TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “香奈儿一比一服装精仿奢侈品1比1货源-谁有高仿卡地亚戒指的-gucci哪里买的到高仿” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
Gucci ออกแบบรองเท้าสนีกเกอร์ AR ขาย !!
รู้จัก Roblox และ VRChatกันไหมครับ ทั้ง 2 แอปนี้คือแอปแชทรูปแบบใหม่ในรูปแบบ VR ที่เราใช้ตัวอวาตาร์เป็นตัวแทนเพื่อพูดคุยกับผู้คนในโลกดิจิทัล ล่าสุดทางแบรนด์แฟชั่นแนวหน้าของโลกอย่าง Gucciก็ได้เล็งเห็นถึงแนวทางการทำตลาดในแอปเหล่านี้ได้ และได้ออก The Gucci Virtual 25 รองเท้าสนีกเกอร์ในรูปแบบดิจิทัลวิชวล ออกมาวางจำหน่าย โดยเราสามารถใส่ขาของเราเองได้ในรูปแบบ AR หรือจะใส่ขาตัวอวาตาร์ของเราใน Roblox และ VRChat ได้The Gucci Virtual 25ได้รับการออกแบบโดย Creative Director ของทาง Gucci - Alessandro Michele และได้ร่วมมือกับบริษัท Wannaผู้เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี AR สำหรับทำการตลาด เป็นผู้สร้างสรรค์ตัวรองเท้าออกมาให้ มันจะมีรูปลักษณ์ใหญ่ ๆ โดดเด่นด้วยสีเขียวนีออนและสีชมพู มาพร้อมโลโก้ GC ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Gucci จะติดอยู่ที่ลิ้นของรองเท้า และพื้นของตัวรองเท้า อย่างไรก็ตาม The Gucci Virtual 25ไม่ได้แจกฟรี มันถูกวางจำหน่ายในราคา 12.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 400 บาทบนแอปของ Gucci [คลิก]หรือซื้อจากบนแอป Wanna Kicks AR sneaker [คลิก] ในราคา 8.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 278 บาทได้แล้ว โดยถ้าอยากนำไปใช้บน Roblox และ VRChat เราจำเป็นต้องซื้อผ่านแอป Gucci แต่ถ้าแค่อยากใส่แบบ AR เล่น ๆ ซื้อจากแอป Wanna Kicks AR sneaker ก็พอแล้วแหล่งที่มาtheverge.com
TNN ช่อง16 • 22 มี.ค. 64
อ่าน
หุ้นสหรัฐฯผันผวน โยกกลุ่มเล่น Gucci -7% ยอดขายหด
#หุ้นต่างประเทศ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนหุ้นต่างประเทศ โดย บล.เอเซีย พลัส ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวผสมผสาน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดย SP500 และ NASDAQ ยังปรับตัวลงต่อแม้ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายสามารถยืนในแดนบวกได้ ขณะที่ Dow Jones และ Russell2000 ปรับตัวขึ้น บ่งชี้ว่า แนวโน้มการเกิด Sector Rotation ยังคงอยู่ หลังการเติบโตเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ Wedbush ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและแนะนำทยอยสะสม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง โดยดัชนี STOXX600 -0.72% นำโดยกลุ่ม Technology หลังตลาดผิดหวังต่อผลประกอบการในหุ้นกลุ่ม Semiconductor ขณะที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศส CAC40 -1.15% หลังกลุ่ม Luxury ยังกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง ตลาดหุ้นหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียเผชิญแรงเทขายทำกำไรโดยถูกกดดันจาก Sentiment เชิงลบของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการในหุ้นกลุ่ม Big Tech หุ้นอัพเดท Kering, STMicroelectronics, ServiceNow, KLA Corp STOCK HIGHLIGHT Kering (KER FP) ปรับตัวลง 7.47% หลังบริษัทเผยยอดขายในร้านค้าเดิมสำหรับไตรมาส 2 ออกมาหดตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งรวมถึงแบรนด์หลักอย่าง Gucci ด้วย นอกจากนั้นบริษัทยังเตือนถึงกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะลดลงกว่า 30% - โดยในไตรมาส 2 บริษัทเผยรายได้อยู่ที่ 4.51 พันล้านยูโร ลดลง 11% YoY น้อยกว่าคาดที่ 4.67 พันล้านยูโร แบ่งเป็นรายได้หลักจาก Gucci อยู่ที่ 2.01 พันล้านยูโร ลดลง 20% YoY น้อยกว่าคาดที่ 2.08 พันล้านยูโร รายได้ Yves Saint Laurent อยู่ที่ 701 ล้านยูโร ลดลง 9% YoY น้อยกว่าคาดที่ 727.6 ล้านยูโร รายได้ Bottega Veneta อยู่ที่ 448 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 2.3% YoY มากกว่าคาดที่ 446.6 ล้านยูโร รายได้ Other Houses อยู่ที่ 893 ล้านยูโร ลดลง 7.6% YoY น้อยกว่าคาดที่ 899.5 ล้านยูโร และ รายได้ Eyewear corporate อยู่ที่ 531 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 22% YoY ดีกว่าคาดที่ 517.4 ล้านยูโร - ในส่วนมาตรวัดสำคัญอย่างการเติบโตของยอดขายร้านค้าเดิม (Comparable sales) ในไตรมาส 2 แสดงให้เห็นถึงการหดตัว 11% YoY แย่กว่าคาดที่มองว่าจะหดตัวเพียง 8.8% YoY โดยแบรนด์หลักอย่าง Gucci หดตัว 19% YoY แย่กว่าคาดที่มองว่าจะหดตัว 15.9% YoY - ส่งผลให้ภาพรวมของผลประกอบการในครึ่งปีแรกรายได้รวมออกมาอยู่ที่ 9.02 พันล้านยูโร ลดลง 11% YoY น้อยกว่าคาดที่ 9.13 พันล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1.58 พันล้านยูโร ลดลง 42% YoY น้อยกว่าคาดที่ 1.6 พันล้านยูโร และกำไรสุทธิปกติอยู่ที่ 888 ล้านยูโร ลดลง 50% YoY น้อยกว่าคาดที่ 936 ล้านยูโร นอกจากนั้นบริษัทยังเผยว่ากำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน STMicroelectronics (STMPA FP) ปรับตัวลง 13.70% ถึงแม้ผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าคาด แต่ผู้บริหารได้มีการปรับลดประมาณการรายได้รวมของทั้งปีลง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด เนื่องจากยังไม่เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวจากลูกค้าในกลุ่ม Automotives - โดยรายได้รวมออกมาอยู่ที่ $3.23 พันล้าน หดตัวลง 25% YoY แต่ยังออกมาดีกว่าคาดที่ $3.2 พันล้าน แบ่งรายได้หลักได้จาก Analog, Power Sensors มา อยู่ที่ $1.91 พันล้าน ดีกว่าคาดที่ $2.08 พันล้าน รายได้จาก Microcontrollersออกมาอยู่ที่ $1.32 พันล้าน ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ $1.33 พันล้าน - อัตรากำไรขั้นต้นออกมาอยู่ที่ 40.1% หดตัวลงจากปีก่อนหน้าที่ 49% และยังออกมาดีกว่าคาดที่ 40% ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานออกมาอยู่ที่ 11.6% หดตัวลงจาก 26.5% ในปีก่อนหน้า แต่ออกมาดีกว่าคาดที่ 10.5% ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นออกมาอยู่ที่ 50.38 หดตัวลงจาก $1.06 ในปีก่อนหน้า และยังออกมาดีกว่าคาดที่ $0.34 - สำหรับไตรมาส 3ผู้บริหารคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ $3.25 พันล้าน ต่ำกว่าคาดที่ $3.56 พันล้าน และมองว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะออกมาอยู่ที่ 38% ต่ำคาดที่ 40.9% ในส่วนของทั้งปี ได้มีการปรับประมาณการรายได้ลงจากกรอบ $1.40 - 1.50 หมื่นล้าน มาอยู่ในกรอบ $1.32 - 1.37 หมื่นล้าน ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ $1.43 หมื่นล้าน ServiceNow (NOW US) ปรับตัวขึ้น 13.40% หลังบริษัทปรับประมาณการรายได้ subscription สำหรับทั้งปีขึ้น - โดยบริษัทเผยผลประกอบการไตรมาส 2 รายได้รวมอยู่ที่ $2.64 พันล้าน เพิ่มขึ้น22.19% YoY ดีกว่าคาดที่ $2.61 พันล้าน แบ่งเป็นรายได้ Subscription อยู่ที่ $2.54 พันล้าน ดีกว่าคาดที่ $2.53 พันล้าน และ รายได้ Professional Service Other อยู่ที่ $85 ล้าน ดีกว่าคาดที่ $79.6 ล้าน - กำไรขั้นต้นอยู่ที่ $2.17 พันล้าน ดีกว่าคาดที่ $2.15 พันล้าน ด้วยแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ 83% ดีกว่าคาดที่ 82.2%ซึ่งได้ประโยชน์จากรายได้ Subscription ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง อยู่ที่ 85% ดีกว่าคาดที่ 84.4% - ในส่วนมูลค่าสัญญาในอนาคต (Remaining Performance Obligation) อยู่ที่ $1.86หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 30.99% YoY ดีกว่าคาดที่ $1.76 หมื่นล้าน มูลค่าสัญญาภายในช่วงเวลาอีก 12 เดือน (Current Remaining Performance Obligation) เพิ่มขึ้น 21.94% YoY อยู่ที่ $8.78 พันล้าน ดีกว่าคาดที่ $8.68พันล้าน - สำหรับไตรมาส 3บริษัทคาดรายได้ Subscription อยู่ในช่วง $2.66 พันล้าน-$2.67 พันล้าน น้อยกว่าคาดที่ $2.68 พันล้าน แต่สำหรับทั้งปีบริษัทมีการปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ Subscription ขึ้นมาอยู่ในกรอบ $1.058 หมื่นล้าน-$1.059 หมื่นล้าน จากเดิมที่เคยมองไว้ $1.056หมื่นล้าน-$1.058 หมื่นล้าน ดีกว่านักวิเคราะห์คาดที่ $1.058 หมื่นล้าน KLA Corp (KLAC US) ปรับตัวขึ้น 0.93% ขณะที่บริษัทเผยผลประกอบการไตรมาส 4 (สิ้นสุด มิถุนายน 24) ออกมาดีกว่าคาดทั้งรายได้และกำไร - โดยรายได้รวมอยู่ที่ $2.57 พันล้าน เพิ่มขึ้น 9.1% YoY ดีกว่าคาดที่ $2.52 พันล้าน แบ่งเป็นรายได้ Product อยู่ที่ $1.95 พันล้าน เพิ่มขึ้น 7.6% YoY ดีกว่าคาดที่ 51.91 พันล้าน และ รายได้ Service อยู่ที่ $613 ล้าน เพิ่มขึ้น 14% YoY ดีกว่าคาดที่ $605.5 ล้าน ขณะที่กำไรสุทธิปกติต่อหุ้นอยู่ที่ $6.60 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ $5.40และดีกว่าคาดที่ $6.11 - สำหรับคาดในไตรมาส 1 (สิ้นสุด กันยายน 24) บริษัทมองรายได้อยู่ในช่วง $2.6 พันล้าน-$2.9 พันล้าน ดีกว่าคาดที่ $2.62 พันล้าน และมองกำไรสุทธิปกติต่อหุ้นอยู่ในช่วง $6.40-$7.60 ดีกว่าคาดที่ $6.49 Chipotle (CMG US) ปรับตัวลง 1.74% ขณะที่บริษัทเผยการเติบโตของยอดขายในร้านค้าเดิมในไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด พร้อมทั้งยังคงมุมมองสำหรับทั้งปีเช่นเดิม - โดยในไตรมาส 2บริษัทเผยรายได้อยู่ที่ $2.97 พันล้าน เพิ่มขึ้น 18% YoY ดีกว่าคาดที่ $2.94 พันล้าน การเติบโตของยอดขายในร้านค้าเดิม (Comparable sales) อยู่ที่ 11.1% ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 7.4% และดีกว่าคาดที่ 9.23% - อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 19.7% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 17.2%ดีกว่าคาดที่ 19.2% กำไรสุทธิปกติต่อหุ้นอยู่ที่ 34 เซนต์ ดีกว่าคาดที่ 32 เซนต์ สำหรับทั้งปีบริษัทยังคงคาดการณ์ แนวโน้มการเติบโตของยอดขายในร้านค้าเดิมในช่วง 5%-9% YoY
ทันหุ้น • 26 ก.ค. 67
อ่าน
รีวิวหนัง House of Gucci ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของตะกูล GUCCI
ตัวอย่าง House of Gucciข้อมูลเบื้องต้นของ House of Gucciก่อนเริ่มการรีวิวภาพยนตร์เรื่อง House of Gucci เรามาดูข้อมูลเบื้องต้นกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของเจ้าของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง GUCCI ที่ในครอบครัวนี้ จะนำเสนอเรื่องราวในช่วง 3 ทศวรรษ ซึ่งเกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องการแย่งชิงทรัพย์สมบัติ ความรัก การทรยศหักหลัง จนสุดท้ายบานปลายนำไปสู่เหตุการณ์ฆาตกรรมที่กลายเป็นตำนานของวงการแฟชั่น ซึ่งเรื่องนี้จะเน้นไปที่การเล่าเรื่องและดราม่าเป็นหลัก ใครที่คิดว่าเป็นหนังแฟชั่น คุณคิดผิดอย่างแรง แต่อย่างน้อย แฟชั่นของตัวละครในเรื่องก็ไม่ใช่ธรรมดา แค่เนื้อเรื่องไม่ได้ลงลึกเกี่ยวกับแฟชั่นแบบเฉพาะเจาะจง แต่เน้นไปที่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนนำไปสู่เหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในปี 1995 โดยเรื่องนี้ได้ตัวผู้กำกับชื่อดังอย่าง Ridley Scott ผู้กำกับรุ่นใหญ่แห่งฮอลลีวูด ผู้ที่เคยมีผลงานระดับตำนานมาแล้วมากมาย อาทิเช่น Alien (1979) , Blade Runner (1982) , Gladiator (2000) , Hannibal (2001) , American Gangster (2007) และ The Martian (2015) และผลงานล่าสุด The Last Duel (2021)รายชื่อนักแสดง นอกจากได้ผู้กำกับฝีมือดีมากำกับแล้ว เรื่องนี้ยังขนทัพนักแสดงระดับแนวหน้าของฮอลลีวูดมารวมไว้ในหนังเรื่องเดียว ได้แก่ Lady Gaga รับบท แพทริเซีย เรจจานี , Adam Driver รับบท เมาริซิโอ กุชชี่ , Al Pacino รับบท อัลโด กุชชี่ , Jeremy Irons รับบท รูดอลโฟ กุชชี่ , Jared Leto รับบท เปาโล กุชชี่ รีวิว House of Gucciการดำเนินเรื่อง การดำเนินเรื่องของเรื่องนี้ ทำได้ค่อนข้างดี แม้จะช้าไปหน่อย ยิ่งช่วงกลางๆของหนังนี่เล่าแบบเอื่อยมากๆ และไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ผมเกือบหลับไปแล้ว แต่ก็แค่ช่วงสั้นๆ นอกนั้นก็ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม ซึ่งในมุมมองผม เนื้อเรื่องมันไม่ได้สดใหม่หรือดึงดูดผู้ชมมากนัก ค่อนไปทางน่าเบื่อ แต่ผู้กำกับมีความสามารถพอ ที่จะเล่าให้มันดูน่าสนใจขึ้นได้ และผมก็ชอบในส่วนนี้พอสมควรเลย เพราะเขาฉลาดที่เลือกการเล่าเรื่องที่มีข้อมูลเยอะๆ แต่ตัดแบ่งเป็นสั้นๆเพื่อให้คนดูไม่รู้สึกเบื่อ คือตั้งแต่ต้นจนจบ มันคือการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 1970 - 1995 เกือบ 30 ปี หนังก็เล่าเพียงเหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในแต่ละปี และก็สคริปต์เวลาไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร และความสัมพันธ์ของตัวละครมากขึ้น และทำให้คนดูรู้สึกอินและเข้าใจความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวได้ในเวลาไม่นาน ถือว่าดีมากๆการแสดง การแสดงของเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในหนังเลย เพราะแค่รายชื่อนักแสดงแต่ละคนก็การันตีถึงคุณภาพแล้ว แม้ว่าการแสดงของแต่ละคนจะมีวิธีการที่แตกต่างกันไปบ้าง บางคนเล่นแสดงออกทางท่าทางและสีหน้า แต่บางคนก็เล่นใหญ่ไปเลย แต่ข้อดีคือทุกคนเล่นได้สมบทบาท ไม่ได้ดูฝืนหรืออะไร ส่วนตัวในเรื่องนี้ผมประทับใจการแสดงของทุกคน ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากๆ ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และมิติของตัวละครที่ตัวเองได้รับ ออกมาได้อย่างดีงาม ต่อไปผมขอรีวิวการแสดงของนักแสดงแต่ละคนนะครับ1.Al Pacino รับบท อัลโด กุชชี่ ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล Gucci สำหรับ Al Pacino ไม่ต้องพูดเยอะ แกทำได้ดีตามมาตรฐานของแกอยู่แล้ว เรื่องนี้แกแสดงเป็นตาลุงใจดี ใจดีมากๆ และรักคนในครอบครัวทุกคน เป็นคนใจเย็น และบริหารเก่ง เป็นตัวละครที่น่าสงสารมากๆ รักหลานมาก ให้ทุกอย่าง ช่วยทุกอย่างไม่เคยด่าซักคำ แต่กลับโดนหลานตัวเองหักหลัง แถมหลานไปกล่อมให้ลูกเขาหักหลักเขาอีก โคตรน่าสงสาร และผมชอบตัวละครนี้มากๆ ขนาดลูกเอาหุ้นทั้งหมดไปขาย ยังไม่โกรธหรือด่าอะไร แต่พูดแค่ว่า "แกเป็นไอโง่ แต่ก็เป็นไอโง่ลูกของฉัน" และกอดลูก แต่ก็มีข้อเสียตรงสปอยลูกเกินเนี่ยแหละ จนลูกเคยตัวทำอะไรไม่สนใจ เพราะพ่อไม่เคยด่าอะไรเลย และอัลปาชิโน่ก็แสดงบทบาทนี้ออกมาได้ดีมาก แกดูเป็นลุงใจดีจริงๆ และซีนอารมณ์แกก็ทำได้ดีเหมือนเดิม2.Jeremy Irons รับบท รูดอลโฟ กุชชี่ ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล Gucci สำหรับตัวละครนี้เป็นคนหัวแข็ง