ผลการค้นหา “หนูทิ้น” - ทรูไอดี

เอม ฉีกลุุคจิ้น อินบทนางเอก ร่วมงาน ชิน ชินวุฒ เอ็มวีเพลง ไม่สนิท

หลังจากปล่อยทีเซอร์ เรียกน้ำย่อย ออกมาให้แฟนคลับหัวใจระทวย สำหรับ เพลง ไม่สนิท ที่ร้องโดย เอม สาธิดา ปิ่นสินชัย (เอม AF11) จาก โปรเจกต์ Love Status เพลงรัก..ที่ไม่รัก วันนี้ มิวสิควิดีโอ ออกมาให้ชมกันแล้ว ภาพสวยถูกใจเจ้าตัวและแฟนคลับมาก ๆ มาฟังเรื่องราว กว่าจะเป็น เอ็มวี ไม่สนิท กันค่ะแค่รู้ว่าจะได้ร่วมงานกับศิลปินในดวงใจอย่าง ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน สาว เอม – สาธิดา ปิ่นสินชัย เจ้าของเพลง ไม่สนิท หนึ่งเพลงดี ๆ จาก โปรเจกต์ Love Status เพลงรัก .. ที่ไม่รัก ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของ ค่ายทรู แฟนเทเชีย และ ค่ายไอแอม สาว เอม ก็ดีใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็มีเรื่องให้แฮปปี้มากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ว่า การที่ได้ ชิน มาร่วมงานในเอ็มวีเพลงนี้ เป็นการทำงานที่รับบทพระเอกเอ็มวีเป็นครั้งแรกไปอีก เอม สาธิดา เลยกรี๊ดหนัก มีอาการอินจนออกนอกหน้านอกตาทั้งพระเอก นางเอก มาถึงกองถ่ายแถวบางนาตั้งแต่เช้าตรู่ งานนี้ เอม เก็บอาการไม่อยู่ ปล่อยความเขินออกมาแบบเห็นได้ชัด แอบสืบไปมา ได้ความว่า ชื่นชอบพี่ชินเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นสายเต้นเหมือนกัน แล้วพี่ชินก็เต้นเก่ง เอมชอบดู ซึ่งหลังจากฟังบรีฟจากผู้กำกับแล้ว ทั้งหมดก็แปลงกาย วันนี้ เอม จะต้องรับบทเป็น เมทสาวประจำโรงแรม ที่หลงรักเพื่อนร่วมงานอย่าง ชิน ที่รับหน้าที่เป็น เบลบอยสุดหล่อ และเรื่องราวในการถ่ายทำวันนี้ เอม จะต้องมโน เพ้อฝัน ว่าได้ใกล้ชิด และรักกันกับ ชิน อีกทั้งยังต้องแสดงความรักต่อกัน งานนี้บอกเลยว่า เอม ออกอาการตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยแต่เมื่อเสียงผู้กำกับสั่งเริ่ม ทั้ง 2 คน ก็เริ่มมองตาหวาน ๆ ใส่กัน เห็นได้ชัดว่า ถึงแม้ เอม จะมีอาการตื่นเต้น แต่ก็แสดงอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด บอกเลย งานนี้คนดูต้องนั่งฟินจิกหมอนกันไปเป็นแถบๆ หลังจากถ่ายทำเสร็จ เอม เล่าให้ฟังว่าบอกเลยว่าตื่นเต้นมาก เขินมาก (หัวเราะ) ยิ่งฉากที่ต้องสบตากันนะ บอกไม่ถูกเลยรู้สึกอะไร รู้แต่ใจสั่นมาก แต่ก็พยายามดึงสติกลับมาให้ได้ เพราะอยากให้งานออกมาดี แล้วก็เกรงใจพี่ชิน กับพี่ๆทีมงานด้วย ถ้าต้องถ่ายใหม่ โดยส่วนตัว เอม ก็แอบปลื้ม พี่ชิน เค้าอยู่แล้ว พอรู้ว่าต้องมาเล่นเอ็มวีด้วยกัน ก็ดีใจ ขอบคุณ พี่ชิน นะคะ ที่มาเล่นเอ็มวีให้ ได้ยิน พี่ชิน บอกว่า เป็นครั้งแรกด้วยที่รับบทพระเอกเอ็มวีให้คนอื่น ประทับใจจริงๆ สุดท้ายก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน อยากให้ทุกคนได้ดู บอกเลย ภาพสวยมาก แล้วก็ฟินมากเช่นกัน 30 มิถุนายน ที่ LINE TV ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะชิน ชินวุฒ เปิดใจให้ฟังว่าขอบคุณเอมนะครับ ที่ให้ผมได้มาเป็นพระเอกเอ็มวี นี่เป็นครั้งแรกนะ ที่รับบทพระเอกเอ็มวีนอกเหนือจากเพลงตัวเอง สนุกดี กับทีมงานก็คุ้นเคยกันดี ได้มาเต้นยืดเส้นยืดสายรื้อฟื้นวิชาอีกครั้ง อีกอย่าง เอม กับน้องสาวผมก็เป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นเวลามีฉากหวาน ๆ ก็จะไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่ เหมือนน้องสาวอีกคนหนึ่ง สุดท้ายผมฝากเอ็มวีเพลง ไม่สนิท ของน้องเค้าด้วยแล้วกันนะ ขอบคุณครับเพลง ไม่สนิท ศิลปิน AIM (เอม สาธิดา) Produce by MAC ศรัณย์ Vocal director by MAC ศรัณย์ Arrange/Drum/Additional Instrument by Thanapol MahathornCo-Arrange/Keys/Additional Instrument by Nontawit SiripornpaiboonGuitar by Jutichoke AssarasakornEdit/Mix/Master by Tarin PaulStudio: Lakeside Village Studioเนื้อเพลง ไม่สนิทแค่คำว่าเพื่อน สั่งให้ฉันอย่าหวั่นไหวที่มันยิ่งห้ามหยุดคิดไปไกล ยิ่งห้ามหัวใจไม่ไหวแค่คำว่าเพื่อน บอกให้ฉันว่าไม่ควรยิ่งตอกยิ่งย้ำคำว่ารัก อย่าคิดเข้ามารบกวนแต่สบตาทุกครั้ง ก็ใจสั่น ก็กลัว จะเผลอพูดคำนั้นไปได้แต่สงสัย ไปอย่างนั้นถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เธอจะรักฉันบ้างไหมไม่สนิทใจ จะเป็นเพื่อนกันถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เฝ้าแต่คิดไปจริงจังอยากให้เธอฟัง คำว่ารักเธอถ้าเธอรู้แล้วไม่รัก ไม่เป็นเพื่อนกันถ้าอย่างนั้น คงต้องเงียบไปเก็บเอาไว้ในใจดีกว่า บอกไปจะสบตาทุกครั้ง ก็ใจสั่น ก็กลัว จะเผลอพูดคำนั้นไปได้แต่สงสัย ไปอย่างนั้นถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เธอจะรักฉันบ้างไหมไม่สนิทใจ จะเป็นเพื่อนกันถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เฝ้าแต่คิดไปจริงจังอยากให้เธอฟัง คำว่ารักเธอถ้าเธอรู้แล้วไม่รัก ไม่เป็นเพื่อนกันถ้าอย่างนั้น คงต้องเงียบไปเก็บเอาไว้ในใจดีกว่า บอกไปถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก จะรักฉันบ้างไหมไม่สนิทใจ จะเป็นเพื่อนกันถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เฝ้าแต่คิดไปจริงจังอยากให้เธอฟัง คำว่ารักเธอถ้ารู้แล้วไม่รัก ไม่เป็นเพื่อนกันอย่างนั้น คงต้องเงียบไปเก็บเอาไว้ในใจดีกว่า บอกไปถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เธอจะรักฉันบ้างไหมไม่สนิทใจ จะเป็นเพื่อนกันถ้าเธอรู้ว่าฉันรัก เฝ้าแต่คิดไปจริงจังอยากให้เธอฟัง (อยากบอกว่ารักเธอ) คำว่ารักเธอถ้าเธอรู้แล้วไม่รัก ไม่เป็นเพื่อนกันถ้าอย่างนั้น คงต้องเงียบไปเก็บเอาไว้ในใจดีกว่า บอกไปจะไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าต้องเสียเธอได้แค่เพื่อนคนเดิมที่แอบ รักเธอสามารถดู MV ได้แล้ววันนี้ที่ LINE TV และ ทาง youtube เร็ว ๆ นี้บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจงานดี พรีเมี่ยม! เอม สาธิดา ชิน ชินวุฒิ ปล่อยทีเซอร์ ไม่สนิท แดนซ์เวอร์ชั่นตี๋ เอม AF รับพรีเซ็นเตอร์ งดสุรา 2017 แนะคนรุ่นใหม่ห่างไกลสุราMusic Trueid อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากลข่าว Gossip พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจและติดตามพวกเราชาว Intrend บันเทิง ได้ที่นี่ Line @Trueidและช่องทาง social ของ อินเทรนด์บันเทิง

ทำไมพี่หน้าคล้ายหนู! ดีเจเจ๊แหม่ม สวน พิ้งกี้ ทันควัน หนูดูดีๆซิคะ?

เคยร่วมงานกันในละครเรื่องมารยาริษยาม เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว สำหรับ ดีเจเจ๊แหม่ม วินัย สุขแสวง กับนักแสดงนางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช และล่าสุดทั้งคู่โคจรมาเจอกันในรายการหม้ายตัวแม่ ที่พิธีกรหนึ่งในนั้นเป็นนักแสดงสาว พิ้งกี้ ซึ่งพอสาว พิ้งกี้ เจอหน้า ดีเจเจ๊แหม่ม ถึงกับออกปากทักว่า ทำไมพี่คล้ายหนู ทันที ดีเจเจ๊แหม่ม เลยสวนทันควันว่า ดูดีๆ สิ หนูสวยกว่าเห็นๆ โดยเจ้าตัวได้โพสต์แคปชั่นฮานี้ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าเมื่อวานไปเป็นแขกรับเชิญ​ในรายการของน้อง​ พิงกี้​ พี่ตุ๊กญานี​ พี่ท๊อป​ ดารณีนุช​ (ม่ายตัวแม่)​ สารพันจะเม้า​ น้องบอกว่า​ เราเล่นละครเรื่องมารยาริษยา​ด้วยกัน​ ผ่านมา​ วุนนั้น​ 6​ -​7ปี​ นั่งสัมภาษณ์​อยู่ด้วยกัน​ น้องบอก​ พี่แหม่ม​ๆๆๆๆดูหน้าพี่สิ​ ดูไปดูมาทำไมคล้ายหนู!!! เลยสวนทันควัน​ บอก​ ไม่นะ!!!! หนูดูดีๆสิ​ หนูสวยกว่าเห็นๆ​ หนูสวยไม่เปลี่ยน!! แต่พี่สิ​ เปลี่ย​นมา​หลายเจเนอเรชั่นละ​ เห็นมะ​ หลักฐาน​มันทนโท่​55555555 ขอขอบคุณรูปภาพจากอินสตาแกรม @djjmam

มาร์ติน อินดี้ เก็บลูกส้มหล่น ซัดจ่อๆหน้าประตู ตีเสมอ 1-1

Goal B Martins Indi (46) Chelsea 1 1 Stoke

ขับรถหรูกินร้านลาบ! ดีเจภูมิ ขับเฟอร์รารี่แวะจกส้มตำข้างทาง ติดดินแต่บินได้

พิธีกร ดีเจหนุ่ม ดีเจภูมิ ดีเจหนุ่มมากความสามารถ ผู้ที่เป็นไอดอลของการใช้ชีวิตและการหาเงินของใครหลายคนไปแล้ว และล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์รูปภาพ ขับเฟอร์รารี่แวะกินข้าวร้านลาบข้างทาง โดยมีแคปชั่นว่า ร้านโปรดหน้าหมู่บ้าน 🥃 ติดดินแต่บินได้ ขับรถหรูแต่ยังกินข้างทางได้ ดินติดจริงๆ ดีเจภูมิ พิธีกร ดีเจหนุ่มมากความสามารถ ดีเจภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า เจ้าตัวก้าวเข้าสู่วงการด้วยการเป็นวีเจทางช่องเอ็มทีวีไทยแลนด์ และเป็นดีเจอยู่ที่คลื่น เอฟ เอ็ม 95.5 เวอร์จิ้นฮิตซ์ ยังเป็นพิธีกรรายการ ส่องสดสองแสบ, รายการชูรักชูรส และ สตาร์ออนไฟร์ ด้วยความสามารถและรอบรู้ทำให้ ดีเจภูมิ ยังคงมีงานในวงการอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากงานในวงการเจ้าตัวยังมีธุรกิจอาหารเสริมเป็นของตัวเอง รวมทั้งมีรายการผ่านทางยูทูปที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดีเจภูมิ ดีเจภูมิ ดีเจภูมิ ดีเจภูมิ ขอขอบคุณรูปภาพจากอินสตาแกรม @djpoom

การ์ตูนแห่งความทรงจำ หนูหิ่น อินเตอร์

                                                                         การ์ตูนแห่งความทรงจำ หนูหิ่น อินเตอร์สวัสดีค่ะ นักเขียนและนักอ่านทุก ๆ ท่านเมื่อย้อนไปในอดีตทุก ๆ ท่าน ยังจำการ์ตูนที่เป็นเล่มสีขาวดำกันได้ไหมค่ะ วันนี้ได้ไปจัดตู้หนังสือเเละเจอการ์ตูนเล่มถูก ๆ ฝีมือมือของคนไทยสนุก ๆ มีทั้งมุขกับเรื่องราวยอดฮิตรวมอยู่ในเล่มเดียว แน่นอน หนูหิ่น อินเตอร์เป็นหนังสือเล่มหนึ่งในดวงใจสมัยเด็กเลยค่ะด้วยความที่สมัยก่อนยังใช้โทรศัพท์ที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ใช้แค่โทรเข้า โทรออกเท่านั้น ในระหว่างเลิกเรียนเรามักจะเดินไปร้านหนังสือเล็ก ๆ ตรงหน้าโรงเรียนและซื้อหนังสือการ์ตูนถูก ๆ ไว้อ่านรอพ่อมารับกลับบ้าน มีหนังสือการ์ตูนหลากหลายมากถึงเป็นร้านเล็ก ๆแต่ตอนนี้ร้านนั้นไม่อยู่แล้วมันก็ชวนให้คิดถึงเช่นเดียวกัน เราชอบหนังสือการ์ตูนหนูหิ้นอินเตอร์นะคะ เพราะว่ามันอ่านเพลินดี ลายเส้นก็เรียบร้อย มองเนื้อกระดาษก็ดูสบายตาดี เราชอบที่เค้าเล่าเรื่องราวแต่ละอย่างของหนูหิ่นสนุกและตลกมาก ๆภายในเล่มจะมีเรื่องราวของหนูหิ่น ประมาณ 2 เรื่องและก็เเซงด้วยมุกของผู้วาดค่ะ อ่านฆ่าเวลาได้ดีมาก ๆ ในช่วงสมัยนั้น เราซื้อประจำค่ะสมัยนั้นแต่แม่น่าจะนำไปบริจาคเกือบหมดแล้ว เลยเห็นเหลือแค่ 2 เล่ม พอได้อ่านก็คิดถึงมาก ๆ เลย มีภาพสีช่วงหน้าแรก ๆพอภาพหลังก็เป็นภาพขาวดำ จริง ๆ หนูหิ่นอินเตอร์มีแบบภาพสีทั้งเล่มด้วยนะคะ แต่อันนั้นจะเล่มละ 50 มีแต่เรื่องราวของหนูหิ่นเลย แต่เราชอบอันนี้เพราะว่าหลังจากจบเนื้อเรื่องของหนูหิ่นจะมีมุขคล้ายเครียดเล็ก ๆ ซ้อนอยู่ในเล่มค่ะเราจึงชอบเล่มนี้มากกว่า และที่สำคัญเล่มนี้เล็กมาก ๆ เหมาะสำหรับพบพามากเลย เวลาเดินทางไม่อยากจะเล่นมือถือก็สามารถนำมาอ่านเเก้ง่วงนอนได้เหมือนกัน การ์ตูนไทยดีนะคะ จากที่อ่านมาไม่ได้เเย่เลย มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองแต่ในสมัยนี้เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังมีขาอยู่รึเปล่า   สำหรับการ์ตูนแห่งความทรงจำ หนูหิ่น อินเตอร์ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ มาติดตามกันค่ะ ว่าบทความต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะราคา 15 บาทหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป ถ่ายภาพโดยนักเขียนนามปากกา Luksamon 

