รีเซต

ผลการค้นหา “บังเอียดเซียนปลากัด” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
แหล่งการเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลากัดและปลาสวยงาม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น
อ่าน

แหล่งการเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลากัดและปลาสวยงาม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น

ในประเทศไทยเรา ก็มีคนไม่น้อยเลยที่เลี้ยงปลาสวยงามเพื่อดูเล่น และจำหน่าย แต่ถ้าจะพูดถึง แหล่งเพาะพันธุ์ปลาสวยงาม และให้ความรู้ในการเลี้ยงการเพาะพันธุ์ปลากัดและปลาสวยงามประเภทต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานที่แรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ แหล่งการเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลากัดและปลาสวยงาม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่นรูปถ่ายโดยนักเขียนแหล่งการเรียนรู้แห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนการเพาะพันธุ์ปลากัดและปลาสวยงามชนิดต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจังหวัดขอนแก่นนั้นก็มีศักยภาพสามารถเป็นศูนย์กลางการค้าปลากัดและปลาสวยงามโดยเป็นแหล่งให้การศึกษาเรื่องปลาสวยงามของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ ปกติส่วนใหญ่แล้วเราจะหาซื้อปลากัดปลาสวยงามดี ๆ ได้ที่จตุจักร กรุงเทพฯ ทำให้คนที่อยู่ไกลอย่างคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องเสียเวลาในการเดินทางและสิ้นเปลื้องค่าใช้จ่ายเพื่อไปซื้อปลาสวยงามนั้น เลยทำให้การสร้างแหล่งการเรียนรู้แห่งนี้สามารถทำให้ผู้ที่สนใจในละแวกใกล้เคียงหาซื้อปลาและสามารถเรียนรู้วิธีการเลี้ยง การรักษาและการเพาะพันธุ์ปลาได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น รูปถ่ายโดยนักเขียนทางแหล่งการเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลากัดและปลาสวยงาม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่นแห่งนี้ยังมีการสนับสนุนให้เกษตรกรโดยให้ความรู้ในการเพาะเลี้ยงปลา การดูแลรักษาปลา การอนุบาลลูกปลาสวยงามทุกประเภท เพื่อเป็นรายได้ให้กับทางเกษตรกรผู้ที่สนใจในเรื่องนี้อีกด้วย ทางแหล่งการเรียนรู้แห่งนี้ยังได้นำปลาสวยงามไปจัดแสดงในสถานที่แสดงต่าง ๆ เช่นงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จังหวัดขอนแก่นที่ผ่านมา ก็ได้รับรางวัลและความนิยมจากผู้ที่สนใจในปลาสวยงามเป็นอย่างมากรูปถ่ายโดยนักเขียนภายในแหล่งการเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลากัดพันธุ์ การอนุบาลลูกปลา การเลี้ยงการดูแลรักษาปลากัดและปลาสวยงาม ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก สามารถเรียนรู้จากของจริงโดยผู้มีประสบการณ์ในด้านนี้ ใครที่สนใจสามารถโทรไปสอบถามและเยี่ยมชมได้ที่ เบอร์ติดต่อ 087 771 6924 ที่อยู่ 17/7 หมู่ 4 ซอยประชาสโมสร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จุดสังเกตสำหรับแหล่งการเรียนรู้การเพาะเลี้ยงปลากัดและปลาสวยงาม ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่นแห่งนี้ จะอยู่ตรงถนนประชาสโมสร ซอย 14 หน้าซอยจะมีป้ายที่ตั้งของสถานที่อย่างชัดเจนรูปหน้าปก โดยนักเขียน     

เมียนมาครองอันดับ 3 ในอาเซียน มี 'อุทยานมรดกอาเซียน' มากสุด
อ่าน

เมียนมาครองอันดับ 3 ในอาเซียน มี 'อุทยานมรดกอาเซียน' มากสุด

(แฟ้มภาพซินหัว : ควาญช้างอาบน้ำให้ช้างตัวหนึ่งที่ค่ายอนุรักษ์ช้างงาลาอิกในกรุงเนปิดอว์ของเมียนมา วันที่ 2 พ.ย. 2023) ย่างกุ้ง, 25 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (24 เม.ย.) สื่อท้องถิ่นของเมียนมาเปิดเผยว่าเมียนมาครองอันดับสามในกลุ่มประเทศอาเซียนด้านจำนวนอุทยานมรดกอาเซียน ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เผยว่าโครงการอุทยานมรดกอาเซียนมีรายชื่ออุทยานมรดกจำนวน 55 แห่งจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเมียนมาครองจำนวนอุทยานมรดก 8 แห่งจากทั้งหมด อนึ่ง อุทยานมรดกอาเซียน คือเขตพื้นที่คุ้มครองที่มีความสำคัญสูงด้านการอนุรักษ์และคงไว้ซึ่งตัวแทนระบบนิเวศของภูมิภาคอาเซียนไว้อย่างสมบูรณ์ พื้นที่เหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ ความภาคภูมิใจ การรู้คุณค่า และการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของอาเซียน ผ่านเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองที่เป็นตัวแทนระดับภูมิภาค ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติที่มีร่วมกัน รายงานระบุว่าเมียนมาร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียน องค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ และองค์กรท้องถิ่นอื่นๆ ในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของประเทศ โดยเมียนมากำลังพยายามอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติ อุทยานทางทะเล เขตอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แหล่งธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ และพื้นที่ธรรมชาติที่ได้รับการคุ้มครองจากชุมชน เนื่องจากการพัฒนาอุทยานระดับชาติไม่เพียงช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจ้างงานในท้องถิ่น แต่ยังสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย

นิว-วงศกร สลัดลุคส์เพลย์บอย  งัดทีเด็ดมัดใจสาวเฉิ่ม ในปลาหลงฟ้า
อ่าน

นิว-วงศกร สลัดลุคส์เพลย์บอย งัดทีเด็ดมัดใจสาวเฉิ่ม ในปลาหลงฟ้า

หลังจากที่แฟนละครลุ้นกันมานาน คราวนี้ถึงคราวที่จะได้สมหวังกันสักที เมื่อน่านฟ้า ที่รับบทโดย นิว-วงศกร ต้องตกหลุมรักสาวเฉิ่ม แว่นตาหนาเตอะอย่างเจ้หยี ที่ได้นางเอก เชียร์-ฑิฆัมพร มารับบทบาทนี้เข้าเต็มประตู แต่ด้วยความกะล่อน เพลย์บอยที่ผ่านมาทำให้เจ้หยีไม่เชื่อใจ หนุ่มนิวของเราเลยต้องจัดหนัก จัดเต็ม เอาใจสุดฤทธิ์ สัปดาห์นี้ถึงตอนที่น่านฟ้า (นิว) พา มัศยา (เชียร์) มาทานอะไรอร่อยๆ ที่ร้านอาหารในบรรยากาศสุดโรแมนติค เพื่อที่จะบอกความในใจให้เจ้หยีรู้ งานนี้ น่านฟ้า ทำเต็มที่เพียงเพราะอยากให้เจ้หยีเชื่อใจ น่านฟ้าเลยทุ่มไม่อั้นโดยมีแม่ใหญ่ (โย ทรรศนวรรณ์) คอยหนุนหลังให้ เพราะใจแม่ใหญ่เองก็อยากได้เจ้หยีมาเป็นลูกสะใภ้อยู่แล้ว ฉากนี้ยกกองไปถ่ายทำที่ร้านอาหาร Terrace 61 แถวรามอินทรา ร้านอาหารที่บรรยากาศสุดสบายเหมาะกับใช้เป็นการบอกความในใจกันสุด ๆ งานนี้จะธรรมดาไม่ได้ อาญา ผกก. เลยขอเพิ่มกิมมิกให้ติ่งนิว เชียร์ ฟินขึ้นไปอีก ฉากแรกนี่แค่นั่งทานกัน มีจับมือ จูบมือ ว่าฟินแล้ว พอมาถึงฉากที่ 2 ที่อาญา ผกก. บอกใครได้ดูเป็นต้องจิกหมาอนไปตามๆกันกับฉาก น่านฟ้าร้องเพลงสื่อความหมายให้เจ้ ทำเอานางเอกถึงกับเก็บอาการเขินไม่อยู่กันเลยทีเดียว ความรักของทั้งสองจะลงเอยแบบไหน อยากรู้อย่าลืมติดตามละคร ปลาหลงฟ้า ในวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558 เวลา 20.30น. ทางช่อง 7 ชมทีวีออนไลน์ช่อง 7 แบบสดๆ ได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety

"กัญจนา" โพสต์แจงปม "มาสคอตปลาการ์ตูนบึงฉวาก" เก่า
อ่าน

"กัญจนา" โพสต์แจงปม "มาสคอตปลาการ์ตูนบึงฉวาก" เก่า

กัญจนา ศิลปอาชา โพสต์เฟซบุ๊กแจงดรามา มาสคอตปลาการ์ตูนบึงฉวาก เก่า หลังมีคลิปไวรัลใน TikTokจากกรณี ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง เผยคลิปไวรัล มาสคอตปลาการ์ตูนนีโม่ ณ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ในสภาพเก่า พร้อมกับมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย บางคนถามเกิดอะไรขึ้นกับบึงฉวากล่าสุด น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa ระบุว่า ขอพื้นที่นี้ช่วยทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอควาเรี่ยมบึงฉวากชี้แจงเรื่องที่คนโซเชียลบางคนเอาไปลงว่ามาสคอตของบึงฉวากเก่าแก่มากและบางสื่อเอาไปขยายผลความเป็นจริงคือ มาสคอตของทางอควาเรี่ยมมีหลายตัว ยังแบ่งเอาไปช่วยที่งานวันเด็กของเทศบาลเดิมบางด้วย (เขาอยู่แบบช่วยเหลือกันค่ะ) ซึ่งเกือบทั้งหมด มีสภาพใหม่..ทว่า ที่คนโซเชี่ยลคนนั้นเอาไปลง ก็ได้กรุณาเลือกเอาตัวเก่าที่สุดคือ ปลานีโม่และฉลาม..ซึ่งทางนี้ก็มีส่วนผิดแหละ ไม่ควรเอาตัวเก่า 2 ตัวออกมาใช้ ควรเปลี่ยน เขาโพสต์วันที่ 11 มกราคมวันที่ 12 เจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนทันที..ก็ต้องขอบคุณคนโพสต์นะคะที่สนใจ แต่จะขอบคุณมากขึ้นถ้าจะโพสต์เรื่องที่ทางนี้เขาทำดีมาตลอดด้วย นํ้าใสสะอาดทุกตู้ ทุกแท้งค์ ปลาสวยงามมากมาย สถานที่ก็จัดภูมิทัศน์ดีมาก โซนอควาเรี่ยม ดิฉันไปดูไม่บ่อยเท่าโซนสวนสัตว์ที่ไปทุกเดือน เพราะเขาทำดีอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่สวนสัตว์ทำไม่ดีนะคะ เพียงแต่ต้องการไปเยี่ยมพูดคุยกับสัตว์ (ยังไม่ได้บ้านะคะ แต่ดิฉันคุยกับทุกตัวจริงๆ เพียงแต่ไม่มีตัวไหนคุยตอบ)สรุปส่วนที่เป็นแก่นของสถานที่คือการดูแลสัตว์ ที่อยู่สัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ เขาทำได้ดี คนหลายคนก็เม้นท์ชื่นชม ส่วนคุณที่เอาไปโพสต์เรื่องแมสคอตเก่า และสื่อบางสื่อที่เลือกขายผลเฉพาะเรื่องนี้ เราก็ต้องขอบคุณเขาทำให้เรามาอุดจุดพร่องเล็กๆของเรา..แต่ถ้าคุณจะใจกว้างกว่านี้ พูดสิ่งดีบ้างถ้าไม่ยากไปนัก ก็จะดีนะคุณ..ดิฉันขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ บึงฉวากทุกคน ทั้งโซนอควาเรี่ยม สวนสัตว์ อุทยานผักพื้นบ้าน รีสอร์ต ที่ช่วยดูแลทุกอย่างสมเจตนารมณ์ที่พ่อบรรหารต้องการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ศึกษา ของคนทั่วไปที่ราคาไม่แพง และขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยและเทศ มาเที่ยวบึงฉวากนะคะ.. ท่านใดส่งที่ดิฉันเขียนนี้ให้คุณคนที่เป็นต้นเรื่องได้ รบกวนส่งให้ด้วยนะคะ เผื่อเขาจะเข้าใจได้บ้าง..จบค่ะ.. ขอบคุณค่ะ..ภาพจาก NuNa Silpa-archa / ผู้ใช้ tiktok

