รีเซต

ผลการค้นหา “9:1” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังขึ้นต่อ จับตาท่าที FED 9-10 ก.ค.
อ่าน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังขึ้นต่อ จับตาท่าที FED 9-10 ก.ค.

#หุ้นต่างประเทศ #ทันหุ้น - บล.ซีจีเอสอินเตอร์เนชั่นแนลรายงานภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ Daily Global Market In News: ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี SP500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับนิวไฮเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) นักลงทุนจับตามองข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญ รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน FED ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ประธาน FED นาย Jerome Powell มีกำหนดแถลงการณ์รอบครึ่งปีเกี่ยวกับนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้(9 ก.ค.) และจะมีการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ(10 ก.ค.) ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธาน FED ส่งสัญญาณว่า แม้จะมีความคืบหน้าในการลดอัตราเงินเฟ้อ แต่ยังไม่มีความมั่นใจเพียงพอที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าเพิ่มความหวังว่าตลาดแรงงานจะเย็นลง ทำให้ FED มีแรงผลักดันมากขึ้นในการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย แต่อัตราเงินเฟ้อน่าจะเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนคาด FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนและธันวาคม ดัชนี CPI ของสหรัฐประจำเดือนมิถุนายนจะเผยในวันพฤหัสบดีนี้ มีคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปจะขยับขึ้น 0.1% MoM และ 3.1% YoY ขณะที่ดัชนี Core CPI ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานคาดว่าจะปรับตัวขึ้น 0.2% MoM และ 3.4% YoY นอกจากข้อมูลเงินเฟ้อและถ้อยแถลงของ FED ประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่จะเผยในวันศุกร์ ซึ่งรวมถึง JPMorgan Chase, Wells Fargo และ Citigroup ขณะที่ PepsiCo และ Delta Air Lines มีกำหนดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้เช่นกัน สหภาพยุโรปกำหนดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่สูงขึ้น แม้ว่าทางจีนจะคัดค้านก็ตามทำให้ทางจีนยกความเป็นไปได้ของสงครามการค้ากับสหภาพยุโรปในเรื่องภาษี การเก็บภาษีของสหภาพยุโรปสะท้อนการเคลื่อนไหวที่คล้ายกันของสหรัฐ และเพิ่มความกังวลว่า ความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนแย่ลง การส่งออกของเยอรมนีร่วงลงมากกว่าคาดในเดือนพฤษภาคม จากการชะลอตัวของความต้องการจากจีน การส่งออกร่วงลง 3.6%เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากระดับคาดการณ์ของ Reuters ที่คาดว่า จะปรับลดลง 1.9% ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของประเทศญี่ปุ่นชี้ว่า ค่าจ้างจริงของประเทศลดลง 1.4% YoY ในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าค่าจ้างสัญญาจะเพิ่มขึ้น 1.9% ทั้งนี้ ตัวเลขเดือนพฤษภาคมถือเป็นการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่เร็วที่สุดในรอบ 11 เดือน รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นยังคงขยายตัวเป็นเดือนที่ 15ติดต่อกันในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากรายได้สุทธิหลักช่วยชดเชยการขาดดุลการค้า สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาของรายได้ของประเทศอย่างต่อเนื่อง บัญชีเดินสะพัดขยายตัวสู่ระดับ JPY 2.85 tr. ในเดือนพฤษภาคม จากเดือนก่อนหน้าที่ JPY 2.05 tr. การท่องเที่ยวมาเก๊าเผยคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าจะเกิน 33 ล้านคนในปีนี้ โดยช่วง 5 เดือนแรกของปี 2024มาเก๊ารับนักท่องเที่ยวขาเข้าทั้งหมด 14.178 ล้านคน เพิ่มขึ้น 50.3% YoY โดยในจำนวนนี้ประมาณ 9.895 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน Stock Movement: หุ้น Paramount Global (PARA ND) ดิ่งลง 5.33% บริษัทจะยังคงลดจำนวนพนักงานต่อไปจนกว่าการควบรวมกิจการกับ Skydance Media จะปิดตัวลง ในขณะเดียวกัน บริษัทก็พยายามขายสินทรัพย์บางส่วนออกไป หุ้น Boeing Co. (BA NYSE) ปรับบวก 0.55% บริษัทจ่ายค่าปรับ USD 243.6 m. เพื่อแก้ไขเหตุจากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เกี่ยวกับอุบัติเหตุเครื่องบิน 737 MAX ตก 2 ลำ หุ้น Morphic Holding Inc. (MORF ND) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 75.06% หลังจากบริษัทยา Eli Lilly and Co. (LLY NYSE, +0.38%) ประกาศแผนการที่จะเข้าซื้อกิจการบริษัทชีวเภสัชกรรม ซึ่งกำลังพัฒนายารักษาโรคเรื้อรังร้ายแรงแบบรับประทาน หุ้น Ideaya Biosciences Inc. (IDYA ND) ทะยานขึ้น 15.32% หลังบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเผยผลเชิงบวกจากการทดลองระยะที่ 2 ของการรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็กและในท่อปัสสาวะ หุ้น Burberry Group Plc. (BRBY LON) ขยับขึ้น 1.35% Telegraph รายงานว่า บริษัทแฟชั่นสัญชาติอังกฤษเผยต่อพนักงานเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า จะลดตำแหน่งหลายร้อยอัตรา พนักงานที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร และอาจให้ลาออกหรือต้องสมัครใหม่ในตำแหน่งอื่น ทั้งนี้ สหภาพแรงงานกำลังประสานงานการแก้ปัญหาการเลิกจ้างกับพนักงาน และคาดว่ามีงานมากถึง 400 ตำแหน่งที่อาจตกอยู่ในความเสี่ยง หุ้น Britvic Plc. (BVIC LON) พุ่งขึ้น 4.60% บริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลมได้ตกลงข้อเสนอราคาเข้าซื้อกิจการจาก Carlsberg A/S (CARL-B CPH, +3.34%) จำนวน GBP ที่ข้อเสนอ 1,290 penny ต่อหุ้น ซึ่งเป็นการเสนอราคาที่ดีขึ้นจาก Carlsberg ซึ่งเสนอครั้งแรกที่ 1,200 penny ต่อหุ้น หุ้น Delivery Hero SE (DHER ETR) ดิ่งลง 7.19% บริษัทกล่าวว่า อาจโดนปรับเงินกว่า EUR 400 m. จากสหภาพยุโรป (EU) ในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด และบริษัทจะเพิ่มการตั้งสำรองเงินเพื่อรองรับความเป็นไปได้ดังกล่าว หุ้น Trip. com Group Ltd. (9961 HK) ปรับตัวบวก 0.52% ข้อมูลแพลตฟอร์มแสดงให้เห็นว่าเมื่อถึงช่วงวันหยุดฤดูร้อน คำสั่งซื้อจากนักท่องเที่ยวจีนไปยังปารีสช่วงโอลิมปิกเพิ่มขึ้น 105% YoY และจำนวนคำสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้นสองเท่า ยอดจองโรงแรมในปารีสเพิ่มขึ้น 122%และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางอย่างอิสระไปยังฝรั่งเศสในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีสเพิ่มขึ้นห้าเท่า YoY หุ้น Baidu Inc. (9888 HK) ปิดคงที่ 0.00% Baidu AI Cloud ออกตัว ERNIE 4.0 Turbo สำหรับลูกค้าองค์กรที่มีการใช้งานและการเติบโตอย่างกว้างขวาง ราคาสำหรับ ERNIE ปรับตัวลดลง โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำไปใช้และนวัตกรรมในวงกว้างในหมู่ธุรกิจต่างๆ หุ้น Kuaishou Technology (1024 HK) ไต่ขึ้น 2.23% บริษัทเผยว่า Keling AI ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ขณะนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมการทดสอบภายในแล้วมากกว่า 500,000ราย มีจำนวนวิดีโอที่สร้างขึ้นมีถึง 7 ล้านรายการ หุ้น Core Lithium Ltd. (CXO ASX) ทะยานขึ้น 9.89% ผู้ขุดแร่ลิเธียมรายงานการผลิตที่ดีกว่าที่คาด แม้ว่าตลาดลิเธียมจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องก็ตาม

จีนเผย 'การลงทุนภาคขนส่ง' โต 9.1% ในครึ่งปีแรก
อ่าน

จีนเผย 'การลงทุนภาคขนส่ง' โต 9.1% ในครึ่งปีแรก

ปักกิ่ง, 5 ส.ค. (ซินหัว) -- กระทรวงคมนาคมของจีน รายงานว่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคการคมนาคมขนส่งในจีน ช่วงครึ่งแรกของปี 2023 (มกราคม-มิถุนายน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบปีต่อปี รวมอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านหยวน (ราว 8.70 ล้านล้านบาท) รายงานระบุว่าการลงทุนก่อสร้างถนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านหยวน (ราว 6.77 ล้านล้านบาท) ส่วนการลงทุนพัฒนาเส้นทางน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 9.36 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.52 แสนล้านบาท) อนึ่ง การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคการคมนาคมขนส่งในจีน ช่วงไตรมาสสอง (เมษายน-มิถุนายน) ของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 จากปีก่อน

บิตคอยน์ผันผวนครั้งใหญ่ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ 9.1%
อ่าน

บิตคอยน์ผันผวนครั้งใหญ่ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ 9.1%

ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ในเดือนมิถุนายน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ราคาของ BTC ก็ประสบกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นตามเวลา ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับผู้บริโภคในเมืองทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1.3% ปรับตามฤดูกาลและ 9.1%% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ปรับตามฤดูกาล ดัชนีสำหรับทุกรายการที่น้อยกว่าอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิถุนายน (SA);เพิ่มขึ้น 5.9% ต่อปี (NSA) สำหรับผู้ที่ไม่รู้ตัว ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในสหรัฐฯ ที่ใช้กันมากที่สุด เนื่องจากจะวัดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยเมื่อเวลาผ่านไปของราคาที่ผู้บริโภคในเมืองจ่ายสำหรับตลาดบริการและสินค้าอุปโภคบริโภค ค่อนข้างคาดหวังสิ่งนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายในตลาดสกุลเงินดิจิตอลราคาของ BTC เพิ่มขึ้นเป็น 20,126.39 ดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้น ๆ จากนั้นร่วงลงมาที่ 19,200 ดอลลาร์ ในขณะที่เขียนบทความนี้ แอมพลิจูดของแท่งเทียนนี้อยู่ที่ 4% ซึ่งแสดงถึงความผันผวนที่รุนแรง ในขณะที่เขียนบทความนี้ การชำระบัญชีทั้งหมดสำหรับวันนั้นอยู่ที่ประมาณ 180 ล้านดอลลาร์ โดย 47 ล้านดอลลาร์เกิดขึ้นในชั่วโมงที่ผ่านมาตามข้อมูลจาก Coinglass -------------------- เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณคลิกเลย!! รู้ทันกันโควิด หรือกด*301*35# โทรออก ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม. คลิกเลย TrueID Community

จีนเผยยอดลงทุนภาคขนส่ง ม.ค.-ก.ค. โต 9.1%
อ่าน

จีนเผยยอดลงทุนภาคขนส่ง ม.ค.-ก.ค. โต 9.1%

ปักกิ่ง, 16 ส.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (15 ส.ค.) กระทรวงคมนาคมของจีน รายงานว่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคการขนส่ง ช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม รวมอยู่ที่กว่า 1.6 ล้านล้านหยวน (ราว 8.35 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบปีต่อปี กระทรวงฯ ระบุว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่กระจายสู่การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางถนนและทางน้ำ โดยการลงทุนก่อสร้างถนนดีดตัวร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ราว 1.52 ล้านล้านหยวน (ราว 7.93 ล้านล้านบาท) ส่วนการลงทุนก่อสร้างทางน้ำอยู่ที่ 8.78 แสนล้านหยวน (ราว 4.58 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7

'ซานซี' แหล่งถ่านหินจีน เผยจีดีพี 2021 โต 9.1%
อ่าน

'ซานซี' แหล่งถ่านหินจีน เผยจีดีพี 2021 โต 9.1%

ไท่หยวน, 21 ม.ค. (ซินหัว) -- มณฑลซานซีทางตอนเหนือของจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถ่านหินรายใหญ่ รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) เติบโตร้อยละ 9.1 อยู่ที่เกือบ 2.26 ล้านล้านหยวน (ราว 11.78 ล้านล้านบาท) ในปี 2021 ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนมณฑลซานซี เมื่อวันพฤหัสบดี (20 ม.ค.) ระบุว่าจีดีพีของซานซีสูงเกิน 2 ล้านล้านหยวนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตของทั้งประเทศ 1 จุด ซานซีในฐานะฐานพลังงานสำคัญของจีน มีผลผลิตถ่านหิน 1.19 พันล้านตันในปี 2021 และเดินหน้าส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมดั้งเดิม ส่วนกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียนของซานซีอยู่ที่เกือบ 39 ล้านกิโลวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 34.3 ของกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมด ซานซีตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโตประมาณร้อยละ 6.5 ในปี 2022 และตั้งเป้าหมายเพิ่มโอกาสการทำงานแก่ประชาชนในเมือง 450,000 คน รวมถึงจะเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาสีเขียว และคาดว่าจะมีการก่อสร้างเหมืองถ่านหินอัจฉริยะ 20 แห่งในปี 2022

อดแล้ว! เผย ข้าราชการทำเกษตร 9.1หมื่นคน รับเงินเยียวยาไม่ได้
อ่าน

อดแล้ว! เผย ข้าราชการทำเกษตร 9.1หมื่นคน รับเงินเยียวยาไม่ได้

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เผย ข้าราชการทำเกษตร 9.1 หมื่นคน อดรับเงินเยียวยา ระบุเป็นเงินกู้ที่รัฐมีวัตุถประสงค์เพื่อช่วยเหลือความเดือดร้อนจาก โควิด จากกรณีครม.เห็นชอบ โครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอเงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรโดยตรงรายละ 5,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรไม่เกิน 10 ล้านราย รวมวงเงินของโครงการไม่เกิน 150,000 ล้านบาท โดยวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่าน เป็นวันแรกที่ ธ.ก.ส.เริ่มโอนเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท ให้กับเกษตรกร 1 ล้านราย และจะทยอยโอนเงินล็อตแรกให้แก่เกษตรกรอีก 2.3 ล้านคน วงเงินรวม 1.5 หมื่นล้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 22 พ.ค. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้หารือกับกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เกี่ยวกับข้าราชการที่ทำการเกษตรและมีทะเบียนเกษตรกร นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ซึ่งผลการหารือกันได้ข้อสรุปตรงกันว่า กลุ่มข้าราชการทำการเกษตรจำนวน 9.1 หมื่นคน ไม่สมควรที่จะได้เงินเยียวยา เพราะเงินเยียวยาครั้งนี้เป็นเงินกู้ที่รัฐบาลมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือความเดือดร้อยในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 "จะนำเรื่องของข้าราชการที่ทำการเกษตร เสนอที่ประชุมพิจารณา จ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทหรือไม่ แต่เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจ่าย แม้ว่าในมติคณะรัฐมนตรี ไม่ได้กำหนดไว้ว่าจ่ายไม่ได้ ดังนั้นเพื่อความเหมาะสมข้าราชการถือว่ายังได้รับเงินดือนปกติ ก็ไม่ควรได้รับเงินเยียวยาในก้อนนี้" นายอนันต์ กล่าว ________________________________________________________ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ก.เกษตรฯ ตอบ 20 ข้อสงสัย รับเงินเยียวยาเกษตรกร 3 เดือน 1.5 หมื่น ข้าราชการ 9.1 หมื่นคนเฮ ได้สิทธิเกษตรกร เยียวยา 5 พัน แนะคนไม่ได้ เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

ประชุมย่อย เดือน 9 (1)
อ่าน

ประชุมย่อย เดือน 9 (1)

3 ตุลาคม 2564ประชุมตามที่ที่เราได้ประชุมครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์แล้ว ในฐานะหัวหน้าต้องขออภัยภายหลังจากที่ติดต่อกับสัมนาออนไลน์ต่างประเทศ International Academic VIRTUAL Conference December 14, 2021 โดยผม ได้ส่ง email ไปถามว่า ผมสามารถส่งบทคัดย่อ 2 ฉบับ สำหรับวิจัย 1 ชิ้นได้หรือไม่?คำตอบคือ ให้ส่งบทคัดย่อที่สะท้อนผลการวิจัยเท่านั้น แปลว่า บทคัดย่อเรื่อง ช่องโหว่ของกฎหมาย SMEs เป็นอันตกไป เพราะหาใช่การสะท้อนผลการวิจัยทั้งหมด แต่เป็นสะท้อนงานวิจัยบางบทเท่านั้น ถึงส่งทางผู้ทรงคุณวุฒิจะปัดตกทันที ส่งผลให้ บทคัดย่อดังกล่าว ไปใช้ในการเขียนบทความวิชาการดีกว่า เพราะแค่ส่วนหนึ่งของงานวิจัย ย่อมไม่ใช่ผลการวิจัย หรือร่างบทคัดย่อฉบับใหม่ -จบ- ไม่สอดคล้องภายในวันศุกร์หน้า (8-10-64)1.จะส่งบทคัดย่อเพื่อเข้าร่วมประชุม นานาชาติทำไม? เพราะตามผลลัพธ์ที่ให้ไว้กับ สกสว. นอกจากเล่มวิจัยฉบับสมบูรณ์ พวกเรายังมีหน้าที่ในการทยอยส่งผลลัพธ์ตามไปด้วย อย่างที่เราได้คุยกันครั้งที่แล้วว่า เราจะทำวิจัยแบบย้อนกลับเพราะข้อดีของงานวิจัยเราคือ เรามีร่างบทสรุปผู้บริหารแล้ว มีจิ๊กซอว์ของงานวิจัยเกือบครบทุกตัว เหลือแค่ประกอบร่างเท่านั้นเอง จิ๊กซอว์2.จะยื่นทุน ทุนช่วยเหลือทางด้านวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างที่พวกเราทราบว่าตั้งแต่วิกฤติโรคระบาด ค่าตอบแทนคณะวิจัย เสมือนแหลกเป็นผุยผง เมื่อมีโครงการจาก มูลนิธิโทเรฯ และได้รับคำแนะนำจาก อ. แป๊ก อ.ประจำจุฬา จึงขอกราบขอบพระคุณที่มาบอกบุญด้วยนะครับ3. เตรียม บทความวิชาการเพื่อเผยแพร่ทั้งในระดับชาติ (TCI) และนานาชาติ (Scopus) เช่นเคย เราต้องเน้นที่ผลการวิจัย เป็นสำคัญ แต่มันคลาสสิกตรงที่วิจัยเรามันเป็นทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ แปลว่า4.เราต้องออกคุยกันเรื่องแบบสอบถามว่า ควรถามใครบ้าง (แบบสอบถามอย่างง่าย) ส่วนแบบสอบถามอย่างยาก ผมทาบทามไว้แล้ว แต่เท่าที่คุยในเบื้องต้นและจะมาขอหารือคณะผู้วิจัยว่า5.แบบสอบถามอย่างง่าย ติดเรื่องการเดินทาง และ ต้องไม่ตั้งคำถามที่เป็น5.1 ชี้นำ และ5.2 ไม่กฎหมายเกินไป เช่น ปัญหาตุ๊กตา ให้ผู้ทำแบบสอบถามตอบ (ตลก) 5.3 คำตอบที่เราควรจะจัดเตรียม คงไม่พ้น ตัวเลือก หรือ ตอบอย่างสั้น ดังนั้นจะมาคาดหวังให้พวกเขาเขียนบรรยายไม่ได้5.4 ไม่ต้องห่วงเรื่องวิจัยในมนุษย์เพราะหัวโครงการมีแล้วและไม่หมดอายุ!  สำหรับผู้ที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผู้เขียนหวังว่าจะมีประโยชน์ดังนี้ก.สามารถกำหนด ตารางการทำงานในอนาคตอันใกล้และไกลได้ แปว่าคุณสามารถกางปฏิทิน ว่าแต่ละวันนับจากนี้ทำอะไรได้บ้างข.ปรับเปลี่ยน ตารางทำงาน หากมีเหตุอันไม่อาจก้าวล่วงได้ เช่น คุณ (ในนามหัวหน้าโครงการ) เช่น โรคระบาด หนักขึ้นต้องปรับเปลี่ยนการทำงานอย่างไรค. การประชุมแต่ละครั้ง ผู้เข้าประชุมต้องพร้อมที่จะสอบถาม ไม่ใช่เพียงเข้าร่วมประชุมเท่านั้น ส่วนหัวหน้าโครงการอย่าลืมอ้างถึงการประชุมครั้งก่อนว่าพูดถึงเรื่องอะไรง. ส่วนเนื้อหาการประชุมวิจัย ควรแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เนื้อหาวิชาการ และ ที่ไม่ใช่วิชาการ จ. วิธีการประชุมแต่ละครั้งผมอยากให้ยึดแนวทางของ TedTalk ครับ = ขอแต่สาระ ภายใน 10 นาทีแรก! ความเข้าใจถือเป็นสาระสำคัญที่สุด ก่อนปิดประชุมผมแนะนำว่า ให้ผู้เข้าร่วมประชุมลองสรุปตามที่คุณเข้าใจ อย่างน้อยคุณจะรู้ว่าที่คุณพยายามพูดมาเกือบทั้งวันมันเกิดมรรคผลหรือไม่?ท้ายนี้ขอบพระคุณภาพ1.ปก โดย Sebastian Herrmann จาก  unsplash2.ที่ 1 โดย Peggy_Marco จาก pixabay3.ที่ 2 โดย International Academic Institute จาก  https://bit.ly/3A9zvNS4.ที่ 3 โดย geralt จาก pixabay5.ที่ 4 โดย GDJ จาก pixabay6. อ. Peerapat Thongnuek(Pak)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ข้าราชการ 9.1 หมื่นคนเฮ ได้สิทธิเกษตรกร เยียวยา 5 พัน แนะคนไม่ได้
อ่าน

