TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Apple” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
Apple เดินหน้าโปรเจค Apple Car
ถ้าพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีก็จะมีบริษัทที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีอยู่ไม่มากนักที่เราจะนึกถึงได้ ถ้าพูดว่าบริษัทรถยนต์ที่เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในปัจจุบันก็คงจะเป็นบริษัทเทสล่าที่ตอนนี้กำลังเป็นข่าวที่โด่งดังอย่างมากที่สุดในแวดวงธุรกิจเลยทีเดียว แต่ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่ารถยนต์ละก็ก็คงจะเป็นเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนซึ่งก็จะมีอยู่เพียงแค่ 2 บริษัทเท่านั้นที่จะนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ นั่นก็คือ Apple ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ก็คือ iPhone 12 และยอดขายของโทรศัพท์ iPhone 12 นั้นก็ทำให้บริษัทแอปเปิ้ลเติบโตขึ้นทางด้านธุรกิจอย่างมากเลยทีเดียว ตอนนี้บริษัท Apple กำลังวางแผนเพื่อที่จะสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ไปไกลกว่าสมาร์ทโฟนแล้ว นั่นก็คือการผลิตรถยนต์เป็นของตัวเองและจะเป็นรถยนต์แห่งอนาคตที่สามารถขับขี่ได้อย่างอัตโนมัติ แล้วเป็นรถยนต์ที่รักษาสิ่งแวดล้อมที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยมีชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า Apple Car Apple Car เป็นข่าวที่คนติดตามข่าวเทคโนโลยีกำลังจับตามอง โดยที่ผ่านมาก็มีข่าวเกี่ยวกับการร่วมมือกันของบริษัทรถยนต์รายใหญ่อย่าง Hyundai ที่จะเข้ามาร่วมพัฒนารถยนต์ Apple Car หลังจากนั้นทางบริษัท Apple ก็ได้มีข่าวการหันมาร่วมมือกับบริษัท KIA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Hyundai ทำให้ทุกคนนั้นตื่นตาตื่นใจว่าทิศทางของ Apple Car นั้นกำลังคืบหน้าไปในทางที่ดี แต่ดูเหมือนว่าโปรเจค Apple Car ของ Apple นั้นจะต้องชะลอตัวไปก่อน เพราะว่าล่าสุดบริษัทรถยนต์รายใหญ่อย่าง Hyundai และ KIA ก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวการร่วมมือกับบริษัทแอปเปิ้ลเพื่อพัฒนา Apple Car อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงเดินหน้าที่จะผลิตรถยนต์ Apple Car ต่อไปโดยหันไปเจรจากับ Honda, จากัวร์, Land Rover และบริษัทรถยนต์อื่น ๆ ตามแผนแล้วรถยนต์ Apple Car นั้นมีแผนที่จะผลิตออกมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ก็ต้องมาดูว่าการเจรจาต่อรองกับบริษัทอื่นๆนอกจากบริษัทของเกาหลีนั้นจะมีทิศทางเป็นอย่างไร แล้วถ้าหากจะเปิ้ลสามารถทำ Apple Car สำเร็จ จะเป็นคู่แข่งของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกอย่างเทสล่าหรือไม่ก็ต้องมาติดตามดูกัน ข้อมูลจาก CNN ภาพปกจาก Pixabay ของ matcuz ภาพ 1 Pexel ของ zhang kaiyv ภาพ 2 Pixabay ของ Painter06 ภาพ 3 จาก Wikimedia
Bensaran10 • 11 ก.พ. 64
อ่าน
Choclate apple
สวัสดีค่ะวันนี้จะมาแจกสูตร แอปเปิ้ลเคลือบช็อกโกแลตต้นทุนต่ำ สามารถนำไปทำตามเพื่อหารายได้เสริมได้นะค่ะ ส่วนแอปเปิ้ลที่ใช้ก็จะเป็นแอปเปิ้ลจิ๋วหรือใครที่หาซื้อแอปเปิ้ลจิ๋วไม่ได้ก็ใช้แอปเปิ้ลธรรมดาได้เลยคะ เราจะมีวิธีทำกันอย่างไรไปดูกันคะ 1.น้ำแอปเปิ้ลมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำแอปเปิ้ลไปแช่ในน้ำอุ่น สาเหตุที่ต้องแช่น้ำอุ่นนะคะเพราะแอปเปิ้ลส่วนใหญ่เขามักจะมีสารเคลือบผิวมาที่เป็นตัวแวกซ์การแช่น้ำอุ่นจะทำให้แวกซ์ละลายไปค่ะ ซึ่งจะทำให้เราเคลือบช็อกโกแลตได้ดีถ้ายังมีแวกซ์อยู่เนี่ย ตัวช็อกโกแลตอ่ะคะอาจจะเคลือบไม่ค่อยติดมันต้องดูที่แอปเปิ้ลที่เราซื้อมานะคะ ถ้าเกิดมันไม่มีแวกซ์เคลือบดูแล้วมันเงาๆ จะไม่แช่น้ำอุ่นก็ได้ ระยะเวลที่ใช้ก็ประมาณ 5-10 นาทีหรือสังเกตุดูเอาอ่ะคะว่าตัวแอปเปิ้ลมันเงาๆ หายไปแล้ว 2.แช่น้ำอุ่นเรียบร้อยก็เอาขึ้นมาค่ะ แล้วหลังจากนั้นเราก็จัดการดึงก้านของเจ้าแอปเปิ้ลออกค่ะ สังเกตุดูแอปเปิ้ลนะค่ะว่าจะไม่มีเงาๆ แล้วอ่ะคะใช้ไม้แหลมหักครึ่ง ใครใช้ไม้สั้นก็ไม่ต้องหัก ก่ะเอาค่ะให้ความยาวมันเหมาะสมกับตัวแอปเปิ้ลของเรา ใครใช้แอปเปิ้ลที่ลูกมันใหญ่หน่อยก็ใช้ไม้ที่มันยาวหน่อยอะไรแบบนี้ค่ะ หักออกมาแล้วถ้าปลายไม่เรียบก็เล็มด้วยกรรไกรได้เลยนะคะ ให้เด็กกินก็หักปลายแหลมออกก่อนที่จะนำไปเสียบกับแอปเปิ้ลก็ได้ค่ะ 3.นำไม้ที่เตรียมไว้ปักเสียบไว้ที่แอปเปิ้ลเลยอ่ะคะ ทำเหมือนว่ามันคือก้านของแอปเปิ้ลนะแหละสาเหตุที่เสียบเพราะตอนที่จุ่มช็อกโกแลตอ่ะคะจุ่มง่ายๆ 4.ช็อกโกแลตที่ใช้จะเป็นยี่ห้อไหนก็ได้ไม่จำกัดค่ะ นำช็อกโกแลตมาละลายจะใช้ไมโครเวฟไฟต่ำๆ ก็ได้หรือว่าจะนำไปวางบนน้ำร้อน น้ำอุ่นก็ได้นะค่ะแต่การละลายช็อกโกแลตเนี่ย มีข้อควรระวังอยู่ ถ้าความร้อนสูงเกินไปบางคนเอาเข้าไมโครเวฟเนี่ยใช้ไฟแรงอ่ะค่ะ หรือว่าน้ำที่เอามาใช้รองช็อกโกแลตมันร้อนเกินหรือบางคนนั้นนำช็อกโกแลตใส่ถ้วยใส่หม้อแล้วเอาไปตั้งไฟโดยตรงเลยแบบนี้อ่ะค่ะ ความร้อนที่สูงเกินจะทำให้เจ้าช็อกโกแลตเสื่อมสภาพ เสียสภาพ การเสียสภาพของเขานะคะก็คือมันจะเหมือนกับจับตัวเป็นก้อนแข็งๆ อ่ะคะบางคนนึกว่าช็อกไม่ยอมเหลวไม่ยอมละลายจริงๆ ไม่ใช่นะคะมันได้รับความร้อนมากเกินไปจนกระทั่งเสียสภาพแข็งตัวไปแล้วต่อให้ต้มเพิ่มยังไง ต่อให้ใส่ไมโครเวฟเพิ่มยังไงก็ไม่ละลายแล้วค่ะใช้ไม่ได้แล้ว เอามาเคลือบไม่ได้แล้ว ข้อควรระวังอีกข้อหนึ่งคือ ใครนำช็อกไปตั้งบนน้ำอุ่นน้ำร้อนระวังให้ดีอย่าให้น้ำหยดลงไปในช็อกโกแลตหรือโคตติ้งเด็ดขาดคะ มันจะทำให้ช็อกโกแลตและโคตติ้งของเราเสียสภาพได้เหมือนกัน 5.เตรียมภาชนะที่ปูด้วยกระดาษไขด้วยค่ะที่เราต้องปูกระดาษไขเนี่ยตัวแอปเปิ้ลที่เราเคลือบช็อกโกแลตมันจะได้หลุดร่อนออกง่ายๆ หลังจากที่เขาเซ็ตตัวตักช็อกโกแลตหรือโคตติ้งที่เหลวแล้วนะค่ะ ราดลงไปบนแอปเปิ้ลของเราที่เตรียมไว้เลยค่ะจริงๆ ถ้าจะใส่ภาชนะที่ก้นลึกๆ หน่อยนะค่ะแล้วก็เอาตัวแอปเปิ้ลจิ้มลงไปในภาชนะเลยแบบนั้นก็สะดวกดีคะ แต่ว่ามันก็จะเปลือกตัวโคตติ้งหน่อยนะ เคลือบจนทั่วแล้วให้ทำการเขย่าๆ แอปเปิ้ลเอาตัวช็อกโกแลตส่วนเกินออกคะ 6.เสร็จแล้วก็นำเจ้าช็อกโกแลตของเรานะคะวางบนกระดาษไขที่เราเตรียมไว้ ในส่วนการตกแต่งเนี่ยรอให้เขาเซ็ตตัวก่อนเล็กน้อยก็ได้นะคะ แล้วก็นำน้ำตาลสีมาโรยให้ทั่ว ตกแต่งตามใจชอบเลยคะ เคลือบเสร็จปุ๊บตกแต่งเลยก็ได้นะคะแต่ว่าตัวน้ำตาลบางตัวถ้าเกิดเคลือบเสร็จปุ๊บแล้วเอามาตกแต่งเลยเขาจะไหล เพราะบันดาเม็ดน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่นะคะมันจะไหลง่ายดังนั้นรอให้เจ้าตัวแอปเปิ้ลเซ็ตตัวก่อนแล้วค่อยตกแต่งมันจะอยู่ตัวมากกว่า แต่อย่ารอให้เขาแข็งตัวนะคะถ้ารอให้เขาแข็งแป๊ะพวกบันดาลน้ำตาลของตกแต่งต่างๆ จะไม่อยู่แล้วค่ะ มันจะแปะไม่อยู่แล้วก็เป็นอันเสร็จสมบรูณ์ ทั้งหมดที่ทำมานี้เพื่ออยากสร้างรายได้ให้กับตัวเองเพราะว่ายังไม่มีงานทำเลยเลยปิ๊งไอเดียการทำเมนูนี้ขึ้นมาปกติก็ชอบแอปเปิ้ลกับช็อกโกแลตอยู่ก็เลยลองเอามาผสมกันดูว่ามันจะเข้ากันไหมทำแล้วปรากฏว่าอร่อยหวานอมเปรี้ยวอีกอย่างก็ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยนช์คะ
เฟี้ยวฟ้าว มะขามป้อม • 13 ม.ค. 63
อ่าน
รีวิวซื้อApple Pencil2 จากApple Store Online
สวัสดีค่ะวันนี้นะวิจะมารีวิวของที่สั่งจาก Apple Store ออนไลน์ก็คือ Apple Pencil สองนั่นเองค่ะ นะวิสั่งเมื่อวันที่ 14.06 และได้และได้เมื่อวันที่ 23.06 รวมเป็นเวลาเก้าวันนั่นเองค่ะ โดยนะวิสั่ง Apple Pencil 2พร้อมกับสลักชื่อ นะวิเลือกวิธีจ่ายโดยผ่านไอแบงค์กิ้งนะคะ เมื่อสั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะได้หมายเลขคำสั่งซื้อมาค่ะเอาไว้ค้นหาคำสั่งซื้อว่าตอนนี้ของเรามีสถานะถึงไหนแล้ว สำหรับนักศึกษา : ถ้าหากใครเป็นนักศึกษาสามารถซื้อ Apple Pencil ในราคานักศึกษาได้ค่ะ ไม่ใช่แค่นักศึกษาเท่านั้นนักเรียนหรือบุคลากรก็ซื้อได้เช่นเดียวกันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าบ้านของนะวิอยู่ต่างจังหวัดค่ะในเวลาเก้าวันที่จัดส่งจากต่างประเทศก็ถือว่าเร็วพอสมควร โดยระหว่างที่ของมาส่งเราสามารถเช็คว่าตอนนี้ของถึงไหนแล้วได้ค่ะหากใครที่หากใครที่ไม่อยากเช็คคำสั่งซื้อโดยใส่หมายเลขคำสั่งซื้อบ่อยบ่อยและวิเคราะห์และนำให้โหลดแอพพลิเคชั่น Apple Storeไว้ค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเขียนหมายเลขคำสั่งซื้อบ่อยบ่อยโดยเราใส่รหัสครั้งเดียวกดเช็คได้ทุกวันทุกเวลาค่ะ นอกจากนี้แอพนี้ยังสามารถเอาไว้ซื้อสินค้าจาก Apple Store อ่ะออนไลน์ได้อีกนะคะโดยที่ไม่ต้องผ่านเว็บไซต์ของ Apple store อ่ะโดยตรง(หน้าตาของapplication Apple Store) และนอกจากนี้นะวิได้ทำการสั่งเคสซิลิโคน Apple Pencil จากช็อปปี้มาด้วยค่ะ เพื่อป้องกัน Apple Pencil ของเราตกหล่นเนาะกันไว้ดีกว่า สำหรัสำหรับเพื่อนเพื่อนคนไหนที่สนใจจะใช้ Apple Pencil คู่กับ iPad นะวิขอแนะนำให้ซื้อเคส Apple Pencil สวมไว้ป้องกันการตกหล่นด้วยนะคะ เว็บไซต์สำหรับสั่งซื้อนวิขอแนบไว้ให้นะคะ https://www.apple.com/th/shop สำหรับการรีวิววันนี้ก็ขอลาไปก่อนไว้มีโอกาสจะมารีวิวอีกแน่นอนค่ะ
นะวิ • 3 ก.ค. 63
อ่าน
Apple Event เปิดตัว Apple Watch Series 6, Apple Watch SE, iPad Air, new iPad
สาวกของ Apple ที่รอคอยการเปิดตัวสินค้าใหม่จาก Apple คงไม่พลาดงาน Apple Event ที่จัดขึ้นในวันที่ 15 กันยายน ซึ่งตรงกับเวลาเที่ยงคืนของบ้านเรา ซึ่งหลาย ๆ กระแสได้มีการทำนายไว้ว่าจะอะไรบ้างเปิดตัวซึ่งก็ค่อนข้างตรง ในงาน Apple Event ที่ผ่านไปแล้วมีการเปิดตัวสินค้าใหม่แค่สองกลุ่มคือ iPad ซึ่งมีสองรุ่นให้เลือก คือ iPad Air และ new Ipad และ Apple Watch มี Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE นอกจากนั้นก็จะเป็นการเปิดตัวบริการ Apple One และ Apple Fitness ซึ่งหากใครที่พลาดชมก็สามารถรับชมย้อนหลังได้บนเว็บไซต์ของ Apple ซึ่งในวันนี้เราจะมาสรุปให้ฟังคร่าว ๆ ว่าแต่ละตัวที่เปิดตัวไปมีอะไรบ้าง ที่เด่น ๆ Apple Watch Series 6 ที่เน้นเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่รักสุขภาพโดยเฉพาะ สิ่งแรกที่เพิ่มขึ้นก็อย่างที่หลาย ๆ กระแสเดากันไว้ คือมีฟังค์ชั่นที่วัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ และข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ รวมถึงแอพที่ช่วยในการติดตามการนอนที่น่าจะดีขึ้นกว่าเดิม ตัวซีรีย์ 6 นี้มีจอ Retina ที่ติดตลอดเวลา แต่ดีขึ้นคือความคมชัดแม้อยู่ใต้แสงแดด ส่วนฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยบอกข้อมูลการออกกำลังกาย, ควบคุมเพลง และฟีเจอร์เดิม ๆ ที่สำคัญ เช่นการแจ้งเตือนการเกิดอุบัติเหตุ และ การวัดการเต้นของหัวใจด้วย หรือ ECG ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปก็จะมีสีใหม่ของตัวเรือนอลูมิเนียมที่มีสีน้ำเงินและแดง ส่วนไทเทเนียมจะมีสีดำสเปซแบล็ค, สแตนเลสสตีลสีทองใหม่, อะลูมิเนียมสีเงิน และสาย Solo Loop ที่เป็นซิลิโคนเหมือนเป็นกำไลใส่ง่ายขึ้น รวมถึงหน้าปัดที่มีการออกแบบใหม่ ๆ มาให้เลือกมากขึ้นและปรับแต่งตามความชอบของแต่ละคน เช่น สำหรับคนรักการเล่นกระดานโต้คลื่น, คนรักการถ่ายภาพ ที่สำคัญอีกอย่างคือ คุณสมบัติการตั้งค่า Apple Watch สำหรับครอบครัวทั้งเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ ที่เราสามารถตั้งค่าและเชื่อมต่อ Apple Watch ให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวที่ไม่มี iPhone ได้ ตัวที่สองคือ Apple Watch SE มีจอขนาดใหญ่ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับ Series 5 และ 6 คือขนาดเหมือนกัน คือ 40 และ 44 มม. ซึ่งรวม ๆ แล้วตัว SE นี้ก็จะเหมือนกับเอา Apple Watch Series 5 มาปรับแต่ง ตัวเรือนมีสีให้เลือกเหมือนซีรีย์ 5 แต่จะไม่มีจอแบบแสดงผลตลอดเวลา และไม่มีการวัดค่าออกซิเจนในเลือดเหมือน Apple Watch Series 6 ส่วนฟังค์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ก็จะทำได้เหมือนกับ Apple Watch Series 6 ซึ่งต่อไป Apple Watch จะมีจำหน่ายบนเว็บไซต์ Apple แค่ 3 รุ่น คือ Apple Watch Series 6, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 ซึ่งราคาก็จะไล่เรียงกันตามลำดับ iPad Air จอเป็น Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ที่บางเบา มี touch ID ด้านบนใช้งานง่าย มี 5 สีให้เลือกคือ สีเงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว และสกายบลู iPad Air จะใช้ชิพ A14 Bionic ทำให้การทำงานของ CPU เร็วขึ้น 40%, กราฟิกเร็วขึ้น 