หมกปลา ความอร่อยของปลาน้ำจืด
อ่าน

หมกปลา ความอร่อยของปลาน้ำจืด

สวัสดีค่ะ วันนี้นำเมนูแสนอร่อยจากปลาน้ำจืดมาฝากกันค่ะ นั่นก็คือเมนู หมกปลา ซึ่งเนื้อของปลาน้ำจืดมีหลากหลายแบบตามชนิดของปลานั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีความอร่อยเฉพาะตัว จึงทำให้หมกปลามีความพิเศษที่การเลือกชนิดปลามาประกอบอาหารค่ะ ปลาน้ำจืดที่สูตรนี้เลือกใช้คือ ปลาค้าวยักษ์ ตัวนี้หนักถึง 1 กิโลกรัม 7 ขีด กันเลยทีเดียว แต่ในการนำมาประกอบอาหารจะแบ่งเพียงบางส่วนเท่านั้นค่ะ หลายคนคงสงสัยว่าปลาค้าวมีลักษณะเป็นอย่างไร ปลาค้าวเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด มีอาหารอุดมสมบูรณ์ เพราะปลาค้าวกินปลาเล็กเป็นอาหารและชอบอาศัยอยู่ในน้ำลึก จึงทำให้ตัวใหญ่ และมีฟันที่คมเป็นพิเศษ เรียกได้ว่ากัดอะไรก็ขาดกันเลยทีเดียว เมื่อเราทำความรู้จักกับปลาค้าวกันไปแล้วก็มาเริ่มเข้าครัวสร้างสรรค์ความอร่อยกับเมนู “หมกปลาค้าว” ได้เลยค่ะ วัตถุดิบ 1. เนื้อปลาค้าว 4 ขีด 2. ต้นหอม 3. น้ำปลา 4. ปลาร้า 5. ผงนัว 6. ใบแมงลัก 7. เกลือ 8. ข้าวเบือ ขั้นตอนการทำ 1. หั่นเนื้อปลาค้าวให้มีขนาดชิ้นพอดี 2. หั่นต้นหอมความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร 3. นำเนื้อปลาค้าว ต้นหอมที่เตรียมไว้ และนำเครื่องปรุงรสใส่ลงไป โดยสูตรนี้จะใส่นำปลาร้านิดหน่อยเพื่อเพิ่มความหอมของน้ำปลาร้าและกลิ่นอายความเป็นอีสานให้กับเมนูหมกปลามากยิ่งขึ้น 4. ตำข้าวเบือ (ข้าวสารเหนียวแช่น้ำ) ตำให้ละเอียดแล้วนำไปใส่ในเนื้อปลาค้าวที่ปรุงรสไว้แล้ว 5. หลังจากปรุงรสเรียบร้อย ก็คลุกให้เข้ากันแล้วใส่ใบแมงลักเพื่อเพิ่มความหอมลงไปได้เลยค่ะ 6. ใช้ใบตองห่อเป็นหมก ๆ เพื่อเตรียมนำไปนึ่งค่ะ สูตรลับของการหมกปลาค้าว 1. เนื้อปลาต้องสดใหม่ โดยการถนอมเนื้อปลาเราจะใส่ช่องแช่แข็ง เพื่อให้เนื้อปลาเก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้นและคงความสด 2. ใส่ข้าวเบือ เป็นการทำให้เนื้อหมกปลาเหนียวติดกันได้ดีภายในหมก ไม่เป็นน้ำแฉะมากเกินไป เรียกได้ว่าทั้งเพิ่มรสชาติและเพิ่มความอร่อยให้กับหมกปลาค้าวก็ว่าได้ค่ะ 3. ใบแมงลัก ต้องเป็นใบสด ถ้ามีปลูกไว้รอบบ้านจะดีมากค่ะ ทำให้หมกปลามีความหอมและชวนให้น้ำลายไหลเป็นที่สุดค่ะ 4. ใบตองที่ใช้หมกต้องตัดแล้วนำไปผึ่งแดดก่อน เพื่อให้เวลานำมาห่อหมกใบตองไม่แตกและจะทำให้ห่อหมกสวยยิ่งขึ้น และใส่เนื้อปลาต่อหมก ให้พอดีกับขนาดใบตองที่ใช้ห่อ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเมนูหมกปลาค้าว ความอร่อยของปลาน้ำจืด เพื่อน ๆ ท่านใดสนใจเมนูจากปลาค้าวเมนูนี้ก็สามารถลองทำได้ค่ะ ภาพโดย ผู้เขียน

วัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย
อ่าน

วัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย

หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงราย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติคือ วัดห้วยปลากั้ง ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นวัดที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2544 เริ่มจากการเป็นสำนักสงฆ์ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นวัดในปี 19 พฤศจิกายน 2548 โดย พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส ที่บังเอิญเดินทางมาปฏิบัติธรรมละแวกนี้ ท่านจึงได้มาบูรณะก่อสร้างวัดนี้ขึ้น และเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดห้วยปลากั้ง วัดห้วยปลากั้งเป็นวัดที่มีองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวที่สวยงาม และใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย โดยองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมมีขนาดความสูงถึง 69 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และถึงทุกวันนี้ก็ยังคงก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ นอกจากนั้นยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่าง เจดีย์ 9 ชั้นที่มีชื่อเรียกว่า พบโชคธรรมเจดีย์ ภายในมีพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมจำลองแกะสลักจากไม้หอม และแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปประจำชั้นประดิษฐานอยู่ และเจ้าแม่กวนอิมปางต่าง ๆ โดยพบโชคธรรมเจดีย์ใช้เวลาในการก่อสร้าง 999 วัน วัดห้วยปลากั้งเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 21.30 น. มีที่จอดรถกว้างขวาง ภายในพระวิหารของวัดห้วยปลากั้งมีสีขาวสวยงาม องค์พระประทานมีสีขาวบริสุทธิ์ หลังจากฉัน และครอบครัวได้กราบไหว้สักการะองค์พระประทานแล้ว จึงเดินทางไปชมดอยโพธิสัตว์ ที่ประทับของรูปปั้นพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม โดยคุณสามารถเดินขึ้นไปตามทางได้เลย สำหรับครอบครัวที่มากับผู้สูงอายุสามารถใช้บริการรถรับส่งภายในวัดได้ฟรี รูปปั้นพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมมีลิฟต์อยู่ภายในตัวอาคาร ค่าขึ้นลิฟต์อยู่ที่ 20 บาท/คน เด็ก ๆ ที่มาเป็นพนักงานต้อนรับหน้าลิฟต์ ยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจให้บริการ และยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้เป็นอย่างดี พวกเราขึ้นลิฟท์ ไปที่ชั้น 22-23 เพื่อชมความงามของรูปปั้นแกะสลักภายในอาคาร และชมวิวทิวทัศน์ของจังหวัดเชียงรายไปด้วย ถือว่าเป็นการเที่ยววัดที่สนุก แต่การมองลงไปจากที่สูงทำเอาฉันเหงื่อตกไม่น้อย อกจากนั้นทางวัดยังมีโรงอาหารที่มีชื่อว่า ภัตตาคารพบโชค เป็นโรงทานที่มีทั้งอาหารไทย และอาหารเจ พวกเราเลือกรับประทานก๋วยเตี๋ยวเจในวันนั้นเนื่องจากเป็นวันพระ เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยววัดที่อิ่มบุญ อิ่มใจ แล้วยังอิ่มท้องอีกด้วยค่ะ ที่อยู่ วัดห้วยปลากั้ง : 553 หมู่3 ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย  

แจ้งจับเซียนไก่บางปลาม้า ติดโควิด  ปิดบังข้อมูลไทม์ไลน์
อ่าน

แจ้งจับเซียนไก่บางปลาม้า ติดโควิด ปิดบังข้อมูลไทม์ไลน์

แจ้งจับเซียนไก่ เจ้าของร้านอาหารที่บางปลาม้า ติดโควิด ปิดบังข้อมูลไทม์ไลน์ สาธารณสุขเอาจริง รุดแจ้งตำรวจ ผิดพรบ.ควบคุมโรคฯ ตร.เตือนเป็นคดีอาญา เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ม.ค. 64 นพ.คำรณ ครื้นน้ำใจ นพ.สาธารณสุข อ.บางปลาม้า เข้าพบ พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ เจริญศรี ผกก.สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดี เอาผิดกับผู้ป่วยโควิด รายที่ 11 ของ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวนโรค เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ไม่ครบถ้วน และมีการปิดบังข้อเท็จจริงบางส่วน ทำให้การสอบสวนโรคล่าช้า ทางอำเภอบางปลาม้า โดย ว่าที่ ร.ต.ธีระพล โชคนำชัย จึงมอบหมายให้ ทาง นายแพทย์สาธารณสุข อ.บางปลาม้า เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.สุพรรณบุรี ได้แถลงพบผู้ป่วยรายที่ 11 ของ จ.สุพรรณบุรี ในการระบาดระลอกใหม่ เป็นเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นชายอายุ 66 ปี เดินทางไปที่สนามชนไก่อินเตอร์ ใน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง วันที่ 20 ธ.ค.63 หลังกลับมา 1 อาทิตย์ มีอาการน้ำมูกไหลครั่นเนื้อครั่นตัว จึงไปตรวจ รพ.บางปลาม้า ผลตรวจออกเมื่อวันที่ 3 ม.ค.64 เวลา 22.00 น. พบว่าผลเป็นโควิด-19 ต่อมาศูนย์ปฏิบัติการ โควิด-19 จังหวัดสุพรรณบุรีได้เผยไทม์ไลน์ ของชายคนดังกล่าว วันที่ 20 ธค. 63 ไปบ่อนไก่ที่ อ.ป่าโมก และเดินทางไปยังสนามชนไก่ บ้านป่าพฤกษ์ ไปร้านเหล้า ไปสังสรรค์กับเพื่อน และ ไปบ่อนไก่ ต่างจังหวัด จากนั้นก็ไม่มีรายละเอียดว่าไปที่ไหน ต่อมาวันที่ 3 ม.ค 64 เวลา 15.00 น. ไปตรวจโรคที่ รพ.บางปลาม้า ผลออกมาว่าเป็นบวก และ วันที่ 4 ม.ค.64 จึงส่งตัวไป รพ.เจ้าพระยายมราช เพื่อรักษาตัวต่อไป แต่ต่อมาการสอบสวนโรคพบว่ามีอีกหลายสถานที่ ที่ผู้ป่วยนายดังกล่าวเดินทางไป แต่มีการให้ข้อมูลไม่ครบ กระทั่งได้รวบรวมหลังฐานเข้าพบพนักงานสอบสวนดังกล่าว นพ.คำรณ กล่าวว่ามาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยรายที่ 11 ให้ข้อมูลการเดินทางและการสัมผัสผู้ใกล้ชิด ไม่ครบถ้วนมีการปิดบังข้อมูล ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทำงานยากขึ้น ซึ่งมีความผิดตาม พรบ.ควบคุมโรค จึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้ ทางด้าน พ.ต.อ.ธีระศักดิ์กล่าวว่า คดีนี้เป็นความผิดตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ และ ประมวลกฏหมายอาญาด้วย จึงอยากฝากประชาชนดูแลระมัดระวังตนเอง และหากใครไปที่เสี่ยง หรือ ใกล้ชิดผู้ป่วย ให้ข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อจะได้ควบคุมโรคได้รวดเร็วและไม่ต้องถูกดำเนินคดี