ข้าราชการ 9.1 หมื่นคนเฮ ได้สิทธิเกษตรกร เยียวยา 5 พัน แนะคนไม่ได้

ข้าราชการ 9.1 หมื่นคนเฮ ได้สิทธิเกษตรกร เยียวยา 5 พัน แนะขรก.บำนาญยื่นอุทธรณ์ เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง วันที่ 20 พ.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยได้รับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท จ่าย 3 เดือน รวม 15,000 บาท สำหรับข้าราชการประมาณ 9.1 หมื่นคน ที่ประกอบอาชีพเสริมทำการเกษตร สามารถได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลด้วย ดังนั้นสำหรับข้าราชการบำนาญ หากถูกตัดสิทธิแนะนำให้ดำเนินการอุทธรณ์ เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 19 พ.ค. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้นำข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ในกลุ่มข้าราชการเข้าเสนอในที่ประชุม เพื่อพิจารณาให้เป็นกลุ่มยกเว้นไม่ได้รับเงินเยียวยา โดยก่อนหน้านี้ นายสำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตามมติครม. ยังไม่ได้บอกว่าข้าราชการไม่ได้รับสิทธิเยียวยา ซึ่งขอเรียนว่า ข้าราชการที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายแรกที่ได้รับสิทธิของมาตรการนี้ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เช็กเลย! เราไม่ทิ้งกัน โอนเงิน5พัน ให้ผู้ผ่านเกณฑ์มีปัญหาบัญชี 7แสนราย 14.5ล้านคนรอเลย! คลัง ลุยโอนเงิน5พัน เราไม่ทิ้งกัน ให้ครบสัปดาห์นี้ เช็กสถานะเลย! วันนี้ เราไม่ทิ้งกัน โอนเงิน5พัน หัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

เทศมณฑล 'ลอสแอนเจลิส' พบป่วยโควิด-19 นาทีละ 9-10 ราย
อ่าน

เทศมณฑล 'ลอสแอนเจลิส' พบป่วยโควิด-19 นาทีละ 9-10 ราย

ลอสแอนเจลิส, 29 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (28 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นเทศมณฑลที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าโดยเฉลี่ยแล้วแต่ละนาทีจะมีประชากรราว 9-10 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งก่อโรคโควิด-19 สำนักสาธารณสุขเทศมณฑลลอสแอนเจลิสตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 13,661 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 73 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมสูงถึง 733,325 ราย และยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 9,555 ราย ทว่ายอดผู้ป่วยเสียชีวิตอาจตกหล่นราว 432 ราย เนื่องจากเกิดเหตุไฟฟ้าดับกอปรกับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เทศมณฑลลอสแอนเจลิสเริ่มตรวจพบผู้ป่วยใหม่รายวันพุ่งขึ้นตั้งแต่ 58 วันก่อน โดยช่วงที่ผ่านมามีผู้ป่วยใหม่รายวันสูงเกิน 13,000 ราย และบางวันก็สูงเกิน 15,000 รายปัจจุบันเทศมณฑลลอสแอนเจลิสมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 6,914 ราย โดยร้อยละ 20 รักษาตัวอยู่ในแผนกผู้ป่วยหนักสำนักฯ เสริมว่านับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 670 ขณะจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 600 โดยเพิ่มจาก 12 รายต่อวันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็น 84 รายต่อวันในช่วงกลางเดือนธันวาคม

เงินเฟ้อยูโรโซน ส.ค. พุ่งทำสถิติใหม่ ร้อยละ 9.1
อ่าน

เงินเฟ้อยูโรโซน ส.ค. พุ่งทำสถิติใหม่ ร้อยละ 9.1

ยูโรสแตต สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรโซน หรือ เขตเศรษฐกิจที่ใช้เงินสกุลยูโร ประจำเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าเดือนกรกฎาคมที่อยู่ที่ร้อยละ 8.9โดยอัตราเงินเฟ้อล่าสุดทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 9 และสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ร้อยละ 2ทั้งนี้ ราคาพลังงานยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเงินเฟ้อ แต่ราคาอาหารก็เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก ขณะที่สินค้านอกภาคพลังงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5อัตราเงินเฟ้อล่าสุดกดดันให้ ECB อาจตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่สูงอีกรอบ ในการประชุมวันที่ 8 กันยายน หลังปรับขึ้นไปแล้วร้อยละ 0.5 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงมืดมน โดยอัตราเงินเฟ้อน่าจะยังคงขยับขึ้น และอาจอยู่เหนือระดับร้อยละ 10 ก่อนถึงจุดสูงสุดในช่วงใกล้ข้ามปีทางผู้กำหนดนโยบายของ ECB บางส่วนกำลังพิจารณาว่า ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 หรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ศูนย์ ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายอีกฝ่ายกำลังโต้เถียงว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง เท่าๆ กับเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ขยับขึ้นร้อยละ 0.5" style="height: 370px;">แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าการตัดสินใจในเดือนกันยายนจะเป็นอย่างไร ทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยก็มีความชัดเจน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป เป็นเวลานานเกินไป ทำให้อัตราดอกเบี้ยจะยังคงขยับขึ้นต่อไป อาจจะขยับขึ้นในการประชุม ECB ที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลต่างๆ ด้วยข้อมูลจาก : TNN ONLINEภาพจาก : TNN

PTGดันMaxbitขึ้นแท่นเบอร์ 2  โบรกสินทรัพย์ดิจิทัล-มาร์เก็ตแชร์ 9-10%
อ่าน

PTGดันMaxbitขึ้นแท่นเบอร์ 2 โบรกสินทรัพย์ดิจิทัล-มาร์เก็ตแชร์ 9-10%

#PTG #ทันหุ้น PTG ดัน Maxbit ขึ้นแท่นเบอร์ 2 โบรกฯ สินทรัพย์ดิจิทัล ปั๊มมาร์เก็ตแชร์ปี 67 อยู่ที่ 9-10% - สมาชิกเทรดแตะ 3.5 แสนราย หนุนรายได้ธุรกิจ Non-oil กลุ่มพีทีจีเติบโตยั่งยืน นายปกเขตร รัชกิจประการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (Maxbit) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) กับพันธมิตร โดย PTG มีสัดส่วนการลงทุนที่ 35% เปิดเผยว่า Maxbit ภายหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) และประเภทนายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล บริษัทฯ ได้เดินหน้าดำเนินธุรกิจนี้ตามแผนที่วางไว้ โดย Maxbit ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ด้วยวิสัยทัศน์ คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมบริการ สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี ในประเทศไทยจากความเข้าใจและสร้างสรรค์ร่วมกัน ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าปี 2567 จะมีสมาชิกซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลประมาณ 350,000ราย และมั่นใจว่ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ระดับ 9-10% พร้อมก้าวสู่เบอร์ 2ของกลุ่มตลาดนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมัน (Non-Oil Business) ที่เชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ได้อย่างมีนัยสำคัญ และเชื่อมั่นว่า Maxbit จะสามารถนำจุดแข็งของบริษัทฯ ที่มีสมาชิก Max Card กว่า 21.5ล้านสมาชิก รวมถึง Touchpoints กว่า 1.5 ล้าน Touchpoints ของ Max Me มาต่อยอดเป็นลูกค้าของ Maxbit โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มลูกค้าในช่วงวัยทำงานและผู้ที่สนใจในด้านการลงทุน การลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทางกลุ่ม PTG มองการเติบโตและคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นสู่อันดับ 2 ในตลาดนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งคงต้องจับตามองกันต่อไป เพราะหากเราประสบความสำเร็จ สิ่งที่เราพัฒนาขึ้นมานั้น เชื่อว่าจะเปลี่ยนวงการสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยได้จริงๆ รวมถึงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กลุ่ม PTG จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจ Non-oil อย่างยั่งยืนต่อไป นายปกเขตร กล่าวในที่สุด

