TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Future Series” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
(Hands-On) สัมผัสแรก Samsung Galaxy Watch6 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ งาน Unpacked กรุงโซล
เปิดตัวไปแล้วกับ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series ในงาน Unpacked ณ กรุงโซลสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งหลังจบงานเราก็ได้มีโอกาสไปจับเครื่องจริงกันด้วย กับทั้งสองรุ่น ซึ่งภายในงานก็มีการจัดโซน และ Drop Out ต่าง ๆ ให้ลองเล่น และถ่ายภาพ สมกับเป็นงาน Unpacked Galaxy Watch6 และ Watch6 Classic นี่เป็นสมาร์ตวอตช์ที่ผมตื่นเต้นมากที่จะได้จับของจริง Watch6 Classic นำเอา Rotate Ring กลับมาแล้ว หน้าตาดูมีความ Classic และสวยมาก ซึ่งก็นำมาแทนที่รุ่น Pro ไปเลย หลังจากที่ในรุ่น 5 นั้นถูกตัด Classic ออกไป สิ่งแรกที่ได้จับแล้วต้องสังเกตเห็นเลย คือหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะสุดขอบ ไม่เหมือนกับรุ่นเก่าที่ขอบหนา (เช่น Watch4 ที่ผมใช้อยู่) ซึ่งในรุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 37.33 มม. แล้วนั่นเอง และอัปเกรดเป็นรุ่น 43mm และ 47mm แทน วัสดุเท่าที่จับ ดูแข็งแรงทนทานดี ตัวกระจกหน้าจอก็เปลี่ยนมาใช้ Crystal Sapphire แทนแล้ว ซึ่งจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็จะเปลี่ยนแปลงไปประมาณนี้สำหรับ Watch6 Series ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ขอบบางลงแบบนี้ ดูหล่อมากกว่าเดิมเยอะมาก ๆ Samsung Galaxy Tab S9 Series ในส่วนของ Tab S9 Series รอบนี้ ก็ยังมีรุ่นสับมากถึง 3 รุ่นเหมือนเดิม Tab S9, Tab S9+ และ Tab S9 Ultra ซึ่งคราวนี้ถึงแม้หน้าตาจะดูเหมือนเดิมหมด แต่ที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือตัว S9 ที่เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แบบรุ่นใหญ่ แทนที่จะเป็น LCD แล้ว หน้าจอดูสวยงามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยก็สมกับเป็นแท็บเล็ตเรือธงทุกตัวสักที นอกจากนั้นไม่ค่อยมีอะไรแปลงที่เห็นได้ทันทีมากนัก ซึ่งหลัก ๆ ที่อัปเกรดจากรุ่นปีที่แล้ว ที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ก็เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพ ความร้อน และแบตเตอรี ซึ่งใครสนใจทั้งสอง Series นี้ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดสเปกเพิ่มเติมในลิงก์นี้ ซึ่งมีรายละเอียดโปรโมชัน ของ Samsung ประเทศไทยอยู่ด้วยครับ ความประทับใจของงาน NDA ครั้งนี้ อันนี้แอบอยากพูดแนบมาด้วย ประทับใจงาน NDA (Non Disclosure Agreement งานรอบสื่อที่จะได้จับเครื่องจริงก่อนเปิดตัวจริง เพื่อเตรียมข้อมูลไปทำข่าว) ของ Samsung ที่เกาหลีมาก ด้วยความที่ครั้งนี้มันเป็นการจัด Unpacked ครั้งแรกในบ้านเกิดเขา พร้อมกับมีจำนวนสื่อไอทีมาจากทั่วโลกแบบล้นหลาม มันเลยเป็นงาน NDA ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่พื้นที่ที่จัด NDA ก็จะเล็ก ๆ นะ ไม่ได้ใหญ่ จะคงเพราะว่าจะได้คุมคนได้ ซึ่งทางทีมงานได้มีการจัดแสงทุก Drop Out เลย แบบว่านี่คือการเดินดุ่ม ๆ เอา S23 Ultra ไปถ่ายแบบเร็ว ๆ ภาพก็ออกมาสวยเลย เพราะทีมงานจัดแสงโหดมาก แต่ละจุดก็จะมีการวางเรียงกันเล่นกับกิมมิคต่าง ๆ ของเครื่องด้วย ซึ่งจำนวนเครื่องที่ใช้ในพื้นที่ NDA มีเป็นร้อย ๆ เครื่องเลย แถมยังเอาวิศวกรผู้ออกแบบมานั่งตอบคำถามที่สงสัยเองเลยด้วย และยังมีโซน Studio ให้เราเข้าไปนั่งรีวิวกันข้างในนั้นได้เลยอีก
แบไต๋ • 28 ก.ค. 66
อ่าน
Hybrid:The Future of Investing โลกแห่งอนาคต สู่ โอกาสการลงทุน
โลกทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมเทคโนโลยี จนทำให้กลุ่มเทคโนโลยีกลายมาเป็นผู้นำในตลาดหุ้น เรียกได้ว่าเป็นเมกะเทรนด์เเห่งการลงทุนในปัจจุบัน เเต่การลงทุนหุ้นเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ธุรกิจ หาแนวโน้มการเติบโต และประเมินมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่ใครต่อใครก็บ่นอุบว่า “แสนแพง” แพงแค่ไหนถ้ามีกำไรก็ต้องลงทุน แต่กลยุทธ์การลงทุนจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกับคุณมนต์ชัย กันค่ะการยึดติดอยู่กับเทคโนโลยีแบบเดิม วิธีการแบบเดิมๆ ที่เคยทำให้ประสบความสำเร็จในอดีต ไม่ปรับตัวเปลี่ยนตามโลกที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งธุรกิจที่เคยรุ่งเรืองในอดีตก็จะไม่สามารถก้าวทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปได้หลายๆแบรนด์ดังในปัจจุบันจำเป็นต้องยื่นล้มละลาย ไม่ว่าจะทิวส์เดย์ มอร์นิง , Muji ผู้ค้าปลีกสินค้าในสหรัฐฯ , Brook Brothers แบรนด์แฟชั่นดังอายุกว่า 200 ปี จากเมืองแมนฮัตตันสินค้าในโลกยุค Next Normal ซึ่งจะเป็นทางรอดของธุรกิจและเป็นโอกาสลงทุนของนักลงทุน เราจะได้เห็นวิสัยทัศน์ของบริษัท ที่นำเอา Story มาผสมผสานกับเทคโนโลยีเพื่อประดิษฐ์นวัตนกรรมใหม่ออกสู่ตลาดโตโยต้า หลังเสียแชมป์ผู้ผลิตรถยนต์มูลค่าสูงสุดในโลกให้กับเทสล่า ปีที่แล้วได้ประกาศร่วมมือกับ Amazon Web Services, Inc. (AWS) ซึ่งเป็น บริษัท ในเครือ Amazon. com และลงทุนกว่า 400 ล้านเหรียญ ในบริษัท Pony.ai ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีจากประเทศจีน มีเป้าหมายเพื่อที่จะพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติต้นเดือนที่ผ่านมา(1 ก.พ.63) Ford ประกาศความร่วมมือกับ Google เพื่อพัฒนา Connected Car รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ความร่วมมือจะเริ่มในปี 2023 โดยจะฝังระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชั่นต่างๆ ของ Google ในรถยนต์ของ Ford และนำระบบ AI มาใช้งาน เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไร้คนขับล่าสุด 3 ก.พ. ข่าวจากเว็ปไซด์ Bloomberg (อ้างอิง DongA Ilbo หนังสือพิมพ์ในเกาหลีใต้) รายงานว่า Apple มีแผนลงทุนร่วมกับ KIA Motors Factor บริษัทลูกของ Hyundai เพื่อผลิต Apple Car รถยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวปี 2024 โดยจะมีการลงนามร่วมกันวันที่ 17 ก.พ.นี้ ข่าวว่าจะใช้ Kia Motors Factor ในจอร์เจียร์ สหรัฐอเมริกา เป็นฐานการผลิตก่อนหน้านี้ โวคสวาเก้น ก็ประกาศความร่วมมือกับ ไมโครซอฟท์ ไปแล้วในการพัฒนาระบบคลาวด์ยานยนต์ฝั่งตี๋ใหญ่จีน เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อาลีบาบา ประกาศร่วมมือกับบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีน เอสเอไอซี มอเตอร์ เปิดตัวผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ IM ที่ย่อมาIntelligence in Motion หรือแปลว่า อัฉริยะแห่งการเคลื่อนไหว โดยอาลีบาบาถือหุ้นบริษัท 54% ขณะที่อีกสองบริษัทถือหุ้นบริษัทละ 18%รถซีดานรุ่นไอเอ็มจะมีแบตเตอรี่โซลิดสเตต จากบริษัท “คอนเทมโพรารี่ แอมเพเร็กซ์ เทคโนโลยี” บริษัทผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่สุดของจีน โดยแบตเตอรี่จะสามารถจุพลังงานได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป และนำเช้าชิปจากบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐ “อินวิเดีย” นอกจากนี้รถจะสามารถจอดได้ด้วยตัวเอง และมีฟังก์ชั่นเหมือนสมาร์ตโฟนอย่างถ่ายรูปหรือเล่นโซเชียลมีเดียได้จี๋ลี่ ออโตโมบิล โฮลดิง ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีน ประกาศร่วมมือกับไป่ตู้ (Baidu) ยักษ์ใหญ่วงการอินเทอร์เน็ตจีน จัดตั้งบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไปสู่ระบบดิจิทัล ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการวิจัย การผลิต การตลาด การดำเนินงานของผู้ใช้ และบริการหลังการขาย รวมถึงการรวมแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือเข้ากับบริการมัลติมีเดียบนยานพาหนะ ตลอดจนสำรวจโอกาสด้านการขนส่งอัจฉริยะทัง เต้าเซิง รองประธานบริหารอาวุโสของเทนเซ็นต์กล่าวว่า "เทนเซ็นต์จะช่วยจีลี่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัล การพัฒนาที่ยั่งยืน และการพัฒนาไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ" พร้อมเสริมว่าทั้ง 2 บริษัทจะร่วมมือกันฝึกอบรมผู้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีขั้นสูงอัน ชงฮุ่ย ประธานจีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป และซีอีโอของจีลี่ ออโต้ กรุ๊ปกล่าวว่า จีลี่เตรียมจะปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วยการยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรมด้วยระบบดิจิทัลทั้งนี้ ในปี 2563 จีลี่และเทนเซ็นต์ได้ร่วมมือกันเป็นครั้งแรกเพื่อพัฒนาบริการดิจิทัลของรถไฟความเร็วสูง ร่วมกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ส อินเวสต์เมนต์ จะเห็นว่าบริษัทนวัตกรรมใหญ่ๆอย่าง Apple,Alphabet,Amazon,Microsoft ,Alibaba,Baidu ร่วมมือกับค่ายรถยนต์ใหญ่เพื่อผลิตยานยนต์แห่งโลกอนาคตต่อไปนี้เราจะเห็นความร่วมมือกันมากขึ้นระหว่างกลุ่มบริษัทที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง ร่วมมือกับ กลุ่มผู้ผลิตสินค้ายักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อพัฒนาสินค้าวัตนกรรมใหม่ๆออกสู่ตลาด นั้นหมายถึง เพดานในการเติบโตของกลุ่มธุรกิจนั้นจะปรับเพิ่มสูงมากขึ้นด้วยหากพิจารณาจากข้อมูลในอดีตจะพบว่าหุ้นกลุ่ม Cyclical เช่น Industrial, Materials, Financials, Energy ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงการฟื้นตัวจากวิกฤต แต่ทั้งนี้เราคาดว่าเป็นกระแสการสลับกลุ่มเล่นเพียงในระยะสั้นเท่านั้น เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกแห่งอนาคตจะถูกขับเคลื่อนด้วย Technology และ Healthcare เป็นหลักและจะสามารถสร้างผลตอบแทนแบบก้าวกระโดดได้ในระยะยาวอย่างแน่นอน ดังนั้น เราจึงแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Cyclical ในระยะสั้นโดยต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด และลงทุนในหุ้น Growth ควบคู่กันในสัดส่วนที่สูงกว่าในระยะยาวประมาณ 3 ปี ขึ้นไปสำหรับโอกาสในการลงทุน เราจะเน้นลงทุนในกองทุนที่มีลักษณะเป็น Long Term Growth Investment ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทที่มีคุณภาพสูง โดยให้ความสำคัญกับบริษัทที่มั่นคง เพื่อเพิ่มโอกาศในการลงทุน และเลือกหุ้นกลุ่มนี้ได้ดีขึ้นเพื่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาศในการลงทุน และเลือกหุ้นกลุ่มนี้ได้ดีขึ้นเพื่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น....วันนี้ร่วมคุยกับวุฒิชัย กมลสันติสุขผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Head of Retail Product and Marketing ผ่านรายการเศรษฐกิจInsight 8 ก.พ.64https://www.youtube.com/watch?v=GcbQ25G83zo
TNN ช่อง16 • 8 ก.พ. 64
อ่าน
Olive Oil Body Lotion by Nature's Series I Review
วันนี้เราจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากน้ำมันมะกอกของไทยกันบ้างนะคะ สำหรับร้านบู๊ทส์ ร้านขายเครื่องสำอางสัญชาติอังกฤษที่มาเปิดที่เมืองไทยมาช้านาน หลายคนคงนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจากอังกฤษภายใต้แบรนด์บู๊ทส์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น NO7, Soap Glory, Botanics ฯลฯ แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมว่าในร้านบู๊ทส์เองก็มีผลิตภัณฑ์ของไทยที่ได้มาตรฐานบู๊ทส์ ที่เค้าคัดสรรมาจำหน่ายที่ร้านเช่นกัน และหนึ่งในนั้น Nature's Series ตอนเห็น Packaging ครั้งแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นสินค้าไทยนะคะ เพราะดูไม่ออกจนกระทั่งเหลือบไปเห็นคำว่า Made in Thailand Exclusive for Boots Retail (Thailand) Ltd. เลยสะดุดใจ ลองเทสต์ไปเทสต์มาตัดสินใจเลือกขึ้นมา 1 ตัว คือที่ Olive Oil Body Lotion กลับมาลองใช้Olive Oil Body Lotion by Nature's Seriesส่วนผสมหลัก : Organic Olive Oil, Shea Butter, 7 Herbs Extractsคุณสมบัติ : ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น, ผิวเรียบเนียนเนื้อครีม : โลชั่นข้นสีเขียวอ่อนกลิ่น : หอมสมุนไพรปริมาณ : 250 มล.ผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ : เป็นโลชั่นที่จัดว่าข้นเลยสำหรับเรา ปกติหากเป็นโลชั่นหัวปั๊มเราคิดว่าจะเหลวกว่านี้อันนี้บีบปุ๊บติดแขนเลย ชอบมาก เพราะผิวเราค่อนข้างจะแห้งมาก ครีมยี่ห้อไหนข้นจะถูกใจเป็นพิเศษ อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ชอบโลชั่นตัวนี้คือ กลิ่นออกแนวสดชื่น หอมสมุนไพรแต่ดมไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง มันให้ความรู้สึกปน ๆ กันหลายอย่าง ดมแล้วสดชื่น อธิบายไม่ถูกรู้แต่ชอบกลิ่น พอทาจนโลชั่นซึมเข้าผิวไปแล้วจะยังคงทิ้งกลิ่นหอม ๆ นี้เอาไว้ที่ผิว ดีอ่ะ ถ้ามีโอกาสก็คิดว่าจะซื้อซ้ำนะภาพที่ 1 : ลักษณะโลชั่นที่บีบออกมาจากขวด จะเห็นได้ว่าข้นเลยภาพที่ 2 : ลองเอามือแตะ ๆ ดูภาพที่ 3 : เกลี่ยให้ทั่ว จะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างดีหลังจากใช้แล้วติดใจเราเลยไปส่องผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ของประเทศอังกฤษในเว็บไซต์ด้วยนะคะ ปรากฎว่ามีขายแต่เป็นคนละซีรี่ส์ ที่นู่นจะขายเซ็ต Ginger แปลว่าเน้นสมุนไพรเหมือนกัน แหม! ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าของที่ขายที่อังกฤษผลิตในไทยเหมือนกันหรือเปล่า ถ้าใช่นี่ปลื้มใจแย่เลย ใครอยู่อังกฤษเอามารีวิวหน่อยนะคะภาพถ่าย : ใบไม้ไหว
ใบไม้ไหว • 12 เม.ย. 63
อ่าน
iPhone 15 Series มีตัวเครื่องพร้อมขายลดลง 8% เมื่อเทียบจาก iPhone 14 Series
