TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Apple” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
สมัคร Redotpay ใช้กับ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียว #ApplePay #ApplePayThailand #Apple
Apple Pay Thailand X RedotPayสวัสดีครับชาว ApplePay ใกล้สิ้นปีแบบนี้ผมมีอีกหนึ่งบัตรมาแนะนำให้ชาว ApplePay และห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ไม่ต้องมีที่อยู่ต่างประเทศที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อนด้วยการเปลี่ยนภูมิประเทศ สำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศตามลิงก์นี้เลยครับ เปลี่ยนภูมิประเทศ หลังนั้นให้กด Download Application Redotpay ตามขั้นตอน ให้เลือกดาวน์โหลดตามระบบปฏิบัติการของเราได้เลยครับ หลังจากดาวน์โหลดหรือเข้าเว็บไซต์ Redotpay แล้วให้เราทำการกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการสมัครและใส่ OTP ที่ได้รับ เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะได้รับ 5 USD สำหรับใช้ออกบัตร ผูกกับ ApplePay เมื่อโหลดแอปพลิเคชันเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เราเปิดขึ้นมาจะพบหน้าเข้าสู่ระบบให้เรากรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ในหน้าเว็บ และตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานครั้งต่อไปครับ ใกล้ได้ใช้ ApplePay แล้วอีกนิดเดียว เมื่อตั้งรหัสผ่านเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าบัญชี และจะพบเหรียญ 5 USD สำหรับเพื่อนๆที่สมัครผ่านลิงก์ Redotpay ขั้นตอนถัดไปให้เพื่อนๆ ทำการยืนยันตัวตนโดยไปที่หน้าบัญชีผู้ใช้กดที่โปรไฟล์แล้วทำการใส่ข้อมูลตามความจริงได้เลยครับ หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จแล้วให้ไปที่เมนูบัตร เพื่อออกบัตรสำหรับแอดลง ApplePay ครับสำหรับบัตรที่จะนำไปใช้ใน ApplePay จะมีให้เลือกสองแบบ แบบแรกจะเป็นบัตรเสมือน แบบที่สองจะเป็นบัตรจริงถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากรับบัตรจริงสามารถเลือกแค่บัตรเสมือนได้ครับ ราคาก็จะถูกกว่าครับ ถ้าสังเกตเราจะเห็นราคาบัตร 10 USD กับ 100 USD ครับซึ่งเราต้องเติมเงินเพิ่มเพื่อซื้อบัตรในตัวอย่างถ้าเราสมัครผ่านลิงก์ Redotpay จะมี 5 USD แล้วเราสามารถเติมเงินขั้นต่ำอีก 6 USD เพื่อใช้สำหรับซื้อบัตรครับ ส่วนขั้นตอนการเติมเงินก็ตามนี้เลยครับ https://youtu.be/j3tqqQYWhwo?si=UytQCL50rle7SMoM ถนัดเติมแบบไหนสามารถเลือกได้เลยครับ เพียงเท่านี้เราก็มี บัตร RedotPay บน ApplePay แล้วครับ ข้อดีของบัตร RedotPay * ApplePay คือสามารถใช้เหรียญคริปโตใช้จ่ายได้ครับ ใครเทรดคริปโตบน bitkub สามารถนำเหรียญมาใช้จ่ายได้เลยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้เงินสกุลเหรียญคริปโตครับ หากชอบ ApplePay สามารถกดดูบัตรอื่นๆ ด้านล่างได้นะครับhttps://intrend.trueid.net/post/369325https://intrend.trueid.net/post/358250เครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก bitkub , RedotPay , ขอบคุณวีดีโอจากช่อง How to Trade : เทรดอย่างไรให้ได้ตังค์ Twitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 4 ก.พ. 67
อ่าน
ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียวด้วย Apple pay + Cypher Card #ApplePay #APPLEPAYTHAILAND
Apple pay x Cypher Card สวัสดีครับชาว ApplePay ชาว Cypher Card และชาวคริปโต วันนี้ผมก็จะมาชี้โพรงให้กระรอกสำหรับกับบัตร Cypher Card ห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ไม่ต้องมีที่อยู่ต่างประเทศที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับ ขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อน โดยการเปลี่ยนภูมิประเทศสำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศกดตามลิงก์นี้เลยครับ เปลี่ยนภูมิประเทศ หลังจากเปลี่ยนเป็นประเทศที่สามารถใช้งาน ApplePay ได้แล้วเราก็มาเริ่มกันเลยให้เราเข้าไปที่ App Store และทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Cypher Wallet ได้เลยครับ หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วในขั้นตอนการสมัครให้กด Create New Wallet ระบบจะมีตัวเลือกความปลอดภัยให้เราเลือก ในตัวอย่างผมเลือกจำนวน 12 ชุด อย่าลืมทำการบันทึกภาพไว้ยืนยันนะครับ เมื่อยืนยันคำถามเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าแอปพลิเคชันดังนี้ ในขั้นตอนถัดไป กดที่เมนูการ์ด เลือกหัวข้อ Standard และเลือก Get Started ขั้นตอนถัดไปให้กรอกข้อมูลที่อยู่ประเทศไทยลงไปได้เลยครับ ในขั้นตอนการยืนยันตัวตนให้เลือกประเทศตามเอกสารที่ต้องการยืนยัน หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าบัตรสำหรับผูกกับ Apple pay จะสังเกตว่าบัตรสำหรับผูกกับ Apple pay ยังถูกล็อกอยู่ให้เราทำการกด Activate Card จะพบว่ามีเงื่อนไขในการใช้จะต้องเติมเงิน 10 USD ก่อน โดยการเลือกเมนู Portfolio ในตัวอย่างผมเลือกเหรียญ Ethereum ในหน้าต่าง Ethereum ให้กดเมนู Receive จากนั้นเราจะได้ QR Code สำหรับการโอนเหรียญ ในตัวอย่างผมใช้ Bitkub ในการโอนเหรียญเข้า wallet หลังจากเติมเงินเรียบร้อยแล้วให้กด Activate บัตรอีกครั้งเพื่อใช้ในการผูกกับ Apple Pay ระบบจะให้เราแลกเหรียญเป็นเงิน USD ก่อน เมื่อเปิดใช้งานบัตรแล้วให้เรากดไปที่ Reveal Card เพื่อนำหมายเลขบัตรเพิ่มลงใน Apple Pay ในขั้นตอนถัดไป ในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่เราเพิ่มบัตรลงใน Apple Pay ได้แล้วให้เราทำการใส่รหัสยืนยันโดยมีให้เลือกสองวิธีคือรับ OTP ผ่านเบอร์โทรศัพท์และรับ OTP ผ่านอีเมล เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ Apple Pay ชำระเงินได้แล้ว เครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก bitkub , Cypher Card , Twitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียว https://news.trueid.net/detail/4LvPdyMJOWAQ https://news.trueid.net/detail/79ywjVA1AvNa https://news.trueid.net/detail/6pQeA1NBYRwp เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 9 ต.ค. 67
อ่าน
Apple เดินหน้าโปรเจค Apple Car
ถ้าพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีก็จะมีบริษัทที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีอยู่ไม่มากนักที่เราจะนึกถึงได้ ถ้าพูดว่าบริษัทรถยนต์ที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในปัจจุบันก็คงจะเป็นบริษัทเทสล่าที่ตอนนี้กำลังเป็นข่าวที่โด่งดังอย่างมากที่สุดในแวดวงธุรกิจเลยทีเดียว แต่ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่ารถยนต์ละก็ก็คงจะเป็นเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนซึ่งก็จะมีอยู่เพียงแค่ 2 บริษัทเท่านั้นที่จะนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือ Apple ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ก็คือ iPhone 12 และยอดขายของโทรศัพท์ iPhone 12 นั้นก็ทำให้บริษัทแอปเปิ้ลเติบโตขึ้นทางด้านธุรกิจอย่างมากเลยทีเดียว ตอนนี้บริษัท Apple กำลังวางแผนเพื่อที่จะสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ไปไกลกว่าสมาร์ทโฟนแล้ว นั่นก็คือการผลิตรถยนต์เป็นของตัวเองและจะเป็นรถยนต์แห่งอนาคตที่สามารถขับขี่ได้อย่างอัตโนมัติ แล้วเป็นรถยนต์ที่รักษาสิ่งแวดล้อมที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยมีชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า Apple Car Apple Car เป็นข่าวที่คนติดตามข่าวเทคโนโลยีกำลังจับตามอง โดยที่ผ่านมาก็มีข่าวเกี่ยวกับการร่วมมือกันของบริษัทรถยนต์รายใหญ่อย่าง Hyundai ที่จะเข้ามาร่วมพัฒนารถยนต์ Apple Car หลังจากนั้นทางบริษัท Apple ก็ได้มีข่าวการหันมาร่วมมือกับบริษัท KIA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Hyundai ทำให้ทุกคนนั้นตื่นตาตื่นใจว่าทิศทางของ Apple Car นั้นกำลังคืบหน้าไปในทางที่ดี แต่ดูเหมือนว่าโปรเจค Apple Car ของ Apple นั้นจะต้องชะลอตัวไปก่อน เพราะว่าล่าสุดบริษัทรถยนต์รายใหญ่อย่าง Hyundai และ KIA ก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวการร่วมมือกับบริษัทแอปเปิ้ลเพื่อพัฒนา Apple Car อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงเดินหน้าที่จะผลิตรถยนต์ Apple Car ต่อไปโดยหันไปเจรจากับ Honda, จากัวร์, Land Rover และบริษัทรถยนต์อื่น ๆ ตามแผนแล้วรถยนต์ Apple Car นั้นมีแผนที่จะผลิตออกมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ก็ต้องมาดูว่าการเจรจาต่อรองกับบริษัทอื่นๆนอกจากบริษัทของเกาหลีนั้นจะมีทิศทางเป็นอย่างไร แล้วถ้าหากจะเปิ้ลสามารถทำ Apple Car สำเร็จ จะเป็นคู่แข่งของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกอย่างเทสล่าหรือไม่ก็ต้องมาติดตามดูกัน ข้อมูลจาก CNN ภาพปกจาก Pixabay ของ matcuz ภาพ 1 Pexel ของ zhang kaiyv ภาพ 2 Pixabay ของ Painter06 ภาพ 3 จาก Wikimedia
Bensaran10 • 11 ก.พ. 64
อ่าน
Apple Museum "เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของ Apple และหาแรงบันดาลใจจาก สตีฟ จ็อบส์"
