โกซึงทัก" มีท่าทางไม่ชำนาญในการผ่าตัด เขาเลยเอื้อมมือไปจับที่มือของหมอ "โกซึงทัก" มันจึงทำให้วิญญาณของหมอ "ชายองมิน" ถูกดูดให้เข้าไปสิงในร่างของหมอ "โกซึงทัก" เขาจึงใช้ร่างกายของหมอ "โกซึงทัก" ผ่าตัดร่างของตัวเองสะเลย และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราววุ่น ๆ ของซีรีส์ "Ghost Doctor" ซีรีส์เรื่องนี้ "ผู้เขียน" ชอบมากเลยครับ มีการลงลึกในรายละเอียดของการผ่าตัด มีปมต่าง ๆ ให้ต้องติดตามอยู่ตลอด มีผีมีวิญญาณ แล้วยังมีความ "คอมเมดี้" ให้ได้สนุกสนานกันอีก แบบว่าแฟนตาซีสุด ๆ ไปเลย..!  ซีรีส์เรื่อง "Ghost Doctor" มีนักแสดงนำสองคนครับ นั้นก็คือ "เรน" กับ "คิมบอม" ซึ้งในเรื่องเป็นหมอที่มีความเฉลียวฉลาดทั้งคู่ แต่นิสัยของทั้งสองจะต่างกันครับ พอมีเรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับหมอ "ชายองมิน" จนทำให้วิญญาณของหมอ "ชายองมิน" ต้องมาสิงร่างของหมอ "โกซึงทัก" จึงทำให้ความแตกต่างกันที่อยู่ในตังทั้งสองคนเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว ซึ้งตัวของหมอ "ชายองมิน" เป็นหมอศัลยกรรมที่เก่งมาก มีความมั่นใจในตัวเองสูง ปากร้ายแต่ใจดีและจะมาเข้าสิงร่างของหมอ "โกซึงทัก" เพื่อนมารักษาผู้ป่วยอยู่บ่อยครั้ง ส่วนหมอ "โกซึงทัก" เป็นหมอหนุ่มรูปหล่อใจดีทายาทเศรษฐี ที่มีความรู้ทางทฤษฎี แต่ภาคปฏิบัติไม่ดีเท่าที่ควร ขนาดตอนทำแผลให้ผู้ป่วยเขายังกลัวบาดแผลมากกว่าผู้ป่วยเสียอีก มีนิสัยสวนตัวก็จะกววน ๆ ตลก ๆ นิด ๆ..! และนอกจากหมอรูปหล่อสองคนนี้ยังมีสาวสวยอีกสองคนก็คือ "ยูอี" (แสดงโดย "จังเซจิน") ทีรับบทเป็นหมอทายาทเศรษฐีซึ้งเป็นคนรักเก่าของหมอ "ชายองมิน" และ "โอซูจอง" (แสดงโดย "ซนนาอึน) รับบทเป็นหมออินเทิร์น ที่เดินมาตีไหล่ของหมอ "โกซึงทัก" ที่ไร้วิญญาณของหมอ "ชายองมินกระเด็นออกจากร่ายของหมอ "โกซึงทัก" ทุกที่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ต้องขอชมเลยครับว่าภาพสวยมาก ๆ เนื้อเรื่องเดินไวเพิ่มปมปัญหาของตัวละครได้แบบเนียน ๆ ทำให้คนดูต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลาเลย ส่วน "เรน" ในเรื่องนี้ก็หล่อและภูมิฐานมากกว่าเรื่องอื่นที่เขาเคยได้รับบทบาทมา (อันนี้ความคิดส่วนตัว "ผู้เขียน" นะ) การแสดงก็มีความวาไรตี้มาก มีทั้งตลกและสุขุมนุ่มลึก ส่วนหนุ่ม "คิมบอม" คาแรคเตอร์ก็จะเป็นแบบน่ารัก มุ้งมิ้ง ๆ ยิ่มง่ายพูดจากวน ๆ ขี้โม้หน่อย ๆ แต่พอถูกวิญญาณเข้าสิงก็จะกลายเป็นหนุ่มสุขุมนุ่มลึกท่าทางดูเหมือน "เรน" ขึ้นมาทันที่กันเลย ถือว่าแสดงเก่งมาก ๆ เลยครับและในส่วนของ "เลิฟไลน์" ก็มีนะครับในเรื่องนี้ พอให้แฟน ๆ ได้ฟินกันบ้าง ในคู่ของหมอ "ชายองมิน" กับหมอ " จังเซจิน" ดูตอนแรกก็จะสงสัยว่ามารักกันได้ยังไงแต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไป ก็จะเห็นว่าทั้งคู่เป็นคนรักกันมานานแล้วแต่มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างสองคนก็เลยทำให้หมอ "ชายองมิน" เข้าใจหมอ "จังเซจิน" ผิดไป ส่วนคู่ของหมอ "โกซึงทัก" กับหมอ "โอซูยจอง" ก็จะมีแหย่กันไปแหย่กันมาดูกุ๊กกิ๊ก ๆ น่ารักตลอดทั้งเรื่องสำหรับใครที่ชอบดูซีรีส์แนวแฟนตาซีคอมเมดี้ ที่มีการสอดแทรกปมปัญหาเดิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่อง "Ghost Doctor" อย่างเด็ดขาดนะครับหาดูได้ที่ "iQiyi" ได้เลยครับขอขอบคุณภาพประกอบจาก : tvNภาพปกภาพประกอบที่ 1, ภาพประกอบที่ 2-4, ภาพประกอบที่ 5-7, ภาพประกอบที 8-9, ภาพประกอบที่ 10-11ภาพประกอบที่  12-14, ภาพประกอบที่ 15-20ตัดต่อกราฟิกโดยผู้เขียน "คืนถิ่น"อัปเดตข่าว ดูหนังละครซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

เปิดวาร์ปหมอชาหรือออมจองฮวา จาก Doctor Cha
อ่าน

เปิดวาร์ปหมอชาหรือออมจองฮวา จาก Doctor Cha

Doctor Cha เป็นซีรีส์ที่พูดถึงหมอคนหนึ่งที่ชีวิตผลิกผันจนต้องกลายมาเป็นแม่บ้านเพื่อดูแลสามี ลูกๆและแม่สามี เป็นซีรีส์ที่พูดเลยว่าตลกร้ายเอามากๆ และคนที่มารับบทหมอชาในเรื่องก็คือ ออมจองฮวานักแสดงสาวมากฝีมือ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นกันhttps://youtu.be/7wtv4XtYybwออมจองฮวา https://www.instagram.com/p/CrDUET6veSh/?utm_source=ig_web_copy_linkออมจองฮวา เกิด 17 สิงหาคม 1969 ปัจจุบันอายุ 54 ปี เธอได้เริ่มเข้าวงการโดยการเป็นนักร้องประสานเสียงให้กับสถานีโทรทัศน์ MBC ในปี1987 จนถึงปี 1990  ในปี 1992 ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่องแรก คือ Marriage Story เป็นจุดเริ่มต้นแรกในวงการบันเทิงแบบเต็มตัวของเธอ ต่อมาในปี 1993 ได้เดบิวต์ผลงานซีรีส์ครั้งแรกกับเรื่อง Sisters และได้มีผลงานมาเรื่อยๆทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ รางวัลแรกที่เธอได้รับมาจากเวที 17th Golden Cinema Film Festival รางวัล Best Supporting Actress จาก On a Windy Day We Must Go to Apgujeong ในปี 2002 เป็นปีที่เธอได้รับรางวัลในสายภาพยนตร์และถือว่าเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดรางวัลหนึ่งของเกาหลี กับรางวัล Baeksang Arts Awards ออมจองฮวา ได้เข้าชิงในรางวัลต่างๆของประเทศมากมาย เพราะบทที่เธอเลือกมักจะเป็นบทบาทที่ไม่ซ้ำและน่าสนใจ ในปี 2022 ที่ผ่านมาก็ได้แสดงในบทของ โกมีรัน ในซีรีส์ Our Blues ที่น่าจะทำให้คนทั้งรักทั้งเกลียดได้ในเวลาเดียวกัน และบทบาทล่าสุด ใน Doctor Cha เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่เรียกได้ว่าท้าทายความสามารถมากยิ่งขึ้น ทั้งการมารับบทแม่ ที่ต้องตามใจทั้งสามี ลูก รวมถึงแม่สามี ยิ่งดูยิ่งเอาใจช่วยให้ชีวิตข้างหน้าของหมอชามีแต่ความสุขมากยิ่งขึ้นhttps://www.instagram.com/p/Cju0WaAvs-r/?utm_source=ig_web_copy_link เส้นทางสายนักร้องออมจองฮวาไม่เพียงแต่ทำงานในสายของนักแสดงเพียงเท่านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เธอทำได้และทำได้ดีด้วยคือการเป็นนักร้อง เธอได้เป็นนักร้องในปีเดียวกับที่เธอได้แสดงภาพยนตร์และซีรีส์ทำให้ตอนนั้นทุกคนพูดว่าเธอคือผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุด เธอเดบิวต์ ในอัลบั้ม Sorrowful Secret และมีเพลงดังมากมาย เช่น Sad Expectation และ Rose of Betrayal ในปี 1998 เธอได้รับรางวัล Bonsang Award (Song Division) จากเพลง Poison และ I Don't Know ในเวทีประกาศรางวัลเพลง Golden Disc Awards และยังได้ Best Female Artist จากเวที MAMA Awards ปี 2000  ก็ถือว่าเป็นปีของเธอก็ว่าได้เพราะเดินสายรับรางวัล และก็ได้หายหน้าหายตาไปจากวงการเพลง แต่รับงานแสดงอย่างเต็มตัว ในปี 2008 ออมจองฮวาได้ร่วมงานกับ T.O.P BIGBANG ในเพลง Disco ในปี 2020 ได้มีผลงานเพลง Hop in ร่วมกับฮวาซา มามามู ที่ผ่านมาออมจองฮวามีผลงานเพลงอยู่บ้างเช่นเพลงประกอบซีรีส์หรือโปรเจคพิเศษต่างๆ https://youtu.be/8AekHr7ci6Aออมจองฮวา กับบทบาทหมอชาhttps://www.instagram.com/p/CrZochuv2Wj/?utm_source=ig_web_copy_linkตัวละครหมอชาคือตัวละครที่ทำให้เราต้องมาขบคิด กับคำว่า"ถ้าหากเป็นเราละ" บทบาทนี้ไม่ใช่แค่การแสดงออกเท่านั้นที่ต้องทำให้เรารู้สึกได้ว่าการโดนกดทับจนไม่เหลือชิ้นดีจากคนรอบตัวนั้นเป็นเช่นไร หากเราต้องยอมทุกคนแต่พอช่วงเวลาสำคัญกลับไม่มีใครเลย จองฮวาได้แสดงให้เรารู้สึกถึงความอึดอัดนั้นส่งผ่านมาจากหน้าจอได้ การที่เขายอมสละตัวเองเพื่อมาดูแลครอบครัว จนคนรอบข้างลืมไปแล้วว่าเขาคือคนที่เรียนเก่งมาก คือคนที่มีความสามารถ บทบาทนี้ทำให้ตกหลุมรักและเอาใจช่วยให้ตัวละครนี้หลุดพ้นจากความสัมพันธ์ที่น่าปวดหัวได้สักทีความประทับใจในออมจองฮวาhttps://www.instagram.com/p/CrZzqioP_1W/?utm_source=ig_web_copy_linkออมจองฮวาเป็นนักแสดงที่มากฝีมือและยังเป็นนักร้องที่มีเสน่ห์มากแถมยังสามารถเป็นพิธีกรหรือเอนเตอร์เทนเนอร์ในรายการวาไรตี้ต่างๆได้อีก ออมจองฮวาเคยป่วยเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์จนทำให้ไม่สามารถร้องเพลงหรือสิ่งที่เธอรักกว่า10ปี แต่สุดท้ายก็สามารถต่อสู้กับโรคและกลับมาทำกิจกรรมที่รักได้อีกครั้ง ถึงตอนนี้เวลาจะล่วงเลยมาแล้วเกือบ30ปีที่ได้อยู่ในวงการบันเทิง เธอก็ยังโลดแล่นอยู่ในวงการนี้ไม่ไปไหน และยังมีแฟนคลับที่รักและรอคอยผลงานของเธออย่างเหนียวแน่น แม้จะรับซีรีส์ปีละไม่มากแต่ซีรีส์แต่ละเรื่องที่รับ ก็เป็นซีรีส์ที่น่าสนใจ อยากให้ทุกคนได้ลองเปิดใจไปชมซีรีส์ของออมจองฮวากันเยอะๆจะได้เห็นถึงความสามารถที่น่าทึ่งของเธอรีวิว   Doctor ChaDoctor Cha เป็นซีรีส์ดราม่าที่แฝงความตลกร้าย ที่เล่าออกมาผ่านมุมมองของผู้หญิงที่ถูกกดทับทางสังคมว่าหากมีครอบครัวก็ต้องมาดูแลครอบครัว ส่วนผู้ชายออกจากบ้านก็สามารถไปใช้ชีวิตของตัวเองได้ ออกจากบ้านสามารถทำตัวเป็นใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อหรือสามีตลอดเวลา แต่กลับกันผู้หญิงหากไปทำงานนอกบ้านหรือไปไหนสุดท้ายก็ยังคงเป็นแม่บ้าน เป็นภรรยาและแม่อยู่ดี การเล่าพยายามใส่มุกตลกที่ไม่ได้ออกแนวตลกแต่ออกแนวจิกกัดมากกว่า เนื้อเรื่องดำเนินแบบทำให้เราต้องลุ้นในการตัดสินใจของทุกตัวละครในเรื่อง บททำออกมาได้ดีไม่ชวนง่วง หากต้องให้คะแนนให้เป็น 9/10 สามารถรับชมซับไทย ได้ที่ Netflixhttps://www.instagram.com/p/Cq98sMRPmvn/?utm_source=ig_web_copy_link เครดิต ปก1 / ปก2เครดิต วิดีโอ1 / วิดีโอ2เครดิต ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4/ ภาพที่5เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!