เป็นที่ทราบกันดีว่าอีกไม่กี่เดือนนั้น Apple จะเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Series ซึ่งตามรายงานก่อนหน้านั้นมีการระบุว่า Apple กำลังเผชิญกับปัญหาในการผลิต iPhone 15 Pro/Pro Max ส่งผลให้มีสินค้าสต็อกในช่วงเริ่มต้นต่ำกว่า iPhone 14 Series รุ่นปัจจุบัน ตามรายงานระบุไว้ว่า สต็อกโดยประมาณสำหรับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 90 ล้านเครื่อง แต่คาดว่า iPhone 15 Series จะมีสินค้าพร้อมจำหน่ายเบื้องต้นที่ 83 ถึง 85 ล้านเครื่อง เนื่องจากปัญหาทางเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตเกี่ยวกับหน้าจอ โดยปัญหาดังกล่าวนั้นจะส่งผลกับรุ่น iPhone 15 Pro Max มากที่สุด และรุ่น iPhone 15 Pro รองลงมา หลายคนทราบกันดีว่าการวางขายในช่วงแรกนั้น iPhone รุ่นใหม่ ๆ นั้น จะหาสินค้ายากมาก ในรุ่น iPhone 15 Series รอบนี้ถ้าดูจากข่าวแล้ว ก็น่าจะยากมากกว่าเดิมครับ ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 24 ก.ค. 66
อ่าน
Hybrid The Future Of Investing โลกแห่งอนาคต สู่โอกาสการลงทุน (คลิป)
เกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINEfacebook live : TNN Livetwitter : TNNONLINELine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNONLINEInstagram : TNN_ONLINETIKTOK : @TNNONLINE
TNN ช่อง16 • 11 ก.พ. 64
อ่าน
จาก Fridays for Future ถึง Gaza: การเคลื่อนไหวที่เติบโตของเกรตา ธันเบิร์ก
ชื่อของเกรตา ธันเบิร์กเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องเพื่อสิ่งแวดล้อมของคนรุ่นใหม่ แต่ในปีนี้ 2025 เธออยู่บนเรือที่กำลังฝ่าคลื่นทะเลตะวันออกกลาง ไม่ใช่เพื่อพูดถึงโลกร้อน แต่เพื่อส่งเสียงแทนผู้ถูกปิดล้อมในกาซาชวนดูการเคลื่อนไหวของเกรตา จากเด็กสาวที่ประท้วงอย่างลำพังหน้าสภา มาสู่การนำกระแสเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ ไปถึงเวทีระดับโลก และวันนี้สู่การเรียกร้องสิทธิมนุษยชนให้ชาวปาเลสไตน์เกรตา ธันเบิร์ก หยุดเรียนวันศุกร์ประท้วงโลกร้อนเกรตา ธันเบิร์ก คือเด็กสาวชาวสวีเดนที่เกิดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2003 เธอเริ่มต้นการเคลื่อนไหวด้วยการประท้วงเพียงลำพังหน้ารัฐสภาในกรุงสตอกโฮล์มเมื่อปี 2018 พร้อมป้ายกระดาษแข็งที่เขียนว่า “Skolstrejk för klimatet” หรือหยุดเรียนเพื่อประท้วงเรื่องสภาพภูมิอากาศ ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรม Fridays for Future ซึ่งเธอจะเลือกหยุดเรียนในทุกวันศุกร์เพื่อเรียกร้องประเด็นนี้ธันเบิร์กเล่าแรงบันดาลใจของเธอว่าได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งแรกเมื่อเธออายุ8 ขวบ และรู้สึกกังวลมากเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เลวร้ายลง ทั้งเมื่ออายุ 11 ปี เธอยังได้รับการวินิจฉั ยว่าเป็น โรคแอสเพอร์เกอร์ (รูปแบบหนึ่งของออทิสติก) รวมถึงมีอาการโรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) ด้วย ซึ่งหลังประท้วงด้วยตัวคนเดียว ในฤดูร้อนของปีนั้น เธอได้จัด “School Strike for Climate" ครั้งแรกนอกรัฐสภาสวีเดน โดยมีนักเรียนจำนวนมากในสวีเดนที่ได้เข้าร่วมแรงกระเพื่อมของธันเบิร์กไม่ได้หยุดแค่ในประเทศ เพราะปีต่อมา กระแสเรียกร้องของเธอ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในอีกกว่า 150 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย ซึ่งมีการบันทึกว่าการเคลื่อนไหว Fridays for Future ได้ระดมนักเรียนได้ประมาณ 4 ล้านคนทั่วโลกในปี 2019 เด็กสาวจากสวีเดนยังได้รับเชิญให้ขึ้นพูดในการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศแห่งสหประชาชาติ ในนิวยอร์ก ปราศรัยต่อบรรดาผู้นำโลก “คุณขโมยความฝันและวัยเด็กของฉันไปโดยใช้คำพูดที่ว่างเปล่า คุณกล้าดียังไง!” วิพากษ์วิจารณ์การไม่ดำเนินการของพวกเขาต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน และในปีนั้นเองเธอยังกลายเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับตําแหน่งบุคคลแห่งปีของนิตยสาร TIMEเธอยังปล่อยสารคดีเรื่อง 'I Am Greta' ซึ่งแสดงการเดินทางของเธอจากการเป็นวัยรุ่นที่เงียบไปจนถึงนักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศระดับโลก ก่อนที่ในปี 2023 เธอจะออกจากโรงเรียน และยุติการเคลื่อนไหว Friday For Futureแต่ถึงอย่างนั้น จากวันนั้น ธันเบิร์กไม่ได้หยุดเพียงที่เวทีนานาชาติ แต่เธอใช้ชีวิตแบบ “นักเคลื่อนไหวเต็มเวลา” เดินทางด้วยเรือใบแทนเครื่องบิน เลือกบริโภคอย่างมีจริยธรรม และปฏิเสธการทำงานร่วมกับแบรนด์ใหญ่เพื่อรักษาจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน จาก Fridays for Future ถึง Gazaแต่การเคลื่อนไหวล่าสุดของเกรตา ธันเบิร์กนั้น ได้ขยายไปถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนในกาซา โดยเธอได้ร่วมเป็นลูกเรือ Madleen เรือที่เปิดตัวโดยกลุ่ม Freedom Flotilla Coalition (FFC) เป็นแคมเปญที่ทํางานร่วมกันเพื่อยุติการปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างผิดกฎหมายของอิสราเอลโดยเรือได้บรรทุกอาหาร และเครื่องมือช่วยเหลือเพื่อเข้าไปในกาซา แต่นอกจากความช่วยเหลือแล้ว ยังเป็นการประท้วงการปิดล้อมกาซาของอิสราเอลว่าเป็นการปิดกั้นการช่วยเหลือมนุษยธรรม และเป็นการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ให้อดตายด้วย“เราทำเช่นนี้เพราะไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใดๆ ก็ตาม เราก็ต้องพยายามต่อไป” ธันเบิร์กกล่าวในการแถลงก่อนขึ้นเรือ ทั้งยังบอกว่า “เพราะช่วงเวลาที่เราหยุดพยายาม คือตอนที่เราสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป และไม่ว่าภารกิจนี้จะอันตรายแค่ไหน มันก็ไม่อันตรายเท่ากับความเงียบของคนทั้งโลกเมื่อเผชิญกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถ่ายทอดสด”แต่ล่าสุด เรือที่เดินทางออกจากคาตาเนีย ซิซิลี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เดินทาง 2,000 กม. ได้ถูกทหารอิสราเอลหยุด และเข้าควบคุมตัวนักกิจกรรม และลูกเรือทั้งหมด 12 คนรวมถึงธันเบิร์กด้วยโดยวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย Thunberg อธิบายเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าพวกเธอถูก "ลักพาตัว""ฉันขอให้เพื่อน ครอบครัว และสหายทุกคนกดดันรัฐบาลสวีเดนให้ปล่อยฉันและคนอื่นๆ โดยเร็วที่สุด" เธอกล่าวในวิดีโอขณะยืนอยู่บนเรือโดยจับเชือกไว้ขณะที่ช่องทาง x ของกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลก็โพสต์วิดีโอว่า ผู้โดยสารทุกคนของ ปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะโพสต์อีกภาพว่าของธันเบิร์กว่า กําลังเดินทางไปอิสราเอลอย่างปลอดภัยและอารมณ์ดี ซึ่งกลุ่ม FFC ชี้ว่า “อิสราเอลไม่มีอํานาจตามกฎหมายในการกักขังอาสาสมัครต่างชาติบนเรือแมดลีน” ทั้งบริเวณที่จับกุมยังเป็นน่านน้ำสากลด้วยล่าสุด อิสราเอลได้ประกาศว่าจะเนรเทศลูกเรือของ Madleen ออกจากประเทศในเร็วๆ นี้ ซึ่งก็ต้องติดตามว่าธันเบิร์กจะถูกเนรเทศออกมาหรือไม่ และการต่อสู้ของเธอเพื่อมนุษยธรรมในกาซา จะจบหรือ หรือเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น
TNN ช่อง16 • 10 มิ.ย. 68
อ่าน
ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก IDC ASEAN สิงคโปร์ “Best in Future of Work”
กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2565 ย้ำภาพความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล ส่งเสริมให้คนไทยทรานสฟอร์มสู่วิถีชีวิตยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพไปด้วยกัน...โครงการ True VWORLD (ทรู วีเวิลด์) ซึ่งริเริ่มโดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ กลุ่มทรู และดำเนินการโดยกลุ่มธุรกิจ ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ ภายใต้บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ได้รับ 2 รางวัลใหญ่จากเวทีการประกวด IDC Future Enterprise Awards 2022 จัดโดย IDC ASEAN ประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ รางวัล Best in Future of Work และรางวัลผู้บริหารดีเด่น CIO/CDO of the Year หรือ Chief Information Officer / Chief Digital Officer of the Year ประจำประเทศไทย สะท้อนความโดดเด่น ในฐานะองค์กรที่นำศักยภาพด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี มาประยุกต์เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมโยงทุกความต้องการไว้ในที่เดียว อีกหนึ่งทางออกในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อสนับสนุนให้พนักงาน องค์กรธุรกิจ และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศสามารถทำงาน จัดการเรียนการสอน และใช้ชีวิตคุณภาพอย่างไร้ขีดจำกัด ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยระบบห้องประชุมเสมือนจริง True VROOM แพลตฟอร์มการทำงานและการเรียนรู้ออนไลน์ ทั้ง VWORK และ VLEARNนายอรรถพล สินฉลอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่โครงการ True VWORLD (ทรู วีเวิลด์) แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชื่อมโยงทุกความต้องการไว้ในที่เดียว ซึ่งริเริ่มจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ของคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ กลุ่มทรู ในการสนับสนุนให้พนักงาน องค์กรธุรกิจ ภาคการศึกษาไทย และคนในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 สามารถเดินหน้าทำงาน จัดการเรียนการสอน และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง ได้ประสบความสำเร็จ คว้า 2 รางวัลใหญ่ ทั้ง Best in Future of Work และผู้บริหารดีเด่น CIO/CDO of the Year (Chief Information Officer / Chief Digital Officer of the Year) ประจำประเทศไทย จากเวทีการประกวด IDC Future Enterprise Awards 2022 จัดโดย IDC ASEAN ประเทศสิงคโปร์2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจครั้งนี้ สะท้อนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลของกลุ่มธุรกิจทรู เวอร์ชวล เวิลด์ ภายใต้ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ในการประยุกต์ระบบดิจิทัลมาใช้ดำเนินธุรกิจ จนเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจนเกิดการดิสรัปต์ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการทรานสฟอร์มกระบวนการทำงานและบุคลากรในองค์กร ซึ่งปัจจุบัน ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีบุคลากรด้านดิจิทัลมากความสามารถจากหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งนวัตกรเหล่านี้ ต่างร่วมกันพัฒนาโซลูชันใน True VWORLD ทั้งระบบห้องประชุมเสมือนจริง True VROOM แพลตฟอร์มการทำงานและการเรียนรู้ออนไลน์อย่าง VWORK และ VLEARN พร้อมนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ นายอรรถพล กล่าวสรุปทั้งนี้ รางวัล Best in Future of Work และรางวัลผู้บริหารดีเด่น CIO/CDO of the Year เป็นส่วนหนึ่งของการประกวด IDC Future Enterprise Awards 2022 จัดโดยบริษัท International Data Corporation ASEAN หรือ IDC ASEAN องค์กรชั้นนำระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและบริการข้อมูลทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจการโทรคมนาคม และเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค โดยปัจจุบัน มีนักวิเคราะห์กว่า 1,300 คนทั่วโลก ซึ่งสำหรับรางวัลครั้งนี้ ได้พิจารณาโดยใช้เกณฑ์การตัดสินที่เข้มข้นตามกรอบและแนวทางของ IDC ASEAN โดยมีนักวิเคราะห์ทั้งระดับภูมิภาคและประเทศ มาร่วมประเมินให้คะแนนอย่างโปร่งใสและอิสระสำหรับองค์กรที่สนใจบริการของแพลตฟอร์ม True VWORLD ของกลุ่มธุรกิจทรู เวอร์ชวล เวิร์ล ภายใต้การดำเนินงานของทรู ดิจิทัล กรุ๊ป สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.truevirtualworld.com หรือติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อีเมล vworld.sales@truedigital.com#TrueVirtualWorld #TrueVWORLD #DigitalTransformation #DXAwards #IDCThailand #IDCASEAN
TNN ช่อง16 • 11 ต.ค. 65
อ่าน
“ไบเบิ้ล” ตัวแทน “KinnPorsche The Series” รับรางวัล “Most Popular Y Series”
ไบเบิ้ล ตัวแทน KinnPorsche The Series รับรางวัล Most Popular Y Series ถึงแม้ว่า KinnPorsche The Series ซีรีส์วายสายแอคชั่น มาเฟียในไทยเรื่องแรกเรื่องนี้จะลาจอไปนานแล้ว แต่ด้วยกระแสของความปังทั้งตัวของนักแสดงทุกคน เนื้อเรื่อง โปรดักชั่นที่จัดเต็ม แสง สี เสียง เอฟเฟ็ค เลยยังทำให้มีแฟนๆพูดถึงตลอด ซึ่งไม่ได้โด่งดังแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างฐานแฟนคลับไปได้ไกลทั่วโลกอีกด้วย ล่าสุด KinnPorsche The Series คว้ารางวัล Most Popular Y Series หรือ ซีรีส์วายยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2023 งานนี้ ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เลยเป็นตัวแทนเพื่อนๆนักแสดงและจากบริษัท บีออนคลาวน์ จํากัด ขึ้นไปรับรางวัลนี้อีกด้วย ยังไงทางดาราเดลี่ขอแสดงความยินดีกับนักแสดงและทีมงาน KinnPorsche The Series ทุกคนด้วยนะคะ เพราะสมมงสุดๆไปเลยค่า
ดาราเดลี่บันเทิง • 2 ก.ค. 66
อ่าน
ชวนส่อง! "Museum of The Future" ที่ดูไบ สัมผัสประสบการณ์ชีวิตในปี 2071