ครม.เพิ่มเงินอุดหนุนนักเรียนยากจน ม.ปลาย-อาชีวะ รับสูงสุด 9,100 บาท/ปี
อ่าน

ครม.เพิ่มเงินอุดหนุนนักเรียนยากจน ม.ปลาย-อาชีวะ รับสูงสุด 9,100 บาท/ปี

วันนี้ (12ม.ค.64) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ประจำปีงบประมาณ 2565 รวมวงเงินทั้งสิ้น 7,635.67 ล้านบาทประกอบด้วย 9 แผนงาน ได้แก่ นวัตกรรมและการวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาวงเงิน 364 ล้านบาท , ส่งเสริมโอกาสและพัฒนาคุณภาพนักเรียนวงเงิน 4,847.52 ล้านบาท, สร้างนวัตกรรมการพัฒนาครูและสถานศึกษาวงเงิน 459.15 ล้านบาท , พัฒนากลไกจังหวัดและระบบช่วยเหลือเด็กปฐมวัยที่ยากจนและเด็กนอกระบบการศึกษาวงเงิน 386 ล้านบาท ,สร้างต้นแบบระบบการผลิตและพัฒนาครูวงเงิน 298.73 ล้านบาทสร้างนวัตกรรมสายอาชีพสร้างโอกาสนักเรียนอัจฉริยะที่มีฐานะยากจนหรือด้อยโอกาสได้เรียนต่อระดับสูงและพัฒนาประชากรวัยแรงงานด้อยโอกาสวงเงิน 856.44 ล้านบาท , สร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติและวิเทศสัมพันธ์วงเงิน 39.20 ล้านบาท, งานรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและระดมความร่วมมือทางสังคมวงเงิน 68.50 ล้านบาท และงานด้านการบริหารและพัฒนาระบบงานวงเงิน 316.13 ล้านบาทขณะเดียวกันครม.ยังได้เห็นชอบให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข (ทุนเสมอภาค) โดยกสศ.ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่งผลให้ครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษมีรายได้ลดลงและเกิดการว่างงาน ประกอบกับผลวิเคราะห์จากโครงการวิจัยพัฒนาระบบบัญชีรายจ่ายด้านการศึกษาแห่งชาติ มีข้อเสนอว่า อัตราเงินทุนเสมอภาคในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษ ดังนั้นจึงเห็นควรให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน และป้องกันความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษาของประชากรกลุ่มนี้ในระยะยาวสำหรับอัตราเงินอุดหนุนใหม่มีดังนี้คือ ระดับอนุบาล อัตราเดิม 4,000 บาทต่อปียังคงจ่ายเท่าเดิม ระดับประถมศึกษา อัตราเดิม 3,000 บาทต่อปี อัตราใหม่ 5,100 บาทต่อปี เพิ่มขึ้น 2,100 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นอัตราเดิม 3,000 บาทต่อปี อัตราใหม่ 4,500บาทต่อปี เพิ่มขึ้น 1,500 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/อาชีวศึกษา อัตราเดิม 3,000 บาทต่อปี อัตราใหม่ 9,100 บาท เพิ่มขึ้น 6,100 บาท ตามนิยามของเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ จะหมายถึง นักเรียนยากจนที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วยวิธีการวัดรายได้ทางอ้อมแบบPMT หรือ Proxy Means Testจากระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอยู่ในกลุ่มค่าคะแนนความยากจนอยู่ในเกณฑ์ยากจนพิเศษ หรือ ครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 1,200 บาทต่อคนต่อเดือนข่าวที่เกี่ยวข้องรอเลย! นายกฯคลอดมาตรการเยียวยาโควิดแจกเงิน 3,500 บาท 2 เดือนมติครม.เห็นชอบลดค่าน้ำประปา-ค่าไฟฟ้า 2 เดือน เพื่อช่วยเหลือปชช.คลังแจงลงทะเบียนเงินเยียวยาโควิด 3,500 บาท จะได้รับเงินช่วงเดือนไหนเกาะติดข่าวที่นี่website:www.TNNTHAILAND.comfacebook :TNNONLINEfacebook live :TNN Livetwitter :TNNONLINELine :@TNNONLINEYoutube Official :TNNONLINEInstagram :TNN_ONLINETIKTOK :@TNNONLINE

“UAC” เสนอขายหุ้นกู้ไม่เกิน 500 ลบ. 9-10,13 มิ.ย. ดึงเงินขยายธุรกิจพลังงาน
อ่าน

“UAC” เสนอขายหุ้นกู้ไม่เกิน 500 ลบ. 9-10,13 มิ.ย. ดึงเงินขยายธุรกิจพลังงาน

#UAC #ทันหุ้น - บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ มูลค่า 300 ล้านบาท และสำรองไว้อีก 200 ล้านบาท อายุ 3 ปี เสนอขายระหว่างวันที่ 9 10 และ 13 มิถุนายนนี้ จ่ายดอกเบี้ย 4.80 % ต่อปี แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ ด้าน CEO ชัชพล ประสพโชค ระบุนำเงินที่ได้ขยายธุรกิจ แหล่งผลิตปิโตรเลียม L10/43 และ L11/43 โรงงานผลิต RDF3 และ EV Charging Station นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ (UAC) เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ระหว่างวันที่ 9 10 และ 13 มิถุนายนนี้ มูลค่าเสนอขาย 300 ล้านบาท และสำรองไว้อีก 200 ล้านบาท โดยจะเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือนักลงทุนรายใหญ่ ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่าย สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.80 % ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการอนุมัติ Filing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการออกขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เป็นการวางแผนด้านการเงิน เพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยจะนำไปขยายการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงาน อาทิ โครงการโรงงานผลิต RDF3 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โครงการแหล่งผลิตปิโตรเลียม L10/43 และ L11/43 และ โครงการ EV Charging Station การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะช่วยเสริมให้ฐานะการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆ ของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการลงทุนโครงการต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ บริษัทฯยังคงมุ่งพัฒนาธุรกิจให้เติบโตพร้อมพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ควบคู่การขับเคลื่อนธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) นายชัชพล กล่าว

11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม UCL 9-10 ธันวาคม 2557
อ่าน

11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม UCL 9-10 ธันวาคม 2557

หลังจบแมตช์ที่สุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรปที่ใหญ่ที่สุด ก็ได้โผ 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมโดยวัดจากฟอร์มการเล่นในสนาม ผลออกมาดังนี้. 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 9-10 ธันวาคม 2557 ผู้รักษาประตู : Goalkeeper วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ [ลูโดโกเร็ตซ์ ราดกราซ / บัลแกเรีย] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.8/10 คะแนน กองหลัง : Defender อัลวาโร่ เปเรย์ร่า [อุรุกวัย / เอฟซี ปอร์โต้] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.9/10 คะแนน เอเมอร์ ซปาฮิค [ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น / บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.1/10 คะแนน มิเกล ซาน โจเซ่ [แอธเลติก บิลเบา / สเปน] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9/10 คะแนน โจนาธาน ซิลวา [สปอร์ติ้ง ลิสบอน / อาร์เจนติน่า] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.3/10 คะแนน กองกลาง : Midfielder มาร์เกล ซาซูเอต้า [แอธเลติก บิลเบา / สเปน] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.1/10 คะแนน อารอน แรมซี่ย์ [อาร์เซนอล / เวลส์] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.2/10 คะแนน ดาวี่ คลาสเซ่น [อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม / ฮอลแลนด์] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9/10 คะแนน ริคาร์โด คิชนา [อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม / ฮอลแลนด์] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.8/10 คะแนน กองหน้า : Striker อาร์คาดิอุส มิลิค [อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม / โปแลนด์] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.1/10 คะแนน ลีโอเนล เมสซี่ [บาร์เซโลน่า / อาร์เจนติน่า] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.4/10 คะแนน ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ที่ FB : TrueSport TW: True_Sport คลิกชม ตารางถ่ายทอดสดฟุตบอล ได้ที่นี่ ข้อมูลจาก whoscored.comเรียบเรียงข้อมูลโดย ต.ตั้ม11.12.1414:30 หลัง จบแมตช์ที่ 4 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรปที่ใหญ่ที่สุด ณ รอบแบ่งกลุ่ม ก็ได้โผ 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมโดยวัดจากฟอร์มการเล่นในสนาม ผลออกมาดังนี้. 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4-5 พฤศจิกายน 2557 ผู้รักษาประตู : Goalkeeper จัสมิน ฮันดาโนวิช [เอ็นเค มาริบอร์ / สโลวีเนีย] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.6/10 คะแนน กองหลัง : Defender ดาริโย เซอร์น่า [ชัคก์ตาร์ โดเน็ตส์ก / โครเอเชีย] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.3/10 คะแนน อิวาน ออร์เด็ทส์ [ชัคก์ตาร์ โดเน็ตส์ก / ยูเครน] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9/10 คะแนน โซคราติส ปาปาสโดปูลอส [โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ / กรีซ] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.4/10 คะแนน มาร์เซโล่ [เรอัล มาดริด / บราซิล] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.4/10 คะแนน กองกลาง : Midfielder ดักลาส คอสต้า [ชัคก์ตาร์ โดเน็ตส์ก / บราซิล] คะแนนฟอร์มการเล่น : 8.9/10 คะแนน ฟาเบียน ฟราย [เอฟซี บาเซิ่ล / สวิตเซอร์แลนด์] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.2/10 คะแนน เนมานญ่า มาติช [เชลซี / เซอร์เบีย] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9/10 คะแนน เอเด็น อาซาร์ [เชลซี / เบลเยี่ยม] คะแนนฟอร์มการเล่น : 9.2/10 คะแนน กองหน้า : Striker ลุยซ์ อาเดรียโน่ [ชัคก์ตาร์ โดเน็ตส์ก / บราซิล] คะแนนฟอร์มการเล่น : 10/10 คะแนน ลีโอเนล เมสซี่ [บาร์เซโลน่า / อาร์เจนติน่า] คะแนนฟอร์มการเล่น : 10/10 คะแนน See more at: http://sport.truelife.com/detail/3259284/hilight/11-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1-UCL-4-5-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99-2557#sthash.AF2HYYRD.dpuf

