TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Bitter Sweet the series” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
คูเปอร์-ปอย เผยบทบาทใหม่ ความท้าทายครั้งใหญ่ใน Bitter Sweet The Series
ข่าวบันเทิงวันนี้ ปักหมุดรอกันเลยทีเดียว สำหรับแฟนๆ ของคู่จิ้นสุดคิวท์ คูเปอร์ ภัทรพสิษฐ์ ณ สงขลา และ ปอย กฤษณพงศ์ สุนทรชัชเวช ที่โด่งดังจากบทบาท บ่น หนุ่มมาดเท่จอมกวนและ เดือนหนาว หนุ่มซื่อๆ ใสๆ ในซีรีส์สุดปัง My Engineer มีช็อป มีเกียร์ มีเมียรึยังวะ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และยังประทับใจแฟนๆ จนถึงตอนนี้ ล่าสุด คูเปอร์ปอย ได้โคจรมาเจอกันอีกครั้ง กับซีรีส์เรื่องใหม่ Bitter Sweet The Series โดยผู้บริหารคนเก่ง แนนซี่ ชลลดา ทรงลำเจียก แห่ง ไทร ครีเอชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Tri Creation International Co., Ltd)แง้มข่าวดีว่าเตรียมเปิดกล้องถ่ายทำกันต้นปี 2565 งานนี้ 2 หนุ่มกอดคอกันมาเผยความรู้สึกที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในบทบาทใหม่ ความท้าทายครั้งใหญ่ของทั้งคู่ และความลับที่ห้ามให้ใครรู้!! คูเปอร์-ปอย เผยบทบาทใหม่ ใน Bitter Sweet The Series บทบาทของแต่ละคนใน Bitter Sweet The Series? คูเปอร์: บทบาทของคิม ค่อนข้างเป็นตัวละครที่น่าสนใจ เป็นผู้บริหารที่อายุน้อยมาก แล้วอยู่ๆ ทำไมเขาถึงได้มาบริหารโรงแรม คือมันมีที่มา มีเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว ความหวัง ความฝัน และความรัก การที่คนอายุน้อย ต้องมาบริหารหรือรับผิดชอบหน้าที่ใหญ่ แน่นอนว่าต้องมีความกดดัน ความคาดหวัง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังมีเรื่องความรัก มีสิ่งที่ตัวเองชอบ มีสิ่งที่กลัว เหมือนเขาแบกความหวังของครอบครัวว่าต้องทำให้ได้นะ ซึ่งเราก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จนไม่รู้ว่าตัวเราชอบอะไร ต้องการอะไร ความสุขของเราอยู่ที่ไหน ปอย: เป็นเชฟริว ไม่ค่อยใกล้เคียงกับปอยสักเท่าไหร่ มีบุคลิกที่โตขึ้น คาแรคเตอร์จะเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้ซื่อเหมือนบทบาทที่เคยแสดงมา มีความเนี้ยบ ปรับบุคลิกเยอะพอสมควร ตัวปอยจะง้องแง้งหน่อย แต่ในซีรีส์มีจะความโต บุคลิกดี ยากไหมต้องปรับคาแรคเตอร์? คูเปอร์: ยากครับ จากที่เคยเล่นมา บางบทคนอาจจะมองว่ามันยากมาก เป็นเด็กมีปัญหาหรืออะไรแบบนี้ แต่อันนี้ต้องมาเป็นคนปกติธรรมดาแต่เป๊ะ เราจะทำยังไงให้คนรู้สึกว่าคนๆ นี้เป๊ะ โดยที่เค้าไม่ได้แสดงอะไรออกมาว่าคิดอะไร รู้สึกอะไร มันไม่ใกล้ไม่ไกลตัว เค้าเป็นคนที่แสดงออกน้อย สื่อสารออกมาน้อย ความยากอยู่ที่ว่าจะทำยังไงล่ะ แสดงออกน้อยแต่คนต้องเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เรารู้สึก เพราะฉะนั้นเราต้องทำความเข้าใจกับตัวละครให้ได้มากขึ้น อินกับมันให้ได้มากขึ้น รู้ข้อมูลหลายๆ อย่างให้ได้มากขึ้น เขาแสดงอารมณ์น้อยแต่ความรู้สึกต้องเยอะ ต้องหาความพอดีคือความยาก ปอย: สิ่งที่รู้สึกว่ายากมาก คือบุคลิกท่าทางในเรื่องต้องโตกว่าตัวปอย และด้วยอาชีพการงานเป็นเชฟ ที่ปอยคิดว่ามันยากคือการที่จะเล่นให้เชื่อว่าเราเป็นเชฟจริงๆ ปอยต้องไปฝึกท่าทาง การทำขนม การจับอุปกรณ์ ส่วนนิสัยตัวริวกับปอยยังมีความคล้ายกัน แต่มีวุฒิภาวะขึ้น ปอยยังโตไม่เท่าริวในตอนนี้ แสดงเป็นเชฟต้องไปฝึกไปเรียนอะไรบ้าง? ปอย: มีการเวิร์คชอปการทำขนมจริงจังเลย และก็ปรับท่าทางให้ดูทะมัดทะแมง เสน่ห์ของตัวละคร คิม กับ ริว? ปอย: เสน่ห์ของริว คือเข้าใจคนอื่น มีความเฟรนด์ลี่ คนอื่นเข้าถึงได้ ริวคิดบวก เป็นคนปล่อยพลังบวกให้คนอื่น คูเปอร์: เสน่ห์ของคิม เป็นคนคนหนึ่งที่เป๊ะไปทุกอย่าง แต่จุดบกพร่องของเขาแค่เป็นจุดเล็กๆ เพราะเขาแพ้แค่อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับหน้าที่การงาน ซึ่งให้ใครรู้ไม่ได้ และเสน่ห์อีกอย่างคือรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขามีค่ามากเพราะเขาแทบไม่ยิ้มเลย ต้องลุ้นว่าจะยิ้มตอนไหน ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้? คูเปอร์: ความที่คิมเป็นคนละขั้วกับริว ทำไมคนละขั้วมาอยู่ด้วยกันได้ และก็เหมือนเป็นการสร้างชาเลนจ์ซึ่งกันและกัน คิมเป็นเจ้าของโรงแรมมีชื่อเสียงเรื่องขนมหวาน ส่วนริวเป็นเชฟด้านขนมหวานที่เก่งมาก ใครกินก็ชอบ แต่ทำไมมีคนอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นบอสใหญ่สุด กลับไม่ยอมกินขนมที่เขาทำ มันเลยทำให้น่าคิดตามว่าจะแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ จะมาเจอกันตรงไหน จะรู้สึกดีกันได้ยังไง พอตอนรู้บทคร่าวๆ ค่อนข้างตื่นเต้นและอยากที่จะทำมากครับ สิ่งที่ได้จากซีรีส์เรื่องนี้? คูเปอร์: ได้รอยยิ้ม ได้ความสุข เป็นซีรีส์ฟีลกู๊ดที่ครบรส เป็นเรื่องราวของชีวิตคน ตัวละครแต่ละตัวเหมือนแทนคนในชีวิตจริงแต่ละประเภท บางคนเกิดมาพร้อมทุกอย่าง ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก สิ่งที่ตัวเองชอบ บางคนไม่รู้แม้กระทั่งตัวเองรักตัวเองชอบอะไร แต่แค่รู้ว่าเกิดมาต้องทำตามหน้าที่ หรือบางคนเกิดมามีสิ่งที่รัก แต่ก็ต้องต่อสู้กับครอบครัว ที่เขาจะให้ทำให้เป็นตามแบบที่ต้องการ คนที่ดูก็คงได้มุมมองที่นอกเหนือจากความฟินความจิ้นและอาจจะได้หิวด้วย รู้สึกยังไงที่ได้กลับมาร่วมงานกันในรอบ 2 ปี? ปอย: กลับมาร่วมงานกับพี่เปอร์อีกครั้ง ไม่ได้รู้สึกว่ากดดันนะ เพราะหลังจากจบ My Engineer เราได้เจอกันตลอด แต่แค่รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับมาร่วมถ่ายซีรีส์กับพี่เปอร์และทุกๆ คนอีกครั้งหนึ่ง ในบทบาทใหม่ๆ ด้วย คูเปอร์: กลับมาเจอกับปอย ไม่ต้องปรับจูนเลย เราคุยกันตลอดตั้งแต่ My Engineer เปอร์จะคุยกับเพื่อนร่วมงานทุกคน ณ ตอนนี้เราไม่ได้สนิทกันแค่เปอร์ปอยแล้ว เราสนิทกับทุกคน อินทัช, เชน, ไนน์ไนน์ แม้กระทั่งทีมงานก็ยังมาถามเลยว่า เรารู้สึกอะไรเพิ่มเติมจากบทมั้ย กับทีมงานกับผู้กำกับ พี่ปี๊ด ปัญจพงศ์ เราก็คุยกันปรับจูนตลอด นักแสดงก็ได้มีส่วนร่วมในการทำออกมาด้วย อยากเริ่มถ่ายทำแล้ว อยากเห็นซีรีส์ของเราแล้ว แฟนๆ รอคอยการกลับมา สปอยล์ได้ไหมว่าซีรีส์เรื่องนี้จะฟินขนาดไหน? ปอย: จะมีความฟินความจิ้นมากขึ้นแน่นอน มีความกล้าเล่นมากกว่าเดิม เพราะเราสนิทกันมากกว่าเดิมเยอะเลย คูเปอร์: มากขึ้นแน่ๆ ใน My Engineer จะแกล้งกันแหย่กัน แต่ใน Bitter Sweet The Series บทบาทโตขึ้น ในเรื่องอารมณ์ความรู้สึกคิดว่าน่าจะเต็มขึ้น ฝากอะไรถึงแฟนๆ? ปอย: ขอฝาก Bitter Sweet The Series ด้วยนะครับ เป็นซีรีส์ที่ครบรส มีทั้งความรัก ความสุข ความขมขื่น จะได้เห็นทุกอย่างในซีรีส์เรื่องนี้เลยครับ คูเปอร์: นอกจาก Bitter Sweet The Series แล้ว My Engineer ซีซั่น 2 ก็จะมาแน่ๆ ฝากทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยครับ 2 หนุ่ม คูเปอร์ปอย มาการันตีความจิ้นความฟิน พร้อมสปอยล์เบาๆ กันขนาดนี้ แฟนๆ รอติดตามบทบาทใหม่สุดท้าทายของทั้งคู่ใน Bitter Sweet The Series ได้เลย ไม่นานเกินรอแน่นอน กดเลย community แห่งความบันเทิง📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวมทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี
ข่าวบันเทิง • 28 ธ.ค. 64
อ่าน
(Hands-On) สัมผัสแรก Samsung Galaxy Watch6 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ งาน Unpacked กรุงโซล