หนูหิว

    เรื่องราวสยองขวัญในครั้งนี้เกิดเมื่อ 2ปีที่แล้ว ที่บ้านเกิดของผมในจังหวัดราชบุรี โดยเป็นเรื่องของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ที่ผมขี่รถผ่านเวลากลับจากมหาวิทยาลัยเป็นประจำ แต่เนื่องจากมีกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเยอะทำให้บางครั้งการกลับบ้านก็ทำให้ต้องกลับในช่วงเวลามืดหรือดึกมากจนทำให้มีอยู่วันหนึ่งผมได้พบกับเรื่องชวนสยองจากร้านชำแห่งนี้    ผมเป็นคนที่ร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยบ่อยครั้งทำให้ต้องเดินทางกลับบ้านเป็นเวลามืดเสียส่วนใหญ่ ทำให้เวลากลับมาจนถึงร้านขายของชำมักจะเป็นเวลาประมาณ 4ทุ่มขึ้นไป ซึ่งร้านขายของชำแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี และเป็นร้านที่ขายทั้งของสดของแห้งด้วย โดยร้านขายของชำจะเปิดถึงประมาณ 5 ทุ่ม ถ้าผมกลับมาทันก็จะซื้อขนมหรือน้ำดื่มเล็กน้อยกลับไปกินที่บ้านในบางครั้ง จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมมีการทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยจนดึกจึงทำให้ขี่รถกลับมาถึงร้านขายของชำตอนประมาณ ตี 2 กว่าๆ ผมก็ขี่รถปกติแล้วไฟหน้ารถก็สาดไปยังร้านขายของชำที่ปิดลูกกรงและปิดร้านไปแล้ว ผมกลับมองเห็นร่างของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตัวเปียกแฉะใส่เสื้อตัวใหญ่คลุมถึงขาเหมือนเอาเสื้อของผู้ใหญ่มาใส่และเนื่องจากเปียกน้ำมาทำให้เสื้อตัวนั้นสีออกดำๆ เด็กคนนั้นยืนเกาะลูกกรงของร้านขายของชำ แล้วพูดออกมาว่า "หนูหิว..หนูหิวนม" พร้อมกลับหันมามองแต่ผมมองเห็นหน้าเด็กคนนั้นไม่ชัดเจนด้วยความที่ว่าข้างๆร้านขายของชำมีพวกคุณลุงตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ผมเลยคิดไปว่าน่าจะเป็นเด็กแถวนั้นเลยไมได้สนใจแล้วขี่รถกลับเข้าบ้านไป พอเช้าวันต่อมาแม่ผมก็เล่าเรื่องให้ผมฟังว่า เมื่อวานตอนบ่ายมีคนเมาแถวๆร้านขายของชำอยู่ดีๆก็หมดสติแล้วลุกขึ้นมา ร้องไห้ แล้วพูดว่า "หนูหิว..หนูหิวนม" เจ้าของร้านขายของชำก็ด้วยความเห็นใจก็เลยหยิบนมแล้วยื่นให้คนเมาคนนั้น แต่คนเมาคนนั้นพูดกลับมาว่า "กินไม่ได้ แบบนี้กินไม่ได้ ต้องเอาไปกลางแจ้ง ปักธูปให้ด้วย 1ดอก " คนในร้านขายของชำทุกคนต่างตกใจ และเริ่มกลัวว่าคนเมาน่าจะสติไม่ดี แต่เจ้าของร้านก็เลือกที่จะลองทำตามดู หลังจากปักธูปเรียกให้ไปกินนม คนเมาคนนั้นก็หมดสติแล้วฟื้นกลับมาพูดรู้เรื่องเหมือนเดิมและไมได้อยากกินนมแต่อย่างใด ผมก็กลับมาฉุกคิดเรื่องที่เจอเมื่อคืนแต่คิดในใจคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่า จนกระทั่งพี่สาวผมเดินเข้ามาหลังจากฟังเรื่องที่แม่เล่าแล้วพูดกับผมว่า "รู้ไหมเขาว่าจิงๆแล้วคนเมาหน่ะโดนผีสิง ผีเด็กผู้หญิงที่จมน้ำตาย ตรงทางสามแพร่งหน้าร้านขายของชำเมื่อเดือนก่อนหน่ะ ด้วยความที่บ้านเด็กคนนี้มันจน เลยชอบเอาเสื้อพ่อของเขาตัวใหญ่ๆสีดำๆมาใส่แล้วก็จมน้ำตายไป น่าสงสารจริงๆ" จบคำพูดของพี่ผมขนลุกเกรียวเลยครับ ถ้าวันนนั้นที่ผมสบตากับเด็กคนนั้นแล้วทักออกไป อาจจะไม่จบลงที่แค่มองหน้ากันก็ได้    หลังจากวันนั้น ทางเจ้าของร้านชำจึงจัดตั้งกล่องรับริจาคตัวผมเองก็ร่วมกันทำบุญกับเจ้าของร้านขายของชำด้วยถวายวัดบริเวณนั้นเพื่อเป็นการเผื่อแผ่บุญกุศลให้กับเด็กผู้หญิงที่จมน้ำเสียชีวิตคนนั้นให้ไม่อด ไม่อยาก ไม่ต้องร้องขอด้วยความหิวอีกต่อไป

รีวิวหนังสือ "หนูหิ่น อินเตอร์" กับความทรงจำของยุค 90

       รีวิวหนังสือ "หนูหิ่น อินเตอร์" กับความทรงจำของยุค 90        สวัสดีครับ ผู้อ่านทุกท่าน นี่เป็นบทความแรกของผู้เขียน ผู้เขียนเลยอยากจะหยิบยกหนังสือการ์ตูนที่ขายดีในยุค 90 มาให้ผู้อ่านได้ระลึกถึงความหลังกัน ไปกันเลย……       “หนูหิ่น” เด็กสาวแห่งบ้านโนนหินแห่ อำเภอตระกาลพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ที่ทนดูความยากจนของครอบครัวไม่ไหว เลยตัดสินใจเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งความวุ่นวาย หนูหิ่นได้พบเจอกับเจ้านายสาวสุดสวย นามว่า “คุณมิลค์” ด้วยความไร้เดียงสาบวกกับความบ้าๆเปิ่นๆของหนูหิ่น คุณมิลค์จึงรับหนูหิ่นเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ภายในบ้าน หลังจากนั้น “คุณเอ๊าะ หรือคุณผดุง ไกรศรี” ผู้เขียน ก็ได้พาหนูหิ่นไปพบเจอสิ่งต่างๆมากมายในชีวิตที่หนูหิ่นเองไม่เคยพบเจอมาก่อน จนเกิดเป็นหนังสือการ์ตูน “หนูหิน อินเตอร์” มากกว่าหนึ่งร้อยฉบับภาพถ่ายโดย : เด็กแว่น          สำหรับหนังสือการ์ตูน “หนูหิ่น อินเตอร์” นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนในปี พ.ศ.2549 ได้เกิดเป็นฉบับคนแสดง นำแสดงโดย “คุณรุ้งลาวัณย์ โทนะหงษา” รับบทเป็น หนูหิ่น ที่ใครๆก็ต่างพูดว่า ถอดแบบมาจากหนังสือการ์ตูนกันเลยทีเดียว โดยฉบับภาพยนตร์นี้ ได้ใช้ชื่อว่า “หนูหิ่น เดอะ มูฟวี่” ที่กวาดรายได้ไปประมาณ แปดสิบล้านบาท ซึ่งในยุคนั้นถือมากเลยทีเดียว และที่สำคัญยังทำให้สาวกหนูหิ่น ได้เห็นภาพหนูหิ่นชัดมากขึ้น ว่าถ้าเป็นคนจริงๆจะเป็นแบบไหน ละยังทำให้คุณรุ้งลาวัณย์เอง ดังมีชื่อเสียงมากขึ้น ทำให้คนทั่วไปจำเธอได้ในภาพ “หนูหิ่น”ภาพถ่ายโดย : ig @rung_nuhin         ในมุมของผู้เขียนเองชอบหนูหิ่นมาก ชอบทุกอย่างที่เป็นหนูหิ่น รักในความซื่อสัตย์ ไร้เดียงสา ตลก บ้าๆบอๆของเธอ ถึงเธอจะดูไม่ทันคนแต่เธอก็รักครอบครัว รักเจ้านาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนบนโลกพึงมี ผู้เขียงเองก็หวังว่าผู้อ่านจะรักหนูหิ่นเพิ่มมากขึ้นเหมือนกันนะ ว่าแล้วก็ขออนุญาตผู้อ่านไปอ่านหนังสือการ์ตูนหนูหิ่นดีกว่า ถ้าจะไปด้วยกันก็ตามมาเลย……..

หนูน้อยน่าเอ็นดู คลอดบนแท็กซี่ หน้าสน.บางเขน คอหวยแอบส่องทะเบียน

สาวท้องแก่ใช้บริการรถแท็กซี่จะไปรพ.เพื่อคลอดลูก แต่ไปไม่ถึง ลุงคนขับเห็นท่าไม่ดี เลยเลี้ยวเข้าสน.บางเขน ประสานกู้ชีพคุ้มเกล้ามาช่วยทำคลอด ได้ลูกผู้หญิง เป็นท้องที่2 กับเลขเด็ด ทะเบียนรถมาฝากคอหวย var googletag = googletag || {}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/231599934/thairath/partner/inarticle_trueid', [300, 250], 'div-gpt-ad-1542092338964-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); }); #div-gpt-ad-1542092338964-0 iframe{text-align:center; display:block;} googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1542092338964-0'); }); เวลา 20.20 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่หน้า สน.บางเขน ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร มีคนขับ รถนั่งสาธารณะยี่ห้อโตโยต้า สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฏ 981 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิที่จอดอยู่ หน้า สน. บางเขนว่าผู้โดยสาร มีอาการปวดท้องน้ำเดินจะคลอดลูกอยู่ภายในรถจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิร่วมกตัญญูจึงช่วยเหลือกันเบื้องต้น และได้ประสานงานรถกู้ชีพคุ้มเกล้า มาช่วยทำคลอด เจ้าหน้าที่กู้ชีพใช้เวลาประมาณ 10 นาที หญิงคนดังกล่าว ได้คลอดลูกเป็น เพศหญิง ออกมาอย่างปลอดภัยทั้งแม่และลูก เบื้องต้นทราบว่าเป็นท้องที่ 2 แม่เด็กอายุประมาณ 25-30ปีผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายประทีป มานพ อายุ 57 ปี ชาวปราจีนบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถนั่งสาธารณะ บอกว่าได้รับ หญิงคนนี้มาจาก ซอย พหลโยธิน 48 ให้ไปส่งที่ รพ.วิภารามปากเกร็ด ซึ่งเป็น รพ.ที่ฝากท้องไว้ ตนก็ขับมาทางถนนพหลโยธินขาเข้า มุ่งหน้าวงเวียนอนุสาวรีย์บางเขน ระหว่างนั้นก็เห็นว่า ผู้โดยสารปวดท้องมาก และในเส้นทางมีรถติด ตนจึงตัดสินใจ เลี้ยวรถเข้าไปยังสน.บางเขน เพราะมองเห็นว่ามีรถมูลนิธิจอดอยู่ และหญิงท้องแก่น้ำเดินแล้วไม่น่าจะไปถึงรพ. จึงตัดสินใจ เข้าไปขอความช่วยเหลืออย่างไรก็ตามหลังจากหญิงคนนี้คลอดออกมา ปลอดภัยทั้งแม่ลูก ท่ามกลางการลุ้นเอาใจช่วย ของอาสาสมัครมูลนิธิฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลายคนได้เดินไปส่องดูทะเบียนรถแท็กซี่ เพื่อนนำไปเสี่ยงโชคกันในงวดที่จะถึงนี้ function onYouTubeIframeAPIReady() { }

หนี้สินจากความสงสาร

   หนี้สินจากความสงสาร                   สิ่งที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและเกิดขึ้นมากที่สุดในสถาบันครอบครัวคือเรื่อง "หนี้สิน" ต้องยอมรับกันว่าหนี้สินมีหลากหลายประเภทใหญ่ๆก็คือ หนี้ที่เหมาะสม กับ หนี้ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะให้คำจำกัดความดังต่อไปนี้หนี้ที่เหมาะสม คือ หนี้ที่สร้างขึ้นแล้วจะทำให้สถาบันครอบครัวมีความสุขและไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การซื้อบ้าน, ซื้อรถ เพื่อทำให้ครอบครัวมีความสุขในการใช้ชีวิตและทำให้ครอบครัวสะดวกสบายขึ้น  การสร้างหนี้เพื่อนำไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ต่อไปหนี้ที่ไม่เหมาะสม คือ หนี้ที่สร้างขึ้นแล้วทำให้สถาบันครอบครัวและตัวเองเดือดร้อน เช่น หนี้สินจากการใช้จ่ายเกินตัว หนี้สินจากความสงสาร                วันนี้จะมาพูดในหัวข้อ "หนี้สินจากความสงสาร" ซึ่งคำนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเป็นหนี้จากความสงสารโดยทั่วไปสังคมไทยจะอยู่กันแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งผู้เขียนก็ได้พบเจอปัญหาหนี้สินจากความสงสารซึ่งเกิดขึ้นกับผู้เป็นแม่ ที่ได้ช่วยเหลือคนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อนโดยเป็นคนรับหน้าเป็นผู้ค้ำประกันในการยืมเงินและสิ่งที่ทุกคนก็คงเคยประสบพบเจอก็คือ"ไม่คืน" ซึ่งตัวแม่เองนั้นก็มีหนี้สินของตัวเองอยู่ส่วนหนึ่งแล้วยังต้องมาใช้หนี้สินแทนเพื่อนที่ไม่ยอมจ่ายอีกจำนวนมาก ทำให้การเงินไม่เพียงพอในการใช้จ่ายแต่ละเดือน จนเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปี การที่งบการเงินติดลบทุกเดือนจนทำให้ติด Black List ของธนาคารส่งผลให้วันหนึ่งแม่ต้องพึ่งทรัพย์ที่เรียกว่า "หนี้นอกระบบ" ทุกคนรู้กันดีว่าหนี้นอกระบบดอกเบี้ยไม่เป็นธรรมกับผู้กู้เป็นอย่างมากและสิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งคือการที่คนเป็นแม่เป็นหนี้สินจะคิดเสมอว่าไม่อยากทำให้ครอบครัวเครียดและวิตกกังวลกับเรื่องเหล่านี้จึงเลือกที่จะไม่บอกใครทั้งๆที่ตัวเองไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะกระแสเงินสดติดลบในแต่ละเดือนได้แต่ภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ลาภเพื่อมาใช้หนี้จนทำให้เป็นหนี้บานปลายหนักขึ้นจนหาทางออกไม่เจอ สุดท้ายครอบครัวได้รับทราบเรื่องจึงช่วยเหลือและหาทางออกซึ่งเกิดจากปัจจัยเล็กๆในอดีตเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีๆจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต         สุดท้ายบทความนี้มีข้อคิดคติเตือนใจในหลากหลายเรื่องคือ 1. ปัจจัยเล็กๆเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีๆจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้2. หนี้สินจากความสงสารควรช่วยเหลือเท่าที่เราช่วยเหลือได้  3. คนที่ไว้ใจอาจจะเป็นคนที่ทำร้ายเราในอนาคตทั้งทางตรงและทางอ้อม 4. ความอันตรายของหนี้นอกระบบ 5. การบริหารการเงินมีความสำคัญ  6. การแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ใช่ทางออกของทุกอย่าง Blacklist หมายถึง การมีประวัติเสียทางการเงิน จนถูกขึ้นบัญชีดำ ซึ่งหลายท่านจะคิดว่า สถาบันการเงินไม่ให้สินเชื่อ เพราะทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เป็นผู้ขึ้นบัญชีดำ หรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่า ติด Blacklist                                                                                                        หนี้นอกระบบ หมายถึง หนี้ที่เกิดจากการกู้ยืมเงินกันเองในระหว่างประชาชนโดยไม่ได้กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน                                                                                                                                                                                                                                                                                                         ผู้เขียน "วันหนึ่ง"                                   Credit :  ภาพหน้าปก /  ภาพที่ 1 /  ภาพที่ 2  / ภาพที่ 3                                                                          

กินไอศกรีมยังเซ็กซี่! ลำไย ไหทองคำ จัดไอศกรีมคลายร้อน อร่อยจนหน้าฟิน

นักร้องลูกทุ่ง สาวมากความสามารถ ลำไย ไหทองคำ ความเซ็กซี่และความแซ่บของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง ใครได้เห็นการแสดงบนเวทีของเธอต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน เพราะเธอจัดเต็มทุกงาน แต่ล่าสุดก่อนจะทำการแสดงคอนเสิร์ตนั้น เจ้าตัวขอกินไอศกรีมคลายร้อนซักหน่อย ไอศกรีมใครๆ ก็กินกันนะ แต่ดูหน้าเธอตอนกินแล้ว ทำไมมันฟินขนาดนั้นเล่า คนเซ็กซี่ไม่ว่าทำอะไรก็ดูเซ็กซี่ไปหมดเลย นักร้องลูกทุ่ง สาวมากความสามารถ ลำไย ไหทองคำ โด่งดังมาจากเพลง ผู้สาวขาเลาะ ต่อเนื่องด้วย ชะนี 4.0 จากนั้นเจ้าตัวก็ดังและมีคิวงานติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความดังและความสามารถที่กล่าวมา จนทำให้เจ้าตัวได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายๆ ชนิด เพราะนอกจากความดังและความสามารถแล้ว การเอ็นเตอร์เทรนด์บนเวทีไม่ต้องพูดถึงจัดเต็มทุกงาน จึงทำให้ ลำไย ไหทองคำ ยังคงมีงานติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเป็นสาวน้อยที่เก่งและมีความสามารถจริงๆ จริงไหมจ๊ะแฟนๆ จ๋า ขอขอบคุณรูปภาพจากอินสตาแกรม @lamyailion อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากล พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจติดตาม Music.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID Appหรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID

ยายหนูเป็นผีกะ

                                                                                              ยายหนูเป็นผีกะ                สมัยตอนเด็ก ก่อนที่จะเกิดเรื่องผีโพงในหมู่บ้าน (สามารถอ่านได้ที่เรื่องเล่าจากโพงไพรครับ) ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เธอชื่อว่า “เหมย” เธออายุอ่อนกว่าผมประมาณ 1 ปี ชื่อของเธอไม่ใช่คนจีน แต่มาจากคำว่า “หมอกเหมย” ทางภาษาเหนือแปลว่าหมอกหรือน้ำค้าง บ้านเราอยู่ห่างกันไปสี่หลังคาเรือน เรามักไปมาหาสู่กันบ่อยๆ เดินเล่นในหมู่บ้าน หาเก็บผลไม้กิน ไม่ก็ไปเที่ยวไร่ส้มของตาและยายผม                 บ้านของเหมยนั้นทำนาข้าว และไร่ส้มอีกเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่นั้นเป็นนาข้าว เพราะผลผลิตให้เงินมากกว่า เธออยู่กับตาและยาย พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่จากคำบอกเล่าของเหมยเอง เธอจึงมาอยู่กับผมบ่อยๆ ในวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนตากับยายเธอเข้าไร่เข้านาแทบจะทั้งวัน และเพราะว่าปีนี้ค่อนข้างแล้งหนัก...จึงเป็นที่มาของคำกล่าวหาจากชาวบ้าน ว่าบ้านของเธอนั้นเป็นตระกูลผีกะ                 ยายผมบอกว่าไม่มีใครรู้ว่าตำนานผีกะมีที่มาจากไหน แต่โดยปกติ ผีกะจะเป็นประเภทเดียวกับผีปอบ นั่นคือการสิงสู่ร่างของผู้คนเพื่อมีชีวิตอยู่และกินตับไตไส้พุงของคนๆ นั้นจนหมดสิ้น ก่อนจะหาเหยื่อรายต่อไป แต่ในกรณีของบ้านเหมยนั้น ยายเองก็สงสัยตามชาวบ้าน แต่ไม่ได้ปรักปรำว่ายายของเธอเป็นผีกะ ทว่าเป็นการเลี้ยงผีกะ ซึ่ง ณ ที่นี่เรียกว่า “ผีกะตระกูล”                 เหตุที่เกิดการกล่าวหานี่ก็เพราะว่าในปีที่น้ำแล้งจนผลผลิตไร่ส้มของชาวบ้านนั้นไม่เจริญเติบโตหรือเรียกได้ว่าแทบขาดทุน แต่นาข้าวของบ้านเหมยกลับเขียวขจี ข้าวตั้งท้องสวย ไม่มีแมลงศัตรูพืชมาก่อนกวน และขายได้ในราคางามจนได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ผมที่ไม่เดียงสาในตอนนั้นคิดได้เพียงแค่ว่า...ชาวบ้านอิจฉาบ้านของเหมยต่างหาก                 บ้านของเหมยรวยอยู่ตั้งแต่ดั้งแต่เดิมแล้ว พ่อกับแม่ของเธอเป็นพระเอกนางเอกลิเก และที่เสียชีวิตนั่นก็เพราะว่าเดินสายทำการแสดงเช่นกัน                 ณ เวลานั้น เหมยกลายเป็นตัวประหลาด เพราะเธอถูกเรียกว่า อีหลานผี การบูลลี่พวกนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ผมไม่ได้กลัวเธอ ผมว่าเธอน่ารักและเป็นเพื่อนที่ดี กระทั่งวันหนึ่ง ที่มีหัวหน้าชาวบ้านนั้นมาบุกบ้านของเหมยและจุดไฟเผาศาลาเล็กหน้าบ้าน ถึงอย่างนั้นตากับยายก็ไม่โต้ตอบ แถมยังออกมาขอให้ชาวบ้านกลับไปอย่างสุภาพชนด้วยซ้ำ แต่ยิ่งเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ชาวบ้านก็ยิ่งใส่ความ หาว่ายอมเพราะว่ารับความจริงไม่ได้ แล้วสุดท้าย...คนที่จุดไฟเผาศาลาหน้าบ้านของเหมยก็ตายอย่างสยดสยองในเวลาต่อมา สภาพศพคือถูกควักไส้และมีรอยกัดกินอย่างเห็นได้ชัด                 เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ ถึงกับขนาดมีการรวมตัวขับไล่ แต่ท่านๆ ทั้งสองก็ยังคงไม่ขอไปไหน ด้วยเหตุผลที่ว่าแก่แล้ว ขอตายที่นี่ โดยไร้ซึ่งคำตอบของคำถามที่ว่า “เป็นตระกูลผีกะจริงหรือเปล่า ?”                 ผมบอกกับตัวเองว่าไม่มีทางกลัวเหมย กระทั่งคนที่มีปัญหากับบ้านของเธอนั้นค่อยๆ ตายไปทีละคนด้วยสภาพที่น่าสยดสยองไม่ต่างกัน นั่นแหละ วินาทีที่ผมกลัวเธอ                 “ตั๋วบ่มักเฮาแล้วกา ?” เธอถามผมในวันที่ผมหลบหน้าเธอ เธอถามว่าผมไม่ชอบเธอแล้วเหรอ ?                 “เฮาบ่ได้บ่มักตั๋วเก่าหนา เฮากั๋วบ่ดาย” ผมตอบเธอไปว่าไม่ได้ไม่ชอบ แค่กลัวเฉยๆ ผมยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีที่ทำแบบนี้ แต่ในตอนนั้นที่มีข่าวคนตาย ผมเองก็กลัวตาย และเริ่มเชื่อฟังยายที่ห้ามผมไปเล่นกับเธอแล้ว                 หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น มีคนตายติดต่อกันสามคนติดๆ วันละคน ชาวบ้านจึงลุกฮือทำตัวเหนือกฎหมายบุกเผาบ้านของเหมย แต่ตำรวจกลับมาห้ามเอาไว้เสียก่อน ภาพที่เห็นและแสนหดหู่คือตายายยืนโอบหลานเอาไว้ ยืนมองผู้คนมากมายก่นด่าสาปแช่งด้วยแววตาที่โศกสันต์                 และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอกับเหมย ค่ำวันนั้น เธอมาตะโกนเรียกผมอยู่ที่หน้าบ้าน กอดเสารั้วแล้วโผล่หน้ามามาเพียงเล็กน้อยราวกับแอบมองผม ผมยืนอยู่บนชานบ้าน ไม่กล้าลงไปหาเธอ แม้จะเศร้าเพียงไรก็ตาม                  แต่ผมก็ต้องการคำตอบที่ทำให้มั่นใจว่าเธอไม่ใช่ ไม่เพียงแค่ถามผมกลับว่ากลัวเหรอ ไม่ชอบเหรอ ? มันคลุมเครือเกินไป                                เธอไม่ได้พูดอะไร แววตาหม่นเศร้าและชืดชาดั่งหมอกเหมยเช่นชื่อเธอนั้นหมองเศร้า เธอโบกมือลาผมสามที ในใจรู้สึกวิวหวิว เหมือนว่ามันคือการบอกลาครั้งสุดท้าย แล้วโศกนาฏกรรมสีเพลิงก็เกิดขึ้นในคืนนั้น                 ตากับยายของเหมยเก็บตัวอยู่ในห้อง แล้วจุดไฟ คลอกตัวเองตายอยู่ในนั้นอย่างน่าอนาถ แต่มันเป็นเสมือนงานรื่นเริงของชาวบ้านที่ปรบมือและจุดพลุเฉลิมฉลองที่ครอบครัวผีกะตายไปแล้ว หมอกเหมยถูกญาติพาตัวไปอยู่ด้วย และประกาศขายที่ตรงนั้นในราคาถูกอย่างรวดเร็ว                 แววตาสุดท้ายที่ผมเห็นเธอ คือดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตาบนใบหน้าที่หมดสิ้นชีวิตชีวาในรถเก๋งคันหรูที่เคลื่อนผ่านไป...ครั้งนั้นผมร้องไห้และวิ่งตามรถคันนั้นไป อยากเอ่ยคำขอโทษเธออย่างสุดหัวใจ แต่รถคันนั้นคงไม่จอดหรือต้อนรับผมอีกแล้ว                 สภาพศพของสองตาตายที่ถูกเผาเกือบทั้งร่าง (เจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟทัน แต่ท่านทั้งสองตายแล้ว) หน้าท้องถูกแหวกออกมา อวัยวะภายในกระจัดกระจายและมีร่องรอยการฉีกกัดกระชากอย่างน่ากลัว ค้นภายในห้อง พบเจอหม้อดินปิดผ้ายันต์สองหม้ออยู่บนเพดานห้อง นั่นคือคำตอบของทั้งหมด...ที่ไม่ตอบคำถามหรือคำกล่าวหาก็เพราะว่า บ้านนั้นเลี้ยงผีกะจริงๆ                 เวลาผ่านมาจนผมโตขึ้นและได้เรียนรู้รับฟังความเชื่อตำนานต่างๆ ของภาคเหนือ จึงได้คำตอบจากการวิเคราะห์เอาเองว่ามันเริ่มตั้งแต่พ่อและแม่ของเหมย ที่เป็นนักแสดงลิเก ทั้งสองรับเอาผีกะพระผีกะนางมา ตามความเชื่อโบราณผีชนิดนี้ช่วยเรื่องเมตตามหานิยมอย่างมากหากเลี้ยงดูดีๆ (แต่ถ้าเลี้ยงไม่ดี มันจะไปกินไส้กินพุงคนอื่น รวมทั้งเจ้าของ) เพื่อให้วิญญาณเหล่านั้นทำให้แม่ยกรักและหลง หากแต่สาเหตุบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองเสียชีวิตไปแล้ว คนรับช่วงต่อมาคือตายายลายของเหมยนั่นเอง                 ทั้งสองอาจจะเลี้ยงผีกะไม่เป็น หรือเลี้ยงไม่ดีนัก ทว่าเมื่อรับเข้ามาเลี้ยงแล้วก็ฝืนเลี้ยงต่อไป กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ชาวบ้านกล่าวหา ผีกะเหล่านั้นถูกปองร้าย จึงออกไล่ฆ่าคนที่คิดว่าจะเป็นอันตรายกับตัวเอง ทุกๆ ราย แล้วท้ายที่สุด เมื่อผีกะดีได้ฆ่าคน มันก็จะกลายเป็นอสูรกายแสนเลวร้าย กัดกินแม้กระทั่งผู้เป็นเจ้าของของมันเอง...นั่นคือตาและยาย                 สิ่งที่ผมหวาดกลัวและน่าเศร้านั่นคือ หากตายายทั้งสองนั้นอาจยอมสังเวยตัวเองเป็นเหยื่อรายสุดท้าย เพื่อปลดปล่อยวิญญาณผีกะให้เป็นอิสระ ไปเป็นผีกะดงกินกบกินเขียดในป่า ไม่ต้องมาฆ่าใครอีก ถ้าหากมันเป็นเช่นนั้น ผมคงรู้สึกผิดกับเหมยไม่น้อย เพราะผมเลือกที่จะหวาดกลัวเธออย่างสุดหัวใจในเวลาสุดท้ายก่อนจะจากกัน                 ไม่มีคนตายอีกนับจากนั้น...กระทั่งเรื่องผีโพงเริ่มเข้ามาทดแทนเรื่องราว                 ปีก่อน ได้มีโอกาสกลับไปร่วมงานวันสงกรานต์...บ้านของเหมยยังคงอยู่ตรงนั้น กลายเป็นบ้านร้างไม่มีใครรับซื้อไป และรอยไหม้บริเวณหน้าต่างห้องแห่งโศกนาฏกรรมนั้นก็ยังคงอยู่                 ผมเดินกลับมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดลึกๆ ตัวสั่นเทา จมดิ่งกับความทรงจำนั้น หากได้พบเธอสักครั้ง...ผมอยากจะดึงเธอเข้ามากอดแล้วขอโทษเธอด้วยใจของผม...                 เธอจะเป็นอย่างไรนะ เหมย 

วิธีแก้ปัญหาหนูป่วนบ้าน

หนูเข้าบ้าน วิธีแก้ปัญหาหนูเข้าบ้าน ไล่หนู กำจัดหนู ต้องทำอย่างไร สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้นิกซ์จะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับน้องๆหนูๆที่เข้ามาพัวพันกับชีวิตของผมครับ เรื่องก็มีอยู่ว่าผมก็อยู่บ้านของผมคนเดียวดีๆ อยู่ๆก็ดันมีน้องหนูเข้ามาอยู่อาศัยร่วมกับผมด้วยโดยไม่ได้รับเชิญ นางมาอยู่ก็ไม่อยู่เปล่า นางอยู่แบบว่าเหมือนเป็นบ้านตัวเองไปเลย ไม่เคยให้เกียรติเจ้าของบ้าน จะทำอะไรก็ไม่เคยขออนุญาตเจ้าของบ้านเลยสักครั้ง หน้าตาก็น่ารักไม่น่าทำตัวแบบนี้กับผมเลย น้องหนูใช้ชีวิตอย่างไรในบ้านของผมบ้างไปดูกันได้เลยครับนางวิ่งเล่นขึ้นลงบันไดบ้านอย่างสบายใจ กัดโน่น นี่ นั่น ไปทั่ว ตอนที่ผมไม่อยู่บ้านผมเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้นางก็เข้าไปนอนเล่นในเก๊ะที่ผมพับผ้าใส่ไว้ ทั้งๆที่ผมปิดประตูห้องนอนไว้ตลอดนะครับ นางก็ยังใช้วิชารีดตัวรอดใต้ประตูเข้ามาได้ นางเข้ามาในตู้เสื้อผ้าไม่นอนเล่นธรรมดานะครับนางกัด โน่น นี่ นั่น ไปทั่ว ที่ตะลึงที่สุดก็ตอนผมหยิบลิบมันขึ้นมาจะทาปาก โอ้ว!!! ลิบมันของฉันถูกน้องหนูกินไปหมดแท่งแล้ว ผมก็เลยแก้ปัญหาโดยปิดตู้เสื้อผ้าตลอด นางก็เลยเข้าตู้เสื้อผ้าไม่ได้ สถานที่ที่นางชอบมากอีกแห่งก็คือในห้องน้ำครับ นางเข้าไปหาของกินครับ (ในห้องน้ำจะมีอะไรให้นางกิน)นางกินยาสีฟันของผม นางกินสบู่ของผม นางกินต้นพลูด่างของผม กินจนหมด ถ้าแจกันกินได้นางคงกินไปด้วยแล้ว เห็นทีจะอยู่ร่วมบ้านเดียวกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมก็เลยต้องเริ่มกระบวนการขับไล่ตามหลักมนุษยธรรม ปฏิบัติจากเบาไปหนัก โดยผมได้เริ่มต้นด้วยการแอบเข้าห้องน้ำตอนกลางดึก ก็เป็นเหตุทำให้เราสองได้พบกันและต่างคน(จะต่างคนหรือต่างตัวดี)ก็ต่างสตั๊นมองตาปริบๆใส่กัน ผมจึงใช้โอกาสนี้ว่ากล่าวตักเตือนน้องหนูไปว่าอย่ามายุ่งกับของของฉันอีกนะ นางก็ทำหน้าสำนึกผิดแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องน้ำไป (ผมต้องหลบทางให้นางเพราะผมยืนขวางประตูอยู่😁)วันเวลาผ่านไป นางก็ยังไม่เชื่อในคำว่ากล่าวตักเตือนของผม นางยังคงปฏิบัติตัวเช่นเดิม ผมจึงต้องปฏิบัติในขั้นตอนต่อไป ผมเห็นว่าสบู่ของผมมีอยู่ 2 ก้อน เห็นนางกินแต่ก้อนสีขาวผมก็เลยคิดว่านางน่าจะชอบกินก้อนนี้มาก ผมก็เลยนำสบู่ก้อนสีขาวกลิ่นน้ำนมข้าวก้อนนี้ลงไปวางไว้หลังบ้านเพื่อให้นางกินได้อย่างเต็มที่ จะได้ไม่มายุ่งวุ่นวายกับผมอีกและแล้วนางก็ไม่สนใจก้อนสีขาวที่ผมยกให้อีกต่อไป นางกลับมากินสบู่ก้อนสีส้มของผมแทน😢 เห็นทีผมต้องเข้าสู่มาตรการขั้นเด็ดขาดแล้วครับ ผมก็เลยซื้อเครื่องไล่หนูจาก Shopee มาจัดการกับน้องหนูของผม เห็นรีวิวกันว่าดี มันเป็นเครื่องไล่หนูที่ใช้งานง่ายมากๆครับ เพียงแค่จับมันเสียบกับปลั๊กไฟ แล้วมันก็จะไล่หนูด้วยพลังคลื่นเสียงที่หนู หรือแมลงไม่ชอบ แต่มนุษย์จะไม่ได้ยิน พลังคลื่นเสียงนี้จะทำให้น้องหนูกระวนกระวาย จนไม่สามารถอยู่ในบ้านของผมอีกต่อไปได้ แล้วมันก็จะเก็บข้าวของย้ายที่อยู่ไปเองและแล้วเมื่อน้องหนูได้มาเจอกับเครื่องไล่หนูเครื่องนี้ มันเลยบอกว่า "อะไรกันนี่ สีสวยน่ากินจัง ถ้าอยู่ต่ำๆนะ ฉันจะกินให้หมดเลย" แล้วนางก็ใช้ชีวิตตามปกติของนางบนความเดือดร้อนของผมต่อไป😂ไม่ไหวแล้ว😡ผมต้องเข้าสู่มาตรการขั้นเด็ดขาดสุดๆแล้ว🔹น้องหนูต้องเจอ ยาเบื่อหนู น้องหนูกินเข้าไปถึงตายเลยนะนั่น ไม่เอาอะบาปกรรม🔹น้องหนูต้องเจอ กาวดักหนู งานนี้ไม่น่าจะติดแค่น้องหนูแน่ๆ คงแถมน้องจิ้งจก น้องแมลงสาบ และน้องอื่นๆอีกมากมาย แถมทรมานด้วยน้องต้องติดหนึบอยู่แบบนั้นจนกว่าจะตาย ไม่เอาอะบาปกรรม🔹น้องหนูต้องเจอ กับดักหนู อันนี้ก็โหดร้ายไป น้องหนูโดนฟันเหล็กงับต้องเจ็บมากแน่ๆไม่เอาอะบาปกรรม🔹น้องหนูต้องเจอ ก้อนไล่หนู สมุนไพรไล่หนู สเปรย์ไล่หนู ลูกเหม็น น้องหนูต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ แต่คิดไปคิดมาก็กลัวว่าตัวผมจะเหม็นจนอยู่ไม่ได้เสียเองมากกว่าครับ ไม่เอาดีกว่า🔹หรือเราจะเลี้ยงแมวดี รับรองว่าหนูหายเกลี้ยง  แต่เราก็ไม่ค่อยจะมีเวลาดูแลน้องแมว แล้วพอคิดไปคิดมาก็กลัวว่าน้องแมวจะพังบ้านเรามากกว่าน้องหนูละสิ แมวก็ซนใช่ย่อย ไม่เอาดีกว่า (เจ้าเหมียวตัวนี้เป็นของข้างบ้านครับ ถึงว่าน้องหนูเลือกมาอยู่บ้านเรา😁)พ่อใจบุญ จะกำจัดหนูก็กลัวบาป เลยต้องเข้าสู่มาตรการขั้นสุดท้ายแล้วละครับ น้องหนูต้องเจอกรงดักหนู ผมซื้อมาจาก Shopee เช่นเดิม เพียง 75 บาท ครับเพียงผมแขวนขนมไว้ในกรงแล้วก็วางกรงดักหนูบริเวณทางผ่านประจำของนาง พอผมเข้าห้องนอนได้ไม่ถึง2ชั่วโมง น้องหนูของผมก็เข้ามาอยู่ในนี้แล้วครับ แล้วผมก็พาน้องหนูไปปล่อยที่บ้านคนอื่น เอ้ย ไปปล่อยที่อื่นให้มันไกลๆ จนน้องหนูกลับบ้านไม่ถูกอีกต่อไป และแล้วเรื่องนี้ก็จบลงอย่าง Happy ending ขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความของผมครับ ฝากติดตาม Nixz's Life Hack เพื่อเป็นกำลังใจในการทำบทความให้ทุกท่านได้อ่านต่อไปครับบทความต้องห้ามพลาดบทความเสี่ยงตาย รีวิว ที่เขาว่ามีภรรยาเหมือนตกนรก จริงไหม?TrueID In-Trend รายได้เสริม ยุคโควิด ทำง่าย ได้เงินจริงเปลี่ยนสีรถ ราคาประหยัด ทำยังไง แจ้งขนส่งไหม3แอปพลิเคชั่น ทำชีวิตให้ง่าย สำหรับวัยทำงานรีวิว เก้าอี้สำนักงาน ส่งถึงบ้าน ประกอบง่าย ไม่ถึงพัน คุ้มเวอร์รีวิว มุ้งลวดแม่เหล็ก itemเด็ด ติดเองได้ ไม่ง้อช่างรีวิว โปรเจคเตอร์พกพา Byintek UFO P10 โรงหนังเคลื่อนที่เครื่องซักผ้ามินิ ราคาหลักร้อย มันจะเจ๋งอะไรขนาดนี้ภาพหน้าปกโดย canvaภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !

งานดี มีฟิน! รักคู่จิ้น เตรียมจิกหมอน! มหกรรมจิ้นเว่อร์ AF เว่อร์ จิ้น ฟิน Concert

ปล่อยทีเซอร์ออกมาให้หวั่นไหวกันแล้ว สำหรับ มหกรรมจิ้นเว่อร์ของ 4 คู่จิ้น บ้านเอเอฟ ใน Truemove H present AF เว่อร์ จิ้น ฟิน Concert โดย Panther Entertainment และสำหรับคู่แรก ได้แก่ ริวจิ หรือ มาริว ภัทรพงศ์ เวศกามิ กับ เบนซ์ จิรโรจน์ ศรุณานิธิโรจน์ จากบ้าน AF12 นั่นเอง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เร็ว ๆ นี้Truemove H present AF เว่อร์ จิ้น ฟิน Concert มหกรรมจิ้นเว่อร์ ของ 4 คู่จิ้น ที่ทั้งอิน ทั้งฟิน แบบจิกหมอน เสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2558 เวลา 17.00 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานีตารางงานของศิลปิน AF ตั้งแต่วันที่ 7 13 มีนาคม 2559ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจิ้นคู่ 2 มาแล้ว! เอม-น้ำ คู่นี้ต้องมา มหกรรมจิ้นเว่อร์ AF เว่อร์ จิ้น ฟิน Concert (มีคลิปสัมภาษณ์)อรรถรสมะ!!! Panther Entertainment เผยอีก 2 คู่จิ้น ใน AF เวอร์ จิ้น ฟิน Concert!Music Truelife อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากลข่าว Gossip พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจและติดตามพวกเราชาว Entertainment Truelife ได้ที่นี่

ประวัติหนูยิ้มหนูแย้ม YimYam TV

Youtuber เด็กมาแรงในปัจจุบัน ที่ไม่แพ้ใคร ๆ เลย เป็นใครไปไม่ได้ นั้นก็คือ หนูยิ้มหนูแย้ม หรือ YimYam TV ซึ่งมีผู้ติดตาม 5.83 ล้านคน เด็ก ๆก็ทราบกันแล้ว แต่คุณแม่และน้องๆ หนูๆหลายคนก็คงอยากทราบประวัติของหนูยิ้มหนู้แย้ม ว่าทำไมคุณแม่เลี้ยงลูกได้เก่ง เป็นยิ้มแย้มตัวน้อยที่เชื่อฟังคุณแม่ได้ เราไปฟังกันเลยค่ะ ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/yimyamtv/photos/1695454430538411หนูยิ้มหนูแย้ม เป็นฝ่าแฝดคนละฝ่า หนูยิ้มเป็นแฝดพี่ หนูแย้มเป็นแฝดน้อง  เกิดวัน 24 กุมภาพันธ์ 2557 ปัจจุบัน อายุ 7 ปี ปัจจุบันเรียนที่โรงเรียนนานาชาติอเมริกันไชนิส เชียงใหม่ แม่ปุ๋ยอายุ 32 ปี อดีตเป็นครูพี่เลี้ยงเด็กและปัจจุบันเป็นแม่บ้าน พ่อบ๋อม อายุ 39  ปี ธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับ สกรีนเสื้อ และ กราฟิกคอมฯ แม่ปุ๋ยและพ่อบ๋อมเป็นคนเชียงราย ปัจจุบันยายมาอยู่เชียงใหม่ ซึ่งแม่ปุ๋ยและพ่อบ๋อมชอบถ่ายคลิปจึงเอามาลงไว้ใน youtube เพื่อให้ครอบครัวดูให้หายคิดถึง จากผลงานที่ยอดนิยมที่ทำให้เด็ก ๆ ชื่นชอบ มากกว่า 50 ล้านวิว อาทิเช่น1.ผจญภัยดินแดนมหาสนุก YimYam Pretend Play in the Amusement Park ยอดวิว 99 ล้านวิว2.ระบายสีด้วยมือ Kids Activity ยอดวิว 93 ล้านวิว3. ขายไอติม ด้วยรถกล่องกระดาษ ยอดวิว 67 ล้านวิว4.เป่าเค้กวันเกิด ยอดวิว 66 ล้านวิว5. ทำงานอะไรดีนะ EP1 YimYam and Dad pretend play in the profession  ยอดวิว 61 ล้านวิว6. เล่นอุโมงค์น้ำแข็งเอลซ่า YimYam Pretend Play with Frozen Princess Inflatable Igloo ยอดวิว 59 ล้านวิว7. มือเม็ดแมงลักแช่แข็ง ยอดวิว 58 ล้านวิว8. ไม่ล้างมือ ยอดวิว 51 ล้านวิว และผลงานอีกมากมาย ซึ่งเป็นผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ สอนเตือนใจให้ความรู้และเป็นการเล่นกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งได้มาจากประสบการณ์และความรู้ของแม่ปุ๋ยจากอดีตคุณครูพี่เลี้ยงที่มีความรู้ความสามารถ จนหนูยิ้มหนูแย้ม กลายเป็น youtuber ตัวน้อยและมีชื่อเสียงในปัจจุบัน ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/yimyamtv/photos/3643282175755617จากบทความก็นี้ก็ทำให้คุณแม่และน้อง ๆ หนู ๆ ทราบประวัติและที่มาในการเข้าวงการในyoutubeแล้ว ถ้าคุณแม่และน้องๆ หนูๆ ต้องการทราบข้อมูลของหนูยิ้มหนูแย้ม ในเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมก็เปิดดูในคลิปนี้ได้เลยจ้าhttps://www.youtube.com/watch?v=FOk2Ha7_9o4  หนูยิ้มหนูแย้ม/ถามมาตอบไปhttps://www.youtube.com/watch?v=hdrbwxg_6Uc  หนูยิ้มหนูแย้ม/ตอบคำถาม QA ตอนที่ 1ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/yimyamtv/photos/3420802828003554      

“กะเพราหมูชิ้น” อาหารไทยต้านไวรัส

“กะเพราหมูชิ้น” อาหารไทยต้านไวรัส เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเราต้องหันมาดูแลสุขภาพสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองและครอบครัวกันบ้างแล้วนะคะ โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงจากสมุนไพรไทย ที่อุดมด้วยสรรพคุณในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ แม่ลูกเข้าครัวเลยจัดมื้อเย็นเป็น"ผัดกะเพราหมูชิ้น"กันซะเลย!!ค่ะ เพราะผัดกะเพราเป็นเมนูอาหารที่ทำง่าย อีกทั้งมีใบกะเพราเป็นส่วนประกอบหลักอันสำคัญ ซึ่งใบกะพรานั้น มีสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อของเซลล์ร่างกาย ทั้งหมดนี้จึงยืนยันสรรพคุณที่ช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยไข้จากเชื้อไวรัสได้ค่ะ เหมาะมากๆกับช่วงเวลานี้ จึงไม่ควรรีรอเรามาลงมือปรุงเมนูสำคัญนี้ค่ะ หม๊ะๆ มาเตรียมส่วนผสมของกะเพราหมูชิ้น อาหารไทยต้านไวรัสกันเลยนะคะ ส่วนผสมประกอบด้วย : กระเทียมสับหรือหั่น 10 กลีบ พริกแดงซอย 15-17 เม็ด ใบกระเพรา 2 กำมือ หมูหั่นชิ้น(สันคอ) 400 กรัม น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วปรุงรส 1-2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ มาดูวิธีลงมือทำกันค่ะ 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมและพริกที่เตรียมไว้ ลงไปผัดจนหอม 2. ใส่หมูลงไปตามด้วย น้ำตาลทราย น้ำปลา ซีอิ้วปรุงรส ผัดให้เข้ากันจนชิ้นหมูสุก จากนั้นชิมรสตามชอบ 3. ใส่ใบกระเพราลงผัดพอสลด ปิดแก๊ส จากนั้นตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ (ส่วนใครที่ชอบใบกระเพรากรอบๆโรยหน้าก็จัดได้เลยนะคะ) “กะเพราหมูชิ้น” อาหารไทยต้านไวรัส เป็นเมนูที่อร่อย ทานง่ายและทำไม่ยากเลยค่ะ แถมมีสรรพคุณช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยไข้จากเชื้อไวรัสอีกด้วย จึงขอแนะนำเป็นอีกเมนูที่ควรจัดเตรียมส่วนผสมไว้คู่ครัว เพื่อเป็นเมนูแทนความรักความห่วงใจต่อสมาชิกในครอบครัวเราคร๊า!! ภาพ/เขียนโดยผู้เขียน : ดวงฤดี

สู้ยังไง ในวันที่หนี้สินล้นตัว

การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐคำพูดนี้ใช้ได้กับทุกยุคสมัย แต่พอชีวิตมาถึงช่วงที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนจำนวนมาก ๆ โดยที่เงินเก็บของคุณยังมีไม่มากพอ ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกู้เงิน จากสถานบันการเงิน หรือธนาคารต่าง ๆ เพื่อนำเงินก้อนมาใช้ก่อนแล้วผ่อนส่งทีหลัง ดังนั้นการมีหนี้สินทางการเงินส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ต้องการสิ่งที่จำเป็น โดยที่เงินเดือนยังมีไม่พอ อาทิเช่น บ้าน รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ทำให้บางคนกู้ยืมเงินจนทำให้กลายเป็นหนี้ก้อนโต วันนี้ทางผู้เขียนนำข้อคิดดี ๆ เพื่อสู้ในวันที่เราเป็นหนี้ก้อนโต https://pixabay.com/images/id-1730085/ ที่มาของภาพคุณควรแยกให้ออกว่าอันไหนรายได้ อันไหนหนี้สิน การแยกให้ชัดเจนเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณได้บริหารเงินรายรับของคุณได้ดีมากขึ้น เมื่อคุณเอารายรับไปลบกับหนี้สิน คุณก็ควรแบ่งอีกส่วนหนึ่งจากค่าใช้จ่ายทั่วไปของคุณมาเป็นเงินออมด้วย ใช่ครับเงินออม ไม่ใช่ว่าคุณมีหนี้แล้วจะนำมาเป็นข้ออ้างเรื่องการเก็บออมเงินของคุณ หนี้ส่วนหนี้ เงินออมส่วนเงินออม แต่ถ้าเงินรายรับของคุณไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้หรือการออมเงิน คุณควรหารายได้เพิ่มครับ นั่นคือทางออก เพราะหนี้สินของคุณอาจจะถูกชำระปิดหนี้นั้นด้วยเงินที่คุณได้เก็บออมด้วยอีกแรงครับเงินที่คุณจ่ายออกไปคือพลังงานในชีวิตที่คุณใช้แลกเป็นเงิน ต้องยอมรับครับว่า บางคนก็เป็นหนี้ล้นตัวเพราะค่านิยมทางสังคม การใช้ชีวิตที่หรูหราเกินตัวจนก่อหนี้สินตามมา ดังนั้นคุณควรจะมองเงินเป็นสิ่งใหม่ คือมองกระดาษแผ่นนั้นว่านั่นคือ เวลาและพลังงานชีวิตของคุณ สิ่งที่คุณจะนำไปแลกมันคุ้มค่ารึเปล่า หัดตั้งคำถามแบบนี้ก่อนจะใช้จ่ายเสมอครับ https://pixabay.com/images/id-366927/ ที่มาของภาพพัฒนาตัวเอง หยุดโฟกัสในเรื่องหนี้ เพราะการโฟกัสในสิ่งไหนมาก ๆ สิ่งนั้นจะยิ่งโตขึ้น สิ่งที่คุณควรจะมองให้ชัดเจนนั่นคือตัวคุณเอง มองลงไปว่ามีสิ่งไหนที่คุณชอบ คุณควรจะพัฒนาสิ่งนั้นให้มาก ๆ จนทำให้สร้างรายได้อีกทางให้คุณรวมหนี้สินให้เป็นก้อนเดียว คุณห้ามสร้างหนี้อีกหนี้หนึ่งเพื่อมาปิดหนี้ที่สร้างไว้ก่อนหน้า ถ้าทำแบบนี้คุณจะใช้หนี้ไปตลอดชีวิต คุณควรรวมหนี้ที่คุณสร้างไว้หลาย ๆ ก้อนนั้นให้เป็นหนี้ก้อนเดียวแล้วทยอยจ่ายจนกว่าหนี้นั้นจะหมด https://pixabay.com/images/id-912719/ ที่มาของภาพเรียนรู้ด้านการเงิน ลงคอร์สสัมนาเพิ่มทักษะ อ่านหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับการบริหารด้านการเงินให้มาก ๆ เพื่อให้คุณจะไม่ต้องตกลงไปในกับดักหนี้สินอีกครั้ง  ถ้าตอนนี้คุณมีหนี้สินจนล้นตัว จงตั้งสติ และใจเย็น ๆ ครับ อย่าเครียดจนคิดว่าไม่มีทางออกนะครับ สถาบันทางการเงิน ธนาคารมทุกที่ส่วนใหญ่สามารถเจรจาต่อรองได้ ว่าคุณติดขัดตรงไหนหรือสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหนี้แบบไหนได้บ้าง ลองไปพูดคุยเพื่อหาทางออกที่ดีกันนะครับhttps://pixabay.com/images/id-2070384/ ที่มาภาพหน้าปก 

หนูเป็นชาวพม่า ? ชาวมอญ ?