เฮลิคอปเตอร์ ยามฝั่งสหรัฐ ช่วยชายถูก ฉลามกัด ขณะล่องเรือตกปลา
อ่าน

เฮลิคอปเตอร์ ยามฝั่งสหรัฐ ช่วยชายถูก ฉลามกัด ขณะล่องเรือตกปลา

วันที่ 22 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น รายงาน ภารกิจของหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกาในการช่วยเหลือชายที่ถูก ฉลามกัด ขณะตกปลาใกล้เมืองบิมินี ประเทศบาฮามาส ด้วยเฮลิคอปเตอร์ หน่วยยามฝั่งนครไมอามีได้รับแจ้งในตอนเที่ยงวันจันทร์ว่า ชายวัย 51 ปีถูก ฉลามกัด ขณะอยู่บนเรือ และมีการใช้สายรัดที่แขนเพื่อป้องกันการเสียเลือดเพิ่มเติม USCG กล่าว หลังเจ้าหน้าที่ระบุว่า ชายคนดังกล่าวต้องเคลื่อนย้ายทางการแพทย์ เฮลิคอปเตอร์ ดอลฟิน เอ็มเอช-65 ของหน่วยยามฝั่งไมอามี และลูกเรือมาถึงจุดเกิดเหตุ อุ้มชายคนนั้นและส่งไปที่โรงพยาบาลในนครไมอามี มีรายงานว่า ชายคนนี้มีอาการทรงตัว ฌอน คอนเนตต์ เจ้าหน้าที่ผู้บังคับบัญชาของหน่วยยามฝั่งเขตที่ 7 กล่าวว่า "นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง บุคคลนี้โชคดีที่มีเพื่อนร่วมลูกเรือคนหนึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือก่อนการมาถึงของหน่วยยามฝั่งซึ่งช่วยดึงออกจากเรือได้อย่างรวดเร็ว"

อิ่มบุญอิ่มใจ@วัดห้วยปลากั้ง
อ่าน

อิ่มบุญอิ่มใจ@วัดห้วยปลากั้ง

         วัดห้วยปลากั้งแต่เดิมเป็นวัดร้าง ต่อมาคณะศรัทธาได้ก่อตั้งก่อเป็นสำนักสงฆ์ ต่อมาในปี 2548 พระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส ได้มาปฏิบัติธรรมและเริ่มก่อสร้างศาสนวัตถุ จนในปี 2552 ทางสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีประกาศแต่งตั้งให้เป็นวัดห้วยปลากั้ง            ภายในวัดมี พระมหาพบโชคธรรมเจดีย์ เป็นเจดีย์ 9 ชั้น เป็นศิลปะของจีนผสมผสานกับศิลปะล้านนากันได้อย่างวิจิตรงดงาม ด้านหน้ามีรูปปั้นมังกรคู่ ซึ่งแตกต่างจากวัดส่วนมากที่มักจะเป็นพญานาค ภายในเจดีย์จะมีสิ่งศักดิ์สิทธ์ประดิษฐานแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1 มีองค์เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร ชั้นที่ 2 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับยืน ชั้นที่ 3 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับนั่ง ชั้นที่ 4 หลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลอง ชั้นที่ 5 เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ ชั้น ที่ 6 หลวงปู่โต พรหมรังสี และหลวงปู่ทวด ชั้นที่ 7 พระพุทธรูปปางนาคปรก ชั้นที่ 8 พระสังกัจจายน์ ชั้นที่ 9 พระอิศวร ในแต่ละชั้นเราขอพรที่แตกต่างกันไป เจดีย์ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 999 วัน              ที่นี่ยังมีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยประดิษฐานอยู่ โดยมีความสูงประมาณ 79 เมตร เทียบเท่ากับตึก 25-26 ชั้น ตั้งอยู่บนเนินนิยมมาขอพรเรื่องสุขภาพ การเงินและการงาน              ใครที่ต้องการไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ทางวัดจะมีบริการรถรับ-ส่งฟรี ซึ่งรถเป็นสีชมพู รถจะรับจากลานจอดรถไปส่งถึงบริเวณด้านหลังขององค์เจ้าแม่กวนอิมไม่ต้องเดินขึ้น-ลงเนิน บริเวณฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิให้เราบูชา และมีซุ้มขายคูปองเพื่อขึ้นลิฟต์ไปดูจุดชมวิว ที่สามารถเห็นวิวที่สวยงาม โดยมองผ่านประตูมังกรและความสวยงามของการตกแต่งภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมที่เป็นสีขาวล้วน ให้ความรู้สึกสงบ สะอาด บริสุทธิ์           นอกจากนี้วัดยังมีโรงอาหารสำหรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและคนชรากว่า 200 ชีวิต ชื่อว่าภัตตาคารพบโชค และพบโชคคลีนิคที่เปิดรักษาฟรี และยังมีโรงเรียนอีกด้วย ใครต้องการที่จะทำบุญโดยการเลี้ยงอาหารเราสามารถติดต่อไปที่วัดได้โดยตรง             สายบุญห้ามพลาด แนะนำให้มาทำบุญกันที่วัดห้วยปลากั้ง ที่นอกจากจะได้มาทำบุญเรายังสามารถทำทานได้อีกด้วย ที่สำคัญเจดีย์และองค์เจ้าแม่กวนอิมมีความงดงามวิจิตรบรรจง สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยียน พิกัด: วัดห้วยปลากั้ง ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เวลาเปิดทำการ: 07.00 น.-21.30 น.ทุกวัน  Credit photos: Hummingbird     