30% ทำงานได้ดีเหมือนใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ้คแต่ว่าจะใช้งานได้มากกว่า ไม่ว่าจะถ่ายวิดีโอระดับ 4K แล้วตัดต่อได้เลยบน iPad Air และใช้กับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เพื่อวาดรูประบายสี แรเงา ออกแบบกราฟฟิก จดโน้ต จัดระเบียบเอกสาร รวมถึงใช้คู่กับ Magic Keyboard เพื่อช่วยในการพิมพ์งานสะดวกรวดเร็วขึ้น กล้องหลังความละเอียด 12MP และกล้องหน้าที่มีความละเอียด 7MP เพื่อการโทรแบบวิดีโอคุณภาพสูงสำหรับการประชุมงาน แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น รุ่น Wi‑Fi ความจุ 64GB ราคา 19,900 บาท และ 256GB ราคา 24,900 บาท Ipad ใหม่ จอ Retina ขนาด 10.2 นิ้ว ใช้ชิพ A12 Bionic รองรับ Apple Pencil 1 และ Smart Keyboard ใช้เป็นตัวช่วยในการทำงาน แก้ไขเอกสาร หรือว่าจะโทร FaceTime ด้วยกล้องหน้า Facetime HD หรือจะต่อเข้ากับ Smart Keyboard ให้ช่วยพิมพ์งานได้เร็วขึ้น กล้องหลังความละเอียด 8MP ลำโพงสเตอริโอเสียงดี แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น รุ่น wifi 32GB ราคา 10,900 บาท และ 128GB ราคา 13,900 บาท Apple One ซึ่งเป็นชุดรวมบริการ 4 อย่าง ของ Apple ไว้ด้วยกันคือ Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade และ iCloud จะมีบริการทั้งแบบส่วนตัวและครอบครัว ส่วนอีกบริการที่จะให้บริการสำหรับผู้ใช้ Apple Watch คือ Apple Fitness+ ซึ่งจะเหมือนเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกาย มีเทรนเนอร์ให้คำแนะนำ มีคลิปใหม่ ๆ มาให้เลือกทุกอาทิตย์ และแสดงผลการออกกำลังกายแบบ real time บนหน้าจอที่เราเลือกเช่น iphone, ipad บนทีวีผ่าน apple TV ซึ่งจะมีค่าบริการแบบรายเดือนและรายปี ซึ่งใครที่ซื้อ Apple Watch จะได้ใช้งานฟรี 3 เดือน สำหรับวันที่จะวางจำหน่าย Apple Watch Series 6, Apple Watch SE, iPad Air และ new iPad ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะ ว่าบ้านเรานั้นจะเป็นวันที่เท่าไร แต่ราคาและรายละเอียดเพิ่มเติมเราก็เข้าไปดูกันได้ในเว็บไซต์ทางการของ Apple ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Apple
Yuva Kanta • 16 ก.ย. 63
อ่าน
You Are the Apple of My Eye รักเรา ยังจำได้ไหม?
เรื่องย่อ You Are the Apple of My Eye รักเรา ยังจำได้ไหม? ชื่อเรื่อง You Are the Apple of My Eye (그 시절, 우리가 좋아했던 소녀)ประเภท โรแมนติก / ดรามานำแสดงโดย จินยอง, ดาฮยอน, อีมินกู, คิมโยฮันกำกับโดย โชยองมยองกำหนดฉาย 6 มีนาคม 2025ความยาว 108 นาที
เรื่องย่อหนัง • 9 ก.พ. 68
อ่าน
ทำไมต้องเลือก Apple
เครดิตภาพจาก Free Photos / Pixabay ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ผลผลิตของ Apple ก็ยังคงเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก แต่ก็จะมีข้อถกเถียงอยู่เป็นประจำ กับระบบปฏิบัติงานอื่นๆ และมักจะตกเป็นหัวข้อใช้เปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆอย่างต่อเนื่อง จะมีบทความหรือความคิดเห็นในกลุ่มคนบางกลุ่มที่ใช้ ผลผลิตของ Apple ในการแบ่งชนชั้นระดับของรสนิยมในสังคมเลยทีเดียว แต่ทำไมคนเหล่านั้นจึงยกให้ Iphone หรือ ผลิตภัณฑ์ของ Apple จัดอยู่ในกลุ่มของคนรวยและเกิดการแยกรสนิยมกันมากมายในประเทศไทยของเรา แต่คนเหล่านั้นอาจจะมองเห็นหรือเข้าใจแค่ว่า ของแพงคือของที่ดี แต่มองข้ามข้อดีที่แอบซ่อนอยู่ในระบบการปฏิบัติการณ์ IOS เหมือนเป็นการเสพติดยี่ห้อ ตามกระแสสังคมหรือเปล่า เกิดข้อสงสัยมากมาย คำติตำหนิมากมาย แต่แท้จริงแล้ว Apple มีแนวคิดที่ละเอียดอ่อนและมองการณ์ไกลในระยะยาวมากให้กับผู้ใช้งานเครดิตภาพจาก pexels / Pixabay หากมองในอีกมุมนึง Iphone นั้นคุ้มค่ากับทุกเพศทุกวัย และทุกชนชั้น อาจจะถูกคนหลายคนตำหนิว่า จนก็จนยังจะใช้ของแพง แต่อยากถามกลับไปว่า มือถือหรือสมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือของคนเหล่านั้น มีทั้งหมดกี่เครื่อง ในขณะที่ นักศึกษาที่ทำงานพาร์ทไทม์ งานล่วงเวลาและพนักงานบริษัท หรือแม่ค้าออนไลน์ เลือกอยากจะเป็นผู้ใช้งานของเครือAppleเป็นการให้รางวัลกับตัวเองให้ได้ใช้ของดีๆ คุ้มค่า คุ้มราคา สวนกระแสสังคมที่ว่า ไม่เห็นจะดีตรงไหนแพงก็แพง ออกก็บ่อย ขายแพงราคาตกเร็ว และอื่นๆอีกมากมาย แต่คนเหล่านั้นจะรู้หรือไม่ว่า ในขณะที่เขาต้องเปลี่ยนสมาร์ทโฟนหรือมือถือบ่อยๆเป็นการสิ้นเปลืองกว่าหรือเปล่า หรือมีความคิดที่ว่า คนรวยเขาไม่ใช้เกินปีหรอก แต่มีคนกลุ่มนึงที่ตัดสินใจใช้เงินหลักหมื่นลงทุนซื้อของดีๆมาไว้ในมือ มีผู้ใช้Iphone 5s คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเขาซื้อมาในช่วงปี 2013 ในราคาประมาณ 2 หมื่นกว่าแต่ใช้ มาจนถึงปัจจุบันปี 2021 ระยะเวลา 7 ปีสิ่งที่น่าตกใจมากก็คือ การอัพเดตระบบ ios ซึ่งหลายคนที่วิเคราะห์และตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องกันก็ต่างบอกว่าอายุใช้งานใช้ได้5ปีอย่างเก่งที่สุด แต่ Apple ใส่ใจรายละเอียดในส่วนนี้มากด้วยการปล่อยระบบที่มีการพัฒนาที่เหมาะสำหรับ ios ในปีนั้นๆออกมาให้อัพเดตกันเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่าไม่ทิ้งลูกค้าเก่าๆเลย ลูกเล็กๆที่ออกมาในปีต้นๆก็ยังไปต่อได้ มีเหตุการณ์ในช่วงนึงที่ทางธนาคารกรุงไทยมีการปรับระบบแอปพลิเคชั่น ทำให้ระบบ Android หลายๆรุ่นไม่สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนนี้ได้ จนเป็นเหตุให้ผู้ใช้งานระบบนั้นต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่กันวุ่นวายกันพักใหญ่ แต่ Iphone 5s ที่อยู่มาตั้งแต่ปี 2013 ยังสามารถรองรับและอัพเดตใช้แอปพลิเคชั่นในปัจจุบันอย่างไม่เกิดปัญหาให้ต้องเปลี่ยนเครื่องแต่อย่างใด ปัญหายอดฮิตของผู้ใช้ Apple ต่างต้องเจอก็คือ แบตเตอรี่ที่ลดลงเร็วยังไม่ตอบโจทย์การใช้ระหว่างวันโดยไม่ต้องชาร์จซ้ำได้ดีเท่ากับค่ายอื่นๆ แต่ก็ยังคงประทับใจในแนวคิดที่ว่า ระบบที่ดีไม่ต้องใช้แบตที่มีความจุมากก็สามารถประหยัดพลังงานได้จากการทำงานของระบบซึ่งมีการพัฒนาในการปรับลดการทำงานได้ดีต่างหากเครดิตภาพจาก Pexels / Pixabayซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอบคล้อยตามและเกิดคำถามที่ว่า หรือว่าความจุแบตเป็นตัววัดความฉลาดและประสิทธิภาพของระบบนั้นๆ แถมยังพ่วงความอิสระในการดีไซน์ออกแบบให้มีความบางได้อีกด้วย และยังตอบโจทย์ให้กับคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนมือถือบ่อยๆได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างดีเยี่ยมมากจริงๆ ถ้าเครื่องช้าลบข้อมูลล้างเครื่อง ก็สามารถมี Iphone ที่ลื่นเหมือนตอนซื้อมาใหม่กันอย่างน่าตกใจ แล้วถ้าคุณได้อ่านบทความนี้แล้วมีเงินอยู่ในมือและยังลังเลตัดสินใจไม่ได้ว่ามันจะคุ้มหรือเปล่า ก็หวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจนั้นได้ดีขึ้น เครดิตภาพจาก Firmbee/Pixabay ในขณะที่ค่ายอื่นๆ ขายเทคโนโลยีล้ำหน้า รูปทรงสวยสะดุดตา แบตเยอะ แต่การป้องกันข้อมูล และความรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ๆอาจจะไม่สามารถทำงานได้ ด้วยหลายๆกรณี แต่ถ้าคุณเลือกใช้เงินของคุณ ซื้อผลผลิตของ Apple สิ่งที่คุณจะได้กลับมาเลยก็คือ ความปลอดภัยในข้อมูลต่างๆ การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว การปรับปรุงระบบที่รองรับอนาคตได้ยาวนานที่สุดถึง 7 ปี และท้ายที่สุดเลยคุณยังคิดว่าการใช้งานที่ยาวนานแต่ต้องแลกด้วยเงินหลักหมื่น นั้นเรียกว่าคุ้มค่าได้หรือยัง เมินคำติตำหนิต่างๆแล้วมองไปถึงความต้องการของตัวเองว่ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนมือถือบ่อยๆหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือ ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเงินสำหรับในส่วนนี้เลย คุณเลือกApple ได้เลยไม่ผิดหวังในระยะยาวแน่นอน ขอขอบคุณเครดิตภาพภาพหน้าปก จาก canvaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
PennuengในNapa • 19 ก.ย. 64
อ่าน
มาแล้ว!!! iTunes และ Apple Music เริ่มปล่อยภาพ Polycat ในทุกแบนเนอร์
สร้างปรากฏการณ์เพลงอันดับ 1 ทั่วประเทศในเพลง มันเป็นใคร (Alright) เพลงในอัลบั้ม 80 Kisses กับศิลปินวง Polycat ของ 3 หนุ่ม นะ-เพียว-โต้ง จน iTunes และ Apple Music จับมือเซ็นต์สัญญาให้เป็นศิลปินรายที่ 3 ของโลกที่ได้รับการโปรโมทในทุกแบนเนอร์ของ iTunes ประเทศไทย (อ่านข่าวเต็ม ที่นี่)ล่าสุด iTunes และ Apple Music ได้เผยภาพ Polycat ในทุกๆ แบนเนอร์แล้ว โดยมีทั้งภาพปกอัลบั้ม และภาพของทั้ง 3 หนุ่มในอิริยาบถที่แตกต่างกันไป งานนี้ใครที่ใช้งาน iTunes และ Apple Music ต่างก็ต้องได้เห็นหน้า Polycat แน่ๆแฟนๆ โพลีแคทสามารถฟังและดาวน์โหลดอัลบั้ม ผ่านทาง iTunes และ Apple Music ในระบบ IOS และ Android และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook , IG, Twitter : smallroommusic ,polycatbandบทความที่คุณอาจสนใจโพลีแคท ไม่หยุดสร้างปรากฏการณ์! พร้อมฟังและดาวน์โหลดอัลบั้มใหม่ก่อนใครบน iTunes และ Apple Music มันเป็นใคร! บทเพลงจาก Polycat ที่สร้างเสียงฮาในโซเชี่ยลช่วงนี้Music Truelife อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากลข่าว Gossip พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจและติดตามพวกเราชาว Entertainment Truelife ได้ที่นี่
ข่าวเพลงไทย • 23 มี.ค. 59
อ่าน
Apple Wallet & Apple Pay ในไทย เพิ่มบัตรได้แล้ว แต่ ๆ
สวัสดีชาวสังคมไทยไร้เงินสดทุกท่านนะครับสวัสดีชาวสังคมไทยไร้เงินสดทุกท่านนะครับ หลายๆท่านก็พอจะรู้ข่าวเรื่องการเปิดตัวของ Google wallet มาบ้างแล้วใช่ไหมครับ แต่แต่แต่แต่ ทำไม Apple wallet ถึงไม่เปิดตัวที่ประเทศไทยสักที แต่ไม่เป็นไรครับเดี๋ยววันนี้ผมจะพามาชี้โพรงให้กระรอก วิธีการใช้งาน Apple wallet ในประเทศไทยแบบชำระเงินได้ มาดูสิ่งที่ต้องเตรียมกันเลย1. เตรียมโทรศัพท์ของเขาให้พร้อม ขั้นตอนแรกเริ่มจากการเปลี่ยนภูมิประเทศในโทรศัพท์ของเราให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่รองรับการใช้งาน Apple Pay 2. สำหรับการทำบัตรสะสมแต้มผมใช้ 2 แอปนี้ จริงๆก็มีหลายแอปที่สามารถทำได้ครับ ลิ้งค์โหลด stocard และ pass2uซึ่งขั้นตอนการใช้งานก็คือ หลังจากที่เราเปิดแอปขึ้นมาและ Login เรียบร้อยแล้ว app จะให้เราเพิ่มบัตรด้วยการสแกนหรือพิมพ์ตัวเลขบัตร เราสามารถใส่ข้อความหรือตกแต่งตามความต้องการได้หลังจากพอใจบัตรของเราแล้วให้กด Add to Apple walletเพียงเท่านี้เราก็ได้บัตรสะสมแต้มแบบดิจิทัลแทนบัตรจริง 3. สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการจ่ายเงินผ่าน Apple wallet สิ่งแรกที่ต้องทำคือ โหลด App wallet ที่รองรับ Apple wallet ซึ่งผมแนะนำให้สมัคร Apple ID ในการโหลด App ให้เลือกเป็นประเทศที่สามารถใช้ Apple wallet ได้ หรืออีกหนึ่งวิธีคือใช้ Apple ID เดิมแต่เข้าไปเปลี่ยนภูมิประเทศใน Apple ID หลังจากเปลี่ยนเสร็จแล้วเราจะสามารถโหลด Application ที่ไม่มีบริการในประเทศไทยได้ ตัวอย่างก็จะเป็น App wallet ต่างประเทศที่เราสามารถสมัครได้ถ้าจะให้แนะนำก็สีเขียวครับสมัครง่ายสุด ส่วนชื่อ App wallet ก็สามารถค้นหาตามหน้าบัตรได้เลย หลังจากตัดสินใจเลือกแล้วว่าเราจะใช้บัตรใบไหนก็โหลด App บัตรใบนั้นได้เลยครับ 4. ขั้นตอนการสมัคร wallet สำหรับบัตรใบสีเขียวสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ของ Wise ได้เลยครับ ( ขอบคุณภาพจาก Wise.com )ผมแนะนำให้ศึกษาวิธีการสมัครและดูวิธีการสมัครดีๆนะครับ ในส่วนของการสมัครใน YouTube มีวิธีแนะนำเยอะมากครับลองศึกษาก่อนทำการสมัคร ถ้าเกิดข้อผิดพลาดอีเมลและเบอร์โทรนั้นจะไม่สามารถสมัครได้อีก สำหรับบัตรสีเขียวการทำงานจะเหมือน True wallet บ้านเราครับต้องเติมเงินเข้าไปก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้หลังจากสมัคร wallet สำเร็จธนาคารจะให้เรา Add บัตรเข้า Apple wallet ได้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้โทรศัพท์แตะเพื่อจ่ายเงินได้แล้ว ในส่วนบัตรสะสมแต้มเราก็ใช้บาร์โค้ดในบัตรให้พนักงานสแกนได้เลยจากประสบการณ์การใช้งานที่ผ่านมา การเก็บบัตรสามารถเก็บบัตรที่เป็นบาร์โค้ดและ QR Code ได้ เช่น บัตรโลตัส บัตร Makro บัตรวัตสัน บัตรเซ็นทรัลเป็นต้น ส่วนการชำระเงินสามารถชำระเงินตามร้านค้าที่รับบัตรเครดิตได้ตามปกติหรือสังเกตร้านที่มีตราสัญลักษณ์ Visa และ mastercard โดยวิธีชำระเงินสามารถแจ้งพนักงานว่าชำระเงินผ่าน Apple wallet หรือ Apple pay หากพนักงานไม่เข้าใจให้แจ้งไปว่าชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ส่วนขั้นตอนของเรามีเพียงปลดล็อคหน้าจอและใช้โทรศัพท์มือถือแตะที่เครื่อง edc หรือเครื่องชำระเงิน คำแนะนำในการใช้ Apple wallet บัตรบางธนาคารที่ผมแนะนำอาจมีค่าธรรมเนียมการใช้บริการควรศึกษาข้อมูลก่อนสมัครบัตรทุกครั้ง หากมีบัตรธนาคารไทยที่สามารถปลูกได้ผมจะรีบมาแนะนำอีกครั้งนะครับแล้วไว้เจอกันใหม่ครั้งต่อไปนะครับสวัสดีครับ#Applewallet #Applepayขอบคุณภาพจาก stocard, pass2u, Wise, ภาพบัตรและภาพการใช้งานแอปพลิเคชันจาก เจ้าของโพสต์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 18 ก.พ. 66