กองสลากแอฟริกาใต้สั่งสอบ หลังจากเลขรางวัลออก 5-6-7-8-9-10
อ่าน

กองสลากแอฟริกาใต้สั่งสอบ หลังจากเลขรางวัลออก 5-6-7-8-9-10

เลขรางวัลที่ออก แอ่น แอน แอ๊น 5-6-7-8-9-10 เอ้อ อ้า เอ้อ อ้า เห็นแล้วก็ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก แล้วก็มีผู้คนที่ ไม่ถูกใจเลขรางวัลที่ออกนี้เยอะด้วยนะเธอ เหอๆๆ จากข่าวเล่าว่า นี่คือเลขรางวัลที่ออกของลอตเตอรี่พาวเวอร์บอล ของแอฟริกาใต้ ที่กลายเป็น ปัญหาข้องใจของประชาชนว่าเป็นการออกรางวัลที่บริสุทธิ์ ไม่มีเงือนงำจริงๆหรือเปล่า? และมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการกองสลากของแอฟริกาใต้ ที่สั่งสอบสวนการจับสลากออกรางวัลลอตเตอรี่พาวเวอร์บอลครั้งนี้ แล้วแจ้งผลการสอบสวนว่า ไม่พบว่ามีการฉ้อโกงใดๆ เหตุการณ์นี้แม้จะเป็นเรื่องแปลก แต่ก็่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ และไม่มีทางที่ผลการออกรางวัลนี้จะมีการโกง เพราะไม่มีแรงงงานคน เข้าไปข้องเกี่ยวกับการจับสลากออกรางวัลนี้เลย เพราะเราใช้ระบบการจับสลากออกรางวัลแบบแรนด้อมที่ใช้กันทั่วโลก คณะกรรมการกองสลากฯกล่าวในแถลงการณ์และว่า เลขชุด 5-6-7-8-9-10 มีผู้โชคดีถูกรางวัล 20 คนซึ่งจะได้รับเงินรางวัลคนละ 370.000 ดอลลาร์ หรือราว 11,470,000 บาท !!! เอ้อ..อ้าเอ้ออ้า 555

ปตท.สผ. ควัก 9.1 แสนลบ.ลงทุน 5 ปี เสาะหาธุรกิจใหม่รับอนาคต
อ่าน

ปตท.สผ. ควัก 9.1 แสนลบ.ลงทุน 5 ปี เสาะหาธุรกิจใหม่รับอนาคต

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ไว้ที่ 190,036 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน 107,895 ล้านบาท และรายจ่ายดำเนินงาน 82,141 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนงานหลัก ได้แก่ รักษาปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญ เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้ายในการเป็นผู้ดำเนินการและการเริ่มต้นสัญญาแบ่งปันผลผลิตของโครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ จี 2/61 (แหล่งบงกช) ได้จัดสรรรายจ่ายลงทุน 83,661 ล้านบาท นอกจากนี้จะเพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต มุ่ง 3 โครงการหลักที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน โครงการมาเลเซีย ซาราวัก เอสเค 410 บี และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ (ระยะที่ 2) ได้รับจัดสรรรายลงทุน 15,312 ล้านบาท) และเร่งกิจกรรมการสำรวจค้นหาทรัพยากรรองรับการเติบโตในระยะยาว ได้จัดสรรรายจ่ายลงทุน 8,788 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายโครงการสำรวจในประเทศมาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก แผนการลงทุน 5 ปี (2565-2569) นั้น บริษัทได้จัดสรรงบประมาณ 911,124 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มอัตราการเติบโตของปริมาณการขายโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น ช่วง 5 ปี ประมาณ 5% ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะลงทุนในธุรกิจใหม่มากขึ้น ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจพลังงาน เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยธุรกิจใหม่ที่สำคัญ ได้แก่ พลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ การต่อยอดเทคโนโลยีที่บริษัทมีอยู่ไปสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ พลังงานใหม่ในอนาคต อาทิ ไฮโดรเจน รวมถึง การลงทุนในการดักจับคาร์บอนและการนำมาใช้ประโยชน์ หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้ง การศึกษาและพัฒนาโครงการก๊าซทูเพาเวอร์ ขณะเดียวกันยังคงดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (อีเอสจี) ด้วย

ORI ปลื้มยอดขาย 9 เดือน 1.9 หมื่นล. เล็งเปิดอีก 9 โครงการใหม่
อ่าน

ORI ปลื้มยอดขาย 9 เดือน 1.9 หมื่นล. เล็งเปิดอีก 9 โครงการใหม่

ทันหุ้น สู้ดควิด ORI กวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 1.9 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 88% ของเป้าทั้งปี หลังไตรมาส 3/2563ปิดการขาย ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช ภายใน 1 ชั่วโมง จากการเดินเกมส์ Origin Next Normal, The 1st Wave เปิดขายออนไลน์ 100% พร้อมสร้างยอดขายโครงการ Ready to move ดีต่อเนื่อง ไตรมาส 4/2563 จ่อเปิดอีก 9 โครงการ ควบส่งกลยุทธ์ Origin Next Normal, The 2nd Wave หนุนยอดขายทะลุเป้า 21,500 ล้านบาท นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ก.ย.2563) บริษัทสามารถสร้างยอดขาย (Presale) ได้ถึงกว่า 19,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 88% ของเป้ายอดขายทั้งปี 21,500ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากความสามารถในการสร้างยอดขายทั้งโครงการเปิดตัวใหม่และโครงการพร้อมอยู่ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในช่วงไตรมาส 3/2563 (ก.ค.-ก.ย.2563) ทำยอดขายได้ถึงกว่า 7,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 2/2563 ที่ทำยอดขายได้ 6,578 ล้านบาท สำหรับช่วงไตรมาส 3/2563บริษัทมียอดขายจากกลุ่มบ้านจัดสรร คิดเป็นสัดส่วน 19%และจากกลุ่มคอนโดมิเนียม 81% หากแบ่งตามสถานะโครงการ มียอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move projects) 58%และจากกลุ่มโครงการเปิดตัวใหม่และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (Ongoing projects) ประมาณ 42%โดยโครงการเปิดตัวใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย คือโครงการดิ ออริจิ้น อ่อนนุช (The Origin Onnut) ที่บริษัทใช้กลยุทธ์ Origin Next Normal, The 1st Wave เปิดขายโครงการผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ 100% ภายใต้ชื่อ www.evenprop.com โดยไม่มีสำนักงานขาย ทำให้สามารถลดต้นทุนการพัฒนาโครงการไปได้อย่างมาก สร้างวิธีการแก้ปัญหาด้านการเข้าถึงโครงการ (Reaching Solution) ให้แก่ผู้บริโภค ด้วยราคาใหม่ที่คุ้มค่าและจับต้องได้ง่ายกว่าเดิม จนสามารถปิดการขาย (Sold Out) ในวันพรีเซลได้ภายใน 1 ชั่วโมง นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ช่วงไตรมาส 4/2563 บริษัทมีแผนทยอยเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 9โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,050 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียมแบรนด์ ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) 1 โครงการ มูลค่า 2,300 ล้านบาท คอนโดมิเนียมแบรนด์ ดิ ออริจิ้น (The Origin) 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,550ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ในพื้นที่ EEC ภายใต้ชื่อ แฮมป์ตัน ศรีราชา (Hampton Siracha) มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท กลุ่มบ้านจัดสรร ได้แก่ แบรนด์ แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท, แบรนด์ เบลกราเวีย (Belgravia) 1 โครงการ มูลค่า 1,600 ล้านบาท และแบรนด์ ไบรตัน (Brighton) 1 โครงการ มูลค่า 500 ล้านบาท ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เราพบว่า ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการการซื้อที่อยู่อาศัย สังเกตได้จากยอดขายทั้งกลุ่ม Ready to move projects และกลุ่ม Ongoing projects ที่เรายังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ข้อสำคัญคือ ตัวโครงการต้องมีคุณภาพ ต้องเลือกเซ็กเมนท์และทำเลให้ถูกต้อง สำหรับทุกโครงการที่เราวางแผนจะเปิดในช่วงไตรมาส 4 นั้น ผ่านการคัดเลือก การวิเคราะห์ และการทำงานอย่างเข้มข้น เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในสภาวะปัจจุบัน เราจึงมั่นใจที่จะเปิดตัวโครงการตามแผนงาน ซึ่งจากกลยุทธ์และแผนงานต่างๆ ประกอบกับยอดขายสะสม 9 เดือนที่ทำได้แล้วถึง 88% บริษัทยิ่งมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถปิดยอดขายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 21,500 ล้านบาท นายพีระพงศ์กล่าว ขณะเดียวกัน บริษัทจะเดินหน้าสร้าง Reaching Solution ให้ผู้บริโภคควบคู่กับการสร้างวิธีแก้ปัญหาสำหรับการอยู่อาศัย (Living Solution) โดยจะมีการประกาศกลยุทธ์ใหม่ต่อยอดจากไตรมาส 3/2563 ภายใต้ชื่อ Origin Next Normal, The 2nd Wave คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดได้ในช่วงต้นไตรมาส 4/2563 นี้

