TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “Android” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
Smart TV, Android TV, Android TV Box เลือกซื้ออะไรดี
ในยุคที่ทีวีจำเป็นต้องมี Internet นั่นทำให้ผู้ที่คิดซื้อทีวีใหม่ต้องปวดหัวอยู่ไม่น้อย เมื่อคิดไม่ตกว่าแล้วจะเลือกอะไรดี Smart TV, Android TV หรือจะใช้ทีวีเครื่องเดิมคู่กับ Android TV Boxหากเราจะแยกย่อยตัวเลือกที่มีให้เลือกในยุคนี้ที่เห็นกันจนชินตา สามารถแยกได้ 3 ประเภท ดังนี้1. Smart TV2. Android TV3. Android TV Boxซึ่งหากท่านกำลังจะเลือกซื้อ และเลือกไม่ถูกว่าจะเอาแบบไหนดี ทางเลือกแบบง่ายที่สุด สามารถพิจารณาได้ดังนี้1. Smart TV ถือเป็นทีวีที่ใช้งานได้สะดวกที่สุดในกลุ่ม เพราะตัวทีวีกับแอปนั้นได้ถูกออกแบบมาให้ลงตัวด้วยกันตามที่ผู้ผลิตได้จัดการไว้ ดังนั้นจึงมีความลงตัวอย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นแอปดูภาพยนตร์อย่าง Netflix, YouTube ที่ทางผู้ผลิตจะจัดสรรไว้ให้ในทีวีเรียบร้อยแล้ว ขณะที่การบังคับควบคุมเมนูต่าง ๆ สามารถทำได้บนรีโมททีวีเครื่องนั้น ๆ โดยตรง ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมให้ยุ่งยาก ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกต่าง ๆในขณะที่ก็จะต้องมีข้อเสียอยู่บ้าง คือ การจัดการของแอปต่าง ๆ ในทีวีนั้นขึ้นกับผู้ผลิตทีวีเป็นหลัก โดยบริษัทเหล่านี้คือผู้จัดการหลักของแอปที่ใช้ในทีวีเครื่องนั้น ๆ ดังนั้น จำนวนแอปที่นอกเหนือจากที่มีอยู่ในทีวีตามที่ผู้ผลิตจัดไว้ให้อยู่แล้วอาจไม่สามารถทำการติดตั้งได้ จึงเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ Smart TV ทุกยี่ห้อที่ผู้ซื้ออาจจะไม่ชอบใจในข้อจำกัดของการติดตั้งแอปเพิ่มเติม2. Android TV จะเป็นอย่างไร ถ้าหากว่าเราจับระบบแอนดรอยด์เข้าไปไว้ในทีวีเสียเลย ซึ่ง Android TV คือคำตอบ และแน่นอนว่า มันยืดหยุ่นกว่า Smart TV อยู่มาก เพราะทีวีเครื่องนั้นสามารถใช้งานในรูปแบบของแอนดรอยด์ได้เลย ไม่ต้องใช้ระบบที่ทางผู้ผลิตจัดการให้ในแบบ Smart TV โดยสามารถเข้าติดตั้งแอปเพิ่มได้จาก Google Play โดยตรง และมีความสามารถอื่น ๆ เหมือน Smart TVโดยที่ข้อเสียคือเรื่องของตัวแอปที่ติดตั้งได้นั้นมักมีข้อจำกัด คือต้องเป็นแอปที่รองรับกับทีวีเท่านั้น และแน่นอนว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป อุปกรณ์ที่ติดมากับเครื่องก็จะล้าสมัย และไม่สามารถใช้งานกับแอปใหม่ ๆ ได้เป็นเรื่องปกติ3. Android TV Box จัดว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มองข้ามไม่ได้ ในด้านการใช้งานอาจจะต้องแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ3.1. Android TV Box ที่รองกับกับแอปทีวีโดยตรงและได้รับการรับรองจาก Google อาทิ TrueID TV ซึ่งมีโปรโมชั่นมากมาย , Xiaomi Mi Box หรือ Nvidia Shield ซึ่งการใช้งานจะเหมือนกับ Android TV ไม่ยุ่งยาก แอปต่าง ๆ ใช้งานตามมาตรฐานที่เครื่องรองรับ ทำให้การใช้งานนั้นสะดวกและใช้งานผ่านรีโมทของเครื่องได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่ม ซึ่งถ้าใครไม่ชอบความยุ่งยาก Android TV Box แบบนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด3.2. Android TV Box ทั่วไป หรือที่เรามักเรียกว่า กล่องแอนดรอยด์ ซึ่งเห็นคุ้นชินตากันมาหลายปี โดยแตกต่างจาก Android TV Box ข้างต้น เพราะการใช้งานเป็นการจำลองแอนดรอยด์บนสมาร์ทโฟนออกมาตรง ๆ คล้ายกับเอามือถือมาใส่ทีวี นั่นหมายถึงการใช้งานที่ยุ่งยากกว่า เพราะรีโมทที่แถมมาจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานจำเป็นต้องหาซื้อคีย์บอร์ด หรือเมาส์เพิ่มเติม สุดแต่ใครชื่นชอบแบบไหน เพราะมีทั้งคีย์บอร์ดแบบเล็ก ๆ ที่มีทัชในตัว หรือจะใช้คีย์บอร์ดพร้อมเมาส์ก็ย่อมได้ แม้จะมีการใช้งานที่ยุ่งยาก แต่สามารถเข้าใช้งานได้แทบทุกแอปที่ Smartphone ใช้ได้ และนั่นรวมถึงแม้กระทั่งการเล่นเกมด้วย จึงมีความหลากหลายในด้านการใช้งานมากที่สุด แต่ผู้ใช้ต้องมีความชำนาญในด้านการใช้งานมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ข้างต้นอยู่สักเล็กน้อยดังนั้นแล้ว หากท่านตัดสินใจจะหาซื้อ ทีวี หรือจะเลือกใช้ ทีวีเครื่องเดิมคู่กับ กล่องแอนดรอยด์ ขอให้ลองพิจารณาจากการใช้งานของท่านเป็นหลัก หากท่านเป็นเพียงแค่ผู้ใช้ที่กลับบ้านนอนเอนหลังเปิดทีวีดู ทีวีแบบ Smart หรือ Android ย่อมเข้ากับท่านได้มากกว่า ในขณะที่หากท่านคือผู้ที่ใช้งานจริงจังชอบการปรับแต่ง หรือการหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับทีวีของท่านเพิ่มเติม Android TV Box ย่อมตอบโจทย์ได้ดีกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมศึกษาคุณสมบัติ Specification ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ CPU, RAM, GPU หรือ พื้นที่เก็บข้อมูล ให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกซื้อขอบคุณภาพประกอบปก TrueIDภาพ 2 Pixabay - ADMCภาพ 3 True Storeภาพ 4 Pixabay - Alehandra13ภาพ 5 unsplash - Erik Mclean เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
DoctorSee • 9 ก.พ. 65
อ่าน
ฟีเจอร์ถ่ายโอน eSIM บน Android จะมาพร้อมกับ Android 14
iPhone ถือว่าเป็นผู้นำที่เอา eSIM มาใช้งานกับ iPhone รุ่นต่าง ๆ และมีฟีเจอร์การถ่ายโอน eSIM ไปยัง iPhone รุ่นใหม่ได้ ในฝั่งของ Android ก็กำลังมีฟีเจอร์ถ่ายโอน eSIM ด้วยวิธีการสแกน QR Code ในก่อนหน้านี้เดือนกุมภาพันธ์ Google ประกาศว่าจะเพิ่มความสามารถใหม่ในการถ่ายโอน eSIM ไปยังเครื่อง Android อีกเครื่องภายในปีนี้ที่จะทำให้ผู้ใช้งานที่มีสมาร์ตโฟน Android เครื่องใหม่ถ่ายโอน eSIM ได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งในก่อนหน้านี้หากผู้ใช้งาน Android ต้องการถ่ายโอน eSIM จำเป็นต้องไปที่ผู้ให้บริการ, ยกเลิก eSIM เครื่องเดิม และลงทะเบียนสแกน QR Code eSIM เครื่องใหม่ First look – Google has already announced & working on the capability of transferring your eSIMs. Initiate transfer on current device, scan the QR displayed on other device on which you want to transfer it. Once scanned, you need to complete the process on your other device. pic.twitter.com/PmO2X4W1c9— AssembleDebug (@AssembleDebug) August 21, 2023 การค้นพบฟีเจอร์ใหม่นี้ถือพบโดยผู้ใช้งานบัญชี X (เดิม : Twitter) ชื่อว่า AssembleDebug ได้โพสต์รูปภาพการทำงานของฟีเจอร์ถ่ายโอน eSIM ด้วยการสแกน QR Code คาดว่าฟีเจอร์ถ่ายโอน eSIM จะมาพร้อมกับ Android 14 เวอร์ชันตัวเต็ม ที่มา : Android Authority พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
แบไต๋ • 22 ส.ค. 66
อ่าน
เรื่องดี ๆ ของ ANDROID
สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ แต่ก็ยังลังเลอยู่ว่าจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการอะไร ระหว่าง IOS ก็ดี ANDROID ก็โดน เลือกไม่ถูกกันเลยว่าจะเอาสมาร์ทโฟนของระบบไหนมาอยู่ข้างกายกันดีครั้งนี้นายหมีตัวดีจะขอออกมาอวย ANDROID ให้ คุณ ๆ ท่าน ๆ ต้องตกอยู่ในภวังค์มนต์สะกดเสน่ห์ของเจ้ายักษ์เขียวตัวนี้กัน ว่ามันมีดีอะไรถึงเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกราคาการจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องนั้น ความคิดแรกของคุณ ๆ ท่าน ๆ หลายคน ที่วิ่งเข้ามาในหัวเลยก็คือ ราคา ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ของราคาของสมาร์ทโฟนทางฝั่ง IOS นั้น มีราคาที่รุนแรงกว่าทางฝั่ง ANDROID หากเทียบกันด้วยสเปกของตัวเครื่องแบบหมัดต่อหมัด มันจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ ANDROID จึงมัดใจกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนราคาประหยัดได้มีตัวเลือกที่เยอะกว่าสำหรับ สมาร์ทโฟนที่มีอยู่ในท้องตลาดที่มีอยู่ตอนนี้นั้น ต่างมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน ถ้าจะนำสมาร์ทโฟนสักเครื่องมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรานั้น อีกเหตุผลนึง ที่ใช้เป็นตัวเลือกในการเลือกระบบปฏิบัติการก็คงจะเป็นเรื่องของออปชั่นและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของค่ายสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการนั้น ว่ามันจะตอบโจทย์การใช้งานของเรา ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายรูป อัดวิดีโอ ใช้เป็นเกมส์มิ่งเกียร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตรงนี้ขอบอกได้เลยว่าจุดนี้เป็นจุดที่ทางแอนดรอยได้เปรียบทาง IOS แบบสุด ๆ มันก็ด้วยเหตุผลที่ว่าทางแอนดรอยด์มีพันธมิตรมากหน้าหลายตา แล้วเจ้าแบรนด์ต่าง ๆ นั้น ก็แข่งขันกันที่จะชูโรงสมาร์ทโฟนแบรนดฺของตนในนามของ ANDROID กันอย่างสุดฤทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น ASUS ROGPHONE ที่ชูจุดเด่นของตนว่าเป็น สมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับเหล่าเกมส์เมอร์ HUAWEI ตระกูล P-series ที่ได้จับมือกับแบรนด์กล้อง DSLR ระดับโปรอย่าง LEICA ซึ่งก็ได้เคลมตัวเองว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปออกมาโปรที่สุดในตอนนั้น หรือระบบชาร์จเร็วที่ทางแบรนด์ต่าง ๆ ภายใต้ระบบ ANDROID ต่างแข่งขันกันแย่งชิงความเป็นที่หนึ่งในด้านนี้ ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ที่มีตัวเลือกให้เลือกกันมากขนาดนี้ความอิสระในการใช้งานด้วยความที่ทาง IOS ออกตัวแรงเลยว่าทางระบบของเขาเป็นระบบที่มีความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลของผู้ใช้งานสูงมาก ๆ ซึ่งนี้ก็ถือเป็นข้อดีหลักของทาง IOS เลยก็ว่าได้ แต่ก็ใช่ว่ามันจะถูกใจใครหลาย ๆ คนเสมอไป เมื่อข้อเสนอที่ทางแบรนด์ผลไม้เสนอให้นั้นมันต้องแลกด้วยอิสระบางอย่างที่หายไป ซึ่งหากใครเคยใช้ระบบปฏิบัติ IOS คงต้องยอมรับเลยว่าการจะเปลี่ยนฟีเจอร์การใช้งานบางอย่างได้ตรงที่เราต้องการนั้น มันช่างเป็นเรื่องยาก หรืออาจเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งต่างจาก ANDROID ที่ทาง GOOGLE และผู้ร่วมพัฒนาเขาได้ให้ความสำคัญถึงจุดนี้ เราจึงได้เห็นลูกเล่นมากมายที่ใช้ในการเติมเต็มความต้องการสำหรับการอวย ANDROID ของ นายหมีตัวดี ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ แต่สำหรับสาวก IOS ไม่ต้องน้อยใจนายหมีตัวดี กันนะครับ ไว้โอกาสหน้า นายหมีตัวดี ขอมาเล่าเรื่องดี เรื่องเด่นของทาง IOS ให้ได้ฟังกัน ครั้งนี้ขอตัวไปก่อนแล้วครับขอขอบคุณภาพปก : Pixabayขอขอบคุณภาพประกอบที่ 1 , 2 , 3 : unsplash
นายหมีตัวD • 23 เม.ย. 63
อ่าน
ปัญหาระบบจัดการเบื้องหลังแอปพลิเคชัน Android จะถูกแก้ไขใน Android 14 และ OneUI 6.0
Android และ Samsung จับมือพันธมิตรร่วมกันแก้ไขปัญหาระบบจัดการเบื้องหลังแอปพลิเคชันที่ส่งผลต่อการจัดการพลังงานจะถูกเปิดตัวครั้งแรกใน Android 14 และ OneUI 6.0 ปัญหาคาราคาซังที่ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ทุกคนจะต้องประสบพบเจอทุก ๆ เวอร์ชันคือ ระบบจัดการเบื้องหลังแอปพลิเคชัน Android โดยแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะใช้งานทรัพยากรของเครื่องเป็นจำนวนมากที่รวมไปถึงแบตเตอรี่, ซีพียู และหน่วยความจำ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องโดยรวมทำงานได้ช้าลง, อายุของแบตเตอรี่สั้นลง และไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้ต่อเนื่องเพราะ แอปพลิเคชันบางตัวถูกปิดตัว หรือถูกฆ่าทิ้งโดยอัตโนมัติ แต่ปัญหาดังกล่าวจะถูกแก้ไขด้วยความร่วมมือพันธมิตรระหว่าง Android และผู้ผลิตโทรศัพท์รายใหญ่ของโลกอย่าง Samsung ที่จะมาครั้งแรกในระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่จะถูกเปิดตัวในงาน Google I/O 2023 และ OneUI 6.0 ที่จะมาในปลายปีนี้ ซึ่งทาง Google ก็ได้บอกว่า Samsung จะเป็นพันธมิตรรายแรกสำหรับการจัดการปัญหาดังกล่าวร่วมกัน และ OneUI 6.0 จะเป็นระบบปฏิบัติแรกที่มีระบบจัดการเบื้องหลังแอปพลิเคชันที่ดีที่สุดตามเป้าหมายของ Android 14 ที่วางเอาไว้ และทาง Samsung ก็ได้พูดถึงผู้ใช้ทุกคนสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ผู้ใช้ Samsung ที่รับการอัปเดต OneUI 6.0 ในปลายปีนี้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากยิ่งขึ้น ที่มา : Android Developer Blog, Android Police, 9to5Google
แบไต๋ • 8 พ.ค. 66
อ่าน
สัดส่วนผู้ใช้ Android 13 เพิ่มเป็น 5% ของอุปกรณ์ Android ทั้งหมดภายในเวลา 5 เดือน!