ช่อง3 Family เสิร์ฟรายการ The Doctor คุณหมอรอบรู้  ล้วงลึกสุขภาพ
อ่าน

ช่อง3 Family เสิร์ฟรายการ The Doctor คุณหมอรอบรู้ ล้วงลึกสุขภาพ

คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด กับรายการสาระดีๆ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย รายการชื่อดังส่งตรงจากอเมริกา The Doctor: คุณหมอรอบรู้ กับการพูดคุยปัญหาสุขภาพโดยทีมงานแพทย์มืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่างๆ ให้คุณผู้ชมเตรียมพร้อมรับมือกับทุกๆ โรค ปัญหาเรื่องสุขภาพเป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีวิธีเรียนรู้หลีกเลี่ยง ป้องกัน และรักษา ช่อง3 Family (ช่อง13) ไม่รอช้าคว้าลิขสิทธิ์รายการสุขภาพชื่อดังจากอเมริกามานำเสนอเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพกับรายการที่รวมเหล่าสุดยอดทีมแพทย์มืออาชีพผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาด้านโรคต่างๆ มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพต่างๆ และตอบคำถามจากผู้ชมที่ไม่กล้าที่จะไปถามแพทย์ของพวกเขาเอง พร้อมกับกรณีศึกษาเกี่ยวกับโรคของคนไข้ที่เจ็บป่วยทางกายหรือมีอาการบ่งชี้โรค ให้ผู้ชมในห้องส่งได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และผู้ชมอาจจะพบว่า ปัญหาสุขภาพบางอย่าง ก็อยู่ใกล้ตัวจนเราแทบไม่เคยทราบและสนใจเลย เตรียมพร้อมรับมือกับทุกโรค กับข้อมูลที่อัดแน่นตลอด 1 ชั่วโมงในรายการ The Doctor: คุณหมอรอบรู้ ออกอากาศทุกวันพฤหัสและศุกร์ เวลา 07.00-08.00 น. และรีรันวันเดียวกันเวลา 22.30-23.30 น.ทางช่อง3 Family (ช่อง13) ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety

ความเห็นหลังชม  Doctor-X 7 : หมอซ่าส์พันธุ์เอ๊กซ์ ปี 7 (2021)  อาจดูเหมือนเดิมไม่มีอะไรใหม่ แต่ยังสนุกเร้าใจได้อย่างที่หวัง
อ่าน

ความเห็นหลังชม Doctor-X 7 : หมอซ่าส์พันธุ์เอ๊กซ์ ปี 7 (2021) อาจดูเหมือนเดิมไม่มีอะไรใหม่ แต่ยังสนุกเร้าใจได้อย่างที่หวัง

Short CommentDoctor X 7 : หมอซ่าส์พันธุ์เอ๊กซ์ ปี 7 (2021)นี่คืองานซีรีส์เพียงหนึ่งเดียวที่มีจำนวนซีซันมากกว่าสาม  แต่ก็ได้ติดตามดูกันมาทั้งครอบครัวกระทั่งคล้ายกับเป็นหน้าที่  เมื่อการดูมาตั้งแต่ซีซันแรกเรื่อยมาจนถึงซีซันหก ที่ดูๆไปก็เหมือนกับเรื่องถูกเล่าแบบเดิมๆ  ชั้นเชิงเดิมๆ  นั่นคืออารมณ์การอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นที่ลูกคนเล็กเรียกเก๋ๆว่ามังงะ  ชั้นเชิงที่เล่าคือการเล่าเป็นตอนๆมีภารกิจภายในตอนมีเรื่องดราม่าภายในตอนแล้วก็จบภายในตอน    ทั้งยังแฝงเรื่องของแง่มุมความคิด  หัวใจ  จรรยาบรรณ  ผ่านหมอซ่าส์ที่แปลกแยกดั่งหมาป่าเดียวดายที่แหกทุกกรอบของวงการแพทย์ญี่ปุ่น(ในเรื่อง) ศัลยแพทย์มือฉมังเจ้าของวลีติดปาก "ฉันไม่เคยพลาด" ศัลยแพทย์ไดมอน มิจิโกะ(เรียวโกะ โยเนคุระ)  ที่ความแปลกแยกของเธอจะเปลี่ยนความคิดและหัวใจคนรอบข้าง  ดังที่เห็นมานักต่อนักในการ์ตูนญี่ปุ่นและมันคือสิ่งที่ญี่ปุ่นเชี่ยวชาญ  ดังนั้นการดูมายาวๆจึงไม่ต่างจากการอ่านการ์ตูนที่จบเล่มหนึ่งก็มาต่อเล่มสองเรื่อยมาจนบัดนี้ถึงเล่มที่เจ็ด  เพียงแต่การมาครั้งที่เจ็ดครั้งนี้มีข้อจำกัดบางประการด้วยสถานการณ์ไวรัส  และอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ซีซันนี้ดูดร็อปลง  จนกระทั่งไม่มีอะไรให้เขียนยาวๆเป็นรีวิวจัดเต็มแต่กระนั้นอะไรที่พึงมีก็ยังมีครบทั้งภารกิจการผ่าตัดที่ยาก  และยิ่งยากขึ้นตามสถานการณ์  ทั้งยังสามารถเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนชีวิตคนได้ของไดมอนเซนเซย์  นั่นหมายความว่า อะไรก็ตามที่เคยเร้าใจในแบบที่เคยดูมายังคงจัดเต็ม  เพราะยังคงสนุกไปกับการผ่าตัดรักษาทั้งโรคทางกาย  ทางใจ  และทางทัศนคติให้คนรอบข้าง  รวมไปถึงอารมณ์ขันในแบบที่เป็นเอกลักษณ์  ที่มาจากบุคลิกแบบการ์ตูนของตัวละครทั้งตัวไดมอน มิจิโกะเองและตัวละครมากมายรายล้อมแถมด้วยงานด้านบทที่จับเอาสถานการณ์ไวรัสถล่มโลกมาเล่าได้อย่างน่าดู เ พราะเห็นทางแยกในหัวใจของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้อย่างตรงจุด  จึงไม่ต่างจากการเชิดชูความเสียสละทั้งชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์  ในการเผชิญหน้ากับวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ที่มีบางคนต้องสละชีวิตจริงๆ  และมันคืออารมณ์ที่บทสื่อออกมาชัดเพียงแต่ถ้าเทียบกับทุกซีซันที่ผ่านมา  มันกว้างเกินไปเพราะทุกซีซันที่ผ่านมาเรื่องของไดมอน มิจิโกะจะต้องมีทางแยกหัวใจให้เธอได้เจอ  ที่เจาะลึกลงกลางใจผู้ชมที่มีมิติเชิงลึก  ดังเช่นทางแยกในการผ่าตัดช่วยชีวิตเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวโจโนอุจิ ฮิโรมิ(ยูกิ อูชิดะ)  หรือการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตคนที่เป็นทั้งอาจารย์ และเป็นเหมือนบิดาที่มาบนความขัดแย้งในใจคืออากิระซัง(อิตโตคุ คิชิเบะ)  หรือกระทั่งการถ่ายทอดวิชา ทัศนคติ  และมโนสำนึกให้คนรุ่นต่อมาเพื่อผ่าตัดให้ตัวเองรอดชีวิต ซึ่งมิติเหล่านี้มันหายไปเพราะเล่าในภาพกว้างอย่างที่ว่า  และเรืองของการชิงเหลี่ยม เกมการเมืองในโรงพยาบาล  ที่เปลี่ยนคู่ต่อสู้ให้กับ ผอ.ฮิรูมะ(โทชิยูกิ นิชิดะ)ก็คลายความเข้มลง  ทำให้ประเด็นที่เล่าดูไม่เป็นปัจเจก  แม้ผู้ชมจะสัมผัสได้ซาบซึ้งใจกับความเสียสละของเหล่าแพทย์และพยาบาล  แต่มันไม่ปักลึกลงกลางใจ  ทำให้ภาพรวมของเรื่องดูตกลงไปจากซีซันก่อนๆ  เหลือเพียงความสนุกสนาน  ความเร้าใจ  และเสน่ห์ประจำตัวที่ยังเอาผู้ชมอยู่ แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ว่านี่จะเป็นงานที่แย่  กลับกันถ้าว่ากันที่ข้อจำกัดตามสถานการณ์  การทำได้ในระดับนี้รักษาอารมณ์และเสน่ห์ส่วนตัวได้ในประมาณนี้ก็จัดว่าเยี่ยม  ยังไม่รวมถึงสีสันของเหล่านักแสดงสมทบที่แม้จะหน้าเดิมๆ  แต่ก็ยังคงมีอะไรให้ผู้ชมได้รู้สึกสนุกไปด้วย  และแน่นอนว่ามาจากความผูกพัน  เมื่อตัวละครที่เห็นมานานจนเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทกัน  ยังปล่อยของได้อย่างสนุกถึงใจ  แถมยังมีการเล่าเรื่องการรักษาโรคที่อาจเน้นไปทางมะเร็งหรือเนื้องอกที่ยังดูจริง  จนทำให้เมื่อดูจบเรื่องนี้ซีซันนี้เมื่อไปดูเรื่องอื่นที่มีเรื่องของมะเร็งเข้ามา ใบหน้าของไดมอนเซ็นเซย์ก็จะลอยเข้ามาในความคิดอีกครั้งสรุปคือการขึ้นจอเป็นซีซันที่เจ็ดอาจบกพร่องไปบ้าง  ทางด้านอารมณ์เฉพาะเจาะจงแต่สิ่งที่พึงมีหรือต้องใส่มาก็ยังมาครบ  ประกอบการการที่ผู้เขียนได้ดูเรียวโกะ โยเนคุระในบทบาทที่ต่างไปใน The Journalist  จึงได้รู้ว่านี่คือยอดฝีมือที่เมื่อเปลี่ยนบทบาทการแสดง  ก็สามารถสลัดภาพจำในหัวผู้ชมออกได้  เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่การที่ผู้ชมเห็นบุคลิกแบบนี้มาตั้งเจ็ดซีซันแล้วจะไม่เป็นภาพติดตาแต่เรียวโกะ โยเนคุระก็ทำได้  และทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ผู้เขียนคงต้องติดตามผลงานที่ตามมา  ส่วนกับเรื่องนี้ในซีซันนี้แม้จะไม่เห็นว่าเธอเป็นคนแบกเรื่อง(ก็แน่ล่ะสิเพราะนี่คือเรื่องของเธอ)ทั้งหมด  เพราะอย่างที่บอกคือเลือกเล่นภาพใหญ่และกว้าง  แต่เธอก็ยังเป็นไดมอน มิจิโกะที่ผู้ชมรัก  และติดตามดูภารกิจเปลี่ยนชีวิตคนไข้และหมอรอบกายได้เรื่อยๆแล้วถ้ายังมีมาอีก  ก็คงจะดูอีก  เพราะความผูกพันระหว่างตัวละครกับผู้ชม  มันแนบแน่นเสียแล้วยังคงรับประกันว่า ถ้าดูมาทุกซีซัน ก็ยังสนุกทุกตอน โดยดูไปบ่นไปNETFLIXของคุณภาพประกอบ ภาพปก จาก Twitter TV Asahi PR テレビ朝日宣伝部ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 จาก Twitter TELASA(テラサ)เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