น่าเกรงขาม เก่ง และมีอีโก้ ตัวละครนี้โผล่มาไม่นาน แค่ช่วงต้นเรื่อง แต่เจเรมีก็ทำได้ดีแบบได้ซีนไปเลย สมบทบาท น้อยแต่มากของจริง เพราะตัวละครนี้ก็มีมิติอยู่ คือเหมือนลึกๆเขาก็มีความใจดี และรักลูกมากๆอยู่เหมือนกัน แต่การแสดงออกมันตรงกันข้าม ทั้งไล่ลูก ตัดหางปล่อยวัด แต่สุดท้ายเขาก็ยกทุกอย่างให้ลูกเขาเหมือนเดิม และเขาก็ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครออกมาได้ดีมากๆ3.Adam Driver รับบท เมาริซิโอ กุชชี่ ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล Gucci ตัวละครของแกเป็นตัวละครหลัก แกก็ยังคงทำได้ดีเหมือนทุกเรื่องที่ผ่านๆมา แสดงตามสไตล์ของตัวเอง โดยตัวละครที่แกเล่น จะมีจุดที่เปลี่ยนหรือพลิกผัน คือจากคนนิ่งๆ ไม่กล้าพูด พอถึงจุดนึงคิดได้ว่าถูกภรรยาหลอกใช้มาตลอด จึงคิดจะทิ้งภรรยาแล้วกลายเป็นอีกคน เป็นตัวของตัวเอง ซึ่ง Adam Driver ทำได้ดีจริงๆ พอตัวละครมีพัฒนาการเขาก็เปลี่ยนการแสดงของตัวเองไปได้อย่างแนบเนียนตามเนื้อเรื่อง 4.Jared Leto รับบท เปาโล กุชชี่ ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล Gucci คนนี้นี่โดดเด่นจริงๆ เป็นตัวสมทบ ที่มีเอกลักษณ์โคตรๆ แกมาสายนี้จริงๆ คือถ้าผมไม่ได้อ่านรายชื่อนักแสดงมาก่อนคือจำไม่ได้แน่ๆ ทั้งเสียง บุคลิกภายนอก แถมพูดอังกฤษสำเนียงอิตาลีอีก และแกดัดเสียงเล็กๆแบบมันดูปั่นแต่พอการแสดงออกทางท่าทาง บุคลิกของตัวละคร มันดันเข้ากันแบบคนบุคลิกนี้ก็คงจะเสียงโทนๆนี้แหละ และเขาแสดงได้โคตรดีจริงๆ ผมชอบตัวละครนี้พอสมควร และส่วนตัวก็ชอบจาเลทอยู่แล้ว ตัวละครนี้ที่แกรับบทมันเป็นลูกคนรวยไม่เอาไหน มีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ แต่ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้เลย และก็เป็นคนหลงตัวเอง ไม่พัฒนา จึงไม่เก่งขึ้น และก็อยากจะดิ้นรนออกคอลเล็คชั่นอยู่นั่นแหละ แถมเป็นคนทำอะไรตามใจตัวเอง และจาเลทแสดงออกมาจนเรารู้สึกหมันใส้ตัวละครนี้ในช่วงแรกๆ แต่พอผ่านไปเรื่อยๆ ช่วงกลางถึงช่วงท้ายตัวละครนี้โคตรน่าสงสาร และจาเลทก็แสดงได้สมบทบาท จนรู้สึกสงสารจริงๆ มันเป็นคนหัวอ่อนและถูกหลอกตลอด จาเล็ทถ่ายทอดออกมาจนผมทั้งรู้สึกหมันใส้ด้วยและก็สงสารด้วยในเวลาเดียวกัน5.Lady Gaga รับบท แพทริเซีย เรจจานี ภรรยาของ เมาริซิโอ ตัวละครที่เธอได้รับเป็นตัวละครหลักเช่นเดียวกัน ต้องเล่นคู่กับ Adam Driver ตั้งแต่ต้นเรื่องไปถึงเกือบช่วงท้าย ซึ่งเธอทำได้ดีมากๆ มีหลายฉากที่ต้องเข้าซีนเดียวกับดาราระดับต้นๆ แต่การแสดงของเธอมันโดดเด่น จนทัดเทียมดารามืออาชีพคนอื่นๆได้เลย ซึ่งตอนดูจบผมประหลาดใจปนประทับใจในความสามารถด้านการแสดงของเธอมาก เพราะผมไม่ได้คาดหวังมาเลยว่าเธอจะแสดงดี แต่สิ่งที่ได้เห็นคือมันเกินคาดไปมาก เธอแสดงได้ดีและสมบทบาทมากๆ ทำเอาผมเชื่อไปเลยว่าเธอเป็นคนแบบนั้นจริงๆ และรู้สึกเกลียดตัวละครตัวนี้ไปเลย ถือว่าเธอทำสำเร็จนะ และเปลี่ยนมุมมองของผมไปเลย ผมคิดว่าหลังจากเรื่องนี้ คงเห็นเธอแสดงอีกหลายเรื่อง เพราะเรื่องนี้เธอได้ปล่อยของจริงๆเนื้อเรื่อง และบทภาพยนตร์ เนื้อเรื่องมันก็มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงอยู่แล้ว ทุกอย่างมันเลยดูธรรมชาติมากๆ สมเหตุสมผล มันเหมือนการเล่าเรื่องในอดีตที่มาให้เราเห็นเป็นภาพยนตร์มากกว่า เนื้อเรื่องคือไม่รู้จะติอะไร เพราะทำได้ดีมากๆอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้หวือหวาอะไรมาก ก็เพราะมันคือเรื่องจริง ชีวิตจริงมันก็แบบนี้แหละ ดำเนินไปเรื่อยๆ แต่ถือว่าครอบครัวนี้ก็ชีวิตเกินจริงไปกว่าคนทั่วไปเยอะอยู่ เพราะด้วยความที่มันมีเรื่องเงินจำนวนมาก ทำให้ความวุ่นวายตามมา จนกลายเป็นหนังได้เลย ต่อมาในเรื่องของบท ถือว่าทำออกมาได้ดีนะ แม้จะไม่ได้ถึงขั้นดีมากๆ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดีเลย ผมชอบคำพูดที่อยู่ในซีน ที่ตัวละคร รูดอลโฟ กุชชี่ ที่รับบทโดย เจเรมี พูดกับเปาโล รับบทโดย จาเลท ตอนที่เปาโลเอางานที่ออกแบบมาอวดแล้วบอกว่าตัวเขานั้นมีพรสวรรค์ ขอโอกาสจากน้าให้เขาได้ลองผลิตและขายมันในนาม GUCCI แต่น้ากลับบอกว่าให้เอาไปซ่อนอย่าให้ใครเห็น และพดประโยคนี้ที่ผมชอบ โดยรูดอลโฟ พูดว่า "คนไม่มีพรสวรรค์มักพูดอวดคนอื่นไปเรื่อยว่าตัวเองมี แต่คนที่มีพรสวรรค์จริงๆ กลับไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี ต้องมีคนมาเห็นและบอกเขา" ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมางในครอบครัว โดยรวมแล้วบทก็ดี เนื้อเรื่องก็ดี ทุกอย่างในเรื่องนี้อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากหมดงานโปรดักชัน เสื้อผ้าหน้าผม และการตัดต่อ ในด้านงานโปรดักชันก็ทำได้ดี เซ็ทฉากต่างๆให้ดูเป็นยุคนั้นจริงๆ ทำได้เนียนกริบ ไม่รู้ว่าใช้ CG หรือว่าสร้างสถานที่จริงมาเพื่อถ่ายทำ แต่ทุกอย่างโอเคมากๆ ทั้งฉากหลัง โทนสีที่ใช้ในหนัง มันดูจริงหมดทุกอย่าง ทำให้เราเชื่อได้ว่าอยู่ในยุคนั้นจริงๆ ต่อมาเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ชื่อหนังขนาดนี้ แถมเล่าเรื่องของตระกูลเจ้าของแบรนด์แฟชั่น ดังนั้นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมพูดได้เลยว่าจัดเต็ม แม้เนื้อเรื่องไม่ได้เจาะลึกวงการแฟชั่น แต่ตัวละครในเรื่องแต่งตัวกันสุดจัด และชุดสวยทุกชุดจริงๆ แถมชุดยังคุมโทนกับฉากหลังด้วย คือโปรดักชันดีจริง สีมันกลืนและแมทซ์กันหมด โดยส่วนตัวผมชอบชุดเล่นสกีสีแดง ที่ตัวละครของ Lady Gaga ใส่ สีแดงมันตัดกับสีหิมะสีขาว มันดูเด่นและดูเป็นที่จดจำดี แต่ชุดฝั่งผู้ชายก็ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะ Adam Driver ที่เรื่องนี้จับเขาเปลี่ยนลุคเป็นหนุ่มไฮโซลูกเศรษฐี และลุคเขาก็ดูเป็นแบบนั้นจริงๆ ขนาดตัวละครรองๆ อย่างเลขาของเมาริซิโอ ยังเท่เลย ฉากที่เขาใส่แว่นดำ กับชุดสูทดำ ตอนเอาใบหย่าไปให้แพทริเซียที่โรงเรียน ฉากนั้นโคตรหล่อ ไม่เหมือนเลขา เหมือนพวกบริการ์ดหรือสายลับมากกว่า โดยรวมถือว่าทำได้ดีมากๆ ในเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละคร สุดท้ายเรื่องของการตัดต่อ เรื่องนี้เลือกเล่าเรื่องแบบยาวๆไทม์ไลน์ทั้งหมดของเรื่องคือเวลาเกือบ 30 ปี ทำให้มีการตัดช่วง และสคริปต์เยอะ ซึ่งถือว่าทำได้ดี ทำให้เราไม่เบื่อ เล่าแต่เรื่องสำคัญๆ กระชับ ไม่ยืดเยื้อ และไปต่อเรื่อยๆ เห็นการพัฒนาการและความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แบบลื่นไหล และกำลังพอดี ถือว่าทำได้ดีจริงๆสรุป สำหรับผม ในเรื่องนี้ที่บทสรุปมันจบไม่ส่วนนั้น มันมาจากทุกคน เพราะทุกคนมีส่วนผิดกันหมด แต่ที่ผิดที่สุดคือความสัมพันธ์ของครอบครัว GUCCI ที่มันมีเส้นกั้น การแบ่งลำดับชั้นกันพอสมควร ไม่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากพอ พอมีคนนอกอย่างแพทริเซียเข้ามาหวังแย่งชิงทรัพสมบัติก็เรียบร้อย แต่ถ้าพวกเขารักกันและพูดคุยแลกเปลี่ยนด้วยความจริงใจกันตลอด คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ และอาจรับมือได้ดีกว่านี้ อย่างว่าแหละ ได้อย่างเสียอย่างเป็นลูกคนรวยก็สบาย แต่ตามมาด้วยความกดดัน และความสัมพันธ์กับพ่อแม่ ที่จะลดน้อยตาม เพราะเงินไม่ได้เสกได้ รวยได้แสดงว่าพ่อแม่ทำงานหนัก ไม่มีเวลาอยู่กับลูก ลูกสบายก็จริง แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องความอบอุ่นตามมา แต่ไม่ใช่ทุกครอบครัวจะเป็นแบบนี้อย่างในเรื่องคือพ่อของเมาริซิโอ แทบไม่รู้จักลูกตัวเองเลย เพราะมัวแต่ทำงานอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งต่างกับพี่ชายของเขา ลุงอัลโด ที่มีลูกชายคือเปาโล แม้ว่าลุงอัลโดจะทำงานหนัก แต่เขามีความยืดหยุ่น และไม่ตึงเครียดเท่าน้องชาย เขากับลูกเลยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ดีตรงรักลูกเกินไป สปอยลูกเกิน จนลูกทำอะไรไม่เป็น สรุปแล้วมนุษย์ทุกครอบครัว มีปัญหาเสมอ อยู่แค่ว่าปัญหานั้นจะใหญ่หรือเล็ก ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แค่ตีแผ่ครอบครัวที่มีปัญหาใหญ่ๆและคาราคาซังก็เท่านั้น อีกอย่างที่ผมชอบคือการที่มีตัวละครหมอดูเข้ามาเกี่ยวข้องเนี่ยแหละ คือตัวละครแพทริเซียขับเคลื่อนด้วยหมอดูล้วนๆ ทั้งที่หมอนั่นมันหมอดูเก๊ เรื่องนี้ก็ถ่ายทอดให้เราเห็นแบบนั้นเลย ซึ่งมันดีมากๆ แสดงให้เราได้เห็นว่าความเชื่อมันมันทำให้คนเรากลัว จนไม่กล้าตั้งคำถาม ทำได้เพียงทำตามเท่านั้น และคนที่เชื่อจนหัวปักหัวปำ มันก็พร้อมจะทำทุกอย่างตามที่หมอดูบอก อย่างแพทริเซียที่พอหมอดูแนะนำให้ฆ่าสามี ก็ทำตามแบบไม่ลังเล ซึ่งเราก็ไม่รู้ไงว่าหมอดูเนี่ย มันไปแบ่งเงินกับมือปืน หรือได้ค่านายหน้าหรือป่าว แต่ผมว่าหมอดูได้เงินอยู่แล้ว มันให้เราเห็นเป็นบทเรียนเลย ว่าอย่างมงายอะไรเกินไป มันมีโอกาสจะนำเราไปทำเรื่องบ้าๆได้ สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็เป็นภาพสะท้อนของเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นจริงๆ มันก็ให้ข้อคิดเราในหลายๆเรื่องและเป็นหนังที่ผมจะดูซ้ำแน่นอนสุดท้ายนี้ถ้าอ่านแล้วชอบฝากกดติดตาม และกดแชร์ด้วยนะครับชื่อเรื่อง : House of GUCCIปีที่ฉาย : 2021 (ในไทย 2022)แนว : ประวัติศาสตร์ผู้กำกับ : ริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott)ช่องทางการรับชม : ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ)คะแนน : 8.5 / 10ช่องทางการติดตาม Facebook Fanpage : ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง : รีวิว The Last Duel (2021) การดวลจนตัวตายของ 2 อัศวิน เพื่อพิสูจน์ความจริง / Meg 2 : The Trench กำลังจะเปิดกล้องถ่ายทำในสัปดาห์หน้า / เตรียมตัวก่อนดู Vikings : Valhalla / ป้ายยา House of GUCCI หนังดีที่ไม่ควรมองข้าม / แนะนำรีวิว Hype House (2022) เมื่อเหล่าคนดังมาอาศัยอยู่ด้วยกันเพื่อสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ภาพทั้งหมดจาก Facebook : House Of Gucciภาพปก : ภาพที่ 1ภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7วิดีโอ : House Of Gucci - Official Trailer [ซับไทย] จาก Youtube : Major Groupอัปเดตบทความรีวิวภาพยนตร์ใหม่ ๆ สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !
ละเลงหนัง • 30 ม.ค. 65
อ่าน
Xbox จับมือ Gucci ออก Xbox Series X รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 20 ปี
Gucci แบรนด์แฟชั่นระดับโลกจากอิตาลี ร่วมฉลอง Xbox ครบรอบ 20 ปีด้วยการเปิดตัว Xbox Series X รุ่นพิเศษ มีแค่ 100 ชุดเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 330,000 บาทภาพจาก gucciXbox Series X รุ่นพิเศษนี้จะประกอบไปด้วยตัวคอนโซล, คอนโทรลเลอร์ไร้สาย 2 ตัว และกระเป๋าหิ้วลายกุชชี่ พร้อมด้วยการสมัครบริการ Xbox Game Pass Ultimate ฟรีอีกด้วย โดยทั้งตัวเครื่องและกระเป๋ามีการตกแต่งด้วยอักษร GG ในรูปแบบไขว้กันตามสไตล์กุชชี่ ซึ่งตัวอักษรนี้เป็นการเล่นกับคำว่า Good Game คำพูดที่ติดปากบรรดาเกมเมอร์หลายคน และยังหมายถึง Guccio Gucci ผู้ก่อตั้งแบรนด์กุชชี่ได้อีกด้วยภาพจาก gucciภาพจาก gucciส่วนใครที่เห็นราคาคอลแลปของกุชชี่แล้วไม่ไหว Xbox ยังมีการเปิดตัวอุปกรณ์การเล่นเกมร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ ในดีไซน์ที่ฉลองครบรอบ 20 ปีเช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นเป็นการร่วมมือกับ Razer ผู้ผลิตอุปกรณ์เกมชื่อดัง ออกคอลเล็กชั่น20th Anniversary Special Edition Xbox เป็นแท่นชาร์จคอนโทรลเลอร์ แบบ Universal Quick Charging Stand ราคา 49.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,700 บาทภาพจาก gsmarenaนอกจากนี้ Xbox ยังมีคอนโทรลเลอร์แบบไวเลสลายพิเศษในตีมครบรอบ 20 ปี สำหรับใช้ร่วมกับคอนโซล Xbox Series X และ S โดยเฉพาะ ราคาประมาณ 70 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,000 บาทภาพจาก gsmarenaและสุดท้ายเป็นสเตอริโอเฮดเซ็ต ที่มาในตีมสีดำเขียวพร้อมโลโก้ครบรอบ 20 ปี ราคาประมาณ 70 ดอลลาร์ หรือ 3,000 บาทภาพจาก gsmarenaและนอกจากกุชชี่แล้ว แบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชื่อดังอย่าง adidas ก็ร่วมวงฉลองครบรอบ Xbox ด้วยเช่นกัน โดยพึ่งเปิดตัวรองเท้าผ้าใบ Xbox 20th Forum Tech ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคอนโซลเกมรุ่นดั้งเดิมปี 2001 มาในสไตล์สีเขียวสะท้อนแสงและสีดำในคอนเซ็ปต์ชื่อว่าalway played in. Never Played out ภาพจาก xbox.comภาพจาก xbox.comสำหรับการคอลแลปร่วมกันของแบรนด์ต่าง ๆ นี้ ต่างก็เป็นการฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของ Xbox เครื่องเล่นเกมส์วิดีโอแบบคอนโซลที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะจัดงานครบรอบในวันที่ 15 พฤศจิกายน หรือเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 16 พฤศจิกายนตามเวลาประเทศไทยขอบคุณข้อมูลจากengadgetgsmarenaguccixbox.com
TNN ช่อง16 • 15 พ.ย. 64
อ่าน
เปิดคลิป “หมีเนย” รันวงการแฟชั่น เดินแบบ GUCCI ชาวด้อมเอ็นดู
เป็นเน็ตไอดอลสาวที่มาแรงแซงทุกกระแสสำหรับ หมีเนย หรือ Butter Bear ขวัญใจเหล่ามัมหมี ล่าสุด หมีเนย เข้าไปรันวงการแฟชั่นแล้ว โดยเข้าไปเป็นเกสต์ เยี่ยมชมนิทรรศการ Gucci Visions ที่ EMSPHERE โดยน้องหมีเนยมาในลุคชุดสีฟ้าเเสนหวาน พร้อมผ้าคลุมผม หิ้วกระเป๋าสีชมพูล่าสุดทาง X ของ Butterbear ได้เผยคลิป หมีเนย ขณะเดินแบบของ Gucci พร้อมระบุข้อความว่า น้องเนยบอกให้ทีมงานเอาคลิบเดินแบบน้องมาอวดพี่ๆค่ะ ฝึกเดินแบบครั้งแรก พี่ๆทีม Gucci สอนน้องว่าให้นึกว่าตัวเองอยู่ Paris Fashion Week และที่สำคัญปารีสมีมาการองเยอะเลย น้องเดินเสร็จก็ไปกินได้ น้องชอบใจใหญ่บอกอยากเดินทุกวันค่ะ" style="height: 933px;">ทั้งนี้ หมีเนย (Butterbear) เป็นมาสคอตสุดคิ้ว จากร้านคาเฟ่ Butterbear ร้านขนมหวานในเครือ Coffee Beans by Dao ที่ออกมาเต้นดุ๊กดิ๊กจนกลายเป็นไวรัล โดยไวรัลแรกของ หมีเนย กวาด Engagement ไปถึง 6.5 ล้านครั้งเลยทีเดียว ในช่วงเวลาตั้งแต่ 1 มกราคม - 10 มิถุนายน 2567 ซึ่งตอนนี้แจ้งเกิดเป็นดารา เน็ตไอดอลสุดฮอตท่านหนึ่งไปแล้วเรียบร้อยp.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px 'Helvetica Neue'} span.s1 {font: 13.0px Thonburi}ข้อมูลจาก: Butter Bearภาพจาก:Butter Bear
TNN ช่อง16 • 13 ก.ค. 67
อ่าน
House of Gucci
เรื่องย่อ House of Gucci ชื่อเรื่อง House of Gucciประเภท อาชญากรรม , ดราม่า , ระทึกขวัญนำแสดงโดย เลดี้ กาก้า ,อดัม ไดรเวอร์, อัล ปาชิโน่, จาเรด เลโตกำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์กำหนดฉาย 20มกราคม 2022ความยาว 158 นาที
เรื่องย่อหนัง • 28 พ.ย. 64
อ่าน
ส่องลุค 3 ซุปตาร์สุดปังใน Gucci Phuket Style!