เปิดตัวไปแล้วกับ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series ในงาน Unpacked ณ กรุงโซลสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งหลังจบงานเราก็ได้มีโอกาสไปจับเครื่องจริงกันด้วย กับทั้งสองรุ่น ซึ่งภายในงานก็มีการจัดโซน และ Drop Out ต่าง ๆ ให้ลองเล่น และถ่ายภาพ สมกับเป็นงาน Unpacked Galaxy Watch6 และ Watch6 Classic นี่เป็นสมาร์ตวอตช์ที่ผมตื่นเต้นมากที่จะได้จับของจริง Watch6 Classic นำเอา Rotate Ring กลับมาแล้ว หน้าตาดูมีความ Classic และสวยมาก ซึ่งก็นำมาแทนที่รุ่น Pro ไปเลย หลังจากที่ในรุ่น 5 นั้นถูกตัด Classic ออกไป สิ่งแรกที่ได้จับแล้วต้องสังเกตเห็นเลย คือหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะสุดขอบ ไม่เหมือนกับรุ่นเก่าที่ขอบหนา (เช่น Watch4 ที่ผมใช้อยู่) ซึ่งในรุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 37.33 มม. แล้วนั่นเอง และอัปเกรดเป็นรุ่น 43mm และ 47mm แทน วัสดุเท่าที่จับ ดูแข็งแรงทนทานดี ตัวกระจกหน้าจอก็เปลี่ยนมาใช้ Crystal Sapphire แทนแล้ว ซึ่งจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็จะเปลี่ยนแปลงไปประมาณนี้สำหรับ Watch6 Series ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ขอบบางลงแบบนี้ ดูหล่อมากกว่าเดิมเยอะมาก ๆ Samsung Galaxy Tab S9 Series ในส่วนของ Tab S9 Series รอบนี้ ก็ยังมีรุ่นสับมากถึง 3 รุ่นเหมือนเดิม Tab S9, Tab S9+ และ Tab S9 Ultra ซึ่งคราวนี้ถึงแม้หน้าตาจะดูเหมือนเดิมหมด แต่ที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือตัว S9 ที่เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แบบรุ่นใหญ่ แทนที่จะเป็น LCD แล้ว หน้าจอดูสวยงามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยก็สมกับเป็นแท็บเล็ตเรือธงทุกตัวสักที นอกจากนั้นไม่ค่อยมีอะไรแปลงที่เห็นได้ทันทีมากนัก ซึ่งหลัก ๆ ที่อัปเกรดจากรุ่นปีที่แล้ว ที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ก็เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพ ความร้อน และแบตเตอรี ซึ่งใครสนใจทั้งสอง Series นี้ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดสเปกเพิ่มเติมในลิงก์นี้ ซึ่งมีรายละเอียดโปรโมชัน ของ Samsung ประเทศไทยอยู่ด้วยครับ ความประทับใจของงาน NDA ครั้งนี้ อันนี้แอบอยากพูดแนบมาด้วย ประทับใจงาน NDA (Non Disclosure Agreement งานรอบสื่อที่จะได้จับเครื่องจริงก่อนเปิดตัวจริง เพื่อเตรียมข้อมูลไปทำข่าว) ของ Samsung ที่เกาหลีมาก ด้วยความที่ครั้งนี้มันเป็นการจัด Unpacked ครั้งแรกในบ้านเกิดเขา พร้อมกับมีจำนวนสื่อไอทีมาจากทั่วโลกแบบล้นหลาม มันเลยเป็นงาน NDA ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่พื้นที่ที่จัด NDA ก็จะเล็ก ๆ นะ ไม่ได้ใหญ่ จะคงเพราะว่าจะได้คุมคนได้ ซึ่งทางทีมงานได้มีการจัดแสงทุก Drop Out เลย แบบว่านี่คือการเดินดุ่ม ๆ เอา S23 Ultra ไปถ่ายแบบเร็ว ๆ ภาพก็ออกมาสวยเลย เพราะทีมงานจัดแสงโหดมาก แต่ละจุดก็จะมีการวางเรียงกันเล่นกับกิมมิคต่าง ๆ ของเครื่องด้วย ซึ่งจำนวนเครื่องที่ใช้ในพื้นที่ NDA มีเป็นร้อย ๆ เครื่องเลย แถมยังเอาวิศวกรผู้ออกแบบมานั่งตอบคำถามที่สงสัยเองเลยด้วย และยังมีโซน Studio ให้เราเข้าไปนั่งรีวิวกันข้างในนั้นได้เลยอีก
แบไต๋ • 28 ก.ค. 66
อ่าน
หวานชื่นใจกับ The Bitter Sweet
สวัสดีค่ะทุกคน อากาศฤดูร้อนของประเทศไทยช่างทำร้ายเรายิ่งนักจริงไหมคะ จะกินจะเดินจะนั่งก็ร้อนไปเสียหมด พอมันร้อนมาก ๆ เข้าก็นึกถึงอะไรหวาน ๆ เย็น ๆ ค่ะ เอาล่ะเกริ่นมาขนาดนี้วันนี้เราจะพาทุกคนไปที่ร้าน The Bitter Sweet สาขากังสดาล ซึ่งเป็นร้านขายชาไข่มุกเก่าแก่ในย่านมหาวิทยาลัยขอนแก่นนี่เองค่ะ แต่วันนี้ที่เรามาถึงร้านนั้นไม่ได้จะมากินชาไข่มุกหรอกนะคะ เพราะเป้าหมายของเราคือปังเย็นต่างหาก ซึ่งที่ร้านเขาก็มีปังเย็นเป็นแก้วขายค่ะ ทานสะดวกสุด ๆ เหมาะกับคนที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกินขนมปังปิ้งหรือจะกินน้ำหวานดี ไหน ๆ ก็มาถึงร้านแล้วมาชื่นชมบรรยากาศของทางร้านสักหน่อยค่ะ จะให้พุ่งไปหาของกินอย่างเดียวก็กระไรอยู่ ก็ร้านเขาออกจะน่ารักบรรยากาศน่านั่งขนาดนี้ มีเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ เอาไว้นั่งชิล ๆ ได้ค่ะ โทนสีร้านก็อบอุ่นละมุนดีนะ พอชื่นชมบรรยากาศร้านเสร็จเราก็พุ่งมาหาเป้าหมายของเรานั่นก็คือเมนูปังเย็นนั่นเอง ซึ่งเมนูปังเย็นของทางร้านก็ราคา 45 บาททุกแก้วค่ะ มีปังเย็นช็อกโกแลต ปังเย็นชานม ปังเย็นนมสด และปังเย็นชาเขียวค่ะ ซึ่งวันนี้เราก็สั่งปังเย็นช็อกโกแลตมาทานให้ชื่นใจค่ะ ไปดูรูปกันเลยว่าจะออกมาหน้าตาน่าทานขนาดไหน ตัวน้ำเป็นช็อกโกแลตปั่นของทางร้านโปะด้วยขนมปังปิ้งทาเนยกรอบนอกนุ่มใน ก่อนจะราดด้วยนมข้นหวานอีกที ขอบอกว่าสวรรค์สำหรับคนรักของหวานเลยล่ะค่ะ ตัวน้ำเราสั่งหวานปกติเลย รสชาติหวานกำลังดี ช็อกโกแลตเข้มข้นสะใจ ทานพร้อมตักขนมปังปิ้งเข้าปากขอบอกว่าฟินมากเวอร์ ตัวขนมปังปิ้งกำลังได้ที่กรอบนอกนุ่มใน หอมเนยสุด ๆ แถมยังมีรสของนมข้นด้วย ดีงามมากค่ะ ใครที่อยากลองทานปังเย็นของทางร้าน The Bitter Sweet สาขากังสดาล ก็แวะมาซื้อได้ค่ะ พิกัดร้านอยู่ถนนเส้นรอบบึงหนองแวงตราซู ฝั่งกังสดาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือแวะไปดูเมนูในเพจร้าน https://www.facebook.com/pg/thebitterssweetkku/about/?ref=page_internal ได้เลยค่ะ ทางร้านเขามีเมนูมากมายให้เลือกทานกันนะคะ หรือโทร 081 546 2411 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 11 โมงเช้าจนถึง 22.00 น. จ้า อย่าลืมแวะมาทานนะคะ บทความ/รูปถ่าย: เยลลี่หมีขี่จรวด
เยลลี่หมีขี่จรวด • 13 เม.ย. 63
อ่าน
iPhone 15 Series มีตัวเครื่องพร้อมขายลดลง 8% เมื่อเทียบจาก iPhone 14 Series
เป็นที่ทราบกันดีว่าอีกไม่กี่เดือนนั้น Apple จะเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Series ซึ่งตามรายงานก่อนหน้านั้นมีการระบุว่า Apple กำลังเผชิญกับปัญหาในการผลิต iPhone 15 Pro/Pro Max ส่งผลให้มีสินค้าสต็อกในช่วงเริ่มต้นต่ำกว่า iPhone 14 Series รุ่นปัจจุบัน ตามรายงานระบุไว้ว่า สต็อกโดยประมาณสำหรับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 90 ล้านเครื่อง แต่คาดว่า iPhone 15 Series จะมีสินค้าพร้อมจำหน่ายเบื้องต้นที่ 83 ถึง 85 ล้านเครื่อง เนื่องจากปัญหาทางเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตเกี่ยวกับหน้าจอ โดยปัญหาดังกล่าวนั้นจะส่งผลกับรุ่น iPhone 15 Pro Max มากที่สุด และรุ่น iPhone 15 Pro รองลงมา หลายคนทราบกันดีว่าการวางขายในช่วงแรกนั้น iPhone รุ่นใหม่ ๆ นั้น จะหาสินค้ายากมาก ในรุ่น iPhone 15 Series รอบนี้ถ้าดูจากข่าวแล้ว ก็น่าจะยากมากกว่าเดิมครับ ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 24 ก.ค. 66
อ่าน
ครั้ังแรกที่ Bitter*Sweet
น้องเฌอมีโอกาสไปทำงานที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งปีที่ผ่านมาไปประมาณ 3 ครั้ง ครั้งหนึ่งก็ประมาณ 3 - 4 วัน ซึ่งน้องเฌอชอบไปนั่งคาเฟ่ ชอบกลิ่นกาแฟ มีขนมหวานอร่อยๆ ให้ทาน และนั่งทีไรก็คิดงานออกทุกทีเลย ^^ และแล้วน้องเฌอก็ได้พบกับคาเฟ่ที่ ชื่อ บิทเทอร์ สวีท Bitter*Sweet The dessert café ตอนแรกคิดว่าเป็นร้านขายไอศกรีม เพราะน้องเฌอเคยทานไอศกรีมยี่ห้อ บิทเทอร์ สวีท แต่เมื่อเข้ามาในร้านก็เลยทราบว่า ที่นี่ขายไอศกรีมโฮมเมด ต่อมาก็พัฒนามาเป็นคาเฟ่และมีเมนูขนมหวานอื่นๆ ด้วย ไปทานกันค่ะ Recommend by น้องเฌอ : ลาวาไข่เค็ม โทสต์ ราคา 189 บาท เมนูนี้สั่งง่ายมากค่ะ แค่เพื่อนๆ เลือกขนมปัง เลือกไส้ เลือกไอศกรีม ที่ชอบเท่านั้นเอง ^^ มาดูขนมปังกันก่อนค่ะ โทสต์ของที่นี่มีขนมปังให้เลือก 4 แบบ คือ ขนมปังขาวซึ่งมันก็คือขนมปังปกติที่เราทานกันค่ะ ต่อมาคือขนมปังโฮลวีตแบบนี้เนื้อขนมปังจะหยาบนิดนึง ขนมปังชาโคล แค่ชื่อก็รู้แล้วค่ะว่าขนมแบบนี้สีดำแน่นอน ส่วนใครที่สองจิตสองใจอยากลองทั้งแบบธรรมดาและชาโคล น้องเฌอแนะนำ.... ขนมปังลายน้องวัวแบบในรูปเลยค่ะ อิอิ ในส่วนของไส้นั้นก็มีหลากหลายมาก ทั้ง ไส้ช็อคโกแลต ชาไทย ชาเขียว และไส้ไข่เค็ม ในเมนูแนะนำไข่เค็มน้องเฌอเลยสั่งมาทาน ซึ่งรสชาติอร่อยหอมไข่เค็มไม่ค่อยเค็ม พอกินคู่กับไอศกรีมรสหวานเข้ากันดีเลยค่ะ Recommend by น้องเฌอ : กาแฟเฟรนซ์เพรส ราคา 85 บาท กินของหวานแล้ว ต้องจัดอะไรขมๆ สักหน่อยให้สมกับชื่อ บิทเทอร์ สวีท น้องเฌอเลยสั่งเมนูกาแฟเฟรนซ์เพรส ง่ายๆ มันก็ คือ กาแฟร้อนที่เราเอาเมล็ดกาแฟคั่วมาลงมือบดเอง และส่วนหนึ่งที่เลือกเมนูนี้ก็เพราอยากลองบดกาแฟ ^^ เมื่อเราสั่งแล้วร้านจะจัดชุดมาให้เราพร้อมแผ่นคำแนะนำ เรานำเมล็ดกาแฟคั่ว ใส่เครื่องบดแล้วใช้มือหมุนๆ มันก็จะค่อยๆ บดโดยส่วนที่บดเสร็จแล้วจะอยู่ในลิ้นชักเล็กใต้เครื่องบดค่ะ เราก็นำกาแฟที่บดแล้วใส่กาที่ร้านเตรียมให้ซึ่งมันจะสามารกรองกากกาแฟออกได้ค่ะ หลังจากน้ำร้อนลงไป รอสักพักแล้วยกดื่มเลย กลิ่นกาแฟหอมมาก รสชาติขมอมเปรี้ยวที่ปลายลิ้น ดื่มกันเพลินเลยค่ะ สุดท้ายก่อนกลับก็อดไม่ได้เลยต้องสั่งชานมไข่มุกกลับไปด้วย ชานมที่ฮิตของที่นี่ คือ ชานมไข่มุกลาวาพ่นไฟค่ะ แต่น้องเฌอไม่ได้สั่ง ไว้เพื่อนๆ ไปลองสั่งทานกันแล้วก็แวะมาเล่าให้น้องเฌอฟังด้วยนะ Bitter*Sweet The dessert café : 30/10ถนนสวรรค์วิถี เทศบาลนครนครสวรรค์60000 เบอร์ติดต่อ 086-7352713 ภาพประกอบ: Photo By Cheraim