Doctor Me แอปฯ คู่ใจ คนรักสุขภาพ
อ่าน

Doctor Me แอปฯ คู่ใจ คนรักสุขภาพ

เนื่องด้วยผู้เขียนต้องเลี้ยงลูกเองและไม่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกมาก่อน ที่พึ่งสำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างเรา ๆ ก็เห็นจะเป็น Google และ YouTube และ แอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคนคนในยุคสมัยนี้ อย่างเช่น แอปพลิเคชันที่จะมาแนะนำในวันนี้ นั่นก็คือ Doctor Me ที่ช่วยให้เราสามารถดูแลตนเองหรือคนในครอบครัวของเราในเบื้องต้นก่อนที่จะต้องไปโรงพยาบาล หรือว่าไปพบคุณหมอตามคลินิก และบางทีการไปโรงพยาบาลหรือไปคลินิกอาจจะไม่สะดวกสำหรับท่าน เพราะถ้าไปโรงพยาบาลบางทีก็จะรอคิวยาวมาก เสียเวลานาน หรือการไปคลินิกก็กังวลว่าจะไปติดโรคอื่น ๆ จากผู้ป่วยท่านอื่นมาหรือเปล่า ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับแอปฯ นี้กันเลยดีกว่านะคะ ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me สำหรับการ Download แอปฯ Doctor Me ลงเครื่องทางผู้เขียนคงไม่แนะนำมากเพราะเชื่อว่าทุกท่านพอทำได้อยู่แล้ว แต่จะขอแบ่งปันความประทับใจในการใช้งานรวมถึงบางเมนูสำคัญให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปใช้ประโยชน์กันค่ะ  สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจแอปฯ นี้มาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ก็เพราะว่าลูกชายมีอาการปวดท้อง แล้วผู้เขียนเป็นคุณแม่มือใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และไม่รู้ด้วยว่าการปวดท้องของลูกชายน่าจะเกิดจากอะไร แต่เมื่อได้ลองโหลดแอปฯ นี้มาใช้ ระหว่างรอสามีพาลูกไปตรวจ และอยู่ระหว่างการเฝ้าดูอาการของลูก ก็ทำให้ทราบสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ถือว่าดีมาก ๆ สำหรับแอปฯ นี้ ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me สำหรับการออกแบบถือว่าทำได้น่ารักมาก เพราะว่ามีให้เราเลือกตัวละคร หรือการจำลองตัวเราเข้าไปในระบบ ตรงนี้สนุกมาก เพราะว่าสามารถเลือกลักษณะของคนในครอบครัวของเราได้ ยิ่งลูกชายลองมาทำมาเล่นด้วยกัน ก็สนุกไปอีกแบบเหมือนได้เล่นเกม แต่ได้ความรู้ทางการดูแลสุขภาพ โดยสามารถบันทึกแต่ละคนในครอบครัวของเราได้ด้วย เก็บประวัติข้อมูลของแต่ละคนได้ด้วย เรียกว่าดูแลทั้งครอบครัวได้เลย ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me ซึ่งการตั้งค่าของแต่ละบุคคลก็ทำได้ละเอียดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว จังหวัดที่เราอยู่ ที่อยู่ในเบื้องต้น รวมถึงสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยแต่ละขั้นตอนในการตั้งค่ายังมีคล้ายระบบ AI คอยแนะนำเราทีละขั้นตอนอีกด้วยตรงนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยคล่องในการใช้งานระบบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me รวมถึงยังมีเมนูสำหรับในการดูแลสุขภาพในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในกิจวัตรประจำวัน การบอกถึงการใช้พลังงานในแต่ละกิจกรรม รวมถึงเคล็ดลับเทคนิคการทางอาหารที่เป็นประโยชน์ ซึ่ง VDO ออกแบบมาได้ฮา สนุกสนานทำให้เพลิดเพลินกับการเรียนรู้ด้านสุขภาพ ทำออกมาให้เข้าใจง่ายไม่น่าเบื่อเหมือน VDO สุขภาพโดยทั่วไป ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me นอกจากการค้นหาแบบเร่งด่วนในกรณีที่เจ็บป่วยกะทันหันแล้วนั้น ยังมีให้เราได้เลือกศึกษาทีละส่วนของร่างกายของเราได้อีกด้วย ตั้งแต่ช่วงศีรษะ ตา หู จมูกปาก ไล่ไปยังลำตัว  ไปถึงส่วนล่างของร่างกาย ยังมีให้เลือกตามอาการอีกด้วย พร้อมบอกถึงสาเหตุและคำแนะนำเบื้องต้นได้อีกด้วย รวมถึงบอกถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เราอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องนั้น ๆ ได้ด้วย ทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้อีกทาง ภาพโดย Kampong (ผู้เขียน) จากแอปฯ : Doctor Me ท้ายนี้หากท่านใดยังไม่เคยลองโหลดมาใช้ แนะนำให้รีบโหลดมาใช้กันเลยนะคะ ในยุคนี้ช่วงนี้ด้วยแล้วยิ่งต้องระมัดระวังตัวกันเป็นพิเศษเพราะถ้าเราเป็นเพียงเล็กน้อยแล้วรีบป้องกันหรือว่ารักษาโดยเร็วก็จะสามารถทำให้อาการเหล่านั้นทุเลาเบาบางลงไปได้โดยที่จะได้ไม่ลุกลามเป็นไปมาก และคนรอบข้างที่คุณรักจะได้ไม่ติดไปด้วย แล้วในบทความหน้าทางผู้เขียนจะหาแอปฯ และสาระด้านสุขภาพมาแบ่งปันอีกค่ะ

ซีรีส์แนวหมอสุดเข้มข้น The Doctors ตรวจใจเธอให้เจอรัก
อ่าน

ซีรีส์แนวหมอสุดเข้มข้น The Doctors ตรวจใจเธอให้เจอรัก

ซีรีส์แนวหมอสุดเข้มข้น The Doctors ตรวจใจเธอให้เจอรักประเภท : การแพทย์/โรแมนติกจำนวนตอนทั้งหมด : 20 ตอนสามารถรับชมได้ใน Netflix และ Viu เลยนะคะปัจจุบันนี้มีพากษ์ไทยแล้วค่ะนักแสดงหลักในซีรีส์คิมแรวอน รับบทเป็น ฮงจีฮง ชายหนุ่มจิตใจดีที่มีอาชีพแพทย์แต่ล้มเลิกไปแล้วผันตัวมาเป็นคุณครูในโรงเรียนมัยมแห่งหนึ่งและเป็นคุณครูที่เป็นที่รักของนักเรียนมากมาย แต่มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งแอบชอบจีฮงมากกว่าคำว่าลูกศิษย์และครูในโรงเรียนเธอจึงเผลอถ่ายรูปครูจีฮงกับเพื่อนสาวฮเยจองที่ย้ายมาใหม่ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์เรื่องชู้สาวเกิดแล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นหลังจากนี้พัคชินเฮ รับบทเป็น ยูฮเยจอง เธอเป็นเด็กสาวที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว แม่เสียชีวิต และพ่อแต่งงานใหม่ เธอจึงถูกพ่อเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กแต่พ่อไม่เคยใส่ใจเธอเลย ซึ่งยูฮเยจองเป็นเด็กฉลาด ไอคิวสูงแต่เธอไม่ชอบเข้าเรียนและเกเรไปที่อื่นบ่อยๆจนทำให้ต้องย้ายโรงดรียนบ่อยครั้งจนวันหนึ่งเขาย้ายมาโรงเรียนแห่งหนึ่งและมรีครูประจำชั้นชื่อฮงจีฮงและครูคนนี้เข้ามาเปลี่ยนความคิดและชีวิตของเธอให้ดีขึ้นอีซึงคยอง รับบทเป็น ชินซออู เธอเป็นลูสาวของบ้านเศรษฐีที่ทางบ้านมีพร้อมทุกอย่างเพื่อประเคนให้เธอ เธอเป็นเด็กที่ค่อนข้างฉลาดและพยายามทุกอย่าง ขยันเพื่อให้มีเกรดที่ดี แต่มีความจฉาริษยา ไม่ชอบเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตัวเอง ในอดีตสมัยเรียนเธอเป็นเพื่อนกับยูฮเยจองแต่เธอกลับใส่ร้ายยูฮเยจองจนทั้งคู่ไม่อาจกลับมาเป็นเพื่อนกันดังเดิมได้พัคคยุนซัง รับบทเป็น ชองยุนโด เขาเป็นคุณหมอฝีมือดีที่อารมณ์ร้ายเป็นคุณหมอหนุ่มสุดหล่ออยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งวันหนึ่งเขาได้พบกับหมอสาวที่ย้ายเข้ามาใหม่ชื่อยูฮเยจองซึ่งตอนแรกเขาไม่ชอบเธอเพราะเธอเป็นคนพูดตรงไปตรงมามั่นใจในความคิดของตัวเองเกินไปแต่ท้ายที่สุดเขากลับมารู้หัวใจตัวเองทีหลังว่าเขาชอบความเก่งและความมุ่งมั่นในตัวฮเยจองมากเรื่องย่อของซีรีส์เรื่องราวเริ่มต้นเล่าเรื่องชีวิตของยูฮเยจองเด็กสาวที่หน้าตาน่ารัก เมื่อเด็กแม่เธอเสียชีวิตเธอจึงถูกพ่อเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆจนโตเป็นสาวเนื่องจากพ่อแต่งงานใหม่จึงทำให้เขาไม่สนใจลูกสาวสักเท่าไหร่ถมยูฮเยจองถูกพ่อนำเธอไปทิ้งไว้บ้านย่าเพราะพ่อทนกับความดื้อรั้นของเธอไม่ไหวเพราะเธอค่อนข้างเกเรและไม่สนใจเรียนชอบหนีไปเที่ยวบ่อยๆ ซึ่งที่จริงแล้วยูฮเยจองเธอเป็นเด็กฉลาดมากๆ มีความคิดสร้างสรรค์และเมื่อเธอมาอยู่กับย่าและเจอครูคนใหม่ที่จะมาขัดเกลาชีวิตของเธอให้เปลี่ยนแปลงไปถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถูกชะตากับครูแต่เธอก็ยังได้เรียนรู้มุมมองดีๆจากครูคนนี้และมันทำให้เธออยากที่จะเป็นเด็กดีเพื่อโตขึ้นเธอจะมีอาชีพที่ดีเพื่อดูแลย่าสุดที่รักของเธอได้ แต่ก็มีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหันซึ่งมันทำให้เธอคับข้องใจและจะตามหาคำตอบจนถึงที่สุดความประทับใจหลังจากดูซีรีส์จบเราประทับใจตรงที่ยูฮเยจองอยากจะมีชีวตที่ดีแต่ก็หนีไม่พ้นเรื่องราวการถูกใส่ร้ายจนทำให้ชีวิตของเธอมีแต่อุปสรรคมากมายถึงแม้เป็นเช่นนั้นเธอก็ยังมีกำลังใจที่ดีก็คือย่าที่คอยอยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอดๆมันจึงทำให้เธอมีกำลังใจแต่พอวันหนึ่งย่าเธอมาจากไปเพราะความผิดพลาดของหมอซึ่งไม่มีความรับผิดชอบใดๆต่อชีวิตย่าของเธอมันจึงทำให้เธอฮึดสู้เพื่อที่จะสืบหาความจริงจนนำพาไปสู่หน้าที่การงานที่ทำให้เธอเป็นที่เคารพแก่ผู้อื่นนั่นก็คือเธอเป็นคุณหมอ ซึ่งเป็นอาชีพที่ย่าของเธออยากให้เธอได้เป็นมาถึงจุดนี้คือเราซึ้งมากจากเด็กเกเรคนหนึ่งที่ไม่มีความคิดความฝันแต่ความคับแค้นใจและการถูกใส่ร้ายมันทำให้เธอต้องผลักดันตัวเองไปให้สุดทางซึ่งมันสะท้อนการใช้ชีวิตและเป็นเหมือนกำลังใจให้เราได้เลยจริงๆ หากวันหนึ่งเราสู้กับการใช้ชีวิตให้เต็มที่แล้วเราจะประสบความสำเร็จเอง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เอาชนะใจเราเพราะเราดูไป 7 รอบเลยค่ะ มันดีต่อความรู้สึกภายในใจมากๆเลยใครที่ชอบซีรีส์ที่ให้ข้อคิดดีๆเรื่องนี้ดีมากค่ะความสนุก 10/10 คะแนนค่ะสนุกมากตามไปดูกันได้นะคะขอขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก programs.sbs.co.krภาพปก  ภาพประกอบ  1  ,  2  ,  3  ,  4บทความอืานๆที่น่าสนใจรีวิวซีรีส์ Goblin ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ รีวิวซีรีส์ doom at your service (2021) ซีรีส์เกาหลีแฟนตาซีส่อง ซีรีส์ My ID Is Gangnam Beauty ไอดีของฉันคือดอกไม้พลาสติก ซีรีส์สุดฟิน What's Wrong with Secretary Kim รักมั้ยนะเลขาคิม?ซีรีส์ The King: Eternal Monarch จอมราชันบัลลังก์อมตะ 2020ซีรีส์ When The Camellia Bloomsซีรีส์รัก Youth of May 2021ซีรีส์ While You Were Sleeping ลิขิตฝันฉันและเธอซีรีส์กฎหมายสุดมันส์ Law School ชีวิตนักเรียนกฎหมายซีรีส์ Voice สัมผัสเสียงมรณะ Season 1                          

ช่อง3 Family เสิร์ฟรายการ The Doctor คุณหมอรอบรู้  ล้วงลึกสุขภาพ
อ่าน

ช่อง3 Family เสิร์ฟรายการ The Doctor คุณหมอรอบรู้ ล้วงลึกสุขภาพ

คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด กับรายการสาระดีๆ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย รายการชื่อดังส่งตรงจากอเมริกา The Doctor: คุณหมอรอบรู้ กับการพูดคุยปัญหาสุขภาพโดยทีมงานแพทย์มืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่างๆ ให้คุณผู้ชมเตรียมพร้อมรับมือกับทุกๆ โรค ปัญหาเรื่องสุขภาพเป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีวิธีเรียนรู้หลีกเลี่ยง ป้องกัน และรักษา ช่อง3 Family (ช่อง13) ไม่รอช้าคว้าลิขสิทธิ์รายการสุขภาพชื่อดังจากอเมริกามานำเสนอเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพกับรายการที่รวมเหล่าสุดยอดทีมแพทย์มืออาชีพผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาด้านโรคต่างๆ มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพต่างๆ และตอบคำถามจากผู้ชมที่ไม่กล้าที่จะไปถามแพทย์ของพวกเขาเอง พร้อมกับกรณีศึกษาเกี่ยวกับโรคของคนไข้ที่เจ็บป่วยทางกายหรือมีอาการบ่งชี้โรค ให้ผู้ชมในห้องส่งได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และผู้ชมอาจจะพบว่า ปัญหาสุขภาพบางอย่าง ก็อยู่ใกล้ตัวจนเราแทบไม่เคยทราบและสนใจเลย เตรียมพร้อมรับมือกับทุกโรค กับข้อมูลที่อัดแน่นตลอด 1 ชั่วโมงในรายการ The Doctor: คุณหมอรอบรู้ ออกอากาศทุกวันพฤหัสและศุกร์ เวลา 07.00-08.00 น. และรีรันวันเดียวกันเวลา 22.30-23.30 น.ทางช่อง3 Family (ช่อง13) ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety

รีวิว Doctor's Mine หมอน่ารักคนนี้เป็นของผม 2025
อ่าน

รีวิว Doctor's Mine หมอน่ารักคนนี้เป็นของผม 2025

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ เรื่อง Doctor's Mine หมอน่ารักคนนี้เป็นของผม มาวันแรกวันที่ 20 กรกฎาคม 2025 มีทั้งหมด 10 ตอน ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 23:00 น. ทางช่อง 9 นำแสดงโดยหล่งซื่อ ลี ที่มารับบท ไนต์ ประกบคู่กับอาร์ม ชัยภัทร ที่มารับบท มายด์ บอกเล่าเรื่องราวความรักอันแสนวุ่นวายของนักศึกษาคณะแพทย์กับวิศวะ เรื่องราวจะสนุกแค่ไหนเชิญไปอ่านกันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เป็นเรื่องราวของไนต์ที่เป็นนักศึกษาคณะวิศวะ เขาไปมีเรื่องกับมัสพี่ชายของมายด์ที่เป็นนักศึกษาคณะแพทย์เพราะมัสไปแย่งแฟนเขา มายด์ไปห้ามและได้ต่อยไนต์เพราะต้องการให้ทั้งคู่หยุดต่อยกัน แต่ดันโดนคนถ่ายรูปไว้ทำให้มายด์โดนคนคณะวิศวะที่เป็นแฟนคลับไนต์มาหาเรื่อง มายด์เลยโกหกไปว่าเขาเป็นเมียไนต์ซึ่งไนต์ก็มาได้ยินพอดีเลยไปจูบมายด์ ต่อมาทั้งคู่ต้องมาทำละครเวทีด้วยกัน ตอนแรกครูจะให้ไนต์เล่นเป็นโรมิโอ แต่ไนต์มีข้อแม้ว่าคนที่เล่นเป็นจูเลียตต้องเป็นมายด์เท่านั้น สุดท้ายครูเลยให้ทั้งคู่เล่นคู่กัน ยังมีหมอกันต์นักศึกษาคณะแพทย์ที่โดนแฟนนอกใจเลยไปมีอะไรกับเปอร์นักศึกษาคณะวิศวะ เรื่องราวอันแสนวุ่นวายของคณะแพทย์กับวิศวะจะจบลงอย่างไรก็ต้องไปดูกัน ไนต์เป็นนักศึกษาเรียนอยู่คณะวิศวะ เป็นเดือนมหาวิทยาลัยและยังเป็นถึงเฮดว้ากปี 4 ดูทรงแล้วน่าจะชอบมายด์ไม่น้อยเพราะพอมายด์บอกว่าเป็นเมียเขาก็เข้าไปจูบมายด์ น่าจะเคยรู้จักมายด์มาก่อนเพราะเขาบอกว่าครั้งนี้จะไม่ปล่อยมายด์ไปอีกแล้ว เรื่องนี้หล่งซื่อ ลีเล่นออกมาได้ดูเป็นคนนิ่งๆ เท่ๆ แต่ก็ดูอบอุ่น มายด์เป็นนักศึกษาเรียนอยู่คณะแพทย์ มีพี่ชายชื่อมัสอยู่คณะวิศวะ มัสเคยเป็นเพื่อนกับไนต์แต่มาแตกคอกันเพราะมัสไปแย่งแฟนไนต์ตอนมัธยม เวลามีเรื่องอะไรมัสก็พร้อมบวกตลอด ที่มายด์บอกแฟนคลับไนต์ว่าเป็นเมียไนต์เพราะเขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากลัว เรื่องนี้อาร์มเล่นออกมาได้ดูใจเย็น น่ารัก เสื้อผ้าและคอสตูมทำออกมาได้ดูเหมาะกับบริบทเนื้อเรื่อง ชุดไนต์จะเป็นเสื้อช็อปของคณะวิศวะที่ใส่ออกมาคือเท่มาก ส่วนชุดมายด์ก็เป็นชุดนักเรียนหมอและชุดนักศึกษาที่ใส่ออกมาคือหล่อละมุน ฉากก็ทำออกมาได้ดูสวยงาม เป็นฉากในมหาวิทยาลัยซะส่วนใหญ่ ดูใหญ่โต และฉากอื่นๆ ก็เลือกโลเคชั่นได้ดี ส่วนตัวเป็นคนชอบดูซีรีส์วายแนวมหาวิทยาลัยอยู่แล้วทำให้คาดหวังกับเรื่องนี้มาก แถมเรื่องนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวความรักของนักศึกษาคณะวิศวะและคณะแพทย์ที่เป็นคณะที่ชอบนำมาทำซีรีส์วายอีก ทำให้อินเข้าไปอีก เคมีนักแสดงเรื่องนี้ก็ดีมาก เคมีเข้ากันสุดๆ ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกดราม่าที่ดูสนุก พล็อตเรื่องคือเป็นเรื่องราวความรักของนักศึกษาคณะวิศวะและนักศึกษาคณะแพทย์ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของคนสองคู่คือไนต์มายด์และเปอร์กันต์ เดินเรื่องได้ไม่ช้าจนเกินไป ค่อยๆ เล่าความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาของทั้งสองคู่ ใครชอบแนวนี้ไปตามได้ค่ะ ซีรีส์วายที่น่าสนใจช่วงนี้ รีวิว จาฤกรติชา Memoir Of Rati 2025 เกรท อิน รีวิว Reset การเกิดใหม่ของดวงดาว 2025 ปีเตอร์แพน ปอนด์ รีวิว เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2025 รีวิว ฉันคอยเธอ I Promise I Will Comeback 2025 รีวิวซีรีส์ KNOCK OUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ 2025 อ้างอิง ภาพปก ตกแต่งโดย canva ภาพที่1-2, ภาพที่3-4 ขอบคุณภาพจาก X: Doctor'sMine จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิวซีรีส์จีน เฉินฮุยคุณหมอหัวใจอัจฉริยะ(2024) Fantastic Doctors ทาง TrueID
อ่าน

รีวิวซีรีส์จีน เฉินฮุยคุณหมอหัวใจอัจฉริยะ(2024) Fantastic Doctors ทาง TrueID

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์จีนของทาง TrueID เรื่อง เฉินฮุยคุณหมอหัวใจอัจฉริยะ Fantastic Doctors มีทั้งหมด 16 ตอน ตอนละ 45 นาที มาวันแรกวันที่ 7 มีนาคม 2024 ออกอากาศทั้งซับไทยและพากย์ไทยทุกวันวันละ 2 ตอน นำแสดงโดยจางหว่านอี้ รับบท เฉินฮุย และเจียงเพ่ยเหยา รับบท หยวนเหย่เป็นเรื่องราวของเฉินฮุยพระเอกของเรื่องที่เป็นแพทย์ประจำบ้านซึ่งตอนแรกถูกรองผู้อำนวยการคัดชื่อออกเพราะเขานั้นเป็นโรคที่บกพร่องทางการสื่อสารโดยรองผู้อำนวยการเห็นว่าไม่เหมาะจะมาเป็นแพทย์รักษาควรไปทำงานวิจัยมากกว่า แต่ผู้อำนวยการกลับไม่คิดเช่นนั้นเพราะพระเอกนั้นมีประวัติที่โดดเด่น เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์จึงยืนยันจะรับพระเอกไว้ รองผู้อำนวยการจึงบอกให้จัดประชุมหัวหน้าแผนกและร่วมกันสัมภาษณ์พระเอก จากนั้นให้ทุกคนโหวตตัดสินว่าจะรับพระเอกไหม ส่วนพระเอกนั้นก่อนมาที่โรงพยาบาลก็ได้เจอเด็กบาดเจ็บจึงเข้าไปช่วยทำให้มาสัมภาษณ์สาย รองผู้อำนวยการจึงให้โหวตไปเลย ปรากฏว่าผลโหวตออกมาเสมอ เหลือแค่หัวหน้าแผนกศัลยกรรมที่ต้องออกไปก่อนเพราะติดเคสด่วนซึ่งก็คือเคสเด็กบาดเจ็บที่พระเอกช่วยไว้ พระเอกพยายามเข้าไปบอกหมอผ่าตัดว่าให้ทำเอคโค่แต่ไม่มีใครฟัง สุดท่ายหยวนเหย่นางเอกของเรื่องที่เห็นอาการเด็กและจำได้ว่ามีคนบอกให้ทำเอคโค่เลยบอกหัวหน้า หัวหน้าเลยให้ไปตามพระเอกมา สุดท้ายก็ช่วยชีวิตเด็กได้ทำให้พระเอกได้ทำงานที่นี่พระเอกมีปมในใจมาตั้งแต่เด็กเพราะความรุนแรงในครอบครัวและยังเสียพี่สาวไป เป็นคนเจ้าระเบียบ คิดอะไรเป็นระบบ ดูภายนอกเป็นคนนิ่งๆ ไม่สนใจใคร แต่พอเห็นคนเจ็บก็รีบเข้าไปช่วยทันทีเพราะเขาบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครตายเหมือนพี่สาวตน เขานั้นเป็นโรคที่ทำให้การสื่อสารบกพร่อง แต่กลับเป็นหมอที่เก่งมาก วินิจฉัยแม่นสุดๆ นักแสดงแสดงได้ดูนิ่งๆ แต่จิตใจดีนางเอกเป็นรองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาลผู่อวิ๋น เป็นคนเก็บรายละเอียดได้ดี ทั้งยังปะติดปะต่อเรื่องได้ดี ตอนเจอพระเอกครั้งแรกก็จำได้ว่าเขาพยายามพูดให้ทำเอคโค่หัวใจ แต่เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่าพระเอกเป็นหมอเลยไม่ได้สนใจ แต่พอมาห้องผ่าตัดและเห็นอาการคนไข้ก็ได้บอกหัวหน้าว่ามีคนบอกให้ทำเอคโค่ทำให้สุดท้ายช่วยชีวิตคนเจ็บได้ เป็นคนอัธยาศัยดี ถึงแม้จะเห็นพระเอกแปลกๆ แต่ก็เข้ามาคุยปกติ นักแสดงแสดงได้ดูสวย น่ารักเสื้อผ้าทำออกมาได้เข้ากับบทบาทของแต่ละตัวละคร ส่วนใหญ่เป็นชุดกราวน์ที่ใส่คลุมชุดทำงาน ซึ่งชุดทำงานที่อยู่ข้างในชุดกราวน์จะมีความแตกต่างกันไปตามบุคลิกและนิสัยของแต่ละคน ถือว่าทำได้ดี ฉากก็มีความสมจริง ส่วนใหญ่เป็นฉากในโรงพยาบาลที่มีทั้งห้องทำงาน ห้องผ่าตัด ห้องประชุมพล็อตเรื่องคือพระเอกที่จบการศึกษามาจากวิทยาลัยทางการแพทย์ด้วยคะแนนดีเยี่ยม แม้ว่าเขาจะมีภาวะอาการแอสเพอร์เกอร์ คือเป็นผู้ที่มีสติปัญหาเหนือล้ำกว่าใครแต่กลับแสดงออกทางสังคมไม่เก่ง เขานั้นได้มาทำงานที่แผนกศัลยแพทย์ ประจำโรงพยาบาลผู่อวิ๋น แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเข้าสังคม ทำให้กระบวนการวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยของเขามักจะถูกเข้าใจผิดและได้รับคำร้องเรียนอยู่เสมอ ทางคณะกรรมการโรงพยาบาลจึงตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นแพทย์ของเขาทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ก่อนจะลุยมุ่งมั่นเป็นหมอผ่าตัดต่อไปอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวชีวิตแพทย์ที่เป็นโรคที่บกพร่องทางการสื่อสาร ดูแล้วจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ จากโรคที่พระเอกเป็นและเห็นความตั้งใจในการเป็นแพทย์ของพระเอก ดูแล้วจะเอาใจช่วยให้พระเอกผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ซึ่งทำออกมาได้ดูสนุกมาก อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1-4 ขอบคุณภาพจาก weibo: 电视剧非凡医者บทความรีวิวซีรีส์จีนที่กำลังออนแอร์รีวิวซีรีส์จีน เล่ห์รักแดนสนธยา(2024) Dusk Love ทาง WeTV นำแสดง #ไต้เกาเจิ้ง #อันหย่งช่าง #มีนาน่าดูรีวิวซีรีส์จีน ภูตสาวป่วนใจใต้เท้าหมอยา(2024) The Divine Healer ทาง TrueIDรีวิวซีรีส์จีน อย่ารักฉันเลย(2024) Everyone Loves Me ทาง YOUKU นำแสดง หลินอี , โจวเย่รีวิวซีรีส์จีน ร้อยเล่ห์คะนึงรัก(2024) Miss You Forever ทาง iQIYI #มีนาน่าดูเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ประวัติ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) ผู้รับบท Doctor Strange
อ่าน

ประวัติ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) ผู้รับบท Doctor Strange