อ่าน
แสตมป์ ออกอาการเกร็งเมื่อแจมกับสาวๆ Apple Girls Band
คลิปพิเศษโชว์การแจมระหว่างสาวๆ APPLE GIRLS BAND และแสตมป์อภิวัชร์ซึ่งทีมข่าวทรูมิวสิคก็ไปตามหามาให้ชมกัน ส่วนรายละเอียดที่ถูกโพ้สโดยพวกเธอนั้นมีรายละเอียดตามด้านล่างนี้ค่ะ ก่อนจะได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่จากพวกเรา (ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเดือนนี้มาแน่นอนค่ะ) มาดูคลิปพิเศษๆที่พวกเราได้แขกรับเชิญพิเศษมา Featuring ด้วยนั่นก็คือพี่แสตมป์ซึ่งเป็นคนแต่งเพลงเกิดมาเป็นเพื่อนเธอนี้ให้กับภาพยนตร์เรื่อง ยักษ์ งานกำกับของพี่จิกประภาสชลศรานนท์นั่นเองต้นฉบับเพลงนี้ร้องโดย Room 39 ค่ะพวกเราเอามาเล่นเป็นเวอร์ชั่นสบายๆแบบเป็นกันเอง (เลิกเรียนเลิกงานมาชุดไหนก็ถ่ายกันชุดนั้นเลย 555) ขอบคุณพี่แสตมป์ที่ให้เกียรติพวกเราและเป็นกันเองมากๆค่ะงานนี้เพื่อให้ไม่ธรรมดาเราได้เชิญ Mr.Bryan และทีมงานพากย์จาก BananaMaxTV มาร่วมแจมด้วยแต่ก็แซวกันเบาๆพอหอมปากหอมคอเท่านั้นนะคะแบบว่าเกรงใจอ่ะ ^___^ได้ฟังเพลง เกิดมาเป็นเพื่อนเธอ (Ost.ยักษ์) เพราะๆอย่างนี้แล้วยิ่งทำให้อยากตามไปชมภาพยนต์ ยักษ์ จริงๆเลยนะคะเพื่อนๆว่าไหม สมัครบริการMP3 Comboคลิกที่นี่รายละเอียดบริการ MP3 Comboคลิกที่นี่ดูรายชื่อเพลงไทยมากกว่า 3,000 เพลงคลิกที่นี่ดูรายชื่อเพลงสากลมากกว่า 5,000 เพลงคลิกที่นี่ติดตามข่าวสารจากทรูมิวสิคได้ที่นี่
ข่าวสารวงการเพลง • 3 ต.ค. 55
อ่าน
ทำไมต้องซื้อ Apple?
ประสบการณ์การใช้อุปกรณ์ Apple นั้นไม่มีใครเทียบได้ บริษัทในแคลิฟอร์เนียที่ขึ้นชื่อในด้านคุณสมบัติล้ำสมัยและรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทุกคนรัก Apple และผลิตภัณฑ์ของพวกเขาบางทีอาจเป็นแบรนด์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก โดย Apple เองได้นิยามใหม่ว่า "เราฟังเพลงด้วย iPod สื่อสารกับ iPhone และทำงานและสร้างความบันเทิงให้กับตัวเองด้วยคอมพิวเตอร์ Mac" แบรนด์ที่สมควรได้รับเครดิตในการรักษากลุ่มลูกค้าประจำที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ เรามาดู 7 เหตุผลที่ดีของการใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple1. Apple เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีhttps://pixabay.com/get/g9dc7213a07170361039e33cfbe3890ab95e37928e00dcc8c9d0e3c27e7359aeaa44590ee9c04e126ad5b60e758c7c5c703f92533e900d9f4ce1293f55eaf0763_1920.jpgApple ได้บรรลุงานที่สำคัญที่สุดในการได้รับความไว้วางใจจากผู้คนในระดับโลกโดยยึดมั่นในค่านิยมหลักบริษัทไม่เพียงได้รับความไว้วางใจจากผู้ซื้อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานที่เชื่อมั่นในภารกิจของตนด้วย ความเป็นผู้นำที่ Apple รักษาไว้ได้สำเร็จนั้นส่วนใหญ่มาจากระบบสนับสนุนที่บริษัทสร้างขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป2. ผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยApple ขึ้นชื่อในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ธรรมดา แต่ดีที่สุดและไม่มีใครเทียบได้ ตัวอย่างเช่น iPhone X โทรศัพท์ใช้ชิป A11 Bionic ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่เร็วและฉลาดที่สุดในโลก(ในสมัยนั้น) โครงสร้าง การใช้งาน และความสวยงาม Apple เป็นผู้นำในทุกๆ ด้านhttps://pixabay.com/get/g1bf0eb24f74ea31676c6232c177fffe29f39c587b04338e6cea653798743482ce47325c84db2c7a7f622718914dcdb81_1920.jpg3. อุปกรณ์ที่ผสานรวมอย่างดีในแง่ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบโดย Apple ผสานเข้ากับความต้องการในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์ดังกล่าวมีอายุการใช้งานยาวนานและมีอุปกรณ์ครบครันเพื่อปรับให้เข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง4. ประสบการณ์ที่เหนือชั้นผลิตภัณฑ์ของ Apple ดึงดูดผู้ซื้อในลักษณะที่ผลิตภัณฑ์น้อยมาก สามารถทำได้เหนือคู่แข่งในแง่ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ฟีเจอร์และความสวยงามยังคงดึงดูดลูกค้าของบริษัทมาหลายปีhttps://pixabay.com/get/g42121254b81bf18759f2c6b21444d7935cdfe2420777cb41f40687c7660dad7a1596570757fa85df75bbf777cdb9e8998bb4215933d372073493afdea6427159_1920.jpg5. แนวทางที่มุ่งเน้นลูกค้าโฆษณาของ Apple นำเสนอผู้คนในองค์ประกอบที่แท้จริง กระตุ้นความรู้สึกของมวลชนและรวบรวมความสัมพันธ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้ซื้อและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple ถือสถานะความเป็นเจ้าของอุปกรณ์เหมือนดั่งราชา6. ฟังก์ชั่นที่สมจริงที่ตอบสนองความต้องการล้ำยุคแต่ใช้งานได้จริง Apple นำเสนอโซลูชั่นที่ตอบสนองทุกความต้องการของเราทุกคน ความสมบูรณ์แบบในแง่ของฟังก์ชันคือสิ่งที่ Apple สมควรได้รับและส่งมอบตามความคาดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า7. กลยุทธ์ที่รอบคอบงานทุกอย่างที่ Apple ทำนั้นได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่คุณสมบัติล่าสุดไปจนถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์ Apple ทำทุกอย่างในลักษณะที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของบริษัท ความเก่งกาจและการวางแผนทำให้บริษัทแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่ปรารถนาของคนส่วนใหญ่https://pixabay.com/get/ge5c2aa49f8fc7612ca7a86ad06ccbab5a3488625f8e805058b4bbad6a01b0e5ef21b1867e9e30c2e32373d85086c2c1d_1920.jpgและในขณะที่ Apple ขึ้นชื่อในเรื่องการกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ในระดับพรีเมียม หลายคนอาจจะมองว่าราคาแพงมาก แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพเพื่อการใช้งานแล้วนั้น ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่า นอกจากนี้ หากซื้อสินค้าแล้วก็ยังสามารถใช้งานได้ค่อนข้างยาวนาน และมีศูนย์บริการอยู่ทั่วโลก เราสามารถเข้าไปใช้บริการตามศูนย์ต่าง ๆ ได้เลยนอกจากนี้ Apple ในปัจจุบันยังมีนโยบายต่าง ๆ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อโลกที่น่าอยู่ของเรา โดยการรับเอาเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ เพื่อนำส่วนลดไปแลกซื้อเครื่องใหม่ โดยที่เครื่องเก่านั้นจะถูกนำไปรีไซเคิล เพื่อเป็นวัสดุในการผลิตรุ่นต่อไปในอนาคตอย่างตัวนักเขียนเองเป็นคนที่ได้ใช้งานของ Apple อยู่แล้วจากตั้งแต่ iPhone 4 และปัจจุบันก็ยังคงอยู่ในสาย Apple ทั้งหมด เพราะจากความเป็นตัวเองของ Apple ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ค่อยเหมือนใครทั้งเรื่องของการใช้งาน ระบบต่าง ๆ และประสิทธิภาพต่าง ๆ ทำให้นอกจากตัวผู้เขียนเองแล้วผู้ใช้รายอื่น ๆ ก็ยังคงรักในการใช้ Apple อยู่นั้นเอง และแม้ว่าสินค้าของ Apple จะได้ขึ้นชื่อว่า ออกใหม่ทุกปีก็จริง แต่ถ้าเราซื้ออะไรไว้ใช้งานแล้ว มันก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่อีกหลายปี เราสามารถสร้างมูลค่าจากสินค้าเหล่านี้ได้ อย่างตัวผู้เขียนก็สามารถหารายได้พิเศษจากการใช้งานผ่านอุปกรณ์ Apple ที่มีระบบการเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็ว ทำให้การใช้งานนั้นเป็นที่สะดวกมากยิ่งขึ้น และหากเมื่อถึงเวลาที่เราจะขยับขึ้นไปอีกระดับหรืออัพเกรดรุ่นใหม่ ก็ยังสามารถเช็คราคามือ 2 ได้ราคาดี หรือจะเอาไปเข้าระบบการแลกเพื่อซื้อเครื่องใหม่ได้อีกด้วย นี้เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่เราต้องซื้อ Apple มาใช้งานจริง ๆ มีอีกมากมาย หากคุณได้ลองใช้งานดูแล้ว รับรองว่าคุณจะติดใจหากคุณอยากลองดูราคาสินค้า Apple ก็สามารถเลือกดูสินค้าผ่าน TrueMove H ได้และยังมีส่วนลดพิเศษ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ตรงนี้ได้เลยครับ - Apple Brand Day ลดราคา iPhone พร้อมแพ็กเกจสุดคุ้มขอขอบคุณรูปภาพหน้าปก by Free-Photos from Pixabay ขอขอบคุณรูปภาพประกอบบทความรูปที่ 1 Image by Pexels from Pixabay รูปที่ 2 Image by fancycrave1 from Pixabay รูปที่ 3 Image by Tayeb MEZAHDIA from Pixabay รูปที่ 4 Image by Firmbee from Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
รู้หรือไม่ • 28 ต.ค. 64
อ่าน
Apple Event 5G Supercut
Apple Event 5G Supercut
Adam • 19 พ.ย. 63
อ่าน
Apple pencil 1 vs Apple pencil 2 กับ Ipad รุ่นที่รองรับได้
Apple pencil vs Apple pencil 2 อุปกรณ์เสริมยอดนิยมซึ่งเมื่อมี Ipad ก็ต้องหาปากกา Apple pencil ที่รองรับกันได้ เพื่อให้ใช้งานเครื่องได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์ จดโน้ต บันทึกเรื่องราวต่างๆ นักวาดรูปทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น แน่นอนว่าเรื่องเทคโนโลยี รุ่นหลังต้องดีกว่ารุ่นแรก มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากกว่าและยังใช้ต่อไปได้อีกยาวๆ แต่สำหรับ Apple pencil แม้เราพร้อมจ่าย อยากได้ฟีเจอร์ที่ดีกว่าแลกกับราคาที่แพงขึ้นแต่ใช่ว่าเราจะตัดสินใจได้เลยว่าต้องเป็น Apple pencil 2 เรายังต้องดู Ipad รุ่นที่จับคู่กันได้ด้วย เพื่อให้ใช้ร่วมกันได้ สำหรับรุ่นที่รองรับApple pencil 1Ipad Air3Ipad Mini5Ipad pro 10.5นิ้วIpad pro 12.9นิ้ว (รุ่น1, รุ่น2)Ipad pro 9.7นิ้วIpad 7Ipad 8Ipad 9 Apple pencil 2Ipad Air4Ipad Mini6Ipad pro 12.9นิ้ว (รุ่น 3,4,5)Ipad pro 11นิ้ว (รุ่น 1,2,3) ถึงตอนนี้เราไปดูความต่างของ Apple pencil 1 vs 2 ต่างกันอย่างไร จะเลือกใช้อย่างไรดี Apple pencil 1ราคา 3,400บาท (มาพร้อมด้วย อะแดปเตอร์ lightning และปลายปากกาสำรอง)1.การชาร์จไฟที่หัวปากกาจะมีฝาปิดหัวต่อ lightning อีกที จะชาร์จโดยการเสียบ Apple pencil เข้ากับขั้วต่อ lightning บน Ipad โดยตรงหรือชาร์จกับอะแดปเตอร์แบบUSB โดยใช้อะแดปเตอร์ที่แถมมาในกล่องเสียบ lightning และApple pencilได้เลย2.ลักษณะแท่งกลมมน มีข้อต่อระหว่างอะแดปเตอร์ lightningคุณสมบัติเหมือนกันไม่ว่าจะขีดเขียนลายเส้น สเก็ตรูป แรเงาบางๆ วาดลวดลายได้สวยงามไม่ต่างจาก Apple pencil 2Apple pencil 2 ราคา 4,490บาทจุดเด่นที่เพิ่มเข้ามา1.ระบบชาร์จไฟเป็นแม่เหล็กในตัวเมื่อวางเก็บด้านข้างของเครื่องจะชาร์จไฟเข้าอัตโนมัติทำให้ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อให้เกะกะอีกต่อไป สะดวกต่อการใช้งานโดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางและชาร์จแบตไปด้วยเพราะปากกา Apple จะแนบอยู่กับเครื่องเลย ดูล้ำทันสมัยมากกว่า2.ฟีเจอร์ดีกว่าระหว่างใช้งาน Apple pencil 2 แตะสองครั้งที่ปลายปากกาเป็นการสลับใช้ไปมาระหว่างใช้เขียนไปยางลบและยางลบไปใช้เขียนหรือวาดไปลบไปได้เลย ไม่ต้องคลิกเมนูไปมาให้เสียเวลา ยิ่งจดบันทึกในระหว่างเรียนต้องใช้ความไวก็สะดวกมากกว่าเดิม3.ตัวปากกาลักษณะแท่งสั้นกว่า มีมุมสันตัดเหลี่ยมหยิบจับเหมือนดินสอจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน Apple pencil 2 จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกทั้งยังรูปร่างเหมือนดินสอแม้ราคาจะต่างกันแต่หลายคนก็ยอมจ่ายเพื่อการใช้งานที่ดีกว่าหากใครมีแพลนที่จะซื้อ Ipad ใหม่อยู่แล้วและเน้นที่ปากกาว่า ต้องเป็น Apple pencil 2 จะต้องพิจารณา ipad ควบคู่กันไปด้วยเลยว่าจะเลือกใช้รุ่นใดที่เหมาะกับการใช้งานของเราและรองรับปากการุ่นที่2 แต่ถ้ามองกันจริงๆ Apple pencil 1 ก็เพียงพอกับการใช้งานแถมราคาประหยัดกว่าเมื่อจับคู่กับ Ipad gen 9 ใหม่ล่าสุดที่ราคาน้องสุดเลยก็ว่าได้ แต่หากต้องใช้ปากกาอย่างจริงจังจริงๆ การลงทุนจ่ายครั้งเดียวใช้ไปได้นานๆ ก็คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป ภาพปก ตกแต่งโดยผู้เขียน (Canva), ภาพถ่ายหน้าจอ จาก Appleภาพประกอบ 1,3,4 ภาพถ่ายหน้าจอโดยผู้เขียน จาก Appleภาพประกอบ 2ภาพถ่ายหน้าจอโดยผู้เขียน จากApple และ support.appleอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !
BENAya • 4 พ.ย. 64
อ่าน
Apple Pay ใช้ในไทย ง่ายนิดเดียวด้วย BYBIT x Apple Pay #ApplePay
Apple pay Thailand x BYBIT สวัสดีครับชาว ApplePay ชาว BYBIT และชาวคริปโต วันนี้ผมก็จะมาชี้โพรงให้กระรอกสำหรับกับบัตร BYBIT Card ห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ไม่ต้องมีที่อยู่ต่างประเทศที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับ ขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อน โดยการเปลี่ยนภูมิประเทศสำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศกดตามลิงก์นี้เลยครับ เปลี่ยนภูมิประเทศ https://news.trueid.net/detail/BylovaOnZgR8 หลังจากเปลี่ยนเป็นประเทศที่สามารถใช้งาน ApplePay ได้แล้วเราก็มาเริ่มกันเลยให้เราเข้าไปที่ App Store และทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bybit : ซื้อและเทรดคริปโต ได้เลยครับ หลังจากดาวน์โหลดแอปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการสมัครบัญชี Bybit เราสามารถสร้างบัญชีได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาที โดยเลือกสมัครผ่าน เพียงกรอกอีเมลและตั้งรหัสผ่านที่เราต้องการ ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเราและตั้งรหัสผ่าน จากนั้นระบบจะส่งรหัสยืนยัน (OTP) ไปยังอีเมลหรือเบอร์ที่เราใช้สมัคร เพียงกรอกรหัสให้ถูกต้องก็สามารถเริ่มต้นใช้งานบัญชี Bybit ได้ทันที และอย่าลืมยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยด้วยนะครับ ขั้นตอนหลังจากยืนยันตัวตนสำเร็จ เมื่อเราทำการยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อดำเนินการขอออกบัตร เข้าสู่เมนู "Card" ให้กดไปที่เมนู Card เพื่อเริ่มขั้นตอนการออกบัตร เลือกประเทศเป็นประเทศเยอรมนี ในขั้นตอนการเลือกประเทศ ให้เลือก Germany (เยอรมนี) กรอกที่อยู่ในประเทศเยอรมนี โปรดระบุ ที่อยู่ในประเทศเยอรมนี ให้ครบถ้วนและถูกต้อง ยืนยันว่าพักอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี เพื่อยืนยันว่าคุณพักอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี ระบบอาจขอเอกสารแสดงที่อยู่ (Proof of Address) เราสามารถใช้ Statement จากบัญชี Wise ซึ่งมีชื่อ-นามสกุลของเราและที่อยู่ในเยอรมนีที่ตรงกับข้อมูลที่กรอกไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในการยืนยันที่อยู่ ยืนยันที่อยู่ของเราตามขั้นตอนในแอปพลิเคชัน และรอการตรวจสอบเอกสารสักครู่ ขั้นตอนการเพิ่มบัตร Bybit ลงใน Apple Pay 1. เปิดแอป Wallet บนอุปกรณ์ iPhone ของเรา 2. แตะปุ่ม “+” ที่มุมขวาบนของหน้าจอ 3. เลือก “บัตรเดบิตหรือเครดิต” แล้วแตะ “ดำเนินการต่อ” 4. สแกนบัตร Bybit หรือกรอกข้อมูลด้วยตนเอง ป้อนชื่อบัตร, หมายเลขบัตร, วันหมดอายุ และรหัส CVV ตามคำแนะนำ 5. ทำการยืนยันตัวตนกับ Bybit อาจต้องยืนยันผ่าน SMS หรือ Email หรืออีเมลที่ลงทะเบียนไว้กับ Bybit 6. รอการตรวจสอบและอนุมัติ หากทุกอย่างถูกต้อง บัตรจะถูกเพิ่มเข้า Wallet และพร้อมใช้งานกับ Apple Pay เครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก BYBIT , Canva โดย SlavaUkraini Twitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียว https://intrend.trueid.net/post/467048 https://intrend.trueid.net/post/412711 https://intrend.trueid.net/post/428397 https://intrend.trueid.net/post/369325 https://intrend.trueid.net/post/358250 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 12 พ.ค. 68
อ่าน
Apple เตรียมแทนที่ iTunes บน Windows ด้วย Apple Music, Apple TV และ Apple Devices!
Apple เตรียมจะแทนที่ iTunes บน Windows ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุดท้าย ด้วยแอป Apple Music, Apple TV และ Apple Devices โดย 3 แอปนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 11 Apple Music จะมาพร้อมห้องสมุดเพลง (local music library) ส่วนตัวของผู้ใช้ รวมถึงทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการ Apple Music แบบเสียเงินได้ Apple TV จะมาพร้อมเนื้อหาออริจินัลจาก Apple TV+ ที่มีความหลากหลาย ส่วน Apple Devices จะมาแทนที่ในด้านการซิงค์ข้อมูล (sync), การสำรองข้อมูล (backup), การกู้คืนข้อมูล (restore) และการอัปเดตซอฟต์แวร์ฉุกเฉิน เมื่อทั้ง 3 แอปมาแทนที่ iTunes ก็จะเหลือเพียงแค่ฟังก์ชันด้าน podcast และ หนังสือ ที่ยังไม่ทราบว่า Apple จะนำฟังก์ชัน 2 ด้านนี้ไปไว้ในแอปที่ 4 หรือไม่ ที่มา: GSMArena
แบไต๋ • 14 ม.ค. 66
อ่าน
ชดเชย Lightning? Apple ขึ้นค่าบริการ Apple Arcade, Apple TV+ และ Apple One ครบชุด!
สหภาพยุโรปทำให้ Apple ต้องยอมถอยพอร์ต Lightning และเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ใน iPhone 15 แทน จริง ๆ การเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ทำให้ Apple สูญเสียรายได้จากค่า MFi ไปมหาศาล แต่ดูเหมือน Apple จะหารายได้จากทางอื่นได้แทน วันนี้ Apple ประกาศปรับค่าบริการหลาย ๆ อย่างเพิ่มขึ้น (มากพอสมควร) เรียกว่าเข้ากับบรรยากาศ Scary Fast ในช่วงนี้กันเลยทีเดียว ค่าบริการที่ปรับขึ้น Apple TV+ ปรับราคาจาก 199 บาทต่อเดือน เป็น 249 บาทต่อเดือน Apple Arcade ปรับราคาจาก 99 บาทต่อเดือน เป็น 149 บาทต่อเดือน Apple One แบบรายบุคคล ปรับราคาจาก 295 บาทต่อเดือน เป็น 369 บาทต่อเดือน Apple One แบบครอบครัว ปรับราคาจาก 379 บาทอต่เดือน เป็น 449 บาทต่อเดือน สำหรับค่าบริการ Apple Music นั้น แม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นพร้อมกันในรอบนี้ แต่เฉพาะ Apple Music ก็ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วจากเดือนละ 129 บาท เป็น 139 บาทครับ
แบไต๋ • 26 ต.ค. 66
อ่าน
สมัคร Redotpay ใช้กับ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียว #ApplePay #ApplePayThailand #Apple
Apple Pay Thailand X RedotPayสวัสดีครับชาว ApplePay ใกล้สิ้นปีแบบนี้ผมมีอีกหนึ่งบัตรมาแนะนำให้ชาว ApplePay และห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ไม่ต้องมีที่อยู่ต่างประเทศที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อนด้วยการเปลี่ยนภูมิประเทศ สำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศตามลิงก์นี้เลยครับ เปลี่ยนภูมิประเทศ หลังนั้นให้กด Download Application Redotpay ตามขั้นตอน ให้เลือกดาวน์โหลดตามระบบปฏิบัติการของเราได้เลยครับ หลังจากดาวน์โหลดหรือเข้าเว็บไซต์ Redotpay แล้วให้เราทำการกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการสมัครและใส่ OTP ที่ได้รับ เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะได้รับ 5 USD สำหรับใช้ออกบัตร ผูกกับ ApplePay เมื่อโหลดแอปพลิเคชันเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เราเปิดขึ้นมาจะพบหน้าเข้าสู่ระบบให้เรากรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ในหน้าเว็บ และตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานครั้งต่อไปครับ ใกล้ได้ใช้ ApplePay แล้วอีกนิดเดียว เมื่อตั้งรหัสผ่านเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าบัญชี และจะพบเหรียญ 5 USD สำหรับเพื่อนๆที่สมัครผ่านลิงก์ Redotpay ขั้นตอนถัดไปให้เพื่อนๆ ทำการยืนยันตัวตนโดยไปที่หน้าบัญชีผู้ใช้กดที่โปรไฟล์แล้วทำการใส่ข้อมูลตามความจริงได้เลยครับ หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จแล้วให้ไปที่เมนูบัตร เพื่อออกบัตรสำหรับแอดลง ApplePay ครับสำหรับบัตรที่จะนำไปใช้ใน ApplePay จะมีให้เลือกสองแบบ แบบแรกจะเป็นบัตรเสมือน แบบที่สองจะเป็นบัตรจริงถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากรับบัตรจริงสามารถเลือกแค่บัตรเสมือนได้ครับ ราคาก็จะถูกกว่าครับ ถ้าสังเกตเราจะเห็นราคาบัตร 10 USD กับ 100 USD ครับซึ่งเราต้องเติมเงินเพิ่มเพื่อซื้อบัตรในตัวอย่างถ้าเราสมัครผ่านลิงก์ Redotpay จะมี 5 USD แล้วเราสามารถเติมเงินขั้นต่ำอีก 6 USD เพื่อใช้สำหรับซื้อบัตรครับ ส่วนขั้นตอนการเติมเงินก็ตามนี้เลยครับ https://youtu.be/j3tqqQYWhwo?si=UytQCL50rle7SMoM ถนัดเติมแบบไหนสามารถเลือกได้เลยครับ เพียงเท่านี้เราก็มี บัตร RedotPay บน ApplePay แล้วครับ ข้อดีของบัตร RedotPay * ApplePay คือสามารถใช้เหรียญคริปโตใช้จ่ายได้ครับ ใครเทรดคริปโตบน bitkub สามารถนำเหรียญมาใช้จ่ายได้เลยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้เงินสกุลเหรียญคริปโตครับ หากชอบ ApplePay สามารถกดดูบัตรอื่นๆ ด้านล่างได้นะครับhttps://intrend.trueid.net/post/369325https://intrend.trueid.net/post/358250เครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก bitkub , RedotPay , ขอบคุณวีดีโอจากช่อง How to Trade : เทรดอย่างไรให้ได้ตังค์ Twitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 4 ก.พ. 67
อ่าน
ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียวด้วย Silk x Apple Pay #ApplePay
Apple Pay Thailand สวัสดีครับชาว ApplePay วันนี้ผมก็จะมาชี้โพรงให้กระรอกสำหรับชาว ApplePay ห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ไม่ต้องมีที่อยู่ต่างประเทศที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อนด้วยการเปลี่ยนภูมิประเทศ สำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศตามลิ้งก์นี้เลยครับhttps://intrend.trueid.net/post/347055 หลังจากเปลี่ยนภูมิประเทศที่สามารถใช้ ApplePay ได้แล้วเราก็มาเริ่มกันเลย ให้เราเข้าไปที่ App Store และทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SilkPay ครับ หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วในขั้นตอนการสมัครก็ไม่ยากครับให้เราใส่ข้อมูลตามจริงไปได้เลย ในหน้านี้ให้เราเลือกสกุลเงินเราสามารถเลือกได้เลยครับส่วนตัวแนะนำเป็น USD ครับหลังจากใส่อีเมลใส่เบอร์ครบแล้วให้กดถัดไปได้เลยครับ ซึ่งในการยืนยันตัวตนสำหรับชาวไทยต้องใช้พาสปอร์ตในการยืนยันตัวตนนะครับสำหรับคนที่ไม่มีอย่าพึ่งตกใจสามารถกดข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนได้เลยครับ สำหรับเพื่อนๆที่มีพาสปอร์ตที่ต้องการยืนยันตัวตนให้เข้าไปที่ โปรไฟล์ของเรา verification Scan Passport ทำตามคำแนะนำของแอพพลิเคชันได้เลยครับเพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยครับ เหมือนเราสมัคร True Wallet และในขั้นตอนต่อไปเราก็จะทำการออกบัตรสำหรับใช้ใน ApplePay กันครับ สำหรับขั้นตอนการออกบัตรเพื่อนำไปใช้ใน ApplePay ให้เราเข้าไปที่ Cards เมนูที่สองด้านล่างใส่จำนวนเงินแล้วกดถัดไปเราก็จะเจอหน้าสำหรับใส่ข้อมูลบัตรที่ต้องการให้ตัดเงินครับ ตัวอย่างผมใช้บัตรกรุงไทยเติมผมก็กรอกข้อมูลบัตรกรุงไทยลงไปได้เลย อีกไม่กี่ขั้นตอนก็จะได้ใช้ Apple Pay กันแล้วทุกคน หลังจากเติมเงินเสร็จแล้วเราก็จะได้บัตรมาหนึ่งใบให้เรากดไปที่รูปบัตร จากนั้นจะเจอเมนู Add to Apple Wallet ให้เรากดไปได้เลยกดยอมรับเงื่อนไขทำตามขั้นตอนเพียงเท่านี้เราก็ได้บัตรสำหรับใช้งานใน ApplePay แล้วครับ เรียบร้อยแล้วครับสำหรับขั้นตอนการสมัคร SilkPay และเพิ่มบัตรลง ApplePay สำหรับการใช้งานก็เหมือนใช้บัตร เครดิต เดบิต ปกติเลยครับเพียงแค่นำโทรศัพท์ของเราไปแตะที่เครื่องชำระเงินแทนบัตรจริง คำแนะนำในการใช้ Apple wallet บัตรบางธนาคารที่ผมแนะนำอาจมีค่าธรรมเนียมการใช้บริการควรศึกษาข้อมูลก่อนสมัครบัตรทุกครั้ง หากมีบัตรธนาคารไทยที่สามารถผูกได้ผมจะรีบมาแนะนำอีกครั้งนะครับแล้วไว้เจอกันใหม่ครั้งต่อไปนะครับ สวัสดีครับ#Applewallet #Applepayขอบคุณภาพจาก SilkPay ภาพบัตรและภาพการใช้งานแอปพลิเคชันจาก creatorsเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !สำหรับชาว Google walle https://intrend.trueid.net/post/350509
บักช๊อป • 14 มิ.ย. 66
อ่าน
ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียวด้วย Apple pay + Cypher Card #ApplePay #APPLEPAYTHAILAND