Cheraim • 8 เม.ย. 63
อ่าน
“ไบเบิ้ล” ตัวแทน “KinnPorsche The Series” รับรางวัล “Most Popular Y Series”
ไบเบิ้ล ตัวแทน KinnPorsche The Series รับรางวัล Most Popular Y Series ถึงแม้ว่า KinnPorsche The Series ซีรีส์วายสายแอคชั่น มาเฟียในไทยเรื่องแรกเรื่องนี้จะลาจอไปนานแล้ว แต่ด้วยกระแสของความปังทั้งตัวของนักแสดงทุกคน เนื้อเรื่อง โปรดักชั่นที่จัดเต็ม แสง สี เสียง เอฟเฟ็ค เลยยังทำให้มีแฟนๆพูดถึงตลอด ซึ่งไม่ได้โด่งดังแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างฐานแฟนคลับไปได้ไกลทั่วโลกอีกด้วย ล่าสุด KinnPorsche The Series คว้ารางวัล Most Popular Y Series หรือ ซีรีส์วายยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2023 งานนี้ ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เลยเป็นตัวแทนเพื่อนๆนักแสดงและจากบริษัท บีออนคลาวน์ จํากัด ขึ้นไปรับรางวัลนี้อีกด้วย ยังไงทางดาราเดลี่ขอแสดงความยินดีกับนักแสดงและทีมงาน KinnPorsche The Series ทุกคนด้วยนะคะ เพราะสมมงสุดๆไปเลยค่า
ดาราเดลี่บันเทิง • 2 ก.ค. 66
อ่าน
Beaker and Bitter คาเฟ่แนวห้องทดลองวิทยาศาสตร์
Beaker and Bitter คาเฟ่น้องใหม่ย่านอารีย์มาในแนวห้องทดลอง ร้านนี้เค้ารีโนทเวทจากโรงงานยาเก่า เวลาเข้าไปได้กลิ่นอายเหมือนดูการ์ตูนห้องแลปของ Dexterสมัยก่อนเลยครับ สไตล์ร้านจะเน้นสีขาว ๆ ดูแล้วเหมือนห้องทดลอง ด้านในสว่างเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่สุด สาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปทางร้านก็ได้จัดอุปกรณ์พวกมีเสื้อแลปวิทยาศาสตร์ แว่นทอดลอง กล้องจุลทรรศน์ให้ถ่ายรูปไว้อัพลงโลกโซเชียลกันด้วยนะ แต่งตัวออกมาก็จะได้ในแบบนักทดลองจริง ๆ เลยครับ ใส่แล้วดูมีความเป็นหมอเป็นที่สุด เราสะดุดตาตั้งแต่ป้ายทางเข้าแล้วครับ ทำสวยดึงดูดมาก ๆ ป้ายมีความล้ำ ภายในร้านค่อนข้าวกว้างมาก ๆ มีหลายโซนเลย ตั้งแต่โซนถ่ายรูป โซนคาเฟ่ติดแอร์ โซนอ่านหนังสือ หรือแม้แต่ห้องประชุมก็มีบริการด้วยนะครับ เรียกได้ว่ามาแค่ที่เดียวครบทุกความต้องการเลยจ้า มาเริ่มกันที่โซนเคาน์เตอร์ขายของกันก่อน อย่างห้องนี้เป็นห้อง Alpha Lab เป็นห้องเงียบ มีปลั๊กไฟ โคมไฟบริการ เหมาะแก่การอ่านหนังสือมาก ๆ ครับ สำหรับเครื่องดื่มมีให้เลือกไม่เยอะครับ เน้นขายกาแฟ ชาเขียว โกโก้ แล้วก็มีเบเกอรีกรุบกริบให้ทานเล่นอีกด้วย เวลาเสิร์ฟเครื่องดื่มนี่ทางร้านจะเน้นแบบเสิร์ฟด้วยแก้ว Beaker ดูแล้วเหมือนเป็นนักวิทยาศาสตร์ไปอีกจ้า... ใครที่อยากถ่ายรูปมีโซนให้ถ่ายแบบเหลือเฟือมาก ๆ มารีวิวกาแฟ กับขนมที่เราสั่งทานไปกันครับ อย่างแรกเลย R.I.P (Rose in Peach) (145บาท) กาแฟดำกลิ่นพีช กุหลาบ เวลากินกลิ่นมันตบตีกันในปาก หอมละมุนมากครับ หวานติดปลายลิ้นนิด ๆ ด้วยรสชาติของกาแฟ ใครชอบแนว ๆ กาแฟดำกลิ่นผลไม้ ตัวนี้ตอบโจทย์ ถ่ายรูปตอนเค้าเทกาแฟ เก็บไว้ดูกันสักหน่อยครับ Cold Cocoa Latte (145บาท) โกโก้เข้มข้น หวานกำลังดี แต่งด้วยครีมด้านบน ดื่มแล้วสดชื่นไปอีก Dirty Latte (135บาท) Espresso shot ราดลงบนนมสดเย็น แยก Layer กันลงตัวมาก ถ่ายรูปออกมาคือสวย น่าทานมาก รสชาติบางไปนิด แต่โดยรวมโอเคเลย Coconut Cake (145บาท) เค้กมะพร้าวเนื้อนุ่มละมุน 3 ชั้น แทรกด้วยครีมเข้มข้น ไม่พอแค่นั้นนะครับ ด้านบนยังทอปด้วยครีมเนื้อมะพร้าวเข้มข้น รสชาติดีงามมาก รองด้านล่างด้วยหนังสือพิมพ์ถ่ายรูปออกมาคือดีงาม สำหรับใครที่อยากไปถ่ายรูป ไปลองกินกาแฟ ไปกันได้ครับตามรายละเอียดข้างล่าง - ซอยพหลโยธินซอย 8 - ร้านมีที่จอดรถกว้างขวาง - เดินทางโดย BTS อารีย์ (ถ้ามาด้วย BTS ต่อ Taxi นิดนึงนะครับ) - เวลาเปิด-ปิด : 08.00 - 22.00น. เครดิตภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน(เจ้าของ Page Facebook กูไปมาแล้ว-Gupaimalaew)
นักเล่าเรื่อง • 22 เม.ย. 63
อ่าน
"นมสดไข่มุกลาวาพ่นไฟ"@Bitter Sweet นครสวรรค์
รีวิววันนี้ เอาใจคนรักสายหวานกันอีกแล้วค่าาาา วันนี้เราจะพามากันที่ร้าน "Bitter Sweet" สาขานครสวรรค์ค่ะร้านนี้อยู่ที่หลังตลาดบ่อนไก่ ตลาดสดที่ชาวนครสวรรค์รู้จักกันเป็นอย่างดี ใครกลัวไปร้านไม่ถูกถามหาตลาดบ่อนไก่ก่อนเลยค่ะ ร้านนี้ติดกับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายตี๋ ที่เราเคยแนะนำไปก่อนหน้านี้เลยค่ะ ภายในร้านถูกทาผนังด้วยโทนสีขาว บางส่วนมีการเผยให้อิฐบล็อคสีน้ำตาลที่ซ่อนตัวอยู่ด้านในผนังส่วนใหญ่ของร้านเป็นบานกระจกเล็กใหญ่สลับกันไป ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาล และดอกไม้แห้ง ผนังบางส่วนมีการตกแต่งด้วยตัวหนังสือ และภาพวาดวัวตัวใหญ่สีดำ บ่งบอกถึงที่มาว่านมของที่นี่ มาจากนมวัวแท้ๆนะเออ... รับรองเลยค่ะว่า สัมผัสแรกเมื่อคุณได้เข้ามาภายในร้าน คุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่น โปร่ง สบายตา ไม่อึดอัดภายในร้านกว้างขวาง มีที่นั่งค่อนข้างเยอะ สามารถรองรับลูกค้า 30-40 ท่านได้สบายๆเลยค่ะ มาพูดถึงเมนูที่เราเลือกทานในวันนี้กันบ้างดีกว่า "นมสดไข่มุกลาวาพ่นไฟ" เห็นป้ายโชว์ ก็รู้ได้ทันทีว่าแก้วนี้ต้องเป็นพระเอกของร้านแน่ๆ แก้วนี้ราคา 65 บาท ชี้เลยค่ะ "อันนี้ 1 แก้วค่าาาาา" สั่งแลัวนั่งตากแอร์รอเย็นๆเดี๋ยวน้องพนักงานมาเสิร์ฟให้ค่ะ และนี่คือ"นมสดไข่มุกลาวาพ่นไฟ"ของเรา เห็นแค่หน้าตา ก็น่าอร่อยมากๆแล้ว ยิ่งพอได้ลองชิมเท่านั้นแหละ กรี๊ดมากกก ด้วยไข่มุกที่ตุ๋นจนนุ่ม ออกแนวเหมือนไข่ออนเซ็น แต่ยังคงความอุ่นอยู่ และความหอมมันของนมช่วยตัด กับความหวานของไข่มุกได้อย่างพอดี คือทานแล้วละมุนลิ้นมาก แถมด้านบนราดด้วยฟองนมโรยด้วยน้ำตาลทรายแดงที่ถูกเผาไฟจนหอม บอกตรงนี้เลยว่า เมนูนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ อยากดูดทีเดียวให้หมดแก้วไปเลยยยยยยย นั่งดูดชาไข่มุกที่สุดแสนจะว้าวแล้วคิดในใจว่า เมนูอื่นๆของที่นี่ก็น่าจะว้าวไม่แพ้กัน จึงตามมาด้วยเมนูที่ 2 ค่ะ "แพนเค้กซูเฟล่ราดซอสไข่เค็ม"เมนูนี้น้องพนักงานแจ้งว่า "ต้องรอ 20-30 นาทีนะคะ" เพราะที่นี่ทำใหม่ชิ้นต่อชิ้น เพื่อความสดใหม่ไม่ทำทิ้งไว้แล้วมาอุ่นขายเด็ดขาด อย่างว่าค่ะ ของดีต้องรอ จัดมาค่ะ รอได้ไม่มีปัญหาาาาา มาแล้วค่าาา "แพนเค้กซูเฟล่ราดซอสไข่เค็ม"ของเรา หน้าตาดีมาก แค่เห็นก็รู้เลยว่าต้องอร่อยแน่ๆแป้งแพนเค้กที่ฟูนุ่มหอมเนย ที่ความฟูนั้นแตกต่างแพนเค้กทั่วๆไป ราดด้วยซอสไข่เค็ม ที่มีรสหวาน มัน เค็ม ทานคู่กับไอติมวนิลาและวิปครีมมันๆฟูๆ บอกเลยเมนูนี้ทุกองค์ประกอบเข้ากันได้ดีมากๆ แถมราคาไม่แพงเลย 149 บาท เท่านั้นค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ นอกจาก 2 เมนูที่เราได้แนะนำไป ที่นี่ยังมีเมนูต่างๆอีกมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มและขนมหวาน ไอศกรีมหลากหลายรสชาติ ทุกเมนูผลิตจากวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้ามาแบบหิวๆนี่ มีสั่งทุกเมนูแน่นอน น่าตาน่าทานทั้งนั้นเลยยยย สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปตามหาของอร่อยทานกันต่อแล้วค่ะ ไว้มารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกนะคะ สวัสดีค่าาาา...... สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/bittersweethomemadeicecream ที่อยู่ ซ.สวรรค์วิถี 15 ถ.สวรรค์วิถี ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์จ.นครสวรรค์ 60000 เบอร์ติดต่อ : 08-6735-2713
Nani • 11 พ.ย. 62
อ่าน
Oppo Find X7 Series อาจไม่มีรุ่น Pro ?!
