TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “แสงกระสือ” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
แสงกระสือ
สวัสดีครับนับว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถทำให้คนในโรงถึงกับปล่อยโฮออกมาเลย ผมขอรีวิวหนังเรื่องนี้นะครับจะไม่เล่าเนื้อเรื่องหรืออะไรทั้งสิ้นแค่จะบอกความรู้สึกหนังจากการดูจบน่ะครับ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า หลังจากที่ดูแสงกระสือจบสิ่งแรกคือน้ำตา น้ำตาครับ ฟังไม่ผิดผมไม่อยากพูดตอนจบว่าเป็นอย่างไร แต่จะเล่าถึงพฤติกรรมของ 3 ตัวละครหลักที่ไปทำเวรทำกรรมอะไรมาก็ไม่รู้ทำไมถึงต้องพบเจอเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้รูป สพล อัศวมั่นคง แสดงเป็นเจิด อ้างอิง https://www.google.com/url?sa=isource=webcd=ved=2ahUKEwjAqaC_tv เจิด (นาย สพล อัศวมั่นคง) ชายที่หลงรักสายตั้งแต่เล็กจนโต รักมากๆแต่สายไม่ได้รักเจิดเลย สายรัก น้อย มากกว่า มันเป็นอะไรที่ทรมารมากๆเลยนะครับที่เห็นคนที่ที่เรารักไปรักกับคนอื่น ถึงกายจะเป็นปีศาจ แต่ใจก็ทำร้ายคนที่เรารักไม่ลงเสียที ความเจ็บปวดต้องตายลงเพราะปกป้องคนที่ตนรักโดยที่ไม่ได้รักตนเลย ต้องรักแค่ไหนหรอถึงยอมตายเพื่อคนที่เรารักแต่พีคกว่าคือคนที่เรารักไม่ได้รักเราเลยรูป (ภัณฑิรา พิพิธยากร) รับบทเป็นสาย อ้างอิงhttps://www.google.com/url?sa=isource=webcd=ved=2ahUKEwj-g_rxt_HlAhVOinAKHbBJD_gQjhx6BAgBEAIurl=https%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2Fcampus_star%2F167080.htmlpsig=AOvVaw33Ei2WMBv7f_mckGfQVKzxust=1574086640932465 ภัณฑิรา พิพิธยากร หรือสาย ตนต้องรับกับความเจ็บปวดจากการเป็นปีศาจ แต่เธอก็ต้องกลายเป็นแค่ตำนานรักเมื่อทุกอย่างมันพังลงอย่างไม่เป็นท่า ความฝันความรักทุกอย่างต้องพังลงเพราะตนไม่ใช่คนอีกต่อไป การเป็นปีศาจก็รักใครไม่ได้เสียแล้ว แค่ได้เห็นคนที่เรารักยอมรับในตัวตนของเราในสิ่งที่เราเป็นก็ตายตารับแล้ว โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ หรือน้อย ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าน้อยเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์มากๆ ยอมรับในสิ่งที่คนที่ตนรักเป็นถึงจะเป็นปีศาจตนก็รัก มันทำให้สายรู้ว่าถึงตนจะเป็นปีศาจแต่ตนก็มีหัวใจเช่นกัน น้อยหาวิธีการรักษาสายทุกวิธีการ ยอมทำทุกอย่างศึกษาทุกตารางนิ้ว เพื่อรักษาคนที่ตนรักทุ่มเทซะยิ่งกว่าทุ่มเท แต่ทุกอย่างมันก็พังลงเมื่อคนที่ตนรักกับตายลง ชีวิตน้อยก็เหมือนกับตายทั้งเป็นเช่นกัน โอ้ยไม่อยากสปอยล์เลย ไม่ไหวจริงๆ ตอนนี้คือเขียนทั้งน้ำตาจริงๆ มันอึดอัดอ่ะ ทำไมทุกอย่างถึงไม่เป็นไปตามที่เราต้องการวะ ขอบคุณที่เปิดโอกาศได้มารีวิวหนังนะครับหนังเรื่องนี้คือดีจริงๆ เป็นหนังผีแต่ไม่มีความน่ากลัวเลยแต่มันทำให้เห็นอีกมุมนึงของปีศาจ ทำให้เราเข้าใจว่าเขาก็มีหัวใจเช่นกัน และได้ข้อคิดจากหนังเรื่องนี้ว่า ไม่มีอะไรนะครับที่เป็นไปตามที่เราต้องการ ได้ทุกครั้ง มีผิดหวังบ้างเสียใจบ้าง หนังเรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนสติที่ดีเลยแหละครับ ขอบคุณครับภาพปก อ้างอิง https://pin.it/kyrm5ocjhz2c7l รูป (โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์) รับบทเป็นน้อยอ้างอิง https://www.google.com/url?sa=isource=webcd=ved=2ahUKEwiC2ZviufHlAhWawTgGHUMVDO0Qjhx6BAgBEAIurl=http%3A%2F%2Fwww.tunwalai.com%2Fstory%2F263706%2F%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259A%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2588psig=AOvVaw1i13eOsSi70c4NiFDfQVIzust=1574087069583774
เด็กผี • 25 พ.ย. 62
อ่าน
แสงกระสือ ความเชื่อ หรือ วิทยาศาสตร์
แสงกระสือ ความเชื่อ หรือ วิทยาศาสตร์ตามความเชื่อแต่โบราณนานมาของประเทศไทย กระสือถือได้ว่าเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีหัวและไส้ และมีแสงที่ลำไส้ลอยไปลอยมา กินของสดเป็นอาหารในเวลากลางคืน เมื่อชาวบ้านตื่นมาเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของตนเองถูกกัดกินจนตาย และ มีคราบเลือดต่าง ๆ อยู่ในที่เกิดเหตุ ต่างก็บอกกันว่า เป็นเพราะผีกระสือมากินสัตว์เลี้ยงของพวกเขาในเวลากลางคืน ความเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ถูกปลูกฝังกันมาอย่างยาวนาน จวบจนทุกวันนี้ เครดิตภาพส่วนตัวผู้เขียนเอง ก็เคยได้มีโอกาสไปดูที่งานภูเขาทองเหมือนกัน เพราะความอยากรู้อยากเห็น เห็นเขาแปะป้ายไว้ใหญ่มาก ว่าในนั้นมีผีกระสือให้ดู จึงอยากเห็นตัวตาตัวเอง ว่าผีกระสือจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร โดยมีค่าเข้าดูผีกระสือคนละ 20 บาท เห็นราคาแบบนี้แล้ว ไม่รอช้า จ่ายเพียงแค่ 20 บาท ได้ดูผีกระสือแบบเป็น ๆ โดยไม่ต้องไม่สุ่มรอหาดูตามท้องนอง แต่พอได้เข้าไปแล้ว แบบว่า เห็นแล้วมีอึ้งครับ ใครอยากดู รอดูได้ครับ งานวัดภูเขาทอง เดือนพฤศจิกายน ผมไม่อยากจะอธิบายบายมาก เดี๋ยวคนจัดผีกระสือมาให้ดู จะขาดรายได้เครดิตภาพผู้เขียนเอง เท่าที่จำได้ จะได้ฟังข่าวเรื่องผีกระสือ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ตามช่องข่าวทางโทรทัศน์ ว่ามีชาวบ้านเห็นผีกระสือ บ้างก็ถ่ายวีดีโอมาให้ดู บ้างก็เล่ากันปากต่อปาก ก็จะเห็นได้มีความเชื่อนั้นยังมีอยู่จริง คนไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น ก็จะไม่เชื่อ (เราไม่เป็นเขาเราไม่รู้หรอก)และนั่นคือ ความเชื่อของประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ผู้เขียนเองก็ขอเล่าแบบสั้น ๆ ตามข้างบนนั่นแหละครับ (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่) ส่วนถ้าเป็นทางวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนเองก็ได้มีโอกาสสืบค้นข้อมูลดูว่าจริง ๆ แล้วทางฝรั่งเขาก็มีกันนะครับ และ ก็มีการเจอแบบนี้มากว่า 500 ปีแล้วเหมือนกันเครดิตภาพแต่สิ่งที่เขาเห็น เขาไม่ได้จินตนาการเหมือนคนไทยครับ สิ่งที่เขาเห็น เขาจะเห็นเป็นลูกไฟลอยไป ลอยมา หรือที่พวกเขาเรียกกันว่า Ball Lightning ซึ่งก็เป็น ลูกบอลไฟ นั่นเอง การเห็นของเขา เขาจะต้องตั้้งสมมุตฐาน และ พิสูจน์ว่าสิ่งที่เห็นมันคืออะไรสิ่งที่พวกเขาเห็น พวกเขาได้นำมาพิสูจน์ และ พยายามหาข้อมูล ข้อเท็จจริง และมีการทดสอบ ว่า Ball Lightning นี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร มีที่มา ที่ไปอย่างไร พวกเขาจะไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ โดยปราศจากข้อพิสูจน์ (แต่ละประเทศจะมีความเชื่อ และ มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน)แต่การเกิดขึ้นของ Ball Lightning นี้ แต่ละครั้งจะเกิดขึ้นเพียง 1-10 วินาที เท่านั้น จึงเป็นการยากที่จะพิสูจน์ สิ่งเหนือธรรมชาติเช่นนี้เครดิตภาพแต่จากการสังเกตุ และ ทดลอง พบว่า ลูกบอลไฟ (แสงกระสือ) นี้ จะเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่มีฝนฟ้าคะนอง และ เกิดขึ้นเหนือพื้นดินไม่มากจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ ค้นพบทฤษฎีหนึ่ง ที่อาจมีความเป็นไปได้ ก็คือ เมื่อมีฟ้าผ่า แล้ว ผ่ามาลงดิน จะทำให้เกิดแร่ซิลิเกตที่อยู่ในดิน กลายเป็นไอ และ คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ที่อยู่บนดิน จะไปจับกับออกซิเจน กลุ่มก้อนขึ้นมา แล้วไปจับกับซิลิเกต ทำให้เกิดกระบวนการทางเคมีขึ้น จึงเกิดเป็นกลุ่มก๊าซของอะตอมซิลิกอนที่เป็นพลัง และ พวกนี้เองก็จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ที่เป็นอนุภาพของนาโนที่ลอยในอากาศได้ และ ทำปฏิกริยากับออกซิเจน จึงทำให้เกิดความร้อน และ เป็นแสงของมาเป็นลูกบอลได้แต่นั่น ก็เป็นแค่ ทฤษฎี และ สมมุติฐานของนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังหาข้อสรุปจริง ๆ ไม่ได้ เพราะก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกหลายท่านที่มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันดังนั้น แสงกระสือในบ้านเรา ก็ยังคงเป็นผีกระสือBall Lightning ของบ้านเขา ก็ยังคงเป็นสะสาร อะตอม พลังงาน ที่ลอยได้ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และ การรับชมกันนะครับเครดิตภาพปก
HotelMania • 9 เม.ย. 63
อ่าน
แสงกระสือ 2
เรื่องย่อ แสงกระสือ 2 ชื่อเรื่อง แสงกระสือ 2ประเภท ดราม่า / สยองขวัญ / โรแมนติกนำแสดงโดย กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, กฤษดา สุโกศล แคลปป์กำกับโดย ปภังกร ปุญจันทรักษ์กำหนดฉาย 30 มีนาคม 2023ความยาว 123 นาที อ่านรีวิวหนังได้ที่นี่
เรื่องย่อหนัง • 29 ม.ค. 66
อ่าน
รีวิว Inhuman Kiss (แสงกระสือ) เมื่อผีกระสือถูกตีความใหม่ น่ารักถูกใจวัยรุ่น!