หุ้นไทยบวก 9.10 จุด ฟื้นตัวรับรัสเซีย-ยูเครนหารือรอบแรก ช่วยผ่อนคลายแรงกังวล
อ่าน

หุ้นไทยบวก 9.10 จุด ฟื้นตัวรับรัสเซีย-ยูเครนหารือรอบแรก ช่วยผ่อนคลายแรงกังวล

ข่าววันนี้ 1 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ1,685.18 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,694.28 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 9.10 จุด หรือ 0.54% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,701.69 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,690.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 91,815.23 ล้านบาท โดยนายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนียังคงแกว่งตัวผันผวน แต่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หลังจากวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยผันผวนระหว่างการซื้อขายก่อนปิดตลาดบวกในช่วงบ่าย ซึ่งภาพใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้าตลาดทุนไทยแบบแข็งแกร่ง และหักล้างปัจจัยลบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียได้ ซึ่งปัจจัยที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นขึ้นมาเล็กน้อยคือ การเจรจารอบแรกระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ว่าคงจะยังไม่สามารถประกาศความร่วมมืออะไรออกมาได้ โดยประเทศตกลงว่าจะหารือรวมกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดในมุมที่ว่าทั้งสองฝ่ายพยายามหลีกเลี่ยงการทำสงครามระหว่างกันอยู่ รวมถึงสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม โดยห้ามบริษัทและชาวอเมริกันทำธุรกิจกับรัสเซีย และธนาคารกลางของรัสเซีย ทั้งยังมีสำนักข่าวบางแห่งในสหรัฐ ได้รายงานว่าสหรัฐจะยกเว้นการคว่ำบาตรต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ทำให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเนื่อง และน่าจะยังสนับสนุนจิตวิทยาของกลุ่มหุ้นพลังงานตัวหลักๆ ต่อไปได้

BJC โกยกำไร Q3/65 ที่ 932.35 ลบ. โต 153.9% รายได้รวมเพิ่ม 9.1%
อ่าน

BJC โกยกำไร Q3/65 ที่ 932.35 ลบ. โต 153.9% รายได้รวมเพิ่ม 9.1%

#BJC #ทันหุ้น- บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 3/65 มีกำไร 932.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 367.14 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมไตรมาส 3/65 เท่ากับ 40,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,361 ล้านบาท หรือ 9.1% รายได้รวม เพิ่มขึ้นจากยอดขายและรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 36,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,408 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.0% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกใหม่ ในขณะที่รายได้อื่นรวมอยู่ที่ 3,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 978 ล้านบาท หรือ 40.9% สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่าจากอัตราการเช่าที่สูงขึ้น และการให้ส่วนลดเฉลี่ยแก่ผู้เช่าลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน

น้ำเหนือทะลักลงเจ้าพระยา  ชนน้ำทะเลหนุน 9-10 ต.ค.นี้  กทม.เตือนริมน้ำเตรียมรับมือ
อ่าน

น้ำเหนือทะลักลงเจ้าพระยา ชนน้ำทะเลหนุน 9-10 ต.ค.นี้ กทม.เตือนริมน้ำเตรียมรับมือ

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักของประเทศเมื่อวันที่5 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า เขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่งในภาคเหนือมีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่หน่วยงานด้านชลประทานยังคงบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมการไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาและลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มท้ายน้ำเริ่มจาก เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ที่รับน้ำจากแม่น้ำปิง มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมร้อยละ89 ของความจุ เขื่อนกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง รับน้ำจากแม่น้ำวัง มีน้ำเก็บกักร้อยละ 87 เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ รับน้ำจากแม่น้ำน่าน มีน้ำเก็บกักร้อยละ 96 และ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน มีปริมาณน้ำเต็มความจุ 100% แล้วน้ำจากแม่น้ำทั้ง4 สาย ปิง วัง ยม และน่าน จะไหลมารวมกันที่ อำเภอปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสถานีวัดน้ำ C2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ วัดระดับการไหลของน้ำเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม อยู่ที่ 2,776 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนที่ เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ยังคงอัตราการระบายน้ำที่2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.94 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 4 เซนติเมตร ถือว่ายังอยู่ในระดับทรงตัวกรมชลประทานยังคงดำเนินการ “หน่วงน้ำ” ไว้ทางตอนเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่ง เพื่อควบคุมการไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาและลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มท้ายน้ำให้ได้มากที่สุดอย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งในบางจุด ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และชัยนาทด้าน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำป่าสัก มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ ร้อยละ73 ของความจุ โดยมีการระบายน้ำในอัตรา 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแผนทยอย “ลดการระบายแบบขั้นบันได” วันละ50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดแรงกระทบต่อลำน้ำป่าสักและพื้นที่ท้ายน้ำน้ำจากแม่น้ำป่าสักจะไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนลงสู่ตอนล่างของลุ่มน้ำขณะที่ เขื่อนพระราม6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 594 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมผันน้ำเข้าสู่คลองระพีพัฒน์ เพื่อควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมและลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ ด้านนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ตรวจสถานีสูบน้ำพระโขนง ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร “โดยรวมเริ่มดีขึ้น” โดยเฉพาะเขตประเวศที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งเมื่อวันที่4 ตุลาคมที่ผ่านมา มีฝนตกสูงสุดถึง 122 มิลลิเมตร แต่ขณะนี้น้ำได้ลดระดับลงแล้ว เหลือเพียงน้ำขังในซอยย่อยบางจุดที่ต้องเร่งระบายต่อเนื่องผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าวว่า “สถานการณ์น้ำเหนือยังไม่น่ากังวล” เพราะแม้เขื่อนหลักหลายแห่งจะมีน้ำเต็มหรือใกล้เต็ม แต่การบริหารจัดการปีนี้มีประสิทธิภาพกว่าปี2554 อย่างมาก ปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยายังอยู่ในระดับ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งต่ำกว่าปี2554 และยังห่างจากระดับวิกฤตที่กรุงเทพฯ สามารถรองรับได้คือ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้คือ“น้ำทะเลหนุนสูง” โดยคาดการณ์ว่าจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 10–11 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีน้ำขึ้นวันละ 2 รอบ คือช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. และช่วงเย็นราว 19.00 น.กรุงเทพมหานครได้เตรียมมาตรการรับมือ โดยเสริมแนวกระสอบทราย และจัดทำทางเดินไม้ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น ชุมชนโรงสี เทวราชกุญชร สามารถสัญจรได้ปลอดภัยนายชัชชาติย้ำว่า “สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่น่าห่วง เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำทำงานเต็มที่ไม่มีวันหยุด เพราะน้ำท่วมไม่มีวันหยุด” พร้อมระบุว่าอีกไม่นานประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝุ่นหลังสิ้นสุดฤดูฝน และได้เตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยขอให้ประชาชนแจ้งข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มเติม เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

