รีเซต

ผลการค้นหา “I Saw You In My Dream” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
รู้จัก 4 นักแสดง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา ซีรีส์บอยเลิฟ จากทาง WeTV
อ่าน

รู้จัก 4 นักแสดง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา ซีรีส์บอยเลิฟ จากทาง WeTV

        มาแรงมาก ๆ สำหรับกระแสซีรีส์แนวบอยเลิฟเรื่อง “I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา” จากทาง WeTV Original – Dee Hup House ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มอย่าง ไอย ที่เขานั้นมีความสามารถพิเศษคือการฝันเห็นถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าเสมอ และจากความสามารถพิเศษแบบนี้ทำให้ชีวิตของเขาวุ่นวายมาก และนอกเหนือจากนี้แล้วนั้นก็ยังได้นักแสดงหน้าใหม่หลากหลายคนมาแสดงในเรื่องนี้ วันนี้เราเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักและเปิดวาร์ปนักแสดงแต่ละคน ผ่านทาง ‘รู้จัก 4 นักแสดง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา ซีรีส์บอยเลิฟ จากทาง WeTV’[OFFICIAL PILOT] I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา | WeTV Original [ENG SUB]https://m.youtube.com/watch?v=2t4R3gQ9OWo1.) พัตเตอร์ ภูเบศ       มาดูกันที่พระเอกของซีรีส์เรื่อง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา นั่นคือหนุ่มหล่อมาดเซอร์สุดเท่อย่าง “พัตเตอร์ ภูเบศ ประทุมรัตน์” เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2543 ปัจจุบันอายุ 24 ปี การศึกษาทางด้านการจัดการธุรกิจไซเบอร์ที่วิทยาลัยนวัตกรรมการสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เขาเป็นนักแสดงและนายแบบภายใต้สังกัด Headliner Thailand ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Tencent Thailand โดยหนุ่มพัตเตอร์ ภูเบศได้ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2562 กับรายการ เจนจัด ก๊อตจิก ใน EP.18 และมีผลงานการแสดงเรื่องแรกคือซีรีส์แนวบอยเลิฟเรื่อง Our Days รักได้มั้ยนายไม่ยิ้มhttps://www.instagram.com/p/CxF1oASPrJ-/?igsh=Y2pwMGZ2NW9neTBkพัตเตอร์ ภูเบศ รับบทเป็น “ยู” เขานั้นเป็นช่างภาพหนุ่มหล่อ ที่เป็นพี่ชายข้างบ้านของไอย โดยมีเหตุการณ์ทำให้เขาเสียทั้งพ่อและแม่ไปทำให้เขาต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้าน คอยดูแลซัพพอร์ตน้องแทนพ่อแม่ และยูเป็นคนที่มีความละเอียด เป็นคนคลั่งรัก โรแมนติก เป็นคนที่ละเอียด คอยเอาใจใส่คนรอบข้างเสมอhttps://www.instagram.com/p/C89WJgCvZbq/?igsh=MTN2b2VocnhicGJ3eQ==ช่องทางการติดตามพัตเตอร์ ภูเบศInstagram : @putter.ptr2.) ริว อิงครัต        นักแสดงหนุ่มหล่อคนต่อมาใน I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา นั่นคือหนุ่มหล่อมาดละมุน “ริว อิงครัตดำรงค์ศักดิ์กุล” เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 ปัจจุบันอายุ 21 ปี ที่กรุงเทพ โดยหนุ่มริวนั้นได้เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จากการถ่ายโฆษณา และการแสดงในละคร รวมถึงภาพยนตร์ โดยเริ่มมีผลงานการแสดงครั้งแรกจากเรื่อง ลูกทาส โดยรับบทเป็นพระเอกในวัยเด็ก และผลงานที่มีชื่อเสียงเลยคือภาพยนตร์เรื่อง พี่ชาย My Hero เรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อที่คว่ำหวอดในวงการมาค่อนข้างนานแล้วhttps://www.instagram.com/p/Cj8BpNxSI-z/?igsh=MXJyb2FmMWhiMDRqbA==ริว อิงครัต รับบทเป็น “ไอย” นักศึกษาหนุ่มหล่อหน้าใส ที่เรียนอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ ที่อายุกำลังจะครบ 20 ปีบริบูรณ์ในวันคริสต์มาสอีฟ จู่ ๆ เขาก็เริ่มฝันถึงเหตุการณ์แปลก ๆ ว่าเขาจะตกอยู่ในอันตราย และต่อมาเหตุการณ์นั้นก็กลายเป็นจริง โดยยูมีความสามารถพิเศษที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือเขานั้นจะฝันเห็นสิ่งต่าง ๆ ในความฝัน  ฝันบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าในอนาคตhttps://www.instagram.com/p/C89Wmd7yZT2/?igsh=aTg0aGFwaWpmMTN6ช่องทางการติดตามริว อิงครัตInstagram : @ryu.ikr3.) เกมส์ โอฬาริก       มาต่อกันแบบไม่แพ่ว! กับนักแสดงคนต่อมาในซีรีส์เรื่อง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา นั่นคือหนุ่ม “เกมส์ โอฬาริก ต๊ะน้อย” การศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการแสดง ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยหนุ่มเกมส์นั้นได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการแสดงโฆษณา และการแสดง Mv เพลง ทำดีแล้ว จากวง Fellow Fellow รวมถึงเขายังเคยเป็นนักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อฃ เพื่อนกัน มันส์ดีhttps://www.instagram.com/p/C66JVpcvUlj/?igsh=Y3RjdWF6NHRqcnBwเกมส์ โอฬาริก รับบทเป็น “อิ้งค์” เขาเป็นเพื่อนสนิทที่ซี้ปึ้กมากของไอย คอยไปไหนมาไหน แถมยังคอยให้คำปรึกษากับไอยเสมอ โดยการที่เขาเป็นเพื่อนกับไอยทำให้เขาเจอกันโย น้องชายของพี่ยู ซึ่งเป็นคนที่เขาตกหลุมรักและแอบชอบมากhttps://www.instagram.com/p/C89bDglPNC6/?igsh=MXV0cTFzcWc5OGp3eA==ช่องทางการติดตามเกมส์ โอฬาริกInstagram : @gameorarig4.) เซิร์ฟ พชร      เดินทางมาถึงนักแสดงคนสุดท้ายท้ายสุดใน I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา นั่นคือหนุ่มตี๋สุดหล่อ “เซิร์ฟ พชร ศิลปสุนทร” เกิดเมื่อวันทร่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2545 ปัจจุบันอายุ 21 ปี ตบการศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนานาชาติมหิดล ปัจจุบันเขาเป็นนักแสดงภายใต้สังกัด Sol Entertainement โดยเขานั้นเป็นนักแสดงในคาแรคเตอร์ของ เท็นเท็น ในซีรีส์เรื่องกระโดดคว้ารักhttps://www.instagram.com/p/C68scjLP6QZ/?igsh=MTh3bGlxa292enA4OA==เซิร์ฟ พชร รับบทเป็น “โย” เขาเป็นเพื่อนสนิทของไอย และเป็นน้องชายของยู เป็นนักศึกษาหนุ่มหล่อสุดกวน เป็นคนสดใส ร่าเริง สนุกสนานมาก หากใครได้อยู่ใกล้กับโยจะต้องแฮปปี้มีรอยยิ้มเสียงหัวเราะเสมอเลย Energy ล้นหลาม มีความเจ้าชู้https://www.instagram.com/p/C8_DKMtPgkU/?igsh=aHpra3FpbnU4NTVvช่องทางการติดตามเซิร์ฟ พชรInstagram : @swensurfก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รู้จัก 4 นักแสดง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา ซีรีส์บอยเลิฟ จากทาง WeTV โดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามรับชมซีรีส์เรื่อง I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา ได้ทั่วโลก ทุกวันพุธ เวลา20.00 น. ทางแอป WeTV หรือเว็บไซต์ www.WeTV.vip เริ่มวันแรกในวันพุธที่ 24 กรกฎาคม นี้!  #ISawYouInMyDream #เธอฉันฝันเรา #WeTVth #WeTVOriginalเครดิตภาพหน้าปกโดยWeTV Thailand :ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 / ภาพหน้าปก4 / ภาพหน้าปก5 WeTV Originals : ภาพหน้าปก6เครดิตภาพประกอบบทความโดยWeTV Originals : ภาพที่1 WeTV Thailand : ภาพที่2 / ภาพที่3 @putter.ptr : ภาพที่4 / ภาพที่5@ryu.ikr : ภาพที่6 / ภาพที่7@gameorarig : ภาพที่8 / ภาพที่9 @swensurf : ภาพที่10 / ภาพที่11 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย WeTV Originals[OFFICIAL PILOT] I Saw You In My Dream เธอ ฉัน ฝัน เรา | WeTV Original [ENG SUB] จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิวซีรีส์ เธอ ฉัน ฝัน เรา(2024) I Saw You in My Dream ทาง WeTV นำแสดง พัตเตอร์ ภูเบศ & ริว อิงครัต
อ่าน

รีวิวซีรีส์ เธอ ฉัน ฝัน เรา(2024) I Saw You in My Dream ทาง WeTV นำแสดง พัตเตอร์ ภูเบศ & ริว อิงครัต

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทาง WeTV เรื่อง เธอ ฉัน ฝัน เรา I Saw You in My Dream มีทั้งหมด 12 ตอน ตอนละ 45 นาที มาวันแรกวันที่ 24 กรกฎาคม 2024 ออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 20.00 น. วันละ 1 ตอน นำแสดงโดยริว อิงครัต รับบท ไอย และพัตเตอร์ ภูเบศ รับบท ยูเป็นเรื่องราวของไอยที่สนิทกับยูพี่ชายข้างบ้านมาตั้งแต่เด็ก ยูนั้นชอบมาอยู่บ้านไอยแถมยังเรียกแม่ไอยว่าแม่จนไอยน้อยใจบอกว่าแม่ตนดูแลยูดีกว่าตนที่เป็นลูกแท้ๆ ซะอีก แต่ยูนั้นชอบแกล้งไอยเสมอๆ จนไอยบอกยูว่าเขาเคยบอกไปแล้วว่าไม่ชอบให้ยูแกล้ง ยูที่เห็นว่าไอยพูดด้วยความโกธรจึงสัญญากับยูว่าจะไม่แกล้งยูอีกเพราะเขาไม่อยากให้ไอยไม่ชอบเขา วันหนึ่งไอยฝันเห็นเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่เกิด เขานั้นฝันว่ายูจะโดนรถชนทำให้เขาสามารถช่วยยูได้ทัน ทุกครั้งที่เขาฝันเขาก็จะมานั่งวาดภาพเหตุการณ์ในฝันลงในสมุดเล่มหนึ่ง เขาสงสัยมาตลอดว่าทำไมเขาถึงฝันแบบนั้นเขาจึงพยายามหาคำตอบ เขาได้เล่าให้เพื่อนสนิทของเขาฟังตอนแรกเพื่อนเขาก็ไม่เชื่อไอยเลยบอกว่าให้รอดูเลยว่าเหตุการณ์ที่เขาฝันจะเกิดขึ้นจริงตามนั้นไหม ถ้าอยากรู้ว่าทำไมไอยถึงฝันแบบนั้นก็ต้องไปดูกันไอยโตมากับยูพี่ชายข้างบ้านที่สนิทกันมาก แต่ยูกลับชอบแกล้งไอยเป็นประจำ ไอยนั้นอยากเอาคืนยูแต่ก็ไม่เคยแกล้งยูกลับได้สักครั้ง ถึงไอยจะโดนยูแกล้งบ่อยๆ ก็ไม่ได้โกรธยูจริงจัง บางทีก็โมโหยูบ้างแต่ก็แคร์ยูมากๆ เขานั้นเป็นคนเรียบร้อย น่ารัก แต่บางทีก็ดื้อ เอาแต่ใจหน่อยๆ นักแสดงแสดงได้ดูน่ารัก น่าเอ็นดูยูเป็นพี่ชายข้างบ้านไอย ยูด้วยความที่เอ็นดูไอยมากเลยชอบแหย่ชอบแกล้งไอยตั้งแต่เด็กยันโตเพราะเขาต้องการให้ไอยมาสนใจตน เขาดูเป็นห่วงเป็นใยไอยจึงคอยดูแลไอยมาตลอด สนิทกับครอบครัวไอยจนจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว เขาเป็นคนขี้เล่น ขี้แกล้ง ดูเป็นคนสบายๆ ชิลๆ แต่ก็ดูพึ่งพาได้ นักแสดงแสดงได้ดูหล่อ มีเสน่ห์เสื้อผ้าทำออกมาได้ดูเข้ากับบรรยากาศในเรื่อง ชุดไอยจะดูเป็นชุดธรรมดาๆ สบายๆ แต่ก็มีความน่ารัก น่าเอ็นดู ชุดยูก็คล้ายๆ ชุดไอย คือดูมีความสบายๆ แต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าหน่อย ดูดีสุดๆ ฉากคือทำได้ดูสวยงาม ตกแต่งฉากได้ดูสวยเป็นธรรมชาติ ตึกรามบ้านช่อง ห้องต่างๆ ก็มีความสวยงามดูดี ฉากถนนหนทางก็ดูสมจริงพล็อตเรื่องคือบอกเล่าเรื่องราวของพี่ยูที่เป็นพี่ชายข้างบ้านของไอย ด้วยความที่สนิทกันและรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจึงชอบแกล้งกันไปแกล้งกันมา แต่อยู่ๆ ไอยก็ชอบฝันถึงพี่ยูบ่อยๆ ซะงั้น เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงฝันถึงพี่ยูตลอด แต่ที่แปลกคือในฝันนั้นเป็นฝันที่แสนโรแมนติก ทั้งที่เจอหน้ากันทีไรก็ตีกันไม่เว้นวัน แถมความฝันนั้นกลับกลายเป็นความจริงซะงั้นอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดูสนุก ดูได้เรื่อยๆ สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่พล็อตเรื่องคือมีความน่าสนใจไม่น้อย ไม่ใช่แนวรักวัยรุ่นธรรมดาแต่ใส่ความแฟนตาซีลงไปได้อย่างน่าติดตาม อยากรู้ว่าทำไมไอยถึงสามารถฝันถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้ เคมีคือดีงามมาก อาจเพราะทั้งคู่สนิทกันเวลาอยู่ด้วยกันเลยน่ารักมาก อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2, ภาพปก3 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก twitter: ISawYouInMyDreamซีรีส์วายไทยที่น่าสนใจช่วงนี้รีวิวซีรีส์ เกมนี้เพื่อนาย(2024) The Rebound ทาง VIU นำแสดง มีน ปิง #มีนปิงรีวิวซีรีส์ เพียงชลาลัย(2024) Sunset x Vibes ทาง One31 ย้อนหลังทาง iQIYI นำแสดง มอส ภานุวัฒน์ แบงค์ มณฑปรีวิวซีรีส์ รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว(2024) This Love Doesn't Have Long Beans ทาง one31 ย้อนหลังทาง iQIYI นำแสดง สายลับ ภณรีวิวซีรีส์ ต้องรักมหาสมุทร(2024) Love Sea The Series ทาง GMM25 ย้อนหลังทาง iQIYI นำแสดง ฟอร์ด ฐิติพงศ์ พีท วสุธรรีวิวซีรีส์ เขียนรักด้วยยางลบ(2024) My Love Mix-Up ทาง GMM25 ย้อนหลังทาง VIU นำแสดง เจมีไนน์ โฟร์ทเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิว Saw 1 - Saw 5 บน Netflix
อ่าน