"มนต์รักผีกระสือ"หนังผีไทย ๆ ส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปทางตลกโปกฮา เน้นดูง่ายเบาสมองหรือไม่ก็ไปในทางหนังผีสยองขวัญมีฉากตุ้งแช่เยอะ ๆ แต่กับหนังผีเรื่อง "แสงกระสือ" จะฉีกแนวจากที่ว่ามา เพราะว่ามันเป็นหนังผีสยองขวัญ+รักโรแมนติก เป็นความแปลกใหม่ของหนังไทยที่นาน ๆ จะเกิดขึ้น แถมมาตรฐานยังทำได้ดีกว่าหนังผีไทยที่ผ่านมาอีกด้วยแสงกระสือจะหยิบเรื่องราวของตำนานผีกระสือมาเรียบเรียงใหม่ ว่าด้วยเรื่องราวของ "สาย" หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันจะเป็นพยาบาล แต่ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้กลายเป็นผีกระสือ สร้างความหวาดกลัวแก่คนในหมู่บ้าน ขณะที่ "น้อย" กับ "เจิด" เพื่อนของเธอก็ได้ตกหลุมรักเธอพร้อม ๆ กัน ศึกหัวใจมีได้คนเดียว แต่ศึกภายนอกกับการตามล่ากระสือเองก็เช่นกัน งานนี้ สาย ต้องหนีเอาตัวรอดให้ได้และต้องเลือกรักแท้เพียงหนึ่งเดียวการที่ แสงกระสือ นำตำนานที่คุ้นเคยของคนไทยมาเล่าใหม่ มันก็ทำให้เรื่องราวดูทันสมัยไม่เฉิ่มเชย ตอบโจทย์วัยรุ่นด้วยการผูกเรื่องความรัก 3 เส้าเข้ามาด้วย ก็เป็นอะไรที่สูตรสำเร็จแต่ก็ใช้ได้ผลทุกที ที่มาที่ไปของกระสือมีการอธิบายชัดเจนว่า เจ้าผีสางตัวนี้มันมาจากอะไร มีวิธีติดต่อ-กลายพันธ์อย่างไรบ้าง ซึ่งดู ๆ ไปแล้วก็ให้อารมณ์ผีซอมบี้แบบฉบับไทย ๆ นี่แหละงานโปรดักชั่น งานถ่ายภาพหรือสถานที่โลเคชั่นการถ่ายทำ บอกเลยว่าดูดีมาก โดยในเรื่องจะเล่าเรื่องราวในเขตชนบทห่างไกลจากเขตพระนคร อาคารสถานที่ให้บรรยากาศอึมครึมไม่น่าไว้วางใจ แม้กระทั่งในฉากตอนกลางวันก็ยังให้ความรู้สึกสยอง บวกกับดนตรีประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็พยายามบิ้วท์ เร่งเร้าอารมณ์ให้คนอินกับหนังเหลือเกิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีและหายากทีเดียวที่หนังไทยมีดนตรีประกอบขับเคลื่อนอารมณ์คนดูบทภาพยนตร์ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้แสงกระสือ ดูดีกว่าหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านมา มีปมปริศนาการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม มีลูกเล่นชั้นเชิงให้คิดตามตลอด ความดราม่าใส่ได้สุดหรือความรักของตัวละครหลักก็ทำได้ดี จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่แสนเศร้า และที่น่าสนใจก็คือภายใต้แวหนังสยอง-โรแมนติก มันก็มีความเป็นหนัง "แอ็คชั่น" แฝงนิดหน่อยด้วย เชื่อว่าหากนำส่วนของฉากแอ็คชั่นไปต่อยอดก็เรียกว่าน่าสนใจมาก ๆ ทีเดียวตัวละครหลักในเรื่องมีความสำคัญ แม้กระทั่งตัวละครรอง ๆ ก็ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหลัก สามารถนำไปแก้ประเด็นที่ผูกไว้ บ่งบอกได้ว่าทีมงานใส่ใจกับบทตัวละครได้ดี นางเอกของเรื่อง (มินนี่ - ภัณฑิรา พิพิธยากร) แสดงดีมาก ทั้งในตอนที่เป็นคนหรือกระสือ ซึ่งการแสดงสีหน้าตอนเป็นผีเผลอ ๆ ทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ ที่สมทบก็ทำได้ดีไม่แพ้กันช่วยเสริมให้หนังมีสีสันมากขึ้นงานภาพกราฟิก CGI ก็จัดว่าดีงาม อาจเป็นเพราะว่าโทนหนังจะเน้นที่ตอนกลางคืนมากกว่าก็เลยเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ CGI ดูเนียนตา กลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง แต่รวมแล้วจัดว่าดีทั้งฉากหรือตัวผีกระสือและ "ปีศาจ" ที่ออกแบบได้ดีสมจริง ไม่ดูตลกโปกฮา รายละเอียดการ Make up จำพวกบาดแผลฉีกขาด เน่าเปื่อย สิ่งเหล่านี้เก็บรายละเอียดได้ดี รู้สึกชวนแหวะกันเลยทีเดียวสรุปแล้วแสงกระสือเป็นหนังไทยที่โดดเด่นเรื่องความสร้างสรรค์แปลกใหม่ ไม่จำเจอยู่กับความตลกหรือสยองที่เห็นกันดาษดื่น แสดงให้เห็นว่าแม้เป็นผีแต่ก็มีความรักได้เหมือนกัน แต่ว่าเรื่องนี้ก็มีข้อเสียรายทางอยู่บ้างกับบางฉาก ตัวละครบางตัวที่ยังไม่เคลียร์ใจเท่าไหร่ ประเด็นของตัวละครชื่อ "เจิด" น่าจะขยี้ได้มากกว่านี้ มันจะได้ส่งอารมณ์ให้บทของเขาดูน่าเชื่อถือ-น่าสงสารเขามากขึ้นก็เป็นหนังไทยรูปแบบแปลกใหม่ที่ตีความได้ทันสมัย ถูกใจวัยรุ่นแน่นอน ส่วนใครที่อยากจะรับชมสามารถเข้าไปชมได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง TrueID ได้เลย พบกับความสยองผสมโรแมนติกได้ใน แสงกระสือ หรือ Inhuman Kissหากต้องการอ่านรีวิวภาพยนตร์ดี ๆ สามารถติดตามได้ที่เพจ อินกะหนัง ได้เลยครับ"9/10" (A Rank)ที่มารูปภาพ: รูปภาพปก / รูปภาพ 1 / รูปภาพ 2 / รูปภาพ 3 / รูปภาพ 4
AZM_TH • 16 มิ.ย. 63
อ่าน
รีวิวภาพยนตร์ไทยน้ำดีอย่าง แสงกระสือ
บทความนี้นักเขียนจะมารีวิวภาพยนตร์ไทยน้ำดีเอาใจคนดูสายสยองขวัญ / ดราม่า เรื่อง แสงกระสือ สมควรดูหรือไม่ จะเป็นอย่างไรตามนักเขียนมาได้เลยแสงกระสือ เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก / แฟนตาซี / ระทึกขวัญ ที่ได้ผู้กำกับมากความสามารถอย่าง สิทธิศิริ มงคลศิริ ปละได้ผู้เขียนบทอย่าง ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่เคยผ่านกำกับภาพยนตร์อย่าง รักแห่งสยาม มาแล้ว นำแสดงโดย ภัณฑิรา พิพิธยากร, โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, สพล อัศวมั่นคง, สุรศักดิ์ วงษ์ไทย และอีกมากมายมาร่วมกันแสดงฝีมือในภาพยนตร์แสงกระสือ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่ค้นพบว่าทุกคืนตัวเองจะต้องกลายร่างเป็น กระสือ ทำให้เธอต้องเอาตัวรอดจากกลุ่มนักล่ากระสือและหาทางรักษาให้หายเป็นกระสือไปพร้อม ๆ กับการช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทของเธอเองความรู้สึกหลังชม แสงกระสือ สำหรับนักเขียนหลังจากที่นักเขียนดูจบไปแล้ว ต้องขอบคุณทางทีมงาน ผู้กำกับรวมถึงนักแสดงที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ให้คนไทยได้ดูกัน ด้านการเล่าเรื่องถือว่ากระฉับ เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ ไต่ระดับความสนุก ความพีคขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีการนำตำนานของกระสือมาเล่า ปรับบริบทให้เข้ากับตัวภาพยนตร์ และทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ด้านการแสดงต้องขอชื่นชมนักแสดงหลักของเรื่องที่พาตัวหนังไปถึงจุดที่เกินคาดไว้แล้ว อีกสิ่งที่ต้องชื่นชมไม่ชมไม่ได้จริง ๆ คือ คอสตูม CG ที่เนี้ยบมากพิถีพิถัน การออกแบบของตัวกรือสือที่ไม่ได้ชวนสยองเกินไปอย่างที่คิด ทำออกมาได้ไม่ขาดไม่เกิน ส่วนตัวบทของเรื่องนี้ไม่ได้เล่าเน้นที่ว่ากระสือจะต้องออกมาน่ากลัวสยองขวัญต้องออกมาฆ่าคนไปทั่ว แต่เล่าในมุมที่คนยังไม่เคยสัมผัส อย่างที่ว่าทุกสิ่งล้วนมีหัวใจมีความรู้สึก กระสือก็เช่นกัน ซึ่งทำให้เราอินในความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิททั้งสามคน รวมถึงความสัมพันธ์ของคนกับผี ท้ายที่สุดแล้วหนังเรื่องนี้ยังให้ข้อคิดให้เราไปคิดกัน เราไม่อาจต่อต้านธรรมชาติของการเติบโตได้ ไม่ว่าทั้งด้านดีหรือด้านร้าย เพียงแต่เราต้องยอมรับและรับรู้ และต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ มันเป็นเพียงบททดสอบหนึ่งในชีวิตของเรา หนังเรื่องนี้จึงให้คุณค่าในหลายระดับ ทั้งความงาม ปัญญา และอารมณ์เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการรีวิวภาพยนตร์ แสงกระสือ หากใครชอบก็สามารถไปตามดูกันได้ ทาง Netflix ซึ่งสามารถรับชมผ่านกล่อง True ID TV ได้แล้ววันนี้ สำหรับวันนี้นักเขียนก็ขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันในบทความหน้านะครับขอบคุณรูปภาพ ภาพปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4
Tumsaurus • 18 มิ.ย. 63
อ่าน
รีวิว แสงกระสือ ตำนานพื้นบ้านกับความรักอันขมขื่น