Apple pay x Cypher Card สวัสดีครับชาว ApplePay ชาว Cypher Card และชาวคริปโต วันนี้ผมก็จะมาชี้โพรงให้กระรอกสำหรับกับบัตร Cypher Card ห้ามพลาดบัตรใบนี้สมัครง่ายใช้เบอร์ไทยสมัครได้ ไม่ต้องมีที่อยู่ต่างประเทศที่สำคัญบัตรใบนี้เป็นบัตรแบบเติมเงินปลอดภัยแน่นอนครับ ขั้นตอนแรกเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับ iPhone ของเราก่อน โดยการเปลี่ยนภูมิประเทศสำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนภูมิประเทศกดตามลิงก์นี้เลยครับ เปลี่ยนภูมิประเทศ หลังจากเปลี่ยนเป็นประเทศที่สามารถใช้งาน ApplePay ได้แล้วเราก็มาเริ่มกันเลยให้เราเข้าไปที่ App Store และทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Cypher Wallet ได้เลยครับ หลังจากดาวน์โหลดเสร็จแล้วในขั้นตอนการสมัครให้กด Create New Wallet ระบบจะมีตัวเลือกความปลอดภัยให้เราเลือก ในตัวอย่างผมเลือกจำนวน 12 ชุด อย่าลืมทำการบันทึกภาพไว้ยืนยันนะครับ เมื่อยืนยันคำถามเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าแอปพลิเคชันดังนี้ ในขั้นตอนถัดไป กดที่เมนูการ์ด เลือกหัวข้อ Standard และเลือก Get Started ขั้นตอนถัดไปให้กรอกข้อมูลที่อยู่ประเทศไทยลงไปได้เลยครับ ในขั้นตอนการยืนยันตัวตนให้เลือกประเทศตามเอกสารที่ต้องการยืนยัน หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพบหน้าบัตรสำหรับผูกกับ Apple pay จะสังเกตว่าบัตรสำหรับผูกกับ Apple pay ยังถูกล็อกอยู่ให้เราทำการกด Activate Card จะพบว่ามีเงื่อนไขในการใช้จะต้องเติมเงิน 10 USD ก่อน โดยการเลือกเมนู Portfolio ในตัวอย่างผมเลือกเหรียญ Ethereum ในหน้าต่าง Ethereum ให้กดเมนู Receive จากนั้นเราจะได้ QR Code สำหรับการโอนเหรียญ ในตัวอย่างผมใช้ Bitkub ในการโอนเหรียญเข้า wallet หลังจากเติมเงินเรียบร้อยแล้วให้กด Activate บัตรอีกครั้งเพื่อใช้ในการผูกกับ Apple Pay ระบบจะให้เราแลกเหรียญเป็นเงิน USD ก่อน เมื่อเปิดใช้งานบัตรแล้วให้เรากดไปที่ Reveal Card เพื่อนำหมายเลขบัตรเพิ่มลงใน Apple Pay ในขั้นตอนถัดไป ในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่เราเพิ่มบัตรลงใน Apple Pay ได้แล้วให้เราทำการใส่รหัสยืนยันโดยมีให้เลือกสองวิธีคือรับ OTP ผ่านเบอร์โทรศัพท์และรับ OTP ผ่านอีเมล เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้ Apple Pay ชำระเงินได้แล้ว เครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก bitkub , Cypher Card , Twitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 ใช้ Apple Pay ในไทย ง่ายนิดเดียว https://news.trueid.net/detail/4LvPdyMJOWAQ https://news.trueid.net/detail/79ywjVA1AvNa https://news.trueid.net/detail/6pQeA1NBYRwp เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 9 ต.ค. 67
อ่าน
"Google Maps" vs "Apple Maps"
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆนักอ่านทุกท่าน ถ้าพูดถึงเครื่องมือในการนำทางเราเเล้วคงไม่มีใครที่จะไม่ถึงนึก GPS หรือ ที่เรามักเรียกกันว่า Map นั่นเอง ซึ่งเเมพนั้นเป็นเครื่องมือนำทางที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำของเรามากขึ้น เพราะในยุคนี้ก็คงไม่มีใครมากางเเผนที่ดูกันเเล้วใช่ไหมคะ ฮ่า ๆเเต่ในสถานการณ์ที่มีไวรัสเเพร่ระบาดเเบบนี้ หลาย ๆคนคงจะไม่ได้ใช้เจ้าเเอปพลิเคชั่นเเมพนั้นสักเท่าไร เนื่องจากก็อยู่เเต่บ้านไม่ได้ไปไหน เเต่ถ้าหากใครที่ยังจำเป็ต้องใช้อยู่นักเขียนก็อยากจะให้ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องออกเดินทางเละจำเป็นต้องใช้เเมพนำทางค่ะ เเมพที่เรารู้จักกันดีอยู่เเล้วก็จะมี Google maps,Apple maps, Nostra map เป็นต้น เเต่เเอปพลิเคชั่นที่มีคนพูดถึงบ่อย ๆก็จะเป็น 2 ตัวนี้เลยค่ะ คือ Google maps และ Apple Maps เเล้ววันนี้นักเขียนก็จะมาเปรียบเทียบจุดเด่น เเละจุดที่พิเศษของเจ้า 2 เเอปนี้กันค่ะ จะเเตกต่างกันอย่างไร ใครจะเจ๋งกว่า ไปดูกันเลยค่ะ ตัวเเรกที่เราจะพูดถึงคือ Google Maps ค่ะ หน้าตาของเเอปพลิเคชั่นก็จะเห็นว่ามีความเปลี่ยนไปจากเเต่ก่อนค่อนข้างมาก มีความสวยเเต่เรียบขึ้น นั่นเป็นเพราะว่า google maps เขาได้จัดงานฉลองครบ 15 ปี ของ google maps จึงทำให้เขาปรับโฉมหน้าของไอคอนไปมากพอสมควร อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สุดเจ๋งเพิ่มเข้ามาอีกด้วยนะคะ คือ ตอนนี้ google maps เขาได้ประกาศว่าเขานั้นเป็นมากกว่าเเค่เเผนที่ เพราะเขาได้เพิ่มฟีเจอร์เด็ด ๆมาทั้งหมด 5 เเท็บด้วยกันโดยจะประกอบไปด้วย-Explore (การสำรวจ) โดยเขาจะสำรวจสถานที่ต่าง ๆที่จะใกล้เรา ที่มีคนเคยให้คะเเนนเเละได้มีการีวิวเอาไว้ให้เราช่วยตัดสินใจในการไปสถานที่นั้น ๆได้ง่ายขึ้นค่ะ-Commute (การเดินทาง) เขาจะเเสดงเส้นทางในการไปสถานที่นั้น ๆของเราให้ดีเเละเร็วที่สุดค่ะ ซึ่งในฟีเจอร์นี้เราสามารถกำหนดได้ว่าปลายทางเราในเเต่ละวันเป็นอย่างไร หรือเราตั้งค่าเริ่มต้นไว้ที่ไหน เมื่อเราไม่ได้อยู่ในจุดที่เรากำหนดเป็นค่าเริ่มต้น (ส่วนตัวนักเขียนเชตค่าไว้ที่บ้านเมื่อนักเขียนออกมาข้างนอกเเละกดฟีเจอร์นี้ ตัวเเอปจะทำการเลือกเส้นทางที่จะพานักเขียนกลับบ้านได้ดีเเละเร็วที่สุดโดยที่นักเขียนไม่ต้องกดค้นหาในหน้าเริ่มต้นเลยค่ะ)-Saved (ที่บันทึกไว้) ในส่วนของฟีเจอร์นี้จะเป็นการที่ให้เราได้รวบรวมสถานที่ที่เราอยากจะไปมาเก็บรวบรวมไว้ เมื่อเราต้องการจะไปก็สามารถมากดที่นี่เพื่อให้เเมพนั้นนำทางเราได้เลยค่ะ -Contribute (การมีส่วนร่วม) ฟีเจอร์นี้นักเขียนขอยกย่องเลยว่าเจ๋งมากค่ะ เพราะเป็นฟีเจอร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ใช้ Google maps นั้นสามารถเพิ่มสถานที่ที่เขาประทับใจ เขียนรีวิวสถานที่ต่าง ๆเเละที่สำคัญสามารถเพิ่มพิกัดสถานที่ที่ไม่ได้มีใน Google maps ได้ด้วยนะคะ เพื่อเป็นการอัปเดตข้อมูลของตัวเเอปอยู่เรื่อย ๆซึ่งจะบอกว่ามันดีมาก เพราะบางที่อาจจะเป็นที่ที่เรานั้นเข้าไม่ถึง เเต่ถ้ามีคนในท้องถิ่นหรือคนที่เคยไปสถานที่นั้น ๆเเล้วมาเพิ่มพิกัดไว้เราก็จะมารถค้นหาพิกัดนั้นเจอได้แบบง่ายเลยค่ะ Update (อัปเดต) ฟีเจอร์นี้ก็สมกับชื่ออัปเดตจริง ค่ะ ขอบอกว่าเด็ดมาก สายคาเฟ่ สายถ่ายรูปไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะฟีเจอร์นี้เขาได้รวบรวมสถานที่ใหม่ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ต่าง ๆที่กำลังเป็นที่นิยมมารวบรวมไว้ในนี้ให้เราเเล้ว ไม่ต้องไปเสิร์จ google กันเลยทีเดียวเเละฟีเจอร์ที่อัปเดตล่าสุดเพื่อให้ทันสถานการณ์ตอนนี้นั้นก็คือ ตอนนี้ Google maps เขาได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่นั้นก็คือ Coronavirus (COVID-19) ที่จะเป็นให้เรากดเข้าไปเเล้วเขาจะพาเราไปที่หน้า Google พร้อมเสิร์จคำว่า โคโรนาไวรัส เเละให้เราสามารถเช็คข่าวเเละเช็คสถานการณ์ผู้ติดเชื้อต่าง ๆได้จากหน้านี้เลยค่ะ มาต่อกันที่เเอปพลิเคชั่นตัวที่ 2 กันเลยค่ะ กับ Apple Maps เเม้ว่าตัว Apple จะยังไม่ได้มีการอัปเดตฟีเจอร์เจ๋ง ๆเหมือนกับ google maps เเต่ทางฝั่ง apple ทางเขาก็มีข้อดีที่เป็นจุดที่พิเศษของเฉพาะทาง apple เองเหมือนกันนะคะ คือ อย่างเเรกเลย การโหลดข้อมูลที่กินพื้นที่น้อยกว่าทางฝั่ง google maps ทำให้เมื่อใช้ apple จะสามารถประหยัดพื้นที่ในการดาวน์โหลดได้มากกว่าค่ะ อีกทั้งการทำงานของ ค่อนข้างสมูทจากการใช้งานที่ผู้เขียนมักจะใช้งานเจ้าตัว apple มากกว่า เนื่องจากนักเขียนต้องนั่งรถจากบ้านไปมหาวิทยาลัยบ่อย ทำให้ต้องดูเเผนที่ทุกครั้ง เเล้วในตัว google maps ไม่มีสถานที่ที่นักเขียนต้องลงรถทำให้ผู้เขียนนั้นซึมซับจากการใช้ Apple มากกว่า สรุปโดยรวม ถึงเเม้ว่าที่นักเขียนได้เล่ามาทั้งหมดนั้นดูนั้นว่า เจ้า google maps จะชนะอย่างขาดลอย ซึ่งผู้เขียนก็ตื่นเต้นในการที่ google maps นั้นเขาได้มีฟีเจอร์ที่อัปเดตออกมาให้ตรงกับสถานการณ์ช่วงนี้อย่างมาก ซึ่งว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาก ๆสำหรับเเอปพลิเคชั่นนำทาง เเต่ถึงอย่างไรเเล้วสุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่ที่ผู้เลือกใช้งานว่าชื่นชอบเเละถนัดกับเเอปพลิเคชั่นตัวไหนมากกว่านะคะ บางคนอาจจะใช้ google maps มานานเเล้วเมื่อมีฟีเจอร์ใหม่ ๆก็รู้สึกว่ายิ่งรักเจ้าเเอปนี้ไปใหญ่ เเต่บางคนอาจจะไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ที่ทาง google นั้นสร้างมา ชอบในความเรียบ ๆของทางฝั่ง apple อยู่เเล้วเพราะฟีเจอร์ที่ทาง apple นั้นสร้างขึ้นมาก้เพียงพอต่อความต้องการของเราในการเป็นเเอปพลิเคชั่นนำทางเเล้วค่ะ สุดท้ายนี้ไม่ว่าใครจะเจ๋งกว่าใคร หรือนักอ่านจะเทใจให้ฝั่งไหนมากกว่าก็ขึ้นอยู่กับนักอ่านทุกท่านเเล้วนะคะ เเละนักเขียนหวังว่าเราจะได้ออกไปใช้เจ้าเเอปพลิเคชั่นเเมพนี้ได้เร็ว ๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ :)
Chollada • 21 เม.ย. 63
อ่าน
Taylor Swift เตรียมปล่อยสารคดีคอนเสิร์ต 1989 World Tour ลงบน Apple Music
Taylor Swift นักร้องสาวชื่อดังเข้าของเพลง Bad Blood ออกมาเผยว่าเตรียมปล่อยสารคดีคอนเสิร์ต 1989 World Tour ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีที่ถ่ายทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง โดยจะปล่อยให้ชมในวันที่ 20 ธันวาคมนี้เฉพาะบน Apple Music เท่านั้นThank you so much for all the birthday wishes. I have a little surprise for you. #1989WorldTourLIVE @applemusic https://t.co/actZbWBt4R— Taylor Swift (@taylorswift13) 13 ธันวาคม 2015โดยคอนเสิร์ต 1989 World Tour ในครั้งนี้มีศิลปินรับเชิญที่น่าสนใจทั้ง Justin Timberlake, Mick Jagger, Steven Tyler ฯลฯ ซึ่งจัดไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมและเพิ่งจบไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาMet up with @ZaneLowe to talk about #1989WorldTourLIVE airs tomorrow at 9am PST on @Beats1 https://t.co/rzGwjF4mYn pic.twitter.com/gaF0k62cqt — Taylor Swift (@taylorswift13) 13 ธันวาคม 2015ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้ายังจำกันได้ Taylor Swift เคยมีเรื่องมีราวกับ Apple Music เมื่อเธอเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงการเอาเพลงของศิลปินไปสตรีมแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสุดท้ายแล้วทาง Apple Music ได้ออกมาตกลงยอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงให้แล้วแม้เป็นกรณีทดลองใช้ก็ตามขอบคุณภาพจาก : twitter.com/taylorswift13บทความที่คุณอาจสนใจเทย์เลอร์ สวิฟต์ มาแรง!!! กวาด 3 รางวัล อเมริกัน มิวสิค อวอร์ด 2015Taylor Swift ระเบิดความมันส์กับ The 1989 World Tour ที่สิงคโปร์ พร้อมรับรางวัลมากมายSam Smith , Taylor Swift และ James Bay คว้ารางวัล BRIT AWARDS 2015ติดตามพวกเราชาว Entertainment Truelife ได้ที่นี่
ข่าวเพลงต่างประเทศ • 17 ธ.ค. 58
อ่าน
ใช้ Apple Pay สำหรับการชำระเงิน Apple Pay Thailand 2024 #ใช้ApplePay ในไทย 2567