แผนภูมิล่าสุดจาก Google เกี่ยวกับส่วนแบ่งผู้ใช้ Android เวอร์ชันต่าง ๆ มีการอัปเดต Android 13 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และพบว่า ปัจจุบัน OS เวอร์ชันนี้มีผู้ใช้งานเป็นสัดส่วนถึง 5% แล้วภายใน 5 เดือน ปกติแล้ว Google จะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนการใช้งาน Android เวอร์ชันต่าง ๆ ออกมา โดยจุดประสงค์หนึ่งก็เพื่อแจ้งให้นักพัฒนาทราบว่า ปัจจุบันพวกเขาควรมุ่งเป้าไปที่เวอร์ชันใด ตอนที่ Android 13 เปิดตัวนั้นมีเพียง Google Pixel อย่างเดียวที่ได้ใช้ OS ดังกล่าวก่อนใครเพื่อน หลังจากนั้น Samsung ก็ปล่อยอัปเดต OneUI 5 ออกมา และตามมาด้วย OnePlus และ Sony ที่ปล่อยอัปเดต Android 13 ในปีที่แล้ว ช่วยให้สัดส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ Android 13 เพิ่มมากขึ้น แม้ Android 13 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น แต่จำนวนผู้ใช้ Android 12 ก็ไม่ได้ลดลงเช่นกัน ตรงกันข้ามกลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ โดยเมื่อเทียบกับแผนภูมิเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 จะพบว่า Android 12 มีสัดส่วนอยู่ที่ 13.5% แต่แผนภูมิล่าสุด ณ มกราคม 2023 กลับมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นที่ 18.90% แล้ว ในอนาคต Android 13 ก็จะยิ่งมีสัดส่วนผู้ใช้งานมากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบัน โดยทางทีมผู้พัฒนาระบบ Android ก็มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ เสมอหลังจากการเปิดตัวในเดือนสิงหาคม อีกทั้งการร่วมมือระหว่าง Google และ Windows ก็จะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง Android และ Windows 11 ทำได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นล่าสุด Qualcomm ก็มีการเปิดตัวชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่รองรับ Wi-Fi 7 และเพิ่มประสิทธิภาพของ AI, Unreal Engine 5 รวมถึงเปิดตัวบริการดาวเทียมสำหรับ Android อีกด้วย ที่มา: Techspot
แบไต๋ • 21 ม.ค. 66
อ่าน
Fleeceware จาก Android สู่ App Store
ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือทั้งหลายไม่ว่าใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ iOS ต่างก็ต้องเจอกับปัญหาเรื่องของสิ่งที่จะตามมารบกวนจิตใจของผู้ใช้งานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในรูปแบบ มัลแวร์ หรือ แอปพลิชันที่มาในรูปแบบการดักจับข้อมูล ล้วนแล้วแต่ที่จะเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น แต่ก็ยังพอเบาใจได้เพราะสองปัญหาที่ว่ามาข้างต้นนั้นจะหายไปก็ต่อเมื่อลบแอปพลิเคชันนั้นทิ้งไปหรือเพียงแค่รีเซตเครื่องใหม่ปัญหาเหล่านั้นก็จะหายไป แต่ถ้าเจอเข้ากับ Fleeceware กลับไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นแถมยังจะต้องมาเสียตัวโดยใช่เหตุในบางครั้งด้วย มาถึงตรงนี้หลายคนสงสัยใช่ไหมว่าแล้วเจ้า Fleeceware มันเป็นภัยร้ายรูปแบบไหน แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นสิ่งที่กำจัดยากกว่ามัลแวร์ ไปรู้จักกับภัยร้ายหน้าเก่าที่กลายเป็นหน้าใหม่สำหรับ App store กันดีกว่ากับเจ้า Fleeceware เครดิตภาพ Canva.com Fleeceware เป็นคำศัพท์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งแต่เดิมนั้นจะพบมากในผู้ใช้งาน Android ซึ่งหลายคนนึกไม่ออกใช่ไหมว่าไม่มีชื่อแอปพลิเคชันนี้เลยในเครื่อง อย่างที่บอกไปมันเป็นเพียงชื่อเรียกแอปพลิเคชันประเภทนี้เท่านั้น แล้วแอปพลิเคชันประเภท Fleeceware นั่นก็คือ แอปพลิเคชัน ดูดวง ดูลายมือ ตกแต่งรูป ตัดต่อวิดีโอทั้งหลาย ซึ่งเมื่อเรานั้นติดตั้งลงไปในเครื่องจะเป็นเพียงการทดลองใช้เท่านั้น แต่เมื่อทดลองใช้ไปซักพัก แอปพลิเคชันประเภทนี้จะเรียกเก็บเงินจากเรา และถึงแม้ว่าเราจะไม่ซื้อแอปพลิเคชันหลังจากหมดช่วงทดลองใช้ไปแล้ว และก็ได้ลบแอปพลิเคชันเหล่านั้นออกจากเครื่องไปแล้ว แต่การเรียกเก็บเงินนั้นก็จะแจ้งมาให้เราชำระเงินเหล่านั้นอยู่ดี ซึ่งก่อนหน้านี้จะพบในผู้ใช้งาน Android มากกว่า 25 แอปพลิเคชัน และตอนนี้ได้ลามไปยังผู้ใช้งาน iOS เรียบร้อยแล้ว เครดิตภาพ Canva.com บริษัท วิจัย Sophos ได้ค้นพบแอปพลิเคชันประเภท Fleeceware ใน App Store ซึ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือมีผู้ใช้กว่า 3.5 ล้านคนติดตั้งแอปพลิเคชั่น fleeceware เหล่านี้จาก App Store ซึ่งอย่างที่บอกไปแต่ต้นว่าแอปพลิเคชันเหล่านี้คิดค่าใช้จ่ายสูงถึง 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหมายความว่าหากผู้ใช้จ่ายเงินสำหรับแอปพลิเคชันนี้โดยไม่รู้ตัวพวกเขาจะถูกเรียกเก็บเงิน 12,000 บาทต่อปี มันเป็นเงินที่เยอะพอสมควรที่ต้องจ่ายเมื่อเทียบกับสิ่งที่แอปพลิเคชันเหล่านี้ทำได้ พื้นฐานของแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ การถอนการติดตั้งเป็นการยกเลิกการสมัครสมาชิกโดยปริยาย และมีแอปพิลเคชันไม่กี่รายการที่ขอให้ผู้ใช้ยกเลิกการสมัครเพื่อป้องกันการถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่จำเป็น แต่ไม่ใช่กับแอปพลิเคชัน Fleeceware เหล่านี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำการยกเลิกการสมัครสมาชิกเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก แต่ยังคงเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้แม้หลังจากถอนการติดตั้งไปแล้วก็ตาม เครดิตภาพ Canva.com แอปพลิเคชันประเภท Fleeceware เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็น แอปพลิเคชันแก้ไขภาพ ดูดวง พยากรณ์โชค อ่านลายมือ สแกน QR Code, และแอปพลิเคชันฟิลเตอร์ที่ใช้ตกแต่งใบหน้าเมื่อเซลฟี่ที่สาว ๆ ทั้งหลายชอบใช้กัน หนึ่งในแอปลิเคชันประเภท Fleeceware มีชื่อว่า Zodiac Master Plus ได้รับการจดทะเบียนใน App Store ในฐานะแอพที่สร้างรายได้สูงสุดอันดับที่ 11 อีกหนึ่งแอปพลิเคชันมีชื่อว่า Lucky Life - Future Seer แอปพลิเคชันเหล่านี้มักติดตั้งโดยผู้ใช้เองเนื่องจากมีการโฆษณาจำนวนมากในแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Instagram, TikTok และ YouTube ได้บอกวิธีการแก้ไขปัญหา ถ้าคุณบังเอิญเจอแอปพลิเคชันเหล่านี้ใน iPhone ของคุณ โดยให้ถอนการติดตั้งทันทีและยกเลิกการสมัคร หากต้องการยกเลิกการสมัคร ไปที่การตั้งค่า แตะชื่อของคุณ การสมัคร แตะที่ชื่อแอป เลือกตัวเลือกการสมัครสมาชิกที่แตกต่างกันหรือแตะยกเลิกการสมัครสมาชิก แต่หากคุณไม่เห็น“ การสมัครสมาชิก ” ในการตั้งค่าแอปพลิเคชั่นคลิกเข้าไปที่ Tunes และ App Store Apple ID ดู Apple ID เข้าสู่ระบบและเลื่อนลงไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วแตะการสมัครสมาชิก เครดิตภาพ Canva.com อย่างไรก็ตามข้อปฏิบัติที่ดีที่สุดก่อนติดตั้งแอปพฃิเคชันใด ๆ ควรตรวจสอบการรีวิวจากผู้ใช้งานก่อน แอปพลิเคชันเหล่านี้ส่วนใหญ่มีการรีวิวที่แสดงถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีและผิดจรรยาบรรณของการใช้งานโดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าการรีวิวนั้นไม่สามารถเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะว่าบางแอปพลิเคชันจะเขียนผู้ใช้งานมาเพื่อรีวิวแอปพลิเคชันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือก็มีเช่นกัน ฉะนั้นแล้วก่อนการติดตั้งไม่ว่าจะแอปพลิเคชันใดก็ตามควรที่จะพิจารณาก่อนว่ามันสำคัญกับเราจริงหรือไม่ หรือว่าติดตั้งแล้วเราได้ใช้งานหรือไม่ และหากจะซื้อแอปพลิเคชันเหล่านี้มันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า การป้องกันดีกว่าการแก้ไขอย่างแน่นอน คุณว่าจริงไหม ? เครดิตภาพปก Canva.com
เทพ สุวรรณ • 16 เม.ย. 63
อ่าน
Clubhouse เปิดทดสอบเวอร์ชัน Android แล้ว !!
หลังจาก Clubhouseแอปแชทโซเชียลสนทนาด้วยเสียง เปิดให้บริการบน iOS มาตั้งแต่เปิดตัว ล่าสุดตัวแอปก็ได้ฤกษ์ปล่อยเวอร์ชัน Androidให้ได้เริ่มทดสอบกันแล้ว โดยจะเปิดทดสอบให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ใช้เป็นหลักก่อน แล้วจึงจะกระจายไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพื่อทำการเก็บฟีดแบคจากผู้ใช้งาน รวมถึงทำฟีเจอร์เพิ่มเติมให้ครบก่อนที่จะเปิดให้บริการไปทั่วโลก คาดตัวแอปเวอร์ชันสมบูรณ์จะปล่อยออกมาในช่วงกลางปีนี้โดยก่อนหน้า Clubhouse ตัดสินใจที่จะชะลอการพัฒนาตัวแอปให้ช้าลง โดยเน้นไปที่การแก้ปัญหาเป็นหลัก เพราะช่วงต้นปีตัวแพลตฟอร์มมีการใช้งานจำนวนมาก ซึ่งมากเกินกว่าที่ทางทีมงานคาดไว้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานมากไปจนไม่สามารถทำงานได้ไหว พวกเขาจึงหยุดที่จะออกฟีเจอร์ใหม่และเน้นพัฒนาฟีเจอร์เดิมให้แน่นเสียก่อนสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าตัวแอปหรือมุดไปลองโหลดมาใช้ได้จากที่นี่ [คลิก]อ่านบทความเกี่ยวกับClubhouse อื่น ๆหมดความนิยมแล้ว... Clubhouse ยอดดาวน์โหลดแทบไม่เหลือ [อ่านเพิ่มเติม]Facebookอัปเดตฟีเจอร์ให้เหมือน Clubhouse, Podcast, และ Soundbites มาพร้อมวิธี สร้างรายได้ สำหรับครีเอเตอร์โดยเฉพาะ [อ่านเพิ่มเติม]Hotlineเว็บที่รวมจุดเด่นของ Instagram Live และ Clubhouse เอาไว้ด้วยกัน [อ่านเพิ่มเติม]Twitterปล่อยฟีเจอร์ Spaces เลียนแบบ Clubhouse [อ่านเพิ่มเติม]แหล่งที่มา clubhouse.com
TNN ช่อง16 • 10 พ.ค. 64
อ่าน
วิธีอัปเดต Netflix สำหรับ android box
โดยปกติแล้วหากท่านซื้อ android box มาสักเครื่อง จะพบได้ว่า เครื่องจะใส่ App พื้นฐานให้ 4 อย่าง เป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ YouTube, Netflix, Kd Play และ Play Storeแต่จะสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า Netflix ที่แถมมากับเครื่องนั้น มักไม่สามารถทำการอัปเดตได้ โดยตรวจสอบได้โดยการเข้าที่ Play Store และค้นหาชื่อ Netflix ซึ่งหากไม่ขึ้น แสดงว่าเครื่องของท่านไม่อาจจะทำการอัปเดต Netflix ได้ซึ่งโดยปกติแล้ว Netflix ที่ติดมากับเครื่องนั้นมักจะเป็น Netflix ในเวอร์ชั่น 4.16 ที่สามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงที่หน้าเว็บไซต์ของ Netflix สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึง android box ที่ไม่สามารถดาวน์โหลด Netflix จาก Play Store ได้ โดยในเวอร์ชั่น 4.16 นี้ จะเป็นเวอร์ชั่นที่เก่ามากสำหรับ Netflixดังนั้นจึงเป็นปัญหาสำหรับ android box ในหลาย ๆ รุ่นที่อัพเดท Netflix ไม่ได้ และจำเป็นต้องใช้เวอร์ชั่นตั้งต้นที่แถมมากับเครื่องไปตลอด โดยไม่มีการ Update และไม่มีไฟล์ apk ในเวอร์ชั่นอื่น ๆ ที่จะรองรับอีกด้วย เพราะหน้าเว็บไซต์ Netflix นั้นมีเพียงเวอร์ชั่นเก่า 4.16 ไว้ให้ดาวน์โหลดมาหลายปีแล้วแต่หากเรามีความต้องการจะ Update Netflix จากปัญหาข้างต้นนั้นสามารถแก้ไขได้โดยทำการดาวน์โหลดผ่าน Aptoide TV โดยก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า Aptoide TV คืออะไร เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลในการใช้งานAptoide TV นั้นไม่ได้แตกต่างจาก Play Store แต่มาในรูปแบบ 3rd Party ที่เรียกว่าไม่ได้ขึ้นกับ Google ดังนั้นจึงเป็นตลาด App ที่ใหญ่มากสำหรับชาว android ทางเลือก และที่นี่มี Netflix อย่างเป็นทางการอยู่ด้วย ดังนั้นคุณสามารถอัปเดต Netflix ได้เหมือนกับการอัพเดทผ่าน Play Store ทุกประการ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ทำการเข้าเว็บไซต์ทางการของ Aptoide TV ที่ https://tv.aptoide.com/ จากนั้นเลือก Download Aptoide TV หากการดาวน์โหลดไม่เริ่มต้นอัตโนมัติให้ทำการเลือกที่ Click Here จะได้ไฟล์ apk สำหรับติดตั้งไว้ในเครื่องจากนั้นทำการ Install App ด้วยโปรแกรม Install ของของ แอนดรอยด์ บ็อกซ์ ของท่าน โดยปกติแล้วจะใช้ชื่อ ตัวจัดการไฟล์ apk หรือหากหาไม่พบ สามารถติดตั้ง APK Installer จาก Playstore ก็ได้เช่นเดียวกัน เพื่อใช้ในการติดตั้ง Aptoide TV apk ที่ได้ดาวน์โหลดมาเมื่อเปิด Aptoide TV ที่ติดตั้งแล้วจะพบหน้าจอสำหรับเลือกแอปที่ต้องการติดตั้ง โดยสามารถหาแอปอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่รูปแว่นขยายด้านซ้ายบน หรือหากต้องการสมัครเพื่อลงชื่อเข้าใช้ ให้เข้าที่ในส่วนของการตั้งค่า หรือจะไม่ลงชื่อเข้าใช้ก็สามารถติดตั้งแอปต่าง ๆ ได้เช่นกันเลือก Netflix เพื่อดูรายละเอียด โดยจะเห็นว่ามีหัวข้ออัพเดทอยู่หากเรามี Netflix ในเครื่องของเรา และในส่วนของเวอร์ชั่น จะพบว่าเป็นเวอร์ชั่น 7 แล้ว ซึ่งมาไกลกว่าเวอร์ชั่น 4 มาก หากหลังการอัพเดทแล้วใช้งานไม่ได้ หรือเครื่องไม่รองรับ ให้กลับมาที่นี่ และเลือกในส่วนของ เวอร์ชั่นอื่นๆ เพื่อหาเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดที่เข้ากับเครื่องของเราได้กดเลือกอัปเดตได้เลย ระบบจะทำการอัปเดตเหมือนกับ Play Storeกลับมายังส่วนของรายละเอียดแอปในเครื่องจะพบว่าเวอร์ชั่นของ Netflix ได้เปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นใหม่แล้วเมื่อเปิดแอปจะเห็นได้ว่า รูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย และสามารถเลือกหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้ละเอียดกว่าเวอร์ชั่น 4 มากทีเดียว ซึ่งการใช้ Aptoide TV นี้จะต้องใช้ในการอัพเดทครั้งต่อ ๆ ไป และสามารถครอบคลุมถึงแอปอื่น ๆ ที่เครื่องอาจไม่ได้รองรับผ่าน Play Store สำหรับแอนดรอยบ็อกซ์ของเราได้อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับแอปที่อัพเดทผ่าน Play Store อยู่แล้วก็จะยังคงอัพเดทได้ปกติขอบคุณภาพปก Thibault Penin by unsplashภาพประกอบโดย ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