หนึ่งในนครที่มีสถาปัตยกรรมล้ำ ๆ นำสมัยต้องยกให้กับดูไบ พาไปชมตึกพิพิธภัณฑ์ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ล้ำที่สุด และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำที่ห้ามพลาด กับ Museum of The Future พิพิภัณฑ์โลกอนาคตที่ใช้เวลาถึง 6 ปีในการสร้าง!ภาพจาก Museum of the futureพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมความสวยงามทางสถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สิ่งที่น่าสนใจของตึกความสูง 77 เมตรนี้ คือโครงสร้างทรงกลม ที่ไม่มีมุมหรือเสาตลอดตัวอาคาร ซึ่งดีไซน์ของตัวอาคารได้สถาปนิก Shaun Killa จากสตูดิโอ Killa Design มาเป็นผู้ออกแบบ ตัวอาคารเป็นทรงวงรี สื่อถึงความเป็นมนุษย์ โดยมีช่องว่างตรงกลางสื่อถึงอนาคตที่เราไม่อาจล่วงรู้ได้ หรืออาจจะเปรียบได้เหมือนดวงตาที่มองออกไป และเนินดินสีเขียวที่หมายถึงโลกภาพจาก Museum of the futureความโดดเด่นสะดุดตาอีกอย่างหนึ่งคือรอบนอกของอาคารหลังนี้ ประกอบไปด้วยแผงสเตนเลสสตีลจำนวน 1,024 แผง โดยประทับลวดลายเป็นคำพูดในภาษาอาหรับ ความว่า อนาคตเป็นของผู้ที่สามารถจินตนาการ ออกแบบ และดำเนินการได้ตามนั้น ซึ่งเป็นคำพูดของSheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองของดูไบ ที่ได้ยกย่อง Museum of the Future ไว้ว่า เป็นอาคารที่สวยที่สุดในโลก อีกด้วยภาพจาก Museum of the futureสำหรับสิ่งที่น่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือไม่ได้มีไว้จัดแสดง อดีต ที่ผ่านไปแล้ว เช่นพวกโบราณวัตถุต่าง ๆ ในทางกลับกันที่นี่คือแหล่งรวมความเป็นโลกอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี วิทยาการ หุ่นยนต์ และองค์ความรู้อื่น ๆ โดยแต่ละชั้นจะจัดแสดงต่างกันภาพจาก Museum of the futureเริ่มจากชั้นแรกLevel 01: Future heroes ชั้นนี้เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่อยากจะมาเพลิดเพลินไปกับสามประสบการณ์ ได้แก่ Imagine, Design และ Build มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาการสื่อสาร และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา ภาพจาก Museum of the futureสำหรับชั้นที่สองLevel 02: Tomorrow Today ชั้นนี้จัดแสดงความก้าวหน้าและการพัฒนาล่าสุดของบรรดาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากบริษัททั่วโลก เช่นBionic Soft Hand, Bionic Ants, Hexa, Gravity Jet Suit,Cyber Dog และแท็กซี่บินได้ภาพจาก Museum of the futureชั้นถัดไปLevel 03: Al Waha | Wellness Center ชั้นนี้เป็นศูนย์สุขภาพที่ช่วยให้เราเชื่อมต่อกับตัวเองอีกครั้งด้วยการออกห่างจากเทคโนโลยี ส่วนชั้นที่สี่Level 04: The Heal Institute ออกแบบให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ชั้นนี้รวบรวมสปีชีส์ของพืชและสัตว์ในป่าฝนอเมซอนนับร้อย ๆ ชนิดมาจัดแสดงให้เราได้สังเกตระบบนิเวศท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลายภาพจาก Museum of the futureLevel 05: OSS Hope ชั้นนี้เหมาะกับคนรักอวกาศ เราสามารถเยี่ยมชมแบบจำลองสถานีอวกาศที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การนาซาแล้ว เหมือนกับได้ไปเยือนสถานีอวกาศที่เหนือพื้นโลกไป600 กิโลเมตรจริง ๆ ส่วนชั้นที่หก เป็นพื้นที่สำนักงาน และชั้นที่เจ็ดสำรองไว้สำหรับพื้นที่จัดงานประชุม งานกิจกรรมต่าง ๆภาพจาก Museum of the futureโดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมแล้วตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 ของทุกวัน สามารถติดตามรายละเอียดและจองตั๋วเข้าชมผ่านทางเว็บไซต์ Museum Of The Future มีค่าบริการ 145 AED หรือประมาณ 1300 บาทสำหรับผู้ชมอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีและบุคคลที่ได้รับการยกเว้น สามารถเข้าชมได้ฟรีขอบคุณข้อมูลจากinterestingengineering
TNN ช่อง16 • 4 เม.ย. 65
อ่าน
สมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จัดเสวนา The Future of Holistic Health & Personalized Longevity Medicine
สมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (TAARM) ภายใต้การนำของ แพทย์หญิงนลินี สุทธิพิศาล นายกสมาคม ได้จัดงานประชุมวิชาการประจำปี TAARM 2025 ขึ้น ณ โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท โดยมีผู้เข้าสนใจเข้าร่วมงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรระดับนานาชาติและผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยกว่า 40 ท่าน รวมถึงแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นักวิจัย และบุคลากรวิชาชีพสายสุขภาพ มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากเวชปฏิบัติจริง และการอัพเดทงานวิจัยล่าสุด โดยมีแนวคิดหลักภายใต้หัวข้อ The Future of Holistic Health Personalized Longevity Medicine ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มุ่งเน้นการบูรณาการองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย เวชศาสตร์วิถีชีวิต การแพทย์เฉพาะบุคคล เทคโนโลยีทางสุขภาพ และศาสตร์สุขภาพองค์รวม เพื่อสร้างแนวทางการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมและยั่งยืน ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคม หัวข้อสำคัญที่นำเสนอภายในงาน Precision Medicine Biomarker-Based Therapies การใช้ข้อมูลชีวโมเลกุลเพื่อการวิเคราะห์สุขภาพเชิงลึก และการออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลPeptide, Cell Regenerative Therapies นวัตกรรมการฟื้นฟูสุขภาพระดับเซลล์ เช่น เปปไทด์บำบัด เซลล์บำบัด ยีนบำบัด และเอ็กโซโซม Lifestyle Medicine for Chronic Disease Prevention การประยุกต์ใช้แนวทางเวชศาสตร์วิถีชีวิตในเวชปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง Integrative Anti-Aging Approaches การบูรณาการองค์ความรู้จากศาสตร์สุขภาพหลายแขนง เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม AI Health Tech for Personalized Wellness การใช้ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสุขภาพเพื่อออกแบบแนวทางการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้เปิดตัวกิจกรรม ต่อยอดองค์ความรู้ตลอดปี อาทิ การอบรมเรื่องคุณภาพการนอน เวชศาสตร์การป้องกัน และเทคโนโลยีสุขภาพสำหรับประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ โดยเน้นแนวทางการดูแลสุขภาพที่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ในชีวิตประจำวัน
ข่าวประชาสัมพันธ์ • 2 ก.ค. 68
อ่าน
ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก IDC ASEAN สิงคโปร์ “Best in Future of Work”
ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก IDC ASEAN สิงคโปร์ Best in Future of Work ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล ด้วยแพลตฟอร์ม True VWORLD และ CIO/CDO of the Year ผู้บริหารดีเด่น พร้อมขับเคลื่อนดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น ย้ำภาพความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล ส่งเสริมให้คนไทยทรานสฟอร์มสู่วิถีชีวิตยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพไปด้วยกัน...โครงการ True VWORLD (ทรู วีเวิลด์) ซึ่งริเริ่มโดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ กลุ่มทรู และดำเนินการโดยกลุ่มธุรกิจ ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ ภายใต้บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ได้รับ 2 รางวัลใหญ่จากเวทีการประกวด IDC Future Enterprise Awards 2022 จัดโดย IDC ASEAN ประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ รางวัล Best in Future of Work และรางวัลผู้บริหารดีเด่น CIO/CDO of the Year หรือ Chief Information Officer / Chief Digital Officer of the Year ประจำประเทศไทย สะท้อนความโดดเด่น ในฐานะองค์กรที่นำศักยภาพด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี มาประยุกต์เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมโยงทุกความต้องการไว้ในที่เดียว อีกหนึ่งทางออกในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อสนับสนุนให้พนักงาน องค์กรธุรกิจ และสถาบันการศึกษาทั่วประเทศสามารถทำงาน จัดการเรียนการสอน และใช้ชีวิตคุณภาพอย่างไร้ขีดจำกัด ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยระบบห้องประชุมเสมือนจริง True VROOM แพลตฟอร์มการทำงานและการเรียนรู้ออนไลน์ ทั้ง VWORK และ VLEARN นายอรรถพล สินฉลอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจ ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่โครงการ True VWORLD (ทรู วีเวิลด์) แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชื่อมโยงทุกความต้องการไว้ในที่เดียว ซึ่งริเริ่มจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ของคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ กลุ่มทรู ในการสนับสนุนให้พนักงาน องค์กรธุรกิจ ภาคการศึกษาไทย และคนในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 สามารถเดินหน้าทำงาน จัดการเรียนการสอน และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง ได้ประสบความสำเร็จ คว้า 2 รางวัลใหญ่ ทั้ง Best in Future of Work และผู้บริหารดีเด่น CIO/CDO of the Year (Chief Information Officer / Chief Digital Officer of the Year) ประจำประเทศไทย จากเวทีการประกวด IDC Future Enterprise Awards 2022 จัดโดย IDC ASEAN ประเทศสิงคโปร์ 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจครั้งนี้ สะท้อนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลของกลุ่มธุรกิจทรู เวอร์ชวล เวิลด์ ภายใต้ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ในการประยุกต์ระบบดิจิทัลมาใช้ดำเนินธุรกิจ จนเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจนเกิดการดิสรัปต์ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการทรานสฟอร์มกระบวนการทำงานและบุคลากรในองค์กร ซึ่งปัจจุบัน ทรู เวอร์ชวล เวิลด์ เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีบุคลากรด้านดิจิทัลมากความสามารถจากหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งนวัตกรเหล่านี้ ต่างร่วมกันพัฒนาโซลูชันใน True VWORLD ทั้งระบบห้องประชุมเสมือนจริง True VROOM แพลตฟอร์มการทำงานและการเรียนรู้ออนไลน์อย่าง VWORK และ VLEARN พร้อมนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ นายอรรถพล กล่าวสรุป ทั้งนี้ รางวัล Best in Future of Work และรางวัลผู้บริหารดีเด่น CIO/CDO of the Year เป็นส่วนหนึ่งของการประกวด IDC Future Enterprise Awards 2022 จัดโดยบริษัท International Data Corporation ASEAN หรือ IDC ASEAN องค์กรชั้นนำระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและบริการข้อมูลทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ กิจการโทรคมนาคม และเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค โดยปัจจุบัน มีนักวิเคราะห์กว่า 1,300 คนทั่วโลก ซึ่งสำหรับรางวัลครั้งนี้ ได้พิจารณาโดยใช้เกณฑ์การตัดสินที่เข้มข้นตามกรอบและแนวทางของ IDC ASEAN โดยมีนักวิเคราะห์ทั้งระดับภูมิภาคและประเทศ มาร่วมประเมินให้คะแนนอย่างโปร่งใสและอิสระ สำหรับองค์กรที่สนใจบริการของแพลตฟอร์ม True VWORLD ของกลุ่มธุรกิจทรู เวอร์ชวล เวิร์ล ภายใต้การดำเนินงานของทรู ดิจิทัล กรุ๊ป สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.truevirtualworld.com หรือติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อีเมล vworld.sales@truedigital.com -------------------- เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณคลิกเลย!! รู้ทันกันโควิด หรือกด*301*35# โทรออก ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม. คลิกเลย TrueID Community
ข่าวประชาสัมพันธ์ • 7 ต.ค. 65
อ่าน
การ์ตูนญี่ปุ่น "The Future I Saw" ทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่น ทำผู้คนล้มแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างไร
ถ้ามีการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น ทำนายว่า จะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง คุณจะล้มเลิกแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นไหมนี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะมีคนเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ และล้มแผนไปญี่ปุ่นมังงะที่ว่านี้ มีชื่อว่า The Future I Saw หรือ อนาคตที่ฉันเห็น ผลงานของ เรียว ทัตสึกิ ที่อ้างว่าบันทึกจากความฝันของเธอเองนับแต่ปี 1976 นำมาถ่ายทอดเป็นการ์ตูน ตีพิมพ์ ปี 1999 การ์ตูนเรื่องนี้ ทำนายว่า จะเกิดสึนามิปี 2011 ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา โรคระบาดใหญ่ ซึ่งคนก็โยงไปถึงโควิด เรียกว่า ค่อนข้างแม่นยำจนน่าตกใจแต่คำทำนายสำคัญ ที่เริ่มกระทบการท่องเที่ยวญี่ปุ่น มังงะฉบับสมบูรณ์ที่เผยแพร่ในปี 2021 และทำนายว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เดือนกรกฎาคมปี 2025ในมังงะอธิบายว่า แผ่นดินไหวจะเกิดจากรอยร้าวใต้พื้นทะเลระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ ก่อให้เกิดสึนามิยักษ์ ใหญ่กว่าแผ่นดินไหวปี 2011 ถึง 3 เท่าตัวผู้เชี่ยวชาญย้ำมาเสมอว่า การทำนายแผ่นดินไหวอย่างแม่นยำนั้นเป็นไปไม่ได้ และญี่ปุ่นเอง ก็รับมือแผ่นดินไหวได้ดีมาตลอดแต่ความวิตกว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ดั่งคำทำนาย ประกอบกับกระแสพูดถึงในสังคมออนไลน์ และอินฟลูฯ ต่าง ๆ ย้ำแล้วย้ำอีก ก็ทำให้คำทำนายจากมังงะงี้ เป็นเรื่องยิ่งกว่าจริงสำหรับนักท่องเที่ยวหลายคนไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้อ้างตนว่ามีญาณวิเศษ ออกมาทำนายทายทักอีกหลายคน รวมถึงจากในญี่ปุ่นและฮ่องกง และคำเตือนก็เป็นไปในทางเดียวกัน คือ จะเกิดภัยพิบัติใหญ่โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก คือ จีน และฮ่องกง จำนวนไม่น้อยที่ล้มแผนมาเที่ยวญี่ปุ่น ช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวสำคัญด้วยบริษัทท่องเที่ยวหนึ่งในฮ่องกง บอกกับ CNN ว่า ลูกค้ายกเลิกแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นกว่าครึ่ง ในช่วง 2 เดือนนับจากนี้ ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ เรื่องแผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก่อนหน้านี้ ความวิตกฝังลึกมากขึ้น หลังรัฐบาลเตือนเมื่อเดือนมกราคมว่า มีโอกาส 80% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แถบร่องนันไคสำหรับตัวทัตสึกิ ผู้เขียนมังงะ The Future I Saw นั้น เธอเขียนตัวเองเป็นตัวเดินเรื่องในมังงะ คำทำนายแผ่นดินไหวปี 2011 ทำให้เธอมีชื่อเสียงและผู้ติดตามมาก ไม่เพียงในญี่ปุ่น แต่ในเอเชีย รวมถึงไทยและจีนด้วยมังงะเรื่องนี้ จำหน่ายไปแล้ว 900,000 เล่ม และตีพิมพ์เป็นภาษาจีนด้วยอย่างไรก็ดี คนที่ยกเลิกทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นเพราะคำทำนาย ยังคิดเป็นส่วนน้อย เพราะอันที่จริงช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวทะลุ 10.5 ล้านคนไปแล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มากถึง 2.36 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 78% จากปีที่แล้ว
TNN ช่อง16 • 21 พ.ค. 68
อ่าน
Oppo Find X7 Series อาจไม่มีรุ่น Pro ?!