เชื่อว่าในทุกวันนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ สตีฟ จ็อบส์ และผลงานสิ่งประดิษฐ์มากมายของเขา โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Apple ที่เป็นสมาร์ทโฟนยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ในทุกวันนี้ แต่ถึงแม้ว่าสตีฟ จ็อบส์ จะได้จากโลกนี้ไปได้หลายปีแล้วก็ตาม แต่ผลงาน และแรงบันดาลใจของเขาก็ยังคงสร้างอิทธิพลต่อบรรดาคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องราวของเทคโนโลยี การทำงาน ไปจนถึงการใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการเปิดตัว พิพิธภัณฑ์ Apple Museum ศูนย์รวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Apple ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านชีวประวัติของ สตีฟ จ็อบส์ โดยตั้งอยู่ที่กรุงปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็กApple Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมประวัติศาสตร์ของ Apple ผ่านสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ในช่วงปี 1976 จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอม Macintosh ,iPad, iPod มาจนถึง Iphone และ Mac ซึ่งคอมพิวเตอร์ หรือสินค้าบางรุ่น กลายเป็นของที่ยากจะหาชม อย่างเครื่อง Apple II ที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่ จ็อบส์ ยังทำให้ให้กับ NeXT หรือจะเป็นการเล่าเรื่องราววิวัฒนาการของ Ipod และ Iphone แต่ละรุ่น ตั้งแต่เริ่มต้น มาจนถึงปัจจุบันนอกจากการได้ความรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Apple และสินค้ารุ่นต่างๆ แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ ยังได้มีการรวบรวมของสะสมหายากที่เกี่ยวข้องกับ สตีฟ จ็อบส์ ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนามบัตรของเขา เมื่อสมัยที่ยังทำงานให้กับ Pixar หนังสือรุ่น และเอกสารเซ็นสัญญา ในช่วงที่เขาทำงานให้กับ NeXT และ Apple ไปจนถึงนิตยสาร Time ฉบับที่มี จ็อบส์ ขึ้นหน้าปก ที่สำคัญ Apple Museum ไม่ได้แค่นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์สำคัญของ Apple และจ็อบส์ เท่านั้น แต่ภายในพิพิธภัณฑ์ ได้มีการทำแกลลอรี่ ที่ได้รวบรวมแนวคิด และแรงบันดาลใจในการทำงานของ จ็อบส์ ตกแต่งอยู่ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์ ให้ผู้ที่เข้ามาชมได้แวะอ่าน แวะชมหาแรงบันดาลใจ และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบ Apple หรือสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ และแรงบันดาลใจ จาก สตีฟ จ็อบส์ Apple Museum ถือว่าเป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ ถนน Husova และ Karlova โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. แบ่งราคาค่าเข้าชมเป็น 5 เรทราคาด้วยกัน ได้แก่ ผู้ใหญ่ 11 ยูโร ,นักเรียน 8 ยูโร ,เด็ก 5 ยูโร ,ครอบครัว 26 ยูโร และคนพิการ 3 ยูโร ใครสนใจสามารถเข้าไปจองตั๋วล่วงหน้าที่ที่ ticket.applemuseum ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.shutterstock.com/
Poklubu • 17 ธ.ค. 62
อ่าน
Apple Event เปิดตัว Apple Watch Series 6, Apple Watch SE, iPad Air, new iPad
สาวกของ Apple ที่รอคอยการเปิดตัวสินค้าใหม่จาก Apple คงไม่พลาดงาน Apple Event ที่จัดขึ้นในวันที่ 15 กันยายน ซึ่งตรงกับเวลาเที่ยงคืนของบ้านเรา ซึ่งหลาย ๆ กระแสได้มีการทำนายไว้ว่าจะอะไรบ้างเปิดตัวซึ่งก็ค่อนข้างตรง ในงาน Apple Event ที่ผ่านไปแล้วมีการเปิดตัวสินค้าใหม่แค่สองกลุ่มคือ iPad ซึ่งมีสองรุ่นให้เลือก คือ iPad Air และ new Ipad และ Apple Watch มี Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE นอกจากนั้นก็จะเป็นการเปิดตัวบริการ Apple One และ Apple Fitness ซึ่งหากใครที่พลาดชมก็สามารถรับชมย้อนหลังได้บนเว็บไซต์ของ Apple ซึ่งในวันนี้เราจะมาสรุปให้ฟังคร่าว ๆ ว่าแต่ละตัวที่เปิดตัวไปมีอะไรบ้าง ที่เด่น ๆ Apple Watch Series 6 ที่เน้นเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่รักสุขภาพโดยเฉพาะ สิ่งแรกที่เพิ่มขึ้นก็อย่างที่หลาย ๆ กระแสเดากันไว้ คือมีฟังค์ชั่นที่วัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ และข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ รวมถึงแอพที่ช่วยในการติดตามการนอนที่น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม ตัวซีรีย์ 6 นี้มีจอ Retina ที่ติดตลอดเวลา แต่ดีขึ้นคือความคมชัดแม้อยู่ใต้แสงแดด ส่วนฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยบอกข้อมูลการออกกำลังกาย, ควบคุมเพลง และฟีเจอร์เดิม ๆ ที่สำคัญ เช่นการแจ้งเตือนการเกิดอุบัติเหตุ และ การวัดการเต้นของหัวใจด้วย หรือ ECG ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปก็จะมีสีใหม่ของตัวเรือนอลูมิเนียมที่มีสีน้ำเงินและแดง ส่วนไทเทเนียมจะมีสีดำสเปซแบล็ค, สแตนเลสสตีลสีทองใหม่, อะลูมิเนียมสีเงิน และสาย Solo Loop ที่เป็นซิลิโคนเหมือนเป็นกำไลใส่ง่ายขึ้น รวมถึงหน้าปัดที่มีการออกแบบใหม่ ๆ มาให้เลือกมากขึ้นและปรับแต่งตามความชอบของแต่ละคน เช่น สำหรับคนรักการเล่นกระดานโต้คลื่น, คนรักการถ่ายภาพ ที่สำคัญอีกอย่างคือ คุณสมบัติการตั้งค่า Apple Watch สำหรับครอบครัวทั้งเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ ที่เราสามารถตั้งค่าและเชื่อมต่อ Apple Watch ให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่ไม่มี iPhone ได้ ตัวที่สองคือ Apple Watch SE มีจอขนาดใหญ่ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับ Series 5 และ 6 คือขนาดเหมือนกัน คือ 40 และ 44 มม. ซึ่งรวม ๆ แล้วตัว SE นี้ก็จะเหมือนกับเอา Apple Watch Series 5 มาปรับแต่ง ตัวเรือนมีสีให้เลือกเหมือนซีรีย์ 5 แต่จะไม่มีจอแบบแสดงผลตลอดเวลา และไม่มีการวัดค่าออกซิเจนในเลือดเหมือน Apple Watch Series 6 ส่วนฟังค์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ก็จะทำได้เหมือนกับ Apple Watch Series 6 ซึ่งต่อไป Apple Watch จะมีจำหน่ายบนเว็บไซต์ Apple แค่ 3 รุ่น คือ Apple Watch Series 6, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 ซึ่งราคาก็จะไล่เรียงกันตามลำดับ iPad Air จอเป็น Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ที่บางเบา มี touch ID ด้านบนใช้งานง่าย มี 5 สีให้เลือกคือ สีเงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว และสกายบลู iPad Air จะใช้ชิพ A14 Bionic ทำให้การทำงานของ CPU เร็วขึ้น 40%, กราฟิกเร็วขึ้น 30% ทำงานได้ดีเหมือนใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คแต่ว่าจะใช้งานได้มากกว่า ไม่ว่าจะถ่ายวิดีโอระดับ 4K แล้วตัดต่อได้เลยบน iPad Air และใช้กับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เพื่อวาดรูประบายสี แรเงา ออกแบบกราฟฟิก จดโน้ต จัดระเบียบเอกสาร รวมถึงใช้คู่กับ Magic Keyboard เพื่อช่วยในการพิมพ์งานสะดวกรวดเร็วขึ้น กล้องหลังความละเอียด 12MP และกล้องหน้าที่มีความละเอียด 7MP เพื่อการโทรแบบวิดีโอคุณภาพสูงสำหรับการประชุมงาน แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น รุ่น Wi‑Fi ความจุ 64GB ราคา 19,900 บาท และ 256GB ราคา 24,900 บาท Ipad ใหม่ จอ Retina ขนาด 10.2 นิ้ว ใช้ชิพ A12 Bionic รองรับ Apple Pencil 1 และ Smart Keyboard ใช้เป็นตัวช่วยในการทำงาน แก้ไขเอกสาร หรือว่าจะโทร FaceTime ด้วยกล้องหน้า Facetime HD หรือจะต่อเข้ากับ Smart Keyboard ให้ช่วยพิมพ์งานได้เร็วขึ้น กล้องหลังความละเอียด 8MP ลำโพงสเตอริโอเสียงดี แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น รุ่น wifi 32GB ราคา 10,900 บาท และ 128GB ราคา 13,900 บาท Apple One ซึ่งเป็นชุดรวมบริการ 4 อย่าง ของ Apple ไว้ด้วยกันคือ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud จะมีบริการทั้งแบบส่วนตัวและครอบครัว ส่วนอีกบริการที่จะให้บริการสำหรับผู้ใช้ Apple Watch คือ Apple Fitness+ ซึ่งจะเหมือนเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกาย มีเทรนเนอร์ให้คำแนะนำ มีคลิปใหม่ ๆ มาให้เลือกทุกอาทิตย์ และแสดงผลการออกกำลังกายแบบ real time บนหน้าจอที่เราเลือกเช่น iphone, ipad บนทีวีผ่าน apple TV ซึ่งจะมีค่าบริการแบบรายเดือนและรายปี ซึ่งใครที่ซื้อ Apple Watch จะได้ใช้งานฟรี 3 เดือน สำหรับวันที่จะวางจำหน่าย Apple Watch Series 6, Apple Watch SE, iPad Air และ new iPad ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะ ว่าบ้านเรานั้นจะเป็นวันที่เท่าไร แต่ราคาและรายละเอียดเพิ่มเติมเราก็เข้าไปดูกันได้ในเว็บไซต์ทางการของ Apple ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Apple
Yuva Kanta • 16 ก.ย. 63
อ่าน
AliveCor จ่อฟ้อง Apple ผูกขาดฟีเจอร์ ECG ใน Apple Watch
แม้ Apple จะสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เราได้ร้องว้าวกันบ่อย ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบางนวัตกรรมที่ Apple นำมาใช้ยังมีข้อกังขาถึงความถูกต้องในลิขสิทธิ์ ซึ่งล่าสุดก็มีบริษัท AliveCor ออกมาร้องเรียนว่า Apple ขโมยเทคโนโลยีของตนไปใช้และกำลังผูกขาดการตลาดที่มาของภาพ https://www.macrumors.com/2018/03/11/alivecor-kardiaband-high-potassium-study/เทคโนโลยีที่ว่านั้นคือ เทคโนโลยีที่ใช้ตรวจและวิเคราะห์การทำงานของหัวใจ หรือเพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ มันคือเทคโนโลยีในการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ซึ่ง AliveCor เคยนำมาใช้กับสายรัดข้อมือ KardiaBand ที่วางขายเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ Apple Watchในช่วงที่ KardiaBand วางจำหน่าย ตอนนั้น Apple Watch ยังไม่มีฟีเจอร์ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทาง AliveCor จึงถือโอกาสนี้ทำสายรัดข้อมือเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ Apple Watch โดยที่ KardiaBand จะมีเซนเซอร์ประเมินคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน SmartRhythm ซึ่งจะคอยวิเคราะห์และแจ้งเตือนหากพบความผิดปกติเกิดขึ้นที่มาของภาพhttps://appleinsider.com/articles/19/08/21/alivecor-pulls-kardiaband-ecg-smart-band-for-apple-watch-from-saleจากเอกสารการฟ้องร้องเผยว่า ในตอนแรก Apple ตอบรับให้นำแอปพลิเคชัน SmartRhythm ขึ้นสู่ App Store ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับถูกแจ้งว่าแอปยังไม่ถูกต้องตามแนวปฏิบัติของ Apple แม้ AliveCor จะปรับปรุงแอปนี้จนนำขึ้นสู่ App Store ได้อีกครั้ง ทว่า Apple ได้เปลี่ยนระบบการประเมินอัตราการเต้นของหัวใจใน WatchOS ของ Apple Watch ส่งผลให้แอปพลิเคชัน SmartRhythm และแอปอื่น ๆ ไม่สามารถใช้งานได้สำหรับฟีเจอร์ประเมินคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) Apple ได้พัฒนาเซนเซอร์มาใส่ไว้ใน Apple Watch ที่เปิดตัวในปี 2018 ภายใน 1 ปีหลังจากการวางจำหน่ายของ KardiaBand ซึ่งทาง AliveCor กล่าวว่าด้วยอัปเดตเปลี่ยนแปลงระบบเพียงครั้งเดียว ทำให้บริษัทเสียโอกาสทางธุรกิจไปหลายอย่าง จึงต้องดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายในที่สุดขอขอบคุณข้อมูลจาก Techspot
TNN ช่อง16 • 28 พ.ค. 64
อ่าน
You Are the Apple of My Eye รักเรา ยังจำได้ไหม?