DoctorSee • 14 เม.ย. 64
อ่าน
10 เว็บไซต์ ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี Pc & Android
สวัสดีครับสายฟรีทั้งหลายวันนี้ผมจะมารวบรวมเว็บโหลดโปรแกรมฟรีให้กับเพื่อน ๆ กันนะครับ รับรองว่ามีโปรแกรมที่คุณกำลังมองหาอยู่แน่นอนละครับ ซึ่งจะมีเว็บอะไรบ้างก็ไปดูกันเลย 1. mawtoload ถือเป็นเว็บอันดับต้น ๆ เลยแหละครับที่จะทำคุณสามารถโหลดโปรแกรมฟรีต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาท หมวดหมู่ก็จะตั้งแต่ ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เกม โปรแกรมตัดต่อ ยันไปถึง Windows ก็สามารถโหลดมาใช้ฟรีกันได้เลยนะครับ และยังมีโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็เข้าไปดูในเว็บได้เลยครับ (เว็บแนะนำ) Website: https://mawtoload.com/ 2. axeload เป็นอีกเว็บหนึ่งที่ดีไม่แพ้ mawtoload เลย ซึงเว็บ axeload ก็มีโปรแกรมมากมายให้เลือกใช้ตามใจชอบเลย มีทั้ง Pc Android ก็มีหมดเลยครับ โปรแกรมตัดต่อ โปรแกรมช่วยดาวน์โหลด Windows Microsoft office และอื่น ๆ อีกมากมาย (เว็บแนะนำ) Website: https://www.axeload.com/ 3. nonnoifree ถือเป็นอีกเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือได้เพราะเขามีช่อง Youtube ของเขาด้วย โดยเขาจะสอนโหลด สอนติดตั้ง อะไรต่าง ๆ โดยในเว็บ nonnoifree ก็มีโปรแกรมครอบคลุมต่อการใช้การของเราแน่นอนครับ Website: https://www.nonnoifree.com/ 4. nongit เป็นอีกเว็บที่มีความน่าสนใจมากเพราะมีโปรแกรมหลายหลายมากมายให้โหลดไปใช้กันฟรี ๆ เลยละครับ และมีความน่าเชื่อถือเพราะเขามีข่อง Youtube เป็นของตัวเองจึงมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น Website: https://www.nongit.com/blog/ 5. ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี เป็นอีกเว็บหนึ่งที่อาจจะดูเก่าไปหน่อย แต่เว็บเขาก็อัพเดทโปรแกรมอยู่ตลอด ส่วนมากเป็นโปรแกรมที่จำเป็นต่อการใช้งานของเรา แต่ก็ครอบคลุมต่อการใช้งานอย่างแน่นอนละครับ Website: https://xn--12c1batl1bmbns9b3e5jid9m.com/ 6. APKMirror เป็นเว็บที่ใช้ในการโหลดไฟล์ APK ฟรี มีความปลอดภัยสูง เหมาะแก่สายฟรี เป็นเว็บฝั่ง Android อะนะ ถ้าใครใช้ Android ก็ไปโหลดใช้กันได้นะครับ Website: https://www.apkmirror.com/ 7. APKPure เป็นอีกเว็บหนึ่งที่มีความปลอดภัยจากไวรัส และเขายังมีแอปที่ใช้โหลดเหมือน Play Stor ทำให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ Website: https://apkpure.com/ 8. APK-Store ก็เป็นอีกเว็บที่แจกไฟล์ apk มาให้เราใช้กันแบบฟรี ๆ ส่วนมากจะเป็นการแจก เกม ต่าง ๆ แต่ก็ยังมีแอปทั่วไปเหมือนกัน ซึ่งก็เหมาะกับสายฟรีอย่างเรามาก ๆ เลยครับ Website: https://apk-store.org/ 9. Aptoide เป็นอีกเว็บไซต์ ที่นิยมมากสำหรับคนไทย เพราะมีทั้งแอปและเกม มีความหลากลายพอต่อความต้องการของเราแน่นอน ทำให้เราสะดวกต่อการใช้งาน Website: https://th.aptoide.com/ 10. Uptodown เป็นอีกเว็บหนึ่งที่มีแอปเยอะมาก ดาวโหลดง่าย มีทั้ง Windows Mac Android ถือว่าเป็นอะไรที่ครอบคลุมต่อการใช้งานมาก ๆ เว็ปเดียวจบ หมดทุกปัญหา Website: https://th.uptodown.com/ สรูป เว็บไซต์ทั้งหมดที่ให้มาก็เพียงพอมาก ๆ ต่อการใช้งาน แนะนำให้เลือกใช้เว็บใดเว็บหนึ่ง เลือกตามความเหมาะสมได้เลยครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงจะเป็นโปรแกรมหรือแอปที่แจกฟรี ก็มีความเสี่ยงทั้งนั้น แต่ถ้าใครมีทุนพอก็ซื้อของแท้ไปเลยครับ ถือเป็นการสนับสนุนโปรแกรมให้เขาพัฒนาต่อไป ยังไงก็เลือกใช้กันดูนะครับ ไปแล้วครับ สวัสดีครับ ขอบคุณรูปปกจาก pixabay ภาพประกอบ 1 mawtoload / ภาพประกอบ 2 axeload / ภาพประกอบ 3 nonnoifree / ภาพประกอบ 4 nongit / ภาพประกอบ 5 ดาวโหลดโปรแกรมฟรี / ภาพประกอบ 6 APKMirror / ภาพประกอบ 7 APKPure / ภาพประกอบ 8 APK-Srore / ภาพประกอบ 9 Aptoide / ภาพประกอบ 10 Uptodown
It's Good • 6 มิ.ย. 63
อ่าน
สุดยอดแอปไดคัทของ Android
บางท่านอาจจะมองว่าการไดคัทฉากหลัง ออกเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องทำแต่ในคอมถึงจะออกมาได้ดี บทนี้ผู้เขียนมี "สุดยอดแอปไดคัทของ Android" ชื่อแอปพลิเคชั่น Background Eraser โหลดฟรีผ่านระบบ Android เท่านั้น เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามันสุดยอดจริง อย่างที่ว่าแค่ไหน ไปชมพร้อมกันครับแอปนี้ทำออกมาได้ใช้งานง่ายมาก ทำภายในไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้วครับ ข้อแนะนำ:หากเรามีภาพที่พื้นหลังสีไม่เยอะมากหรือสีเดียวยิ่งทำให้แอปนี้แสดงประสิทธิภาพได้มากขึ้น ในส่วนของหน้าแรกของแอปก็ไม่มีอะไรให้เข้าใจยาก มีเมนู How to use วิธีใช้ FAQ ระบบคำถาม และ Load a photo เมนูพระเอกของเรา ไปเลือกภาพของเรากันเลยผมขอเป็นภาพนี้แล้วกันครับ เพราะฉากหลังมีสีเดียว ในส่วนเมนูด้านล่าง มี ด้วยกัน 6 ส่วน เข้าใจง่าย ในส่วนนี้ผมขออนุญาติใช้เมนู Magic ให้ชมกันนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมนู Magic จะเป็นการใช้นิ้วไล่ฉากหลัง ค่อย ๆ เกลี่ยไปเรื่อย ๆ โดยจะมีขนาดแปรงให้ปรับอยู่ทางด้านบน เลข 50 และ ย้อนกลับ ในด้านขวา ส่วน BgColor เป็นการเปลี่ยนสีหลังเพื่อเทียบกับสีเดิม หาจุดได้ชัดขึ้น ไปดูอีกเมนูมหัศจรรย์กันครับนี่คือสุดยอดของความฉลาดของแอปนี้ คือ เมนู Auto ที่จะคลิ๊ก ในครั้งเดียวทำให้ ฉากหลังหายวับไปกับตาแล้ว สามารถ กด Done ขวาบนเพื่อ นำไปใช้งานได้เลย ในส่วนของเมนูต่าง ๆ ก็จะเป็นการ ซ่อม ซูม แก้ และ ลบ ครับ แอปนี้ใช้ง่ายไม่กี่ขั้นตอนก็จะได้ภาพที่ถูกไดคัทออกได้อย่างเนียนและสะดวกรวดเร็วไม่เบาเลยครับ ไปดูตัวอย่างงานจากสมาร์ทโฟนของผมกันเลยครับหากเราตั้งใจ ก็ไม่มีอะไรยากเกินไปครับ ในเบื้องต้นแอปนี้สามารถใช้งานจริงได้ถึงจะสู้กับ PC ไม่ได้ แต่พอช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็วทันใจเลยครับ สำหรับแอปนี้ สาวก Android ควรมีติดเครื่องไว้ใช้งาน บอกเลยว่าคุ้มค่าไม่น้อย สมกับเป็นสุดยอดแอปของผม สำหรับบทนี้ขอตัวลาไปก่อน..สวัสดีครับ 🙏🙏ลิงก์ดาวน์โหลด For Androidhttps://play.google.com/store/apps/details?id=com.handycloset.android.eraser**ภาพทั้งหมดเป็นของเจ้าของบทความ**
IicePsk • 24 เม.ย. 63
อ่าน
วิธีในการเปิดโรมมิ่ง Android
มือถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนนั้นต้องมี แม้ในประเทศหรือต่างประเทศ โรมมิ่งนั้นเปิดก่อนเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อต้องการใช้อินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน เพื่อได้เชื่อมต่อในกับเครือข่ายบนเครื่องบิน รวมถึงสายการบินได้ทันที ทำให้เรานั้นมีความสุขในการสื่อสารที่ไม่ขาดตอน โรมมิ่ง เป็นการเปิดเมื่อเรานั้นเดินทางบนเครื่องบิน ก่อนที่เรานั้นจะเดินทางไปต่างประเทศนั้น เราจะต้องมีการทำในส่วนที่เรียกว่าการเปิดโรมมิ่ง ในโทรศัพท์ ซึ่งหากว่าเรานั้นเปิดโรมมิ่งในตอนที่เราจะขึ้นเครื่องบินนั้นจะดีกว่า ตอนที่เรานั้นขึ้นเครื่องบินหากว่าเรานั้นไม่ปิดโทรศัพท์นั้น สัญญาณของอินเทอร์เน็ตที่เรามีในจอโทรศัพท์นั้นจะไปรบกวนในเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นเราจะต้องเปิดโรมมิ่งเพื่อที่ต้องการที่จะใช้โทรศัพท์บนเครื่องบิน เพราะว่าบางครั้งนั้นมีเหตุให้ต้องทำงานในช่วงที่นั่งเครื่องบิน การเปิดโรมมิ่งนั้นเคยทำในครั้งแรกเมื่อครั้งที่เดินทางไปอินเดีย แต่ก่อนที่จะเดินทางนั้นได้ไปติดต่อกับเครือข่ายตอนนั้นใช้เครือข่ายที่เรานั้นใช้ ว่าเรานั้นจะไปต่างประเทศโดยการใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้ มีอะไรจะแนะนำที่คุ้มค่าคุ้มราคาในการใช้งานบ้าง จากนั้นในวันเดินทางเราก็เปิดตั้งแต่เครื่องบินนั้นบินออกจากสนามบินเลย ทำให้การติดต่อสื่อสารทางด้านของอินเทอร์เน็ตการใช้งานโทรศัพท์นั้นสะดวกสบายมากขึ้น หลังจากที่เปิดโรมมิ่งแล้ว เราสามารถที่จะใช้โทรศัพท์ได้ แต่จะไม่สามารถที่จะโทรเข้าโทรออกได้เหมือนปกติ แต่หลังจากที่เรานั้นลงจากเครื่องบินเราสามารถที่จะปิดโรมมิ่งได้ตามปกติ เรามาดูขั้นตอนในการเปิดโรมมิ่งของโทรศัพท์มือถือระบบ Androids ซึ่งถือว่าคนที่ใช้ค่อยข้างเยอะเพราะว่าใช้งานง่าย ทำตามขั้นตอนได้เลย ส่วนมากนั้นโทรศัพท์ทุกเครื่องจะพยายามผลิตในส่วนของการใส่ซิมนั้นมีทั้งหมดสองซิม จึงง่ายมากต่อการเปิดโรมมิ่ง 1. กดปุ่มเข้าไปที่การตั้งค่า ให้เรานั้นเข้าไปในมุมของคำว่าตั้งค่า จากนั้นคลิกเข้าไปด้านในเลย เพื่อที่จะค้นหาเพื่อที่จะเชื่อมในการเปิดโรมมิ่ง 2. จากนั้นไปที่ Connections ในส่วนของเครื่องนี้นั้น สามารถที่จะเข้าไปตรงส่วนที่เขียนว่า เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3. เลือกในการเปิด Mobile networks ในส่วนนี้ในแต่ละเครื่องจะมีการวางที่แตกต่างกันสามารถที่จะเลือกได้เลย ไม่ได้ระบุว่าต้องอยู่ในแถวไหน แล้วแต่การตั้งค่าของแต่ละญี่ห้อโทรศัพท์ 4. จากนั้นเลือกเปิด การโรมมิ่งข้อมูล ในการเปิดนั้นหากว่าเรานั้นไม่ได้ติดต่อเพื่อที่จะซื้อก่อนเราอาจจะต้องจ่ายในอัตราราคาที่แพงกว่า หากว่าเรานั้นต้องการที่จะเปิดใช้จริงเราต้องติดต่อในเครือข่ายเบอร์มือถือที่เรานั้นใช้เพื่อที่จะ ประหยัดในส่วนของค่าใช้จ่าย หากว่าไปในสถานที่อินเทอร์เน็ตนั้นไม่ดีอาจจะลำบากมากกว่า ต้องมีการเตรียมการก่อนที่จะมีการเดินทางก่อนสักสองสามวัน เพื่อความผิดพลาด 5. ระบบนั้นจะถามเราว่า การโรมมิ่งข้อมูลนั้น เครือข่ายของมือถืออาจจะมีค่าบริการการใช้ข้อมูลเพิ่มเติม เปิดใช้งานหรือไม่ หากว่าเรานั้นเปิดเราอาจจะต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมหากว่าเรานั้นมีการซื้อไว้ก่อน การเปิดโรมมิ่งนั้น สามารถที่จะทำในการเดินทางออกไปต่างประเทศ เพื่อที่จะสามารถที่จะติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในการเดินทางออกไปต่างประเทศนั้น เราจะต้องมีการติดต่อซื้อในส่วนของ Package ไว้ก่อนล่วงหน้าก่อนที่เรานั้นจะเดินทางออกไป หากว่าเรานั้นไม่ได้ซื้อแล้วเราเดินทางออกไปต่างประเทศเปิด อาจจะได้เสียค่าบริการมากกว่าที่เรานั้นซื้อไว้ก่อน ก่อนการเปิดเราจะต้องมีการวางแผนในทุกอย่างก่อนเสมอ เพื่อทำให้การเดินทางทำงานหรือการท่องเที่ยวอย่างมีความสุขไม่ขาดการติดต่อ แนบส่วนลดทรู https://ttid.co/UAnK/dhigbtti ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน ภาพหน้าปกจาก Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
อุ้งเท้าแมว • 1 วันที่แล้ว
อ่าน
งานแบบสอบถามได้เงินจริง 2020 "Android"
ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ออกจากบ้านก็ไม่ค่อยได้ หันมาทำงานออนไลน์สิคะ สมัครฟรี!! ไม่จำกัดอายุ แต่เล่นได้เพียงระบบ Android เท่านั้นนะ เป็นงานแบบสอบถามทั่วไปมีตัวเลือกให้ตอบ แล้วสะสมคะแนนถอนขั้นต่ำเพียง 100 คะแนน แต่ต่อแบบสอบถามมีคะแนนตั้งแต่ 10-50 คะแนน อาจมากหรือน้อยกว่านั้นค่ะ แต่เงินเข้าบัญชี PayPal เท่านั้นนะคะ เราไปดูวิธีทำงานกันเลย...เครดิตภาพจากแอป: Curious Catคลิกเพื่อโหลด Android เมื่อโหลดเสร็จแล้วให้เราเข้าสู่แอป จากนั้นก็ใส่เบอร์โทรศัพท์แล้วรอรหัสหลังจากได้รับแล้วการสมัครก็เสร็จแล้ว เห็นไหมสมัครง่ายมาก ๆ แอปนี้ปลอดภัยตรงที่ไม่ต้องใช้บัตรประชาชน แล้วข้อมูลทั้งหมดก็เป็นความลับ เมื่อเข้าในแอปครั้งแรกก็มีแบบสอบถามเกี่ยวกับตัวเองให้ เมื่อเราทำเสร็จก็รับ 10 คะแนนฟรี!!! หลังจากนั้นเราก็สะสมไปเรื่อย ๆ นะคะ แอปนี้ต้องขยันเข้าแอปบ่อย ๆ ดูว่าแบบสอบถามมายังจ้า.... แต่ชอบแบบสอบถามมากครั้งแรกมีการอธิบายว่าแอปเป็นยังไง ๆ เขาอธิบายเป็นคำพูดในวีดีโอในแบบสอบถามซึ่งเข้าใจง่ายค่ะ..เครดิตภาพจากแอป: Curious Catวิธีถอนเงิน ให้กดตรงสามขีดมุมซ้ายบนสุดจากนั้นก็เลือกคำว่าถอนเงินขั้นต่ำในการถอนเงินใช้ 100 คะแนน ได้ 1 USD ซึ่งถ้าแปลเป็นเงินไทยตอนนี้อยู่ที่ 28-32 บาทค่ะ ซึ่งคะแนนแอปนี้สามารถหาได้ง่ายมากเพียงทำแบบสอบถาม บางทีงานก็มาเยอะ บางทีก็ไม่มีเลยค่ะ ต้องคอยขยันเข้าแอปบ่อย ๆ นะคะ แบบสอบถามมีตัวเลือกให้ ถอนเงินเข้า PayPal เท่านั้น สามารถถอนจาก PayPal เข้าธนาคารได้อีกที ซึ่งในการถอนต่ำถ้าน้อยกว่า 5,000 บาทจะมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน แต่ถ้าถึง 5,000 บาทหรือเกินจะฟรีค่าธรรมเนียมค่ะไปดูวิธีตั้งค่ารับเงินกัน...เครดิตภาพจากแอป: Curious Catให้กดตรงคำว่าตั้งค่า จากนั้นเราก็ใส่ Gmail ของที่สมัคร PayPal เพราะเขาจะโอนเข้าทางนั้นนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้สมัครบัญชี PayPal ก็สามารถสมัครได้เลยนะคะ คลิกเพื่อสมัคร งานออนไลน์ส่วนมากจะรับเงินทาง PayPal เพราะส่วนใหญ่จะเป็นงานของต่างประเทศที่ทำขึ้นมา แต่แบบสอบถามอันนี้เป็นภาษาไทยและแบบสอบถามมีตัวเลือกให้ตอบอะไรก็ได้ไม่มีผิด แต่ขอให้ทุกคนอ่านคำถามด้วยนะคะ เพราะบางทีคำถามก็ถามซ้ำเพื่อทดสอบว่าเราอ่านไหม แอปนี้สามารถถอนเงินได้จริง เงินจะเข้าภายใน 1-7 วัน หรืออาจมากหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ค่ะแล้วแต่บางช่วง.... แบบสอบถามอันนี้สามารถทำได้ทุกวัน แถมการสมัครไม่จำกัดอายุ ได้เงินแท้แน่นอน แถมข้อมูลก็ปลอดภัยค่ะ...PayPal เป็นแอปยอดนิยมในหลายประเทศเพราะสามารถรับเงินสกุลต่าง ๆ ได้มากมายและสามารถแปลงค่าสกุลเงินได้ภายในแอปเลย สามารถนำเงินในแอปไปซื้อของต่างประเทศได้ และสามารถโอนเข้าธนาคารไทยได้แน่นอน คนส่วนมากที่ทำงานออนไลน์ก็จะได้เงินผ่านทาง PayPay ค่ะ เครดิตภาพหน้าปกจากแอป: Curious Cat