แสงกระสือ หนังไทยโรแมนติก ระทึกขวัญ เรื่องราวความรักของอมนุษย์ที่ครองใจคอหนังไทยหลายคน แม้ยอดรายได้จะไม่อู้ฟู่แต่คำชมนั้นล้นหลาม ผมเป็นคนหนึ่งล่ะที่ยกนิ้วให้ และตั้งใจจะดูตั้งแต่เห็น Trailer แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ทันเข้าชมในโรง ดีนะที่ Netflix นำมาฉายต่ออย่างว่องไว และย้อนกลับไปดูอีกครั้งแสงกระสือไม่เพียงได้รับคำชื่นชมจากผู้ดู หลังออกฉายก็ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เสนอชื่อเป็นตัวแทนหนังไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film Award) อีกด้วย นับว่าแสงกระสือเป็นหนังที่น่ากลับไปดูอีกครั้งจริง ๆ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู เชิญเลยที่ Netflix รับรองไม่ผิดหวัง“น้อย” โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ พระเอกของเรื่องแสงกระสือ ที่ได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ก็แสดงได้เยี่ยมสมรางวัล ตอนดูอินไปด้วย ยิ่งฉากจูบ และฉากกระสือโอบกอด ภาพออกมาได้หยึยดี แต่หยึยแบบซาบซึ้งเพราะว่าคนเราต้องรักมากขนาดไหนถึงยอมให้ไส้สด ๆ กระดึบ ๆ มาสัมผัสหน้า แน่นอนว่าฉากนี้ต้องใช้ซีจีเข้าช่วย คงไม่มีใครสาวไส้ออกมาได้อย่างนั้นหรอก เมื่อมีซีจีแสดงว่านักแสดงต้องเล่นโดยคิดว่านั่นคือไส้ของคนรัก และต้องแสดงท่าทาง สีหน้า แววตาออกมาให้สมจริง และซาบซึ้งให้ได้ ไม่ใช่แค่ยืนทำหน้าตาเหวอ ๆ เพียงอย่างเดียว เป็นอย่างนั้นใครเขาจะมอบรางวัลให้ ว่าไหมหากใครอายุ 30 ขึ้น คงคุ้นละครเรื่องกระสือ ของช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เป็นอย่างดี เพราะถือเป็นละครกระสือที่ถูกพูดถึงกันมาก ผมเองก็ชอบ ทุกวันนี้หากใครเอ่ยถึงผีกระสือ เพลงประกอบละครเรื่องนี้ลอยขึ้นมาทันที “กระสือกลางวันมันเป็นหญิง มีทุกสิ่งธรรมด้าธรรมดา...” หยิบละครเรื่องนี้มาเอ่ยถึง ไม่ได้เปรียบเทียบ แต่จะบอกว่า นางเอกเรื่องแสงกระสือ รับบทโดย มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร ก็ชื่อสาย เป็นชื่อเดียวกันกับ กระสือยายสาย ในละครที่ยกมา แสดงว่าถ้ากระสือชื่อ ‘สาย’ จะทำให้ความสมจริงสูงมาก ผมเองก็คิดอย่างนั้นนะฉากของแสงกระสือเป็นบรรยากาศท้องทุ่งชนบทไกลปืนเที่ยง ที่ตำนานกระสือถูกพูดถึงและก่อความกลัวให้ชุมชนอยู่เสมอ ดูจากเนื้อเรื่องเป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะน้อยบอกสายว่า หากสงครามสงบเมื่อไหร่ ทั้งคู่จะไปอยู่พระนครด้วยกัน ทว่าสงครามระหว่างมนุษย์กับอมนุษย์เกิดขึ้นซะก่อนจุดขัดแย้งของแสงกระสือ ไม่ใช่ความเป็นผีของสาย หรือการกลายร่างเป็นกระหังของ ‘เจิด’ ซึ่งรับบทโดย สพล อัศวมั่นคง หรือการกำจัดกระสือสายออกไป ทว่าอยู่ที่รักสามเส้า ของสาย น้อย เจิด และความเจ็บช้ำในรักของหมอผีนักล่ากระสือ รักแรกเป็นการแย่งชิง ส่วนรักที่สองเป็นการแก้แค้น แค้นที่เคยถูกกระสือสวมเขา เมื่อมีปัญหาหัวใจเข้ามาจึงทำให้แสงกระแสมีมิติที่น่าติดตาม สมกับชื่อภาษาอังกฤษที่ใช้ว่า Inhuman kiss (รอยจูบของอมนุษย์) จูบที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ครบรส ทั้งโรแมนติก ระทึก และซาบซึ้งและในปี 2564 แสงกระสือก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพชั้นเลิศจากการคว้ารางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 29 ในสาขา-บันทึกเสียงและผสมเสียงยอดเยี่ยม-ถ่ายภาพยอดเยี่ยม-นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (มินนี่ - ภัณฑิรา พิพิธยากร)จึงเป็นข้อชี้ชัดให้เห็นว่า แสงกระสือ ได้ช่วยยกระดับวงการภาพยนตร์ไทย และนำเอาเรื่องเล่าพื้นบ้านมาทำให้ครองใจคนรุ่นใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นอ่านบทความนี้จบสามารถพิสูจน์ได้ใน Netflix ซึ่งรับชมผ่านกล่อง TrueID ได้ชัดแจ๋ว โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยคลิกที่นี่ ข้อดีของการเป็นสมาชิก Netflix ผ่านกล่อง TrueID คือ อยากดูหนังดี ๆ ที่ชื่นชอบย้อนหลังเมื่อไหร่ ก็ดูได้ทันที ไม่มีหนีหาย เป็นหนังลิขสิทธิ์แท้ ได้อุดหนุนผู้ผลิตตรง ๆ
AnusornSrikhamkhwan • 28 ก.พ. 64
อ่าน
"แสงกระสือ" หนังที่จะทำให้ทุกคนร้องไห้กับผี
สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว ผมจะมาแนะนำหนังผีที่ครองใจผมและผมเชื่อว่าหนังผีเรื่องนี้น่าจะครองใจคนดูอยู่มากพอสมควร เนื่องด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่มันผสมและอยู่ในเรื่องทำให้หนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ และตัวละครแต่ละตัวละครก็สามารถทำให้เราอินไปถึงบทบาทที่พวกเราเล่นและแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ ผมเองก็ชื่นชอบมากด้วย และตั้งแต่ที่ดูหนังจบผมก็ไปเรียนไม่ทันเลย เพราะผมชอบ"สาย" หยอกๆ เอาล่ะไปทำความเข้าใจหนังเรื่องนี้กันเลยเนื้อเรื่อง"สาย" หญิงสาวเป็นเด็กในหมู่บ้าน เมื่อครั้งเป็นเด็กไปเล่นซ่อนแอบที่บ้างร้างในป่าช้า ที่มีเรื่องเล่าตำนานผีกระสือ "อีนวล" ที่อยู่ที่นั่น มี น้อย เจิ้ด และเพื่อนอีก 1 คนที่ไปด้วยกัน ตอนที่ไปเล่นซ่อนแอบเขาก็ได้มีการไปซ่อนยังที่ต่างๆ ของบ้าน แต่ในตอนนั้นมี "น้อย" เพื่อนชายอีกคนกลัวผี สายเลยเอาสร้อยคอของสายให้ใส่ และเรื่องก็ตัดมาตอนที่สายตื่น เมื่อสายโตแล้วตื่นขึ้นมาสายก็เห็นรอยเลือดที่เป็นเลือดประจำเดือน และในทุกๆ วันสายก็จะไปที่สุขศาลา เพื่อที่จะไปช่วยหมอดูแลคนไข้เพราะสายเองมีความฝันว่าอยากเป็นพยาบาล ในทุกๆเช้าจะมี "เจิ้ด"ไปรับไปส่งที่สุขศาลาประจำ เพราะเจิ้ดชอบสาย แต่วันนั้นพอสายไปถึงสุขศาลาก็ไม่เจอหมอเพราะสมัยนั้นเกิดสงคราม หมอเลยเป็นคนที่ทางรัฐบาลจะสั่งให้ไปเป็นกองกำลังเสริม และในวันนั้นก็มีเด็กที่มาทำการรักษาโดยที่แม่ของเด็กคนนั้นได้เล่าว่า น่าจะมีผีกระสือออกอาระวาดเพราะไก่ของชาวบ้านได้สูญหาย แต่สายก็ไม่ได้คิดอะไรวันต่อมาสายก็ตื่นขึ้นมากับเลือดประจำเดือน แต่ครั้งนี้มันเยอะกว่าเดิมแต่สายก็ไม่ได้คิดอะไร จนชาวบ้านเริ่มลือกันว่าผีกระสือออกอาระวาดมากขึ้น สายเลยชวนเจิ้ดไปที่บ้านร้างเพื่อที่จะไปพิสูจน์ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืออะไร แต่ในขณะที่กำลังไปถึงบ้านร้างสายก็ได้เจอกับ "น้อย" แม้ว่าพวกเขาจะโตเป็นวัยหนุ่มสาวแล้วแต่สายจำสร้อยคอที่สายเคยเอาให้น้อย เลยทำให้สายจำน้อยได้ แต่น้อยไม่ได้มาคนเดียวน้อยมากับกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มของคนไล่ล่ากระสือ พวกเขามากับน้อยเพราะตอนนั้นอยู่ในช่วงสงคราม น้อยที่เรียนหมอเลยทำให้ต้องไม่ได้เรียนต่อเพราะเกิดสงคราม แต่ในช่วนนั้นน้อยจะกลับบ้านเลยได้เจอกลุ่มนี้เข้าน้อยเลยได้โกหกพวกเขาว่าที่หมู่บ้านนี้มีผีกระสือ เพราะน้อยอยากกลับบ้านนี่จึงเป็นทางเดียวที่จะทำให้น้อยได้มาที่นี่ แม้ว่าน้อยจะยังไม่รู้ว่าที่หมู่บ้านมีหรือไม่มีก็ตาม สายดีใจมากที่น้อยกลับมา น้อยเลยได้มาพักที่สุขศาลา โดยมีเพื่อนๆ ในวัยเด็กเอาของใช้ส่วนตัวมาให้ แต่เนื่องจากน้อยเรียนหมอน้อยจึงไม่เชื่อเรื่องผี เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาคิดว่าเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ และทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้และในทุกๆ วันก็จะมีเหตุการณ์ที่กระสือไปกินไก่และควายของชาวบ้าน ทำให้เกิดการไล่ล่ากระสือแต่ก็ยังไม่มีใครจับได้ จนสายรู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่คนธรรมดาแต่เป็นกระสือที่ชาวบ้านและกลุ่มนั้นกำลังไล่ล่าจนวันหนึ่งน้อยได้เห็นกระสือกำลังลอยอยู่เหนือศีรษะเลยได้วิ่งตาม กระสือได้ลอยไปยังบ้านของสาย หน้าต่างที่เปิดไว้ทำให้หัวของกระสือได้ลอยเข้าไปในห้องนั้น น้อยเลยปีนบันไดขึ้นไปเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับสาย แต่พอน้อยปีนขึ้นไป สิ่งที่น้อยเห็นคือกระสือกำลังกลับเข้าร่างซึ่งเป็นร่างของสายเอาเครื่องในเข้าไปในร่างจนสำเร็จและน้อยกับสายก็ได้เห็นสบตากัน น้อยตกใจมากเลยตกบันไดและได้รีบออกจากหมู่บ้าน สายเองก็เอาแต่โทษตัวเองว่าจะทำให้น้อยหนีไปสายมาที่สุขศาลาก็ไม่เจอกับน้อย เพราะน้อยได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ของน้อยออกจากหมู่บ้านไปแล้ว แต่น้อยไม่ได้ไปไหนไกลเพราะน้อยไปหาพระไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระฟังว่าคนที่เขารักเป็นกระสือ พระเลยบอกว่า "จงเชื่อในสิ่งที่ตาเองเห็น แต่จงทำในสิ่งที่ใจเองบอก" น้อยเลยได้กลับมาหมู่บ้านอีกครั้ง และสายก็ดีใจมากและน้อยก็ไม่ได้กลัวสายแต่อย่างใด เพียงแต่น้อยกำลังหาหนทางช่วยสาย ในทุกๆ วัน สายจะได้กินน้ำที่เจิ้ดเอามาให้เพราะสายเจ็บคอ แต่วันนี้มีเด็กสาวในหมู่บ้านไม่สบายได้มากินน้ำที่สายกินไม่หมด และในตกดึกวันนั้นเด็กสาวคนนั้นได้กลายเป็นกระสือ ทำให้กลุ่มคนที่ไล่ล่ากระสือมาจัดการสาวน้อยคนนั้นโดยการฆ่า และนั่นยิ่งทำให้เกิดการไล่ล่าครั้งใหญ่เพราะทุกคนในหมู่บ้านเริ่มวาดกลัวและระแวง โดยที่ทุกวัน น้อยจะหาวิธีการไม่ให้สายไปออกหากินข้างนอกเพราะกลัวว่ากลุ่มคนพวกนั้นและชาวบ้านจะรู้ว่าสายเป็นกระสือและเกิดอันตรายกับสายน้อยเลยหาวิธีไม่ว่าจะเป็นการเอาไก่ตายมาวางไว้ใต้ถุ่นบ้านเพื่อให้สายกิน เนื้อเรื่องต่อจากนี้จะมีความเข้มข้นและลุ้นระทึก และยังมีการหักมุมในเรื่องทำให้เราเองยังคาดไม่ถึง และเกิดเป็นสิ่งที่ทำให้น้ำตาไหลกันเลยทีเดียวอยากสปอยเยอะกว่านี้นะครับ แต่เกรงว่ายังมีบางคนที่ยังไม่ได้ดู พอแค่นี้ดีกว่านะครับ สำหรับใครที่อยากดูหรือคนที่ดูในโรงไม่ทัน สามารถที่จะไปดูได้ที่Netflix: https://www.netflix.com/th/title/81093122True id: https://movie.trueid.net/movie/OjOGQbQEKypj(ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ตามแต่ละเว็บ)นักแสดงภัณฑิรา พิพิธยากร รับบท สาย โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ รับบท น้อย (ซ้ายมือ)สพล อัศวมั่นคง รับบท เจิด (ขวามือ)สุรศักดิ์ วงษ์ไทย รับบท ทัด หัวหน้าของกลุ่มนักล่ากระสือ และยังมีนักแสดงสมทบอื่นๆ อีกหลายคนเพลงประกอบและที่ขาดไม่ได้ก็คือเพลงเพราะๆ ของเรื่อง เพลงนี้คือจุดเริ่มต้นของผมที่ทำให้สนใจหนังเรื่องนี้เลยครับ ความหมายดีและตัดต่อได้เหมือนหนัง ทำให้ผมอินทั้งเพลงและทั้งหนังเลยครับเพลง เหลือวิญญาณก็จะรัก อิมเมจ สุธิตา เป็นคนร้องและอีกเพลงที่ออกมาทีหลังจากที่หนังออกโรงเพลง หัวใจดวงสุดท้าย สิงโต นำโชค เป็นคนร้อง ก็จบไปแล้วกับเรื่อง "แสงกระสือ" สำหรับใครที่อยากดูก็สามารถดูได้ตามลิงก์ที่ผมได้แนบไว้ได้เลยนะครับขอบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอนแต่จะได้น้ำตา และลุ้นไปกับความรักของพวกเขา หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบการการแนะนำหนังแบบนี้นะครับ ขอบคุณที่อ่านครับ แล้วเจอกันใหม่สวัสดีครับ