ตามรายงาน Oppo Find X7 Series คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้า ข่าวก่อนหน้ายังรายงานว่า Find X7 Series จะมีทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Find X7, Find X7 Pro และรุ่น Find X7 Ultra แต่ล่าสุดนั้นมีรายงานใหม่ระบุว่า ใน Find X7 Series จะไม่มีรุ่น Pro แหล่งที่มาของข่าวคือ Digital Chat Station ซึ่งเป็นทิปสเตอร์ที่รู้จักกันดีในวงการเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวนี้ได้ถูกลบออกไปแล้ว โดยตามรายงานระบุว่า Find X7 จะไม่มีรุ่น Pro แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังคงมีทั้งหมด 3 รุ่น โดยจะมีรุ่น Find X7, Find X7 Ultra และ Find X7 Ultra Satellite Communication แทน ถ้าสังเกตจากชื่อรุ่นแล้ว รุ่น Ultra ทั้ง 2 รุ่นจะมีความแตกต่างกันที่คุณสมบัติการสื่อสารผ่านดาวเทียมเท่านั้น ซึ่งเป็นรายละเอียดที่สอดคล้องกับการยืนยันของ Oppo เกี่ยวกับคุณสมบัตินี้ใน Find X7 Series นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าทุกรุ่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์จะมีแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับการชาร์จ 100W ในขณะที่รุ่น Ultra จะรองรับการชาร์จไร้สาย 50W ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 19 ธ.ค. 66
อ่าน
รีวิว Bitter Sweet นครนายก คาเฟ่สไตล์โฮมเมด ใกล้กรุงเทพฯ
สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิวร้านคาเฟ่ Bitter Sweet Nakhon Nayok คาเฟ่สไตล์โฮมเมด บรรยากาศดี ขับรถแค่ชั่วโมงกว่าจากกรุงเทพฯ กันค่ะร้านตั้งอยู่ริมถนนรังสิต-นครนายก เส้น 305 ขับข้ามคลอง 14 แล้วให้ชิดซ้ายได้เลยค่ะ บรรยากาศหน้าร้านร่มรื่น น่ารักมาก ^^ร้าน Bitter Sweet Nakhon Nayok" เน้นความเป็นโฮมเมดนะคะ อาหารมีหลากหลายให้เราเลือกทานกันเลย ทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น ของทอด ของทานเล่นสปาเก็ตตี้ พิซซ่า ขนมเค้ก สารพัดเมนู และทีเด็ดคือไอศกรีมโฮมเมดที่มีเกือบ 40 รสชาติเลยค่ะ บรรยากาศภายในร้าน ขนมเค้ก ครัวซองต์ โดนัท มาการอง น่าทานทั้งนั้นเลย สายหวานอย่างเราก็ไม่พลาด สั่งชีสเค้กบลูเบอร์รี่ครีมชีส และวนิลาครีมชีสมาทานกัน ตัวชีสเค้กนุ่มละมุน ตัดกับความเปรี้ยวของซอสสตอว์เบอร์รี่และซอสบลูเบอร์รี่ เข้ากั้น เข้ากันค่ะ ^^ นอกจากขนมจะอร่อยแล้ว บรรยากาศในร้านก็น่ารักมาก เราไปถึงกันตอน 10 โมงเช้า แสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องเข้ามาภายในร้าน ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นน่านั่งมากๆ แถมถ่ายรูปออกมาก็สวยมากน้า สาวๆ สายคาเฟ่ แต่งตัวให้พร้อมนะคะ รับรองได้รูปสวยๆกันไปแน่นอน มุมถ่ายรูปน่ารักๆ ที่นั่งมีให้เลือกหลากหลาย จะมาเดี่ยว มาคู่ มากันเป็นครอบครัวก็สามารถเลือกนั่งได้เลยค่ะ ถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆกันแล้ว ก่อนกลับ ไม่พลาดสั่งไอศกรีมมาทานกัน ไอศกรีมชาอัสสัมบราวน์ชูก้าร์ หอมกลิ่นชา อร่อยมากๆเลยสรุป Bitter Sweet นครนายก เป็นคาเฟ่บรรยากาศดี อาหาร ขนมและไอศกรีมเป็นแบบโฮมเมด เหมาะสำหรับสายชิล สายคาเฟ่ ที่ขับรถออกมาจากกรุงเทพฯ ประมาณชั่วโมงกว่าเท่านั้น ใครจะมาเที่ยวนครนายก มาซื้อต้นไม้ หรือขับต่อไปอีกไม่ถึง 30 นาที ก็จะถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล สามารถจัดเป็น 1 day trip ง่ายๆที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้เลยค่ะ ^^ พิกัด: Bitter Sweet นครนายก ภาพปกและภาพประกอบ: เจ้าของบทความเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
maerylandz • 22 มี.ค. 67
อ่าน
Realme V-Series สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Realme ปรากฏบน TENAA
พบสมาร์ตโฟน Realme รุ่นใหม่ 2 รุ่นที่มีหมายเลขรุ่น RMX3781 และ RMX3783 ปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ TENAA ของจีน รายงานกล่าวว่าอุปกรณ์ดังกล่าวคือสมาร์ตโฟน Realme V-Series ในตลาดจีน แต่รายชื่อยังไม่ได้มีการเปิดเผยสเปกมาให้ทราบ สมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวนั้นมีลักษณะคล้ายกับ Realme 11 5G ที่เปิดตัวในไต้หวันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากข้อมูลของ TENAA เผยให้เห็นว่าสมาร์ตโฟนมีหน้าจอแบบเจาะรูตรงกลางและเป็นจอแบน ด้านหลังมีโมดูลกล้องทรงกลมพร้อมกล้องคู่และแฟลช LED พร้อมตราสินค้า Realme อยู่ที่ด้านหลัง ส่วนรายละเอียดด้านอื่น ๆ นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้ทราบ ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 23 ส.ค. 66
อ่าน
รู้ไว้ก่อนซื้อ ! 6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9
หลังจากที่แอปเปิล (Apple) เปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน Apple Wonderlust Event เมื่อ 13 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย หนึ่งในไอเทมใหม่สำหรับสายสุขภาพที่น่าสนใจก็คือ Apple Watch Series 9 สมาร์ตวอชรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่ง TNN Tech ได้รวบรวมความแตกต่างกับ Apple Watch Series 8 สมาร์ตวอชรุ่นก่อนหน้ามาไว้ 6 จุด ด้วยกัน6 ข้อแตกต่าง ระหว่าง Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch Series 9ความสว่างหน้าจอสูงสุด Apple Watch Series 8 มีความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1000 nits ในที่กลางแจ้ง ส่วน Apple Watch Series 9 ได้รับการปรับปรุงให้สว่างกลางแจ้งสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 nitsชิปประมวลผล หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจาก Apple Watch Series 8 ใช้ชิปประมวลผล S8 ที่มีพื้นฐานมาจากชิป A13 Bionic ซึ่งใช้ใน iPhone 11 Series และ iPhone SE แต่ Apple Watch Series 9 ได้พัฒนาพื้นฐานมาจาก A15 Bionic เป็น S9 SiPNeural Engine หรือหน่วยประมวลผลการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เพิ่มแกนประมวลผลเป็น 4 คอร์ (Core) เพิ่มจากรุ่น 8 มาอีก 3 coreระบบ Siriหรือระบบผู้ช่วยส่วนตัวใน Apple Watch Series 9 เป็นครั้งแรกที่พัฒนาให้ฝังมากับระบบ ต่างจากทุกรุ่นก่อนหน้าที่ต่ออินเทอร์เน็ตการระบุตำแหน่ง ในรุ่นก่อนหน้าถือเป็นครั้งแรกที่มีการใส่ชิประบุตำแหน่ง (1st Gen Ultra-Wideband) ใน Apple Watch ส่วนใน Apple Watch Series 9 ได้มีการปรับปรุงเป็น 2nd Gen Ultra-Wideband ซึ่งช่วยระบุทิศทางและตำแหน่งได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงประยุกต์เป็นการหาไอโฟน (Find my) ได้แม่นยำขึ้นตามไปด้วยพื้นที่เก็บข้อมูล Apple Watch Series 8 มีพื้นที่จัดเก็บทั้งหมด 32 กิกะไบต์ (GB) ส่วนใน Apple Watch Series 9 ได้รับการเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 64 GBนอกจากความแตกต่างของสเปกแล้ว อีกหนึ่งการปรับปรุงในครั้งนี้ยังมีสีใหม่อย่างสีชมพูเป็นตัวชูโรงในการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย โดยแอปเปิลจะเปิดให้สั่งซื้อและจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมกับวันขาย iPhone 15 วันแรก 22 กันยายนนี้ที่มาข้อมูลMacRumors
TNN ช่อง16 • 17 ก.ย. 66
อ่าน
เปิดตัวสมาร์ทโฟน “OPPO Reno5 Series 5G” ที่สุดของวิดีโอ Portrait
ออปโป้ ไทยแลนด์ เปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่เป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอ Portrait ได้แก่ OPPO Reno5 และ OPPO Reno5 5G ภายใต้แนวคิด Picture Life Together ให้บันทึกทุกโมเมนต์สุดประทับใจได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย อาทิ Dual-view Video บันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้า-หลัง, AI Mixed Portrait ครั้งแรกของโลกบน OPPO Reno5 ช่วยสร้างสรรค์วิดีโอที่เหนือกว่าโดยการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนกัน, นำเทรนด์ด้วยดีไซน์ฝาหลังที่สวยประกาย บางเบาพร้อมทั้งสามารถสะท้อนเฉดสีถึงพันสี รวมถึงรองรับ 5G และชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 บน OPPO Reno5 5G โดย OPPO Reno5 เปิดตัวที่ราคา 10,990 บาท และ OPPO Reno5 5G เปิดตัวที่ราคา 13,990 บาท จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ รับโปรโมชั่นและของสมนาคุณมูลค่ากว่า 8,000 บาท และพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait สวยที่สุด พร้อมให้คุณปลดล็อกพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ และบันทึกทุกโมเมนต์อันน่าประทับใจกับคนรอบข้างด้วยสุดยอดนวัตกรรมเพื่อการถ่ายวิดีโอมากมาย รวมที่สุดของดีไซน์อันโดดเด่นและประสิทธิภาพที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานไปอีกขั้นด้วย 3 ไฮไลต์เด็ด ได้แก่ ที่สุดของวิดีโอ Portrait ด้วยฟีเจอร์ Dual-view Video และ AI Mixed Portrait OPPO Reno5 Series 5G สมาร์ทโฟนเพื่อการสร้างสรรค์วิดีโอ Portrait ให้โดดเด่นที่สุดด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยฟีเจอร์ Dual-view Video ที่มีในทั้งสองรุ่น สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพื่อสร้างความทรงจำอันน่าจดจำร่วมกับคนรอบข้าง ปลดล็อกจินตนาการด้วยฟีเจอร์ AI Mixed Portrait ที่มีเฉพาะใน OPPO Reno5 ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกบนสมาร์ทโฟนที่นำเอา Double Exposure Effect มาใช้กับการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นการนำวิดีโอ 2 ตัวมาซ้อนเข้าด้วยกันเกิดเป็นวิดีโอใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม โดยทำงานร่วมกับอัลกอริทึม AI ขั้นสูงที่ช่วยตัดขอบตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำเพื่อนำไปซ้อนเข้ากับอีกวิดีโอได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อสนับสนุนการถ่ายวิดีโอให้สนุกและสวยงามมากยิ่งขึ้น ทั้งการควบคุมแสง ใส่ฟิลเตอร์ปรับสี หรือปรับแต่งใบหน้าสำหรับการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าให้ประณีตและเป็นธรรมชาติมากขึ้น OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกล้องหลัง 4 กล้อง ความละเอียด 64MP+8MP+2MP+2MP โดย OPPO Reno5 กล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 44MP ขณะที่ OPPO Reno5 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP โดยทั้งสองรุ่นสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 4K ที่ 30fps สำหรับกล้องหลัง และรองรับความละเอียด 1080P หรือ 720P ที่ 30fps ในกล้องหน้า สวยงาม บางเบา นำเทรนด์ด้วยเทคโนโลยีดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียกว่า Diamond Spectrum Process สร้างเฉดสีใหม่นับพันสีภายในเครื่องเดียว OPPO Reno5 Series 5G เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอเทมที่โดดเด่นทุกท่วงท่ากับดีไซน์สวยสะกดทุกสายตากับเทคโนโลยีล่าสุด Diamond Spectrum Process ทำให้ฝาหลังของตัวเครื่องสีเงิน Fantasy Silver ของ OPPO Reno5 และ สีเงิน Galactic Silver ของ OPPO Reno5 5G สามารถสะท้อนเฉดสีได้นับพันในเครื่องเดียวเมื่อมองจากมุมหรือในสภาพแสงที่ต่างกัน ลดการเกิดรอยนิ้วมือเพราะเคลือบผิวฝาหลังแบบด้านด้วยเทคนิค Reno Glow นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีดีไซน์เบาบาง พกพาได้คล่องตัว โดย OPPO Reno5 มีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และ สีดำ Starry Black ส่วน OPPO Reno5 5G มาในสองสี ได้แก่ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black OPPO Reno5 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.43 แสดงผลความไวสูงถึง 90Hz มอบประสบการณ์ที่ไหลลื่น สมจริง และเต็มตาด้วย Edge-to-edge Display ที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 91.7% ใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด OPPO Reno5 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 720G RAM 8GB และ ROM128GB ประสิทธิภาพลื่นไหลไม่แพ้กัน มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,310mAh และเทคโนโลยี 50W Flash Charge ชาร์จไวไม่ต้องรอนานเพียง 48 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ส่วน OPPO Reno5 5G รองรับการสื่อสารแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยี 5G และขุมพลัง Snapdragon 765G 5G RAM 8GB และ ROM 128GB มอบประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,300mAh และเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของออปโป้ 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จไวขั้นสุดเพียง 35 นาที สามารถชาร์จได้ 100% นับว่า OPPO Reno5 Series 5G นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ Portrait ได้สวยที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาด้วยกันสองรุ่น ได้แก่ OPPO Reno5 ราคา 10,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีเงิน Fantasy Silver และสีดำ Starry Black สำหรับ OPPO Reno5 5G ราคา 13,990 บาท มี 2 สีเช่นเดียวกัน คือ สีเงิน Galactic Silver และสีดำ Starry Black จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์ พร้อมรับโปรโมชั่นและของสมนาคุณจัดเต็ม สำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 รับฟรี Smart Scale และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 6,299 บาทสำหรับผู้ที่จอง OPPO Reno5 5G รับฟรี Smart Scale, Bluetooth Speaker และ OPPO E-VIP Card มูลค่ารวม 8,398 บาท เป็นเจ้าของ OPPO Reno5 Series 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยสามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท และเป็นเจ้าของ OPPO Reno5 5G ในราคาเริ่มต้น 5,490 บาท ระหว่างวันนี้ถึง 5 กุมภาพันธ์นี้ เท่านั้น โดย OPPO Reno5 Series 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
มติชน • 27 ม.ค. 64
อ่าน
สรุปราคาและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Series ในไทย
แอปเปิลเปิดตัว iPhone 17 Series อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยรายละเอียดราคาและกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยปีนี้มีให้เลือกหลายรุ่น ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นมาตรฐานไปจนถึงตัวท็อปสุดที่มีความจุสูงถึง 2TBราคาของแต่ละรุ่น iPhone 17 SeriesiPhone 17256GB: ฿29,900512GB: ฿37,900iPhone Air (รุ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยความบางเบา)256GB: ฿39,900512GB: ฿47,9001TB: ฿55,900iPhone 17 Pro256GB: ฿43,900512GB: ฿51,9001TB: ฿59,900iPhone 17 Pro Max (รุ่นท็อปสุดของปีนี้)256GB: ฿48,900512GB: ฿56,9001TB: ฿64,9002TB: ฿80,900จากโครงสร้างราคาจะเห็นได้ว่ารุ่น iPhone 17 Pro Max ยังคงเป็นเรือธงที่ราคาแรงที่สุด โดยมีตัวเลือกความจุสูงสุดถึง 2TB เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเก็บภาพ วิดีโอ และไฟล์จำนวนมากวันเปิดจองและวันวางจำหน่าย iPhone 17 Proวันสั่งซื้อล่วงหน้า (Pre-order): 12 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไปวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ: 19 กันยายน 2568ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของ iPhone รุ่นใหม่ก่อนใคร สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่เย็นวันที่ 12 กันยายน และจะได้รับสินค้าในสัปดาห์ถัดมา
TNN ช่อง16 • 10 ก.ย. 68
อ่าน
Asus ยืนยัน ROG Phone 8 Series มาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
Asus มีกำหนดเปิดตัว ROG Phone 8 Series ในวันที่ 8 มกราคมผ่านงาน CES (Consumer Electronics Show) 2024 และเปิดตัวในจีนต่อมาในวันที่ 16 มกราคม ล่าสุดทางแบรนด์ออกมายืนยันว่า ROG Phone 8 series จะรองรับการกันน้ำกันฝุ่น Asus ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ROG Phone 8 series จะมาพร้อมกับแชสซีที่ได้รับการจัดอันดับ IP68 หมายความว่า ROG Phone 8 series จะมีการออกแบบที่ทนน้ำและฝุ่น ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมสมาร์ตโฟนที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้มากขึ้น ถือเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ROG Phone 7 Series ที่รองรับการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP54 และ ROG Phone 6 Series ที่ระดับ IP X4 ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 26 ธ.ค. 66
อ่าน
Realme Buds Air 5 series จะเปิดนอกประเทศจีนในวันที่ 23 สิงหาคมนี้!