ตามรายงาน Oppo Find X7 Series คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้า ข่าวก่อนหน้ายังรายงานว่า Find X7 Series จะมีทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Find X7, Find X7 Pro และรุ่น Find X7 Ultra แต่ล่าสุดนั้นมีรายงานใหม่ระบุว่า ใน Find X7 Series จะไม่มีรุ่น Pro แหล่งที่มาของข่าวคือ Digital Chat Station ซึ่งเป็นทิปสเตอร์ที่รู้จักกันดีในวงการเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวนี้ได้ถูกลบออกไปแล้ว โดยตามรายงานระบุว่า Find X7 จะไม่มีรุ่น Pro แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังคงมีทั้งหมด 3 รุ่น โดยจะมีรุ่น Find X7, Find X7 Ultra และ Find X7 Ultra Satellite Communication แทน ถ้าสังเกตจากชื่อรุ่นแล้ว รุ่น Ultra ทั้ง 2 รุ่นจะมีความแตกต่างกันที่คุณสมบัติการสื่อสารผ่านดาวเทียมเท่านั้น ซึ่งเป็นรายละเอียดที่สอดคล้องกับการยืนยันของ Oppo เกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ใน Find X7 Series นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าทุกรุ่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์จะมีแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับการชาร์จ 100W ในขณะที่รุ่น Ultra จะรองรับการชาร์จไร้สาย 50W ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 19 ธ.ค. 66
อ่าน
Realme V-Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Realme ปรากฏบน TENAA
พบสมาร์ตโฟน Realme รุ่นใหม่ 2 รุ่นที่มีหมายเลขรุ่น RMX3781 และ RMX3783 ปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ TENAA ของจีน รายงานกล่าวว่าอุปกรณ์ดังกล่าวคือสมาร์ตโฟน Realme V-Series ในตลาดจีน แต่รายชื่อยังไม่ได้มีการเปิดเผยสเปกมาให้ทราบ สมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวนั้นมีลักษณะคล้ายกับ Realme 11 5G ที่เปิดตัวในไต้หวันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากข้อมูลของ TENAA เผยให้เห็นว่าสมาร์ตโฟนมีหน้าจอแบบเจาะรูตรงกลางและเป็นจอแบน ด้านหลังมีโมดูลกล้องทรงกลมพร้อมกล้องคู่และแฟลช LED พร้อมตราสินค้า Realme อยู่ที่ด้านหลัง ส่วนรายละเอียดด้านอื่น ๆ นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้ทราบ ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 23 ส.ค. 66
อ่าน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ชูแผน Retail of the Future สู่ 5 กลยุทธ์การขาย ซื้อรถที่ไหนก็ราคาเดียว
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตอกย้ำแผนการตลาดใหม่ในชื่อ Retail of the Future ที่ปรับเปลี่ยนการทำการตลาดในประเทศไทยด้วยการวิธีการใหม่ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ 11 ที่ใช้การขายรูปแบบใหม่นี้ หลังจากทดลองใช้งานในประเทศอื่น ๆ อย่างออสเตรเลียและอินเดียมาก่อนหน้านี้ และได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดี และนี่คือ 5 กลยุทธ์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์จะก้าวต่อไป กลยุทธ์แรกคือการเข้าถึงรถยนต์ที่ใช่ได้ถึง 3 ช่องทาง ได้แก่ โชว์รูมของเมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 33 แห่งทั่วประเทศ หรือหากใครไม่สะดวกยังมีช่องทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ mercedes.co.th และอีกช่องทางคือสามารถติดต่อได้ผ่าน Call Center ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ หมายเลข 1250 นั่นเอง กลยุทธ์ที่ 2 คือเข้าถึงสตอกกลาง หรือการใช้พื้นที่คลังสินค้าเดียวกันทุกดีลเลอร์ ทำให้ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์จากดีลเลอร์ไหนก็สามารถตรวจสอบรถในสตอกจากแห่งเดียวกันได้ ทำให้ดีลเลอร์ทุกแห่งเพิ่มโอกาสขายมากขึ้น รวมถึงลูกค้าจะได้รถที่ตรงใจมากขึ้นในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังรองรับการจองรถล่วงหน้าตามลำดับเช่นกัน กลยุทธ์ที่ 3 คือการเข้าถึงราคาและแคมเปญพิเศษพร้อมกันทุกแห่ง พูดง่าย ๆ ว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์จะขายรถในราคาเดียวกัน และสิทธิพิเศษเดียวกันในทุกดีลเลอร์ เพื่อมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผ่านไฟแนนซ์ โดยร่วมกับ 3 สถสบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารของเมอร์เซเดส-เบนซ์, ธนาคารกรุงศรีและธนาคารธนชาติหรือ TTB กลยุทธ์ที่ 4 การเข้าถึงการทำงานหลังบ้านรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น การใช้งานระบบ ID Card Reader ช่วยอ่านบัตรประชาชน การจัดการใบจองและใบเสร็จกำกับภาษีรูปแบบดิจิทัลผ่านทางอีเมล เพื่อลดการใช้กระดาษ (แต่ยังสามารถขอแบบกระดาษได้) ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ และกลยุทธ์สุดท้ายคือการเข้าสู่การครอบครองรถคันใหม่ ซึ่งจะมี Retail Partner ที่มีคุณภาพในการเตรียมรถยนต์เพื่อส่งมอบ รวมถึงประสบการณ์พิเศษในการรับรถที่ไม่เหมือนที่ไหน ภายใต้มาตรฐานเดียวกันของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยยกระดับการบริการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้เข้าถึงและตรงใจลูกค้าที่สุด
แบไต๋ • 1 ก.พ. 67
อ่าน
หนังใหม่น่าดู - CRIMES OF THE FUTURE ผลงานคัมแบ็คของ "เจ้าพ่อหนัง BODY-HORROR" David Cronenberg
หลังจากห่างหายการเป็นผู้กำกับมานาน 8 ปี ครั้งนี้ปี 2022 David Cronenberg ได้กลับมากำกับอีกครั้งในภาพยนตร์แนวไซไฟ-ดราม่า-สยองขวัญ ไอเดียล้ำในภาพยนตร์เรื่อง CRIMES OF THE FUTURE ภาพยนตร์เรื่อง CRIMES OF THE FUTURE เป็นผลงานใหม่จากค่ายหนังอินดี้ชั้นนำ NEON ที่เคยส่งหนังเรื่อง PORTRAIT OF A LADY ON FIRE, PARASITE และ THE WORST PERSON IN THE WORLD เข้าสู่สายตาคอหนังสายรางวัลทั่วโลกมาแล้ว แถมยังได้ถูกเลือกไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2022 พร้อมแข่งขันเพื่อชิงรางวัลปาล์มทองคำ ถือว่าเป็นการกลับมาของป๋าโครเนนเบิร์กที่ทำหนังแนวสยองขวัญไซไฟนับตั้งแต่ eXistenZ เกมมิติทะลุนรก ในปี 1999 ถึงแม้จะห่างจากการเป็นผู้กำกับมา 8 ปี แต่ถ้าเป็นหนังสยองขวัญที่เป็นแนวถนัดเขาเขาห่างการทำแนวนี้มาตั้ง 23 ปีเลยทีเดียว นอกจากที่ได้ "เจ้าพ่อหนัง BODY-HORROR" อย่าง David Cronenberg มากำกับแล้ว ยังได้ทีมนักแสดงที่เคยเป็นขวัญใจมหาชนทั้งหนุ่มสาวมาแล้ว อาทิเช่น- Viggo Mortensen จาก The Lord of the Rings ทั้งสามภาค- Léa Seydoux จาก No Time to Die และ The French Dispatch- Kristen Stewart จาก Twilight ทั้งสี่ภาค, Happiest Season และ Spencerและ Scott Speedman จาก ซีรีย์ YOU, Underworld และ The Strangers CRIMES OF THE FUTURE เป็นเรี่องเกี่ยวกับบนโลกในยุดอนาคตอันใกล้ที่มนุษย์กำลังเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่สังเคราะห์ขึ้น ซาอูล เทนเซอร์ (วิกโก้ มอร์เทนเซ่น) ศิลปินการแสดงที่มีชือเสียง ได้เปิดรับสภาพใหม่จากการแตกหน่อของอวัยวะแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ร่วมกับ Caprice (Léa Seydoux) ที่เป็นหุ้นส่วนของเขาด้วย และ เทนเชอร์ ได้เปลี่ยนการกำจัดอวัยวะเหล่านี้ให้เป็นปรากฎการณ์ จนเป็นที่สนใจของผู้คนมากมาย จนถูก ทิมลิน (คริสเต็น สจ๊วร์ต) นักสืบสาวจากสำนักทะเบียนอวัยวะแห่งชาติ ติดตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างจริงจัง ภารกิจของพวกเขาคือใช้ความอื้อฉาวของซาอูลเพื่อทำให้กระจ่างเกี่ยวกับวิวัฒนาการขั้นต่อไปของมนุษย์ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด พอผมได้ชมตัวอย่างภาพยนตร์นี้แล้วเราจะได้เห็นมู้ดแอนด์โทนของโลกดิสโทเบียดาร์กที่ทำให้เราอดนึกถึงภาพยนต์เรื่อง DUNE หรือ BLADE RUNNER อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมกับความสยองขวัญที่เล่นกับความผิดเพื้ยนของร่างกายมนุษย์ที่เป็นลายเช็นต์ประจำของป๋าโครเนนเบิร์ก ไม่ใช่แค่ความสยองชวนกระอักกระอ่วนอย่างเดียว ตัวหนังมันจะมีความเช็กชี่ อิโรติก ที่ทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์เย้าย้วนได้อย่างแปลกประหลาดและน่าสนใจมากๆ มันทำให้ผมคาดหวังไว้สูงพอสมควรเลยว่า มันจะต้องเป็นหนังไซไฟสยองขวัญที่ดูแล้วรู้สึกกระอัดกระอวนแต่ในขณะเดียวกันมันก็ชวนน่าค้นหาและเย้าย้วนใจตลอดเวลาอย่างแน่นอน คะแนนความน่าดูต้อง 10/10 อยู่แล้วไฮป์มาก อยากสัมผัสความ Body horror ในโรงภาพยนตร์จังเลย CRIMES OF THE FUTURE จะเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ และจะเตรียมเข้าฉายจริงในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนบ้านเราจะชมในรูปแบบใดคงต้องรอกันต่อไปนะครับ เครดิตภาพ- NEON Official Twitterภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5CRIMES OF THE FUTURE - Official Redband Trailer - NEONจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
น้องฟักทองมาดูหนังฮับบบบ • 27 พ.ค. 65
อ่าน
รู้ไว้ก่อนซื้อ ! 6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9
หลังจากที่แอปเปิล (Apple) เปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน Apple Wonderlust Event เมื่อ 13 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย หนึ่งในไอเทมใหม่สำหรับสายสุขภาพที่น่าสนใจก็คือ Apple Watch Series 9 สมาร์ตวอชรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่ง TNN Tech ได้รวบรวมความแตกต่างกับ Apple Watch Series 8 สมาร์ตวอชรุ่นก่อนหน้ามาไว้ 6 จุด ด้วยกัน6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9ความสว่างหน้าจอสูงสุด Apple Watch Series 8 มีความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1000 nits ในที่กลางแจ้ง ส่วน Apple Watch Series 9 ได้รับการปรับปรุงให้สว่างกลางแจ้งสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 nitsชิปประมวลผล หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจาก Apple Watch Series 8 ใช้ชิปประมวลผล S8 ที่มีพื้นฐานมาจากชิป A13 Bionic ซึ่งใช้ใน iPhone 11 Series และ iPhone SE แต่ Apple Watch Series 9 ได้พัฒนาพื้นฐานมาจาก A15 Bionic เป็น S9 SiPNeural Engine หรือหน่วยประมวลผลการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เพิ่มแกนประมวลผลเป็น 4 คอร์ (Core) เพิ่มจากรุ่น 8 มาอีก 3 coreระบบ Siriหรือระบบผู้ช่วยส่วนตัวใน Apple Watch Series 9 เป็นครั้งแรกที่พัฒนาให้ฝังมากับระบบ ต่างจากทุกรุ่นก่อนหน้าที่ต่ออินเทอร์เน็ตการระบุตำแหน่ง ในรุ่นก่อนหน้าถือเป็นครั้งแรกที่มีการใส่ชิประบุตำแหน่ง (1st Gen Ultra-Wideband) ใน Apple Watch ส่วนใน Apple Watch Series 9 ได้มีการปรับปรุงเป็น 2nd Gen Ultra-Wideband ซึ่งช่วยระบุทิศทางและตำแหน่งได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงประยุกต์เป็นการหาไอโฟน (Find my) ได้แม่นยำขึ้นตามไปด้วยพื้นที่เก็บข้อมูล Apple Watch Series 8 มีพื้นที่จัดเก็บทั้งหมด 32 กิกะไบต์ (GB) ส่วนใน Apple Watch Series 9 ได้รับการเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 64 GBนอกจากความแตกต่างของสเปกแล้ว อีกหนึ่งการปรับปรุงในครั้งนี้ยังมีสีใหม่อย่างสีชมพูเป็นตัวชูโรงในการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย โดยแอปเปิลจะเปิดให้สั่งซื้อและจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมกับวันขาย iPhone 15 วันแรก 22 กันยายนนี้ที่มาข้อมูลMacRumors