ลูกโปร่งที่ล่องลอย • 20 ส.ค. 62
อ่าน
รีวิว แสงกระสือ Inhuman Kiss ภาค 2 (2566) ความประหลาดไม่อาจขวางกั้นความรักและแสงแห่งความหวัง
ทิ้งระยะห่างจากภาคแรกไปหลายปีทีเดียว สำหรับ "แสงกระสือ 2" ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญ ดรามา โรแมนติก ที่สานต่อความปังจากแสงกระสือ หนังไทยที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้ กระแส และรางวัลมาแล้วเมื่อปี 2562 ปัจจุบันแสงกระสือ 2 ปี 2566 ได้เข้า Streaming ใน Netflix เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนจึงขอรีวิว"ภาค 2" ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วที่รีวิวในส่วนของภาคที่ 1ไปติดตามกันได้เลยค่ะ ว่าภาค 2 จะสนุกครบรสและสานต่อความปังได้ไหม แสงกระสือ 2https://www.youtube.com/watch?v=L1FOtqlJ-QY ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2566ผู้อำนวยการสร้าง Transformation Films (ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแสงกระสือ ภาคแรก) ร่วมมือกับ เนรมิตหนัง ฟิล์มผู้กำกับภาพยนตร์ ดี้ ปภังกร ปุญจันทรักษ์ เรื่องย่อ32 ปีหลังเหตุการณ์โศกนาฏกรรมโคกอีนวล ที่พรากชีวิตของกระสือสายไปจากน้อยตลอดกาล เรือที่มีร่างของสายและน้อยลอยพาทั้ง 2 ไปหยุดอยู่ที่ธารน้ำแห่งหนึ่ง น้อยได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านที่บังเอิญมาพบเข้า เขาตัดสินใจลงหลักปักฐานที่ชุมชนแห่งนี้อันเป็นใจกลางป่าลึกที่ห่างไกลความเจริญจากผู้คน หลังจากที่สภาพร่างกาย จิตใจของเขาดีขึ้น น้อยในวัยกลางคน (น้อย กฤษดา) ได้พบรักและตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับ ดาริน (เอมี่ มรกต) จนมีพยานรักด้วยกันคือ สาว (นิ้ง ชัญญา) แต่ชีวิตครอบครัวนี้กลับไม่เป็นสุขอย่างที่คิดเพราะน้อยได้รับเชื้อกระสือมาจากสายผ่านการจูบกันที่ดงว่านกระสือ แต่เพราะเขาเป็นผู้ชายจึงมีอาการแค่เจ็บหน้าอกเวลาพิษกำเริบ แต่สาวลูกของเขาเกิดเป็นหญิง จึงรับเชื้อกระสือไปเต็ม ๆ และกลายเป็นกระสือมาตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ ภายหลังดารินเสียชีวิต น้อยก็เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกสาวอยู่ในป่าลึกที่ห่างไกลจากผู้คน คอยดูแลให้ลูกไม่ขาดยา เพื่อยับยั้งการกลายร่างถอดหัวเป็นกระสือ น้อยมีที่ปรึกษาทางใจและทางตำรับยาคือ บาทหลวงออกัสติน (โจ คัมมินส์) ทั้งสองร่วมกันคิดค้นและพัฒนาตัวยาที่สกัดจากว่านกระสือ เพื่อรักษาอาการเจ็บปวดของน้อยและช่วยให้สาวไม่ต้องถอดหัวเป็นกระสือ สาวมักจะติดตามพ่อมาหาบาทหลวงเสมอ ทำให้เธอได้รู้จักกับ คลาว หรือ คล้าว (เจเจ กฤษณภูมิ) ชายหนุ่มที่มีความผิดปกติทางรางกายแต่กำเนิด คือมีภาวะผิวเผือก ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยความเข้าอกเข้าใจ จากมิตรภาพที่ดีเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์เกินกว่าคำว่าเพื่อนเมื่อวิวัฒนาการต่าง ๆ เริ่มพัฒนาขึ้น แต่จิตใจของคนกลับไม่พัฒนาขึ้นตาม ซ้ำยิ่งดำดิ่งมืดมิดมากกว่าในอดีตอีกคือนายทุนชาวต่างชาติ ที่อยากได้กระสือมาไว้ในครอบครอง จึงว่าจ้างแกมบังคับขู่เข็ญ อดีตทหารรับจ้างอย่างพันธุ์ (ปีเตอร์ นพชัย) ให้มาออกล่ากระสือสาวสาวจะรอดพ้นการถูกไล่ล่าหรือไม่ น้อยจะปกป้องผู้หญิงที่เขารักที่สุดในชีวิตได้ไหม ร่วมเอาใจช่วยเขาและเธอได้ในหนังนะคะ บทบาทของนักแสดงหลักนิ้ง ชัญญา รับบท "สาว" หญิงสาวที่ได้รับเชื้อกระสือมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คาแรคเตอร์ตัวละครนี้ก็น่ารัก สดใส ตามวัย ชอบเป่าเมาท์ออแกน เธอปลูกต้นรักกับคล้าวเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวในชีวิตของเธอ เพราะทั้งสองแตกต่างเหมือนกัน รู้ความลับของกันและกัน จึงเข้าใจและฮีลใจกันได้ดี เจเจ กฤษณภูมิ รับบท "คลาว" หรือ "คล้าว" ชายหนุ่มที่ชื่อของเขาจริง ๆ คือ คลาว ที่เป็นภาษาอังกฤษ แปลว่า ก้อนเมฆ แต่ผู้คนในสมัยนั้นเรียกแล้วไม่เข้าปากจึงเรียกเขาว่าคล้าวแทน เขาเกิดมาพร้อมยีนผิดปกติส่งผลให้ร่างกายมีผิวสีเผือก มาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เขาโดนบูลลี่ตั้งแต่เด็ก โดนแกล้งหนักมาก จนกลายเป็นคนเก็บตัว บังเอิญเจอสาวที่เข้าใจและไม่ตัดสินเขา มองเขาเป็นคนเท่ากัน ทั้งสองจึงเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนเด็กจนพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นคนรักในภายหลัง เขาคือคนที่รู้ว่าสาวเป็นอะไร และพยายามหาทางช่วยสาวเหมือนกับที่น้อยเคยพยายามช่วยสาย น้อย กฤษดา รับบท "น้อย" (วัยกลางคน) หนุ่มใหญ่ที่ชีวิตนี้สูญเสียผู้หญิงที่ตนรักไปเกือบหมดแล้ว เหลือผู้หญิงคนเดียวในชีวิต ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ คือลูกสาวคนเดียวอย่างสาว ที่เขาต้องดูแลและปกป้องให้พ้นภัยจากการถูกไล่ล่าจากมนุษย์และกระหัง บทเรียนและความผิดพลาดในอดีตสอนให้เขาสู้ ดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามเขาจะไม่ยอมสูญเสียสาวไป แค่เพียงเพราะเธอเป็นกระสือเด็ดขาด ต่อให้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกน้อยก็พร้อม เอม ภูมิภัทร รับบท "ดร.อนันต์" ลูกบุญธรรมของบาทหลวงออกัสตินดูแลคล้าวมาตั้งเด็ก เชื่อในหลักของวิทยาศาสตร์ ยึดในหลักของเหตุและผล ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ เป็นทีมซัพพอร์ตที่ดี คอยช่วยเหลือผู้อื่น ปีเตอร์ นพชัย รับบท "พันธุ์" อดีตนายทหาร ที่เข้ามาพัวพันกับวงการธุรกิจสีเทา ตกเป็นเหยื่ออย่างไม่อาจถอนตัว ต้องจำยอมออกล่ากระสือ และเขาเองก็ได้รับเชื้อบางอย่างมาจนทำให้กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดอย่างกระหัง และโจ คัมมิงส์ รับบท "บาทหลวงออกัสติน" บาทหลวงที่คอยช่วยเหลือน้อยและสาว ช่วยคิดค้นตำรับยา รักษาอาการของทั้งสอง เป็นพ่อทูนหัวอุปการะอนันต์และคล้าว บทภาพยนตร์เก็บรายละเอียดจากแสงกระสือ ภาคแรกมาได้ดี อาทิการติดเชื้อกระสือจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง น้อยได้รับจากสายผ่านทางน้ำลาย ส่วนสาวได้รับจากน้อยผ่านกระบวนการปฏิสนธิตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ส่วนคล้าวได้รับจากสาวทางเมาท์ออแกนและการจูบว่านกระสือ ก็ยังเป็นไอเท็มสำคัญในการเยียวยารักษา เพิ่มเติมคือสกัดเป็นยาได้แล้วเก๋เว่อร์ภารกิจของเผ่าพันธ์ุกระหัง ที่ยังคอยไล่ล่าล้างบางทำลายหัวใจของกระสือให้สิ้นซาก ยังคงถูกส่งต่ออย่างต่อเนื่องประเด็นต่าง ๆ ที่เพิ่มมาได้อย่างน่าสนใจ การเขียนให้ตัวเอกอย่าง คล้าว มีภาวะยีนผิดปกติ คือ ผิวเผือก ซึ่งคนในสมัยนั้นยังไม่ยอมรับ และมองว่าเป็นตัวประหลาด ซึ่งน่าสนใจและสอดคล้องกับ กระสือ ที่คนมองว่าประหลาด แต่ภาวะผิวเผือกของคล้าวดูจะถูกตั้งแง่-มากกว่า เพราะมันเป็นสิ่งที่ปกปิดได้ยาก ประเด็นนี้สื่อให้เห็นว่าเมื่อคุณมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปจากมนุษย์ทั่วไปสังคมจะตั้งแง่ทันที ทั้ง ๆ ที่ข้างในของคล้าวก็มีจิตใจที่ปกติไม่ได้มืดบอดเหมือนกับพวกที่ชอบบูลลี่ ภาพรวมของบทภาพยนตร์ โดยส่วนตัวเราว่ายังไม่ค่อยมีจุดพีค เน้นดูได้เรื่อย ๆ บทยังไม่เข้มข้นและทำให้เราอินตามได้แบบภาคแรก เรารู้สึกว่าบทนำพาอารมณ์ไปไม่สุดสักทาง ความรักของสาวและคล้าวก็รู้สึกว่ายังอินตามได้ไม่มากพอ ในภาคแรกรักของน้อยกับสายดูเป็นรักร้อนของวัยว้าวุ่นแต่เราอินมากกว่าหลายตัวละครน่าจะมีฉากพีค ๆ และความสำคัญกับเนื้อเรื่องมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้นำพา แอบเสียดายการโคจรมาเจอกัน ของพี่น้อย พี่ปีเตอร์ และ เอม ขนาดบทไม่พีคมากแต่ก็ยังได้เห็นการแสดงที่น้อยแต่ทรงพลังของพวกเขาทั้งสามอยู่บ้าง การกำกับ และ Production งานภาพคุมโทนได้ดีเข้ากับธีมหลักของเรื่องคือแนวสยองขวัญ เสียงประกอบเสริมความหลอนให้กับเนื้อเรื่อง และดูไม่ยัดเยียดการลำดับเรื่อง ไม่พีคมากเท่าไหร่ เน้นดูไปเรื่อย ๆ เอาตรง ๆ เรามีเบื่อด้วย เราว่าภาคนี้เขากำกับและตีความออกมาแนวหนังฝรั่ง