รีวิว Saw 1 - Saw 5 บน Netflix

กลับมาอีกครั้งกับแฟรนไชส์ของ Saw 1-5 จากค่ายหนัง Lionsgate ที่ลงบน Netflix แล้วตอนนี้ ความยาวหนังประมาณ 1-2 ชั่วโมง เป็นหนังโหดในตำนานที่ทุกคนต้องรู้จักชื่อของเขาในนาม jigsaw หรือ saw ฆาตกรต่อเนื่องที่ชอบลักพาตัวคนมาเล่นเกมทรมานก่อนฆ่าให้ตายโดยอ้างว่าทำไปเพื่อให้โอกาสชีวิตอีกครั้งคำเตือน หนังมีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเรื่องย่อhttps://mobile.twitter.com/Saw/status/1578052470378373120 ในภาคแรกเล่าเรื่องของคุณหมอลอว์เรนซ์ กอร์ดอน ที่ถูกล่ามโซ่ไว้ในห้องแคบๆกับปล่องท่อ กับคนแปลกหน้าแค่สองคน ตรงกลางมีศพถือเทปนอนคว่ำหน้าอยู่กับกองเลือดในภาคสองเล่าเรื่องของสายสืบแมทธิวส์ที่ชอบใช้ความรุนแรงและซ้อมผู้ต้องหาจนกว่าเขาจะยอมรับผิด ส่วนมากจะเป็นคนจรจัด คนไร้บ้าน คนติดยา และคนไม่มีที่ไป เพื่อที่จะได้ปิดคดีอย่างรวดเร็ว เขาจะต้องเข้ารับการทดสอบและเล่นเกมกับ jigsaw ว่าจะอยู่หรือตาย เพื่อช่วยชีวิตลูกชายของเขาและภรรยาที่ถูกจับเป็นตัวประกันและในภาคสามเล่าเรื่องราวของดร.ดอร์เรน หมอประจำตัวของจอห์น เครเมอร์ ที่รับเคสของเขาต่อจากคุณหมอกอร์ดอน ลอร์เรน ที่เรามองเห็นเขาได้เข้าร่วมการเล่นเกมในภาคแรกกับอดัม ในขณะเดียวกัน คุณหมอก็ทำทุกอย่างเพื่อยื้อชีวิตฆาตกรสุดโหดคนนี้ที่กำลังป่วยและใกล้ตายไปด้วยในภาคสี่เล่าเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ริกก์ สายสืบผิวดำที่ต้องเข้ารับการทดสอบจาก saw ซึ่งเขาเป็นตำรวจที่มีนิสัยที่มีรักความยุติธรรมและหมกมุ่นในคดีของตัวเองเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันสายสืบคนอื่นก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อสืบหาความจริงของ saw จากภรรยาของจอห์น เครเมอร์เล่าเรื่องราวของเจ้าหน้าที่สไตร์ม ตำรวจที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้นมาเลียนแบบ saw และโทษความผิดทั้งหมดไปที่ฝีมือของ jigsaw ความรู้สึกที่ดู  ภาคแรกถือว่าสุดจริง เป็นหนังโหดหักมุมเรื่องแรกๆในโลกของภาพยนตร์หนังสยองขวัญที่ถือได้ว่าเป็นตำนานแห่งความโหด ความแปลก และความหลอกตาคนดูเลย ตัวละครหลักในเรื่องมีแค่สองคนเท่านั้น และฉากก็มีแค่ห้องๆหนึ่งกับอ่างน้ำเก่าๆอ่างหนึ่ง แต่กลับทำได้ดีในการเล่นกับความรู้สึกของผู้ชมไปตลอดทั้งเรื่องเลย ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความ cult จริง สุดจริง น่ากลัวจริง และสยองจริง รวมถึงสั่นประสาทจริง เป็นหนังโหดที่มีบทสนทนาของตัวละครแค่สองคนเท่านั้นในเรื่องแต่เนื้อหากลับเจ๋งและลุ้นเอามากๆตลอดทั้งเรื่อง saw 1 สนุกสุดอะ และในช่วงห้านาทีก่อนจบ มีฉากชวนช็อกเป็นอย่างมากคะแนนรีวิว 10/10  ใน Saw ภาคสองนั้นเปิดฉากมาด้วยเกมสุดโหดของกับดักหน้ากากแห่งความตายแค่เริ่มเรื่องเนื้อหาก็โหดแบบไม่เหมาะกับคนที่ไฟม่ชอบเลือดและมีเนื้อหารุนแรงแบบเด็กอายุมากกว่า 16 ปี ควรได้รับการแนะนำเลย เส้นเรื่องกับโทนเรื่องยังคงเป็นแฟรนไชส์หนึ่งในภาคของหนังเรื่อง saw คือใช้สีแนวหม่นๆ สีเขียวๆ ปรับให้สว่างๆแบบฟิล์มเก่าๆอีกทีหนึ่ง คนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาในห้องเดียวกันและถูกลักพาตัวมาและต้องเล่นเกมโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ในภาคนี้ อแมนด้า ขี้ยาจากภาคแรกโคตรเด่นเลย แอ็คติ้งและการแสดงของนักแสดงในเรื่องเต็ม 10 ให้ 100 เลยสำหรับภาคนี้คะแนนรีวิว 9.8/10  เริ่มต้นภาคสามด้วยเกมกับดักโซ่มรณะที่กฎของเกมยังคง concept เดิม จะอยู่หรือตาย คุณเลือกเอง และหนังจะโฟกัสไปที่การยืดชีวิตจอห์น เครเมอร์ ฆาตกรต่อเนื่องเจ้าของฉายา saw หรือ jigsaw ที่สื่อและตำรวจเป็นคนตั้ง สลับกับการจับเหยื่อมาเล่นเกม และทรมานเหยื่อตามคอนเซป แถมยังมีความลุ้น ความน่ากลัว ความเขย่าขวัญ และความสั่นประสาทมากกว่าเดิม สำหรับการตัดสินใจของตัวละครในเรื่องที่ถูกลักพาตัวมาเล่นเกมช่วยชีวิตสุดหฤโหดกับตัวเลือกที่ไม่ใช่แค่มีชีวิตหรือว่าตายแล้ว แต่เพิ่มตัวเลือกเป็นให้อภัย หรือแก้แค้นแทน และในขณะเดียวกัน คนดูก็จะได้รู้สึกได้ถึงความจิต ใช้แต่อารมณ์แบบน่าปวดหัวและไร้เหตุผลมากๆ ของอแมนด้า เหยื่อในภาคแรกๆของจอห์น ที่รอดชีวิตมาได้จากกับดักหน้ากาก และเกิดซาบซึ้งบุญคุณของจอห์น ประหนึ่งกับสาวกคลั่งเจ้าลัทธิแห่งศาสดา ฉากไฟกะพริบถี่ๆและเสียงหัวเราะของเทปเล่นเสียงตุ๊กตา saw เพื่อหลอกคนดู หรือเพื่อ built อารมณ์คนดู มองว่าแอบๆตุ้งแช่และจำเจนิดหนึ่ง ในภาคนี้ แต่นอกนั้นก็ตามมาตรฐานแฟรนไชส์ของหนังเรื่อง saw ในจักรวาลของ saw ที่จะมีการฆ่าคนแบบโหดๆ และมีกับดักแบบที่คนดูรู้สึกเสียวแทนคะแนนรีวิว 9.5/10  ใน saw ภาค 4 นั้นเปิดฉากมาด้วยการผ่าสมองของจอห์น เครเมอร์ ให้คนดูเห็นแบบจะๆสดๆกันไปเลยทีเดียว ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเลือดและของมีคมเป็นอย่างมาก แค่เริ่มต้นก็เจอฉากชวนอ้วกที่ไม่ควรดูในเวลาทานข้าวกันเลยทีเดียว ที่การลงสี การผ่าและนำสมองออกมาค่อนข้างเป็นธรรมชาติและสมจริงมาก ด้วยคอนเซปต์ที่ค่อนข้างน่ากลัว ฉากโหดๆ เลือดแวะๆเละๆชวนมากขยะแขยง แต่เนื้อหากลับมีความ cliche น่าเบื่อเพราะคนดูเดาทางได้แล้ว ว่าหนังจะออกมาแนวไหน กับดักถือว่าโหดใช้ได้แบบที่คิดว่าถ้าโดนกับตัวเอง คงเอาตัวเองไม่รอดแน่ๆ แนวคิดในเรื่องแอบๆแนวต่อตา ฟันต่อฟัน เล่นมา เล่นกลับ คล้ายๆกับความคิดของคนอียิปต์โบราณ นอกจากนี้เราจะได้เห็นต้นกำเนิดของ jigsaw ผ่านการเล่าเรื่องของภรรยาของจอห์น เครเมอร์ ซึ่งเปิดเผยชีวิตและความคิดของจอห์นมากขึ้น วิธีการที่เขาใช้ฆ่าคนหรือติดตามเหยื่อซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่ากลัวและไม่ควรเลียนแบบเป็นอย่างมาก ตอนจบมีจุดหักมุมมาก นี้มันแทบจะเป็นเหมือนหนังเจ้าลัทธิและสาวกผู้ติดตามศาสด ฆาตกรต่อเนื่องคนนี้ไปแล้วคะแนนรีวิว 9/10  ใน saw ภาค 5 เปิดฉากมาด้วยผู้ชายที่ถูกจับมาเล่นเกม ก่อนจะตายด้วยกับดักมรณะที่ไม่มีทางหนีหรือเอาชีวิตรอดออกมาได้เลย ซึ่งวิธีการตายนั้นก็สุดแสนจะอย่างโหดเหมือนเคย ในภาคนี้จะไม่ค่อยมีกับดักโหดๆ หรือเน้นฉากการหนีตายเอาชีวิตรอดและกรีดร้องมากเท่าไรถ้าเทียบกับสี่ภาคที่แล้ว แต่จะโฟกัสไปที่เจตนารมย์ของจอห์นที่จะส่งต่อไปยังสาวกหรือคนที่เชื่อในตัวจอห์น และบูชาจอห์นต่อไป และการสืบสวนสอบสวน ที่ตำรวจและทีมสืบสวน พยายามเอาผิด ภรรยาของจอห์น เครเมอร์ คนที่มีวามใกล้ชิดกับ saw มากที่สุด และที่ถึงแม้จะไม่ค่อยเน้นฉากโหดๆ แต่โทนมู้ดของเรื่อง ความเครียด เสียงกรีดร้อง และกับดักโหดๆ ก็ยังคงคอนเซปต์ของความเป็น saw อยู่ คะแนนรีวิว 9/10 จบไปแล้วนะคะกับหนัง saw 5 ภาคที่ผู้เขีนนำมารีวิว บอกตรงๆ แฟรนไชส์ของ saw นั้นเป็นหนังโหดในดวงใจของผู้เขียนสมัยเด็กๆตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย พอได้กลับมาดูอีกครั้งบน Netflix รู้สึกเหมือนกำลังมองเห็นเพื่อนเก่าสมัยเด็กของตัวเองเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบภาคไหน และฉากโหดฉากไหนมากที่สุด ก็คอมเมนท์เข้ามาคุยกันได้นะ ภาคที่ผู้เขียนชอบที่สุดและมองว่าทำได้ดีที่สุดคงยกให้ภาคแรกค่ะ รวมทุกอารมณ์ครบจบในเรื่องเดียวจริงๆ ตำนานแห่งหนังโหดหักมุมหลอกตาคนดูเลยบทความอื่นๆที่น่าสนใจชวนดูและยินดีจะแนะนำมินิซีรีส์ Wednesday จากจินตนาการของทิม เบอร์ตัน ที่ทุกนคาดหวังของปี​ 2022รีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่รีวิว Do Revenge (2022) เจ็บลึกกับบาดแผลเหมือนรอยสักของคนที่โดนเพื่อนแกล้งเลยวางแผนซ้อนแผน รีวิวหนัง มายาพิศวง Six Characters (2022) เมื่อตัวละครมีชีวิตของตัวเองและปรากฎตัวขึ้นเพื่อแก้เรื่องราวของตัวเองในตอนจบรีวิว การ์ตูน Zom​ 100​ : Bucket List​ of​ The​ Dead​ ที่จะเข้า Netflix ปี 2023ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva​ รูปประกอบภาพหน้าปกที่​ 1​ โดย​ Twitter​ : SAWรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 โดย Twitter​ : SAWคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน

I Saw The TV Glow การค้นหาตัวตนผ่านหน้าจอทีวี
อ่าน

I Saw The TV Glow การค้นหาตัวตนผ่านหน้าจอทีวี

“บางครั้ง The Pink Opaque รู้สึกจริงกว่าชีวิตจริงซะอีก” นี่คำพูดของตัวละครแมดดี้ (Brigette Lundy-Paine) ใน I Saw The TV Glow เชื่อว่าเด็กวัยรุ่นหลายคนไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดของโลกต่างเติบโตมาพร้อมกับรายการทีวีมากมาย ภาพ แสง สี เสียง อันฉูดฉาดที่ถูกฉายผ่านหน้าจอราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ รายการทีวีเปรียบเสมือนอีกโลกที่เราหลุดเข้าไปและหลีกหนีจากโลกความเป็นจริง มันเป็นสิ่งที่ชวนน่าหลงใหลจนบางครั้งมันดูจริงยิ่งกว่าโลกที่เรากำลังอาศัยอยู่ด้วยซ้ำไปเหมือนดั่งคำกล่าวของแมดดี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! I Saw the TV Glow เป็นผลงานลำดับที่สองของผู้กำกับ Jane Schoenburn เล่าเรื่องราวในปี 1996 โอเว่น (Justice Smith) เด็กหนุ่มขี้อายได้พบเจอกับแมดดี้ หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นคนที่หลงใหลรายการทีวีชื่อ The Pink Opaque ทั้งสองเริ่มเชื่อมโยงและมีความผูกพันธ์กันผ่านรายการทีวีนี้ แต่แล้ววันหนึ่งรายการทีวีได้ถูกยกเลิกออกอากาศและนั่นทำให้ชีวิตของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฟังจากพล็อตเรื่องอาจจะนึกว่าเป็นหนังสยองขวัญจิตวิทยา ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ใช่ซะทีเดียว มันคือเรื่องราว coming of age ของวัยรุ่นที่ถูกเล่าด้วยน้ำเสียงของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศที่กำลังสับสนกับตัวตนของตัวเองในช่วงยุค 90 ยุคสมัยที่บุคคลเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างในปัจจุบัน โดยมีรายการทีวีเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยว  หนังเรื่องนี้เป็นภาพสะท้อนถึงสภาวะของการเป็นบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ต้องเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยวและความสับสนที่ไม่อาจเข้าใจได้ โอเว่นเป็นเด็กวัยรุ่นที่กำลังรู้สึกสับสนกับตนเอง ไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองเป็นหรือต้องการเป็นอะไร จนกระทั่งเขาได้พบเจอกับแมดดี้ วัยรุ่นสาวที่โตกว่าเขาที่ก็กำลังสับสนกับสิ่งที่ตัวเองเป็นเช่นกัน แต่แมดดี้มีทางออกที่จะหลบหนีจากความรู้สึกแปลกแยกนั่นคือการดูรายการทีวี The Pink Opaque ซึ่งเกี่ยวกับ อิซาเบล (Helena Howard) และ ทาร่า (Lindsey Jordan) วัยรุ่นสองคนที่มีญาณทิพย์ เชื่อมจิตถึงกันและออกไปปราบสัตว์ประหลาดด้วยกัน ทีวีเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนความรู้สึกภายใน ให้เห็นถึงตัวตนที่ตัวละครกำลังค้นหาในโลกความเป็นจริง พวกเขามองว่าโลกของ The Pink Opaque เป็นโลกที่พวกเขาสามารถเป็นตัวเองในแบบที่ต้องการได้ ไม่ใช่คนแปลกแยกแบบในโลกความเป็นจริง “There Is Still Time” เป็นประโยคที่ปรากฏขึ้นในหนัง ซึ่งเปรียบเสมือนประโยคถึงคนดูทุกคนสำหรับใครก็ตามที่ยังสับสนกับตัวเอง สับสนกับสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็น ตอนนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ทุกคนไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการทำความรู้จักตัวเอง มันยังพอมีเวลาไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันมีเส้นทางที่หลากหลายและรองรับสำหรับการตัดสินใจเลือกของทุกคน จงเลือกเส้นทางให้ดี เส้นทางที่จะได้เป็นตัวของตัวเอง I Saw the TV Glow ฉายแล้ววันนี้ที่ Doc Club and Pub อ้างอิง: I Saw The TV Glow , I Saw The TV Glow ภาพปก ภาพ 1 ภาพ 2 ภาพ 3 ภาพ 4    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !      

รีวิว I Saw the TV Glow จิตจ้องจอ หนังชวนหลอนผ่านจอทีวี
อ่าน

รีวิว I Saw the TV Glow จิตจ้องจอ หนังชวนหลอนผ่านจอทีวี

ได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์แนวอินดี้ในรอบหลายปี อยากรู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้ผู้คนยังชมภาพยนตร์แนวอินดี้กันอยู่หรือเปล่า ทางนี้ชอบภาพยนตร์แนวอิรดี้ของค่าย A24 มากเลย ผลงานหลาย ๆ เรื่องที่คนมักจะรู้จัก ยกตัวอย่างเช่น Midsommar - เทศกาลสยอง (2019) , X (2022) , Everything Everywhere All at Once - ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส (2022) เป็นต้น จนทางนี้ได้โอกาสดูเรื่อง I Saw the TV Glow - จิตจ้องจอ อีกหนึ่งผลงานของค่าย A24 สามารถหาชมได้ทางสตรีมมิ่งออนไลน์เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ภาพยนตร์ I Saw the TV Glow จิตจ้องจอ (2024) ประเภท :  ภาพยนตร์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 40 นาที ผู้กำกับ : เจน เชนบรัน แนว : อินดี้ , สยองขวัญ , จิตวิทยา เรื่องย่อ “โอเวน” (รับบทโดย จัสติส สมิธ) เด็กหนุ่มที่กำลังติดงอมแงมกับรายการในโทรทัศน์ นั่นก็คือรายการ “The Pink Opaque” เป็นรายการเกี่ยวกับการปราบปีศาจในแต่ละตอน โอนเวนได้มีโอกาสรู้จักกับ “แมดดี้” (รับบทโดย แจ็ค ฮาเวน) โดยบังเอิญและมารู้ความจริงว่า แมดดี้เองก็ชื่นชอบรายการนี้ด้วยเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้นจนถึงขั้นไปนอนค้างคืนบ้านได้ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จู่ ๆ “แมดดี้” ก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน ไม่มีแม้กระทั่งข่าวคราวหรือเบาะแสเกี่ยวกับแมดดี้ มีเบาะแสเพียงแค่ “โทรทัศน์” ถูกเผาทิ้งไว้สวนหลังบ้านของแมดดี้เอง จนกระทั่ง “โอเวน” เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และได้บังเอิญเจอกับ “แมดดี้” อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้แมดดี้มีเรื่องราวบางอย่างที่จำเป็นต้องบอกโอเวนโดยไว ไม่อย่างนั้นมันอาจจะสายเกินกว่าที่จะแก้ไขมันได้ นักแสดงหลักจากภาพยนตร์ I Saw the TV Glow จิตจ้องจอ จัสติส สมิธ รับบทเป็น โอเวน แจ็ค ฮาเวน รับบทเป็น แมดดี้ รีวิวหลังจากดูจบ ถ้าให้พูดถึงภาพยนตร์แนวอินดี้ อยากจะบอกว่าเป็นแนวที่ทางนี้ดูน้อยที่สุดแล้ว เพราะภาพจำของแนวอินดี้ส่วนใหญ่ จะเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ , การตีความ เป็นต้น แต่เป็นเฉพาะบางเรื่องนะ ส่วนน้อยมากที่จะดูแนวนี้แล้วชอบเลยทันที ยกตัวอย่างภาพยนตร์แนวอินดี้ที่ค่าย A24 ทำแล้วเราชอบมากก็คือ Everything Everywhere All at Once - ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส (2022) อาจจะเพราะว่ามันรีเลทกับบ้านเราเยอะ รวมไปถึงสายคอหนังเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับมัลติเวิร์สมากขึ้น ส่วนเรื่อง I saw the TV Glow นี่เปิดดูเพราะนักแสดง “จัสติส สมิธ” อย่างเดียวเลย แล้วก็เห็นคำโปรยของเรื่องแล้ว นึกว่าจะเป็นแนวหลอน ๆ น่ากลัวอะไรอย่างนี้ เลยตัดสินใจเปิดดูเรื่องนี้ การเล่าของเรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครเอกอย่าง “โอเวน” แล้วก็ “แมดดี้” ซึ่งจะสลับกันไปมาระหว่าง ใช้เสียงในบรรยายเล่าเรื่อง กับ ใช้เทคนิค Breaking the Fourth Wall การบรรยายเรื่องราวโดยการสบตากับผู้ชมอย่างเราจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องที่ทำให้เราไม่รู้สึกน่าเบื่อในการดูมากนัก เพราะมีตัวละครหลัก 2 คนเล่าเรื่องราวในมุมมองของตัวเอง และพอมีการใช้เทคนิคกำแพงที่ 4 ก็เหมือนได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับตัวละครด้วยเหมือนกัน  แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับทุกคนจริง ๆ ถึงแม้จะมีความหลากหลายในการเล่าเรื่องราว แต่การดำเนินเรื่องก็จะเป็นไปแบบเนิบ ๆ ช้า ๆ ค่อยเรียนรู้สถานการณ์ไปพร้อมกับตัวละครหลัก แล้วที่ว่าไม่ตอบโจทย์สำหรับทุกคนก็คือ ภาพยนตร์ไม่ค่อยบอกอะไรกับเรามากนัก มีบางจุดที่มีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในหลาย ๆ ฉาก และตัวภาพยนตร์เองก็ไม่ได้เฉลยเรื่องราวสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ใครที่ไม่ชอบแนวจบแบบค้างคาใจ หรือชื่นชอบความตื่นเต้น มีความน่ากลัว หลอนปั่นประสาท เรื่องนี้อาจจะไม่ตรงโจทย์สักเท่าไหร่ สำหรับเรายังคงเฉย ๆ กับเรื่องนี้เลย คือไม่ถึงขั้นไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้ชอบเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน แต่อย่างน้อยภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีสิ่งที่น่าชื่นชมนะ อย่างเช่น นักแสดงหลักทั้ง 2 คน นั่นก็คือ “จัสติส สมิธ” กับ “แจ็ค ฮาเวน” เรียกได้ว่าแบกเรื่องนี้ทั้งคู่เลย ทั้งคู่แสดงได้ดีเข้าถึงบทบาทอย่างมาก โดยเฉพาะ “จัสติส” ที่ภาพจำของเราส่วนใหญ่ เขามักจะโดนให้เล่นบทบาทเด็กเนิร์ด เด็กอินโทรเวิร์ด หลายเรื่องมากเลย เรียกได้ว่าเป็นบทขาประจำเฉพาะทางของจัสติสเลยก็ว่าได้ ทำให้เรื่องนี้เองเขาก็เข้าถึงบทบาทเด็กหนุ่ม “โอเวน” เด็กน้อยที่เงียบ ๆ เข้าสังคมไม่ค่อยจะเก่ง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ขี้กลัวกับโลกภายนอก ได้ออกมาแบบ Perfect มาก ๆ ส่วนทางด้านบท “แมดดี้” เอง “แจ็ค” ก็สวมบทบาทสาวแซฟฟิกที่จริงใจได้อย่างถูกต้องมาก นิสัยห้าว ๆ มีปัญหาชีวิตรุมล้อมเยอะ เป็นห่วงเป็นใยเพื่อน น่าเสียดายเห็นบทบาทของเธอได้ไม่เยอะเท่าไหร่ และสิ่งที่น่าชื่นชมอีกเรื่องหนึ่ง คือ พวกมุมกล้อง และการจัดแสงสีของภาพยนตร์เรื่อง เรียกได้ว่าสวยมาก ทางทีม Production จับคู่สีของเรื่องออกมาได้สวยมาก ถ้าเหนื่อยกับการดูเรื่องราว มาดูมุมกล้องเอย แสงเอย ก็ได้นะ เพราะทำออกมาได้ดีจริง ๆ ส่วนฉากที่เกี่ยวกับความหลอน สำหรับเราที่เป็นคนที่ไม่ชอบดูแนวสยองขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็มองว่าเรื่องทำออกมาได้ดีนะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ชวนหลอนหรือน่ากลัวอะไรมาก แต่มันก็ชวนอึดอัด อยากจะรีบข้ามฉากนี้ไปให้จบ ๆ ก็มีนะ ถือเป็นอีกเรื่องที่เป็นแนวอินดี้แล้วทำภาพออกมาได้สวยมาก ถูกใจเราเลยแหละ สรุปคะแนน องค์ประกอบโดยรวม : ⭐⭐⭐ การดำเนินเรื่อง : ⭐⭐⭐ งานภาพ : ⭐⭐⭐⭐ การแคสติ้ง : ⭐⭐⭐⭐ ความรู้สึกร่วมในการรับชม ⭐⭐⭐ รวม : 3.4⭐ เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนอาจจะเข้าไม่ถึงเยอะเลย เล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจะไม่ได้ชวนหลอน ชวนน่ากลัวขนาดนั้น แต่ภาพสวย นักแสดงเล่นเก่งมาก   เครดิตรูปภาพ ภาพหน้าปก มีรูปภาพที่ 1 จาก isawthetvglow รูปภาพประกอบที่ 1 , 8 , 9 จาก isawthetvglow รูปภาพประกอบที่ 2 , 10 จาก I Saw The TV Glow รูปภาพประกอบที่ 3 จาก standup4justice รูปภาพประกอบที่ 4 จาก briiiiiiiiiig รูปภาพประกอบที่ 5 , 6 , 7 จาก a24 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิวซีรีส์ ฝันรักห้วงนิทรา(2024) My Marvellous Dream Is You  นำแสดง เฟ-กัญญาพัชร & เมษ์-ญดา
อ่าน

รีวิวซีรีส์ ฝันรักห้วงนิทรา(2024) My Marvellous Dream Is You นำแสดง เฟ-กัญญาพัชร & เมษ์-ญดา