TNN ช่อง16 • 17 ก.ย. 66
อ่าน
เปิดตัวสมาร์ทโฟน “OPPO Reno5 Series 5G” ที่สุดของวิดีโอ Portrait
ออปโป้ ไทยแลนด์ เปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่เป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอ Portrait ได้แก่ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ภายใต้แนวคิด Picture Life Together ให้บันทึกทุกโมเมนต์สุดประทับใจได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย อาทิ Dual-view Video บันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้า-หลัง, AI Mixed Portrait ครั้งแรกของโลกบน OPPO Reno5 ช่วยสร้างสรรค์วิดีโอที่เหนือกว่าโดยการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนกัน, นำเทรนด์ด้วยดีไซน์ฝาหลังที่สวยประกาย บางเบาพร้อมทั้งสามารถสะท้อนเฉดสีถึงพันสี รวมถึงรองรับ 5G และชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 บน OPPO Reno5 5G โดย OPPO Reno5 เปิดตัวที่ราคา 10,990 บาท และ OPPO Reno5 5G เปิดตัวที่ราคา 13,990 บาท จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ รับโปรโมชั่นและของสมนาคุณมูลค่ากว่า 8,000 บาท และพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait สวยที่สุด พร้อมให้คุณปลดล็อกพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ และบันทึกทุกโมเมนต์อันน่าประทับใจกับคนรอบข้างด้วยสุดยอดนวัตกรรมเพื่อการถ่ายวิดีโอมากมาย รวมที่สุดของดีไซน์อันโดดเด่นและประสิทธิภาพที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้นด้วย 3 ไฮไลต์เด็ด ได้แก่ ที่สุดของวิดีโอ Portrait ด้วยฟีเจอร์ Dual-view Video และ AI Mixed Portrait OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนเพื่อการสร้างสรรค์วิดีโอ Portrait ให้โดดเด่นที่สุดด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยฟีเจอร์ Dual-view Video ที่มีในทั้งสองรุ่น สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพื่อสร้างความทรงจำอันน่าจดจำร่วมกับคนรอบข้าง ปลดล็อกจินตนาการด้วยฟีเจอร์ AI Mixed Portrait ที่มีเฉพาะใน OPPO Reno5 ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกบนสมาร์ทโฟนที่นำเอา Double Exposure Effect มาใช้กับการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนเข้าด้วยกันเกิดเป็นวิดีโอใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม โดยทำงานร่วมกับอัลกอริทึม AI ขั้นสูงที่ช่วยตัดขอบตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำเพื่อนำไปซ้อนเข้ากับอีกวิดีโอได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อสนับสนุนการถ่ายวิดีโอให้สนุกและสวยงามมากยิ่งขึ้น ทั้งการควบคุมแสง ใส่ฟิลเตอร์ปรับสี หรือปรับแต่งใบหน้าสำหรับการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าให้ประณีตและเป็นธรรมชาติมากขึ้น OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกล้องหลัง 4 กล้อง ความละเอียด 64MP+8MP+2MP+2MP โดย OPPO Reno5 กล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 44MP ขณะที่ OPPO Reno5 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP โดยทั้งสองรุ่นสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K ที่ 30fps สำหรับกล้องหลัง และรองรับความละเอียด 1080P หรือ 720P ที่ 30fps ในกล้องหน้า สวยงาม บางเบา นำเทรนด์ด้วยเทคโนโลยีดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียกว่า Diamond Spectrum Process สร้างเฉดสีใหม่นับพันสีภายในเครื่องเดียว OPPO Reno5 Series 5G เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอเทมที่โดดเด่นทุกท่วงท่ากับดีไซน์สวยสะกดทุกสายตากับเทคโนโลยีล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้ฝาหลังของตัวเครื่องสีเงิน Fantasy Silver ของ OPPO Reno5 และ สีเงิน Galactic Silver ของ OPPO Reno5 5G สามารถสะท้อนเฉดสีได้นับพันในเครื่องเดียวเมื่อมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน ลดการเกิดรอยนิ้วมือเพราะเคลือบผิวฝาหลังแบบด้านด้วยเทคนิค Reno Glow นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีดีไซน์เบาบาง พกพาได้คล่องตัว โดย OPPO Reno5 มีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และ สีดำ Starry Black ส่วน OPPO Reno5 5G มาในสองสี ได้แก่ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.43 แสดงผลความไวสูงถึง 90Hz มอบประสบการณ์ที่ไหลลื่น สมจริง และเต็มตาด้วย Edge-to-edge Display ที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด OPPO Reno5 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 720G RAM 8GB และ ROM128GB ประสิทธิภาพลื่นไหลไม่แพ้กัน มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,310mAh และเทคโนโลยี 50W Flash Charge ชาร์จไวไม่ต้องรอนานเพียง 48 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ส่วน OPPO Reno5 5G รองรับการสื่อสารแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยี 5G และขุมพลัง Snapdragon 765G 5G RAM 8GB และ ROM 128GB มอบประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,300mAh และเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของออปโป้ 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จไวขั้นสุดเพียง 35 นาที สามารถชาร์จได้ 100% นับว่า OPPO Reno5 Series 5G นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait ได้สวยที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาด้วยกันสองรุ่น ได้แก่ OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และสีดำ Starry Black สำหรับ OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท มี 2 สีเช่นเดียวกัน คือ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ พร้อมรับโปรโมชั่นและของสมนาคุณจัดเต็ม สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 รับฟรี Smart Scale และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 6,299 บาทสำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 5G รับฟรี Smart Scale, Bluetooth Speaker และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 8,398 บาท เป็นเจ้าของ OPPO Reno5 Series 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยสามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท และเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 5G ในราคาเริ่มต้น 5,490 บาท ระหว่างวันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์นี้ เท่านั้น โดย OPPO Reno5 Series 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
มติชน • 27 ม.ค. 64
อ่าน
สรุปราคาและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Series ในไทย
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 17 Series อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยรายละเอียดราคาและกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยปีนี้มีให้เลือกหลายรุ่น ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นมาตรฐานไปจนถึงตัวท็อปสุดที่มีความจุสูงถึง 2TBราคาของแต่ละรุ่น iPhone 17 SeriesiPhone 17256GB: ฿29,900512GB: ฿37,900iPhone Air (รุ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยความบางเบา)256GB: ฿39,900512GB: ฿47,9001TB: ฿55,900iPhone 17 Pro256GB: ฿43,900512GB: ฿51,9001TB: ฿59,900iPhone 17 Pro Max (รุ่นท็อปสุดของปีนี้)256GB: ฿48,900512GB: ฿56,9001TB: ฿64,9002TB: ฿80,900จากโครงสร้างราคาจะเห็นได้ว่ารุ่น iPhone 17 Pro Max ยังคงเป็นเรือธงที่ราคาแรงที่สุด โดยมีตัวเลือกความจุสูงสุดถึง 2TB เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเก็บภาพ วิดีโอ และไฟล์จำนวนมากวันเปิดจองและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Proวันสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre-order): 12 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไปวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: 19 กันยายน 2568ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของ iPhone รุ่นใหม่ก่อนใคร สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่เย็นวันที่ 12 กันยายน และจะได้รับสินค้าในสัปดาห์ถัดมา
TNN ช่อง16 • 10 ก.ย. 68
อ่าน
Asus ยืนยัน ROG Phone 8 Series มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
Asus มีกำหนดเปิดตัว ROG Phone 8 Series ในวันที่ 8 มกราคมผ่านงาน CES (Consumer Electronics Show) 2024 และเปิดตัวในจีนต่อมาในวันที่ 16 มกราคม ล่าสุดทางแบรนด์ออกมายืนยันว่า ROG Phone 8 series จะรองรับการกันน้ำกันฝุ่น Asus ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ROG Phone 8 series จะมาพร้อมกับแชสซีที่ได้รับการจัดอันดับ IP68 หมายความว่า ROG Phone 8 series จะมีการออกแบบที่ทนน้ำและฝุ่น ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมสมาร์ตโฟนที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้มากขึ้น ถือเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ROG Phone 7 Series ที่รองรับการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP54 และ ROG Phone 6 Series ที่ระดับ IP X4 ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 26 ธ.ค. 66
อ่าน
vivo เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ iQOO Z8 series ในเดือนกันยายนนี้!
สมาร์ตโฟน iQOO Z7 series เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และหลังจากผ่านมา 6 เดือน vivo ก็เตรียมเปิดตัว iQOO Z8 series แล้วในเดือนกันยายน โดยนี่จะเป็นครั้งแรกที่ไลน์อัปนี้จะมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บ 512GB สำหรับสเปกของ iQOO Z8 คาดการณ์ว่าจะมาพร้อมหน้าจอ LCD 6.64 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ชิปเซต Dimensity 8200 และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่จะรองรับการชาร์จไว 120W โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + OIS ส่วน iQOO Z8x จะมีราคาที่เข้าถึงง่ายมากกว่า ทำให้ในด้านสเปกก็จะแตกต่างไปจาก iQOO Z8 คือจะมาพร้อมชิปเซต Snapdragon 6 Gen 1 แต่รายงานกลับระบุว่า iQOO Z8x จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า โดยมีความจุ 6,000 mAh ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 15 ส.ค. 66
อ่าน
Realme Buds Air 5 series จะเปิดนอกประเทศจีนในวันที่ 23 สิงหาคมนี้!