รวมบัตร Apple Pay น่าใช้ในไทย 2567 สวัสดีชาว Apple pay ทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีบัตรที่สามารถใช้ Apple Pay Thailand สำหรับการชำระเงิน Apple Pay มาฝากครับ ซึ่งในครั้งนี้ยังคงเป็นบัตรของต่างประเทศอยู่และบัตรที่แนะนำให้ในครั้งนี้สมัครง่ายใช้งานง่ายแน่นอนครับ 1. Wise x Apple Payสำหรับบัตรแรกที่ผมคิดว่าง่ายระดับหนึ่งและอยู่กับเรานานพอสมควรคือบัตร Wise x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้มีให้บริการทั้งบัตรจริงและบัตรดิจิทัลเป็นบัตรระบบเติมเงินปลอดภัยสามารถใช้เงินได้ตามวงเงินที่เราเติมข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากใช้หลายสกุลเงินอาจโดนปิดบัญชีได้หากลืมเติมเงินจะไม่สามารถใช้บัตรได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay2. RedotPay x Apple Payสำหรับบัตรทีสองผมคิดว่าง่ายระดับหนึ่งและเป็นบัตรที่ใช้เหรียญคริปโตได้นั้นก็คือบัตร RedotPay x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ใช้ในประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้มีให้บริการทั้งบัตรจริงและบัตรดิจิทัลเป็นบัตรระบบเติมเงินปลอดภัยสามารถใช้เงินได้ตามวงเงินที่เราเติมสามารถใช้เหรียญดิจิทัลเติมเงินเข้าบัตรได้ ( BTC , USDT , อื่นๆ )ข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากลืมเติมเงินจะไม่สามารถใช้บัตรได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay 3. Silk x Apple Payบัตรที่สามที่ผมคิดว่าสมัครง่ายมากและอยู่กับเรานานพอสมควรคือบัตร Silk x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ใช้ในประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้ฟรีค่าออกบัตรประเภทดิจิทัลเป็นบัตรระบบเติมเงินปลอดภัยสามารถใช้เงินได้ตามวงเงินที่เราเติมข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากใช้หลายสกุลเงินอาจโดนปิดบัญชีได้หากลืมเติมเงินจะไม่สามารถใช้บัตรได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay4. Curve x Apple Payสำหรับบัตรที่สี่ที่ผมคิดว่ายากขึ้นมาระดับหนึ่งและอยู่กับเรามานานพอสมควรคือบัตร Curve x Apple Pay ข้อดีสามารถผูกกับ Apple Pay ใช้ในประเทศไทยได้สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ประเทศไทยสมัครได้ (แนะนำเป็นเบอร์ต่างประเทศ)มีบางช่วงฟรีค่าธรรมเนียมสามารถผูกบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตได้หมดกังวลเรื่องการเติมเงินบัตรข้อควรพิจารณาสามารถเติมเงินได้หลายสกุลและมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันหากใช้หลายสกุลเงินอาจโดนปิดบัญชีได้ไม่สามารถผูกกับบัตรบางธนาคารของประเทศไทยได้ขั้นตอนรายละเอียดการสมัครและการผูกกับ Apple pay https://vt.tiktok.com/ZSFN6Bm6K/สำหรับเพื่อนๆ ที่สมัครแล้วอย่าลืมเปลี่ยนภูมิภาคของโทรศัพท์นะครับเครดิต : ภาพจากผู้เขียน และขอขอบคุณภาพโลโก้จาก Silk, RedotPay , Curve ,WiseTwitter / X : Naichop #ApplePayThailand #ApplePay #Apple #ApplePay2024 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
บักช๊อป • 11 ก.พ. 67
อ่าน
Apple Event กับ Product ชิ้นใหม่
เมื่อคืนวันที่ 9 มีนาคม 2022 เวลา 1:00 น. เป็นช่วงเวลาที่ Apple ได้เปิดการถ่ายทอดสดงานที่มีชื่อว่า Apple Event โดยมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ออกมาถึง 5 รายการทั้งใหม่และเก่าiPhone 13 และ iPhone 13 Pro สีใหม่โดยสีที่ออกมานั้นคือสีเขียวขี้ม้า หรือ Army Green นั่นเอง สีใหม่ที่ออกมานั่นสวยเข้ากับ Apple Watch Series 7 สี Army Green เป็นอย่างมากใครที่ชอบ หรือมี Apple Watch สีดังกล่าวก็เหมาะอย่างมากที่จะจับจองเป็นเจ้าของ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro สีใหม่อย่างเครื่องนี้ โดยจะมีการวางขายในวันที่ 18 มี.ค. 2022 เวลา 9.00 โมงเป็นต้นไป และจำหน่ายจริงในวันที่ 25 มี.ค. 2022 กับราคาเครื่องเท่าเดิมNew iPhone SE หรือ iPhone SE 3ต่อด้วยการเปิดตัว iPhone SE ที่มาพร้อมการดีไซต์ที่ถอดแบบมาจาก iPhone SE ตัวก่อนหน้าที่มีการเปิดมาก่อนเมื่อไม่นานมากนี้ iPhone SE จะมีสีมาให้เลือก 3 สี คือ แดง, ขาว และดำ ด้านหลังจะใช้กระจกเหมือนกับ iPhone 13 ส่วนหน้าจอจะเป็นจอภาพ Retina HD แบบ LCD กว้าง 4.7 นิ้ว จอแสดงผลแบบ True Tone และกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 นอกจากดีไซต์ที่เหมือนเดิมกลับมีการอัปเกรดสเปคและภายในให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า โดย iPhone SE 3 นี้มาพร้อมกับชิป A15 Bionic ตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 13CPU : 6-CoreGPU : 4-CoreNeural Engine : 16-Coreทำให้เครื่องมีความแรงมากเท่ากับ iPhone 13 แต่คุณสมบัติบางอย่างก็อาจจะใช้งานไม่ได้เหมือนกับ iPhone 13 เนื่องจาก Hardware ที่ไม่ตรงกัน Apple บอกว่า iPhone SE นี้แรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมากแรงกว่า iPhone SE รุ่นก่อนหน้าถึง 1.2 เท่าแรงกว่า iPhone 8 ถึง 2.2 เท่าแรงกว่า iPhone 6s ถึง 5 เท่ามีการประหยัดพลังงานได้ดีกว่าร่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า เปรียบเทียบจากการเล่นวีดีโออย่างต่อเนื่อง มี Fast Charge แบบไร้สาย หรือต่อสาย 20w จาก 0% - 50% ใน 30 นาที และใช้งาน 5G ได้แล้ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ “สไตล์ภาพถ่าย” ที่ปรับโทนได้ตามใจชอบเหมือนใน iPhone 13 จะถ่ายเวลาไหนก็เก็บแสงได้สวยเช่นกัน โดยจะมีกล้องหลังความละเอียด 12MP และกล้องหน้า 7MP พร้อมกับปุ่ม Touch ID ที่หลายคนยังอยากจะใช้งานอยู่รุ่นความจุ 64GB ราคา 15,900 บาทรุ่นความจุ 128GB ราคา 17,900 บาทรุ่นความจุ 256GB ราคา 21,900 บาทNew iPad Air หรือ iPad Air 5ต่อมาคือการเปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ ที่ดีไซต์อาจจะเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือการมาพร้อมกับชิป M1 ที่เคยใช้ใน Macbook และ Ipad Pro มาก่อน แถมห้วยท้ายมาด้วยแรงถึง 8 GB ทำให้มีประสิทธิภาพแรงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากถึง 60% มีกราฟฟิกที่เร็วขึ้นถึง 2 เท่า ทำให้ iPad Air รุ่นนี้มีประสิทธิภาพที่ดีมาก เปิดสลับแอปพลิเคชั่นได้อย่างลื่นไหล สามารถสร้างสรรค์ผลงานระดับสูงๆได้อย่างดีเยี่ยม และเลื่อนไหลเป็นอย่างมากหน้าจอแบบ Liquid Retina กว้าง 10.9 นิ้วมีจอภาพแบบ Full Laminationพร้อมปุ่ม Touch ID อยู่ด้านบนตัวเครื่อง สามารถเชื่อมต่อ 5G และ WiFi 6 กับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Magic Keyboard ได้สามารถใช้พอร์ต USB C ที่ชาร์จได้เร็วขึ้น 2เท่ากล้องหน้าเปลี่ยนมาเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมกับคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” เหมือนกับรุ่นโปรกล้องหลังจะยังเป็นไวด์ความละเอียด 12MP ถ่ายวิดีโอระดับ 4K และถ่ายภาพได้แบบ HDR อัจฉริยะ สามารถวิดีโอคอลและจัดภาพให้เราอยู่ตรงกลางเสมอ ไม่ว่าจะมีคนในกล้องกี่คนก็จะซูมเข้าออกได้อย่างเหมาะสม รุ่นนี้ก็ยังมีสีใหม่เพิ่มมาด้วยคือเทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง และฟ้า โดย iPad Air 5 รุ่นใหม่นี้ยังไม่มีกำหนดขายในไทย แต่มีราคาแต่ละรุ่นดังนี้iPad Air 5 รุ่น Wi-Fi64GB ราคา 20,900 บาท256GB ราคา 25,900 บาทiPad Air 5 รุ่น Wi-Fi + Cellular64GB ราคา 25,900 บาท256GB ราคา 30,900 บาทMac Studio พร้อมชิปใหม่ M1 Ultra สิ่งต่อไปที่เปิดตัวในงานคือ Mac Studio มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวใหม่ คือ M1 Ultra ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า M1 Pro และ M1 Max รูปแบบการดีไซต์จะเหมือนกับ Mac Mini แต่ใหญ่กว่าประมาณ 2 เท่า มีพัดลมระบายภายในจากด้านล่างเครื่อง ออกทางด้านหลังเครื่อง วัสดุเป็นอลูมิเนียม ตังเครื่องมาพร้อมกับThunderbolt 4 DisplayPort10Gb EthernetHDMIช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.USB A 2 พอร์ต ด้านหน้าจะเป็นUSB C 2 พอร์ต (M1 Max)Thunderbolt 4 2 พอร์ต (M1 Ultra) Mac Studio จะมาให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นที่ใช้ M1 Max และรุ่นที่ใช้ M1 Ultra โดยชิป M1 Ultra นั้นเป็นการใช้ชิป M1 Max เชื่อมกับ M1 Max อีกตัวรวมเป็น 2 ตัว หรือเข้าใจง่ายกว่านั้นคือ M1 Max + M1 Max = M1 Ultra นั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 8K ได้สูงสุด 18 สตรีมเยอะกว่าทุกเครื่อง เพิ่มแรมได้สูงสุดที่ 128 GB และเพิ่มความจุได้สูงสุด 8 TB Mac Studio รุ่น M1 Max เริ่มต้น 69,900 บาท, สูงสุด 174,900 บาทMac Studio รุ่น M1 Ultra เริ่มต้น 139,900 บาท, สูงสุด 279,900 บาท Studio Displayสิ่งสุดท้ายที่เปิดตัวในงานคือ จอแสดงผลใหม่ที่ชื่อ Stuio Display โดยจอนี้จะเป็นที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Mac Studio โดยเฉพาะ แต่ก็สามารถซื้อไปใช้งานกํบอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าจะใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดคงต้องใช้กับ Mac Studioจอ Retina กว้าง 27 นิ้วสามารถปรับจอได้ 30 องศา หรือจะเลือกปรับทั้งสูงและเอียงก็ได้อีกแบบคือตัวยึด VESAความละเอียดที่มากถึง 5Kสว่าง 600 นิตมีสีมากถึง 1 พันล้านสีมีกล้องหน้าเป็นอัลตร้าไวด์ละเอียด 12MP กับคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง”มีลำโพงถึง 6 ตัวกระจายเสียงได้รอบทิศตามตำแหน่งไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงไหนก็ตามยังมีไมค์ถึง 3 ตัว มีชิป A13 Bionic ในตัวมีพอร์ต USB C 3 พอร์ตThunderbolt 1 พอร์ตรองรับได้กับทุก Mac มีให้เลือกสองรุ่นสองราคาดังนี้Studio Display กระจกมาตรฐานราคาเริ่มต้น 54,900 บาทStudio Display กระจก Nano-texture ราคาเริ่มต้น 65,400 บาทในงานเปิดตัวครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่มากนัก แต่สุดท้าย Apple ก็ทำให้สาวก และคนดูประหลาดใจได้ในตอนท้ายกับการพัฒนาชิป Apple silicon ในชื่อ Chip M1 ให้พัฒนาได้มากขึ้นเรื่อยๆในทุกปีอย่างที่ Apple คาดหวังไว้ จนตอนนี้ชิป M1 นั้นพัฒนาไปได้มากกว่าชิปของ iPhone และ iPad เสียอีก เมื่อเทียบประสิทธิภาพในการพัฒนาทุกๆปี แต่อย่างไรก็ตามเราสาวกคงต้องรอดูว่า Apple จะมีอะไรมาทำให้คนดูประหลาดใจได้อีกนอกจากข่าวลือที่กันปี และแทบจะไม่ตรงกันแทบทุกปี เครดิตรูปภาพหน้าปกBy GH0ST - ผู้เขียนรูปภาพประกอบบทความBy Appleเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
GH0ST • 12 มี.ค. 65
อ่าน
Apple Crisp อาหารเช้า หรือขนม
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมาก และเป็นมื้อที่ถูกละเลยมากที่สุด เพราะช่วงเช้าชีวิตจะเร่งรีบมาก หลายๆ ครั้งก็ยุ่งจนลืมทานมื้อเช้าไปเลย บทความนี้แอนมีเมนูมานำเสนอ เมนูนี้เราสามารถทำเก็บไว้วนตู้เย็นล่วงหน้าได้ ตอนเช้าก็แค่ตักออกมาอุ่นในไมโครเวฟ แล้วโป๊ะหน้าด้วยโยเกิร์ตสักนิด ก็อิ่มท้องไปถึงเที่ยงเลยค่ะ หรือถ้าใครชอบเย็นๆ ไม่ต้องอุ่นก็อร่อยไปอีกแบบ แต่ส่วนตัวชอบทานตอนอุ่นๆค่ะ หรือถ้าวันไหนอยากจะทานเป็นขนมหวาน ก็แค่เปลี่ยนจากโยเกิร์ตเป็นไอศครีมวนิลาซักสกู๊ป ก็อร่อยฟินเลย เมนูที่ว่าคือ Apple Crisp อารมณ์จะคล้ายๆ แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล แต่เฮลตี้กว่า เพราะปรับเปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบเพื่อสุขภาพ ทั้งข้าวโอ๊ตและธัญพืชต่างๆ ซึ่งตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลยนะ เลือกใช้แอปเปิ้ลที่ชอบได้ด้วย จริงๆ แอนชอบแอปเปิ้ลเขียว Granny Smith เพราะจะมีรสชาติอมเปรี้ยวนิดๆ แต่วันนี้หาไม่ได้ค่ะ ก็เลยต้องได้ใช้แอปเปิ้ลแบบนี้ ถ้าลูกเล็กแบบแอปเปิ้ลเขียวก็ใช้ซัก 3-4 ลูกนะ ของแอนลูกใหญ่มากใช้ 2 ลูกก็พอ ส่วนผสมส่วนที่ 1 1. แอปเปิ้ล 2 ลูกใหญ่ 2. มะนาว 1 ลูกเล็ก 3. ผงอบเชย 1 ช้อนชา 4. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา 5. น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง ถ้าชอบน้ำผึ้งก็เปลี่ยนเป็นน้ำผึ้งได้นะคะ ส่วนผสมส่วนที่ 2 1. ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยตวง 2. เมล็ดฟักทอง 1/2 ถ้วยตวง 3. เมล็ดทานตะวัน 1/2 ถ้วยตวง 4. น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วยตวง 5. น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง 6. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ผ่าแอปเปิ้ลเอาเม็ดออกแล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป บีบมะนาวลงไปแล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว แอปเปิ้ลจะปอก หรือไม่ปอกก็ได้นะคะ ของแอนไม่ปอก เพราะไม่อยากให้เละเกินไปตอนสุก 2. ใส่ส่วนผสมส่วนที่ 1 ที่เหลือทั้งหมดลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน 3. ผสมน้ำตาลทรายแดง น้ำมันมะพร้าวและน้ำเปล่าให้เข้ากัน 4. ตามด้วยข้าวโอ๊ตเมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวัน ผสมให้เข้ากันดี 5. เทส่วนผสมของแอปเปิ้ลลงในถาดอบ ตามด้วยส่วนผสมข้าวโอ๊ต เกลี่ยให้หน้าเรียบๆ เข้าอบที่ไฟ 180 องศา อย่าลืมวอร์มเตาก่อนนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 35-40 นาที ออกจากเตาวางไว้ให้คลายความร้อนสัก 20 นาทีก็จะเสริฟได้เลยค่ะ คลิปวิธีทำค่ะhttps://youtu.be/B-1rI6L09O0 ภาพถ่ายโดยผู้เขียน