ประวัติ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) มีชื่อจริงเต็มๆว่า เบเนดิกต์ ทิโมที คาร์ลตัน คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Timothy Carlton Cumberbatch) นักแสดงชายชาวอังกฤษ เกิดวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1976 เบเนดิกต์มีผลงานในวงการบันเทิงหลากหลาย อาทิ โทรทัศน์ วิทยุ ละครเวที และภาพยนตร์ และด้วยเป็นนักแสดงมากฝีมือทำให้เขากวาดรางวัลมาแล้วอย่างมากมาย ประวัติ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) บทบาทการแสดงเด่นของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch) ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกจากการรับบทเป็นยอดนักสืบ Sherlock Holmes ในซีรีส์เรื่อง Sherlock ตั้งแต่ปีค.ศ. 2010 - 2017 ในส่วนของภาพยนตร์ในปีค.ศ. 2011 เขารับบทเป็น ปีเตอร์ กวิลเลม ในเรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy , รับบท ข่าน ในเรื่อง Star Trek Into Darkness และรับบทเป็นมังกรสม็อค ในเรื่อง The Hobbit: The Desolation of Smaug ในปีค.ศ. 2016 เบเนดิกต์ได้ร่วมงานกับทาง Mavel ด้วยการรับบทเป็น ดอกเตอร์ สเตรนจ์ ในภาพนยตร์เรื่อง Doctor Strange และได้ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อีกหลายเรื่อง และในปีค.ศ. 2022 เบเนดิกต์ ด็ได้กลับมารับบท ดอกเตอร์ สเตรนจ์ ในหนังเดี่ยวของตัวเองเรื่อง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ผลงานการแสดง ภาพยนตร์ ปีค.ศ. 2022 Doctor Strange in the Multiverse of Madness รับบท Dr. Stephen Strange ปีค.ศ. 2021 Spider-Man: No Way Home รับบท Doctor Strange The Electrical Life of Louis Wain รับบท Louis Wain The Power of the Dog รับบท Phil Burbank Sleep Sound - The Legend of Drizzt ให้เสียงบรรยาย The Mauritanian รับบท Stuart Couch ปีค.ศ. 2020 The Courier รับบท Greville Wynne ปีค.ศ. 2019 The Tiger Who Came to Tea พากย์เสียง Daddy 1917 รับบท Colonel Mackenzie Between Two Ferns: The Movie รับบท Benedict Cumberbatch Avengers: Endgame รับบท Doctor Strange Brexit รับบท Dominic Cummings Mowgli: Legend of the Jungle พากย์เสียง Shere Khan ปีค.ศ. 2018 The Grinch พากย์เสียง The Grinch Avengers: Infinity War รับบท Doctor Strange ปีค.ศ. 2017 Thor: Ragnarok รับบท Doctor Strange The Child in Time รับบท Stephen Lewis The Current War: Director's Cut รับบท Thomas Alva Edison ปีค.ศ. 2016 Richard III: Deleted Scenes รับบท Richard III Doctor Strange รับบท Dr. Stephen Strange Zoolander 2 รับบท All ปีค.ศ. 2015 Hamlet รับบท Hamlet - Prince of Denmark Black Mass รับบท Billy Bulger ปีค.ศ. 2014 9 Kisses รับบท Man at Costume Party The Hobbit: The Battle of the Five Armies รับบท Smaug / Necromancer Penguins of Madagascar พากย์เสียง Classified The Imitation Game รับบท Alan Turing ปีค.ศ. 2013 The Hobbit: The Desolation of Smaug รับบท Smaug / Necromancer (voice) Fifty Years on Stage รับบท Rosencrantz Little Favour รับบท Wallace August: Osage County รับบท Little Charles Aiken The Fifth Estate รับบท Julian Assange 12 Years a Slave รับบท Ford Star Trek Into Darkness รับบท Khan ปีค.ศ. 2012 How to Behave รับบท Humphrey Bogart The Hobbit: An Unexpected Journey รับบท Necromancer Girlfriend in a Coma รับบท Dante (voice) Tinker Tailor Soldier Spy: Deleted Scenes รับบท Peter Guillam ปีค.ศ. 2011 Wreckers รับบท David War Horse รับบท Maj. Jamie Stewart Tinker Tailor Soldier Spy รับบท Peter Guillam Frankenstein รับบท The Creature / Victor Frankenstein ปีค.ศ. 2010 The Whistleblower รับบท Nick Kaufman Third Star รับบท James Painted with Words รับบท Vincent Van Gogh Four Lions ให้เสียพากย์บรรยาย ปีค.ศ. 2009 Creation รับบท Joseph Hooker Burlesque Fairytales รับบท Henry Clark ปีค.ศ. 2008 The Other Boleyn Girl รับบท William Carey ปีค.ศ. 2007 Stuart: A Life Backwards รับบท Alexander Masters Atonement รับบท Paul Marshall Inseparable รับบท Joe / Charlie ปีค.ศ. 2006 Amazing Grace รับบท William Pitt Starter for 10 รับบท Patrick Watts ปีค.ศ. 2004 Hawking รับบท Stephen Hawking Dunkirk รับบท Lt Jimmy Langley ปีค.ศ. 2003 To Kill a King รับบท Royalist ปีค.ศ. 2002 Hills Like White Elephants รับบท The Man Fields of Gold รับบท Jeremy ผลงานโทรทัศน์ ปีค.ศ. 2021 What If...? รับบท Doctor Strange / Strange Supreme Great British Theatre รับบท Frankenstein ปีค.ศ. 2020 James and the Giant Peach with Taika and Friends รับบท Aunt Spiker ปีค.ศ. 2019 Good Omens รับบท Satan ปีค.ศ. 2018 Patrick Melrose รับบท Patrick Melrose ปีค.ศ. 2016 The Hollow Crown รับบท Richard III / Richard ปีค.ศ. 2013 The Simpsons รับบท Quilloughby / Severus Snape / Prime Minister ปีค.ศ. 2012 Parade's End รับบท Christopher Tietjens ปีค.ศ. 2011 Curiosity ให้เสียงพากย์บรรยาย ปีค.ศ. 2010 Sherlock รับบท Sherlock Holmes ปีค.ศ. 2009 Small Island รับบท Bernard Theatre Live! รับบท Guy Burgess ปีค.ศ. 2008 Marple รับบท Luke Fitzwilliam The Last Enemy รับบท Stephen Ezard ปีค.ศ. 2005 Broken News รับบท Will Parker To the Ends of the Earth รับบท Edmund Talbot Nathan Barley รับบท Robin ปีค.ศ. 2003 Fortysomething รับบท Rory Slippery MI-5 รับบท Jim North Cambridge Spies รับบท Edward Hand ปีค.ศ. 2002 Silent Witness รับบท Warren Reid Tipping the Velvet รับบท Freddy ปีค.ศ. 1998 Heartbeat รับบท Toby Fisher / Charles / Party Guest ขอบคุณภาพจากไอจี @benedictcumberbatch_221b https://www.instagram.com/benedictcumberbatch_221b อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : มหึมาศึกกับตัวละครลับโผล่เพียบ ในทีเซอร์ใหม่ "Doctor Strange in the Multiverse of Madness" เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ รู้ตัวช้าไปครึ่งวันว่าได้เข้าชิงออสการ์ เพราะว่าเขาหลับ ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม benedictcumberbatch_221b

Cover Letter คืออะไร? เขียนยังไงให้ถูกใจ HR
อ่าน

Cover Letter คืออะไร? เขียนยังไงให้ถูกใจ HR

ช่วงนี้อ้อมแอบเบื่อนิดๆ ค่ะ อยากเปลี่ยนงาน ไม่รู้เบื่องานหรือเบื่อคน วันนี้เลยมีโอกาสเขียน Cover Letter ก็เลยเอาเรื่อง Cover Letter มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังค่ะ โดยถ้าเปรียบ Cover Letter เป็นหนังรักโรแมนติก มันก็คือ ฉากสารภาพรักสุดซึ้ง ที่คุณต้องขายความดีงามของตัวเองให้ HR เห็นว่า “คุณนี่แหละใช่เลย! คู่แท้ที่บริษัทตามหา!” มันคือจดหมายแนะนำตัวที่คุณเขียนเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงเหมาะกับงานนี้ และเป็นโอกาสเดียวที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้แค่สมัครเล่นๆ แต่ตั้งใจมาเพื่อเปลี่ยนเกม!   Cover Letter ต้องเขียนยังไงถึงจะปัง? อย่าห่วงว่าจะต้องเป็นทางการจนเคร่งเครียด แต่ให้เขียนในแบบที่ HR อ่านแล้วยิ้มแบบ “เออ...น่าสนใจนะ” 1. เปิดตัวให้ประทับใจ อย่าเริ่มด้วย "ดิฉันอยากสมัครงานค่ะ" เอาให้มีพลัง! ยิ่งเป็นตัวเองมากเท่าไหร่ยิ่งดี เช่น: ภาษาไทย: "สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่ออ้อมค่ะ กำลังสมัครตำแหน่ง Content Writer ที่บริษัท ABC ดิฉันเชื่อว่าความบ้าพลังและคลังไอเดียของดิฉันเหมาะมากกับงานนี้ค่ะ!" ภาษาอังกฤษ: "Hi! My name is Aom, and I’m thrilled to apply for the Content Writer position at ABC Company. With my passion for creativity and love for storytelling, I believe I can bring fresh ideas to your team."   2. ใส่จุดขายแบบป้ายไฟแฟลช นี่แหละหัวใจสำคัญ! บอกเลยว่าคุณเจ๋งยังไง มีอะไรที่โดดเด่น เช่น: ภาษาไทย: "ดิฉันมีประสบการณ์เขียนบทความ SEO ที่ดันยอดเว็บไซต์จนคนอ่านทะลุหลักแสน! พร้อมทั้งทักษะการเขียนที่ทำให้ทุกคำไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ แต่เป็นประสบการณ์ที่คนอยากแชร์ต่อค่ะ" ภาษาอังกฤษ: "I have hands-on experience in crafting SEO articles that boosted website traffic to over 100,000 readers. Every piece I write is more than just words—it’s an experience readers love to share." 3. ชมบริษัทแบบเนียนๆ อ้อนนิดๆ พูดให้ดูว่าเรารู้จักเขาจริง! เช่น: ภาษาไทย: "ดิฉันชื่นชมที่บริษัท ABC มีเป้าหมายชัดเจนในการเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์สร้างสรรค์ และดิฉันมั่นใจว่าประสบการณ์ของดิฉันจะช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทไปได้ไกลกว่าเดิมค่ะ" ภาษาอังกฤษ: "What I love most about ABC Company is its clear vision to lead in creative content. I’m confident that my expertise can contribute to achieving even greater success." 4. ปิดท้ายให้น่ารัก น่าจดจำ อย่าจบแบบห้วนๆ! ขอให้ทิ้งความประทับใจไว้ เช่น: ภาษาไทย: "สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านจดหมายของดิฉัน หวังว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยเพื่อแสดงความตั้งใจและพลังของดิฉันให้เห็นจริงๆ ค่ะ" ภาษาอังกฤษ: "Thank you for taking the time to read my letter. I look forward to discussing how my enthusiasm and energy can contribute to your team." เคล็ดลับแบบอ้อมให้ Cover Letter ต๊าซสุด ไม่ต้องพยายามทางการเกิน: เป็นตัวเองแต่ยังมืออาชีพ เลี่ยงสำเนาซ้ำ: HR จะดูออกว่าใช้คำเดิมส่งทุกบริษัท ใส่ความจริงใจ: ยิ่ง HR รู้สึกว่าคุณ "จริงใจ" เขาจะยิ่งอยากเจอคุณ อ่านทวนก่อนส่ง: พิมพ์ผิดแค่ตัวเดียว...ชีวิตเปลี่ยน   ตัวอย่าง Cover Letter ภาษาไทยสไตล์อ้อม เรียน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่ออ้อมค่ะ กำลังสมัครตำแหน่ง Content Writer ที่บริษัท ABC ซึ่งได้ทราบข่าวการรับสมัครจาก JobThai ดิฉันมั่นใจว่าความบ้าพลังและคลังไอเดียของดิฉันเหมาะมากกับงานนี้ค่ะ! ดิฉันมีประสบการณ์เขียนบทความ SEO ให้เว็บไซต์ชั้นนำ เช่น [ชื่อเว็บไซต์] ทำให้ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 30% ภายใน 3 เดือน รวมถึงมีทักษะการเขียนที่เปลี่ยนตัวหนังสือธรรมดาให้เป็นคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจคนอ่านจนกดแชร์ ที่สำคัญ ดิฉันชื่นชมความตั้งใจของบริษัทที่มุ่งสร้างคอนเทนต์สร้างสรรค์และเปี่ยมคุณภาพ ดิฉันหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่น่าประทับใจนี้ค่ะ สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่สละเวลาอ่านจดหมายของดิฉัน หวังว่าจะได้พบกันในสัมภาษณ์ค่ะ ด้วยความเคารพ อ้อม   ตัวอย่างภาษาอังกฤษ Dear Hiring Manager, Hi! My name is Aom, and I’m thrilled to apply for the Content Writer position at ABC Company. With my passion for creativity and storytelling, I believe I’m the perfect fit for your team. I have hands-on experience crafting SEO content that boosted website traffic by 30% in three months. My unique approach transforms simple words into engaging content that readers love to share. What I love most about ABC Company is its vision for producing high-quality, innovative content. I’m eager to contribute my skills and energy to help the team achieve even greater success. Thank you for considering my application. I look forward to the opportunity to discuss my qualifications further. Sincerely, Aom   สรุป การเขียน Cover Letter ไม่ใช่เรื่องยาก แค่เล่าให้เหมือน "ขอพื้นที่ขายของแบบมีเสน่ห์" ยังไง HR ก็ต้องหันมามองคุณแน่นอน! 😊   อ้างอิง ภาพจาก www.pixabay.com / ภาพที่ #1 user Bru-nO / ภาพที่ #2 user olilynch / ภาพที่ #3 user BiljaST / ภาพที่ #4 user LetsFAME ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิว Doctor Strange in the Multiverse of Madness หมอแปลกในมัลติเวิร์สมหาภัย
อ่าน