เรื่องย่อ You Are the Apple of My Eye รักเรา ยังจำได้ไหม? ชื่อเรื่อง You Are the Apple of My Eye (그 시절, 우리가 좋아했던 소녀)ประเภท โรแมนติก / ดรามานำแสดงโดย จินยอง, ดาฮยอน, อีมินกู, คิมโยฮันกำกับโดย โชยองมยองกำหนดฉาย 6 มีนาคม 2025ความยาว 108 นาที
เรื่องย่อหนัง • 9 ก.พ. 68
อ่าน
เกาะติด Apple Event Peek performace งานเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
คุณผู้ชมหลายท่านอาจจะเป็นสาวกของ Apple อย่างเช่นกับผมเอง และในทุกปีเหล่าสาวกของ Apple ก็ต่างเฝ้ารอคอยการเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่ๆ มาให้เรารอเสียเงินอีกเช่นเคย โดยที่เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา (เวลาตี 1 วันที่ 9 มีนาคม 2565) ทาง Apple ก็ได้จัดงาน Apple Event อย่าง "Peek performance" โดยบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาพูดกันว่า มีเรื่องอะไรน่าสนใจอะไรบ้างก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จริงๆ แล้วทาง Apple ก็เปิดตัวสินค้าออกมาแทบจะทุกปี และแทบจะตลอดทั้งปีเลยครับ ทั้งช่วงหน้าร้อน หน้าหนาว หรือการเป็นงานพิเศษตามโอกาสต่างๆ ก็เรียกได้ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับใครหลายๆ คน แต่สำหรับสาวก Apple อย่างผมนั้น รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นงานที่ Apple จัด ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาพูดกันในส่วนของการเปิดตัวสินค้า เป็นงานเปิดตัวสินค้าประเภทของรุ่นเล็กๆ เบาๆ ไม่ได้จัดหนักมากเท่างาน Apple Event ช่วงปลายปี แต่ครั้งนี้เราก็ได้เห็นสินค้าใหม่ๆ ที่ทั้งพัฒนาตัวเก่ามาให้ดีขึ้น รวมถึงสินค้าที่ไม่คิดว่าจะทำขึ้นมากัน โดยในงานนี้มีสินค้าทั้งหมด 3 รายการหลักๆApple TV+https://www.youtube.com/watch?v=CUwg_JoNHpoตอนเริ่มงาน ทาง Apple ก็ได้ประกาศความก้าวหน้าของ Apple TV+ เล็กน้อย กับ Apple Original Film ที่ได้ทำมาหลายปี ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งได้คว้ารางวัลตามเวทีต่างๆ มา และได้ร่วมงานกับเหล่านักแสดงมากความสามารถได้อย่างต่อเนื่องนะครับ และทาง Apple TV+ ก็ประกาศจะพัฒนา Content ต่อไป ที่จะมีทั้ง ภาพยนตร์ ซีรีส์ สารคดี และ Aniamtion ต่อไปในอนาคตนั้นเองครับ ต่อด้วยการอัปเดตเพิ่มสีให้กับ iPhonehttps://www.youtube.com/watch?v=kV__iZuxDGEiPhone 13 และ iPhone 13 Pro ก็ได้เปิดตัวสีใหม่ อย่างสีเขียวอัลไพน์ (Alpine Green) โดยมีให้เลือกเพิ่มจากสีที่มีอยู่ 5 สี ก็ได้เพิ่มสีใหม่มาครับ ในส่วนของราคา iPhone 13 Pro ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท และ iPhone 13 Pro Max ราคาเริ่มต้น 42,900 บาท สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2565 และเริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 25 มีนาคม 2565iPhone SE ชิป A15 Bionic ชิป A15 Bionic ที่พร้อม GPU จำนวน 6-Core และ GPU จำนวน 4-Coreรูปทรงภายนอกมีการดีไซน์ใช้กระจกและอะลูมิเนียม ที่มาพร้อมจอภาพแสดงผลแบบ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว ซึ่งเอาตรงๆ มันก็เหมือนกับ iPhone 11 Pro เลยการถ่ายภาพที่เรียกได้ว่ามีการพัฒนาขึ้น มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า แถมมีโหมดการควบคุมระยะชัดลึกของภาพให้เราสามารถเพิ่มลูกเล่นให้ภาพถ่ายของเรามากขึ้น รองรับภาพแบบ Smart HDR 4 และรองรับการถ่ายวิดีโอขนาด 4K สูงสุด 60 fps มาพร้อมปุ่ม Touch ID ที่คุ้นเคย และรองรับ 5G แล้ว รองรับ Wi-Fi 6 ที่เป็นมาตราฐานแบบ 802.11ax และมี NFC พร้อมโหมดตัวอ่านให้เอาไว้ใช้งานแตะและจ่ายได้สะดวกมากขึ้นครับhttps://www.youtube.com/watch?v=GByi_j-7Q2Eมี 3 สีให้เลือกคือ สีดำ สีขาวและสีแดง(Red Product) ขนาดความจุให้เลือกตั้งแต่ 64 GB - 256 GB ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2565 และเริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 25 มีนาคม 2565iPad Air พร้อมชิป M1 หลังจากที่ iPad Air ใช้ชิป A14 มานานแสนนาน ครั้งนี้ได้เวลาเปลี่ยนมาเป็นชิป M1 เหมือนรุ่นพี่ iPad Pro ต่างๆ แล้ว มาพร้อมกับการอัพเกรดสิ่งต่างๆ มากมายชิป M1 ที่พร้อม CPU จำนวน 8-Core และ GPU จำนวน 8-Core แถมมี Neural Engine อีก 16-Core ที่จะช่วยให้ทำงานของ AI นั้นเร็วขึ้นในด้านการประมวลผลกราฟิกและการเล่นเกม และ RAM ขนาด 8GB ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ iPadOS หน้าจอแบบ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว มีการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อนด้วย และยังคงใช้ปุ่ม Touch ID เพื่อใช้ลายนิ้วมือของเราในการปลดล็อค iPad กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่าพร้อมฟีเจอร์อย่าง Center-Stage ที่จะช่วยให้กล้องแพนตามการเคลื่อนไหวของเราได้ แบบอัตโนมัติ และรองรับการถ่ายวิดีโอขนาด 4K สูงสุด 60 fps (มีกันสั่นใน 4K ด้วย)การเชื่อมต่อเป็น USB-C หรือ USB 3.1 รุ่นที่ 2 สามารถใช้งานกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Magic Keyboard ได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมรองรับ Wi-Fi 6 และในรุ่น Wi-Fi + Cellular ก็รองรับ Nano-SIM และแบบ eSim https://www.youtube.com/watch?v=I-t2mwrYc6sมีขนาดความจุให้เลือกระหว่าง 64 GB กับ 256 GB มี 2 รุ่นให้เลือกคือ รุ่น Wi-Fi ราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาทมี 5 สีให้เลือก คือ สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วงและสีฟ้า ซึ่งตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ยังไม่มีการกำหนดเวลาการจำหน่ายในประเทศไทยครับiPad Air 5 vs iPad Air 4 เปรียบเทียบชัด มีอะไรน่าสนใจสินค้าตระกูล Macเปิดตัว Apple M1 Ultraก่อนอื่น ก่อนเราจะเข้าไปที่เรื่องของ Mac กัน เรามาเรื่องของชิปประมวลผลตัวใหม่ ที่พึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการ อย่าง ชิป M1 Ultra ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปตัวใหม่จากตระกูล M1 Family ครับ ซึ่งผมยอมรับตรงๆ ตอนที่ดูตอนเปิดตัว ผมอึ้งมากๆ ที่เขาจะมีขั้นกว่าของชิป M1 ครับ เรียกได้ว่าเป็นตัวชิปที่เร็วของเร็วที่สุดในตระกูล M1 ทั้ง 4 ตัว ซึ่งเขาอาศัยการเอาชิป M1 Max จำนวน 2 ตัวมาเชื่อมต่อกันนั้นเอง โดยเรียกว่า "UltraFusion" และมีความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 2.5TB/s มาพร้อม CPU Core รวมทั้งหมด 20-Core โดยแบ่งเป็น High-performance จำนวน 16-Core และแบบประหยัดพลังงานอีก 4-Core และ GPU อีก 64-Core รองรับ RAM สูงสุด 128 GB ที่มี Bandwidth ปริมาณการรับ และการส่งข้อมูลถึง 800GB/s และยังไม่พอ มี Neural Engine อีก 32-Core https://www.youtube.com/watch?v=ku4hl6hzRPQเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่สุดมากๆ สมชื่อกับชื่องานอย่าง Peek performance จริงๆ เลยละครับ เพราะว่าเขาได้มีการให้ผู้ใช้งานจากหลายประเภทงานใช้ดู แล้วมันสามารถทำให้งานทุกอย่างนั้นง่ายขึ้น เร็วขึ้น แม้แต่การเปิดโปรแกรมก็ทำได้เพียงไม่กี่วินาที รวมถึงการ Render สำหรับงาน 3D หรืองานวิดีโอก็ดูราบลื่นไปหมด เพราะว่ามี Media Engine นั้นเอง แถมยังใช้พลังงานที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับชิปที่มีคุณภาพและความสามารถเท่ากันในตลาดโลกของเราในตอนนี้ด้วยครับมีชิปใหม่ ก็ต้องมี Mac ใหม่กับการเปิดตัว Mac ตัวใหม่ที่เป็นการผสมผสาน Mac Mini กับ iMac เข้าด้วยกันอย่างลงตัวMac Studio และจอ Studio MonitorMac Studioแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับชิปใหม่อย่าง M1 Ultra (แต่สินค้าให้เลือกได้ระหว่างชิป M1 Max กับ M1 Ultra) ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่แรงมาก โดยมีทั้งรุ่นชิปประมวลแบบ M1 Max ที่พร้อม CPU จำนวน 10-Core และ GPU จำนวน 24-Core และ Neural Engine แบบ 16-Core มีหน่วยความจำแบบรวม(RAM) ให้เลือกขนาด 32GB ประแต่งได้สูงสุด 64GB และ SSD ขนาด 512 GB โดยปรับแต่งได้สูงสุด 8 TBและรุ่นชิปประมวลแบบ M1 Ultra ที่พร้อม CPU จำนวน 20-Core และ GPU จำนวน 48-Core และ Neural Engine แบบ 32-Core มีหน่วยความจำแบบรวม(RAM) ให้เลือกขนาด 64GB ปรับแต่งได้สูงสุด 128GB และ SSD ขนาด 1TB โดยปรับแต่งได้สูงสุด 8 TBรองรับจอภาพได้สูงสุด 5 จอ โดยจะเป็นการรองรับ Pro Display XDR สูงสุด 4 จอ(ที่ความละเอียด 6K) ผ่านพอร์ต Thunderbolt 4 (USB-C) และ จอภาพ 4K จำนวน 1 จอ ผ่านพอร์ต HDMI พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหลังเครื่อง Thunderbolt 4 จำนวน 4 พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต HDMI จำนวน 1 พอร์ต Eternet (ความเร็ว 10Gb/s) จำนวน 1 พอร์ต และช่องหูฟังแบบ 3.5 มม. จำนวน 1 พอร์ต พอร์ตการเชื่อมต่อด้านหน้าเครื่อง โดยสิ่งที่มีเหมือนกันคือช่องเสียบการ์ด SDXC (UHS-II) และสิ่งที่จะต่างกันคือ ในรุ่นของ M1 Max จะเป็นพอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต (สูงสุด 10Gb/s) ส่วนรุ่น M1 Ultra จะเป็น พอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต (สูงสุด 40Gb/s) แทนครับซึ่งขนาดตัวเครื่องจะสูง 9.5 ซม. กว้าง 19.7 ซม. น้ำหนักไม่มาก เพียง 2.7-3.6 กิโลกรัมเท่านั้นhttps://www.youtube.com/watch?v=yvX1WkFFtQIในเรื่องของความเร็วไม่ต้องพูดถึง ด้วยความเก่งของชิปประมวลผลอย่าง M1 Max และ M1 Ultra แล้วนั้น เรียกได้ว่าเร็วแรงมากๆ ทำงานอะไรก็ลื่น เร็วไปหมด ทั้งงานด้านกราฟิก ด้านเสียงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดของ Apple เลยก็ว่าได้ และมาพร้อมราคาที่ค่อนข้างจะแรงแต่คุ้มค่าสำหรับการทำงานระดับ Studio ในเครื่องเพียงเครื่องเดียวในรุ่นของชิป M1 Max เริ่มต้นที่ราคา 69,900 บาท และรุ่นของชิป M1 Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 139,900 บาท ซึ่งตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ยังไม่มีการกำหนดเวลาการจำหน่ายในประเทศไทยครับStudio Displayจอภาพของ Apple ตัวที่ 2 ที่ออกมาพร้อมกับ Mac Studio ที่ให้เราเต็มอิ่มกับ Retina Display ขนาด 27 นิ้ว ในความละเอียดสูงถึง 5K และความสว่างสูงถึง 600 นิตทำให้จอมีความสว่างและสีที่แสดงออกมาก็ชัดเจน เพราะรองรับสีสันกว่า 1 พันล้านสีเป็นจอที่มาพร้อมของเล่นอย่างกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12MP พร้อมมุมมองภาพ 122องศา และรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 รองรับฟีเจอร์ Center-Stage เหมือนบน iPad ครับ และมีลำโพงระบบ 6 ลำโพง ที่รองรับเสียงแบบ Spatial Audio หรือเสียงตามตำแหน่ง และ Dolby Atmos พร้อมด้วยไมโครโฟน 3 ตัวแบบรับเสียง 3 ทาง ทำให้การรับเสียงนั้นดีมากยิ่งขึ้น แถมให้เราเลือกฐานตั้งของจอได้ถึง 3 แบบ คือฐานตั้งที่ปรับความเอียงได้ ฐานตั้งที่ปรับความเอียงและความสูงได้ และอะแดปเตอร์ตัวยึด VESA ที่สามารถติดผนังได้ การเชื่อมต่อก็มีพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) จำนวน 1 พอร์ต และพอร์ต USB-C จำนวน 3 พอร์ต รองรับอุปกรณ์ Mac ที่สามารถใช้ macOS Monterey 12.3 หรือใหม่กว่าได้ หรือจะเป็น iPad ที่สามารถใช้ iPadOS 15.4 หรือใหม่กว่าได้นั้นเองครับราคาเริ่มต้นที่ 54,900 บาท โดยจะเป็นแบบกระจกมาตรฐาน และหากเลือกเป็นกระจกแบบ Nano-Texture ก็จะเริ่มต้นที่ราคา 65,400 บาทครับนี้ก็คือสินค้าทั้งหมดที่ทาง Apple จัดงาน Peek performance ประจำปีนี้ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า ก็มีสินค้าหลายตัวที่เรากำลังจับตามองนะครับ และผมก็รู้สึกว่าเจ้า Mac Studio มันก็น่าสนใจมากๆ ด้วยความผสมผสานระหว่าง Mac Mini กับ Mac Pro ในราคาที่เรียกได้ว่าเล็กลงแต่คุณภาพยังสุดยอด ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อการทำงานที่พัฒนาไปอีกขั้นเลยครับ ไหนจะเป็นเรื่องของสีใหม่ของ iPhone 13 อย่างสีเขียวอัลไพน์ที่น่าจับตาของเหล่าสาวกคนชอบสีเขียวนะครับ แล้วเพื่อนๆ มีความรู้สึกอย่างไรกับสินค้าที่เปิดตัวใหม่นี้ ชอบไม่ชอบยังไง มาลองพูดคุยกันได้นะครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ต้องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับหากใครต้องการรับชม Apple Keynote ย้อนหลังการเปิดตัวสินค้าในครั้งนี้ ก็สามารถเข้าไปรับชมได้ที่ท่าน Apple Event ได้ครับเครดิตรูปภาพหน้าปกรูปที่ 1 by Appleรูปที่ 2 Photo by Drew Williams from Pexelsวิดีโอประกอบบทความ - Appleวิดีโอที่ 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 ฟัง TamKung Podcast ได้ที่ Spotify Podcast | Apple Podcast | Google Podcastติดตาม TamKung ได้ที่ TamKung ติดตาม TamKungPhoto ได้ที่ #TamKungPhotoบทความที่คุณต้องลองอ่าน10 สูตรการคบเพื่อนแท้ เพื่อนที่ดี มิตรที่แท้จริงต้องเป็นยังไง?5 วิธีทำให้ Router Wifi แรงขึ้น สายฟรีก็ลองทำได้รีวิวการใช้งาน Huawei Wifi AX3 Router Wi-Fi 6 ยังน่าใช้อยู่ไหมในปี 2022เคยสงสัยไหม ทำไมเราถึงลืมรักครั้งแรกได้ยากจัง?10 สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งหนึ่งเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
TamKung • 10 มี.ค. 65
อ่าน
วิธีสมัคร Wise ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียวด้วย Wise x Apple Pay #ApplePay # Wise