เป็นกระแสสุดปังทุกแพลตฟอร์มจริง ๆ ค่ะสำหรับงานอีเว้นท์ Gucci Store Reopening ที่จังหวัดภูเก็ต ที่งานนี้มีซุปตาร์สุดปังมาร่วมงานถึง 3 คน ไม่ว่าจะเป็นสาวใหม่ ดาวิกา , กลัฟ คณาวุฒิ และหนุ่มบิวกิ้น พุฒิพงศ์ ที่แต่ละคนนั้นคือมีความ Gucci ที่โดดเด่นมาก วันนี้เราเลยอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาส่องดูลุคปัง ๆ ของทั้ง 3 ซุปตาร์ ผ่านทาง ‘ส่องลุค3 ซุปตาร์สุดปังใน Gucci Phuket Style!’1.) ใหม่ ดาวิกา มาเริ่มกันที่คนแรกเลยค่ะ เป็นซุปตาร์สาวสวยเพียงคนเดียวในทริปนี้ นั่นคือสาวสวยมากเสน่ห์อย่าง “ใหม่ ดาวิกา” ที่เธอมาในนามของ Gucci Brand Ambassador โดยสาวใหม่นั้นได้ลงรูป ขึ้นเรือชมพระอาทิตย์กับหนุ่ม ๆ ในทริปภูเก็ตนี้ก่อนที่จะเข้าร่วมงานเปิดบูติกโฉมใหม่ของ Gucci ที่บอกเลยว่าลุคของเธอนั้นสวยและชิลมาก~ ลุคนี้สาวใหม่ได้เลือกใส่เป็นเสื้อโปโลถักลาย Web และกางเกงขาสุ้นคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024 ที่ทั้งสองชิ้นเป็นผ้าบาง ๆ สีขาว ตัวเสื้อมีการแต่งเป็นขอบสีแดงและเขียว ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ Gucci บอกเลยว่าเป็นลุคที่ชิลและสวยโดดเด่นมากค่า~https://www.instagram.com/p/C2g8FnYPux_/?igsh=d2JzdjU2MDRudDVshttps://www.instagram.com/reel/C2gvc_jv26v/?igsh=MWllNGJzaWNqcTFvMg== ลุคต่อมาของสาวใหม่ ดาวิกา ในงาน Gucci Store Reopening เธอนั้นได้เลือกใส่เป็นแนวแบบหรูหราดูแพง เธอนั้นได้เลือกใส่เป็นมินิเดรสวูลสั้นสีดำ ซึ่งเป็นแขนกุดแบบเก๋ ๆ มีดีเทลคือมีการปักคริสตัล ที่สวยระยิบระยับปังมาก✨โดยมาจาก คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024 ซึ่งเป็นแขนกุดแบบเก๋ ๆ และมีแต่งเป็นกิมมิคคือสายระยิบระยับที่สวยมาก✨ ในส่วนของไอเทมก็จะเป็นกระเป๋าสีแดงแบบถือ รุ่น Jackie Notte คอมพลีทลุคด้วยรองเท้าคัทชูสีดำสวยเรียกได้ว่าเป็นลุคที่สวยฉ่ำมากhttps://www.instagram.com/p/C2he3uAPy-v/?igsh=MWpxejI5ZndiM2xweg==ช่องทางการติดตามใหม่ ดาวิกาInstagram : @davikah2.) กลัฟ คณาวุฒิ มาถึงอีกหนี่งซุปตาร์ที่เรียกว่าหล่อเท่มาก นั่นคือหนุ่มหน้าหวาน “กลัฟ คณาวุฒิ” โดยเขานั้นเป็น Friend of Gucci ที่ครั้งนี้นั้นก็ได้มาร่วมงานด้วยเช่นกัน อย่างในลุคแรกของหนุ่มกลัฟเลยก็คือ Airport Look เขาได้เลือกใส่เป็นชุดเซ็ทที่เป็นตัวเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสามส่วนที่เป็นผ้าพริ้ว ๆ เป็นสีขาว ลวดลายแบบเก๋กรุบสุด เหมาะกับไปทะเลมาก ในส่วนของไอเทมก็จะเป็นแว่นตากันแดดสีดำ , กระเป๋าเดินทางลวดลาย Gucci และรองเท้าคัทชูหนังกำมะหยี่สีน้ำตาลที่เข้ากันกับลุคมาก ๆ https://www.instagram.com/p/C2e5HlOLeUk/?igsh=MWNsZXZ1d3piY3VxeQ== ลุคต่อมาของหนุ่มกลัฟ เป็นลุคขึ้นเรือ ชมพระอาทิตย์ตก ที่เรียกว่าหล่อเท่มาก โดยหนุ่มกลัฟเลือกสวมเป็นเสื้อสเวตเตอร์รุ่น Wavy GG มีการปักโลโก้ Gucci สีน้ำเงินที่สวยมาก ทำการแมทช์ชิ่งด้วยการเลือกใส่เป็นกางเกงยีนส์ทรงบอยขากระบอกใหญ่ มีดีเทลคือมีหลากหลายกระเป๋า เป็นลุคของหนุ่มกลัฟที่หล่อและชิลมาก~ มาต่อกันที่ลุคที่อีเว้นท์ Gucci Store Reopening ที่เซนทรัลภูเก็ต โดยหนุ่มกลัฟเลือกใส่เป็นชุดเซ็ทสองชิ้น ซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้น และกางเกงขาขาสามส่วน ซึ่งเป็นพื้นสีดำ มีลวดลายที่คล้ายกับสามมิตินูน ๆ ที่สวยมาก จากคอลเล็กกชั่นSpring/Summer 2024 ทำการแมทช์กับรองเท้าผ้าใบสีขาว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในลุคจากแบรนด์ Gucci ที่หล่อเท่มากhttps://www.instagram.com/p/C2hwUm6SJ6R/?igsh=ZDJvcXhzeDR6NmVnช่องทางการติดตามกลัฟ คณาวุฒิ Instagram : @gulfkanawut3.) บิวกิ้น พุฒิพงศ์ มาต่อกันที่ซุปตาร์คนสุดท้ายท้ายสุดกันค่ะ นั้นหนุ่มหล่อลักยิ้มเสน่ห์อย่างหนุ่ม “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” ที่เรียกว่าเขาก็เป็นหนึ่บในซุปตาร์ที่ได้มาในงาน Gucci Store Reopening ที่จังหวังภูเก็ต โดยลุคแรกของหนุ่มบิวกิ้นเป็น Airport Look เป็นลุคที่เขาได้เลือกใส่เป็นชุดเซ็ทสองชิ้น จะเป็นตัวเสื้อเชิ้ตแขนสั้น และกางเกงขาสามส่วนแบบชิล ๆ เป็นสีครีมลาย Gucci ต่อมาในส่วนของไอเทมก็จะมีเป็นกระเป๋าเดินทางลาย Gucci ที่สวยมาก และรองเท้า Sneakers สีขาวแบบเบสิคเรียกว่าเป็นลุคของหนุ่มบิวกิ้นที่หล่อมาก! https://www.instagram.com/p/C2e4tDXPXUH/?igsh=dmozOXl1dDA4eGZo ลุคต่อมาของหนุ่มบิวกิ้น เป็นลุคบนเรือคาตามารัน ในทริปภูเก็ต พร้อมชมพระอาทิตย์ตก ที่บอกเลยว่ามีความหล่อน่ารักมาก เขาได้เลือกใส่เป็นเสื้อสเวตเตอร์ผ้าวูลสีขาว มีกิมมิคคือลูกเล่นเป็นลายสีน้ำเงินสวย และทำการแมทช์กับกางเกงยีนส์ คอลเลกชัน Spring-Summer 2024 ปิดท้ายด้วย รองเท้า Horsebit Loafer ที่บอกเลยว่าหล่อแบบสุด! และในลุคที่มาในงาน Gucci Store Reopening หนุ่มบิวกิ้นได้เลือกใส่เป็นเสื้อสีขาวด้านใน จากนั้นแมทช์กับชุดเซ็ทที่เป็นเสื้อเชิ้ต และกางเกงยีนส์สีเข้มที่สวยมาก มีกิมมิคคือเป็นตัวโลโก้ของแบรนด์ Gucci แบบเท่ ๆ ปลายแขนเสื้อมีการพับขึ้นแบบเก๋สุด จากนั้นเลือกใส่เป็นรองเท้าคัทชูหนังสีดำ Horsebit Loafer บอกเลยว่าเป็นหนึ่งลุคของหนุ่มบิวกิ้นกับแบรนด์ Gucci ที่หล่อไม่ไหว! https://www.instagram.com/p/C2hp6ajPl7G/?igsh=MTBld3dreHA2YXdnOQ==ช่องทางการติดตามบิวกิ้น พุฒิพงศ์Instagram : @bbillkinเป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ ส่องลุค 3 ซุปตาร์สุดปังใน Gucci Phuket Style! ต้องบอกเลยว่าทั้งสาวใหม่ , หนุ่มกลัฟ และหนุ่มบิวกิ้นนั้น แต่ละคนคือสวยหล่อ แถมมีสไตล์โดดเด่นตามแบบฉบับของทางแบรนด์ Gucci เลยละค่ะ ไม่ว่าลุคไหนก็เอาอยู่หมัดมาก และเพื่อน ๆ สามารถติดตามซัพพอร์ตทั้งสามซุปตาร์ได้ทางช่องทางต่าง ๆ เลยค่า💚#Davika #GulfKanawut #Bbillkin #Gucci #GucciPhuketเครดิตภาพหน้าปกโดย@davikah : ภาพหน้าปก1 / @gulfkanawut : ภาพหน้าปก2 / @bbillkin : ภาพหน้าปก3เครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย@davikah : ภาพที่1 / วิดีโอที่1 / ภาพที่2 @gulfkanawut : ภาพที่3 / ภาพที่6@Gulfkanawutofc : ภาพที่4 / ภาพที่5@bbillkin : ภาพที่7 / ภาพที่10 @ElleMenThailand : ภาพที่8 / ภาพที่9บทความที่น่าสนใจ : https://intrend.trueid.net/post/425045https://intrend.trueid.net/post/425383เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
nowadaysgirl • 27 ม.ค. 67
อ่าน
ป้ายยา House of GUCCI หนังดีที่ไม่ควรมองข้าม
ตัวอย่าง House of GUCCI (ซับไทย)สร้างจากเรื่องจริงของตระกูล GUCCIเรื่องย่อ House of GUCCI (2021) เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของตระกูล GUCCI ครอบครัวเจ้าของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง GUCCI หนังจะเล่าถึงเรื่องราวในช่วงปลายยุค 1970 - 1995 ที่จะมีทั้งเรื่องการแย่งชิงทรัพย์สมบัติ ความรัก การทรยศหักหลัง จนสุดท้ายบานปลายนำไปสู่เหตุการฆาตกรรม ที่กลายเป็นตำนานของวงการแฟชั่น โดยเรื่องจะเริ่มในช่วงปลาย 70s ซึ่งตอนนั้น GUCCI มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ 2 พี่น้อง อัลโด และโรดอลโฟ กุชชี่ ที่ถือหุ้นกันอยู่คนละ 50 เปอร์เซ็น อัลโด กุชชี่ มีลูกชาย 1 คน ชื่อ เปาโล เป็นลูกชายที่ไม่ได้เรื่องไม่เก่งอะไรซักอย่าง มีความชอบอยากเป็นดีไซน์เนอร์ แต่งานที่ทำออกมาก็ไม่ได้เรื่อง อัลโดจึงไม่ไว้วางใจที่จะส่งบริษัทต่อให้กับลูก เขาจึงมีความคิดที่จะให้ เมาริซิโอ หลานชายของเขาเข้ามาช่วย เมาริซิโอ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ โรดอลโฟ กุชชี่ น้องชายของอัลโด ซึ่งตัว เมาริซิโอ มีความฝันอยากเป็นทนาย ไม่มีความคิดจะมาทำธุรกิจของที่บ้าน ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงมทำให้เป็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดขาด จนเขาได้ไปเจอกับหญิงสาวที่จะเข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตของเขา เธอคือ แพทริเซีย เร็จเจียนี่ หญิงสาวผู้มีความทะเยอทะยานอยากจะประสบความสำเร็จ และร่ำรวย เมื่อทั้งสองได้แต่งงานกัน เธอก็พยายามผลักดันสามีให้กลับไปรับช่วงต่อธุรกิจที่บ้าน เพราะตอนนั้น GUCCI กำลังตกต่ำอย่างมาก คนมองว่ากลายเป็นแบรนด์ที่ล้าสมัย ฉะนั้นจึงต้องหาวิธีที่จะกู้ชื่อเสียงกลับมา บทสรุปจะเป็นอย่างไร ไปรับชมกันเองได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นฝีมือการกำกับของผู้กำกับมากฝีมือ และเป็นเบอร์ต้นๆของฮอลลีวูด อย่าง Ridley Scott ที่พึ่งมีผลงานหนังประวัติศาสตร์ที่ทำออกมาได้โคตรดีอย่าง The Last Duel (2021) นอกจากนี้แกยังเคยฝากผลงานสุดคลาสสิคไว้บนโลกนี้มากมาย อาทิเช่น Alien (1979) , Blade Runner (1982) , Gladiator (2000) , Hannibal (2001) , American Gangster (2007) และ The Martian (2015) นอกจากผู้กำกับที่ว่าดีแล้ว ฝั่งนักแสดงก็ไม่แพ้กัน มีแต่เบอร์ต้นๆทั้งนั้น ทั้ง Adam Driver , Jared Leto , Al Pacino , Jeremy Irons และ Lady Gaga เป็นต้น รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตระกูล GUCCI ก่อนจะไปดู เรามาเพิ่มความรู้จากคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงก่อนจะมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้กันดีกว่า กับคดีฆาตกรรมสะเทือนโลกแฟชั่นในปี 1995 แต่ต้องเล่าย้อนไปในปี 1973 ปีที่ทุกอย่างเริ่มต้น เมื่อลูกชายเพียงคนเดียวของ โรดอลโฟ กุชชี่ อย่าง เมาริซิโอ กุชชี่ ในวัย 25 ปี ประกาศแต่งงานกับ แพทริเซีย เร็จเจียนี่ ในวัย 25 ปี เช่นเดียวกัน เหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี แต่มันเริ่มจากตัวของ เมาริซิโอ ที่เป็นคนที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดีตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้มีนิสัยชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ประกอบกับตอนนั้นเขาได้เข้าไปดูแลธุรกิจของครอบครัว แต่ก็ดันบริหารได้ไม่ดีอีก ส่งผลให้ผลประกอบการออกมาไม่ดี และตอนนั้นถือเป็นยุคมืดของ GUCCI เลยทีเดียว แต่เมื่อเขาได้แต่งงานกับ แพทริเซีย ทุกอย่างก็ดีขึ้น เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากๆ สามารถให้คำปรึกษา และแนะนำแนวทางทั้งเรื่องส่วนตัว และการบริหารธุรกิจให้กับ เมาริซิโอได้ จนกระทั่งในปี 1983 โรดอลโฟ กุชชี่ พ่อของเมาริซิโอ้ เสียชีวิตจากอาการป่วย ทำให้เขาได้รับหุ้น 50 เปอร์เซ็นของ GUCCI ที่พ่อถือไว้ และเมื่อเขาเข้ามาบริหารเต็มตัว ปัญหาความบาดหมางกับคนในครอบครัวก็ได้เริ่มต้นขึ้น มีการหักหลังคนในครอบครัวตัวเอง เพื่อให้ได้มาเพื่อทรัพย์สมบัติ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแทบเรื่อยมาจนปี 1985 เมื่อเมาริซิโอ้ เริ่มนอกใจและมีชู้รักคนใหม่ และหนีออกไปจากชีวิตของ แพทริเซีย และลูกๆ โดยยังไม่ได้ทำการหย่าขาดกัน ทุกอย่างยืดเยื้อไปเป็นเวลากว่า 7 ปี แพทริเซียถึงจะได้หย่าขาดอย่างเป็นทางการกับเมาริซิโอ หลังจากนั้นในปี 1995 แพทริเซีย ได้ทำการจ้างวานมือปืนเพื่อไปสังหารเมาริซิโอ สามีเก่าของเธอ เหตุการณ์ในการสังหารเกิดขึ้นในวันที่ 23 กันยายน 1995 ในขณะที่เมาริซิโอกำลังไปทำงาน เขาถูกมือปืนเข้ามากระหน่ำยิงหลายนัด จนเสียชีวิตคาที่ เวลาผ่านไปกว่า 2 ปี กว่าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบจนตามจับได้ว่า แพทริเซียเป็นคนว่าจ้างมือปืน โดยระหว่างการพิจารณาคดีแพทริเซียได้บอกกับศาลว่าการที่เธอไม่ลงมือเอง และต้องจ้างมือปืน เป็นเพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะยิงพลาดเป้า เนื่องจากเธอสายตาไม่ดี ไม่รู้สึกผิดซักนิดเลยจริงๆ สุดท้ายเธอถูกตัดสินจำคุก 29 ปี แต่ด้วยการประพฤติตัวดี เธอจึงถูกคุมขังอยู่แค่ 18 ปี ก่อนได้รับอิสระออกมาจากคุกในปี 2016 และได้รับฉายาว่า “แม่หม้ายดำ” ซึ่งทุกวันนี้เธอก็ยังร่ำรวยอยู่เหมือนเดิม เพราะได้รับเงินชดเชยจากการหย่าในปี 1985 โดยเธอจะได้รับเงินชดเชยปีละ 1 ล้านยูโร หรือ ราวๆ 37 ล้านบาทรายชื่อนักแสดงและบทบาทที่ได้รับ ใน House of GUCCI1. Al Pacino รับบทเป็น อัลโด กุชชี่ (Aldo Gucci) ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล GUCCIรายละเอียดตัวละคร อัลโด กุชชี่ (Aldo Gucci) ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล GUCCI ผู้ถือหุ้นหลัก GUCCI อยู่ 50% เป็นลูกชายคนโตของ กุชชิโอ กุชชี่ (Guccio Gucci) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ GUCCI อัลโดเป็นคนใจดี และเป็นคนเก่ง บริหารงานมายาวนาน เขามีลูกชาย คือ เปาโล กุชชี่ (Paolo Gucci) แต่ลูกชายดันเป็นคนไม่เอาไหน ไม่สามารถฝากฝังธุรกิจไว้ได้ เพราะเปาโลไม่มีหัวทั้งการบริหาร แถมยังไม่มีความสามารถด้านแฟชั่นอีก ทำให้อัลโดหนักใจอย่างมาก จึงพยายามฝืนบริหารงานด้วยตัวเองจนแก่ ไม่ยอมยกให้ใครความสำคัญของตัวละคร ตัวละครนี้มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องมากๆ เพราะเขาเป็นผู้บริหารที่ถือหุ้นถึง 50% ทุกอย่างจึงแทบจะขึ้นอยู่กับเขาทั้งหมด ซึ่งในหนังสถานการณ์ของแบรนด์ค่อนข้างแย่ เพราะไม่มีการพัฒนา เนื่องจากผู้บริหารเป็นคนรุ่นเก่า มุ่งเน้นไปที่ความคลาสสิค ไม่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย แต่ตัวละครอัลโด ยังถือว่ามีความคิดที่ทันสมัยกว่าน้องชายของเขา เพราะเขามีความคิดที่อยากจะขยายร้าน GUCCI ให้มากที่สุด ความประทับใจต่อตัวละคร ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ผมรักที่สุดและสงสารที่สุดในเรื่อง รับบทโดย Al Pacino คงไม่ต้องพูดอะไรมาก แสดงดีเยี่ยมตามมาตรฐานของแก แสดงได้ดีมากๆ จนผมสงสารเลย เพราะในเรื่องตัวละครนี้เป็นตาแก่ที่ใจดีมากๆ รักครอบครัว พร้อมช่วยเหลือ และให้อภัยทุกคน มีเหตุผลมากกว่าอารมณ์ เป็นคนแก่ที่เป็นที่รักของทุกคน เพราะไม่หัวแข็งมาก และพร้อมรับฟังทุกคน แต่กลับต้องเจอกับการทรยศ หักหลัง ความผิดหวังต่างๆนาๆ และในเรื่องเป็นตาแก่ อายุ 70 ผมลองนึกภาพตามว่าถ้าผมอายุ 70 แล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ คงแย่มากๆจริงๆ2. Jeremy Irons รับบทเป็น โรดอลโฟ กุชชี่ (Rodolfo Gucci) ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล GUCCIรายละเอียดตัวละคร โรดอลโฟ กุชชี่ (Rodolfo Gucci) ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล GUCCI ผู้ถือหุ้นหลัก GUCCI อยู่ 50% เป็นลูกชายคนเล็กของ กุชชิโอ กุชชี่ (Guccio Gucci) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ GUCCI (ลูกชายคนกลางเสียชีวิตจึงแบ่งหุ้นให้ลูกคนโต และคนเล็กคนละ 50%) โดยตัวละคร โรดอลโฟ ไม่ได้มีบทบาทในหนังมากนัก เป็นคนหัวแข็งมากๆ ไม่ฟังใคร เชื่อแต่ตัวเอง เอาใจยาก แต่ก็เป็นคนเก่งมากๆคนหนึ่ง บริหารงานมานาน และยังมีความสามารถในการออกแบบสินค้าใหม่ๆ เขาเคยสร้างคอลเล็คชั่นระดับตำนานของแบรนด์มาแล้วหลายชิ้น และเขามีแนวทางในการบริหารแบรนด์ GUCCI ต่างจาก อัลโด พี่ชายของเขา เพราะเขาอยากจะให้สินค้าของ GUCCI นั้นสูงส่งและควรจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ มากกว่าการสร้างยอดขาย จึงทำให้มีปัญหากับพี่ชายอยู่บ่อยครั้งในเรื่องนี้ โดยเขามีลูกชายเพียงคนเดียว คือ เมาริซิโอ กุชชี่ (Maurizio Gucci) เป็นคนที่มีความสามารถพอสมควร พูดได้หลายภาษา แต่เพราะเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ เขาเลยใช้เงินฟุ่มเฟือย แถมดันไม่อยากจะเข้ามาบริหารงานอีก เลือกที่จะหนีไปเรียนทนาย ไม่ค่อยเชื่อหรือฟังในสิ่งที่พ่อบอก ความสำคัญของตัวละคร ตัวละครนี้มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องมากๆเช่นเดียวกับ อัลโด เพราะเขาก็เป็นผู้บริหารที่ถือหุ้นถึง 50% เป็นคนที่คานอำนาจกันกับอัลโด พี่ชายของเขา โดยตัวเขามีความตั้งใจอยากจะเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ให้เป็นของที่ล้ำค่า ไว้โชว์บนพิพิธภัณฑ์ เป็นสินค้าที่ต้องมีเงินมากพอจึงจะเข้าถึงได้ เขาโฟกัสไปที่คุณค่า และคุณภาพ ของสินค้าและแบรนด์มากกว่ารายได้ ตอนที่เขายังบริหารงานอยู่ คนอื่นแทบทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนเก่ง และดุมากๆ หัวแข็งมากเช่นกัน ทำให้คนอื่นๆเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรมาก ขนาดอัลโดผู้เป็นพี่ชายยังยอมให้กับเขา อาจเพราะอัลโดเป็นคนจิตใจดี รักน้องมากๆ และเข้าใจในตัวน้อง แต่น้องกลับแทบไม่สนใจพี่ด้วยซ้ำ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นความสำพันธ์ที่แปลก แต่ก็สวยงามดีความประทับใจต่อตัวละคร สำหรับตัวละครนี้ ผมจัดให้เป็นตัวละครที่ออกมาน้อย แต่กลับทำได้ดีเกินหน้าเกินตา รับบทโดย Jeremy Irons ดารารุ่นใหญ่อีกหนึ่งคน ที่ผมบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ เขาทำได้ดีมากๆ สมบทบาทจริงๆ เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ คำพูดแต่ละคำที่ออกมาจากปากของตัวละครนี้ มันต้องไปคิดต่อ ถึงจะออกมาไม่ได้เยอะมาก แต่ทำได้ดีในทุกซีน และตัวละครนี้เป็นตัวละครที่มีมิติหลากหลายเช่นเดียวกัน เป็นคนพูดตรงๆ ดูใจร้าย แต่ลึกๆก็ยังมีความรู้สึกอยู่ เขาแสดงออกมาให้เราเห็นถึงความเหงาและความเศร้าที่ตัวละครนี้แบกเอาไว้ ซึ่ง Jeremy Irons ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครนี้ออกมาจากการแสดงสีหน้าท่าทางเท่านั้น แทบไม่ต้องมีบทพูดอะไรด้วยซ้ำ ซึ่งผมประทับใจในจุดนี้มากๆ3. Adam Driver รับบทเป็น เมาริซิโอ กุชชี่ (Maurizio Gucci) ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล GUCCI รายละเอียดตัวละคร เมาริซิโอ กุชชี่ (Maurizio Gucci) ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล GUCCI เป็นทายาทเพียงคนเดียวของ โรดอลโฟ กุชชี่ (Rodolfo Gucci) เมาริซิโอ เป็นคนเงียบๆ หัวอ่อน เรียบร้อย ขาดความมั่นใจ ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจอะไรเด็ดขาด เพราะถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณชาย พ่อประเคนให้ทุกอย่าง ทำให้ติดความสบาย ใช้เงินเก่ง แถมยังไม่อยากไม่บริหารธุรกิจของครอบครัว เลยหนีเลือกหนีไปเรียนทนาย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นทายาทในรุ่นที่ 3 เพียงคนเดียวของตระกูลนี้ ที่ยังพอฝากฝังให้มาบริหารธุรกิจได้ ความสำคัญของตัวละคร ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดในเรื่องแล้ว เพราะเรื่องจะเล่าผ่านมุมมองชีวิตของเขา และเขายังเป็นทายาทเพียงคนเดียว ที่พ่อและลุง หวังจะฝากฝังให้เขาดูแลกิจการของครอบครัวต่อ แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนไม่มีความั่นใจในตัวเอง จึงพยายามหนี และไม่อยากเข้ามาดูแลธุรกิจ จนสุดท้ายเขาได้ไปเจอกับ แพทริเซีย เร็จเจียนี่ (Patrizia Reggiani) ภรรยาของเขา ที่จะเข้ามาคอยช่วยเหลือและผลักดันให้เขากลับเข้ามาบริหารงาน แต่เธอไม่ได้มาแค่ช่วย เธอกลับทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายภายในครอบครัวของเขาอีกด้วย ความประทับใจต่อตัวละคร ตัวละครนี้ผมก็ชอบมากๆ และเข้าใจความรู้สึกของตัวละครนี้มากๆ รับบทโดย Adam Driver ชื่อนี้การันตีคุณภาพอยู่แล้ว แสดงได้ดีจริงๆ แถมใส่สูทขึ้นอีก ดูแล้วเชื่อว่าหมอนี่เป็นลูกคนรวย เขาถ่ายทอดความรู้สึกตัวละครออกมาได้ดี และด้วยความที่ตัวละครนี้มันค่อนข้างซับซ้อนอยู่แล้ว เพราะเป็นคนเงียบๆ เราจึงไม่ค่อยรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เป็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจอะไรมาก ชอบคล้อยตามคนอื่นไปจนหมด ก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตัวละครนี้ สิ่งที่ผมประทับใจของตัวละครนี้คือ ในช่วงท้ายๆเรื่อง หลังจากที่เขาปลดล็อคตัวเอง และไม่คล้อยตามคนอื่นอีกต่อไป แต่เลือกที่จะทำตามใจตัวเอง มันทำให้เราได้รู้จักตัวละครนี้มากขึ้น มันเหมือนเห็นพัฒนาการของตัวละคร และ Adam Driver ก็แสดงได้สมบทบาทจริงๆ4. Lady Gaga รับบทเป็น แพทริเซีย เร็จเจียนี่ (Patrizia Reggiani)รายละเอียดตัวละคร แพทริเซีย เร็จเจียนี่ (Patrizia Reggiani) เป็นตัวละครที่ฉลาด ทะเยอทะยาน โหยหาความสำเร็จ และเงินทองอย่างมาก เธอเป็นภรรยาของ เมาริซิโอ กุชชี่ (Maurizio Gucci) โดยเธอเป็นเหมือนคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังของ เมาริซิโอ เพราะเนื่องจากสามีของเธอเป็นคนหัวอ่อน ทำให้ถูกเธอชักจูงได้ง่าย เธอเป็นคนที่โลภมากๆ ดูจนจบผมยังไม่แน่ใจเลยว่าเธอรักสามีจริงหรือป่าว หรือแค่ต้องการทรัพย์สมบัติกันแน่ แต่สำหรับผม ผมมองว่าเธอหวังจะหุบสมบัติมากกว่า เกือบลืม เธอเป็นคนงมงาย สายมู มีอะไรจะไปปรึกษาหมอดู ซึ่งหมอดูเนี่ย ผมว่าก็หมอดูเก๊ แถมหมอดูนี่เป็นตัวหลักเลยที่ทำให้เธอเข้าด้านมืด หมอดูชอบแนะนำอะไรแผลงๆให้เธอทำ ทั้งที่เธอฉลาดในทุกๆเรื่อง แต่กลับไม่เคยตั้งคำถามกับเรื่องความเชื่อ ซึ่งก็แปลกดีความสำคัญของตัวละคร ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดพอๆกับ เมาริซิโอ กุชชี่ เผลอๆมีความสำคัญมากกว่าด้วย เพราะเธอเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง และเป็นตัวแปรสำคัญของเนื้อเรื่องหลักๆ คือทุกสิ่งที่เธอทำมันส่งผลกระทบต่อตัวละครอื่นเต็มๆ ด้วยความที่เป็นคนฉลาดพูด วางตัวเป็น ทำให้คนอื่นไว้ใจเธอ และเธอก็ค่อยหักหลังอีกที เพื่อกินรวบทุกอย่าง แสบจริงๆความประทับใจต่อตัวละคร ตัวละครนี้ผมแทบจะประทับใจที่สุดเลย เพราะเป็นตัวละครที่โดดเด่นและสำคัญ แถม Lady Gaga ที่มารับบทนี้ ก็แสดงได้ดีมากๆ ดีจริงๆ เกินที่ผมคาดไว้มาก ใครจะคิดว่านักร้องมาเล่นหนัง และจะเล่นได้ดีกว่านักแสดงบางคนด้วยซ้ำ เธอเล่นจนผมเชื่อเลยว่าเธอเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ถือว่าทีมงานแคสต์นักแสดงมาดีมาก ทั้งจริต การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทาง Lady Gaga เธอเก็บทุกเม็ดจริงๆ อนาคตคงได้เห็นเธอโลดแล่นบนหนังเรื่องอื่นอีกเป็นแน่ ในแง่ของบทตัวละคร ผมก็ชอบตัวละครนี้ ด้วยความที่เป็นตัวละครที่ฉลาด (ฉลาดที่สุดในเรื่องแล้วมั้ง) แต่เธอกลับเป็นคนงมงายเช่นเดียวกัน ซึ่งมันย้อนแย้งกันพอสมควร แต่มันก็แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ และสร้างมิติของตัวละครให้ลึกขึ้น มันดูเป็นคนจริงๆมากกว่าตัวละคร ผมประทับใจในจุดนี้5. Jared Leto รับบทเป็น เปาโล กุชชี่ (Paolo Gucci) ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล GUCCIรายละเอียดตัวละคร เปาโล กุชชี่ (Paolo Gucci) ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล GUCCI เป็นลูกชายของ อัลโด กุชชี่ (Aldo Gucci) เปาโล เป็นคนมั่นใจตัวเอง แต่ไม่เอาไหนเท่าไหร่ แทบไม่มีความสามารถอะไรเลย นอกจากความมั่นใจ แต่มีอีกอย่างที่เหมือนเมาริซิโอคือ เขาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนกัน ความฟุ่มเฟือยนี่เหมือนเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของลูกคนรวย เขามีความฝันอยากเป็น Designer อยากผลิตสินค้าที่ตัวเองออกแบบในนาม GUCCI แต่ทว่าเขาไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เลย แถมยังเป็นคนหัวอ่อนมากๆ มากกว่าเมาริซิโอซะอีก ตามคนไม่ทัน โดยหลอกใช้ตลอด ความสำคัญของตัวละคร ตัวละครนี้สำคัญอยู่พอสมควร เพราะเขาก็ถือเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของ GUCCI ค่อนข้างมีบทบาทในธุรกิจ และเขายังถือหุ้นของบริษัทไว้ส่วนหนึ่งด้วย เนื่องจากอัลโดพ่อของเขาแบ่งไว้ให้ และเขาก็ยังพยายามผลิตสินค้าที่ตัวเองออกแบบมาวางขาย โดยไม่ฟังใคร ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ จะเรียกว่าสำคัญได้ไหมนะ เรียกว่าตัวสร้างเรื่องมากกว่า นอกจากนี้เขาก็รู้ความลับที่ไม่มีใครรู้ของอัลโด พ่อของเขา ซึ่งความลับที่เขารู้นั้นเป็นเหมือนจุดอ่อนของอัลโด ดังนั้นตัวละครนี้จึงถือเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องก็เพราะเหตุนี้ความประทับใจต่อตัวละคร ผมประทับใจตัวละครนี้มากๆ เพราะการแสดงของ Jared Leto ล้วนๆ โดยส่วนตัวผมชอบ Jared เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และเรื่องนี้เรียกได้ว่าเขาแปลงโฉมเอาซะจำแทบไม่ได้ จากหนุ่มหล่อกลายเป็นคนอ้วนพุงพลุ้ย แถมหัวล้านอีกต่างหาก ในส่วนการแสดงของแก ยังคงมาตรฐานเหมือนเดิม แสดงดีมากๆ ดัดเสียงด้วย ซึ่งเสียงที่เขาดัดเนี่ย มันเหมาะกับบุคลิกของตัวละครเลย บทของตัวละครตัวนี้ เป็นคนหัวอ่อน ไม่ทันคน แต่ก็ไม่ฟังใครและเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่ง Jared แสดงออกมาได้โคตรดีในด้านนี้ ทำให้เราทั้งรู้สึกสงสาร และหมันใส้ ตัวละครนี้ในเวลาเดียวกันสุดท้ายนี้ถ้าอ่านแล้วชอบฝากกดติดตาม และกดแชร์ด้วยนะครับชื่อเรื่อง : House of GUCCIปีที่ฉาย : 2021 (ในไทย 2022)แนว : ประวัติศาสตร์ผู้กำกับ : ริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott)ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ)ช่องทางการติดตาม Fanpage Facebook : ละเลงหนังภาพทั้งหมดจาก Facebook : House Of Gucciภาพประกอบปก : ภาพที่ 1ภาพประกอบเนื้อหา : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 วิดีโอประกอบ : House Of Gucci - Official Trailer [ซับไทย] จาก Youtube : Major Groupอ่านบทความอื่นๆ ของ ละเลงหนัง : รีวิว The Last Duel (2021)จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
ละเลงหนัง • 26 ม.ค. 65
อ่าน
มูฟวี่รีวิว :: House of Gucci เฮาส์ ออฟ กุชชี่ (2021) แฟชั่น ทะเยอทะยาน และโศกนาฏกรรม
ย้อนกลับไปในช่วงปี 70 เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยได้ยิน รู้จัก และบางคนเคยเป็นลูกค้าของแบรนด์ดังสัญชาติอิตาลีอย่างกุชชี่ (Gucci) ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจเครื่องหนังก่อนที่จะพัฒนากลายเป็นสินค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับพร้อมด้วยโลโก้ดับเบิลจีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนเห็นแล้วรู้จักเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านแฟชั่นและทรงอิทธิพลไปทั่วโลก นั่นคือภาพจำในด้านบวกของแบรนด์กุชชี่ แต่ความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ดังกล่าวยังมิอาจลืมความจริงของโศกนาฏกรรมอันโด่งดังและอื้อฉาวที่สะเทือนโลกแฟชั่น วันนี้ซามะจะมารีวิวเรื่อง House of Gucci เฮาส์ ออฟ กุชชี่ (2021) หนังที่จะมาเปิดโปงเบื้องหลังคดีจ้างวานฆ่าชื่อดังในอิตาลี เบื้องหลังความขัดแย้งกันเองในตระกูลจนเป็นที่มาของการฆาตกรรมนองเลือด ใครที่พร้อมอ่านรีวิวก็เอานิ้วเลื่อนลงไปอ่านเลยค้าบ (การรีวิวนี้เป็นความเห็น และความรู้สึกส่วนตัวของซามะนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าจ้า)ตัวอย่างคลิปตัวอย่าง House of Gucci เฮาส์ ออฟ กุชชี่ | Official Trailer ซับไทยขอบคุณคลิปจาก Youtube : SF Cinemaเรื่องย่อHouse of Gucci คือเรื่องราวจากคดีสะเทือนขวัญและฉาวโฉ่ของตระกูลเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรด์เนมสุดหรูมีสไตล์อย่างตระกูลกุชชี่ จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดจากหญิงสาวนามว่า ‘ปาทริเซีย เร็จจิอานี’ ลูกสาวบริษัทรถบรรทุก วันหนึ่งเธอได้ไปที่งานปาร์ตี้ทำให้เธอพบกับ ‘เมาริซิโอ กุชชี่’ ชายหนุ่มรูปงาม ผู้ที่เป็นทั้งนักกฎหมายและทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลกุชชี่ ทั้งคู่ตกหลุมรัก คบหากัน จนกระทั่งปาทริเซียแต่งงานกับเมาริซิโอ และกลายเป็นสะใภ้ของตระกูลกุชชี่ในที่สุดและมีพยานรักด้วยกัน 1 คน ทั้งสองเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันหวานชื่น และเป็นคู่รักคู่หนึ่งที่ทรงอิทธิพลต่อแวดวงธุรกิจและแฟชั่นในช่วงยุค 80 กราฟความนิยมของกุชชี่เริ่มตกลง ปาทริเซียอยากจะปรับเปลี่ยนตัวแบรนด์ให้เข้ากับยุคสมัยอย่างที่เธอต้องการ แต่ก็โดนขัดขวางโดยหัวเรือใหญ่อย่าง ‘อัลโด กุชชี่’ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทและเป็นลุงของเมาริซิโออีกด้วย ไฟแห่งความบาดหมางและการแย่งชิงจึงถูกจุดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนเกิดโศกนาฏกรรมที่โด่งดังและอื้อฉาวที่สุดในวงการแฟชั่นหญิงสาวทะเยอทะยาน VS ชายหนุ่มทายาทแสนเพอร์เฟ็กต์เห็นได้ชัดเจนว่าตลอดทั้งเรื่องจะเน้นที่คู่ของเมาริซิโอ กุชชี่ และปาทริเซีย เร็จจิอานี เพื่อให้คนดูได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนตั้งแต่จุดเริ่มต้นอันแสนหวานก่อนจะจบลงด้วยฆาตกรรมสุดอื้อฉาว ในตัวหนังเราจะเห็นได้ถึงความพยายามในการรุกอย่างหนักของปาทริเซียหลังจากที่รู้ว่าเมาริซิโอคือทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลกุชชี่ซึ่งขณะนั้นก็เรียกได้ว่ากุชชี่เป็นแบรนด์แฟชั่นดังระดับโลก ตัวเมาริซิโอเองก็ดูเป็นคนเงียบๆ เป็นหนุ่มนักกฎหมายที่ไม่ได้มีความใฝ่ฝันอยากจะเข้ามาบริหารธุรกิจ อันที่จริงเขาไม่มีความสามารถด้านนี้ด้วยซ้ำ หลังจากที่ได้เจอกับปาทริเซียซึ่งเธอพยายามดันเขาให้ทำทุกวิถีทางจนทำให้เมาริซิโอเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท และเป็นผู้บริหารสูงสุดด้วย แต่แม้เขาจะได้ทุกอย่างของกุชชี่มาเขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทรยศต่อลุงอัลโด คนที่เคยซัพพอร์ตความรักและการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทกุชชี่ หักหลังเปาโล ผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นและใฝ่ฝันจะสืบทอดธุรกิจมากกว่าเมาริซิโอเสียอีก จุดนั้นเองทำให้ความรักที่มีต่อปาทริเซียเริ่มหมดลง นับวันความสัมพันธ์ยิ่งระหองระแหง และตัดสินใจแยกทางกับเธอ จนเป็นชนวนเหตุให้ปาทริเซียวางแผนฆ่าอดีตสามีอคติที่เฉียบขาด VS การตัดสินใจที่ผิดพลาดพาร์ทนี้จะขอโฟกัสไปที่ทายาทรุ่นที่ 2 ทั้งสองคนของตระกูลกุชชี่ ราดอลโฟ กุชชี่ และ อัลโด กุชชี่ หลังจากที่เมาริซิโอได้พาปาทริเซียมาทำความรู้จักกับราดอลโฟผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าปาทริเซียเขาก็ยังคีพลุคว่าเป็นเศรษฐีมีมารยาทผู้ดีอยู่ แต่เขาก็คัดค้านหัวชนฝาไม่รับปาทริเซียเป็นสะใภ้ตระกูลกุชชี่ด้วยเหตุผลในเรื่องฐานะทางสังคมที่ต่างกันมากๆ และมองว่าเธออาจจะมาปอกลอก เข้าหาลูกชายเพราะอยากครอบครองอาณาจักรกุชชี่ ถึงขนาดที่ถ้าเมาริซิโอแต่งงานกับเธอเขาจะตัดชื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกจากกองมรดกทันที ซึ่งต่างกับความคิดของอัลโดที่เห็นชัดเจนว่าเขาเอ็นดูทั้งปาทริเซียและเมาวริซิโอ และอาจจะเอ็นดูห่วงใยมากกว่าลูกชายตัวเอง (เปาโล กุชชี่) ด้วยซ้ำ หากเปรียบเทียบกันแล้วมองได้ว่าราดอลโฟมีอคติส่วนตัวกับปาทริเซีย แต่พอเวลาผ่านไปอคติของเขาก็กลายเป็นเรื่องจริงและทำให้กุชชี่ถึงจุดตกต่ำในท้ายที่สุด ตัดกลับมาที่อัลโดที่วางใจจะให้เมาริซิโอเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร เอ็นดูปาทริเซียและไม่ได้สนใจถึงคำพูดของราดอลโฟเลยแม้แต่น้อย แต่ภายหลังเขารู้แล้วว่าการเข้ามาของปาทริเซียทำให้กุชชี่เริ่มสั่นคลอน หายนะเริ่มมาเยือนคนในตระกูลกุชชี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อัลโดเคยมีกับสูญหายไปเพราะหลานชายที่เขาเคยรักและเมตตาความกระหายในอำนาจ เงินทองนำไปสู่โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญHouse of Gucci ทำให้เราเห็นถึงผลกระทบที่ร้ายแรงซึ่งมีเหตุมาจากความกระหายในอำนาจและความโลภของมนุษย์ เกิดการห้ำหั่นฟาดฟันกันเองในตระกูลซึ่งมีปาทริเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของความแตกแยกนี้ บวกกับการละเลยที่จะจัดการปัญหาชีวิตครอบครัวและปัญหาความสัมพันธ์ ส่งผลให้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของแบรนด์กุชชี่ต้องมัวหมอง ย่อยยับ และท้ายที่สุดแฟชั่นเฮาส์ที่ก่อตั้งในรุ่นปู่ และรุ่นพ่อรักษามานับร้อยปีจำต้องหลุดมือไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลานในตระกูลกุชชี่ เพราะตั้งแต่เมาริซิโอนั่งเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุดแบรนด์กุชชี่มีแต่ขาดทุนและขาดทุนหนักขึ้นเรื่อยๆ บริษัทอินเวสต์คอร์ปจึงต้องเข้ามาจัดการปัญหาโดยกดดันให้เมาริซิโอขายหุ้นที่เขามีให้ และหลังจากนั้นความตกต่ำของกุชชี่ก็ค่อยๆ หมดไปจนกลับมาเป็นแบรนด์ที่ทั่วโลกยอมรับอีกครั้งทั้งการออกแบบ ยอดขาย และสร้างกำไรมหาศาล ในขณะเดียวกันก็ปิดตำนานตระกูลกุชชี่ในฐานะเจ้าของที่ครอบครองมานานเช่นกันรีวิวจากซามะส่วนตัวซามะดูแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าโอเคในเรื่องมุมกล้อง โทนสีในหนัง เสื้อผ้าหน้าผมที่เลิศหรูไฮแฟชั่น แล้วก็ชื่นชมนักแสดงทุกคนที่เตรียมพร้อม ทำการบ้านตัวละครของตัวเองมาดีมาก โดยเฉพาะเลดี้ กาก้า ที่สวมบทบาทเป็นปาทริเซีย เร็จจิอานีได้ใกล้เคียงเลยทั้งสำเนียงอิตาลี สีหน้า ท่าทางอิริยาบถต่างๆ และก็อดัม ไดรเวอร์ ผู้รับบท เมาริซิโอ กุชชี่ ถ้าเทียบกับปาทริเซียแล้วเป็นตัวละครที่ตรงข้ามในเรื่องความคิดความอ่านที่ไม่ฉับไวเท่าภรรยาตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไปตามแนวทางที่ภรรยาวางไว้ แววตาและอารมณ์รู้สึกได้ว่าเขาเหมือนรู้สึกผิด และไม่อยากมาถึงจุดที่ชีวิตส่วนตัว บริษัท เกียรติและศักดิ์ศรีทลายลงมาต่อหน้าต่อตาเขา อย่างไงก็ตาม ซามะอยากจะเบรกทุกคนก่อนว่าเนื้อหาในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด บางฉากบางซีนเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งทางผู้กำกับและทีมงานบางส่วนบอกว่าเป็นเพียงการอ้างอิง เน้นให้ความบันเทิงเท่านั้น ยังไงก็ดูเอาสนุกๆ นะคะ อยากรู้ว่าอันไหนจริงหรือไม่จริงก็ต้องเสิร์ชหาข้อมูลอีกทีค่ะถ้าใครยังไม่ไปดู อย่าลืมไปชม House of Gucci เฮาส์ ออฟ กุชชี่ (2021) ผลงานการกำกับของ ริดลีย์ สก็อตต์ และรวบรวมนักแสดงระดับเกรดเอทั้ง เลดี้ กาก้า อดัม ไดรเวอร์ อัล ปาชิโน จาเรด เลโต เจเรมี ไอร์ออนส์ และซัลมา ฮาเยก มาอยู่ในหนังอีกด้วย ที่สำคัญยังเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วยน้า ต้องดูให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความของซามะจนจบ หากใครอยากรู้รีวิวเรื่องอื่นๆ สามารถคลิ๊กที่บทความอื่นด้านล่าง หรือชื่อของซามะได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน เรื่องหน้าจะเป็นแนวไหน เรื่องอะไรต้องติดตามเท่านั้นนะคะ สวัสดีค่า บาย บทความอื่นๆ:มูฟวี่รีวิว :: The Last Emperor จักรพรรดิโลกไม่ลืม (1987) ชีวิตสูงสุดคืนสู่สามัญของจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนมูฟวี่รีวิว :: In This Corner of the World (2016) แค่วาดฝันให้โลกสวย แอนิเมชันที่เผยมุมอันโหดร้ายจากสงครามผ่านสาวน้อยช่างฝันมูฟวี่รีวิว :: 3 Idiots (2009) ภาพยนตร์เบาสมองปนฮา เสียดสีระบบการศึกษาได้อย่างเจ็บแสบมูฟวี่รีวิว :: Rang De Basanti เลือดเนื้อพลีเสรีชน (2006) หนุ่มสาวที่เคยหมดศรัทธากับประเทศ หันมาต่อต้านรัฐบาลคอร์รัปชันด้วยอุดมการณ์อันแน่วแน่เครดิตภาพภาพปก: Canva จาก ผู้เขียน (ซามะ) I ภาพประกอบโดย (1) (2) จาก Facebook: SF Cinemaภาพที่ 1, 5, 7, 12 จาก Facebook: SF Cinemaภาพที่ 2, 3, 4, 6, 9, 10, 11 จาก Facebook: House Of Gucciภาพที่ 8: Canva จาก ผู้เขียน (ซามะ) l ภาพประกอบโดย (1) (2) จาก Facebook: SF Cinemaเครดิตคลิปคลิปตัวอย่าง House of Gucci เฮาส์ ออฟ กุชชี่ | Official Trailer ซับไทย จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
ซามะ • 23 มิ.ย. 66
อ่าน
"ใหม่-เต๋อ" โชว์หวาน บินร่วมงานในฐานะ Friend of Gucci
สาดความหวานไม่มีแผ่วเลยจริงๆ สำหรับคู่รัก ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ กับ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ แต่ความคลั่งรักของทั้งคู่กลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น... ล่าสุด ทั้ง ลุง-ลิงในฐานะ Friend of Gucci ที่ควงคู่กันมาสไตล์ที่แมทช์กันอย่างลงตัว ในลุคสุดปัง พามาแอบส่องลุค "ใหม่-เต๋อ" ในฐานะ Friend of Gucci ที่ได้รับเชิญร่วมทริปคอลเลกชั่นล่าสุด #GucciSummerResort หลังภารกิจบินตรงสู่ภูเก็ต เรียกว่าเป็นวันสบายๆ ได้พักผ่อน ก่อนจะดินเนอร์ในโททัลลุคสุดเก๋ โดยใหม่มาในลุคเซ็กซี่ขี้เล่นเบาๆ ด้วยเสื้อคลุมและกระโปรงลายเอกลักษณ์แบบฉบับ GG แมทช์กับ Iconic Bag อย่าง GG Marmont คอมพลีทลุคจบปึ๊งสุดปัง ส่วน หนุ่มเต๋อ ที่มาร่วมทริปเป็นครั้งแรกกับ Gucci ครั้งนี้ เลือกสวมใส่ลายปริ้นท์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่นซัมเมอร์นี้ แมทช์กับครอสบอดี้สไตล์วินเทจบัคเคิล GG
TNN ช่อง16 • 23 ก.ค. 65
อ่าน
"กลัฟ คณาวุฒิ" ขึ้นแท่นเป็น Friend of GUCCI ฝ่ายชายคนแรกของประเทศไทย!