มีความศาสนาคริสต์ เป็นกระสือแบบอินเตอร์ ตั้งแต่แคสพี่น้อยและนิ้งมารับบทนำแล้ว ฉากกระสือกลายร่าง ภาค 2 มีการใส่ดีเทลอื่น ๆ กับตัวกระสือเข้าไปคือ ภาวะคลุ้มคลั่งอาละวาดหลังจากการถอดหัวซึ่งภาคแรกไม่มี ถือเป็นพัฒนาการใหม่ ๆ ของโรคกระสือ ตอนกระหังออกอาละวาดผู้เขียนนึกว่าดูหนังซอมบี้ซะอีกงาน CG ทำได้ดี เห็นดีเทลของกระสือชัดเจน รยางค์สมจริง กระหังยังคงน่ากลัวเหมือนเดิม อุปกรณ์ประกอบฉาก สวยงาม มีความปราณีตเข้ากับยุคสมัย ฉากดำเนินเรื่องภาค 2 ส่วนใหญ่จะอยู่ในป่าลึกเกือบทั้งหมด เลือกสถานที่ถ่ายทำได้ดี ดูลึกลับ น่าค้นหาทีมแคสติ้งนักแสดง คัดเลือกบท สาว และ คล้าว ในวัยเด็กและตอนโตได้ดี ดูต่อเนื่องกัน ทีมนักแสดงเล่นได้โอเคตามบทที่ได้รับบทและการกำกับภาคแรกตีหัวเข้าบ้านมากกว่าจริง ๆ ฉากภาพจำเยอะมาก ตัวละครมีมิติกว่าภาคที่ 2 และประเด็นต่าง ๆ ในภาคแรกสะท้อนภาพของสังคมได้อย่างน่าสนใจ มีความนุ่มลึกและกล้าที่จะแปลกและแตกต่างฉากจบที่พยายามจะจบแบบภาคแรก แต่สลับบทของตัวละครนิดหน่อย ดูแล้วแทนที่จะเศร้าหรืออินตามแต่ผู้เขียนรู้สึกว่าดูแล้วไม่อินตาม อย่างที่บอกการปูเรื่องและลำดับเรื่องที่ผ่านมาไม่ค่อยสนับสนุนให้เกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครหรือหนังได้มากพอฉากที่ชอบที่สุดในภาค 2 คือ ฉากที่คล้าวกำลังลงสีรูปภาพ แล้วสีเนื้อบังเอิญไปโดนผิวเขาซึ่งเป็นผิวเผือก คล้าวเห็นแล้วจึงไปส่องกระจกทันที แล้วพบว่าสีเนื้อทำให้ผิวของเขาดูเหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป การสื่อสัญญะฉากนี้ถือว่ามีศิลปะมาก ๆ และการแสดงของเจเจก็ส่งให้อินตามกับอารมณ์ความรู้สึกของเขาที่เป็นแกะเผือกท่ามกลางแกะขาวและแกะดำ โดยรวมถือว่าเป็นการต่อยอดที่ทำได้ไม่ถูกจริตเราเท่าไหร่นัก วัตถุดิบภาคแรกปูทางมาดีและเป็นลู่ทางให้ภาค 2 นำไปปูทางต่อยอดได้สบายๆ ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าดูแค่ภาคแรกก็พอแล้วภาค 2 ไม่จำเป็นก็ได้ แค่ตอนจบของภาคแรกก็คือติดตรึงในใจแล้ว (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวสำหรับสายคาดหวังอย่างเรา) แต่อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้ทีมงานผู้สร้างนะคะ ให้คะแนนภาพรวม 7/10 เครดิตภาพหน้าปก ออกแบบโดย canvaภาพประกอบหน้าปก แสงกระสือ : ภาพที่ 1ภาพประกอบเนื้อหา แสงกระสือ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา Major Group : คลิปที่ 1 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
อู๊ดสีชมพู • 4 ก.ค. 66
อ่าน
รีวิว แสงกระสือ Inhuman kiss ภาค 1 (2562) แสงน้อย ๆ ที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดของจิตใจมนุษย์
ลง Streaming ใน Netflix ครบทั้ง 2 ภาคแล้ว สำหรับ "แสงกระสือ" หรือ Inhuman kiss ภาค 1 และ ภาค 2 ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญ ดรามา โรแมนติก ที่หยิบยกตำนาน กระสือและกระหัง สิ่งลี้ลับที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน จากหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายตราสามดวง สู่นิยายภาพ และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อบนจอเงินและจอแก้วหลายครั้ง ซึ่ง แสงกระสือ ภาคแรกประสบความสำเร็จทั้งรายได้ กระแส และคำวิจารณ์ส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก จนทางผู้ผลิตดำเนินการสร้างภาคสองต่อ ซึ่งในบทความนี้ขอเริ่มรีวิว "ภาค 1" ก่อนนะคะ แสงกระสือ 1https://www.youtube.com/watch?v=Cg8Y2vRjSjIออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2562ผู้กำกับการแสดง โดม สิทธิศิริ มงคลศิริเขียนบทภาพยนตร์ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เรื่องย่อย้อนไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลความเจริญจากพระนคร สาย (มินนี่ ภัณฑิรา) หญิงวัยรุ่นผู้เป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านแห่งนี้ เธอมีความฝันอยากเป็นนางพยาบาล และมักเข้าไปเป็นเด็กฝึกงานที่สุขศาลา เป็นลูกมือของหมอเมตตาและนางพยาบาล เมื่อสงครามที่พระนครกำลังปะทุอย่างหนัก ทั้งหมอและพยาบาลจึงถูกเกณฑ์เข้าไปในเมืองหมด สายจึงได้โอกาสเข้าไปครอบครองสุขศาลา เธอมีเพื่อนคนหนึ่งที่โตมาด้วยกัน เป็นทั้งเพื่อนเล่น คู่หู ที่ปรึกษาอย่างเจิด (เกรท สพล) ชายหนุ่มที่แข็งแรง บึกบึน มีความฝันอยากเป็นทหาร ความใกล้ชิดสนิทสนม ทำให้เจิดคิดกับสายเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่สายก็ยังไม่ให้ใจเจิด เช้าวันหนึ่งสายตื่นขึ้นมาพบว่า บนที่นอนมีรอยเลือดปริศนาที่ผิดปกติจากเลือดประจำเดือน รวมทั้งสภาพห้องนอนที่ข้าวของกระจัดกระจาย มุ่ง ม่านหน้าต่างดูผิดปกติไปจากวิสัยของผู้หญิงเรียบร้อยอย่างเธอ ความผิดปกตินี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซ้ำยังมีอาการใหม่ปรากฏขึ้นอีก คือรอยแดงที่คอขนาดใหญ่ดูน่ากลัวมาก ประกอบกับไก่ วัว ควายของชาวบ้านเริ่มตายแบบสยดสยอง เธอนำเหตุการณ์ทุกอย่างมาเชื่อมโยงกัน จึงรู้แน่แก่ใจว่า เธอ คือ กระสือสาว ที่ออกหากินยามค่ำคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านวันหนึ่งสายและเจิดไปเที่ยวเล่นกันที่บ้านร้างโคกอีนวล อันเป็นสถานที่ที่แอบผู้ใหญ่ไปเที่ยวเล่นกันในวัยเด็ก ที่นี่ทั้งสองได้เจอเพื่อนสนิทที่ห่างหายจากบ้านเกิดไปนานอย่างน้อย (โอบ โอบนิธิ) หนุ่มนักเรียนแพทย์จากพระนคร การเจอกันครั้งนี้ทำให้เจิดรู้ว่าสายและน้อยยังไม่ลืมความรักในวัยเด็ก และพวกเขาพยายามสานต่อความสัมพันธ์แบบคนรักกันอีกครั้ง น้อยไม่ได้มาแค่คนเดียวเขาอาศัยเดินทางมากับกลุ่มล่ากระสือ ที่มีผู้นำทัพอย่าง ทัด (เอ็ม สุรศักดิ์) น้อยโกหกพวกนี้ว่าที่หมู่บ้านของเขามีกระสือ แต่พอมาถึง กระสือกลับมีตัวตนอยู่จริง ๆ สุดท้ายน้อยก็รู้ว่า คือ สาย คนรักของเขานั่นเอง ในขณะที่เจิดก็ไปเข้าร่วมแก๊งล่ากระสือกับเขาด้วย สายจะสามารถดำรงตนอยู่ในสังคมที่ไม่ยอมรับและพยายามกำจัดกระสือได้หรือไม่? รวมถึงท้ายที่สุดแล้วปัญหารัก/สาม/เศร้า และคำสัญญาที่ว่าเมื่อสงครามสงบพวกเขาทั้ง 3 จะไปพระนครด้วยกัน จะลงเอยอย่างไร รับชมได้ใน "แสงกระสือ 1" การแสดงของนักแสดงหลัก เริ่มกันที่ มินนี่ ภัณฑิรา รับบท "สาย" ถือเป็นตัวเอกของเรื่อง หนังเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกของเธอ รวมถึงการรับบทแสดงนำครั้งแรกบนจอเงินด้วย ซึ่งถือว่าทำได้ดีสำหรับนักแสดงดาวรุ่ง เธอแสดงออกทางสายตาได้ดีมาก ที่เขาว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ คือนิยามการแสดงของมินนี่ จะเสียใจ ดีใจ ทุกข์ทรมาน มีความสุข มีความหวัง ความฝัน หรือหวาดกลัว เรารับรู้จากสายตาของเธอได้ ยิ่งฉากที่ต้องแสดงเป็นกระสือ ซึ่งกระสือจะพูดไม่ได้ แสดงได้แค่แววตา ถือว่าทำได้ดีค่ะ ดูแล้วอินตามเศร้าจับหัวใจ สงสารในชะตากรรมที่เลือกไม่ได้ของสายด้วยความที่มินนี่หน้าตาดูน่ารักสดใส ผสมผสานกับการแสดงที่มีเสน่ห์ ทำให้เธอแจ้งเกิด มียอดผู้ติดตามในไอจีพุ่งไปถึงหลักล้าน ถือเป็นก้าวแรกในวงการจอเงินที่ดีมาก ๆ ค่ะ และเธอก็คว้ารางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครอบครองได้สำเร็จ จากบท กระสือสาย โอบ โอบนิธิ รับบท "น้อย" นักเรียนแพทย์จากพระนคร ที่สงครามพรากความสุข ความหวังในชีวิตของเขาไป จนน้อย ต้องกลับมาอาศัยพึ่งใบบุญจากบ้านเกิด น้อยมีความสัมพันธ์ทีดีและฝังลึกติดตรึงใจกับสายมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อได้กลับมาเจอกันอีก จึงสานต่อความสัมพันธ์ได้ไม่ยาก เขาคือตัวแทนของคนยุคใหม่ที่เชื่อในหลักการของวิทยาศาสตร์ เชื่อว่า กระสือในหมู่บ้านเกิดจากหลักของวิทยาศาสตร์ และเมื่อรู้ความจริงเรื่องคนรัก เขาก็พยายามหาทางออกเพื่อช่วยรักษาอาการ และให้สายอยู่ร่วมกับสังคมให้ได้การแสดงของโอบในบทนี้ เล่นได้ดี ดูแล้วอินตาม ดูแล้วเชื่อว่านี่คือเด็กต่างจังหวัดที่เข้าไปเรียนในกรุงเทพฯ ช่วงแรกที่ยังไม่รู้ความจริงเรื่องกระสือ ก็น่ารัก สดใส อินเลิฟโลกสีชมพูกับสาย แต่พอรู้ความจริงเขาก็ช็อกไปเลย ฉากนี้น้อยดูหลอน สั่นประสาท สยองขวัญ มากๆ นักวิทยาศาสตร์เจอผี ทลายทุกกรอบแนวคิด ทฤษฎีของตนไปเลย กับ อีกฉากคือช่วงท้ายเรื่องโอบเล่นได้บีบหัวใจมาก ดรามาสุด ไม่พูดเยอะเดี๋ยวหลุดสปอยตอนจบค่ะ555 บท น้อย ในเรื่องนี้ ทำให้โอบได้รางวัลคมชัดลึกอวอร์ด นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นรางวัลการแสดงที่เขาได้รับหลังจากเข้าวงการและฝากฝีมือมาหลายเรื่องแล้ว เกรท สพล รับบท "เจิด" หนุ่มผู้แข็งแรง ดุดัน ห้าวหาญ แต่กลัวโหล-ดองวิทยาศาสตร์ที่สุขศาลา บทนี้ช่วงแรกก็สดใส น่ารัก ตามวัย ดูเป็นวัยรุ่นที่ยังเตะฝุ่น ยังเอาแน่เอานอนกับชีวิตไม่ได้ เน้นสนุกสนาน เอาสังคมไปวัน ๆ แต่พอน้อยกลับเข้ามาในชีวิตสายอีกครั้ง ทำให้เจิดได้สติ รู้ตัวว่าควรทำอะไรบางอย่างเพื่อสาย คนที่ตนติดอยู่ใน Friend Zone มานาน ไม่ใช่แค่ มินนี่ ที่เล่นหนังเป็นเรื่องแรก เกรท สพล ก็รันวงการหนังครั้งแรกเช่นกัน ถือว่าทำได้ดี ฉากที่ต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเรื่องความรักเล่นดี และแสดงให้เห็นว่าในใจของเจิดเจ็บปวด และร้าวรานมาก อกหักดังเป๊าะ ฉากอาละวาด แตกหักกับน้อยก็เล่นได้เป็นวัยรุ่นหัวร้อนและคลั่งรักดีค่ะ ซีนที่เราชอบของตัวละครเจิด คือ ฉากเคลียร์ใจกับสาย ดูแล้วสงสารเวทนาเจิดมาก ๆ บทนี้มันพระรองในซีรีส์เกาหลีชัด ๆ ถึงแม้เกรทจะไม่ได้รางวัลจากเรื่องนี้ แต่เขาก็มีชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน และ เอ็ม สุรศักดิ์ รับบท "ทัด" หัวหน้ากลุ่มล่ากระสือ จากพระนคร ที่ Portfolio แน่นมากแม่ สุดปัง ล่ากระสือมาทุกหนแห่ง ได้มาหลายกะโหลกเต็มคาราเบล ตัวละครนี้ถ้าพูดตรง ๆ ก็คือตัวร้ายของหนังเรื่องนี้แหละ ตอนจบขอ-บอกว่าคาดไม่ถึงยิ่งกว่าจริง ๆ กับบทนี้ ฉันร้องกรี๊ดเลยถือเป็นการกลับมาเล่นหนังอีกครั้งของพี่เอ็ม หลังจากห่างหายไปหลายปี ฝีมือของพี่เขายังคมกริบ เล่นได้สั่นประสาทและหลอนจิตเช่นเดิม ทั้งโหด เลือดเย็น และน่ากลัว ในคราวเดียวกัน และเล่นไม่ Over acting ตัวบททัด อารมณ์แบบตัวร้ายตลาด ๆ ในละครไทยยุคเก่าเลย ถ้าเล่นล้นเกินจะดูตลก แต่พี่เอ็ม ดีไซน์การแสดงบทนี้ออกมาได้มีมิติค่ะ บทภาพยนตร์การนำตำนานที่ถูกผลิตซ้ำเป็นสื่อบันเทิงมาหลายเวอร์ชัน มาดัดแปลงให้เข้ากับคนในยุคปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก จะนำเสนออย่างไรให้น่าสนใจ ซึ่งพี่มะเดี่ยว ชูเกียรติ สามารถสร้างสรรค์ได้อย่างน่าสนใจ การนำเรื่องราวว้าวุ่นของวัยรุ่น มาผสมผสานกับสิ่งลี้ลับ ซึ่งพี่มะเดี่ยวมีเชื่อเสียงอยู่แล้วกับการทำหนังวัยรุ่น ผลงานในอดีตสุดปังอย่างเรื่อง รักแห่งสยาม เกรียน ฟิคชั่น และ ดิวไปด้วยกันนะใน แสงกระสือ ก็เช่นกันบทเรื่องวัยรุ่นคือดี และเข้าถึงความเป็นวัยรุ่นมาก ดูสวยงาม คลาสสิก ตามแบบฉบับของช่วงวัยได้ดีจริง ๆ ถือแม้จะเป็นวัยรุ่นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ผู้เขียนบทก็สอดแทรกความสมัยใหม่ และความหัวก้าวหน้าลงไปในตัว สาย และ น้อย ได้อย่างลงตัว บทของตัวละครวัยรุ่นทั้ง 3 มีมิติ ไม่มีใครขาวหรือดำสนิท มีความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ทุกปมปัญหาที่เรื่องผูกเอาไว้ถือว่าคลายปมได้ดี ดูแล้วไม่งง บทในซีนต่าง ๆ เขียนได้พีค หักมุม คำพูดคำใจ มีคม ๆ อยู่นะ ฟังแล้วตีความได้ลึกซึ้งกินใจและทำให้เราได้คิดตามเลยค่ะ การกำกับการแสดงและงาน Productionด้านงานภาพ ทำได้ดี ภาพสวย แสง สี ส่งเสริมและขับออร่านักแสดง ซีนกลางวันก็ทำให้หมู่บ้านดูสดใส สวยงาม ตามวิถีความเรียบง่าย และความสวยงามตามธรรมชาติของชนบท ในยามกลางคืนที่กระสือออกล่าเหยื่อ ก็กำกับภาพได้ดีดูอึมครึม น่ากลัว ลึกลับ จากธรรมชาติอันงดงามในตอนกลางวันแปรเปลี่ยนเป็นความลึกลับ ซ่อนเร้น ชวนขวัญผวา ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวสยองขวัญ ลี้ลับ เหนือธรรมชาติ จึงต้องมีในเรื่องของ CG ถือว่าทำได้ดี กระสือในเรื่องนี้ถือว่าสร้างภาพจำใหม่ให้กับวงการกระสือไทย ด้วยการมีรยางค์ แทนที่จะมีแต่หัวกับไส้ ดูเป็นกระสือยุคใหม่ที่ไม่ดิบและเถื่อนเหมือนกระสือที่ผ่านมา ดูมีความแฟนตาซีแฝงอยู่ด้วย เรื่องนี้มีกระหังมาแจมกับเขาด้วย ซึ่งเนรมิตออกมาได้น่ากลัวมาก ขนลุกเลย ขอชมทีมเอฟเฟ็กต์นะคะ ดูแล้วสยอง บรึ๋ยทุกที ฉากที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษด้านงาน Productionฉากสุขศาลา ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ฟีลแบบคลินิกหรือโรงพยาบาลของชาวบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์การแพทย์ ทีมสร้างทำการบ้านได้ดีมาก ดูเป็นของยุคนั้นจริง ๆ สถานที่ถ่ายก็เลือกมาได้ดี ดูเก่าจริงและดูเป็นชนบทฉากบ้านร้างโคกอีนวล ผู้เขียนเคยอ่านเบื้องหลังของทีมสร้างมา เขาว่าสร้างใหม่เลยนะคะ ทุ่มทุนสร้างและก็ไม่ผิดหวัง เป็นบ้านร้างเรือนไทยที่น่ากลัวมาก เป็นภาพแทนความคิดผู้เขียนเลยค่ะเวลาฟังเรื่องผีที่เกี่ยวกับบ้านร้างชนบท ฉากดงว่านกระสือ ซึ่งว่านกระสือก็คือไอเท็มพิเศษ ในการยับยั้งการกลายร่างเป็นกระสือของสาย แสงและสีสวยมาก ดูแฟนตาซี และเสริมบรรยากาศโรแมนติกให้สาย และ น้อย กล้าที่จะจูบกัน ฉากลานฉายหนังกลางแปลง ได้ฟีลสมัยก่อนมาก ผู้เขียนทันยุคหนังกลางแปลงอยู่ เขาถ่ายทอดได้ดีค่ะ ฉากนี้ถือว่าสเกลใหญ่มาก ๆ เพราะมีเรื่องราววินาศสันตะโรเกิดขึ้นมากมาย เป็นซีนใหญ่และยากของหนังเรื่องนี้บรรยากาศท้องทุ่งนา ชนบท บ้านเรือน อื่น ๆ เลือกสถานที่ได้ดีค่ะ ดูเป็นวิถีชนบทมาก ๆ ตำนานกระสือก็ต้องมาคู่กับวิถีชนบท ถึงจะกลมกล่อมครบรส ความประทับใจต่อแสงกระสือ 1ประเด็นต่าง ๆ ที่หนังพยายามนำเสนอถือว่าน่าสนใจทั้งการติดเชื้อกระสือที่ถ่ายทอดออกมาในแง่ของวิทยาศาสตร์ ผ่านการติดเชื้อทางสารคัดหลั่ง มีอาการเป็นลำดับขั้นตอน หากเป็นหญิงเมื่อติดเชื้อจะเป็นกระสือ ส่วนผู้ชายจะเจ็บปวดทุกข์ทรมานยามพิษกำเริบ มียาสมุนไพรที่บรรเทารักษาให้อาการไม่หนัก เรื่องรยางค์ของตัวกระสือ ที่เปรียบเสมือนมือของกระสือ น่าสนใจดีค่ะ ฉากที่สายปล่อยรยางค์มาแตะหน้าน้อยน่ารักมาก ฟีลแฟนสุด ๆ ดูแล้วกระสือในเรื่องนี้ให้อารมณ์ของสัตว์ประหลาดมากกว่าจะเป็นผีประเด็นเรื่องศาสนา ตามปกติแล้วละครหรือหนังแนวลี้ลับของไทย ศาสนา มักจะเข้ามามีบทบาทอยู่เสมอ เรื่องนี้ก็เช่นกัน เราชอบแนวคิดของสายที่ไม่ได้โทษโรคเวรโรคกรรมที่ทำให้เธอต้องเป็นกระสือ เธอกับน้อยพยายามหาสาเหตุและดิ้นรนรักษา จนในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบว่ามันคือภาวะการติดเชื้อและเป็นโรคอย่างหนึ่งที่ยังไม่มียารักษาให้หายขาด ในเรื่องนี้มีตัวละครพระที่สำคัญอย่าง หลวงพี่ไผ่ ผู้ที่เคยมีความหลังกับกระสือ และพยายามถอดบทเรียนในอดีตเพื่อช่วยเหลือกระสือสาวรุ่นหลัง ฉากปราบมารผู้เขียนถือว่าพีคมากไม่คิดว่าทางผู้สร้างจะถ่ายทอดออกมาในมุมนี้ ถือว่าท้าทายต่อวงการศาสนาพุทธของบ้านเรามาก ๆ แต่เราดูแล้วเข้าใจในการกระทำของหลวงพี่นะคะ มีเหตุผลสนับสนุนให้เข้าใจได้อีกหนึ่งประเด็นคือ เรื่องการเสนอตัวเข้ามาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้าน ผ่านตัวละครทัด ที่ปากอ้างว่าทำเพื่อชาวบ้านแต่จริง ๆ แล้วทำเพื่อประโยชน์และอำนาจของตนและพวกพ้อง ทีมนักแสดงสมทบอื่น ๆ เล่นได้ดีเป็นธรรมชาติ ฉากไล่ล่ากระสือยังตราตรึงอยู่เลยค่ะ นี่สินะด้านมืดของจิตใจมนุษย์ มันช่างดุร้าย น่ากลัว กว่ากระสืออีกถึงแม้ร่างกายจะเปลี่ยนไปแต่กระสือก็ยังมีหัวใจเอาไว้รัก ไว้เจ็บ ไว้เสียใจ ไว้แตกสลายและส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดของจิตใจมนุษย์โดยรวมถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของกระสือยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีและยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตำนานกระสือ ให้คะแนนภาพรวมของหนังเรื่องนี้ 9/10หมายเหตุ อ่านรีวิวภาค 2 จาก อู๊ดสีชมพูได้ในบทความถัดไปนะคะ เครดิตภาพหน้าปก ออกแบบโดย canvaภาพประกอบหน้าปก แสงกระสือ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4ภาพประกอบเนื้อหา แสงกระสือ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา Transformation Films : คลิปที่ 1 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
อู๊ดสีชมพู • 3 ก.ค. 66
อ่าน
[Movie Review] แสงกระสือ...Inhuman Kiss หนังผีที่ไม่ได้มีดีที่ความสยอง
“แสงกระสือInhuman Kiss” ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากค่าย Transformation Films ที่จับเอาตำนานผีไทยพื้นบ้านมาชุบชีวิตใหม่ให้กลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้งด้วยการตีความใหม่ แต่ยังคงเคารพต้นฉบับของตำนานไว้ได้อย่างลงตัว งานภาพถือว่าคุมโทนออกมาได้ดีมากๆ ดูมืดๆ หม่นๆ แต่สวยงาม ส่วน CG ก็ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง ถึงจะมีบางฉากที่ดูลอยๆ หลอกๆ อยู่บ้าง ด้านเนื้อเรื่องในช่วงแรกค่อนข้างอืดและเอื่อยมากๆ แต่ในช่วงกลางเรื่องที่ปมเรื่องราวขมวดชัดเจนขึ้นต้องบอกเลยว่าตื่นเต้นและดึงคนดูให้จดจ่ออยู่กับหนังได้จนจบเรื่อง จุดหักมุมทำได้ดีและเซอร์ไพรส์ทำเอาคนดูอึ้งอยู่หลายฉาก แต่การเล่าเรื่องยังมีช่องโหว่อยู่บ้างในด้านความสมจริง ด้านสามนักเแสดงนำ โอบ-เกรท-มินนี่ ถือว่าแสดงออกมาได้ดี เริ่มต้นที่ เกรท แสดงได้ทะเล้นน่ารักและน่าสงสารสุดๆ โอบ กับบทชายหนุ่มผู้แสนดีก็ออกมาอบอุ่น และ มินนี่ ในบทสาววัยแรกแย้มก็ออกมาน่ารักสดใสพร้อมกับซีนอารมณ์ที่ถ่ายออกมาได้โดดเด่นทุกซีน โดยเฉพาะฉากเลิฟซีน โอบ-มินนี่ ต้องยกนิ้วให้เลยเพราะแสดงได้ดูดดื่มมากๆ สรุป “แสงกระสือInhuman Kiss” คือหนังผีที่ไม่ได้ความสยอง แต่ชูประเด็นเรื่องความรักแบบรักสามเส้า มิตรภาพ ที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้มากๆ จนอยากยกให้หนังเรื่องนี้เป็น Romeo and Juliet เวอร์ชั่นไทย ถือเป็นมิติใหม่ของหนังผีไทยเลยทีเดียว ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คะแนนจากเราไป 8.5/10!! **อย่าเชื่อจนกว่าจะได้สัมผัสด้วยตาของคุณเอง “แสงกระสือInhuman Kiss” เข้าฉาย 14 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์