ยอดฉีดวัคซีนพุ่ง 9.1 แสนโดสในวันเดียว ฉีดแล้ว 31% เผยแผนจัดหา 3 วัคซีนหลัก
อ่าน

ยอดฉีดวัคซีนพุ่ง 9.1 แสนโดสในวันเดียว ฉีดแล้ว 31% เผยแผนจัดหา 3 วัคซีนหลัก

ยอดฉีดวัคซีนพุ่ง 9.1 แสนโดส ฉีดแล้ว 30 ล้านโดส ก.ย.-ธ.ค. เน้นจัดหา 3 วัคซีนหลัก ไฟเซอร์มาปลาย ก.ย.นี้ 2 ล้านโดส อีก 30 ล้านมาแน่ในสิ้นปี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการฉีดวัคซีนและจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาฉีดได้ 915,738 โดส เป็นเข็มแรก 547,128 ราย เข็มสอง 361,284 ราย และเข็มสาม 7,326 ราย ยอดฉีดสะสมรวม 30,420,507 โดส เป็นเข็มแรก 22,617,701 ราย คิดเป็น 31% ของประชากร เข็มสองสะสม 7,221,368 ราย คิดเป็น 10% ของประชากร แนวโน้มการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสูงขึ้นในช่วง ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ที่เริ่มตั้งแต่ มิ.ย.-ส.ค. ฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ซึ่ง ส.ค.ฉีดได้เกินเป้าหมาย เพราะจัดหาวัคซีนเข้ามาได้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ สามารถนำเข้ามาได้รวม 13.8 ล้านโดส แลมีวัคซีนซิโนฟาร์มที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้ามา ยอดการฉีด ส.ค.จึงสูงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้ฉีด จึงต้องเร่งนำวัคซีนเข้ามาและเร่งรัดฉีดต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงป่วยอาการรุนแรง คือ ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ขณะนี้ฉีดเข็มแรกประมาณ 40% ของเป้าหมาย รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ เมื่อไปฝากครรภ์ตาม รพ.ต่างๆ ขอรับการฉีดได้ที่รพ.ฝากครรภ์ ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีน 30 กว่าล้านโดส ยังไม่มีรายใดเสียชีวิตจากวัคซีนโดยตรง จากการประเมินตรวจข้อมูลการชันสูตรศพรายที่เสียชีวิตของผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นวัคซีนมีความปลอดภัย ทั่วโลกฉีดหลายพันล้านโดส ข้อมูลตรงกันว่าความปลอดภัยมีค่อนข้างสูง ตามมาตรฐานกำหนดไว้ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ขอให้กลุ่มเสี่ยงไปรับวัคซีนตามที่กำหนดและนัดหมาย นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทยปี 2564 เพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผน 100 ล้านโดส ครอบคลุม 50 ล้านคน ประมาณการณ์จัดหาวัคซีน ก.ย.-ธ.ค.นี้ แบ่งเป็น ซิโนแวค จะมีเข้ามา ก.ย.-ต.ค. เดือนละ 6 ล้านโดส, แอสตร้าเซนเนก้า เข้ามา ก.ย. 7.3 ล้านโดส ส่วน ต.ค.-ธ.ค.อาจส่งมอบมากขึ้น ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า ก.ย. ถือเป็นสัญญาณที่ดี และไฟเซอร์ ได้รับการแจ้งแบบไม่เป็นทางการ น่าจะเข้ามาปลาย ก.ย.นี้ 2 ล้านโดส และมีคำมั่นสัญญาจะส่งให้ได้ 30 ล้านโดสตามที่ลงนามสัญญาภายในสิ้นปีนี้ ฉะนั้นจะมียอดการจัดหาวัคซีน 3 วัคซีนหลัก 124 ล้านโดส เกินเป้าหมายที่กำหนด ศักยภาพการฉีดที่เห็นช่วงหลัง มากกว่า 6 แสนโดสต่อวัน น่าจะฉีดได้ตามเป้าหมาย ยังมีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มมาเรื่อยๆ ยอดการฉีดก็จะเพิ่มขึ้นไป รวมถึงองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกับเอกชนหลายแห่งนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา น่าจะมาได้ไตรมาส 4 ปีนี้ ประมาณการณ์เกินกว่า 100 ล้านโดส ก็น่าจะบรรลุเป้าหมาย ขอให้ประชาชนสบายใจ ส่วนกลุ่มใดฉีดก่อนหลังเป็นไปตามคำแนะนำคณะกรรมการทางการแพทย์และสาธารณสุข ขอให้ไปรับวัคซีนเพื่อประเทศเราปลอดภัยจากโควิดมากยิ่งขึ้น

ดราม่า ประติมากรรม หอยชักตีน งบ 9.1ล้าน สร้างจุดเช็กอินอ่าวนาง กระบี่ กระตุ้นการท่องเที่ยว
อ่าน

ดราม่า ประติมากรรม หอยชักตีน งบ 9.1ล้าน สร้างจุดเช็กอินอ่าวนาง กระบี่ กระตุ้นการท่องเที่ยว

ดราม่า ประติมากรรมหอยชักตีน งบ 9.1ล้าน สร้างจุดเช็กอินอ่าวนาง กระบี่ กระตุ้นการท่องเที่ยว พบฐานตัวหอยมีความกว้าง 6X14 เมตร ความสูง 7.5 เมตร วันที่ 11 ส.ค.2564 กลายเป็นกระแสอือฮาในโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊ก "หน้ากากหมาน้อย" ได้นำภาพผลงานประติมากรรม "หอยชักตีน" ซึ่งตั้งอยู่หน้าหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ มาโพสต์ พร้อมระบุ คนกระบี่ว่ายังไง รีวิวหอย 9.1 ล้าน มาดูหอยบ้านเรา กำลังกลายเป็นกระแสดังในสังคมออนไลน์ในขณะนี้ สำหรับประติมากรรมหอยชักตีนดังกล่าวนั้น เป็นแลนด์มาร์กจุดเช็กอินแห่งใหม่ของอ่าวนาง ตามนโยบายกระบี่เมืองศิลปะ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 8,540,900 บาท ซึ่งฐานตัวหอยมีความกว้าง 6X14 เมตร ความสูง 7.5 เมตร พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องแสงสว่าง ที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน ลานกิจกรรมกลางแจ้งเอนกประสงค์ ลานออกกำลังกาย รวมถึงลานจอดรถยนต์และรถจยย. ตั้งอยู่บริเวณเหนือแนวเขื่อนหาดนพรัตน์ธารา ม.3 บ้านคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2563 จะแล้วเสร็จตามสัญญาวันที่ 20 ส.ค. 2564 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 270 วัน โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ตลอดแนวชายฝั่งหาดนพรัตน์ธารา ระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีพื้นที่จุดเช็กอินแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของแหล่งท่องเที่ยว หลังสถานการณ์โควิด เบื้องต้นทราบว่าทาง อบต.อ่าวนางได้รับงบประมาณปรับปรุงภูมิทัศน์และก่องสร้างประติมากรรมหอยชักตีทองเหลือขนาดใหญ่ 9,132,000 บาท เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 เป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฯ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

อัปเดต iOS 16.1, iPadOS 16.1, macOS Ventura, watchOS 9.1 และ tvOS 16.1 รุ่นไหนรองรับบ้าง
อ่าน

อัปเดต iOS 16.1, iPadOS 16.1, macOS Ventura, watchOS 9.1 และ tvOS 16.1 รุ่นไหนรองรับบ้าง

Apple ปล่อยให้ อัปเดต iOS 16.1, iPadOS 16.1, macOS Ventura, watchOS 9.1 และ tvOS 16.1 ตั้งแต่คืนวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ใครที่ใช้ iPhone , iPad , Mac , Apple Watch หรือ Apple TV สามารถอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เช็กที่นี่! รุ่นไหนรองรับบ้าง อัปเดต iOS 16.1, iPadOS 16.1, macOS Ventura, watchOS 9.1 และ tvOS 16.1 Apple ปล่อยเวอร์ชันให้อัปเดต iOS 16.1 สำหรับสาวก iPhone ทั้งหลาย นอกจากนั้นยังมีให้อัปเดท iPadOS 16.1, macOS Ventura, watchOS 9.1 และ tvOS 16.1 โดยเฉพาะ macOS Ventura ที่เป็นการจัดรูปแบบการทำงานใหม่ให้สะดวกมากขึ้น iPhone รุ่นที่รองรับ iOS 16.1 iPhone 14 iPhone 14 Plus iPhone 14 Pro iPhone 14 Pro Max iPhone 13 iPhone 13 mini iPhone 13 Pro iPhone 13 Pro Max iPhone 12 iPhone 12 mini iPhone 12 Pro iPhone 12 Pro Max iPhone 11 iPhone 11 Pro iPhone 11 Pro Max iPhone XS iPhone XS Max iPhone XR iPhone X iPhone 8 iPhone 8 Plus iPhone SE (รุ่นที่ 3) iPhone SE (รุ่นที่ 2) iPad รุ่นที่รองรับ iPadOS 16.1 iPad Pro รุ่น 12.8 นิ้ว (รุ่นที่ 6) iPad Pro รุ่น 12.8 นิ้ว (รุ่นที่ 5) iPad Pro รุ่u 12.8 นิ้ว (รุ่นที่ 4) iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3) iPad Pro รุ่น 12.8 นิ้ว (รุ่นที่ 2) iPad Pro รุ่น 12.8 นิ้ว (รุ่นที่ 1) iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4) iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3) iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2) iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1) iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว iPad Air (รุ่นที่ 5) iPad Air (รุ่นที่ 4) iPad Air (รุ่นที่ 3) iPad (รุ่นที่ 10) iPad (รุ่นที่ 9) iPad (รุ่นที่ 8) iPad (รุ่นที่ 7) iPad (รุ่นที่ 6) iPad (รุ่นที่ 5) iPad mini (รุ่นที่ 6) iPad mini (รุ่นที่ 5) Mac รุ่นที่รองรับ macOS Ventura iMac ปี 2017 และใหม่กว่า Mac Pro ปี 2019 และใหม่กว่า iMac Pro ปี 2017 และใหม่กว่า Mac mini ปี 2018 และใหม่กว่า MacBook Air ปี 2018 และใหม่กว่า MacBookปี 2017 และใหม่กว่า MacBook Pro ปี 2017 และใหม่กว่า Mac Studioปี 2022 Apple Watch รุ่นที่รองรับ watchOS 9.1 Apple Watch Ultra Apple Watch Series 8 Apple Watch Series 7 Apple Watch Series 6 Apple Watch Series 5 Apple Watch Series 4 Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) Apple Watch SE (รุ่นที่ 1) Apple TV รุ่นรองรับ tvOS16.1 Apple TV 4K Apple TV HD ข้อมูล apple.com -------------------- เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณคลิกเลย!! รู้ทันกันโควิด หรือกด*301*35# โทรออก ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม. คลิกเลย TrueID Community

ลดค่าทางด่วน ด่านฯ พระราม 9-1 (ฉลองรัช) 10 บาท รถยนต์จ่ายแค่ 30 บาท ถึง 31 ธ.ค.66
อ่าน

ลดค่าทางด่วน ด่านฯ พระราม 9-1 (ฉลองรัช) 10 บาท รถยนต์จ่ายแค่ 30 บาท ถึง 31 ธ.ค.66