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทาง 3HD เรื่อง ฝันรักห้วงนิทรา My Marvellous Dream Is You ตอนละ 60 นาที มาวันแรกวันที่ 8 พฤษภาคม 2024 ออกอากาศทุกคืนวันพุธเวลา 22.45 ช่อง 3 และย้อนหลังได้ฟรีทาง Youtube IDOLFACTORY นำแสดงโดยเฟ-กัญญาพัชร ณ นคร รับบท ดาหวัน และเมษ์-ญดา วัชระมูสิก รับบท คิมหันต์เป็นเรื่องราวของดาหวันที่เป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงมีสไตลิสต์ที่เก่งอย่างคิมหันต์คอยดูแล ทั้งคู่ไม่ได้แค่ทำงานด้วยกันเท่านั้นแต่ในชีวิตจริงพวกเธอสนิทกันมาก แต่อยู่ๆ วันหนึ่งคิมหันต์กลับบอกว่าจะลาออกจากการเป็นสไตลิสต์ให้ดาหวันแล้วไปทำงานกับเจสซี่ดาราอีกคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับดาหวัน ทำให้ดาหวันโกรธมาก ตอนนั้นทั้งดาหวันและเจสซี่ต้องให้สัมภาษณ์ในรายการเดียวกัน ดาหวันที่โกรธอยู่จึงเหวี่ยงกลางรายการและกำลังจะด่าเจสซี่ โชคดีที่ผู้จัดการดาหวันตัดไฟในสตูทันเพราะมันเป็นรายการถ่ายทอดสด ความจริงแล้วที่คิมหันต์ต้องไปทำงานกับเจสซี่ก็เพราะเจสซี่ขู่ว่าจะปล่อยคลิปของดาหวันกับคิมหันต์ที่กำลังจู๋จี๋กันเกินเพื่อน ตอนแรกทุกคนก็ไม่รู้เรื่องนี้แต่มะลิเพื่อนของทั้งคู่ดันไปได้ยินคิมหันต์คุยกับเจสซี่ตอนที่เจสซี่ขู่เรื่องคลิปพอดี แต่คิมหันต์ก็ขอร้องไม่ให้มะลิบอกดาหวันเพราะกลัวดาหวันจะไปเอาเรื่องเจสซี่จนทำให้เจสซี่ปล่อยคลิป แถมยังบอกอีกว่าแบบนี้ดีกว่าเพราะถ้าเจสซี่จะทำอะไร คิมหันต์ก็จะรู้ก่อน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องไปดูกันดาหวันมักฝันเห็นใครคนหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก คนที่เธอฝันถึงคือเพื่อนสาวตัวเล็กน่ารัก ผู้หญิงที่ทำให้เธอมีความสุขจนไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอความจริง เธอเป็นดาราที่มีนิสัยชอบเหวี่ยงชอบวีน จนคิมหันต์สไตลิสต์ของเธอต้องคอยเตือนเสมอๆ เธอยังเอาแต่ใจตัวเองมาก อะไรที่ไม่ได้ดั่งใจก็จะไม่ยอม แต่ก็เป็นคนตรงๆ ถ้าไม่ชอบใครก็จะแสดงออกอย่างตรงๆ ให้รู้เลยว่าไม่ชอบ ถึงจะดูแรงๆ แต่จริงๆ ก็มีมุมอ่อนแอ ตอนคิมหันต์ลาออกก็เสียใจมาก นักแสดงแสดงได้ดูสวย มั่นใจคิมหันต์เป็นสไตลิสต์ของดาหวัน ดูเป็นคนใจเย็น แม้ว่าจะถูกดาหวันเหวี่ยงเธอก็นิ่งๆ ไม่เหวี่ยงกลับ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับงานที่ตนรับผิดชอบ เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย น่ารัก เธอยังพักอยู่คอนโดเดียวกับดาหวันเพราะพวกเธอเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แต่ดาหวันชอบพูดจาไม่ให้เกียรติคิมหันต์ทั้งยังเหวี่ยงเธอเป็นประจำ เธอจึงใช้เหตุผลนี้มาอ้างเพื่อที่จะลาออกจากการเป็นสไตลิสต์ดาหวัน แต่จริงๆ แล้วเธอทำเพื่อปกป้องดาหวัน นักแสดงแสดงได้ดูนิ่งๆ เรียบร้อยเสื้อผ้าทำออกมาเข้ากับมู๊ดและโทนของเรื่อง ชุดทั้งคู่จะมีความสวยงามดูดี มีทั้งชุดที่ดูเรียบหรู เป็นทางการที่ใส่ออกมาแล้วดูสวยสง่าสุดๆ และชุดสบายๆ ธรรมดาๆ ที่ก็มีความน่ารัก ฉากก็ทำออกมาได้ดูสวยงาม หรูหรา อลังการ ฉากในอาคารส่วนใหญ่มีความเรียบหรู ชอบฉากในฝันของทั้งคู่มาก ดูแล้วลอยๆ ฟุ้งๆ เป็นธรรมชาติสวยงามพล็อตเรื่องคือเรื่องราวความผูกพันระหว่างสองสาวดาหวันและคิมหันต์ เมื่อโลกแห่งความฝันของดาหวันที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคิมหันต์มันช่างแตกต่างกับโลกแห่งความเป็นจริง โดยที่ดาหวันไม่รู้เลยว่าเธอไม่ใช่คนเดียวที่ตกอยู่ในห้วงฝันนั้น ในเรื่องเล่าถึงคิมหันต์ที่ตัดสินใจที่จะเลิกดูแลดาหวันในฐานะสไตล์ลิสต์หลังจากที่ทั้งคู่ทะเลาะกันที่งานอีเว้นต์ ดาหวันจึงได้รู้ความจริงว่าคิมหันต์จะย้ายไปทำงานกับเจสซี่คู่แข่งของเธอ ดาหวันปรับทุกข์กับสมรและนึกถึงครั้งที่ตนเองและคิมหันต์รู้จักกันครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่พ่อของทั้งคู่ต่างทิ้งพวกเธอไปใช้ชีวิตร่วมกัน หลังจากที่สมรกลับไป ดาหวันก็นอนไม่หลับเพราะมองไปทางไหนในคอนโดของเธอก็มีแต่ความทรงจำของเธอกับคิมหันต์ตอนที่อยู่ด้วยกันอยากให้ดูเรื่องนี้เพราะโรแมนติกดราม่าที่ดูสนุกเข้มข้น มีความหอมกลิ่นดราม่าตั้งแต่ตอนแรก เดินเรื่องได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ยืดยาด มีการปูเรื่องให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ก็ไม่เล่าหมด ทำให้เราต้องคอยลุ้นไปกับเนื้อเรื่อง เคมีคู่นี้คือดีมาก ดาหวันสวยเฉี่ยว มีความเหวี่ยงๆ แต่ดูก็รู้ว่ารักคิมหันต์มาก คิมหันต์ก็เสียสละเพื่อดาหวันเพราะรักดาหวันมาก ดูแล้วจะอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก twitter: DreamGLซีรีส์ยูริที่คุณอาจชอบรีวิวซีรีส์ พี่ว้ากคะ รักหนูได้ไหม(2023) Love Senior The Series ทาง WeTVรีวิวซีรีส์ 23.5 องศาที่โลกเอียง(2024) 23.5 When the Earth Spinning Around ทาง GMM25 ย้อนหลังทาง Netflix #มิ้ลค์เลิฟ #มีนาน่าดูเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

I told พระแม่ลักษมี about you คืออะไร? เทรนด์ฮิตขอแฟนยังไงได้ตรงปก!
อ่าน

I told พระแม่ลักษมี about you คืออะไร? เทรนด์ฮิตขอแฟนยังไงได้ตรงปก!

เป็นกระแสไวรัลที่มาแรงอยู่ในขณะนี้สำหรับ I told พระแม่ลักษมี about you ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไวรัลที่ไม่มีใครไม่รู้จักสำหรับคนโสด ที่ไปขอแฟนกับพระแม่ลักษมี แล้วสุดท้ายได้แฟนแบบตรงปกอย่างที่ได้ขอไว้โดยเทรนด์ I told พระแม่ลักษมี about you นี้ฮิตเป็นอย่างมากใน TikTok โดยมีสาวๆหลายรายได้แชร์ประสบการณ์การขอแฟนจากการไหว้พระแม่ลักษมี ด้วยการเอารูปไปให้พระแม่ดู หลังจากนั้นปรากฏว่าบางรายได้แฟนหน้าตาแบบที่ขอไว้แบบเป๊ะ ทำเอากระแส I told พระแม่ลักษมี about you กลายเป็นเทรนด์ฮิตมาแรงอยู่ในขณะนี้เลยทีเดียว" style="height: 774px;">" style="height: 792px;">" style="height: 797px;">วิธีการขอแฟนให้ได้แบบตรงปกตาม I told พระแม่ลักษมี about you1. สวดบูชาพระพิฆเนศก่อน2. สวดบทบูชาพระเม่ลักษมี ดังนี้โอม ชยะ ศรี ลักษมี มาตา (3 จบ)โอม ศรี ลักษะมิไย นะมะห์ (3 จบ)โอม มหาลักษะ มิไย นะโม นะมะหะ โอม วิษณุ ปรียาไย นะโม นะมะหะ3. ระบุชื่อ-นามสกุล อายุที่อยู่ ระบุสิ่งที่ต้องการขอแบบชัดเจน เช่น อยากได้แฟนสูงเท่าไร หน้าตาเป็นอย่างไร อายุเท่าไร เป็นต้น และ หากมีรูปตัวอย่างประกอบให้พระแม่ดูจะดีมาก4.ของไหว้บูชาควรเป็นดอกบัวสีชมพู ขนมหวาน ผลไม้รสอ่อน สีแดง นมสีชมพู ห้ามถวายของคาวเด็ดขาด5.ปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรม ไม่ประพฤติชั่วคดโกง มิเช่นนั้นพระแม่ลักษมีอาจไม่ช่วยข้อควรรู้สำหรับคนที่มีแฟนแล้วแต่ไม่ใช่เนื้อคู่ หรือ เป็นคนไม่ดี เป็นคนที่ไม่ใช่แล้วนั้น เชื่อกันว่าพระแม่ลักษมีจะดีดออกทันที เพื่อเปิดทางให้เจอกับเนื้อคู่ที่เป็นคนดีกว่า และ ศีลเสมอกันทั้งนี้ พระแม่ลักษมี เป็นเทวีแห่งความงดงาม มั่งคั่ง และอุดมสมบูรณ์ โดยจะบูชาขอเรื่องความรัก ความสมหวังให้ได้พบเจอคู่ครองที่เหมาะสมอยู่ด้วยแล้วชีวิตมีแต่ความสุข ในขณะเดียวกันพระแม่ลักษมียังช่วยให้ เกิดความปรองดองภายในครอบครัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าท่านจะช่วยบันดาลร่ำรวยเงินทอง ตามคติความเชื่อของชาวฮินดูไหว้พระแม่ลักษมีที่ไหน?1. Gaysorn Centre, ชั้น 4, Gaysorn Village ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น.2.เซ็นทรัลลาดพร้าว บริเวณทางเข้าลานจอดรถ3.วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ถนนปั้น แขวง สีลม เขตบางรัก4.วัดวิษณุ ถนน เจริญราษฎร์ แขวง ทุ่งวัดดอน เขต สาทร5.วัดเทพมณเฑียรเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานครp.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px 'Helvetica Neue'} span.s1 {font: 13.0px Thonburi}ภาพจาก :TNN ONLINE

รีวิว Spiral From Book of Saw (2021) แฟรนไชส์ภาคต่อของ SAW เข้า Netflix แล้ว
อ่าน

รีวิว Spiral From Book of Saw (2021) แฟรนไชส์ภาคต่อของ SAW เข้า Netflix แล้ว

*เตือน เนื้อหาของหนังมีความรุนแรง เหมาะสำหรับคนที่อายุ 20 ปีขึ้นไป*หนังความยาว 1 ชั้วโมง 33 นาทีที่เนื้อหาโคตรโหดของคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับกรมตำรวจแบบเลียนแบบจอห์น เครเมอร์ ฉายาจิ๊กซอว์ ฆาตกรต่อเนื่องในหนังเรื่อง saw ที่สร้างภาคต่อและมีแฟรนไชส์มาถึง 8 ภาค นี้คงเป็นภาค 9 ที่เนื้อหาโคตรโหด โคตรเรียล เข้ากับยุคปัจจุบันดีในภาคนี้เล่าเรื่องถึงนักสืบเอเซเกล ซีค สายสืบดีเด่นประจำกรมตำรวจที่มักจะโดนเปรียบเทียบกับพ่อของเขาที่สร้างตำนานให้กรมตำรวจเสมอ จู่ๆก็มีคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของเขา โดยเป็นคดีฆาตกรรมที่เลียนแบบ saw เล่นเกมเพื่อมีชีวิตรอดหรือตาย ในความรู้สึกของผู้เขียนที่ดู saw เป็นแฟรนไชส์หนังที่สร้างต่อเนื่องมา 17 ปีแล้ว เป็นธรรมดาที่คนดูจะจับทางได้ง่ายๆ ผู้กับกับและทีมงานเขียนบททีมนี้มีความครีเอทนะ ที่รักษาเสน่ห์และความโหดของความเป็น saw ไว้ได้ https://www.instagram.com/p/CPAGc45pkU7/ แถมยังเล่นตลกร้ายกับความคิดของผู้ชมด้วยว่าไหนๆก็จับทางหนังได้แล้ว งั้นก็ทำออกมาให้เป็นแบบที่คนดูคิดเอาไว้หรือคาดหวังเอาไว้ละกัน แต่หนังกลับสนุก สนุกมากๆ ถ้าเทียบกับภาคก่อนๆแล้วคือดี ไม่ผิดหวังเลย แม้หากเทียบกับภาคแรกๆ อย่างภาคแรกสุดคุณภาพของหนังเรื่อง saw จะดรอปลง แต่ยังรักษาเสน่ห์และความน่ากลัวและความลึกลับของหนังไดัดี ต้องยอมใจนักแสดง เพราะมันทำให้เราคิดถึงหนังเรื่อง saw จริงๆ แถมยังให้ทุกคนใส่หน้ากากรูปหมู แทนที่จะเป็นมาสคอตตัวตลกแบบที่แล้วๆมา และเหยื่อที่ถูกจับมาก็ดันเป็นตำรวจที่ทุจริต ทำร้ายคนบริสุทธิ์ และปกปิดความผิดให้คนร้ายหรือคนมีอำนาจด้วย ซึ่งมันก็เข้ากับคำถามที่คนทั่วโลกตั้งคำถามและต้องการคำตอบว่า ตำรวจทำอะไรอยู่ จนถึงขั้นมีสารคดีที่ลง netflix เรื่อง The force จริงๆชอบตัวละครวิลเลียม เชนก์ที่รับบทโดย แม็กซ์ มิงเกลลา มากเลย รู้สึกได้ถึงเสน่ห์และความน่าติดตามของตัวละครตัวนี้ ตอนที่ผู้เขียนชอบที่สุดและยกให้เป็นช่วง climax คือช่วง 20 นาทีสุดท้าย โคตรระทึกและโคตรตื่นเต้นเลย จากครึ่งชั่วโมงแรก หนังดูเนือยๆในการปูทาง ป.ล. เห็นมาสคอตเป็นตำรวจใส่หัวหมูแล้วแอบนึกถึงเพลง yummy gang ของ  rapper วง A$APคะแนนรีวิว 10/10บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : รีวิว Birds of Prey ฮาร์ลีย์ ควินน์ เล่าเรื่องบ้าๆสไตล์ฮาร์ลีย์ ควินน์ หลังไม่มีโจ๊กเกอร์รีวิว The Batman (2022) 12/10 แบทแมนเวอร์ชันที่เรียลที่สุด​​​​​รีวิว Hawkeye เนื้อเรื่องหลังจบ End game ของฮอร์กอายรีวิว Black widow เรื่องราวของนาตาชา โรมานอฟหลังจากสงคราม Civil warรีวิว The Falcon and The Winter Soldier หลังโลกนี้ไม่มีกัปตันอเมริกาขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 / 2 โดย SAWรูปภาพประกอบที่ 1 โดย Netflix / 2 / 3 / 4 โดย IG : maxminghellaอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่ ฟังเพลงฮิตสุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

สายวายเตรียมเฮ!! My Dream The Series นายในฝัน เดินหน้าบวงสรวงแล้ว
อ่าน

สายวายเตรียมเฮ!! My Dream The Series นายในฝัน เดินหน้าบวงสรวงแล้ว

กำลังจะมีซีรี่ส์เอาใจสายวายให้เราดูอีกแล้วโดยผู้บริหาร ค่ายเพลย์เอ็มมิเนนท์ (Playeminent) ถือฤกษ์งามยามดี 13.36 น. จัดพิธีบวงสรวงซีรี่ย์วาย My Dream The Series นายในฝัน ขึ้นที่โครงการ Chill Chill in Town ลาดพร้าว 94 โดยมี คุณจ๊อบ-ปิยะวัฒน์ ใจเที่ยงธรรม ผู้กำกับคนเก่งขวัญใจแฟนๆ ซีรี่ย์วาย และ  คุณเบสท์-อนาวิล ชาติทอง นักแสดงหนุ่มหล่อที่โดดมาชิมลางงานเบื้องหลัง รับหน้าที่ออกแบบงานสร้างแบบเต็มตัวครั้งแรกในโปรเจ็คนี้ เข้าร่วมพิธี พร้อมด้วย 9 นักแสดงนำ อาทิ เบสท์-ชลสวัสดิ์ เตียววณิชกุล, ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์ กันคำ, เฟม-ชวินโรจน์ ลิขิตเจริญสกุล, ทาโร่-ชาตรี สุวรรณวลัยกร, บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต, แอนน่า กลึคส์, ชู้ต-เชิดชนินทร์ ฤทธิ์ธาอภินันท์, แอลฟ่า-ชลธี บำเพ็ญ และ นุ่น-พิชชาธร สันตินธรกุล ท่ามกลางแฟนคลับที่ตบเท้ามาให้กำลังใจเพียบ โดย My Dream The Series นายในฝัน มีกำหนดจะเปิดกล้องถ่ายทำอย่างเป็นทางการ ในปลายเดือนมิถุนายนนี้ อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App  หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID

My dream for  future.
อ่าน

My dream for future.