Wise x Apple Pay สวัสดีครับชาว Apple Pay วันนี้ผมก็จะมาชี้โพรงให้กระรอกสำหรับชาว Apple Pay ห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อนด้วยการเปลี่ยนภูมิประเทศ สำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศตามลิงก์นี้เลยครับ https://intrend.trueid.net/post/347055 หลังจากเปลี่ยนภูมิประเทศให้สามารถใช้ Apple Pay ได้แล้ว เราก็มาเริ่มกันเลยครับ ให้เราเข้าไปที่ App Store และทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wise ครับ หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วในขั้นตอนการสมัครก็ไม่ยากครับให้เราใส่ข้อมูลตามจริงไปได้เลยเริ่มต้นเลือกเป็นประเทศไทยและใส่เบอร์โทรศัพท์เพื่อทำการลงทะเบียนบัญชี wise สำหรับข้อมูลที่อยู่หรือรายได้ก็ให้กรอกตามความเป็นจริงหรือประมาณให้พอสมควร ไม่ให้มากหรือไม่น้อยเกินไปครับหลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้วให้เราไปยืนยันที่อยู่อีเมลของเราด้วยนะครับ หลังจากยืนยันเสร็จแล้วให้กลับมาที่หน้า account หากไม่มีบัญชีสกุลเงินไทยให้เลื่อนไปทางด้านขวาแล้วกดบวกเพื่อเพิ่มสกุลเงินไทยครับ และให้ทำการกดบวกหรือกดคำว่า Add เพื่อทำการเติมเงินเข้าบัญชีขั้นตอนการเติมเงินให้ระบุจำนวนเงินบาทและเลือกสกุลเงินที่ต้องการชำระในช่องด้านล่าง เลือกวิธีการชำระเงิน ว่าเราจะเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ตัวอย่างผมตัดผ่านบัตรเครดิตผมก็จะกรอกข้อมูลบัตรให้เรียบร้อยและกดถัดไปตามขั้นตอนหลังจากเติมเงินเรียบร้อยแล้วเราจะเห็นว่ามีการหักเงินผ่านบัตรเครดิตและเงินเข้าไปอยู่ใน wise แล้วแต่ขึ้นเครื่องหมายตกใจสีเหลือง ให้เรากดไปที่เครื่องหมายตกใจสีเหลืองเพื่อทำการยืนยันตัวตนครับในการยืนยันตัวตนจะมีให้เลือก บัตรประชาชน ใบขับขี่ และหนังสือเดินทาง ระบบจะให้ถ่ายรูปบัตรและถ่ายรูปหน้าเราตามลำดับหลังจากยืนยันตัวตนสำเร็จเงินจะเข้า wise โดยอัตโนมัติ หลังจากเสร็จขั้นตอนนี้แล้ว สำหรับตัวผมจะพักไว้ 1 วัน เพื่อให้ระบบตรวจสอบ ซึ่งในขั้นตอนนี้เราจะยังไม่สามารถผูกบัตรใน Apple Play ได้เนื่องจากเราเลือกประเทศไทยครบ 1 วันแล้วหวังว่าบัญชีของเพื่อนๆจะยังไม่บินนะครับ ขั้นตอนต่อไปให้เราเข้าไปที่โปรไฟล์ของเราและเปลี่ยนประเทศเป็น Australia ทำไมต้องเลือกประเทศ Australia ก็เพราะว่าถ้าหากเพื่อนๆอยากได้บัตรจริงสามารถส่งบัตรมาที่ไทยได้ครับ หลังจากเปลี่ยนภูมิประเทศเสร็จแล้วให้กดไปที่เมนู Card จะมี 2 ตัวเลือกคือ Get a digital card และ Order your card ให้เราเลือก Get a digital card สำหรับเชื่อมกับ Apple Pay กด Add to Apple Pay และกดถัดไปตามขั้นตอน หลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบบัตร Wise อยู่ใน Apple Wallet เป็นอันเสร็จขั้นตอนเพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ Apple Pay ที่ไทยได้แล้ว และสำหรับเพื่อนๆที่อยากได้บัตรจริงสามารถ กด Order Card ได้ แต่ในขั้นตอนระบุที่อยู่ในการจัดส่งให้ระบุเป็นประเทศไทยนะครับ -- ไว้พบกันใหม่ในครั้งต่อไปสวัสดีครับ --#Applewallet #Applepayขอบคุณภาพจาก WISE ภาพบัตรและภาพการใช้งานแอปพลิเคชันจาก creatorshttps://intrend.trueid.net/post/3582507-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์
บักช๊อป • 24 มิ.ย. 66
อ่าน
Review | รีวิวแอป Apple Store แอปที่สาวกและผู้ใช้อุปกรณ์ของ Apple ต้องมี
บริษัทที่เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและเป็นผู้สร้างนวัตกรรมอย่างมากมายอย่าง Apple แน่นอนว่าสินค้าและบริการของบริษัทจะต้องมีมากมายตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ อย่างที่เรารู้กันว่าถ้าหากจะซื้อสินค้าหรือบริการจาก Apple นั้นก็มีหลายทางเลือกไม่ว่าจะเป็นซื้อที่ตัวแทนจำหน่ายอย่าง I Studio ซื้อผ่านหน้าร้าน Apple ที่ห้าง icon Siam ซื้อผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ Apple แต่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่ายังมีอีกช่องทางที่ง่ายสะดวกและรวดเร็วกว่าทางเลือกที่กล่าวมาทั้งหมด นั้นก็คือการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านแอป Apple Store หลายท่านอาจจะยังสงสัยกันอยู่ว่าแอปพลิเคชันตัวนี้จะเหมือนแอป App Store ต้องบอกได้เลยว่าทั้ง 2 แอปพลิเคชันไม่มีความเกี่ยวข้องกันและมีหน้าที่รวมถึงการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิงโดยในบทความนี้ นักเขียนจะมารีวิวและอธิบายรายละเอียดการใช้งานแอป Apple Store ว่ามีรายละเอียดการใช้งานอย่างบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ แอปพลิเคชัน Apple Store เป็นแอปที่พัฒนาโดย Apple ซึ่งเป็นแอปที่ติดมากับอุปกรณ์ Apple อยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น iPad MacBook iPhone และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยจะใช้งานแอปพลิเคชันนี้ได้ ท่านจะต้องมีอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้นไม่สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ที่เป็นระบบปฏิบัติการ android ได้ โดยแอปพลิเคชันจะมีหน้าเมนูหลักอยู่ 4 เมนู คือ เมนูเลือกซื้อ เมนูเซสชั่น เมนูค้นหา และเมนูถุง โดยแต่ละเมนูจะมีรายละเอียด ดังนี้ เมนูเลือกซื้อ จะเป็นหน้าเมนูเริ่มแรกที่ท่านนั้นเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา ซึ่งภายในหน้าเมนูจะมีการแนะนำสินค้าและบริการใหม่ ๆ จาก Apple อย่างเช่น iPhone SE 2020 , iPad Pro 2020 และมีรายการสินค้าแนะนำที่น่าสนใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายนาฬิกา Apple Watch สีใหม่และอุปกรณ์เสริมที่ Apple คัดสรรมาแล้วมาเหมาะกับคุณ ยังไม่พอแค่นั้น ภายหน้าเมนูเลือกซื้อยังมีรายละเอียดของอุปกรณ์ Apple ที่เราเป็นเจ้าของโดยนำข้อมูลมาจาก Apple id ที่ท่านสมัครใช้งานกับอุปกรณ์เหล่านั้น ยกตัวอย่างอุปกรณ์ของนักเขียนคือ iPad Air 3 และ iPhone 4s โดยท่านสามารถที่จะเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อมาใช้งานกับอุปกรณ์ที่ท่านมีอยู่แล้วได้ เช่น iPad Air 3 จะมีอุปกรณ์เสริมที่ Apple แนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่าง Apple Pencil , Smart Keyboard , Air Pods นอกจากนั้นท่านยังสามารถที่จะเลือกอุปกรณ์เสริมจากหมวดหมู่ที่มีอยู่ได้ไม่ว่าจะเป็น หมวดการถ่ายภาพ หมวดการสร้างสรรค์ หมวดคีย์บอร์ด หมวดเกมและของเล่น หมวดสุขภาพและฟิตเนสเรียกได้ว่าเมนูเลือกซื้อท่านจะได้อุปกรณ์เสริมที่มีคุณภาพรับประกันจาก Apple โดยตรงอย่างแน่นอน เมนูเซสชั่นแน่นอนว่าถ้าหากท่านได้ซื้ออุปกรณ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone , iPad , MacBook , iMac ทาง Apple จะมีการเปิดเซสชั่นเพื่อสอนการใช้ในอุปกรณ์ที่เราได้เลือกซื้อ ซึ่งท่านสามารถจองเวลาในการเรียนและสามารถเรียนในรูปแบบออนไลน์ได้ฟรี ซึ่งสอนโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Apple และอีกวิธีที่จะให้ท่านเพิ่มความรู้ในการใช้งานอุปกรณ์อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น คงต้องเป็นเซสชั่น Today at Apple. คือการเรียนหรือการสอนใช้งานในหมวดหมู่ต่าง ๆ ที่ท่านมีความสนใจ โดยจะเป็นการเรียนออฟไลน์ที่ Apple icon Siam ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การถ่ายวิดีโอ การทำเพลง การเขียนแอป และการออกแบบเรียกได้ว่าเมนูเซสชั่นให้ท่านสามารถที่จะจองเซสชั่นเหล่านี้ได้ผ่านทางหน้าเมนูเซสชั่นได้เลยทันที เมนูค้นหาในหน้าเมนูนี้สามารถให้ท่านค้นหาสินค้าหรือบริการของ Apple ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น บัตรของขวัญ บริการAppleCare ผลิตภัณฑ์ Beats และนอกจากนี้ ท่านยังสามารถที่จะค้นหาร้านทางการของ Apple หรือค้นหาตัวแทนจำหน่าย Apple Premium Reseller ทีอยู่ใกล้กับตำแหน่งที่ท่านอยู่มากที่สุด เรียกได้ว่าเมนูค้นหาเพิ่มทางความสะดวกในการค้นหาสินค้าและยังเพิ่มความสะดวกในการค้นหาร้านที่อยู่ใกล้ท่านมากที่สุดอีกด้วย เมนูถุงหรือเรียกอีกอย่างว่าเมนูซื้อสินค้า โดยท่านสามารถที่จะเลือกซื้อสินค้าที่ท่านสนใจและกดเมนูถุง เพียงเท่านั้นสินค้าที่ท่านต้องการซื้อก็จะมาอยู่ที่เมนูถุง โดยจะมีรายละเอียดทั้งวันสั่งซื้อสินค้าและวันส่งมอบสินค้าเมื่อกับหน้าเว็บไซต์ แต่จะสะดวกและรวดเร็วมากกว่า เพราะท่านสามารถกดชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าได้เลยทันทีผ่านทางแอปพลิเคชันเรียกได้ว่าเมนูถุงเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อสินค้ามากที่สุด ท่านที่สนใจสามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน Apple Store ดังนี้iOS: แอปพลิเคชัน Apple Store on App Store ภาพหน้าปกโดย นักเขียน / ภาพประกอบจาก แอปพลิเคชัน Apple Store
bc1xsurachet • 1 มิ.ย. 63
อ่าน
Apple อาจเปิดตัว Apple M3 ในปี 2024
เนื่องจาก Apple เพิ่งเปิดตัว MacBook Air 15 นิ้วที่ใช้ชิป Apple M2 ไปได้ไม่นาน จึงเป็นไปได้ยากที่เราจะได้เห็นชิป Apple M3 ในเร็ว ๆ นี้ มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) แห่ง Bloomberg เผยว่า Apple จะเปิดตัวชิป Apple M3 ภายในปี 2024 โดยชิป Apple M2 เปิดตัวพร้อมกับ MacBook Air 13 นิ้วรุ่นใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022 ในขณะที่รุ่น 15 นิ้วเพิ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่า Apple M3 จะผลิตขึ้นด้วยเทคโนโบยี 3nm ส่วน Apple M2 ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 5nm โดย Apple M3 จะมีจำนวน CPU และ GPU ที่เหมือนเดิม นอกจาก MacBook แล้ว ก็มีข่าวว่า Apple จะเปิดตัว iMac พร้อมกับชิป Apple M3 เลยทีเดียว หลังจากเงียบหายไปนาน ที่มา MacRumors
แบไต๋ • 12 มิ.ย. 66
อ่าน
รีวิวซื้อApple Pencil2 จากApple Store Online
สวัสดีค่ะวันนี้นะวิจะมารีวิวของที่สั่งจาก Apple Store ออนไลน์ก็คือ Apple Pencil สองนั่นเองค่ะ นะวิสั่งเมื่อวันที่ 14.06 และได้และได้เมื่อวันที่ 23.06 รวมเป็นเวลาเก้าวันนั่นเองค่ะ โดยนะวิสั่ง Apple Pencil 2พร้อมกับสลักชื่อ นะวิเลือกวิธีจ่ายโดยผ่านไอแบงค์กิ้งนะคะ เมื่อสั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะได้หมายเลขคำสั่งซื้อมาค่ะเอาไว้ค้นหาคำสั่งซื้อว่าตอนนี้ของเรามีสถานะถึงไหนแล้ว สำหรับนักศึกษา : ถ้าหากใครเป็นนักศึกษาสามารถซื้อ Apple Pencil ในราคานักศึกษาได้ค่ะ ไม่ใช่แค่นักศึกษาเท่านั้นนักเรียนหรือบุคลากรก็ซื้อได้เช่นเดียวกันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าบ้านของนะวิอยู่ต่างจังหวัดค่ะในเวลาเก้าวันที่จัดส่งจากต่างประเทศก็ถือว่าเร็วพอสมควร โดยระหว่างที่ของมาส่งเราสามารถเช็คว่าตอนนี้ของถึงไหนแล้วได้ค่ะหากใครที่หากใครที่ไม่อยากเช็คคำสั่งซื้อโดยใส่หมายเลขคำสั่งซื้อบ่อยบ่อยและวิเคราะห์และนำให้โหลดแอพพลิเคชั่น Apple Storeไว้ค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเขียนหมายเลขคำสั่งซื้อบ่อยบ่อยโดยเราใส่รหัสครั้งเดียวกดเช็คได้ทุกวันทุกเวลาค่ะ นอกจากนี้แอพนี้ยังสามารถเอาไว้ซื้อสินค้าจาก Apple Store อ่ะออนไลน์ได้อีกนะคะโดยที่ไม่ต้องผ่านเว็บไซต์ของ Apple store อ่ะโดยตรง(หน้าตาของapplication Apple Store) และนอกจากนี้นะวิได้ทำการสั่งเคสซิลิโคน Apple Pencil จากช็อปปี้มาด้วยค่ะ เพื่อป้องกัน Apple Pencil ของเราตกหล่นเนาะกันไว้ดีกว่า สำหรัสำหรับเพื่อนเพื่อนคนไหนที่สนใจจะใช้ Apple Pencil คู่กับ iPad นะวิขอแนะนำให้ซื้อเคส Apple Pencil สวมไว้ป้องกันการตกหล่นด้วยนะคะ เว็บไซต์สำหรับสั่งซื้อนวิขอแนบไว้ให้นะคะ https://www.apple.com/th/shop สำหรับการรีวิววันนี้ก็ขอลาไปก่อนไว้มีโอกาสจะมารีวิวอีกแน่นอนค่ะ
นะวิ • 3 ก.ค. 63
อ่าน
Apple อาจใช้เทคโนโลยีใหม่ใน Apple A17 เพื่อลดต้นทุน แต่ราคาเครื่องคงไม่ลดตาม
ชิปเซต Apple A17 จะเป็นชิปรุ่นใหม่ที่ใช้ iPhone 15 Pro ส่วน iPhone 15 จะใช้ Apple A16 รุ่นเก่าที่เปิดตัวมาพร้อมกับ iPhone 14 Pro อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า Apple A17 ที่ใช้ใน iPhone 16 อาจได้รับการออกแบบใหม่ Apple A17 อาจเป็นชิปตัวแรกของ Apple ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3nm ทำให้มีประสิทธิภาพและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นจาก 5nm ที่ใช้ใน Apple A14, 15 และ 16 โดยชิป Apple A17 จะผลิตขึ้นโดยกระบวนการ N3B ของ TSMC ในขณะที่ Apple A17 รุ่นปีหน้าจะผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ N3E ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ กระบวนการ N3B เป็นโหนด 3nm ดั้งเดิมที่ TSMC ร่วมมือกับ Apple ในขณะที่ N3E เป็นโหนดที่มีกระบวนการผลิตที่เรียบง่ายกว่า ลูกค้ารายอื่น ๆ ของ TSMC จะใช้โหนด N3E ในการผลิตชิปซึ่งมีเลเยอร์ EUV น้อยกว่าและความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ที่น้อยกว่า N3B ปีนี้ Apple น่าจะยังใช้การทำตลาดชิปแบบเดิม เหมือน iPhone 14 โดยรุ่น Pro ได้แก่ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะใช้ชิป Apple A17 รุ่นใหม่ ส่วน iPhone 15 ใช้ชิป Apple A16 รุ่นเก่า ส่วนปีหน้า iPhone 16 ก็ใช้ชิป Apple A17 (ที่ลดต้นทุน) ส่วน iPhone 16 Pro ก็ได้ชิป Apple A18 รุ่นใหม่ไปแทน ที่มา MacRumors
แบไต๋ • 24 มิ.ย. 66
อ่าน
Apple เปิดโปร “อุดมศึกษา 2024” ซื้อ Mac หรือ iPad คู่ AirPods หรือ Apple Pencil ในราคาพิเศษ !!