กว่าจะเป็น '7 เซียน' สุดยอดนักตบลูกยางสาว ขวัญใจคนไทยทั้งชาติ
อ่าน

กว่าจะเป็น '7 เซียน' สุดยอดนักตบลูกยางสาว ขวัญใจคนไทยทั้งชาติ

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับงาน 7 Legends of Volleyball ที่ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จับมือร่วมกับ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จัดแมตช์อำลาส่งท้ายอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมขอบคุณเหล่าบรรดา 7 เซียน นักตบลูกยางสาวในตำนาน ที่อยู่ทำหน้าที่เสียสละทั้งแรงกายแรงใจ สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตาของความภูมิใจ ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และวงการวอลเล่ย์บอลไทยมาตลอดระยะเวลา 20 ปี นี่จะเป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของ หน่อง ปลื้มจิตร ถินขาว, ซาร่า นุศรา ต้อมคำ, อร อรอุมา สิทธิรักษ์, แจ๊ค อำพร หญ้าผา, ปู มลิกา กันทอง, กิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญาพงศ์ และ นา วรรณา บัวแก้ว พร้อมทั้ง โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เฮดโค้ชที่ปลุกปั้นพวกเธอทั้ง 7 คนขึ้นมา ได้กลับมาโชว์ฝีไม้ลายมือในสนามกันอีกครั้ง เพื่อส่งท้ายแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยอย่างสมศักดิ์ศรี ในวันที่ 7 พฤศจิยายน 2564 ณ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา พวกเธอทั้ง 7 คน สร้างชื่อเสียงเป็นตัวแทนความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติมาโดยตลอด เป็นแรงบันดาลใจ เป็นฮีโร่ของใครต่อหลายคน อีกทั้งยังช่วยปลุกกระแสให้วอลเลย์บอลไทยกลับมาคักคัก ไม่ว่าผลแข่งขันจะออกมาแพ้ หรือชนะ กองเชียร์ก็พร้อมส่งเสียงเชียร์กึกก้องดังทั่วสนาม ยามที่ได้ลงเล่นในผืนแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเอง ผลงาน 1 แชมป์เอเชี่ยนคัพ 2 แชมป์ชิงแชมป์เอเชีย และ 3 เหรียญทองในซีเกมส์ โดยนับเฉพาะตอนที่ได้เล่นรวมกัน 7 คน รวมถึงการเป็นตัวแทนจากทวีปเอเชียไปสู้ในรายการต่างๆ คือความสำเร็จในนามทีมชาติของพวกเธอทั้ง 7 คน ที่ร่วมฝ่าพันอุปสรรคด้วยกันมาตั้งแต่รวมทีมตั้งไข่วางรากฐานจนถึงจุดสูงสุดในอาชีพ ถึงแม้ความฝันสูงสุดอย่างการเข้าไปเล่นในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะยังทำได้เพียงแค่เฉียดไปเฉียดมา และได้เจ็บปวดเสียน้ำตาพร้อมกันไปแล้วในวันที่พ่ายแพ้ให้กับ ทีมชาติเกาหลีใต้ ในนัดชิงตั๋ว โตเกียวเกมส์ 2020 ที่ผ่านมา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสที่จะได้เห็น นักตบลูกยางสาวไทย ไปโลดแล่นใน โอลิมปิกเกมส์ ในอนาคต ถึงแม้รุ่นพี่ 7 เซียน จะเลิกเล่นไปแล้ว แต่เหล่าบรรดานักตบคลื่นลูกใหม่ที่ขึ้นมา อย่าง ชมพู่ พรพรรณ เกิดปราชญ์, บุ๋มบิ๋ม ชัชชุอร โมกศรี, แนน ทัดดาว นึกแจ้ง, เพียว อัจฉราพร คงยศ ที่มีโอกาสบินออกไปเก็บประสบการณ์ในลีกต่างแดน หรืออีกหลายคนที่เล่นอยู่ตามสโมสรในประเทศ ก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่สานฝันให้กับรุ่นพี่ และกองเชียร์ชาวไทยอย่างเต็มที่แน่นอน ทุกๆ ความสำเร็จที่ 7 เซียน สร้างไว้ให้กับประเทศไทยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่าใช้เวลารวมทีมฝึกซ้อม ปรับตัวเรียนรู้กลยุทธ์วางรากฐานกันอยู่นานพอสมควร ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเหล่า 7 เซียน ขึ้นมาได้ก็ต้องยกเครดิตความดีความชอบให้กับ โค้ชอ๊อต ที่เปรียบเสมือนอาจารย์ใหญ่ผู้เบิกทางสร้าง ดรีมทีม ขึ้นมาในวันที่เข้ามารับตำแหน่งดูแลชุดเยาวชนครั้งแรก ย้อนกลับไปในปี 1997 สามาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กำลังมีแผนที่จะเฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ เข้ามารับไม้ต่อแทนที่รุ่นพี่วอลเลย์บอลทีมชาติชุดใหญ่ในเวลานั้น เพราะหลายคนในทีมอายุเยอะเตรียมปลดระวางกันหลายคนแล้ว ทั้ง มาลินี คงทัน, บุษบรรณ พระแสงแก้ว หรือ แอนณา ไภยจินดา ทำให้สมาคมฯ ต้องรีบแก้ไขปัญหาด้วยการเตรียมพร้อมเฟ้นหาดาวรุ่งขึ้นมา เพื่อเป็นช้อยตัวเลือกใช้งานในศึกซีเกมส์ ปี 2001 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และรายการอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ติดต่อไปหาโค้ชหลายคนให้เข้ามารับงานนี้ ก่อนที่สุดท้ายจะได้ตัว โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยที่ รีไทร์ ไปแล้ว เข้ามารับหน้าที่ในการดูแลตามหาเหล่านักตบลูกยางดาวรุ่งในครั้งนี้ โค้ชอ๊อต เริ่มงานทันทีโดยมีแนวทางการสร้างทีมที่เรียกว่า ดรีมทีม โดยเขา และทีมงานจะออกตระเวนหาเหล่านักตบดาวรุ่ง มากพรสวรรค์ทั่วทุกสารทิศในประเทศไทย ให้มารวมตัวฝึกซ้อม กินอยู่ด้วยกัน ที่ต้องทำแบบนี้ก็เป็นเพราะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และปรับสร้างความเข้าใจกันในทีม หากใครที่พอดูมีแวว มีพรสวรรค์ ก็จะถูกผลักดันขึ้นไปสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ทันที ตำนานผู้เล่น 7 เซียน ของโค้ชอ๊อต เริ่มต้นขึ้นจาก 3 คนแรก ที่ประกอบด้วย นา วรรณา บัวแก้ว จากโรงเรียนสวนกุหลาบ สมุทรปราการ, กิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา และ หน่อง ปลื้มจิตร ถินขาว จากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ทั้ง 3 คนคือนักตบดาวรุ่งที่ทำผลงานได้ดีในเวลานั้น ซึ่งไม่นานทั้ง 3 ก็ถูกคัดเลือกเข้ามาอยู่ในกลุ่มเด็กฝีมือดีที่ได้ไปเก็บตัวในจังหวัดยะลา เพื่อเตรียมพร้อมลงแข่งในนามทีมชาติชุดเยาวชน ชุดแรกของ โค้ชอ๊อต ทีมชาติชุดเยาวชนของ โค้ชอ๊อต ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจถูกใจสมาคมฯ พวกเขาประสบความสำเร็จทั้งในการแข่งขันระดับเอเชีย และในอาเซียน กวาดแชมป์มาครองได้มากมาย และแน่นอน 3 ดาวรุ่งอย่าง วิลาวัณย์ วรรณา และปลื้มจิตร ก็ถูกผลักดันขึ้นไปสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในเวลาต่อมาทันที 7 เซียน คนที่ 4 ของ โค้ชอ๊อต คือ แจ๊ค อำพร หญ้าผา ดาวตบตัวเก่งจาก โรงเรียนสตรีนนทบุรี ที่กำลังโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงในการแข่งขันวอลเล่ย์บอลระดับมัธยม ไม่นานฝีมือของ อำพร ก็ไปเข้าตาของ โค้ชอ๊อต ที่ในเวลานั้นได้ก้าวขยับไปรับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติชุดใหญ่แล้ว เรียกเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ พร้อมถูกขัดเกลาและให้คำปรึษาเป็นอย่างดีจากรุ่นพี่ในทีม ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน 7 เซียน คนที่ 5 ก็ถูกค้นพบขึ้น ซาร่า นุศรา ต้อมคำ มือเซ็ตดาวรุ่งฝีมือร้ายกาจจาก โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ที่มีดีกรีถึงทีมชาติชุดเยาวชนติดตัวมา ว่ากันว่า รุ่นพี่ในทีมชาติหลายคนที่ได้เห็นฝีไม้ลายมือของ นุศรา ต่างยกนิ้วให้พร้อมบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กคนนี้มีของ รับรองได้ว่าฝีมือแบบนี้เล่นทีมชาติสบาย ประจวบเหมาะในเวลานั้น เหล่าผู้เล่นตัวเก๋าในทีมชาติชุดใหญ่ก็เริ่มทยอยพากันเลิกเล่นกันไปบ้างแล้ว ทำให้ โค้ชอ๊อต ไม่รอช้าที่จะรีบผลักดัน นุศรา เข้ามาเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ของทีมทันที ต่อมา ในซีเกมส์ 2007 ที่ จ.นครราชสีมา ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ก็ได้ถือกำเนิด 7 เซียน คนที่ 6 อร อรอุมา สิทธิรักษ์ รุ่นน้องที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ของ นุศรา แต่ต้องบอกว่า กราฟชีวิตลูกยางของ อรอุมา นั้นดูเสียเปรียบกว่าใครเพื่อน อรอุมา ผ่านการคัดตัวเข้าสู่ทีมชาติหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถสานฝันตัวเองให้สำเร็จได้เสียที จนเกือบถอดใจเลิกเล่น แต่พอหันหลังกลับไปมองครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเหมือนคนอื่น ทำให้ อรอุมา ต้องฮึดสู้ต่อ อรอุมา ใช้เวลาฝึกฝนตัวเองให้หนักขึ้นกว่าเดิม ผลรับที่ได้ของความตั้งใจในครั้งนี้คือการมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ลุยศึกซีเกมส์ 2007 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยแผ่นดินบ้านเกิดของตัวเอง และนั่นคือ เวทีแจ้งเกิดของ อรอุมา อย่างแท้จริงในการแข่งขันครั้งนั้น ปิดท้ายผู้เล่น 7 เซียนคนสุดท้ายที่ทำให้ วอลเล่ย์บอลทีมชาติไทย ในยุคของ โค้ชอ๊อต ดูแข็งแกร่ง และครบเครื่องที่สุดในเอเชีย ก็คือ ปู มลิกา กันทอง ผู้เล่นสารพัดประโยชน์ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่ โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี อันที่จริง มลิกา เข้ามาติดทีมชาติก่อน อรอุมา ไม่กี่เดือนแต่ด้วยความที่เขามีอายุน้อยกว่า อรอุมา จึงทำให้พี่ๆ ในทีมเรียก มลิกา ว่า น้องเล็ก หลังจากได้ฟอร์มทีมร่วมฝึกซ้อม ลงแข่งตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ และเริ่มคลุกคลีกันเป็นเวลานาน จนเริ่มสนิทสนมเคมีเข้ากันแล้ว 7 เซียน ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็น ทีมวอลเลย์บอลหญิง ชุดที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมา พวกเธอมีอาวุธครบมือในสนามไม่ว่าจะเป็น หัวเสาตัวเก่งอย่าง อรอุมา และวิลาวัณย์ หรือบอลสั้นประสบการณ์สูงของ ปลื้มจิตร และมือเซ็ตระดับโลกจากฝีมือของ นุศรา อีกทั้งยังมีเจ้าของฉายาราชินีไหลหลังตัวเก่งอย่าง อำพร รวมถึงลิเบโร่จอมเทคนิคเบอร์ต้นๆ ของเอเชียอย่าง วรรณา และตำแหน่ง บีหลัง คนสำคัญของทีมอย่าง มลิกา ทั้ง 7 คนร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาทุกสนามในนามทีมชาติไทย จากที่อดีตวอลเลย์บอลทีมชาติไทยถูกมองว่าเป็น มวยรอง ทีมรองบ่อนทุกรายการ หลังจากปี 2009 เป็นต้นมา 7 เซียน ก็ได้ล้างความคิดพวกนั้นออกไป พวกเธอไล่หวด ทีมชาติญี่ปุ่น ที่ไม่เคยเอาชนะได้เลยมาเกือบ 8 ปีลงได้สำเร็จในรอบรองชนะเลิศ ต่อด้วยการเข้าไปคว่ำ ทีมชาติจีน ที่ไม่เคยชนะได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ในนัดชิงชนะเลิศรายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศเวียดนาม ปี 2009 หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มทยอยออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในลีกต่างแดน จนกลายเป็นขวัญใจของแฟนวอลเลย์บอลทั้งในประเทศ และทั่วโลก ทุกครั้งที่เหล่า 7 เซียน กลับมารับใช้ทีมชาติไทย ก็เรียกได้ว่า สนามแตก บัตรเต็มตลอด บรรดาแฟนรุ่นเล็กรุ่นใหญ่พร้อมสนับสนุนส่งเสียงเชียร์พวกเขาอย่างสุดแรงเกิด ก่อนที่ในปัจจุบันพวกเธอทั้ง 7 คนจะเริ่มโรยราตามกาลเวลาและประกาศเลิกเล่นไปครบทุกคน ทิ้งไว้เพียงตำนานที่ชื่อว่า 7 เซียน อยู่ในหัวใจของแฟนวอลเล่ย์บอลชาวไทยให้จดจำถึงความสำเร็จที่พวกเขาได้สร้างมา และในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 ที่อินดอร์ สเตเดียมหัวหมาก พวกเธอจะกลับมาลงสนามให้แฟนวอลเลย์บอลชาวไทยได้หายคิดถึง เพื่อเป็นการส่งท้ายอาชีพอย่างสวยงามอีกครั้ง เตรียมตัวกันให้พร้อมกับแมตช์สุดท้ายของ 7 เซียน มาร่วมส่งเสียงเชียร์เป็นครั้งสุดท้ายให้กับพวกเธอด้วยกัน.. ข่าวที่เกี่ยวข้อง แมตช์เกียรติยศ!! กกท. จับมือ สมาคมวอลเลย์ จัดแมตช์พิเศษอำลา 7 เซียน 7 พ.ย.นี้ FIVB เผยบทความยกย่องนักตบ 6 เซียน : มรดกที่สร้างจาก 'ฝันอันยิ่งใหญ่' และ 'แรงบันดาลใจ' ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ คลิกที่นี่ อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณคลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

คับอกคับใจ! ลาล่า อาร์สยาม บักแตงโมของจริง เบียดเสียดจนอึดอัดแทน
อ่าน

คับอกคับใจ! ลาล่า อาร์สยาม บักแตงโมของจริง เบียดเสียดจนอึดอัดแทน

นักร้องลูกทุ่ง สาวมากความสามารถ ลาล่า อาร์สยาม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้อวดความเซ็กซี่ผ่านไอจีอยู่บ่อยๆ ล่าสุดเจ้าตัวก็ยังไม่หยุด ขออวดความอลังการอีกแล้ว งานนี้บอกได้เลยว่าถึงชุดจะไม่โป๊ แต่แหวกอกเว้าลึกจนเห็นแล้วอึดอัดแทนเลยจ้าแม่จ๋า ลาล่า อาร์สยาม นักร้องลูกทุ่ง สาวมากความสามารถ อุ๊ ขวัญนภา เรืองศรี หรือ ลาล่า อาร์สยาม สนิทดู้โอ้เพื่อนซี้กับ ดวง ดวงฤดี บุญบำรุง หรือ ลูลู่ อาร์สยาม เจ้าของเพลงฮิต รักครั้งแรด , เจ๊าะแจ๊ะ , โศกสาดสาด ฯลฯ ซึ่งภายหลังจากที่ทั้งคู่ได้ออกมาจากวงโปงลางสะออน เธอก็มาออกเพลงภายใต้สังกัด อาร์สยาม ถึงจะไม่สบความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าไว้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอท้อเลย แต่มันเป็นแรงใจพร้อมเป็นแรงผลักดันให้เธอได้ไปร่วมงานเทศกาลดนตรี Thaifestivaltokyo 2019 ที่ญี่ปุ่น จนหลายคนจำเธอได้จากการแต่งตัวไปเลยจ้า ลาล่า อาร์สยาม ลาล่า อาร์สยาม ลาล่า อาร์สยาม ขอขอบคุณรูปภาพจากอินสตาแกรม @lala_bigflower อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากล พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจติดตาม Music.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID Appหรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID

บันทึกการเดินทางไปวัดห้วยปลากั้ง
อ่าน

บันทึกการเดินทางไปวัดห้วยปลากั้ง

วันนี้จะพาทุกคนไปเข้าวัดทำบุญกันบ้างจ้า หลังจากที่พาไปเที่ยวดอยกันมาแล้ว วันนี้ก็เลยมาที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย ซึ่งชาวเชียงรายเป็นที่รู้จักกันดี และใครที่ไปเที่ยวที่เชียงรายก็ต้องไปหที่นี่แน่นอน ก็เหมือนกันถ้าไม่ได้ที่วัดห้วยปลากั้งก็เหมือนยังไม่ถึงเชียงราย เพราะวัดนี้เป็นที่โด่งดังมากๆ ในจังหวัดเชียงรายไม่แพ้วัดร่องขุ่นแน่นอนจ้าา เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่สวยงามตั้งอยู่บนเขา และมีเนินเขารายรอบวัดสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้จ้าา แต่สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ คือ " พบโชคธรรมเจดีย์" ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงถึง 9 ชั้น สูงมากจริงๆ ขึ้นไปบนสุดเห็นวิวได้ชัดเจนมาก และสวยมากกกก ข้างจะเต็มไปด้วยพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย สามารถไปไหว้พระขอพรกันได้จ้าา หรือใครจะบริจาคเงินช่วยทำบุญ บริจาคข้าวสารได้จ้า ส่วนข้างนอกนั้นจะเจอกับเจ้าแม่กวนอิมที่มีขนาดมากกกก ถึงมากที่สุด และเด่นมากๆ ตอนนี้สามารถเข้าไปชมสถานที่ด้านในได้แล้วนั้น แต่จะมีการเก็บค่าเข้าด้วยนะคะ 20 บาท ลองขึ้นไปชั้นบนสุด น่ากลัวมากๆ แต่ข้างในสวย เป็นสีขาวบริสุทธิ์ สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้จ้าา วัดห้วยปลากั้งเป็นหนึ่งสถานที่ที่บรรยากาศดี ชมวิวได้สวยงาม อาการบริสุทธิ์ มีลานจอดรถที่กว้างขวาง และเป็นสถานที่ที่สามารถถ่ายรูปได้รอบๆ เพราะมันใหญ่มากจริงๆ สามารถนั่งรถลางชมเที่ยวรอบๆได้นะคะ ที่นั้นมีบริการฟรี และยังมีร้านอาหารด้วยจ้าา อาหารก็อร่อยน้าทุกคนน อยากให้ลองไปเที่ยวกันดู รับรองว่าจะติดใคร 

แนะนำอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ “เซียนซุปปลาสกัดผสมถั่งเช่า”
อ่าน

แนะนำอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ “เซียนซุปปลาสกัดผสมถั่งเช่า”

สวัสดีค่ะทุกคนการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องใส่ใจในการดูแลท่านมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน สุขภาพโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงการเลือกซื้อาหารเสริมดี ๆ วันนี้เรามีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อยากจะมาแนะนำบอกต่อทุกคนเผื่อเป็นไอเดียสำหรับการมองหาของขวัญหรือซื้อฝากญาติผู้ใหญ่ มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะทุกคนก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนค่ะว่าคุณย่าของเราอายุ 84 แล้วแต่ยังเเข็งแรงอยู่เพราะมีตัวช่วยดี ๆ เป็นอาหารเสริมให้ทานอย่างเป็นประจำ โรคประจำตัวของย่าคือ เบาหวานและความดันต้องไปพบแพทย์ทุกเดือน บางครั้งมีอาการความดันและน้ำตาลอยู่ในระดับที่สูงแทบทุกเดือน จนต้องมองหาอาหารเสริมที่ควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่ปกติและนี่เลยค่ะเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ซุปปลาสกัดผสมถั่งเช่า ในกล่องนี้เป็นเซ็ททั้งหมด 15 ขวดด้วยกัน แกะกล่องออกมาจะเจอกับขวดผลิตภัณฑ์แบบนี้เลยค่ะ ในกล่องนี้จะมี รสถั่งเช่าธรรมชาติ รสทับทิม รสกาแฟอิตาลี ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ไม่จำเป็นที่จะต้อบทานสำหรับผู้สูงอายุ แต่สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัยได้เช่นกันค่ะข้อดีของซุปปลาสกัดผสมถั่งเช่าก็คือ เป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้นลดความเหนื่อยล้าโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เจ็บป่วยหรือกำลังพักฟื้น เราชอบให้ย่าทานเป็นประจำทุกวันแนะนำให้ทานตอนท้องว่างหรือก่อนนอนจะทำให้เกิดการดูดซึมและบำรุงร่างกายได้ดีที่สุดค่ะ รสชาติไม่คาวไม่มีกลิ่นปลาเลยค่ะ เพราะเป็นนวัตกรรมการผลิตแบบใหม่ล่าสุดที่ผ่านกระบวนการสกัดใช้น้ำแร่ที่ทันสมัย ที่สำคัญในขวดนี้ไม่มีไขมันและน้ำตาลอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลรักษาสุขภาพได้เช่นกันเลยค่ะ และเป็นสิ่งที่เราประทับใจและเลือกให้สำหรับคุณย่าเสมอ การดูแลผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่มีความสุขมากสำหรับเราค่ะ โดยเฉพาะการเลือกผลิตภัณฑ์ดี ๆ อย่าง เซียน ซุปปลาสกัดผสมถั่งเช่า     นอกจากนี้ทางเพจ Facebook ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกสำหรับลูกค้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เพียงส่งแผ่นพับใต้ฝากล่องมีสิทธิพิเศษกับสนุกกิจกรรม " แจกเงินสดมูลค่ารวม 7,000 บาท คลิกร่วมสนุกที่นี่ สามารถสั่งซื้อได้ที่ Facebook , Instagram : zeanfishsoupmainpageLine : @zeanfishsouponlineCall Center : 063-360-9000 ภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน      

ไปเที่ยววัดห้วยปลากั้งกันเถอะ
อ่าน

ไปเที่ยววัดห้วยปลากั้งกันเถอะ

สวัสดีครับ วันนี้ผมก็จะมานำเสนอครับเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยนะครับ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่นี้นะครับ สถานที่ที่ผมจะแนะนำ หรือว่า ที่ผมจะพาไปรับชมที่จะเขียนบทความให้คุณอ่านในวันนี้ นั้นก็คือสถานที่ที่เป็นวัดนะครับ สถานที่นี้ครับเป็นวัดในจังหวัดเชียงรายของประเทศไทยครับ ชื่อว่า วัดห้วยปลากั้งนะครับ เป็นวัดที่มีธรรมเจดีย์ 9 ชั้นนะครับ วันนี้ครับเราจะมาศึกษาประวัติวัดนี้กันนะครับ ถ่ายภาพโดยผู้เขียน Mr.jedsadapord songkhong วัดห้วยปลากั้งนะครับ เริ่มก่อตั้งแต่ปี 2544 ครับจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ครับ ก็ยังมีวัดนี้อยู่นะครับ เป็นวัดที่มีการปฏิบัติธรรมะนะครับ และเริ่มก่อสร้างศาสนวัตถุวิธีการสร้าง เจดีย์หอชั้นศาลาการเปรียญ ในพ.ศ 2552 ครับ ทางพุทธศาสนาแห่งชาติครับได้มีการประกาศแต่งตั้ง ให้วัดนี้ชื่อว่าวัดห้วยปลากั้งนะครับ มีเจ้าอาวาสรูปแรกนะครับชื่อว่า พระอธิการพบโชคติสสวโส เป็นเจ้าอาวาสวัดรุ่นแรกนะครับ ปัจจุบันครับวัดห้วยปลากั้งครับ เป็นวัดที่อยู่ในจังหวัดของเชียงรายนะครับ วัดนี้นะครับเป็นวัดที่ไม่ว่าจะเป็นคนต่างจังหวัด หรือชาวต่างชาติครับเวลามาจังหวัดเชียงรายครับ ต้องมากราบไหว้ที่วัดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากวัดนั้นมีพระมหาโชว์ทำเจดีย์ 9 ชั้นนะครับ ที่ทำให้เป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นะครับ ภายในนั้นครับมีพระโพธิสัตว์แม่กวนอิมครับ รูปปั่นจำลองนะครับซึ่งมีความงดงามและความสวยงามมากเลยครับ ถ่ายโดยผู้เขียน  Mr.jedsadapord songkhong แกะสลักสวยงามมากครับ สุดยอดครับตอนที่ผมไปดูครับวัดนั้น วันที่ผมเข้าไปลานขึ้นบันไดครับเดินขึ้นบันหลายชั้น หลายขั้นมากกว่าจะเดินขึ้นไปถึงครับ มีอีกตั้ง 2 ชั้นครับ ทางข้างล่างบันไดครับก็มีหลายขั้นบันไดมากเลยครับ แล้วก็พอไปถึงครับเขาก็จะให้เราเดินขึ้นไปอีกนะครับ สูงขึ้นไปอีกอย่างไกลเลยครับ ไกลกว่าบันไดแรกอีกนะครับกว่าจะเดินถึงนะครับ เล่นเดินขึ้นแบบเหนื่อยมากเลยครับพอไปถึงนะครับ เขาก็จะมีถุงครับให้เรานั้นใส่ถุงเท้าหรือว่ารองเท้าเรานะครับ แล้วก็ถึงที่นั้นนะครับก็จะมีบริการนะครับ แต่ว่าหากเราต้องการจะขึ้นไปบนพระมหาโชว์ธรรมเจดีย์ 9 ชั้นเนี่ย เราก็ต้องเสียตังค์นะครับ ผมจำได้ตอนนั้นประมาณ 20 บาทต่อคนต่อครั้งนะ ที่จะขึ้นไปครับพอไปถึงนะครับ ก็จะมีทหารนะครับ ตรงหน้าลิฟท์นะครับ แล้วก็จะพาเราขึ้นไปบนลิฟท์ ในชั้นนั้นนะครับคือถ่ายไม่ได้ครับตรงที่ทหารอยูาครับ เขาไม่ให้ถ่ายรูปนะครับ ถ่ายโดยผู้เขียน  Mr.jedsadapord songkhong ก็ขึ้นไปนะครับ จุดที่สูงมากครับคุณจะเห็นวิวทิวทัศน์ต่างต่างนะครับ ของภายในวัดนะครับมีความสวยงามมีความกว้างครับ เห็นผู้คนจากตรงนั้นครับเพราะขึ้นไปบนนั้น ตัวคนทั้งหมดเล็กเลยครับผมเลยเอาหน้านะครับออกจากหน้าต่างนะครับ เสี่ยวมากเลยครับรู้สึกว่าอยากเข้าห้องน้ำทันที เพราะว่ามันสูงเกินไปครับจากที่มองไป เห็นผู้คนตัวเล็กเหมือนมดเลยครับ เดินไปเดินมาเยอะแยะไปหมดเลยเต็มถนนเต็มทางไปหมดเลยครับ และภายในวัดนะครับไม่ใช่มีแค่ความสูงที่สวยงาม แต่พอลงจากชั้นนั้นนะครับเราสามารถขึ้นไปอีกได้หลายชั้นเลยครับ เพราะขึ้นไปนะครับมันจะมีบันไดอีกบันไดให้ขึ้นไปอีกมากมายครับ เดินขึ้นบันไดแบบน่ากลัวมากครับ เพราะว่ากลัวมันจะหักลงมาแต่มันก็แข็งแรง แล้วก็จะมีรูปปั้นนะครับของพวกพระโพธิสัตว์ หรือว่ารูปปั้นของพระแม่กวนอิมจำลองอยู่นะครับ สรุปแล้วนะครับ ที่ผมไปวัดห้วยปลากั้นที่ผมไปพบก็มีเจดีย์ 9 ชั้นนะครับ แล้วก็ไปพบกับความสวยงามความสูงความสวยงาม ของรูปปั้นแกะสลักต่างต่างนะครับ ใช้เวลาสร้าง 999 วันครับ และองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมมีความสูงอยู่ที่ 69 เมตรนะครับ รู้สึกภูมิใจแล้วก็รู้สึกชอบมากครับในวัดห้วยปลากั้ง