เชื่อว่าทุกๆคนต่างมีสิ่งที่เรียกว่าความฝัน ความฝันคืออะไร? ความฝันในที่นี้ ที่เราจะมาพูดถึงกันมันเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนคาดหวังกับมัน อยากจะทำให้ได้ดั่งที่ตั้งไว้ ความฝันมีหลายรูปเเบบ เเละมีทุกรูปเเบบ เเละมีกับทุกคน ความฝันเกิดขึ้นจากสิ่งที่คนๆนึงอยากจะทำตามสิ่งที่หวังไว้ เช่น จบม.6 ฉันอยากจะต่อที่นี่นะ ฉันอยากเรียนนี่นะ ฉันอยากไปเที่ยวที่นี่นะ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความฝัน สิ่งที่อยากทำ หรือสิ่งที่หวัง เอาไว้ สำหรับบางคนเเล้วสิ่งนี้อาจจะเป็นปัจจัยหลักในการมีชีวิต มีชีวิตเพื่อทำตามความฝันความฝันนึงให้สำเร็จ เเต่อีกกับบางคนนั้นกลับเป็นสิ่งที่เข้ามากดดัน   เเต่กลับเต็มใจที่จะรับความกดดันนี้เอาไว้เพื่อหวังว่าสักวันนึงที่ได้พยายามจนเต็มที่เเล้ว จะได้สิ่งที่เรียกว่าความฝันนี้มาครอบครอง เเต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่จะสำเร็จ เมื่อสิ่งที่เรียกว่าผิดหวังเกิดขึ้นมาหลังจากพยายามอย่างเต็มที่เเล้ว นั้นอาจจะทำให้คุณหมดหวัง ใช่เราทุกคนหมดหวังกับสิ่งที่เรียกว่า ความฝันกันได้ ไม่ผิดเราต่างพยายามเต็มที่เเล้ว อย่าลืมว่าเราเก่งมากเเล้ว เเละอย่าลืมว่าไม่มีใครที่จะหมดหวังไปตลอด เพียงเเค่ทุกคนต่างมีระยะเวลาต่างกัน วันนี้ไม่ได้ ต่อไปเอาใหม่  เมื่อเรามีความฝันเเล้ว เราต้องมีความหวังเเละเมื่อมีหวังเเล้วนั้นเป็นธรรมดาที่อาจจะผิดหวัง ต่างต้องยอมรับข้อเท็จจริงข้อนี้ให้ได้เเล้วจะไม่ท้อใจ  เพื่อความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเราเเล้วเหตุใดเล่าจึงท้อใจ อย่าท้อจนหมดกำลัง โปรดท้อเพื่อให้ฟื้นตัวจากความผิดหวัง เเล้วเมื่อมีเเรงหวังจะต้องทำความหวังให้เป็นจริง นี้คือสิ่งที่เรียกว่าความฝันit's a bad day not a bad lifeคำนี้ไม่เกินจริงเลยทุกคนมันจะเป็นเเค่เพียงวันนี้ที่เเย่เเต่ก็ไม่ใช่ทั้งชีวิตของเราจะเเย่สักหน่อย สู้ๆเพื่อความฝันของเรา อย่าลืมว่าเเค่เหนื่อยเราก็พัก อย่าลืมว่าสิ่งที่จะขัลเคลื่อนความฝันของเราคือตัวเราเองนะ    ภาพทั้งหมดโดยนักเขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

การ์ตูนญี่ปุ่น "The Future I Saw" ทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่น ทำผู้คนล้มแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างไร
อ่าน

การ์ตูนญี่ปุ่น "The Future I Saw" ทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่น ทำผู้คนล้มแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างไร

ถ้ามีการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น ทำนายว่า จะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง คุณจะล้มเลิกแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นไหมนี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะมีคนเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ และล้มแผนไปญี่ปุ่นมังงะที่ว่านี้ มีชื่อว่า The Future I Saw หรือ อนาคตที่ฉันเห็น ผลงานของ เรียว ทัตสึกิ ที่อ้างว่าบันทึกจากความฝันของเธอเองนับแต่ปี 1976 นำมาถ่ายทอดเป็นการ์ตูน ตีพิมพ์ ปี 1999 การ์ตูนเรื่องนี้ ทำนายว่า จะเกิดสึนามิปี 2011 ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา โรคระบาดใหญ่ ซึ่งคนก็โยงไปถึงโควิด เรียกว่า ค่อนข้างแม่นยำจนน่าตกใจแต่คำทำนายสำคัญ ที่เริ่มกระทบการท่องเที่ยวญี่ปุ่น มังงะฉบับสมบูรณ์ที่เผยแพร่ในปี 2021 และทำนายว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เดือนกรกฎาคมปี 2025ในมังงะอธิบายว่า แผ่นดินไหวจะเกิดจากรอยร้าวใต้พื้นทะเลระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ ก่อให้เกิดสึนามิยักษ์ ใหญ่กว่าแผ่นดินไหวปี 2011 ถึง 3 เท่าตัวผู้เชี่ยวชาญย้ำมาเสมอว่า การทำนายแผ่นดินไหวอย่างแม่นยำนั้นเป็นไปไม่ได้ และญี่ปุ่นเอง ก็รับมือแผ่นดินไหวได้ดีมาตลอดแต่ความวิตกว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ดั่งคำทำนาย ประกอบกับกระแสพูดถึงในสังคมออนไลน์ และอินฟลูฯ ต่าง ๆ ย้ำแล้วย้ำอีก ก็ทำให้คำทำนายจากมังงะงี้ เป็นเรื่องยิ่งกว่าจริงสำหรับนักท่องเที่ยวหลายคนไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้อ้างตนว่ามีญาณวิเศษ ออกมาทำนายทายทักอีกหลายคน รวมถึงจากในญี่ปุ่นและฮ่องกง และคำเตือนก็เป็นไปในทางเดียวกัน คือ จะเกิดภัยพิบัติใหญ่โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก คือ จีน และฮ่องกง จำนวนไม่น้อยที่ล้มแผนมาเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวสำคัญด้วยบริษัทท่องเที่ยวหนึ่งในฮ่องกง บอกกับ CNN ว่า ลูกค้ายกเลิกแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นกว่าครึ่ง ในช่วง 2 เดือนนับจากนี้ ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ เรื่องแผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก่อนหน้านี้ ความวิตกฝังลึกมากขึ้น หลังรัฐบาลเตือนเมื่อเดือนมกราคมว่า มีโอกาส 80% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แถบร่องนันไคสำหรับตัวทัตสึกิ ผู้เขียนมังงะ The Future I Saw นั้น เธอเขียนตัวเองเป็นตัวเดินเรื่องในมังงะ คำทำนายแผ่นดินไหวปี 2011 ทำให้เธอมีชื่อเสียงและผู้ติดตามมาก ไม่เพียงในญี่ปุ่น แต่ในเอเชีย รวมถึงไทยและจีนด้วยมังงะเรื่องนี้ จำหน่ายไปแล้ว 900,000 เล่ม และตีพิมพ์เป็นภาษาจีนด้วยอย่างไรก็ดี คนที่ยกเลิกทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นเพราะคำทำนาย ยังคิดเป็นส่วนน้อย เพราะอันที่จริงช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวทะลุ 10.5 ล้านคนไปแล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มากถึง 2.36 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 78% จากปีที่แล้ว

สรุปเนื้อเรื่อง ลิลิตท่องฝัน A Dream Within A Dream ทรูไอดี
อ่าน

สรุปเนื้อเรื่อง ลิลิตท่องฝัน A Dream Within A Dream ทรูไอดี

สนุกขำหนักมากจนต้องชวนดู ซีรีส์จีน A Dream Within A Dream ลิลิตท่องฝัน / คัมภีร์ร่วมฝัน ทาง TrueID ใครที่กำลังมองหาซีรีส์คลายเครียด ดูง่าย แต่เนื้อเรื่องยังคงเข้มข้น โปรดักชั่นปัง พระนางเคมีฟิน ต้องห้ามพลาดเรื่องนี้เลย ดูแล้วติดหนักมาก สนุกทุกตอนจนต้องรอตอนใหม่ทุกวัน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! สรุปเนื้อเรื่อง คัมภีร์ร่วมฝัน / ลิลิตท่องฝัน เรื่องราวของนางเอกที่หลุดเข้าไปในนิยายที่ตัวเองกำลังจะแสดงเรื่อง ความฝันแห่งชิงหนิง กลายเป็น ซ่งอีเมิ่ง (รับบทโดย หลี่อี้ถง) นางเอกของเรื่องที่ต้องพบจุดจบเพราะพัวพันกับพระเอกอย่าง หนานเหิง (รับบทโดย หลิวอวี่หนิง) องค์ชายเจ็ดผู้โหดเหี้ยม นางเอกที่รู้พล็อตเรื่องดีเลยพยายามจะหนีจากพระเอก ด้วยการแต่งงานกับพระรอง แม่ทัพ ฉู่กุยหง (รับบทโดย หวังโย่วซั่ว) คู่หมั้นของซ่งอีเมิ่ง แต่พอหลีกหนีจากพล็อตหลักก็ต้องตายซ้ำๆ จนไม่ได้แต่งงานกับพระรองและฟื้นขึ้นมาก่อนเหตุการณ์นั้นหกเดือน ซึ่งเป็นตอนที่ฉู่กุยหงพ่ายศึกถูกจับเป็นตัวประกัน เป็นพระเอกหนานเหิงที่รบชนะและช่วยมาและกำลังจะลงโทษประหารที่ทำให้เสียเมืองหลายเมือง แต่ก็มีราชโองการมาช่วยฉู่กุยหงไว้ ซึ่งมีพ่อนางเอกร่วมด้วย นางเอกถึงกับกุมขมับเพราะทีมของตัวเองดันไปเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจด้วย จะปัดพ้นตัวคงไม่ได้ละ แล้วตอนนี้หนานเหิงก็สนใจจะเข้าหาซ่งอีเมิ่ง เพราะรู้ว่าพ่อรัก กะดึงพ่อนางเอกเป็นพวกเพราะพ่อนางเอกเป็นเจ้ากรมทหารควบรองราชเลขาแถมเป็นเพื่อนฝ่าบาท เลยส่งบัตรเชิญให้มางานเลี้ยง แต่นางเอกก็พยายามไม่ไปแต่ก็โดนพวกสาวใช้ มนุษย์เครื่องมือที่ถูกบทควบคุมบังคับให้มาเพราะจะมีฉากเด็ดที่เลี่ยงไม่ได้คือการพบกันของพระนาง นางเอกตกน้ำและพระเอกไปช่วยไว้ และจูบกันท่ามกลางผู้คนมากมาย ทำให้ซ่งอีเมิ่งตกหลุมรักหนานเหิง ซึ่งนางเอกพยายามจะเลี่ยงสุดๆ แต่กลับถูกบทควบคุมร่างกายซึ่งพระเอกก็โดนด้วยทำให้พวกเขาต้องจูบกัน พระเอกเลยยิ่งสนใจซ่งอีเมิ่งเพราะสงสัยว่านางควบคุมเขาได้ยังไง เลยพยายามเข้าหาจนสุดท้ายได้คุยกัน นางเอกก็บอกว่ามันเป็นเพราะบทเหมือนเทพสักองค์ที่คอยควบคุมบงการเรา ทำให้นางเอกรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวพระเอกดี ทั้งเรื่องที่พระเอกอยากได้วิธีหลอมดาบจากทัพเซียวอวี่ที่ฉู่กุยหงคุมอยู่ แน่นอนว่าพระเอกไม่เชื่อว่ามีเทพ แต่รู้แล้วว่านางเอกอันตราย พระเอกเลยจะฆ่านางเอกแต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ทั้งยิงธนู วางยาพิษ หรือผลักตกน้ำ พระเอกก็ต้องเจ็บเองเพราะไปช่วยนางเอกเพราะร่างกายถูกควบคุมโดยอะไรบางอย่าง ซึ่งนั่นก็ทำให้นางเอกรู้ว่าพระเอกไม่สามารฆ่านางได้ มีกฎของนิยายที่เมื่อนางเอกมีภัยพระเอกต้องไปช่วยเหลือ นางเอกเลยไม่กลัวพระเอกแล้ว แต่พระเอกก็ใช้คนรอบตัวมาข่มขู่เพื่อให้นางเอกหาวิธีหลอมดาบให้เขา นางเอกเลยต้องไปตลาดมืดฉานเจียงเยว่ เพื่อหาวิธีแต่ก็ต้องพัวพันกับเรื่องอันตรายเพราะไปช่วยสาวใบ้ที่ถูกประมูล แต่ได้ชายสวมหน้ากากจอมยุทธ์ หลีสือลิ่ว ช่วยไว้ โดยที่นางเอกไม่รู้ว่านี่คือพระเอกหนานเหิง และหลีสือลิ่วคือหัวหน้าของฉานเจียงเยว่ ซึ่งเป็นกองกำลังลับของเขาที่จะใช้ชิงอำนาจ ตอนนี้เหลือแค่วิธีหลอมดาบให้แข็งแกร่งละถึงจะชนะได้ ซึ่งอีกฝั่งที่จะแย่งชิงด้วยคือองค์ชาย 18 ผู้ไม่เอาไหนแต่เป็นลูกรักของฝ่าบาทและมีฉู่กุยหงหนุนเพราะเป็นญาติฝั่งแม่ นางเอกที่ถูกหลีสือลิ่วช่วยไว้เพราะถูกบทควบคุมร่างกายให้ช่วยนางเอกตอนมีอันตราย นางเอกก็มองว่าจอมยุทธ์หลีเป็นคนดีมาก เลยพยายามเข้าหาเพราะคิดว่าเขาคือตัวแปรสำคัญที่จะหลุดพ้นจากหนานเหิง ซึ่งพระเอกก็ถูกลูกน้องอย่าง ซ่างกวานเฮ่อ (รับบทโดย หวังอี่หลุน) ยุยงให้ใช้ตัวตนของหลีสือลิ่วเข้าหานางเอก พระนางเลยเริ่มสนิทกัน จนนางเอกเริ่มเสนอแผนสังหารหนานเหิง เพราะเขาคือคนชั่วร้าย พระเอกก็ถามชั่วร้ายยังไง นางเอกก็บอกนางรู้ดีมีหลายเหตุการณ์เลวร้ายที่พระเอกทำ ซึ่งนั่นไม่ใช่พระเอกทำเลยทุกคนแต่อะไรที่เป็นความผิดก็โทษแต่พระเอก แบบพระเอกรับจบหมด ทำดีไม่มีใครเห็นค่าเลยทุกคน เช่น รบชนะช่วยเหลือชาวบ้านแต่ชาวบ้านก็ยังสรรเสริญแต่แม่ทัพฉู่กุยหง ขนาดฉู่กุยหงทำให้เสียเมืองฝ่าบาทก็ยังให้ขึ้นตำแหน่ง ให้กองทัพมาดูแลเมืองหลวง คือไร? เป็นบทที่ควรแก้ไขจริงๆ นั่นแหละ มีหลุมมากมายในนิยายเรื่องนี้เป็นเหตุให้นางเอกบ่นจนถูกดูดเข้ามาในนิยายให้แก้บทเอง 55+ ซึ่งที่นางเอกอยากฆ่าหนานเหิงก็เพราะจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงในงานเทศกาลโคมไฟ เพราะไฟจะไหม้ชาวบ้านจะบาดเจ็บ โดยพิสูจน์คำพูดของนางเอกคือฉู่กุยหงจะได้ดูแลงานเทศกาลโคมไฟ ซึ่งพอเป็นงั้นจริงพระเอกเลยร่วมวางแผนจะฆ่าหนานเหิงร่วมกันกับนางเอกและฉู่กุยหง เพราะถ้ารู้แผนพระเอกจะได้รับมือถูก ซึ่งวันจริงก็ให้ซ่างกวานเฮ่อปลอมตัวเป็นหลีสือลิ่ว แต่ถูกฉู่กุยหงจับได้ แล้วแผนก็พังไม่เป็นไปตามแผนทั้งหมดและหลีสือลิ่วตัวปลอมจะถูกจับ นางเอกเลยช่วยหลีสือลิ่ววิ่งหนีซึ่งพระเอกที่เป็นหนานเหิงตอนนี้ก็เห็นจึงรู้ว่านางเอกเชื่อใจหลีสือลิ่วมาก จึงสวมชุดกลับมาเป็นหลีสือลิ่วแล้วมาหานางเอก ชมเทศกาลโคมไฟด้วยกัน นี่จึงเป็นโมเมนต์ที่เปิดใจอย่างแท้จริงของพระเอกที่เริ่มตกหลุมรักนางเอกแล้ว แต่ก่อนที่จะดี องค์ชาย 18 ที่เมาดันไปจุดพลุที่พวกฉู่กุยหงกำลังขนย้ายเพื่อเอาใจน้องสาวนางเอกอย่าง ซ่งอีทิง (รับบทโดย จู้ซวี่ตัน) ที่นางไม่ได้สนใจเขาเลย (ซ่งอีทิงนึกว่าจะร้ายแต่น้องดีมากแบบถ้าเจอผู้ชายไม่ดี น้องก็ขออยู่คนเดียว) ซึ่งพลุทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ พระนางเลยต้องช่วยเหลือผู้คน ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ทาง TrueID, iQIYI ซีรีส์ คัมภีร์ร่วมฝัน / ลิลิตท่องฝัน ล้อเรื่องไหนบ้าง มีเยอะมากเลยค่ะและแต่ละเรื่องที่ยกมาล้อก็เรื่องดังฉากเด็ดทั้งนั้นแล้วล้อได้จี้เส้นแบบทำถึงมาก อย่าง ฉากนางเอกสวมชุดแดงขึ้นกำแพง จากซีรีส์ ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ฉากเลือกช่วยตัวประกันสาวงามบนกำแพง จากซีรีส์ จันทราอัสดง ฉากจับชู้ที่เป็นน้องสาวจากเรื่อง จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต ฉากฟู่กุ้ยเขียนอักษรบนเสา จากซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมาร หรือแม้แต่ฉากการตายของตัวเองก็โดนล้อจากซีรีส์ ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก แถมยังซื้อเพลงในเรื่องมาใส่ด้วยนะคือทุ่มสุดๆ ค่ะ แล้วไหนจะฉากเด็ดคลาสสิคในซีรีส์หลายเรื่องที่ชอบใส่ฟิลเตอร์ตอนพระนางมีโมเมนต์ ใส่แสงใส่เพลงหมุนกล้องสร้างบรรยากาศแบบจัดเต็มนี่ก็โดนล้อ ซึ่งจะมีซีรีส์เรื่องไหนที่โดนล้ออีกหรือมีฉากไหนที่ผู้เขียนข้ามไปก็ต้องไปดูในซีรีส์นะคะ เป็นซีรีส์ที่สนุกจริงๆ จนไม่อยากให้ใครพลาดเลยค่ะ รีวิว คัมภีร์ร่วมฝัน / ลิลิตท่องฝัน A Dream Within A Dream ซีรีส์จีนย้อนยุค โรแมนติกสุดฮอต ดูพากย์ไทย ซับไทย TrueID ซีรีสฺอื่นๆ - รีวิว ลวงเล่ห์เสน่ห์ดอกท้อ The Princess‘s Gambit (2025) ซีรีส์จีนย้อนยุค หลิวเสวียอี้ x เมิ่งจื่ออี้  - รีวิว เคราะห์สวรรค์ทัณฑ์รัก Feud (2025) ซีรีส์เทพเซียน เจิงซุ่นซี x ไป๋ลู่ - รวมซีรีส์จีนของพระเอกสุดฮอต ปี 2025 จากซีรีส์กระแสแรง Credit : ภาพปก Weibo 电视剧书卷一梦剧本控制版 (1) 电视剧书卷一梦剧本控制版 ภาพที่ 1-3,4   จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !  

รีวิว คัมภีร์ร่วมฝัน A Dream Within A Dream ทาง iQIYI
อ่าน

รีวิว คัมภีร์ร่วมฝัน A Dream Within A Dream ทาง iQIYI

เรื่องย่อ เรื่องราวของนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง ซ่งเซียวอวี่ (รับบทโดย หลี่อี้ถง) ในยุคปัจจุบันที่บังเอิญหลุดไปอยู่ในคัมภีร์นิยายโบราณโดยบังเอิญ ซึ่งเธอโชคร้ายได้กลายเป็นตัวละครที่มีเคราะห์ร้าย ซึ่งต้องถูกพระเอกอย่าง หนานเหิง (รับบทโดย หลิวอวี่หนิง) ที่เย็นชาเล่นงานอยู่ตลอด เธอเองพยายามหนีจากโชคชะตาที่โหดร้ายนี้ถึง 108 ครั้ง และเธอก็ได้พบกับจุดจบที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้สักครั้งเลย เธอได้พบเจอกับสิ่งที่กังวล น่ากลัว และแเปลกประหลาดทุกๆครั้งที่เธอย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงชะตาตัวเองเสมอ ก็ต้องมาลุ้นดูกันว่านางเอกจะหลุดพ้นจากคัมภีร์นี้ได้อย่างไรแล้วอะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้นางเอกหลุดเข้าไปในคัมภีร์โบราณนี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://youtu.be/HbPFyaIHgo8?si=lh4PGDGJCfONawyq เป็นซีรี่ส์แนวสืบสวน คอมเมดี้ โรแมนติก แฟนตาซี ดูซับไทยแบบถูกลิขสิทธิ์ทาง iQIYI เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนานี้ นักแสดงนำ ซ่งเซียวอวี่ รับบทโดย หลี่อี้ถง เป็นคนซุกซน อยากลองอะไรใหม่ใหม่ น่ารัก ตลกและชอบเสี่ยง   หนานเหิง รับบทโดย หลิวอวี่หนิง เป็นคุณชายผู้เย็นชา ดูโหด รูปหล่อ แต่ลึกลึกมีความคิดเป็นของตนที่แตกต่างกว่าใคร   รีวิวจากการดูโปสเตอร์และ TEASER จากใน TEASER ดูมีความตลกมาก และดราม่าอยู่บ้าง แต่น้อยมากๆค่ะ คือมันเหมือนกับเป็นเรื่องราวที่นางเอกเจอซ้ำๆ แต่แล้วก็มีจุดเปลี่ยนบางอย่างที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่นางเอกเคยอ่านในคัมภีร์มาก่อนค่ะ ซึ่งแรกๆช่วงที่นางเอกถูกฆ่าบ่อยๆนะคะ เหมือนจะมีเรื่องราวความรักสามเศร้าอยู่นิดๆที่นางเอกต้องเจอกับพระเอกนะคะ แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนนึงด้วย แต่หลังจากนั้นคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องราวเกือบครั้งสุดท้ายแล้วหรือเปล่าของคัมภีร์นี้นะคะ ซึ่งมีความแปลกไปของตัวละคร ซึ่งพระเอกก็ดูคลั่งรักนางเอกขึ้นมาแบบสุดๆนะคะ นี้ก็คือเป็น plot ที่ดูน่าติดตามเนื่องจากดูมีความเดาทางไม่ค่อยได้นะคะ นางเอกมีความตลกคอมเมดี้เหมาะกับคาแรกเตอร์ของหลี่อี้ถงมากๆค่ะ และนางเอกก็มีความพยายามลองสิ่งใหม่ใหม่ พยายามคิดว่ามันจะเป็นยังไงต่อ แบบเดา plot ของคัมภีร์ที่ต้องเผชิญนะคะ ที่สำคัญที่สุดรู้สึกว่าเสื้อผ้าการแต่งกายดูดีมากค่ะ ทั้งนางเอกและพระเอกดูเป็นคนที่มีชาติตระกูลไม่ได้ลำบากขนาดนั้น แต่เห็นเหมือนทุกภพที่นางเอกต้องตายจะเกิดจากการยิงธนูของพระเอกเสมอเลยค่ะ ก็ต้องลุ้นดูกันว่าสุดท้ายแล้วนางเอกจะทำยังไงให้พระเอกไม่ได้ฆ่าตัวเอง แล้วจะเปลี่ยนจุดจบของตัวเองยังไง หรือมันจะเปลี่ยนจากความรักที่เกิดขึ้นแน่ๆๆเลยค่ะ ก็ต้องรอลุ้นดูกันในซีรี่ส์เรื่องนี้ น่าสนใจและน่าติดตามมากๆค่ะ   เรื่องนี้ผู้เขียนให้ไปเลย 10 เต็ม 10 ค่ะจากนักแสดงและ teaser ที่ดูน่าติดตามและแปลกใหม่ค่ะ   ภาพปกตกแต่งโดย Canva - 1 ขอบคุณรูปภาพจาก weibo ของ 电视剧书卷一梦被清宁一梦夺舍版 - 2 3 4 5 6 7 8 ขอบคุณวิดีโอจาก YouTube 柠萌影视官方频道 Linmon Media Official Channel - 欢迎订阅- 1   จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !  