รีวิว Doctor Strange in the Multiverse of Madness หมอแปลกในมัลติเวิร์สมหาภัย

เข้าฉายไปเรียบร้อยสำหรับ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่มีการปล่อยตัวอย่างในช่วงต้นออกมาอย่างยิ่งใหญ่และทยอยปล่อยออกมารัวๆ เรียกได้ว่า เป็นปีทองของสาวก Marvel จริงๆเลยค่ะ ทั้งซีรีส์และหนังที่ปล่อยออกมาล้วนมีกระแสตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย รวมถึงหนังเรื่องนี้อีกด้วย https://www.instagram.com/p/Cc2YB-VJ7-D/?igshid=YmMyMTA2M2Y=เรื่องย่อ Dr.strange รับบทโดย Benedict Timothy arlton Cumberbatch ได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจาก Wanda รับบทโดย Elizabeth Chase Olsen ที่ได้ปลีกตัวเองออกมาอยู่คนเดียว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ West view โดย Dr.strange ได้ขอให้ Wanda มาช่วยเหลือเกี่ยวกับมัลติเวิร์สหรือพหุจักวาล ที่ Dr.strange ได้เปิดประตูเชื่อมระหว่างมิติภพ ทำให้อันตรายจากจักรวาลอื่นคืบคลานเข้ามา และเพื่อป้องกันไม่ให้โลกพบกับอันตราย Dr.strange จะปกป้องโลกใบนี้และจักรวาลนี้ได้อย่างไรต้องติดตามชมในโรงภาพยนตร์กันนะคะ^^https://www.instagram.com/p/CcO9RWwvD3c/?igshid=YmMyMTA2M2Y=รีวิว จากการปล่อยตัวอย่างออกมาให้ช่วงแรกของหนังเรื่องนี้ ก็เกิดกระแสฮือฮาและมีทฤษฎีเกี่ยวกับการปรากฏตัวของตัวละครจากจักรวาลอื่นๆมากมาย รวมทั้งกลุ่ม อิลลูมินาติ ที่เคยปรากฏอยู่ใน Iron man 2  ทฤษฎีเกี่ยวกับวานด้า ว่าจะมาเป็นตัวร้ายหรือดี  พลังของวานด้าและหมอแปลกใครจะเหนือกว่ากันในฐานะที่เราเป็นแฟนของ Marvel ให้ความรู้สึกคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ เพราะแค่ดูตัวอย่างก็รู้สึกได้ถึงสเกลหนังที่ใหญ่ CG อลังการ ภาพสวยน่าประทับใจมาก และไม่มีผิดหวังเลยล่ะค่ะและด้วยได้ผู้กำกับอย่าง แซม ไรมี่ มาก็ทำให้หนังเรื่องนี้ยกระดับความเป็นหนังฮีโร่ที่มีความหลากหลายทางอารมณ์มากขึ้น และมีการเพิ่มในด้านความ Horror  ซึ่งเป็นสิ่งที่น้อยมากที่หนังฮีโร่จะหยิบมาเล่า  ในส่วนนี้ทำออกมาดีมากค่ะ สำหรับเราเรื่องนี้ได้ไป 9 คะแนน ในเรื่อง CG ความภาพสวย ฉากอลังการ เนื้อเรื่องเป็นสิ่งคาดเดาแทบไม่ได้เลยค่ะในเรื่องนี้เพราะด้วยความที่เป็นพหุจักรวาล ทำให้คนดูต้องคอยลุ้นแบบนั่งไม่ติดเลยล่ะค่ะ555555 ในหนังเรื่องนี้จะทำให้เรามองเห็นในมุมของ วานด้าว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างและผจญกับความรู้สึกนั้นอย่างไร แอบกระซิบว่าต้องมีคนเสียน้ำตาแน่ๆค่ะ ส่วนตัวเราเองที่ได้ติดตามดูหนังแยกของตัวละครบางตัวที่ออกมา เรารู้สึกว่าพลังของตัวละครลดลงและใช้งานได้น้อยกว่าในหนังของตัวเอง อีกส่วนนึงเพราะดีเทลเรื่องนี้ค่อนข้างจะเยอะ คนที่ไม่ได้ตามจักรวาล Marvel มากนักอาจจะเกิดความสับสนว่าเรื่องเป็นมายังไง ตัวละครนี้มาจากไหน เราจึงขอแนะนำว่าให้ทุกคน ไปดูหนังหรือซีรีส์ภาคแยกมาก่อนนะคะ เพราะว่ามันจะทำให้เราเข้าใจการตัดสินใจของตัวละคร รวมถึง ภูมิหลังและพลังของตัวละครด้วย ส่วนซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดก่อนไปดูก็มี WandaVision, Dr.strange1 ,Loki , Spider Man No Way Home และ What if เพื่อที่จะเข้าใจเนื้อเรื่องได้มากขึ้นค่ะถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ เป็นหนังที่เซอร์วิสและเซอร์ไพรส์แฟนๆ แบบจัดเต็ม ตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็โพล่มาให้เห็นกัน เนื้อเรื่องที่เชื่อมโยงกันจนต้องร้องอ๋อ ออกมา รวมถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง บท นักแสดง ทำให้หนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าแทบจะสมบูรณ์แบบตามฉบับของหนังฮีโร่เลยล่ะค่ะ และที่สำคัญใครเป็นแฟนคลับของวานด้า ต้องดูเลยนะคะ ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด555555 จนคนที่ไปดูมาเรียบร้อยแล้วแซวว่าหนังเรื่องนี้ควรจะชื่อวานด้าในมัลติเวิร์สมหาภัยแทนหมอแปลกเลยค่ะ55555  ว่าแล้วก็เก็บเข้า list หนังขึ้นหิ้งของ Marvel ไปเลยยย สามารถชมรับได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ https://www.instagram.com/p/CcCMt9QpSI3/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CdIV2awLz95/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ขอบคุณภาพจาก Instagram: marvelthailandภาพปก/ภาพที่1/ภาพที่2/ภาพที่3/ภาพที่4อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่ ฟังเพลงฮิตสุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

รีวิว Harry Potter and the Prisoner of Azkaban
อ่าน

รีวิว Harry Potter and the Prisoner of Azkaban

เครดิตภาพ WarnerBrosภาพยนตร์ชุดแฮร์รี่พอตเตอร์ ซึ่งเดินทางมาถึงภาคที่ 3 โดยที่นักแสดงนำทุกคนเริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว จากภาคนี้ไปหนังจะดำเนินไปในเชิงของหนังวัยรุ่น ไม่มีแววความเป็นหนังเด็กใส ๆ อีกแล้วหนังเล่าถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Daniel Radcliffe) ต้องใช้ชีวิตช่วงซัมเมอร์กับครอบครัววิสลีย์ ครอบครัวที่แสนน่าเบื่อของเขา และความเลวร้ายก็ทวีมากขึ้นอีกเมื่อป้ามาร์จ (Pam Ferris) พี่สาวของลุงเวอร์นอนมาเยี่ยมบ้าน แล้วพูดจาเหยียดหยามแฮร์รี่ จนแฮร์รี่ทนไม่ไหวเสกให้ป้ามาร์จพองลมลอยขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อได้สติแฮร์รี่ก็นึกขึ้นได้ว่าการใช้เวทย์มนต์นอกโรงเรียนถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงได้ออกจากบ้านและได้ขึ้นรถเมล์อัศวินราตรี ที่โฉบมารับเขาเพื่อไปส่งยังร้านหม้อใหญ่รั่ว ทำให้แฮร์รี่ได้พบกับรัฐมนตรีแห่งกระทรวงเวทย์มนตร์ คอร์นีเลียส ฟัดจ์ (Robert Hardy) และพบเรื่องน่าประหลาดใจที่เขายังไม่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนฮอร์กวอร์ตและยืนยันว่าจะได้กลับไปเรียนอย่างแน่นอนเครดิตภาพ Facebook Officialและแฮร์รี่ก็ได้รู้ความจริง สาเหตุที่ว่าทำไมเขายังไม่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เพราะตอนนี้ซีเรียส แบล็ค (Gary Oldman) นักโทษที่อันตรายได้แหกคุกออกมา โดยเขาว่ากันว่าซีเรียสเป็นลูกน้องตัวสำคัญของลอร์ดโวลเดอร์มอร์และแหกคุกออกมาเพื่อฆ่าแฮร์รี่ สานต่อความปรารถนาของลอร์ดโวลเดอมอร์ให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นฮอร์กวอร์ตคือความปลอดภัยสูงสุดสำหรับแฮร์รี่ในคุกอัซคาบัน จะมี "ผู้คุมวิญญาณ" ทำหน้าที่คล้ายผู้คุมคุก และขณะนี้โรงเรียนฮอร์กวอร์ตจำเป็นต้องต้อนรับผู้คุมวิญญาณ เพื่อคอยสอดส่องติดตามซีเรียส แม้ว่าผู้คุมวิญญาณจะไม่รบกวนการทำกิจกรรมของโรงเรียน แต่ก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี เครดิตภาพ Facebook Officialภาคนี้หนังมีอารมณ์ที่ดาร์คขึ้น ดูโหดขึ้นด้วยคาแร็คเตอร์และวัยที่โตขึ้นของนักแสดง แถมองค์ประกอบที่เพิ่มเข้ามาอย่างผู้คุมวิญญาณ หนังพยายามสอดแทรกความน่ากลัว และสิ่งที่ชวนสงสัยว่าทำไมผู้คุมวิญญาณต้องพยายามจับจ้องและดูดพลังของแฮร์รี่ด้วย โดยครั้งแรกเกิดขึ้นที่บนรถไฟ ผู้คุมวิญญาณพยายามทำร้ายโดยการดูดพลังของแฮร์รี่ แต่เคราะห์ดีที่ศาสตราจารย์ลูปินมาช่วยไว้ได้ทันด้วยคาถาผู้พิทักษ์ คาถาผู้พิทักษ์เป็นคาถาที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่วร้ายและลักษณะการเปล่งออกมาของพลังจะออกมาในรูปแบบของสัตว์ ซึ่งหนังน่าจะพยายามสื่อให้เห็นอุปนิสัยใจคอและความคิดของผู้ที่ใช้ อย่างแฮร์รี่ก็จะเป็นกวางตัวผู้ เครดิตภาพ Facebook Officialสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่มีแค่กับในภาคนี้คือ แผนที่ตัวกวน ต้องบอกอย่างนี้ก่อนนะครับว่าแผนที่ตัวกวนมีคุณสมบัติที่พิเศษ สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของทุก ๆ คนในฮอร์กวอร์ตและหนังทิ้งปมที่น่าฉงนใจไว้ เพราะแฮร์รี่ไปเห็นการเคลื่อนไหวของบุคคลคนหนึ่งว่า ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ หรือฉายาหางหนอนอยู่ในปราสาท แต่กลับหาไม่เจอและหนังก็สื่อว่าแผนที่อาจจะพังหนังมาเฉลยปมทั้งหมดช่วงท้าย ว่าทำไมปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ อดีตลูกน้องของลอร์ดโวลเดอร์มอร์ถึงยังมีชีวิตอยู่ เหตุเพราะเขาตัดนิ้วตัวเองเพื่อให้ดูว่าตายโดยถูกเสกให้หายไปทั้งร่าง แล้วดันมากลายร่างเป็นหนูของรอน โดยที่รอนเลี้ยงมาตลอดคือเจ้าหางหนอนตัวแสบนั่นเอง ส่วนซีเรียสที่หนีออกมา ก็ไม่ได้มาฆ่าแฮร์รี่อย่างที่ทุกคนเข้าใจ เพราะแท้ที่จริงแล้วซีเรียสคือพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ต่างหากหนังมีความน่างุนงง ในพาร์ทของการย้อนเวลาไปมาด้วยเครื่องย้อนเวลา ถึงแม้ว่าจะจบด้วยความแฮปปี้แต่หนังทำให้คนหลายคนค่อนข้างมึนงงครับ เพราะการย้อนเวลาไปมา ผมว่ามันทำให้หนังดูเสียเวลาเพราะมันไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าใดนัก แต่สิ่งที่น่ายินดีตรงที่แฮร์รี่จะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะว่าเค้ามีซีเรียสที่เปรียบเสมือนพ่อของเขาทำให้เขารู้สึกอุ่นใจมากขึ้น อบอุ่นขึ้นเพราะไม่เคยได้รับความรักเลยคะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังดูมีอะไรมากขึ้น ดูมีสาระมากกว่าสองภาคที่ผ่านมา จะเรียกว่าเป็นภาคที่เริ่มสนุกแล้วก็ได้ แต่หนังกลับด้อยลงด้วยความมึนงงของฉากย้อนเวลา จริง ๆ การย้อนเวลาในภาคนี้ก็ถือว่าสำคัญ แต่เหมือนหนังเล่าเรื่องให้สับสนไปหน่อย หากไม่ดูอย่างต่อเนื่องมีงงแน่นอนครับคะแนนเอฟเฟคต์ 9/10 ผมขอยกความดีความชอบให้กับ CG ผู้คุมวิญญาณ แล้วกันครับ สิ่งมีชีวิตที่ไร้จิตสำนึกไร้ความปรานี ลักษณะเหมือนผ้าสีดำที่น่าสยดสยอง ล่องลอยไปมาอย่างแนบเนียนและอิสระ และฉากการเล่นควิดดิชกลางสายฝนทำให้หนังดูดาร์ค ดูไม่มีความหลงเหลือแฟนตาซีจ๋าเลย แต่กลับมีเสน่ห์แบบ Dark Blue อย่างบอกไม่ถูกเครดิตภาพ Facebook Officialข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความรักของพ่อทูนหัว ซีเรียสที่ตอนแรกถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร หักหลังพ่อแม่ของแฮร์รี่ หนีออกมาและความจริงก็เผยว่าเค้าคือพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ ทำให้เด็กกำพร้าอย่างแฮร์รี่ได้มีพ่ออีกครั้ง2. ความน่ารักของฮิปโปกริฟ แม้ว่าฮิปโปกริฟจะไม่มีอยู่ในโลกของความเป็นจริง แต่ความน่ารักและแสนรู้ทำให้ผมหลงรักสัตว์ชนิดนี้เข้าอย่างจัง บินได้แถมแสนรู้ แม้ตอนจบผมเกือบร้องไห้ แต่ว่าเครื่องย้อนเวลาก็ทำให้เจ้าสัตว์นี้ได้มีชีวิตอยู่ต่อ3. ได้เรียนรู้ถึงความน่ากลัวของผู้คุมวิญญาณ แม้ว่าผู้คุมวิญญาณจะมีหน้าที่แค่ควบคุมนักโทษในคุกอัซคาบัน แต่ว่าพวกเขาเหล่านั้นอันตรายและน่ากลัว เพราะผู้คุมวิญญาณจะดูดกลืนความกลัวของเราที่อยู่ลึกที่สุดถือว่าเป็นภาคที่น่าติดตาม และอยากให้คนดูคิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ เพราะหนังทิ้งปมในภาคถัดไปไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วภาคนี้ก็ทิ้งทวนความเป็นหนัง Dark ได้อย่างดีเยี่ยมเครดิตภาพปก Facebook Official   