เปิดภาพความเสียหาย "พายุโมคา" ถล่มเมียนมา-บังคลาเทศ
อ่าน

เปิดภาพความเสียหาย "พายุโมคา" ถล่มเมียนมา-บังคลาเทศ

พายุไซโคลนโมคา พายุหมุนเขตร้อนขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเมียนมา และบังกลาเทศกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (IMD) รายงานว่าพวกเขาพบพายุนี้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม หลังจากที่กลายเป็นพายุดีเปรสชัน โดยเคลื่อนตัวไปทางเหนือ-ตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้า ๆ เหนืออ่าวเบงกอล จนกระทั่งทวีความรุนแรงเป็นพายุไซโคลนความรุนแรงสูง ความเร็วลมสูงสุดที่ 280 กม./ชม. เทียบเท่ากับพายุไซโคลนฟานีที่เป็นพายุที่แรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือส่วนเมียนมาเผชิญพายุที่มีความเร็วตอนขึ้นฝั่งสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 5 ส่งผลให้ บ้านเรือน และต้นไม้เสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงบ้านเรือนของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาทั้งในเมียนมา และ บังกลาเทศ คาดว่ามีผู้เสียชีวิตราว 400 คน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนทางบังกลาเทศระบุว่า พายุลูกนี้เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่บังกลาเทศได้พบในรอบเกือบ 20 ปี ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งน้ำท่วม และแผ่นดินถล่ม ทางการบังคลาเทศสรุปยอดผู้เสียชีวิตราว 200 คน และสูญหายอีกนับร้อยภาพ: Reuters📲 อัพเดทข่าวและบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://page.line.me/tnnworldติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsiteYoutube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTubeTikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

GLOBALink : จีนสร้าง 'ทางปลาผ่าน' เลียนแบบธรรมชาติ ข้าม 'โตรกต้าเถิง'
อ่าน

GLOBALink : จีนสร้าง 'ทางปลาผ่าน' เลียนแบบธรรมชาติ ข้าม 'โตรกต้าเถิง'

หนานหนิง, 13 ส.ค. (ซินหัว) -- โครงการอนุรักษ์น้ำโตรกต้าเถิง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างในเมืองกุ้ยผิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ถูกออกแบบให้ตอบสนองวัตถุประสงค์หลากหลาย อาทิ การควบคุมอุทกภัย การเดินเรือ การผลิตไฟฟ้า และการชลประทาน โครงการไฟฟ้าพลังน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นบนแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาเพราะมีสภาพการหมุนเวียนน้ำอันสลับซับซ้อน จึงมีการสร้างทางปลาผ่านคู่ขนานบนเขื่อนหลักและเขื่อนเสริม ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ เพื่อป้องกันการรบกวนปลาขณะอพยพวางไข่ขณะเดียวกันมีการสร้างศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ปลาหายากและสถานีขยายพันธุ์ปลาที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดตั้งทีมเจ้าหน้าที่เทคนิคมืออาชีพ เพื่อช่วยสนับสนุนการเฝ้าติดตาม อนุรักษ์ และวิจัยพันธุ์ปลาหายากในภูมิภาคอันเป็นที่ตั้งของโครงการนี้ (แฟ้มภาพซินหัว : โครงการอนุรักษ์น้ำโตรกต้าเถิง เมืองกุ้ยผิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 9 ส.ค. 2022)[/caption][caption id="attachment_300992" align="alignnone" width="2560"] (แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่เทคนิคทำการเฝ้าติดตามคุณภาพน้ำที่สถานีขยายพันธุ์ปลา เมืองกุ้ยผิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 10 ส.ค. 2022)[/caption][caption id="attachment_300996" align="alignnone" width="2560"] (แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่เทคนิคตรวจสอบลูกปลาที่โครงการอนุรักษ์น้ำโตรกต้าเถิง เมืองกุ้ยผิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 10 ส.ค. 2022)[/caption][caption id="attachment_300998" align="alignnone" width="2560"] (แฟ้มภาพซินหัว : โครงการอนุรักษ์น้ำโตรกต้าเถิง เมืองกุ้ยผิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 9 ส.ค. 2022)[/caption]

กำแพงเมืองไทย วัดห้วยปลากั้ง วัดดังในเมืองเชียงราย
อ่าน

กำแพงเมืองไทย วัดห้วยปลากั้ง วัดดังในเมืองเชียงราย

กำแพงเมืองไทย วัดห้วยปลากั้ง วัดดังในเมืองเชียงราย  สวัสดีค่ะ วันนี้สองป้าขาแวะ พาไปแวะกำแพงเมืองไทยอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองไทย อยู่ที่จังหวัดเชียงราย นั่นก็คือวัดห้วยปลากั้งนั่นเองค่ะ เป็นอีกวัดหนึ่งที่สวยและมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ไม่ขาดสายโดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยทั้งคนในพื้นที่และต่างจังหวัด ตั้งอยู่ตำบลแม่กก อำเภอเมือง วัดตั้งอยู่บนเนินเขา เส้นทางผ่านถนนทางเข้าหลักเส้นใหม่เปิดให้บริการแล้ว รถไม่ติดเลยค่ะ มีที่จอดรถสะดวกสบาย มีเจ้าหน้าที่คอยบริการอยู่ที่ลานจอดรถตลอด ไฮไลท์คือ องค์เจ้าแม่กวนอิ่มองค์ใหญ่เด่นเป็นสง่าบนเนินเขาอีกลูก มีบันไดขึ้นไปที่ฐานของเจ้าแม่กวนอิม หรือมีชื่อเรียกว่า กำแพงเมืองไทยค่ะ วัดห้วยปลากั้ง รูปแบบวัดผสมผสานระหว่างไทยจีน บรรยากาศวัดกว้างใหญ่ มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สามารถมองเห็นเด่นชัดจากระยะไกลๆ  ภายในองค์เจ้าเเม่มีงานปฏิมากรรมสีขาวที่สวยงาม ขนาดใหญ่ สีขาว ขนาดความสูง 69 เมตร สูงเทียบเท่าตึก 23 ชั้นแน่ะ ซึ่งเราสามารถขึ้นลิฟท์ไปชมภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมชั้นบนสุดได้ขึ้นลิฟท์ ที่องค์เจ้าแม่กวนอิม ขึ้นไปชั้น 22และ 23  แต่เราต้องเดินขึ้นบันไดไปให้ถึงองค์เจ้าแม่กวนอิมก่อน หรือจะใช้บริการรถกอล์ฟพาขึ้นไปสำหรับท่านที่ไม่สะดวกเดินขึ้นบันได หรือสำหรับบริการให้กับผู้พิการหรือคนชราค่ะ รอบนี้เราไม่ได้ขึ้นลิฟท์ไปชมภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมค่ะ เอาไว้พาคุณแม่คุณพ่อไปอีกครั้ง เก็บไว้เป็นไฮไลท์ในทริปหน้าค่ะ มาต่อกันในส่วนบริเวณด้านล่างองค์เจ้าแม่กวนอิม ทางขึ้นด้านหน้าเป็นบันไดมังกรทั้ง 2 ฝั่ง สีขาวตระการตาทอดยาวขึ้นไปถึงลานบริเวณองค์เจ้าแม่กวนอิม หลังจากเราเดินขึ้นบันไดกันมาแล้วก็จะได้พบกับวิวทิวทัศน์โดยรอบสวยงามมาก และบรรยากาศที่สวยมากๆ มีห้องน้ำบริการ ขอบอกว่าสะอาดมากๆ ค่ะ และยังมีอาหารเจบริการฟรีที่ภัตตาคารพบโชคด้วยนะคะ  สุดท้ายนี้ สองป้าขาแวะมีความประทับใจที่ได้มายังสถานที่แห่งนี้มากๆค่ะ พวกเราตั้งใจมาที่กันตั้งแต่แรก ซึ่งเมื่อได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด แล้วรู้สึกสบายใจ องค์เจ้าแม่กวนอิม สวยงามตระการตา เป็นองค์ที่ใหญ่มากๆ ใหญ่ที่สุดในโลกเลยค่ะ ครั้งหน้าเราจะแวะมาที่นี่กันอีกในช่วงยามเย็น เพราะเราอยากเห็นภาพยามเย็นที่วัดแห่งนี้ คงประดับไฟสวย และบรรยากาศคงจะดียิ่งกว่าตอนกลางวันเสียอีก แล้วพบกันใหม่ค่ะ                