ททท. สบช่องโควิด-19 คลี่คลาย รุกจัดกิจกรรม My Dream Journey เอาใจนักท่องเที่ยว
อ่าน

ททท. สบช่องโควิด-19 คลี่คลาย รุกจัดกิจกรรม My Dream Journey เอาใจนักท่องเที่ยว

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าววว่า ผลจากมาตรการลดการกระจายของเชื้อโควิด-19 แต่ในวันนี้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้น ทำให้เริ่มมีการผ่อนคลายโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รุกจัดกิจกรรมช่วยผ่อนคลายความกังวล และสร้างความสนุกสนานให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยว ล่าสุดจัดกิจกรรมชวนร่วมสนุกด้วยการมาแบ่งปันเส้นทางในฝันกับกิจกรรม My Dream Journey ให้คนอยากเที่ยวได้รู้สึกคึกคัก เพื่อเตรียมพร้อมกับการเดินทาง และหากใครมีเส้นทางในฝันที่หลายคนคาดไม่ถึง จะได้มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมสนุกได้ทาง Facebook Fanpage : Tourism Product ง่ายๆ เพียงโพสต์ภาพ คำบรรยาย หรือจะสร้างสรรค์วิธีการท่องเที่ยวในรูปแบบที่คุณฝันอยากทำมาแบ่งปันกันใต้โพสต์กิจกรรม จากนั้นแชร์หน้ากิจกรรมไปยัง Facebook ส่วนตัว และ Hash Tag #MyDreamJourney #ห้างททท พร้อมเปิดเป็นสาธารณะ เริ่มแล้ววันนี้ถึงวันที่ 22 ก.ค. 2563 โดยจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 29 ก.ค. 2563 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2AYbVe7 ทุกไอเดียจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะเป็นข้อมูลที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางท่องเที่ยวทั่วไทยในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดไอเดียที่หลากหลายจากนักท่องเที่ยวตัวจริงอีกด้วย ซึ่งนอกจากกิจกรรมข้างต้นแล้ว ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะยังมีการจัดกิจกรรมอีกมากมาย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สามารถติดตามรายละเอียดต่างๆ ได้ทาง Facebook Fanpage : Tourism Product

ประโยคที่มีแทบทุกเรื่อง Can I Ask You a Question ? ทำไมต้องถามนำ ชาวอเมริกันถามกันแบบนี้จริงไหม ?
อ่าน

ประโยคที่มีแทบทุกเรื่อง Can I Ask You a Question ? ทำไมต้องถามนำ ชาวอเมริกันถามกันแบบนี้จริงไหม ?

คอหนังฮอลลีวูดน่าจะสังเกตเห็นเหมือน ๆ กันว่าในหนังแทบทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ เราจะได้ยินประโยคนี้จากปากตัวละคร “Can I Ask You a Question ?” ขอฉันถามอะไรคุณสักหน่อยได้ไหม ? อย่างกับว่าเป็นสูตรสำเร็จของกลุ่มนักเขียนบทฮอลลีวูดเลยก็ว่าได้ ที่จะต้องใส่ประโยคนี้ลงไปในบทสนทนาเกือบทุกเรื่อง ก็ทำให้พวกเราคนเอเซียตาดำ หัวดำ ได้ยินบ่อยเข้าก็เลยรู้สึกสะดุดหู มีประโยคนี้อีกแล้วเหรอ บางทีก็ชวนสงสัยนะ ว่าที่ต้องถามคำนี้ เพราะนี่คือมารยาทสามัญของชาวอเมริกันหรือ ทำไมต้องถามก่อนว่าจะถามได้ไหม มันไม่ดูเป็นการซ้ำซากเกินไปหรือ เพราะไอ้ประโยคขอว่า Can I Ask You a Question ? นั่นมันก็เป็นคำถามแล้วนะ ไม่ใช่แค่เรา ๆ ที่สงสัยหรอกครับ ชาวโลกอีกมากก็ตั้งแง่สงสัยในประเด็นนี้เช่นกัน แล้วมีคนไปโพสต์ประเด็นนี้ไว้ใน เว็บชุมชนระดับโลกอย่าง Quora เว็บมหาชน แบบเว็บพันทิปบ้านเรานี่ล่ะ ผู้เขียนจะคัดคำตอบเด่น ๆ มาเล่าต่อในที่นี้นะครับ แคเร็น โธมัส-แม็กเคิร์น เป็นคนหนึ่งที่สงสัยในเรื่องนี้ แล้วไปโพสต์คำถามไว้ใน Quora เมื่อปี 2018 ว่า “ทำไมผู้คนในหนังและทีวีชอบถามว่า ‘ขอฉันถามอะไรคุณสักคำได้ไหม ?’ ทำไมพวกเขาไม่ถามไปเลย ก็แค่ถามคำถามแทนที่จะต้องมาขออนุญาตว่าถามได้ไหม ? มันไม่ดูซ้ำซ้อนไปหน่อยเหรอ ? ก็เป็นแง่มุมที่น่าสนใจนะ ตามสายตาของแคเร็น เพราะการถามว่า ฉันถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม ? นั่นก็ถือว่าถามไปแล้วข้อหนึ่งนะ ก็มีสมาชิก Quora สนใจมาให้ความกระจ่างกับแคเร็นมากมาย มีคำตอบที่น่าสนใจมาจาก แฟรงค์ สมิต (Frank Smytt) สมาชิก Quora ตัวยงที่ขยันตอบคำถามสมาชิกมาแล้วกว่า 200 คำถาม แฟรงค์ตอบคำถามของแคเร็นในเชิงจิตวิทยาว่า “มันมีข้อเท็จจริงอยู่อย่าง ภายใต้คำถามว่า ‘ฉันถามอะไรคุณสักอย่างได้ไหม’ เพราะว่าคนที่โดนถามส่วนใหญ่ยังไม่ได้ระแวดระวังตัว หรือคาดคิดว่าผู้ถามจะมีเป้าหมายอะไร คนถามก็จะใช้เทคนิคนี้ล่ะทำให้บทสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนใหญ่มักจะมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย มันมีคำถามที่ลึกซึ้งกว่านั้นอีกขั้นก็คือ ‘ขอฉันถามอะไรเป็นการส่วนตัวสักหน่อยได้ไหม ?’ โดยปกติแล้วคนที่จะยิงคำถามนี้จะรู้แก่ใจดีแล้วว่ามันเป็นคำถามที่อาจจะทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกอึดอัดสักหน่อยแล้ว แต่การยิงคำถามแบบนี้ ก็เพราะผู้ถามนั้นมีเจตนาที่จะเขยิบความสัมพันธ์เข้าหาอีกฝ่ายมากขึ้น แลการถามเกริ่นแบบนี้ ผู้ถามมีโอกาสที่จะได้รับคำตอบมากกว่าถามโพล่งออกมาเลย ถามยิงคำถามตรงออกไปเลย บางทีเขาหรือเธอก็จะตอบแบบสั้น ๆ ห้วน ๆ อาจจะเพราะด้วยความตกใจ ‘ขอฉันถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม ?’ จึงเป็นคำถามที่ดูซอฟต์มากกว่า ‘ขอฉันถามอะไรส่วนตัวเกี่ยวกับคุณหน่อยได้ไหม ?’ ทั้งที่เป็นคำถามในแนวทางเดียวกัน การถามเกริ่นแบบนี้ยังช่วยให้ผู้ถูกถามได้ใคร่ครวญพิจารณาว่าเขาพึงพอใจในตัวคุณเพียงใด และอยากจะให้ข้อมูลส่วนตัวกับคุณมากแค่ไหน การถามนำแบบนี้ยังจะทำให้คุณดูเป็นคนมีมารยาทและควรใช้เสมอกับคนที่คุณยังไม่ได้รู้จักสนิทสนมเพียงพอ ส่วนที่เราได้ยินคำถามนี้ในหนังบ่อย ๆ นั้น ผู้เขียนบทมักจะใส่ประโยคนี้ลงไปในสถานการณ์ที่คล้าย ๆ กับที่เกริ่นมาข้างต้น พอตัวละครถามคำถามนี้ไปแล้ว กล้องก็มักจะจับไปที่ใบหน้าของตัวละครทั้งคู่ ถ้าเป็นนักแสดงที่เก่งพอ เราอาจจะได้เห็นการแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อยในช่วงสนทนานี้ หนังหลาย ๆ เรื่องมักจะใช้ช่วงต้นเรื่องราว ๆ 30 นาทีในการแนะนำตัวละครหลัก และให้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครจากคนแปลกหน้าจนค่อนข้างสนิทสนมกัน และประโยค ‘ฉันถามอะไรคุณสักอย่างได้ไหม’ ก็นับว่าเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครที่จะแสดงให้เห็นได้ใน 1 ฉาก” ซู แซนเดอร์ (Sue Sanders) เป็นอีกคนหนึ่งที่มาให้คำตอบได้อย่างน่าสนใจ “ฉันรู้สึกเหมือนเจ้าของกระทู้เลยค่ะ ฉันสงสัยทุกครั้งเวลาที่ดูหนังแล้วเจอประโยคนี้ บางทีตัวเองก็โดนคำถามแบบนี้เหมือนกัน ฉันก็นึกในใจนะว่า อยากให้ฉันตอบว่าอะไรเหรอ ‘ไม่ ฉันไม่ตอบเธอ ไปไกล ๆ เลย แบบเนี้ยเหรอ’ เอาจริง ๆ ฉันก็เข้าใจจุดประสงค์ของคนเขียนบทว่าต้องการใช้วลีนี้เพื่อสื่อสาระสำคัญในฉากนั้น แต่สำหรับฉันมันดูน่าเบื่อไปซะหน่อย ซึ่งเราควรจะเปลี่ยนประโยคนี้ให้มันดูเป็นกันเอง สบาย ๆ มากขึ้น เช่น ‘ฉันไม่อยากรบกวนเวลาคุณมากไปกว่านี้หรอก แต่มันมีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากได้คำตอบ’ หรือไม่ก็ ‘ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย งั้นฉันจะถามคุณตรง ๆ เลยแล้วกัน’ และยังมีอีกหลายรูปแบบประโยคที่น่าจะใช้แทนประโยคซ้ำซากนั้นได้ ซึ่งมันดูเป็นมือเขียนบทสมัครเล่นเกินไป ดูห่างไกลจากความเป็นจริง จะใช้ประโยคแบบไหนก็ได้ ขอให้คงใจความสำคัญไว้ได้ ขอเพียงอย่าใช้ประโยคเด็กน้อยแบบเดิม ๆ อีกเลย” มากันที่อีกคำถามของ เกรแฮม เฮย์เวิร์ด (Graham Hayward) ที่โพสต์กระทู้ถามไว้ใน Quora ตั้งแต่มีนาคม 2017 นายเกรแฮมนี่สงสัยว่าไอ้ประโยคที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในหนังเนี่ย ที่จริงแล้วคนอเมริกันนี่ถามแบบนี้กันจริง ๆ หรือเปล่า“คำถามที่ว่า ‘ฉันถามอะไรอะไรคุณสักอย่างได้ไหม’ นี่คนอเมริกันเขาใช้กันในชีวิตประจำวัน หรือว่ามันมีแค่ในหนังครับ ?” คำตอบที่น่าสนใจมาจากคุณซูเรตทา ลิสเคอร์ (Suretta Lisker) คนนี้เธอเป็นนักเขียนชาวอเมริกัน แล้วเธอก็ให้คำตอบได้กระจ่างว่านี่เป็นประโยคที่คนอเมริกันใช้กันในชีวิตประจำวันจริง “มันเป็นคำพูดที่ใช้ปกติกันในภาษาอเมริกัน-อังกฤษ อยู่แล้วค่ะ มักจะใช้ในโอกาสที่จะถามเรื่องส่วนตัว หรือเป็นความลับนิดหน่อยระหว่างสองคนที่สนิทกัน หรือจะใช้ในกรณีที่เราคาดว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้เรื่องนั้น ๆยกตัวอย่างนะคะ “ขอฉันถามอะไรคุณหน่อยสิ – ภรรยาของจอห์นเขาปัญหาหนักมากเลยใช่ไหม ?”“ขอฉันถามอะไรคุณหน่อยสิ – ทำไมคุณถึงชอบใส่เสื้อเทากับรองเท้าเขียว ?”“ขอฉันถามอะไรคุณหน่อยสิ – คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ปลายถนนเมื่อคืนก่อน ?” มันเป็นแนวทางที่ดีที่จะชี้นำให้ผู้ถูกถามได้ใคร่ครวญข้อความที่จะตอบกลับมา แล้วมันยังเปิดโอกาสให้ผู้ถูกถามมีสิทธิ์ที่จะตอบปฏิเสธได้อีกด้วย ซึ่งถ้าเขาขอ “ไม่ตอบ” เราก็ไม่ควรจะเซ้าซี้ถามต่อแล้ว ส่วนตัวดิฉันเวลาเจอคำถามเกริ่นแบบนี้ ฉันก็จะตอบกลับไปบ่อย ๆ ว่า “คุณมีสิทธิ์ที่จะถามนำ เช่นเดียวกับฉันที่มีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบ” แล้วผู้อ่านล่ะครับ เคยถูกถามแบบนี้ในชีวิตจริง หรือเคยถามใครแบบนี้บ้างไหม ก็นับว่าประโยคคำถามแบบนี้เป็นมารยาทในสังคมที่ดี เพียงแต่คนไทยเราไม่คุ้นเคยกัน ถ้าเราถูกถามอะไรแบบนี้ขึ้นมา คงมีผงะเล็กน้อย แล้วมองเป็นการเสียมารยาทแทน เพราะน่าจะเป็นคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัวเป็นแน่ ที่มา ที่มา

เอ้ BOTCASH ตามหาสาวรู้ใจ ใน You are my fantasy แฟนฉันเป็นซุปตาร์
อ่าน

เอ้ BOTCASH ตามหาสาวรู้ใจ ใน You are my fantasy แฟนฉันเป็นซุปตาร์

ส่งท้ายรายการ You are my fantasy แฟนฉันเป็นซุปตาร์ ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกับหนุ่มโสดมาแรงที่สุดในตอนนี้ อย่าง เอ้-สัณหภาส บุนนาค ศิลปิน/ดีเจ/โปรดิวเซอร์หนุ่มจาก BOOM BOOM CASH กลุ่มคนดนตรี ผู้บุกเบิก EDM ระดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่มีชื่อในวงการว่า BOTCASH ทั้งยังมีดีกรีเป็นถึงแร็ปสตาร์ของวงการไทยที่กำลังโด่งดัง แต่ใครจะเชื่อล่ะค่ะว่าเจ้าตัวยังโสด ไม่มีเจ้าของหัวใจ เพราะนอกจากผลงานแนวเพลงที่มียอดวิวถล่มทลายแล้ว เรื่องหน้าตา ไลฟ์สไตล์ก็ดึงสายตาสาวๆ ได้ไปหมดทั้งใจด้วยเหมือนกัน และยิ่งถ้าพูดถึงความเป็นหนุ่มแร๊ปเปอร์ สาวๆ ก็คงจะกรี๊ดกร๊าดกันไม่น้อย เพราะหนุ่มแร๊ปเปอร์เนี่ย เค้าจะมีเสน่ห์เฉพาะตัวเวลาที่ร้องเพลง ซึ่งนอกจากหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบที่สาวๆ ชื่นชอบแล้วหนุ่มแร็ปเปอร์ก็เป็นอีกหนึ่งสเปกของสาวๆ และดาราในวงการบ้านเราก็ไม่ต่างกันมีแฟนเป็นแร๊ปเปอร์ บางคนดูลุคแล้วไม่น่าเข้ากันได้ แต่สุดท้ายก็เข้ากันได้มากกว่าที่คิด บอกเลยว่าแฟนสาวของแร๊ปเปอร์แถวหน้าของเมืองไทยแต่ละคนสวยไม่เบา แล้วงานนี้ใครจะเป็นคนที่เคมีตรงกับไปควงแขนหนุ่มซุปตาร์คนสุดท้ายของรายการ ไปเดตได้อย่างหน้าชื่นตามบาน ห้ามพลาด  รอติดตาม รายการYou Are My Fantasy แฟนฉันเป็นซุปตาร์  ได้ที่ ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 เวลา 20.15 น. และดูย้อนหลังที่ แอปทรูไอดี อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App  หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID

อวสานตำนาน ใครฆ่านานะ! คอมเมนท์แฟนๆ ส่งท้าย I HATE YOU I LOVE YOU
อ่าน

อวสานตำนาน ใครฆ่านานะ! คอมเมนท์แฟนๆ ส่งท้าย I HATE YOU I LOVE YOU

สร้างปรากฏการณ์การดูซีรีส์แบบใหม่ให้กับคนไทยจริงๆ สำหรับ I HATE YOU I LOVE YOU ที่พาคนดูอิน ติดตาม และมีส่วนร่วมในการสืบหาว่า ใครฆ่านานะ กันแน่ และเวลาที่ซีรีส์ออนแอร์ในทุกๆ ตอน แฟนๆ ก็จะคอมเมนท์แสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา จนเรื่องราวได้เดินทางมาถึงจุดจบแล้ว และงานนี้คอซีรีส์ถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะจบแบบนี้จริงๆ ทีมงานบันเทิงทรูไลฟ์เลยขอรวบรวมคอมเมนท์แฟนๆ ส่งท้าย I HATE YOU I LOVE YOU บอกเลยว่างานนี้ครบรสยิ่งกว่าซีรีส์ ไปดูกันจ้า!! ต่อไปกูจะยืนรอลิฟท์ท่านี้ 5555555 #hateloveseries #hatelovetheseries #ihateyouiloveyou pic.twitter.com/D2aipeOdh6 — ตัวเล็ก (@NiNew_NP) January 14, 2017 ฆ่าเพื่อปิดปากคนนึง แต่กลับโดนอีกคนปิดปากทั้งเป็น คิดว่าจะหนีความจริงได้หรอซอลอย่างน้อยๆก็หนีไอ่ไม่ได้แน่นอน #hatelovetheseries — 98910111 | B (@helloiamball) January 14, 2017 คำขวัญซีรี่ย์นาดาว : สร้างปมอลังการคืองานถนัด ตอนจบต้องร้องไอ้สัด โถ ไม่มีอะไรเลย. #hatelovetheseries — nicotine (official) (@nongp_ss) January 14, 2017 ลุ้นชิบหายว่าไอ้นี่จะมาสร้างจุดพีคในตอนจบ สุดท้ายก็ เออ กูแค่มาเติมน้ำมันเฉยๆ มึงอะคิดมาก อห 5555555555555 #hatelovetheseries pic.twitter.com/ws3qDWTHS2 — 쁘람 (@Palmysmoothie) January 14, 2017 นานะนินทาซอลกับน้ำหอม ซอลนินทานานะกับถิงถิง เป็นธรรมชาติของกลุ่มเพื่อนที่จะมีคนนึงที่รู้สึกรักที่สุด เล่าให้ฟังหมดเปลือก #hatelovetheseries — คิดอะไรก็พิมพ์เอา☂ (@suchakarn) January 14, 2017 ไอ่คือผู้ชนะของเกมส์นี้ คือนานะตาย ใครได้ผลประโยชน์? ก็ไอ่ไง กุมความลับซอล ทำให้ได้ซอลเป็นแฟนไปอี้ก พ่อชุดแปดหมื่น55555 #hatelovetheseries — ❥ผัดตะเภาไก่ (@Noeyychadathan) January 14, 2017 #hatelovetheseries ยอมฆ่านะนะ ยอมกอดไอ่ เพื่อที่จะให้กรอบรูปครอบครัวสมบูรณ์ มุมนี้สื่อได้ดีมากกกกก เอาไป 10 ดาว pic.twitter.com/poV00aB3K5 — อุ้มไม่มีเงินแล้ว (@pnxxxe) January 14, 2017 ไอ่ฉลาดตรงที่ซอลจะไม่มีทางปฏิเสธเพราะไอ่กุมความลับไว้ แม่งเป็นซีรีส์ที่ทั้งhateและloveกับตอนจบจริงๆ #hatelovetheseries — TㅇMTㅅMM (@nanta_tammi) January 14, 2017 ประโยคสุดท้ายของไอ่คือขนลุกมาก เราเป็นแฟนกันได้แล้วใช่มั้ย อีเหี้ย เป็นการขู่ที่นิ่งเหี้ยๆ ขนลุกกกกกกก #hatelovetheseries — minnie (@minniemenin) January 14, 2017 ลึกๆก็ยังมีหวัง แอบคิดถึงขั้นที่ว่าน้ำหอมขับรถตามซอลมา สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ กราบทีมเขียนบท จบแบบนี้นี่สิ ซาดิสม์ที่แท้จริง #hatelovetheseries — คมศักดิ์ แอดดัมส์ (@KomsakAddams) January 14, 2017 บ้าาาาา พวกแกอะคิดมากกกกกก /เอาเวลาการอ่านพันทิปของชั้นคืนมาาาาา 555555 #hatelovetheseries pic.twitter.com/Tsfd5ZyWhH — ใต้เตียงดารา (@UnderbedDara) January 14, 2017 ขอบคุณคอมเมนท์จาก Twitter #hotelovetheseries อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร เรียบเรียงข้อมูลโดยทีมงาน dara.truelife.com

Review หนัง Won't You Be My Neighbor?
อ่าน

Review หนัง Won't You Be My Neighbor?