          ในช่วงชีวิตวัยเด็กของใครหลายคน คงมีเรื่องราวต่าง ๆ นานัปการ อาจเป็นเรื่องดีหรือร้าย อาจทำให้สุขหรือทุกข์ อาจถูกชื่นชมหรือถูกตำหนิ เรื่องราวราวเหล่านั้นล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ต้องเผชิญ แต่สำหรับเรื่องราวที่เจ็บปวดไม่น้อย คือ “การโดนมองแปลกแยกไปจากสังคม(ไทย)” ที่พยายามก่อกำแพงใจและสร้างความไม่เท่าเทียมกันของมนุษย์ในสังคมขึ้นมา และแม้บางคนกล่าวอ้างถึงความเท่าเทียมกันในทางกฎหมาย          แต่ในโลกของความเป็นจริงนั้น “ความไม่เท่าเทียมในจิตใจของมนุษย์” ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ เฉกเช่นสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งที่เกิดมาไม่มีสัญชาติ เนื่องด้วยความผิดพลาดของครอบครัวในการแจ้งเกิด ทำให้เธอดูแปลกแยกไปจากสังคม(ไทย) ซึ่งมักเรียกเพื่อนบ้านประเทศใกล้เคียงว่า “ต่างด้าว” แต่กลับเรียกชาติอื่น ๆ เช่น ยุโรป ว่า “ต่างชาติ”          เธอถูกผลักให้กลายเป็นคนชายขอบ ที่ต้องเจ็บปวดกับคำเหยียดหยามและความไม่เท่าเทียมในสังคม          จนผู้เขียนเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า “เธอทำผิดอะไร?” “ผิดที่พ่อแม่ไม่ได้เป็นคนไทย?” “ผิดที่เธอเกิดและโตอยู่ในสังคมไทย?” “หรือแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ได้ผิดอะไรเลย?”          พ่อแม่เธอเป็นชาวมอญ (รัฐทางตอนใต้ของเมียนมาร์ ซึ่งเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต) ได้อพยพเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้เส้นทางระนอง ด้วย Passpost การทำงานของแรงงานพม่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา จนกระทั่งได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานร่วมกับพี่น้องชาวมอญชาวพม่าในพื้นที่แถบเขาน้อยในอำเภอสิชล ประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยางและใช้แรงงานเป็นหลัก                                                                     แผนที่แสดงที่ตั้งของรัฐมอญในประเทศเมียนมาร์                                                                           ขอบคุณภาพจาก http://themimu.info/          เธอไม่มีบัตรประชาชนแสดงถึงตัวตน มีเพียงชื่อและนามสกุลที่บ่งบอกถึงความแปลกแยก “ชาวพม่า” ไม่ว่าใครได้ยินก็ต้องแปลกใจและบ้างก็หัวเราะ โดยเฉพาะตอนได้รับโอกาสให้เข้าเรียนในโรงเรียนของไทยเมื่อตอนประถม 1 ซึ่งเกินเกณฑ์ไปสองปี ความแปลกแยกในสายตาของเพื่อน และครูบางท่านก็ยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้น “ความดูถูกดูแคลน” “ล้อเลียน” “รังแก” “”ผลักไส” “เพิกเฉย” คือสิ่งที่เธอต้องเผชิญทุกวี่วัน          “ไม่ได้คิดอะไรแล้ว เพราะที่ผ่านมาต้องเจอกับคำพูดเหล่านี้มากมาย จนรู้สึกชิน(และชา)ไปเสียแล้ว” เธอกล่าวออกมา พร้อมรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดในแววตาทั้งสอง           เธอรู้สึกไม่อยากเรียนต่อเมื่อจบการศึกษาระดับประถม 6 แต่ทว่าด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัว โรงเรียน ตลอดจนหน่วยงานราชการที่สนับสนุนทุนการศึกษาให้อยู่เสมอ ทำให้เธอมีโอกาสศึกษาในระดับมัธยมและได้รับการเปลี่ยนนามสกุลจาก “ชาวพม่า” มาเป็น “ชาวมอญ” ตามกลุ่มชาติพันธุ์แท้จริงของตน (แต่ในฐานข้อมูลบางระบบ เช่น O-NET ยังคงเป็น ชาวพม่า)          “ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพ่อแม่จะมีเงินส่งเสียหรือเปล่า เพราะต้องส่งน้องเรียนอีกสองคน” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ก่อนเปลี่ยนสีหน้าจากเศร้าหมองมาเป็นยิ้มแย้มเมื่อได้เล่าถึงความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น Designer นักออกแบบเสื้อผ้า          เมื่อเป็นเช่นนั้นหนทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ คือ การเรียนต่อในระดับมัธยมปลาย (และมหาวิทยาลัย) แม้หลายคนมองว่าไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบ เพราะใบปริญญาไม่สามารถวัดหรือการันตีความสำเร็จของชีวิตได้ แต่อย่าลืมว่าการศึกษา          และเราจะแน่ใจได้อย่างไรกับความเป็นอยู่ที่โดนมองว่า “แปลกแยกในสังคม(ไทย)” จะประสบความสำเร็จได้ง่าย ๆ หากปราศจากการผลักดันตนเองขึ้นมา ก็จำต้องถูกผลักไสหรือกดทับไว้ดังเก่า          เราจะอยู่แปลกแยกอย่างโดดเดียวหรือโดดเด่นในสังคม(ไทย) ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอเอง ดังตัวอย่างชาวไทยเชื้อสายมอญรุ่นเก่า เช่น ท่านสุเอ็ด คชเสนี ท่ามหาพวน รามัญวงศ์ คุณองค์ บรรจุน ฯ                                                                                     สุดท้ายนี้ในฐานะของคน(ไทย)คนหนึ่งที่พยายามค้นหาและสร้างความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ด้วยการลดอคติทางความคิดและไม่สร้างกำแพงกั้นใจระหว่างกัน กำแพงที่เป็นเพียงมายาคติจากประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ การปลูกฝังทางความคิด จากทั้งครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ความคิดชาตินิยมที่ยกย่องตนว่าเจริญและเหนือกว่ากลุ่มชาติพันธุ์อื่นใด จนกระทั่งมองบุคคลเหล่านั้น “แปลกแยกไปจากสังคม” จนลืมมองดูโคตรเหง้าของตนที่ล้วนเป็นลูกผสมหลากชนชาติ ซึ่งยากจะหาความเป็นไทย(แท้)ในกาย

แชร์ 6 วิธีบริหารจัดการหนี้สิน ให้อยู่หมัด

 ช่วงที่ดอกเบี้ยขึ้น เงินเฟ้อพุ่ง ข้าวของแพง หลายคนชักหน้าไม่ถึงหลัง บางคนมีหนี้สินอยู่แล้ว ก็เสี่ยงที่จะไปก่อหนี้เพิ่มจนสุดท้ายหนี้สินล้นตัว บางคนมีหนี้สินเยอะ ก็ยิ่งมืดมน ไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ตรงไหน จะปรึกษาใคร ก็ไม่กล้า กลัวจะอายคนอื่น กลัวคนอื่นจะเอาไปพูดลับหลัง วันนี้เราเลยจะมาแชร์วิธีบริหารจัดการหนี้สิน เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนหนี้เยอะ หนี้ไม่เยอะก็อ่านได้นะ เรามาดูกันเลยค่ะ 6 วิธีบริหารจัดการหนี้สิน ให้อยู่หมัด จดบันทึกรายการหนี้สินถ้าคุณมีหนี้สิน ไม่ว่าจะหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้ส่วนบุคคล หนี้ในระบบ หนี้นอกระบบ ฯลฯ ให้คุณพยายามตั้งสติ แล้วทำการจดบันทึกว่าคุณมีหนี้อะไรบ้าง หนี้แต่ละอย่างมีจำนวนเท่าไร และต้องชำระอย่างไร ชำระรายวัน รายเดือน รายปี เพื่อที่จะได้เอามาเปรียบเทียบกับรายได้ที่คุณมีตอนนี้ การทำแบบนี้ จะทำให้คุณรู้ว่าคุณมีหนี้สินจริงทั้งหมดเท่าไร และหนี้ที่คุณมียังอยู่ในความสามารถ หรือเกินความสามารถในการชำระหนี้สินไปแล้วจัดลำดับความสำคัญในการจ่ายหนี้สินเมื่อจดรายการหนี้สินทั้งหมดแล้ว ให้เริ่มทำการจัดลำดับความสำคัญของหนี้สิน ว่าหนี้อันไหนที่คุณต้องจ่ายก่อนเป็นอันดับแรก (ไม่ใช่ให้จัดลำดับความสำคัญ ว่าหนี้อันไหนจะต้องจ่าย อันไหนจะชิ่งหนีนะคะ อย่าเข้าใจผิด 🤣) สำหรับเราคิดว่า การจัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้สินคือ จ่ายหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงก่อน เช่น หนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพง ๆ เราเคยเขียนเรื่องการบริหารหนี้ไปแล้วในบทความ 3 ขั้นตอนปิดบัญชีเงินกู้ซื้อบ้าน-คอนโด กับ ธอส พร้อมวิธีบริหารหนี้ให้ปัง!  ซึ่งสำหรับเราก็เลือกไปปิดหนี้คอนโดที่ดอกเบี้ยลอยตัวก่อน เพราะเป็นหนี้ที่ดอกเบี้ยแพงกว่าดอกเบี้ยคงที่ ขายสินทรัพย์ที่มีบางส่วนเพื่อชำระหนี้สินหากคุณมีหนี้สินที่ต้องชำระต่อเดือน เกินรายได้ที่คุณมี โอกาสที่คุณจะมีเงินมาชำระโดยไม่ก่อหนี้เพิ่มแทบไม่มี เว้นแต่คุณจะหารายได้เพิ่ม เพราะฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาดอกเบี้ยสะสมที่อาจจะกลายเป็นดินพอกหางหมู ขอแนะนำให้เอาทรัพย์สินบางส่วนมาขายเพื่อชำระหนี้ หากคุณได้เงินมาแล้ว ก็ควรทำการชำระหนี้ตามการจัดลำดับความสำคัญในข้อ 2  จริงอยู่ว่าการขายสินทรัพย์ที่เคยมี มันทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด เพราะคุณรู้สึกว่าทำพลาด แต่การตัดสินใจขายรถ เพื่อเซฟบ้านเพื่อให้มีที่อยู่ก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้น สำหรับเราคิดว่าการตัดสินใจขายทรัพย์สินบางส่วน จะทำให้คนฟื้นตัวเร็วกว่า การพยายามจ่ายดอกเบี้ยขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ รวมยอดหนี้สิน หลายธนาคารมีบริการรวมหนี้ ให้เป็นหนี้ก้อนเดียว เพื่อให้ลูกหนี้มีความสะดวกต่อการบริหารหนี้ เช็คดูว่าธนาคารไหนที่มีบริการรวมหนี้  ข้อดีของการรวมหนี้ ก็เพื่อให้ลูกหนี้บริหารจัดการหนี้ได้ดียิ่งขึ้นต่อรองกับเจ้าหนี้การต่อรองกับเจ้าหนี้ เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการบริหารจัดการหนี้ เช่น การขอลดดอกเบี้ยบ้าน หรือ การขอชำระหนี้จำนวนน้อยลง โดยใช้ระยะเวลายาวนานขึ้น อาจจะดูเหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ ณ เวลาที่คุณมีหนี้ท่วมหัว อะไรที่สามารถจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้คุณได้ คุณก็ต้องทำ นาทีนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้วค่ะงดก่อหนี้เพิ่ม แต่ให้เน้นปรับลดค่าใช้จ่าย และหารายได้เพิ่ม การไปก่อหนี้เพิ่ม กู้หนี้โปะหนี้ จะทำให้หนี้สินพันตัวคุณ จนสุดท้ายหาทางออกไม่ได้ ทางที่ดีให้คุณเริ่มด้วยการปรับลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น ค่าหวย ค่าเหล้า ค่าบุหรี่ หรือจะรัดเข็มขัด ประหยัดค่าใช้จ่ายในยุคของแพง เข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 5 วิธีรัดเข็มขัด ประหยัดค่าใช้จ่าย ยุคของแพง 2022 หรือจะอ่านหลักการเก็บเงินเกษียณ วางแผนเกษียณกันเถอะ เตรียมตัวยังไงให้มีเงินใช้พอ  การประหยัดค่าใช้จ่ายทำได้ง่ายและเร็วกว่าการหารายได้เพิ่ม เพราะคุณสามารถทำได้เลยด้วยตัวเอง แต่การหารายได้เพิ่ม ต้องใช้เวลาและมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง แต่ถ้าคุณมีความสามารถหลายอย่างก็งัดเอาความสามารถของตัวเองมาใช้ เพื่อเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง ก็ต้องยอมเหนื่อยกว่าเดิม เพราะหนี้สินมันเกิดไปแล้ว เราคงไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขอะไรได้ เมื่อพลาดไปแล้ว ก็แก้ไขใหม่ และทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิมแล้วชีวิตคุณก็จะดีขึ้นเองในไม่ช้า ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อสมัยที่เราเรียนจบ เริ่มทำงานใหม่ ๆ เราอยากได้คอนโด เพราะเราอยากมีที่อยู่ในกรุงเทพเป็นของตัวเอง อยากซื้อรถ เพราะอยากมีรถขับไปทำงาน (แต่ในความเป็นจริงใช้รถน้อยมาก) แต่เราก็เลือกซื้อคอนโด และรถที่ราคาไม่แพงมากนักเพราะไม่อยากก่อหนี้ให้เกินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง เมื่อเริ่มมีหนี้ เราก็ทำการจดบันทึกหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งก็ช่วยให้เราบริหารหนี้ และบริหารเงินได้ดียิ่งขึ้น เราสามารถแบ่งเงินไปเก็บออม และลงทุน โดยเริ่มด้วยการลงทุนในกองทุน หลังจากนั้นก็ขยับขยายไปศึกษาเรื่องหุ้น เพราะอยากได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ทุกวันนี้แม้จะไม่ได้เป็นเซียน แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นเม่า อันนี้ไม่รู้ว่าเราคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า 😉 (เผื่อใครไม่รู้ว่าเม่าคืออะไร เป็นคำที่ใช้เรียกนักลงทุนรายย่อยที่มีพฤติกรรมเห็นหุ้นตัวไหนขึ้น ก็วิ่งไปซื้อตาม คล้าย ๆ แมงเม่า ที่ชอบบินเข้ากองไฟ )  อีกครั้งหนึ่งที่เราลองลงทุนทำธุรกิจเล็ก ๆ โดยในช่วงแรกทุกอย่างก็พอไปได้ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ธุรกิจมีรายได้ไม่มากพอ พอที่จะจ่ายดอกเบี้ยธนาคาร จนเราต้องควักเงินส่วนตัวจ่ายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินอยู่ได้ แต่หลังจากคิดทบทวนอย่างละเอียด เราก็ตัดสินใจขายสินทรัพย์บางส่วน ณ ตอนนั้นจำได้ว่ามันให้ความรู้สึกที่เจ็บปวด แต่มาถึงวันนี้เราก็คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เพราะมันทำให้เราสามารถเก็บเงินที่ต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยไว้ลงทุนอย่างอื่นนอกจากนั้น การขอลดดอกเบี้ยบ้าน หรือการขอรีไฟแนนซ์เพื่อให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการบริหารจัดการหนี้ที่เราเองก็ใช้ เราเคยรีวิวไปแล้วในบทความ แชร์ประสบการณ์ ทำงานต่างประเทศ แต่กู้ซื้อบ้านที่เมืองไทย  และเมื่อเราจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง เราก็มีเงินเก็บออมไว้ลงทุนมากขึ้น โอกาสที่คุณจะมีเงินเก็บตามเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ก็เร็วยิ่งขึ้นด้วย เงินทอง ไม่ได้หายาก ถ้าคุณเข้าใจ และรู้จักวิธีหาเงิน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ฝากกดไลก์ กดแชร์ แล้วพบกันใหม่เร็ว ๆ นี้นะคะขอขอบคุณภาพปก โดย 89Stocker  /ภาพที่ 1 โดย 89Stocker/ ภาพที่ 2 โดย shameersrk จาก Pixabay/ ภาพที่ 3 โดย kanchanachitkhamma/  ภาพที่ 4 โดย 89Stocker / ภาพที่ 5 โดย nattanan23 จาก PixabayBy Nurseonomyบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง5 วิธีรัดเข็มขัด ประหยัดค่าใช้จ่าย ยุคของแพง 2022 (trueid.net)วางแผนเกษียณกันเถอะ เตรียมตัวยังไงให้มีเงินใช้พอ (trueid.net)3 ขั้นตอนปิดบัญชีเงินกู้ซื้อบ้าน-คอนโด กับ ธอส พร้อมวิธีบริหารหนี้ให้ปัง! (trueid.net)แชร์ประสบการณ์ ทำงานต่างประเทศ แต่กู้ซื้อบ้านที่เมืองไทย | TrueID Creator  เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

“อ่อมหมูชิ้น” สูตรเด็ดจากครัวอีสาน

อาหารอีสาน ขึ้นชื่อว่าอร่อยต้องมีปลาร้าเป็นองค์ประกอบ พร้อมด้วยพืชผักที่อยู่รายรอบบ้าน นำมาปรุงใส่ในหม้อพร้อมด้วยข้าวคั่วที่ให้ความหอม ปรุงเป็นรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะของครัวชาวอีสาน บทความนี้ผมจะมาพาทุกท่านไปรู้จักกับ “อ่อมหมูชิ้น” สูตรเด็ดจากครัวอีสาน มาบอกเล่าให้ผู้อ่านทุกท่านได้ลองนำไปประกอบอาหารกันครับ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แบบนี้ แต่ละวันมีผักที่เรากินไม่หมด หรือพืชผักสวนครัว นำมาสร้างสรรค์เป็นอาหารจานอร่อยในอีกมื้อได้ รายละเอียดของวัตถุดิบ เครื่องปรุง และขั้นตอนการทำ “อ่อมหมูชิ้น” สูตรเด็ดจากครัวอีสาน จะเป็นอย่างไรบ้างติดตามอ่านได้เลยครับ วัตถุดิบ และเครื่องปรุงของ “อ่อมหมูชิ้น” 1. หมูชิ้นหั่นบาง ๆ พอดีคำ 1 ถ้วย 2. ผักสวนครัวโดยทั่วไป เช่น มะเขือเปราะ ลูกบวบ ผักกาด ผักกะหล่ำ 3. ตะไคร้ 3 ต้น 4. หอมแดง 3 หัว 5. พริก 5 ลูก 6. ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ 7. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำเปล่า 1 ถ้วย 10. เกลือป่น ขั้นตอนการทำ “อ่อมหมูชิ้น” 1. ทำเครื่องอ่อมเป็นอันดับแรก โดยนำตะไคร้ 3 ต้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่หอมแดง 3 หัว พริก 5 ลูก และเกลือป่นหยิบหนึ่ง ใส่ลงในครกแล้วโขลกให้หยาบ ๆ โดยพยายามให้เครื่องปรุงทุกอย่างแตกตัวแต่ไม่ควรแหลกจนเกินไป 2. ต้มน้ำเปล่า 1 ถ้วยจนเดือด จากนั้นใส่เครื่องอ่อมที่โขลกไว้ลงไปในหม้อ แล้วกวนจนเครื่องแกงแตกตัวให้กลิ่นหอม 3. ใส่หมูชิ้นหั่นบาง ๆ พอดีคำ 1 ถ้วย จากนั้นกวนหมูให้แตกตัวไม่จับกันเป็นก้อน แล้วปิดฝาหม้อทิ้งไว้ 4. เมื่อน้ำเดือดอีกรอบให้ใส่ผักสวนครัวโดยทั่วไป เช่น มะเขือเปราะ ลูกบวบ ผักกาด ผักกะหล่ำ ที่เราเตรียมไว้ลงไปในหม้อ จากนั้นเติมน้ำนิดหน่อยให้น้ำแกงพอดีกับผัก 5. ใส่เครื่องปรุงปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ แล้วกวนให้เข้ากันจากนั้นใส่ลงในหม้อ รอน้ำเดือดแล้วชิมรสชาติหากพอใจแล้ว ปิดฝาหม้อประมาณ 3 นาที ตักใส่ถ้วยพร้อมกินกับข้าวเหนียว การทำ “อ่อมหมูชิ้น” สูตรเด็ดจากครัวอีสาน ทำง่ายใช่ไหมล่ะครับ อย่าลืมเอาไปทำเพื่อทานกันนะครับ รับรองว่าอร่อยแน่นอน นอกจากความอร่อยยังมีประโยชน์จากพืชผักที่เราใส่ลงไปเป็นวัตถุดิบที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วยครับ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน

เหรินจวิ้น สมาชิกของ NCT เปิดบัญชีอินสตาแกรมให้แฟนคลับได้ติดตามกันแล้ว

เหรินจวิ้น (Renjun) หนึ่งในสมาชิกของ NCT ได้เปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดมียอดผู้ติดตามถึง 1ล้านคนแล้ว! วันนี้ (24 มิถุนายน 2564) เหรินจวิ้น สมาชิกของ NCT บอยแบนด์เกาหลีจากค่าย SM Entertainment ได้แชร์ภาพลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมกับข้อความที่ระบุว่า "ผมจะอัปโหลดรูปถ่ายจากการใช้ชีวิตประจำวันของผมลงที่นี่ เพราะฉะนั้นผมตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้เห็นพวกคุณทุกคนที่เข้ามาดูอินสตาแกรมของผม โดยภายหลังจากที่ เหรินจวิ้น NCT เปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมส่วนตัวและโพสต์ภาพแรกออกมาเพียงไม่นาน ล่าสุดวันนี้ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ได้มียอดจำนวนผู้ติดตาม 1ล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว และนอกจากนี้ จากการที่ เหรินจวิ้น NCTได้เปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมส่วนตัว ทำเอาเหล่าแฟนคลับต่างพูดถึงและแสดงความคิดเห็นอย่างมากมายบนโซเชียลมีเดียจนทำให้แฮชแท็ก #RENJUNมาแรงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปแล้วในตอนนี้ ทั้งนี้เหรินจวิ้น และสมาชิกวงNCT DREAMเตรียมคัมแบ็คพร้อมกับปล่อยอัลบั้มรีแพ็กเกจชุดแรกHello Future ที่ประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมด 13 เพลง โดยเป็นเพลงใหม่ 3 เพลง รวมเพลงไตเติ้ลที่ใช้ชื่อเดียวกับอัลบั้มอย่างHello Futureซึ่งมีกำหนดปล่อยออกมาในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ในเวลา 16.00 น. ตามเวลาไทย ผ่านแพลตฟอร์มฟังเพลงทางออนไลน์ต่างๆ .. แฟนๆ รอติดตามได้เลยครับ NCT DREAM อ้างอิง :allkpop ขอบคุณภาพจาก instagram :yellow_3to3 อ่านข่าวเพิ่มเติม : พลังรักNCT! แฟนหวีด #Whosfan_with_NCT รวมใจโหวตเพื่อได้โปรโมทที่NY Times Square NCT Dream สร้างสถิติใหม่ให้กับค่าย SM Entertainment ด้วยยอดขายอัลบั้มสูงสุดในสัปดาห์แรก ทวิตแตกแล้วจ้า! ซีจือนี่ หวีดสุดพลัง NCT127 กับคอนเสิร์ตการกุศล หล่อใจบุญที่แท้ทรู (มีคลิป) กดเลย community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวมทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ส.บอล ยกเลิกเพิ่มเงินสนับสนุน สโมสรภูมิภาค เหตุหนี้สินจากสมาคมชุดเก่า

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แถลงการประชุมสามัญ ประจำปี 2560 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2560 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เรียน ผู้แทน การกีฬาแห่งประเทศไทย, FIFA , AFC และ สโมสรกีฬาฟุตบอลทุกท่าน ตลอดจนสื่อมวลชน 1. วันนี้เป็นการประชุมสามัญ ประจำปี 2560 ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งถือว่าครบรอบ 101 ปี ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พอดี 2. การบริหารงานสมาคมฯ สมาคมฯ บริหารงานจากจุดเริ่มต้นด้วยกุญแจดอกเดียว พร้อมปัญหาหนี้สินทางภาษี และหนี้ค้างชำระ เช่น ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าโดยสารเครื่องบิน ซึ่งเกิดจากการบริหาร ของผู้บริหารชุดเดิม 3. สมาคมฯ อยู่ในภาวะวิกฤติ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน แต่กิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมฯ ก็จะต้องดำเนินต่อไป สิ่งที่ตามมาคือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าบุคลากร ค่าจัดการแข่งขัน จึงต้องแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วยการกู้ยืมเงินจากบุคคลภายนอก และนำเงินต่าง ๆ ของสมาคมฯ เท่าที่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงินจากกองทุนฟุตบอลไทยไปบอลโลกเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องเฉพาะหน้า เนื่องจากขณะนั้น เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ และค่าถ่ายทอดจาก บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ***หนี้สินจำนวนมาก และค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด*** สมาคมต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ค้างจ่ายตั้งแต่ปี 2550-2555 รวม 128,349,110.32 บาท ภาษีเงินได้ของสมาคมค้างชำระปี 2558 จำนวน 1,487,429.59 บาท ***ตั้งสำรอง*** ศาลปกครองอุบลราชธานี พิพากษาให้สมาคมชดใช้เงิน จำนวน 18,482,162.61 บาท โรงแรมโกลเด้นทิวลิปทวงเงินค่าใช้บริการ จำนวน 2,506,521.95 บาท โรงแรมทาวน์อินทาวน์ทวงเงินค่าใช้บริการ จำนวน 1,172,444.96 บาท โค้ชวิคเตอร์ ฟ้องฟีฟ่าเรียกค่าเสียหาย จำนวน 8,000,000.00 บาท เงินรางวัลไทยลีก (กกท. งดจ่ายเงินสนับสนุน) จำนวน 17,500,000.00 บาท เงินรางวัลไทยลีก 2 (กกท. งดจ่ายเงินสนับสนุน) จำนวน 10,000,000.00 บาท เงินสนับสนุนสโมสร ไทยลีก และไทยลีก 2 จำนวน 108,000,000.00 บาท เงินสนับสนุนค่าเดินทาง ไทยลีก 3-4 จำนวน 28,000,000.00 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 323,497,669.43 บาท 4. เป็นเหตุให้สมาคมฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามคำพูดที่ให้ไว้ คือ การเพิ่มเงินสนับสนุนให้สโมสรภูมิภาคอีกสโมสรละหนึ่งล้านบาทในช่วงสองปีแรก ซึ่งคาดว่าปีต่อไปสมาคมฯ จะสามารถจัดสรรเงินสนับสนุนเพิ่ม ให้กับสโมสรในลีกภูมิภาคได้ ***คาดว่าปี 2560 จะสามารถทำตามคำสัญญาได้*** แต่ได้ทราบว่า มีผู้มาร้องเรียนกล่าวโทษตัวผมต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่า การเพิ่มเงินสนับสนุนให้กับสโมสรต่างๆ เป็นการกระทำที่เปรียบเสมือนการซื้อเสียงและเป็นการผิดจริยธรรม จึงทำให้ผมและสภากรรมการ ตลอดจนผู้บริหารสมาคม จะต้องพิจารณาทบทวนว่า ในปี 2560 ซึ่งเราได้เตรียมการจะจ่ายเงินสนับสนุนเพิ่มเติมแก่สโมสรภูมิภาค จากเงิน 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท จะยังคงสามารถกระทำได้หรือไม่ 5. แก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง สัญญาและนิติกรรมต่าง ๆ ที่สมาคมผูกพันใหม่ ให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย เช่น สัญญาโอนสิทธิประโยชน์ของสมาคมให้บริษัทเอกชน ยกเลิก บริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด (PLT) เป็น บริษัท ไทยลีก จำกัด (TL) รวมถึง การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ โดยให้สมาคมเป็นผู้ถือหุ้นในไทยลีก 98 เปอร์เซ็นต์ ทำสัญญากับ บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด ใหม่ ให้ถูกต้องโดยยึดถือรายละเอียดต่าง ๆ ตามสัญญาเดิมทุกประการ -ปี พ.ศ.2559 จำนวนเงิน 900,000,000 บาท -ปี พ.ศ.2560 จำนวนเงิน 1,100,000,000 บาท -ปี พ.ศ.2561 จำนวนเงิน 1,100,000,000 บาท -ปี พ.ศ.2562 จำนวนเงิน 1,100,000,000 บาท 6. จัดระบบบัญชีธนาคารและการเงินของสมาคมฯ ใหม่เดิมที่ผ่านมา เงินที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภายนอกทุกรายการ จะถูกรวมเข้าอยู่ในบัญชีของสมาคมฯ บัญชีเดียว ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ เป็นปัญหาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบัน บัญชีธนาคารต่างๆ ได้ถูกแยกออกอย่างชัดเจน คือ บัญชีสมาคม, บัญชีรับเงินสนับสนุน FIFA – AFC – AFF, บัญชีค่าปรับ และ บัญชีกองทุนฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก ซึ่งจะมีความชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ 7. ทดลอง ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ระบบการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อหาระบบที่มีรูปแบบที่ลงตัวและเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของวงการกีฬาฟุตบอลไทย แต่ทั้งนี้ สมาคมฯ พร้อมและยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของสโมสรสมาชิก เพื่อนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อวงการกีฬาฟุตบอลไทย 8. กำหนดยุทธศาสตร์การบริหารของสมาคมฯ ออกเป็น 6 ด้าน ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว (ดูเอกสารแผ่นพับที่สมาคมแจกจ่ายให้ประกอบ) 8.1 การพัฒนาอาคาร สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็น สำหรับการพัฒนากีฬาฟุตบอล (1) จัดหาสถานที่ตั้งสำนักงาน สมาคมฯ **ขอรับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เช่าพื้นที่อาคาร 40 ปี เป็นอาคารสำนักงานสมาคมฯ ระยะยาว 20 ปี โดย สมาคมฯ ได้ทำการปรับปรุงอาคารจนมีสภาพที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็น และพร้อมสำหรับการปฏิบัติงาน เริ่มทำงานเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 (2) การพัฒนาสนามกีฬาและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอล ให้มีความพร้อม มีประสิทธิภาพ เทียบเท่ามาตรฐานสากล (3) ขอความร่วมมือ การช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนชาวไทยในการผลักดันโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล เพื่อเตรียมความพร้อมในการที่ภูมิภาคอาเซียนจะขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี พ.ศ.2577 (ค.ศ.2034) 8.2 จัดทำแผนพัฒนากีฬาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี โดยสภาปฏิรูปกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ **อยู่ระหว่างดำเนินการ 8.3 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล (1) ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคคลากรทางด้านกีฬาฟุตบอลเพิ่มมากขึ้น จัดการฝึกอบรมโค้ชระดับต่าง ๆ เช่น โปรไลเซนต์ จำนวน 48 คน เอไลเซนต์ จำนวน 432 คน บีไลเซนต์จำนวน 936 คน ซีไลเซ่นส์ จำนวน 2,066 คน และอินโทรดักโตรี่ จำนวน 3,500 คน จัดการฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขัน ผู้ประเมินกรรมการผู้ตัดสิน รวมถึงส่งพนักงานและผู้บริหารของสมาคมฯ ไปอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของ AFC และ AFF ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พัฒนาบุคลากรของสมาคมฯ ให้มีความรู้ความสามารถชำนาญงานในหน้าที่ เพื่อรองรับการให้บริการสมาชิกให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และถูกต้องตามระเบียบงานสารบรรณ 8.4 การพัฒนานักกีฬาฟุตบอลในทุกระดับให้มีมาตรฐานสูงขึ้นและมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ และตัวแทนทีมชาติ (1) ก่อตั้ง“ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ”ที่ทันสมัยและครบวงจร ในทุกภูมิภาค เพื่อวางรากฐานกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชน จนก้าวสู่ระดับชาติ (2) ผลิตบุคลากรการกีฬาฟุตบอลที่มีคุณภาพ โดยร่วมมือหรือว่าจ้างบุคลากรที่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนากีฬาฟุตบอลระดับเยาวชนจากต่างประเทศมาบริหารจัดการศูนย์ฝึกฯ อย่างเป็นระบบ ***ได้บรรลุข้อตกลงการว่าจ้างให้บริษัท เอคโคโน เป็นผู้บริหารจัดการศูนย์ฝึกฯ 8.5 การนำวิทยาการ และเทคโนโลยี ที่ทันสมัยมาใช้ในการเสริมสร้างและพัฒนานักกีฬาฟุตบอล 8.6 สร้างความมั่นคงและยั่งยืนในด้านการเงินของสมาคมฯ ให้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ (1) แผนพัฒนาการจัดการด้านสิทธิประโยชน์ของสมาคม ดำเนินการอย่างมืออาชีพ โปร่งใส และ เป็นธรรมต่อทั้งสมาคมฯ และผู้สนับสนุน โดยนำเงินที่ได้รับการสนับสนุนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ (2) มีระบบบัญชีการเงินที่ทันสมัยรวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้ (3) กระจายงบประมาณให้สโมสรสมาชิกอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid

สุดเจ๋ง เกมเริ่มแค่ 4 วิ ! ไอ้หนู ยิงไกล 67 หลา ตุงตาข่าย

เก่งแต่เด็กเมื่อ แอนดรูว์ เดลแท็ค นักฟุตบอลของโรงเรียนมัธยมปลาย แฮร์ริสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้ชมในสนาม หลังเขายิงไกลกว่า 67 หลา เข้าไปตุงตาข่าย ซึ่งยังไม่ถึง 10 วินาที ของการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่ผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกมการแข่งขันแล้วนั้น นักเตะของ แฮร์ริสัน ก็เขี่ยบอลกลับมาให้ เดลแท็ค โดยแทนที่เขาจะส่งคืนหลัง หรือ โยนขึ้นหน้าไปเฉยๆ เดลแท็ค ทำเรื่องที่เหลือเชื่อ เมื่อเขาตัดสินใจยิงไกล จากแดนตัวเองกว่า 67 หลา บอลโด่งลอยข้ามหัวผู้รักษาประตูคู่แข่งเข้าไป ตุงตาข่ายอย่างสวยงาม หลังจากที่เริ่มเกมไปได้ราว 4 วินาทีเท่านั้น เราไปดูคลิปนี้พร้อมๆกันครับ สุดเจ๋ง เกมเริ่มแค่ 4 วิ ! ไอ้หนู ยิงไกล 67 หลา ตุงตาข่าย ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ที่ FB : TrueSport TW: True_Sport คลิกชม ตารางถ่ายทอดสดฟุตบอล ได้ที่นี่ clip : youtube รูปภาพ : อินเตอร์เน็ต เรียบเรียง : birdbatov 11:30 28/02/2557

รีวิว หนังสือ "หมูบินได้"

