รีเซต

ผลการค้นหา “Deep Night The Series” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ฮือฮาชั่วข้ามคืน “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” ทำโซเชียลลุกเป็นไฟ
อ่าน

ฮือฮาชั่วข้ามคืน “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” ทำโซเชียลลุกเป็นไฟ

ลังจากปล่อยตัว Pilot ซีรีส์ ออกมาก็สร้างความฮือฮาบนโลกโซเชียลได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก Pilot เพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้ผู้ชมคอมเมนต์ พูดคุย ต่างๆนานาถึงความน่าสนใจของตัวซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น เมื่อไหร่จะได้ดู ได้ดูที่ไหน โปรดักชั่นสวย เนื้อเรื่องน่าสนใจ หลากหลายเหตุผลที่ทำให้ Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา เป็นซีรีส์ที่น่าจับตามองอีกเรื่องหนึ่ง เปิดตัว Pilot ซีรีส์มาด้วยบรรยากาศของ บาร์โฮส Deep Night ที่เต็มไปด้วยเหล่าบรรดาชายหนุ่มหน้าตาดี หุ่นดี แถมมีความสามารถพร้อมมอบความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับแขกทุกคนที่เข้ามาใช้บริการที่แห่งนี้ และที่แห่งนี้เองที่ทำให้คนสองคนได้พบรักกัน มู้ดแอนด์โทนของซีรีส์โชว์บรรยากาศยามค่ำคืนได้ในที่แห่งนี้ได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น องค์ประกอบของแสงสีเสียง และร่วมถึงการแสดงโชว์โหนผ้าที่นักแสดงเรื่องนี้จะต้องซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ออกมาได้สมจริงและไม่ใช้ตัวแสดงแทน และยังรวมถึงฉากเลิฟซีนจัดจูบเน้นๆเดือดๆ ยังมีฉากรักโรแมนติกที่ดูแล้วต้องอมยิ้มตาม และทิ้งท้ายด้วยดราม่าซีนอารมณ์สมกับเป็นซีรีส์ของ มาดามธัญญ่า จริงๆ ต้อง บอกว่าครบรส ครบเครื่อง จัดเต็ม จริงๆ เรื่องย่อ Deep Night The Series ทำไมเราจะรักเด็กโฮสไม่ได้??? ในเมื่อความประทับใจแรกของผม เข็มทิศ ลูกชายสุดที่รักของ มาดามเฟรญ่า เจ้าของ Deep Night Club บาร์โฮสอันดับต้นๆของประเทศที่แตกต่างกว่าบาร์ใดๆด้วยการโชว์กายกรรมที่สวยงามสุดพิเศษและนั่นเองที่ทำให้เข็มทิศได้ทึ่งกับ เวลา โฮสตัวท๊อปยืนหนึ่ง ที่สุดจะดึงดูด ทั้งการเทคแคร์ และการโชว์ ยิ่งได้เจอะและได้ใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้หลงเสน่ห์มากขึ้น แต่การได้มาเจอกันในครั้งนี้มันมาพร้อมกับความชุลมุนตกกระไดพลอยโจร แต่นั่นแหละคือการพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์และอุปสรรค์ของทั้งคู่ มาลุ้นไปกับ เข็มทิศ และ เวลา จะเอาชนะอุปสรรค์ของสถานะและอาชีพได้หรือไม่รวมทั้งยังมีเหล่าโฮสและดีเจประจำคลับอีกหลายคนที่มาเติมเต็มสีสันและชีวิตกลางคืนที่ทำให้คุณอาจจะไม่ได้นอน กับหนุ่มๆ สุด Exclusive ทั้ง เซย์จิ เคน เกรท ดีเจเจมส์ และเจแปนเด็กเสิร์ฟที่แสนสดใสวันนี้เราจึงอยากเปิดคลับให้ทุกได้มาชมไปพร้อมๆกัน เตรียมพบกับ Deep Night The Series ของผู้จัดธัญญ่า ธัญญาเรศ ร่วมด้วย เดียร์น่า ฟลีโป, และ ครูเล้ง ราชนิกร 3 ผู้จัดที่จะมารวมพลังสร้างความฮือฮาให้กับวงการซีรีส์วาย นำแสดงโดย ปารมี เทศดรุณ (โชกุน), ปิยังกูร เสาหิน (เฟิร์ส) , ธีรภัทร อังคณิตย์ (ซีเกมส์) , ภูริชล คุ้มสิริ (เนปจูน) ,สยาม พิพัฒน์เจริญวงศ์ (ฉลาม) ,แดนอรุณ รามณรงค์ (นาธาน) และ ฐณะณัฎฐ์ เลิศรุ่งวิเชียร (ซัน) กำกับการแสดงโดย ชีวิน ธนะมินทร์ วงษ์สกุลพัชร์ บทประพันธ์โดย กาย สุวรรณโรจน์ LitaP และ บทซีรีส์โดย พลพด

"ธัญญ่า" ประเดิม ผู้จัดซีรีส์วายเรื่องแรก นำทีมบวงสรวง "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา"
อ่าน

"ธัญญ่า" ประเดิม ผู้จัดซีรีส์วายเรื่องแรก นำทีมบวงสรวง "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา"

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2566 เวลา 17.00 น. ที่ One Shot Studio ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล นำทีมงานและนักแสดง บวงสรวงนำฤกษ์นำชัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับซีรีส์วายเรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ผลิตโดยบริษัท สตาร์ทติ้ง จำกัด ครั้งนี้กับบทบบาทผู้จัดซีรีส์วาย ธัญญ่า ทุ่มสุดตัวกับโปรเจกต์นี้พร้อมทั้งคัดเลือกนักแสดงเองกับมือ Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา กำกับการแสดงโดย ชีวิน ธนะมินทร์ วงษ์สกุลพัชร์ ผู้กำกับคนเก่งที่เคยฝากผลงานที่โด่งดังมาแล้วหลายเรื่องอาทิ Y destiny, War Of Y, แอบหลงรักเดอะซีรีส์, Show Me Love The Series, อย่าเล่นกับอนล และอีกมากมาย ในพิธีบวงสรวงครั้งนี้เผยโฉมหน้านักแสดงทุกคนที่ถูกคัดสรรมาอย่างเข้มข้น อาทิ ปารมี เทศดรุณ (โชกุน), ปิยังกูร เสาหิน (เฟิร์ส) , ธีรภัทร อังคณิตย์ (ซีเกมส์) , ภูริชล คุ้มสิริ (เนปจูน) ,สยาม พิพัฒน์เจริญวงศ์ (ฉลาม) ,แดนอรุณ รามณรงค์ (นาธาน) และ ฐณะณัฎฐ์ เลิศรุ่งวิเชียร (ซัน) และ ร่วมด้วย เพื่อนสาวคนสนิทที่งานนี้ไม่มีไม่ได้ หนิง ปณิตา ก็มาโชว์ฝีไม้ลายมือในการแสดงครั้งอีกด้วย และ เล้ง ราชนิกร หรือ เล้ง ไทยแลนด์ ก๊อตทาเล้นท์ ก็มาร่วมในโปรเจกต์นี้ด้วยเช่นกัน Deep Night The Series ซีรีส์แนวโรแมนติก เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Deep Night Bar บาร์โฮสแห่งหนึ่ง เจ้าของคือ มาดามเฟรญ่า รับบท โดย ธัญญ่า ธัญญาเรศ บาร์โฮสแห่งนี้เป็นพื้นที่ ที่จะทำให้ค่ำคืนของคุณจะกลายเป็นค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณจะเต็มอิ่มไปด้วยความฟินกับเหล่าเด็กหนุ่มบาร์โฮสสุดหล่อ และที่แห่งนี้เองที่ทำให้คุณได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า ความรัก อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : "ธัญญ่า" แอบซุ่มทำสวยที่เกาหลี ยืนยัน ไม่เข้าข้างคู่กรณี "หนิง ปณิตา" แค่ทำหน้าที่ส่งสารเท่านั้น แม่มาเอง! ธัญญ่า อย่าคิดเป็นมือที่ 3 ทำครอบครัวบ้านใหญ่แตกแยก "เป๊ก สัณณ์ชัย" คลั่งรักภรรยา "ธัญญ่า" โพสต์รักเธอเสมอ 20 ปี

"ธัญญ่า" ทุ่มสุดตัวกับฐานะผู้จัดซีรีส์วายฟอร์มยักษ์ใน "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา"
อ่าน

"ธัญญ่า" ทุ่มสุดตัวกับฐานะผู้จัดซีรีส์วายฟอร์มยักษ์ใน "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา"

ถือเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่แฟน ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศต่างตั้งตารอคอยอย่างมากกับ "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา" ซีรีส์วายแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ก่อนหน้านี้ได้ปล่อยตัว Pilot ซีรีส์ครั้งแรกออกไป จนได้สร้างปรากฏการณ์ DeepNightTheSeries ทั่วไทม์ไลน์ของโซเชียล ที่ตอนนี้เดินหน้าเปิดกล้องถ่ายทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมปักหมุดความฟินเตรียมรับชมซีรีส์พร้อมกัน 7 มีนาคม นี้! "ธัญญ่า" ทุ่มสุดตัวกับฐานะผู้จัดซีรีส์วาย "Deep Night The Series" "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา" บอกเล่าเรื่องของ เข็มทิศ (โชกุน ปารมี) ลูกชายสุดที่รักของ มาดามเฟรญ่า (ธัญญ่า ธัญญาเรศ) เจ้าของ Deep Night Club บาร์โฮสอันดับต้น ๆ ของประเทศที่แตกต่างกว่าบาร์ใด ๆ ด้วยการโชว์กายกรรมที่สวยงามสุดพิเศษและนั่นเองที่ทำให้เข็มทิศได้ทึ่งกับ เวลา (เฟิร์ส ปิยังกูร) โฮสตัวท็อปยืนหนึ่ง ที่สุดจะดึงดูด ทั้งการเทคแคร์ และการโชว์ ยิ่งได้เจอะและได้ใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้หลงเสน่ห์มากขึ้น แต่การได้มาเจอกันในครั้งนี้มันมาพร้อมกับความชุลมุนตกกระไดพลอยโจน และพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์และอุปสรรคของทั้งคู่ โดยซีรีส์เรื่องนี้นำแสดงโดย "โชกุน ปารมี" และ "เฟิร์ส ปิยังกูร" สองนักแสดงหน้าใหม่มากฝีมือที่ผ่านการคัดเลือกสุดเข้มข้นจากทั่วประเทศในการรับบทเป็น "เข็มทิศ" และ "เวลา" ร่วมด้วยทัพนักแสดงสุดคับคั่งอย่าง ซีเกมส์ ธีรภัทร, เนปจูน ภูริชล, ฉลาม สยาม, นาธาน แดนอรุณ และ ซัน ฐณะณัฏฐ์ การันตีการแสดงโดยสองครูการแสดงชื่อดังของไทย ครูร่ม ร่มฉัตร และ ครูเด่น ภาณุวัฒน์ ร่วมด้วยนักแสดงแถวหน้าของไทย "ธัญญ่า ธัญญาเรศ" และ "หนิง ปณิตา" พร้อมทั้งนักแสดงรับเชิญที่จะร่วมสร้างสีสันให้สนุกขึ้นอย่าง "ใหม่ จิรวัฒน์" หรือ "ใหม่ Powerpuff Gay" และ "นาฟ ฉัฐนันท์" ที่โดดมาชิมลางเล่นซีรีส์เป็นเรื่องแรก พร้อมทั้ง "ฮิม เอลิชา" และ "แม็คบุ๊ค ปฏิภาณ" นอกจากนี้ยังได้ ธัญญ่า ธัญญาเรศ, เดียร์น่า ฟลีโป และ ครูเล้ง ราชนิกร สามผู้จัดมากประสบการณ์ในวงการบันเทิงที่ประเดิมเป็นผู้จัดซีรีส์วายครั้งแรก งานนี้ทั้งสามต่างทุ่มสุดตัวในการส่งซีรีส์วายเรื่องนี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งตอนนี้ได้เดินหน้าเปิดกล้องถ่ายทำซีรีส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แฟน ๆ เตรียมกรี๊ด เตรียมอิน เตรียมฟินจิกหมอน ในซีรีส์ "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา" ซีรีส์ที่จะสร้างปรากฏการณ์ความแซ่บเกินต้าน และจะทำคุณไม่ได้นอน รับชมพร้อมกันทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23.00 น. บนช่อง GMM25 เริ่มตอนแรก 7 มีนาคม นี้! ติดตามรับชมความเคลื่อนไหวของซีรีส์ "Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา" ได้ในโซเชียลมีเดีย Deep Night The Series ทุกช่องทาง อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : ฮือฮาชั่วข้ามคืน Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ทำโซเชียลลุกเป็นไฟ เรื่องย่อ Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา

รู้จัก 4 นักแสดง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ซีรีส์วายทาง iQIYI
อ่าน

รู้จัก 4 นักแสดง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ซีรีส์วายทาง iQIYI