ข่าวบันเทิง • 20 มี.ค. 62
อ่าน
ทำความรู้จัก “ไฮโซกี้” หลังมีข่าวลือซุ่มคบ “มินนี่ ภัณฑิรา” นางเอกหนังดัง “แสงกระสือ”
ทำความรู้จัก ไฮโซกี้ หลังมีข่าวลือซุ่มคบ มินนี่ ภัณฑิรา นางเอกหนังดัง แสงกระสือ หลังจากที่มีข่าวลือว่ากำลังแอบคบหาดูใจกันอยู่หรือเปล่า สำหรับ ไฮโซกี้ สราวุธ และ มินนี่ ภัณฑิรา ที่ชาวเน็ตจับตามองว่าไปเที่ยวอิตาลีด้วยกัน เพราะภาพที่ทั้งคู่ลงเหมือนอยู่สถานที่คล้ายๆ กัน แถมเวลาลงรูปยังไล่เลี่ยกันอีก วันนี้เลยจะพาไปรู้จักกับไฮโซกี้กันสักหน่อย ว่าทำไมถึงเป็นที่น่าสนใจกันนะ สำหรับไฮโซกี้ อย่างที่หลายๆ คนรู้กันว่าเป็นอดีตคนรักของนักแสดงสาว ฝน ศนันธฉัตร ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานาน ก่อนที่จะยุติความสัมพันธ์ ปัจจุบันไฮโซกี้อายุ 39 ปี เป็นหนุ่มนักธุรกิจรังนกแบรนด์รังนกจูซเนส (Juice Nest) ผลิตภัณฑ์รังนกผสมน้ำผลไม้ และยังมีความสามารถในการแข่งรถ ที่เป็นนักแข่งชื่อดังในทีม Racing Spirit ค.ร.ม. คนรักเมีย PSC Motorsport นอกจากนี้ไฮโซกี้ยังเคยไปแข่งในรายการใหญ่ๆ อย่าง Thailand Super Series 2018, GT Asia Series หรือ Lamborghini Super Trofeo Asia Race 1 อีกด้วย แถมงานนี้ไฮโซกี้ยังเป็นเจ้าของเพนท์เฮาส์ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสูงสุดของตัวอาคาร และเป็นผู้หลงรักในแบรนด์เวอร์ซาเช่อีกด้วย เพราะภายในห้องหรือเสื้อผ้าที่ไฮโซกี้สวมใส่ก็เป็นของแบรนด์นี้และเป็นของสะสมในตู้โชว์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไฮโซกี้ถึงเป็นที่น่าจับตามองของหลายๆ คน
ดาราเดลี่บันเทิง • 28 ก.ย. 65
อ่าน
กระสือมหานคร ณัฐ-พลอย จับคู่พ่อแง่แม่งอน พลอย ถอดหัวพุ่งแสง ว๊าบว๊าบ..!!! เรียกเสียงฮา
ลงจอกันวันที่ 30 เมษายน 2558 นี้แล้วสำหรับละครแฟนตาซี-คอมเมดี้เรื่อง กระสือมหานคร ของผู้จัด ต้อง-จุลวุฒิ ค่าย ชลลัมพี บราเธอร์ จำกัด ได้พระเอกเจ้าพ่อละครเย็น ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง จับคู่นางเอกป้ายแดง พลอย-ภัทรากร ตั้งศุภกุล ร่วมด้วยนักแสดงฝีมือดีหยวน-นิธิชัย ยศอมรสุนทร, โบว์-เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์, โก-โกสิน ราชกรม, โบว์-โชติมา นวคุณากร, ต๊อก-ศุภกร กิจสุวรรณ, ขุน-ชานนท์ อักษระชาตะ, แหม่ม-วิชุดา พินดั้ม, โอ๊ค-กีรติ ศิวะเกื้อ, ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี, เดือน-ไปรมา รัชตะ, สุเชาว์ พงษ์วิไล, ชาย-ดลกมล ศรัทธาทิพย์, เกมส์-ศานติ สันติเวชกุล, ดวงหทัย ศรัทธาทิพย์ ฯลฯ กระสือมหานคร เป็นบทประพันธ์ของ สุนิสา วงษ์อยู่, ทรัพย์กุลธร, อุทัย ไพศาลวงศ์ เขียนบทโทรทัศน์โดย ปลายสี สิริรัตน์ บัวหิรัญ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย นาคสุริยะ กระสือมหานครเป็นเรื่องราวของนางเอกหน้าใหม่นักแสดงเรื่องกระสือมหานคร ที่ไปถ่ายละครในหมู่บ้านดอนกระสือแล้วได้รับน้ำลายกระสือ กลายเป็นทายาทกระสือมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว อีกทั้งยังถูกนักเลงตามทวงหนี้ที่พ่อก่อไว้จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน แถมต้องมาร่วมงานกับผู้กำกับหนุ่มที่เคยหักอกเขาไว้ตั้งแต่สมัยเรียนเมืองนอก ทำให้บรรยากาศการทำงานคุกรุ่นตลอดเวลาเพื่อนรักพยายามหาวิธีช่วยเหลือให้หายจากการเป็นกระสือ ในขณะที่อาจารย์นักสะสมผีต้องการตัวเข้าคอลเล็คชั่นผีไทย เธอจะทำอย่างไร ใครจะช่วยให้เธอรอดพ้นจากการเป็นกระสือในครั้งนี้ได้หรือไม่ หรือชะตากรรมกำหนดให้เธอเกิดมาเพื่อเป็นทายาทกระสือเท่านั้น..!!!! กระสือมหานคร ละครแฟนตาซี-คอมเมดี้เป็นละครใหม่ที่ถูกสร้างจากตำนานผีบ้านๆ ของไทย โดยผู้จัดป้ายแดง ต้องจุลวุฒิ แห่งค่าย ชลลัมพี บราเธอร์ นำมาทำเป็นละครในแบบฉบับใหม่เพื่อให้เข้ากับโลกปัจจุบันที่แสนวุ่นวาย ด้วยการทำหนังผีที่ดูน่ากลัวให้เป็นออกมาดูน่ารักสดใส อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน เอฟเฟกซ์ซีจี กระจาย สุดอลังการ ดราม่าบู๊ เตะต่อย รัก..ครบรส พลอย-ภัทรากร เปิดเผยว่า เรื่องนี้รับบทเป็นนักเรียนนอกเพิ่งเรียนจบกลับมาเมืองไทย เป็นเซเลปท์ มีเพื่อนสนิทเป็นนักเขียน ได้เป็นนางเอกหนังกระสือ จริงๆ ไม่ได้อยากจะเล่นแต่ว่ามีปัญหาด้านการเงินก็เลยต้องเล่น พอไปถ่ายต่างจังหวัดก็ได้รับเชื้อกระสือกลับมาถอดหัวได้ อาจารย์โก๋ก็ตามล่าเข้าคอเลคชั่นผีไทย ได้พบกับมิตรภาพของเพื่อนแท้ที่ไม่ทอดทิ้งกัน เรื่องนี้สนุกแต่งตัวเต็มยศเป็นกระสือสวยชุดกรุยรายเป็นบทบาทใหม่ที่ท้าทายก็อยากให้แฟนๆ เป็นกำลังใจให้พลอยด้วยนะค่ะ ส่วนพระเอกมาดนิ่ง ณัฐ-ณัฐรัฐ เปิดเผยว่า เรื่องนี้รับบทเป็นพระเอกที่ฝังใจกับอดีตที่ถูกสาวปฏิเสธรัก อกหักตั้งแต่ยังไมได้เริ่มคบเพราะว่าเป็นหนุ่มเซอร์ๆ พอเรียนจบจากเมืองนอกกลับมา แม่ทำหนังอยากทำหนังอินดี้แนวถนัด แต่เงินทุนไม่พอแม่ให้ทำหนังกระสือมหานครได้นางเอกหนังเป็นคนที่เราแอบชอบตั้งแต่สมัยเรียน ได้ทีก็จะเหวี่ยงใส่เขาตลอด แต่ลึกๆ ในใจก็รักเขาเพราะเป็นรักแรกและเป็นรักฝังใจ คือรักมะเหมี่ยวคนเดียวมาตลอด เข้าฉากก็จะแขวะกันตลอด แต่ก็มีอะไรกุ๊กกิ๊ก ฟินจิกจนหมอนขาดหรือไม่ต้องติดตามครับ แม่หนู-สรวงสุดา เรื่องนี้ซีจีเยอะมาก เป็นละครที่ยากอีกเรื่องหนึ่งเลยเพราะมี ผีพื้นบ้านเพียบทั้งผีกองกอย ผีกระหัง ผีกระสือ ผีฟ้า ฯลฯ แต่ว่าก็ไมได้ทำให้น่ากลัว ทำให้เป็นผีน่ารักค่ะ ผู้จัดป้ายแดงเปิดเผยว่า ก็ลุ้นครับเพราะว่าเป็นละครเรื่องแรก และของผมเป็นกระสือสมัยใหม่ แหวกแนว ส่วนใหญ่ที่เขาทำกระสือจะเป็นชาวบ้าน แต่กระสือของผมอยู่คอนโด เป็นนางเอกหนัง สวยไฮโซ กระสือทั่วไปจะเห็นไส้แต่กระสือมหานครเราจะทำเป็นซีจีซึ่งอาจจะไม่เห็นตรงส่วนนั้นเพื่อความสวยงามของคนดูและคนเล่น การทำงานก็จะซับซ้อนและท้าทายมากขึ้นครับ เป็นละครที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูสนุกครับ ระสือมหานครยุคแอนดรอย..ไม่อวดไส้ มีแต่แสงไฟว๊าบ.. ว๊าบ.. จะสนุกสนานขนาดไหนติดตามชมได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD เริ่มถอดหัววันที่ 30 เมษายน 2558 แน่นอน..ห้ามพลาด ชมทีวีออนไลน์ช่อง 3 แบบสดๆ ได้ที่นี่ ชมทีวีออนไลน์ช่อง 3 HD แบบสดๆ ได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety
ข่าวละคร • 20 เม.ย. 58
อ่าน
รีวิวหนัง แสงกระสือ 2 สานต่อเรื่องราวจากภาคแรกได้น่าสนใจ วัตถุดิบดี แต่โดยรวมหนังยังไม่สู้ภาคก่อน
แสงกระสือ ถือว่าเป็นหนังไทยที่มาแบบม้ามืดมาก เพราะนอกจากจะได้ผู้กำกับหน้าใหม่มาทำแล้ว หนังก็ออกมาดีมาก อีกทั้งถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ของไทยที่ดีสำหรับเราเลยทีเดียว การกลับมาของหนังเรื่อง แสงกระสือ 2 ที่เป็นภาคต่อนี้ ส่วนนึงเราค่อนข้างสนใจที่ว่ามันจะสานต่อตัวเรื่องอย่างไรจากภาคแรก ซึ่งสำหรับเราแล้ว ภาคนี้ถือว่าต่อยอดได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว แต่ขณะเดียวกัน เราว่าหนังก็ตกม้าตายเพราะมีวัตถุดิบที่มากแต่ยังเล่าได้ไม่ถึงดูแล้วก็จะมีความรู้สึกเสียดายมากกว่าเกลียดหนัง ส่วนนึงก็มีสิ่งที่ชอบในหนัง อย่างเช่นในช่วงแรกของหนังที่เราค่อนข้างชอบความสัมพันธ์วัยเด็กระหว่างสาวและคล้าวที่มันว่าด้วยการโคจรมาเจอของคนที่ถูกสังคมตราหน้าว่าแปลกแยก ทำให้ทั้งสองเกิดความเข้าใจกัน และความสัมพันธ์พี่น้องของฝั่งคล้าวที่เปิดมาโอเคด้วยการเล่าเพียงซีนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว หนังก็มาเห็นแผลชัดมากในครึ่งหลังทั้งเส้นเรื่องใด ๆ ที่พยายามมาบรรจบกัน ทั้งเส้นเรื่องกระหัง กระสือในฝั่งของน้อยและสาว รวมทั้งฝั่งของหมอที่รักษา ประเด็นความแปลกแยกที่ปูมาดิบดี แต่สุดท้ายก็ถูกโยนทิ้งไปอย่างเสียดายช่วงหลัง บางตัวละครที่เราว่ามันอาจจะไม่ได้มีความจำเป็นนัก เพราะมันเล่าแบบปุ๊ปปั๊ป โผล่มาไม่มาก ตัดออกก็ดูไม่เสียหายกับโครงเรื่องทั้งหมดสิ่งที่เสียดายที่สุดคือพอประเด็นไม่แข็งแรงพอ มันก็เลยส่งให้ปมของตัวละครทั้งเส้นเรื่องความรักมันด้อยและแห้งไปมาก เพราะภาคแรกมันจับเอาเรื่องความรักผูกกับความเป็นอื่นในสังคมได้น่าสะเทือน ภาคนี้มันเลยไม่มีอะไรแบบนี้ให้หนังดูมีมิติเลย หากพูดกันตามตรงคือไม่ค่อยชอบบทกระหังของปีเตอร์ นพชัยในเรื่องเท่าไร มันปูมาแบบรีบ ๆ ลวก ๆ แต่ก็อาจจะยอมให้นิด ๆ เพราะชอบแคสชุดนี้ ทั้งนิ้ง ชัญญา, น้อย วงพรู, เอม ภูมิภัทร แต่ละคนในเรื่องคืออย่างตึง 5555 เพราะนักแดสงค่อนข้างดีเลย"แสงกระสือ 2" ก็เป็นหนังสยองขวัญปนดราม่าโรแมนติกที่เสน่ห์จากภาคแรกแทบหายไป แต่ยังมีการสานต่อเรื่องราวจากภาคแรกอยู่ วัตถุดิบดี เรื่องเปิดมาดี แต่ก็นับว่าน่าเสียดายอย่างยิ่งที่หนังยังไม่สามารถเล่าออกมาได้กลมกล่อม มีจุดโหว่และจุดที่ไม่สมเหตุสมผลระหว่างทางตลอดทั้งเรื่อง เลยทำให้หนังขาดมิติและอารมณ์ไปมาก สำหรับเราให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 5 เต็ม 10 ครับ***ที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน รสนิยมและความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ไปลองดูและพิสูจน์กันได้ครับภาพยนตร์: แสงกระสือ 2 (2023)ประเภทหนัง: ดราม่า, สยองขวัญ, โรแมนติกผู้กำกับ: ปภังกร ปุญจันทรักษ์คะแนนจากผู้เขียน: 5/10ขอบคุณเครดิตภาพจากFacebook: เนรมิตรหนัง ฟิล์ม Neramitnung Film - ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน
AllinMovie • 2 เม.ย. 66
อ่าน
แม่ค้าโพสต์เตือนภัย ไม่ถึง 10 นาที เกิดอุบัติเหตุ เจ็บหนักหามส่งรพ. วอนรับผิดชอบ
สาวแม่ค้าโพสต์เตือนชาวบ้านให้ระวังสายเคเบิล ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ป้าขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี เจ็บจนต้องหามส่งโรงพยาบาล วันที่ 22 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า ผ่านหน้าร้านโปรดระวัง (กระสือ) สายไฟขาด หน้าปากซอยอุดมเดช3 ขวา หน้าร้านนัทเลยโปรดขับรถอย่างระวังนะคะ พร้อมคลิปสายเคเบิลห้อยขวางถนน อยู่บริเวณปากซอยอุดมเดช 3 ขวา ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ และมีพลเมืองดีเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สัญจรไปมา เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นตลาด มีคนสัญจรจำนวนมาก จึงนำไฟกระพริบสีแดงไปติดไว้เป็นสัญญาณเตือนอันตราย จนมองแล้วก็คล้าย ๆกับผีกระสือในตำนาน แต่หลังจากที่โพสต์ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็มีหญิงชราวัย 64 ปี เคราะห์ร้ายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา แล้วสายเคเบิลเกิดเกี่ยวกับแฮนด์รถจักรยานยนต์ ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มลงไถลไปกับพื้นจนหญิงชราได้รับบาดเจ็บ นางสาวจันทร์เพ็ญ ศรีดี อยุ 29 ปี แม่ค้าขายสเต็ก กล่าวว่า สำหรับสายเคเบิลต้นเหตุ ตนเห็นขาดห้อยลงมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้แล้ว จากนั้นมีชาวบ้านนำผ้าสีแดงกลัวจะเกิดอันตรายจึงน้ำผ้าแดงและไฟกระพริบมาติดไว้ที่ปลายสายเคเบิล เพื่อทำสัญญาณเตือนอันตรายให้กับชาวบ้านที่สัญจรไปมาบริเวณถนนดังกล่าว กระทั่งพอเริ่มมืดตนจึงใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิป ไฟดังกล่าวเพื่อเตือนภัย กับผู้ขี่รถผ่านไปมา และยังบอกอีกว่าให้ระวังแสงกระสือ หลังจากโพสต์ได้ไม่นาน ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง กับคุณป้าวัย 64 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาและเกี่ยวเข้ากับสายเคเบิล จนรถเสียหลักล้มกระแทกพื้น ได้รับบาดเจ็บ จนต้องหามส่งโรงพยาบาล ขณะที่ นางณฐา โหมดสง่า อายุ 64 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ขณะนั้นเป็นเวลาราว 3 ทุ่ม ตนขี่รถจักรยนานยนต์มาเรื่อย ๆ ตามทางที่เคยขับขี่ ถึงจุดเกิดเหตุแฮนด์ รถจักรยานยนต์ จนรถเสียหลักล้มลง จากนั้นตนก็ไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งถึงโรงพยาบาล ทางแพทย์ระบุว่า เบื้องต้นไม่พบว่ามีกระดูกหัก แต่ก็ต้องกลับมารอดูอาการที่บ้านอีกครั้ง ซึ่งเบ้องต้นตนก็อยากให้เจ้าของสายเคเบิลออกมาแสดงความรับผิดชอบ และปรับปรุงแก้ไข จุดที่ต้องเดินสายเคเบิลข้ามถนน ให้ใช้ความรอบคอบ และมีมาตรฐานกว่านี้
ข่าวสด • 22 ธ.ค. 64
อ่าน
รวมผลงานปัง ๆ ของ "เกรท สพล" พระเอกงานแน่น (ไม่แพ้กล้าม!)
แน่นกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สำหรับผลงานของนักแสดงหนุ่ม "เกรท สพล อัศวมั่นคง" ที่ค่อย ๆ ไต่ระดับความฮอตในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนทะยานสู่การเป็นพระเอกงานชุกสุดขีด ด้วยหลากหลายบทบาทในซีรีส์และภาพยนตร์ ทั้งที่เพิ่งปล่อยออกสู่ทุกสายตา และยังมีอีกหลายผลงานซึ่งกำลังต่อคิวรอออนแอร์... บอกเลยหนุ่มคนนี้ แน่นทั้งงาน-แน่นทั้งกล้ามจริง ๆ ! รวมผลงานปัง ๆ ของ "เกรท สพล" พระเอกงานแน่น (ไม่แพ้กล้าม!) START-UP สตาร์ทอัพ จากซีรีส์สุดฮิตของเกาหลี สู่ START-UP เวอร์ชั่นรีเมคของประเทศไทย ที่กำลังจ่อคิวเตรียมออกอากาศตอนแรกวันที่ 12 มกราคม 2567 ดูฟรีที่เดียวที่ ทรูไอดี... เรื่องราวความใฝ่ฝันของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีหัวอยากทำธุรกิจ อยากเริ่มต้น และเติบโตกับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยเข้าสู่สนามกระบะทราย ร่วมแข่งขันเพื่อเป็น 1 ในวงการธุรกิจนี้ ผ่านความลำบาก ท้าทาย ความรัก และกำลังใจ โดยพระเอกหนุ่ม เกรท สพล เป็นหนึ่งในนักแสดงนำ ในบทบาทของ จิราภัทร พฤติการณ์ที่ตาย Manner of Death ซีรีส์วายแนวสืบสวนสอบสวนเนื้อหาสุดเข้มข้นเรื่องแรกของเมืองไทย เรื่องราวของหมอนิติเวชที่เข้าไปพัวพันและผูกพันกับผู้ชายซึ่งเขาเชื่อว่าจะเป็นฆาตกร โดย เกรท สพล รับบท พ.ต.ต.จิรพัฒน์ ผลประเสริฐ หรือ สารวัตรเอ็ม นายตำรวจผู้อยู่ข้างความถูกต้อง ตัวละครสำคัญซึ่งอยู่เบื้องหลังการช่วยชีวิต หมอบรรณ และ ครูแทน เซียนสับราง Catch Me Baby ซีรีส์โรแมนติก คอมเมดี้ ที่หนุ่ม เกรท โดดมารับบท พัฒน์ เลขาส่วนตัวที่ทำหน้าที่สับรางไม่ให้แฟน 5 คนของเสี่ยวุฒิได้เจอกัน แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ง่ายเหมือนก่อน เมื่อ เฌอ (โฟร์-ศกลรัตน์) เลขาสาวคนใหม่แสดงตัวว่าเธอเป็นนักสืบจับชู้... เมื่อคนหนึ่งสับราง อีกคนจับชู้ เจอกันทุกภารกิจ ก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่หวั่นไหว แล้วพัฒน์จะห้ามใจไม่ให้รักศัตรูผู้เป็นนักสืบจับชู้ได้หรือเปล่า?! แสงกระสือ Inhuman kiss ภาพยนตร์โรแมนติก ทริลเลอร์ ถ่ายทอดเรื่องตำนานกระสือยุคใหม่และรักสามเส้าระหว่างคนกับอมนุษย์ เมื่อเด็กสาว สาย (มินนี่ ภัณฑิรา) พบว่าตัวเองคือผู้สืบสายเลือดของกระสือ ซึ่งมีเพียง น้อย (โอบ โอบนิธิ) เพื่อนสมัยเด็กคนเดียวในหมู่บ้านที่รู้ความจริงนี้ เขาและ เจิด (เกรท สพล) เพื่อนสนิทของทั้งคู่ที่แอบหลงรักสายมาตลอด จึงต้องช่วยปกปิดความลับของสายจากคนในหมู่บ้านที่คอยตามล่า อโยธยา มหาละลวย Om! Crush On Me ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แนวแอ็กชั่น โรแมนติก คอมเมดี้ และความรักของสายมู ที่ เกรท สพล รับบทเป็น ทอง หนุ่มโสดชวนฝันแห่งแผ่นดินอโยธา ด้วยรูปลักษณ์ที่ใครต่อใครต้องหลงเสน่ห์ เขาได้รับมอบหมายจากหลวงปู่ ให้คอยดูแลและปกป้อง เรียว (เจมส์ จิรายุ) เมื่อต้องเผชิญกับปัญหา MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม ภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก-ไซไฟ เรื่องราวความรักความสัมพันธ์ที่อาจถูกหลงลืม และความสำเร็จในชีวิตของหนุ่มสาวยุคไซเบอร์ที่มีตัวเลขสถิติเป็นเครื่องชี้วัด มันถูกเชื่อมโยงและส่งผลให้พวกเขาต้องตัดสินใจเลือกบางสิ่ง ลบบางอย่าง และก้าวผ่านไป โดย เกรท สพล รับบท ดอม ชายหนุ่มแสนดีของทั้งแฟนสาวและครอบครัว เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในโลกออฟไลน์ และถูกกดดันให้ต้องแบกรับและสืบทอดกิจการของครอบครัว แต่แล้วโลกออนไลน์ก็กลับเพิ่มความยุ่งเหยิงให้ชีวิตของเขาโดยไม่ทันคาดคิด Ghost Rookie ผีมือใหม่ ภาพยนตร์ไทยแนวตลก โรแมนติก แฟนตาซี เรื่องราวของ วิน (เกรท สพล) ชายหนุ่มธรรมดาที่เพิ่งเสียชีวิต เขาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นผี และต้องเรียนรู้วิธีใช้ชีวิตในโลกวิญญาณโดยมีผู้ช่วยเป็นผีพี่เลี้ยงมากประสบการณ์ และมาข้องเกี่ยวกับ ฟ้าไกล (พีค ภัทรศยา) ผีสาวสวยที่กำลังจะสูญเสียหิ้งบูชาไปด้วยเหตุผลบางอย่าง วินจึงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเธอรักษาแท่นบูชาไว้ให้ได้ วันดีวิทยา Wandee Goodday เกรท สพล อัศวมั่นคง รับบทนำในซีรีส์วายเป็นครั้งแรก ประกบคู่กับนักแสดงหนุ่มมากฝีมือ อย่าง อิน สาริน รณเกียรติ ร่วมกันบอกเล่าเรื่องราวของ ยอยัก เผด็จศึก (เกรท สพล) นักมวยดาวรุ่ง กับคุณหมอผ่าตัด วันดี (อิน สาริน) ที่มีความสัมพันธ์กันแบบ Friend with Benefit จนทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ตามมามากมาย อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : ประวัติ เกรท สพล อัศวมั่นคง นักแสดงซีรีส์ START-UP
ข่าวละคร • 31 ธ.ค. 66