                " ความเชื่อ" เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดการกระทำและชีวิตของเรา เชื่ออย่างไรก็ได้อย่างนั้น เชื่อในสิ่งดี ๆ สิ่งที่ดีก็จะเข้ามาหา และหากเชื่อในเรื่องร้าย ๆ เรื่องที่ไม่ดีก็จะเข้ามาแทน ความเชื่อเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และยิ่งใหญ่ เพราะมันสามารถสร้างพลังกำลังใจและกำลังกายให้เราได้ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีความเชื่อ เขาเชื่อว่าเขาทำได้ และเชื่อว่ามันจะสำเร็จและผลที่ออกมาก็ไม่ผิดหวัง ความเชื่อเป็นสิ่งที่ไม่ผิดและก็อาจจะไม่ถูกทุกเรื่อง แต่ทุกคนก็ล้วนมีความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ ที่อาจแตกต่างกันออกไป เหมือนหมูตัวหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองจะบินได้ แม้มันจะไม่มีปีกก็ตาม จากเรื่องในหนังสือที่ชื่อว่า หมูบินได้                       หนังสือ หมูบินได้ เขียนโดย องอาจ ชัยชาญชีพ ภาพประกอบโดย สู่ขวัญ อรรถจารุสิทธิ์ เป็นหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับลูกหมูตัวหนึ่งที่มีความเชื่อว่าตัวเองจะบินได้ แม้จะไม่มีปีกก็ตาม และไม่เคยมีหมูตัวไหนที่บินได้มาก่อน แต่หมูตัวนี้กลับมีความเชื่อสุดใจว่าเขาบินได้แน่นอน เพียงเขาจะต้องฝึกบินบ่อย ๆ เพื่อนฝูงและคนรอบตัวต่างพากันหัวเราะเยาะกับความคิดเหล่านี้ ว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระมาก ๆ วันใดที่เพื่อน ๆ เห็นเขากำลังซ้อมบินก็จะพากันพูดดูถูกเยาะเย้ยต่าง ๆ นานาว่าเสียเวลาบ้าง เปล่าประโยชน์บ้างแทนที่จะได้นั่งกินนอนกินอย่างสบายใจ แต่เขาก็ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะบินให้ได้                  สิ่งที่ชอบและประทับใจในหนังสือเล่มนี้คือ ความพยายาม ความมุมานะของลูกหมู จากความเชื่อที่ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่แกกลับเชื่อว่าแกทำได้ และแกก็พยายามทำสิ่งเหล่านั้นให้มันเป็นจริง แกไม่เคยสนใจคำดูถูกของเพื่อน ๆ หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่เอง แกเลือกที่จะเชื่อตัวเองอย่างแน่วแน่ แกยอมที่จะไม่นอนหลับในตอนกลางวันเพื่อจะฝึกบิน ในขณะที่เพื่อน ๆ ต่างนอนหลับพักผ่อน จนวันหนึ่งแกก็กลายเป็นหมูที่ผอมที่สุดในบรรดาเพื่อนฝูง                      สิ่งที่เรียนรู้จากลูกหมูตัวนี้คือ ความพยายามไม่เคยทำร้ายเรา ผู้คนรอบข้างก็ไม่สามารถทำร้ายเราได้เช่นกัน มีเพียงความคิดของตัวเราเองที่จะสามารถทำร้ายเราได้ ไม่ล้มเลิกก็ไม่มีวันล้มเหลว หากความเชื่อเป็นสิ่งที่ทำกันได้ง่าย ๆ มันก็อาจจะไม่มีความหมายอะไร แต่เพราะมันเป็นสิ่งที่ยากเย็น มันจึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สุดท้ายลูกหมูตัวนี้จะสามารถบินได้เหมือนนกอย่างที่มันเชื่อหรือเปล่า สามารถมาหาคำตอบจากเล่มนี้ได้ค่ะ การันตีความสนุกโดยรางวัลหนังสือดีเด่น SEVEN BOOK AWARDS ประจำปี 2546-2547ชื่อหนังสือ      หมูบินได้เขียน              องอาจ ชัยชาญชีพภาพประกอบ   สู่ขวัญ อรรถจารุสิทธิ์พิมพ์             ครั้งที่ 5 มกราคม 2553สำนักพิมพ์    เป็ดเต่าควายราคา             150 บาทcredit- ภาพหน้าปกโดย นักเขียน- ภาพที่ 1 โดย นักเขียน- ภาพที่ 2 โดย pexels- ภาพที่ 3 โดย นักเขียน- ภาพที่ 4 โดย pexels

หินกินเหล็ก

กลางต้องแน่น! บาเซโลน่า รุกหนัก ปาดหน้าอินเตอร์ ล่าตัว อาร์ตูโร่ วิดัล

บาร์เซโลน่า ตกเป็นข่าวใกล้ ปาดหน้า อินเตอร์ มิลาน คว้าได้ตัว อาร์ตูโร่ วิดัล กองกลางจาก บาเยิร์น มิวนิค หลังการเจรจาคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว kivnl / Shutterstock.com มีรายงานว่าทีม บาร์เซโลน่า ใกล้คว้าตัวกองกลางทีมชาติ ชิลี ของ บาเยิร์น มิวนิค อย่าง อาร์ตูโร่ วิดัล หลังมีการเปิดเผยว่า แฟร์นานโด เฟลิเซวิช(เอเยนต์) ได้เข้าไปเจรจากับทางสโมสร และมีข้อตกลงในเบื้องต้นกันเรียบร้อยแล้ว แข้งวัย 31 ปี ตกเป็นข่าวว่าต้องการย้ายออกจากถิ่นอลิอันซ์ อารีนา หลังจากค้าแข้งมาเป็นเวลา 3 ฤดูกาล โดยมีสโมสรอย่างอินเตอร์ มิลาน และเอซี มิลาน สองสโมสรจากแดน มักกะโรนี ที่แสดงความต้องการอย่างชัดเจนว่าต้องการได้นักเตะรายนี้ไปร่วมทีม แต่ล่าสุดกลายเป็น ยักษ์ใหญ่จากสเปน อย่าง “เจ้าบุญทุ่ม” ที่มีโอกาสได้ตัวไปร่วมทัพมาที่สุด ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ซูปเปอร์สตาร์ชาวชิลี จะไปแทนที่ช่องว่างของ เปาลินโญ่ ซึ่งกลับไปเล่นให้กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ด้วยสัญญายืมตัว และการหายไปของ อันเดรส อิเนียสต้า ที่ย้ายไปค้าแข้ง เจลีก โดยค่าตัวของ วิดัล น่าจะอยู่ที่ 30 ล้านยูโร ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก! ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก! ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ไอ้หนุ่มหมูหิน

10 ตัวอย่างสัตว์หน้าดิน ที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม มีอะไรบ้าง

10 ตัวอย่างสัตว์หน้าดิน ที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม มีอะไรบ้าง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล คุณภาพของสิ่งแวดล้อม นอกจากจะสามารถรู้ได้จากการตรวจสอบพารามิเตอร์ต่างๆ ที่ได้จากการใช้เครื่องมือตรวจสอบแล้ว คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า เรายังสามารถสังเกตตัวชี้วัดที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ได้โดยตรงอีกด้วย ได้หมดทั้งพืช แมลง และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องค่ะ ซึ่งสัตว์หน้าดินเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สำคัญ และสามารถนำมาใช้ประเมินคามอุดมสมบูรณ์ของดินเราได้ และยังสามารถเชื่อมโยงไปยังสิ่งแวดล้อมในที่แห่งนั้นในตอนนั้นได้ด้วยค่ะ  โดยสัตว์หน้าดินมีหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ได้ ที่หลายคนอาจจะยังมองภาพไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้จักกับสิ่งมีชีวิตหน้าดิน ที่รับรองว่าอ่านจบรู้เรื่องและเข้าใจมากขึ้น มองเห็นภาพว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ยังไงได้แน่นอนค่ะ ดังนั้นต้องอ่านต่อให้จบและนำไปปรับใช้กัน กับเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. ไส้เดือนดิน ด้วยบทบาทที่หลากหลายในการปรับปรุงคุณภาพดินและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ทำให้ไส้เดือนดินมีบทบาทสำคัญในดินค่ะ เนื่องจากการเคลื่อนที่ของไส้เดือนดินช่วยพรวนดิน ทำให้ดินร่วนซุย มีช่องว่างให้อากาศและน้ำถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนี้ไส้เดือนดินยังช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ เช่น เศษซากพืชและสัตว์ ให้กลายเป็นฮิวมัส ซึ่งเป็นแหล่งธาตุอาหารที่สำคัญสำหรับพืช การขับถ่ายของไส้เดือนดินยังช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีและมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ไส้เดือนดินจึงมีบทบาทสำคัญในการเกษตรอย่างยั่งยืน ช่วยลดความจำเป็นในการใช้ปุ๋ยเคมี และส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชอย่างเป็นธรรมชาติ การอนุรักษ์และส่งเสริมประชากรไส้เดือนดินจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพของดินและระบบนิเวศโดยรวมค่ะ 2. มด คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า มดเป็นสัตว์หน้าดินอีกกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก แม้จะมีขนาดเล็ก แต่กิจกรรมของมดส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในหลายด้าน มดช่วยพรวนดินและสร้างช่องอากาศในดินเช่นเดียวกับไส้เดือนดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีขึ้น นอกจากนี้มดยังมีบทบาทสำคัญในการกระจายเมล็ดพืชหลายชนิด โดยการคาบเมล็ดไปเก็บไว้ในรัง ซึ่งเป็นการช่วยขยายพันธุ์และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของพืช และมดยังเป็นผู้ล่าที่สำคัญของแมลงและสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆ จึงช่วยควบคุมประชากรของแมลงที่เป็นศัตรูพืชหรือพาหะนำโรคบางชนิดได้ มูลของมดก็เป็นแหล่งธาตุอาหารให้กับดินเช่นกัน แม้ว่าบางครั้งมดอาจถูกมองว่าเป็นสัตว์รบกวน แต่โดยรวมแล้วมดมีบทบาทเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและการทำงานของดินค่ะ 3. ปู ในระบบนิเวศชายฝั่งและป่าชายเลน ปูมีความสำคัญอย่างมาก เพราะว่าปูหลายชนิดมีพฤติกรรมการขุดรู ซึ่งช่วยพรวนดินและเพิ่มช่องว่างในดิน ทำให้ดินร่วนซุย มีการระบายน้ำและอากาศที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชในบริเวณนั้น นอกจากนี้ปูยังเป็นผู้บริโภคที่สำคัญในห่วงโซ่อาหาร โดยกินทั้งพืชและสัตว์ขนาดเล็ก รวมถึงซากอินทรียวัตถุ ซึ่งช่วยควบคุมประชากรของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นและช่วยในการย่อยสลายสารอินทรีย์ มูลของปูยังเป็นแหล่งธาตุอาหารให้กับระบบนิเวศอีกด้วย ปูบางชนิด เช่น ปูก้ามดาบ ยังมีบทบาทในการกรองอาหารจากน้ำ ช่วยรักษาคุณภาพน้ำในบริเวณชายฝั่ง และปูยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์นักล่าหลายชนิด เช่น นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม การอนุรักษ์ป่าชายเลนและระบบนิเวศชายฝั่งจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการรักษาประชากรปูและบทบาทของปูที่สำคัญในต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ 4. ปลวก ปลวกมักถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างไม้ แต่ในแง่ของระบบนิเวศแล้ว ปลวกมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายไม้และอินทรียวัตถุอื่นๆ ที่ตายแล้ว การกระทำนี้ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหารกลับสู่ดิน ซึ่งเป็นกระบวนการที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของพืชและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในระบบนิเวศค่ะ รังปลวกยังสร้างโครงสร้างในดิน จึงทำให้ดินมีการระบายน้ำและอากาศที่ดีขึ้น และอาจเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าบางครั้งปลวกอาจสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ แต่บทบาทของปลวกในฐานะผู้ย่อยสลายที่สำคัญนั้นไม่สามารถมองข้ามได้ค่ะ ดังนั้นการเข้าใจถึงความสำคัญของปลวกในระบบนิเวศ จะช่วยให้เรามองปลวกในมุมมองที่กว้างขึ้น และหันมาตระหนักถึงความเชื่อมโยงของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในธรรมชาติ 5. แมลงปอ หลายคนยังไม่รู้ว่า แมลงปอมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในระยะตัวอ่อนที่อาศัยอยู่ในน้ำและระยะตัวเต็มวัยที่บินอยู่บนบก โดยในระยะตัวอ่อน แมลงปอเป็นผู้ล่าที่สำคัญของตัวอ่อนแมลงน้ำขนาดเล็กอื่นๆ เช่น ลูกน้ำยุง นอกจากนี้ตัวอ่อนแมลงปอยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศทางน้ำ เมื่อเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย แมลงปอยังคงเป็นผู้ล่าที่ว่องไว และจับกินแมลงบินขนาดเล็ก เช่น ยุงและแมลงวัน ซึ่งช่วยลดจำนวนแมลงที่เป็นพาหะนำโรคและสร้างความรำคาญให้กับมนุษย์ได้ค่ะ อีกทั้งความหลากหลายของชนิดและจำนวนของแมลงปอ ยังสามารถใช้เป็นดัชนีบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของแหล่งน้ำได้อีกด้วย การมีอยู่ของแมลงปอในระบบนิเวศจึงสะท้อนถึงความสมดุลและความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งระบบนิเวศทางน้ำและบนบกค่ะ 6. แมลงชีปะขาว แมลงชีปะขาวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบนิเวศทางน้ำ จากที่ในระยะตัวอ่อนของแมลงชีปะขาวจะอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด จึงสามารถเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ จำนวนมาก ทำให้แมลงชีปะขาวเป็นส่วนประกอบสำคัญของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ นอกจากนี้ตัวอ่อนแมลงชีปะขาวยังมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำ ทำให้ถูกใช้เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำที่สำคัญ หากพบแมลงชีปะขาวในแหล่งน้ำ แสดงว่าแหล่งน้ำนั้นโดยทั่วไปมีคุณภาพดีและมีออกซิเจนละลายน้ำที่เพียงพอ ในทางตรงกันข้ามถ้าพบว่าแมลงชีปะขาวลดลง หรือมีการหายไปของประชากรแมลงชีปะขาวจากแหล่งน้ำหนึ่ง แบบนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหามลพิษทางน้ำค่ะ และเมื่อเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย แมลงชีปะขาวจะขึ้นมาผสมพันธุ์บนบกและมักจะตายภายในเวลาอันสั้น ซากของพวกมันยังเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์บนบกบางชนิดอีกด้วย ด้วยบทบาททั้งในฐานะแหล่งอาหารและดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำ แมลงชีปะขาวจึงมีความสำคัญต่อประเมินความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทั้งทางน้ำและบนบกค่ะ 7. หนอนแดง คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า หนอนแดงมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำอย่างมาก โดยเฉพาะในระบบนิเวศน้ำจืดที่พื้นท้องน้ำเป็นโคลนหรือมีอินทรียวัตถุสะสม ซึ่งหนอนแดงมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายอินทรียวัตถุที่จมเป็นตะกอน ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของสารอาหารในระบบนิเวศ นอกจากนี้หนอนแดงยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กอื่นๆ หลายชนิด ทำให้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของห่วงโซ่อาหารในแหล่งน้ำจืดบางประเภท โดยปริมาณและความหลากหลายของหนอนแดงในแหล่งน้ำ ยังสามารถบ่งชี้ถึงระดับมลพิษทางอินทรีย์ได้อีกด้วย แม้ว่าในบางครั้งการมีหนอนแดงจำนวนมากอาจบ่งชี้ถึงภาวะน้ำเน่าเสีย แต่โดยรวมแล้ว หนอนแดงมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางน้ำ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการสะสมของอินทรียวัตถุค่ะ 8. หอย ในระบบนิเวศทางน้ำ ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม หอยหลายชนิดเป็นสัตว์กรองอาหาร ที่กินอนุภาคเล็กๆ ของอาหารและสารอินทรีย์ที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ การทำเช่นนี้ช่วยให้น้ำใสสะอาดขึ้นและลดปริมาณสารแขวนลอย ซึ่งมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในน้ำ เปลือกหอยที่ตายแล้วยังเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญ ซึ่งสามารถช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดและด่างในน้ำและดินได้ หอยยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์นักล่าหลายชนิด เช่น ปลา นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทำให้หอยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศทางน้ำและชายฝั่ง ความหลากหลายของชนิดและจำนวนของหอย ยังสามารถใช้เป็นดัชนีบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางน้ำได้อีกด้วย และถ้าจะพูดว่าการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยของหอย มีความสำคัญต่อการรักษาสมดุล และความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทางน้ำ ก็คงจะไม่ผิดค่ะ 9. กิ้งกือ กิ้งกือเป็นสัตว์หน้าดินที่มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้ย่อยสลายอินทรียวัตถุที่สำคัญค่ะ เพราะกิ้งกือกินซากพืช ซากสัตว์ และเศษอินทรีย์สารต่างๆ ที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน แล้วทำการย่อยสลายให้กลายเป็นอนุภาคขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นการช่วยเร่งกระบวนการหมุนเวียนของธาตุอาหารในระบบนิเวศ การย่อยสลายนี้ทำให้สารอาหารที่อยู่ในซากสิ่งมีชีวิตกลับคืนสู่ดิน และพร้อมให้พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง รวมไปถึงการเคลื่อนที่ของกิ้งกือยังช่วยพรวนดินและเพิ่มช่องว่างในดินเล็กน้อย ทำให้ดินมีอากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น แม้ว่ากิ้งกือจะไม่โดดเด่นเท่าไส้เดือนดินในด้านการพรวนดิน แต่บทบาทในการย่อยสลายอินทรียวัตถุของกิ้งกือ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน และการทำงานของระบบนิเวศโดยรวม ซึ่งการมีอยู่ของกิ้งกือในระบบนิเวศ จึงเป็นสัญญาณที่ดีของการมีกระบวนการย่อยสลายที่มีประสิทธิภาพค่ะ 10. ตะขาบ ตะขาบมักถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่น่ากลัว แต่ในแง่ของระบบนิเวศแล้ว ตะขาบมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ล่าในระบบนิเวศบนบกค่ะ เนื่องจากเป็นสัตว์กินเนื้อที่ว่องไว จับกินแมลง หนอน และสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆ ซึ่งช่วยควบคุมประชากรของเหยื่อในธรรมชาติ การเป็นผู้ล่าของตะขาบช่วยรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหาร และป้องกันการแพร่ระบาดของแมลงบางชนิดที่อาจเป็นศัตรูพืชหรือพาหะนำโรค นอกจากนี้ตะขาบยังเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ขึ้น เช่น นกและสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด และโดยรวมแล้วตะขาบมีบทบาทสำคัญในการควบคุมประชากรสัตว์เล็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศบนบกค่ะ จบแล้วนะคะ และทั้งหมดนั้นคือตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตที่พบได้ในหน้าดิน ที่มีทั้งในน้ำและบนบกค่ะ โดยตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตหลายอย่าง ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นมาและเกี่ยวข้องโดยตรงค่ะ โดยเฉพาะไส้เดือนดิน เพราะที่นี่ผู้เขียนปลูกผักสวนครัวเอาไว้หน้าบ้าน และในแปลงผักมีไส้เดือนจำนวนมาก มีมูลไส้เดือน และพืชผักก็งามดีมากๆ ค่ะ ที่ในบางครั้งก็เจอตะขายตัวเล็กๆ หอยทาก กิ้งกือ และแมลงชนิดอื่นๆ อีก ที่ไม่ได้พูดถึงในบทความนี้ค่ะ คือดินร่วนซุยดีมาก พืชก็ทนต่อโรค และไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลงเลยค่ะ และนั่นคือตัวอย่างใกล้ตัวที่สุด  และถ้าไปที่สวนก็จะเจอแมลงปอด้วยนะคะ แมลงชีปะขาว ปลวก ปู มด กุ้งและหอย รวมถึงสิ่งมีชีวิตอีกหลายชนิดเลยค่ะ โดยดินที่สวนดูอุดมสมบูรณ์ดี ปีนี้มะม่วงดกมากเลยค่ะ แหล่งน้ำก็ดูมีความหลากหลายทางชีวภาพ น้ำใส พืชน้ำก็ขยายพันธุ์ได้ดีค่ะ ซึ่งจากการวิเคราะห์ของผู้เขียนเอง พบว่า จริงๆ แล้ว การลดการใช้สารเคมีในการเกษตร มีส่วนอย่างมากที่จะพบสัตว์หน้าดินที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนหันมาตระหนักเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมค่ะ การไม่มีสัตว์หน้าดินเลยหรือมีน้อย ก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพดินของเราด้วยนะคะ เพราะสัตว์หน้าดินมีบทบาทหลายอย่างตามเนื้อหาข้างต้น ถ้าเรามองภาพไม่ออกว่ามีประโยชน์ไปในทิศทางไหน ความตระหนักในการหันมาทำใส่ใจเรื่องการลดการใช้สารเคมีก็ไม่เกิดแน่นอนค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าเนื้อในบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้กับคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Harrison Haines จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 โดย invisiblepower จาก Pexels และภาพที่ 4 โดย Soonam Wooeser จาก Pexels ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล  บทความอื่นที่คล้ายกันโดยผู้เขียน กิ้งกือกระสุน กินอะไร มีพิษไหม เจอที่ไหนได้บ้าง   การจับปลาในสระ แถวบ้านนอก ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หาดูยาก   วิธีหาปูนาในนาข้าว แหล่งอาหารในชนบท บทเรียนภูมิปัญญาชาวบ้าน   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คุณหนูแทนคุณ แอนด์ เดอะแก๊งส์ #kinnporschetheseries