จิดาภา เข็มเพ็ชร • 16 เม.ย. 63
อ่าน
Huawei ยังยืนยันคำเดิม HarmonyOS ไม่ใช่ Android
ที่ผ่านมามีหลายแหล่งยืนยันว่า HarmonyOS จริง ๆ แล้วก็คือ Android อย่างไรก็ตาม อดีตหัวหน้าแผนกซอฟต์แวร์ของ Huawei ยืนยันว่า HarmonyOS ไม่ใช่ Android แต่อย่างใด หวัง เฉิงลิ่ว (Wang Chenglu) CEO ของ Shenzhen Kaihonog Digital Industry Development ได้กล่าวภายในงาน China Integrated Circuit Summit กล่าวว่า HarmonyOS ไม่ใช่ Android หรือ iOS และไม่ใช่ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เดี่ยว ๆ ซึ่งความพิเศษของ HarmonyOS คือสามารถรันได้บนหลายอุปกรณ์ หลายแพลตฟอร์ม “ด้านซอฟต์แวร์ในประเทศจีน HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นผู้นำระบบปฏิบัติการทั้งหมดในโลกในแง่ของสถาปัตยกรรมทางเทคนิค” เฉิงลิ่วกล่าวในงาน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Huawei พยายามบอกว่า HarmonyOS ไม่ใช่ Android รวมถึงยังกล่าวถึงความสำคัญของ HarmonyOS มาตลอด ที่มา Huawei Central
แบไต๋ • 26 ก.ค. 66
อ่าน
[TurnPro Android] สอนการปลดล็อค Bootloader
หลังจากบทความ [TurnPro Android] สอนการติดตั้ง ADB Shell Commands/Driver ตอนนี้เพื่อนๆ ก็จะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ Android กับ Computer โดยผ่าน Android Debugging Bridge ได้แล้ว ในบทความนี้จะสอนเกี่ยวกับการ Unlock Bootloader อุปกรณ์ของ Xiaomiอุปกรณ์ที่ใช้เป็นตัวอย่างคือ Xiaomi Mi Note 10Bootloader เป็นส่วนที่อยู่ใต้ Linux Kernel เมื่อเปิดอุปกรณ์ Android อุปกรณ์จะส่งไฟเลี้ยงเข้า CPU จากนั้น ROM ก็จะเริ่ม load ROM ส่วนแรกที่จะทำการ load คือ Bootloader เพื่อ load ข้อมูลที่เป็น loader และ kernel เข้าสู่หน่วยความจำและเตรียมพร้อมสำหรับการ boot ซึ่ง Bootloader บนอุปกรณ์ Android ในช่วงหลายปีหลังมักจะทำการ Lock มาจากโรงงาน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะป้องกันความเสียหายที่เกิดจากผู้ใช้งาน เช่น ติดตั้ง firmware ผิดรุ่น หรือการป้องกันปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะการเข้าถึง Bootloader นั้นจะทำให้ผู้ใช้งาน เข้าถึงข้อมูล และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้ลึกขึ้น รวมไปถึง DRM (Digital Right Management) หรือ การจัดการสิทธิดิจิทัล สำหรับบางอุปกรณ์ การ unlock Bootloader อาจทำให้ฟังก์ชั่นบางอย่างหายไป เช่น อุปกรณ์ Sony เมื่อ unlock Bootloader แล้ว ฟังก์ชั่น Bravia Engine จะไม่ทำงาน หรืออุปกรณ์ Android หลายๆรุ่น เมื่อ unlock Bootloader แล้ว Widevine Digital Right Management อาจถูกลดลงมาเหลือ Level 3 ทำไมต้อง unlock? เป็นคำถามที่ควรถามตัวเองก่อนตัดสินใจทำการ unlock Bootloader เมื่อทำการ unlock Bootloader แล้วได้อะไรบ้าง - สามารถติดตั้ง ระบบปฏิบัติการที่ปรับแต่งแล้ว (Custom ROM) - สามารถติดตั้งโมดูล OS, kernels, Recovery, Applications, Patches รวมไปถึงการ Root อุปกรณ์ - สามารถสร้างสำเนาสำรองของระบบปฏิบัติการและ / หรือแอพพลิเคชั่น และเรียกคืนข้อมูลเหล่านั้นดังนั้นผู้ใช้ต้องทำการชั่งน้ำหนักความต้องการ และสิ่งที่จะต้องเสียไปให้ดีก่อนทำการ unlock Bootloader* อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ Android ส่วนใหญ่สามารถ relock Bootloader ได้อย่างสมบูรณ์ อุปกรณ์ที่นำมาใช้เป็นตัวอย่างนี้ก็เช่นกันอันดับแรกให้ไปที่เว็บ https://en.miui.com/unlock/ จากนั้นคลิกที่ Unlock Nowคลิกที่ Download Mi Unlockเมื่อ download ไฟล์มาเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ unzip ไฟล์ และเรียกใช้งาน โดยดับเบิลคลิกที่ไฟล์ miflash_unlock.exeเชื่อมต่ออุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB เนื้อหาการติดตั้ง Driver มีอยู่ในบทความ [TurnPro Android] สอนการติดตั้ง ADB Shell Commands/Driverจากนั้นไปที่ folder ADB ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ adb.bat เพื่อเรียกใช้งาน แล้วพิมพ์คำสั่ง adb devices เพื่อเช็คการเชื่อมต่อจากนั้นพิมพ์คำสั่ง adb reboot bootloader เพื่อสั่งให้อุปกรณ์ reboot เข้าสู่ fastbootที่อุปกรณ์จะ reboot และเข้าสู่โหมด fastbootที่โปรแกรม Mi Unlock ให้ทำการ Sign in เข้า Mi Account ถ้ายังไม่มี Mi Account ก็ให้สร้างใหม่เลย และที่สำคัญคือจะต้องเป็น Account เดียวกันกับที่ Active อยู่บนอุปกรณ์ที่จะ unlock ด้วยจากนั้นให้คลิกที่ Unlock จะมีหน้าต่างแจ้งเตือนว่า ในการ unlock Bootloader นั้น ข้อมูลที่อยู่ในอุปกรณ์จะหายไป ให้คลิกที่ Unlock anyway จากนั้นอาจจะมีหน้าต่างแจ้งเตือนอีกว่า อุปกรณ์ที่ unlock Bootloader แล้วนั้น ง่ายต่อการตกเป็นเป้าของมัลแวร์ หากยังต้องการ unlock ก็ให้คลิกไปที่ Unlock anywayจากนั้นโปรแกรมจะเริ่มทำการ verify อุปกรณ์ ในขั้นตอนนี้ผู้ใช้ทั่วไป จะพบกับข้อความว่า Couldn't unlock after 168 hours of trying to unlock the device ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ เป็นเรื่องปกติ ก็ให้ปิดโปรแกรม แล้วลืมไปก่อนเลย รอจนกว่าเวลาจะผ่านไปครบตามที่โปรแกรมแจ้งแล้วค่อยครับมาทำใหม่หากไม่ติดข้อความให้รอ หรือกลับมาทำอีกครั้งแล้วก็จะพบข้อความ Unlocked successfully ให้คลิกที่ Reboot phoneเพียงเท่านี้ก็สำเร็จเรียบร้อยแล้วครับ ในตอนต่อไปจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการ ติดตั้ง Team Win Recovery Project ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นฐานจากบทความนี้ เพื่อนๆสามารถรับชมในรูปแบบวีดีโอได้ที่ [YouTube] เครดิตภาพประกอบ: ภาพบันทึกหน้าจอจาก Computer ของผู้เขียน, ภาพกราฟิก: สร้างโดยผู้เขียนไฟล์สำหรับติดตั้ง Mi Unlock จาก MIUI
e young wa • 16 มิ.ย. 63
อ่าน
JPMJ's PHONE TRICK : เพิ่ม Speed ให้ Android
*** เครดิตปก : pixabay.com สมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีคละแบบ หลากสี และรุ่น แบรนด์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานกัน ปัจจุบันถ้าใครไม่มีมักจะถูกแซวได้ว่า เชยมาก ๆ และก็คงหนีไม่พ้นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่มีอันดับ (Rank) การครองตลาดมือถือโลกสูงสุดในตอนนี้ หลายคนไม่น้อยที่ได้ทุ่มงบซื้อมือถือใหม่ หวังใจว่ารุ่นใหม่จะตอบโจทย์ความต้องการได้ หรือเพียงเพื่อต้องการเครื่องที่มีสเปกแรง เร็ว ตอบสนองทันต่อการใช้งาน ผู้เขียนจึงใช้เวลาว่าง ค้นคว้าและทดลองถึงการตั้งค่า ปรับเครื่องสมาร์ทโฟนของตัวเอง ให้เกิดผลลัพธ์จริงที่ชัดเจน โดยไม่เสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม และไม่เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ที่ใช้อยู่ด้วย อาจเรียกได้ว่าใช้มือถือได้อย่างคุ้มค่า เต็มประสิทธิภาพที่มีได้ รวบรวมมาในบทความนี้แล้ว ที่ผู้อ่านสามารถทำตามได้เอง อย่างง่ายดาย ก่อนอื่นเราจะต้องทราบก่อนว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่มีผลต่อความหน่วงของมือถือ คืออะไรกันแน่ โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ในรุ่นล่าสุด หลาย ๆ แบรนด์ ราคาแพง มีสเปกสูง เพื่อรองรับการรันระบบปฏิบัติการที่ต้องใช้แอนิเมชั่น หรือกราฟิกสูง เน้นสีสันและความทันสมัย แต่ทว่า ผู้เขียนสังเกตในความจำเป็นของการตั้งค่าแอนิเมชั่น และกราฟิก ต่อการใช้งานประจำวัน ส่วนใหญ่อาจไม่มีความจำเป็นมากเลย จึงคิดว่า ความเร็วต่างหาก ที่เมื่อทัชหน้าจอแล้วเข้าแอปลิเคชั่นได้ทันที เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการเป็นอันดับแรก ดังนั้นเราจะมาดูขั้นตอนพิเศษของการลดหรือปรับค่าความเหมาะสมของแอนิเมชั่นให้สอดคล้องกับการใช้งานดังกล่าวกันดีกว่า ขั้นตอนพิเศษของการเพิ่ม Speed ให้ Android1. เข้าไปที่ แอป Setting ของระบบมือถือ เลื่อนไปล่างสุด แล้วกด About Phone ( 1 ) ให้ปลดล็อกโหมดผู้พัฒนา ดังเช่นของผู้เขียน ( 2 )*** เครดิตภาพจากผู้เขียน 2. กด Software Information ( 3 ) เลื่อนลงมาข้างล่าง กดตรง Build Number ( 4 ) 4 - 5 ครั้ง จนกว่าหน้าจอแสดง Pop Up ว่าได้เปิดโหมดผู้พัฒนาให้แล้ว *** เครดิตภาพจากผู้เขียน 3. Pop Up โหมดผู้พัฒนาถูกเปิดใช้งานแล้ว ( 5 ) ให้ผู้อ่าน ย้อนกลับไปข้อ 1. เพื่อดูว่า Developer Option ( 2 ) แสดงหรือยัง หากแสดงแล้ว กดเข้าไปในเมนูนั้น เลื่อนลงล่างสุด จะเห็น Windows Animation Scale , Transition Animation Scale , Animator Duration Scale ให้ทำการปรับค่า เป็น .5x หรือ 0.5 เท่านั้น โดยค่าตรงนี้จะให้ผลลัพธ์ชัดเจน เครื่องไวขึ้นทันที และเป็นค่าที่ปลอดภัยกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทุกรุ่น เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน*** เครดิตภาพจากผู้เขียน ผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการปรับแต่ง ตั้งค่ามือถือแสนจะง่าย และกระชับ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันที ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ จะทำให้ผู้อ่านเกิดความสุขในการใช้สมาร์ทโฟนตัวเก่งอย่างคุ้มค่า เต็มประสิทธิภาพ และมุมมองต่อการใช้มือถือไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็ตอบโจทย์ความต้องการได้ เพียงแค่ตั้งค่าระบบให้เหมาะสมจากประสบการณ์ของผู้เขียน และติดตามบทความรู้อื่น ๆ ต่อไป ... :) JPMJ
Jaipan Morkjarm • 7 มี.ค. 63
อ่าน
9 App Android ที่อันตรายจาก มัลแวร์
โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มนุษย์ในยุคนี้ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเดินทาง บันเทิง สาระความรู้ ล้วนแล้วแต่ใช้มือถือสำหรับทำกิจกรรมในแต่ละวันกันทั้งนั้น แล้วแต่ละแอปพลิเคขันก็มีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปเหมาะแต่ละกิจกรรมของแต่ละคนเรียกว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยก็ว่าได้ แต่หารู้ไม่ว่าแอฟพลิเคชันบางตัวที่เราดาวน์โหลดมานั้นอาจจะมีของแถมติดตมาด้วยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นไวรัสที่ชื่อ มัลแวร์ โดยเรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยมาเมื่อไม่นานมานี้ว่ามีแอปพลิเคชัน 9 แอปพลิเคชันที่มีไวรัสมัลแวร์ติดมาเมื่อมีการดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่อง แล้วในเครื่องของเรามีแอปพลิเคชันที่ว่าหรือไม่ว่าแล้วไปดูกันเลยดีกว่าเครดิตภาพโดย Pexels จาก Pixabay ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องของ มัลแวร์ก่อนแล้วกัน มัลแวร์ คือ โปรแกรมหนึ่งที่แอบแฝงตัวมากับโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาใช้งานแอบดักจับข้อมูลภายในเครื่องนั้น ๆ แล้วจะส่งกลับไปให้กับต้นทางหรือบางครั้งจะแสดงความผิดพลาดของโปรแกรมนั้น ๆ ขึ้นมา เช่น แสดงโฆษณาที่เราไม่ต้องการขึ้นมา ปัญหาเครื่องทำงานช้า เป็นต้น เรื่องของแอปพลิเคชันที่ติดไวรัสมัลแวร์นั้นได้ถูกเปิดเผยออกมาโดยผู้เชี่ยวชาญชื่อว่า Trend Micro โดยมีการออกมาเตือนผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android ว่าเมื่อไม่นานมานี้ได้มีแอปพลิเคชันที่สามารถเข้าไปทำงานในลักษณะแฝงโฆษณามากมายถึงแม้ว่าจะมีการป้องกัน แต่ก็มีบางแอปพลิเคชันที่ยังได้รับการดาวน์โหลดไปใช้งาน ซึ่งยอดของการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกกล่าวมากกว่า 470,000 ครั้ง