รีวิวหนัง Harry Potter and the Sorcerer's Stone
อ่าน

รีวิวหนัง Harry Potter and the Sorcerer's Stone

เครดิตภาพ WarnerBrosในช่วงเกิดโรคระบาดCovid-19 ออกไปไหนก็อันตรายก็เลยต้องอยู่บ้าน หาหนังยาว ๆ ดู ซีรี่ส์ก็เบื่อแล้ว เลยงัดหนัง Harry potter กลับมารีรันกันอีกรอบ ใครจะเชื่อ หนังมันก็ยังสนุกเหมือนเดิมเลยหนังเล่าเรื่องถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Daniel Radcliffe) ในช่วงที่อายุใกล้ 11 ขวบ ในความเป็นเด็ก เขาก็หวังว่าจะมีของขวัญหรือเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ จากครอบครัวดัสลีย์ ซึ่งรับเขามาเลี้ยง เนื่องจากพ่อแม่ของแฮร์รี่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทั้งคู่ตั้งแต่แฮร์รี่ยังเด็ก ครอบครัวดัสลีย์ซึ่งมีป้าเพ็ตทูเนีย(Fiona Shaw) (พี่สาวของแม่แฮร์รี่) แต่สิ่งที่เขาได้รับมีแต่การกดขี่ข่มเหง ให้นอนห้องใต้บันได แต่สิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น พราะว่ามีจดหมายลึกลับส่งถึงแฮร์รี่ แต่ว่าลุงเวอร์นอน (Richard Griffiths) สามีของป้าเพ็ตทูเนียไม่ยอมให้แฮร์รี่ได้อ่าน หลังจากนั้นก็มีจดหมายมาเรื่อย ๆ ลุงเวอร์นอนก็พยายามปกปิดและทำลายจดหมายทิ้ง หลายวันเข้าจดหมายมากองเป็นภูเขา เวอร์นอนจึงพาแฮร์รี่หนีไปยังกระท่อมที่ห่างไกลผู้คน ปิดโอกาสไม่ให้แฮร์รี่ได้รับรู้ความจริง แต่สุดท้ายก็นี้ไม่พ้นเพราะ จู่ ๆ ก็มีชายร่างยักษ์นามว่า แฮกริด(Robbie Coltrane) ปรากฎตัวและพาแฮร์รี่หนีไป และเปิดเผยความจริงว่าที่แท้แล้วเค้าคือพ่อมด ทั้งพ่อและแม่ก็เป็นพ่อมดแม่มดเช่นกันและถูกฆาตกรรมโดยพ่อมดร้ายเครดิตภาพ WarnerBrosแฮกริดพาแฮร์รี่ไปซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้ในการเข้าเรียนที่ โรงเรียนเวทย์มนต์ฮอร์กวอร์ต เช่นไม้กายสิทธิ์ , นกฮูก ชื่อเฮดวิก และก็เดินทางไปโรงเรียนฮอร์กวอร์ตพร้อมกับเด็กปีหนึ่ง และได้พบเพื่อนใหม่อย่าง รอน (Rupert Grint ) เด็กผมแดงจากครอบครัววิสลี่ย์ที่ยากจน และ เฮอร์ไมโอนี่ (Emma Watson) เด็กสาวที่ไม่มีพ่อแม่เป็นผู้วิเศษเหมือนคนอื่น  ภาคเปิดและเริ่มต้นของมหากาพย์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ หนังจะให้ความสำคัญไปกับช่วงวัยเด็กของทุก ๆ คน ที่เป็นตัวละครหลัก หนังจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวในช่วงเวลาเริ่มมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เริ่มต้นจากการนั่งรถไฟมา เพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนบนรถไฟบางส่วนซึ่งก็ทำให้แฮร์รี่ได้เจอกับเพื่อนรัก 2 คน คือ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ จากนั้นเมื่อถึงฮอร์กวอร์ตก็เข้าสู่กระบวนการเลือกบ้าน เพราะนักเรียนทุกคนจะมีคุณสมบัติแต่งต่างกันโดยบ้านที่โรงเรียนฮอร์กวอร์ตจะมีทั้งหมด 4 หลัง บ้านกริฟฟินดอร์ ตัวแทนความกล้าหาญ มีคุณธรรม , บ้านฮัฟเฟิลพัฟ ตัวแทนความซื่อสัตย์ อดทน , บ้านเรเวนคลอ ตัวแทนความเฉลียวฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ ,  บ้านสลิธีริน ตัวแทนความเป็นผู้นำ ฉลาดแกมโกงเครดิตภาพ WarnerBrosเมื่อเลือกบ้านได้เรียบร้อย แต่ละคนจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนปี 1 ที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่บ้านเดียวกัน เช่น นอนห้องเดียวกัน ทำให้นึกถึงอารมณ์ที่เรียนโรงเรียนประจำและทำกิจกรรมกับเพื่อน ได้เดินไปเรียน , นอนด้วยกัน แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือมีมิตรก็ต้องมีศัตรู จะเรียกว่าศัตรูก็ดูว่าจะรุนแรงเกินไป เรียกว่าเพื่อนที่ไม่ค่อยลงรอยกันดีกว่า เพราะแต่ละบ้านจะถูกคัดสรรจากอุปนิสัยของแต่ละคน อยู่บ้านเดียวกันก็มักจะนิสัยเหมือนกัน เลยทำให้เด็กจากบ้านกริฟฟินดอร์และสลิธีริน ไม่ค่อยลงรอยกันซักเท่าไหร่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของหนังคือรายละเอียดของแต่ละแขนงวิชาที่มีการสอนในโรงเรียน ซึ่งหลัก ๆ เช่น วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด จะเป็นการเรียนการสอนในส่วนของคาถาที่ใช้ป้องกันตัว ซึ่งวิชานี้เปลี่ยนครูสอนแทบทุกปี วิชาต่อมาคือวิชาปรุงยา ซึ่งจะใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ในการมาปรุงยาวิเศษ เช่น ยาเสน่ห์ แต่ยังมีหลายวิชาที่น่าสนใจ เช่น พวกสัตว์วิเศษซึ่งจะทำให้เรารู้จักสัตว์แปลก ๆ หลาย ๆ ชนิดเครดิตภาพ WarnerBrosและสิ่งที่ขาดไม่ได้คือศัตรูในภาคนี้ ศ.ควิรินัส ควีเรลล์ ซึ่งเป็นร่างเนื้อชั่วคราวให้ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ พ่อมดร้ายที่ตอนนี้มีเหลือแค่วิญญาณ เนื่องจากตอนที่แฮร์รี่กำลังเด็ก โวลเดอร์มอร์ต้องการจะฆ่าแฮร์รี่แต่แม่ของแฮร์รี่มาขวางไว้ ทำให้คาถานั้นสะท้อนกลับไปหาโวลเดอร์มอร์เองและโวลเดอร์มอร์ก็ยังคงอยู่เพียงแต่ไม่มีร่างกายเป็นของตัวเองเท่านั้น แต่ก็ถือว่ายังมีพิษสงกีฬาที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง ควิดดิช คือสิ่งที่ผมให้ความสนใจมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ครับเพราะเป็นกีฬาการแข่งขันประจำโรงเรียน เป็นการขี่ไม้กวาดไล่ลูกโกลเด้นสนิชและทำแต้มด้วยวิธีการโยนลูกเข้าห่วง ใครได้แต้มสูงสุดก่อนหมดเวลาก็ชนะไปเครดิตภาพ WarnerBrosคะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 หนังมีกลิ่นอายของจุดเริ่มต้นของต้นกำเนิดในหลาย ๆ อย่างเช่นการเริ่มเข้าโรงเรียน , การเริ่มพบเพื่อน , เริ่มรู้จักการเป็นพ่อมด , เริ่มขี่ไม้กวาด , เริ่มการใช้คาถา หนังทุกเรื่องมักจะน่าสนใจในส่วนของการเริ่มต้นนี่แหละครับ ถ้าเริ่มต้นไม่น่าสนใจ ก็ยากมากที่ทำให้ภาคต่อ เดินไปในทิศที่ดีได้ และภาคแรกนี้ถือว่าทำได้ดีครับ คะแนนเอฟเฟคต์ 8/10 ภาคนี้จะเน้นการเรียนการสอนซะส่วนมาก แต่หนังน่าสนใจในความอลังการของโรงเรียนห้องโถงใหญ่ ๆ ยูนิฟอร์มเท่ ๆ  แต่ฉากที่เล่นควิดดิช ฉากนี้ก็อลังการ ความสวยงามของต้นหญ้าในสนามและการขี่ไม้กวาดโฉบเฉี่ยวไปมา ทำให้กีฬาชนิดนี้มีความน่าสนใจและเป็นส่วนประกอบของหนังที่เอามาใส่อย่างลงตัวสุด ๆเครดิตภาพ WarnerBrosข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. ความรักของแม่ที่มีต่อลูก ที่แฮร์รี่รอดชีวิตได้ก็เพราะการเสียสละของแม่เข้ามาขวางคำสาปพิฆาต ทำให้แฮร์รี่รอดชีวิตจากคืนนั้นและโวลเดอร์มอร์ก็เจอคาถาสะท้อนกลับ หมดฤทธิ์ไปซักพัก2. กีฬาชนิดใหม่อย่างควิดดิช แน่นอนว่ากีฬาชนิดนี้ไม่ได้มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่กลับสร้างความน่าสนใจให้ผมอย่างมาก ทำให้ช่วงแรกที่หนังฉาย ผมยังเอาไม้กวาดที่บ้านมาขี่เล่นเหมือนเป็นการสร้างจินตนาการให้เด็กคนหนึ่งภาคแรกของหนังพ่อมดตลอดกาล ที่ไม่ว่าใครที่ดูก็ต้องหลงรักครับ โดยเฉพาะเจ้าแฮร์รี่ตัวน้อยดูสดใส ไม่มีพิษมีภัย และความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ ที่จะทำให้คุณหลงรัก เครดิตภาพปก WarnerBros

รีวิว Doctor Strange in the Multiverse of Madness จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย
อ่าน

รีวิว Doctor Strange in the Multiverse of Madness จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย

เข้าโรงกันเป็นที่เรียบร้อยกับจอมเวทย์แห่งจักรวาล MCU แน่นอนว่านี่จะเป็นภาคที่ 2 ของ Doctor Strange โดยภาคนี้จะใช้ชื่อภาคว่า Doctor Strange in the Multiverse of Madness และเมื่อขึ้นชื่อว่า Multiverse เราก็จะได้เห็นการท่องไปในจักรวาลต่างๆ กันตามที่ทุกคนได้เห็นกันไปแล้วในตัวอย่างก็ขอบอกเลยว่าผู้เขียนก็เป็นแฟนภาพยนตร์ MCU คนนึงเลยที่ได้ติดตามหนังของเขามานาน Doctor Strange ก็เป็นหนึ่งในฮีโร่นักเวทย์ที่ชอบ รวมถึงการปูทางให้เชื่อมต่อกับจักรวาลของหนังเรื่องอื่นๆ ในค่ายด้วยhttps://www.instagram.com/p/CcCMt9QpSI3/ภาพยนตร์ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ผ่านการกำกับโดย Sam Raimi เป็นที่รู้จักกันในนามผู้กำกับหนังผี หรือหนังสยองขวัญหลายๆ เรื่อง ยกตัวอย่างเช่น The Evil Dead (1981) ทั้งนี้ยังได้ผู้เขียนบทอย่าง Michael Waldron เจ้าของบทซีรีส์ดังเรื่อง Loki (2021) มาร่วมงานด้วยDoctor Strange in the Multiverse of Madness "จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย" นำแสดงโดย Benedict Cumberbatch รับบทเป็น Doctor Strange, Wong รับบทโดย Benedict Wong รวมถึงวานด้าหรือ The Scarlet Witch แสดงโดย Elizabeth Olsen และ America Chavez โดย Xochitl Gomez โดยทั้งสี่คนที่ผู้เขียนได้กล่าวมานี้ เราจะได้เจอฉากร่วมแสดงของพวกเขาเยอะที่สุด โดยเฉพาะทาง Doctor Strange, The Scarlet Witch และ America Chavez ที่นับว่าเป็นกุญแจหลักของเรื่องhttps://www.instagram.com/p/CcO9RWwvD3c/การดำเนินเรื่องราวเริ่มต้นโดยเด็กสาวผู้มาจากต่างมิติ America Chavez ได้เดินทางมายังจักรวาลหลักที่เรารู้จัก และได้ถูกไล่ล่าโดยสัตว์ต่างมิติที่กำลังมาตามล่าตัวเธอ เนื่องด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างที่ไม่ทราบแน่ชัด หลังจากที่วิ่งหนีเอาตัวรอด ไม่นานก็ได้รับความช่วยเหลือจาก Wong และ Doctor Strange อันนำไปสู่การผจญภัยในพหุจักรวาล หรือ Multiverse นั่นเองและแน่นอนว่าหลายคนคงได้เห็นจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งฉากตัวละครที่หลายคนรอคอย แต่จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น แนะนำว่าให้ไปรับชมกันเอาเอง โดยคะแนนของภาพยนตร์เรื่องนี้ IMDb จัดไว้ให้อยู่ที่ 7.5/10 กันเลยทีเดียว ฉากแอคชันมันส์ และค่อนข้างน่าตกใจกันเล็กๆ น้อยๆ ตามสำเนาผู้กำกับหนังผีอย่าง Sam Raimihttps://www.instagram.com/p/CdU5QKULDFf/รับชมตัวอย่างได้ที่นี่https://www.youtube.com/watch?v=mvRxgOX7Kest=11sab_channel=MarvelThailandท้ายนี้ สิ่งที่อยากแนะนำให้ดูเลย ก็เพราะเรื่องราวที่เชื่อมกันระหว่างซีรีส์อย่าง WandaVision และอาจจะเปิดทางไปยังภาคต่ออื่นๆ อีกหลายๆ เรื่อง ดังนั้นต้องดูไว้เลย และบทต่างๆ ใน Doctor Strange ภาคนี้ กำลังจะนำพวกเราเข้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ต่อไปอีกหลายๆ ภาคขอขอบคุณภาพจาก MarvelThailand และ marvelthailandภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4ขอขอบคุณวิดีโอตัวอย่าง:Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness | Full Trailer (Official ซับไทย) จาก Marvel Thailandจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