Realme 11 seires เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในอีเวนต์นั้นก็มีการเปิดตัวหูฟัง Buds Air 5 Pro ควบคู่ไปด้วย โดยในวันนี้เราพบว่า Realme Buds Air 5 Series จะเปิดตัวที่ตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) เป็นครั้งแรกในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยเป็นการเปิดตัวที่ประเทศอินเดีย Buds Air 5 Pro มาพร้อมวูฟเฟอร์ 11 มม. และไดรเวอร์แบบ planar magnetic ขนาด 6 มม. รองรับ high-bitrate LDAC codec มีมาตรฐานกันน้ำกระเซ็นเพื่อป้องกันเหงื่อและฝน อีกทั้ง Realme ยังเผยว่ารุ่นนี้สามารถกันเสียงรบกวนได้สูงสุด 50dB จากไมโครโฟน 6 ตัว (ข้างละ 3 ตัว) ในด้านแบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมงเมื่อปิดฟีเจอร์ ANC และสามารถใช้งานได้นาน 40 ชั่วโมงหากรวมการชาร์จจากเคส สำหรับ Buds Air 5 Pro มีการวางขายในประเทศจีนในราคา 399 หยวน (ประมาณ 2,000 บาท) แต่เรายังไม่ทราบว่าเมื่อวางขายในต่างประเทศราคาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 20 ส.ค. 66
อ่าน
iPhone 15 Series อาจรองรับชาร์จเร็วที่ 35W
ข้อมูลจาก 9to5Mac เปิดเผยว่า iPhone 15 Series อาจมาพร้อมกับความเร็วในการชาร์จที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 35W นี่ถือเป็นการอัปเกรดอีกอย่างหนึ่งที่น่าดีใจมากสำหรับแฟน ๆ Apple เนื่องจากปัจจุบัน iPhone 14 Pro มีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 27W ส่วนด้านของ iPhone 14 นั้นมีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 20W เท่านั้น โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้เวลาชาร์จมากกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงฝั่งแอนดรอยด์ค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าความเร็วในการชาร์จ 35W นี้ จะรองรับ iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่น หรือจะจำกัดไว้แค่ใน iPhone 15 Pro เท่านั้น ถ้าดูจากประวัติที่ผ่านมานั้น เป็นไปได้ว่าความเร็วนี้อาจจะรองรับแค่ใน iPhone 15 Pro เท่านั้น เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างรุ่น Pro และรุ่นปกติ ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 18 ส.ค. 66
อ่าน
5 Series Y สุดจิ้น ฟินกระจาย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Series Y และผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้าสู่โลกของ Y พลาดไม่ได้กับ 5 เรื่องเด็ดที่จะสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ บางครั้งอาจมีเสียน้ำตาแต่สุดท้ายจะจบลงด้วยความอิ่มเอมใจ ผู้อ่านที่รักคะ … ห้ามพลาดเลยค่ะ บอกได้แค่นี้ 😊1. เพราะเราคู่กัน (2gether The Series)บอกได้เลยว่าสำหรับเรื่องนี้นั้น สร้างความจิ้น ฟินกระจายไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้นแต่ดังไกลถึงต่างแดน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทุกสัปดาห์ ความลงตัวของเรื่องนี้เกิดจากหลายๆองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบทนิยายที่เขียนโดย ”JittiRian” ซึ่งมีฐานแฟนนิยายที่ค่อนข้างเหนียวแน่น base ของเรื่องนี้มีความโดดเด่นจากการนำบทเพลงของวง Scrubb มาเป็นเส้นเรื่อง ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้ดี เมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์มีการปรับบทที่สร้างความกลมกล่อมเพิ่มความดึงดูดให้กับเรื่องมากยิ่งขึ้น รวมถึงเคมีที่ลงตัวของเหล่าบรรดานักแสดงโดยเฉพาะคู่หลักที่แคสคาแรคเตอร์มาได้ตรงกับบทที่สุด ไม่ว่าจะเป็น”ไบร์ท” ที่ต้องสวมบท “สารวัตร” ที่มีความนิ่ง เท่ เป็นทั้งนักบอลและเล่นดนตรี น่าจะเป็นคาแรคเตอร์หนุ่มๆที่ใครๆก็นึกถึง สำหรับไทน์มีความซนๆแต่แฝงไปด้วยความน่ารัก อ่อนโยน ซึ่งทั้งคู่เล่นได้สมบทบาทจนผู้ชมเชื่อและอินขั้นสุด ถึงกับว่าในบาง EP. ตัวเอกของเรื่องเกือบแย่กันเลยทีเดียว (โดนถล่มในสื่อออนไลน์ไม่น้อยเลย) เสน่ห์ของเรื่องนี้อีกอย่างคือการอิมโพรไวด์ของบรรดานักแสดงไม่ว่าจะเป็นตัวหลักหรือนักแสดงร่วมทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติน่าติดตามมากขึ้น อย่างไรก็ตามจากความดังนี้ก็ส่งผลให้ 2 หนุ่มนักแสดงนำของเรื่อง “ไบร์ท-วิน” ทะยานขึ้น Top Chart และเป็นที่ต้องการตัวของหลายๆผลิตภัณฑ์กันเลยทีเดียวเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่กันแล้วงานนี้ ... และหากถามถึงบทสรุปของเรื่องนี้นั้น ขอบอกว่า ความคลั่งรักและพรหมลิขิตมันได้ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุดแล้ว และสำหรับเรื่องนี้นั้นยังมีภาคต่อกันให้ฟินทั้งในส่วนของซีรีส์และภาพยนตร์กันด้วย ควรค่าแก่การติดตามที่สุดhttps://youtu.be/1ufpSqkv-nI2. ปลาบนฟ้า (Fish upon the sky)ขอต่อกันที่บทประพันธ์ของ “JittiRian” อีกสักเรื่อง ต้องบอกว่าผลงานของนักเขียนท่านนี้จะมีลักษณะที่เป็นฟีลกู้ด อ่านแล้วทำให้ยิ้มและมีความสุขได้ไม่ยาก สำหรับเรื่องนี้ได้กล่าวถึงการแอบรักที่คิดว่าเอื้อมไม่ถึง เป็นไปไม่ได้ เปรียบเสมือนปลาที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็สอดแทรกถึงเรื่องการเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญในการยอมรับคุณค่าของตนเอง รวมถึงความผูกพันของสายสัมพันธ์ในครอบครัว และยังมีการหยิบจับประเด็นการคุกคาม การละเมิดสิทธิของบุคคลที่ควรตระหนักถึงของคนในสังคมอีกด้วย สำหรับในส่วนของตัวซีรีส์ทางผู้กำกับถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงแต่เข้าถึงได้ง่าย เรื่องนี้นอกจากเส้นเรื่องที่ว่าด้วยการแอบรัก (ซึ่งหลายๆคนคงเคยมีชุดประสบการณ์เหล่านี้อยู่บ้างทำให้เข้าถึงอารมณ์ได้ไม่ยาก) ความโดดเด่นที่น่าจับตาไม่แพ้กันนั้นคือจังหวะโบ๊ะบ๊ะของเรื่องที่ทำออกมาได้ดี สนุกและน่าติดตาม ต้องบอกว่าหัวเราะจนแทบกลั้นหายใจกันเลย สำหรับนักแสดงทั้งคู่หลักและคู่รองมีความเคมีที่เข้ากันได้ดี พระเอกของเรื่อง “ปอนด์” ถึงแม้จะเป็นนักแสดงใหม่แต่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตาคนคลั่งรักในบทของ ”หมอก” จนทำให้เชื่อได้ เรียกว่าหลายๆคนโดยตกก็ตรงนี้ ส่วนนายเอกนั้นรับบทโดย “ภูวินทร์” เล่นบท “ปี” ได้อย่างน่ารักน่าหยิกเพราะเล่นกันแบบไม่ห่วงหล่อกันเลย อีกบทที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เพราะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระเอก-นายเอก คือ บท “เมืองน่าน” ที่ต้องยอมใจคนแคสเลย แคสได้เหมาะกับคาแรคเตอร์มาก เพราะ “มิกซ์” มีความลงตัวทุกอย่างที่ทำให้รู้สึกได้ว่าเขาเป็นปลาบนฟ้าได้จริง ไม่แปลกใจที่ตัวเอกของเรื่องจะแอบรัก ถ้าหากจะให้นิยามถึงเรื่องนี้นอกจากเรื่องความคลั่งรักก็เห็นจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง การยอมรับในตัวตนของตนเองและมีความสุขไปกับมัน … แนะนำย้ำเลยว่าดูเถอะ คุณจะมีความสุขกับเรื่องนี้จริงๆhttps://youtu.be/6p22a14oj_03. เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซ่ะดีๆ (TharnType The Series)ซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่องบังเอิญรัก สร้างมาจากนิยายดังบนเว็บไซต์ Dek-D.com ของนักเขียน “MAME” บทเริ่มจากความเกลียดสุดขั้วของนายเอก”ไทป์” (รับบทโดยกลัฟ) ที่มีต่อ “ธาร” (รับบทโดยมิว) พระเอกของเรื่อง นายเอกจะมีลักษณะที่เป็นคนแมนๆเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ชอบเกย์และต้องมาอยู่ร่วมห้องกับ รูมเมทที่เป็นเกย์จึงรู้สึกต่อต้านและพยายามที่จะทำทุกทางให้พระเอกของเรื่องย้ายออกจากห้องไปแต่กลับกลายเป็นว่าทุกการกระทำกลับสร้างความสัมพันธ์ให้ก่อเกิดขึ้น ทั้งนี้บทยังกล่าวถึงปมที่เป็นประเด็นของตัวละครหลักทั้งคู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดแทรกเรื่องราวที่เป็นปัญหาทางสังคมที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับความโดดเด่นของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องคาแรคเตอร์แมนๆของนายเอกที่มักไม่ค่อยได้พบแล้ว ฉากเลิฟซีนที่ฟินจิกหมอนกันนั้น ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างแซบ เผ็ด ดุเดือดกันพอประมาณเลยทีเดียว นักแสดงสามารถถ่ายทอดออกมาได้ถึงอารมณ์ เรื่องนี้มีความครบรส และสำหรับความนิยมของเรื่องนี้นั้น บอกได้เลยว่าทั้งในไทยและต่างประเทศขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์กันตลอด ส่งผลให้ทั้งสองนักแสดงนำกลายเป็นคู่จิ้นแห่งปีในหลายรายการ ... นิยามสั้นๆสำหรับเรื่องนี้ “เกลียดอะไรได้อย่างนั้น”https://youtu.be/BeFFEICnz2A4. นิทานพันดาว (1000 Stars)สำหรับเรื่องนี้นั้นสร้างจากนิยายชื่อดังของนักเขียน Bacteria ต้องบอกว่ามีฐานแฟนคลับที่คอยติดตามเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยเนื้อเรื่องในนิยายทั้งแก่นของเรื่องที่น่าติดตามและภาษาที่ใช้สวยงามเข้าใจง่าย บทที่เริ่มจากตัวนายเอก (รับบทโดยมิกซ์) ที่ใช้ชีวิตลูกคนรวยแบบไม่เห็นคุณค่าเพราะรู้ว่าตัวเองใกล้จะตายจากโรคหัวใจที่เป็นอยู่ วันหนึ่งได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่และเริ่มหาความหมายของชีวิตโดยยอมลำบากขึ้นไปเป็นครูบนดอยและได้พบพระเอก (รับบทโดยเอิร์ท) เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาดูแลนายเอกจนก่อเกิดความสัมพันธ์อันดีและนำมาซึ่งเรื่องราวต่างๆ ความโดดเด่นของเรื่องนี้คงต้องบอกว่า บทบาทที่นักแสดงหลักของเรื่องถ่ายทอดผ่านทางสายตาและท่าทางนั้นแสดงออกมาได้ดีมีความเป็นธรรมชาติ เคมีเข้ากัน (หลายฉากที่จะตกหลุมรักทั้งนายเอกและพระเอกอย่างไม่ทันตั้งตัว) นอกจากนี้แล้วนักแสดงสบทบต่างก็แสดงเป็นธรรมชาติสูงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือภาพที่ตัดต่อออกมาสวยงาม ธรรมชาติ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวผาปันดาวกันเลยทีเดียว (ในเรื่องถ่ายทำที่ จ.เชียงราย) สำหรับเรื่องนี้นอกจากมีความโรแมนติกทั้งเรื่องบทและภาพแล้ว ยังสอดแทรกประเด็นอิทธิพลของผู้มีอำนาจและความเหลื่อมล้ำของสังคมให้ได้ตระหนักกันด้วย ... และหากจะหาบทสรุปของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องการหาความหมายของชีวิตและอยู่กับมันอย่างมีความสุขhttps://youtu.be/rqifRDavfcA5. ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed)ขอแนะนำข้ามฝั่งมาที่จีนสักหน่อย คงต้องบอกว่าเรื่องนี้นั้นดังเป็นพลุแตกเลยก็ว่าได้ สำหรับซีรีส์จีนกำลังภายในที่มีคำนิยามว่า “ซีรีส์มิตรภาพลูกผู้ชาย” เป็นบทประพันธ์ของ โม่เซียงถงซิ่ว นำแสดงโดย เซียวจ้าน และ หวัง อี้ป๋อ โดยเรื่องราวกล่าวถึงการผจญภัยของ 2 ตัวละครเอก เว่ยอู๋เซียน และ หลานวั่งจี ที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์ตั้งแต่วัยเยาว์โดยตั้งปณิธานจะปราบเหล่ามารให้หมดไปจากยุทธภพ เรื่องราวมีจุดหักเหจนทำให้สองสหายเหมือนยืนกันคนละฝั่ง แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินเรื่องกลับมีหลายปมซ้อนอยู่ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ ประกอบกับเหล่าตัวนักแสดงหลักถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้น่าติดตามในทุกตอน (มี 50 EP) คุณอาจจะตกหลุมรักความน่ารักของเว่ยอู๋เซียน และไม่สามารถละสายตาจากความนิ่งๆ เท่ๆ ของหลานวั่งจีได้ ทั้งนี้ต้องบอกว่าเลยว่าถ้าจะถามหาฉากเลิฟซีนนั้นคงยาก (ก็มิตรภาพลูกผู้ชาย) แต่ถ้าถามถึงความฟินนั้นมีแบบจุกๆ ครบรสมากเรื่องนี้ สนุกและลุ้นไปจนจบกันเลยทีเดียว พลาดไม่ได้ ... หากจะต้องหานิยามของเรื่องนี้คงเป็นเรื่องความซื่อตรงต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นในการทำความดีhttps://youtu.be/9BVGF8CqejMเครดิตภาพ: ปกโดยผู้เขียนอ้างอิงวิดีโอประกอบบทความ :วิดีโอที่ 1 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 2 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 3 MeMindY / youtubeวิดีโอที่ 4 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 5 WeTV Thailand / youtube จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Akirap27 • 24 มิ.ย. 64
อ่าน
เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ AMOLED ซะที พร้อม Galaxy Watch 6 Series อย่างเป็นทางการ!