นั่นหมายความว่ามีผู้คนที่ติดไวรัสมัลแวร์ไปแล้วเกือบ ๆ 500,000 ยูสเซอร์ เครดิตภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay แล้วอะไรถึงทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้ได้รับการดาวน์โหดลมากมายขนาดนี้ทางเหล่านักวิจัยที่ชื่อ Trend Micro กล่าวว่าแอปพลิเคชันเหล่านั้นจะสร้างโปรแกรมขึ้นมาแล้วทำการเขียนรีวิวแอปพลิเคชันบน Play Store เพื่อให้ผู้ที่คิดจะดาวน์โหลดเกิดความน่าเชื่อถืออีกทั้งยังมีการแฝงโฆษณาไปยังแอปพลิเคชันอื่น ๆ เมื่อมีการเปิดใช้งานอีกด้วย และเมื่อผู้ใช้เห็นโฆษณาเหล่านั้นบ่อยขึ้นก็จะกดเข้าไปเพื่อดูรีวิวเมื่อเห็นทั้งยอดดาวน์โหลดและการรีวิวที่มีความน่าเชื่อถือทำให้เหล่าผู้ใช้งาน ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนั้นไปไว้ในเครื่องเรียบร้อย 9 แอปพิลเคชันที่เป็นอันตายที่มีไวรัสมัลแมร์แถมมาด้วยมีรายชื่อดังต่อไปนี้ Shoot Clean ,Super Clean Lite ,Super Clean ,Quick Games ,Rocket Cleaner ,Rocket Cleaner Lite ,Speed Clean ,LinkWorldVPN ,H5 Gameboxเครดิตภาพโดย Pexels จาก Pixabay หากจะสังเกตให้ดีแล้วละก็ 9 แอปพลิเคชันที่เห็นนี้โดยส่วนมากจะมีชื่อที่คล้าย ๆ กันและเป็นแอปพลิเคชันที่เราคิดว่ามันเป็นแอปพลิเคชันที่ทำให้เครื่องเราป้องกันการติดไวรัสหรือว่าทำให้เครื่องเราทำงานได้เร็วมากขึ้น นับว่าเป็นการตั้งชื่อแอปพลิเคชั่ที่สามารถทำให้คนที่ไม่รู้นั้นหลงกลเข้าไปได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วลองตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของคุณดูซิว่า มีรายชื่อแอปพลิเคชันทั้ง 9 นี้อยู่หรือไม่ จะดาวน์โหลดอะไรครั้งต่อไปมาติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือต้องคิดให้ดี เพราะไม่แน่วันหนึ่งเราอาจจะตกเป็นเหยื่อของแอปพลิเคชันเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัวก็ได้เครดิตภาพปกโดย Pexels จาก Pixabay
เทพ สุวรรณ • 3 มี.ค. 63
อ่าน
5 เเท็บเล็ต Android 2021 ราคาไม่เกิน10,000 บาท
5 เเท็บเล็ต Android 2021 ราคาไม่เกิน10,000 บาทสวัสดีครับ สำหรับบทความนี้จะมาเสนอเเท็บเเล็ตในการนำมาใช้ดูหนังฟังเพลง หรือเรียนสักเครื่องหนึ่งในงบที่ไม่เเพงมากครับ ในงบ 10,000 บาท1.HUAWEI TABLET MATEPAD 10.4 HMS ภาพจาก : huawei.comHUAWEI TABLET MATEPAD 10.4 HMS มาพร้อมกับสเปคCPU : HiSilicon Kirin 810 Octa-core (2x2.27 GHz Cortex-A76 6x1.88 GHz Cortex-A55)RAM : 4GB ROM: 64GBDISPLAY : 10.4 inches 1200 x 2000 pixelsSIM : Single SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 8 MPfront camera : 8 MPExternal Storage : microSD, up to 512GBBATTERY : 7250 mAhOS : Android 10, EMUI 10สำหรับตัวเเรกมาจากค่ายHUAWEI มาพร้อมกับCPU ความเร็ว 2.27 GHz ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ ทำงานได้อย่างสบายๆ มาพร้อมกับRam 4GB เเละ Rom 64GB เพียงพอได้อย่างเเน่นอน มาพร้อมกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง10.4 นิ้ว สำหรับSIMนั้นสามารถใส่ได้เเค่ 1SIM เท่านั้น สามารถใส่ microSD ได้เพิ่มถึง 512GB เเบตขนาด 7250 mAh ให้มาเยอะมากๆ สามารถนำออกไปใช้ข้างนอกได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าเเบตจะหมด เเละสุดท้ายเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 10, EMUI 10 ภาพจาก : huawei.com 2.SAMSUNG GALAXY TAB S6 LITE WI-FI ภาพจาก : samsung.comSAMSUNG GALAXY TAB S6 LITE WI-FI มาพร้อมกับสเปคCPU : Samsung Exynos 9611 (10nm) Octa-coreRAM : 4GB ROM: 64GBDISPLAY : 10.4 inches 1200 x 2000 pixelsSIM : Nano SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 8 MPfront camera : 5 MPExternal Storage : microSD, up to 1TBBATTERY : 7,040 mAhOS : Android 10.0; One UI 2สำหรับตัวถัดมา มาจากค่ายSamsung กับรุ่น TAB S6 LITE WI-FI มาพร้อมกับ CPU Samsung Exynos 9611 มีความเเรงพอสมควร มาพร้อมกับ Ram4GB เเละRom 64GB เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปได้อย่างเเน่นอน ขนาดหน้าจอมีขนาดใหญ่ถึง 10.4 นิ้ว กล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านเเละกล้องหลังมีความละเอียด 8ล้าน สำหรับผมเเล้วไม่นิยมให้นำมาใช้ในการถ่ายรูปสักเท่าไรครับ เจ้าตัวนี้ยังสามารถใส่ microSD ได้ถึง 1TB กันเลยทีเดียว เเละเเบตให้มาจุใจถึง 7040mAh สามารถใช้งานได้ทั้งวันอย่างเเน่นอน สำหรับตัวนี้เหมาะสำหรับการทำงานทั่วไป ทำงานเอกสาร เรียน เเละพกพาออกไปข้างนอกได้เป็นเวลานานภาพจาก : samsung.com 3.SAMSUNG GALAXY TAB A7 WI-FI ภาพจาก : samsung.comSAMSUNG GALAXY TAB A7 มาพร้อมกับสเปคCPU : Qualcomm SM6115 Snapdragon 662 (11 nm) Octa-core Kryo 260RAM : 3GB ROM: 64GBDISPLAY : 10.4 inches 1200 x 2000 pixelsSIM : Nano SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 8 MPfront camera : 5 MPExternal Storage : microSD, up to 1TBBATTERY : 7,040 mAhOS : Android 10, One UI 2.1มากับรุ่นที่ 3 กับSAMSUNG GALAXY TAB A7 มาพร้อมกับ CPU ที่เเรงเเละยอดนิยมอย่าง Qualcomm Snapdragon 662 ทำงานต่างๆได้อย่างสบาย มาพร้อมกับRam 3GB เเละRom 64GB มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 10.4 นิ้ว หน้าจอใหญ่สะใจ มาพร้อมกับกล้องหน้า 5ล้านเเละกล้องหลัง8ล้าน สำหรับผมเเล้วไม่เหมาะกับการถ่ายรูป เจ้าตัวนี้สามารถใส่ microSD ได้ถึง1TB ซึ่งเยอะมากๆสำหรับเเบตนั้นให้มาถึง7040 mAh ใช้งานได้อย่างยาวๆไม่ต้องกังวลว่าเเบตจะหมด ภาพจาก : samsung.com 4.HUAWEI MATEPAD T 10s (HMS) ภาพจาก : huawei.comHUAWEI MATEPAD T 10s (HMS) มาพร้อมกับสเปคCPU : HiSilicon Kirin 710A Octa-core Cortex-A73 Cortex-A53RAM : 3GB ROM: 64GBDISPLAY : 10.1 inches 1920 x 1200 pixelsSIM : Single SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 5 MPfront camera : 2 MPExternal Storage : microSD, up to 512GBBATTERY : 5,100mAhOS : Android 10, EMUI 10.1สำหรับตัวที่4นี้ มาพร้อมกับCPU HiSilicon Kirin 710A เเรงในระดับหนึ่ง สามารถใช้งานได้ระดับหนึ่ง เจ้าตัวนี้ให้Ram 3GB เเละRom 64GBหน้าจอให้มาถึงขนาด 10.1 นิ้วมีความละเอียด FHD+ กล้องหลังมีความละเอียด 5ล้าน เเละกล้องหน้ามีความละเอียด 2ล้านสำหรับเจ้าตัวนี้สามารถใส่microSD ได้ถึง512GB สำหรับเเบตเตอรรีให้มาเพียง 5,100mAh อาจจะใช้ได้ไม่นาน ตัวนี้ใช้งานได้อย่างสบายๆภาพจาก : huawei.com 5.LENOVO TAB M 10 TB-X605LC-ZA500119TH ภาพจาก : lenovo.comLENOVO TAB M 10 TB-X605LC-ZA500119TH มาพร้อมกับสเปคCPU : MediaTek MT6762 Helio P22T Cortex-A53RAM : 4GB ROM: 64GBDISPLAY : 10.1 inches 1280 x 800 pixelsSIM : -main camera : 8 MPfront camera : 5 MPExternal Storage : microSD, up to 256GBBATTERY : 5,000 mAhOS : Android 10มาถึงตัวสุดท้ายกับ LENOVO TAB M 10 ให้CPU มาเป็นHelio P22T ทำงานทั่วไปได้อย่างสบายๆ ตัวนี้ให้Ramมาถึง4GB เเละให้Romมาถึง64GB สำหรับขนาดหน้าจอนั้นให้มาใหญ่มากๆ 10.1 นิ้ว กล้องหลังมีความละเอียด 8ล้านเเละกล้องหน้า5ล้าน สำหรับ microSD ใส่ได้เพิ่มเเค่256GB เเละเเบตถือว่าให้มาน้อยพอสมควร 5000mAh ภาพจาก : lenovo.comสำหรับบทความนี้เพียงเเค่เสนอให้เพื่อนๆนำไปประกอบการตัดสินใจ ในการซื้อเเท็บเเล็ตนำมาใช้ดูหนังฟังเพลง หรือเรียนสักเครื่องหนึ่งในงบที่ไม่เกิน 10,000 บาทครับ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Rutcahnon • 1 ก.ค. 64
อ่าน
[TurnPro Android] สอนการติดตั้ง TWRP Recovery
มาถึงตอนที่ 3 ของบทความ [TurnPro Android] ในบทความตอนนี้จะสอนติดตั้ง Team Win Recovery Project ซึ่งเป็น Custom Recovery ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมานานหลายปีก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Recovery กันก่อน Recovery มีโหมดการทำงานต่อจาก Bootloader ออกแบบมาไว้เพื่อจัดการ แก้ไขการทำงานที่ผิดปกติ เคลียร์ข้อมูลใน partition ต่างๆ รวมไปถึงการติดตั้ง firmware อีกด้วย แต่การทำงานที่ว่านี้ จะมีขีดจำกัดอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการเข้าถึง partition ต่างๆ การจำกัดไฟล์ของ firmware ที่จะใช้ทำการติดตั้ง ดังนั้นแล้วผู้ที่ต้องการใช้ Custom ROM หรือผู้ที่ต้องการจะ Root อุปกรณ์ จึงมีความต้องการที่จะใช้ Custom Recoveryเพื่อเพิ่มขีดความสามารถจาก Recovery เดิมที่มาจากโรงงาน เช่นการ Wipe cache, partition ต่างๆ การ backup และ restore firmware การติดตั้ง patch ต่างๆ เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์อุปกรณ์ หรือการติดตั้ง Custom ROM เป็นต้น จริงๆยังมีอีกหลายอย่างที่ Team Win Recovery Project ทำได้ เอาไว้จะมากล่าวถึงในโอกาสต่อๆไปก่อนอื่นให้ไปที่เว็บ XDA เพื่อ download TWRP Recovery ตาม [ Link ] นี้ และให้ทำการ download TWRP Recovery เวอร์ชั่นล่าสุดจากนั้นให้ copy TWRP Recovery image ไฟล์ไปไว้ที่ ADB folder ถ้าไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ให้กลับไปอ่านพื้นฐานจากบทความตอนที่ 1 [TurnPro Android] สอนการติดตั้ง ADB Shell Commands/Driver เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์กับ Computer ผ่านสาย USBเปิด ADB Shell Commands ขึ้นมา จากนั้นพิมพ์คำสั่ง adb devices แล้ว enter เพื่อเช็คการเชื่อมต่อพิมพ์คำสั่ง adb reboot bootloader แล้ว enter เพื่อ reboot อุปกรณ์เข้าสู่ fastboot modeอุปกรณ์จะ reboot และเข้าสู่โหมด fastbootพิมพ์คำสั่ง fastboot flash recovery ตามด้วยชื่อไฟล์ ตามตัวอย่างจะเป็น fastboot flash recovery twrp-3.3.1-4-tucana-mauronofrio.img แล้วกด enterพิมพ์คำสั่ง fastboot reboot เพื่อ reboot อุปกรณ์อุปกรณ์ก็จะ reboot เข้าสู่โหมดใช้งานปกติ เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับเวลาจะเรียกใช้งาน ให้ทำการปิดเครื่องก่อน จากนั้นให้กดที่ปุ่ม เพิ่มเสียง ค้างไว้ แล้วกดปุ่ม พาวเวอร์ เพื่อเปิดเครื่อง เมื่อเครื่องติดปล่อยนิ้วจากปุ่มพาวเวอร์ แต่ยังกดปุ่ม เพิ่มเสียง ค้างไว้จนกว่าจะขึ้นโลโก้ TWRP ที่หน้าจอในตอนต่อไปจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการ ติดตั้ง MIUI 12 beta (EU ROM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นฐานจากบทความนี้ เพื่อนๆสามารถรับชมในรูปแบบวีดีโอได้ที่ [YouTube] เครดิตภาพประกอบ: ภาพบันทึกหน้าจอจาก Computer ของผู้เขียน, ภาพกราฟิก: สร้างโดยผู้เขียนไฟล์สำหรับติดตั้ง Team Win Recovery Project จาก XDA ขอบคุณ mauronofrio สำหรับไฟล์
e young wa • 18 มิ.ย. 63
อ่าน
แนะนำแอปพลิเคชันติดตามโทรศัพท์ 'Find my phone for Android'
สวัสดีค่าา เนื่องจากผู้เขียนเป็น 1 ในคนที่เคยทำโทรศัพท์หายค่ะ วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำแอปพลิเคชันที่ใช้ตามหาโทรศัพท์จนเจอให้ผู้อ่านทุกคน เผื่อว่าในอนาคตจะประสบปัญหาเดียวกัน^^แอปพลิเคชั่นนี้มีชื่อว่า 'Google หาอุปกรณ์ของฉัน' ต้องบอกก่อนนะคะว่าตัวแอปฯนี้เนี่ยมีคุณสมบัติในการ'ตามหา' ก็คือใช้งานได้เมื่อโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับเราแล้วนะคะ ไม่ใช่แอปฯสำหรับป้องกันโทรศัพท์หายแต่อย่างใด(ภาพโดยผู้เขียน)เมื่อโทรศัพท์ของเราหาย เราสามารถใช้โทรศัพท์อีกเครื่อง อาจจะเป็นของเพื่อน แฟน หรือคนในครอบครัวใช้แอปฯนี้ในการตามหาค่ะ โดยการใส่ email และรหัสผ่านที่อยู่ในโทรศัพท์เครื่องที่หายลงไปในแอปฯ ตัวแอปฯก็จะตามหาตำแหน่งโทรศัพท์ได้ค่ะ ข้อแม้คือโทรศัพท์เครื่องที่หายต้องเปิดข้อมูลเครือข่ายหรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตไว้ รวมถึง GPS ด้วยนะคะแอปพลิเคชันนี้ทำอะไรได้บ้าง?1. บอกข้อมูลพื้นฐานของโทรศัพท์ข้อมูลที่ตัวแอปฯนี้จะบอก ได้แก่ ยี่ห้อ รุ่นของโทรศัพท์ และข้อมูลแบบเรียลไทม์ คือ เปอร์เซนต์แบตเตอรี่ที่เหลือปัจจุบัน(บอกสถานะได้ว่าชาร์จไฟอยู่หรือป่าว) เครือข่ายซิมที่ใช้ปัจจุบัน รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่าย(อินเตอร์เน็ตส่วนตัวหรือ WIFI) และเวลาล่าสุดที่จับตำแหน่งได้ค่ะ(ภาพโดยผู้เขียน)2. บอกตำแหน่งตัวแอปฯสามารถบอกตำแหน่งโทรศัพท์ของเราได้แม่นยำมาก ๆ ยิ่งถ้าเราใช้ฟีเจอร์'เส้นทาง'ที่ลิงค์กับ Google Map เราสามารถรู้ได้เลยว่าต้องเดินไปทิศไหน อีกกี่ก้าวจะถึงตัวโทรศัพท์เราค่ะ(ภาพโดยผู้เขียน)3. เล่นเสียงในกรณีที่เราวางลืมไว้หรือทำหล่นที่ไหน ตัวแอปฯนี้สามารถสั่งให้โทรศัพท์เราส่งเสียงออกมาได้ดังที่สุดเท่าที่โทรศัพท์เราจะทำได้ถึงแม้ว่าเราจะเปิดโหมดสั่นหรือเงียบไว้ก็ตามค่ะ เสียงที่ว่าจะเป็นเสียงเรียกเข้าล่าสุดที่เราตั้งไว้นะคะ โดยเสียงจะดังนานสุด 5 นาที หรือจนกว่าเราจะปิดเองในแอปฯค่ะ4. ทำให้อุปกรณ์ปลอดภัยอันนี้ผู้เขียนชอบนะคะ สำหรับใครที่ไม่ได้ล็อคหน้าจอไว้ ฟีเจอร์นี้ช่วยได้ โดยแอปฯจะล็อคหน้าจอโทรศัพท์เราให้ และเราสามารถฝากข้อความ เบอร์โทรสำหรับติดต่อ ให้ไปปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์เราได้ เผื่อว่าใครเจอและเก็บไว้ก็สามารถติดต่อกลับมาหาเราได้ค่ะ(ภาพโดยผู้เขียน)5. ล้างข้อมูลในเครื่องในกรณีที่โชคร้าย มีคนเก็บได้และตั้งใจไม่คืนจริง ๆ เราสามารถปกป้องข้อมูลสำคัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นเอกสารส่วนตัว รูปถ่าย หรือข้อมูลอื่นด้วยการล้างข้อมูลจากเครื่องให้หมด ป้องกันคนเอาข้อมูลส่วนตัวไปเผยแพร่หรือทำเรื่องเสียหายต่าง ๆ ค่ะแอปพลิเคชันนี้สามารถล็อกอิน email โทรศัพท์ได้หลายเครื่องพร้อมกันเลยนะคะ(ภาพโดยผู้เขียน)จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองที่ใช้แอปฯนี้ในการตามหาโทรศัพท์แล้วได้คืน ก็มีหลายปัจจัยช่วย แต่แอปฯนี้ช่วยได้มากเลยค่ะ ทำให้รู้ตำแหน่งที่อยู่คนที่เอาโทรศัพท์ไป แต่ผู้เขียนไปแจ้งความและไปตามที่อยู่พร้อมคุณตำรวจนะคะ ไม่แนะนำให้ไปเองคนเดียว เพราะอาจจะอันตรายได้ค่ะหวังว่าแอปพลิเคชันที่ผู้เขียนแนะนำ จะช่วยเหลือผู้อ่านได้หลาย ๆ คนนะคะ^^ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้ได้จาก google play store ค่ะภาพหน้าปกโดยผู้เขียน