สมมงความฮอตปรอทแตก สำหรับหนุ่ม "กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์" ที่ถือได้ว่าเป็นปีทองอย่างต่อเนื่องและเหมือนจะพุ่งต่ออย่างไม่มีอะไรมาต้านได้ ล่าสุดทาง เจ้าตัวได้ถูกรับเลือกขึ้นเป็นตัวแทนแห่งแฟชั่นแบรนด์ระดับโลกอย่างกุชชี่ในฐานะ Friend of GUCCI ฝ่ายชายคนแรกของประเทศไทย ซึ่งเร็ว ๆ นี้หนุ่มกลัฟจะได้ไปร่วมงานแฟชั่นใหญ่อีกหลายแคมเปญสำคัญต่างๆร่วมกับทางแบรนด์ Gucci อีกด้วย "กลัฟ คณาวุฒิ" ขึ้นแท่นเป็น Friend of GUCCI ฝ่ายชายคนแรกของประเทศไทย! โดยในงานนี้ หนุ่มกลัฟได้โพสต์ข้อความด้วยความปลาบปลื้มโอกาสพิเศษนี้ผ่านอิสตาแกรมส่วนตัวว่า "Its such a great honor to have been selected by Gucci to be the first male friend of the house for Thailand. I am super excited to be part of Gucci family. Can't wait รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้รับเลือกจาก Gucci ของประเทศไทย ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกุชชี่ อดใจรอไม่ไหวแล้วครับ งานนี้ทำเอาแฟนคลับเฮลั่นเป็นปลื้มทวิตข้อความแสดงความยินดีกับหนุ่มกลัฟ ผ่าน #FriendofGUCCIXGulf ขึ้นเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1 ของไทย และอันดับ 8 ของโลก อย่างรวดเร็ว ลิ้งค์บรรยากาศงานเปิดตัว จากCr.นิตยสารต่าง ๆ 📍mintmag_thhttps://www.instagram.com/reel/CpKu3jWvGC1/?igshid=YmMyMTA2M2Y=📍lofficielthailandhttps://www.instagram.com/reel/CpKsAvVPevd/?igshid=YmMyMTA2M2Y=📍bazaarmenthailandhttps://www.instagram.com/reel/CpKvoc6LvN6/?igshid=YmMyMTA2M2Y= อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : "กลัฟ" ตัวแทนหนึ่งเดียวของไทย ร่วมงานแฟชั่นโชว์ Onisuka Tiger ที่มิลาน มัดรวมคนดัง "แอน - กลัฟ - เบลล่า" บินลัดฟ้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ที่มิลาน ส่วน "ไบร์ท" มุ่งตรงสู่ลอนดอน "กลัฟ คณาวุฒิ" โพสต์ถึงแฟนคลับในวันครบรอบ 4 ปีที่ซัพพอร์ตมาตลอด
ข่าวบันเทิง • 28 ก.พ. 66
อ่าน
ส่อง 7 ซุปตาร์สุดปังในงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ GUCCI ณ พระราชวังคยองบก
ต้องบอกว่าโซฮอตเป็นกระแสไม่ไหว! สำหรับรันเวย์ที่เหล่าดาราซุปตาร์หลายคนนั้นได้ชมแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่น Cruise 2024 ของแบรนด์ดังอย่าง GUCCI โดยในครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่พระราชวังคยองบก แลนด์มาร์คทางประวัตศาสตร์ใจกลางกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ วันนี้ทางเราเลยไม่พลาดที่จะชวนเพื่อน ๆ มาส่องเหล่าซุปตาร์ปัง ๆ ภายในงานกันว่ามีใครบ้าง ผ่านทาง ‘ส่อง 7 ซุปตาร์สุดปังในงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ GUCCI ณ พระราชวังคยองบก’ มาดูว่าลุค และการแต่งตัวเป็นอย่างไร หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมาลุยกันเลย! 1.) กลัฟ คณาวุฒิ มาเริ่มจากฝั่งประเทศไทยของเราก่อนเลย นั่นคือหนุ่ม “กลัฟ คณาวุฒิ” ซึ่งเขานั้นเป็น Friend of the House ของทางแบรนด์ Gucci นั่นเองโดยหนุ่มกลัฟได้มาในแนวแบบสปอร์ต เน้นโทนสีที่เข้ม เขาเลือกใส่เป็นเสื้อสีขาวเอาไว้ด้านในจากนั้นสวมเป็นชุดเซ็ท ซึ่งเป็นตัวเสื้อ Jacket และกางเกง ซึ่งเป็นโทนสีน้ำเงินขาวแลพ ดำ ที่สวยและเท่มาก! และในส่วนของไอเทมเสริมลุคก็จะมีเป็นกระเป๋าสะพายข้างสีดำ และรองเท้าบูทข้อสูงจากแบรนด์ Gucci เรียกว่าเป็นลุคที่เก๋และมีความแฟชั่นนิสต้าเป็นอย่างมาก 10/10 ไม่หัก! https://www.instagram.com/p/CsVs8J0LEjm/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==ช่องทางการติดตามกลัฟ คณาวุฒิInstagram : @gulfkanawut2.) ใหม่ ดาวิกา ต่อมาก็คือสาวสวยที่บอกเลยว่าช่วงนี้ปังไม่ไหว! นั่นคือนางเอกสาวฮอตอย่างสาว “ใหม่ ดาวิกา” ที่เธอก็เป็น Friend of the House ของทางแบรนด์ Gucci เช่นเดียวกัน โดยสาวใหม่ของเรานั้นก็มาในชุดแบบเซ็กซี่ เน้นความหรูหราโดนเธอเลือกใส่เป็นเดรสผูกคอ โช์หลัง แบะแต่งลูกไม้เข้ารูปซึ่งเป็นสีดำกับเฟอร์สีขาวขนฟูสวยสะดุดตา และเลือกไอเทมเป็น กระเป๋าสะพายข้างสีดำ และรองเท้าส้นสูงสีดำแบบมีเชือกผูก ซึ่งเป็นลุคที่สวยสง่าและเข้ากับผมสีส้มจี๊ดจ๊าดของเธอเป็นอย่างมากเลยละค่ะ ^^ https://www.instagram.com/p/CsWNy5yP8Cp/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==https://www.instagram.com/reel/CsVgX4FuzIA/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==ช่องทางการติดตามใหม่ ดาวิกาInstagram : @davikah3.) ไอยู (IU) มาถึงฝั่งของทางเกาหลีใต้กันบ้าง สาวคนนั้นก็คือสาว “ไอยู (IU)” Global Brand Ambassador จากแบรนด์ Gucci นั่นเองละค่ะ โดยเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งซุปตาร์สาวที่ใครหลายคนต่างก็จับตามองจริง ๆ ค่ะ โดยเธอได้เลือกสวมเป็นเสื้อเกาะอกเอาไว้ด้านใน จากนั้นสวมเป็นชุดเซ็ทผ้าซีทรู ซึ่งเป็นสีขาว ผ้าบาง และมีกิมมิคเล็ก ๆ คือลวดลายของดอกไม้สีเหลืองที่สวยและสง่ามาก ในส่วนของไอเทมเสริมลุคก็จะมีเป็นกระเป๋าแบบสะพายสีเหลือง รองเท้าส้นสูงเป็นโทนครีมเหลืองที่เข้ากันได้ดีกับลุค เรียกว่าเป็นหนึ่งลุคของสาวไอยูในแบรนด์ Gucci ที่คิ้วท์มาก⭐️ช่องทางการติดตามไอยู (IU)Instagram : @dlwlrma4.) ฮันนิ (Hanni) นอกจากนี้ยังมีไอดอลสาวสวยขวัญใจใครหลายคนอย่างน้อง “ฮันนิ (Hanni)” วง NewJeans ที่ถือว่าเธอนั้นเป็นGlobal Brand Ambassador คนสำคัญคนล่าสุดจากแบรนด์ Gucci เลยละค่ะ โดยเธอได้เลือกใส่เป็นมินิเดรสคอปกแขนยาว เป็นสีครีมที่มีความสวยละมุน และได้มีกิมมิคคือเป็นเข็มขัดหนังสีดำเส้นเล็ก จากนั้นในส่วนของไอเทมจะมีเป็นถุงน่องยาวสีดำ รองเท้าส้นสูง เป็นส้นตึกแบบเก๋ ๆ และกระเป๋าแบบถือสีดำ เรียกว่าเป็นลุคของน้องฮันนิที่สวยและน่ารักมาก ๆ เลย ^^ https://www.instagram.com/p/CsYRmaJS6S1/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==ช่องทางการติดตามฮันนิ (Hanni)Instagram : @newjeans_official5.) อิมจียอน (Lim Ji Yeon) มาถึงคิวต่อมาที่ไม่พลาดในงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ GUCCI ณ พระราชวังคยองบก นี้ นั่นคือสาวสวยสุดเฟี๊ยซ “อิมจียอน (Lim Ji Yeon)” หรือนางร้ายแห่งซีรีส์ The Glory นั่นเองละค่ะ เรียกว่าเป็นสาวที่ปีนี้เป็นปีทองของเธอจริง ๆ ค่ะโดยชุดของเธอในครั้งนี้มาในแนวแบบเรียบ ๆ เธอเลือกใส่เป็นชุดมินิเดรสสั้นแขนยาวสีดำ และตกแต่งด้วยเกล็ดหิมะสีขาวแบบเก๋ ๆ จากนั้นแมทช์กับถุงน่องแบบยาวสีดำและรองเท้าคัทชูสีดำ คอมพลีสลุคนี้ด้วยกระเป๋าแบบถือสีดำเรียกว่าเป็นแนว All Black ที่สาวจียอนสวยและเป็นที่จับตามองมากจริง ๆ ค่ะ ^^ https://www.instagram.com/p/CsVI8JuBa15/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==ช่องทางการติดตามอิมจียอน (Lim Ji Yeon) Instagram : @limjjy26.) ชินมินอา (Shin Min Ah) ซุปตาร์คนต่อมาคือสาวสวย “ชินมินอา (Shin Min Ah)” หรือนางเอกคนสวยจากซีรีส์รอมคอมเรื่อง Hometown Cha Cha Cha นั่นเองค่า ~ โดยสาวมินอานั้นมาในแนวแบบ All Black เน้นสีดำคลุมโทน เธอได้เลือกใส่เป็นชุดเดรสยาวสีดำ ที่ตรงบริเวณแขนเป็นผ้าซีทรูแบบเก๋ ๆ จากนั้นแมทช์ด้วยถุงน้องสีดำ และรองเท้าส้นตึกสีดำ ที่เมื่อใส่คู่กันแล้วดูสวยแพงมาก! คอมพลีทลุคนี้ด้วยการถือเป็นกระเป๋าจากแบรนด์ Gucci ซึ่งลุคของสาวมินอานั้น เป็นหนึ่งลุคในงานGucci ที่สวยและแฟลชสาดเพียบ! https://www.instagram.com/p/CsVOoyzSvxw/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==ช่องทางการติดตามชินมินอา (Shin Min Ah)Instagram : @illusomina7.) อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) เดินทางมาถึงซุปตาร์สาวสวยคนสุดท้ายท้ายสุดในงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ Gucci ณ พระราชวังคยองบก นั่นคือสาว “อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt)” หรือที่หลายคนรู้จักในฐานะของนางเอกหนัง คังคุไบ ซึ่งเธอนั้นถือว่าเป็น Global Ambassador ชาวอินเดียคนแรกของ GUCCI โดยเธอเลือกใส่เป็นชุดมินิเดรสสั้นแขนมั้น มีแต่งกิมมิคคือเป็นวงกลมทั่วบริเวณเดรส เป็นอะไรที่เก๋มาก! และไอเทมเสริมลุคก็จะมีเป็นรองเท้าส้นสูงจากแบรนด์ Gucci และกระเป๋ามินิที่มีความใสกรุบ เป็นอีกหนึ่งซุปตาร์ที่เก๋มากแม่! https://www.instagram.com/p/CsWAbZls3K0/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==https://www.instagram.com/reel/CsX6pxJBsl0/?igshid=MzRlODBiNWFlZA==ช่องทางการติดตามอาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) Instagram : @aliaabhattก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ ส่อง 7 ซุปตาร์สุดปังในงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ GUCCI ณ พระราชวังคยองบก ต้องบอกเลยว่าดาราซุปตาร์แต่ละคนนั้นล้วนแล้วแต่สวย หล่อ ปังกันสุด แฟลชสาดกันแบบปั๊วะมาก! ทำเอาแฟนคลับหลายคนนั้นหลงรักและเลิฟกันเป็นอย่างมาก หากเพื่อน ๆ คนไหนชื่นชอบและอยากซัพพอร์ตซุปตาร์คนไหนก็สามารถเข้าไปฟอลโล่กันได้เลยค่า เครดิตภาพหน้าปกโดย@gulfkanawut : ภาพหน้าปก1 / @davikah : ภาพหน้าปก3 , ภาพหน้าปก6 / @newjeans_official : ภาพหน้าปก4 / @davikahchannel : ภาพหน้าปก2 / @limjjy2 : ภาพหน้าปก5 / @lofficielph : / @aliaabhatt : ภาพหน้าปก7เครดิตภาพและวิดีโอประกอบบทความโดย@gulfkanawut : ภาพที่1 / @davikahchannel : ภาพที่2 / @davikah : วิดีโอที่1 / ภาพที่3 / @newjeans_official : ภาพที่4 / @limjjy2 : ภาพที่5 / @illusomina : วิดีโอที่2 / @aliaabhatt : ภาพที่6 , วิดีโอที่3 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadays girl☀︎︎ • 19 พ.ค. 66
อ่าน
"กลัฟ คณาวุฒิ" ร่วมชมแฟชั่นโชว์ในฐานะ Friend of Gucci ชายคนแรกของไทย
โย่ว! และนี้คือความปังของ "กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์" ที่ต้องบอกว่าปีนี้อะไรก็ต้านไม่อยู่แล้ว โดยล่าสุดในฐานะ "Friend of Gucci" ผู้ชายคนแรกของประเทศไทย หนุ่มกลัฟได้มีโอกาสเดินทางร่วมชมแฟชั่นโชว์ ในงาน "GUCCI CRUISE 2024" ที่ถูกจัดขึ้นใน Gyeongbokgung Palace หรือ พระราชวังพระราชวังเคียงบก ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเพียงแค่วันที่หนุ่มกลัฟเดินทางไปนั้นแฮชแท็กส่งกำลังใจให้เจ้าตัวจาก พี่ ๆ ลูกบอลฯ กับ #GUCCIXGULFtoSeoul ก็ได้พุ่งทะยานคิดเทรนด์อันดับ 1 ไปถึง 4 ประเทศ อาทิ ไทย เวียดนาม มาเลยเซีย และอินโดนีเซีย อีกด้วย "กลัฟ คณาวุฒิ" ร่วมชมแฟชั่นโชว์ในฐานะ Friend of Gucci ชายคนแรกของไทย สำหรับงานนี้ ทางด้าน Friend of Gucci หนุ่มกลัฟของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวังมาในลุคสุดคูล สปอร์ตบอย โดยสวมบอมเบอร์แจ็กเกตคู่กับกางเกง กระเป๋าหนังสีดำไอคอนิก พร้อมรองเท้าบู๊ตลายโมโนแกรมคลาสสิก เรียกได้ว่า Total Look นี้ของหนุ่มกลัฟ เรียกแสงแฟลชจากช่างภาพ ที่พร้อมใจกันกดรัวชัตเตอร์ ให้กับความปังของคณาวุฒิ นอกจากนี้เจ้าตัวยังนั่งฟร้อนต์โรวชมโชว์ Gucci คอลเลคชั่น Cruise 2024 ซึ่งภายในงานยังได้มีการทักทายพูดคุยกับ CEO of Gucci Mr. Marco Bizzarri โดยหนุ่มกลัฟกล่าวความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์และเป็นตัวแทนคนไทยที่ได้รับเกียรติเชิญมาร่วมงานสำคัญของแบรนด์ในวันนี้ ส่วนทางแบรนด์ได้กล่าวขอบคุณหนุ่มกลัฟในฐานะ Friend of Gucci ถึงการให้เกียรติมาร่วมงานและเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ลุคได้แตกต่าง น่าจับตามอง เข้ากับอินเนอร์ของตัวเองมาก ทำให้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนไปไม่น้อย ทั้งนี้ยังได้ร่วมถ่ายภาพกระทบไหล่บุคคลสำคัญในงาน อาทิ เหล่านักแสดง-ศิลปิน แถวหน้าของเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็น IU, Hanni NewJeans, Shin Min Ah, สองหนุ่ม Younghoon, Juyeon จากวงบอยแบนด์ THE BOYZ และ อีจองแจ จาก Squid Game อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : ส่องลุค ใหม่-กลัฟ ในคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์หรู สนามบินแตก! "กลัฟ คณาวุฒิ" เยือนฮ่องกงครั้งแรก แฟน ๆ ต้อนรับแน่น! คนหล่อขอทำบุญ! "กลัฟ คณาวุฒิ" แบ่งปันน้ำใจ เติมสุขกับ 3 มูลนิธิ ส่งท้ายปีใหม่ไทย
ข่าวบันเทิง • 22 พ.ค. 66
อ่าน
Gucci เปิดตัว กลัฟ คณาวุฒิ หนุ่มฮอตหนึ่งเดียวร่วมแคมเปญใหญ่ กับนิตยสารดังระดับโลก
สมมง Gucci Brand Ambassador สำหรับหนุ่มหล่อสุดฮอต "กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์" หนึ่งเดียวที่ได้เข้าร่วม Global Campaign ของ Gucci Men's Fall Winter 2024 Collection กับนิตยสารดังระดับโลกจากประเทศอังกฤษอย่าง "The Face" โดยทางออฟฟิศเชียลทุกแพลตฟอร์มของ Gucci ได้ประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อค่ำคืนวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยหน้าแพลตฟอร์มทั้งหมดของ Gucci ในทั่วโลกจะเผยแพร่ภาพของนักแสดงหนุ่มชาวไทย "กลัฟ คณาวุฒิ" ในครั้งนี้กลัฟมาในโททัลลุคจาก Men's Fall Winter 2024 Collection ที่สะท้อนงานดีไซน์ร่วมสมัยของครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ Sabato De Sarno ได้อย่างลงตัวเป็นที่สุด แล้วยังได้ถ่ายทอดตัวตนผ่านทางแคมเปญพิเศษของ Gucci รวมถึงบทสัมภาษณ์ซึ่งจะเผยแพร่ในนิตยสาร "The Face" อีกด้วย ต้องยอมว่าหนุ่มกลัฟนั้นทำถึงสุด ๆ หลังจากได้รับเลือกเป็น Friend of GUCCI และถูกแต่งตั้งให้เป็น Gucci Brand Ambassador ในลำดับต่อมา ทั้งหนุ่มกลัฟก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถจนถือว่า เป็นปีทอง คิวทองอีกปีของหนุ่มปังคนนี้
TNN ช่อง16 • 24 ส.ค. 67
สิทธิพิเศษ
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 สุวรรณภูมิ
-
โรงพยาบาล/คลินิก • 1 เม.ย. 68
อ่าน
1 step 1 month (1 ก้าว 1 เดือน)
ภาพจาก https://pixabay.comการเดินดูจะเป็นการใช้ชีวิตที่ล่าช้าเพราะสมัยนี้ มีเทคโนโลยีที่สามารถอำนวยความสะดวกสบายให้กับเรา ทำให้หลายๆคนมองข้ามการเดินเเละประโยชน์ของมัน การเดินมีประโยชน์หลายอย่างโดยเฉพาะด้านสุขภาพ เเม้ว่าการเดินจะไม่ได้เผาผลาญพลังงานมากมายเเต่ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญอยู่เสมอภาพจาก https://pixabay.com การเดินมีหลายเเบบ เเต่ละเเบบก็จะมีประโยชน์ต่างกันไปเดินช้า มีลักษณะคล้ายกับการเดินเล่น เดินจงกรม หรือเดินชมวิว เดินเร็ว เป็นการเดินเร็วติดต่อกันนานกว่า 10 นาที/ครั้ง รวมกัน 30 นาที/วัน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์ เดินแข่ง คือ เดินเร็วขนาดเทียบเท่าเหมือนการวิ่งข้อดีของการเดินเริ่มต้นง่าย ไม่ยุ่งยากการเดินเป็นการเริ่มต้นที่ง่ายเพียงใจเราสู้ไม่ท้อก็สามารถลุกขึ้นมาเดินได้หรือการไปในที่ต่างๆ เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ท่องเที่ยวเราก็จำเป็นต้องเดินเราก็จะได้ประโยชน์ไปพร้อมกับการทำกิจกรรมนั้นๆภาพจาก https://pixabay.com ประหยัด คุ้มค่าการเดินไม่ต้องซื้อเครื่องออกกำลังกายหรืออุปกรณ์ที่มีราคาเเพงไม่ต้องลงทุนอะไรมาก เเค่รองเท้าคู่เดียวก็สามารถเริ่มต้นการเดินได้เเละสามารถประหยัดได้มากกว่านี้เพียงเเค่เลือกการเดินเเทนเทคโนโลยีเเค่อาจจะต้องเเลกมากับความลำบากเเละล่าช้าบ้างภาพจาก https://pixabay.com สุขภาพดีร่างกายเเข็งเเรงการเดินก็คือการออกกำลังกายภายในตัวสามารถเผาผลาญไขมันได้ถึงจะไม่มากเเต่ก็สลายไปทีละนิด การเดินมีเเรงกระเเทกต่ำถ้าเปลียบกับการออกกำลังกายอื่นเเล้ว การเดินจะมีเเรงกระเเทกที่ต่ำมากทำให้งผลเสียต่อข้อเข่าเราน้อยมาก เเละนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง เเละหลอดเลือดหัวใจเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคป้องกันโรคอ้วนลดความดันทำให้ความจำเเม่นร่างกายกระปรี้กระเปร่าป้องกันโรคมะเร็งลดอาการป่วยโรคเบาหวานระบบไหลเวียนของเลือดดีทำให้นอนหลับได้สนิทเจริญอาหารผ่อนคลายความตึงเครียดลดความหงุดหงิดจิตใจเเจ่มใสสมองทำงานได้มีประสิทธิภาพภาพจาก https://pixabay.comเห็นไหมครับว่าการเดินมีประโยชน์มากมายขนาดไหน การเดินออกกำลังกายนับว่าเป็นวิธีที่ ปลอดภัย ประหยัด มมีประโยชน์เเละคุ้มค่าที่สุด เปรียบเสมือนเป็นยาวิเศษที่ป้องกันโรคภัยได้
New • 10 ก.ค. 63