Realme 11 seires เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และในอีเวนต์นั้นก็มีการเปิดตัวหูฟัง Buds Air 5 Pro ควบคู่ไปด้วย โดยในวันนี้เราพบว่า Realme Buds Air 5 Series จะเปิดตัวที่ตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) เป็นครั้งแรกในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยเป็นการเปิดตัวที่ประเทศอินเดีย Buds Air 5 Pro มาพร้อมวูฟเฟอร์ 11 มม. และไดรเวอร์แบบ planar magnetic ขนาด 6 มม. รองรับ high-bitrate LDAC codec มีมาตรฐานกันน้ำกระเซ็นเพื่อป้องกันเหงื่อและฝน อีกทั้ง Realme ยังเผยว่ารุ่นนี้สามารถกันเสียงรบกวนได้สูงสุด 50dB จากไมโครโฟน 6 ตัว (ข้างละ 3 ตัว) ในด้านแบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้นาน 11 ชั่วโมงเมื่อปิดฟีเจอร์ ANC และสามารถใช้งานได้นาน 40 ชั่วโมงหากรวมการชาร์จจากเคส สำหรับ Buds Air 5 Pro มีการวางขายในประเทศจีนในราคา 399 หยวน (ประมาณ 2,000 บาท) แต่เรายังไม่ทราบว่าเมื่อวางขายในต่างประเทศราคาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 20 ส.ค. 66
อ่าน
รีวิว ร้านชานมไข่มุก The Bitters Sweet KKU
สวัสดีจ้าเพื่อนๆสายชานมไข่มุกต้องที่นี่เลยจ้า วันนี้เราจะมารีวิวร้านชานมไข่มุก The Bitters Sweet KKU บอกเลยสาวกชานมไข่มุกไม่ควรพลาดเลยจ้ากับร้านนี้มีเมนูเยอะแยะมากมายภายในร้านมีที่นั่งเล่นกะทัดรัดไม่แคบมากสะดวกสะบายได้นั่งชิลกันไปอีกจ้าแถมยังมีมุมถ่ายรูปชิคๆอีกด้วยดีงามจ้าส่วนใหญ่ที่ไม่ควรพลาดเวลามาที่ร้านจะเป็นเมนูอะไรไปดูกันเลยจ้า https://www.facebook.com/thebitterssweetkku/photos/a.1588558961447416/2083195571983750/?type=3&theater เมนูแนะนำเมนูนี้เลยจ้าไม่ควรพลาดเป็นกระแสะยอดฮิตติดโซเชียลกับเมนู ชานมไข่มุกบราวชูการ์แก้วนี้ราคา 35 บาทจ้า ราคากำลังพอดีไม่แพงมากจ้าได้รสสัมผัสไข่มุกอุ่นๆนุ่มๆหนึบๆ มีกลิ่นหอมไหม้ของน้ำตาล ดีงามมากจ้า https://www.facebook.com/thebitterssweetkku/photos/a.1588272278142751/1600525076917471/?type=3&theat บรรยากาศในร้านจ้าร้านก็จะเล็กๆกะทัดรัดนิดนึงจ้าเป็นร้านน่ารักๆสำหรับหนุ่มๆสาวๆนักศึกษาจ้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษา มข จ้าที่มาที่ร้านมานั่งชิลจอยกันเอางานทำทำด้วยเม้าส์มอยกันไปด้วยคือดีจ้า https://www.facebook.com/thebitterssweetkku/photos/a.1588558961447416/2097799333856707/?type=3&theater อีกเมนูจ้าเมนูนี้คือชานมมันม่วงเพิ่มครีมชีสจ้า แก้วนี้ราคา45บาทจ้า ได้รสชาติมันม่วงหวานมันกลมกล่อมกับชีสข้างบนคือฟินรสชาติไม่หวานมากจ้านหวานกำลังพอดีใครชอบหวานมากหวานน้อยก็สั่งได้จ้า https://www.facebook.com/thebitterssweetkku/photos/a.1588558961447416/2076240989345875/?type=3&theater ต่อด้วยเมนูสดชื่นๆจ้ากับเมนูชาเขียวแอปเปิ้ล แก้วนี้ราคา25บาทจ้ารสชาติเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวแนะนำเพิ่มTopping เป็นเยลลี่แอ็ปเปิ้ล หรือไข่มุกป็อปรสแอ็ปเปิ้ล มันเข้ากันเด้อ ทานแล้วชื่นใจเลยจ้า เมนูร้านจ้ามีให้เลือกมากมายหลากหลายเมนูมาลองกันได้จ้าราคาไม่แพงรสชาติดีที่นี่เลยชานมไข่มุกThebitters sweet กังสดาล พิกัด:ริมบึงหนองแวงตราชู กังสดาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลาเปิด-ปิด:11:00 - 21:00 Facebook:https://www.facebook.com/thebitterssweetkku/ เป็นยังใงกันบ้างจ้าชอบกันไหมจ้ากับร้านชานมไข่มุกร้านเล็กๆน่ารักกับเมนูร้านที่หลากหลายราคาไม่แพงมากรสชาติดีหวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันนะจ้ากับร้านชานมไข่มุขต่อไปครั้งหน้าเราจะมารีวิวอะไรกันอีกรอติดตามนะจ้า
tomtam • 9 ต.ค. 62
อ่าน
iPhone 15 Series อาจรองรับชาร์จเร็วที่ 35W
ข้อมูลจาก 9to5Mac เปิดเผยว่า iPhone 15 Series อาจมาพร้อมกับความเร็วในการชาร์จที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 35W นี่ถือเป็นการอัปเกรดอีกอย่างหนึ่งที่น่าดีใจมากสำหรับแฟน ๆ Apple เนื่องจากปัจจุบัน iPhone 14 Pro มีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 27W ส่วนด้านของ iPhone 14 นั้นมีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 20W เท่านั้น โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้เวลาชาร์จมากกว่าสมาร์ตโฟนเรือธงฝั่งแอนดรอยด์ค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่าความเร็วในการชาร์จ 35W นี้ จะรองรับ iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่น หรือจะจำกัดไว้แค่ใน iPhone 15 Pro เท่านั้น ถ้าดูจากประวัติที่ผ่านมานั้น เป็นไปได้ว่าความเร็วนี้อาจจะรองรับแค่ใน iPhone 15 Pro เท่านั้น เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างรุ่น Pro และรุ่นปกติ ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 18 ส.ค. 66
อ่าน
vivo เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ iQOO Z8 series ในเดือนกันยายนนี้!
สมาร์ตโฟน iQOO Z7 series เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และหลังจากผ่านมา 6 เดือน vivo ก็เตรียมเปิดตัว iQOO Z8 series แล้วในเดือนกันยายน โดยนี่จะเป็นครั้งแรกที่ไลน์อัปนี้จะมีตัวเลือกพื้นที่จัดเก็บ 512GB สำหรับสเปกของ iQOO Z8 คาดการณ์ว่าจะมาพร้อมหน้าจอ LCD 6.64 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ชิปเซต Dimensity 8200 และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่จะรองรับการชาร์จไว 120W โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล + OIS ส่วน iQOO Z8x จะมีราคาที่เข้าถึงง่ายมากกว่า ทำให้ในด้านสเปกก็จะแตกต่างไปจาก iQOO Z8 คือจะมาพร้อมชิปเซต Snapdragon 6 Gen 1 แต่รายงานกลับระบุว่า iQOO Z8x จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า โดยมีความจุ 6,000 mAh ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 15 ส.ค. 66
อ่าน
ซีรีส์เกาหลี Bitter Sweet Hell วิมานขุมนรก
เรื่องย่อซีรีส์เกาหลี Bitter Sweet Hell วิมานขุมนรก ชื่อเรื่อง: Bitter Sweet Hell (우리, 집) ประเภท: ระทึกขวัญ / ลึกลับ / ดรามา กำกับโดย: อีดงฮยอน (จากซีรีส์ Doctor Lawyer), คิมซึงอู เขียนบทโดย: นัมจียอน (จากซีรีส์ So I Married an Anti-Fan) จำนวน: 12 ตอน ออกอากาศทาง: MBC ออกอากาศ: ทุกวันศุกร์-เสาร์ วันที่ 24 พฤษภาคม - 29 มิถุนายน 2024 ช่องทางรับชมอย่างถูกลิขสิทธิ์ในประเทศไทย: VIU เรื่องที่ออกอากาศก่อนเรื่องนี้: Chief Detective 1958 | เรื่องที่ออกอากาศต่อจากเรื่องนี้: Blackout
เรื่องย่อละคร • 29 มิ.ย. 67
อ่าน
Huawei Mate 60 Series อาจรองรับการโทรด้วยเสียงผ่านดาวเทียม !
ล่าสุดมีรายงานว่า Huawei กำลังพัฒนา Huawei Mate 60 Series ซึ่งคาดว่าจะรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่อาจรองรับการโทรด้วยเสียงด้วยผ่านดาวเทียมด้วยชิป PA ตัวใหม่ ซึ่งใน Huawei Mate 50 Series รองรับแค่การส่งข้อความผ่านดาวเทียมเท่านั้น ชิปดังกล่าวนั้นถูกผลิตโดยผู้ผลิตชิปในจีน และได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับระบบสื่อสารเคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม Tiantong-1 ระบบดาวเทียมสามารถใช้สำหรับการสื่อสารด้วยเสียง และสามารถส่งภาพ ส่งตำแหน่งได้แม่นยำ ชิปนี้จึงมีความจำเป็นสำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม และในปัจจุบันชิปดังกล่าวอยู่ใน Huawei Mate X3 และ P60 Series ซึ่งทั้ง 2 รุ่นน้้น รองรับแค่การสื่อสารผ่านดาวเทียมแบบ 2 ทาง ผ่าน SMS เท่านั้น หากข้อมูลนี้เป็นความจริง Huawei Mate 60 Series จะเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่รองรับการโทรด้วยเสียงผ่านการเชื่อมต่อดาวเทียมเป็นครั้งแรก เพิ่มเติมคือใน iPhone 14 Series ของ Apple รองรับการโทรผ่านดาวเทียมเช่นกัน แต่สามารถใช้ได้แค่เฉพาะการโทร SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมเท่านั้น ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 24 ส.ค. 66
อ่าน
เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ AMOLED ซะที พร้อม Galaxy Watch 6 Series อย่างเป็นทางการ!