       เป็นหนึ่งในซีรีส์แนววาย บอยเลิฟที่มาแรงมากจริง ๆ ค่ะ สำหรับซีรีส์เรื่อง “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” เป็นแนวรอมคอมสุดฟินที่บอกเล่าเรื่องราวของลูกชายของเจ้าของบาร์โฮสอันดับต้น ๆ ที่เขาได้ตกหลุมรัดโฮสตัวท็อปของร้าน ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองพัฒนาสานสัมพันธ์กัน และนอกจากพล็อตที่ปังไม่ไหวแล้วนั้น ก็ยังมีเหล่าดาราหน้าใหม่หลายคนเข้ามาจอย มาแสดง วันนี้ทางเราไม่รอช้า! จะชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักพร้อมกับเปิดวาร์ปเหล่านักแสดงแต่ละคนผ่านทาง ‘รู้จัก 4 นักแสดง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ซีรีส์วายทาง iQIYI’ หากพร้อมกันแล้วนั้น ก็ลุยเลยจ้า~ OFFICIAL TRAILER | Deep Night The Series - คืนนี้มีแค่เราhttps://m.youtube.com/watch?v=zQn52q6m6MEhttps://www.instagram.com/p/CxSL644sHAn/?igsh=MWZyaHBnbWszczlqZQ==https://www.instagram.com/p/C37quFuvsfi/?igsh=MWp2YWVyODN0bXgzdQ==https://www.instagram.com/p/C3-PhH-r4gn/?igsh=MXZ3amQ0eDNycml5OA==1.) โชกุน ปารมี        นักแสดงหนุ่มคนแรกในซีรีส์เรื่องนี้ นั่นคือหนุ่ม “โชกุน ปารมี เทศดรุณ” เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2543 ปัจจุบันอายุ 23 ปี เป็นคนจังหวัดชลบุรี หนุ่มโชกุนจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การแสดงเรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ถือเป็นการแสดงเรื่องแรกของเขาhttps://www.instagram.com/p/C4Hmi-QrJ_R/?igsh=NzhpZHZpenc4aDdnโชกุน ปารมี รับบทเป็น “เข็มทิศ” เขานั้นเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมาดามเฟรญ่า เจ้าของบาร์โฮสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเขานั้นเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ที่คณะบริหาร เป็นหนุ่มหล่อที่ฮอต รูปหล่อ พ่อรวยที่แท้ทรู เป็นคนที่ดูเหมือนแรง ๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนที่มีจิตใจดี อ่อนโยน แถมคลั่งรักแบบสุด!https://www.instagram.com/p/Cui3MhQvhig/?igsh=MWNsYmh3bG1xOWF1YQ==ช่องทางการติดตามโชกุน ปารมีInstagram : @shoguunn2.) เฟิร์ส ปิยังกูร       นักแสดงคนต่อไปในเรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา นั่นคือหนุ่มหล่อมาดทะเล้น “เฟิร์ส ปิยังกูร เสาหิน” เกิดวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2544 ปัจจุบันอายุ 22 ปี การศึกษา ระดับปริญญาตรีที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาลัยกรุงเทพhttps://www.instagram.com/p/C4hjbNRR8Oz/?igsh=MWNzdzEzcGV4anR2Nw==         หนุ่มเฟิร์สได้เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่เขายังเป็นเด็กจากการเข้าร่วมการประกวด To be number one idol และต่อมาหนุ่มเฟิร์สก็ได้มีผลงานการแสดงครั้งแรกในปี  2564 กับซีรีส์แนวบอยเลิฟเรื่อง Y-Destiny หรือนี่คือพรหมลิขิต ทำให้เฟิร์สมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก และเขาก็มีผลงานออกมาอยู่เรื่อย ๆ https://www.instagram.com/p/C2wxjPwRqA3/?igsh=MTQ0NjU2cmp5OWNvZg==เฟิร์ส ปิยังกูร รับบทเป็น “เวลา” เขาเป็นหนุ่มฮอตเนิร์ดที่เรียกว่าหล่อ มีเสน่ห์มาก เป็นโฮสอันดับ 1 ของ Deep Night Club ที่ใครหลายคนคือหลงรักมาก เพราะเฟรนลี่ พูดเก่ง ใครอยู่ด้วยแล้วจอย แต่เมื่ออยู่ที่มหาวิทยาลัย เขาเป็นคนเงียบ เก็บตัว เป็นอีกบุคลิกนึงไปเลยhttps://www.instagram.com/p/Cui3FLLvD3h/?igsh=MTA1dzFrdGt2ZjEweQ==ช่องทางการติดตามเฟิร์ส ปิยังกูร Instagram : @f.piyangkull3.) ซีเกมส์ ธีรภัทร      หนุ่มหล่อคนต่อมาในซีรีส์เรื่องนี้ นั่นคือหนุ่มหุ่นแซ่บอย่าง “ซีเกมส์ ธีรภัทร อังคณิตย์” เขานั้นได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการที่เขาได้เข้าร่วมการประกวดในปี 2565 กับ DEVONTE X MI THAILAND 2022 ซึ่งด้วยความหล่อและความมีเสน่ห์ของเขา ทำให้เขาได้คว้าตำแหน่ง Devonte Men มาครอง และการแสดงซีรีส์ Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ก็ถือเป็นการแสดงเรื่องแรกของเขาเลยละค่ะhttps://www.instagram.com/p/C4XI-nKv9Tt/?igsh=MTJvYTlxd3AyM2M3Mw==ซีเกมส์ ธีรภัทร รับบทเป็น “เซย์จิ” เขาเป็นโฮสอันดับ 2 ของ Deep Night Club เป็นคนที่หล่อ เสน่ห์แรง เป็นคนที่นิ่งๆ เดาใจไม่ถูก สะอาด Perfectionist และยังเป็นหนุ่มที่อยากจะขึ้นมาเป็นโฮสอันดับ1 ให้ได้https://www.instagram.com/p/Cui292JPinC/?igsh=MW96MWhwY2k3Z3FjNA==ช่องทางการติดตามซีเกมส์ ธีรภัทรInstagram : @seagamess_4.) เนปจูน ภูริชล        หนุ่มหล่อคนสุดท้ายท้ายสุดในซีรีส์เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา นั่นคือหนุ่มตี๋สุดน่ารักอย่าง “เนปจูน ภูริชล คุ้มศิริ” โดยหนุ่มโอมได้เข้าสู่วงการบันเทิงจากการแสดงในคาแรคเตอร์ของ โอม ในซีรีส์บอยเลิฟเรื่อง ราชาวิหค DESTINY SEEKER THE SERIEShttps://www.instagram.com/p/C4X7DtRh5c2/?igsh=N25waHFxMnJ0eDl3เนปจูน ภูริชล “เจแปน” เขาเป็นเพื่อนสนิทเข็มทิศ เป็นหนุ่มหล่อที่มีคาแรคเตอร์น่ารัก เป็นหนุ่มตลก โบ๊ะบ๊ะ มองโลกในแง่ดีมาก คอยซัพพอร์ตเพื่อนอยู่เสมอhttps://www.instagram.com/p/Cui22gDPkW-/?igsh=Y3JxeWUwMzBlZnV1ช่องทางการติดตามเนปจูน ภูริชล Instagram : @naineppก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รู้จัก 4 นักแสดง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ซีรีส์วายทาง iQIYI ต้องบอกเลยค่ะว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์แนวบอยเลิฟที่ฟิน จิ้น ทำถึงมาก! อีกทั้งยังได้เหล่านักแสดงหน้าใหม่มาร่วมแสดงแจมหลากหลายคนเลย โดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามรับชมซีรีส์เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ได้ทุกวันพฤหัสบดีเวลา 23.00 น. บนช่อง GMM25 และรับชมเวอร์ชัน UNCUT บน iQIYI เครดิตภาพหน้าปกโดยDeepnight Theseries : ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก6 iQIYI Thailand : ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 / ภาพหน้าปก4 / ภาพหน้าปก5เครดิตภาพประกอบบทความโดย@deepnighttheseries : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่5 / ภาพที่8 / ภาพที่10 / ภาพที่12@shoguunn : ภาพที่4 @f.piyangkull : ภาพที่6 / ภาพที่7@seagamess_ : ภาพที่9@nainepp : ภาพที่11เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย Deep Night The SeriesOFFICIAL TRAILER | Deep Night The Series - คืนนี้มีแค่เราเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ธัญญ่า นำทีม โชกุน-เฟิร์ส ชวนปักหมุดรับชม “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” 7 มีนาคมนี้
อ่าน

ธัญญ่า นำทีม โชกุน-เฟิร์ส ชวนปักหมุดรับชม “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” 7 มีนาคมนี้

เตรียมสร้างปรากฏการณ์กระหึ่มโลกกับซีรีส์เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ซีรีส์วายไทยรสชาติใหม่ที่ตีแผ่ชีวิตบาร์โฮสระดับท็อป ที่ล่าสุดได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์สุดยิ่งใหญ่ ณ Max Club Bangkok เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลึกกำลังร่วมมือครั้งแรกระหว่าง บริษัท สตาร์ทติ้ง จำกัด ร่วมกับ ช่อง GMM25 และ iQIYI (อ้ายฉีอี้) โดยมีสามผู้จัดมากประสบการณ์ ธัญญ่า ธัญญาเรศ , เดียร์น่า ฟลีโป และ ครูเล้ง ราชนิกร พร้อมด้วย คุณประพาฬรัตน์ ชัยชูพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนารายการ และปฏิบัติการธุรกิจ ผู้แทนสถานีโทรทัศน์ช่อง GMM25 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง และ คุณผ่านศึก ธงรบ ผู้อำนวยการอ้ายฉีอี้ ประจำประเทศไทย ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้ ภายในงานได้มีการเปิดบาร์โฮส Deep Night Club ด้วยโชว์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเหล่านักแสดงนำทีมโดย นาธาน แดนอรุณ ที่สวมบทบาท ดีเจเจมส์ พาทุกคนเข้าสู่ร้านกับค่ำคืนที่แสนวิเศษที่คุณจะไม่ได้นอน พร้อมเปิดฟลอร์การแสดงแรกด้วยโชว์ Aerial Pole จาก ซัน ฐณะณัฏฐ์ ที่สุดตื่นตาเรียกเสียงกรี๊ดลั่นสนั่นบาร์ ต่อด้วยซีนการแสดงที่โชว์ให้เห็นถึงศักยภาพสุดท้าทายของสามหนุ่ม ซีเกมส์ ธีรภัทร , เนปจูน ภูริชล และ ฉลาม สยาม ตามมาด้วยโชว์ไฮไลท์ของงาน โดยสองนักแสดงนำ โชกุน ปารมี และ เฟิร์ส ปิยังกูร ที่ได้มาร่วมโชว์ Aerial Straps ศาสตร์แห่งการวาดลวดลายกลางอากาศ ที่งานนี้ทั้งสองได้สร้างโมเมนต์ระดับตำนาน ที่แฟนๆ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน กับการจูบกลางอากาศ สร้างความฟิน และแซ่บจนเข็ดฟัน!!! ซึ่งเป็นการรังสรรค์และฝึกซ้อมโดย ครูเล้ง ราชนิกร ผู้จัดซีรีส์ ดีกรีนักกายกรรมระดับโลก สร้างสีสันความสนุกแบบจัดเต็มโดยสองพิธีกรมากความสามารถ เอกกี้ เอกชัย และ อ้น ศรีพรรณ ที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักถึงความเป็นมาของซีรีส์ผ่านทางสามผู้จัดคนเก่งอย่าง ธัญญ่า ธัญญาเรศ , เดียร์น่า ฟลีโป และ ครูเล้ง ราชนิกร ต่อด้วยการพูดถึงการถ่ายทำซีนระดับตำนานของสองนักแสดงตัวแม่ของการอย่าง ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ หนิง ปณิตา ที่ถึงแม้วันนี้ หนิง ปณิตา ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ได้ส่งคลิปมาให้กำลังนักแสดงอย่างอบอุ่น อีกทั้งเหล่านักแสดงนำก็ได้มีการเล่าถึงเบื้องหลังและความสนุก รวมถึงคาแรกเตอร์ที่ได้รับของซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมด้วยการสัมภาษณ์ผู้กำกับอย่าง ชีวิน ธนะมินทร์ และได้มีการเปิดตัวเพลงประกอบซีรีส์อย่างเพลง ตามใจ ที่ร้องโดยวง Fellow Fellow ซึ่งเพลงนี้โปรดิวซ์สองนักแต่งเพลงชั้นนำของไทย อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ และ ชลทัศน์ ชาญศิริเจริญกุล ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการเก็บภาพความประทับใจ เรียกได้ว่าเป็นงานเปิดตัวซีรีส์สุดอบอุ่นและสร้างความประทับใจให้กับแขกที่ได้มาร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซีรีส์ Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา บอกเล่าเรื่องของ เข็มทิศ (รับบทโดย โชกุน ปารมี) ลูกชายสุดที่รักของ มาดามเฟรญ่า (รับบทโดย ธัญญ่า ธัญญาเรศ) เจ้าของ Deep Night Club บาร์โฮสอันดับต้นๆ ของประเทศที่แตกต่างกว่าบาร์ใดๆ ด้วยการโชว์กายกรรมที่สวยงามสุดพิเศษและนั่นเองที่ทำให้เข็มทิศได้ทึ่งกับ เวลา (รับบทโดย เฟิร์ส ปิยังกูร) โฮสตัวท็อปยืนหนึ่ง ที่สุดจะดึงดูด ทั้งการเทคแคร์ และการโชว์ ยิ่งได้เจอะและได้ใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้หลงเสน่ห์มากขึ้น แต่การได้มาเจอกันในครั้งนี้มันมาพร้อมกับความชุลมุนตกกระไดพลอยโจน และพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์และอุปสรรคของทั้งคู่ เตรียมติดตามรับชม Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา พร้อมกัน ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23:00 น. บนช่อง GMM25 และรับชมเวอร์ชัน UNCUT เวลา 24:00 น. บนแอปพลิเคชัน iQIYI (อ้ายฉีอี้) และ www.iQ.com ที่เดียวเท่านั้น เริ่มตอนแรก 7 มีนาคมนี้!

รีวิวซีรีส์ Deep Night The Series(2024) คืนนี้มีแค่เรา ทาง GMM25 ย้อนหลังทาง iQIYI #มีนาน่าดู
อ่าน

รีวิวซีรีส์ Deep Night The Series(2024) คืนนี้มีแค่เรา ทาง GMM25 ย้อนหลังทาง iQIYI #มีนาน่าดู

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวซีรีส์ของทาง GMM25 เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา มีทั้งหมด 8 ตอน ตอนละ 45 นาที มาวันแรกวันที่ 7 มีนาคม 2024 ออกอากาศทุกวันพฤหัส เวลา 23.00 น. ทาง GMM25 ดูย้อนหลังเวอร์ชั่น Uncut ทาง iQIYI เวลา 24.00 น. นำแสดงโดยโชกุน ปารมี รับบท เข็มทิศ และเฟิร์ส ปิยังกูร รับบท เวลา เป็นเรื่องราวของเข็มทิศที่เป็นลูกชายของคุณเฟรญ่าเจ้าของร้านบาร์โฮส Deep Night Clup เฟรญ่าได้แต่งงานกับพ่อของเข็มทิศซึ่งเป็นลูกชายของตระกูลที่มีหน้ามีตาทางสังคมทำให้ญาติฝั่งพ่อของเข็มทิศพยายามโน้มน้าวให้เข็มทิศกลับไปอยู่บ้านใหญ่เพราะไม่ชอบที่แม่ของเข็มทิศทำธุรกิจด้านนี้เนื่องจากกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เฟรญ่านั้นอยากยกร้านนี้ให้เข็มทิศดูแลต่อเลยอยากให้เขาไปฝึกงานที่ร้าน โดยที่ร้านจะมีการแสดงกายกรรมทุกวันศุกร์เพื่อเรียกลูกค้า เขาจึงได้เจอกับเวลาโฮสอันดับหนึ่งของร้าน ความจริงแล้วเวลากับเข็มทิศนั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ตอนอยู่มหาวิทยาลัยทั้งคู่ดูไม่ค่อยถูกกัน เข็มทิศนั้นชอบเข้าไปแกล้งไปกวนเวลา พอเขารู้ว่าเวลาทำงานที่นี่เลยตกลงจะมาฝึกงานแต่เฟรญ่านั้นอยากให้เขาค่อยๆ เรียนรู้และผูกพันกับร้านจึงให้เขาทำงานเป็นพนักงานโบกรถ เวลานั้นด้วยความที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตนมาทำงานที่นี่จึงบอกกับเข็มทิศว่าตอนอยู่มหาวิทยาลัยให้ทำเป็นไม่รู้จักกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องไปดูกันเข็มทิศเป็นลูกชายเฟรญ่าเจ้าของ Deep Night Clup มาทำงานที่ร้านแม่ตนแต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นลูกเจ้าของร้าน ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็ฮอตมาก มีแต่คนมาชอบ เป็นคนกวนหน่อยๆ ชอบแกล้งเวลาเพราะชอบเวลาจึงแอบมองเวลาบ่อยๆ ดูเหมือนไม่ค่อยอยากให้แม่ตนทำบาร์โฮสเพราะไม่ชอบธุรกิจแบบนี้ นักแสดงแสดงได้ดูกวนๆ น่ารักเวลาเป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเข็มทิศ แถมยังได้เรียนห้องเดียวกัน ตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็เหมือนเด็กเรียน ใส่แว่นหนาเตอะ เป็นคนนิ่งๆ ตอนอยู่ในห้องเรียนก็เป็นคนตั้งใจเรียน เรียนเก่ง ความรู้แน่น ตอนกลางคืนทำงานเป็นโฮสที่ร้านแม่เข็มทิศ แถมยังเป็นถึงโฮสอันดับ 1 ของร้าน นักแสดงแสดงได้ดูนิ่งๆ มีเสน่ห์เสื้อผ้ามีความหลากหลายแนวปนกัน มีทั้งที่ดูเรียบหรู ดูดี ทั้งที่ดูสบายๆ อบอุ่น และชุดนักศึกษา ชุดเข็มทิศจะอบอุ่น ดูดี ชุดเวลาจะดูมีแฟชั่น ทันสมัยเวลาอยู่ใน Deep Night Club ส่วนฉากนั้นมีทั้งในมหาวิทยาลัยที่ก็ทำได้ตรงตามมาตรฐานซีรีส์ปกติ และฉาก Deep Night Club ที่ดูเรียบหรูอลังการ ฉากอื่นๆ ก็ดูสวยงามพล็อตเรื่องคือเข็มทิศลูกชายสุดที่รักของ “มาดามเฟรญ่า” เจ้าของ Deep Night Club บาร์โฮสอันดับต้นๆ ของประเทศที่แตกต่างจากบาร์อื่นๆ เพราะมีการโชว์กายกรรมที่สวยงามสุดพิเศษและนั่นเองที่ทำให้เข็มทิศได้ทึ่งกับเวลาโฮสตัวท๊อปยืนหนึ่งของ Deep Night Club ที่สุดแสนจะดึงดูดทั้งการเทคแคร์และการโชว์ ยิ่งได้เจอและได้ใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้หลงเสน่ห์มากขึ้น แต่การได้มาเจอกันในครั้งนี้นั้นมาพร้อมกับความชุลมุนตกกระไดพลอยโจร จนพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ทั้งคู่ต้องผ้านอุปสรรค์ของสถานะและอาชีพ ยังมีเหล่าโฮสและดีเจประจำคลับอีกหลายคนที่มาเติมเต็มสีสันในเรื่องราวอันแสนประทับใจนี้อยากให้ดูเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกวัยรุ่นที่ดูสนุก ครบรส มีทั้งโรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่าที่ทำออกมาได้ลงตัว ถึงพล็อตเรื่องจะไม่ได้แปลกใหม่ขนาดนั้นแต่กลับทำออกมาได้น่าสนใจ ดูแล้วรู้สึกอยากติดตาม เคมีนักแสดงก็ดีมาก อยากให้ไปดูค่ะอ้างอิงภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canvaภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4 ขอบคุณภาพจาก twitter: DeepNightTheSeriesบทความซีรีส์วายที่กำลังออนแอร์รีวิวซีรีส์ คุณได้ไปต่อ(2024) To Be Continued ทาง ช่อง 3 ย้อนหลังทาง Netflix รีวิวซีรีส์ ปลื้มคนโปรด(2024) A Secretly Love ทาง 3HD ย้อนหลังทาง WeTV #ซีรีส์ดีบอกต่อรีวิวซีรีส์ อายุมั่นขวัญยืน(2024) 1000 YEARS OLD ทาง 3HD ย้อนหลังทาง WeTV #ซีรีส์ดีบอกต่อ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิว Deepal S07 เอสยูวีใช้งานและ Deepal L07 ซีดานสมรรถนะดี
อ่าน