อ่าน
ส่องสเปคนาฬิกา GUCCI Interlocking Watch สุดเท่ทรงสปอร์ต
ชวนส่องสเปค GUCCI Interlocking Watch สุดเท่ดีไซน์ทรงสปอร์ต โดย Gucci แบรนด์แฟชั่นระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบหรูหราและทันสมัย ได้ก้าวเข้าสู่วงการนาฬิกาอย่างจริงจังด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่น Interlocking ล่าสุด ซึ่งเป็นการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและความแม่นยำทางกลไกได้อย่างลงตัว นาฬิกา GUCCI Interlocking Watch สุดเท่ทรงสปอร์ต ดีไซน์ตัวเรือน: ขนาด 41 มิลลิเมตร ทำจากสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำหรือน้ำเงิน รูปทรงคุชชั่นแรงบันดาลใจจากนาฬิกาสปอร์ตยุค 70 ขอบหน้าปัดทรงกลมขัดเงา ฝาหลังโปร่งใสเผยให้เห็นกลไกภายใน กันน้ำลึก 100 เมตร หน้าปัด: ส่วนกลางขัดเงาวนเป็นวง สีดำหรือน้ำเงินตามรุ่น สเกลชั่วโมงแบบเซคเตอร์ มีขีดบอกเวลาที่ตำแหน่งหลัก และตัวเลขอารบิกบอกนาที ไฮไลท์คือหน้าปัดวินาทีย่อยที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ซึ่งมีโลโก้ Interlocking G หมุนแทนเข็มวินาที กลไก: Sellita SW360 ออโตเมติก ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4 Hz) สำรองพลังงาน 56 ชั่วโมง สาย: สายยางพร้อมหัวเข็มขัดสแตนเลสสตีล เหมาะสำหรับข้อมือขนาด 6.3 - 7.9 นิ้ว ราคา ฿103,700 สรุป แม้ว่า Gucci Interlocking อาจจะยังไม่สามารถเทียบชั้นกับนาฬิกาหรูระดับสูงได้ แต่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการนาฬิกาที่มีทั้งสไตล์และคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การที่ Gucci เลือกผลิตนาฬิกาในกลุ่มนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกา และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์นาฬิกาที่น่าจับตามองในอนาคต Gucci Interlocking จึงถือเป็นก้าวสำคัญของ Gucci ในการสร้างชื่อเสียงในวงการนาฬิกา โดยเฉพาะในกลุ่มนาฬิการะดับกลาง บทความที่คุณอาจสนใจ ส่องสเปค นาฬิกา Rolex Daytona รุ่นพิเศษ Kakha Kaladze อดีตแข้งดัง AC Milan TAG Heuer เผยโฉมนาฬิกา TAG Heuer Carrera Chronograph X Porsche 963 6 นาฬิกาผู้ชายแบรนด์หรู ยอดนิยม ปี 2024 รวมนาฬิกาสาย Nato ยี่ห้อไหนดี สวยทนลุย เปลี่ยนลุคได้บ่อย ราคาเท่าไหร่ รวมนาฬิกา Luxury Smart Watch สำหรับผู้ชาย สมาร์ทวอทช์หรูหราสุดล้ำ ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่ นาฬิกา SEIKO ผู้ชาย ราคาไม่เกิน 30,000 บาท รุ่นไหนดี 2024 นาฬิกาคาสิโอผู้ชาย ราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นไหนดี นาฬิกาสายเหล็ก แบรนด์ CASIO นาฬิกาผู้ชาย ราคาไม่เกิน 2,000 บาท รุ่นไหนดี รวมนาฬิกา Rado ผู้ชายปี 2024 รุ่นไหนดี ดีไซน์สวย ราคาเท่าไหร่ -------------------------------------------------
ไลฟ์สไตล์ • 11 ก.ค. 67
อ่าน
คนกับม้า 1+1=1
https://unsplash.com/photos/QrJc1RVI7uM ปก 1+1=1 คือความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนและม้า ในการแข่งขันขี่ม้าในประเภทต่าง ๆ ในปัจจุบันกีฬาขี่ม้าถือว่าได้รับความนิยมในระดับสากล มีการแข่งขันในหลายระดับ หลายรูปแบบ ทั้งในซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และรายการชิงแชมป์ต่าง ๆ และในเมืองไทยเองก็มีการจัดแข่งอยู่เป็นประจำเช่นกัน https://unsplash.com/photos/YwjY-8Ivag4 รูป กีฬาแข่งม้าแข่งเป็น 6 ชนิด แต่มีแข่งในระดับสากล 3 ชนิดคือ Dressage ศิลปการบังคับม้า จะเป็นการแข่งกันในท่าบังคับที่กำหนดมาว่าต้องทำท่าอะไรบ้าง และจะมีการแบ่งคะแนนเป็นสองส่วน คือ 1. คะแนนจากท่าบังคับ ข้อละ 10 คะแนน และ 2. คะแนนจากภาพรวมในการแสดง อีก 4 ข้อ มีคะแนนข้อละ 10 คะแนน ใครที่ทำคะแนนได้มากทที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ Show jumping กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ในกีฬาประเภทนนี้จะมีการออกแบบสนามที่แตกต่างกันไปในแต่ละสนาม มีเครื่องกีดขวางประมาณ 10-12 เครื่อง ความยากง่ายแตกต่างกันไปในแต่ละจุด ในการแข่งขันทุกคนที่ออกมาจะมี 0 คะแนน ถ้าใครบังคับม้าข้ามเครื่องกีดขวางได้ทั้งหมดโดยไม่ทำไม้หล่นภายในเวลาที่กำหนด คะแนนก็จะเป็น 0 คะแนนซึ่งเป็นคะแนนที่ดีที่สุด ใครที่ทำไม้หล่นก็จะเสียคะแนนเป็นติดลบไปเรื่อย ๆ แต่ถ้ามีคนทำได้ 0 คะแนนหลายคน ก็จะดูที่เวลาในการตัดสิน https://unsplash.com/photos/vLrlxsNKE3Y รูป Eventing อีเว้นติ้ง ถือเป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมาก เพราะต้องแข่งหลายวัน หลายแบบทั้ง ศิลปะการบังคับม้า ข้ามภูมิประเทศ กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง แล้วเอาคะแนนทั้งสามอย่างมารวมกัน ใครเสียคะแนนน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งการแข่งขันข้ามภูมิภาคยังแบ่งการแข่งขันเป็นรูปแบบต่าง ๆ อีก เช่น Roads and Tracks ระยะทางประมาณ 3-6 กิโลเมตร Steeplechase จะแข่งในลู่วิ่ง มีเครื่องกีดขวาง 6-8 เครื่อง และกลับมา Roads and Tracks อีกครั้ง ในระยะทาง 5-8 กิโลเมตร และข้ามภูมิประเทศ แบบทีมี่สิ่งกีดขวางตามธรรมชาติ แล้ววันต่อมาจึงมาแข่งแบบกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง แล้วจึงรวมผลคะแนนหาผู้ชนะ https://unsplash.com/photos/bSQ2YL5tytY รูป อาชาบำบัด นอกจากขี่ม้าจะเป็นกีฬาเพื่อการแข่งขันแล้ว การขี่ม้ายังเป็นเรื่องของกิจกรรมเพื่อความบันเทิง ความผ่อนคลาย การท่องเที่ยว และยังมีความนิยมในการใช้อาชาบำบัดด้วย มีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องอาชาบำบัดสามารถให้ผลดีกับเด็กที่เป็นออทิสติกที่มีปัญหาทางด้านการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ได้ฝึกฝนการทรงตัว การใช้กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นให้เด็กได้มีการเรียนรู้ในส่วนต่าง ๆ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยด้วย https://unsplash.com/photos/Y5iPU37b7Zs รูป ก็จะเห็นได้ว่าการขี่ม้าถือว่าเป็นกีฬาที่มีความสนุก ท้าทาย น่าสนใจไม่น้อย ทั้งในการแข่งขันรูปแบบต่าง ๆ ใครที่สนใจในกีฬาประเภทนี้ก็สามารถหาข้อมูล หรือว่าลองไปสมัครได้ตามสมาคม ชมรมต่าง ๆ ได้ ส่วนใครที่อยากขี่เพื่อการท่องเที่ยวการผ่อนคลายก็มีหลายที่ให้บริการ และม้าก็เป็นสิ่งมีชีวิต มีความรู้สึก เราก็ควรดูแลเค้าให้ดีด้วย ตามสโลแกน 1+1=1 https://unsplash.com/ ภาพประกอบ
Patae • 5 มี.ค. 63
อ่าน
พาส่อง GUCCI SPRING SUMMER MEN 2020
ที่มาภาพ : https://www.gucci.com สวัสดีครับเพื่อน ๆ ผู้อ่านทุกท่านพบกันอีกครั้งกับการ UPDATE ใหม่ ๆ ในวงการแฟชั่น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง GUCCI SPRING SUMMER 2020 ที่ออกแบบมาเพื่อต้อนรับฤดูร้อนปี 2020 และอย่างที่เพื่อน ๆ ทราบกันนะครับ ส่วนใหญ่แบรนด์แฟชั่นต่างๆก็จะออกสินค้าและคอลเลคชั่นใหม่ ๆในช่วงเปลี่ยนผ่านของฤดูอยู่แล้ว ทาง GUCCI เองก็มีแนวทางการเปิดตัวแบบนี้เช่นเดียวกันครับ ซึ่งในบทความก่อนเราได้มีการพูดถึงคอลเลคชั่นนี้ไปแล้วในส่วนของ For Women ที่ผลิตมาเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่สำหรับผู้ชายอย่างเราก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะทาง GUCCI ก็ผลิตคอลเลคชั่น For Men เพื่อให้ผู้ชายอย่างเรามาด้วยครับ ที่มาภาพ : https://www.gucci.com/ ซึ่งแนวทางการออกแบบก็มาใน Campaign เดียวกันนั้นคือ #OFCOURSEAHORSE ที่เป็นการออกแบบย้อนสมัยไปในยุค 90 และมีม้าเป็นตัวดำเนินเรื่องในแฟชั่นและเลือกเมือง Los Angeles เป็นเมืองจัดแสดงโดย Campaign นี้จะแสดงให้เห็นถึงความคิดเห็นและเสรีภาพในวงการแฟชั่น และทาง GUCCI เองได้ออกแบบสินค้าในแนวทาง Unisex ที่สามารถใส่ได้ทั้งหญิงและชาย ซึ่งแสดงถึงเสรีภาพได้เป็นอย่างดี ใน campaign นี้จัดขึ้นโดย Alessandro Michele และกำกับโดย Christopher Simmonds ที่มาภาพ : https://www.gucci.com/ เริ่มจากภาพ Ad แรกเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นยุค 90 สุดคลาสสิคและเป็นความวินเทจที่สุดลงตัวเข้ากับเมืองที่มีประวัติอันยาวนานและมีเรื่องราวมากมายที่เป็นประวัติศาสตร์สุดโด่งดังอย่างเมือง Los Angeles และการแต่งตัวในยุคสมัยนั้นที่ต้องบอกไว้เลยว่า เข้ากันกับทุกอย่างเป็นความลงตัว ที่พอดีไม่หวือหวาหรือมากเกินไปหรือน้อยเกินไป อย่างที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าเทรนด์วินเทจนั้นมาแรงมาก เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2019 จนถึงตอนนี้ปี 2020 เทรนด์นี้ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยม เรามาส่องสินค้าในภาพกันดีกว่าครับ เริ่มจากชุด เป็นชุดแจ๊คเก็ตสีคลาสสิคอย่างเสื้อ Cotton jacket with cardboard labels และกางเกง Washed cotton flare pant สี Brown Cotton สุดวินเทจเข้าในปี 90 และปี 2020 อย่างลงตัว และนายแบบอีกท่านมาพร้อมกับชุด Fluid drill jacket สี Camel fluid drill และกระเป๋าสุดโดดเด่น Gucci 1955 Horsebit duffle bag พร้อมลาย GG Superme ตัดกับสี Brown Leather และอีกหนึ่งใบคือสี Black Leather ที่มาภาพ : https://www.gucci.com/ ภาพ Ad ถัดมาเป็นฉากบนชั้นด่านฟ้าที่มองเห็นวิวอันสวยงามของ Los Angeles ผสานกับคอนเซ็ปต์และ Campaign ที่มีม้ามาประกอบฉากโดยนายแบบมาพร้อมกับชุดสุดโดดเด่นอย่าง Mini GG zip-up jacket with Gucci label ที่เป็นเสื้อสุดคลาสสิคและกางเกง Mini GG shorts with Gucci label ที่มาภาพ : https://www.gucci.com ต่อมาเป็นรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก GUCCI อย่างรุ่น Men's Ultrapace sneaker รองเท้าผ้าใบสุด Cool ที่เข้ากับชุดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีมากับสีที่หลากหลายแต่เข้ากันได้อย่างลงตัว อย่างเช่นสี White leather เป็นสีรองและมีสี blue scrapless leather และ silver and grey mesh และ silver reflective fabric ผสมกันในคู่เดียว เป็นรองเท้าผ้าใบที่ออกไปในทางวินเทจและมีความ Unisex อยู่ด้วยเพราะไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ใส่ได้ ในคอลเลคชั่นนี้ยังมีอีกหลายตัวที่ยังไม่ถูกพูดถึงและรายละเอียดต่างๆที่อาจข้ามไป ซึ่งสามารถชมเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ GUCCI สำหรับบทความหน้าเราจะมาพูดถึงเรื่องอะไรนั้นต้องคอยติดตาม ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจ
เอดดี้กับอีวาล • 3 พ.ค. 63
อ่าน
รีวิวรองพื้น Gucci Satin Matte Foundation
สวัสดีครับเพราะปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของคนเราคือด่านแรกในการตัดสินคน ๆ นั้นว่าเป็นคนอย่างไรดังนั้นเราจึงต้องดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ การดูแลตัวเองก็มีทั้งจากภายในและภายนอกวันนี้จึงจะมารีวิวรองพื้นที่เหมาะกับผู้ชายหรือว่าสาว ๆ จะใช้ก็ได้นะครับนั่นก็คือ Gucci Satin Matte Foundation นั่นเองครับสมัยนี้ผู้ชายจะใช้รองพื้นไม่ใช่เรื่องน่าอายแล้วครับทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าจะให้ทามากขั้นตอนเหมือนคุณผู้หญิงก็คงจะไม่เหมาะ ดังนั้นถ้าผู้ชายจะแต่งหน้าทารองพื้นอย่างแรกเลยคือเน้นน้อย ๆ แลดูเป็นธรรมชาติให้มากที่สุดนั่นเองครับรองพื้น Gucci Satin Matte Foundation ตัวนี้จะให้ finish look แบบไม่มัน ไม่แมท ผิวจะดูสุขภาพดีครับไม่มีน้ำหอมผสมอยู่ทำให้คนผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ครับ และยังมีสารกันแดด spf 20 อีกด้วยครับลองทาที่แขนให้ดูนะครับเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นเกลี่ยง่ายมากสามารถใช้นิ้วมือเกลี่ยได้สบาย ๆ เลยครับ แต่ถ้าใครต้องการความเนี้ยบใช้แปรงหรือฟองน้ำในการลงรองพื้นก็ได้ครับ ใครที่มีรอยดำจากสิวมาก ๆ อาจจะไม่ชอบรองพื้นตัวนี้สักเท่าไหร่เพราะมันปกปิดได้ไม่มากอาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยในบางครั้ง รองพื้นตัวนี้ถ้าเจออากาศร้อนมาก ๆ อาจจะมีเลือนหายระหว่างวันได้ครับเหมาะกับอากาศในห้องแอร์มากกว่า รองพื้นตัวนี้กระจายแสงได้ดีเวลาถ่ายรูปทำให้ผิวสวยมากครับเพราะมันจะให้เอฟเฟ็กต์ที่ไม่มันไม่แห้งจนเกินไป หรือที่ฮิตเรียกกันก็คือหน้าโกล์วนั่นเอง ความติดทนส่วนตัวนะพบว่ารองพื้นตัวนี้อยู่ได้นานถึง 6 ชั่วโมงครับทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะครับ รองพื้นตัวนี้สีจะดรอปนิดนึงครับผู้ชายอาจจะชอบเพราะจะทำให้หน้าไม่ลอย แต่ถ้าใครชอบให้พอดีกับผิวเลือกซื้อสีที่ขาวกว่าผิวสักหนึ่งเฉดนะครับขวดเป็นฝาปั๊มสามารถควบคุมปริมาณได้ครับว่าจะกดมากหรือกดน้อยและที่ชอบมากเลยคือฝาของขวดรองพื้นที่มีการเอาลาย signature ของแบรนด์มาทำเป็นลายครับดูหรูหราดี แต่ขวดเป็นขวดแก้วหนักเอาเรื่องเหมือนกันไม่เหมาะกับการพกพาครับเสี่ยงแตกมากใครที่สนใจ Gucci Satin Matte Foundation ณ ตอนนี้ในประเทศไทยยังไม่มีการนำเข้าอย่างเป็นทางการครับ ต้องใช้วิธีสั่งหรือ Pre-order จากร้านหิ้วใน Instargram หรือใครที่มีบัตรเครดิตลองเข้าไปกดสั่ง ที่นี่ ก็ได้ครับภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน
Yottana • 1 มิ.ย. 63
อ่าน
เพิ่มความเป็นส่วนตัวแบบฟรีๆ ด้วยแอพ 1.1.1.1
สวัสดีครับ จากข่าวที่เพิ่งผ่านมา ที่มีผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตทำข้อมูล DNS Query หลุด ซึ่ง DNS Query คือการเรียกใช้เว็ปไซต์ใดเว็ปไซต์หนึ่งของแต่ละ IP ครับ ซึ่งเราก็จะมี IP เป็นของตัวเองครับ โดยค่าปกติแล้ว DNS ที่เราจะใช้เป็นค่ามาตรฐาน คือของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตครับ แต่เราสามารถเปลี่ยนได้ แอพ 1.1.1.1 เป็นของ CloudFlare ครับ ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยยิ่งใหญ่เลยครับ ดังนั้น หากมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวอีกครั้ง หากเราใช้ 1.1.1.1 เราก็จะรอดครับ เพราะเราไปเรียกใช้เว็ปไซต์จาก CloudFlare แทน ประเภท1.1.1.1 จะมี 2 แบบครับ (เฉพาะในโทรศัพท์) แบ่งเป็นDNS คือการเรียกใช้เว็ปไซต์ต่าง ๆ ผ่าน CloudFlareWARP คือเพิ่มความปลอดภัยไปอีกครับ แลกกับอินเตอร์เน็ตที่ช้าลง และใช้ YouTube Premium, Netflix และอื่น ๆ ไม่ได้ซึ่งทั้ง 2 แบบ เราสามารถสลับไปมาได้ตลอดนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย ข้อดี ข้อเสียภาพรวม - เพิ่มความเป็นส่วนตัว ในการใช้งานอินเตอร์เน็ตDNS ข้อดี: จากประสบการณ์ ใช้งานแบตเตอรี่น้อยมากครับ ข้อเสีย: เว็ปไซต์ก็ยังคงสามารถระบุตัวตนเราจาก IP ได้WARP ข้อดี: ยากขึ้น ในการให้เว็ปไซต์ระบุตัวตน จาก IP ของ WARP ข้อเสีย: ใช้งานแบตเตอรี่และอินเตอร์เน็ตมากกว่า DNS ดู YouTube Premium, Netflix ไม่ได้ อินเตอร์เน็ตช้าลง วิธีการเริ่มใช้งานผมขอแบ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้งาน 4 ประเภทครับ ได้แก่ Windows, Mac, iOS และ Android 1. Windows สำหรับ Windows ไม่ต้องลงโปรแกรมครับ แต่จะซับซ้อนเล็กน้อยกด Windows แล้วพิมพ์ว่า control และคลิก Control Panelคลิก View Network Status and Tasksคลิก Change Adapter Settingsคลิกขวาที่เครือข่ายที่กำลังเชื่อมต่อ เช่น Wi-Fi หรือ Ethernet และเลือก Propertiesเลือก Internet Protocol Version 4 และคลิก Propertiesเลือก Use the following DNS server addresses และใส่ 1 . 1 . 1 . 1 1 . 0 . 0 . 1 แล้วกด OK 2. Mac Mac จะง่ายกว่า Windows เล็กน้อยครับคลิกที่ Apple Logo ด้านบน และเปิด System Preferencesกด Network และ Advancedเลือก DNS และเพิ่ม 1.1.1.1 และ 1.0.0.1 3. iOS และ Android iOS และ Android จะไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับดาวน์โหลดแอพ 1.1.1.1 จาก App Store หรือ Play Storeเปิดแอพ และกด Get Startedกด Switch เปิดได้เลยครับ ถ้าเป็น Android อาจมีการขอ VPN Profile ก็กดตกลงได้เลยครับ ส่วน iOS ก็จะขอ VPN Configurations ก็กด ยอมรับได้เลยครับตอนนี้จะเป็น WARP ครับ ถ้าต้องการเปลี่ยนเป็น DNS ให้กดปิด Switch และเลือก Switch to DNS only modeเพียงเท่านี้ก็สามารถสลับไปมาหรือปิดได้แล้วครับ สำหรับวันนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการใช้อินเตอร์เน็ตแบบส่วนตัวนะครับ ขอบคุณครับCredit รูปภาพ: รูปภาพที่ 1 / รูปที่เหลือ เป็นภาพ Screenshot ของผู้เขียน