นอกจากในงาน Samsung Galaxy Unpacked จะได้เปิดตัว Samsung Galaxy Z Flip5 และ Z Fold5 แล้ว ยังได้เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series แท็บเล็ตเรือธงที่ใช้จอ Dynamic AMOLED 2x เสียที พร้อม Galaxy Watch 6 Series ที่ในที่สุดก็พาปุ่มหมุนที่เป็นแอนะล็อกกลับมาเสียที เรียกได้ว่าเปิดตัวกันแบบครบเซต ครบ Ecosystem เลยก็ว่าได้ สำหรับงานเปิดตัว Samsung Galaxy Unpacked รอบเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ได้เปิดตัวทั้ง Samsung Galaxy Z Flip5 และ Z Fold5 และได้เปิดตัวแท็บเล็ตเรือธงของค่ายอย่าง Samsung Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra ที่ทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X, รองรับ 5G, ชิปเซตเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 และที่สำคัญ ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ! รวมถึง Samsung Galaxy Watch6 Series ที่ได้พารุ่น Classic ที่ใช้ปุ่มหมุนแบบแอนะล็อก กลับมาให้ได้ใช้งานกันแล้ว Samsung Galaxy Tab S9 Series Samsung Galaxy Tab S9 Series เป็นแท็บเล็ตระดับเรือธงของทางซัมซุงที่ห่างหายไปจากการเปิดตัวนานกว่า 1 ปี โดยในคราวนี้มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ทั้งในด้านดีไซน์ สเปก ความทนทาน ความพรีเมียม และที่สำคัญ นี่คือแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S รุ่นแรกที่กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 แล้ว ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Tab S9 Series มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ แต่ก็ดุดันด้วยหน้าจอที่ใช้พาแนลเป็น Dynamic AMOLED 2X ทั้ง 3 รุ่น (ทั้ง Galaxy Tab S9, S9+ และ S9 Ultra) ซึ่งทำให้หน้าจอของแท็บเล็ตซีรีส์นี้ รองรับเทคโนโลยี Vision Booster ซึ่งเป็น Intelligent Outdoor Algorithm หรืออัลกอริทึมที่จะช่วยเรื่องความสว่างของหน้าจอ ให้มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม สู้แสงแดด (โดยเฉพาะแดดไทย) ได้ดีกว่าเดิมด้วย โดย Samsung Galaxy Tab S9 มีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว, Tab S9+ มีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว และ Tab S9 Ultra มีหน้าจอขนาด 14.6 นิ้ว นอกจากนั้นด้วยวัสดุ Armor Aluminium ที่แน่นหนาขึ้น ทำให้กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 อีกด้วย สเปกของ Samsung Galaxy Tab S9 Series ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่เป็นเรือธงที่สุดในตอนนี้ แต่นอกจากนั้น ยังรองรับการ Ray Tracing ในระดับอุปกรณ์พกพาอีกด้วย (แม้จะยังไม่มีเกมรองรับ) รวมถึงอัดลำโพงมาแน่นถึง 4 ตัวในทุกรุ่น และระบบเสียงรอบทิศทางด้วย Dolby Atmos ส่วน S-Pen ปากกาแปะหลังเคสที่ซัมซุงชอบแถมมาให้ในกล่องก็ยังมีแถมให้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนนี้ S Pen ก็กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 เช่นเดียวกับแท็บเล็ต นอกจากนี้ยังได้รับการปรับปรุงให้ปลายปากกาลดการรับรู้เมื่อเผลอคลิกโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab S9 Series ยังรองรับแอปฯ Goodnotes แอปฯจดโน้ตยอดนิยมที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ ก็ได้มี ‘แถม’ ให้กับทุกคนที่ซื้อ Tab S9 Series ฟรี 1 ปีอีกด้วย ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อื่น ๆ ของ Samsung Galaxy Tab S9 Series อย่างเช่น DeX Mode การเชื่อมต่อระหว่าง Galaxy Ecosystem และการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ Windows ก็ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนเดิม ! และกล้องถ่ายภาพของ Galaxy Tab Tab S9 Ultra มีกล้องหลัง 13 MP และ 8 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP และ 12 MP ส่วน Galaxy Tab S9+ มีกล้องหลัง 13 MP และ 8 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP และ Galaxy Tab S9 มีกล้องหลัง 13 MP และกล้องหน้ามุมกว้างพิเศษ 12 MP Samsung Galaxy Tab S9 Series วางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ 2 สี ประกอบไปด้วยสีดำกราไฟต์ (Graphite), และสีเบจ (Beige) โดยจะวางขายจริงในวันที่ 11 ส.ค. 2023 ส่วนราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยจะประกอบไปด้วย Galaxy Tab S9 WiFi (8/128GB) ราคา 28,900 บาท Galaxy Tab S9 5G (12/256GB) ราคา 31,900 บาท Galaxy Tab S9+ WiFi (8/256GB) ราคา 35,900 บาท Galaxy Tab S9+ 5G (8/128GB) ราคา 39,900 บาท Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12/128GB) ราคา 49,900 บาท โดยจะให้เปิดพรีออเดอร์จนถึงวันที่ 10 ส.ค. 2023 ผ่านช่องทางออนไลน์ Samsung Thailand, Shopee, Lazada แต่ละช่องทางก็จะมีโปรโมชันแตกต่างกันไป โปรโมชันของ Samsung Thailand อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับสิทธิ์เก่าแลกใหม่ทั่วประเทศ สูงสุด 37,500 บาท ลูกค้าใหม่ที่สั่งซื้อครั้งแรกรับส่วนลด 1,000.- เมื่อใส่โค้ด NEWMEM สิทธิ์แลกซื้อ Galaxy Watch6, Galaxy Buds2 Pro ด้วยส่วนลดสูงสุด 30% ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่อนผ่าน TTB ใส่โค้ด TTBTS9 รับเครดิตเงินคืน 5% ผ่อนผ่าน KBank ใส่โค้ด KBATS9 รับเครดิตเงินคืน 4% ผ่อนผ่าน Krungsri ใส่โค้ด BAYTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% ผ่อนผ่าน SCB ใส่โค้ด SCBTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% พรีออเดอร์ Samsung Galaxy Tab S9 Series ใหม่ ราคาและโปรโมชั่นล่าสุด สั่งจองล่วงหน้า ได้ที่นี่เลยค่ะ Samsung Thailand และยังสามารถสั่งจองบน Shopee และ Lazada ของซัมซุงได้อีกด้วย โปรโมชันของ Shopee อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับโค้ดเงินคืนสูงสุด 2,495 Coins รับส่วนลด 30% เมื่อสั่งซื้อ Book Cover Keyboard, Galaxy Watch 5/6 Series, Galaxy Buds2 / Buds2 Pro โปรโมชันของ Lazada อัปเกรดความจุ 2 เท่า รับส่วนลด 30% เมื่อสั่งซื้อ Book Cover Keyboard, Galaxy Watch 5/6 Series, Galaxy Buds2 / Buds2 Pro Samsung Galaxy Watch6 Series Samsung Galaxy Watch6 Series นาฬิกาประจำค่าย ในปี 2023 นี้ เปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นได้แก่ Galaxy Watch6 ตัวหน้าปัดธรรดา บอดี้ทำจากอะลูมิเนียม และ Galaxy Watch6 Classic หน้าปัดคลาสสิกที่มีวงแหวนแอนะล็อกหมุนได้ บอดี้ทำจากสแตนเลสสตีล ด้านดีไซน์จะมีความ Smartwatch มากขึ้น หลังจากที่รุ่นก่อนออกไปในทาง Sportwatch ส่วนหน้าจอจะใช้ Super AMOLED ที่มีขนาดหน้าปัดใหญ่ขึ้น 20% มีให้เลือกตั้งแต่ 40, 43, 44 และ 47 มิลลิเมตร ส่วนขอบจอมีขนาดบางลง 30% การเปลี่ยนสายเองก็ง่ายด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ชิปเซตภายจะใช้เป็น Exynos W930 ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น 18% เพื่อรองรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และฟีเจอร์เก่าที่ทำงานได้ละเอียดกว่าเดิม เช่น ฟีเจอร์ติดตามการเคลื่อนไหวในการออกกำลังกายกว่า 90 แบบ, ฟีเจอร์ BioActive วิเคราะห์การเต้นของหัวใจขณะออกกำลักาย และแจ้งเตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจนั้นสูงหรือต่ำเกินไป แบตเตอรี่ก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ทาง Samsung เคลมว่าหากปิดโหมด Alway On จะอยู่ได้ถึง 40 ชั่วโมง และถ้าเปิดไว้จะลดลงมาเหลือ 30 ชั่วโมง ส่วนแรมมีขนาด 2GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB Galaxy Watch 6 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท โดยมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite, Silver และ Gold หน้าปัด 40 มม. ราคา 9,900 บาท หน้าปัด 44 มม. ราคา 11,900 บาท Galaxy Watch 6 Classic จะมีราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Graphite, Silver หน้าปัด 43 มม. ราคา 13,900 บาท หน้าปัด 43 มม. LTE ราคา 15,900 บาท หน้าปัด 47 มม. ราคา 14,900 บาท หน้าปัด 47 มม. LTE ราคา 16,900 บาท สำหรับการพรีออเดอร์จะเปิดถึงวันที่ 10 ส.ค. 2023 ทำได้ผ่าน Samsung Thailand, Shopee โดยโปรโมชันก็จะแตกต่างไปแต่ละช่องทาง โปรโมชันของ Samsung Thailand ส่วนลด 1,500 บาท รับฟรี สายนาฬิกา Fabric Band สีครีม มูลค่า 1,290 บาท ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่อนผ่าน TTB ใส่โค้ด TTBTS9 รับเครดิตเงินคืน 5% ผ่อนผ่าน KBank ใส่โค้ด KBATS9 รับเครดิตเงินคืน 4% ผ่อนผ่าน Krungsri ใส่โค้ด BAYTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% ผ่อนผ่าน SCB ใส่โค้ด SCBTS9 รับเครดิตเงินคืน 3% โปรโมชันของ Shopee ส่วนลด 1,500 บาท รับฟรี สายนาฬิกา Fabric Band สีครีม มูลค่า 1,290 บาท รับโค้ดเงินคืน 5% สูงสุด 770 Coins
แบไต๋ • 26 ก.ค. 66
อ่าน