kinnporsche theseries รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ทำมาจากนิยาย KinnPorsche Story : รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นนิยายที่มีคนอ่านเยอะ พอเอามาสร้างเป็นซีรีส์ต้องมีคนจับตาดูและคาดหวังเยอะอย่างแน่นอน คินพอร์ชเป็นซีรีส์แนวมาเฟีย มีตระกูลหลัก ตระกูลรอง พวกพ้องพี่น้อง บอดี้การ์ด   ตัวละครที่สร้างสีสันให้กับซีรีส์เรื่องนี้คือ คุณหนูแทนคุณพี่ชายคนโตของตระกูลหลัก มีน้อง 2 คน คือ คินน์กับคิมตอนเด็กๆ แทนคุณเคยโดยจับตัวไป เป็นเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจทำให้แทนคุณมีนิสัยแปลกๆ เอนเนอร์จี้เหลือล้น พร้อมกับบอดี้การ์ดที่ดูแลตามใจ และซัพพอร์ตคุณหนูของพวกเขาตลอดให้ทำไรก็ทำ (ถึงจะเป็นภาวะจำยอมก็เถอะ 55555) ต๋อง ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา รับบท แทนคุณhttps://www.instagram.com/p/CdApp4qLRTy/?utm_source=ig_web_copy_linkพี่ต๋องในบทแทนคุณไม่มีอะไรค้านสายตาเลยจริงๆ แทนคุณเหมือนร่างทองของพี่แก ออกมาแต่ละซีนคือปังคือเริ่ดไม่เคยทำให้ผิดหวัง อย่างซีนแรกที่ออกมาคือ ซีนปลาคราฟสุดที่รักของคุณหนูแทนคุณตาย เพราะพอร์ชฉี่ลงบ่อ แทนคุณออกมาไม่กี่นาทีคือ แย่งซีนทุกคนไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ ก็พี่แกเล่นปั๊มหัวใจ เป่าปากปลาและที่สำคับซีนนี้พี่ต๋องเล่นเทคเดียวผ่านด้วย เพราะเซฟชีวิตน้องปลาตัวเป็นๆ อีกซีนที่ตราตรึงใจก็ซีนที่ใช้ถาดฟาดหัวเวกัสเสียงดังฟังชัดสะดุ้งทั้งไทม์ไลน์  เล่นจริงเจ็บจริง 55555 นอกจากนี้ยังมีซีนที่พอร์ชพาไปเที่ยวบาร์อีกสนุกสุดเหวี่ยงนี้แหละร่างทองของพี่ต๋อง บาส อัศวภัทธ์ ผลพิบูลย์ รับบท อาร์มhttps://www.instagram.com/p/CdP_-8wLc16/?utm_source=ig_web_copy_linkอาร์มเป็นบอดี้การ์ดที่คอยดูแลคุณแทนคุณเป็นอย่างดี คุณหนูให้ทำไรก็ทำ ดูซีรีส์ให้อาหารปลาคราฟ ดื่มเหล้าเต้นรั่วๆ แต่เห็นอย่างงี้นางเก่งนะ เรื่องอาวุธเรื่องต่อสู้ไม่เป็นรองใคร แถมยังเป็นนักปราชญ์ชอบพูดสำบัดสำนวนบางที่เพื่อนๆ ก็งงกับคำพูดของนางเหมือนกัน แปลกพอๆกับเจ้านาย 555555555 แถมยังเป็นหนุ่มฮอตเนิร์ดอีกด้วยอย่าให้เหล้าเข้าปากเซียว พอร์ชก็พอร์ชเถอะนะอาร์มก็ไม่ธรรมดาอย่าให้โชว์จ๊อบ ยศธร คงลิขิต รับบท พลhttps://www.instagram.com/p/Cc-FvuGPZEM/?utm_source=ig_web_copy_link พลเป็นบอดี้การ์ดคู่หูกับอาร์ม คอยซัพพอร์ตและเออออไปกับคุณหนู คอยห้ามเวลาคุณหนูโมโหเอาแต่ใจ พลรับบทเดอะแบก แบกคุณหนูแทนคุณกลับบ้านกับอาร์มค่ะ และที่สำคัญเป็นตัวโดนตลอดมักจะมีซีนตลกๆ แบบไม่คาดคิดเสมอ ถึงตลกแต่ก็โหดนะคะบอกไว้ก่อน เรื่องต่อสู้ ยิงปงยิงปืนก็ปังนะคะ นอกจากอาร์มพล พลอาร์มบอดี้การ์ดคู่หูคู่ใจของคุณหนูแทนคุณแล้วก็ยังมีพีท รับบทโดย บิว จักรพันธ์ พุทธา และ พอร์ช รับบทโดย อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ ในเรื่องจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้สองคนนี้สลับ สับเปลี่ยนเข้าแก๊งส์คุณหนูแทนคุณ เดิมทีเป็นพีทที่คอยอยู่กับคุณหนูคู่กับอาร์มพล แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้คุณหนูถูกใจพอร์ช ก็เลยสลับให้พีทไปดูแลคินน์แล้วดึงตัวพอร์ชมา พอมีพอร์ชเข้ามาดูแลคุณหนูอีกคน ก็คือเปิดโลกคุณหนูมากทั้งเปิดหนังโป๊ให้ดู เที่ยวบาร์ดื่มเหล้าและยาดอง แต่ละอย่างไม่รู้ว่าสนองนีสใครสีสันของซีรีส์ไม่ได้มีแค่คุณหนูแทนคุณ ทุกตัวละครทุกซีนในเรื่องนี้ล้วนสนุกทุกอย่าง แฝงเรื่องราวเรื่องเพศและ Sex เข้ามาในเรื่องแบบพอดีและคนดูสามารถเข้าใจนิสัยเรื่อง Sex ของตัวละครได้ตอนนี้ kinnporsche theseries รักโคตรร้าย สุดท้ายโคตรรัก เดินเรื่องมาครึ่งทางแล้วนอกจากบท นักแสดง ก็โปรดักซ์ชั่นนี้แหละที่ทำให้ต้องเข้าไปดู ทีมงานนักแสดงตั้งใจและทุ่มเทกับซีรีส์เรื่องนี้มากๆ ซีนทุกซีนมุมภาพ แสง สี เสียงคือสวยเข้ากับอารมณ์ของตัวละครทุกบทบาท ทุกคนสามารถติดตามชมแบบเต็มอิ่มได้ที่ iQIYI เพื่อเป็นกำลังใจให้นักแสดงและทีมงานทุกคน  ดูแบบถูกลิขสิทธิ์กันนะคะ  เครดิตภาพหน้าปก 1,2,3 //Instagram : beoncloud.officialภาพประกอบ 1, 2,3,4,5,6,7,8,9,//Instagram : tongthk / basvpr_ / yosatorn_jobเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

ํUTCC 1 : 4 โรงแรมหรู ดินเนอร์กลางกรุง

วันนี้เราจะพามาแนะนำห้องอาหาร ในโรงแรมหรู บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก วิวดีอาหารอร่อยในเมืองกรุงยามค่ำคืน เชื่อว่าทุกคนน่าจะชอบที่เรารีวิวต่อไปนี้ เราท้าให้คุณไปลอง !!! 1. โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ Sirocco Rooftop Sky Bar in Bangkok คือชั้น 63 ของโรงแรม เลอบัว นับว่าเป็นโรงแรมที่ติด 1 ใน 5 ของโรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ มีวิวที่สวย และบรรยากาศที่สุดจะโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่เดทที่ไปรับประทานอาหารในยามค่ำคืนจะเห็นวิวรอบกรุงเทพมหานคร แทบจะ 360 องศากันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดนั่นคือ แม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย ที่งดงามตระการตา เต็มไปด้วยเรือที่แล่นอยู่ในน้ำ และยังเห็นแสงสีแสงในยามค่ำคืนของเมืองกรุง จุดเด่นของโรงแรมที่เห็นได้อย่างชัดเจนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ คือ The Dome at lebua ที่แปลกสวยงามไม่เหมือนโรงแรมอื่นๆ ที่มาของรูปภาพ : ถ่ายโดยผู้เขียน ที่มาของรูปภาพ : ภาพถ่ายของผู้เขียน ประเภทอาหาร : เป็นอาหารคอร์ส สไตล์ ยุโรส รสชาติ : 10/ 10 ( ขนมปังฝรั่งเศสอร่อยมากเติมได้ไม่อั้น) ราคา : 7000++ (สำหรับ 2 ท่าน ) ที่ตั้ง :1331 Charoen Krung Rd, Silom, Bang Rak, Bangkok 10500 สรุป : อาหารอร่อย วิวสวยมาก มุมถ่ายรูปเลิศ ลมเย็นสบายมาก พนักงานบริการดีมากๆ มีโอกาศอยากไปอีกแน่นอน 2. โรงแรมบันยันทรี Vertigo and Moon Bar ชั้นสูงสุดของโรงแรมบันยันทรี ซึ่งติด 1 ใน 5 โรงแรมหรูและบรรยากาศวิวที่สูง โดย Rooftop ของโรงแรมนั้น จะมี 2 ชั้น2 โซน คือ Vartigo too และ Moon Bar ที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม โดย Vartigo จะอยู่ในโซนข้างในของโรงแรม การตกแต่งร้าน จะเป็นแนวเรียบหรู เป็นทรงโค้งและเป็นกระจกโดยรอบทำให้สามารถเห็นวิวได้อย่างชัดเจนไม่ต่างกับอยู่บน Rooftop โดยบรรยากาศในร้านนั้นจะประกอบไปด้วย วงดนตรีสด อาหารหลากหลายสัญชาติ ส่วนทางด้านของ Moon Bar นั้นจะเป็นชั้นบนสุดที่สามารถเห็นวิวได้รอบทั้ง 4 ทิศ เป็นบาร์ และมีวิวถ่ายรูปลอยฟ้าที่เป็นพื้นกระจก ทำให้เป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว ที่มาของรูปภาพ : ถ่ายโดยผู้เขียน และภาพถ่ายของผู้เขียน ประเภทอาหาร : เป็นอาหารบุฟเฟ่ อาหารหลายสัญชาติ ยุโรป ไทย อินเดีย รสชาติ : 7.5 / 10 ราคา : 2200+ (บุฟเฟ่ต่อคน) ที่ตั้ง :21 100 S Sathon Rd, Khwaeng Thung Maha Mek, Sathon, Bangkok 10120 สรุป : อาหารรสชาติอร่อยวิวสวย วงดนตรีดีมากมุมถ่ายสวย พนักงานใส่ใจลูกค้ามากแต่คนเยอะ 3. โรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ SEEN Restaurant & BarRooftop ของโรงแรม อวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ Bar ข้างนอก และRestaurant ที่อยู่ในห้องแอร์ ทั้งสองอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม ภายในห้องอาหารนั้นตกแต่งสวยงามตระการตาไปด้วยสีทอง ดูหรูหรา และวิวส่วนใหญ่จะเป็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย และสะพานเชื่อมฝั่งกรุงเทพ และฝั่งธนบุรี ดูสวยงามมีความแตกต่างกันแต่ละสะพาน ทางด้านฝั่งตรงข้ามของโรงแรมนั้นยังมองเห็น เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ มองเห็น ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่เป็นจุดเด่นของเมืองกรุง ที่มาของรูปภาพ : ถ่ายโดยผู้เขียน และภาพถ่ายของผู้เขียน ประเภทอาหาร : เป็นอาหารสั่งตามเมนู เน้นอาหารไทย และญี่ปุ่น รสชาติ : 9.5 / 10 ราคา : 3000 + ( สำหรับทาน 2 คน ) ที่ตั้ง :คลองสาน - เจริญนคร - ตากสิน, พระราม 2, กรุงเทพมหานคร สรุป : อาหารรสชาติอร่อยมีความเป็นไทย และญี่ปุ่นที่ชัดเจน วิวสวย มุมถ่ายสวย 4.โรงแรม เพนนินซูลา กรุงเทพฯ River Cafe & Terrace ของโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ห้องอาหารจะอยู่ข้างล่างบริเวณแม่น้ำ โดยมี 2 โซนคือมีทั้งในห้องแอร์และชมวิวด้านนอกมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอาหารจะเป็นบุฟเฟ่อาหารนานาชาติ มีทั้งคาวและหวานมากมาย การตกแต่งภายในหรูหราทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันสมกับเป็นโรงแรม Chain ที่มาของรูปภาพ : ถ่ายโดยผู้เขียน และภาพถ่ายของผู้เขียน ประเภทอาหาร : อาหารบุฟเฟ่ นานาชาติ รสชาติ : 8/ 10 ราคา : 1900 + ( ต่อคน ) ที่ตั้ง :ซอย เจริญนคร กรุงเทพมหานคร สรุป : อาหารรสชาติอร่อย เป็นยังไงกันบ้างค่ะจากรีวิวทั้ง 4 โรงแรม เชื่อว่าเพื่อนๆอยากไปลิ้มลองรสชาติอาหาร และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก ที่เหมาะจะไปกับคูู่รัก สำหรับนักเขียน 4 ร้านที่โดนใจมากที่สุด ต้องขอเทใจเทคะแนนให้กับโรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ เป็นที่หนึ่งไปเลยค่ะ . #เด็กหัวการค้า #หอการค้าintrend

ฟินเว่อร์! Room39 กอดคอ Chilling Sunday พาผู้โชคดี เช็คอินสุดหรูริมหาดหัวหิน

ได้ใจผู้โชคดีไปเต็ม ๆ สำหรับ 2 วัน 1 คืนแห่งความสุข ในทริป TrueMusic Party On The Beach เรียกว่า พอถึงที่หมายเช็คอินสถานที่ ก็ต้องร้องว้าว กับความเอ็กคลูซีฟที่มอบให้ผู้โชคดีทั้ง 20 ท่าน ได้ซึมซับลมทะเลริมชายหาดหัวหิน ใน โรงแรมสุดหรู Rest Detail Hotel พร้อมดินเนอร์อาหารเลิศรส ไปกับศิลปินคนโปรด Room39 และ Chilling Sundayแต่งานนี้สงสัยท้องฟ้าจะอยากมีส่วนร่วมไปซักหน่อย ส่งสายฝนโปรยปรายชุดใหญ่ แต่ 2 ศิลปินก็ไม่หวั่น แสดงสปิริตยกเวทีจากริมทะเล เข้ามามอบความสนุกให้ผู้โชคดีด้านในโรงแรม เปิดเวทีด้วย Chilling Sunday สร้างซีนชวนฝันไปกับเพลงเพราะใส ๆ สไตล์ Chilling ก่อนจะส่งต่อเวทีให้วง 3 สหาย Room39 ที่ขนเพลงฮิตมาแบบไม่มีกั้ก มอบความประทับใจส่งท้ายค่ำคืนดี๊ดีไปอย่างสวยงามChilling SundayRoom39แถมขากลับทริปนี้ ยังพาไปเช็คอินกันต่อกับสถานที่สุดชิค อย่าง พันธ์สุขฟาร์ม ได้อิ่มอร่อยกับซีฟู๊ดสุดจี๊ดอีกด้วย สำหรับใครที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของทริป กิจกรรมเริ่ดๆ ใกล้ชิดกระทบไหล่ศิลปินแบบนี้ ติดตามเลยที่ TrueMusic App หรือ truemusic.comขอบคุณข้อมูลจาก BEC-Tero MusicMusic Truelife อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากลข่าว Gossip พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจและติดตามพวกเราชาว Entertainment Truelife ได้ที่นี่