หากใครที่ติดตามข่าวสารวงการหนังในไทย คงจะได้ยินข่าวแล้วว่า หนังเรื่อง A Beautiful Day in the Neighborhood หนังดราม่า ฟีลกู้ดเรื่องเยี่ยม ที่นำแสดงโดย ทอม แฮงค์ กำลังจะได้ฉายบ้านเราในช่วงสิ้นปี 2019 นี้ ซึ่งหนังก็ได้รับคะแนนคำวิจารณ์จากเว็ป Rotten Tomatoes สูงถึง 96% โดยหนังเรื่องนี้ได้นำเสนอชีวิตจริงของ เฟร็ด โรเจอร์ พิธีกรรายการสำหรับเด็กที่เป็นที่โด่งดังในอเมริกายุค 70-80 เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนไปดูหนังเรื่องดังกล่าว ก่อนหน้านี้ได้มีหนังสารคดีที่่ว่าด้วยความสำเร็จ และความอบอุ่นของ เฟร็ด โรเจอร์ เรื่อง Won't You Be My Neighbor? ซึ่งจะเป็นหนังที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ Won't You Be My Neighbor? เป็นหนังที่จะนำเสนอตั้งแต่จุดเริ่มต้น ยุคเฟื่องฟู และจุดสิ้นุสดของรายการเด็กชื่อดังของอเมริกา ที่นำรายการโดย เฟร็ด โรเจอร์ ซึ่งหนังไม่ได้เพียงพูดถึงความสำเร็จ และความโด่งดังของรายการเท่านั้น แต่ยังเป็นหนังที่พูดถึงชีวิต จิตใจของ เฟร็ด โรเจอร์ ชายที่กลายเป็นที่รักของเด็กๆ ทุกคน รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ คนที่ได้ร่วมงานกับเขา หากมองภายนอก หนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่หนังที่มีประเด็นอะไรน่าสนใจนัก เพราะเป็นสารคดี ที่พูดถึงรายการทีวี ในอเมริกา ซึ่งคนดูชาวไทยอย่างเราอาจไม่รู้สึกอินเท่าที่ควร แต่หากได้ลองเปิดดูในมุมมองของสารคดีระดับคุณภาพซักเรื่อง Won't You Be My Neighbor? คือหนังที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง หนังสามารถเข้าถึงคนดูทุกกลุ่ม ไม่ว่าคุณจะรู้จัก เฟร็ด โรเจอร์ หรือไม่ก็ตาม คุณจะสามารถอิน และบันเทิงไปกับ 90 นาที ที่หนังเรื่องนี้มอบให้อย่างเต็มอิ่มหนังจะเล่าเรื่องผ่านการสัมภาษณ์ผู้คนที่เคยทำงานกับ โรเจอร์ รวมไปถึงครอบครัวของเขา และฟุตเทจเก่าๆ ที่ โรเจอร์ ได้ถ่ายเอาไว้ โดยหนังได้เริ่มเรื่องด้วยการถ่ายทอดประเด็น ความคิดของ เฟร็ด โรเจอร์ ตั้งแต่วัยเด็ก ในยุคที่สื่อโทรทัศน์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คนมากขึ้น ก่อนที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาอยากทำรายการสำหรับเด็กขึ้นมา จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของรายการ "MisteRogers' Neighborhood" หลังจากนั้ ตลอดทั้งเรื่องหนังก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับรายการนี้ และเหตุการณ์ต่างๆ บนสื่อโทรทัศน์อเมริกาในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะที่ประเทศเข้าสู่สงครามเวียดนาม การที่สื่อทีวีเต็มไปด้วยรายการรุนแรง จนเด็กนำไปทำตาม และเหตุการณ์ 11 กันยา ซึ่ง เฟร็ด โรเจอร์ ก็สามารถมีวิธีรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ออกมาเหมาะสำหรับเด็กได้อย่างชาญฉลาดเนื้อหาของหนังไม่ได้เพียง ประสบความสำเร็จในฐานะการยกย่อง เชิดชู เฟร็ด โรเจอร์ เท่านั้น แต่หนังยังประสบความสำเร็จในฐานะการสะท้อนภาพอิทธิพลของสื่อมวลชน ที่มีบทบาทต่อผู้ชม โดยเฉพาะเด็กๆ ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกฝังความเชื่อ ความคิดใหม่ การเป็นเพื่อนในโลกเสมือน แต่สิ่งที่ โรเจอร์ ทำนั้น ได้สร้างอิทธิพลในแง่บวกต่อเด็กๆ จนกลายเป็นกระแสสุดฮิตของผู้ชมตัวน้อยในยุคนั้นแม้ว่าตลอดเรื่องราวของหนังจะเต็มไปด้วยความสุข ความอิ่มเอม ผ่านตัว เฟร็ด โรเจอร์ และรายการ MisteRogers' Neighborhood แต่อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่า โรเจอร์ นั้น ได้เสียชีวิตไปในปี 2003 ด้วยวัย 74 ปี ช่วงองก์ 3 ของหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเต็มไปด้วยความรู้สึกอิ่มเอมของผู้ชมแล้ว ยังเต็มไปด้วยความเศร้า ความคิดถึง ที่แม้แต่เราที่พึ่งรู้จัก เฟร็ด โรเจอร์ ยังรู้สึกน้ำตาคลอไปกับหนังได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.imdb.com/ 

เปิดฉาก I HATE YOU I LOVE YOU  ปันปัน หน้าชา โดนคนใกล้ตัวหักหลัง!!
อ่าน

เปิดฉาก I HATE YOU I LOVE YOU ปันปัน หน้าชา โดนคนใกล้ตัวหักหลัง!!

แค่ปล่อยตัวอย่างซีรีส์ออกไปไม่นาน ก็เรียกเสียงฮือฮาได้แบบถล่มทลาย จนยอดวิวใน LINE TV ทะลุไปหลายล้านในเวลาอันรวดเร็ว   ใครที่รอติดตามชม I HATE YOU I LOVE YOU ค่ายนาดาว บางกอก เสาร์นี้ (24 ก.ย.) ไม่ควรพลาด!! ผู้กำกับ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์    และทีมผู้กำกับร่วม วรรณ-วรรณแวว หงษ์วิวัฒน์ และ บอส-นฤเบศ   กูโน  ขอจัดเต็มตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศ!!   พร้อมเปิดฉากด้วยจุดไคลแม็กซ์ที่ทุกคนต้องอึ้ง!! โดยเป็นเรื่องราวของ นานะ (ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) วัยรุ่นสาวไฮโซ  ที่กำลังสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างแฟนหนุ่มของตัวเอง ไทเกอร์ (เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม)   และซอล (ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล)  สาวหวานผู้เป็นเพื่อนสนิทร่วมแก๊ง โดยที่ขณะเดียวกันนั้น ซอล เองก็ยังมี ไอ่ (โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์)  ที่เฝ้าตามจีบอย่างไม่ลดละ คอยเป็นเพื่อนใจที่ช่วยเหลือ ซอล ทุกอย่าง   นานะ ไม่เชื่อในความสัมพันธ์นี้ว่าเป็นแค่‘เพื่อน’ อย่างที่ซอลยืนยันจนเมื่อ นานะ ได้เจอความจริงบางอย่างเกี่ยวกับ ไทเกอร์  ซึ่ง นานะ รับไม่ได้  เหตุการณ์นั้นมีส่วนนำพาให้ นานะ ไปพบกับ   โจ (สกาย-วงศ์รวี นทีธร) ชายหนุ่มผู้ซึ่งมีอาชีพขายตัวอยู่ข้างถนน ฉากเด็ดเริ่มต้นเมื่อแก๊งเพื่อนสาว “Sleeping Beauty” นานะ ซอล ถิงถิง น้ำหอม กำลังเดินทางไปปาร์ตี้วันเกิดสุด exclusive ของ ซอลโดยที่ไม่มีใครรู้ว่า นานะ มีฮุกเซอร์ไพรส์เด็ด แกล้งฉีกหน้า  ซอล กลางงาน นานะสะใจกับเหตุการณ์นี้ได้ไม่นานก็พบความจริงที่ว่า เธอกำลังโดนคนใกล้ตัวหักหลังอย่างเจ็บแสบ! เบื้องหลังฉากนี้  ปันปัน ต้องเจอกับบททดสอบสุดโหด เพราะมีซีนที่ต้องร้องไห้หนักมาก  และยังกดดันกับเวลาอันน้อยนิด  ทำเอาเจ้าตัวถึงกับต้องรวบรวมสมาธิแบบเร่งรัด แต่สุดท้ายก็สามารถร้องไห้ออกมาเหมือนน้ำตาสั่งได้  ทำเอา พี่ย้ง ถึงกับยกนิ้วให้กับพลังการแสดงอันเหลือล้นของ ปันปัน ที่สามารถเค้นอารมณ์เศร้าและเจ็บปวดออกมาได้อย่างที่คิดไว้ อยากรู้ว่าซีนนี้จะเข้มข้นถึงใจขนาดไหน  อย่าลืมรับชมเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นผ่าน  5 ตัวละคร 5 มุมมอง ในเวลา 5 วัน     ในซีรีส์    I HATE YOU I LOVE YOU   ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันเสาร์ที่ 24 กันยายนนี้   LIVE เวลา 20.00 น. ทาง LINE TV เท่านั้น!!

'All I Want for Christmas Is You' เพลงฮิตคริสต์มาส สร้างรายได้นับพันล้าน 'มารายห์ แครี่'
อ่าน

'All I Want for Christmas Is You' เพลงฮิตคริสต์มาส สร้างรายได้นับพันล้าน 'มารายห์ แครี่'

เข้าสู่เทศกาลวันคริสต์มาส แม้จะอยู่ในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ แต่มนต์ขลังของวันคริสต์มาส ก็ยังไม่เสื่อมคลาย และสิ่งที่อยู่ในใจของใครหลายคน ก็คือเพลงเพราะต่างๆ ในช่วงวันคริสต์มาส ที่จะได้ยินพื้นที่ต่างๆ เปิดสร้างบรรยากาศแห่งความสุข เพลงที่โด่งดังที่สุดคงไม่พ้น All I Want for Christmas Is You ของดีว่าสาว มารายห์ แครี่ ที่กลับมาทวงบัลลังก์ชาร์ตเพลงในหลายๆประเทศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ จนเรียกได้ว่า แม้ว่าเธอจะไม่ต้องออกผลงานทั้งปี ก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งปี 2019 เธอก็เพิ่งนำเพลงดังกล่าวมาทำเอ็มวีใหม่ มีผู้คนเข้าไปชมกว่า 132 ล้านครั้งใน 1 ปี เช่นเดียวกับปีนี้ ที่เพลง All I Want for Christmas Is You ของมารายห์ ก็ขึ้นไปแตะอันดับ 1 ใน ชาร์ต บิลบอร์ดเช่นกัน ก่อนจะถูก Willow ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ แซงขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยเพลงคริสต์มาสดังอย่าง Rockin Around The Christmas Tree ของ Brenda Lee , Jingle Bell Rock ของ Bobby Helms รวมทั้งยังไปยึดครองชาร์ตเพลงประเทศต่างๆ อาทิ เกาหลีใต้ อีกด้วย เรื่องนี้ แคปปิตอล เอฟเอ็ม รายงานว่า เพลง All I Want for Christmas Is You นั้น ทำเงินให้กับมารายห์จำนวนมาก ในแต่ละปี นับตั้งแต่ปี 1994 ที่เธอออกมา ว่าสร้างรายได้ให้เธอถึง 4 แสนปอนด์ต่อปี หรือราว 15,936,000 บาท จากเพลงเพลงเดียว ในเดือนธันวาคมปี 2019 นั้น ดิ อิโคโนมิสต์ รายงานว่า เพลงดังกล่าว สร้างรายได้ให้กับมารายห์ถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,773.60 ล้านบาทไปแล้ว เรียกว่า มารายห์ เป็นไอคอนนิคของเทศกาลคริสต์มาส มามากกว่า 25 ปี อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ซินเดอเรลล่า วงการเพลงอาร์แอนด์บี ตำนานที่ยังมีชีวิต มารายห์ แครี่ พร้อมระเบิดพลังเสียง 9 พ.ย. นี้ มารายห์ แครี เซ็ง แบ็กกิ้งแทร็กพลาด ทำคอนเสิร์ตที่ไทม์สสแควร์กร่อย (ชมคลิป)

คัมภีร์ร่วมฝัน A dream with in a dream ซีรีส์น่าดู รอปักหมุดรับชมที่ iQIYI
อ่าน

คัมภีร์ร่วมฝัน A dream with in a dream ซีรีส์น่าดู รอปักหมุดรับชมที่ iQIYI

     ซีรีส์เรื่อง คัมภีร์ร่วมฝัน A dream with in a dream ได้ปล่อยภาพตัวอย่างออกมา บอกเลยว่าน่าดูสุด เพราะนางเอกดูสดใสลุคซุกชน เรื่องนี้ได้นางเอกสาวน่ารักหลี่อี้ถง ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มหล่อมาดเท่ห์หลิว อวี่หนิง เล่นบทไหนก็สมบทบาทไปหมด หลังจากมีวีดีโอตัวอย่างปล่อยออกมาก็โดนกระแสวิจารณ์จากชาวเน็ต ว่า บางฉากคล้ายกับซีรีส์บางเรื่อง แต่อย่างไรก็ตามปีนี้มีพล๊อตเรื่องซีรีส์แนวทะลุมิติหลายเรื่อง อย่าลืมรอปักหมุดรับชมกันนะคะ เพราะพระเอกหลิว อวี่หนิงเท่ห์สุดๆ  ชื่อเรื่อง : คัมภีร์ร่วมฝัน  A dream with in a dream แนว : จีนโบราณ ย้อนยุค รักโรแมนติก ดราม่า จำนวนตอน : 38 ตอน ช่องทางรับชม : iQIYI เรื่องย่อ        บอกเล่าเรื่องราวของนางเอกซ่งเสี่ยวอวี้ที่เป็นคนในยุคปัจจุบัน เธอมีอาชีพเป็นนักแสดงตัวประกอบ วันหนึ่งนักแสดงตัวประกอบคนนี้ได้ทะลุมิติเข้ามาในโลกนิยายมากลายเป็นตัวละครหลัก ที่มีชะตาแสนโหดร้าย ไปเกี่ยวพันกับท่านฮ่องหนายเหิงที่แสนเย็นชา โหดร้าย เยือกเย็น แต่ใดๆ เธอรู้ว่าจะตุ้ย จึงได้วางแผนแก้พล๊อตเรื่อง เพราะเธอรู้ว่าในงานเทศกาลโคมไฟ มีชายปิศนาใบหน้าสวมหน้ากากมาช่วยเธอจาก และตัวละครที่สวมหน้ากาก ชายปริศนานั้นเป็น ตัวละครอิสระไม่เคยมีในนิยาย  เธอจึงได้วางแผนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัย  แต่ใดๆ คือ พระเอกกลับตกหลุมรักเธอจ้า ตกหลุมรักแบบคลั่งรักสุดๆ เพราะความน่ารัก ของนางเอกได้ทำให้พระเอกตกหลุมรัก มีเหตุการณ์คดีลับแนวสืบสวนเข้ามาพลัวพันทำให้เรื่องราวสนุกเข้มข้นสุดๆ  พล๊อตเรื่องหลัก นางเอกทะลุมิติเข้ามา และต้องเอาตัวรอดจากการตามล่าของพระเอก และพระเอกมีสตรีอีกนางที่ตนเองรักแต่ไม่ได้แต่งงานด้วย ดันมาแต่งงานกับนางเอกแทน แต่นางเอกก็ไม่สนค่ะ เพราะนางเอกคิดแต่จะเอาตัวรอด กลับกลายเป็นพระเอกที่รักนางเอกมากยิ่งขึ้น และเรื่องนี้พระเอกหลิว อวี่หนิงมีอีกลุคใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า บอกเลยว่าเท่ห์สุดๆ   บอกเลยว่าพล๊อตเรื่องแรกๆโหด หลังๆ คลั่งรัก เหมือนกับซีรีส์บางเรื่อง ที่แนวทะลุมิติเข้าไปในนิยายเช่นเดียวกัน  วาสนาของปลาเค็ม ทะลุมิติไปในนิยาย เป็นการเอาตัวรอดของนางเอกที่แสนขี้เกียจ สุดชิวล์  และฉันกลายเป็นตัวประกอบที่ตัวเองเคยด่า ก็ทะลุไปในนิยายเช่นกัน ก็เป็นการเอาตัวรอดเช่นกัน พล๊อตเรื่องหลักวางตัวละคร พระเอก โหด เย็นชา แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นคลั่งรักนางเอกสุดๆ   https://youtu.be/uo4Q-gcgZj8?si=eLfqbgymfLNN8huG นักแสดงนำโดย หลี่อี้ลง รับบท ซ่งเสี่ยวอวี้,ซ่งอี้เมิ่ง หลิวอวี่หนิง รับบท หนานเหิง, หลีสือลิ่ว จูซวี่ตัน รับบท ซ่งอี้ทิง หวังอี่หลุน รับบท ช่างกวนเฮ่อ หวังโย่วชั่ว รับบท ฉู่กุยหง ชางหลง รับบท หนานรุ่ย หวังเฉินซู รับบท ฟู้กุ้ย  แต่งหน้าทำผม เสื้อผ้า ฉาก และบรรยากาศในเรื่อง        เสื้อผ้า หน้าผม หลังจากที่ดูภาพโปสเตอร์ที่ปล่อยออกมาก บอกเลยว่าสวยมาๆ เสื้อผเาหน้าผม เหมาะกับลุคของหลี่อี้ถงสุดๆ ที่เธอทะลุมิติเข้าไปกลายเป็นสาวลุคซุกซน น่ารักละลายหัวใจท่านฮ่องที่แสนเย็นชา น่านิ่ง หมาดขรึม เครื่องประดับ คือ ไปเยอะ จนเกินไป เหมาะกับทรงผมแสกกลาง ส่วนพระเอกหลิว อวีหนิง ไม่ว่าจะมาลุคไหนเขาก็เท่ห์ทุกลุค ยิ่งเรื่องนี้มาในลุคท่านฮ่องที่แสนเย็นชา หน้านิ่ง ใบหน้าอมทุกข์สุดๆ รวบผมตึงมัดจุกตรงกลาง สวมกวนสีทองเรียบร้อย เสื้อผ้า สวยงามสง่า สมกับเป็นท่านฮ่องผู้สูงศักดิ์ และสง่างาม ชุดที่สวมใส่ในฤดูเหมันต์หิมะสีขาวโปรยปรานลงมา สีดำทองชุดของท่านฮ่องหลิง อวี่หนิงสง่างาม และโดดเด่น ส่วนหลี้อี้ถงสีขาว แดงตัดกับสีขาวของหิมะดูแพง โดเด่น สง่างาม เช่นเดียวกัน ฉาก และบรรยากาศในเรื่อง ฉากเป็นจีนโบราณย้อนยุคมีงานเทศกาลวันสำคัญของจีนปล่อยโคม แล้วอธิฐานขอพร สวยสุดๆ นอกจากนี้ยังมีฉากที่พระเอกหลิวอวี่หนิง ต่อสู้ด้วย บอกเลยว่าฝีมือกระบี่นักรบจากหน่วยหกหน่วยวิถีหนิงหย่วนโจว จากซีรีส์เรื่อง ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก หลิว อวี่หนิง ฝีมือไม่ตกเลยจริงๆ ฝีมือการต่อสู้ยังคงพริ้วไหวดุใบไผ่พริ้วสายลม และหนักแน่น บรรยายในเรื่องก็มีทั้งดราม่า รักโรแมนติก ให้แฟนๆ ซีรีส์คัมภีร์ร่วมฝันให้ยิ้ม และตับพังในเวลเดียวกัน .   บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าดูสุดๆ คาดว่าแพลนออกอากาศปี 2025 โน้นเลย น่าดูสุดๆ พล๊อตเรื่องหลักอาจจะคล้ายๆกับหลายเรื่องที่พระเอกสายโหด สุดท้ายก็แพ้ใจอ่อนให้กับนางเอก แต่บอกเวลาดูนักแสดงที่เร่ชอบแสดงบทบาทเป็นตัวละคร ใจของแฟนคลับก็ละลายอินไปตามบทเหมือนเดิม รอปักหมุดรับชมกันด้วยนะคะ ที่ iQIYI ข้อมูลเพิ่มเติม : 电视剧书卷一梦 วีดีโอตัวอย่าง : ตัวอย่าง เครดิตภาพปก : ภาพปก  ออกแบบโดย เป็ดอาบน้ำในคลอง  เครดิตภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4 / ภาพที่ 5,6 / ภาพที่ 7   จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิวซีรีส์ ฝันรักห้วงนิทรา(2024) My Marvellous Dream Is You ซีรีส์ที่จะพาพวกเราดำดิ่งสู่โลกของความฝันและความจริง
อ่าน