5 Series Y สุดจิ้น ฟินกระจาย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Series Y และผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้าสู่โลกของ Y พลาดไม่ได้กับ 5 เรื่องเด็ดที่จะสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ บางครั้งอาจมีเสียน้ำตาแต่สุดท้ายจะจบลงด้วยความอิ่มเอมใจ ผู้อ่านที่รักคะ … ห้ามพลาดเลยค่ะ บอกได้แค่นี้ 😊1. เพราะเราคู่กัน (2gether The Series)บอกได้เลยว่าสำหรับเรื่องนี้นั้น สร้างความจิ้น ฟินกระจายไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้นแต่ดังไกลถึงต่างแดน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทุกสัปดาห์ ความลงตัวของเรื่องนี้เกิดจากหลายๆองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบทนิยายที่เขียนโดย ”JittiRian” ซึ่งมีฐานแฟนนิยายที่ค่อนข้างเหนียวแน่น base ของเรื่องนี้มีความโดดเด่นจากการนำบทเพลงของวง Scrubb มาเป็นเส้นเรื่อง ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้ดี เมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์มีการปรับบทที่สร้างความกลมกล่อมเพิ่มความดึงดูดให้กับเรื่องมากยิ่งขึ้น รวมถึงเคมีที่ลงตัวของเหล่าบรรดานักแสดงโดยเฉพาะคู่หลักที่แคสคาแรคเตอร์มาได้ตรงกับบทที่สุด ไม่ว่าจะเป็น”ไบร์ท” ที่ต้องสวมบท “สารวัตร” ที่มีความนิ่ง เท่ เป็นทั้งนักบอลและเล่นดนตรี น่าจะเป็นคาแรคเตอร์หนุ่มๆที่ใครๆก็นึกถึง สำหรับไทน์มีความซนๆแต่แฝงไปด้วยความน่ารัก อ่อนโยน ซึ่งทั้งคู่เล่นได้สมบทบาทจนผู้ชมเชื่อและอินขั้นสุด ถึงกับว่าในบาง EP. ตัวเอกของเรื่องเกือบแย่กันเลยทีเดียว (โดนถล่มในสื่อออนไลน์ไม่น้อยเลย) เสน่ห์ของเรื่องนี้อีกอย่างคือการอิมโพรไวด์ของบรรดานักแสดงไม่ว่าจะเป็นตัวหลักหรือนักแสดงร่วมทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติน่าติดตามมากขึ้น อย่างไรก็ตามจากความดังนี้ก็ส่งผลให้ 2 หนุ่มนักแสดงนำของเรื่อง “ไบร์ท-วิน” ทะยานขึ้น Top Chart และเป็นที่ต้องการตัวของหลายๆผลิตภัณฑ์กันเลยทีเดียวเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่กันแล้วงานนี้ ... และหากถามถึงบทสรุปของเรื่องนี้นั้น ขอบอกว่า ความคลั่งรักและพรหมลิขิตมันได้ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุดแล้ว และสำหรับเรื่องนี้นั้นยังมีภาคต่อกันให้ฟินทั้งในส่วนของซีรีส์และภาพยนตร์กันด้วย ควรค่าแก่การติดตามที่สุดhttps://youtu.be/1ufpSqkv-nI2. ปลาบนฟ้า (Fish upon the sky)ขอต่อกันที่บทประพันธ์ของ “JittiRian” อีกสักเรื่อง ต้องบอกว่าผลงานของนักเขียนท่านนี้จะมีลักษณะที่เป็นฟีลกู้ด อ่านแล้วทำให้ยิ้มและมีความสุขได้ไม่ยาก สำหรับเรื่องนี้ได้กล่าวถึงการแอบรักที่คิดว่าเอื้อมไม่ถึง เป็นไปไม่ได้ เปรียบเสมือนปลาที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็สอดแทรกถึงเรื่องการเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญในการยอมรับคุณค่าของตนเอง รวมถึงความผูกพันของสายสัมพันธ์ในครอบครัว และยังมีการหยิบจับประเด็นการคุกคาม การละเมิดสิทธิของบุคคลที่ควรตระหนักถึงของคนในสังคมอีกด้วย สำหรับในส่วนของตัวซีรีส์ทางผู้กำกับถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงแต่เข้าถึงได้ง่าย เรื่องนี้นอกจากเส้นเรื่องที่ว่าด้วยการแอบรัก (ซึ่งหลายๆคนคงเคยมีชุดประสบการณ์เหล่านี้อยู่บ้างทำให้เข้าถึงอารมณ์ได้ไม่ยาก) ความโดดเด่นที่น่าจับตาไม่แพ้กันนั้นคือจังหวะโบ๊ะบ๊ะของเรื่องที่ทำออกมาได้ดี สนุกและน่าติดตาม ต้องบอกว่าหัวเราะจนแทบกลั้นหายใจกันเลย สำหรับนักแสดงทั้งคู่หลักและคู่รองมีความเคมีที่เข้ากันได้ดี พระเอกของเรื่อง “ปอนด์” ถึงแม้จะเป็นนักแสดงใหม่แต่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตาคนคลั่งรักในบทของ ”หมอก” จนทำให้เชื่อได้ เรียกว่าหลายๆคนโดยตกก็ตรงนี้ ส่วนนายเอกนั้นรับบทโดย “ภูวินทร์” เล่นบท “ปี” ได้อย่างน่ารักน่าหยิกเพราะเล่นกันแบบไม่ห่วงหล่อกันเลย อีกบทที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เพราะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระเอก-นายเอก คือ บท “เมืองน่าน” ที่ต้องยอมใจคนแคสเลย แคสได้เหมาะกับคาแรคเตอร์มาก เพราะ “มิกซ์” มีความลงตัวทุกอย่างที่ทำให้รู้สึกได้ว่าเขาเป็นปลาบนฟ้าได้จริง ไม่แปลกใจที่ตัวเอกของเรื่องจะแอบรัก ถ้าหากจะให้นิยามถึงเรื่องนี้นอกจากเรื่องความคลั่งรักก็เห็นจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง การยอมรับในตัวตนของตนเองและมีความสุขไปกับมัน … แนะนำย้ำเลยว่าดูเถอะ คุณจะมีความสุขกับเรื่องนี้จริงๆhttps://youtu.be/6p22a14oj_03. เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซ่ะดีๆ (TharnType The Series)ซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่องบังเอิญรัก สร้างมาจากนิยายดังบนเว็บไซต์ Dek-D.com ของนักเขียน “MAME” บทเริ่มจากความเกลียดสุดขั้วของนายเอก”ไทป์” (รับบทโดยกลัฟ) ที่มีต่อ “ธาร” (รับบทโดยมิว) พระเอกของเรื่อง นายเอกจะมีลักษณะที่เป็นคนแมนๆเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ชอบเกย์และต้องมาอยู่ร่วมห้องกับ รูมเมทที่เป็นเกย์จึงรู้สึกต่อต้านและพยายามที่จะทำทุกทางให้พระเอกของเรื่องย้ายออกจากห้องไปแต่กลับกลายเป็นว่าทุกการกระทำกลับสร้างความสัมพันธ์ให้ก่อเกิดขึ้น ทั้งนี้บทยังกล่าวถึงปมที่เป็นประเด็นของตัวละครหลักทั้งคู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดแทรกเรื่องราวที่เป็นปัญหาทางสังคมที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับความโดดเด่นของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องคาแรคเตอร์แมนๆของนายเอกที่มักไม่ค่อยได้พบแล้ว ฉากเลิฟซีนที่ฟินจิกหมอนกันนั้น ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างแซบ เผ็ด ดุเดือดกันพอประมาณเลยทีเดียว นักแสดงสามารถถ่ายทอดออกมาได้ถึงอารมณ์ เรื่องนี้มีความครบรส และสำหรับความนิยมของเรื่องนี้นั้น บอกได้เลยว่าทั้งในไทยและต่างประเทศขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์กันตลอด ส่งผลให้ทั้งสองนักแสดงนำกลายเป็นคู่จิ้นแห่งปีในหลายรายการ ... นิยามสั้นๆสำหรับเรื่องนี้ “เกลียดอะไรได้อย่างนั้น”https://youtu.be/BeFFEICnz2A4. นิทานพันดาว (1000 Stars)สำหรับเรื่องนี้นั้นสร้างจากนิยายชื่อดังของนักเขียน Bacteria ต้องบอกว่ามีฐานแฟนคลับที่คอยติดตามเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยเนื้อเรื่องในนิยายทั้งแก่นของเรื่องที่น่าติดตามและภาษาที่ใช้สวยงามเข้าใจง่าย บทที่เริ่มจากตัวนายเอก (รับบทโดยมิกซ์) ที่ใช้ชีวิตลูกคนรวยแบบไม่เห็นคุณค่าเพราะรู้ว่าตัวเองใกล้จะตายจากโรคหัวใจที่เป็นอยู่ วันหนึ่งได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่และเริ่มหาความหมายของชีวิตโดยยอมลำบากขึ้นไปเป็นครูบนดอยและได้พบพระเอก (รับบทโดยเอิร์ท) เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาดูแลนายเอกจนก่อเกิดความสัมพันธ์อันดีและนำมาซึ่งเรื่องราวต่างๆ ความโดดเด่นของเรื่องนี้คงต้องบอกว่า บทบาทที่นักแสดงหลักของเรื่องถ่ายทอดผ่านทางสายตาและท่าทางนั้นแสดงออกมาได้ดีมีความเป็นธรรมชาติ เคมีเข้ากัน (หลายฉากที่จะตกหลุมรักทั้งนายเอกและพระเอกอย่างไม่ทันตั้งตัว) นอกจากนี้แล้วนักแสดงสบทบต่างก็แสดงเป็นธรรมชาติสูงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือภาพที่ตัดต่อออกมาสวยงาม ธรรมชาติ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวผาปันดาวกันเลยทีเดียว (ในเรื่องถ่ายทำที่ จ.เชียงราย) สำหรับเรื่องนี้นอกจากมีความโรแมนติกทั้งเรื่องบทและภาพแล้ว ยังสอดแทรกประเด็นอิทธิพลของผู้มีอำนาจและความเหลื่อมล้ำของสังคมให้ได้ตระหนักกันด้วย ... และหากจะหาบทสรุปของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องการหาความหมายของชีวิตและอยู่กับมันอย่างมีความสุขhttps://youtu.be/rqifRDavfcA5. ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed)ขอแนะนำข้ามฝั่งมาที่จีนสักหน่อย คงต้องบอกว่าเรื่องนี้นั้นดังเป็นพลุแตกเลยก็ว่าได้ สำหรับซีรีส์จีนกำลังภายในที่มีคำนิยามว่า “ซีรีส์มิตรภาพลูกผู้ชาย” เป็นบทประพันธ์ของ โม่เซียงถงซิ่ว นำแสดงโดย เซียวจ้าน และ หวัง อี้ป๋อ โดยเรื่องราวกล่าวถึงการผจญภัยของ 2 ตัวละครเอก เว่ยอู๋เซียน และ หลานวั่งจี ที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์ตั้งแต่วัยเยาว์โดยตั้งปณิธานจะปราบเหล่ามารให้หมดไปจากยุทธภพ เรื่องราวมีจุดหักเหจนทำให้สองสหายเหมือนยืนกันคนละฝั่ง แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินเรื่องกลับมีหลายปมซ้อนอยู่ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ ประกอบกับเหล่าตัวนักแสดงหลักถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้น่าติดตามในทุกตอน (มี 50 EP) คุณอาจจะตกหลุมรักความน่ารักของเว่ยอู๋เซียน และไม่สามารถละสายตาจากความนิ่งๆ เท่ๆ ของหลานวั่งจีได้ ทั้งนี้ต้องบอกว่าเลยว่าถ้าจะถามหาฉากเลิฟซีนนั้นคงยาก (ก็มิตรภาพลูกผู้ชาย) แต่ถ้าถามถึงความฟินนั้นมีแบบจุกๆ ครบรสมากเรื่องนี้ สนุกและลุ้นไปจนจบกันเลยทีเดียว พลาดไม่ได้ ... หากจะต้องหานิยามของเรื่องนี้คงเป็นเรื่องความซื่อตรงต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นในการทำความดีhttps://youtu.be/9BVGF8CqejMเครดิตภาพ: ปกโดยผู้เขียนอ้างอิงวิดีโอประกอบบทความ :วิดีโอที่ 1 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 2 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 3 MeMindY / youtubeวิดีโอที่ 4 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 5 WeTV Thailand / youtube จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Akirap27 • 24 มิ.ย. 64
อ่าน
iPhone 15 Series อาจมีสีใหม่ 2 สี พร้อมกรอบเครื่องแบบไทเทเนียม !
สีใหม่ที่ Apple เปิดตัวไปล่าสุดนั้นคือสีเหลืองใน iPhone 14 ล่าสุดมีข่าวลือว่า Apple จะเปิดตัวสีใหม่ 2 สีใน iPhone 15 Series ได้แก่ สีแดงเข้มใน iPhone 15 Pro และสีเขียวสำหรับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus สีแดงใหม่ใน iPhone 15 Pro ถูกอธิบายว่าเป็น ‘สีแดงเข้มหรือสีแดงเลือดหมู’ คาดว่าจะอ่อนกว่าสีม่วงเข้มของ iPhone 14 Pro เล็กน้อย ส่วนสีเขียวของ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus นั้นจะมีความคล้ายคลึงกับสีเขียวของ iPhone 12 และ iPhone 11 นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า iPhone 15 Pro จะทำกรอบเครื่องจากไทเทเนียม ซึ่งถือเป็นความแปลกใหม่ใน iPhone และยังทำให้มีความแข็งแรงมากกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ Apple ใช้ไทเทเนียมใน Apple Watch มาหลายปีแล้ว ก็ไม่แปลกถ้าจะนำมาใช้ใน iPhone ด้วย ที่มา : Gizmochina.com
แบไต๋ • 6 ก.ค. 66
อ่าน
Realme ประกาศเปิดตัว Narzo 60 Series ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้!
Realme ประกาศจะเปิดตัว Narzo 60 series ในวันที่ 6 กรกฎาคม เวลา 12.00 น. ตามเวลาอินเดีย อีกทั้งยังได้ปล่อยภาพดีไซน์ Realme narzo 60 5G ที่มาในสีโทนส้ม-น้ำตาลธีม ‘ขอบฟ้าดาวอังคาร (Martian Horizon)’ ในไลน์อัปนี้จะประกอบด้วยสมาร์ตโฟน 2 รุ่น ด้วยกัน ได้แก่ Narzo 60 และ Narzo 60 Pro โดยจากภาพที่ปล่อยออกมาเราจะเห็นสัญลักษณ์ตัวอักษร “NARZO” ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง นอกจากนี้ที่กล้องหลังยังมีตัวหนังสือระบุความละเอียด ‘100 MP’ อีกด้วย สำหรับสเปกอื่น ๆ นั้น ก่อนหน้านี้มีผลทดสอบของ Narzo 60 5G บน Geekbench หลุดออกมา โดยระบุว่ารุ่นนี้จะใช้ชิป Dimensity 6020, แรม 8GB และทำงานบน Android 13 ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 27 มิ.ย. 66
อ่าน
เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Samsung Galaxy Tab S8 Series แตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?