รีวิว Deepal S07 เอสยูวีใช้งานและ Deepal L07 ซีดานสมรรถนะดี

งาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา ChangAn สามารถทำยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 3,549 คัน คิดเป็นตัวเลขของรุ่น Deepal L07 ประมาณ 10% และ Deepal S07 90% เลยทีเดียว ทีมงานแบไต๋เคยพรีวิวให้ชมกันไปแล้ว ทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นเรื่องลูกเล่นที่มีค่อนข้างมาก พร้อมมาทำราคาเต็มที่ เพราะนำเข้ามาแค่รุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ยังได้สมรรถนะอยู่ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ทดสอบประสิทธิภาพของตัวรถ Deepal S07 และ Deepal L07 ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้พื้นฐานช่วงล่างชุดเดียวกัน แต่มีการปรับความแข็งและนุ่มแตกต่างกันไป โดย S07 ในรูปแบบเอสยูวีมีช่วงล่างที่นุ่มกว่า เหมาะกับการใช้งานโดยสารทั่วไป ในขณะที่ L07 จะเซตให้มีความแข็งมากกว่า ให้อารมณ์เหมือนรถสปอร์ต ทั้งสองรุ่นมีฐานล้อที่กว้างกว่า 2,900 มิล ทำให้ภายในห้องโดยสารค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับรถ EV ในตลาด ภายในห้องโดยสารดีไซน์สไตล์เรือยอร์ชที่โอบล้อมผู้โดยสาร มีการตกแต่งด้วยไฟ Ambient Light คอนโซลกลางมีพื้นที่กว้างขึ้น เพราะย้ายคันเกียร์ไปไว้ที่พวงมาลัย มาพร้อมระบบแอร์แบบซ่อนปรับได้ที่หน้าจอ รวมถึงการโค้ดกระจกเพื่อกันความร้อน ลำโพง 14+1 จุด ตามที่เราเคยพรีวิวชมไปแล้ว การทดสอบ Deepal ในวันนี้มีทั้งทดสอบสมรรถนะด้วยอัตราเร่ง การเข้าโค้งแบบสลาลม ระบบ ACC และระบบ IACC ที่ตรวจจับเส้นถนนได้ และการเลี้ยวในที่แคบโดยอาศัยกล้องรอบคัน 360 องศา รวมถึงทดสอบการขับขี่ในสนามโกคาร์ต เพื่อทดสอบโหมดขับขี่ต่าง ๆ รวมถึงการรีเจนพลังงานของตัวรถที่เราสามารถเลือกปรับเป็นระดับเปอร์เซ็นต์ได้เลย (เราเลือกปรับ 0 50 100%) เดี๋ยวเราจะสรุปให้ฟังว่าการทดสอบสั้น ๆ นี้เราพบอะไรบ้าง ทดสอบ Deepal L07 ข้อดีของการเป็นรถซีดานไฟฟ้าจึงได้มาซึ่งกำลังและช่วงล่างที่ตอบโจทย์กับสมรรถนะที่ตัวรถให้มา ทำให้รถมีความคล่องตัวเป็นจุดเด่น อัตราเร่งค่อนข้างดีด้วยกำลัง 258 แรงม้า การเข้าโค้งก็ค่อนข้างเฉียบคม ช่วงล่างแข็งและหนึบ การรีเจนพลังงานก็ทำได้ดีในสนามโกคาร์ต โดยเฉพาะเมื่อปรับรีเจน 100% แทบจะใช้แทนแป้นเบรกได้เลย ถือว่าทำได้สมกับการออกแบบให้เป็นรถใช้งานที่มีสมรรถนะสูง ส่วนเรื่องที่ติดใจคือตัวรถยังเก็บอาการสะเทือนจากพื้นขรุขระค่อนข้างมาก แม้เราจะใช้ความเร็วต่ำประมาณ 20 30 กม./ชม. รวมถึงความปรู๊ดปร๊าดของ L07 แม้จะไม่ได้มากมายเหมือนกับพวกรถมอเตอร์คู่ แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานแล้ว อย่างไรก็ตามการขับขี่ในสนามที่มีโค้งเยอะ ๆ อย่างสนามโกคาร์ต กลับรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงของตัวรถพอสมควร จนทำให้มึนหัวได้ง่าย ๆ ต้องอาศัยความเคยชินในการทำความคุ้นเคยกับระบบพลังงานไฟฟ้าสักหน่อย ทดสอบ Deepal S07 ในขณะที่ Deepal S07 มีข้อดีของการเป็นรถเอสยูวีและออปชันที่ให้มามากกว่ารุ่น L07 แต่ในเรื่องสมรรถนะก็สู้ L07 ไม่ได้อย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องอัตราเร่ง 0 100 กม./ชม. ด้วยน้ำหนักตัวรถที่มากกว่าถึง 120 กก. รวมถึงช่วงล่างที่ปรับให้นุ่มขึ้น จึงมีอาการโยนและยวบบ้างเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง (สังเกตได้จากภาพด้านล่างเทียบกับรุ่น L07 ดูสิ) ทั้งนี้สิ่งที่ดีของ S07 คือเรื่องความสะดวกสบายในการขับขี่ทั่วไป แม้ตัวรถจะดูใหญ่โตกว่าแต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระเลย การรีเจนของพลังงานทำได้ราบรื่น พื้นที่เก็บสัมภาระและมุมมองทัศนวิสัยที่กว้างขวางกว่ารุ่น L07 (แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโปร่งโล่งเหมือนกับเอสยูวีรุ่นอื่น ๆ) ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ขับรถหวาดเสียว คันนี้ก็ค่อนข้างครบเครื่องอยู่นะ ChangAn Deepal S07 ราคา 1,399,000 บาท และ Deepal L07 ราคา 1,329,000 บาท

เปิดราคารถ EV Changan Deepal L07  1.329 ล้านบาท และ Deepal S07 1.399 ล้านบาท
อ่าน

เปิดราคารถ EV Changan Deepal L07 1.329 ล้านบาท และ Deepal S07 1.399 ล้านบาท

ฉางอัน ออโต้โมบิล (Changan Automobile) ผู้พัฒนายานยนต์สัญชาติจีน ประกาศราคารถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่น ได้แก่ ฉางอัน ดีพพอล แอลซีโร่เซเว่น (Changan Deepal L07) ที่ 1,329,000 บาท และดีพพอล เอสซีโร่เซเว่น (Deepal S07) ในราคา 1,399,000 บาท ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ที่ศูนย์ประชุมอิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี อย่างเป็นทางการเผยโฉม Deepal L07 และ Deepal S07Deepal L07 สร้างบนแพลตฟอร์ม EPA1 ช่วยให้รถมีสมรรถนะการควบคุมและการทรงตัวที่ดี ใช้มอเตอร์เดี่ยวพลังขับเคลื่อนล้อหลังกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ (kW) หรือ 258 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 66.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC มีสีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Comet White) สีเขียว (Nebula Green) สีเทา (Lunar Grey) สีดำ (Eclipse Black) และ สีน้ำเงิน (Stellar Blue)ในขณะที่ Deepal S07 เป็นรถยนต์รูปแบบ SUV พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสร้างบนแพลตฟอร์ม EPA1 เช่นกัน ทำงานด้วยมอเตอร์เดี่ยวพลังขับเคลื่อนล้อหลังกำลังสูงสุด 190 kW หรือ 258 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 66.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)ระยะทางวิ่งสูงสุด 485 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC มีสีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว (Comet White) สีเขียว (Nebula Green) สีเทา (Lunar Grey) สีดำ (Eclipse Black) สีส้ม (Sunset Orange) และ สีเหลือง (Cosmic Yellow)การจัดแสดงDeepal L07 และ Deepal S07 ในงาน Motor Expo 2023Deepal L07 และ Deepal S07 เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo) ครั้งที่ 40 โดยมีเป้าหมายการตลาดเน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด Touch the Future แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ในการก้าวข้ามขีดจำกัดด้านนวัตกรรม ซึ่ง Deepal L07 รถยนต์ฟาสต์แบ็คไฟฟ้า ได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบผลิตภัณฑ์จากงาน Red Dot Design Award (ชื่อที่ได้รับรางวัล: SL03)นาย เคลาส์ ซิซิโอรา รองประธานบริหาร Changan Automobile กล่าวว่า ในอนาคต CHANGAN จะยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ที่ส่งเสริม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกเพื่อตอบโจทย์ความแตกต่างในระดับภูมิภาค อย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้ความแตกต่างเหล่านั้นในการปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะสมและสร้างสรรค์ global iconic models ซึ่ง CHANGAN คาดว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างน้อย 60 รุ่นภายในปี 2030ผู้ที่สนใจสามารถร่วมเยี่ยมชมและสัมผัส Deepal L07 และ Deepal S07 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ที่บูธ Changan Automobile หมายเลข E02 ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2023ที่มาข้อมูล Changan Automobile

(Hands-On) สัมผัสแรก Samsung Galaxy Watch6 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ งาน Unpacked กรุงโซล
อ่าน

(Hands-On) สัมผัสแรก Samsung Galaxy Watch6 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ งาน Unpacked กรุงโซล

เปิดตัวไปแล้วกับ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series ในงาน Unpacked ณ กรุงโซลสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งหลังจบงานเราก็ได้มีโอกาสไปจับเครื่องจริงกันด้วย กับทั้งสองรุ่น ซึ่งภายในงานก็มีการจัดโซน และ Drop Out ต่าง ๆ ให้ลองเล่น และถ่ายภาพ สมกับเป็นงาน Unpacked Galaxy Watch6 และ Watch6 Classic นี่เป็นสมาร์ตวอตช์ที่ผมตื่นเต้นมากที่จะได้จับของจริง Watch6 Classic นำเอา Rotate Ring กลับมาแล้ว หน้าตาดูมีความ Classic และสวยมาก ซึ่งก็นำมาแทนที่รุ่น Pro ไปเลย หลังจากที่ในรุ่น 5 นั้นถูกตัด Classic ออกไป สิ่งแรกที่ได้จับแล้วต้องสังเกตเห็นเลย คือหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะสุดขอบ ไม่เหมือนกับรุ่นเก่าที่ขอบหนา (เช่น Watch4 ที่ผมใช้อยู่) ซึ่งในรุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 37.33 มม. แล้วนั่นเอง และอัปเกรดเป็นรุ่น 43mm และ 47mm แทน วัสดุเท่าที่จับ ดูแข็งแรงทนทานดี ตัวกระจกหน้าจอก็เปลี่ยนมาใช้ Crystal Sapphire แทนแล้ว ซึ่งจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็จะเปลี่ยนแปลงไปประมาณนี้สำหรับ Watch6 Series ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ขอบบางลงแบบนี้ ดูหล่อมากกว่าเดิมเยอะมาก ๆ Samsung Galaxy Tab S9 Series ในส่วนของ Tab S9 Series รอบนี้ ก็ยังมีรุ่นสับมากถึง 3 รุ่นเหมือนเดิม Tab S9, Tab S9+ และ Tab S9 Ultra ซึ่งคราวนี้ถึงแม้หน้าตาจะดูเหมือนเดิมหมด แต่ที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือตัว S9 ที่เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แบบรุ่นใหญ่ แทนที่จะเป็น LCD แล้ว หน้าจอดูสวยงามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยก็สมกับเป็นแท็บเล็ตเรือธงทุกตัวสักที นอกจากนั้นไม่ค่อยมีอะไรแปลงที่เห็นได้ทันทีมากนัก ซึ่งหลัก ๆ ที่อัปเกรดจากรุ่นปีที่แล้ว ที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ก็เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพ ความร้อน และแบตเตอรี ซึ่งใครสนใจทั้งสอง Series นี้ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดสเปกเพิ่มเติมในลิงก์นี้ ซึ่งมีรายละเอียดโปรโมชัน ของ Samsung ประเทศไทยอยู่ด้วยครับ ความประทับใจของงาน NDA ครั้งนี้ อันนี้แอบอยากพูดแนบมาด้วย ประทับใจงาน NDA (Non Disclosure Agreement งานรอบสื่อที่จะได้จับเครื่องจริงก่อนเปิดตัวจริง เพื่อเตรียมข้อมูลไปทำข่าว) ของ Samsung ที่เกาหลีมาก ด้วยความที่ครั้งนี้มันเป็นการจัด Unpacked ครั้งแรกในบ้านเกิดเขา พร้อมกับมีจำนวนสื่อไอทีมาจากทั่วโลกแบบล้นหลาม มันเลยเป็นงาน NDA ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่พื้นที่ที่จัด NDA ก็จะเล็ก ๆ นะ ไม่ได้ใหญ่ จะคงเพราะว่าจะได้คุมคนได้ ซึ่งทางทีมงานได้มีการจัดแสงทุก Drop Out เลย แบบว่านี่คือการเดินดุ่ม ๆ เอา S23 Ultra ไปถ่ายแบบเร็ว ๆ ภาพก็ออกมาสวยเลย เพราะทีมงานจัดแสงโหดมาก แต่ละจุดก็จะมีการวางเรียงกันเล่นกับกิมมิคต่าง ๆ ของเครื่องด้วย ซึ่งจำนวนเครื่องที่ใช้ในพื้นที่ NDA มีเป็นร้อย ๆ เครื่องเลย แถมยังเอาวิศวกรผู้ออกแบบมานั่งตอบคำถามที่สงสัยเองเลยด้วย และยังมีโซน Studio ให้เราเข้าไปนั่งรีวิวกันข้างในนั้นได้เลยอีก