รีวิวซีรีส์ ฝันรักห้วงนิทรา(2024) My Marvellous Dream Is You ซีรีส์ที่จะพาพวกเราดำดิ่งสู่โลกของความฝันและความจริง

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ใหม่ของทาง 3HD เรื่อง “ฝันรักห้วงนิทรา My Marvellous Dream Is You” ซีรีส์ที่จะพาพวกเราดำดิ่งสู่โลกของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างดาราสาวชื่อดังและสไตลิสต์คนเก่ง โดยเรื่องราวเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ที่มีทั้งมิตรภาพและความขัดแย้งในวงการบันเทิงเนื้อเรื่องคร่าว ๆ “ฝันรักห้วงนิทรา” บอกเล่าเรื่องราวของ ดาหวัน (รับบทโดย เฟ-กัญญาพัชร ณ นคร) ดารานักแสดงชื่อดังที่มีนิสัยตรงไปตรงมาและมั่นใจในตัวเองค่อนข้างสูงมาก เธอมักจะแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างตรงไปตรงมาและเหวี่ยงใส่ผู้คนรอบข้างบ่อยครั้ง คิมหันต์ (รับบทโดย เมษ์-ญดา วัชระมูสิก) เป็นสไตลิสต์คนเก่งที่ดูแลการแต่งตัวและภาพลักษณ์ของดาหวัน ทั้งสองไม่เพียงแค่ร่วมงานกันเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและสนิทสนมกันอย่างมากในชีวิตจริง วันหนึ่ง คิมหันต์บอกดาหวันว่าเธอตัดสินใจลาออกจากการเป็นสไตลิสต์ของดาหวัน เพื่อไปทำงานกับ เจสซี่ (รับบทโดย แซนดี้-ณัฐวรา ศิริเจริญกุล) ดาราที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของดาหวัน ข่าวนี้ทำให้ดาหวันโกรธมาก และเมื่อดาหวันต้องให้สัมภาษณ์ร่วมกับเจสซี่ในรายการสด ดาหวันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความโกรธของตัวเองได้และกำลังจะด่าเจสซี่ออกอากาศ โชคดีที่ผู้จัดการของเธอสามารถตัดไฟในสตูดิโอทันเวลา ทำให้รายการถ่ายทอดสดต้องยุติไป ความจริงที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของคิมหันต์ถูกเปิดเผยเมื่อ มะลิ (รับบทโดย สายป่าน-ภัทรสรา พิณสันต์) เพื่อนสนิทของทั้งคู่ ได้ยินการสนทนาระหว่างคิมหันต์และเจสซี่ เจสซี่ขู่คิมหันต์ว่าจะปล่อยคลิปที่แสดงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างคอมหันต์กับดาหวัน เพื่อปกป้องชื่อเสียงของดาหวัน คิมหันต์จึงยอมย้ายไปทำงานกับเจสซี่ และขอร้องไม่ให้มะลิบอกเรื่องนี้กับดาหวัน เพราะกลัวว่าดาหวันจะไปอาละวาดเจสซี่และทำให้คลิปนั้นถูกปล่อยออกมา ดาหวันเองก็มีความฝันที่คอยวนเวียนในใจเธอเสมอ ตั้งแต่เด็กดาหวันฝันถึงเพื่อนสาวตัวเล็กน่ารักคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ทำให้ดาหวันมีความสุขจนไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอความจริง ความฝันเหล่านี้กลายเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แม้ว่าในชีวิตจริง ดาหวันจะเป็นคนเอาแต่ใจและชอบแสดงอารมณ์รุนแรง แต่ในความฝันดาหวันได้พบกับความสุขและความสงบที่หาไม่ได้ในชีวิตจริงตัวละครหลักดาหวัน แสดงโดย เฟ (กัญญาพัชร ณ นคร)ดารานักแสดงชื่อดังที่มีบุคลิกมั่นใจ ชอบแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เธอมักจะแสดงอารมณ์เหวี่ยงใส่ผู้คนรอบข้าง แต่ก็มีมุมอ่อนแอและความฝันที่เป็นที่พึ่งทางใจคิมหันต์ แสดโดย เมษ์ (ญดา วัชระมูสิก)สไตลิสต์ที่เก่งกาจและเป็นเพื่อนสนิทของดาหวัน เขายอมเสียสละเพื่อปกป้องชื่อเสียงของดาหวัน แม้ว่าจะต้องไปทำงานกับคนที่ดาหวันไม่ชอบข้อมูลซีรีส์ชื่อเรื่อง: ฝันรักห้วงนิทรา My Marvellous Dream Is Youความยาวตอน: 60 นาทีวันออกอากาศตอนแรก: 8 พฤษภาคม 2024เวลาออกอากาศ: ทุกคืนวันพุธเวลา 22.45 น.ช่องทางการออกอากาศ: ช่อง 3HDย้อนหลังได้ทาง: Youtube IDOLFACTORYความน่าสนใจของซีรีส์สัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครหลัก ทั้งความรัก มิตรภาพ และการทรยศจากพ่อของทั้งคู่นักแสดงถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เราที่เป็นผู้ชมได้เข้าใจและรู้สึกสงสารเห็นอกเห็นใจตัวละครการผสมผสานระหว่างโลกแห่งความฝันและความจริง ทำให้ซีรีส์มีความน่าติดตามมาก“ฝันรักห้วงนิทรา My Marvellous Dream Is You” เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยดราม่าความความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและความขัดแย้งในวงการบันเทิง เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงการดิ้นรนในชีวิตจริงและความหมายของความรักและมิตรภาพ ติดตามชมซีรีส์ได้ทุกคืนวันพุธเวลา 22.45 น. ทางช่อง 3HD และสามารถรับชมย้อนหลังได้ฟรีช่องทาง Youtube IDOLFACTORY นะคะภาพปก1, ภาพปก2 , ภาพปก3 ตกแต่งโดย Canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 , ภาพที่5 ขอบคุณภาพจาก Twitter: DreamGL จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

สกาย เผยที่มาขอวลีเด็ด รุก ไซ้ ชัก ในซีรีส์ I HATE YOU I LOVE YOU
อ่าน

สกาย เผยที่มาขอวลีเด็ด รุก ไซ้ ชัก ในซีรีส์ I HATE YOU I LOVE YOU

เปิดตัวตอนแรกด้วยเรื่องราวสุดเข้มข้น  ทำเอาหลายคนอยากมาลุ้นกันต่อ    ว่าเหตุการณ์ต่อไปในซีรีส์เรื่อง “I HATE YOU I LOVE YOU” (ไอ เฮท ยู ไอ เลิฟ ยู) จะเกิดอะไรขึ้น!!   งานนี้  LINE TV ร่วมกับ ค่าย นาดาว บางกอก   ขอนำเสนอตอนของ สกาย-วงศ์รวี นทีธร  ที่พลิกคาแร็กเตอร์ครั้งใหญ่ ในการมารับบท โจ ชายหนุ่มผู้มีอาชีพขายตัวอยู่ริมถนน   ชีวิตปากกัดตีนถีบ   แถมมีแนวคิดที่ว่า  รักก็ส่วนรัก เอาก็ส่วนเอา!!  ด้วยคาแร็กเตอร์ที่มีความแซ่บขั้นสุด  เลยเรียกเสียงฮือฮาสุดๆกับประโยคเด็ด รุก  ไซ้ ชัก ไม่รีบ จนได้รับฉายา “โจห้าร้อย” ไปแล้ว สกาย กล่าวว่า  “ตอนแรกที่รู้ว่าพี่ย้งจะให้ผมรับบทผู้ชายขายตัว ในซีรีส์  I HATE YOU I LOVE YOU     รู้สึกอึ้งมากครับ เพราะว่าบทค่อนข้างยาก และไกลตัวเรามาก เรื่องนี้ผมรับบทโจ   เป็นคนเรียนน้อย แต่ประสบการณ์ชีวิตสูง และเพื่อความสมจริงในการแสดง   เลยมีการไปรีเสิร์ชข้อมูลกันถึงที่ วันนั้นจำแม่นเลยครับ ผมนั่งรถไปกับพี่ๆทีมงาน ขับวนแถวๆแหล่งพื้นที่ เพราะอยากรู้ว่าว่าลักษณะท่าทาง, คำพูด, ความรู้สึกนึกคิดของคนที่ทำอาชีพนี้เป็นอย่างไร  โชคดีที่พี่คนที่เราไปทำรีเสิร์ทเขามีคาแร็กเตอร์หลายๆอย่างคล้ายกับบทโจพอดี ก็ช่วยได้เยอะเลยครับ ทำให้เห็นภาพเลยว่าเราต้องแสดงออกมาแบบไหน  ทำให้ผมได้นำไปปรับใช้ในการที่จะเข้าบทนี้มากขึ้น  นอกจากการไปหาข้อมูล ก็ยังมีการทำเวิร์คช็อปตรงสถานที่จริงอีกด้วย คือพี่ทีมงานลองให้ผมไปยืนข้างถนนที่เขาชอบไปยืนกัน บรรยากาศตอนดึกๆคือวังเวงมากครับ อากาศแบบเย็นเฉียบ  รอบๆไม่มีแสงไฟอะไรเลย  นานๆจะมีรถผ่านมาสักคัน บทนี้สำหรับผมถือว่ายากมากครับ ต้องพลิกตัวเองไปเป็นอีกคน  คิวแรกๆที่เข้าฉากผมโดนด่าเละเลยครับ พี่ย้งจะคอยเตือนว่าผมต้องเล่นให้มั่นใจที่สุด  เพราะถ้าเป็นโจจริงๆ คือจะกล้าจ้องตาคนอื่นแบบไม่กลัว และไม่หลบตาใคร  จุดนี้ทำให้ผมต้องสลัดความอายทิ้งไป เพื่อสวมบทโจให้ดีที่สุด อยากฝากทุกคนติดตามซีรีส์  I HATE YOU I LOVE YOU    กันให้ครบทุกตอนนะครับ รับรองว่า ทั้ง 5 ตอนนี้ เรื่องราวเข้มข้นแน่นอน รอชมกันได้ทุกวันเสาร์   เวลา 20.00 น. LIVE ทาง LINE TV

TikTok เพิ่มฟีเจอร์ Refresh your For You feed เพื่อรับเนื้อหาใหม่ ๆ
อ่าน

TikTok เพิ่มฟีเจอร์ Refresh your For You feed เพื่อรับเนื้อหาใหม่ ๆ

TikTok ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Refresh your For You feed’ สำหรับผู้ใช้งานแฟนตัวยงหน้าฟีด For You โดยเฉพาะ เพื่อรีเซ็ตรับเนื้อหาสดใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อผู้ใช้งานทำการคลิกฟีเจอร์ ‘Refresh your For You feed’ ระบบจะทำการรีเซ็ตข้อมูลเนื้อหาของผู้ใช้งานให้ใหม่เหมือนกับตอนสมัครใช้งานแอปพลิเคชันครั้งแรก หลังจากนั้นระบบจะทำการรวบรวมการตั้งค่าเนื้อหาของผู้ใช้พร้อมกับแสดงเนื้อหาที่สดใหม่มากยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้จะช่วยควบคุมการแสดงเนื้อหาที่สอดคล้องกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และป้องกันการแสดงเนื้อหาที่ซ้ำมากจนเกินไป ฟีเจอร์ ‘Refresh your For You feed’ จะอยู่ภายในตั้งค่า Content Preference หรือ ค่ากำหนดเนื้อหา โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะค่อย ๆ ทยอยเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ TikTok ทั่วโลก ที่มา : TikTok Newsroom

ทำความรู้จัก ! หนุ่มๆ วง BUS (Because of you I shine)
อ่าน

ทำความรู้จัก ! หนุ่มๆ วง BUS (Because of you I shine)

ทำความรู้จัก ! หนุ่มๆ วง BUS (Because of you I shine) รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! พศวีร์ มาร์คริส ขุนพล ชุติวัฒน์ คิมจินวุค ชญานนท์ ณัฐกิตติ์ ภูธัชชัย เดชาวัต อชิรกรณ์ จั๋งธีร์ ภีมวสุ บี-ยู-เอส- BUS is twelve บี-ยู-เอส-BUS is twelve BUS Because of you I shine หนุ่มๆบอยแบนด์หน้าใหม่ 12 หนุ่ม จากรายการ 789 Survival รายการที่ Mix Match เด็ก 24 คนที่มีความฝัน ผ่านมิชชั่นต่าง ๆ เพื่อหา Idol กลุ่มใหม่ จนได้เดบิวต์เป็นศิลปินกลุ่มในชื่อวง BUS Because of you I shine  สามชิกของวงจะมี  อลัน พศวีร์ ศรีอรุโณทัย มาร์ค กฤษณ์ กัญจนาทิพย์ ขุนพล ปองพล ปัญญามิตร ฮาร์ท ชุติวัฒน์ จันเคน จินวุค คิม ไทย ชญานนท์ ภาคฐิน เน็กซ์ ณัฐกิตติ์ แช่มดารา ภู ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล คอปเปอร์ เดชาวัต พรเดชาพิพัฒ    เอเอ อชิรกรณ์ สุวิทยะเสถียร จั๋ง ธีร์ บุญเสริมสุวงศ์ ภีม วสุพล พรพนานุรักษ์ อลัน พศวีร์ ศรีอรุโณทัย 🍇 💘 เกิด 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 💘 อลัน นอกจากเป็นพี่ใหญ่ของวงแล้วยังเป็นลีดเดอร์ของวงด้วย  อลันเป็นที่รู้จักในฐานะลีดเดอร์ที่มีความสามารถรอบด้าน นอกจากหน้าตาที่หล่อแล้วยังมีความสามารถหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการแร็ปที่โดดเด่น ติดตามผลงงาน Instagram @alan.busofficial มาร์ค กฤษณ์ กัญจนาทิพย์ 🍈 💝เกิด 12 ธันวาคม พ.ศ. 2545 💝 ขอบอกเลยว่า มาร์ค นอกจาก หล่อแล้ว ยัง เป็นคนที่มีความสามารถตั้งแต่เด็ก เคยประกวดรายการ The Voice Kids Thailand ซีซั่น 4 อยู่ทีมโค้ชติ๊ก ชีโร่ และยังเคยเป็นผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Trainee ของค่าย JYP Entertainment ในปี 2016 จาก JYP Global Audition ที่กรุงเทพฯ จึงทำให้ มาร์ค เป็นที่รู้จักในฐานะสมาชิกที่มีเสียงร้องที่ นุ่มละมุน และมีเสน่ห์ ยังมีความสามารถทางด้านดนตรีที่หลากหลาย มาร์คยังมีบุคลิกที่น่ารัก ขี้อาย ติดตามผลงงาน Instagram @marckris.busofficial ขุนพล ปองพล ปัญญามิตร 🍉 💖เกิด 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2547💖 ขุนพล หนุ่มหล่อตี๋ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักแสดงเด็ก มีผลงานละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง  ขุนพลเป็นที่รู้จักในฐานะสมาชิกที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงมานานมากตั้งแต่เด็ก ทำให้ ขุนพล มีฝีมือการแสดงที่เป็นธรรมชาติและโดดเด่น นอกจากนี้ ขุนพลมีเสน่ห์มากๆ ร่าเริง สดใส ด้วยความสามารถรอบด้านทั้ง ร้อง เต้น และการแสดง ติดตามผลงงาน Instagram @khunpol.busofficial ฮาร์ท ชุติวัฒน์ จันเคน 🍊 💗เกิด 8 เมษายน พ.ศ. 2546💗 ฮาร์ท มีชื่อเรียกจากแฟนคลับว่า "พี่พระเอก" เพราะหล่อมากๆๆๆ และมีเสน่ห์ นอกจากหล่อแล้วยัง มีความสามารถในเรื่องดนตรี อย่างกีตาร์ ฮาร์ท มีความสามารถด้านการร้องเพลง และการเต้น ไลน์เต้นของฮาร์ท ถือว่าไลน์เต้นชัด ติดตามผลงงาน Instagram @heart.busofficial จินวุค คิม🍋 💓เกิด 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2547💓 คิมจินอุค สมาชิกชาวเกาหลีใต้เพียงคนเดียวในวง BUS คิมจินอุค ที่เติบโตและอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เด็ก ทำให้สามารถพูดภาษาไทยอย่างชัดเจน ถ้าไม่บอกว่าเป็นหนุ่มเกาหลีคงต้องคิดว่าเป็นคนไทยแน่ๆ คิมจินอุค ชื่นชอบในการแต่งเพลง และการเขียนเพลง  ตำแหน่งในวง แร็ปเปอร์  เป็นคนอารมณ์ดี มีความเป็นตัวของตัวเอง คิมจินอุคมักที่จะสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ให้กับสมชิกในวง ติดตามผลงงาน Instagram @heart.busofficial ไทย ชญานนท์ ภาคฐิน🍋‍🟩 💞เกิด 26 กันยายน พ.ศ. 2547💞 ไทย ชญานนท์ มีผลงานเพลงมาก่อนที่จะเข้าร่วม 789TRAINEE ในโปรเจกต์ One-Time มีฉายาจากแฟนคลับ เช่น "ไทย 9 นาฬิกา" มีความสามารถในการเอนเตอร์เทนและสร้างบรรยากาศสนุกสนาน สร้างเสียงหัวเราะ ให้กับวง นอกจากหล่อแล้ว ยังตลก อีกด้วย ติดตามผลงงาน Instagram @thai.busofficial เน็กซ์ ณัฐกิตติ์ แช่มดารา 🍍 💕เกิด 18 มีนาคม พ.ศ. 2548💕 เน็กซ์ มีความสามารถด้านดนตรีมาตั้งแต่เด็ก และมีทักษะในการเล่นเปียโน เข้าร่วมเป็นเด็กฝึกของ 789TRAINEE ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นที่รู้จักจากคาริสม่าที่โดดเด่น และสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ จนได้ฉายา "แฟชั่นนิสต้าประจำวง" จากเพื่อนๆ และแฟนคลับ ในเรื่องของการแร็ป เป็นการแร็ป ที่หนักแน่น  และเคยสร้างสถิติแฮชแท็กส่วนตัว #NEXnattakit ที่มียอดใช้งานทะลุ 1 ล้านครั้ง ติดตามผลงงาน Instagram @nex.busofficial ภู ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล 🍒 ❤️‍🔥เกิด 10 เมษายน พ.ศ. 2548 ❤️‍🔥 ภู ธัชชัย นอกจากเป็น นักร้องเสียงดี แล้วยังพ่วงมาด้วยอดีต นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง ภู ธัชชัย เป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเยาวชนชายทีมชาติไทยในตำแหน่งกองหลังขวา เคยได้รับรางวัล แชมป์ฮอกกี้น้ำแข็งเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี 2018 ที่ประเทศไทย ภู ธัชชัย เป็นที่รู้จักจากความสามารถทั้งด้านกีฬาและการร้องเพลง ติดตามผลงงาน Instagram @phutatchai.busofficial คอปเปอร์ เดชาวัต พรเดชาพิพัฒ 🍎 ❣️เกิด 18 เมษายน พ.ศ. 2549❣️ คอปเปอร์ เริ่มต้นตั้งแต่เด็ก กับการที่จะเป็น ศิลปิน  โดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวในการร้องเพลงและเรียนดนตรี เริ่มที่จะเข้าประกวดรายการ The Star Idol เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้าร่วมประกวดรายการ The Star Idol และได้เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย นอกจากหน้าตาดีแลัว เป็นคนที่มีความสามารถหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น  ด้านการร้อง, การเต้น, การแร็ป และการเล่นดนตรี (เปียโน) ติดตามผลงงาน Instagram @copper.busofficial เอเอ อชิรกรณ์ สุวิทยะเสถียร 🍅 ❤️‍🩹เกิด 13 สิงหาคม พ.ศ. 2549❤️‍🩹 เอเอ เป็นที่รู้จัก หลานชายของโทนี่ รากแก่น  เอเอ เริ่มที่จะเรียนดนตรีมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มฝึกฝนการเล่นกีตาร์และการแต่งเพลงด้วยตัวเอง เข้าร่วมแข่งขันในรายการ LAZ iCON ซึ่งเป็นรายการค้นหาไอดอล 789TRAINEE ต่อมาได้เข้าร่วมเป็นศิลปินฝึกหัดในโปรเจกต์ 789TRAINEE เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันของรายการ และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 12 สมาชิกของวง BUS เอเอ มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ มีความสามารถทั้งเล่นกีตาร์และแต่งเพลง เรียกได้ว่ามีความสามารถครบถ้วน  ติดตามผลงงาน Instagram @aa.busofficial จั๋ง ธีร์ บุญเสริมสุวงศ์🥝 ❤️เกิด 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549❤️ จั๋ง ธีร์ หนุ่มตี๋ เรียกได้ว่าผู้ที่ชื่นชอบการแร็ป การเต้น การแร็ปเป็นอย่างมาก เคยเข้าร่วมใน AUULALA PROJECT และ จั๋ง ชอบแนวเพลง Rap มีความสามารถในร้องและการแต่ง Rap ติดตามผลงงาน Instagram @jungt.busofficial ภีม วสุพล พรพนานุรักษ์🫐 🩷เกิด 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2549🩷 ภีม วสุพล  หนุ่มหล่อ เป็นที่รู้จักใน TikTok ด้วยการทำ Content ใน Tiktok ผู้ติดตามจำนวนมาก และเข้าร่วมเป็นศิลปินฝึกหัดในโปรเจกต์ 789TRAINEE เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันของรายการ 789SURVIVAL ภีม วสุพล เป็นที่รู้จักจากรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และความน่ารักสดใส มีความสามารถในการร้องเพลง, เต้น และแร็ป ติดตามผลงงาน Instagram @peemwasu.busofficial เครดิตภาพ ❤️‍🔥 หน้าปก ภาพปก1 โดย BUS because of you i shine  ตกแต่งโดย canva ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 / ภาพที่9 / ภาพที่10 / ภาพที่11 / ภาพที่12 / ภาพที่13 / ภาพที่14 / ภาพที่15 / ภาพที่16 / ภาพที่17 / ภาพที่18 / ภาพที่19 / ภาพที่20 / ภาพที่21  / ภาพที่22  / ภาพที่23  / ภาพที่24 โดย  @marckris.busofficial ,  @khunpol.busofficial , @heart.busofficial , @heart.busofficial , @thai.busofficial , @nex.busofficial , @phutatchai.busofficial , @copper.busofficial , @aa.busofficial , @jungt.busofficial , @peemwasu.busofficial    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !      