Athlete-Science • 12 มิ.ย. 63
อ่าน
กล้อง 1 ตัว ฟิล์ม 1 ม้วน 1 วันในย่านตลาดน้อย
พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าระยะเวลาสองปีนี้เป็นยุคทองของกล้องฟิล์มเลยก็ว่าได้ ไปไหนมาไหนมักพบผู้คนถือกล้องฟิล์มถ่ายรูปอยู่ทุกหนทุกแห่ง วันนี้เราเลยมาแนะนำที่ถ่ายรูปสวยๆ ย่านตลาดน้อยกันครับ รูปจะเป็นอย่างไรตามไปดูกัน เริ่มต้นกับอาวุธคู่ใจของเรา พระเอกของเราในวันนี้คือกล้อง RICOH KR-10 Super ใช้คู่กับม้วนฟิลม์ Fujicolor C200 ข้อดีของฟิล์ม Fujicolor C200 คือ ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่หัดเล่นกล้องฟิล์มครับ เริ่มออกเดินทางโดยนั่งบีทีเอสไปลงสถานีสะพานตากสิน แล้วนั่งเรือด่วนที่ท่าเรือสาทรมาลงที่ท่าน้ำสี่พระยา ก็จะถึง The River City แล้วครับ เปิดประเดิมรูปแรกกับสถาปัตยกรรมของโรงแรม Royal Orchid Sheraton Hotel Towers พอเดินออกมาด้านหน้าของ The River City ให้เดินไปทางซ้ายเข้าซอยวานิช 2 เดินทะลุไปก็จะพบกับวัดแม่พระลูกประคำ ระหว่างเดินไปก็จะพบกับมุมถ่ายรูปและของกินมากมายเลย พอได้รูปและอิ่มท้องแล้ว เราก็เริ่มเดินต่อไปทางซอยวานิช 2 พอเดินมาได้สักระยะจะพบกับป้ายตรอกศาลเจ้าโรงเกือก เดินเลี้ยวเข้าไปเลยครับ ในตรอกจะมีงานสตรีทอาร์ทและตึกเก่ามากมายให้ถ่ายรูป เราเลยเริ่มละเลงชัตเตอร์รัวๆ เลยจ้าา เดินตามทางไปเรื่อยๆ เราก็จะมาทะลุออกมาที่ซอยวานิช 2 อีกครั้ง ให้เดินออกทางซอยเจริญกรุง 22 สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปวิถีชีวิตและบ้านเก่าตึกเก่าคงยิ้มไปตามๆ กัน พอเดินออกมาจากซอยเจริญกรุง 22 เราเลือกที่จะเดินย้อนกลับไปทางเจริญกรุงเพื่อแวะถ่ายรูปตึกต่างๆ และแวะกลับ The River City เพื่อที่จะนั่งเรือกลับไปบีทีเอสสะพานตากสิน หรือใครอยากจะเดินเล่นชิวๆ กันต่อ ก็สามารถนั่งเรือข้ามฟากไปที่ห้าง ICONSIAM ก็ได้นะ หลังจากถ่ายรูปกันอย่างเมามันส์ เราเลยแวะไปล้างฟิล์มที่ร้าน Xanap ที่ Lido Connect ชั้น 2 ค่าล้างฟิล์มราคา 160 บาท ประมาณชั่วโมงกว่าก็ได้รูปแล้วครับ เป็นยังไงกันบ้างกับรูปที่ถ่ายมา หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะ ช่วงนี้ถ้าจะออกไปข้างนอกก็อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือ และล้างมือเป็นประจำกันด้วยนะครับ รอติดตามชมกันได้เลย ว่าเราจะพาไปกิน ไปเที่ยวที่ไหนกันอีก :) ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน
วาฬ • 23 มี.ค. 63
อ่าน
MRT สนามไชย ใน 1 วัน : 1 วัด 1 พิพิธภัณฑ์ 2 คาเฟ่
เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินเปิดให้บริการส่วนต่อขยายเพิ่มเติมตั้งแต่สถานีวัดมังกรฯ ไปจนถึงสถานีหลักสองในช่วงท้ายปีที่ผ่านมา การเดินทางไปยังที่น่าเที่ยวต่างๆ ก็ง่ายขึ้นไปอีกนะคะ วันนี้เลยอยากชวนทุกคนขึ้นรถไฟฟ้าไปลง “สนามไชย” เดินทางง่ายๆ แถมวันเดียวเที่ยวได้ทั้งมิวเซียม วัด และคาเฟ่เลยล่ะค่ะ แต่งตัวให้เรียบร้อยพร้อมเข้าวัด ทาครีมกันแดด พกหมวก กระเป๋าสตางค์ กล้อง และของสำคัญ แล้วตามมาเลยค่า เราทานข้าวเช้าจากบ้านให้เรียบร้อย มาถึงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชยในเวลาประมาณ 10 โมงนิดๆ แล้วใช้ทางออกที่ 1 ออกจากสถานีสนามไชย ก็จะเจอที่เที่ยวแรกของเราแล้วค่ะ “มิวเซียมสยาม” นั่นเอง โดยที่ออกจากสถานีรถไฟฟ้ามา เราก็มาโผล่ข้างในมิวเซียมได้เลยค่ะ การจะเข้าชมมิวเซียมสยามต้องซื้อตั๋วก่อนนะคะ โดยเมื่อเดินเข้าไปในตัวอาคารแล้วก็จะเจอจุดขายตั๋วเลยค่ะ ราคานักเรียน-นักศึกษา 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาททั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ถ้าชวนเพื่อนไปด้วยกัน 5 คนขึ้นไป จะลดเหลือครึ่งราคา คือนักเรียน-นักศึกษา 25 บาท และผู้ใหญ่จ่ายคนละ 50 บาทเท่านั้นเองค่ะ ภายในมิวเซียมสยามจัดแสดงนิทรรศการถาวรชื่อว่า “ถอดรหัสไทย” แบ่งนิทรรศการออกเป็น 14 ห้อง ทั้งหมด 2 ชั้น เป็นนิทรรศการที่ชวนให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไทยไปด้วยกันในทุกๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย ภาษา ความเชื่อ พิธีกรรม วิถีชีวิต และแง่มุมทางวัฒนธรรมอื่นๆ อีก แต่ละห้องมีวิธีการนำเสนอที่ตื่นตาตื่นใจ มีกิจกรรมให้เราได้มีส่วนร่วมกับนิทรรศการ และมีห้องให้เราแต่งตัวย้อนยุคถ่ายภาพแบบไทยๆ ด้วยนะคะ ใช้เวลากับนิทรรศการได้นานตามใจ เมื่อดูจบทุกห้องแล้วลงมาด้านล่าง จะเจอร้านขายของที่ระลึกของมิวเซียมสยาม มีของน่ารักมากมายให้เลือกซื้อเลยค่ะ ใกล้เที่ยงแล้วเป็นเวลาอาหาร วันนี้เราเลือกทานอาหารที่ร้าน Elefin Coffee ที่อยู่ในมิวเซียมสยามเลยค่ะ อาหารมีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียว ราคาไม่แพงมาก เราเลือกทานอะไรง่ายๆ ไม่อิ่มมากนัก เพราะเป้าหมายต่อไปของเราคือ คาเฟ่มะม่วง! ออกจากมิวเซียมสยามทางประตูด้านหน้า แล้วเดินย้อนกลับมาในซอยที่ติดกับมิวเซียมสยามไปจนถึงฝั่งชุมชนท่าเตียน ตลอดแนวถนนจะมีร้านรวงมากมาย ทั้งร้านอาหาร โฮสเทล คาเฟ่ และร้านโชห่วย รวมถึงร้านขายยาดมสมุนไพรและลูกประคบต่างๆ เราเดินไปจนถึงซอยท่าเรือแดง เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอย มองสูงๆ จะเห็นป้ายร้าน Make Me Mango ทางขวามือค่ะ ร้านนี้เป็นคาเฟ่มะม่วง คือเน้นขายขนมที่ทำจากมะม่วง มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง น้ำมะม่วงปั่น ไอศกรีม สาคูมะม่วงนมสด ไปจนถึงบิงซูเลยค่ะ เราเลือกสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ชื่อว่า Make Me Mango เมนูนี้ประกอบไปด้วยมะม่วงสุก ข้าวเหนียวมูนพร้อมกะทิและถั่ว สังขยา พุดดิ้งมะม่วง และไอศกรีมมะม่วงค่ะ ต้องบอกว่าจานนี้น่ารักถูกใจ และกินด้วยกันสองคนก็กำลังดี นอกจากนี้เรายังสั่งน้ำมะม่วงโซดาอีกแก้วไว้ดื่มแก้คอแห้งด้วยค่ะ กินมะม่วงจนอิ่มและถ่ายรูปกับมุมต่างๆ ในร้านจนพอใจ เราก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง ไปยังจุดหมายปลายทางที่สามของเรา วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์นั่นเองค่ะ เดินออกจากซอยมา เพียงแค่ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็ถึงวัดโพธิ์แล้วค่ะ หลายคนเข้าใจว่าวัดโพธิ์มีแค่พระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนองค์ใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำวัดเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ววัดโพธิ์ยังมีส่วนอื่นๆ อีกหลายส่วนมากเลยนะคะ (วิธีที่จะไม่หลงในวัดโพธิ์ คือพยายามตามป้ายไปค่ะ ในวัดจะมีทั้งป้ายและแผนผังอยู่ตามจุดต่างๆ นะคะ เพราะวัดใหญ่ มีหลายโซน และถ้าไม่คุ้นก็หลงง่ายมาก!) เราเข้าไปที่พระอุโบสถเป็นที่แรก ด้านในประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานประจำพระอุโบสถ ตั้งอยู่บนฐานชุกชีสามชั้น งดงามมากค่ะ แต่สิ่งที่เราอยากแนะนำจริงๆ ในวัดโพธิ์คือที่นี่ค่ะ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ทำจากกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องเครื่องถ้วยหลากหลายสี โดยสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 หนึ่งองค์ รัชกาลที่ 3 หนึ่งองค์ และรัชกาลที่ 4 สององค์ (แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 หนึ่งองค์) นับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 บริเวณนี้สามารถถ่ายภาพได้ตามใจ และต้องบอกว่าคงเป็นภาพถ่ายในวัดที่สวยเก๋ไม่ซ้ำใครที่หนึ่ง ด้วยความสวยงามขององค์พระมหาเจดีย์ทำให้เราเลือกมุมถ่ายได้ไม่มีหยุด (เพียงแต่อย่าลืมโพสต์ด้วยกิริยาท่าทางที่สุภาพด้วยนะคะ) ขอแนะนำเป็นพิเศษว่า ช่วงสี่โมงเย็น วันที่ฟ้าใส แดดจะส่องลงมาที่พระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขาร (องค์สีเหลืองแก่) แบบสวยมากๆ เป็นมุมที่เรารักที่สุดมุมหนึ่งเลยค่ะ จุดอื่นๆ ในวัดโพธิ์ก็ยังสามารถเดินชมกันได้อีก ไม่ว่าจะเป็นจารึกต่างๆ ที่เป็นเรื่องวรรณคดีไทย อยู่รอบๆ พระอุโบสถและรอบๆ วัด ตุ๊กตาจีนหลากหลายแบบ เขามอที่เต็มไปด้วยรูปปั้นฤๅษีดัดตน (และน้องแมว) และยักษ์วัดโพธิ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆ ของวัดนั่นเอง เดินในวัดโพธิ์จนเหนื่อยแล้ว เราขอพาคุณเดินตามกันออกมาด้านชุมชนท่าเตียนอีกครั้ง ครั้งนี้เราเดินเข้าซอยประตูนกยูง ถัดจากซอยท่าเรือแดงเพียงหนึ่งซอย ขวามือคุณจะเห็นร้าน Ha Tien (ฮาเตียนคาเฟ่) อยู่ชัดเจน ไม่ไกลจากปากซอยค่ะ ร้านนี้เป็นคาเฟ่สุดเก๋ที่ตกแต่งต่างกันไปในแต่ละชั้น ชั้นสองที่เราเลือกนั่งวันนี้ (หรือถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็อาจต้องพูดว่า มีที่ให้เรานั่ง) ตกแต่งด้วยบรรยากาศโบราณๆ ทั้งพื้นไม้ ผนังไม้ และกรอบรูปเก่าๆ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสัตว์สตัฟฟ์ ซึ่งเป็นของสะสมของเจ้าของร้าน และประดับด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ให้อารมณ์ธรรมชาติ แต่หากขึ้นไปที่ชั้นสามจะเป็นบรรยากาศ Glass House สีขาวสะอาดตา และมีระเบียงด้านนอกด้วยค่ะ เราสามารถสั่งขนมและเครื่องดื่มได้ที่ชั้น 1 เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านเป็นกาแฟมะตูม และยังมีกาแฟที่น่าสนใจอีกมากอย่างเช่น กาแฟอัญชัน กาแฟน้ำมะพร้าว กาแฟลิ้นจี่ หรือกาแฟส้มยูซุด้วยค่ะ ส่วนถ้าใครไม่ดื่มกาแฟก็ไม่ต้องห่วง เพราะเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟก็มีให้เลือกอีกมากทีเดียว สำหรับเค้กต้องบอกว่าอร่อยทุกอย่าง เลือกทานตามชอบกันได้เลยค่ะ นั่งชิลล์ในร้านจนพระอาทิตย์ตก เราอยากพาคุณเดินผ่านวัดโพธิ์ยามค่ำอีกที เวลานี้วัดโพธิ์จะไม่เหมือนเคยค่ะ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ อากาศไม่ร้อน แถมพระมหาเจดีย์สี่รัชกาลตอนค่ำที่มีแสงไฟก็สวยไปอีกแบบนะคะ หมดวันแบบไม่เหนื่อยมาก ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินกลับบ้านกันง่ายๆ อิ่มท้อง อิ่มใจ มีรูปลงไอจีด้วยค่ะ ถ้าใครว่างๆ ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินมิวเซียม แวะคาเฟ่ และหามุมเก๋ๆ ถ่ายรูปในวัดดูนะคะ 😊
nnm's • 17 มี.ค. 63
อ่าน
Gucci จับมือ Oura สร้างแหวนอัจฉริยะทั้งสวยและวิเคราะห์สุขภาพได้ในเวลาเดียวกัน
อูร่า (Oura) เป็นแบรนด์ของแหวนอัจฉริยะที่นำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ด้านสุขภาพ (Fitness Wearables) ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับนาฬิกาแบบสมาร์ตวอช (Smart Watch) แตกต่างที่แหวนนั้นมีขนาดที่เล็กกว่ามาก อย่างไรก็ตามแบรนด์อูร่า (Oura) ต้องการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดีและเป็นมากกว่าอุปกรณ์ยุคใหม่ทั่วไป จึงได้จับมือกับกุชชี่ (Gucci) แบรนด์สินค้าแฟชั่นสุดหรูจากอิตาลี เปิดตัว Gucci x Oura แหวนอัจฉริยะประดับทองและลวดลายแบบกุชชี่ (Gucci)อูร่า (Oura) เป็นบริษัทสัญชาติฟินแลนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 เพื่อสร้างแหวนที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกันกับสมาร์ตวอช (Smart Watch) ที่สามารถตรวจจับข้อมูลทางสุขภาพของผู้สวมแหวนได้ โดยเริ่มวางจำหน่ายหลังจากนั้นไม่นาน โดยเป็น 1 ใน 100 สิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2020 จากนิตยสารไทม์ (TIME Magazines The 100 Best Inventions of 2020) อูร่าริง (Oura Ring) คือ ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท โดยปัจจุบันนับตั้งแต่ปี 2021 แหวนวงนี้เข้าสู่ยุคที่ 3 ของการวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในผลิตภัณฑ์ยุคล่าสุดได้ติดตั้งเซนเซอร์การทำงานจำนวนมากเมื่อเทียบกับขนาดของแหวน ตั้งแต่ตัวตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิร่างกาย ระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งทำให้สามารถวัดคุณภาพการนอน ไปจนถึงการคาดการณ์ประจำเดือนของผู้หญิงได้อีกด้วยGucci x Oura เป็นความร่วมมือที่อาจจะคล้ายกับกรณีของแอร์เมส (Herms) ที่จับมือกับแอปเปิ้ล (Apple) ทำสายหนังสำหรับ Apple Watch เพราะสิ่งที่กุชชี่เข้ามาสร้างสรรค์ก็คือการออกแบบแหวนให้ดูเป็นเครื่องประดับมากขึ้น ตั้งแต่สลักฝังตัวอักษรจี (G) ลงไปรอบแหวน และประดับหนึ่งในตัวอักษรเป็นสีทองเพื่อความโดดเด่น เดินขอบตามเส้นรอบวงของแหวนด้วยทอง 18 กะรัต ซึ่งเป็นทองที่ใช้ในงานเครื่องประดับ ทำให้ Gucci x Oura เป็นแหวนอัจฉริยะที่หรูหรามากขึ้นแหวน Gucci x Oura ยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปของอูร่า (Oura) เช่นกัน โดยในแอปพลิเคชันจะสามารถเข้าถึงระบบเสียงคำแนะนำทางด้านการบริหารร่างกาย การพักผ่อน การฝึกลมหายใจ รวมถึงระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยความสามารถของตัวแหวนและแอปจะมีการปรับปรุงอยู่เสมออูร่า (Oura) มองว่าร่างกายที่ดีไม่ได้เป็นเป้าหมาย แต่คือการเดินทาง ดังนั้น แหวนของอูร่า (Oura) จึงถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมากกว่าการเป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่ดูเข้าถึงได้ยาก โดย Gucci x Oura นั้นวางขายผ่านเว็บไซต์และมีวางจำหน่ายในร้านตัวแทนในสหรัฐฯ ที่ราคา 950 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 32,390 บาทที่มาข้อมูล designboom.comที่มารูปภาพ Oura
TNN ช่อง16 • 31 พ.ค. 65
อ่าน
❣ # จาก 1 ถึง 1 ล้าน
❣# เราหาเงิน 1 พัน 1 หมื่น 1 แสนได้ งั้นทำไมจะหาเงิน 1 ล้าน ไม่ได้ล่ะ? # จากทฤษฎีความน่าจะเป็น แอดมีน้องที่รู้จักหลายคน เขามักจะกลุ้มใจ แล้วก็ถามกับแอดว่า เขาหาเงินไม่พอใช้เลย ใช้เงินเดือนชนเดือน แทบไม่พอกินตลอด เขาควรทำยังไงดีที่เขาจะสามารถหาเงิน มีเงินได้เยอะแบบที่คนอื่นเค้าทำกันตัวของเขาไม่เชื่อว่าจะมีความสามารถ หาเงินหลักแสนหลักล้านได้ซึ่งในการที่เขาสงสัยลองตั้งคำถามเป็นเรื่องที่ดี เหมือนกับเขาก็ได้ตระหนักรู้ว่า เขากำลังทำอะไรอยู่ แล้วสิ่งที่เขาอยากจะไปให้ถึงนั้น มันมีเปอร์เซ็นต์ที่จะได้หรือเปล่าถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจก็ตาม แต่ว่าอยากจะบอกทุกคนแบบนี้ค่ะ ให้มองการหาเงินแบบ ทฤษฎีความน่าจะเป็น ถ้าเราหาเงิน 1,000 ได้ หาเงิน 10,000 ได้ เราก็หาเงิน 1 แสนได้ แล้วทำไมเราจะหาเงิน 1 ล้านไม่ได้ล่ะ จากทฤษฎีความน่าจะเป็น ทุกคนสามารถหาเงิน 1 ล้านบาท ได้อยู่แล้วแน่นอนค่ะ แต่พอเรามัวแต่ไปกลัวมัน ความกลัวจะฝังหัวเรา และตีกรอบฝังลึกไปถึงความรู้สึก"เราทำไม่ได้หรอก" "เราไม่น่าจะหาเงินได้เยอะขนาดนั้น" "มันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ตัวของเรานั้นทำได้"เพราะเรามีความคิดฝังหัวแบบนั้น กลายเป็นจำจัดกรอบให้เราอยู่แค่นั้นเราจึงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ มากกว่าความคิดของตัวเราเอง เพราะว่าเราสะกด ความคิดสร้างสรรค์ของเรานั้นไว้แต่ว่าถ้าเกิดเมื่อเราตั้งเป้าไว้แล้ว โอเคฉันหาเงิน 1,000 ได้ ฉันหาเงิน 10,000 บาท 100,000 บาทได้ ต่อไปฉันก็หาเงิน 1 ล้านได้สิพอเราทะลุกรอบของความคิดได้แล้ว เขาเรียกว่าสติมาปัญญาเกิด สมองเราก็จะสั่งให้ใช้ปัญญาคิดหนทางหาเงินต่อเองเพราะฉะนั้นทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ แอดรับรองค่ะว่าทุกคนสามารถหาเงิน ได้ตามใจอย่างที่เราต้องการแน่นอน^^แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะมีประสบการณ์ หรือว่ามีหลักในการหาเงินอย่างไรอยากจะคุยกันก็อย่าลืมแวะมาคุยกันที่ Facebook Page ฟังฮันฟังใจ - ThaiBrandหรือแอดไลน์ @ ThaiBrand ไว้เล่นกิจกรรมกันนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า ♡ขอบคุณภาพจาก Pixabay ด้วยค่า
Timing of mind • 21 พ.ย. 62
อ่าน
เจมส์ จิรายุ ร่วมกิจกรรม “1 ถ้วยเท่ากับ บริจาค 1 บาท” มอบเงิน 1.1 ล้านบาท สมทบทุนสมาคมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่ฯ
เมจิ บัลแกเรีย ชวน เจมส์-จิรายุ ส่งต่อสิ่งดีๆเพื่อทุกคน กับกิจกรรม1 ถ้วยเท่ากับ บริจาค 1 บาทมอบเงิน1.1ล้านบาท สมทบทุนสมาคมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่ฯ ซีพี-เมจิ ร่วมกับ 7-elevenจัดงานฉลองครบรอบ 11 ปีเมจิ บัลแกเรีย ส่งต่อสิ่งดี ๆ เพื่อทุกคนโดยมีเจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุขพรีเซนเตอร์หนึ่งเดียวตลอดระยะเวลา11ปี เป็นตัวแทนส่งมอบคำขอบคุณให้กับผู้บริโภค ผ่านกิจกรรม 1 ถ้วยเท่ากับ บริจาค 1 บาทชวนคนไทย ร่วมช่วยเหลือสังคม ผ่านทุกๆ การซื้อ เมจิ บัลแกเรีย รสธรรมชาติ ที่ 7-elevenเท่ากับได้บริจาค 1 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย โรคลำไส้ใหญ่ ตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา งานนี้ปิดฉากความประทับใจอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการมอบเงิน1,100,000บาท ให้กับสมาคมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (ประเทศไทย) คุณสลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี เมจิ จํากัดกล่าวว่าตลอด 11 ปี ที่ผ่านมา เมจิ บัลแกเรีย มุ่งมั่นส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภคด้วยการ พัฒนาและนําเสนอผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ที่เน้นประโยชน์เพื่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ในโอกาสวางจำหน่ายในประเทศไทยมาครบ 11 ปี เมจิ บัลแกเรีย จึงร่วมกับ 7-elevenจัดแคมเปญ1 ถ้วยเท่ากับ บริจาค 1 บาท ชวนคนไทยมาร่วมเป็นผู้ให้ผ่านทุกการซื้อเมจิ บัลแกเรีย รสธรรมชาติ ที่ 7-eleven 1 ถ้วย = ได้ร่วมบริจาค 1 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลำไส้ใหญ่ ในช่วงตลอดระยะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ คนไทยทานโยเกิร์ต เพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดี ซึ่งการกินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ดีLB81 สายพันธุ์แท้จากบัลแกเรีย ที่มีงานวิจัยรองรับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงๆ ช่วยให้ขับถ่ายได้เป็นปกติเมื่อทานต่อเนื่อง และช่วยลดอาการหงุดหงิดได้ งานนี้ได้เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุขพรีเซนเตอร์ เมจิ บัลแกเรีย หนึ่งเดียวตลอดระยะเวลา11ปี ที่นอกจากจะมาเป็นตัวแทนในการส่งมอบส่งดี ๆ แทนคำขอบคุณให้กับผู้บริโภค ด้วยการมอบเงินจำนวน1,100,000บาท ให้กับสมาคมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (ประเทศไทย) ซึ่งนับเป็นการร่วมกันทำสิ่งดี ๆ ไปด้วยกันกับผู้บริโภค จากกิจกรรม1 ถ้วยเท่ากับ บริจาค 1 บาทพร้อมด้วยคุณประสิทธิ์ มงคลกุลสัตย์รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมอย่างเป็นทางการ มาร่วมมอบ โดยมีคณะผู้บริหารสมาคมศัลยแพทย์ลําไส้ใหญ่และทวารหนัก (ประเทศไทย) นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์บุญชัย งามสิริมาศ นายกสมาคม, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอรรจนา เตชะกําพุช,พลเรือตรี นายแพทย์ต้น คงเป็นสุข และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริพงศ์ ศิริกุลพิบูลย์ให้เกียรติร่วมพิธีรับมอบ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข เผยความรู้สึกว่ารู้สึกดีและภูมิใจมากครับ กับการได้อยู่เคียงคู่กับ เมจิ บัลแกเรีย ตลอดระยะเวลา11ปีที่ผ่านมา เรียกว่าโตมากับเมจิ บัลแกเรีย ซึ่งจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกภูมิใจคือ ได้ส่งต่อสุขภาพดี ๆ ให้กับทุกคนด้วยโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ตัวเจมส์ส่วนหนึ่งที่สุขภาพดีตลอด เพราะทาน เมจิ บัลแกเรีย ที่มีจุลินทรีย์LB81 ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดีที่มีงานวิจัยรองรับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพยิ่งวันนี้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมที่ทางเมจิ บัลแกเรีย ส่งต่อสิ่งดี ๆ เพื่อทุกคน และสังคมในครั้งนี้ รู้สึกดีใจเป็นสองเท่าเลยครับ
ข่าวบันเทิง • 27 ก.ย. 67
อ่าน
รองเท้า SKECHERS ซื้อ 1 แถม 1
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนมาที่ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่าขอนแก่น ถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามมาค่ะ เราเดินขึ้นมากันที่ชั้น 3 โซนด้านหน้าโรบินสัน จะเห็นบูทขายรองเท้าผู้หญิง และรองเท้าผู้ชาย ยี่ห้อ SKECHERS ใครเคยใส่รองเท้ายี่ห้อนี้จะรู้ว่า ใส่สบายนุ่มเท้า รองเท้าไม่กัดด้วย แถมทนอีกต่างหาก วันนี้ SKECHERS เขานำรองเท้ามาลดราคา แล้วมีแต่รองเท้าคู่สวย ๆ ทั้งนั้น เรามาดูกันค่ะ ว่ามีคู่ไหนบ้างที่เขานำมาลด และการลดราคาครั้งนี้ก็คือซื้อรองเท้าSKECHERS 1 คู่ แถม 1 คู่นั่นแหละค่ะ คู่แรกที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่า รองเท้าคู่นี้น่ารักมาก มีการออกแบบที่ดูดี มีสายรัดไขว้ไปมา ให้รองเท้าดูมีอะไร เพิ่มความน่ามองให้รองเท้า เหมาะกับผู้หญิงสาย ฟรุ้งฟริ้ง คู่นี้มีสีม่วงทึบ พื้นรองเท้าด้านในเป็นสีเขียว มีความนุ่ม เมื่อสัมผัส และรองเท้าคู่นี้ออกแบบมาให้มีซิปรูดด้านหลังรองเท้า แนวมาก มาที่คู่นี้ สำหรับสาว ๆ สายวิ่ง ชอบวิ่งจัดไปSKECHERS รุ่นนี้ พื้นด้านในรองเท้าอย่างนุ่ม สำหรับคู่นี้สีน้ำเงิน แต่รุ่นนี้ไม่ได้มีสีเดียวนะ มีให้เลือกหลายสีกันไปเลย ดูรองเท้าแล้วน่าจะทน ซื้อไปในราคาเพียงคู่ละไม่ถึง 2,000 บาท แต่สามารถจะใช้ได้ทน นาน คุ้มค่ามาก มีสายรัดรองเท้าที่เข้ากันกับสีรองเท้าคือสีน้ำเงิน แถมยังมีโลโก้ SKECHERS ตัว S ติดไว้ข้างรองเท้าด้วย รองเท้าใส่ลำลองก็มีสีสดใส เรียบ ๆ เป็นสีชมพูพาสเทล พื้นด้านในรองเท้านุ่ม แล้วตัวรองเท้าก็ทำจากผ้าเนื้อดี ทำให้ใส่สบาย และความสูงของรองเท้าที่สูงขึ้นมาประมาณ 4 - 5 เซนติเมตร ทำให้ผู้หญิงที่สวมใส่ดูตัวสูงขึ้นมาอีก หุ่นนางแบบเลยคราวนี้ คู่นี้ก็ฟรุ้งฟริ้งอีกแล้วจ้า มีสายรัดที่ทำจากผ้าไขว้ไปมา ถึง 4 ชิ้น รองเท้าสีนี้จะดูเรียบ ๆ ถึงจะไม่ใช่สีขาว มีสีครีมแต่ค่อนไปทางสีขาว มีโลโก้ SKECHERS ติดอยู่ตรงเกือบหลังรองเท้า พิมพ์ลายอย่างดี พื้นด้านในนุ่มนิ่ม การออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้ง่าย และเดินได้อย่างคล่องตัวกับสายรัดที่ออกแบบมาอย่างดี SKECHERS คู่นี้ เป็นรองเท้าลำลอง สามารถใส่เดินเที่ยวนอกบ้าน เดินช็อปปิ้งที่ห้างได้เลย สวมใส่ง่าย คล้ายคัชชู ดูสุภาพเวลาใส่ สีเรียบๆ การออกแบบแฝงลวดลายนิด ๆ คล้ายแกะลายเป็นรูปดอกไม้ สีคล้ายรองเท้าหนัง จับดูพื้นรองเท้านุ่ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ SKECHER เลย ราคาก็ไม่แพงจนโอเวอร์ ให้ดูรองเท้าแฟชั่นแต่ละคู่ไปแล้ว ยังไม่หมดแค่นี้นะ รองเท้ายังมีอีกหลายแบบมาก ต้องลองไปเลือกซื้อดู นอกจากนี้นี่คือภาพบรรยากาศคนต่อคิวซื้อรองเท้า SKECHER ลดราคา ซื้อ 1 คู่ แถม อีก 1 คู่ คนคือเยอะมาก เลือกรองเท้าไม่หวาดไม่ไหว มีเก้าอี้ให้นั่งลอง รองเท้าทุกประเภทอีกด้วย คึกคักมาก อยากให้รีบมาก่อนสินค้าหมด คือดี รองเท้าไม่แพง ลดราคาให้อีกต่างหาก สามารถมาช็อปปิ้งรองเท้า SKECHERS ลดราคา ซื้อ 1 คู่ แถม 1 คู่ ได้นะ ที่บูทหน้าโรบินสันชั้น 3 ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่าขอนแก่น ถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามเวลาห้างเปิด มาช้าหมด อดได้รองเท้าถูกนะ รีบมากันเยอะ ๆ จ้ะ
345Pink • 21 ธ.ค. 62
อ่าน
เที่ยวขุนตาล ใน 1 คืน 1 วัน!!!!
ดอยขุนตาลเป็นสถานที่หนึ่งซึ่งอยู่จังหวัดลำปางที่มีอาณาเขตติดกับจังหวัดลำพูน และเป็นสถานที่ที่สามารถนั่งรถไฟแล้วขึ้นเขาได้เลย และการเดินทางครั้งนี้ฉันเริ่มต้นที่สถานีขนส่งจังหวัดพิษณุโลกโดยมีจุดหมายปลายทางคือดอยขุนตาลฉันและเพื่อนอีก2คนได้เดินทางโดยรถไฟและเป็นครั้งแรกของฉันที่เดินทางโดยรถไฟ พวกเรา3คนเลือกเดินทางโดยรถไฟตู้นอนซึ่งเป็นขบวนเดียวที่วิ่งในตอนนี้และถึงเป้าหมายเร็วที่สุด แต่ราคาแอบแพงนิดนึงขอแอบเข้าช่วงรีวิวรถไฟหน่อยจ้า ในรถไฟนั้นเป็นที่นอนซึ่งมี 2 ชั้นทั้งซ้ายและขวา ฉันและเพื่อนอีก 2 คนได้ชั้นที่ 2 โดยทุกห้องนอนจะมีผ้าม่านคอยปิดไว้ และมีหมอนและผ้าห่มจัดเตรียมไว้ให้เรา ทุกตู้นอนสามารถนอนได้เพียง1คน ตู้นอนสะอาดน่านอนแต่ทำไงได้นอนไม่หลับ 555 มีห้องอาหารด้วยนะ ห้องน้ำถือว่าดีเลยแหละสะอาดดีกลิ่นไม่เหม็นด้วย ให้ 8.5/10 ไปเลยจ้า เพราะเรานอนไม่หลับเลยหักไป 5555 หลังจากขึ้นรถไปไม่นานมากนัก พวกเราก็ถึงสถานีขุนตาล ในเวลา 6.10 น ซึ่งเป็นเวลาที่เช้ามากพวกฉันเตรียมตัวขึ้นเขาโดยจักการภารกิจของตัวเองให้เรียบร้อย ไม่นานพวกเราก็ล้างหนาแปรงฟันจัดการกันเสร็จ เราจึงเตรียมตัวออกเดินทาง โดยที่ฉันได้ดูตารางการเดินรถไฟก่อนออกเนื่องจากจะได้ลงเขาได้ทันเวลา และก่อนขึ้นเขาด้วยความเป็นฉันจึงขอเก็บภาพทางขึ้นโดยมีพื้นหลังเป็นทางรถไฟที่เราผ่านมาและอุโมงค์ที่ได้ขึ้นชื่อว่ายาวที่สุดในประเทศไทย หลังจากเก็บภาพเสร็จเรียบร้อยเราจึงเดินขึ้นเขา เพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล โดยทางเดินขึ้นเขาเป็นทางแคบ ๆ ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าที่มีอุณหภูมิอบอ้าวและเกือบตลอดการเดินทางมีน้องหมาที่สถานีเดินมาส่งเราตลอด เดินขึ้นได้ไม่นานก็เจอถนนซึ่งรถสามารถวิ่งได้ ด้วยความที่มันเป็นทริปฉุดระหุบจึงไม่ได้เตรียมร่างกายพร้อมในการปีนเขาจึงทำให้ฉันและเพื่อน ๆ เหนื่อยมาก พับดื่มน้ำตลอดระยะทางขึ้น ไม่นานก็ถึงที่ทำการอุทยานโดยก่อนเข้าจะมีป้อมสำหรับลงทะเบียนและเก็บค่าบำรุงรักษาและฉันกับเพื่อน ๆ ที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่จึงได้ส่วนลดในการเข้าเหลือคนละ 10 บาทเท่านั้น ทางเดินระหว่างทางที่ขึ้นเขานั้นเป็นถนนที่สามารถเดินได้สะดวกและมีรถผ่านได้และก่อนขึ้นเราขอเก็บภาพบรรยากาศสักหน่อย เดินได้ไม่นานเราก็ถึงทางขึ้นไปยังดอยขุนตาลหรือไปยัง ย. ต่าง ๆ ก่อนขึ้นเราจึงทำการลงทะเบียน พอลงทะเบียนเสร็จฉันเหลือบไปมองระเบียงที่อยู่หน้าป้อมที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ และที่เป็นฉันเองฉันจึงขอเพื่อน ๆ เป็นภาพบรรยากาศเหล่านี้สักครู่ (อีกแล้วจ้าาา) ไม่นานพวกเราก็เดินขึ้นเขาอย่างกระตือรือร้นด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ชมธรรมชาติที่อยู่ข้างบน โดยพวกเราได้พูดคุยกันตลอดระยะทางโดยสนุกสนานทำให้ลืมความเหนื่อย ไม่นานเราก็ถึง ย.1หรือจุดยุทธศาสตร์ที่ 1 นั่นเอง ด้วยความที่กวนของเพื่อนฉันมันพูดด้วยความท้าทายว่า “แค่จิ๊บ ๆ กระจอกมากมึงไม่เหนื่อยเลยว่ะ” จ้ากระจอกจ้า5555เดินได้สักพักเราก็เจอ ย. ที่2 ซึ่งไม่ห่างจาก ย.1 มามากนักและยังไม่เห็นทิวเขาสักเท่าไร พื้นที่นี้เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่หนาที่ปกคลุมรอบๆจนไม่สามารถเห็นทิวเขาบริเวณรอบๆ และเดินต่อมาได้ไม่นานนักเราก็ถึง ย.3 ซึ่งเป็นเวลาเที่ยงแล้ว เราจึงตัดสินใจหยุดที่ ย. นี้เนื่องจากจะไม่ทันรถไฟ จากนั้นก่อนกลับลงจากเขาเราจึงทำการเก็บภาพบรรยากาศที่จุดนี้สักหน่อย ซึ่งจุดนี้เริ่มมีต้นสนสูงใหญ่แล้ว พอถ่ายรูปกันเสร็จเราจึงเดินทางลงเขา และแปลกใจมากในเวลาที่ลงเขาทำไมถึงเร็วกว่าเวลาขึ้นมาก555 ด้วยความที่ลงเขาเร็วเราจึงแวะไหว้สิ่งศักสิทธิ์ ณ บริเวณแห่งนี้ และลงมารอรถไฟเพื่อกลับมอ แม้การเดินทางในนั้นนี้จะเป็นเวลาที่ไม่นานมากนัก แต่ผู้คนที่นี้ที่ใจดีและยิ้มให้เราและเป็นห่วงพวกเรา ทำให้ฉันกับเพื่อนมีความสุขมากๆและด้วยมิตรภาพของเพื่อนฉันทำให้ทริปนี้เต็มไปด้วยความสุขที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นcr.ภาพโดยผู้เขียน
Pornnipa luanloy • 12 พ.ค. 63
อ่าน
รองเท้าแตะ NIKE ซื้อ 1 แถม 1
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรากลับมาพบกันอีกแล้ว ช่วงนี้เจอกันบ่อยหน่อย เรามีอะไรจะมาบอกด้วยแหละ วันนี้เราไปเดินห้างในขอนแก่น ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่าขอนแก่น แล้วขึ้นไปที่ชั้น 3 โซนSUPERSPORTS ฝั่งโรบินสัน แล้วเห็นนี่เลยจ้า รองเท้าแตะไนกี้ลดราคา สุดคุ้มมาก ปกติจ่ายราคาเต็มนะ นี่เขากล้าลด คนมาเดินก็กล้าซื้อ แล้วก็มีรองเท้าแตะสำหรับผู้หญิง แล้วก็รองเท้าแตะสำหรับผู้ชาย อยากรู้รองเท้าแตะลดราคาอยู่จุดไหน จะบอกให้ว่าสังเกตป้ายในกระบะที่เขาเอารองเท้ามาวาง กองรวมกัน กระบะที่เราเห็นว่าลดราคาอยู่ตรงกลางของจุดขายรองเท้ากันเลย แล้วมีหลายสีมาก บางคู่พึ่งออกมาใหม่ น่าซื้อสุดๆ มาดูกันมีคู่ไหนหลงเหลือ รอทุกคนอยู่บ้าง เราคาดคะเนจากสายตา รองเท้าแตะไนกี้ในกระบะรองเท้าลดราคามีเกือบ 100 คู่ และนี่เลยรองเท้าไนกี้สำหรับผู้หญิง ยังเหลือหลายขนาดอยู่นะ มีสีสันที่สดใสมาก เหมาะกับผู้หญิงหวาน ๆ สีชมพู เหลือง พื้นรองเท้าสีขาว เข้ากันดีจังใครได้ใส่น่ารักสุด ๆ ราคาคู่ละ 1,500 บาท แต่ได้ 2 คู่เลยนะ เพราะซื้อ 1 คู่ แถมอีก 1 คู่ มาที่คู่นี้ เท่ห์ได้อีกจ้า สีดำ คาดลาย พิมพ์ภาษาอังกฤษบนรองเท้า ว่า JUST DO IT ออกแบบมาดูดีเลยทีเดียว เหมาะกับผู้ชาย เข้ม ๆ ใส่แล้วเท่ห์อย่าบอกใครเชียว ราคาก็อยู่ที่คู่ละ 1,300 บาท แต่ได้ 2 คู่เชียวนะ พื้นรองเท้าจับดูก็มีความนุ่ม ทำเป็นปุ่มรองรับเท้าให้ใส่ได้อย่างสบายเท้ากันไปเลย มาต่อที่คู่นี้ ดูเรียบๆ แต่ดูดี เป็นรองเท้าแตะสีดำ คู่นี้ไม่ได้พิมพ์ลายเป็นภาษาอังกฤษ แต่พิมพ์ลายเป็นโลโก้ยี่ห้อรองเท้า ไนกี้ ตรงพื้นรองเท้าออกแบบให้มีที่ระบายอากาศเท้า ไม่ให้อับชื้น แล้วคือราคาถูกมากคู่ละ 700 บาท คือจะได้ 2 คู่เพราะซื้อ 1 แถม 1 เฉลี่ยราคาอยู่ที่คู่ละ 350 บาทเอง ใครมากับเพื่อนลองหารกัน ซื้อรองเท้าได้ใส่เป็นแก๊งค์ ลายเดียวกันสีเดียวกัน แต่คนละคู่ไปเลย มาที่คู่นี้กันบ้างเป็นรองเท้าสำหรับผู้หญิงแน่นอน มีสีชมพู, เทา เป็นรองเท้าแบบสวม และมีโลโก้สัญลักษณ์ไนกี้ สีเทาคาดไว้ อย่างสวยงาม พื้นรองเท้าถูกออกแบบมาให้เป็นลวดลาย ตามลายเท้า ใส่แล้วนุ่มสบาย เท่าที่เราอยู่ยังเหลือหลายขนาดเลยนะ สามารถมาเลือกซื้อได้เลย แล้วราคาก็ขาย คู่ละ 1,100 บาท ซื้อ 1 คู่ แถม 1 คู่เหมือนกัน สวยดีนะ และจะบอกว่า รองเท้าแตะยี่ห้อ NIKE ที่บอกว่าซื้อ 1 แถม 1 คือไม่จำเป็นต้องเอาลายเดียวกันสีเดียวกันก็ได้นะ สามารถเลือกอีกคู่ที่มีราคาเท่ากัน หรือถูกกว่ารองเท้าที่เรา ซื้อ คุณ ก็สามารถรับสิทธิ์ ซื้อรองเท้าแตะยี่ห้อ NIKE แบบ 1 คู่ แถม 1 คู่ ไปได้เลย นอกจากนี้รองเท้าแตะยี่ห้อไนกี้ ยังเหลืออีกหลายคู่มาก หลายขนาดด้วย มาซื้อกันได้ที่ SUPER SPORT ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่าขอนแก่น ถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เขาจำหน่ายในราคาขายตามป้าย แต่ซื้อ 1 แถมอีก 1 คู่กันไปเลย มาซื้อช้าหมด อดได้ใส่แตะสวย ๆ เท่ห์ ๆ น่ารักๆ นะ
345Pink • 20 ธ.ค. 62
อ่าน
แม่สุดทุ่ม ซื้อกระเป๋า Gucci ราคาหลายหมื่น ให้ลูก 9 ขวบ สะพายไปโรงเรียน
คุณแม่มาเลย์สุดทุ่ม ซื้อกระเป๋าเป้ Gucci มูลค่าหลายหมื่นให้ลูกชายวัย 9 ขวบ สะพายไปโรงเรียน เผยลูกอยากได้มานาน สำหรับผู้ปกครองหลายคนแล้ว เมื่อลูกหลานใกล้จะเปิดเทอม ก็มักจะซื้อของเตรียมความพร้อมให้เสมอ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นจะมีราคาไม่แพงจนเกินไป แต่คุณแม่ชาวมาเลเซียคนนี้ตรงข้ามกัน เพราะเธอได้ซื้อกระเป๋าเป้แบรนด์หรูให้ลูกชายวัยประถม! วิดีโอถูกโพสต์โดย "ไอซา ซากีร์" นักธุรกิจสาวชาวมาเลเซีย วัย 33 ปี เธอได้เขียนคำบรรยายในวิดีโอไว้ว่า "เมื่อลูกชายวัย 9 ขวบของคุณขอกระเป๋า Gucci" จากวิดีโอ จะเห็นว่ากระเป๋าเป้ใบที่ลูกชายเลือก มีตุ๊กตาไดโนเสาร์ตกแต่งอยู่ ซึ่งกระเป๋าใบนี้มีมูลค่ากว่า 7,625 ริงกิต (ประมาณ 60,000 บาท) ทำให้วิดีโอดังกล่าวดึงดูดชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เพราะพวกเขาต่างประหลาดใจที่เด็กวัย 9 ขวบ จะนำกระเป๋าเป้แบรนด์หรูไปโรงเรียน จากการให้สัมภาษณ์ ไอซากล่าวว่า ตอนนี้ลูกชายของเธอศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนนานาชาติในเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ ซึ่งลูกชายค่อนข้างแตกต่างจากเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกัน เพราะลูกชายไม่มีท่าทีสนใจกระเป๋านักเรียนสไตล์การ์ตูนเลยสักนิด และถึงแม้ว่าจะมีอายุเพียง 9 ขวบ แต่ลูกชายก็มีความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ดังมากมาย "ลูกชายบอกว่ากระเป๋านักเรียนใบเก่าของเขามันใหญ่เกินไป เขาอยากได้กระเป๋าเหมือนพ่อ รองเท้าก็เหมือนกัน เรามักจะซื้อสไตล์ผู้ใหญ่ให้เขา แต่เราเลือกขนาดที่เล็กที่สุด ส่วนตอนที่ซื้อกระเป๋า Gucci ตอนนั้นเราไปซื้อของที่ห้างพอดี เขาเลยขอให้เราซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้ เราเลยซื้อมา มันไม่เป็นไรหรอก เราทำงานหนักก็เพื่อหาเงินมาดูแลลูก" ขอบคุณที่มา worldofbuzz, redchili21
ข่าวสด • 14 ม.ค. 65
ดูเพิ่มเติม