The Night of Champions 2023 : ฉลองชัยแชมป์ประจำปีศึก B-Quik Thailand Super Series
อ่าน

The Night of Champions 2023 : ฉลองชัยแชมป์ประจำปีศึก B-Quik Thailand Super Series

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ "B-Quik Thailand Super Series 2023" และ "TSS The Super Series by B-Quik" ประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ ในงานใหญ่ "The Night of Champions 2023" ส่งท้ายฤดูกาล ณ IMPACT Speed Park เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จํากัด ผู้ดําเนินการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ภายใต้ชื่อรายการ "B-Quik Thailand Super Series 2023" และ "TSS The Super Series by B-Quik" จัดงานใหญ่ The Night of Champions 2023 ส่งท้ายฤดูกาล ณ IMPACT Speed Park เมืองทองธานี พร้อมประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา โดยมี คุณสนธยา คุณปลื้ม ประธานจัดการแข่งขัน B-Quik Thailand Super Series ขึ้นเป็นประธานในพิธี รายการ B-Quik Thailand Super Series นั้น ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ในระดับอาเซียน ด้วยหลากหลายรุ่นของการแข่งขัน ในขณะเดียวกันรายการ B-Quik Thailand Super Series จะมีรุ่นการแข่งขันอย่างเช่น Thailand Super Eco , Thailand Super Compact , Thailand Super Pickup ตลอดจนไฮไลท์สำคัญของรายการอย่าง TSS The Super Series จะมีรุ่นการแข่งขันอย่างเช่น TSS Supercar GT3 , TSS Supercar GTM , TSS Supercar GT4 และ TSS Supercar GTC ซึ่งเป็นรุ่นการแข่งขันที่อัดแน่นไปด้วยรถแข่งที่ร้อนแรง จัดได้ว่าเป็น "ที่สุด"ทั้งนักแข่งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งทุกรุ่นต่างก็ขับเคี่ยวอย่างดุเดือดตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาลจนมาถึงสนามสุดท้าย เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง จนได้ผลสรุปแชมป์ประจำปี 2023 ประเภทบุคคล ประเภททีม และรางวัล Rising Star หรือรางวัลนักแข่งดาวรุ่งยอดเยี่ยม รวมทั้งรางวัลประเภท Porsche Sprint Trophy Thailand โดยมีรายนามดังต่อไปนี้ แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GT3 - Overall อันดับ 1 : เบอร์ 9 มานัต กุละปาลานนท์ และ ณัฐพงศ์ ห่อทองคำ | ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand อันดับ 2 : เบอร์ 25 อดิศักดิ์ ตั้งพลูเจริญ และ Mr. Akash Nandy | ทีม B-Quik Absolute Racing อันดับ 3 : เบอร์ 55 Mr. Vincent Floirendo | ทีม B-Quik Absolute Racing แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GT3 - Am อันดับ 1 : เบอร์ 65 Mr. Douglas Khoo | ทีม VIPER NIZA RACING แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GTM - Overall อันดับ 1 : เบอร์ 33 เผ่าพงศ์ จันทร์เฉลี่ย และ จักรพนธ์ ด๊ะวี | ทีม Alpha Factory Racing Team by Pulzer อันดับ 2 : เบอร์ 24 ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ | ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand อันดับ 3 : เบอร์ 17 ณัฐจักร์ หาญจิตต์เกษม และ กันตธีร์ กุศิริ | ทีม AAS Motorsport แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GTM -Am อันดับ 1 : เบอร์ 33 เผ่าพงศ์ จันทร์เฉลี่ย และ จักรพนธ์ ด๊ะวี | ทีม Alpha Factory Racing Team by Pulzer อันดับ 2 : เบอร์ 24 ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ | ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand อันดับ 3 : เบอร์ 17 Mr. Sam Collinsและ Mr. Craig Corliss | ทีม FORD-CRE-LANOTEC-LIQUI MOLY RACING แชมป์ประเภทบุคคล Porsche Sprint Trophy Thailand รุ่น Thailand Supercar GTM อันดับ 1 : เบอร์ 33 เผ่าพงศ์ จันทร์เฉลี่ย และ จักรพนธ์ ด๊ะวี | ทีม Alpha Factory Racing Team by Pulzer อันดับ 2 : เบอร์ 17 ณัฐจักร์ หาญจิตต์เกษม และ กันตธีร์ กุศิริ | ทีม AAS Motorsport อันดับ 3 : เบอร์ 37 Mr. Simon Chan และ Mr. Shaun Thong | ทีม Fire Monkey Motorsport แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GT4 - Overall อันดับ 1 : เบอร์ 88 Mr. Iaro Razanakoto และ ชานน อัสวสังสิทธิ | ทีม B-Quik Absolute Racing อันดับ 2 : เบอร์ 99 ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล และ เดชาธร ภู่อัครวุฒนิ | ทีม YK Motorsports BBR By Sunoco อันดับ 3 : เบอร์ 19 สุทธิพงศ์ สมิตชาติ | ทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand แชมป์ประเภทบุคคล Porsche Sprint Trophy รุ่น Thailand Supercar GT4 อันดับ 1 : เบอร์ 88 Mr. Iaro Razanakoto และ ชานน อัสวสังสิทธิ | ทีม B-Quik Absolute Racing แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GTC / TAV8 อันดับ 1 : เบอร์ 46 ธนพงศ์พันธ์ สุธรรมโน | ทีมFull Function Wangpoo อันดับ 2 : เบอร์ 5 Mr. Putera Adam | ทีม AAS Motorsport อันดับ 3 : เบอร์ 50 Mr. Jaylyn Robatham | ทีม FORD-CRE-LANOTEC-LIQUI MOLY RACING แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GTC / TAV8 อันดับ 1 : เบอร์ 46 ธนพงศ์พันธ์ สุธรรมโน | ทีมFull Function Wangpoo อันดับ 2 : เบอร์ 5 Mr. Putera Adam | ทีม AAS Motorsport อันดับ 3 : เบอร์ 50 Mr. Manasseh Manuel Caceres | ทีม CC Motorsports KS Racing แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Supercar GTC - Non Homologated อันดับ 1 : เบอร์ 50 Mr. Manasseh Manuel Caceres | ทีม CC Motorsports KS Racin แชมป์ประเภทบุคคล Porsche Sprint Trophy รุ่น Thailand Supercar GTC อันดับ 1 : เบอร์ 5 Mr. Putera Adam | ทีม AAS Motorsport แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Super Pickup - Overall อันดับ 1 : เบอร์ 15 ธณพล ชูเจริญผล | ทีม เม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง อันดับ 2 : เบอร์ 85 อลงกรณ์ แซ่ตั้ง | ทีม เม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง อันดับ 3 : เบอร์ 7 ศุภชัย คงมั่น | ทีม Mobil 1 รวมช่างเชียงกง Racing Team แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Super Pickup Class A อันดับ 1 : เบอร์ 15 ธณพล ชูเจริญผล | ทีมเม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง อันดับ 2 : เบอร์ 7 ศุภชัย คงมั่น | ทีม Mobil 1 รวมช่างเชียงกง Racing Team อันดับ 3 : เบอร์ 41 Mr.Jack Lemvard Aurora | ทีม Ford Thailand Racing แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Super Pickup - Class B อันดับ 1 : เบอร์ 85 อลงกรณ์ แซ่ตั้ง | ทีม เม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง อันดับ 2 : เบอร์ 59 สุวัฒน์ ลิ้มจิรภิญญา | ทีมISUZU SUPHAN EXPLORER LIQUIMOLY RACING TEAM อันดับ 3 : เบอร์ 95 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ | ทีม ISUZU SUPHAN EXPLORER LIQUIMOLY RACING TEAM แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Super Pickup - Class C อันดับ 1 : เบอร์ 4 ศุภกร จดแตง | ทีม Amone D2 เนี๊ยบรีแมพอาร์ทการยาง เอกรถบ้านมือสอง อันดับ 2 : เบอร์ 98 วุฒิภัทร คงกฤติพงศ์ | ทีม Schaeffler Racing Team by.โอ๊ตอู่ช่างขวัญ 98 Auto Option อันดับ 3 : เบอร์ 18 กิตติพงษ์ นิภาพันธ์ | ทีม Team J-One Donut Racing แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Super Compact อันดับ 1 : เบอร์ 14 ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกต และ ฉัตรพล เจียมวิจิตร | ทีม YK Motorsports BBR By Sunoco อันดับ 2 : เบอร์ 33 ไชยยะ ม่วงงาม | ทีม MM Racing Team อันดับ 3 : เบอร์ 95 พุทธมนต์ ธนะพาสุข และ ชัญญบุศย์ ธนะพาสุข | ทีม YK Motorsports BBR By Sunoco แชมป์ประเภทบุคคล รุ่น Thailand Super Eco Overall อันดับ 1 : เบอร์ 35 อธิพงษ์ ขำทอง | ทีม V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM อันดับ 2 : เบอร์ 56 ชนกนันท์ นันทมานพ | ทีม V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM อันดับ 3 : เบอร์ 24 Mr. Hayden Haikal | ทีม Pipekids Racing แชมป์ประเภทบุคคล Thailand Super Eco - Class C Plus อันดับ 1 : เบอร์ 56 ชนกนันท์ นันทมานพ | ทีม V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM อันดับ 2 : เบอร์ 33 ภูรีภัทร ลีฬหนันทน์ | ทีม TMC Seacret Koh Kood by เป๊ะโรงโป๊ะ อันดับ 3 : เบอร์98 ชินวิช รมยานนท์ | ทีม TMC Seacret Koh Kood by เป๊ะโรงโป๊ะ ซึ่งความสำเร็จของการแข่งขันรายการ B-Quik Thailand Super Series 2023 นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่รางวัล สำหรับนักแข่งเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงรางวัลแห่งการร่วมแรง ร่วมใจของสมาชิกในทีม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ โดยแชมป์ประจำปี 2023 ประเภททีมนั้น ประกอบด้วย รุ่น Thailand Supercar GT3 Overall ได้แก่ B-Quik Absolute racing รุ่น Thailand Supercar GTM Overallได้แก่ Toyota Gazoo Racing Team Thailand รุ่น Thailand Supercar GTC / TAV8 ได้แก่ FORD-CRE-LANOTEC-HELL RACING รุ่น Thailand Supercar GTC Overall ได้แก่ Full Function Wangpoo รุ่น Thailand Super Pickup Overall ได้แก่ เม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง รุ่น Thailand Super Pickup - Class A ได้แก่ เม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง รุ่น Thailand Super Pickup - Class B ได้แก่ ISUZU SUPHAN EXPLORER LIQUIMOLY RACING TEAM รุ่น Thailand Super Pickup - Class C ได้แก่ Amone D2 เนี๊ยบรีแมพ อาร์ทการยาง เอกรถบ้านมือสอง รุ่น Thailand Super Compact ได้แก่ YK Motorsports BBR By Sunoco รุ่น Thailand Super Eco Overall ได้แก่ V-ARE PRO GARAGE RACING TEAM รุ่น Thailand Super Eco Class C Plus ได้แก่ TMC Seacret Koh Kood by เป๊ะโรงโป๊ะ นอกจากรางวัลแห่งความสำเร็จในฐานะแชมป์ประจำปีในประเภทบุคคลและประเภททีมแล้ว รายการ B-Quik Thailand Super Series 2023 ยังมีอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่เป็นแรงผลักดันก้าวในการพัฒนานักแข่งไทย ให้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยรางวัล Rising Star (Presented by UTA) ซึ่งมีทั้งหมด 10 รางวัล ดังนี้ รุ่น Thailand Supercar GTC Mr. Manuel Rafael Caceres |ทีม CC Motorsports KS Racing รุ่น Thailand Super Pickup Class B อลงกรณ์ แซ่ตั้ง | ทีม เม้งการยาง MJ นครสวรรค์ Flex Speedoil BRC AKANA Idemitsu By อู๊ดอ๋องระยอง รุ่น Thailand Super Pickup Class C เกริกพงษ์ รัตนา |ทีม Singha TT Motorsports ปรเมศวร์ กิ่งพิกุล | ทีม 249 GARAGE สระบุรี วุฒิภัทร คงกฤติพงศ์ | ทีม Schaeffler Racing Team by.โอ๊ตอู่ช่างขวัญ 98 Auto Option ศุภกร จดแตง | ทีม Amone D2 เนี๊ยบรีแมพ อาร์ทการยาง เอกรถบ้านมือสอง รุ่น Thailand Super Compact ไอตั้น อัษฎาธร | ทีม Insane Motorsport อชิตพล เจริญลาภนพรัตน์ | ทีม Insane Motorsport รุ่น Thailand Super Eco Class C Plus ภูรีภัทร ลีฬหนันทน์ | ทีม TMC Seacret Koh Kood by เป๊ะโรงโป๊ะ สิตาวีร์ลิ้ม นันทรักษ์ | ทีม Nexzter Singha Sittipol ตารางการแข่งขันฤดูกาล 2024 Event 1 ทุกรุ่นการแข่งขัน ในวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ Event 2 ทุกรุ่นการแข่งขัน ในวันที่ 3-7 กรกฏาคม 2567 กับเทศกาลความเร็วบางแสน กรังด์ปรีซ์ ณ สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต จังหวัด ชลบุรี Event 3 TSS The Super Series เฉพาะรุ่น TSS Supercar GT3 , TSS Supercar GTM และ TSS Supercar GT4 ในวันที่ 9-11 สิงหาคม 2567 ณ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต Event 4 B-Quik Thailand Super Series เฉพาะรุ่น Thailand Super Eco , Thailand Super Compact และ Thailand Super Pickup ในวันที่ 23-25 สิงหาคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ Event 5 TSS The Super Series เฉพาะรุ่น TSS Supercar GT3 , TSS Supercar GTM , TSS Supercar GT4 และ TSS Supercar GTC ในวันที่ 6-8 กันยายน 2567 ณ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต Event 6 ส่งท้ายทุกรุ่นการแข่งขันสำหรับสนามสุดท้ายของฤดูกาล 2024 ในวันที่ 13-15 ธันวามคม 2567 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับสาวกมอเตอร์สปอร์ต พลาดไม่ได้กับ รายการ B-Quik Thailand Super Series และ TSS The Super Series ในฤดูกาล 2024 โดยแฟนๆ สามารถติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ www.thailandsuperseries.net ,www.facebook.com/ThailandSuperSeries และ www.youtube.com/@ThailandSuperSeries ทั้งนี้ สมาชิกทรูไอดี สามารถรับชมถ่ายทอดสดการแข่งขันแบบฟรีๆ ได้ที่ช่อง TrueID Sports (621) ข่าวที่เกี่ยวข้อง THE FINAL RACE!! ทรูไอดียิงสด Thailand Super Series สนามสุดท้าย 15-17 ธ.ค. เฮต่อเนื่อง!! อภิวัฒน์-จักรีภัทร ซิวแชมป์ปิดฉากศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง อันดับ 6 ของโลก!! "ก้อง-สมเกียรติ" ส่งท้ายฤดูกาล คว้าท็อป 5 ศึกบาเลนเซีย อเมซิ่งไทยแลนด์!! 3 นักบิดดังโมโตจีพี ร่วมถ่ายวีดีโอโปรโมทประเทศไทย ------------------------------------------------- วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!