แมวสามสี • 16 มี.ค. 63
อ่าน
Android รุ่นเก่าเตรียมโบกมือลา Google Apps
รายงานข่าวแจ้งว่า Google เตรียมตัดขาดการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android รุ่นเก่า ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ไม่สามารถล็อกอินด้วยบัญชีกูเกิลได้อีกต่อไป ทาง Google ได้ส่งอีเมลให้ผู้ใช้ที่มีสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.3.7 ลงไป ว่าในวันที่ 27 กันยายน 2021 เป็นต้นไป ผู้ใช้อุปกรณ์ที่ใช้ Android 2.3.7 ลงไป จะไม่สามารถลงชื่อเข้าสู่ระบบ Google หรือใช้งานแอปได้ ซึ่งรวมไปถึง Gmail, YouTube และอื่น ๆ สำหรับระบบปฏิบัติการตามประกาศนี้ที่จะไม่สามารถใช้งานได้ มีดังนี้ Android 1.0 Android 1.1 Android 1.5 (Cupcake) Android 1.6 (Donut) Android 2.0 2.1 (Eclair) Android 2.2 2.2.3 (Froyo) Android 2.3 2.3.7 (Gingerbread) Google ได้ระบุสาเหตุที่ปิดการลงชื่อเข้าสู่ระบบจากระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าดังกล่าวนั้น เป็นเพราะต้องการรักษาความปลอดภัยให้กับบัญชีของผู้ใช้ โดยผู้ใช้จะไม่สามารถ ลงชื่อเข้าสู่ระบบบัญชีกูเกิลเพื่อใช้งานบริการต่าง ๆ เช่น Gmail, YouTube, หรือ Maps สร้างบัญชีกูเกิล รีเซ็ตเครื่องและพยายามลงชื่อเข้าสู่ระบบใหม่ ลบบัญชีออกจากครื่อง และพยายามเพิ่มบัญชีใหม่ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานบริการต่าง ๆ ได้อยู่ หากเข้าผ่านเบราว์เซอร์ของตัวเครื่องแทน หรือพยายามอัปเดตอุปกรณ์ไปใช้ Android เวอร์ชัน 3.0 หรือใหม่กว่า
TrueID • 3 ส.ค. 64
อ่าน
รีวิว MyAndroid ทดสอบแอป Android แบบออนไลน์
ในยุคที่เทคโนโลยีและแอปพลิเคชันมือถือเติบโตอย่างรวดเร็ว การพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชัน Android กลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไป หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้การทดสอบแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายคือ MyAndroid แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการ Android Emulator ที่มีคุณสมบัติครบครัน MyAndroid เป็นเว็บที่ให้บริการ Android Emulator ที่ทรงพลังมาก ๆ เลย ช่วยให้เราสามารถทดสอบแอปพลิเคชันบน Android ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์จริง! เมื่อเข้าไปที่เว็บก็จะพบกับ Emulator ที่จำลองการทำงานของ Android ได้เกือบทุกอย่าง เราสามารถทดสอบแอปต่าง ๆ ได้ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุม เช่น จำลองการส่งข้อความ ปรับตำแหน่ง ทดสอบความเร็วเครือข่าย หรือแม้แต่จำลองเซ็นเซอร์ฮาร์ดแวร์ ทำให้การทดสอบแอปมีประสิทธิภาพและใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการตรวจสอบการทำงานของแอปในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกอย่างที่ชอบคือการใช้งานง่ายมาก ๆ เลย ไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือลงทะเบียนอะไรเลย เข้าไปใช้งานได้ทันที อินเทอร์เฟซก็ใช้งานง่ายด้วย ใช้การเคลื่อนไหวของเมาส์เลียนแบบการสัมผัสหน้าจอ แตะ ปัด พิมพ์ได้เหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย แต่ที่เจ๋งที่สุดคือ MyAndroid เชื่อมต่อกับ Google Play Store ได้ด้วย เราสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปต่าง ๆ จากร้านค้าได้เลย ทำให้การทดสอบแอปของบุคคลที่สามง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นแอปฟรีหรือแอปที่เสียเงิน ก็สามารถทดสอบได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ MyAndroid ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การอัปโหลดและติดตั้ง APK โดยตรง ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบแอปของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทดสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรวมแล้ว MyAndroid เป็นเครื่องมือที่ดีมาก ๆ สำหรับนักพัฒนาและคนที่สนใจทดสอบแอปพลิเคชัน Android เลย ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา แถมใช้งานง่ายอีกด้วย ถ้าเพื่อนสนใจลองใช้ MyAndroid ดูนะ รับรองว่าจะติดใจแน่นอน! เพราะมันเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ที่ไม่ควรมองข้าม ภาพปก โดย HIROAKI KANEDA จาก Pixabay ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
TimeTraveler • 15 ก.ย. 67
อ่าน
วิธีเปลี่ยนรหัสผ่าน Google ในโทรศัพท์ (Android)
ผมคิดว่าทุกคนคงจะมีบัญชี"Google"กันอยู่แล้วอย่างน้อย1 บัญชี ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต้องมีไว้เชื่อใช้ในการทำอะไรต่างๆ อย่าง การหาข้อมูล หรือการหาวิธีที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย หรือไม่ก็ใช้ในการทำงานต่างๆ ซึ่งพูดได้เลยว่า"Google"เป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์แก่ใครก็ตามที่ต้องการจะใช้งานเพื่อเป้าหมายของตัวเองวันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของ"รหัสผ่าน" ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะมีไว้เพื่อความอุ่นใจในการป้องกันข้อมูลต่างๆของตนเองที่ได้เซฟไว้ในบัญชี"Google" แต่ทว่าก็มีคนบางกลุ่มที่ดันเกิด"ลืมรหัสผ่าน" ของบัญชีตัวเอง มันอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะ เรื่องมากมายในชีวิตที่ทำให้ต้องเครียด หรือ การใช้สมองในการจดจำบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญจนลืมรหัสผ่านไปในที่สุด ด้วยเหตุนี้ ผมจึงได้หาวิธีในการ"เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่" มาเพื่อให้ทุกท่านที่ลืมรหัสผ่านสามารถตั้งค่ารหัสผ่านบัญชี"Google"ใหม่ได้ และผมแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากทำตามวิธีการนี้แล้ว พวกคุณต้องอย่าลืมบันทึกรหัสผ่านที่ตั้งใหม่ใส่โน็ตในมือถือด้วยนะครับ เพื่อป้องกันการลืมตามภาพเลยครับขั้นตอนแรก เข้าไปใน"Google" ขั้นตอนที่2 กดเข้าไปด้านบนขวามือ ตามลูกศรเลยครับขั้นตอนที่3 กดไปที่"จัดการบัญชีGoogle"ขั้นตอนที่4 กดเข้าไปตรง"ข้อมูลส่วนบุคคล" ตามที่ลูกศรชี้เลยครับขั้นตอนที่5 ให้เลื่อนหาคำว่า"รหัสผ่าน" แล้วกดเข้าไปตามที่ลูกศรชี้เลยครับขั้นตอนที่6 กดเข้าไปตรงที่"หากลืมรหัสผ่าน" ตามที่ลูกศรชี้เลยครับขั้นตอนที่7 เมื่อถึงขั้นนี้ให้คุณทำการ "ใช้การปลดล็อคหน้าจอ" เพื่อดำเนินการในขั้นถัดไปกดเข้าไปตรงที่"ดำเนินการ" แล้วให้ทำการปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ขั้นตอนที่8 เมื่อปลดล็อคหน้าจอสำเร็จ มันจะนำพาเรามาหน้านี้ครับ ซึ่งสิ่งที่เราควรทำคือการ ตั้งรหัสผ่านใหม่ครับ แล้วก็อย่าลืมนะครับ เมื่อนึกรหัสผ่านใหม่เเล้วลงมือตั้งรหัสแล้ว ให้ไปเขียนรหัสผ่านใส่โน็ตในมือถือด้วยนะครับขั้นตอนสุดท้าย นั้นก็คือการเริ่มต้นใช้งานรหัสผ่านใหม่นั้นเองครับสำหรับใครที่อ่านมาแล้วรู้สึก งงๆ ว่าทำไมผมไม่บอกวิธีดูรหัสผ่านแทนละ? ทำไมต้องเปลี่ยนใหม่ ต้องบอกตรงนี้เลยนะครับว่า ผมก็ไม่รู้วิธีครับ5555 พอลองดูแบบเดิมๆที่เคยดูมันก็กลายเป็นการเช็คความปลอดภัยของรหัสผ่านแทน แต่กลับไม่ให้เราดูรหัสผ่านเฉยเลย ขอย้ำอีกครั้งนะครับ! เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วให้รีบไปจด/พิมพ์ ใส่โน็ตในโทรศัพท์ทันทีเลยนะครับ เพื่อกันลืมนั้นเอง และอีกอย่างคือ ผมใช้วิธีนี้ในโทรศัพท์ (Android) นะครับ ไม่รู้ว่าios จะใช้ได้รึป่าว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความครับ!!เครดิตภาพโดยผมเอง WhiteRoom เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
WhiteRoom505 • 9 พ.ย. 65
อ่าน
Android เตือนภัย พบกองทัพ Spam กว่า 600
ในยุคที่มือถือนั้นเป็นปัจจัยที่ 7 ของมนุษย์อย่างเรา ๆ ไปแล้วไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นคนจับมือถือกันแทบจะทุกคน และเชื่อเหลือเกินว่าในมือถือของเรา ๆ ท่าน ๆ มีแอปพลิเคชันไม่ต่ำกว่า 15 แอปพลิเคชันอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นคนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้วละก็ต้องบอกเลยว่ามีแอปพลิเคชันออกใหม่มาให้ได้ดาวน์โหลดไปใช้กันอย่างสนุกสนาน แต่ล่าสุดได้มีการเตือนภัยออกมาสำหรับใครที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android ว่ามีแอปพลิเคชันที่เป็น Spam ใน Play Store กว่า 600 แอปพลิเคชันที่คอยสร้างควงามรำคาญและแอบดักจับข้อมูลในมือถืออยู่ฟังดูแล้วเยอะมากเลยใช่ไหม แล้วเจ้า Spam จะมีผลยังไงกับมือถือเราแล้วจะมีวิธีและป้องกันอย่างไรบ้างวันนี้มีคำตอบมาให้แล้ว เครดิตภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับแอปพลิเคชันใน Play Store ว่ามีแอปพลิเคชันที่เข้าข่ายที่จะเป็นแอปพลิเคชัน Spam มากถึง 600 กว่าแอปพลิเคชัน ซึ่งลักษณะการทำงานของแอปพลิเคชันประเภทนี้ สามารถที่จะแยกออกเป็นประเภทของโฆษณากับประเภทที่แอบเก็บข้อมูลของมือถือหรือถ้าจะพูดภาษาง่าย ๆ คือการแฮกข้อมูลในมือถือเรานั่นเอง ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัยซะแล้วสำหรับการที่จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันครั้งต่อไปมาไว้ในมือถือของเรา แต่กระนั้นการที่เราจะป้องกันหรือว่าหลีกเลี่ยงการที่จะดาวน์โหดลแอปพลิเคชันต่าง ๆ นั้นก็เป็นไปได้ยากแม้ว่าเราจะป้องกันดีแค่ไหน แต่ด้วยความที่เหล่าโปรแกรมเมอร์ที่ออกแบบแอปพลิเคชันนั้นก็จะสร้างความน่าเชื่อถือให้เราอยู่เสมอ หากนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงเวลาที่เราเล่นมือถือเกมอะไรสักอย่างแล้วจะมีโฆษณาเด้งขึ้นว่าเล่นเกมนี้แล้วได้เงิน นั่นแหละครับคือการสร้างความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชันเหล่า Spam เครดิตภาพโดย Hannes Edinger จาก Pixabay Per Bjorke ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของ Ad Traffic Quality ของ Google ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า “คุณลองนึกภาพว่าในขณะที่คุณใช้ แต่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในมือถือของคุณ เช่น ดูวีดีโอแล้วมีโฆษณาที่ไม่ได้เกิดจากแอปพลิเคชันนั้นแสดงขึ้นมา หรือว่าการใช้แผนที่ในจุดหมายที่ไม่ใช่จุดหมายที่แท้จริง นั่นคือปัญหาที่กำลังเผชิญหากไม่มีการแก้ไข” “ยิ่งเทคโนโลยีก้าวไปเร็วมากแค่ไหน สิ่งที่เราไม่ต้องการก็มักจะเป็นสิ่งที่ตามเรามาเสมอ ทาง Play Store มีมาตรการรับมืออย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ใช้งานได้มั่นใจได้ว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน” เครดิตภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางที่จะแก้ไขหรือป้องกันซะทีเดียว วิธีเลี่ยงที่จะไม่ให้ถูกแอปพลิเคชันเหล่านี้ทำงานในมือถือของเรานั้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเพียงแค่ไม่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งที่มาที่ไม่ชัดเจน หรือหากดาวน์โหลดมาแล้วแจ้งให้ใส่ข้อมูลที่เป็นส่วนตัว เช่น บัตรเครดิต บัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นส่วนตัวก็อย่าไปเผลอใส่และให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทิ้งออกจากเครื่องด้วย เรื่องของ Spam ที่มาในแอปพลิเคชันทาง Play Store ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดได้ลบแอปพลิเคชันที่เข้าข่ายของการเป็น Spam ทิ้งไปอยู่เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นแล้วเหล่าสาวก Android ก็ไม่ต้องกังวลไปใช้งานได้อย่างสบายใจได้เลย เครดิตภาพปกโดย neo tam จาก Pixabay