Apple ประกาศโปรโมชัน อุดมศึกษา 2024 ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือสถาบัน เมื่อซื้อ Mac หรือ iPad คู่ AirPods หรือ Apple Pencilรายการสินค้าที่อยู่ในโปรโมชันนี้มีทั้งหมด 4 รายการด้วยกัน1. รับส่วนลด 6,790 บาท เมื่อซื้อ iMac, MacBook Air, หรือ MacBook Pro คู่กับAirPods (รุ่นที่ 3) พร้อมเคสชาร์จ (Lightning หรือ MagSafe)หรือจับคู่กับ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) พร้อมเคสชาร์จ MagSafeหรือกับ AirPods Max2. รับส่วนลด 5,290 บาท เมื่อซื้อ Mac mini คู่กับAirPods (รุ่นที่ 2)หรือคู่กับ AirPods (รุ่นที่ 3) พร้อมเคสชาร์จ (Lightning หรือ MagSafe)หรือกับ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) พร้อมเคสชาร์จ MagSafeหรือกับ AirPods Max3. รับส่วนลด 4,990 บาท เมื่อซื้อ iPad Pro 11 / 13 ชิป M4 หรือ iPad Air 11 / 13 ชิป M2 คู่กับ Apple Pencil Pro4. รับส่วนลด 3,190 บาท เมื่อซื้อ iPad Pro 11 / 13 ชิป M4 หรือ iPad Air 11 / 13 ชิป M2 คู่กับ Apple Pencil (USB-C)ผู้ที่จะใช้สิทธิ์รับส่วนลด จะต้องเข้าไปซื้อสินค้าที่ Apple Store โดยตรง และต้องเป็นคุณครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา และผู้ปกครอง ของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษา หรือมีการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นปริญญาตรีขึ้นไป (หรือเทียบเท่า).พร้อมเตรียมสำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา, อาจารย์, บุคลากรที่เกี่ยวข้อง, หรือหนังสือรับรองการรับเข้าเป็นนักศึกษาอย่างเป็นทางการที่ออกโดยสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย มาใช้ยืนยันตัวตนยื่นขอใช้โปรโมชันนี้ได้ตั้งแต่ วันนี้ - จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2024 เท่านั้นแหล่งที่มาapple.com/
TNN ช่อง16 • 10 ก.ค. 67
อ่าน
Apple เปิดตัวระบบซื้อสินค้าออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญ Apple ผ่านระบบวิดีโอคอล
ลูกค้า Apple ในสหรัฐอเมริกาสามารถเลือกซื้อสินค้าใน Apple Store Online โดยมีผู้เชี่ยวชาญของ Apple ผ่านระบบวิดีโอเพื่อมาช่วยให้คำแนะนำเลือกซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone Apple เปิดตัวระบบ Shop with a Specialist over Video ที่เป็นประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้ารูปแบบใหม่บนเว็บไซต์ Apple สำหรับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ ระบบ Shop with a Specialist over Video จะทำการเชื่อมต่อกับลูกค้าที่ต้องการซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone ด้วยบริการดังกล่าวลูกค้าสามารถเรียกดูสินค้ารุ่นล่าสุด, ศึกษารายละเอียดใหม่ ๆ ของสินค้า, ตรวจสอบข้อเสนอ Apple Trade In ,วิธีการเปลี่ยนไปใช้ระบบ iOS และตัวเลือกของช่องทางการเงิน คุณ คาเรน รัสมุสเซน (Karen Rasmussen) หัวหน้าฝ่าย Retail Online ของ Apple ได้กล่าวว่า “พวกเราได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่นี้เพื่อมอบประสบการณ์ซื้อสินค้าแบบส่วนตัว เมื่อลูกค้าเลือกซื้อสินค้ากับผู้เชี่ยวชาญผ่านระบบวิดีโอ พนักงานของเรามีความตื่นเต้น และมีความตั้งใจที่จะมอบบริการที่ดีเยี่ยมพร้อมกับยกระดับประสบการณ์ซื้อสินค้าให้กับลูกค้าให้ดีที่สุด” ที่มา Apple Newsroom
แบไต๋ • 15 มี.ค. 66
อ่าน
Apple เปิดให้อัปเดต iOS 17.1 พร้อมปรับปรุงฟีเชอร์ AirDrop และ Apple Music รูปแบบใหม่
แอปเปิล (Apple) เปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.1 ได้แล้ว โดยมีการปรับปรุงฟีเชอร์การใช้งานเด่น ๆ เช่น AirDrop, ตัวเลือกการควบคุมเพิ่มเติมสำหรับการสแตนด์บาย (StandBy), บริการ Apple Music ใหม่ และการปรับแต่ง Photo Shuffle บนหน้าจอล็อก รวมไปถึงการแก้ไขบั๊กข้อผิดพลาดอื่น ๆ บนระบบปฏิบัติการเดิมเวอร์ชันก่อนหน้าการอัปเดต iOS 17.1 สามารถทำได้เหมือนการอัปเดตระบบปฏิบัติการปกติของแอปเปิล โดยเข้าไปยังตั้งค่า ทั่วไป อัปเดตซอฟต์แวร์ กดอัปเดต iOS 17.1สำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพของฟีเชอร์ที่น่าจับตามอง เช่น การปรับปรุง AirDrop ซึ่งจะช่วยให้เนื้อหาสามารถถ่ายโอนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตต่อไปได้ แม้ว่าผู้ใช้งานจะออกจากช่วง AirDrop ไปแล้วก็ตาม ซึ่งช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นบริการ Apple Music ได้ถูกปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มเติม เช่น การเพิ่มเพลงโปรด อัลบั้ม และการสร้างเพลย์ลิสต์ สามารถเลือกแสดงผลรายการโปรดได้ง่ายมากขึ้น การปรับปรุงภาพปกของเพลง ความสามารถในการเพิ่มเพลงให้ตรงกับอารมณ์เพลงของเพลย์ลิสต์ได้ง่ายมากขึ้นสำหรับการแก้ปัญหาเกี่ยวกับบั๊กและข้อผิดพลาดระบบปฏิบัติการ iOS 17.1 ได้แก้ปัญหาคีย์บอร์ดค้าง ภาพค้าง แก้ปัญหาที่ทำให้ความเป็นส่วนตัวของการระบุตำแหน่งที่ตั้ง แก้ปัญหาเสียงรอสาย และฟีเชอร์ด้านความปลอดภัยตรวจจับการชนบน iPhone 14 และ iPhone 15 ที่แม่นยำมากขึ้นการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.1 รองรับบน iPhone 15 ลงไปจนถึง iPhone SEนอกจากการปล่อยให้ผู้ใช้งานทุกคนอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.1 ทางแอปเปิลยังปล่อยให้อัปเดตระบบปฏิบัติการ iPadOS 17.1,WatchOS 10.1 และระบบปฏิบัติการ MacOS Sonoma 14.1 ไปพร้อมกันอีกด้วยที่มาของข้อมูลEngadget
TNN ช่อง16 • 26 ต.ค. 66
อ่าน
เปิดประมูล Apple-1 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของ Apple
p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Thonburi; color: #000000} p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px 'Helvetica Neue'; color: #000000; min-height: 12.0px} span.s1 {font: 11.0px 'Helvetica Neue'}p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Thonburi; color: #000000} p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px 'Helvetica Neue'; color: #000000; min-height: 12.0px} span.s1 {font: 11.0px 'Helvetica Neue'}Apple-1 หนึ่งในคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้ก่อตั้งบริษัท Apple บริษัทด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีชื่อดัง ถูกนำออกมาประมูลแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยคาดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 20 ล้านบาทไทยเลยทีเดียวคอมพิวเตอร์เครื่องนี้นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งสมบัติล้ำค่าสำหรับนักสะสมอุปกรณ์เทคโนโลยีวินเทจเลยก็ว่าได้เนื่องจากมีอายุกว่า45ปีและถูกสร้างขึ้นโดยSteve WozniakและSteve Jobsผู้ก่อตั้งบริษัทAppleแถมคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ยังถูกสร้างขึ้นที่บ้านของJobsเองอีกด้วยที่มาของภาพtheguardianจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ เป็นหนึ่งในเครื่องที่ถูกขายให้ร้าน ByteShop ที่เมือง Mountain View รัฐแคลิฟอเนียร์ โดยในตอนแรกเจ้าของร้านไม่เห็นด้วยกับการนำคอมพิวเตอร์เหล่านี้มาขายซักเท่าไหร่นัก เนื่องจากมีอุปกรณ์หลายอย่างที่ดูยุ่งยาก แทนที่จะมีวิธีการใช้งานง่ายๆ อย่างการเสียบปลั๊กแล้วก็จบ แต่สตีฟ จ็อบส์ก็โน้มน้าวให้เขาเชื่อว่าจะได้รับกำไรจากการขายคอมพิวเตอร์เหล่านั้น ซึ่งเขาก็โน้มน้าวได้สำเร็จและคอมพิวเตอร์นี้ก็สร้างกำไรให้กับเจ้าของร้านได้จริงๆApple-1 เครื่องนี้ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบต่างๆ ว่าเป็นของแท้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสิทธิ์ของเจ้าของ การกู้คืนข้อมูล และการประเมินการใช้งาน จนยืนยันได้ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เป็นหนึ่งใน Apple-1 ของแท้จริงๆ จากทั้งหมดประมาณ 60 เครื่องบนโลก โดยป็นหนึ่งใน 20 เครื่องที่ยังคงใช้งานได้อยู่ที่มาของภาพforbesApple-1เครื่องนี้ทำจากไม้โคอาซึ่งเป็นต้นไม้ท้องถิ่นของคนฮาวายปกติมักนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หรืออูคูเลเล่และจะมีราคาสูงกว่าไม้ปกติทั่วไปเพราะเป็นไม้ที่ค่อนข้างหายากในส่วนของหน้าจอทำจากจอภาพวิดีโอของPanasonicซึ่งสิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้Apple-1มีค่าและราคาสูงมากขึ้นJohn Moran ผู้จัดประมูล ได้เริ่มการประมูล Apple-1 แล้ว โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6 ล้านบาท) ซึ่งเหล่าผู้เชี่ยวชาญเองต่างก็ออกมาคาดคะเนถึงราคาประมูลที่จะได้รับหลังจากจบงานนี้ เช่น สำนักการประมูลของแคลิฟอเนียร์คาดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้จะสามารถขายได้ถึง 400,000 - 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13 ล้านบาท - 20 ล้านบาท) ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ Apple-1 คาดว่าการประมูลนี้จะจบลงที่ราวๆ 500,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16 ล้านบาท)ที่มาของภาพ indiatimesถึงแม้จะมีการคาดการณ์ราคาประมูลออกมาแค่ 600,000 ดอลลาร์ แต่ในปี 2014 เคยมีราคาสูงกว่านี้แล้วโดยผู้จัดประมูลชาวนิวยอร์กปิดประมูลที่ราคา 905,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณเกือบ 30 ล้านบาท โดยล่าสุดทาง John Moran ผู้จัดประมูลได้ออกมากล่าวว่า เขาได้รับการเสนอราคาเข้ามาบ้างแล้ว ทั้งนี้ราคาประมูลจะไปสิ้นสุดลงที่ราคาเท่าใด และจะมากกว่าราคาประมูลที่เคยได้ในปี 2014 หรือไม่ เราจะต้องติดตามกันต่อหลังจากจบการประมูลขอบคุณข้อมูลจากtheguardianforbesindiatimes
TNN ช่อง16 • 11 พ.ย. 64
อ่าน
เตรียมพร้อม Apple Camp แคมป์กิจกรรมจาก Apple เพื่อเด็กและครอบครัวร่วมกิจกรรมพร้อมกันทั่วโลก