ทรูวิชั่นส์ ชวนดู Doctor Strange หนังฮิตระทึกหัวใจ
อ่าน

ทรูวิชั่นส์ ชวนดู Doctor Strange หนังฮิตระทึกหัวใจ

ทรูวิชั่นส์ชวนคุณสานต่อความมันส์ Marvel Cinema Thematic กับภาพยนตร์แอคชั่นซูเปอร์ฮีโร่เรื่องที่ 14 จากค่ายมาร์เวล ที่ถล่มรายได้ทั่วโลกกว่า 678 ล้านเหรียญสหรัฐ ทะยานขึ้นอันดับ 1 Box Office ใน 3 วันแรกที่เข้าฉาย ผลงานของผู้กำกับ“สก็อต เดอริคสัน” พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมืออย่างคับคั่ง นำแสดงโดย เบเนดิคท์ คัมเบอร์แบตช์, ชิเวเทล เอ็จอิโอฟอร์, เรเชล แม็คอดัมส์ ในภาพยนตร์เรื่อง “Doctor Strange” เรื่องราวของศัลยแพทย์ทางประสาทนาม สตีเฟ่น สเตรนจ์ ผู้ที่ค้นพบโลกอันลี้ลับของเวทมนตร์และมิติอื่น ๆ หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงกลายเป็นจุดกำเนิดของพ่อมดจอมขมังเวทย์ที่เก่าแก่ที่สุดและเก่งที่สุดในจักรวารมาร์เวล ติดตามชมภาพยนตร์ Doctor Strange รับชมได้ในวันเสาร์ที่ 22 ก.ค. นี้ เวลา 8.00 และสามารถรับชมกันได้อีกครั้งใน เวลา 20.00น. ทางช่อง FOX Movies (ทรูวิชั่นส์ช่อง 140, 225) สนใจสมัครแพ็กเกจ แพลทินัม เอชดี และ โกลด์ เอชดี แพ็กที่ดีที่สุดจากทรูวิชั่นส์ สมัครวันนี้ ฟรีค่าติดตั้ง และลดค่าประกัน 50% (จากราคาปกติ 2,000 บาท) ตั้งแต่วันนี้ 30 มิ.ย. 2560พร้อมรับสิทธิ์ใช้บริการเสริม ทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ ฟรีถึง 31 ธันวาคม 2560รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truevisionsgroup.com

รีวิวหนัง Harry Potter and the Chamber of Secrets
อ่าน

รีวิวหนัง Harry Potter and the Chamber of Secrets

เครดิตภาพ WarnerBrosมาถึงภาคที่ 2 กันแล้วนะครับสำหรับภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ หลังจากที่ภาคแรกทำรายได้ไปถล่มทลายทั่วโลกได้รู้จักหนุ่มน้อยแดเนียลในบทบาทของพ่อหมดแฮร์รี่ พอตเตอร์แม้ว่าฮอร์กวอร์ตจะเป็นโรงเรียนประจำแต่ก็ต้องมีปิดเทอมซัมเมอร์เช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แฮร์รี่ไม่แฮปปี้เลยเพราะเค้าต้องทนอึดอัดอยู่กับครอบครัวดัสลี่ย์ที่รับเลี้ยงเค้า ลุงเวอร์นอน (Richard Griffiths) และ ป้าเพ็ตทูเนีย(Fiona Shaw) ที่หวาดกลัวพลังวิเศษของเขา และความน่าเบื่อยิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อ รอน (Rupert Grint ) เฮอร์ไมโอนี่ (Emma Watson) ก็หายไปเลย ไม่มีเขียนจดหมายมาสักฉบับแต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ ก็มีเอลฟ์ประจำบ้านชื่อ ด็อบบี้ ปรากฎตัวขึ้นในบ้านของแฮร์รี่และพยายามขัดขวางไม่ให้แฮร์รี่กลับไปเรียนยังฮอร์กวอร์ต ด็อบบี้แอบเก็บจดหมายทุกฉบับที่เพื่อนรักของเขาเขียนมาหา ขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้ได้ติดต่อกันแต่ก็ไม่สำเร็จ รอนก็ยังแอบเอารถเหาะของพ่อเขาแอบมารับแฮร์รี่ และสิ่งที่น่าประหลาดคือชานชาลารถไฟ 9 3/4 ปกติจะเป็นทางผ่านให้เข้าไปยังชานชาลารถไฟไปยังฮอร์กวอร์ต กลับถูกปิดอย่างมีเงื่อนงำรอนกับแฮร์รี่จึงต้องไปฮอร์กวอร์ตทางช่องทางรถเก่า ๆ เหาะได้ของรอนเครดิตภาพ WarnerBrosความเป็นฮีโร่ของแฮร์รี่ในในปีก่อน สร้างชื่อเสียงให้กับแฮร์รี่อย่างมากและทำให้ จินนี่ย์ วิสลีย์ (Bonnie Wright) น้องสาวของรอนดันแอบชอบแฮร์รี่ซะงั้น และศาสตราจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต (Kenneth Branagh) ก็พยายามตีสนิทกับแฮร์รี่เนื่องจากเขาเป็นคนชอบให้เป็นจุดสนใจและแฮร์รี่ก็กำลังโด่งดังเนื้อเรื่องของภาคที่ 2 ยังคงเข้มข้นพอสมควร มันไม่ใช่สเต็ปการดำเนินเรื่องจาก 1 ไป 2 แต่ระหว่างการดำเนินเรื่องก็ซ่อนปมและปริศนาไว้มากมาย เช่น ทำไมแฮร์รี่กับรอนถึงไม่สามารถผ่านชานชาลา 9 3/4 เข้าไปได้ ถ้าลองจับดีเทลดี ๆ หนังภาคนี้กำลังเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบันและอนาคตไว้ครับ เพราะตัวละครสำคัญสำหรับภาคนี้อย่าง โวลเดอร์มอร์ ที่หนังจะพาเราไปรู้จักอดีตนักเรียนหนุ่มนิสัยดีแต่เลือกเดินทางผิด และสิ่งที่จับจุดได้คือโวลเดอร์มอร์แค้นเคืองโรงเรียนฮอร์กวอร์ตนี้มากซึ่งหนังก็ยังไม่เฉลยซะทีเดียวครับ แต่คนดูแบบผมก็เริ่มคิดตามว่า เป็นเพราะตัวลอร์ดโวลเดอร์มอร์เค้าอยู่บ้านสลิธิรินรึเปล่านะ ถึงได้มีพฤติกรรมในเชิงนี้ (เด็กบ้านนี้จะเกเรหน่อย ๆ)เครดิตภาพ WarnerBrosการขยายปม และการคลี่คลายปมของหนังภาคนี้ บางอย่างก็ดูง่ายเกินไปซะจนเดาได้ แต่สิ่งที่น่ารักคือรอนตัวละครขี้แพ้ขี้กลัว แต่กลับมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก และสิ่งที่น่าสนใจของหนังภาคนี้อย่าง "น้ำยาสรรพรส" ที่ทำให้คนที่กินเข้าไปสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นคนที่ต้องการได้ ซึ่งเราจะได้เห็นความสามารถและข้อควรห้ามในการใช้ เพราะการทำน้ำยาต้องใช้เส้นผมของเป้าหมาย แต่เฮอร์ไมโอนี่ดันเอาหยิบขนแมวมาซะงั้น เพราะงั้นหนังจะอธิบายให้เราเห็นถึงข้อควรใช้และความผิดพลาดครับ คะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 หนังมีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าภาคเก่าในเรื่องของการดำเนินเรื่องพร้อมกับปมต่าง ๆ และฉากต่อสู้กับโวลเดอร์มอร์ในภาคนี้ ถึงแม้ว่าโวลเดอร์มอร์จะเป็นเพียงภาพอดีต แต่ก็มีพิษสงทำร้ายแฮร์รี่ได้อยู่ดีรวมถึงปมสำคัญของการที่ทุกคนกลายเป็นหิน ว่าเกิดจากสาเหตุใดคะแนนเอฟเฟคต์ 8/10 หนังทำ CG งูดึกดำบรรพ์ให้การเคลื่อนไหวสมจริง ดูเนียน ให้ความรู้สึกว่างูยักษ์จู่โจมและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่หนังระดับบล็อกบัสเตอร์ขนาดนี้ คงไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนเครดิตภาพ WarnerBrosข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความเฉลียวฉลาดของแฮร์รี่ ในฉากการต่อสู้สุดท้าย ที่แฮร์รี่ใช้ความฉลาดในการปราบปิศาจงูยักษ์บาซิลิส แม้จะเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีความสามารถใช้เทคนิคในการสู้กับงูและโวลด์เดอร์มอร์ในภาพอดีต โดยเอาเขี้ยวของบาร์ซีลิสแทงลงไปบนสมุดบันทึก ในขณะผมนั่งดู ผมยังนึกไม่ถึงเลยขนาดผมอายุมากกว่าแฮร์รี่2. ความรักเพื่อนของรอน การใช้รถเหาะได้ในโลกมักเกิ้ล (มนุษย์) ถือเป็นเรื่องต้องห้ามเพราะจะเป็นการเปิดเผยการมีตัวตนของผู้วิเศษมากเกินไป แต่รอนก็ฝ่าฝืนคำสั่งไปช่วยแฮร์รี่ที่ถูกขัดขวางการกลับมาเรียนฮอร์กวอร์ต โดยไม่คิดว่าตัวเองจะโดนลงโทษหรือไม่ภาคที่ 2 เองก็ทำออกมาได้ดีพอสมควร ทั้งในตัวปมเรื่องและการเดินเรื่องที่ทำให้คนดูสนใจและติดตาม มาเฉลยทุกอย่างในตอนท้ายทำให้ระหว่างการเดินเรื่องทำให้คนดูได้คิดตามไปตลอดเวลา เครดิตภาพปก WarnerBros

แอพพลิเคชัน Doctor Me หมอดีในมือคุณ
อ่าน

แอพพลิเคชัน Doctor Me หมอดีในมือคุณ

" ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ " คำกล่าวนี้ถือว่าเป็นเรื่องจริงเลย หากใครที่เคยผ่านการเจ็บป่วยมาละก็ ก็ไม่ปฏิเสธคำกล่าวนี้ เพราะว่าไหนจะเจ็บปวด เสียเวลาทำงาน เสียค่าใช้จ่าย และเสียอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งด้วยเศรษฐกิจปัจจุบันการไปหาหมอแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายไม่น้อย จะดีกว่าไหมหากเราศึกษาการดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บปวดได้คงจะเป็นเรื่องที่ดี ผู้เขียนเองก็ประทับใจแอพพลิเคชันตัวหนึ่งอย่างมาก นั่นก็คือ Doctor Me ถือได้ว่าเป็นหมอดีที่คอยให้คำแนะนำบนมือถือเราเลย จะเป็นอย่างไรลองไปชมกันดูครับ  ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me หากต้องการใช้งานก็ง่าย ๆ เพียงแค่การเข้าไป Download แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจาก Play Store สำหรับ Android หรือ App Store สำหรับ IOS โดยค้นคำว่า Doctor Me แล้วจะเจอ รูปผู้หญิงพื้นหลังสีแดง  ก็ใช่เลย Download ลงเครื่องมาใช้ประโยชน์กันได้เลย ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me โดยเมื่อเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก จะมีคำแนะนำแอพพลิเคชันว่า จะช่วยท่านในเรื่องใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาอาการที่ง่าย สามารถบันทึกคนในครอบครัวได้อีกด้วย และสามารถเลือกข้อมูลให้ตรงกับที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันยาเคมีต่าง ๆ หรือจะเป็นแพทย์แผนโบราณใช้สมุนไพร ก็ได้ตามเราต้องการ ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me โดยแอพพลิเคชัน ออกแบบมาได้น่ารักมาก โดยให้เราสามารถเลือกตัวละครบุคลิกของเรา และคนในครอบครัวได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือจะอยู่ในวัยไหนก็เลือกให้เหมาะสมได้ ทำให้รู้สึกว่าการออกแบบ User Interface ทำได้ดีน่าใช้มาก ๆ  ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me เมื่อเลือกบุคลิกของผู้ใช้แล้ว ระบบยังให้เราตั้งค่าพื้นฐานของเราเพื่อประกอบการประมวลผล และการเก็บข้อมูลสำหรับกการให้คำแนะนำได้อีกด้วย ถือว่าออกแบบมาได้ดีในระดับฐานข้อมูลของผู้ใช้เลยทีเดียว ยังเก็บข้อมูลเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ทั้งของเราและคนในครอบครัวได้อีกด้วย ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me และที่ชอบสุด ๆ เลยก็คือ VDO ที่ให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพมีหลายหมวด หลายเรื่องให้รับชม และออกแบบมาได้ตลก สนุกสนาน ทำให้ไม่น่าเบื่อ เป็นการให้ความรู้ทางด้านสุขภาพที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ส่วนนี้ผู้เขียนชอบมาก ๆ ยังมีอัพเดตเรื่องราวใหม่อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me ก่อนที่เราจะเจ็บป่วย ยังมีฟังก์ชันสำหรับ การเช็คร่างกายของเราจากหัว จรดปลายเท้าอีกด้วย โดยแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ พร้อมให้เราสังเกตุอาการของตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเจ็บคอ ไอ จาม คัดจมูก เจ็บหน้าอก สามารถเลือกเช็คทีละส่วนของร่างกายได้เลย พร้อมเมื่อกดเข้าไปในเรื่องนั้นแล้วก็จะมีการวินิจฉัยเบื้องต้น และมีสาเหตุกว้าง ๆ ให้เราเลือกศึกษาว่าน่าจะเกิดจากพฤติกรรม หรือสาเหตุใด ทำให้เราได้เรียนรู้ไปด้วยในการดูแลสุขภาพ ภาพโดย Anurit Srikhomkham (ผู้เขียน) จากแอพพลิเคชัน : Doctor Me นอกจากเช็คส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแล้วนั้น หากเรามีอาการเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น สามารถเลือกค้นตามอาการได้อีกด้วย ถึงว่าสะดวกมาก ยกตัวอย่างเช่นค้นคำว่า เจ็บหน้าอก ก็จะมีข้อมูลคำแนะนำขึ้นมาทันทีเลยทำให้เราดำเนินปฐมพยาบาลในเบื้องต้นได้ รวมถึงยังเลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาการนั้นได้อีกด้วย  โดยรวมแล้วถือว่า Doctor Me ช่วยในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ดีมาก แต่หากเพื่อน ๆ มีอาการที่เรื้อรัง หรืออาการหนักอย่างไรก็อยากให้รีบเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยด่วนจะดีกว่า หวังว่าแอพพลิเคชันนี้จะเป็นทางเลือกช่วยเหลือในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ให้เพื่อน ๆ ได้มีสุขภาพที่ดีกันท่วนหน้าครับ