เทพ สุวรรณ • 1 มี.ค. 63
อ่าน
5 เเท็บเล็ต Android 2021 ราคาไม่เกิน5,000 บาท
5 เเท็บเล็ต Android 2021 ราคาไม่เกิน5,000 บาทสวัสดีครับ สำหรับบทความนี้จะมาเสนอเเท็บเเล็ตในการนำมาใช้ดูหนังฟังเพลง หรือเรียนสักเครื่องหนึ่งในงบที่ไม่เเพงมากครับ ในงบ 5,000 บาท1.Lenovo Tablet TAB M8 TB-8505X-ZA5H0114THภาพจาก : Lenovo.comLenovo Tablet TAB M8 มาพร้อมกับสเปคCPU : MediaTek Helio A22 Tab 2 GHz RAM : 3GBROM : 32GBDISPLAY : 8 inches HD 1200 x 800, LCDSIM : SIMNano SIM , Single SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 5 MPfront camera : 2 MPExternal Storage : -BATTERY : 5,000 mAhOS : Android 9 Pie สำหรับรุ่นนี้เป็นค่ายของ Lenovo ดีไซน์ตามเเบบฉบับ LEnovo คือการดีไซน์เเบบเรียบหรู สำหรับช่องการเชื่อมต่อนั้นข้างบนจะประกอบไปด้วยลำโพง1ตัวเเละช่องสำหรับหูฟัง1ช่อง ฝั่งขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มลดเสียงเพิ่มเสียง เเละปุ่มปิดเปิดเครื่อง ฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่SIMมาให้ ด้านล่างจะมีลำโพงมาให้อีกตัวเเละช่องสำหรับการชาร์จ สำหรับจุดเด่น ลำโพงเป็นdolby atmos เเละการบริการหลังการขายของLenovo ขึ้นชื่อว่าดีมากๆ กล้องหลังเเละกล้องหน้าให้มาเพียงอย่างละตัวเท่านั้น เเท็บเล็ตตัวนี้ใช้สำหรับเรียนดูหนังฟังเพลง หรือทำงานทั่วๆไปได้อย่างสบายๆ ภาพจาก : Lenovo.com 2.Huawei Tablet MatePad T 10 Deepsea Blue (HMS)ภาพจาก : huawei.comHuawei Tablet MatePad T 10 มาพร้อมกับสเปคCPU : HiSilicon Kirin 710A Octa-core Cortex-A73 Cortex-A53RAM : 2GBROM : 32GBDISPLAY : 9.7 inches 1280 x 800 pixelsSIM : Nano SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 5 MPfront camera : 2 MPExternal Storage : microSD, up to 512GBBATTERY : 5,100 mAhOS : EMUI 10.1, Android 10มาต่อกันด้วยเเท็บเเล็ตจากค่าย Huawei กันบ้างสำหรับเจ้าตัวนี้ สำหรับการออกเเบบดีไซน์นั้น ข้างบนของตัวเครื่อง จะมีปุ่มสำหรับการลดเสียงเพิ่มเสียง เเละปุ่มปิดเปิดเครื่อง ฝั่งซ้ายจะมีลำโพง1ตัว ด้านขวาจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับหูฟัง ช่องชาร์จ เเละลำโพงอีก1ตัว สำหรับเจ้าตัวนี้ให้กล้องหลังเเละหน้ามาเพียงฝั่งละ1ตัว เเบตอึตใช้ได้นาน เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปอย่างดูหนัง ฟังเพลงหรือการเรียนภาพจาก : huawei.com 3.Samsung Tablet Galaxy Tab A 8.0 2019ภาพจาก : samsung.comSamsung Tablet Galaxy Tab A 8.0 มาพร้อมกับสเปคCPU : Qualcomm SDM429 Snapdragon 429 2.0 GHzRAM : 2GBROM : 32GBDISPLAY : 8.0 inches WXGA 1280 x 800 pixelsSIM : Nano SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 8 MPfront camera : 2 MPExternal Storage : microSD, up to 512GBBATTERY : 5,100 mAhOS : Android 9.0 (Pie)มาต่อกันด้วย เเท็บเเล็ตจากค่าย Samsung กันบ้างสำหรับเจ้าตัวนี้ สำหรับการออกเเบบดีไซน์นั้น ข้างขวาของตัวเครื่อง จะมีปุ่มสำหรับการลดเสียงเพิ่มเสียง เเละปุ่มปิดเปิดเครื่องด้านล่างจะมีลำโพง1ตัว ด้านบนจะประกอบไปด้วย ช่องสำหรับหูฟัง ด้านล่างจะประกอบไปด้วยช่องชาร์จ เเละลำโพงอีก1ตัว สำหรับเจ้าตัวนี้ให้กล้องหลังเเละหน้ามาเพียงฝั่งละ1ตัว เเบตอึตใช้ได้นาน เหมาะสำหรับการเรียน ทำงานทั่วๆไป เหมาะสำหรับท่านไหนที่ต้องการหน้าจอใหญ่ๆภาพจาก : samsung.com 4.Alldocube iPlay 20 Proภาพจาก : alldocube.comAlldocube iPlay 20 Pro มาพร้อมกับสเปคCPU : UNISOC SC9863A Octa-core Cortex-A55 1.6 GHz + 1.2 GHzRAM : 6GBROM : 128GBDISPLAY : 10.1 inches 1920 x 1200 pixelsSIM : Nano SIM , Dual SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 5 MPfront camera : 2 MPExternal Storage : microSD, up to 512GBBATTERY : 6,000 mAhOS : Android 10.0สำหรับรุ่นนี้เป็นค่ายของ Alldocube เป็นยี่ห้อใหม่ที่คนไทยอาจไม่รู้จัก สำหรับตัวนี้เป็นตัวที่คุ้มที่สุดให้สเปคเครื่องมาเเบบจัดเต็ม ให้Ram มาถึง6GB เเละพื้นที่เก็บข้อมูลภายในถึง 128GB เเละมาพร้อมกับขนาดหน้าจอถึง 10.1 นิ้ว สามารถใส่ได้ถึง2SIM เเละใส่ microSD ได้อีกด้วย สำหรับเเบตให้มาถึง 6000mAh ให้มาเยอะมากๆ สำหรับรุ่นนี้ดูหนังฟังเพลง เรียน ทำได้อย่างเหลือ สำหรับสเปคนี้คุ้มมากๆภาพจาก : alldocube.com 5.Teclast P20HDภาพจาก : teclast.comTeclast P20HD มาพร้อมกับสเปคCPU : MediaTek Helio P70 Octa-core Cortex-A73 2.1 GHzRAM : 4GBROM : 64GBDISPLAY : 10.1 inches WUXGA 1920 x 1200 pixelsSIM : Micro SIM , Single SIM 2G , 3G , 4G (LTE)main camera : 8 MPfront camera : 5 MPExternal Storage : TF card up to 128GBBATTERY : 8,000 mAhOS : Android 9.0 Pieมาถึงตัวสุดท้ายกับ Teclast P20HD มาพร้อมกับ CPU MediaTek Helio P70 เป็นรุ่นยอดนิยมเป็นอย่างมาก ให้ RAM มาถึง 4GB เเละให้Rom มาถึง 64Gb มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 10.1 นิ้ว เป็นหน้าจอที่ชัดมากๆ สามารถใส่ TF card ได้ สำหรับจุดเด่นตัวนี้เลยให้เเบตมาถึง 8000 mAh ให้มาเยอะมากๆ สำหรับตัวนี้ทำงานทั่วไปได้อย่างสบาย เน้นออกไปทำงานข้างนอกเป็นเวลานานๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าเเบตจะหมดภาพจาก : teclast.comสำหรับบทความนี้เพียงเเค่เสนอให้เพื่อนๆนำไปประกอบการตัดสินใจ ในการซื้อเเท็บเเล็ตนำมาใช้ดูหนังฟังเพลง หรือเรียนสักเครื่องหนึ่งในงบที่ไม่เเพงมากครับเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Rutcahnon • 26 พ.ย. 64
อ่าน
Clubhouse android (แอนดรอยด์) ที่ใช้ได้จริง
จากกระแส Clubhouse ที่สามารถใช้งานบน android ได้ด้วยแอปพลิเคชัน Client For Clubhouse: audio Chat และ แอปพลิเคชันใกล้เคียงอื่น ๆ บน Google Play ได้ถูกถอดออกไปทั้งหมด เนื่องจากขัดต่อกฎของ Google ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้ Clubhouse บน android ไม่สามารถค้นหาแอปพลิเคชันดังกล่าวได้อีกต่อไปบน Google Playแต่ยังมีทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Clubhouse ในระหว่างนี้บน android อยู่ นั่นคือการลงแอปพลิเคชันแบบ apk โดยตรงจากผู้พัฒนาแอปพลิเคชันอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งนั่นก็คือแอปพลิเคชัน HouseclubHouseclub คือต้นแบบของแอปพลิเคชันอย่างไม่เป็นทางการ และสามารถ Download ได้ที่ Github ดัง url ด้านล่างนี้https://github.com/grishka/Houseclub/releasesโดยการลงแอปพลิเคชัน Houseclub นี้ หากใครเคยลงแอปพลิเคชันแบบ apk อยู่แล้วคงไม่มีปัญหา แต่หากยังไม่เคยอาจจะยุ่งยากสักหน่อย โดยจะมีรายละเอียดและขั้นตอนดังนี้ก่อนอื่นให้ไปตามลิงก์ผู้พัฒนาข้างต้น1. กดเลือกที่เลขเวอร์ชัน ซึ่ง ณ ที่นี้ 1.0.8 คือปัจจุบันที่สุด ในอนาคตคาดว่าจะมีอัปเดตต่อ ๆ ไป2. จากนั้นกดเลือกที่ Assets3. เราจะเห็นไฟล์ .apk ในที่นี้คือ Houseclub-release.apk กดเลือกที่นี่เพื่อทำการ Download เก็บไว้ในเครื่องก่อนหากท่านมีแอปพลิเคชันที่ใช้ลงไฟล์ apk ซึ่งโทรศัพท์แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไปก็ให้ทำการลงได้เลย แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะลงได้จากไหนหรือยังไง สามารถกลับไปที่ Google Play เพื่อลงแอปพลิเคชัน APK Installer แล้วใช้แอปพลิเคชันตัวนี้ในการลงแอปพลิเคชัน Houseclub-release.apk ข้างต้นที่เรา Download มาไว้ในเครื่องได้เลยเมื่อทำการ install ไฟล์ Houseclub แล้ว เราก็สามารถเปิดแอปพลิเคชันได้เหมือนแอปพลิเคชันทั่ว ๆ ไป โดยในที่นี้เราจะต้องกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่เราใช้งาน แล้วเราจะได้ SMS เพื่อยืนยัน จากนั้นคุณต้องได้รับ Invite มายังเบอร์โทรศัพท์นี้ ซึ่งหาได้จากผู้ที่ใช้ Clubhouse iOS คุณจึงจะสามารถเริ่มใช้งาน Houseclub ได้ การเริ่มใช้งานนั้นเหมือนกับใน Clubhouse ทุกประการ โดยเริ่มต้นด้วยการกรอก First name (ชื่อ) และ Last name (นามสกุล) กับ Username ที่คุณต้องการเมื่อเริ่มเข้าใช้งานแล้ว ต้องเข้าใจก่อนว่า ตัวเลือก หรือรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ จะแตกต่างจาก Clubhouse ดังที่อธิบายข้างต้นแล้วว่า Houseclub ไม่ใช่แอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการแต่การใช้งานหลัก ๆ สามารถทำได้ตั้งแต่- การเข้าห้องแนะนำที่หน้าแรก- การกดติดตามผู้อื่น (Follow)- การยกมือขึ้นพูดแต่จะไม่สามารถค้นหาผู้อื่น, สร้างห้อง, ค้นหาห้อง หรือ เข้าห้องผ่านลิ้งก์ ดังนั้นแล้วห้องที่แสดงในหน้าแรกจะแปรผันไปตามบุคคลที่เราได้ Follow ไว้เสมอจากการทดสอบใช้งาน มีค้างอยู่บ่อยครั้งหากฟังไปนาน ๆ ซึ่งไม่สามารถกด Leave room เพื่อออกจากห้องได้ จำเป็นต้องกด Home เพื่อกลับหน้าแรกของเรา และกดเปิด Houseclub อีกครั้ง เพื่อให้หน้าจอฟ้องว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวไม่ตอบสนอง และปิดแอปพลิเคชันไปก่อน จากนั้นจึงเปิดใหม่ขึ้นอีกครั้ง ก็สามารถใช้ได้ตามปกตินี่คือทั้งหมดของ Houseclub ที่ใช้งานได้ในขณะนี้ ซึ่งแม้อาจจะยังขาดรายละเอียดปลีกย่อยจากแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการ แต่ก็สามารถใช้เป็นการชั่วคราวในระหว่างรอ Clubhouse อย่างเป็นทางการบน android ซึ่งคาดว่าคงจะตามมาในไม่ช้านี้ภาพประกอบโดย ผู้เขียน
DoctorSee • 12 มี.ค. 64
อ่าน
How to โหลดเกม Dead by Daylight Mobile สำหรับ Android
อยากเล่น Dead by Daylight เวอร์ชั่นโทรศัพท์ต้องทำยังไงนะ? สวัสดีค่ะ วันนี้ CALLMESAY ก็มาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับเกม Dead by Daylight อีกแล้วค่ะ หลาย ๆ คนคงสงสัย ก็ CALLMESAY เคยรีวิวไปแล้วไม่ใช่เหรอ จะมารีวิวซ้ำทำไม ซึ่งไม่เหมือนกันค่ะ วันนี้ CALLMESAY จะมาพูดถึงเกม Dead by Daylight Mobile หรือเกมในเวอร์ชั่นโทรศัพท์นั่นเอง ในเวอร์ชั่นนี้ ตัวเกมยังคงมีกลิ่นอายของเวอร์ชั่น PC และคอนโซลอยู่ แต่แค่เราย้ายจากเล่นแบบเวอร์ชั่น PC มาเล่นในมือถือแทนค่ะ ซึ่งตอนนี้ตัวเกมเวอร์ชั่นโทรศัพท์ยังไม่เปิดให้บริการในเซิฟเวอร์ของประเทศไทย น่าเสียดายจริง ๆ แต่! ถ้าเราอยากเล่นต้องทำยังไงล่ะ? (อยากเล่นแล้ว ฮ่า ๆ) ดังนั้น วันนี้ CALLMESAY จะมาแชร์วิธีในการดาวน์โหลดเกมและนำภาพบรรยากาศภายในเกมเล็ก ๆ น้อย ๆ (แบบเวอร์ชั่นโทรศัพท์) มาให้ทุกคนได้ชมกันค่ะ อันดับแรกเลยเราต้องดาวน์โหลดโปรแกรม Tap ก่อน โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า Tap ในหน้าค้นหาของเว็บ Browser ในมือถือค่ะ หลังจากค้นหาเสร็จให้กดคำว่า Install ในมุมล่างขวาของจอเพื่อทำการดาวน์โหลด Application พอดาวน์โหลดเสร็จก็ติดตั้งตามปกติได้เลย หลังจากที่เราติดตั้ง Application เสร็จแล้ว เราก็จะได้แอปที่หน้าตาแบบนี้ออกมาตามภาพด้านล่างนะคะ ให้ทุกคนเปิดตัวแอปนี้ขึ้นมา แล้วพิมพ์หาคำว่า Dead by Daylight Mobile ในช่องค้นหาแล้วจะเจอกับตัวเกม 2 เวอร์ชั่นด้วยกันตามรูปด้านล่าง ซึ่งให้ทุกคนสังเกตที่คำว่า US หลังประโยคค่ะ กดเข้าไปในรูปนั้นแล้วกดดาวน์โหลดได้เลย ที่เห็นขึ้น Open นั่นคือ CALLMESAY โหลดมาเล่นแล้วนั่นเอง ฮ่า ๆ หลังจากดาวน์โหลดตัวเกมเสร็จ ก่อนเริ่มเกม ทุกคนสามารถเลือก Login ได้หลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Apple ID, Facebook, Google หรือแบบ Guest ถ้าอยากจะลองเข้าไปเล่นหรือลองตัวละครเฉย ๆ ก็สามารถเลือกแบบ Guest ก็ได้ค่ะ เพราะว่าไอดีแบบไม่ระบุตัวตนเมื่อลบเกมแล้วลงใหม่ไอดีนี้ก็จะหายไปนั่นเองค่ะ (เพราะตัวเองก็ทำ ฮ่า ๆ) และนี่คือภาพบรรยากาศภายเกมค่ะ ซึ่งในหน้า Lobby จะเห็นว่าเราสามารถสลับไปมาระหว่าง Survivor กับ Killer ได้ค่ะ และมีความแตกต่างระหว่างเวอร์ชั่นโทรศัพท์กับเวอร์ชั่น PC ค่ะ ส่วนแถบ Function มุมบนซ้ายอันแรกก็คือการเลือกตัวละครของ Survivor และ Killer ช่องถัดไปจะเป็นการแต่งตัวให้กับตัวละคร ถัดไปอีกช่องจะเป็นการติดตั้ง Perk และ Loadout ต่าง ๆ ส่วนช่องสุดท้ายจะเป็นการซื้อ Item ต่าง ๆ ค่ะ ส่วนอันนี้เป็นภาพบรรยากาศภายในเกมเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเนื้อหา ภารกิจต่าง ๆ จะคล้ายคลึงกับเวอร์ชั่น PC พอสมควรเลยค่ะ ^^ สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่อยากเล่น Dead by Daylight เวอร์ชั่นโทรศัพท์ (ก่อนใคร ฮ่า ๆ) ก็สามารถทำตามวิธีนี้กันได้เลยนะคะ ดาวน์โหลด Tap คลิกเลย : Tapเครดิตภาพทั้งหมดโดย : Dead by Daylight Mobile เครดิตภาพ Logo Tap : Tap
CALLMESAY • 28 เม.ย. 63
อ่าน
ผู้ใช้งาน Android ย้ายไปใช้ iPhone สูงสุดในรอบ 5 ปี หรือ Android ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่แล้ว?