นอกจากในงาน Samsung Galaxy Unpacked จะได้เปิดตัว Samsung Galaxy Z Flip5 และ Z Fold5 แล้ว ยังได้เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ Dynamic AMOLED 2x เสียที พร้อม Galaxy Watch 6 Series ที่ในที่สุดก็พาปุ่มหมุนที่เป็นแอนะล็อกกลับมาเสียที เรียกได้ว่าเปิดตัวกันแบบครบเซต ครบ Ecosystem เลยก็ว่าได้ สำหรับงานเปิดตัว Samsung Galaxy Unpacked รอบเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ได้เปิดตัวทั้ง Samsung Galaxy Z Flip5 และ Z Fold5 และได้เปิดตัวแท็บเล็ตเรือธงของค่ายอย่าง Samsung Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra ที่ทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X, รองรับ 5G, ชิปเซตเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 และที่สำคัญ ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ! รวมถึง Samsung Galaxy Watch6 Series ที่ได้พารุ่น Classic ที่ใช้ปุ่มหมุนแบบแอนะล็อก กลับมาให้ได้ใช้งานกันแล้ว Samsung Galaxy Tab S9 Series Samsung Galaxy Tab S9 Series เป็นแท็บเล็ตระดับเรือธงของทางซัมซุงที่ห่างหายไปจากการเปิดตัวนานกว่า 1 ปี โดยในคราวนี้มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ทั้งในด้านดีไซน์ สเปก ความทนทาน ความพรีเมียม และที่สำคัญ นี่คือแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S รุ่นแรกที่กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 แล้ว ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Tab S9 Series มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ แต่ก็ดุดันด้วยหน้าจอที่ใช้พาแนลเป็น Dynamic AMOLED 2X ทั้ง 3 รุ่น (ทั้ง Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra) ซึ่งทำให้หน้าจอของแท็บเล็ตซีรีส์นี้ รองรับเทคโนโลยี Vision Booster ซึ่งเป็น Intelligent Outdoor Algorithm หรืออัลกอริทึมที่จะช่วยเรื่องความสว่างของหน้าจอ ให้มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม สู้แสงแดด (โดยเฉพาะแดดไทย) ได้ดีกว่าเดิมด้วย โดย Samsung Galaxy Tab S9 มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว, Tab S9+ มีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว และ Tab S9 Ultra มีหน้าจอขนาด 14.6 นิ้ว นอกจากนั้นด้วยวัสดุ Armor Aluminium ที่แน่นหนาขึ้น ทำให้กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกด้วย สเปกของ Samsung Galaxy Tab S9 Series ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่เป็นเรือธงที่สุดในตอนนี้ แต่นอกจากนั้น ยังรองรับการ Ray Tracing ในระดับอุปกรณ์พกพาอีกด้วย (แม้จะยังไม่มีเกมรองรับ) รวมถึงอัดลำโพงมาแน่นถึง 4 ตัวในทุกรุ่น และระบบเสียงรอบทิศทางด้วย Dolby Atmos ส่วน S-Pen ปากกาแปะหลังเคสที่ซัมซุงชอบแถมมาให้ในกล่องก็ยังมีแถมให้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้ S Pen ก็กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 เช่นเดียวกับแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังได้รับการปรับปรุงให้ปลายปากกาลดการรับรู้เมื่อเผลอคลิกโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab S9 Series ยังรองรับแอปฯ Goodnotes แอปฯจดโน้ตยอดนิยมที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ ก็ได้มี ‘แถม’ ให้กับทุกคนที่ซื้อ Tab S9 Series ฟรี 1 ปีอีกด้วย ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ของ Samsung Galaxy Tab S9 Series อย่างเช่น DeX Mode การเชื่อมต่อระหว่าง Galaxy Ecosystem และการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ Windows ก็ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนเดิม ! และกล้องถ่ายภาพของ Galaxy Tab Tab S9 Ultra มีกล้องหลัง 13 MP และ 8 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP และ 12 MP ส่วน Galaxy Tab S9+ มีกล้องหลัง 13 MP และ 8 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP และ Galaxy Tab S9 มีกล้องหลัง 13 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP Samsung Galaxy Tab S9 Series วางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ 2 สี ประกอบไปด้วยสีดำกราไฟต์ (Graphite), และสีเบจ (Beige) โดยจะวางขายจริงในวันที่ 11 ส.ค. 2023 ส่วนราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยจะประกอบไปด้วย Galaxy Tab S9 WiFi (8/128GB) ราคา 28,900 บาท Galaxy Tab S9 5G (12/256GB) ราคา 31,900 บาท Galaxy Tab S9+ WiFi (8/256GB) ราคา 35,900 บาท Galaxy Tab S9+ 5G (8/128GB) ราคา 39,900 บาท Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12/128GB) ราคา 49,900 บาท โดยจะให้เปิดพรีออเดอร์จนถึงวันที่ 10 ส.ค. 2023 ผ่านช่องทางออนไลน์ Samsung Thailand, Shopee, Lazada แต่ละช่องทางก็จะมีโปรโมชันแตกต่างกันไป โปรโมชันของ Samsung Thailand อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับสิทธิ์เก่าแลกใหม่ทั่วประเทศ สูงสุด 37,500 บาท ลูกค้าใหม่ที่สั่งซื้อครั้งแรกรับส่วนลด 1,000.- เมื่อใส่โค้ด NEWMEM สิทธิ์แลกซื้อ Galaxy Watch6, Galaxy Buds2 Pro ด้วยส่วนลดสูงสุด 30% ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่อนผ่าน TTB ใส่โค้ด TTBTS9 รับเครดิตเงินคืน 5% ผ่อนผ่าน KBank ใส่โค้ด KBATS9 รับเครดิตเงินคืน 4% ผ่อนผ่าน Krungsri ใส่โค้ด BAYTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% ผ่อนผ่าน SCB ใส่โค้ด SCBTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% พรีออเดอร์ Samsung Galaxy Tab S9 Series ใหม่ ราคาและโปรโมชั่นล่าสุด สั่งจองล่วงหน้า ได้ที่นี่เลยค่ะ Samsung Thailand และยังสามารถสั่งจองบน Shopee และ Lazada ของซัมซุงได้อีกด้วย โปรโมชันของ Shopee อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับโค้ดเงินคืนสูงสุด 2,495 Coins รับส่วนลด 30% เมื่อสั่งซื้อ Book Cover Keyboard, Galaxy Watch 5/6 Series, Galaxy Buds2 / Buds2 Pro โปรโมชันของ Lazada อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับส่วนลด 30% เมื่อสั่งซื้อ Book Cover Keyboard, Galaxy Watch 5/6 Series, Galaxy Buds2 / Buds2 Pro Samsung Galaxy Watch6 Series Samsung Galaxy Watch6 Series นาฬิกาประจำค่าย ในปี 2023 นี้ เปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นได้แก่ Galaxy Watch6 ตัวหน้าปัดธรรดา บอดี้ทำจากอะลูมิเนียม และ Galaxy Watch6 Classic หน้าปัดคลาสสิกที่มีวงแหวนแอนะล็อกหมุนได้ บอดี้ทำจากสแตนเลสสตีล ด้านดีไซน์จะมีความ Smartwatch มากขึ้น หลังจากที่รุ่นก่อนออกไปในทาง Sportwatch ส่วนหน้าจอจะใช้ Super AMOLED ที่มีขนาดหน้าปัดใหญ่ขึ้น 20% มีให้เลือกตั้งแต่ 40, 43, 44 และ 47 มิลลิเมตร ส่วนขอบจอมีขนาดบางลง 30% การเปลี่ยนสายเองก็ง่ายด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ชิปเซตภายจะใช้เป็น Exynos W930 ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น 18% เพื่อรองรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และฟีเจอร์เก่าที่ทำงานได้ละเอียดกว่าเดิม เช่น ฟีเจอร์ติดตามการเคลื่อนไหวในการออกกำลังกายกว่า 90 แบบ, ฟีเจอร์ BioActive วิเคราะห์การเต้นของหัวใจขณะออกกำลักาย และแจ้งเตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจนั้นสูงหรือต่ำเกินไป แบตเตอรี่ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ทาง Samsung เคลมว่าหากปิดโหมด Alway On จะอยู่ได้ถึง 40 ชั่วโมง และถ้าเปิดไว้จะลดลงมาเหลือ 30 ชั่วโมง ส่วนแรมมีขนาด 2GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB Galaxy Watch 6 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท โดยมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite, Silver และ Gold หน้าปัด 40 มม. ราคา 9,900 บาท หน้าปัด 44 มม. ราคา 11,900 บาท Galaxy Watch 6 Classic จะมีราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Graphite, Silver หน้าปัด 43 มม. ราคา 13,900 บาท หน้าปัด 43 มม. LTE ราคา 15,900 บาท หน้าปัด 47 มม. ราคา 14,900 บาท หน้าปัด 47 มม. LTE ราคา 16,900 บาท สำหรับการพรีออเดอร์จะเปิดถึงวันที่ 10 ส.ค. 2023 ทำได้ผ่าน Samsung Thailand, Shopee โดยโปรโมชันก็จะแตกต่างไปแต่ละช่องทาง โปรโมชันของ Samsung Thailand ส่วนลด 1,500 บาท รับฟรี สายนาฬิกา Fabric Band สีครีม มูลค่า 1,290 บาท ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่อนผ่าน TTB ใส่โค้ด TTBTS9 รับเครดิตเงินคืน 5% ผ่อนผ่าน KBank ใส่โค้ด KBATS9 รับเครดิตเงินคืน 4% ผ่อนผ่าน Krungsri ใส่โค้ด BAYTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% ผ่อนผ่าน SCB ใส่โค้ด SCBTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% โปรโมชันของ Shopee ส่วนลด 1,500 บาท รับฟรี สายนาฬิกา Fabric Band สีครีม มูลค่า 1,290 บาท รับโค้ดเงินคืน 5% สูงสุด 770 Coins
แบไต๋ • 26 ก.ค. 66
อ่าน
Huawei Mate 60 Series อาจรองรับการโทรด้วยเสียงผ่านดาวเทียม !
ล่าสุดมีรายงานว่า Huawei กำลังพัฒนา Huawei Mate 60 Series ซึ่งคาดว่าจะรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่อาจรองรับการโทรด้วยเสียงด้วยผ่านดาวเทียมด้วยชิป PA ตัวใหม่ ซึ่งใน Huawei Mate 50 Series รองรับแค่การส่งข้อความผ่านดาวเทียมเท่านั้น ชิปดังกล่าวนั้นถูกผลิตโดยผู้ผลิตชิปในจีน และได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับระบบสื่อสารเคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม Tiantong-1 ระบบดาวเทียมสามารถใช้สำหรับการสื่อสารด้วยเสียง และสามารถส่งภาพ ส่งตำแหน่งได้แม่นยำ ชิปนี้จึงมีความจำเป็นสำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม และในปัจจุบันชิปดังกล่าวอยู่ใน Huawei Mate X3 และ P60 Series ซึ่งทั้ง 2 รุ่นน้้น รองรับแค่การสื่อสารผ่านดาวเทียมแบบ 2 ทาง ผ่าน SMS เท่านั้น หากข้อมูลนี้เป็นความจริง Huawei Mate 60 Series จะเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่รองรับการโทรด้วยเสียงผ่านการเชื่อมต่อดาวเทียมเป็นครั้งแรก เพิ่มเติมคือใน iPhone 14 Series ของ Apple รองรับการโทรผ่านดาวเทียมเช่นกัน แต่สามารถใช้ได้แค่เฉพาะการโทร SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมเท่านั้น ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 24 ส.ค. 66
อ่าน
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Samsung Galaxy Tab S8 Series แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีเหล่าสาวก Samsung ทุกท่านครับ หลังจาก Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series ในงาน Samsung Galaxy Unpacked July 2023 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็สร้างความสนใจให้แก่เหล่าสาวกที่ชื่นชอบสายแท็บเล็ตไม่ใช่น้อยๆเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลายๆ อย่างให้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Samsung Galaxy Tab S8 Series แต่จะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกันก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อแท็บเล็ตของท่านเองการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab ครั้งนี้จะเปรียบเทียบแบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่Samsung Galaxy Tab S9 Standard กับ Samsung Galaxy Tab S8 Standard Samsung Galaxy Tab S9+ กับ Samsung Galaxy Tab S8+Samsung Galaxy Tab S9 Ultra กับ Samsung Galaxy Tab S8 Ultraดีไซน์Samsung Galaxy Tab S9 Series กับ Tab S8 Series จะมีดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูค่อนข้างเหมือนกันทั้งขนาดและน้ำหนัก ถ้ามองไว้ตาเปล่า แต่มันจะแตกต่างกันดังนี้S9 Standard น้ำหนัก 500 กรัม หนา 5.9 มม. / S8 Standard น้ำหนัก 507 กรัม หนา 6.3 มม. S9+ น้ำหนัก 586 กรัม / S8+ น้ำหนัก 572 กรัมS9 Ultra มีน้ำหนัก 737 กรัม / S8 Ultra น้ำหนัก 728 กรัมแต่จุดแตกต่างกันจริง คือ Tab S9 Series มีมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 คือ สามารถทนน้ำได้ที่ความลึกระดับ 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ที่กันทั้งตัวเครื่องและปากกา S Pen ในขนาดที่ Tab Series อื่นๆ ไม่สามารถทนน้ำทนฝุ่นได้ กลายเป็นข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ชอบใช้แท็บเล็ตภาคสนามที่ไม่ต้องกลัวน้ำไม่เข้าเครื่องเหมือนก่อนแล้วหน้าจอหน้าจอ Tab S9 Series จะเป็น Dynamic AMOLED 2X ในขณะส่วนหน้าจอของ Tab S8 Series จะเป็น sAMOLED ในรุ่น S8+ และ S8 Ultra ยกเว้น S8 Standard จะเป็น LTPS TFT แต่ทุกรุ่นรองรับ Refresh Rate 120Hz เท่ากัน และขนาดหน้าจอยังเหมือนเดิมSamsung Galaxy Tab S9 Standard / Samsung Galaxy Tab S8 Standard ขนาด 11 นิ้วSamsung Galaxy Tab S9+ / Samsung Galaxy Tab S8+ ขนาด 12.4 นิ้วSamsung Galaxy Tab S9 Ultra / Samsung Galaxy Tab S8 Ultra ขนาด 14.6 นิ้วสเปกTab S9 Series ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธงตัวล่าสุด Snapdragon 8 Gen 2 S9 Standard แรม 