สวัสดีเหล่าสาวก Samsung ทุกท่านครับ หลังจาก Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Tab S9 Series ในงาน Samsung Galaxy Unpacked July 2023 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็สร้างความสนใจให้แก่เหล่าสาวกที่ชื่นชอบสายแท็บเล็ตไม่ใช่น้อยๆเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลายๆ อย่างให้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Samsung Galaxy Tab S8 Series แต่จะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกันก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อแท็บเล็ตของท่านเองการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Tab ครั้งนี้จะเปรียบเทียบแบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่Samsung Galaxy Tab S9 Standard กับ Samsung Galaxy Tab S8 Standard Samsung Galaxy Tab S9+ กับ Samsung Galaxy Tab S8+Samsung Galaxy Tab S9 Ultra กับ Samsung Galaxy Tab S8 Ultraดีไซน์Samsung Galaxy Tab S9 Series กับ Tab S8 Series จะมีดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูค่อนข้างเหมือนกันทั้งขนาดและน้ำหนัก ถ้ามองไว้ตาเปล่า แต่มันจะแตกต่างกันดังนี้S9 Standard น้ำหนัก 500 กรัม หนา 5.9 มม. / S8 Standard น้ำหนัก 507 กรัม หนา 6.3 มม. S9+ น้ำหนัก 586 กรัม / S8+ น้ำหนัก 572 กรัมS9 Ultra มีน้ำหนัก 737 กรัม / S8 Ultra น้ำหนัก 728 กรัมแต่จุดแตกต่างกันจริง คือ Tab S9 Series มีมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 คือ สามารถทนน้ำได้ที่ความลึกระดับ 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที ที่กันทั้งตัวเครื่องและปากกา S Pen ในขนาดที่ Tab Series อื่นๆ ไม่สามารถทนน้ำทนฝุ่นได้ กลายเป็นข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ชอบใช้แท็บเล็ตภาคสนามที่ไม่ต้องกลัวน้ำไม่เข้าเครื่องเหมือนก่อนแล้วหน้าจอหน้าจอ Tab S9 Series จะเป็น Dynamic AMOLED 2X ในขณะส่วนหน้าจอของ Tab S8 Series จะเป็น sAMOLED ในรุ่น S8+ และ S8 Ultra ยกเว้น S8 Standard จะเป็น LTPS TFT แต่ทุกรุ่นรองรับ Refresh Rate 120Hz เท่ากัน และขนาดหน้าจอยังเหมือนเดิมSamsung Galaxy Tab S9 Standard / Samsung Galaxy Tab S8 Standard ขนาด 11 นิ้วSamsung Galaxy Tab S9+ / Samsung Galaxy Tab S8+ ขนาด 12.4 นิ้วSamsung Galaxy Tab S9 Ultra / Samsung Galaxy Tab S8 Ultra ขนาด 14.6 นิ้วสเปกTab S9 Series ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธงตัวล่าสุด Snapdragon 8 Gen 2 S9 Standard แรม 8GB/12GB ความจุ 128GB/256GB S9+ แรม 12GB ความจุเลือกได้ 256GB/512GB S9 Ultra แรม 12GB ความจุเลือกได้ 256GB/512GB ส่วน Tab S8 Series ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งแรงน้อยกว่า มีแต่แรมแค่ 8GB และมีความจุให้แค่ 128GB โดยรองรับ 5G เหมือนกันทั้งสองซีรี่ย์กล้องทั้ง Tab S9 Series และ Tab S8 Series จะมาพร้อมสเปกกล้องแตกต่างกันนิดนึง ตามดังนี้ S9 Standard กล้องหลัง Main 13MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP ในแค่ที่นี้ Tab S8 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 6MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MPS9+ กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP S9 Ultra กล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 8MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Main 12MP + Ultrawide 12MPในแค่ที่นี้ Tab S8 Series มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Main 13MP + Ultrawide 6MP พร้อมแฟลช LED และกล้องหน้า Ultrawide 12MP ทุกรุ่น ยกเว้นรุ่น Tab S8 Ultra กล้องหน้าเหมือนรุ่น Tab S9 Ultraแบตเตอรี่แบตเตอรี่ Tab S9 Series มีความจุแบตเหมือนกับตัว Tab S8 Series ยกเว้น Tab S9 Standard ที่มีความจุแบต 8400 mAh ซึ่งมากกว่า Tab S8 Standard ที่มีความจุแบตแค่ 8000 mAh เท่านั้นเองราคาราคาของ Tab S9 SeriesS9 Standard WiFi8GB/128GB ราคา 28,900 บาท12GB/256GB ราคา 34,900 บาทS9 Standard 5G 8GB/128GB ราคา 32,900 บาท12GB/256GB ราคา 38,900 บาทS9+ WiFi12GB/256GB ราคา 35,900 บาท12GB/512GB ราคา 41,900 บาทS9+ 5G12GB/256GB ราคา 39,900 บาท12GB/512GB ราคา 45,900 บาทS9 Ultra (มีแค่รุ่น 5G)12GB/256GB ราคา 49,900 บาท12GB/512GB ราคา 55,900 บาทราคาของ Tab S8 Series ณ เวลานี้ S8 Standard (ณ เวลานี้มีแค่รุ่น 5G)8GB/128GB ราคา 26,900 บาทS8+WiFi 8GB/128GB ราคา 28,900 บาท5G 8GB/128GB ราคา 33,900 บาทS8 Ultra WiFi 8GB/128GB ราคา 33,900 บาท5G 8GB/128GB ราคา 40,900 บาทซึ่งราคา Tab S9 Series อาจจะแรงไปหน่อย เพราะอย่างเพิ่งเปิดตัวไปแต่ก็แลกมาด้วยชิปประมวลผลที่แรงกว่าเดิม รวมทั้งหน้าจอสวยและความปลอดภัยของเครื่องที่ดีขึ้นสรุปแล้วซื้อแท็บเล็ตรุ่นไหนดีตรงนี้ขอแบ่งมุมมองเป็น 3 กลุ่มผู้ใช้งาน คือ คนใช้งานทั่วไป, คนใช้เพื่อเล่นเกม และครีเอทีฟหรือครีเอเตอร์คนใช้งานทั่วไป ตรงนี้ผมมองว่าสามารถใช้ได้ทุกรุ่น ถือว่าคุ้มค่าทุกรุ่น เพราะประสิทธิภาพในการทำงานดีพอสมควร สนุกกับความบันเทิงได้อย่างเต็ม และสามารถใช้แทนโน้ตบุ๊คได้ด้วย หากใช้ภาคสนามและประสิทธิภาพแรงแนะนำเป็นตัว Tab S9 Series ไปเลย เพราะมีมาตรฐาน IP68 ที่กันน้ำกันฝุ่น ไม่ต้องกลัวเครื่องเสียหายจากน้ำ (ใช้ภาคสนามแนะนำเป็น S9 Standard เพราะเครื่องเล็กพกพาสะดวกกว่า)คนใช้เพื่อเล่นเกม ตรงนี้ผมมองว่าถ้าเป็นพวกแคสเกมถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะอย่างประสิทธิภาพของชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 และ Gen 1 แรงพอสมควร โอกาสที่จะกระตุกมีน้อยมาก ยกเว้นไม่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น เล่นเกมไม่ได้ อันนี้จบเลย แต่ขอเพิ่มเติมสำหรับคนที่ต้องการจอใหญ่เลยแนะนำเป็นตัว S9 Ultra ไปเลยดีกว่าครีเอทีฟหรือครีเอเตอร์ ตรงนี้ผมมองว่าถ้าเป็นคนทำงานสายนี้อยู่แล้ว ผมแนะนำใช้รุ่น S9+ และ S9 Ultra เพราะแรม 12GB ที่โคตรแรงแล้ว หน่วยความจำ 512GB ที่สามารถเก็บงานไว้เครื่องได้เยอะอีกด้วย และเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์ รับรองคุ้มค่าอย่างแน่นอนเป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ Tab S9 Series ในวันนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อระหว่าง Tab S9 Series กับ Tab S8 Series ได้นะครับส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Tab S9 Series ก่อนใครสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นดีจาก True5G ได้แล้ววันนี้จนถึง 10 สิงหาคมนี้สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึก ชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลย หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่Facebook : WV reviewบทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย : WVเครดิตภาพภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจากเว็บไซต์ Samsung : Tab S9 และ Tab S8 ภาพประกอบจาก Facebook : Samsung : 1-7ภาพประกอบที่ 8 จาก Facebook : TrueMove Hเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WV • 30 ก.ค. 66
อ่าน
Samsung Galaxy S24 Series อาจมาพร้อมความเร็วในการชาร์จเท่ากับรุ่นเดิม !
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Samsung Galaxy S24 Ultra จะรองรับชาร์จเร็วสูงสุด 65W แต่รายการชุดใหม่จากหน่วยงาน 3C ของจีน ยืนยันว่า Galaxy S24 Series จะยังคงมีความเร็วในการชาร์จที่ 25W และ 45W โดยมี Gaalxy S24 (SM-S9210) ที่ 25W เช่นเดียวกับ Galaxy S23 และ Galaxy S24+ (SM-S9260) และ S24 Ultra (SM-S9280) จะยังคงความเร็ว 45W เหมือนกับรุ่นก่อนเช่นกัน รายชื่อใหม่ยังยืนยันว่า Samsung จะไม่แถมที่ชาร์จในกล่องเหมือนเดิม คงต้องรอดูกันว่า Samsung จะเลือกใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบซ้อนบน Galaxy S24+ และ Galaxy S24 Ultra ตามข่าวลือเมื่อต้นปีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รุ่น คาดว่าจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5,000mAh ในขณะที่ Galaxy S24 รุ่นธรรมดาอาจมีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ที่มา : GSMarena.com
แบไต๋ • 15 ก.ย. 66
อ่าน
Club Friday The Series 4
Club Friday The Series 4 ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เวลา 20.15 21.15 น. ทางช่อง ONE (Digital HD 31) และรีรันทุกวันเสาร์ เวลา 19.00 20.00 น. ทางช่องกรีนแชนแนล เริ่มออกอากาศ ตอนแรกวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมนี้!!
เรื่องย่อละคร • 2 พ.ค. 57
อ่าน
Club Friday The Series 8
Club Friday The Series 8 เรื่อง รักแท้มีหรือไม่มีจริง ออกอากาศ ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 21.00 น. ทางช่อง GMM25 รวบรวมคลิปจาก Youtube : GMM25Thailand
เรื่องย่อละคร • 5 พ.ย. 56
อ่าน
Xiaomi 14T Series สมาร์ตโฟนเรือธงตัวใหม่ จากค่ายจีน เริ่มต้น 15,990 บาท
เปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา กับ Xiaomi 14T Series สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะมีเทคโนโลยี Advanced AI ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นXiaomi 14T Pro กล้อง 3 ตัว ครอบคลุมความยาวโฟกัส 5 ระยะ ตั้งแต่ 15 - 120 มม. โดยกล้องหลักมาพร้อมความละเอียด 50MP รูรับแสงขนาดใหญ่ /1.6 และเลนส์ออปติคอล Summilux รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Leica ที่ถูกจับคู่กับเซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 900 มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.31 นิ้ว, Dual Native ISO Fusion Max และช่วงไดนามิกสูง 13.57EV จึงทำให้สามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 2Xiaomi 14T มีเซ็นเซอร์ IMX906 ขั้นสูงจาก Sony และกล้อง 3 ตัว ครอบคลุมความยาวโฟกัส 4 ระยะ ตั้งแต่ 15 - 100 มม. โดยกล้องหลักมาพร้อมความละเอียด 50MP รูรับแสงขนาดใหญ่ /1.7 และเลนส์ออปติคอล Summilux รุ่นล่าใหม่สุด จาก Leica ที่มอบสีสันสดใสและรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาวะแสงน้อย พร้อมด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่มีระยะโฟกัสเทียบเท่า 15 มม. ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์นั้นคมชัดมากยิ่งขึ้นXiaomi 14T Series ได้ร่วมมือกับ Google และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ด้วยการใช้ Advanced AI ทั้งการค้นหา เสียง ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ มีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Circle to Search with Google5 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่เห็นบนโทรศัพท์มือถือได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับแอป รวมไปถึง Google Gemini6 ที่ช่วยเขียน เรียนรู้และวางแผนตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับ AI Interpreter ที่ช่วยทำลายกำแพงภาษา แปลได้หลายภาษาแบบเรียลไทม์ มีการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างการประชุมหรือการโทรสนทนา มี AI Notes และ AI Recorder ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการถอดเสียงพูดเป็นข้อความ การจดจำผู้พูดได้อย่างแม่นยำ และการสรุปอย่างรวดเร็วมี AI Image Editing ช่วยยกระดับในการเล่าเรื่องด้วยภาพขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่ AI Eraser Pro จะช่วยลบองค์ประกอบที่คุณไม่ต้องการออกไปเพื่อให้คุณได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด และ AI Film ช่วยสร้างวิดีโอสั้นง่ายขึ้น รวมไปถึง AI Portrait ที่จะสร้างอวตารเฉพาะตัวที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงตัวตนในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างง่ายดายมากกว่าเดิมหน้าจอแสดงผล AMOLED CrystalRes ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2712 x 1220) ด้วยความหนาแน่นของพิกเซลที่ 446 ppi ความลึกของสี 12 บิต ครอบคลุม DCI-P3 และความสว่างสูงสุด 4,000 nits อัตรารีเฟรช 144Hz10Xiaomi 14T Series แบตเตอรี่ 5000mAh โดยที่ Xiaomi 14T Pro มาพร้อมการชาร์จไร้สาย 50W และ HyperCharge 120W13 โดยสามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 19 นาทีเท่านั้น ในขณะที่ Xiaomi 14T มาพร้อมกับการชาร์จเร็วด้วย HyperCharge 67W14ด้านดีไซน์เป็นโลหะสุดล้ำสมัย ขอบจอบางเป็นพิเศษเพียง 1.7 มม. ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้มากยิ่งขึ้น รองรับมาตรฐาน IP6815 ในการกันน้ำและกันฝุ่น ทั้งนี้ Xiaomi 14T Pro ยังมาพร้อมกับกรอบโลหะอันประณีตและหรูหรา มีความยืดหยุ่นทนทานต่อการงอและเสียหายมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 116%Xiaomi 14T Pro มี 3 สี ได้แก่ Titan Gray, Titan Blue, Titan Black ราคาเริ่มต้น 21,290 บาทXiaomi 14T มี 4 สี ได้แก่ Titan Gray, Titan Blue, Titan Black, Lemon Green ราคาเริ่มต้น 15,990 บาทที่มาของข้อมูล Xiaomi
TNN ช่อง16 • 29 ก.ย. 67
ดูเพิ่มเติม