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย
อ่าน

เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย

       สวัสดีเพื่อนๆคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านเน้อเจ้า วันนี้เราไปแอ่วภาคเหนือกันเต๊อะเจ้า บทความนี้เอาใจสายมู สายเที่ยวอีกแล้วค่า วันนี้เราพามาเที่ยววัดดัง วัดสวย แห่งเมืองเชียงรายกันนะเจ้า ตามมาเลยไม่ต้องเกริ่นเยอะ ไปค่าาา"วัดห้วยปลากั้ง" เป็นวัดสวยอีกวัดหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว สักการะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้กันอย่างไม่ขาดสาย วัดตั้งอยู่บนเนินเขา ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2544 เดิมทีเป็นสำนักสงฆ์ และเมื่อในปี พ.ศ. 2552 ทางสำนักพุทธศาสนาได้ประกาศให้เป็นวัดค่ะ บทความนี้ส้มน้อยจะเน้นที่รูปภาพสวยๆของสถานที่พอเราเข้าไปในวัดจอดรถเรียบร้อย ด้านหน้าของเราทางขวามือเราจะพบกับ "พระมหาพบโชคธรรมเจดีย์ 9 ชั้น ใช้เวลาการสร้างถึง 999 วัน เลขสวยมากๆเลยค่ะ ภายในชั้นที่หนึ่ง มีพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมจำลองปางประทานพร แกะสลักจากไม้หอม" ซึ่งนำเข้ามาจากจีน อินเดีย พม่า  และแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปประจำชั้นประดิษฐานอยู่ และมีเจ้าแม่กวนอิมอีกหลายปางให้เราบูชา ภายในสวยมากเลย ซึ่งทางขึ้นจะแคบและชันระวังกันด้วยนะคะ ในส่วนตรงกลางจะเป็นพระอุโบสถสีขาวสะอาด มีปฏิมากรรมปูนปั้นพญานาค 2 ตนทอดยาวตามแนวบันได ด้านอุโบสถในประดิษฐานพระพุทธพระชินราชองค์ใหญ่สีขาว ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา เป็นมงคลให้กับชีวิต  ทางด้านซ้ายถัดจากพระอุโบสถสีขาว เราจะพบกับรูปปั้น "พระโพธิสัตว์กวนอิม" สีขาวองค์ใหญ่ มีความสูงถึง 79 เมตร ซึ่งถ้าเปรียบเทียบเท่ากับตึกสูง 25 ชั้น เราสามารถขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนเพื่อดูวิวทิวทัศน์เมืองเชียงรายได้ในมุมกว้าง ซึ่งวิวสวยมาก มีช่องประตูมังกร และแต่ละชั้นจะมีปฏิมากรรมปูนปั้นพระโพธิสัตว์ปางต่างๆสีขาวสวยงามอลังการ เหมือนสรวงสวรรค์ อากาศด้านในไม่ร้อนนะคะ ที่นี่เขามีพัดลมระบายอากาศ บางชั้นเราอาจจะต้องขึ้นลงบันไดบ้างแต่เดินได้สะดวกอยู่ ไม่อันตราย สำหรับเพื่อนๆ หรือผู้สูงอายุ ที่กลัวจะเดินขึ้นเมื่อยหรือมีปัญหาทางด้านสุขภาพไม่ต้องกังวลไปนะคะ ทางวัดมีบริการรถกอล์ฟรับส่งฟรีจากหน้าพระอุโบสถเพื่อขึ้นไปชมเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ รถขึ้นไปส่งถึงฐานเจ้าแม่กวนอิมเลยค่ะ ใครอยากจะขึ้นลิฟท์เข้าไปชมวิวด้านบน ต้องเสียค่าบำรุงลิฟท์ คนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท (รถรับส่งฟรีแต่มีตู้ให้เราบริจาคตามกำลังศรัทธา) ข้างบนสวยงามราวกับสรวงสวรรค์เลย ที่นี่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้นะคะ แต่ควรระมัดระวังอย่าไปชนรูปปั้น หรือไปจับนะคะอาจจะเสียหายแตกหักได้ ช่วยกันดูแลรักษากันด้วย ความประทับใจ : สถานที่สร้างได้สวยงาม จัดสวนต้นไม้ได้อย่างลงตัว ที่จอดรถกว้าง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้สำหรับผู้พิการ และผู้สูงอายุ มีรถกอล์ฟไว้บริการรับส่งฟรีสำหรับขึ้นไปชมวิวด้านบนองค์เจ้าแม่กวนอิม ถ้าเหนื่อยๆ หิวๆ ทางวัดมีร้านเครื่องดื่ม อาหารของวัดจำหน่ายในราคาถูกย่อมเยาว์ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อุดหนุนทำบุญเข้าวัด และตู้บริจาคไม่เยอะมากเกินไป ดีค่ะไม่กดดันในการจะทำบุญ ที่นี่ยังมี "โรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้ง" ไว้สำหรับช่วยเหลือผู้ยากไร้อีกด้วย  เวลาทำการ : ทุกวัน 07.00 - 21.00 น. ที่ตั้ง  : ต. ริมกก อ. เมือง จ. เชียงราย พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mA9VEg5PnLuSPZRPA   บทความ : somnoi ภาพปก/ภาพประกอบ : somnoi   #วัดห้วยปลากั้ง  #วัดสวยเชียงราย #เจ้าแม่กวนอิม #เจ้าแม่กวนอิมวัดห้วยปลากั้ง  #เที่ยวเชียงราย #วัดห้วยปลากั้งเชียงราย  #เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !

ฝนมาปลาก็มา ไปทานปลาเฮร์ริ่งกัน
อ่าน

ฝนมาปลาก็มา ไปทานปลาเฮร์ริ่งกัน

สวัสดีค่า ช่วงนี้บ้านเราเมื่อเข้าเดือนพฤษาภาคม เป็นช่วงฤดูฝน ช่วงฤดูมรสุม มีพายุฟ้าคะนอง ฝนตกชุ่มฉ่ำกันไปท้่วประเทศกันเลยทีเดียว. สำหรับชาวเมืองเขตยุโรปตอนบน ก็รอคอยฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะมีฝนตกมาเรื่อยๆหนักบ้าง ตกลงมาพรำๆบ้าง ให้หิมะได้ละลาย ต้นไม้ใบไม้ได้ผลิยอดแตกใบ ไม่ใช่เฉพาะฝนนะคะที่มาเยือน เมื่อฝนมาเจ้าปลาเฮร์ริงก็มาเยือนเช่นกันค่ะ. ปลาเฮร์ริง หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า Herring จะพบมากส่วนใหญ่ในเขต ที่อยู่อาศัยทะเลใกล้ชายฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือรวมถึงชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ รวมทั้งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ.ในส่วนของเขตทะเลบอลติก (Baltic Sea) จะเริ่มออกวางไข่ ในช่วงใบไม้ผลิ โดยจะเดินทางมายังที่พวกเขาเคยวางไข่เป็นประจำทุกปี. ชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้ชายทะเล ใกล้ชายหาดที่ปลาชนิดเคยมาวางไข่ ก็จะเริ่มลงมือดักจับปลาเฮร์ริงกัน. ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษาคม ถึง เดือนมิถุนายนกันเลยค่ะ. คือปลาชนิดนี้เคยมาวางไข่ที่ไหนก็จะพากันมาที่เดิมเป็นประจำทุกปี. และจะมากันเป็นฝูง จึงสามารถจับปลาชนิดนี้ได้ง่ายและจำนวนเยอะในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกนี้. การมาวางไข่ของปลาเฮร์ริงมีอยู่ 2 ช่วงคือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ และอีกช่วงหนึงก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งก็คือช่วงปลายเดือนสิงหาคมของทุกปีค่ะ. เมนูปลาเฮร์ริงของชาวพื้นเมืองทางแถบ สแกนดิเนเวีย Scandinavia ที่เป็นที่นิยมของแถบทางนี้ก็คือ นำมาทำสเต็ก ทอด อบ หรือย่าง และหากได้มาเยอะมากก็จะนำมาทำปลาเฮร์ริงดองเครื่องเทศ และปลาเฮร์ริงรมควันค่ะ ซึ่งทั้งปลาเฮร์ริงดองเครื่องเทศ และปลาเฮร์ริงรมควันนั้น เป็นสินค้าอันดับต้นๆที่นักเดินทาง นักท่องเที่ยวนิยมซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากกันค่ะ. ส่วนไข่ปลาเฮร์ริงนั้นอร่อยมากเลยนะคะ ชาวพื้นเมืองจะทานสดกัน. ผสมเครื่องเทศตามแต่ละภูมิภาค เหมือนเช่นชาวญี่ปุ่นนำไข่ปลาเฮร์ริงสดมาเป็นส่วนผสมของอาหารญี่ปุ่นหลายชนิดเช่นกันค่ะ.และวันนี้จะพาทุกท่านไปทาน ปลาเฮร์ริงทอด และแกงเลียงปลาเฮร์ริงผักรวมและยอดใบเมเปิ้ลกันนะคะ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันที่ตอนนี้ยอดเมเปิ้ลก็กำลังแตกยอดอ่อน นำมาเป็นผักในแกงเลียง ต้องขอบอกว่าอร่อยมาก. รสชาตินั้นคล้ายยอด ดอกขจรเลยนะคะ และสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้อีกหลายเมนูเลยค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ กับเมนูปลาเฮร์ริงในวันนี้ น่าทานนะคะ. ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ได้วิตามิน แคลเซียมจากผักจากปลาและจากเครื่องเทศ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ มาช่วยให้เรามีพลังสู้กับไข้หวัด และโรคภัยต่างๆที่จะมาเยือนในช่วงฤดูฝนนี้. และขอให้ทุกๆท่านมีความสุข มีพลังกายและใจที่แข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีทุกคนถ้วนหน้ากันเลยนะคะ... สวัสดีค่ะ. ภาพถ่ายประกอบและเรื่องราว โดย ฝนเสน่หา.

มีน้ำมีปลามีอาหารอร่อย
อ่าน

มีน้ำมีปลามีอาหารอร่อย

สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนครับ ช่วงนี้กินเก่งจริงเรา วันนี้ผมก็จะมาชวนเพื่อน หาของอร่อยทาน เที่ยวนี่จะเป็นคิวของร้านอาหาร ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชื่อร้านมีน้ำมีปลา ร้านนี้จะตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำบางปะกง เป็นร้านยอดนิยมของคนฉะเชิงเทรา เนื่องจากอาหารอร่อย มีราคาถูก ที่สำคัญบรรยากาศดี คือมาทานอาหาร สามารถหามุมสวย ๆ ในร้านถ่ายรูปเช็คอิน หรือจะถ่ายรูปกับมุมสวย ๆ ของวัดโสธรวรารามก็ได้ เพราะถือเป็นมุมยอดฮิตของคนที่มาทานอาหารที่ร้าน ในส่วนของอาหาร ทางร้านก็จะมีเมนูให้เลือกมากมาย แต่เมนูเด็ดถ้าใครมาผมขอแนะนำเลยครับ 1. หมึกผัดไข่เค็ม เมนูนี้แค่ยกมากลิ่นก็ยั่ว ๆ แล้ว อันดับแรกเลยคือหน้าตาน่ากินมาก คำแรกที่ผมทานผมจะชิมน้ำก่อน ปรากฎว่ารสชาติ กลมกล่อมมาก โดยเฉพาะไข่เค็มที่ใส่มาแบบเน้น ๆ ทำให้สี่สันดูดีเข้าไปอีก เมื่อลองกินปลาหมึก ขอบอกเลยชิ้นใหญ่และสดมากซึ่งเขาใส่มาให้เยอะด้วยครับ เมื่อลองกินผักที่เขาใส่มาให้ เราจะรู้ได้เลยว่าเข้าใส่ใจ เพราะผักสดกินแล้วรู้สึกหวาน เมนูนี้เมื่อเทียบกับที่อื่น ถือว่าร้านทำออกมาได้ดีจริง ๆ ครับ งันเรามาดูเมนูที่ 2 ที่ผมจะแนะนำคือ รูปภาพโดยผู้เขียน 2. ปลากระพงสองอารมณ์ เป็นอย่างไรบ้างครับ แค่ชื่อก็น่าทานแล้ว โดยปลากระพงสองอารมณ์ จะเป็นการแบ่งปลา 1 ตัวแต่ไปทำ 2 เมนู คือเมนูลาบ และเมนูสามรสในส่วนของเมนูลาบ ก็จะใส่เครื่องแบบแน่น แต่รสชาติจะเป็นออกแนวเป็นแบบกลมกล่อม ในส่วนของเมนูสามรส เขาก็ทำรสชาติออกมาได้อร่อย ปลาที่ใช้ในการปรุงอาหาร ก็จะสดมาก ๆ และที่เป็นที่เด็ดอีกอย่างคือ ทางร้านจะแล่ปลาออกมาเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ ทำให้ทานง่ายขึ้น และเนื้อปลาจะฉ่ำซอส ทำให้รู้สึกถึงรสชาติมากขึ้น รูปภาพโดยผู้เขียน หากเพื่อน ๆ ท่านใดต้องการที่จะมาทานอาหาร ในวันศุกร์ และวันเสาร์ ควรจะโทรจองก่อนนะครับ เนื่องจากคนจะเยอะมาก ๆ ในส่วนของดนตรีก็จะมีเล่นให้ทุกวัน แนะนำเลยครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการอาหารอร่อย วิวสวย ราคาไม่แพง มีน้ำมีปลาเลยครับ ที่อยู่19, ตำบล บางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ฉะเชิงเทรา 24000 เปิด 17.00-23.45 น เบอร์โทร096 664 5965 รูปภาพหน้าปกโดยผู้เขียน