ลดค่าทางด่วน เช็คค่าทางด่วนใหม่ กทพ. ขยายเวลาการให้ลดค่าผ่านทางพิเศษที่ด่านฯ พระราม 9-1 (ฉลองรัช) 10 บาท สำหรับรถทุกประเภท ตั้งแต่ 1 มกราคม 31 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 จะให้ส่วนลดเฉพาะผู้ใช้บัตร Easy Pass เท่านั้น ค่าทางด่วนใหม่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษ ของทางพิเศษฉลองรัช ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระราม 9-1 (ฉลองรัช) โดยมีส่วนลด จำนวน 10 บาท ต่อเที่ยว สำหรับรถทุกประเภทเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้รถแต่ละประเภทที่ใช้บริการที่ด่านฯ ดังกล่าว มีอัตราค่าผ่านทางพิเศษ ดังนี้ ลดค่าทางด่วน รถ 4 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษปกติ 40 บาท ปรับลดเหลือ 30 บาท รถ 6-10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษปกติ 60 บาท ปรับลดเหลือ 50 บาท รถมากกว่า 10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษปกติ 80 บาท ปรับลดเหลือ 70 บาท เงื่อนไขลดค่าทางด่วน ในการนี้จะแบ่งการให้ส่วนลดเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2566 ให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษจำนวน 10 บาทต่อเที่ยว สำหรับรถที่ใช้เงินสด และรถที่ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass ระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 31 ธันวาคม 2566 จะให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษจำนวน 10 บาทต่อเที่ยว เฉพาะรถที่ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass เท่านั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการ ทางพิเศษหันมาใช้บัตร Easy Pass ในการผ่านทางเพิ่มขึ้น อันจะช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านฯ ทั้งยังเป็นการสนับสนุนสังคมไร้เงินสด เพื่อช่วยลดปัญหาการแพร่เชื้อ COVID-19 ที่ยังคงระบาดอยู่ในขณะนี้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass ที่บัตรใกล้หมดอายุ (อายุการใช้งานมาประมาณ 7 ปี หรือใช้ผ่านทางมาแล้วประมาณ 14,000 ครั้ง) ผู้ใช้บริการสามารถนำบัตร Easy Pass มาเปลี่ยนได้ ที่อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษทุกด่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และขอเชิญชวนผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass ลงทะเบียนปรับปรุงข้อมูลด้วยตนเองทาง EXAT Portal Application หรือ www.thaieasypass.com เพื่อยกระดับบัตร Easy Pass เป็น Easy Pass Plus เตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) อีกด้วย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.exat.co.th ข้อมูล การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) -------------------- เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณคลิกเลย!! รู้ทันกันโควิด หรือกด*301*35# โทรออก

แอฟริกาใต้ชาติล่าสุดติดโควิดทะลุแสน ทั่วโลกป่วย 9.1 ล้าน ตาย 4.7 แสน
อ่าน

แอฟริกาใต้ชาติล่าสุดติดโควิดทะลุแสน ทั่วโลกป่วย 9.1 ล้าน ตาย 4.7 แสน

แอฟริกาใต้กลายเป็นประเทศที่ 19 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุแสนที่ 101,590 คน หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4,288 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดยังทำให้แอฟริกาใต้แซงหน้าแคนาดาขึ้นมาอยู่ในอันดับ 18 ของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลกด้วย อย่างไรก็ดีจำนวนผู้เสียชีวิตในแอฟริกาใต้ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1,991 ราย ด้านยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 128,180 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกอยู่ที่ 9,170,080 คน สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มมากที่สุดที่ 29,252 ตามด้วยบราซิล 19,480 อินเดีย 13,540 รัสเซีย 7,600 เม็กซิโก 5,343 ชิลี 4,608 ปากีสถาน 4,471 และแอฟริกาใต้ 4,288 สหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ 2,385,909 บราซิล 1,106,470 รัสเซีย 592,280 อินเดีย 440,450 อังกฤษ 305,289 สเปน 293,584 เปรู 257,447 ชิลี 246,963 อิตาลี 238,720 อิหร่าน 207,525 เยอรมนี 192,074 ตุรกี 188,897 ปากีสถาน 181,088 เม็กซิโก 180,545 ซาอุดีอาระเบีย 161,005 ฝรั่งเศส 160,750 บังกลาเทศ 115,786 แอฟริกาใต้ 101,590 และแคนาดา 101,573 ด้านผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3,662 รายในหนึ่งวันที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 473,266 ราย ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดยังคงเป็นสหรัฐที่ 122,589 ตามด้วยบราซิล 51,271 อังกฤษ 42,647 อิตาลี 34,657 ฝรั่งเศส 29,663 สเปน 28,324 เม็กซิโก 21,825 และอินเดีย 14,015 ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 4,903,071 คน

OSP กำไร Q2/66 ที่ 549 ลบ. ลดลง 9.1% จากปีก่อน, ปันผล 0.40 บาท
อ่าน

OSP กำไร Q2/66 ที่ 549 ลบ. ลดลง 9.1% จากปีก่อน, ปันผล 0.40 บาท

บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) หรือ OSP แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 2/66 มีกำไร 549.39 ล้านบาท ลดลงราว 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 603.66 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมในไตรมาส 2/66 ที่ 6,768 ล้านบาท ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 1.8% จากไตรมาสก่อน ส่วนรายได้จากการขายในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 6,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากการฟื้นตัวของปริมาณการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศ ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง(เติบโต 6.4% จากไตรมาสก่อน) และเครื่องดื่ม Functional Drinks (เติบโต 13.3% จากไตรมาสก่อน) โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน โอสถสภาเป็นผู้นำทั้งในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังและตลาดเครื่องดื่ม Functional Drinks โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 47.5% เพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาสก่อน หลังจากมีการปรับใช้กลยุทธ์กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับตลาดที่แบ่งเป็นสองราคา สำหรับส่วนแบ่งการตลาดสำหรับกลุ่มเครื่องดื่ม Functional Drinks อยู่ที่ 42.1% เพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อน จากการฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มซี-วิท และการเติบโตของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มคาลพิส ด้านอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 34.0% เติบโต 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 0.6% จากไตรมาสก่อน อัตรากำไรขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของราคาต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน ประกอบกับประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานผลิตขวดแก้ว สามารถช่วยรักษาระดับกำลังการผลิตโดยรวมแม้ว่าจะมีการปิดเตาหลอมเมื่อครบอายุการใช้งานตามแผนในไตรมาส 1/66 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน **ปันผล 0.40 บาท คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในงวดผลดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย. 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 ส.ค. 2566 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 24 ส.ค. 2566 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 2566

BAY เผยกำไรสุทธิปี 65 ที่ 3.07 หมื่นลบ. ลดลง 9.1% เงินให้สินเชื่อโต 3.1%
อ่าน

BAY เผยกำไรสุทธิปี 65 ที่ 3.07 หมื่นลบ. ลดลง 9.1% เงินให้สินเชื่อโต 3.1%

#BAY #ทันหุ้น-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) หรือ BAY แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 30,712.98 ล้านบาท ลดลง 9.1% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33,794119 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อนมีรายการพิเศษจากการบันทึกำไรจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด(มหาชน) หรือ TIDLOR แต่หากพิจารณาจากกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ เพิ่มขึ้น 20% สนับสนุนโดยการลดลงของภาระการตั้งสำรอง และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ตามการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนสูงและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้น นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงินให้สินเชื่อของกรุงศรีเติบโตอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าในปี 2565 โดยสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 3.8% และ 5.3% ตามลำดับ สะท้อนการปรับตัวดีขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุนภาคเอกชน ที่ช่วยกระตุ้นความต้องการเงินทุนหมุนเวียนและสภาพคล่องของภาคธุรกิจ กอปรกับการบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพของธนาคาร ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มสูงขึ้น - เงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 3.1% หรือจำนวน 59,033 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคมปี 2564 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งนี้ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขยายตัว 3.8% และ 5.3% ตามลำดับ -เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 1.4% หรือจำนวน 25,553 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคมปี 2564 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์ -ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 3.45% จาก 3.24% ในปี 2564 โดยเป็นผลมาจากการปรับตัวดีขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินคงที่ -รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากการดำเนินงานตามปกติ ลดลง 4.6% หรือ 1,561 ล้านบาท จากปี 2564 หากรวมรายการพิเศษจากการบันทึกกำไรจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นของเงินติดล้อในปี 2564 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 12,288 ล้านบาท หรือ 27.4% -อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 43.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานตามปกติ (หากไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายหุ้นเงินติดล้อ) ที่ 43.2% ในปี 2564 อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.32% เมื่อเทียบกับ 2.20% ณ สิ้นปี 2564 กรุงศรียังคงบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยความรอบคอบระมัดระวัง โดยมีสัดส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อรวมในระดับ 136 เบสิสพอยท์ในปี 2565 -อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 167.4% -อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 17.97% ลดลงจาก 18.53% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 จากความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ กรุงศรีสามารถส่งมอบกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2565 โดยเงินให้สินเชื่อรวมเติบโตอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและรายย่อย ทั้งนี้ ธนาคารยังคงดําเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจและบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยความรอบคอบระมัดระวังนายเซอิจิโระ กล่าว **คาดจีดีพีไทยปีนี้โต 3.6% นายเซอิจิโระ กล่าวอีกว่า ในปี 2566 แม้ว่าหลายตัวแปรทางความเสี่ยง อาทิ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลักที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องจากปี 2565 และบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ กรุงศรีคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในอัตรา 3.6% ในปี 2566 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.95 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.80 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.64 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 300.70 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 17.97% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 13.23%