FitFoodFun • 12 พ.ค. 63
อ่าน
Apple ประกาศเตรียมเปิดตัว Apple Fitness+
Apple เตรียมเปิดตัวบริการApple Fitness + หรือบริการฟิตเนสออนไลน์ในวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคมนี้ โดย Apple Fitness + เป็นบริการที่จะให้เราได้ติดตามรับชมคลิปทริคการออกกำลังกายต่าง ๆ ผ่านทางiPhone, iPad หรือ Apple TV ในขณะที่จะใช้งานผสานร่วมกับApple Watch เพื่อบันทึกการออกกำลังกายของเราในช่วงเวลาดังกล่าว โดยสถิติที่สำคัญจะปรากฎขึ้นบนจอ และจะมีภาพเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นและมีส่วนร่วมกับเราในช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆApple Fitness + จะนำโดยผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพ ซึ่งมาพร้อมกับผลงานเพลงจากเหล่าศิลปินชั้นนำ โดยบริการดังกล่าวจะแบ่งหมวดการออกกำลังกายออกเป็น 10 หมวดดังนี้High Intensity Interval Training (HIIT)StrengthYogaDanceCoreCyclingTreadmill WalkTreadmill Run RowingMindful CooldownApple Fitness + จะอัปเดตการออกกำลังกายใหม่ ๆ เข้ามาในทุกสัปดาห์และทุกประเภทของการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม Apple Fitness + จะซัพพอร์ตiOS, iPadOS, watchOS และ tVOS เวอร์ชันล่าสุด ตัวบริการมีค่าบริการตกอยู่ที่9.99ดอลลาร์/ เดือน หรือ79.99 ดอลลาร์/ ปีสามารถแชร์กับสมาชิกในครอบครัวได้ถึง 6 คนในราคาเดียว โดยใครที่ซื้อApple Watch Series 3 หรือใหม่กว่าจะได้รับบริการฟรี 3 เดือนและผู้ใช้ Apple Watch ปัจจุบันจะได้รับบริการฟรี 1 เดือน นอกจากนี้ Apple Fitness + ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของApple One Premier ซึ่งมีบริการ Apple Music, Apple TV + และบริการอื่น ๆ อีกมากมายรวมอยู่ภายใน ในราคา29.95 ดอลลาร์/ เดือนwebsite:www.TNNTHAILAND.comfacebook :TNNONLINEfacebook live :TNN Livetwitter :TNNONLINELine :@TNNONLINEYoutube Official :TNNONLINEInstagram :TNN_ONLINETIKTOK :@TNNONLINEแหล่งที่มาmashable.com
TNN ช่อง16 • 10 ธ.ค. 63
อ่าน
วิธีลง Podcast บน Apple Podcasts
เอาล่ะ หลังจากเราได้รู้จักกับ พอดแคสต์ หรือ พอดคาสต์ และวิธีการลงพอดแคสต์บน Spotify กันไปแล้วจากบทความที่ผ่านมา (วิธีลง Podcast บน Spotify) ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการลง พอดแคสต์ บนแอปพลิเคชันที่ติดมากับอุปกรณ์ของแอปเปิ้ลอย่าง iPhone หรือ iPad กันนะครับ ซึ่งนั่นก็คือ Apple Podcasts หรือแอปพลิเคชันภาษาไทยจะแสดงชื่อว่า "พ็อดคาสต์" ส่วนใครที่ลบแอปพลิเคชันนี้ไปแล้ว ถ้าอยากฟังพอดแคสต์ก็สามารถดาวน์โหลดมาใหม่ได้จาก App Store ครับ หรือว่าหากใครไม่มีอุปกรณ์ของ Apple ก็ยังสามารถใช้หรือฟังได้บนคอมพิวเตอร์อยู่ครับ โดยฟังบนโปรแกรมiTunes ซึ่งคลิกเพื่อเข้าไปเลือกดาวน์โหลดได้เลย ลงชื่อเข้าใช้หรือสมัคร Apple ID ให้เรียบร้อยก็จะสามารถฟังพอดแคสต์ได้ครับ และถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมให้ไปที่นี่เลย Support Apple Podcastsขั้นตอนวิธีการลงพอดแคสต์บน Apple Podcasts ที่เราจะแนะนำต่อไปนี้นะครับ หลัก ๆ ขั้นตอนในช่วงแรกจะเหมือนกับขั้นตอนในบทความที่ผ่านมา (วิธีลง Podcast บน Spotify ) ในส่วนของการใช้ Podbean เป็นโฮสต์และการตั้งค่าบัญชีของ Podbean รวมถึงการอัปโหลดรายการของเราในแต่ละตอน เราจะยังคงใช้ Podbean เป็นโฮสต์อยู่ แต่จะขอขยายความขึ้นในเรื่องของการจำกัดพื้นที่ให้บริการของ Podbean ครับ โดย Podbean ถ้าสมัครใช้บริการฟรียูสเซอร์ทั่วไป จะให้พื้นที่ในการอัปโหลดรายการของเราประมาณ 5 ชั่วโมงครับ โดยระยะเวลาเป็นการรวมกันของทุกตอน และถ้าหากต้องการพื้นที่เพิ่มเติมแบบไม่จำกัด ก็จะต้องจ่ายค่าบริการแบบรายเดือน โดยจะมีแพ็คเกจดังนี้ และรายละเอียดดังภาพUlimited Audio 9$ ต่อเดือนUlimited Plus 29$ ต่อเดือนBusiness เริ่มต้นที่ 99$ ต่อเดือนขั้นตอนการลงพอดแคสต์บน Apple Podcasts โดยใช้ Podbean เป็นโฮสต์1. ไปที่ Podbean.com เพื่อเข้าสู่ระบบ2. ไปที่ Dashboard Setting Feed จากนั้นคัดลอก RSS Feed เอาไว้ (ในบทความนี้ผู้เขียนเขียนขั้นตอนให้รวบรัดขึ้น หากต้องการอ่านขั้นตอนอย่างละเอียด ให้เข้าที่บทความนี้ วิธีลง Podcast บน Spotify ซึ่งจะมีวิธีสร้างรายการ ตั้งค่ารายการ และอัปโหลดตอนของรายการ)3. เมื่อคัดลอก RSS Feed แล้ว ให้ไปที่ iTunes Connect จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วย Apple ID ให้เรียบร้อย4. เมื่อเข้าสู้ระบบแล้ว จะเข้าหน้าเมนูดังภาพ ให้เลือกที่ Podcasts Connect5. วาง RSS Feed ของเราที่คัดลอกจาก Podbean ที่ช่อง RSS Feed URL จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Validate บนขวามือเพื่อให้ทางระบบตรวจสอบ หากผ่านสามารถคลิกที่ Submit ได้เลย ในกรณีที่ไม่ผ่าน ระบบจะแสดงให้ดูว่าไม่ผ่านเพราะอะไร เช่น ภาพปกไม่ได้ขนาด เป็นต้น จากนั้นก็ให้ปรับแก้ตามคำแนะนำครับ จากภาพของผม ไม่ผ่านเพราะว่ารายการ บันไดเพลง ของผู้เขียนได้มีในระบบอยู่แล้ว ไม่สามารถลงซ้ำได้6. เมื่อ Submit และก็ให้รอระบบตรวจสอบประมาณ 1 สัปดาห์ และเมื่อได้รับการ Active แล้ว รายการของเราก็จะขึ้นในหน้า My Podcasts พร้อมเครื่องหมาย Active ดังภาพ7. เสร็จแล้วรายการพอดแคสต์ของเราก็จะแสดงบน Apple Podcast ทั้งในแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ของ Apple และ iTunesค้นพบเรื่องราวเสียงฟรีที่ทั้งสนุก ได้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจใน Apple Podcasts - Support Appleหากเพื่อนมีข้อสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามผู้เขียนผ่านทางช่องความคิดเห็นได้เลยนะครับ ทั้งนี้ในเรื่องของวิธีการขยายช่องทางการเผยแพร่พอดแคสต์ ยังมีอยู่อีกหลายวิธี ในบทความหน้าเราจะมีวิธีไหนมาแนะนำ ฝากติดตาม Nutshell ด้วยเด้อ ขอบคุณครับภาพจาก Podbean / App Store / iTunes Connectแคปเจอร์ โดย ผู้เขียน
Nutshell • 23 เม.ย. 63
อ่าน
[รีวิวที่พัก] APPLE A DAY RESORT KRABI
สวัสดีค่ะทุก ๆ คน อีกไม่นานก็จะถึงช่วงเวลาที่หลายๆ คนจะได้พักผ่อนกันยาว ๆ อีกแล้ว เรียกได้ว่าเป็นวันเทศกาลหยุดยาวที่ใคร ๆ ก็ต่างใจจดใจจ่อ นั่งนับวันรอคอยกันเลยทีเดียว จะเป็นเทศกาลอะไรไปเสียไม่ได้นอกจาก... วันสงกรานต์ หลาย ๆ คนที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวกันอยู่ คุณมาถูกที่ ถูกเวลาแล้วค่ะ เพราะวันนี้จีจะพาทุก ๆ คน ไปทำความรู้จักกับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ที่กำลังถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก จะเป็นโรงแรมอะไรนั้น ตามจีมาดูกันเลยค่ะ Go! Go! Go! ..... โรงแรมที่ว่าก็คือ Apple A Day Resort Krabi เพราะด้วยคาเรคเตอร์ ภาพรวมของโรงแรม ที่แปลก แตกต่างไปจากโรงแรมอื่นมาก ๆ ทำให้ Apple A Day ได้ขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวที่มีแผนเดินทางมายังจังหวัดกระบี่ เพราะนอกจากทำเลที่ตั้งจะดีเว่อร์ ๆ แบบชนิดที่ว่า เดินแค่ 5 นาทีก็ถึงชายหาด ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ และร้านอาหารชื่อดังมากมายแล้ว Apple A Day ยังมีอีกหลาย ๆ จุดที่จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์ จนร้องออกมาว่า ว้าว! ว้าว! ว้าว! แน่นอน เริ่มจากสิ่งแรกเมื่อคุณเดินทางมาถึงโรงแรมแห่งนี้ คุณต้องอดใจไม่ได้ ที่จะหยิบกล้องคู่ใจมาถ่ายภาพ กับเจ้าแอปเปิ้ลสีแดงผลโต ที่วางโดดเด่นอยู่บริเวณโถงบันไดทางขึ้น เรียกได้ว่ามุมนี้ถือเป็นจุดที่ต้องห้ามพลาด เป็นภาพที่ต้องมี เพราะแอปเปิ้ลสีแดงใหญ่ยักษ์ผลนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของ Apple A Day Resort Krabi เลยละคะ (แค่เห็นผลแอปเปิ้ลก็พอจะเร่ิมเข้าใจแล้วใช่ไม๊คะ ว่าทำไมที่นี่ ถึงมีชื่อว่า Apple A Day ) เซลฟี่ ถ่ายภาพกันหนำใจแล้ว เราต้องไปเช็คอินให้เรียบร้อยกันก่อน ระหว่างทางที่เดินเข้าไปเช็คอิน เสียงดนตรี เสียงนก เสียงน้ำ และกลิ่นหอม ๆ ในโรงแรม ที่ลอยมาเตะจมูก ทำให้จีแทบจะหลับลงตรงนั้น คือบรรยากาศดีมาก ฟินสุด ๆ แต่จียังหลับไม่ได้หรอกค่ะ เพราะตรงหน้าจี กำลังจะมีเวลคัมดริ้งมาเสริฟ์ สำหรับเวลคัมดริ้งของที่นี่ เป็นอะไรที่ดีมากด้วยหน้าตา และรสชาติ ไม่ใช่แค่การเสริฟ์น้ำดื่มเย็น หรือ น้ำชงน้ำชาเหมือนที่อื่น ๆ นะคะ แต่เวลคัมดริ้งของที่นี่คือ น้ำแตงโมปั่น หอมหวาน อร่อย ชื่นใจมาก ที่จีชอบสุด ๆ ก็คือ น้ำแตงโมปั่น ทางโรงแรมปั่นสด ๆ แก้วต่อแก้ว เกล็ดน้ำแข็งก็ละเอียดกำลังดี ณ จุดนี้จีให้คะแนนเต็มร้อยเลยค่าาา หลังจากเช็คอินเรียบร้อย จีรู้สึกได้เลยว่าจีคิดไม่ผิดที่เลือกมาพักกับ Apple A Day เพราะข้อมูลที่จีได้รับจากน้อง ๆ พนักงานทำให้จีรับรู้ได้ทันทีว่า โรงแรมแห่งนี้ใส่ใจแขกที่เข้าพักมากกกก (อยากใส่กอไก่ให้ล้านตัว) น้อง ๆ พนักงานบอกว่า หากจีอยากไปนั่งเล่นริมหาด ทางโรงแรมได้เตรียมกระเป๋าชายหาด เสื่อปูนั่ง ร่ม รองเท้าแตะ ไว้ให้ในห้องพักเรียบร้อยแล้ว หยิบใช้ได้เลย (โอ้โห้!!) และก็บอกให้จีทานขนมเครื่องดื่มในห้องได้เลยเต็มที่ ทางโรงแรมบริการฟรี และเติมเพิ่มให้ทุกวัน ( โอ้โห้!! โอ้โห้!! โอ้โห้!!) ที่สำคัญห้องพักก็สวยมาก ห้องกว้าง เตียงนุ่ม นวมอุ่น หมอนฟู แอร์เย็นฉ่ำ มีระเบียง มีโซฟาเบด ไว้นั่งมองวิวสวย ๆ สูดโอโซนธรรมชาติได้เต็มปอด ชื่นใจ๋ชื่นใจ :))) เรื่องของอาหารเช้า ก็สุดแสนจะเซอร์ไพรส์ ทุกคนค่ะที่นี่สามารถทานได้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง (**ย้ำอีกครั้งว่าทานได้ถึงเที่ยง) ซึ่งปกติแล้ว โรงแรมอื่น ๆ มักจะให้เวลาทานอาหารเช้าถึงประมาณช่วง 10.00 น. สำหรับคนชอบนอนตื่นสายอย่างจีแล้ว บางครั้งก็ตื่นไม่ทันค่ะ อดไปตามระเบียบ แต่สำหรับ Apple A Day มาเหนือมากเว่อร์ ไม่มีอะไรจะวิเศษไปกว่านี้อีกแล้วค่ะ อิอิ เรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ระหว่างวัน Apple A Day ยังมีห้องขนม ของว่างให้ทานกันฟรี ๆ ด้วยนะ จัดมาเต็มทั้งขนมไทย คุ้กกี้ ป๊อปคอร์น มากมายก่ายกอง กินกันไปจุก ๆ ยังค่ะ ยังไม่หมด ในห้องขนม ยังมีโต๊ะพลูให้เล่น มีมุมอ่านหนังสือ และว้าวมากกับมุมเธียร์เตอร์ เรียกได้ว่ากินไป ดูหนังไป แอร์เย็น ๆ ฉ่ำ ๆ คนจะดูหนัง หรือหนังจะดูคน อันนี้ก็ต้องลุ้นเอาค่ะ และอีกไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้จีรีบยกหูโทรศัพท์ ติดต่อจองห้องพักกับทางโรงแรมนั่นก็คือ สระว่ายน้ำ ตามภาพที่ทุกคนเห็นเลยค่ะ สระว่ายน้ำของที่นี่แซ่บมากเว่อร์ สระสีแดงสดกลางแจ้ง มีเตียงนอนอาบแดดบ่มผิว มีบาร์น้ำจิบคอกเทลเก๋ ๆ คีอดีไปอีกจ้ะแม่จ๋า หรือหากว่าใครเป็นสายเฮลท์ตี้รักสุขภาพ ที่นี่ก็มีห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องเล่นครบครัน ไว้ให้บริการด้วยน้า หรือถ้าใครอยากจะออกไปกินลมชมวิวในละแวกใกล้เคียง ก็สามารถยืมจักรยานออกไปปั่นได้อีกด้วย แต่สำหรับจี จีคิดว่าจีไม่คู่ควร จีเหมาะที่จะไปนั่งเล่นที่ห้องขนมมากกว่า อิอิ เป็นยังไงก้นบ้างคะ กับที่พักดี ๆ อย่าง Apple A Day Resort Krabi ที่จีนำมาแนะนำกัน การเข้าพักที่ Apple A Day ทำให้จีได้สัมผัสถึงการพักผ่อนที่แท้จริง ความรู้สึกเป็นกันเองของทุก ๆ คนที่นี่ ความสะดวกสบายแบบชนิดที่เกินไปมาก...ที่จีได้รับ บรรยากาศที่โปรดโปร่งโล่งสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่อง ฝุ่นพิษ PM2.5 การที่ได้ทานอาหารอร่อย ๆ ได้ออกเดินทางไปยังที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก ไม่ต้องเร่งรีบกับเรื่องราวใด ๆ จีว่าเพียงแค่นี้ ก็เพียงพอสำหรับการพักผ่อนที่จะทำให้ทุก ๆ คนประทับใจไปนานแสนนานแล้วค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาพักที่ Apple A Day Resort Krabi สามารถติดต่อสอบถาม สำรองจองหักพักได้ผ่าน 📞 (075) 638 234 , (096) 653 5017 📨 rsvn@appleadaykrabi.com หรือเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทาง www.appleadaykrabi.com ”แล้วคุณจะหลงรัก Apple A Day Resort Krabi เหมือนที่จีรัก” 🍎
Gee Hirudoid • 6 มี.ค. 63
อ่าน
apple cider เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
apple cider คืออะไร ? เป็นน้ำส้มสายชูหมักที่ผลิตจากการนำแอปเปิ้ลมาบ่มรวมกับยีสต์ โดยในกระบวนการนี้จะเกิดกรดอะซิติก (Acetic Acid) หรือกรดน้ำส้ม ซึ่งเป็นสารชีวภาพจากการบ่มหรือหมัก ทำให้แอปเปิ้ลไซเดอร์มีรสเปรี้ยวและมีประโยชน์มากมาย https://urlth.me/jBQzv ประโยชน์ ของ apple cider มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับคนเป็นโรคเบาหวานช่วยลดน้ำหนัก เพราะ apple cider ชวยให้อิ่มเร็วช่วยย่อยอาหาร เพราะใน apple cider มีกรดที่มีส่วนช่วยในการย่อยโปรตีน และไขมันทำงานได้ดีช่วยขับของเสีย สารแอนตี้ออกซิแดนท์ในapple cider สามารถฆ่าเชื้อโรคได้หลายชนิดจึงมีผู้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์เพื่อดีทอกซ์ ทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร และช่วยกระตุ้นการขับสารพิษของไต https://urlth.me/pixabay วิธีดื่ม apple cider เนื่องจาก apple cider มีฤทธิ์เป็น กรด หากดื่มทันทีจะมีผลต่อเคลือบฟัน ต้องทำให้เจือจางก่อน วิธีการดื่มแบบง่ายๆ คือ ผสมกับน้ำในอัตราส่วน น้ำ 1 แก้ว ต่อ apple cider 1-2ช้อนโต๊ะ ข้อควรระวัง และ โทษจากการดื่ม apple cider มีประโยชน์ก็มีโทษเหมือนกัน ไม่ควรดื่มโดยไม่ผสมอะไรเลยเพราะอาจจะไปทำลายเนื้อเยื่อปากและลำไส้ผู้ป่วยเป็นโรค กระดูกพรุน โรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรดื่มเกินปริมาณที่แนะนำข้างขวดหลังการดื่มควรบ้วนปากป้องกันปัญหาเคลือบฟันกร่อนapple cider มีส่วนช่วยในการรักษาโรค แต่ไม่มีงานวิจัยระบุแน่ชัดว่าสามารถรักษาโรคได้ 100 % วิธีการเลือกซื้อและเก็บรักษา ควรเลือกซื้อแบบบรรจุในขวดแก้ว มีฉลากระบุชื่อ แหล่งผลิต มีเครื่องหมาย อย.และ มอก. ที่ฉลากมีระบุวันหมดอายุต้องไม่หมดอายุ เมื่อเปิดขวดใช้งานแล้วควรปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่แห้งและมืด เพื่อป้องกันการระเหยและยืดอายุการเก็บรักษาCr ถ่ายโดยผู้เขียนจะเห็นได้ว่า apple cider มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ราคาต่อขวด อยู่ที่200-400 บาท ซึ่งสามารถชงดื่มได้หลายแก้วหากอยากทานอาหารบำรุงสุขภาพ apple cider จัดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว Cr ภาพ ปกถ่ายโดยผู้เขียน
Damnman • 9 มี.ค. 63
อ่าน
Apple Museum "เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของ Apple และหาแรงบันดาลใจจาก สตีฟ จ็อบส์"
เชื่อว่าในทุกวันนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ สตีฟ จ็อบส์ และผลงานสิ่งประดิษฐ์มากมายของเขา โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Apple ที่เป็นสมาร์ทโฟนยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ในทุกวันนี้ แต่ถึงแม้ว่าสตีฟ จ็อบส์ จะได้จากโลกนี้ไปได้หลายปีแล้วก็ตาม แต่ผลงาน และแรงบันดาลใจของเขาก็ยังคงสร้างอิทธิพลต่อบรรดาคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องราวของเทคโนโลยี การทำงาน ไปจนถึงการใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการเปิดตัว พิพิธภัณฑ์ Apple Museum ศูนย์รวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Apple ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านชีวประวัติของ สตีฟ จ็อบส์ โดยตั้งอยู่ที่กรุงปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็กApple Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมประวัติศาสตร์ของ Apple ผ่านสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ในช่วงปี 1976 จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอม Macintosh ,iPad, iPod มาจนถึง Iphone และ Mac ซึ่งคอมพิวเตอร์ หรือสินค้าบางรุ่น กลายเป็นของที่ยากจะหาชม อย่างเครื่อง Apple II ที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่ จ็อบส์ ยังทำให้ให้กับ NeXT หรือจะเป็นการเล่าเรื่องราววิวัฒนาการของ Ipod และ Iphone แต่ละรุ่น ตั้งแต่เริ่มต้น มาจนถึงปัจจุบันนอกจากการได้ความรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Apple และสินค้ารุ่นต่างๆ แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ ยังได้มีการรวบรวมของสะสมหายากที่เกี่ยวข้องกับ สตีฟ จ็อบส์ ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนามบัตรของเขา เมื่อสมัยที่ยังทำงานให้กับ Pixar หนังสือรุ่น และเอกสารเซ็นสัญญา ในช่วงที่เขาทำงานให้กับ NeXT และ Apple ไปจนถึงนิตยสาร Time ฉบับที่มี จ็อบส์ ขึ้นหน้าปก ที่สำคัญ Apple Museum ไม่ได้แค่นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์สำคัญของ Apple และจ็อบส์ เท่านั้น แต่ภายในพิพิธภัณฑ์ ได้มีการทำแกลลอรี่ ที่ได้รวบรวมแนวคิด และแรงบันดาลใจในการทำงานของ จ็อบส์ ตกแต่งอยู่ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์ ให้ผู้ที่เข้ามาชมได้แวะอ่าน แวะชมหาแรงบันดาลใจ และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบ Apple หรือสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ และแรงบันดาลใจ จาก สตีฟ จ็อบส์ Apple Museum ถือว่าเป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะตั้งอยู่ที่ ถนน Husova และ Karlova โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. แบ่งราคาค่าเข้าชมเป็น 5 เรทราคาด้วยกัน ได้แก่ ผู้ใหญ่ 11 ยูโร ,นักเรียน 8 ยูโร ,เด็ก 5 ยูโร ,ครอบครัว 26 ยูโร และคนพิการ 3 ยูโร ใครสนใจสามารถเข้าไปจองตั๋วล่วงหน้าที่ที่ ticket.applemuseum ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.shutterstock.com/
Poklubu • 17 ธ.ค. 62
อ่าน
น่ารักได้อีก! ศิลปินไทย เริ่ม Cover PPAP เพลงดัง Pen Pineapple Apple Pen
ดังกันข้ามวัน กับเทรนด์ PPAP เพลง Pen Pineapple Apple Pen ที่แชร์กันสนั่นเต็ม Feed และ Social โดย คลิปนี้ นำโดย ศิลปิน ชื่อ PIKO-TARO ร้องเพลงชื่อ Pen-Pineapple-Apple-Pen หรือ PPAP ผ่านไปเพียงเดือนเดียว ก็กลายเป็นคลิป Viral ไปแล้ว แถมฮิตในกลุ่มวัยรุ่นญี่ปุ่น จนมีคนนำไป Cover มากมายทำความรู้จัก คุณ PIKO-TARO หรือ คุณคาซูฮิโตะ โคซากะ (Kazuhito Kosaka) ถือเป็นนักแสดงตลก นักดนตรี NBR (NEW BUSHIDOU RAVERS) เคยออกอัลบั้ม Anvil เมื่อปี 2009 โดยใช้ชื่อ Old Bandai devilต้นฉบับ PPAPPIKO-TARO เป็นงานดนตรีที่สร้างตัวตนและเอกลักษณ์ขึ้นมา แต่ไม่บอกว่าเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร แต่ก็ดัง จนตอนนี้ เข้ามาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ก่อนหน้านี้จะเห็นแต่คนญี่ปุ่น เต้น PPAP กัน ตอนนี้ ศิลปินไทยก็เริ่มทำคลิป Cover ออกมากันแล้วน้ำ AF11 ก็มา!! PPAP (Cover) น้ำ กัญกุลณัช Nam AF11เบนซ์ AF12#PPAP pic.twitter.com/l1hcvMk7vO— เบนซ์หญิง (@Benzaf12) September 26, 2016 Beer PPAA Cover- Pen Pineapple Apple Pen Totalitas bnget @Regrann from @xhlrud PPAP parody #PPAP #GoToe #regrann #penapplepineapple #lucu #lawak #funny วิดีโอที่โพสต์โดย @dewild46 เมื่อ ก.ย. 25, 2016 เวลา 9:13pm PDTเนื้อร้อง PPAP มา ฝึกร้อง กันPPAP.I have a pen I have a Apple, Uh! Apple-pen. (Apple-pen !)I have a pen I have Pineapple, Uh! Pineapple-pen. (Pineapple-pen !)Apple-pen , Pineapple-pen Uh! Pen-Pineapple-Apple-PenPineapple-penPen-Pineapple-Apple-pen (Pen-Pineapple-Apple-PenPineapple-pen !)หรือจะเป็นเวอร์ชั่นสุดฮาจาก เสือร้องไห้Music Truelife อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากลข่าว Gossip พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจและติดตามพวกเราชาว Entertainment Truelife ได้ที่นี่
ข่าวเพลงต่างประเทศ • 27 ก.ย. 59
อ่าน
แชร์ประสบการณ์ ใช้แบรนด์ 'Apple' ครั้งแรก
เมื่อ ช่วงที่ iPhone 13 Pro Max เริ่มเปิดตัว มือถือเราได้เสียพอดี เสียแบบซ่อมไม่ได้ และมันจำเป็นมาก ที่จะต้องซื้อใหม่ทันที เพราะเราใช้มือถือทำงานทุกวัน เครื่องเก่าของเรา เป็นระบบแอนดรอยด์ เมื่อต้องตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ จึงเลือกซื้อ iOS หรือแบรนด์ Apple เป็นรุ่นที่ไม่ใหม่มาก คือ iPhone 7+ สีดำ / ความจุ 32GB ซื้อมือ 2 มานะคะ ตอนนั้นซื้อมาในราคาแค่ 4,500 บาท ไม่ถึง 5,000 บาท เหตุผลที่เลือกรุ่นนี้คือ น้องที่รู้จักก็ใช้อยู่ และเราก็เคยได้สัมผัสฟังก์ชั่น เครื่องของน้องมาบ้างแล้ว จึงคิดว่าดีแน่นอน และมันก็ดีแบบที่คิดเอาไว้ด้วยสิ เมื่อเราต้องเปลี่ยน จากแอนดรอยด์มาใช้ ios มันคือจุดเปลี่ยนของเราค่ะ ความไม่เคยชิน คือจริงๆ เรามีพื้นฐานในการใช้มือถืออยู่แล้ว แค่อ่านออก เขียนได้ แต่ฟังก์ชั่น มันจะคนละแบบกันเลย มาพูดถึง ความประทับใจ ความคุ้มค่าในตัว iPhone 7+ กันค่ะ….iPhone 7+ ตัวนี้ พูดถึงคนที่ไม่เคยใช้ไอโฟน ก็คือดีกว่าแอนดรอยด์ ในระดับหนึ่ง ทั้งฟังก์ชั่น กล้องถ่ายรูป รูปแบบเครื่อง รวมถึง ความสะดวกสบายด้วย ที่ชอบๆ ประทับใจจริงๆ เลย ก็คือ กล้องของตัวเครื่องรุ่นนี้ สวยมาก ต่างจากแอนดรอยด์ สามารถ ปรับให้เป็นธรรมชาติ ถ่ายโหมดสโลโมชั่น โหมดโฟกัสส่วนบุคคลได้ แต่ที่ประทับใจอีกจุดนึงก็คือ เครื่องรุ่นนี้ ดีไซน์แบบบางเหมาะกับมือมาก จับหรือถือ สะดวกสุดๆภาพด้านล่าง เป็นภาพถ่ายธรรมชาติ โดยกล้องสดไอโฟน 7+ 👇🏻👇🏻และรูปด้านล่างนี้ คือรูปที่ แต่งจาก ไอโฟน 7+ ของเราเอง👇🏻👇🏻และรูปด้านล่างนี้ ถ่ายโดย โหมดภาพส่วนบุคคล จาก iPhone 7+ ทำให้ เห็นจุดเด่น จุดโฟกัส ของภาพที่ถ่ายออกมาอย่างชัดเจน อย่างที่บอกเลยค่ะ ภาพถ่ายบุคคลนั้น โฟกัสตรงจุด คมชัดลึก โหมดนี้ถูกใจใครหลายๆคน โดยเฉพาะ ผู้เขียนเอง 555👇🏻👇🏻👇🏻จุดพีคสุด คือ ในระหว่างที่เรากำลังสนุกกับการใช้มือถือ7+ เครื่องใหม่เครื่องนี้ มีการประกาศจาก Apple ถึงเรื่องมือถือรุ่นที่ไม่ได้ไปต่อคือ อัพ iOS16 ต่อไม่ได้แล้ว และแน่นอน หนึ่งในรุ่นที่ไม่ได้ไปต่อคือ 7+ ความรู้สึกคือ เราเพิ่งซื้อรุ่นนี้มานะ ทำไมโชคไม่เข้าข้างเราเลย 555 มันอารมณ์แบบ จะตัดก็ไม่ได้ เพราะเพิ่งซื้อมาใช้ จะไปต่อรุ่นนี้ก็ยังใช้โอเคดีอยู่ และฟังก์ชั่นทั้งหมด แต่ก็ไม่เคยกังวลเลยเพราะ เราใช้มามันคือดีมากๆแล้ว ยังตอบโจทย์การใช้ของเราได้ดี ถึงจะอัปเดตไม่ได้ เราก็ยังสามารถใช้ iPhone เครื่องนี้ปกติ ไม่ติดปัญหาอะไรเลย มันจะโชคดีแค่ไหน ที่ได้เครื่องราคาถูกๆ ไม่ถึง 5,000 บาท แถมใช้ได้ทุกฟังก์ชั่น ไม่ติดไอคราว ไม่มีปัญหาใดๆในการใช้เลย แถมยังเป็นมือ 2 ด้วย เราว่ามันคุ้มมากๆ เพราะตอนนี้ นับตั้งแต่วันที่ซื้อมา ก็เข้าเดือนที่ 4 ที่ 5 แล้ว เครื่องก็ยังไม่เคยมีปัญหาอะไร สำหรับคนที่อยากใช้ iPhone แต่มีงบไม่ถึงรุ่นดีๆ เราแนะนำเลยไอโฟน 7+ ยังใช้ได้ดีอยู่ และ ยังดูหรูหราตามรุ่นของมัน ใช้ทำงาน แต่งรูปต่างๆนาๆ ราคามือ 2 ตอนนี้ ก็ไม่แพงแล้วด้วยอาจจะไม่ถึงราคาที่เราซื้อด้วยซ้ำ และตอนนี้ เราเองก็ยังใช้อยู่ค่ะ และคิดว่าจะใช้อีกยาวเลย เพราะมันดีและทนมือมาก ตอนนี้ ถ้าขาดเจ้า7+ เครื่องนี้ไป คงแย่ เพราะมันเป็นทุกอย่างของเราไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็น Apple รุ่นไหน มันก็คงดีไม่ต่างกัน ในฐานะที่เราใช้ รุ่นนี้อยู่ เราจึงมาบอกต่อถึงความประทับใจ ความคุ้มค่าของมันให้ทุกคนอ่านกัน ขอบคุณสำหรับ การติดตามอ่านบทความของ ploy ครีเอเตอร์ และอย่าลืมกดถูกใจ บทความของเรานะคะ ฝากติดตามบทความอื่นๆกันด้วยนะคะ…เครดิตภาพหน้าปก และ ในบทความทั้งหมด จาก ploy ครีเอเตอร์เองค่ะเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ploy • 23 ต.ค. 65
ดูเพิ่มเติม