8GB/12GB ความจุ 128GB/256GB S9+ แรม 12GB ความจุเลือกได้ 256GB/512GB S9 Ultra แรม 12GB ความจุเลือกได้ 256GB/512GB ส่วน Tab S8 Series ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งแรงน้อยกว่า มีแต่แรมแค่ 8GB และมีความจุให้แค่ 128GB โดยรองรับ 5G เหมือนกันทั้งสองซีรี่ย์กล้องทั้ง Tab S9 Series และ Tab S8 Series จะมาพร้อมสเปกกล้องแตกต่างกันนิดนึง ตามดังนี้ S9 Standard กล้องหลัง Main 13MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP ในแค่ที่นี้ Tab S8 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 6MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MPS9+ กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP S9 Ultra กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Main 12MP + Ultrawide 12MPในแค่ที่นี้ Tab S8 Series มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 6MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น Tab S8 Ultra กล้องหน้าเหมือนรุ่น Tab S9 Ultraแบตเตอรี่แบตเตอรี่ Tab S9 Series มีความจุแบตเหมือนกับตัว Tab S8 Series ยกเว้น Tab S9 Standard ที่มีความจุแบต 8400 mAh ซึ่งมากกว่า Tab S8 Standard ที่มีความจุแบตแค่ 8000 mAh เท่านั้นเองราคาราคาของ Tab S9 SeriesS9 Standard WiFi8GB/128GB ราคา 28,900 บาท12GB/256GB ราคา 34,900 บาทS9 Standard 5G 8GB/128GB ราคา 32,900 บาท12GB/256GB ราคา 38,900 บาทS9+ WiFi12GB/256GB ราคา 35,900 บาท12GB/512GB ราคา 41,900 บาทS9+ 5G12GB/256GB ราคา 39,900 บาท12GB/512GB ราคา 45,900 บาทS9 Ultra (มีแค่รุ่น 5G)12GB/256GB ราคา 49,900 บาท12GB/512GB ราคา 55,900 บาทราคาของ Tab S8 Series ณ เวลานี้ S8 Standard (ณ เวลานี้มีแค่รุ่น 5G)8GB/128GB ราคา 26,900 บาทS8+WiFi 8GB/128GB ราคา 28,900 บาท5G 8GB/128GB ราคา 33,900 บาทS8 Ultra WiFi 8GB/128GB ราคา 33,900 บาท5G 8GB/128GB ราคา 40,900 บาทซึ่งราคา Tab S9 Series อาจจะแรงไปหน่อย เพราะอย่างเพิ่งเปิดตัวไปแต่ก็แลกมาด้วยชิปประมวลผลที่แรงกว่าเดิม รวมทั้งหน้าจอสวยและความปลอดภัยของเครื่องที่ดีขึ้นสรุปแล้วซื้อแท็บเล็ตรุ่นไหนดีตรงนี้ขอแบ่งมุมมองเป็น 3 กลุ่มผู้ใช้งาน คือ คนใช้งานทั่วไป, คนใช้เพื่อเล่นเกม และครีเอทีฟหรือครีเอเตอร์คนใช้งานทั่วไป ตรงนี้ผมมองว่าสามารถใช้ได้ทุกรุ่น ถือว่าคุ้มค่าทุกรุ่น เพราะประสิทธิภาพในการทำงานดีพอสมควร สนุกกับความบันเทิงได้อย่างเต็ม และสามารถใช้แทนโน้ตบุ๊คได้ด้วย หากใช้ภาคสนามและประสิทธิภาพแรงแนะนำเป็นตัว Tab S9 Series ไปเลย เพราะมีมาตรฐาน IP68 ที่กันน้ำกันฝุ่น ไม่ต้องกลัวเครื่องเสียหายจากน้ำ (ใช้ภาคสนามแนะนำเป็น S9 Standard เพราะเครื่องเล็กพกพาสะดวกกว่า)คนใช้เพื่อเล่นเกม ตรงนี้ผมมองว่าถ้าเป็นพวกแคสเกมถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะอย่างประสิทธิภาพของชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 1 แรงพอสมควร โอกาสที่จะกระตุกมีน้อยมาก ยกเว้นไม่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น เล่นเกมไม่ได้ อันนี้จบเลย แต่ขอเพิ่มเติมสำหรับคนที่ต้องการจอใหญ่เลยแนะนำเป็นตัว S9 Ultra ไปเลยดีกว่าครีเอทีฟหรือครีเอเตอร์ ตรงนี้ผมมองว่าถ้าเป็นคนทำงานสายนี้อยู่แล้ว ผมแนะนำใช้รุ่น S9+ และ S9 Ultra เพราะแรม 12GB ที่โคตรแรงแล้ว หน่วยความจำ 512GB ที่สามารถเก็บงานไว้เครื่องได้เยอะอีกด้วย และเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์ รับรองคุ้มค่าอย่างแน่นอนเป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ Tab S9 Series ในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อระหว่าง Tab S9 Series กับ Tab S8 Series ได้นะครับส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Tab S9 Series ก่อนใครสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นดีจาก True5G ได้แล้ววันนี้จนถึง 10 สิงหาคมนี้สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึก ชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลย หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่Facebook : WV reviewบทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย : WVเครดิตภาพภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจากเว็บไซต์ Samsung : Tab S9 และ Tab S8 ภาพประกอบจาก Facebook : Samsung : 1-7ภาพประกอบที่ 8 จาก Facebook : TrueMove Hเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 30 ก.ค. 66
อ่าน
มหากาพย์ วิธีดูแลผิวเนียนนุ่ม บำรุงผมสวยด้วย Boots Nature’s Series Calendula จากออร์แกนิคแท้
สวัสดีค้าสาว ๆ วันนี้เรามาอัพเดทเรื่องการดูแลผิวและผมของเรากันบ้างค่ะ อย่างที่เพื่อนๆรู้กันดีค่ะว่า เทรนด์โลกในตอนนี้ สนใจอะไรที่เป็นออแกร์นิคธรรมชาติ ๆ มาแรงมากๆจ้าเพราะชาวเราหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น แล้วฝันก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันค้า วันนี้จึงอยากมาแนะนำผลิตภัณฑ์ออแกร์นิคที่ฝันเองใช้ดูแลทั้งผิวและผม นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจาก Boots Nature’s Series Calendula เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะคะว่า Boots Nature’s Series นี้ มีอะไรมาดูแลผิวและผมของเรากันบ้างค้า(ดูแลเรื่องผิว)Boots Nature’s Series Calendula Body Wash 480MLBoots Nature’s Series Mango Body Butter 200ML (ดูแลเรื่องผม)Boots Nature’s Series Calendula Shampoo 480ML Boots Nature’s Series Calendula Conditioner 480ML Boots Nature’s Series Calendula Hair Treatment Mask 180ML Boots Nature’s Series เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและดูแลผิวกายตัวใหม่ล่าสุด ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้วว่าเป็นออร์แกนิคแท้ (ออร์แกนิคแท้ คือ มีกระบวนการตรวจสอบ ผ่านการคัดกรองตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ ดินและน้ำที่ใช้ปลูก ไม่ใช้สารเคมี ตลอดจนไปจนถึงกระบวนการสกัดและการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าสารสกัดที่เค้านำมาใช้ คือสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า) บอกแล้วว่า Boost ทำทั้งทีของดีงามแน่นอนจ้า และถ้าเพื่อนๆสนใจรีบตรงดิ่งไปที่ Boots ด่วนเลยค้า ส่วนประกอบหลักเป็นออแกร์นิค ที่ผ่านการรับรองได้แก่ • Organic Calendula จากอเมริกาเหนือ และ • Organic Mango จากแอฟริกา แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ! ทุกผลิตภัณฑ์ปราศจาก มิเนอรัล ออยล์, ซิลิโคน, สีสังเคราะห์, พาราเบนจ้าเดี๋ยวเรามาเริ่มรู้จัก Boots Nature’s Series Calendula กันทีละตัวเลยนะคะ1.Boots Nature’s Series Calendula Body Wash ครีมอาบน้ำ ออร์แกนิค Boots Nature’s Series Calendula Body Wash 480ML มูลค่า 179 บาท เป็นครีมอาบน้ำเนื้อใส ไม่มีสีและมิเนอรัลออยล์ พร้อมสารสกัดจากสารสกัดจากออร์แกนิคคาเลนดูลาจากสเปน และแมคคาเดเมียออยล์ ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้ผิวสะอาด มีชีวิตชีวา แลดูสุขภาพดี กลิ่นหอมแบบธรรมชาติ เป็นกลิ่นดอกคาเลนดูลา วิธีใช้ Body Wash :: นวดให้ทั่วร่างกาย และชำระล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น เพื่อนๆใช้ร่วมกับฟองน้ำขัดตัวดูนะคะ จะได้ฟองที่นุ่ม แบบฝันเลยค้า ชอบมาก ความรู้สึกขณะใช้และใช้เสร็จแล้ว :: กลิ่นหอมละมุนมากๆค้า ทำตามที่เค้าแนะนำโดยใช้ที่ใยขัดตัวร่วมด้วย คือมีฟองเยอะ มาก ฟองละเอียดนุ่มค้า พออาบเสร็จรู้สึกว่าผิวไม่แห้งตึง นุ่มๆดีมากค่ะ และที่สำคัญกลิ่นหอมติดผิวด้วยค้า ชอบมากค้า ถ้าไม่เชื่อต้องลองไปซื้อมาใช้ดูนะคะ ถูกมาก 179 ขวดใหญ่จริงๆค้า ความคิดเห็นในมุมของฝัน :: ถ้าอยากให้ผิวของเราเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นอีก อยากแนะนำให้เพื่อนๆลองใช้ควบคู่กับเจ้าตัว Mango Body Butter ดูนะคะ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นไปนะคะ เพราะกลิ่นเข้ากันได้ดีมากค่ะ ความหอมละมุนจาก Calendula และ มะม่วงแอฟริกา คือดีงามมากค่ะ และสิ่งที่เห็นชัดมาก ๆ คือ ผิวดูฉ่ำมาก ๆ ค่ะ ไม่เชื่อไปลองกันดูต่อไปกันค่ะ Boots Nature’s Series Mango โลชั่นรีวิวของฝัน ว่าจะเด็ดดวงแค่ไหนกันจ้า2.Boots Nature’s Series Mango Body Butter โลชั่นเข้มข้น ออร์แกนิค Boots Nature’s Series Mango Body Butter 200ML มูลค่า 259 บาท เค้าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายแบบเข้มข้นมาก ที่ปราศจากมิเนอรัลออยล์ พร้อมสารสกัดจากออร์แกนิคแมงโก้จากแอฟริกา ช่วยบำรุงให้ผิวรู้สึกเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น น่าสัมผัส อยากบอกว่าครั้งแรกที่เปิดฝากระปุก คือ กรี๊สมากจ้า ! กลิ่นหอมของมะม่วงสุก หวานละมุนมาก ส่วนเนื้อโลชั่น เพื่อนๆอาจจะกังวลว่า ทาแล้วเหนียวตัวไหม เข้มข้นแบบนี้จะซึมซาบเข้าสู่ผิวยากไหม บอกเลยว่าที่กล่าวมาทั้งหมด ลืมปัญหาเก่าๆเหล่านั้นไปได้เลยค้าถึงแม้เนื้อโลชั่นจะดูเข้มข้น แต่ทาไปแล้วฝันไม่รู้สึกเหนียวตัวเลย เพราะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ไวเลยทีเดียวค่ะ แถมผิวดูนุ่มชุ่มชื่นขึ้นหลังทาเลยค้า วิธีใช้ BodyButter :: นวดให้ทั่วผิวหลังจากอาบน้ำ หรือเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้งโดยเฉพาะบริเวณข้อศอก หัวเข่าและส้นเท้า หลังจากที่ฝันทดลองใช้มา 1 สัปดาห์ :: ฝันรู้สึกอย่างชัดเจนเลยค่ะ ว่าผิวนุ่มและชุ่มชื่นขึ้นมากๆ เพราะปกติเป็นคนผิวกายแห้งมาก โดยเฉพาะข้อศอกกับส้นเท้า คือนุ่มไม่แห้งแข็งแล้วค้า และที่ชอบมาก ๆ คือ ผิวมีความวาวเงา ๆ เวลาเจอแสงแดดสวยมากค่ะ ปลื้ม อย่าลืม :: ใช้คู่กับ Calendula Body Wash นะคะ เพื่อผิวเนียนนุ่มพร้อมความหอมติดผิวแบบฟิน ๆ กันค้า แต่ถ้าในส่วนของข้อศอก หัวเข่าหรือส้นเท้า ฝันอยากแนะนำให้เพื่อนๆลองสครับผิวบริเวณควบคู่ด้วยนะคะเพื่อผลัดเซล์ผิวที่ตายแล้วออกก่อนเพื่อผิวจะได้รับการบำรุงได้อย่างล้ำลึกมากขึ้นค้า ผิวจะได้นุ่มไวขึ้นค้า ไปดูตัวต่อไปกันเลยค้า โหมดของการดูแลผม 1.Boots Nature’s Series Calendula Shampoo2.Boots Nature’s Series Calendula Conditioner แชมพูและครีมนวด ออร์แกนิค Boots ทำความสะอาดเส้นผม ที่ไม่มีสีสังเคราะห์ พาราเบน และมิเนอรัลออยล์ พร้อมสารสกัดจากออร์แกนิคคาเลนดูลาจากสเปน และแมคคาเดเมียออยล์ ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผม ให้นุ่มสลวยเงางามไม่พันกัน ความรู้สึกกลิ่นหอมอ่อนโยน สิ่งที่รู้สึกได้ชัดเลยคือ :: หวีผมง่ายขึ้นมาก ผมนุ่มไม่ยุ่งเหยิงพันกัน ผมดูมีสุขภาพดีขึ้นค่ะ แฮปปี้ค่ะ แล้วก็ชอบเวลาสระผม ฝันได้กลิ่นหอมอ่อนๆละมุน ผ่อนคลายดีค่ะ ในส่วนของคนที่ทำสีผมมาหรือแห้งเสียมาก ๆ อยากแนะนำให้ใช้ควบคู่กับทรีทเม้นในตัวต่อไปที่ฝันรีวิวไว้นะคะ คือผมนุ่มลื่นมากค่ะ หลังจากสระผมด้วย แชมพูออร์แกนิคBOOTS แบบฟินกันไปแล้วอย่าลืมขั้นตอนสุดท้ายนะคะ มาค่ะ !!! ไปตำค้า รีวิวตัวสุดท้าย-ท้ายสุด แล้วก็เด็ดสุดๆ เช่นกันแล้วค้า3.Boots Nature’s Series Calendula Hair Treatment Mask ทรีตเมนต์ ออร์แกนิค Boots ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ที่ปราศจากสีสังเคราะห์และมิเนอรัลออยล์ พร้อมสารสกัดจากออร์แกนิคคาเลนดูลา จากสเปนและแมคคาดีเมียออยล์ ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยเงางาม วิธีใช้ Hair Treatment Mask :: นวดให้ทั่วเส้นผมหลังจากสระผม หมักผมทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดค้า ความรู้สึกขณะใช้และใช้ต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ :: หลังจากที่สระผมเสร็จแล้ว ฝันจะเช็ดผมให้หมาดนิดนึงค่ะ แล้วต่อด้วยทรีทเม้นท์ผม เปิดฝากระปุก คือ ละมุนมาก จนไม่รู้จะอธิบายความหอมละมุนนี้ยังไงดีค่ะ 555 อโรม่า ผ่อนคลายมากจริงๆค่ะ ฝันชอบที่ไม่ต้องใช้ปริมาณเยอะเท่าไหร่แต่ได้ผมที่นุ่มมาก สิ่งที่เห็นชัดมากๆคือ ผมเงามาก หวีผมง่ายสุด ๆ ในตอนที่ฝันรีบ ๆ ตอนนี้ฝันใช้แค่ไดร์ลมเย็น เป่าผมให้แห้ง ! แล้วใช้มือสาง ๆ พอได้แล้วค้า ปลื้มมาก ฝันอยากแนะนำให้เพื่อนใช้ควบคู่กับแชมพู ครีมนวดในซีรี่ย์นี้ดูนะคะ เพราะใช้แล้วฝันรู้สึกดูแลทั้งหนังศีรษะ รากผม โคนผม ไปจนถึงปลายผมเลยค้า ผมร่วงน้อยลง ผมนุ่มลื่นขึ้นมาก ดุสุขภาพผมดีมาก ๆ ค่ะ แล้วเจอกันใหม่ใน Blog ถัดไปว่าฝันจะมานำเสนออะไรที่ตอบโจทย์เพื่อนๆอีกนะคะ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่อ่านจนจบมาถึงตอนนี้นะคะ ฝากติดตามฝันได้ตามช่องทางต่าง ๆ ด้านล่างนี้ได้เลยค้า @Pafhan.Official
Pafhanofficial • 8 เม.ย. 63
อ่าน
Club Friday The Series 4
Club Friday The Series 4 ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เวลา 20.15 21.15 น. ทางช่อง ONE (Digital HD 31) และรีรันทุกวันเสาร์ เวลา 19.00 20.00 น. ทางช่องกรีนแชนแนล เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมนี้!!
เรื่องย่อละคร • 2 พ.ค. 57
อ่าน
Club Friday The Series 8
Club Friday The Series 8 เรื่อง รักแท้มีหรือไม่มีจริง ออกอากาศ ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 21.00 น. ทางช่อง GMM25 รวบรวมคลิปจาก Youtube : GMM25Thailand
เรื่องย่อละคร • 5 พ.ย. 56
ดูเพิ่มเติม