เรียกได้ว่าสิ่งที่ Apple ทำอยู่ในทุกวันนี้ นอกจากจะขายอุปกรณ์ไอทีแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เพื่อการส่งเสริมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ หรือด้านของสิ่งแวดล้อม ซึ่งในตอนนี้ Apple ก็ได้มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Apple Camp ที่ได้มีการเชิญชวนให้เหล่าคนในครอบครัวที่มีเด็กๆ เข้ามาร่วมกิจกรรมกัน พร้อมกันทั่วโลก ซึ่งในบทความของ TamKung วันนี้เราจะมาทำความรู้จักและแนะนำให้รู้จักกับกิจกรรม Apple Camp มีอะไรน่าสนใจ แล้วต้องทำยังไงถึงจะได้เข้าร่วมโดย Apple Camp เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครองและเด็กๆ เพื่อจะได้ต่อยอด และเสริมการเรียนรู้ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการเขียนโค้ดนั่นเองครับ โดยมีการจัดกิจกรรมมาหลายปี โดยในปีนี้จะเริ่มจัดในวันที่ 20 มิถุนายน เป็นต้นไป และจะมีการกิจกรรมไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมที่มีเรื่องของการเฉลิมฉลองให้กับโลกใบนี้ครั้งนี้ Apple เองก็ได้ออกแบบกิจกรรมที่อยากเสริมการรักษ์โลก ผ่านกิจกรรมการผจญภัยต่างๆ ให้สนุกผ่านโลกจินตนาการของหนังสือการ์ตูน โดยการลงมือวาด ระบายสี และสร้างสรรค์เรื่องราวจากภาพถ่ายบน iPad ร่วมกับเพื่อนๆ เด็กๆ จากทั่วทุกมุมโลกที่เข้าร่วม Apple Camp ครับ โดยในนั้นจะมีกิจกรรมที่สามารถทำที่บ้านกับครอบครัวได้อีก 20 กิจกรรม จริงๆ แล้ว Apple Camp ก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้เด็กอายุระหว่าง 8 ถึง 12 ปีเข้าร่วมกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญของ Apple ร่วมกับคนอื่นๆ ที่มีความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีจากทาง Apple หากสนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรม ก็สามารถลงทะเบียนและดาวน์โหลดคู่มือได้ที่เว็บไซต์ของ Apple Camp ครับ โดยเด็กๆ ทุกคนจะได้รับเสื้อยืดและประกาศนียบัตรจาก Apple Camp ทางร้านจะเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้แล้วครับ น่าตื่นเต้นแทนน้องๆ มากเลยครับมีอีกกิจกรรมที่น่าสนใจ นั่นคือกิจกรรม Apple Creative Pros โดยใช้ชื่อว่า Art Lab: Comic Book Adventure with Your Family เป็นการทำกิจกรรมที่ต่อยอดมาจากการวาดรูป ระบายสีเพื่อช่วยเหลือโลกของเราเสร็จแล้ว น้องๆ จะได้ใช้ iPad ในการออกไปสำรวจสิ่งรอบตัว หาแรงบันดาลใจต่างๆ เพื่อการถ่ายรูป และตกแต่งภาพถ่ายให้น่ารัก และเข้ากับธีมของการกอบกู้โลกนั่นเอง ผมมองว่ากิจกรรม Apple Camp ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ นะครับ เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ทดลองการเข้ามาทำกิจกรรมกับทาง Apple แล้ว มันยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ของเหล่าเด็กๆ ให้สามารถเข้าใจถึงโลกปัจจุบันของเรา รวมไปถึงการต่อยอดกิจกรรมในครอบครัวอีกด้วยครับโดยกิจกรรมหลักจะเกิดขึ้นที่ Apple Store สาขา Central World ในวันที่ 20 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม โดยเป็นกิจกรรมประมาณ 2 ชั่วโมงสำหรับครอบครัว โดยจะเกิดขึ้นในร้านของ Apple จริงๆ ก็จะมีการจัดกิจกรรมแบบนี้ในร้านของ Apple Store ทั่วโลกเลยครับ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Apple Campเครดิตรูปภาพหน้าปก/รูปภาพประกอบบทความ - Keynote: Camp Field Guide at home ทาง Appleฟัง TamKung Podcast ได้ที่ Spotify Podcast | Apple Podcast | Google Podcastติดตาม TamKung ได้ที่ TamKung Facebook: แต้มเองTwitter: แต้มเองติดตาม TamKungPhoto ได้ที่ #TamKungPhotoShutterStock | Pixabayบทความที่น่าสนใจลองใช้ iOS 16 เท่าที่จะหามาใช้ได้ มีอะไรน่าสนใจ แล้วมันจะดีไหมนะ?อัปเดต Ventura น้อง macOS รุ่นใหม่ทำงานได้ฉลาดขึ้น สวยขึ้น น่าใช้มากๆอัปเดต iOS16 น้องใหม่ที่กำลังจะมา มีอะไรที่ต้องว้าว สิ่งที่น่าสนใจมากมายวิธีเช็กแบตเตอรี่ของเราว่าอันไหนใกล้พัง? และต้องระวังอย่างไร?แนะนำ Itch.io ตลาดขายเกมอินดี้ เพื่อคนเล่นเกมและแหล่งสำหรับนักพัฒนาอินดี้*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565
TamKung • 18 มิ.ย. 65
อ่าน
Apple อาจเปิดตัว Apple M3 พร้อม Mac ใหม่ ปลายปีนี้
สื่อต่างประเทศรายงานว่า Apple จะเปิดตัว Apple M3 หรือชิปเซตสำหรับ Mac และ iPad Pro ในช่วงปลายปีนี้ มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) จาก Bloomberg เผยว่า Apple จะเปิดตัวชิป Apple M3 ในเดือนตุลาคมปีนี้ พร้อมกับ Mac รุ่นใหม่ ได้แก่ MacBook Air 13, MacBook Pro 13 โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะใช้ชิป Apple M3 ซึ่งดูเหมือนว่าจะเปิดตัวเร็วกว่าที่คาดทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว Apple M2 Ultra หรือ Apple Silicon รุ่นท็อปสุด เพียงแต่ Apple M2 ติดปัญหาการผลิตเลยทำให้เปิดตัวช้า ชิป Apple M3 จะมีแกนประมวลผลที่คล้ายกับ Apple M2 จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมจากการอัปเกรดเทคโนโลยีการผลิตชิปเป็น 3nm ที่ทำให้มีประสิทธิภาพการใช้งานต่อหน่วยพลังงานดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า Apple จะจัดงานเปิดตัว Apple M3 หรือไม่ หรือเปิดตัวผ่าน Press Release หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เดือนกันยายนนี้เราน่าจะได้เห็น iPhone 15 ที่ใช้พอร์ต USB-C แล้วครับ ที่มา Gizmochina
แบไต๋ • 17 ก.ค. 66
อ่าน
Apple ปล่อย iPhone 16 พร้อมขนทัพของใหม่เปิดตัวใน Apple Event 2024
จบไปอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงาน Apple Event 2024 ในชื่อธีมงานว่า its Glowtime กับการเปิดตัวสมาร์ตโฟน สุดฮอตที่หลายคนตั้งตาคอย กับ iPhone 16 ซีรีส์ ที่ชูจุดเด่นคือความสามารถในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และปุ่มคำสั่งใหม่ รวมถึงยังขนทัพผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด Apple Watch และ AirPods มาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ สมกับการรอคอยApple Watchเริ่มกันที่ นาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch รุ่นที่ 10 ที่ปีนี้ได้มีการออกแบบโฉมใหม่ ด้วยตัวเรือนแบบบางที่สุดเท่าที่เคยมีมา รวมถึงการขยายพื้นที่จอใหญ่ขึ้น แสดงข้อมูลได้มากขึ้น และใช้จอภาพ OLED มุมกว้าง ทำให้หน้าจอสว่างขึ้นเมื่อมองจากด้านข้าง ในเรื่องของฟีเชอร์ด้านสุขภาพ มีการอัปเกรดเซ็นเซอร์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยแอปพลิเคชันสัญญาณชีพ วัดและแจ้งเตือนภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ส่วนสายกิจกรรม มีอัปเกรดเซ็นเซอร์วัดความลึก และอุณหภูมิในน้ำ นอกจากนี้ Apple Watch รุ่นที่ 10 ยังชาร์จได้เร็วขึ้น โดยชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในเวลาแค่ 30 นาทีส่วน Apple Watch Ultra 2 มีการอัปเกรดเรื่องของวัสดุ ด้วยตัวเรือนไทเทเนียมดำใหม่ ออกแบบตอบโจทย์สายสปอร์ตที่รักการผจญภัย ใส่ดำน้ำได้ลึกถึง 40 เมตร ส่วนแบตอึดทนใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมงในโหมดปกติ และใส่ฟีเชอร์ด้านการเชื่อมต่อ สุขภาพ และความปลอดภัย รวมถึงระบบ GPS ที่แม่นยำมากขึ้นสำหรับราคาวางจำหน่าย Apple Watch รุ่นที่ 10 เริ่มต้นที่ 14,900 บาท และ Apple Watch Ultra 2 เริ่มต้นที่ 29,900 บาทAirPodsต่อกันที่อุปกรณ์หูฟัง AirPods ปีนี้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ AirPods 4 ดิไซน์ให้เข้ากับใบหู สวมใส่สบาย เคสชาร์จรองรับ USB-C ภายในมีชิป H2 มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ลดเสียงรบกวนความถี่ต่ำที่อยู่รอบข้าง พร้อมให้เสียงโทรชัดขึ้นด้วยคุณสมบัติการแยกเสียง ใช้งานหูฟังได้นานสุด 30 ชั่วโมงเมื่อมีเคส และฟังได้นานสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งส่วน AirPods Maxมีสีใหม่ ฟ้า ม่วง มิดไนท์ สตาร์ไลต์ และส้ม และฟีเชอร์การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟระดับโปร รองรับการชาร์จแบบ USB‑C แบตเตอรี่ ใช้พลง ดูภาพยนตร์ หรือสนทนาได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมงสำหรับราคาเริ่มต้นของ AirPods 4 อยู่ที่ 4,990 บาท ส่วน AirPods Max อยู่ที่ 19,900 บาทiPhone 16 / iPhone 16 Plusและที่รอคอยกันมาตลอดทั้งงานนี้ ก็คือการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในตระกูลiPhone 16โดย Apple ระบุว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่ออกแบบมาเพื่อ Apple Intelligence หรือ AI ที่พัฒนาโดย Apple ที่จะเป็นเหมือนผู้ช่วยให้การทำงานของแอปพลิเคชันและฟีเชอร์ต่าง ๆ ฉลาดมากขึ้นในแง่รูปลักษณ์ iPhone16 ซีรีส์นี้ มาพร้อมปุ่มใหม่Camera Controlให้ผู้ใช้งานมีวิธีที่ง่ายขึ้นในการเข้าถึงเครื่องมือของกล้องได้อย่างรวดเร็ว เช่น สามารถใช้นิ้วเลื่อนเพื่อปรับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของกล้อง อย่างค่าแสง หรือมิติความชัดลึก แล้วสลับไปมาระหว่างเลนส์แต่ละตัว หรือใช้การซูมแบบดิจิทัลเพื่อจัดเฟรมภาพส่วนปุ่ม Action บน iPhone 16 จะปรับให้สามารถเลือกใช้เป็นปุ่มลัดพิเศษสู่คุณสมบัติที่ชอบ เช่น ไฟฉาย เสียงบันทึก โหมดปิดเสียง ตามที่เราต้องการสำหรับสเปกอื่น ๆ iPhone 16มาพร้อมจอขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 16 Plus มาพร้อมจอขนาด 6.7 นิ้ว ทั้งคู่ใช้ชิปประมวลผล A18 ระบบกล้องคู่ Fusion 48MP อัลตร้าไวด์ 12MP ใช้ชิป A18 ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้นสำหรับราคาเริ่มต้นของ iphone 16 อยู่ที่ 29,900 บาท และ iPhone 16 Plus อยู่ที่ 34,900 บาทiPhone 16 Pro / iPhone 16 Pro Maxในขณะที่ตระกูล iPhone16Pro และ iPhone16Pro Max ดิไซน์คล้ายกับรุ่นธรรมดา แต่ต่างกันที่กล้องยังคงเป็นแบบ 3 ตัว และขนาดหน้าจอของรุ่น iPhone16Pro Maxที่มาพร้อมกับเซอร์ไพรส์ ด้วยการเพิ่มขนาดจอใหญ่ถึง6.9 นิ้ว หรือใหญ่ที่สุดเท่าที่ iPhone เคยมีมาส่วนรุ่นiPhone16Proจะใช้เป็นจอขนาด 6.3 นิ้วในเรื่องของกล้อง จัดเต็มสมกับระดับโปร 3 ตัว Fusion 48MP อัลตร้าไวด์ 48MP และเทเลโฟโต้ และฟีเชอร์การถ่ายทำวิดีโอที่ล้ำขึ้น Dolby Vision ระดับ 4K สามารถปรับความเร็วในการเล่นหลังจากถ่ายเสร็จแล้วได้ รองรับการถ่ายวิดีโอ และปรับแต่งความเร็ววิดีโอให้เป็น Slow Motion ภายหลังได้ส่วนระบบเสียงมีฟีเชอร์Audio Mixปรับลักษณะของเสียงพูดในวิดีโอโดยใช้ตัวเลือกเสียงพูดที่ต่างกัน 3 แบบ เพื่อให้ได้เสียงอย่างที่ต้องการหลังจากถ่ายวิดีโอเสร็จแล้วได้ ส่วนชิปประมวลผลจะขยับมาเป็น A18Pro เล่นวิดีโอนานสูงสุด 33 ชั่วโมง บนรุ่น Pro Max และ 27 ชั่วโมง บนรุ่น Proสำหรับราคาเริ่มต้นของ iphone 16 Pro อยู่ที่ 39,900 บาท และ iPhone 16 Pro Max อยู่ที่ 48,900 บาทโดยตระกูล iPhone 16 ทั้งหมด เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า 13 กันยายน เวลา 19.00 น. และเริ่มวางจำหน่าย 20 กันยายนนี้ข้อมูลจากapple,apple-watch-ultra-2/,airpods-4/,iphone-16/specs/
TNN ช่อง16 • 10 ก.ย. 67
อ่าน
One More Thing!!! Apple Glass แว่นตาอัจฉริยะจาก Apple ที่อาจเปิดตัวพร้อมกันกับ iPhone 12
ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีข่าวลือมากมายจากแหล่งข่าวต่างประเทศ ที่หลุดออกเกี่ยวกับ Apple Glass แว่นตาอัจฉริยะ ที่จะเปลี่ยนมุมมองการใช้แว่นตาของคุณ ให้มีความทันสมัย และแปลกใหม่มากขึ้นกว่าเดิม โดยในครั้งนี้ทางเราจะขอนำเสนอ รายละเอียดทั้งหมด ที่สื่อต่างประเทศคาดเดาเกี่ยวกับการมีอยู่ และการเปิดตัวของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นนี้ ให้คุณได้รับชมไปพร้อม ๆ กัน ดังนี้ครับ 1. ราคาเปิดตัว Apple Glass ก่อนที่เราจะไปถึงเรื่องอื่นของอุปกรณ์ตัวนี้ แน่นอนว่าสิ่งที่หลายคนสนใจ เกี่ยวกับตัวอุปกรณ์ชิ้นนี้ จะต้องเป็นในด้านของราคา ที่ Apple จะเปิดตัวมาให้เราได้เลือกซื้อกันอย่างแน่นอน โดยทางสื่อต่างประเทศ ได้คาดเดาการเปิดตัวราคาของอุปกรณ์ตัวนี้เอาไว้ว่า จะเปิดตัวมาในราคาประมาณ 499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 16,000 บาท ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูงหากเทียบกับแว่นตาปกติ ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาระดับนี้ ก็แน่นอนว่า Apple จะต้องมีการจัดเต็มฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย ที่ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยจะมีฟีเจอร์ไหนที่น่าสนใจบ้าง ลองเลื่อนลงไปชมพร้อมกันในข้อต่อ ๆ ไปได้เลยครับ 2. มาพร้อมหน้าจอแสดงผลบนเลนส์ทั้งสอง และการใช้งานผ่านท่าทางในการสั่งใช้งาน หากจะพูดให้คุณสามารถเข้าใจได้โดยง่าย ก็อยากให้คุณลองนึกถึงแว่นตาโคนัน ที่จะมีหน้าจอแสดงผลขึ้นมา เมื่อเขาเริ่มกดใช้งาน แต่อย่าพึ่งจินตนาการไปจนเกินความเป็นจริงมากนัก เพราะเนื่องจาก Apple Glass รุ่นนี้ ยังนับเป็นรุ่นแรกของอุปกรณ์ประเภทนี้ของทาง Apple จึงทำให้อาจจะไม่ได้มีฟังก์ชันการใช้งาน ที่มีความล้ำสมัยมากขนาดนั้นครับ แต่อย่าพึ่งผิดหวังไปซะทีเดียว อย่างไรก็ตาม จากการเป็นนวัตกรรมใหม่ของ Apple ก็แน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งาน ที่น่าสนใจและแปลกใหม่อย่างแน่นอน โดยที่หนึ่งในนั้น จะเป็นการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกัน Apple Watch ซึ่งทำให้คุณอาจจะสามารถรับส่งข้อความ ใช้งานโซเชียลมีเดีย หรืออื่น ๆ ที่ Apple สามารถทำได้อีกหลายข้อเลยทีเดียวครับ 3. รองรับการใช้งาน LiDAR Scanner LiDAR เป็นเทคโนโลยีเซนเซอร์ ที่ถูกเปิดตัวมาครั้งแรกใน iPad Pro 2020 ของ Apple ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยจะใช้งานสำหรับการตรวจจับภูมิประเทศต่าง ๆ ที่เซนเซอร์สมารถตรวจจับได้ เพื่อช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการถ่ายภาพ และเทคโนโลยี VR และ AR ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การดูเฟอร์นิเจอร์ผ่านทาง iPad ให้มีขนาดที่เทียบเท่ากับของจริง เป็นต้น สำหรับการนำมาใช้งานกับ Apple Glass นั้น จะเป็นการนำไปใช้งานในด้านการตรวจจับระยะห่างระหว่างวัตถุ พื้นผิว หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เราสามารถมองเห็นได้ผ่านแว่นตา ทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุที่เป็น AR ในลักษณะ 3 มิติ หรือวัดระยะทางต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกันกับ iPad Pro 2020 นั่นเองครับ 4. รองรับการใช้งาน Wiress Charge เพื่อเพื่มความสะดวกสบายในการใช้งานของอุปกรณ์ตัวนี้ Apple ได้มีการใส่ฟังก์ชันการใช้งานการชาร์จไร้สาย ผ่านทางแท่นชาร์จ ให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่จะไม่มีสายชาร์จ ที่จะคอยกวนใจคุณเลยแม้แต่เส้นเดียว ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่อง ที่สามารถคาดเดากันได้ง่ายอยู่พอสมควร เพราะคงไม่มีใครต้องการแว่นตา ที่จำเป็นจะต้องเสียสายชาร์จ ในทุกวันหลังจากการใช้งานหรอก จริงไหมล่ะครับ 5. วันเปิดตัวและวันวางจำหน่าย ในด้านวันเปิดตัวของอุปกรณ์ตัวนี้ คาดว่าจะเปิดตัวมาในฐานะ One More Thing ซึ่งเป็น High Light ในช่วงสุดท้ายของการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone 12 ที่คาดว่ากำลังจะเปิดตัวมาในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายจริงในช่วงปลายปี 2021 ไปจนถึงต้นปี 2022 ที่กำลังจะถึงนี้เช่นกันครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Macrumors
Siranat • 18 มิ.ย. 63
อ่าน
Apple เปิดตัวฟีเจอร์แทนคีย์การ์ด ผ่าน Apple Wallet ประเดิมโรงแรมหรูในเครือ Hyatt
"Apple" เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บน iOS 15 ด้วยระบบแทนคีย์การ์ดโรงแรม โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มคีย์การ์ดเข้าห้องโรงแรมแบบ NFC ใน Apple Wallet รองรับการใช้งานผ่าน iPhone และ Apple Watch ซึ่งจะอยู่ใน Express Mode ไม่ต้องใช้รหัสผ่าน, FaceID หรือ TouchID ก็สามารถใช้งานได้ และหากแบตหมดระหว่างทาง ก็ยังสามารถใช้งานได้ถึง 5 ชั่วโมงหลังมือถือเข้าสู่โหมด Power Reserve หรือมือถือปิดตัวเองช่วงแบตหมด ในระยะแรก "Apple" จะเริ่มเปิดประเดิมฟีเจอร์นี้กับโรงแรมหรูในเครือ Hyatt หกแห่งในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Andaz Maui ที่ Wailea Resort, Hyatt Centric Key West Resort Spa, Hyatt House Chicago/West Loop-Fulton Market, Hyatt House Dallas/Richardson, Hyatt Place Fremont/Silicon Valley และ Hyatt Regency Long Beach ทั้งนี้ ระบบดังกล่าว ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มคีย์การ์ดได้ตั้งแต่จองห้องเสร็จ โดยเชื่อมแอป Apple Wallet เข้ากับแอป World of Hyatt ก็สามารถใช้แทนคีย์โรงแรมได้แล้ว สำหรับใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัย บอกเลยว่า ระดับ Apple และ Hyatt แล้วไม่มีทางทำให้ผิดหวังแน่น โดยระบบนี้สามารถเปิดห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางที่มีการปกป้องคีย์การ์ดได้ทั้งหมด เช่น โรงยิม, สระว่าย, ลิฟต์ แต่ระบบนี้จะสามารถใช้คีย์การ์ดเปิดห้องได้เมื่อถึงเวลาเช็คอินแล้วเท่านั้น โดยเลขห้องจะปรากฎอยู่บนคีย์การ์ด และจะอัปเดตอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการจองผ่านแอป
TNN Wealth • 10 ธ.ค. 64
อ่าน
Apple เตรียมแทนที่ iTunes บน Windows ด้วย Apple Music, Apple TV และ Apple Devices!
Apple เตรียมจะแทนที่ iTunes บน Windows ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุดท้าย ด้วยแอป Apple Music, Apple TV และ Apple Devices โดย 3 แอปนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 11 Apple Music จะมาพร้อมห้องสมุดเพลง (local music library) ส่วนตัวของผู้ใช้ รวมถึงทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการ Apple Music แบบเสียเงินได้ Apple TV จะมาพร้อมเนื้อหาออริจินัลจาก Apple TV+ ที่มีความหลากหลาย ส่วน Apple Devices จะมาแทนที่ในด้านการซิงค์ข้อมูล (sync), การสำรองข้อมูล (backup), การกู้คืนข้อมูล (restore) และการอัปเดตซอฟต์แวร์ฉุกเฉิน เมื่อทั้ง 3 แอปมาแทนที่ iTunes ก็จะเหลือเพียงแค่ฟังก์ชันด้าน podcast และ หนังสือ ที่ยังไม่ทราบว่า Apple จะนำฟังก์ชัน 2 ด้านนี้ไปไว้ในแอปที่ 4 หรือไม่ ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 14 ม.ค. 66
อ่าน
Apple เปิดตัว Mac mini พร้อมชิป Apple M2 และ M2 Pro เริ่มต้นเพียง 20,900 บาท
วันนี้ Apple ได้เปิดตัวสินค้าไลน์อัป Apple M2 ใหม่ ได้แก่ MacBook Pro 14 และ 16 นิ้วที่ใช้ชิป Apple M2 รวมถึง Mac mini รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับชิป Apple M2 ซีรีส์เช่นเดียวกันด้วย สเปก Mac mini M2 ใหม่ Apple M2 – CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 10-core, หน่วยความจำแบบรวม ขนาด 8GB, ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256GB, Neural Engine แบบ 16-core, พอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต HDMI, Gigabit Ethernet, ช่องต่อหูฟัง ราคา 20,900 บาท Apple M2 – CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 10-core, หน่วยความจำแบบรวม ขนาด 8GB, ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 512GB, Neural Engine แบบ 16-core, พอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต HDMI, Gigabit Ethernet, ช่องต่อหูฟัง ราคา 27,900 บาท Apple M2 Pro – CPU แบบ 10-core, GPU แบบ 16-core, หน่วยความจำแบบรวม ขนาด 16GB, ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 512GB, Neural Engine แบบ 16-core, พอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 4 พอร์ต, พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต HDMI, Gigabit Ethernet, ช่องต่อหูฟัง ราคา 45,900 บาท ทั้งหมดมาพร้อมกับการรองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 สำหรับรุ่นที่ใช้ Apple M2 Pro จะรองรับการต่อออกหน้าจอนอกพร้อมกันทั้งหมด 3 หน้าจอ ในขณะที่รุ่นปกติจะรองรับเพียง 2 หน้าจอครับ สำหรับใครที่ต้องการสเปกที่ไม่แรงมากระดับ Mac Studio แต่ก็ใช้งานหนักได้ในระดับหนึ่ง Mac mini Apple M2 Pro ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะมีสเปกที่ใกล้เคียงกับ MacBook Pro 14 เลยนั่นเองครับ ที่มา Apple
แบไต๋ • 17 ม.ค. 66
อ่าน
Apple ยังคงเลือกปรับปรุงซอฟต์แวร์ แก้ไขการแบน Apple Watch
แม้ว่าคำสั่งแบนการจำหน่าย Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 จะถูกระงับไปจนถึงต้นเดือนมกราคม แต่ก็เป็นการระงับเพียงชั่วคราวเท่านั้น Apple ยังต้องหาทางแก้ไขการละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo ให้ได้อยู่ ผู้พิพากษาอได้ตัดสินว่าฟีเจอร์ SpO2 ของ Apple Watch ได้ละเมิดสิทธิบัตร Masimo หลังจากนั้น ทาง ITC หรือคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศได้ออกคำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ละเมิด Masimo และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม แต่การอุทธรณ์ต่อศาลกลางของรัฐบาลกลางทำให้มีการระงับการแบนชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 10 มกราคม Bloomberg รายงานว่า Apple ยังคงวุ่นวายอยู่กับการแก้ไขปัญหาละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo ตามรายงานก่อนหน้านี้ ทาง Masimo ได้เรียกค่าเสียหายจาก Apple เป็นเงิน 3,000 ล้านเหรียญ ซึ่ง Apple ปฏิเสธ และหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการปรับปรุงซอฟต์แวร์ส่งให้ศุลกากรตรวจสอบ หาก Apple สามารถแก้ไขการละเมิดได้ด้วยการแก้ไขซอฟต์แวร์ Masimo จะไม่มีสามารถอุทธรณ์ได้เนื่องจาก Masimo ไม่ได้อยู่ในข้อพิพาทด้านศุลกากร คดีทั้งหมดของ Masimo อยู่ในส่วนของสิทธิบัตรและกระบวนการการเรียกร้องกับ ITC ที่มา AppleInsider
แบไต๋ • 29 ธ.ค. 66
อ่าน
Apple ซุ่มเปิดตัว MacBook Air M3 39,900 บาท ลดราคา M2 หรือ Apple จะเลิกจัดอีเวนต์ ?