iPhone 15 Series มีตัวเครื่องพร้อมขายลดลง 8% เมื่อเทียบจาก iPhone 14 Series
อ่าน

iPhone 15 Series มีตัวเครื่องพร้อมขายลดลง 8% เมื่อเทียบจาก iPhone 14 Series

เป็นที่ทราบกันดีว่าอีกไม่กี่เดือนนั้น Apple จะเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Series ซึ่งตามรายงานก่อนหน้านั้นมีการระบุว่า Apple กำลังเผชิญกับปัญหาในการผลิต iPhone 15 Pro/Pro Max ส่งผลให้มีสินค้าสต็อกในช่วงเริ่มต้นต่ำกว่า iPhone 14 Series รุ่นปัจจุบัน ตามรายงานระบุไว้ว่า สต็อกโดยประมาณสำหรับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 90 ล้านเครื่อง แต่คาดว่า iPhone 15 Series จะมีสินค้าพร้อมจำหน่ายเบื้องต้นที่ 83 ถึง 85 ล้านเครื่อง เนื่องจากปัญหาทางเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตเกี่ยวกับหน้าจอ โดยปัญหาดังกล่าวนั้นจะส่งผลกับรุ่น iPhone 15 Pro Max มากที่สุด และรุ่น iPhone 15 Pro รองลงมา หลายคนทราบกันดีว่าการวางขายในช่วงแรกนั้น iPhone รุ่นใหม่ ๆ นั้น จะหาสินค้ายากมาก ในรุ่น iPhone 15 Series รอบนี้ถ้าดูจากข่าวแล้ว ก็น่าจะยากมากกว่าเดิมครับ ที่มา : Gizmochina.com

เทียบ 3 รถ EV ที่จะเปิดตัวใน Motor Expo 2023 : Changan Deepal L07 - Changan Deepal S07 - Hyundai IONIQ 5
อ่าน

เทียบ 3 รถ EV ที่จะเปิดตัวใน Motor Expo 2023 : Changan Deepal L07 - Changan Deepal S07 - Hyundai IONIQ 5

ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีนี้ มีข่าวการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ถึง 3 รุ่น จาก 2 ค่ายรถ ได้แก่ฮุนได (Hyundai) ที่เตรียมเปิดตัวไอออนิก 5 (Hyundai IONIQ 5) ที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐฯ กับฉางอัน (Changan) ที่เตรียมเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นครั้งแรกในรุ่น ดีพอล แอล 07 (Deepal L07 หรือรุ่น SL03 ในจีน) กับ ดีพอล เอส 07 (Deepal S07) TNN Tech จึงรวบรวมข้อมูลตัวรถเบื้องต้นเอาไว้ในบทความนี้สรุป 3 รถ EV ที่อาจเปิดตัวในไทยเดือนพฤศจิกายนนี้รถ EV ทั้ง 3 รุ่น ต่างมีรุ่นย่อยที่ทั้งเน้นพละกำลังหรือเน้นระยะทางวิ่งต่อรอบการชาร์จ ซึ่งในบทความนี้ TNN Tech เลือกเปรียบเทียบรุ่นย่อยที่วิ่งได้ไกลที่สุดของแต่ละรุ่น พร้อมราคาที่วางขายในประเทศจีนมาเป็นตัวเปรียบเทียบChangan Deepal L07 Extended Rangeฉางอัน ดีพอล แอล 07 (Deepal L07) เป็นชื่อของดีพอล เอสแอล 03 (Deepal SL03) สำหรับตลาดในไทย ตัวรถเป็นรูปแบบซีดาน (Sedan) 4 ประตู เน้นความหรูหราจากภายในรถ พร้อมมอเตอร์เดี่ยว 218 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 79.97 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ในระยะทางวิ่งไกลสุดต่อรอบการชาร์จ 705 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือชื่อเล่นว่าเป็นมาตรฐาน NEDC ในเวอร์ชันของจีน ราคาเปิดตัวที่ประมาณ 1,150,000 บาท ในประเทศจีนChangan Deepal S7 Extended Rangeฉางอัน ดีพอล เอส 7 (Deepal S7) เป็นรถสปอร์ตเอนกประสงค์ (SUV) ที่ให้มอเตอร์เดี่ยว 218 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 79.97 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) แบบเดียวกันกับในรถ ดีพอล แอล 07 แต่ว่าจะมีระยะทางต่อรอบการชาร์จลดลงมาอยู่ที่ 620 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และมีราคาขายในจีนแพงกว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 1,190,000 บาทHyundai Ioniq 5 Long-range Single Motorในขณะที่ฮุนได ไอออนิก 5 รุ่นที่วิ่งไกลแบบมอเตอร์เดี่ยว ได้ให้มอเตอร์ที่มีกำลังอยู่ที่ 225 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 77.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ซึ่งได้ระยะทางต่อรอบชาร์จที่ 507 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP หรือมาตรฐานของรถที่ยุโรปใช้ในปัจจุบัน โดยในจีนนั้นวางราคาขายไว้ที่ประมาณ 1,460,000 บาทข้อมูลการเปิดตัว EV ในไทยเดือนพฤศจิกายนนี้โดยฮุนได แจ้งสื่อมวลชนว่าจะเปิดตัวในงานมอเตอร์ เอกซ์โป (Motor Expo) ประจำปี 2023 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมการประกาศราคาขายในไทยอย่างเป็นทางการส่วนฉางอัน (Changan) มีการรายงานข่าวจากสื่อในไทยว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ และมีการนำไปออกนิทรรศการ Motor Expo ด้วยเช่นกันซึ่งการเข้ามาของทั้ง 2 แบรนด์ สะท้อนการเติบโตของตลาดรถ EV ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากยอดจดทะเบียนรถ EV จากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ระหว่าง 1 ตุลาคมปีที่ผ่านมา จนถึง 30 กันยายนนี้ มีอยู่ทั้งหมดอยู่ที่ 73,341 คัน ที่มาข้อมูล กรมการขนส่งทางบก, Changan UK, Wikipedia, Hyundai UK, Car News China, Moto Wheeler

“ไบเบิ้ล” ตัวแทน “KinnPorsche The Series” รับรางวัล “Most Popular Y Series”
อ่าน

“ไบเบิ้ล” ตัวแทน “KinnPorsche The Series” รับรางวัล “Most Popular Y Series”

ไบเบิ้ล ตัวแทน KinnPorsche The Series รับรางวัล Most Popular Y Series ถึงแม้ว่า KinnPorsche The Series ซีรีส์วายสายแอคชั่น มาเฟียในไทยเรื่องแรกเรื่องนี้จะลาจอไปนานแล้ว แต่ด้วยกระแสของความปังทั้งตัวของนักแสดงทุกคน เนื้อเรื่อง โปรดักชั่นที่จัดเต็ม แสง สี เสียง เอฟเฟ็ค เลยยังทำให้มีแฟนๆพูดถึงตลอด ซึ่งไม่ได้โด่งดังแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างฐานแฟนคลับไปได้ไกลทั่วโลกอีกด้วย ล่าสุด KinnPorsche The Series คว้ารางวัล Most Popular Y Series หรือ ซีรีส์วายยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2023 งานนี้ ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เลยเป็นตัวแทนเพื่อนๆนักแสดงและจากบริษัท บีออนคลาวน์ จํากัด ขึ้นไปรับรางวัลนี้อีกด้วย ยังไงทางดาราเดลี่ขอแสดงความยินดีกับนักแสดงและทีมงาน KinnPorsche The Series ทุกคนด้วยนะคะ เพราะสมมงสุดๆไปเลยค่า

Oppo Find X7 Series อาจไม่มีรุ่น Pro ?!
อ่าน

Oppo Find X7 Series อาจไม่มีรุ่น Pro ?!

ตามรายงาน Oppo Find X7 Series คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้า ข่าวก่อนหน้ายังรายงานว่า Find X7 Series จะมีทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Find X7, Find X7 Pro และรุ่น Find X7 Ultra แต่ล่าสุดนั้นมีรายงานใหม่ระบุว่า ใน Find X7 Series จะไม่มีรุ่น Pro แหล่งที่มาของข่าวคือ Digital Chat Station ซึ่งเป็นทิปสเตอร์ที่รู้จักกันดีในวงการเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวนี้ได้ถูกลบออกไปแล้ว โดยตามรายงานระบุว่า Find X7 จะไม่มีรุ่น Pro แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังคงมีทั้งหมด 3 รุ่น โดยจะมีรุ่น Find X7, Find X7 Ultra และ Find X7 Ultra Satellite Communication แทน ถ้าสังเกตจากชื่อรุ่นแล้ว รุ่น Ultra ทั้ง 2 รุ่นจะมีความแตกต่างกันที่คุณสมบัติการสื่อสารผ่านดาวเทียมเท่านั้น ซึ่งเป็นรายละเอียดที่สอดคล้องกับการยืนยันของ Oppo เกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ใน Find X7 Series นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าทุกรุ่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์จะมีแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับการชาร์จ 100W ในขณะที่รุ่น Ultra จะรองรับการชาร์จไร้สาย 50W ที่มา : Gizmochina.com

Realme V-Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Realme ปรากฏบน TENAA
อ่าน

Realme V-Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Realme ปรากฏบน TENAA

พบสมาร์ตโฟน Realme รุ่นใหม่ 2 รุ่นที่มีหมายเลขรุ่น RMX3781 และ RMX3783 ปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ TENAA ของจีน รายงานกล่าวว่าอุปกรณ์ดังกล่าวคือสมาร์ตโฟน Realme V-Series ในตลาดจีน แต่รายชื่อยังไม่ได้มีการเปิดเผยสเปกมาให้ทราบ สมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวนั้นมีลักษณะคล้ายกับ Realme 11 5G ที่เปิดตัวในไต้หวันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากข้อมูลของ TENAA เผยให้เห็นว่าสมาร์ตโฟนมีหน้าจอแบบเจาะรูตรงกลางและเป็นจอแบน ด้านหลังมีโมดูลกล้องทรงกลมพร้อมกล้องคู่และแฟลช LED พร้อมตราสินค้า Realme อยู่ที่ด้านหลัง ส่วนรายละเอียดด้านอื่น ๆ นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้ทราบ ที่มา : Gizmochina.com

รู้ไว้ก่อนซื้อ ! 6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9
อ่าน

รู้ไว้ก่อนซื้อ ! 6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9

หลังจากที่แอปเปิล (Apple) เปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน Apple Wonderlust Event เมื่อ 13 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย หนึ่งในไอเทมใหม่สำหรับสายสุขภาพที่น่าสนใจก็คือ Apple Watch Series 9 สมาร์ตวอชรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่ง TNN Tech ได้รวบรวมความแตกต่างกับ Apple Watch Series 8 สมาร์ตวอชรุ่นก่อนหน้ามาไว้ 6 จุด ด้วยกัน6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9ความสว่างหน้าจอสูงสุด Apple Watch Series 8 มีความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1000 nits ในที่กลางแจ้ง ส่วน Apple Watch Series 9 ได้รับการปรับปรุงให้สว่างกลางแจ้งสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 nitsชิปประมวลผล หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจาก Apple Watch Series 8 ใช้ชิปประมวลผล S8 ที่มีพื้นฐานมาจากชิป A13 Bionic ซึ่งใช้ใน iPhone 11 Series และ iPhone SE แต่ Apple Watch Series 9 ได้พัฒนาพื้นฐานมาจาก A15 Bionic เป็น S9 SiPNeural Engine หรือหน่วยประมวลผลการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เพิ่มแกนประมวลผลเป็น 4 คอร์ (Core) เพิ่มจากรุ่น 8 มาอีก 3 coreระบบ Siriหรือระบบผู้ช่วยส่วนตัวใน Apple Watch Series 9 เป็นครั้งแรกที่พัฒนาให้ฝังมากับระบบ ต่างจากทุกรุ่นก่อนหน้าที่ต่ออินเทอร์เน็ตการระบุตำแหน่ง ในรุ่นก่อนหน้าถือเป็นครั้งแรกที่มีการใส่ชิประบุตำแหน่ง (1st Gen Ultra-Wideband) ใน Apple Watch ส่วนใน Apple Watch Series 9 ได้มีการปรับปรุงเป็น 2nd Gen Ultra-Wideband ซึ่งช่วยระบุทิศทางและตำแหน่งได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงประยุกต์เป็นการหาไอโฟน (Find my) ได้แม่นยำขึ้นตามไปด้วยพื้นที่เก็บข้อมูล Apple Watch Series 8 มีพื้นที่จัดเก็บทั้งหมด 32 กิกะไบต์ (GB) ส่วนใน Apple Watch Series 9 ได้รับการเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 64 GBนอกจากความแตกต่างของสเปกแล้ว อีกหนึ่งการปรับปรุงในครั้งนี้ยังมีสีใหม่อย่างสีชมพูเป็นตัวชูโรงในการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย โดยแอปเปิลจะเปิดให้สั่งซื้อและจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมกับวันขาย iPhone 15 วันแรก 22 กันยายนนี้ที่มาข้อมูลMacRumors

เปิดตัวสมาร์ทโฟน “OPPO Reno5 Series 5G” ที่สุดของวิดีโอ Portrait
อ่าน

เปิดตัวสมาร์ทโฟน “OPPO Reno5 Series 5G” ที่สุดของวิดีโอ Portrait

ออปโป้ ไทยแลนด์ เปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่เป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอ Portrait ได้แก่ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ภายใต้แนวคิด Picture Life Together ให้บันทึกทุกโมเมนต์สุดประทับใจได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย อาทิ Dual-view Video บันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้า-หลัง, AI Mixed Portrait ครั้งแรกของโลกบน OPPO Reno5 ช่วยสร้างสรรค์วิดีโอที่เหนือกว่าโดยการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนกัน, นำเทรนด์ด้วยดีไซน์ฝาหลังที่สวยประกาย บางเบาพร้อมทั้งสามารถสะท้อนเฉดสีถึงพันสี รวมถึงรองรับ 5G และชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 บน OPPO Reno5 5G โดย OPPO Reno5 เปิดตัวที่ราคา 10,990 บาท และ OPPO Reno5 5G เปิดตัวที่ราคา 13,990 บาท จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ รับโปรโมชั่นและของสมนาคุณมูลค่ากว่า 8,000 บาท และพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait สวยที่สุด พร้อมให้คุณปลดล็อกพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ และบันทึกทุกโมเมนต์อันน่าประทับใจกับคนรอบข้างด้วยสุดยอดนวัตกรรมเพื่อการถ่ายวิดีโอมากมาย รวมที่สุดของดีไซน์อันโดดเด่นและประสิทธิภาพที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้นด้วย 3 ไฮไลต์เด็ด ได้แก่ ที่สุดของวิดีโอ Portrait ด้วยฟีเจอร์ Dual-view Video และ AI Mixed Portrait OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนเพื่อการสร้างสรรค์วิดีโอ Portrait ให้โดดเด่นที่สุดด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยฟีเจอร์ Dual-view Video ที่มีในทั้งสองรุ่น สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพื่อสร้างความทรงจำอันน่าจดจำร่วมกับคนรอบข้าง ปลดล็อกจินตนาการด้วยฟีเจอร์ AI Mixed Portrait ที่มีเฉพาะใน OPPO Reno5 ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกบนสมาร์ทโฟนที่นำเอา Double Exposure Effect มาใช้กับการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนเข้าด้วยกันเกิดเป็นวิดีโอใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม โดยทำงานร่วมกับอัลกอริทึม AI ขั้นสูงที่ช่วยตัดขอบตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำเพื่อนำไปซ้อนเข้ากับอีกวิดีโอได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อสนับสนุนการถ่ายวิดีโอให้สนุกและสวยงามมากยิ่งขึ้น ทั้งการควบคุมแสง ใส่ฟิลเตอร์ปรับสี หรือปรับแต่งใบหน้าสำหรับการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าให้ประณีตและเป็นธรรมชาติมากขึ้น OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกล้องหลัง 4 กล้อง ความละเอียด 64MP+8MP+2MP+2MP โดย OPPO Reno5 กล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 44MP ขณะที่ OPPO Reno5 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP โดยทั้งสองรุ่นสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K ที่ 30fps สำหรับกล้องหลัง และรองรับความละเอียด 1080P หรือ 720P ที่ 30fps ในกล้องหน้า สวยงาม บางเบา นำเทรนด์ด้วยเทคโนโลยีดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียกว่า Diamond Spectrum Process สร้างเฉดสีใหม่นับพันสีภายในเครื่องเดียว OPPO Reno5 Series 5G เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอเทมที่โดดเด่นทุกท่วงท่ากับดีไซน์สวยสะกดทุกสายตากับเทคโนโลยีล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้ฝาหลังของตัวเครื่องสีเงิน Fantasy Silver ของ OPPO Reno5 และ สีเงิน Galactic Silver ของ OPPO Reno5 5G สามารถสะท้อนเฉดสีได้นับพันในเครื่องเดียวเมื่อมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน ลดการเกิดรอยนิ้วมือเพราะเคลือบผิวฝาหลังแบบด้านด้วยเทคนิค Reno Glow นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีดีไซน์เบาบาง พกพาได้คล่องตัว โดย OPPO Reno5 มีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และ สีดำ Starry Black ส่วน OPPO Reno5 5G มาในสองสี ได้แก่ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.43 แสดงผลความไวสูงถึง 90Hz มอบประสบการณ์ที่ไหลลื่น สมจริง และเต็มตาด้วย Edge-to-edge Display ที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด OPPO Reno5 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 720G RAM 8GB และ ROM128GB ประสิทธิภาพลื่นไหลไม่แพ้กัน มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,310mAh และเทคโนโลยี 50W Flash Charge ชาร์จไวไม่ต้องรอนานเพียง 48 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ส่วน OPPO Reno5 5G รองรับการสื่อสารแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยี 5G และขุมพลัง Snapdragon 765G 5G RAM 8GB และ ROM 128GB มอบประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,300mAh และเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของออปโป้ 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จไวขั้นสุดเพียง 35 นาที สามารถชาร์จได้ 100% นับว่า OPPO Reno5 Series 5G นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait ได้สวยที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาด้วยกันสองรุ่น ได้แก่ OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และสีดำ Starry Black สำหรับ OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท มี 2 สีเช่นเดียวกัน คือ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ พร้อมรับโปรโมชั่นและของสมนาคุณจัดเต็ม สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 รับฟรี Smart Scale และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 6,299 บาทสำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 5G รับฟรี Smart Scale, Bluetooth Speaker และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 8,398 บาท เป็นเจ้าของ OPPO Reno5 Series 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยสามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท และเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 5G ในราคาเริ่มต้น 5,490 บาท ระหว่างวันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์นี้ เท่านั้น โดย OPPO Reno5 Series 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สรุปราคาและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Series ในไทย
อ่าน

สรุปราคาและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Series ในไทย

แอปเปิลเปิดตัว iPhone 17 Series อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยรายละเอียดราคาและกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยปีนี้มีให้เลือกหลายรุ่น ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นมาตรฐานไปจนถึงตัวท็อปสุดที่มีความจุสูงถึง 2TBราคาของแต่ละรุ่น iPhone 17 SeriesiPhone 17256GB: ฿29,900512GB: ฿37,900iPhone Air (รุ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยความบางเบา)256GB: ฿39,900512GB: ฿47,9001TB: ฿55,900iPhone 17 Pro256GB: ฿43,900512GB: ฿51,9001TB: ฿59,900iPhone 17 Pro Max (รุ่นท็อปสุดของปีนี้)256GB: ฿48,900512GB: ฿56,9001TB: ฿64,9002TB: ฿80,900จากโครงสร้างราคาจะเห็นได้ว่ารุ่น iPhone 17 Pro Max ยังคงเป็นเรือธงที่ราคาแรงที่สุด โดยมีตัวเลือกความจุสูงสุดถึง 2TB เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเก็บภาพ วิดีโอ และไฟล์จำนวนมากวันเปิดจองและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Proวันสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre-order): 12 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไปวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: 19 กันยายน 2568ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของ iPhone รุ่นใหม่ก่อนใคร สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่เย็นวันที่ 12 กันยายน และจะได้รับสินค้าในสัปดาห์ถัดมา

Asus ยืนยัน ROG Phone 8 Series มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
อ่าน

Asus ยืนยัน ROG Phone 8 Series มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68

Asus มีกำหนดเปิดตัว ROG Phone 8 Series ในวันที่ 8 มกราคมผ่านงาน CES (Consumer Electronics Show) 2024 และเปิดตัวในจีนต่อมาในวันที่ 16 มกราคม ล่าสุดทางแบรนด์ออกมายืนยันว่า ROG Phone 8 series จะรองรับการกันน้ำกันฝุ่น Asus ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ROG Phone 8 series จะมาพร้อมกับแชสซีที่ได้รับการจัดอันดับ IP68 หมายความว่า ROG Phone 8 series จะมีการออกแบบที่ทนน้ำและฝุ่น ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมสมาร์ตโฟนที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้มากขึ้น ถือเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ROG Phone 7 Series ที่รองรับการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP54 และ ROG Phone 6 Series ที่ระดับ IP X4 ที่มา : Gizmochina.com

vivo เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ iQOO Z8 series ในเดือนกันยายนนี้!
อ่าน

vivo เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ iQOO Z8 series ในเดือนกันยายนนี้!

สมาร์ตโฟน iQOO Z7 series เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และหลังจากผ่านมา 6 เดือน vivo ก็เตรียมเปิดตัว iQOO Z8 series แล้วในเดือนกันยายน โดยนี่จะเป็นครั้งแรกที่ไลน์อัปนี้จะมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บ 512GB สำหรับสเปกของ iQOO Z8 คาดการณ์ว่าจะมาพร้อมหน้าจอ LCD 6.64 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ชิปเซต Dimensity 8200 และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่จะรองรับการชาร์จไว 120W โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + OIS ส่วน iQOO Z8x จะมีราคาที่เข้าถึงง่ายมากกว่า ทำให้ในด้านสเปกก็จะแตกต่างไปจาก iQOO Z8 คือจะมาพร้อมชิปเซต Snapdragon 6 Gen 1 แต่รายงานกลับระบุว่า iQOO Z8x จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า โดยมีความจุ 6,000 mAh ที่มา: GSMArena

Realme Buds Air 5 series จะเปิดนอกประเทศจีนในวันที่ 23 สิงหาคมนี้!
อ่าน

Realme Buds Air 5 series จะเปิดนอกประเทศจีนในวันที่ 23 สิงหาคมนี้!

Realme 11 seires เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในอีเวนต์นั้นก็มีการเปิดตัวหูฟัง Buds Air 5 Pro ควบคู่ไปด้วย โดยในวันนี้เราพบว่า Realme Buds Air 5 Series จะเปิดตัวที่ตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) เป็นครั้งแรกในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยเป็นการเปิดตัวที่ประเทศอินเดีย Buds Air 5 Pro มาพร้อมวูฟเฟอร์ 11 มม. และไดรเวอร์แบบ planar magnetic ขนาด 6 มม. รองรับ high-bitrate LDAC codec มีมาตรฐานกันน้ำกระเซ็นเพื่อป้องกันเหงื่อและฝน อีกทั้ง Realme ยังเผยว่ารุ่นนี้สามารถกันเสียงรบกวนได้สูงสุด 50dB จากไมโครโฟน 6 ตัว (ข้างละ 3 ตัว) ในด้านแบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมงเมื่อปิดฟีเจอร์ ANC และสามารถใช้งานได้นาน 40 ชั่วโมงหากรวมการชาร์จจากเคส สำหรับ Buds Air 5 Pro มีการวางขายในประเทศจีนในราคา 399 หยวน (ประมาณ 2,000 บาท) แต่เรายังไม่ทราบว่าเมื่อวางขายในต่างประเทศราคาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ที่มา: GSMArena

รีวิว Sword Art Online the Movie Progressive: Scherzo of Deep Night (2022) ภาคต่อจาก Aria of a Starless Night  โดยดำเนินเรื่องในมุมของ "อาสึนะ" ที่กำลังเผชิญหน้าในเกมมรณะ
อ่าน

รีวิว Sword Art Online the Movie Progressive: Scherzo of Deep Night (2022) ภาคต่อจาก Aria of a Starless Night โดยดำเนินเรื่องในมุมของ "อาสึนะ" ที่กำลังเผชิญหน้าในเกมมรณะ

"Sword Art Online" หรือ SAO เป็นซีรีส์อนิเมะที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2012 โดย A-1 Picture studio ผู้สร้างอนิเมะชื่อดังมากมาย เช่น "Fairy Tail" และ "Black Butler" ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกัน และต่อมาได้รับความนิยมอย่างมาก เวลาพูดถึงอนิเมะที่พระเอกเก่ง พระเอกติดอยู่ในเกม Sword Art Online ก็จะเป็นหนึ่งในอนิเมะที่ผู้คนน่าจะนึกถึงกันเป็นเรื่องแรกๆ Sword Art Online (SAO) บอกเล่าเรื่องราวของเกมออนไลน์เสมือนจริงชื่อ "Sword Art Online" ที่สร้างขึ้นในปี 2022 ผู้เล่นที่สามารถเล่นได้จะต้องสวมอุปกรณ์ที่เรียกว่า Nerf Gear หมวกกันน็อคที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงประสาทสัมผัสของตนได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับโลกเสมือนจริงที่รู้สึกจริงๆ ตายก็จะตายจริงๆ โดยที่วันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นมากกว่า 10,000 คนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ที่พบว่าตัวเองไม่สามารถออกจากเกมได้ วิธีเดียวที่จะปลดปล่อยพวกเขาออกจากเกมนี้ได้คือเอาชนะบอสที่ระดับ 100 ของ Aincrad Tower เนื้อเรื่องก็จะประมาณนี้นะครับสำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านแล้วยังไม่เคยดูอนิเมะเรื่องนี้โดยปกติแล้วตัวเอกของ SAO จะเป็นคิริโตะ แต่ใน “Sword Art Online Progressive The Movie” เรื่องราวจะเปลี่ยนไปสู่มุมมองของนางเอกอาสึนะ และใน Progressive เราจะกลับไปที่โครงเรื่องที่เจาะลึกอดีตที่ยังไม่ได้บอกเล่า เผยความเปราะบางภายในใจของอาสึนะได้ชัดเจนยิ่งขึ้นภาคนี้จะเป็นภาคต่อของ "Sword Art Online: Aria of the Starless Night" เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อาสึนะ และคิริโตะปีนขึ้นไปบนชั้นสี่ของหอคอย Aincrad ส่วนนี้จะไม่เน้นที่เนื้อหาของอาสึนะอย่างเดียวเหมือนภาคที่แล้ว แต่มีมุมมองเพิ่มเติมของคนอื่นๆ รอบตัวอาสึนะ รวมถึงคิริโตะที่มีบทบาทมากขึ้นในครั้งนี้ด้วย แถมยังแทรกเรื่องราวบางเรื่องที่ภาคปกติไม่ได้เล่าด้วย สำหรับผู้ที่เคยดูภาคปกติแล้วสามารถรับชมภาคนี้เพื่อความสนุกสนานยิ่งขึ้นครับสำหรับการเดินเรื่องนั้นเนื่องจากส่วนนี้อ้างอิงถึงภาคแรกเป็นบางส่วน ทำให้หนังเรื่องนี้เดาได้ง่าย (เพราะหลายคนน่าจะดูกันแล้ว) และเนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบง่ายเพราะแน่นอนว่าเรารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในเรื่อง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างไม่น่าสนใจสำหรับผู้ชมบางส่วน แต่ส่วนตัวผมชอบมันมากๆ นอกจากนี้ส่วนของเรื่องที่ผมชอบจริงๆ น่าจะเป็นฉากต่อสู้กับบอสความยาวกว่า 10 นาทีในตอนท้ายของเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำหน้าที่กระจายตัวละครได้ดี และฉากแอ็คชั่นก็น่าพึงพอใจมากและเนื่องจาก SAO Progressive: Scherzo of Deep Night เป็นภาคที่สองของตระกูล Progressive จะอ้างอิงถึงส่วนหลักบางส่วน จึงไม่มีการย้อนอดีต และจะดำเนินเรื่องเร็วมาก หากเพื่อนๆ ดู SAO เป็นครั้งแรกแนะนำให้ดูภาค “Aria of a Starless Night” และภาคหลักในช่วงแรกๆ มาก่อน เพราะเพื่อนๆ จะสามารถซึมซับได้ว่าหนังเกี่ยวกับอะไร ทำให้ให้เราได้มีส่วนร่วมในเรื่องราวบางเรื่องได้มากขึ้นครับตัวอย่างอนิเมะhttps://www.youtube.com/watch?v=m-VwLn2w1-gt=2sab_channel=MajorGroupเครดิตขอขอบคุณภาพจาก Facebook | Sword Art Onlineตัวอย่างอนิเมะโดย Major Group | Sword Art Online Progressive : Scherzo of Deep Night - Official Trailer [ซับไทย]ภาพปกโดยผู้เขียน immark | ภาพปก (ภาพประกอบภาพปก จาก Facebook | Sword Art Online)ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7, ภาพที่ 8, ภาพที่ 9 และภาพที่ 10 จาก Facebook | Sword Art Onlineบทความที่เกี่ยวข้องรีวิวอนิเมะ Sword Art Online Progressive: Aria of a Starless Night (2021) เรื่องราวที่จะมาเติมเต็มภาคแรก อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ,ฟรี

iPhone 15 Series อาจรองรับชาร์จเร็วที่ 35W
อ่าน

iPhone 15 Series อาจรองรับชาร์จเร็วที่ 35W

ข้อมูลจาก 9to5Mac เปิดเผยว่า iPhone 15 Series อาจมาพร้อมกับความเร็วในการชาร์จที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 35W นี่ถือเป็นการอัปเกรดอีกอย่างหนึ่งที่น่าดีใจมากสำหรับแฟน ๆ Apple เนื่องจากปัจจุบัน iPhone 14 Pro มีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 27W ส่วนด้านของ iPhone 14 นั้นมีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 20W เท่านั้น โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้เวลาชาร์จมากกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงฝั่งแอนดรอยด์ค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าความเร็วในการชาร์จ 35W นี้ จะรองรับ iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่น หรือจะจำกัดไว้แค่ใน iPhone 15 Pro เท่านั้น ถ้าดูจากประวัติที่ผ่านมานั้น เป็นไปได้ว่าความเร็วนี้อาจจะรองรับแค่ใน iPhone 15 Pro เท่านั้น เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างรุ่น Pro และรุ่นปกติ ที่มา : Gizmochina.com