CIRP หรือ Consumer Intelligence Research Partners เผยผลสำรวจผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาที่ซื้อ iPhone ระบุว่า Apple สามารถดึงผู้ใช้งาน Android ได้สูงสุดในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว แม้ว่า iPhone จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นมาถึง 1,000 เหรียญ หรือประมาณ 34,000 บาท แต่ก็มีผู้ใช้งานจาก Android ที่เปลี่ยนมาใช้งาน iPhone มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับ iPhone 15% ของผู้ใช้งาน iPhone เครื่องใหม่ ย้ายมาจาก Android เพิ่มขึ้นจาก 11% เมื่อปีที่แล้ว อีก 83% เป็นผู้ใช้ iPhone เดิม ส่วนอีก 2% มาจากมือถืออื่น ๆ ทั้งนี้ Apple เคยทำสถิติได้ผู้ใช้งานจาก Android มากที่สุดในปี 2016 อยู่ที่ 21% เมื่อปี 2016 หรือสมัย iPhone 7 ที่ตัดช่องเสียบหูฟังออก ด้าน CFO ของ Apple – ลูก้า แม้สตรี (Luca Maestri) กล่าวระหว่างผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ว่า “ที่ใดก็ตามที่มีส่วนแบ่งของ iPhone น้อย เรายิ่งได้ส่วนแบ่งมากขึ้นในสถานที่เหล่านั้น” นั่นหมายความว่าผู้ใช้งานที่เปลี่ยนจาก Android มาใช้ iPhone นั้น มีมากกว่าในสหรัฐอเมริกาเสียอีก ที่มา 9to5Mac
แบไต๋ • 23 พ.ค. 66
อ่าน
5 ฟีเจอร์ใหม่ ที่จะมาใน Android 11
เป็นเรื่องที่น่าดีใจอย่างมากสำหรับสาวก Android ที่จะได้เห็นเวอร์ชันใหม่ทีมีชื่อว่า Android 11 กันแล้ว โดยทาง Google มีการวางแผนที่จะปล่อย Android 11 มาให้ได้ใช้กันในเดือนหน้านี้ การเปิดตัว Android 11 นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวของ Google ที่จะได้ทดลองการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่พัฒนาจากคู่แข่งอย่าง Apple ไม่เพียงเท่านั้นการใช้งานบางอย่างก็จะมีเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ผู้ใช้งานนั้นได้รู้สึกถึงความแตกต่างสำหรับในเวอร์ชันนี้ มีการคาดการณ์ว่าฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะได้เห็นนั้นเป้นข้อเสียของทาง Apple เอวที่ยังไม่สามารถแก้ไขสำหรับผู้ใช้ได้ เลยได้โอกาสที่ Google จะเปิดตัว Android 11 ในครั้งนี้ตัดหน้าซะก่อน วันนี้มี 5 ฟีเจอร์ที่น่าจับตาสำหรับ Android 11 สาให้สาวก Android ให้ได้รู้ก่อนใครกันว่าแวไปดูกันเลยดีกว่า 1. แสดงแอปพลิเคชันที่ใช้งานล่าสุดมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ตามที่นักพัฒนา XDA ระบุว่า Google ได้เพิ่มพรีวิวขนาดใหญ่ขึ้นในหน้าจอของแอปพลิเคชันล่าสุดใน Android 11 ตามที่ปรากฏในภาพหน้าจอด้านล่างการออกแบบตัวอย่างจริงนั้นค่อนข้างเหมือนกับตัวอย่างใน Android 11 แต่ขนาดของภาพตัวอย่างนั้นใหญ่กว่ามาก นอกจากนี้ Google ยังได้เพิ่มทางลัดใหม่สองแบบคือรูปแบบของภาพหน้าจอและการแชร์ไปยังแอปพลิเคชันอื่น ในขณะที่ตัวเลือกภาพหน้าจอจะถ่ายภาพหน้าจอของแอปพลิเคชันที่แสดงในหน้าจอล่าสุดปุ่มแชร์จะจับภาพหน้าจอและเปิดแผ่นแชร์เพื่อความรวดเร็ว อีกด้วยเรียกว่าสะดวกต่อการใช้งาน ง่านต่อการแบ่งปันนั่นเอง 2. New screenshot pop-up Google ได้ปรับแต่งป๊อปอัปที่ปรากฏขึ้นเมื่อจับภาพหน้าจอและตอนนี้ก็มีขนาดเล็กลงและคล้ายกับที่ปรากฏบนอุปกรณ์ iOS แทนที่จะเป็นป๊อปอัปขนาดใหญ่ที่ด้านบนของหน้าจอ แต่จะแสดงภาพหน้าจอที่มีขนาดเล็กลงแทน ซึ่งจะแสดงที่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอ นอกจากนั้นยังเพิ่มตัวเลือกเพื่อยกเลิกการแจ้งเตือนการแบ่งปันภาพหน้าจอและแก้ไขในที่เดียวอีกด้วย อะไรมันจะง่ายปานนั้นเนี่ย 3. ปรับปรุงการอนุญาตแอปพลิชัน Google พยายามแก้ไขการอนุญาตแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่องใน Android สองสามเวอร์ชันล่าสุดสิ่งนี้ก็ยังถูให้มีอยู่ในการทำงานกับ Android 11 ด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่รตู้กันว่าก่อนหน้ามีข่าวสำหรับมัลแวร์ที่ติดมากับแอปพลิเคชันของ Play Store ที่ชื่อ Tekya ที่สามารถหลบการตรวจสอบได้ Google จึงได้ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Android 11 ที่จะเพิกถอนการอนุญาตของแอปพลิเคชันหากไม่ได้ใช้แอปพลิเคชันเป็นเวลาสองสามเดือน วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่สงสัยจากการได้รับข้อมูลจากแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่เผลอดาวน์โหดลมาแล้วไม่สามารถลบแอปพลิเคชันนั้นหรือว่าลืมไปว่ามีแอปพลิเคชันเหล่านี้อยู่ในโทรศัพท์มือถือ 4. การปล่อยสัญญาณ Ethernet Android 11 ยังเพิ่มตัวเลือกใหม่ในเมนูฮอตสปอตและการปล่อยสัญญาณในรูปแบบของการปล่อยสัญญาณ Ethernet สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่ออะแดปเตอร์ USB กับ Ethernet เข้ากับโทรศัพท์ Android แล้วเชื่อมต่อสาย LAN เข้ากับอะแดปเตอร์และพีซีเพื่อใช้อินเทอร์เน็ตจากโทรศัพท์มือถือ นี่เป็นฟีเจอร์เฉพาะแต่จะมีประโยชน์อย่างแน่นอนเมื่อเราเองพยายามใช้อินเทอร์เน็ตบนเดสก์ท็อปที่ไม่รองรับ Wi-Fi นี่ถอว่าเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับบ้านที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีและอยากใช้อินเทอร์เนตจากโทรศัพท์มือถือ 5. ความสามารถในการยกเลิกการแจ้งเตือนแบบถาวร Google ได้เพิ่มความสามารถในการยกเลิกการแจ้งเตือนแบบถาวรใน Android 11 ในขณะที่ผู้ใช้ Android สามารถยกเลิกการแจ้งเตือนส่วนใหญ่ใน Android 10 การแจ้งเตือนแบบถาวรได้เหมือนกัน แต่บางครั้งก็ยังแสดงแอปพลิเคชันที่ทำงานที่ไม่สามารถยกเลิกได้ Google อนุญาตให้ผู้ใช้ลบสิ่งเหล่านั้นใน Android 11 การแจ้งเตือนถาวรที่ถูกยกเลิกจะย้ายไปที่ประวัติที่เดบิวต์จะจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของรายการที่ถูกยกเลิกแบบถาวร ผู้ใช้จะสามารถแตะที่รายการนั้นเพื่อดูการแจ้งเตือนถาวรที่ถูกยกเลิกได้เพื่อที่จะเปลี่ยนการตั้งค่าใหม่ ถือว่าเป็นการสร้างคสามแปลกใหม่และสร้างนวัฒกรรมใหม่ ๆ มาให้เหล่าผู้ใช้งานได้ใช้ประโยชน์กันได้อย่างเต็มที่สำหรับ Google แต่ก็ต้องมาลุ้นกันว่ารุ่นไหนได้ไปต่อและรุ่นไหนจะได้โบกมือลากับ Android 11 กันบ้างเพราะตอนนี้มีเพียงเรื่องของ ฟีเจอร์ใหม่เท่านั้นที่ออกมายังไม่มีข้อมูลของรุ่นที่จะรองรับออกมาแต่อย่างใด แต่ไม่นานเกินรอจะได้รู้ว่ารุ่นไหนไปต่อและไม่ได้ไปต่อแน่นอน ซึ่งหากรุ่นที่เราใช้งานอยู่ไม่ได้ไปต่อคราวนี้ต้องแคะกระปุกเพื่อถอยเครื่องใหม่แน่นอนไว้มาลุ้นกันเดือนหน้าสำหรับ Android 11 เครดิตภาพ Canva.com ,ภาพปก , ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 แหล่งข้อมูลอ้างอิง :: gadgets.ndtv.com
เทพ สุวรรณ • 5 พ.ค. 63
อ่าน
เอชเอ็มดีเผยมัลแวร์คุกคามสมาร์ทโฟน Android เพิ่ม 4% ชูโนเกียปลอดภัยสูงสุดบนระบบ Android One
โนเกีย (Nokia) เผยภัยเงียบ พบไวรัส มัลแวร์คุกคามสมาร์ทโฟน เฉพาะระบบ Android เจาะข้อมูลส่วนตัว สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นกว่า 4% จากจำนวนผู้ใช้งานระบบ Android ทั่วโลก 2.5 พันล้านคน มุ่งเข้าล้วงข้อมูลจากรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ในขณะที่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นมากกว่ามือถือ แต่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งกระเป๋าสตางค์ เก็บไฟล์ภาพและเอกสารต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมีความต้องการด้านความปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น เปิดสถิติคนไทย 51.9% ยอมรับว่า มือถือที่ปลอดภัย คือตัวเลือกแรกในการเลือกสมาร์ทโฟน ชูโนเกีย สมาร์ทโฟน ระบบแอนดรอยด์ DNA ความทนทาน คุ้มค่า ใช้งานปลอดภัยยาวนาน บนระบบปฏิบัติการ Android One เพียวแอนดรอยด์ และฮาร์ดแวร์รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ดีที่สุด ครอบคลุมสมาร์ทโฟนโนเกียในทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ในราคาประหยัดอย่าง C ซีรีส์ ไปจนถึงรุ่นเรือธงอย่าง X ซีรีส์ ใช้งานได้อย่างมั่นใจบนความปลอดภัยสูงสุด นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) เปิดเผยว่า ปัจจุบันช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้คนต้องลดพฤติกรรมการสัมผัส และต้องเว้นระยะห่าง หรือ Social distancing ในชีวิตประจำวัน กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมทางสังคม ก้าวสู่วิถีชีวิตบนโลกออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการเรียน การทำงาน การจับจ่ายใช้สอย หรือแม้แต่การทำธุรกรรมต่าง ๆ ซึ่งพูดได้ว่าในปัจจุบันการมีสมาร์ทโฟนเพียงหนึ่งเครื่อง เปรียบเสมือนมีทั้งกระเป๋าสตางค์ แฟ้มเก็บไฟล์ภาพ หรือเอกสารสำคัญต่าง ๆ รวมครบจบไว้ในที่เดียว สามารถพกพาพร้อมใช้งานได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลา จึงทำให้สมาร์ทโฟนมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ในด้านพฤติกรรมพบประชากรทั่วโลก 2,500 ล้านคน เลือกใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มแฮกเกอร์ ไวรัส มัลแวร์ต่าง ๆ ที่อาศัยช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ Android แฝงตัวเจาะเข้าถึงความเป็นส่วนตัว สร้างความเสียหายให้ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 4% โดยมุ่งล้วงข้อมูลสำคัญทั้งการเข้าถึงรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือ link โฆษณาต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อความปลอดภัยของสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการความปลอดภัยบนการใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้น จากสถิติพบคนไทยกว่า 51.9% ยอมรับว่า การรู้ว่ามือถือของตัวเองมีความปลอดภัย นั้นสำคัญมากในการเลือกใช้สมาร์ทโฟน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือโนเกียตลอดระยะเวลาการใช้งาน โนเกียจึงมุ่งตอกย้ำจุดยืนที่เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ด้วย DNA โดดเด่นในด้านความทนทาน คุ้มค่าเกินราคา ใช้งานยาวนาน บนระบบปฏิบัติการ Android One เพียวแอนดรอยด์ ที่สามารถอัปเดตเวอร์ชันใหม่ได้ทันทีเมื่อมีการอัพเกรดจากแอนดรอยด์ และสามารถอัปเดตความปลอดภัยของสมาร์ทโฟน รวมถึงการอัปเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ใหม่ล่าสุดได้ทันที ประกอบกับความมุ่งมั่นพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านของการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ ระบบปฏิบัติการ รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมากที่สุด ภายในแนวคิด Love It. keep it. trust it. ระบบปฏิบัติการ Android One เพียวแอนดรอยด์ มีอยู่บนสมาร์ทโฟนโนเกียครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดอย่าง C ซีรีส์ ไปจนถึงรุ่นเรือธงอย่าง X ซีรีส์ โดยเป็นแพลตฟอร์มแอนดรอยด์สต็อกรอม (Stock ROM) ที่ได้รับการการันตีด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จากกูเกิล (Google) อัปเดตความปลอดภัยอยู่เป็นประจำ ในระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งในแต่ละครั้ง ระบบปฏิบัติการจะช่วยลดช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ Android ที่อาจจะถูกตรวจพบโดยมัลแวร์ หรือแฮกเกอร์ ในทุกครั้งที่ใช้โทรศัพท์ จึงทำให้สมาร์ทโฟนโนเกียมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสร้างเกราะป้องกันด้านความปลอดภัย ยากต่อการถูกคุมคามทางไซเบอร์ หรือถูกแฮกข้อมูลจากแฮกเกอร์ หรือมัลแวร์ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่ไม่ได้เน้นด้านระบบความปลอดภัย หรือเครื่องที่ไม่มีการอัปเดตระบบปฏิบัติการด้านความปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วขึ้น ทั้งยังช่วยรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยโทรศัพท์จะลดการใช้พลังงานอัตโนมัติ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากกูเกิล (Google) ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแสดงผลบนหน้าจอที่ให้เฉดสีที่คมชัด และสดใหม่ พร้อมกล้องถ่ายรูปคมชัดมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นายภารดรกล่าวทิ้งท้าย
มติชน • 7 เม.ย. 65
อ่าน
Google ปิดตัวแอปพลิเคชัน Street View บน iOS และ Android
Google ประกาศปิดตัวแอปพลิเคชัน Street View บริการเสริมมองเห็นภาพสถานที่ในมุมมอง 360 องศารอบทิศทาง บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยบริษัทเปิดเผยว่าจะทำการปิดตัวแอปพลิเคชันดังกล่าวภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และทีมงานนักพัฒนาจะหยุดการสนับสนุนแอปพลิเคชันในวันที่ 21 มีนาคม 2023 นับเป็นข่าวใหญ่สำหรับนักเดินทางหรือผู้ที่ต้องใช้แผนที่เป็นประจำ เนื่องจาก Street View ได้รับความนิยมสูงนับจากการเปิดตัวในปี 2015 โดยบริษัทได้ใช้รถยนต์และพนักงานที่เป็นมนุษย์ถ่ายภาพตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เก็บไว้บนฐานข้อมูลขนาดใหญ่บริการ Street View ยังคงมีอยู่ต่อไปแต่กลายเป็นเพียงฟีเชอร์หนึ่งของแอปพลิเคชัน Google Map แอปพลิเคชันแผนที่ยอดนิยม ผู้ใช้งานยังคงตรวจสอบภาพมุมมองต่าง ๆ ของสถานที่บนแผนที่และสามารถเพิ่มภาพรอบทิศทางแบบ Photo Spheres ทั้งจากภายนอกตัวอาคารและภายในตัวอาคารลงไปในแผนที่ได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงการใช้งาน Street View บนเว็บไซต์ Google Map ก็ยังคงใช้งานต่อไปได้ตามปกติแม้จะเป็นการปิดตัวบริการแอปพลิเคชัน Street View แต่ดูเหมือนบริการในลักษณะแผนที่ภาพ 360 องศา ยังคงได้รับความนิยมต่อไป สำหรับนักเดินทางใช้ตรวจสอบสถานที่ก่อนเดินทางไปยังพื้นที่นั้น ๆ นอกจากบริการของ Google แล้วยังมีบริษัทอีกหลายแห่งพยายามพัฒนาบริการในลักษณะดังกล่าว เช่น Apple Maps Street View เป็นต้นที่มาของข้อมูลengadget.com
TNN ช่อง16 • 4 พ.ย. 65
ดูเพิ่มเติม