ไม่เสียแรงรอ!! เฉลยปมสมจริงเหตุ นานะ เสียชีวิต ในซีรี่ส์ I Hate You I Love You
อ่าน

ไม่เสียแรงรอ!! เฉลยปมสมจริงเหตุ นานะ เสียชีวิต ในซีรี่ส์ I Hate You I Love You

เตรียมตัวกกลับมาฉายต่ออย่างเป็นทางการสำหรับซีรี่ส์ ที่สร้างความฮือฮาให้กับคนดูอย่าง I HATE YOU I LOVE YOU ซึ่งคาปมปริศนาการตายของ นานะ ที่รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์  โดยการเล่าเรื่องผ่านนักแสดงแต่ละคน ซึ่ง 7 มกราคม นี้ จะเป็นการเล่าเรื่องราวของ ไอ่ รับบทโดย โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ ที่เฝ้าตามจีบ ซอล (ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล) ไอ่ เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับ นานะ ตามที่เนื้อเรื่องได้กล่าวล่าสุดก่อนที่ นานะจะตาย และทิ้งปริศนาคาใจคนดูว่า ใครฆ่านานะ ล่าสุดเพจ hateloveseries ปล่อยคลิปข่าวรายละเอียดการตายของนานะออกมาให้เก็นอย่างชัดเจน โดยรายละเอียดมีดังนี้ เมื่อเวลา 6.00 น. ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างของ น.ส.นานะ สุจริตพจน์ อายุ 20 ปี เสียชีวิตอยู่ในรถเบนซ์ทะเบียน 3 กฬ 2425 กรุงเทพมหานคร สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะคนขับ ลักษณะปรับเอนนอน เมื่อเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาถึงที่เกิดเหตุได้ทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานต่างๆ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นการจงใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากพบข้อความสุดท้ายในโทรศัพท์มือถือของผู้ตายส่งหาแฟนหนุ่มในลักษณะตัดพ้อถึงความรัก และพบแผงยานอนหลับในกระเป๋าถืออยู่ในสภาพที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว  นอกจากนี้ยังพบที่บริเวณปลายท่อไอเสียมีสายยางเสียบอยู่ ซึ่งถูกโยงเข้าไปในตัวรถบริเวณประตูด้านหลัง จึงคาดว่าผู้ตายจงใจรมควันตัวเองให้เสียชีวิตด้วยก๊าซไอเสีย เกาะติดสถานการณ์เพิ่มเติมได้ที่ซีรีส์ I HATE YOU I LOVE YOU Episode 4 วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2560 เวลา 20.00น. ทาง LINE TV #HateLoveSeries #HateLoveComeBack ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://www.facebook.com/hateloveseries อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร เรียบเรียงข้อมูลโดยทีมงาน dara.truelife.com

“I left my heart in San Francisco”
อ่าน

“I left my heart in San Francisco”

“Life is a Journey” เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “Life is a Journey” หรือ ชีวิตคือการเดินทาง แน่นอนว่าทุก ๆ การเดินทางล้วนมีความหมายและเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายที่แตกต่างกันออกไปตามสถานที่และผู้คนที่เราพบเจอ ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2019 ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมือง ๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนจำนวนหลายล้านคนต่อปี ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร และวิถีชีวิต ดังเช่นที่หลาย ๆ คนเคยเห็นผ่านทางภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ สื่อต่าง ๆ หรือได้มาสัมผัสด้วยตัวเองจริง ๆ ซึ่งผู้คนที่ได้เดินทางมาเยือนที่นี่ มักจะเอ่ยประโยคที่ว่า “I left my heart in San Francisco”  วันนี้ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านไปเที่ยวชมเมืองซานฟรานซิสโก ผ่านตัวหนังสือและภาพถ่ายที่ผู้เขียนได้กดชัตเตอร์เองกับมือทุกภาพ แม้จะไม่มีมุมมองการถ่ายภาพอย่างช่างภาพมืออาชีพ แต่ผู้เขียนแอบมีความหวังเล็ก ๆ ว่าหลังจากจบการท่องเที่ยวผ่านบทความนี้แล้ว ผู้อ่านทุกท่านจะอยาก “left my heart in San Francisco” เช่นเดียวกันกับผู้เขียนและนักเดินทางคนอื่น ๆ หากพร้อมแล้วเรามาเริ่มออกเดินทางไปด้วยกันค่ะ :-) เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง... Let’s go  1. “Golden Gate Bridge” สะพานแขวนสีแดงขนาดใหญ่ ที่ทอดยาวข้ามอ่าวทางตอนเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก สะพานแห่งนี้มีความกว้างมากๆ มีทั้งทางรถยนต์ ทางรถไฟ และทางให้คนเดินหรือปั่นจักรยานได้ด้วยค่ะ โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าเสน่ห์ของสะพานแห่งนี้คือหมอกที่มักจะปกคลุมส่วนบนของสะพานค่ะ ทำให้เวลามอง รู้สึกถึงความแตกต่างที่ลงตัว ของสีแดงจากตัวสะพาน สีขาวของหมอก และสีฟ้าจากน้ำทะเล เป็นวิวที่ประทับใจมาก ๆ ค่ะ หากวันไหนอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ทัศนียภาพของสะพานแห่งนี้ บวกกับท้องฟ้าและน้ำทะเลแล้ว ก็งดงามไม่แพ้กันค่ะ 2. “Pier 39 Sea Lions” ท่าเรือหมายเลข 39 จุดจอดเรือของชาวประมงที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเย็นสบาย มีลมพัดผ่านและมีหมอกบาง ๆ โรแมนติกดีค่ะ^^  นอกจากนี้ยังมี street art สวนสนุก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ร้านอาหารและร้านค้าของฝากมากมาย หากแต่ว่าสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาชมท่าเรือแห่งนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “แมวน้ำ” ค่ะ ท่าเรือแห่งนี้มีน้องแมวนำ้หลายสิบตัวนอนอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ถัดจากท่าเรือไปไม่ไกล นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวคุกเก่าที่อยู่กลางทะเลชื่อ Alcatraz ได้ด้วยค่ะ  3. “Bay Bridge” สะพานแขวนขนาดใหญ่สีเทา เข้ากับสีฟ้าของน้ำทะเลที่พาดผ่านอ่าวซานฟรานซิสโก ทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมระหว่างเมือง San Francisco กับ เมือง Oakland สะพานแห่งนี้มีความยาวและกว้างมาก บรรดารถบรรทุก รถบัสขนาดใหญ่วิ่งได้สบาย ๆ เลยค่ะ สะพานแห่งนี้เคยมีประวัติว่าสะพานหักเพราะเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในปี 1989 ด้วยนะคะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าสิ่งที่น่าทึ่งของสะพานแห่งนี้คือ มันมี 2 ชั้นค่ะ โดยรถที่มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก (เข้าเมืองซานฟรานซิสโก) จะอยู่ชั้นบน ส่วนรถที่วิ่งไปทางทิศตะวันออก (เข้าเมือง Oakland) จะอยู่ชั้นล่าง เจ๋งมาก ๆ เลยค่ะ  4. “Lombard Street” ถนนลอมบาร์ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องความชันและความคดเคี้ยว ได้รับฉายาว่าเป็น ”ถนนที่คดเคี้ยวที่สุดในโลก” ด้วยนะคะ ผู้เขียนเองชอบความสะอาดและความสวยงามของดอกไม้และบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมถนนแห่งนี้มาก ๆ อีกทั้งถ้ามองจากจุดเริ่มต้นทางด้านบนของถนนสายนี้ จะทำให้มองเห็นวิวที่สวยงามของเมืองซานฟรานซิสโกและสามารถมองเห็นวิว Bay Bridge ไกล ๆ ได้อีกด้วยค่ะ 5. “Union Square” จตุรัสขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมืองซานฟรานซิสโก มีหอคอยสูงและรูปปั้นหัวใจซึ่งเป็นแลนด์มาร์คหรือจุดที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยได้มาเช็คอินและถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ จัตุรัสแห่งนี้ยังมี Apple Store ขนาดใหญ่และ Shop สินค้าแบรนด์เนมมากมายหลายร้านเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Cartier, และอื่น ๆ ผู้เขียนคิดว่านักท่องเที่ยวสายช้อป สายแบรนด์เนมหลายคนถูกใจสิ่งนี้แน่นอนค่ะ 6. “Swensen’s” ร้านไอศกรีมชื่อดังที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี สเวนเซ่นที่นี่เป็นสาขาแรกของโลกค่ะ ทำให้นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนอยากจะมาลิ้มลองรสชาติไอศกรีมของที่นี่ว่าจะอร่อยเหมือนสาขาอื่นในหลายประเทศทั่วโลกหรือเปล่า ส่วนตัวผู้เขียนเองสั่งเป็นเมนูช็อกโกแลตชิพและรัมเรซินสุดโปรดมาลองชิมค่ะ ปรากฎว่ารสชาติเหมือนที่ไทยเลย(ฮ่าๆ^^) แต่ที่ต่างไปคือบรรยากาศรอบ ๆ ร้านค่ะ ที่นี่เป็นร้านเล็ก ๆ มีโต๊ะสำหรับนั่งทานในร้านเพียงไม่กี่โต๊ะ ให้ความรู้สึกวินเทจสมกับเป็นสเวนเซ่นสาขาแรกของโลกได้ดีทีเดียวค่ะ 7. “Baker Beach” หาดทรายสาธารณะที่มีวิวสวยงามล้อมรอบทุกด้าน และเป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมในการไปพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่วนใหญ่คนหนุ่มสาวจะมาปิคนิคและนอนอาบแดด บ้างก็พาสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมาวิ่งเล่น ว่ายน้ำ ออกกำลังกาย กันอย่างคึกคักทีเดียวค่ะ บริเวณรอบหาดมีทางปั่นจักรยานที่เชื่อมไปยังสะพานโกลเด้นเกทได้ด้วย ใกล้ ๆ กันยังมีสวนสาธารณะ ป่าไม้สนอันร่มรื่น รวมไปถึงป้อมปราการเก่า (Fort Baker) ให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปและศึกษาประวัติศาสตร์ได้ด้วยค่ะ 8. “Cable Cars” รถรางสุดคลาสสิคแห่งเมืองซานฟรานซิสโก เส้นทางการเดินรถสายยอดฮิตของเมืองนี้ต้องยกให้สายที่วิ่งจากดาวน์ทาวน์ Powell Station - Market Street ใครที่ต้องการไปสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมริมทะเล (Fisherman’s Wharf และ Pier 39) ต้องขึ้นสายนี้ค่ะ บรรยากาศระหว่างทางของรถรางสายนี้คือดีมาก ๆ ตลอดทางเราจะได้ชมเมืองซานฟรานซิสโกอย่างใกล้ชิด ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน ผู้เขียนชอบมาก ๆ เลยค่ะ และไฮไลต์ของรถรางที่นี่คือการหมุนหัวรถจักรกลับเมื่อถึงสถานีปลายทางค่ะ ซึ่งเค้ายังใช้กำลังคน(แบบมือหมุน)อยู่เลย เป็นการอนุรักษ์ความคลาสสิคและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีมาก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุคที่ยังไม่มีรถยนต์ ส่วนราคาค่าโดยสาร ถ้าซื้อตั๋วแบบ one round trip ตอนนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 6 ดอลลาร์ค่ะ ตั๋วมีทั้งแบบ paper และซื้อผ่านแอปพลิเคชันในมือถือได้เลย สะดวกมาก ๆ ค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้ชมไป หากอย่างน้อยมีสักหนึ่งสถานที่ ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้อ่านได้บ้าง ผู้เขียนก็มีกำลังใจและดีใจมาก ๆ แล้วค่ะ อย่างไรก็ตามเนื้อหาในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะแบ่งปันให้กับใครหลาย ๆ คนได้เห็นถึงความงดงามและเสน่ห์ของสถานที่ ที่ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปสัมผัส ซึ่งก็ยังมีอีกหลายที่ในเมืองซานฟรานซิสโกที่มีความน่าสนใจ แต่ผู้เขียนยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม เลยไม่มีประสบการณ์ที่จะมาเล่าให้แก่ผู้อ่านได้ฟังกันค่ะ อีกแง่มุมหนึ่งของเมืองซานฟรานซิสโก ก็มีภาพของความไม่น่าอภิรมย์ที่สะท้อนถึงปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำเหมือนกับเมืองต่าง ๆ ในหลายประเทศ ให้บรรดานักท่องเที่ยวรวมถึงตัวผู้เขียนเองได้เห็นเช่นกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจาก “ I left my heart in San Francisco” เป็นงานเขียนชิ้นแรกที่เผยแพร่สู่สาธารณะ ผู้เขียนก็อยากจะขอส่งมอบบทความนี้ให้แก่ผู้อ่านทุกท่านด้วยความตั้งใจและอยากสร้างความสุขให้แก่ผู้อ่าน หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ มือใหม่หัดเขียน / และถ้ามีข้อมูลส่วนใดผิดพลาดจะยินดีมาก ๆ เลยค่ะหากได้รับคำแนะนำจากผู้อ่านเพื่อเป็นการพัฒนาในงานเขียนชิ้นต่อ ๆ ไป ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงข้อความนี้นะคะ พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ :-) Assawin Hint (May, 2021)  เนื้อหา โดย Assawiya Hint ภาพประกอบ โดย Assawiya Hint   อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !

The pursuit of Happyness ..ความสุขที่มาจาก you มากกว่า I
อ่าน

The pursuit of Happyness ..ความสุขที่มาจาก you มากกว่า I

 The pursuit of Happyness (2006) “ความสุขที่สะกดไม่ถูก และความพยายามที่เกือบจะสูญเปล่า” หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง โดยเป็นหนังที่กล่าวถึงเรื่องราวของคริส การ์ดเนอร์ ที่พยายามดิ้นรนสารพัดรูปแบบเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกชายตัวเล็ก ๆ วัย 5 ขวบของเขา ความอดทน กระเสือกกระสนจึงมีให้เห็นได้ในตลอดทั้งเรื่อง และข้อดีข้อหนึ่งที่ชอบมากคือการที่มีเสียงของพระเอกคอยบรรยายให้ฟังว่าช่วงชีวิตนั้นเป็นแบบไหน เหมือนเป็นการสรุปเรื่องราวช่วงนั้นในคำเดียว ในช่วงแรกที่คริสได้ถูกเสนอให้เข้าอบรมในสิ่งที่ปรารถนาอยู่หนักหนา แต่เขาก็ต้องเดินมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ เมื่อการอบรมนั้นไม่ได้ ‘เงิน’ มาจุนเจือชีวิตสักนิด สิ่งที่เป็นเหมือนความสุขของคริสคือความสุขจริง ๆ หรือเปล่า หรือเป็นผลพลอยได้ที่เกิดจากเงินเท่านั้น? แต่คิดว่าไม่ใช่ทั้งคู่เพราะสิ่งที่คริสต้องการน่าจะเป็นความสุขที่มาจากการมีเงินก่อนเหนืออื่นใด หลาย ๆ ความสุขในชีวิตล้วนเป็นสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยเงินทั้งนั้น  คงปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตที่ปราศจากเงินของคริสนั้น เป็นช่วงชีวิตที่จัดได้ว่า ‘แย่’ เลยทีเดียว ซึ่งในที่นี้เงินอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่หลาย ๆ อย่างในชีวิตล้วนต้องอาศัยเงินในการจัดหามา ในช่วงกลางเรื่องที่คริสเกิดภาวะถังแตกเหมือนจะเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของชีวิตเขาแล้ว แต่มันไม่ใช่ เมื่อนั่นเป็นเพียงแค่ด่านแรกของมรสุมที่รอคอยเขาอยู่ การด่ำดิ่งในชีวิตของคริสยังคงดำเนินต่อไป จนถึงจุดที่เรียกว่า ‘ตกอับ’ โดยเฉพาะฉากในสถานีรถไฟใต้ดินนั้นสะเทือนใจมาก (ก.ไก่ล้านตัว) แม้ว่าหนังจะแสดงออกว่าลูกชายของเขาไม่ได้รู้สึกอะไร แต่อยากจะบอกว่าคนดูนั้นรู้สึกมากเหลือเกิน ก่อนที่ชีวิตเขาจะค่อย ๆ ดีขึ้น และหนังได้ให้โอกาสเขาได้ลืมตาอ้าปากบ้าง  สิ่งหนึ่งที่เหมือนเป็นตัวแทนของอะไรบางอย่างในหนังเรื่องนี้คือ ‘รูบิค’ มันคงไม่ได้สื่อถึงความพยายามเพราะในขณะที่คนอื่นใช้มันมากมาย แต่คริสกลับเอาชนะมันได้เพียงง่าย ๆ ซึ่งผิดกับหลักความเป็นจริงอยู่มากนัก จึงไม่แน่ใจว่ามันเป็นตัวแทนของสิ่งใดหรือความจริงแล้ว ‘รูบิค’ ก็แค่ ‘รูบิค’ ไม่ได้มีความหมายมากมายเหนืออื่นใดเลย มันอาจจะเป็นแค่ตัวแทนบ่งบอกถึงความฉลาดที่คริสดูจะมีมากกว่าที่คนอื่น ๆ มีก็แค่นั้น  เรื่องราวของคริสก็คงเป็นเหมือนในหนังสูตรสำเร็จทั่ว ๆ ไป ที่มีอุปสรรคมากมายมาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าคริสดูแตกต่างจากตัวละครเด่น ๆ ทั่วไป คือ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าตัวละครนี้ไม่ได้เป็นสีขาวแบบขาวสะอาด แต่เหมือนจะมีเทา ๆ ปนอยู่บ้างในบางส่วน เคยมีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการสะกด happiness นั้น ใช้ y แทนที่จะเป็น i แบบปกติ นั่นเป็นเพราะผู้สร้างอยากจะสื่อถึงว่าการจะมีความสุขนั้นเริ่มต้นมาจากตัวผู้อื่น (You) มากกว่าการที่จะคิดถึง I อยู่ฝ่ายเดียว สุดท้ายแล้วไม่ว่าความสุขจะสะกดถูกหรือยัง แต่คริส การ์ดเนอร์ กับลูกชายคงจะได้รู้ถึงความหมายของมันบ้างไม่มากก็น้อย... ขอบคุณภาพประกอบจาก Official trailerภาพปกจาก https://wall.alphacoders.com/big.php?i=636727