5 Series Y สุดจิ้น ฟินกระจาย
อ่าน

5 Series Y สุดจิ้น ฟินกระจาย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Series Y และผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้าสู่โลกของ Y พลาดไม่ได้กับ 5 เรื่องเด็ดที่จะสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ บางครั้งอาจมีเสียน้ำตาแต่สุดท้ายจะจบลงด้วยความอิ่มเอมใจ ผู้อ่านที่รักคะ … ห้ามพลาดเลยค่ะ บอกได้แค่นี้ 😊1.    เพราะเราคู่กัน (2gether The Series)บอกได้เลยว่าสำหรับเรื่องนี้นั้น สร้างความจิ้น ฟินกระจายไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้นแต่ดังไกลถึงต่างแดน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทุกสัปดาห์ ความลงตัวของเรื่องนี้เกิดจากหลายๆองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบทนิยายที่เขียนโดย ”JittiRian” ซึ่งมีฐานแฟนนิยายที่ค่อนข้างเหนียวแน่น base ของเรื่องนี้มีความโดดเด่นจากการนำบทเพลงของวง Scrubb มาเป็นเส้นเรื่อง ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้ดี เมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์มีการปรับบทที่สร้างความกลมกล่อมเพิ่มความดึงดูดให้กับเรื่องมากยิ่งขึ้น รวมถึงเคมีที่ลงตัวของเหล่าบรรดานักแสดงโดยเฉพาะคู่หลักที่แคสคาแรคเตอร์มาได้ตรงกับบทที่สุด ไม่ว่าจะเป็น”ไบร์ท” ที่ต้องสวมบท “สารวัตร” ที่มีความนิ่ง เท่ เป็นทั้งนักบอลและเล่นดนตรี น่าจะเป็นคาแรคเตอร์หนุ่มๆที่ใครๆก็นึกถึง สำหรับไทน์มีความซนๆแต่แฝงไปด้วยความน่ารัก อ่อนโยน ซึ่งทั้งคู่เล่นได้สมบทบาทจนผู้ชมเชื่อและอินขั้นสุด ถึงกับว่าในบาง EP. ตัวเอกของเรื่องเกือบแย่กันเลยทีเดียว (โดนถล่มในสื่อออนไลน์ไม่น้อยเลย) เสน่ห์ของเรื่องนี้อีกอย่างคือการอิมโพรไวด์ของบรรดานักแสดงไม่ว่าจะเป็นตัวหลักหรือนักแสดงร่วมทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติน่าติดตามมากขึ้น อย่างไรก็ตามจากความดังนี้ก็ส่งผลให้ 2 หนุ่มนักแสดงนำของเรื่อง “ไบร์ท-วิน” ทะยานขึ้น Top Chart และเป็นที่ต้องการตัวของหลายๆผลิตภัณฑ์กันเลยทีเดียวเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่กันแล้วงานนี้ ... และหากถามถึงบทสรุปของเรื่องนี้นั้น ขอบอกว่า ความคลั่งรักและพรหมลิขิตมันได้ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุดแล้ว และสำหรับเรื่องนี้นั้นยังมีภาคต่อกันให้ฟินทั้งในส่วนของซีรีส์และภาพยนตร์กันด้วย ควรค่าแก่การติดตามที่สุดhttps://youtu.be/1ufpSqkv-nI2.    ปลาบนฟ้า (Fish upon the sky)ขอต่อกันที่บทประพันธ์ของ “JittiRian” อีกสักเรื่อง ต้องบอกว่าผลงานของนักเขียนท่านนี้จะมีลักษณะที่เป็นฟีลกู้ด อ่านแล้วทำให้ยิ้มและมีความสุขได้ไม่ยาก สำหรับเรื่องนี้ได้กล่าวถึงการแอบรักที่คิดว่าเอื้อมไม่ถึง เป็นไปไม่ได้ เปรียบเสมือนปลาที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็สอดแทรกถึงเรื่องการเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญในการยอมรับคุณค่าของตนเอง รวมถึงความผูกพันของสายสัมพันธ์ในครอบครัว และยังมีการหยิบจับประเด็นการคุกคาม การละเมิดสิทธิของบุคคลที่ควรตระหนักถึงของคนในสังคมอีกด้วย สำหรับในส่วนของตัวซีรีส์ทางผู้กำกับถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงแต่เข้าถึงได้ง่าย เรื่องนี้นอกจากเส้นเรื่องที่ว่าด้วยการแอบรัก (ซึ่งหลายๆคนคงเคยมีชุดประสบการณ์เหล่านี้อยู่บ้างทำให้เข้าถึงอารมณ์ได้ไม่ยาก) ความโดดเด่นที่น่าจับตาไม่แพ้กันนั้นคือจังหวะโบ๊ะบ๊ะของเรื่องที่ทำออกมาได้ดี สนุกและน่าติดตาม ต้องบอกว่าหัวเราะจนแทบกลั้นหายใจกันเลย สำหรับนักแสดงทั้งคู่หลักและคู่รองมีความเคมีที่เข้ากันได้ดี พระเอกของเรื่อง “ปอนด์” ถึงแม้จะเป็นนักแสดงใหม่แต่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตาคนคลั่งรักในบทของ ”หมอก” จนทำให้เชื่อได้ เรียกว่าหลายๆคนโดยตกก็ตรงนี้ ส่วนนายเอกนั้นรับบทโดย “ภูวินทร์” เล่นบท “ปี” ได้อย่างน่ารักน่าหยิกเพราะเล่นกันแบบไม่ห่วงหล่อกันเลย อีกบทที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เพราะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระเอก-นายเอก คือ บท “เมืองน่าน” ที่ต้องยอมใจคนแคสเลย แคสได้เหมาะกับคาแรคเตอร์มาก เพราะ “มิกซ์” มีความลงตัวทุกอย่างที่ทำให้รู้สึกได้ว่าเขาเป็นปลาบนฟ้าได้จริง ไม่แปลกใจที่ตัวเอกของเรื่องจะแอบรัก ถ้าหากจะให้นิยามถึงเรื่องนี้นอกจากเรื่องความคลั่งรักก็เห็นจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง การยอมรับในตัวตนของตนเองและมีความสุขไปกับมัน … แนะนำย้ำเลยว่าดูเถอะ คุณจะมีความสุขกับเรื่องนี้จริงๆhttps://youtu.be/6p22a14oj_03.    เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซ่ะดีๆ (TharnType The Series)ซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่องบังเอิญรัก สร้างมาจากนิยายดังบนเว็บไซต์ Dek-D.com ของนักเขียน “MAME” บทเริ่มจากความเกลียดสุดขั้วของนายเอก”ไทป์” (รับบทโดยกลัฟ) ที่มีต่อ “ธาร” (รับบทโดยมิว) พระเอกของเรื่อง นายเอกจะมีลักษณะที่เป็นคนแมนๆเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ชอบเกย์และต้องมาอยู่ร่วมห้องกับ  รูมเมทที่เป็นเกย์จึงรู้สึกต่อต้านและพยายามที่จะทำทุกทางให้พระเอกของเรื่องย้ายออกจากห้องไปแต่กลับกลายเป็นว่าทุกการกระทำกลับสร้างความสัมพันธ์ให้ก่อเกิดขึ้น ทั้งนี้บทยังกล่าวถึงปมที่เป็นประเด็นของตัวละครหลักทั้งคู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดแทรกเรื่องราวที่เป็นปัญหาทางสังคมที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับความโดดเด่นของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องคาแรคเตอร์แมนๆของนายเอกที่มักไม่ค่อยได้พบแล้ว ฉากเลิฟซีนที่ฟินจิกหมอนกันนั้น ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างแซบ เผ็ด ดุเดือดกันพอประมาณเลยทีเดียว นักแสดงสามารถถ่ายทอดออกมาได้ถึงอารมณ์ เรื่องนี้มีความครบรส และสำหรับความนิยมของเรื่องนี้นั้น บอกได้เลยว่าทั้งในไทยและต่างประเทศขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์กันตลอด ส่งผลให้ทั้งสองนักแสดงนำกลายเป็นคู่จิ้นแห่งปีในหลายรายการ ... นิยามสั้นๆสำหรับเรื่องนี้ “เกลียดอะไรได้อย่างนั้น”https://youtu.be/BeFFEICnz2A4.    นิทานพันดาว (1000 Stars)สำหรับเรื่องนี้นั้นสร้างจากนิยายชื่อดังของนักเขียน Bacteria ต้องบอกว่ามีฐานแฟนคลับที่คอยติดตามเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยเนื้อเรื่องในนิยายทั้งแก่นของเรื่องที่น่าติดตามและภาษาที่ใช้สวยงามเข้าใจง่าย บทที่เริ่มจากตัวนายเอก (รับบทโดยมิกซ์) ที่ใช้ชีวิตลูกคนรวยแบบไม่เห็นคุณค่าเพราะรู้ว่าตัวเองใกล้จะตายจากโรคหัวใจที่เป็นอยู่ วันหนึ่งได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่และเริ่มหาความหมายของชีวิตโดยยอมลำบากขึ้นไปเป็นครูบนดอยและได้พบพระเอก (รับบทโดยเอิร์ท) เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาดูแลนายเอกจนก่อเกิดความสัมพันธ์อันดีและนำมาซึ่งเรื่องราวต่างๆ ความโดดเด่นของเรื่องนี้คงต้องบอกว่า บทบาทที่นักแสดงหลักของเรื่องถ่ายทอดผ่านทางสายตาและท่าทางนั้นแสดงออกมาได้ดีมีความเป็นธรรมชาติ เคมีเข้ากัน (หลายฉากที่จะตกหลุมรักทั้งนายเอกและพระเอกอย่างไม่ทันตั้งตัว) นอกจากนี้แล้วนักแสดงสบทบต่างก็แสดงเป็นธรรมชาติสูงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือภาพที่ตัดต่อออกมาสวยงาม ธรรมชาติ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวผาปันดาวกันเลยทีเดียว (ในเรื่องถ่ายทำที่ จ.เชียงราย)  สำหรับเรื่องนี้นอกจากมีความโรแมนติกทั้งเรื่องบทและภาพแล้ว ยังสอดแทรกประเด็นอิทธิพลของผู้มีอำนาจและความเหลื่อมล้ำของสังคมให้ได้ตระหนักกันด้วย ... และหากจะหาบทสรุปของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องการหาความหมายของชีวิตและอยู่กับมันอย่างมีความสุขhttps://youtu.be/rqifRDavfcA5.    ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed)ขอแนะนำข้ามฝั่งมาที่จีนสักหน่อย คงต้องบอกว่าเรื่องนี้นั้นดังเป็นพลุแตกเลยก็ว่าได้ สำหรับซีรีส์จีนกำลังภายในที่มีคำนิยามว่า “ซีรีส์มิตรภาพลูกผู้ชาย” เป็นบทประพันธ์ของ โม่เซียงถงซิ่ว นำแสดงโดย เซียวจ้าน และ หวัง อี้ป๋อ โดยเรื่องราวกล่าวถึงการผจญภัยของ 2 ตัวละครเอก เว่ยอู๋เซียน และ หลานวั่งจี ที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์ตั้งแต่วัยเยาว์โดยตั้งปณิธานจะปราบเหล่ามารให้หมดไปจากยุทธภพ เรื่องราวมีจุดหักเหจนทำให้สองสหายเหมือนยืนกันคนละฝั่ง แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินเรื่องกลับมีหลายปมซ้อนอยู่ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ ประกอบกับเหล่าตัวนักแสดงหลักถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้น่าติดตามในทุกตอน (มี 50 EP) คุณอาจจะตกหลุมรักความน่ารักของเว่ยอู๋เซียน และไม่สามารถละสายตาจากความนิ่งๆ เท่ๆ ของหลานวั่งจีได้ ทั้งนี้ต้องบอกว่าเลยว่าถ้าจะถามหาฉากเลิฟซีนนั้นคงยาก (ก็มิตรภาพลูกผู้ชาย) แต่ถ้าถามถึงความฟินนั้นมีแบบจุกๆ ครบรสมากเรื่องนี้ สนุกและลุ้นไปจนจบกันเลยทีเดียว พลาดไม่ได้ ... หากจะต้องหานิยามของเรื่องนี้คงเป็นเรื่องความซื่อตรงต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นในการทำความดีhttps://youtu.be/9BVGF8CqejMเครดิตภาพ: ปกโดยผู้เขียนอ้างอิงวิดีโอประกอบบทความ :วิดีโอที่ 1 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 2 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 3 MeMindY / youtubeวิดีโอที่ 4 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 5 WeTV Thailand / youtube จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ AMOLED ซะที พร้อม Galaxy Watch 6 Series อย่างเป็นทางการ!
อ่าน

เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ AMOLED ซะที พร้อม Galaxy Watch 6 Series อย่างเป็นทางการ!