ซุปตาร์วัยรุ่นปล่อยเต่าให้โลกจำต้องทำให้รักกับปลาแบบนี้
อ่าน

ซุปตาร์วัยรุ่นปล่อยเต่าให้โลกจำต้องทำให้รักกับปลาแบบนี้

ซุปตาร์วัยรุ่นปล่อยเต่าให้โลกจำต้องทำให้รักกับปลาแบบนี้ เรียกว่าเป็นอีกมุมหนึ่งน่ารักๆ ของพระเอกวัยรุ่นช่อง 3 สำหรับไมกี้ ปณิธาน ในมุมที่เป็นสายบุญที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อน ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ภาพมาทำบุญปล่อยเต่าแต่ดูเหมือนเต่า โดยหลังจากที่ ไมกี้ พระเอกวัยรุ่นทำบุญปล่อยชีวิตเต่า เขาก็แคปชั่นภาพว่า ปล่อยไดโนเสาร์โดยยังได้แคปชั่นภาพนำมาวาดเป็นรูปการ์ตูนตัวเต่าและปลามาปิ๊งรักกันในหนองน้ำก็น่ารักไปเลย จากนั้นศิลปินดาราก็แห่มาแซวอาทิ ดีเจเอกกี้ มาคอมเมนต์ในไอจีว่า อนุโมทนานะคะ ส่วนแฟนคลับอื่นๆ ก็แห่มาคอมเมนต์แซวกันมากอาทิแล้วไหนไดโนเสาร์55555 บ้างก็คอมเมนต์ว่าขอบคุณที่ทำบุญให้น้า รู้สึกเย็นขึ้นเยอะเลย ​​​​​​

ชาวบ้านปลาปัด ตั้งเต็นท์ขนของหนี ถูกน้ำชีทะลักท่วมทั้งหมู่บ้าน
อ่าน

ชาวบ้านปลาปัด ตั้งเต็นท์ขนของหนี ถูกน้ำชีทะลักท่วมทั้งหมู่บ้าน

น้ำจากแม่ชีที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิและขอนแก่น เข้าพื้นที่จังหวัดมหาสารคามยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดชาวบ้านบ้านปลาปัดหมู่ 3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของออกมาที่เต้นท์หน้าหมู่บ้าน เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราว ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด น้ำท่วมทั้งหมู่บ้าน ที่บ้านปลาปัด หมู่ 3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่กู้ภัย จิตอาสาจากหลายจังหวัด ที่มาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้ช่วยชาวบ้านขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นจากในหมู่บ้าน ออกไว้ที่เต้นท์หน้าหมู่บ้าน ซึ่งใช้เป็นที่พักชั่วคราว ภายหลังจากที่มวลน้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและท่วมทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวอยู่นอกแนวพนังกั้นนั้น โดยระดับในหมู่บ้านขณะนี้สูงมากกว่า 1 เมตร และยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายประมวล ถมภิรมย์ ชาวบ้านปลาปัดหมู่ 3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า น้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านเมื่อช่วงประมาณ 6 โมงเช้า น้ำขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลแรง ถ้านับจากเมื่อวานนี้เพียงชั่วข้ามคืนน้ำสูงขึ้นมากกว่า 1 เมตร เมื่อวานท่วมแค่นาข้าว แต่วันนี้ขนของแทบไม่ทัน ซึ่งระดับน้ำหากเทียบกับปี 54 ตอนนี้ระดับน้ำสูงกว่าปี 54 ไปแล้ว ด้านนายกฤษฏา เถื่อนนาดี ผู้ใหญ่บ้านปลาปัด หมู่ 3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า บ้านปลาปัด มี 125 ครัวเรือน ประชากร 458 คน มีนาข้าวจำนวน 169 ไร่ ขณะนี้ถูกน้ำท่วมทั้งหมด เนื่องจากน้ำชีสูงขึ้นอย่างรวดเร็วไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน จึงได้รีบประกาศให้ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของมาพักอาศัยที่เต้นท์หน้าหมู่บ้าน ซึ่งทาง อบต.ยางท่าแจ้งจัดไว้ให้ ราษฎรส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ เนื่องจากเคยประสบกับน้ำท่วมมาแล้วตั้งแต่ปี 53 54 และ 60

เจ้าอาวาส ยันชัดไม่รู้ใครติด 'ป้ายต้านหมอปลา' สั่งปลด-เผาทิ้งแล้ว ถ้ามาวัด ยินดีต้อนรับ
อ่าน

เจ้าอาวาส ยันชัดไม่รู้ใครติด 'ป้ายต้านหมอปลา' สั่งปลด-เผาทิ้งแล้ว ถ้ามาวัด ยินดีต้อนรับ

ข่าววันนี้ กรณีสังคมออนไลน์แชร์ภาพป้ายหน้า วัดใหม่พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีข้อความต่อต้าน นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ต่อมาเจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม มีคำสั่งให้วัดปลดป้ายดังกล่าวลง เนื่องจากเกิดเสียงวิจารณ์จำนวนมาก โดยพระลูกวัดทำการปลดป้ายออกและเผาทิ้งเรียบร้อยแล้วนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.พรหมพิราม เดินทางเข้าตรวจสอบและสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ขณะที่บรรยากาศในวัดใหม่พรหมพิราม ตั้งแต่ช่วงเช้า มีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างบอกว่าเป็นวัดบ้านเรา ไม่อยากให้มีเรื่องเสื่อมเสียอะไร แต่ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งติด ขณะที่ร้านป้ายในพื้นที่ยอมรับว่า มีคนมาสั่งทำจริง จึงทำไปตามงานที่จ้าง และมีคนมารับไปติดเอง ร้านไม่ได้เป็นคนไปติด ส่วนใครเป็นคนว่าจ้างทางร้านไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะเสียจรรยาบรรณระหว่างร้านและลูกค้า ขณะที่ พระครูธีรศาส กิตจาทร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบเรื่องเมื่อคืนตอน 3 ทุ่ม เพราะพระผู้ใหญ่โทรมาสอบถาม และสั่งให้ปลดป้าย เพราะไม่สบายใจ กลัวเรื่องจะบานปลาย และทำลายชื่อเสียงของวัด เมื่อเช้ามืดจึงสั่งให้พระลูกวัดช่วยกันนำป้ายต้านหมอปลาลง และนำไปเผาเมื่อช่วง 6 โมงเช้า พระครูธีรศาส กล่าวว่า ส่วนคนที่ติดป้ายนั้นไม่ทราบจริงๆ เพราะจุดติดป้ายหน้าวัดเป็นจุดสาธารณะ ปกติใครจะมาติดป้ายก็ได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่สมควร เพราะทำให้วัดเสียชื่อเสียง แต่คงไม่ถึงขั้นต้องแจ้งความดำเนินคดี เพราะคนที่ติดป้ายเองก็คงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนเรื่องของหมอปลา หากเดินทางมาก็ยินดีต้อนรับ และคงคุยกันให้เข้าใจว่าทางวัดเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าอาวาสและพระในวัดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว

ไหว้พระ - ขอพร วัดแสงแก้วโพธิญาณ วัดห้วยปลากั้ง
อ่าน

ไหว้พระ - ขอพร วัดแสงแก้วโพธิญาณ วัดห้วยปลากั้ง

         วัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย วัดที่มีชื่อเสียงอีกที่หนึ่งของจังหวัดเชียงราย โดยการออกแบบของ ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต โดยมีประติมากรรม พุทธศิลป์ ที่งดงาม เป็นที่ชื่นชอบ ของจังหวัดเชียงราย            นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชน นิยมมาสักการะขอพร รูปหล่อโลหะครูบาเจ้าศรีวิชัยจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก รูปปั้นครูบาขาวปี และ ครูบาชัยวงศาพัฒนา องค์ใหญ่ ภายในวัดมีประติมากรรมยักษ์องค์ใหญ่ , พระสีวลี , พระพิฆเนศวร , เจ้าแม่กวนอิมพันกร ,  อีกมากมาย โดยการพัฒนาของครูบาอริยชาติ ที่ได้สร้างศูนย์รวมจิตใจ ที่ยึดเหนี่ยว ของพุทธศานิกชน เมื่อนักท่องเที่ยวมีโอกาสได้มาถึง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งดงาม สวยงาม ยิ่งนัก โดยศิลปะวัตถุทุกส่วนล้วนมีธรรมมะแฝงให้ได้คิด และ เป็นสิ่งที่จรรโลงใจอีกด้วย ส่วนอาคารต่าง ๆ ได้มีการนำเอา 3 ศิลป์ คือ ศิลปะล้านนา , ศิลปะไตใหญ่ และ ศิลปะพม่า รวมกันอย่างกลมกลืนอีกด้วย                     วัดแห่งนี้ มีการนำเอาตัวแทนของพระสงฆ์ เกจิ ของแต่ละภาค เช่น ครูบาศรีวิชัย ( ภาคเหนือ ) , หลวงปู่มั่น ( ภาคอีสาน ) , หลวงปู่ทวด ( ภาคใต้ ) และ สมเด็จพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) แทนภาคกลาง ให้สักการะ ขอพร ทั้งสี่ภาค  ส่วนวัดแสงแก้วโพธิญาณ ตั้งอยู่บนดอยม่อนแก้ว ต.เจดีย์หลวง  อ.แม่สรวย จ.เชียงราย           ไปต่อกันที่ วัดห้วยปลากั้ง โดยมีพระอาจารย์พบโชค ติสฺสวโส ได้ริเริ่มก่อสร้างศาสนวัตถุ คือ พระมหาพบโชคธรรมเจดีย์ 9 ชั้น เช่น ชั้นที่ 1  พระแม่กวนอิม แกะสลักจากไม้จันทร์หอม                 จากประเทศ จีน อินเดีย พม่า ชั้นที่ 2 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับยืน ชั้นที่ 3 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับนั่ง ชั้นที่ 4 หลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง ชั้นที่ 5 เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ ชั้นที่ 6 สมเด็จพุฒาจารย์โต และ หลวงปู่ทวด ชั้นที่ 7 พระพุทธรูปปางนาคปรก ชั้นที่ 8 พระสังกัจจาย ชั้นที่ 9 พระอิศวร               ส่วนพระแม่กวนอิม องค์ใหญ่สีขาว ตั้งสง่าสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น มีความสูงถึง 79 เมตร ( นับได้ว่าสูงที่สุดในประเทศไทย ) ซึ่งภายในองค์เจ้าแม่กวนอิม สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์รอบวัดห้วยปลากั้งได้อีกด้วย โดยวัดนี้ตั้งอยู่ ต.ริมกก อ.เมือง จ. เชียงราย              ศาสนสถานทั้งสองที่นับได้ว่าเป็นที่ที่นักท่องเที่ยว และ ชาวพุทธไม่ควรพลาด หาโอกาสไปสักครั้งเพื่อสักการะ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และ ครอบครัว หมายเหตุ ผู้เขียนเป็นผู้ถ่ายรูปเองทั้งหมด