Apple เผยโฉม MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ใหม่โดยติดตั้งชิปประมวลผล M3 ตามข่าวลือว่าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ที่รายงานโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ก่อนหน้านี้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และยังคงมีประกาศอื่น ๆ เพิ่มเติมภายในเดือนมีนาคมนี้ข้อมูลและราคา MacBook Air M3 รุ่นใหม่Apple เปิดตัว MacBook Air ใหม่พร้อมชิป M3 ที่ประกาศว่าเพิ่มความเร็วขึ้นสูงสุดร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับชิป M1 โดย MacBook Air รุ่นใหม่จะมีขนาดหน้า ทั้งรุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว โดยมีการออกแบบในรูปแบบเดิม ที่มีติ่งหน้าจอ (Notch) ซึ่งเป็นจอภาพ Liquid Retina แบบเดิม พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง เสริมการรองรับจอภาพภายนอกสูงสุดเป็น 2 หน้าจอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในผลิตภัณฑ์กลุ่ม MacBook Air และอัปเกรดการเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้เป็นมาตรฐาน 6E ซึ่งรองรับคลื่นสัญญาณความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz)ทั้งนี้ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M3 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท ในขณะที่ MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M3 มีราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท โดยทั้งสองรุ่นมีจำหน่ายในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ในขณะที่ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่ใช้ชิป M2 จะยังคงมีจำหน่ายต่อไป โดยปรับราคาลงเป็น 34,900 บาท พร้อมประกาศยุติการวางจำหน่าย MacBook Air M1 ซึ่งนับเป็นการหยุดการขายผลิตภัณฑ์ที่มีช่วงเวลาจำหน่ายมากกว่า 3 ปีApple เตรียมเลิกจัด Apple Event โดยมีจุดเริ่มต้นเป็น MacBook Air M3 หรือไม่ ?ในขณะที่มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) รายงานในช่วงเช้าวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาว่า Apple เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในลักษณะการประกาศลงบนเว็บไซต์ข่าวของ Apple ในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน เช่น ไอแพด โปร (iPad Pro) ไอแพด แอร์ (iPad Air) และแม๊กบุ๊ก แอร์ (MacBook Air) ซึ่งเป็นจริงตามที่รายงาน รวมถึงอุปกรณ์เสริม (Accessories) ตระกูล iPad ด้วยเช่นกัน แต่ยังยืนยังว่า Apple ไม่ได้คิดยุติหรือหยุดการจัดงานแถลงข่าวหรือที่เรียกว่าแอปเปิล อีเวนต์ (Apple Event)โดยในรายงานของ Mark Gurman มีการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์ใหม่หลายตัว ยกตัวอย่างเช่น1. iPad Pro ใหม่ 2 รุ่น ที่ใช้ชิปแบบ M3 พร้อมหน้าจอแบบ OLED และกล้องหน้าแบบใหม่ พร้อมออกแบบโมดูลกล้องหลังใหม่ และรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน MagSafe2. iPad Air ใหม่ 2 รุ่น ที่ใช้ชิป M2 และเปิดตัวรุ่นหน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว ในตระกูล iPad Air3. Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro ที่มีแทรกแพด (Trackpad) ใหญ่ขึ้น4. Apple Pencil รุ่นใหม่5. MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว (เปิดตัวแล้ว)โดย TNN Tech จะติดตามความคืบหน้าและรายงานการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple อย่างต่อเนื่องข้อมูลจาก The Verge, MacRumorsภาพจากApple Newsroom
TNN ช่อง16 • 4 มี.ค. 67
อ่าน
Apple อาจเปิดตัว Mac พร้อม Apple M3 ช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้
เดือนตุลาคมหรือเดือนนี้ Apple เปิดตัว Apple Pencil ดีไซน์สุดลำกับ Apple Pencil (USB-C) ที่สามารถชาร์จตัว Pencil ผ่านพอร์ต USB-C ได้แล้วเพียงอย่างเดียวจนเหมือนจะหมดหวังว่าเราคงไม่ได้เห็น iPad และ Mac ใหม่ในปีนี้อีก ล่าสุด มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) จาก Bloomberg เผยว่า Apple วางแผนที่จะเปิดตัว Mac ใหม่ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ พร้อมให้ข้อสังเกตว่า หากเราสั่ง iMac หรือ MacBook Pro 13 นิ้วในช่วงนี้ จะพบว่าหากปรับสเปก Apple จะส่งสินค้าถึงในช่วงเดือนพฤศจิกายนเลยทีเดียว เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Apple น่าจะรออะไรบางอย่างก่อนประกาศผลประกอบการประจำเดือนพฤศจิกายน สำหรับ MacBook Pro 14 และ MacBook Pro 16 นิ้วนั้นเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม หรือต้นปี ดังนั้น กว่าจะมีรุ่นใหม่ก็น่าจะต้องรอถึงปี 2024 แต่สำหรับ Mac รุ่นอื่น ๆ อย่าง MacBook Pro 13 โดยเฉพาะ iMac ที่ปัจจุบันยังคงเป็นรุ่นชิป Apple M1 แบบไม่มีการอัปเดตมานานแล้ว ที่มา The Verge
แบไต๋ • 22 ต.ค. 66
อ่าน
ใช้ Apple Pay สำหรับการชำระเงิน Apple Pay Thailand 2024 #ใช้ApplePay ในไทย 2567
รวมบัตร Apple Pay น่าใช้ในไทย 2567 สวัสดีชาว Apple pay ทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีบัตรที่สามารถใช้ Apple Pay Thailand สำหรับการชำระเงิน Apple Pay มาฝากครับ ซึ่งในครั้งนี้ยังคงเป็นบัตรของต่างประเทศอยู่และบัตรที่แนะนำให้ในครั้งนี้สมัครง่ายใช้งานง่ายแน่นอนครับ 1. Wise x Apple Payสำหรับบัตรแรกที่ผมคิดว่าง่ายระดับหนึ่งและอยู่กับเรานานพอสมควรคือบัตร Wise x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้มีให้บริการทั้งบัตรจริงและบัตรดิจิทัลเป็นบัตรระบบเติมเงินปลอดภัยสามารถใช้เงินได้ตามวงเงินที่เราเติมข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากใช้หลายสกุลเงินอาจโดนปิดบัญชีได้หากลืมเติมเงินจะไม่สามารถใช้บัตรได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay2. RedotPay x Apple Payสำหรับบัตรทีสองผมคิดว่าง่ายระดับหนึ่งและเป็นบัตรที่ใช้เหรียญคริปโตได้นั้นก็คือบัตร RedotPay x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ใช้ในประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้มีให้บริการทั้งบัตรจริงและบัตรดิจิทัลเป็นบัตรระบบเติมเงินปลอดภัยสามารถใช้เงินได้ตามวงเงินที่เราเติมสามารถใช้เหรียญดิจิทัลเติมเงินเข้าบัตรได้ ( BTC , USDT , อื่นๆ )ข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากลืมเติมเงินจะไม่สามารถใช้บัตรได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay 3. Silk x Apple Payบัตรที่สามที่ผมคิดว่าสมัครง่ายมากและอยู่กับเรานานพอสมควรคือบัตร Silk x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ใช้ในประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้ฟรีค่าออกบัตรประเภทดิจิทัลเป็นบัตรระบบเติมเงินปลอดภัยสามารถใช้เงินได้ตามวงเงินที่เราเติมข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากใช้หลายสกุลเงินอาจโดนปิดบัญชีได้หากลืมเติมเงินจะไม่สามารถใช้บัตรได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay4. Curve x Apple Payสำหรับบัตรที่สี่ที่ผมคิดว่ายากขึ้นมาระดับหนึ่งและอยู่กับเรามานานพอสมควรคือบัตร Curve x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ใช้ในประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้ (แนะนำเป็นเบอร์ต่างประเทศ)มีบางช่วงฟรีค่าธรรมเนียมสามารถผูกบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตได้หมดกังวลเรื่องการเติมเงินบัตรข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากใช้หลายสกุลเงินอาจโดนปิดบัญชีได้ไม่สามารถผูกกับบัตรบางธนาคารของประเทศไทยได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay https://vt.tiktok.com/ZSFN6Bm6K/สำหรับเพื่อนๆ ที่สมัครแล้วอย่าลืมเปลี่ยนภูมิภาคของโทรศัพท์นะครับเครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก Silk, RedotPay , Curve ,WiseTwitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 11 ก.พ. 67
อ่าน
ลือ Apple วางกำหนดการเปิดตัว Apple M3 เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เริ่มปลายปีนี้
Apple เปิดตัว Apple M2 มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2022 จริง ๆ ก็ถือว่าใกล้ช่วงเวลาเปิดตัวชิปรุ่นใหม่เข้าไปทุกทีแล้ว มีข่าวลือว่า Apple ได้วางกำหนดการเปิดตัวชิป Apple M3 เอาไว้แล้วด้วย เกอร์แมนระบุว่าข้อมูลของชิป Apple M3 รวมถึงกำหนดการเปิดตัวนั้นมาจากล็อกของนักพัฒนา อย่างไรก็ตาม เกอร์แมนย้ำว่ากำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับว่า Apple ต้องการเปิดตัวจริง ๆ เมื่อไหร่ โดยชิป Apple M3 แต่ละรุ่นมีสเปกคร่าว ๆ ดังนี้ Apple M3: มี CPU ทั้งหมด 8 แกน แบ่งเป็นแกนประมวลผลพลังงานต่ำ และแกนประมวลประสิทธทภาพสูง ส่วน GPU มีทั้งหมด 10 แกน ใช้ใน MacBook Pro, MacBook Air 13, MacBook Air 15, Mac mini, iMac และ iPad Pro Apple M3 Pro: มี CPU ทั้งหมด 12 แกน และ GPU ทั้งหมด 18 แกน รุ่นท็อปจะมี CPU ทั้งหมด 14 แกน และ GPU ทั้งหมด 20 แกน ใช้ใน MacBook Pro หน้าจอ 14 และ 16 นิ้ว และ Mac mini Apple M3 Max: มี CPU ทั้งหมด 16 แกน แบ่งเป็น 12 แกนประมวลผลประสิทธิภาพสูง และ 4 แกนประมวลผลพลังงานต่ำ ส่วน GPU มีทั้งหมด 32 แกน ในส่วนของไฮเอนด์จะปรับสเปกเป็น CPU ได้ทั้งหมด 16 แกน และ GPU 40 แกน ใช้ใน MacBook Pro หน้าจอ 14 และ 16 นิ้ว และ Mac Studio Apple M3 Ultra: มี CPU ทั้งหมด 32 แกน และ GPU ทั้งหมด 64 แกน สามารถปรับเพิ่มได้ถึง 80 แกน ใช้ใน Mac Studio และ Mac Pro นอกจากเรื่อง CPU และ GPU แล้ว เกอร์แมนเสริมว่า Apple ยังทดสอบแรมสูงถึง 36GB และ 48GB อยู่ด้วย ส่วนกำหนดการเปิดตัวนั้นคาดว่า Apple จะเปิดตัว Apple M3 ในช่วงปลายปีนี้สำหรับอุปกรณ์รุ่นเริ่มต้นอย่าง MacBook Air 13 และ MacBook Pro 13 ส่วนรุ่นอื่น ๆ เปิดตัวในปีหน้า ที่มา AppleInsider
แบไต๋ • 14 ส.ค. 66
อ่าน
ลือ ! Apple ซุ่มพัฒนา Apple Watch X ฉลองครบรอบ 10 ปี นาฬิกา Apple Watch
มาร์ค เกอร์แมน (Mark Gurman) สื่อผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิล (Apple) จากบลูมเบิร์ก (Bloomberg)เปิดเผยข้อมูลผ่านจดหมายว่าบริษัท แอปเปิล (Apple) กำลังพัฒนาสมาร์ตวอทช์รุ่นใหม่ใช้ชื่อว่า Apple Watch X เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี การเปิดตัวนาฬิกา Apple Watch อย่างไรก็ตาม เกอร์แมนไม่ได้ระบุถึงกำหนดการว่าการเปิดตัว Apple Watch X จะเกิดขึ้นในปี 2024 หรือ 2025แหล่งข่าวที่เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Apple Watch ยังระบุอีกว่า แบตเตอรี่ของApple Watch X จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น รวมไปถึงส่วนประกอบภายในอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใดApple Watch X อาจติดตั้งเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล microLED ที่พัฒนาโดยบริษัท แอปเปิล (Apple) ซึ่งสามารถแสดงสีสันและความคมชัดสูง พร้อมกับคุณสมบัติเด่นในการตรวจวัดความดันโลหิตของผู้สวมใส่นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ประมวลผลให้มีความเร็วมากขึ้น การออกแบบภายนอกที่สีสันใหม่ ๆ เพิ่มเติม แต่องค์ประกอบส่วนใหญ่เหมือนกับ Apple Watch ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน โดยทางบริษัท แอปเปิล (Apple) กำลังปรับแผนการเปิดตัว Apple Watch เป็นแบบทุก ๆ 18 เดือน เพื่อให้การเปิดตัวแต่ละครั้งเป็นการปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ ๆ จริง ๆ และไม่เปิดตัวบ่อยจนเกินไปที่มาของข้อมูล Macrumors, Bloomberg
TNN ช่อง16 • 18 ส.ค. 66
ดูเพิ่มเติม