นอกจากในงาน Samsung Galaxy Unpacked จะได้เปิดตัว Samsung Galaxy Z Flip5 และ Z Fold5 แล้ว ยังได้เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ Dynamic AMOLED 2x เสียที พร้อม Galaxy Watch 6 Series ที่ในที่สุดก็พาปุ่มหมุนที่เป็นแอนะล็อกกลับมาเสียที เรียกได้ว่าเปิดตัวกันแบบครบเซต ครบ Ecosystem เลยก็ว่าได้ สำหรับงานเปิดตัว Samsung Galaxy Unpacked รอบเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ได้เปิดตัวทั้ง Samsung Galaxy Z Flip5 และ Z Fold5 และได้เปิดตัวแท็บเล็ตเรือธงของค่ายอย่าง Samsung Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra ที่ทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X, รองรับ 5G, ชิปเซตเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 และที่สำคัญ ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ! รวมถึง Samsung Galaxy Watch6 Series ที่ได้พารุ่น Classic ที่ใช้ปุ่มหมุนแบบแอนะล็อก กลับมาให้ได้ใช้งานกันแล้ว Samsung Galaxy Tab S9 Series Samsung Galaxy Tab S9 Series เป็นแท็บเล็ตระดับเรือธงของทางซัมซุงที่ห่างหายไปจากการเปิดตัวนานกว่า 1 ปี โดยในคราวนี้มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ทั้งในด้านดีไซน์ สเปก ความทนทาน ความพรีเมียม และที่สำคัญ นี่คือแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S รุ่นแรกที่กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 แล้ว ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Tab S9 Series มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ แต่ก็ดุดันด้วยหน้าจอที่ใช้พาแนลเป็น Dynamic AMOLED 2X ทั้ง 3 รุ่น (ทั้ง Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra) ซึ่งทำให้หน้าจอของแท็บเล็ตซีรีส์นี้ รองรับเทคโนโลยี Vision Booster ซึ่งเป็น Intelligent Outdoor Algorithm หรืออัลกอริทึมที่จะช่วยเรื่องความสว่างของหน้าจอ ให้มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม สู้แสงแดด (โดยเฉพาะแดดไทย) ได้ดีกว่าเดิมด้วย โดย Samsung Galaxy Tab S9 มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว, Tab S9+ มีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว และ Tab S9 Ultra มีหน้าจอขนาด 14.6 นิ้ว นอกจากนั้นด้วยวัสดุ Armor Aluminium ที่แน่นหนาขึ้น ทำให้กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกด้วย สเปกของ Samsung Galaxy Tab S9 Series ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่เป็นเรือธงที่สุดในตอนนี้ แต่นอกจากนั้น ยังรองรับการ Ray Tracing ในระดับอุปกรณ์พกพาอีกด้วย (แม้จะยังไม่มีเกมรองรับ) รวมถึงอัดลำโพงมาแน่นถึง 4 ตัวในทุกรุ่น และระบบเสียงรอบทิศทางด้วย Dolby Atmos ส่วน S-Pen ปากกาแปะหลังเคสที่ซัมซุงชอบแถมมาให้ในกล่องก็ยังมีแถมให้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้ S Pen ก็กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 เช่นเดียวกับแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังได้รับการปรับปรุงให้ปลายปากกาลดการรับรู้เมื่อเผลอคลิกโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab S9 Series ยังรองรับแอปฯ Goodnotes แอปฯจดโน้ตยอดนิยมที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ ก็ได้มี ‘แถม’ ให้กับทุกคนที่ซื้อ Tab S9 Series ฟรี 1 ปีอีกด้วย ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ของ Samsung Galaxy Tab S9 Series อย่างเช่น DeX Mode การเชื่อมต่อระหว่าง Galaxy Ecosystem และการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ Windows ก็ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนเดิม ! และกล้องถ่ายภาพของ Galaxy Tab Tab S9 Ultra มีกล้องหลัง 13 MP และ 8 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP และ 12 MP ส่วน Galaxy Tab S9+ มีกล้องหลัง 13 MP และ 8 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP  และ Galaxy Tab S9 มีกล้องหลัง 13 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP Samsung Galaxy Tab S9 Series วางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ 2 สี ประกอบไปด้วยสีดำกราไฟต์ (Graphite), และสีเบจ (Beige) โดยจะวางขายจริงในวันที่ 11 ส.ค. 2023 ส่วนราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยจะประกอบไปด้วย Galaxy Tab S9 WiFi (8/128GB) ราคา 28,900 บาท Galaxy Tab S9 5G (12/256GB) ราคา 31,900 บาท Galaxy Tab S9+ WiFi (8/256GB) ราคา 35,900 บาท Galaxy Tab S9+ 5G (8/128GB) ราคา 39,900 บาท Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12/128GB) ราคา 49,900 บาท โดยจะให้เปิดพรีออเดอร์จนถึงวันที่ 10 ส.ค. 2023 ผ่านช่องทางออนไลน์ Samsung Thailand, Shopee, Lazada แต่ละช่องทางก็จะมีโปรโมชันแตกต่างกันไป โปรโมชันของ Samsung Thailand อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับสิทธิ์เก่าแลกใหม่ทั่วประเทศ สูงสุด 37,500 บาท ลูกค้าใหม่ที่สั่งซื้อครั้งแรกรับส่วนลด 1,000.- เมื่อใส่โค้ด NEWMEM สิทธิ์แลกซื้อ Galaxy Watch6, Galaxy Buds2 Pro ด้วยส่วนลดสูงสุด 30% ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่อนผ่าน TTB ใส่โค้ด TTBTS9 รับเครดิตเงินคืน 5% ผ่อนผ่าน KBank ใส่โค้ด KBATS9 รับเครดิตเงินคืน 4% ผ่อนผ่าน Krungsri ใส่โค้ด BAYTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% ผ่อนผ่าน SCB ใส่โค้ด SCBTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% พรีออเดอร์ Samsung Galaxy Tab S9 Series ใหม่ ราคาและโปรโมชั่นล่าสุด สั่งจองล่วงหน้า ได้ที่นี่เลยค่ะ Samsung Thailand   และยังสามารถสั่งจองบน Shopee และ Lazada ของซัมซุงได้อีกด้วย โปรโมชันของ Shopee อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับโค้ดเงินคืนสูงสุด 2,495 Coins รับส่วนลด 30% เมื่อสั่งซื้อ Book Cover Keyboard, Galaxy Watch 5/6 Series, Galaxy Buds2 / Buds2 Pro โปรโมชันของ Lazada อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับส่วนลด 30% เมื่อสั่งซื้อ Book Cover Keyboard, Galaxy Watch 5/6 Series, Galaxy Buds2 / Buds2 Pro Samsung Galaxy Watch6 Series Samsung Galaxy Watch6 Series นาฬิกาประจำค่าย ในปี 2023 นี้ เปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นได้แก่ Galaxy Watch6 ตัวหน้าปัดธรรดา บอดี้ทำจากอะลูมิเนียม และ Galaxy Watch6 Classic หน้าปัดคลาสสิกที่มีวงแหวนแอนะล็อกหมุนได้ บอดี้ทำจากสแตนเลสสตีล ด้านดีไซน์จะมีความ Smartwatch มากขึ้น หลังจากที่รุ่นก่อนออกไปในทาง Sportwatch ส่วนหน้าจอจะใช้ Super AMOLED ที่มีขนาดหน้าปัดใหญ่ขึ้น 20% มีให้เลือกตั้งแต่ 40, 43, 44 และ 47 มิลลิเมตร ส่วนขอบจอมีขนาดบางลง 30% การเปลี่ยนสายเองก็ง่ายด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ชิปเซตภายจะใช้เป็น Exynos W930 ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น 18% เพื่อรองรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และฟีเจอร์เก่าที่ทำงานได้ละเอียดกว่าเดิม เช่น ฟีเจอร์ติดตามการเคลื่อนไหวในการออกกำลังกายกว่า 90 แบบ, ฟีเจอร์ BioActive วิเคราะห์การเต้นของหัวใจขณะออกกำลักาย และแจ้งเตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจนั้นสูงหรือต่ำเกินไป แบตเตอรี่ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ทาง Samsung เคลมว่าหากปิดโหมด Alway On จะอยู่ได้ถึง 40 ชั่วโมง และถ้าเปิดไว้จะลดลงมาเหลือ 30 ชั่วโมง ส่วนแรมมีขนาด 2GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB Galaxy Watch 6 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท โดยมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite, Silver และ Gold หน้าปัด 40 มม. ราคา 9,900 บาท หน้าปัด 44 มม. ราคา 11,900 บาท Galaxy Watch 6 Classic จะมีราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Graphite, Silver หน้าปัด 43 มม. ราคา 13,900 บาท หน้าปัด 43 มม. LTE ราคา 15,900 บาท หน้าปัด 47 มม. ราคา 14,900 บาท หน้าปัด 47 มม. LTE ราคา 16,900 บาท สำหรับการพรีออเดอร์จะเปิดถึงวันที่ 10 ส.ค. 2023 ทำได้ผ่าน Samsung Thailand, Shopee โดยโปรโมชันก็จะแตกต่างไปแต่ละช่องทาง โปรโมชันของ Samsung Thailand ส่วนลด 1,500 บาท  รับฟรี สายนาฬิกา Fabric Band สีครีม มูลค่า 1,290 บาท ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่อนผ่าน TTB ใส่โค้ด TTBTS9 รับเครดิตเงินคืน 5% ผ่อนผ่าน KBank ใส่โค้ด KBATS9 รับเครดิตเงินคืน 4% ผ่อนผ่าน Krungsri ใส่โค้ด BAYTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% ผ่อนผ่าน SCB ใส่โค้ด SCBTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% โปรโมชันของ Shopee ส่วนลด 1,500 บาท  รับฟรี สายนาฬิกา Fabric Band สีครีม มูลค่า 1,290 บาท รับโค้ดเงินคืน 5% สูงสุด 770 Coins

Huawei Mate 60 Series อาจรองรับการโทรด้วยเสียงผ่านดาวเทียม !
อ่าน

Huawei Mate 60 Series อาจรองรับการโทรด้วยเสียงผ่านดาวเทียม !

ล่าสุดมีรายงานว่า Huawei กำลังพัฒนา Huawei Mate 60 Series ซึ่งคาดว่าจะรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่อาจรองรับการโทรด้วยเสียงด้วยผ่านดาวเทียมด้วยชิป PA ตัวใหม่ ซึ่งใน Huawei Mate 50 Series รองรับแค่การส่งข้อความผ่านดาวเทียมเท่านั้น ชิปดังกล่าวนั้นถูกผลิตโดยผู้ผลิตชิปในจีน และได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับระบบสื่อสารเคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม Tiantong-1 ระบบดาวเทียมสามารถใช้สำหรับการสื่อสารด้วยเสียง และสามารถส่งภาพ ส่งตำแหน่งได้แม่นยำ  ชิปนี้จึงมีความจำเป็นสำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม และในปัจจุบันชิปดังกล่าวอยู่ใน Huawei Mate X3 และ P60 Series ซึ่งทั้ง 2 รุ่นน้้น รองรับแค่การสื่อสารผ่านดาวเทียมแบบ 2 ทาง ผ่าน SMS เท่านั้น  หากข้อมูลนี้เป็นความจริง Huawei Mate 60 Series จะเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่รองรับการโทรด้วยเสียงผ่านการเชื่อมต่อดาวเทียมเป็นครั้งแรก เพิ่มเติมคือใน iPhone 14 Series ของ Apple รองรับการโทรผ่านดาวเทียมเช่นกัน แต่สามารถใช้ได้แค่เฉพาะการโทร SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมเท่านั้น ที่มา : Gizmochina.com

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Samsung Galaxy Tab S8 Series แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
อ่าน

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Samsung Galaxy Tab S8 Series แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?

สวัสดีเหล่าสาวก Samsung ทุกท่านครับ หลังจาก Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series ในงาน Samsung Galaxy Unpacked July 2023 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็สร้างความสนใจให้แก่เหล่าสาวกที่ชื่นชอบสายแท็บเล็ตไม่ใช่น้อยๆเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลายๆ อย่างให้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Samsung Galaxy Tab S8 Series แต่จะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกันก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อแท็บเล็ตของท่านเองการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab ครั้งนี้จะเปรียบเทียบแบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่Samsung Galaxy Tab S9 Standard กับ Samsung Galaxy Tab S8 Standard Samsung Galaxy Tab S9+ กับ Samsung Galaxy Tab S8+Samsung Galaxy Tab S9 Ultra กับ Samsung Galaxy Tab S8 Ultraดีไซน์Samsung Galaxy Tab S9 Series กับ Tab S8 Series จะมีดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูค่อนข้างเหมือนกันทั้งขนาดและน้ำหนัก ถ้ามองไว้ตาเปล่า แต่มันจะแตกต่างกันดังนี้S9 Standard น้ำหนัก 500 กรัม หนา 5.9 มม. / S8 Standard น้ำหนัก 507 กรัม หนา 6.3 มม. S9+ น้ำหนัก 586 กรัม / S8+ น้ำหนัก 572 กรัมS9 Ultra มีน้ำหนัก 737 กรัม / S8 Ultra น้ำหนัก 728 กรัมแต่จุดแตกต่างกันจริง คือ Tab S9 Series มีมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 คือ สามารถทนน้ำได้ที่ความลึกระดับ 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ที่กันทั้งตัวเครื่องและปากกา S Pen ในขนาดที่ Tab Series อื่นๆ ไม่สามารถทนน้ำทนฝุ่นได้ กลายเป็นข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ชอบใช้แท็บเล็ตภาคสนามที่ไม่ต้องกลัวน้ำไม่เข้าเครื่องเหมือนก่อนแล้วหน้าจอหน้าจอ Tab S9 Series จะเป็น Dynamic AMOLED 2X ในขณะส่วนหน้าจอของ Tab S8 Series จะเป็น sAMOLED ในรุ่น S8+ และ S8 Ultra ยกเว้น S8 Standard จะเป็น LTPS TFT แต่ทุกรุ่นรองรับ Refresh Rate 120Hz เท่ากัน และขนาดหน้าจอยังเหมือนเดิมSamsung Galaxy Tab S9 Standard / Samsung Galaxy Tab S8 Standard ขนาด 11 นิ้วSamsung Galaxy Tab S9+ / Samsung Galaxy Tab S8+ ขนาด 12.4 นิ้วSamsung Galaxy Tab S9 Ultra / Samsung Galaxy Tab S8 Ultra ขนาด 14.6 นิ้วสเปกTab S9 Series ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธงตัวล่าสุด Snapdragon 8 Gen 2 S9 Standard แรม 8GB/12GB ความจุ 128GB/256GB S9+ แรม 12GB ความจุเลือกได้ 256GB/512GB S9 Ultra แรม 12GB ความจุเลือกได้ 256GB/512GB ส่วน Tab S8 Series ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งแรงน้อยกว่า มีแต่แรมแค่ 8GB และมีความจุให้แค่ 128GB โดยรองรับ 5G เหมือนกันทั้งสองซีรี่ย์กล้องทั้ง Tab S9 Series และ Tab S8 Series จะมาพร้อมสเปกกล้องแตกต่างกันนิดนึง ตามดังนี้ S9 Standard กล้องหลัง Main 13MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP ในแค่ที่นี้ Tab S8 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 6MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MPS9+ กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP S9 Ultra กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Main 12MP + Ultrawide 12MPในแค่ที่นี้ Tab S8 Series มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 6MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น Tab S8 Ultra กล้องหน้าเหมือนรุ่น Tab S9 Ultraแบตเตอรี่แบตเตอรี่ Tab S9 Series มีความจุแบตเหมือนกับตัว Tab S8 Series ยกเว้น Tab S9 Standard ที่มีความจุแบต 8400 mAh ซึ่งมากกว่า Tab S8 Standard ที่มีความจุแบตแค่ 8000 mAh เท่านั้นเองราคาราคาของ Tab S9 SeriesS9 Standard WiFi8GB/128GB ราคา 28,900 บาท12GB/256GB ราคา 34,900 บาทS9 Standard 5G 8GB/128GB ราคา 32,900 บาท12GB/256GB ราคา 38,900 บาทS9+ WiFi12GB/256GB ราคา 35,900 บาท12GB/512GB ราคา 41,900 บาทS9+ 5G12GB/256GB ราคา 39,900 บาท12GB/512GB ราคา 45,900 บาทS9 Ultra (มีแค่รุ่น 5G)12GB/256GB ราคา 49,900 บาท12GB/512GB ราคา 55,900 บาทราคาของ Tab S8 Series ณ เวลานี้ S8 Standard (ณ เวลานี้มีแค่รุ่น 5G)8GB/128GB ราคา 26,900 บาทS8+WiFi 8GB/128GB ราคา 28,900 บาท5G 8GB/128GB ราคา 33,900 บาทS8 Ultra WiFi 8GB/128GB ราคา 33,900 บาท5G 8GB/128GB ราคา 40,900 บาทซึ่งราคา Tab S9 Series อาจจะแรงไปหน่อย เพราะอย่างเพิ่งเปิดตัวไปแต่ก็แลกมาด้วยชิปประมวลผลที่แรงกว่าเดิม รวมทั้งหน้าจอสวยและความปลอดภัยของเครื่องที่ดีขึ้นสรุปแล้วซื้อแท็บเล็ตรุ่นไหนดีตรงนี้ขอแบ่งมุมมองเป็น 3 กลุ่มผู้ใช้งาน คือ คนใช้งานทั่วไป, คนใช้เพื่อเล่นเกม และครีเอทีฟหรือครีเอเตอร์คนใช้งานทั่วไป ตรงนี้ผมมองว่าสามารถใช้ได้ทุกรุ่น ถือว่าคุ้มค่าทุกรุ่น เพราะประสิทธิภาพในการทำงานดีพอสมควร สนุกกับความบันเทิงได้อย่างเต็ม และสามารถใช้แทนโน้ตบุ๊คได้ด้วย หากใช้ภาคสนามและประสิทธิภาพแรงแนะนำเป็นตัว Tab S9 Series ไปเลย เพราะมีมาตรฐาน IP68 ที่กันน้ำกันฝุ่น ไม่ต้องกลัวเครื่องเสียหายจากน้ำ (ใช้ภาคสนามแนะนำเป็น S9 Standard เพราะเครื่องเล็กพกพาสะดวกกว่า)คนใช้เพื่อเล่นเกม ตรงนี้ผมมองว่าถ้าเป็นพวกแคสเกมถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะอย่างประสิทธิภาพของชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 1 แรงพอสมควร โอกาสที่จะกระตุกมีน้อยมาก ยกเว้นไม่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น เล่นเกมไม่ได้ อันนี้จบเลย แต่ขอเพิ่มเติมสำหรับคนที่ต้องการจอใหญ่เลยแนะนำเป็นตัว S9 Ultra ไปเลยดีกว่าครีเอทีฟหรือครีเอเตอร์ ตรงนี้ผมมองว่าถ้าเป็นคนทำงานสายนี้อยู่แล้ว ผมแนะนำใช้รุ่น S9+ และ S9 Ultra เพราะแรม 12GB ที่โคตรแรงแล้ว หน่วยความจำ 512GB ที่สามารถเก็บงานไว้เครื่องได้เยอะอีกด้วย และเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์ รับรองคุ้มค่าอย่างแน่นอนเป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ Tab S9 Series ในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อระหว่าง Tab S9 Series กับ Tab S8 Series ได้นะครับส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Tab S9 Series ก่อนใครสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นดีจาก True5G ได้แล้ววันนี้จนถึง 10 สิงหาคมนี้สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึก ชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลย หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่Facebook : WV reviewบทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย : WVเครดิตภาพภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจากเว็บไซต์ Samsung : Tab S9 และ Tab S8 ภาพประกอบจาก Facebook : Samsung : 1-7ภาพประกอบที่ 8 จาก Facebook : TrueMove Hเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !