รีเซต

ผลการค้นหา “ ╊ 여성흥분제 직구 ㅼ 시알리스판매.kro.kr ㈆ 온라인 여성흥분제 판매처 ‰ 해바라기구입 ┰ 조루방지제 정품 구매사이트 ∨ 인터넷 비아그라구입처 ↓ 인터넷 물뽕구입방법 ㆈ 요힘빈후기 ┠ 여성최음제 구매처사이트” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ทรัมป์ต่อสายตรงรักษาการนายก ฯ ไทย ชี้เป็นการสนทนาที่ดี อาจเห็นสันติ4krเร็ว ๆ นี้
อ่าน

ทรัมป์ต่อสายตรงรักษาการนายก ฯ ไทย ชี้เป็นการสนทนาที่ดี อาจเห็นสันติ4krเร็ว ๆ นี้

ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธโซเชียลระบุว่า ผมเพิ่งพูดคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และเป็นการสนทนาที่ดีมาก ประเทศไทยก็เหมือนกับกัมพูชา ต้องการหยุดยิงและสันติภาพโดยทันที ผมจะถ่ายทอดข้อความนี้กลับไปยังนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังจากพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว การหยุดยิง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เป็นปกติ เราจะได้เห็นกันเร็วๆ นี้! ซึ่งในเวลาประมาณ30นาทีต่อมาทรัมป์ได้โพสต์ว่าเขาได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรื่องการหารือของเขากับประเทศไทยโดยได้โพสต์ข้อความบนทรูธโซเชียลว่า ผมเพิ่งได้คุยโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยความรู้สึกที่ดีมาก และได้แจ้งให้ท่านทราบถึงการหารือของผมกับประเทศไทยและรักษาการนายกรัฐมนตรี ทั้งสองฝ่ายกำลังหาทางหยุดยิงและให้เกิดสันติภาพโดยทันที พวกเขายังต้องการกลับเข้าสู่ “โต๊ะเจรจาการค้า” กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราคิดว่าไม่เหมาะสมที่จะทำจนกว่าการสู้รบจะยุติลง พวกเขาตกลงที่จะพบกันทันทีและหาข้อตกลงหยุดยิงอย่างรวดเร็ว และท้ายที่สุดคือสันติภาพ! นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทั้งสองประเทศ พวกเขามีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน หวังว่าพวกเขาจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติไปอีกหลายปี เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นและสันติภาพใกล้เข้ามา ผมตั้งตารอที่จะหาข้อสรุปในข้อตกลงการค้าของเรากับทั้งสองประเทศ!

Ming-Chi Kuo คาด Apple Vision Pro จะผลิตได้แค่ครึ่งเดียวเพราะปัญหาขาดแคลนฮาร์ดแวร์!
อ่าน

Ming-Chi Kuo คาด Apple Vision Pro จะผลิตได้แค่ครึ่งเดียวเพราะปัญหาขาดแคลนฮาร์ดแวร์!

หลังจาก Apple เปิดตัว Vision Pro ก็มีการถกเถียงกันมาเรื่อย ๆ ว่าสินค้าตัวใหม่นี้จะขายได้ดีหรือไม่ ซึ่งในมุมมองของ กั๊วะ หมิงจี (Ming-Chi Kuo) นักวิเคราะห์ตลาดชื่อดังก็คาดการณ์ว่า ยอดขายของ Vision Pro จะต่ำกว่ายอดที่ Apple ต้องการ เหตุผลที่คาดว่า ยอดขาย Vision Pro จะต่ำกว่าเป้านั้นไม่ใช่เพราะสินค้าไม่มีคุณภาพ แต่กั๊วะเผยว่า เป็นเพราะ Apple จะสามารถผลิต Vision Pro ได้เพียงแค่ครึ่งเดียวของจำนวนที่วางแผนเอาไว้ โดยสาเหตุมาจากการที่ซัปพลายเออร์ไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่สามารถผลิตสินค้าได้ตามมาตรฐานของ Apple ทำให้เกิดปัญหาฮาร์ดแวร์ขาดแคลนจนน่าจะผลิตไม่ได้ตามจำนวนที่ต้องการ Vision Pro ที่จะเริ่มผลิตในปี 2024 จะผลิตได้มากที่สุดราว 400,000 ถึง 600,000 เครื่องเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าแผนการที่จะผลิตให้ได้ 1,000,000 เครื่องในปีเดียว นอกจากปัญหาด้านการผลิตแล้วกั๊วะยังระบุว่า Apple จะต้องใช้ความพยายามในการอธิบายตัวอย่างการใช้งาน Vision Pro ให้กับผู้ที่สนใจ และการที่ Apple จะโน้มน้าวผู้บริโภคให้เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องซื้อสินค้าชิ้นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่มา: GSMArena

รีวิว เก้าอี้สำนักงาน U-RO DECOR จาก Shopee Mall ราคาประหยัด คุ้มเวอร์
อ่าน

รีวิว เก้าอี้สำนักงาน U-RO DECOR จาก Shopee Mall ราคาประหยัด คุ้มเวอร์

รีวิว เก้าอี้สำนักงาน U-RO DECOR จาก Shopee Mall ราคาประหยัด คุ้มเวอร์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาเก้าอี้สำนักงานไปใช้สักตัว หรือหลายตัว สำหรับท่านที่ไม่มีปัญหาเรื่องราคาก็สามารถไปซื้อที่ไหนก็ได้ ยิ่งไปลองนั่งก่อนได้ยิ่งดี เพื่อจะได้เก้าอี้ที่เรานั่งสบายที่สุด เหมาะสมกับเรามากที่สุด แต่สำหรับเพื่อนๆที่คิดแล้วคิดอีกก่อนที่จะซื้อเช่นเดียวกับนิกซ์ เนื่องจากต้องมองหาในงบประมาณที่ประหยัดที่สุด ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องหายากมากๆ เนื่องจากของถูกและดีไม่ค่อยมีในโลก แต่เดี๋ยวก่อน วันนี้นิกซ์ขอแนะนำ เก้าอี้สำนักงานที่ทั้งถูก และดีก็พอมีนะ ไปดูกันเลยครับ ผมจะพาไปประกอบเก้าอี้พร้อมๆกันเลยครับผมสั่งซื้อมาจาก Shopee Mall ครับ เพิ่งได้รับมาอุ่นๆครับ กล่องไม่ใหญ่มาก ไม่หนักมาก ยกคนเดียวได้สบายครับ ไม่รอช้ามาเปิดกล่องกันเลยดีกว่าครับอุปกรณ์ที่ได้รับมีดังนี้ครับ1. Cushion เบาะนั่ง2. Backrest พนักพิงหลัง3. Armrest ที่วางแขน4. Castor ล้อ 5 ล้อ5. Leg ขาล้อ6. Caslift ขาหลักของเก้าอี้7. Mechanism กลไกปรับสูงต่ำ และความแข็งอ่อนของการเอนพนักพิงหลัง8. Screw น็อตสั้น 4 ชิ้น ,  น็อตยาว 10 ชิ้น9. Washer แหวนรองน็อต 6 ชิ้น10. Allen key หกเหลี่ยมสำหรับไขน็อตพร้อมแล้วไปประกอบกันเลยครับ ลุยนำขาหลักแท่งใหญ่ๆ  อันพอดีไม้ พอดีมืออันนี้มาเสียบประกอบเข้าไปในรูของขาล้อที่เป็นห้าแฉกครับนำล้อทั้งห้าล้อมาเสียบประกอบเข้ากับขาล้อห้าแฉกครับนำกลไกมาประกอบที่ใต้เบาะนั่ง ให้หันด้าน Front ของกลไกไปทางด้านหน้าของเก้าอี้นะครับ ทางร้านก็ใจดีแปะสติ๊กเกอร์ Front ไว้ที่ใต้เบาะให้ด้วย สงสัยกลัวผมจะหันด้านผิดครับ ชุดนี้ให้ประกอบด้วยน็อตสั้น 4 ตัว ไม่ต้องรองแหวนครับนำพนักพิงหลังมาประกอบกับเบาะนั่งครับ โดยใช้น็อตยาว 4 ตัว ไม่ต้องรองแหวนครับนำที่วางแขนมาประกอบกับเบาะนั่งครับ โดยใช้น็อตยาวข้างละ 3 ตัว ให้รองแหวนด้วยครับ นำเบาะที่ประกอบเสร็จแล้วมาเสียบเข้ากับขาเก้าอี้ที่ประกอบไว้คอยให้เสียบครับและแล้วก็ได้เก้าอี้สำนักงานสวยๆของเราแล้วครับ ประกอบง่ายมากๆ ผู้หญิงก็ประกอบได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ใช้เพียงแค่ตัวไขหกเหลี่ยมที่แถมมาให้อันเดียวเท่านั้นครับขนาดตัวเก้าอี้ กว้าง 59 ซม. ลึก 60 ซม. ปรับระดับความสูงได้ 109-119 ซม. ขนาดเบาะนั่ง กว้าง 50 ซม. ลึก 49 ซม. ขนาดพนักพิง กว้าง 48 ซม. สูง 68 ซม. ล้อเลื่อน หมุนได้ 360 องศาและแล้วก็ถึงขั้นตอนสุดท้ายครับ ไปนั่งทำงาน หรือนั่งดูทีวีสบายๆ กันได้เลยครับ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและตาข่ายนั่งนิ่มมากๆครับ สำหรับพนักพิงหลังเป็นตาข่ายลมผ่านได้ นั่งนานก็ไม่ร้อน ทางร้านมีแบบตาข่ายให้เลือกอยู่ 3 สีครับ มี สีดำ สีเขียว และสีน้ำเงินแบบตัวนี้ครับ ด้านบนตรงจุดสัมผัสศีรษะของพนักพิงหลังหุ้มด้วยหนังนิ่มดีครับ สำหรับท่านที่สนใจก็เข้าไปซื้อที่ Shopee Mall ได้เลยครับผมซื้อมาใช้งานจริง รีวิวให้แบบหมดเปลือก ไม่ต้องลังเลอีกแล้วครับ เพราะก่อนที่ผมจะซื้อผมก็ศึกษา เปรียบเทียบ จากร้านต่างๆมากมาย เพื่อที่ผมจะได้ของที่คุ้มค่าที่สุดมาใช้งานครับฝากติดตาม Nixz's Life Hack ด้วยครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความของผมครับ ภาพประกอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนภาพหน้าปกจาก Shopee Mall แต่งภาพโดย canvaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี ! 

AJA เลื่อนจองซื้อหุ้น PP และ RO นลท.ต่างประเทศติดเงื่อนไขขั้นตอนทางกฎหมาย
อ่าน

AJA เลื่อนจองซื้อหุ้น PP และ RO นลท.ต่างประเทศติดเงื่อนไขขั้นตอนทางกฎหมาย

#ทันหุ้น #AJA  บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทมีความจำเป็นต้อง เลื่อนกำหนดการเพิ่มทุน ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งในส่วนของการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement: PP) และการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering: RO)สาเหตุหลักของการเลื่อนกำหนดการในครั้งนี้มาจากการที่ นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) เป็นนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งมีข้อกำหนดและขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องขออนุมัติการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศของตนเอง และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่งผลให้ไม่สามารถจองซื้อหุ้นตามกำหนดการเดิมระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2568 ได้ทันเวลาKey Takeaways: สรุปประเด็นหลักสาเหตุของการเลื่อน: นักลงทุนแบบ PP ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติ ไม่สามารถทำตามกำหนดการจองซื้อเดิมได้ เนื่องจากยังติดขั้นตอนการขออนุมัติการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศของตนเอง ทำให้เกิดความล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้การเลื่อนกำหนดการสำคัญ:การจองซื้อหุ้น PP: เดิมมีกำหนดระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2568 ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็น ภายในไตรมาส 4 ปี 2568วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) สำหรับหุ้น RO: เดิมกำหนดวันที่ 8 กันยายน 2568 ได้ถูก เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และจะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลังวันจองซื้อและชำระค่าหุ้น RO: เดิมกำหนดระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 3 ตุลาคม 2568 ได้ถูก เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และจะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลังเงื่อนไขสำคัญ: บริษัทชี้แจงว่าวาระการเพิ่มทุนแบบ PP เป็นเงื่อนไขสำคัญของการเพิ่มทุนแบบ RO และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ AJA-W5 นั่นหมายความว่า หากการจองซื้อหุ้น PP ไม่สำเร็จหรือไม่ครบจำนวนตามที่กำหนด บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการเพิ่มทุนแบบ RO และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ AJA-W5 ได้สถานะปัจจุบัน: บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามและประสานงานกับผู้ลงทุนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หากมีความคืบหน้าใดๆ ที่ชัดเจนจะดำเนินการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ทันทีบทสรุปAJA ประสบปัญหาในการดำเนินการเพิ่มทุนตามแผนที่วางไว้ โดยต้องเลื่อนวันจองซื้อหุ้น PP และวันสำคัญของหุ้น RO ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากผู้ลงทุนจากต่างประเทศยังไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศของตนเอง ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลให้แผนการเพิ่มทุนทั้งหมดมีความล่าช้า และเป็นปัจจัยที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้น AJA ในช่วงนี้

ชวนมารู้จัก โรอุน (Ro Woon) SF9 พระเอกสุดหล่อจากซีรีส์ She Would Never Know💄
อ่าน

ชวนมารู้จัก โรอุน (Ro Woon) SF9 พระเอกสุดหล่อจากซีรีส์ She Would Never Know💄

ร้านแผงลอยขายผู้ของเจย์เปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้วจ้า เพราะช่วงนี้ซีรีส์ใหม่ ๆ เรียงแถวกันลงจอไม่ขาดสายแถมยังมีนักแสดงหล่อละมุนหลายท่านเลยที่ถูกตาต้องใจแต่วันนี้เจย์พาพ่อหนุ่มหล่อ สูงโปร่ง หน้าตาดี พระเอกซีรีส์ She Would Never Know หรือเป็นที่รู้จักในบท ฮารุ จากซีรีส์แนว High School เรื่อง Extraordinary Yon มาแนะนำตัวให้แฟนซีรีส์ได้ทำความรู้จักกันค่ะ ท่านใดที่ถูกตาต้องใจพ่อหนุ่ม โรอุน คนนี้เข้าแล้วล่ะก็มาศึกษาประวัติพร้อมผลงานของเขาที่เจย์เตรียมมาให้ในบทความนี้ได้เลยจ้าชื่อเกิด: คิมซอกอู (Kim Seok Woo) Stage Name: โรอุน (Rowoon)วันเกิด : 7 สิงหาคม ปี 1996 ปัจจุบันอายุ 24 ปี ราศี : สิงห์สูง: 190.5 ซม.น้ำหนัก: 74 กก.การศึกษา: Kyung Hee Cyber University.วง: SF9Instagram: ewsbdiลักษณะนิสัยของหนุ่มราศีสิงห์คนนี้เป็นคนอารมณ์ดียิ้มง่าย สดใสเฮฮา ชอบความสนุกสนานครึกครื้น มีความมั่นใจ มองโลกในแง่ดี ทำอาหารเก่งและยังชอบทานอาหารรสจัดอีกด้วย ในด้านงานอดิเรกที่โรอุนโปรดปรานนั่นคือการออกกำลังกายฟิตหุ่นและดูหนังดูซีรีส์ เขาเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมาก ๆ ส่วนในด้านการเต้นโรอุนก็เต้นเก่งเอาเรื่องเช่นกัน เขาเริ่มต้นเส้นทางของเขาด้วยการเป็นเด็กฝึกภายใต้สังกัด FNC หรือเรียกว่า NEO SCHOOL/NEOZ และเดบิวต์อย่างเป็นทางการในปี 2016 โดยใช้ชื่อวงว่า ‘SF9’ ในตำแหน่ง ร้องหลัก, ภาพลักษณ์ของวง และนักเต้น โรอุนเป็นคนที่ช่างพูดช่างจาชอบชวนแฟนคลับพูดแบบเป็นกันเองจึงทำให้เหล่าแฟนคลับรักและเอ็นดูเขาเป็นอย่างมากโรอุนผ่านงานทั้งด้านการแสดงและวาไรตี้ทีวีโชว์มาหลายต่อหลายรายการ ผลงานด้านแสดงที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำและเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ Click Your Heart (2016) มินิซีรีส์ที่ทางต้นสังกัดของเขาเองเป็นผู้สร้างซึ่งเรื่องนี้เขาก็ได้แสดงร่วมกับ Zu Ho เพื่อนร่วมวงของเขาอีกด้วย ในปี 2017 โรอุนได้มีโอกาสร่วมแสดงบทสมบทในเรื่อง School 2017 ซีรีส์แนวลึกลับ High School จากค่าย KBS2 ต่อมาในปี 2019 เขาได้รับบทนำในซีรีส์พล็อตเรื่องสุดแปลกซึ่งดัดแปลงมาจากเว็บตูนอย่างเรื่อง Extraordinary You และจากบท ฮารุ ที่เขาได้รับก็ส่งให้เขาเป็นที่รู้จักทั้งในและนอกประเทศเป็นอย่างมาก นอกจากผลงานด้านการแสดงแล้วผลงานด้านรายการทีวีที่เขาเข้าร่วมก็มีหลายรายการที่โดดเด่น ได้แก่รายการวาไรตี้ของวง SF9 อาทิ SF9 - Spectacle Fantasy, SF9 Special Food และ SF9 Trip with Fantasy เป็นต้นCafe Amor รายการที่เขาและเหล่าผู้ดำเนินรายการร่วมกันเปิดคาเฟ่เพื่อนัดบอร์ดให้แก่เหล่าลูกค้าในคาเฟ่Lipstick Prince: Season 2 รายการทีวีที่จะจับหนุ่ม ๆ มาแต่งหน้าให้สาว ๆ ตามที่พวกสาว ๆ เลือก โดยรายการที่เจย์กล่าวมานี้คือบางส่วนเท่านั้น เพราะผลงานของโรอุนทั้งผลงานเพลง รายการทีวี และซีรีส์มีเยอะมาก ๆ เจย์ จึงคัดมาเฉพาะผลงานที่โดดเด่นของเขาเท่านั้นจ้าหากท่านใดอยากจะติดตามความละมุนของ โรอุน แบบเต็มอิ่มเพื่อสนองความหลงไหลคลั่งรักสามารถเข้าไปติดตามได้ที่อินสตาแกรมของเขาและ YouTube Channel: FNCEnt ได้เลยจ้า สุดท้ายนี้กราบอ้อมอกอ้อมใจทุกท่าน ที่แวะเวียนกันเข้ามาเสพบทความของเสี่ยวเจย์ ฝากเอ็นดูนักเขียนสายรีวิวตัวน้อยคนนี้ไปนาน ๆ นะคะ สามารถติดตามอ่านบทความอื่น ๆ ของเสี่ยวเจย์ได้ที่ FB: XiaoJay Stories   FNCEnt Official YouTube ⚡️บทความอื่น ๆ ของเสี่ยวเจย์⚡️รีวิวซีรีส์ Welcome High School Students ซีรีส์แนว High School ของเซียวจวิ้น WayVชวนมารู้จัก ถังเสี่ยวเทียน พระเอกมาดนิ่งสุดอบอุ่นจากซีรีส์ My Little Happinessเปิดวาร์ป: Wu YuHeng (อู๋อวี่เหิง) เด็กฝึกหน้าหวานงาน Vocal จาก CHUANG 2021ชวนมารู้จัก ฮอฮยอนจุน และ ยูจุน 2 นักแสดงจากซีรีส์ Color Rush สุดจิ้นฟินทะลุจอรีวิว: A Love So Beautiful (นับแต่นั้น…ฉันรักเธอ) เวอร์ชั่นรีเมคจากฝั่งเกาหลี10 เรื่องน่ารู้ ชินจุนซอบ พระเอกงานละมุนจาก One Fine Week : 7 วันฉันเป็นเธอเปิดประวัติ Bi Wen Jun (ปี้เหวินจวิ้น) พระเอกหนุ่มหน้าหวานงานละมุนจากแดนมังกรรีวิว: A Girl Like Me (ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้) ซีรีส์รักโรแมนติกขายความฟินไม่จกตาพ่วงด้วยความฮาอีกหลายกระบุงขอบคุณภาพประกอบ Twiter SF9official , IG sf9official , IG ewsbdi , FB JTBC Dramaภาพปก 1, ภาพปก 2, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4.1, ภาพที่ 4.2, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6 ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

ก.ล.ต. สั่ง CIG ชี้แจงข้อมูลกรณีเข้าซื้อหุ้น OW -ขายหุ้นเพิ่มทุนขายแบบ RO-PP
อ่าน

ก.ล.ต. สั่ง CIG ชี้แจงข้อมูลกรณีเข้าซื้อหุ้น OW -ขายหุ้นเพิ่มทุนขายแบบ RO-PP

#ทันหุ้น-สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CIG) ชี้แจงข้อมูลภายในวันที่ 4 กันยายน 2568 กรณีคณะกรรมการมีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ Ocean Wolf PTE. LTD. (OW) เกี่ยวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นและบุคคลในวงจำกัดกรณีคณะกรรมการ CIG มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ OW ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 เพื่อประกอบธุรกิจเหมืองทอง โดยได้รับสิทธิในการจัดการและพัฒนาเหมืองแร่ที่ประเทศแคนาดา จาก Mr. Alex Loo Liat Wah (Mr. Alex) ในราคาซื้อขายหุ้นละ 180 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 435 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.17 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ OW โดยรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าว มีขนาดสูงสุดเท่ากับร้อยละ 49.99 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนนอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.10 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 311,381,474.90 บาท และบุคคลในวงจำกัด (PP) ราย Mr. Alex (ผู้ขาย OW) คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 125 ล้านบาทโดยมีวัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่รับจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อเป็นค่าตอบแทนการซื้อหุ้น OW และมีเงื่อนไขว่า (1) CIG จะต้องได้รับเงินจาก RO ไม่ต่ำกว่า 310 ล้านบาท (2) การตรวจสอบสถานะทางกฎหมาย (Legal Due Diligence) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมลงทุนใน OW ต้องเสร็จสิ้นก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 กันยายน 2568 โดยมิได้ส่งผลกระทบต่อการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ และ (3) ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้น PP จะต้องไม่เป็นเหตุให้ Mr. Alex รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 258* ของ Mr. Alex ถือหุ้นของ CIG รวมกันสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 มิเช่นนั้น การออกและเสนอขายหุ้น PP จะเป็นอันถูกยกเลิกไปทั้งนี้ จากข้อมูลที่ CIG ได้เปิดเผยในระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) เกี่ยวกับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2568 ซึ่งประกอบด้วยมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ OW และมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ให้แก่ RO และ PP เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 และฉบับแก้ไขเมื่อวันที่ 26 และวันที่ 27 สิงหาคม 2568 นั้น ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังมีความไม่ชัดเจน รวมถึงยังขาดข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลและรายละเอียดที่ CIG ใช้ประกอบการพิจารณาลงทุนใน OW ที่มา ความเหมาะสม และความสมเหตุสมผลของสมมติฐานที่ใช้ในการจัดทำประมาณการเพื่อใช้กำหนดราคาหุ้น OW และอัตราการแลกเปลี่ยนหุ้น (swap ratio) สาเหตุที่ไม่นำรายการลงทุนใน OW ซึ่งเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการสูงสุดร้อยละ 49.99 ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นไปพร้อมกับรายการเพิ่มทุน RO และ PP หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ลงทุน PP ราย Mr. Alex รวมทั้งประโยชน์ที่ CIG จะได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้น PP ให้แก่บุคคลดังกล่าว ตลอดจนรายชื่อและความเห็นของกรรมการ CIG เป็นรายบุคคลที่อนุมัติหรือไม่อนุมัติรายการดังกล่าว โดยที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีสาระสำคัญ จึงเป็นกรณีที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจในการลงทุนก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58(1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ CIG ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพิจารณาลงทุนใน OW รวมถึงการเพิ่มทุน RO และ PP ข้างต้นต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 4 กันยายน 2568 พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณชนผ่านระบบ SETLink ด้วยหมายเหตุ :หมายถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กันตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 258 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

5 ผลงานโรอุน SF9 (Ro Woon) พระเอกสุดฮอตจากซีรีส์ Destined With You
อ่าน

5 ผลงานโรอุน SF9 (Ro Woon) พระเอกสุดฮอตจากซีรีส์ Destined With You

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้พามาทำความรู้จักโรอุน SF9 (Ro Woon) พร้อมเปิด 5 ผลงานซีรีส์สุดโด่งดังของไอดอลหนุ่มหล่อสุดฮอตคนนี้ ที่ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งตัวท็อปของพระเอกซีรีส์เกาหลีไปแล้ว ตอนนี้โรอุนมีผลงานซีรีส์ที่กำลังออนแอร์อยู่เรื่อง Destined With You รักสุดวิสัย หัวใจไม่ให้เสี่ยง ออนแอร์ทาง Netflix และสำหรับใครที่อยากตามไปเก็บผลงานซีรีส์ของโรอุน SF9 ก็สามารถตามไปเก็บ 5 ผลงานเด็ดของเขาได้ วันนี้เรารวบรวมมาให้ให้แล้วค่า 💗🌈https://www.instagram.com/p/CYLA_6_gZ6g/?img_index=1ประวัติ โรอุน (Ro Woon)โรอุน Rowoon หรือ คิมซอกอู Kim Seok Woo เกิดเมื่อวันที่  7 สิงหาคม 1996 ปัจจุบันโรอุน อายุ 27 ปี จบการศึกษาจาก Kyung Hee Cyber University เขาอยู่ภายใต้สังกัด FNC Entertainment ปัจจุบันเป็นทั้งนักร้อง นายแบบ และนักแสดง เมื่อพูดถึงโรอุน สิ่งแรกที่คนจะพูดถึงเขาคือเรื่องความสูง โรอุน สูง 191 เซนติเมตร ส่วนสูงอย่างเป็นทางการที่ปรากฎตามสื่อหรือเว็บไซต์ต่างๆ ของเขาคือ 189 ซม. แต่จริงๆ เขาสูงถึง 191 ซม. เลยทีเดียวIG โรอุน : ewsbdihttps://www.instagram.com/p/B6K4lJqBaAq/โรอุน Rowoon เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการเดบิวต์ในฐานะสมาชิกของวงไอดอลบอยกรุ๊ป SF9 ในปี 2016 ซึ่ง SF9 ย่อมาจาก “Sensational Feeling 9” หมายถึงเด็กหนุ่ม 9 คน ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจและแปลกใหม่ให้กับโลกใบนี้ โดยสมาชิกของ SF9 ทั้งหมด 9 คน ดังนี้ ยองบิน , อินซอง , แจยุน , ดาวอน , จูโฮ ,ชานฮี  , ยูแทยัง , ฮวียอง และโรอุนโรอุนมีผลงานทางการแสดงมาแล้วมากมาย ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา เช่น School 2017, Modulove, About Time, Fox Bride Star, Extraordinary You, Find Me in Your Memory ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาฉบับพระเอกในอุดมคติของใครหลายคน บวกกับรูปร่างที่สูง หุ่นดี กล้ามแน่น และการพัฒนาการแสดงของตัวเองอยู่เสมอ ทำให้ปัจจุบันโรอุน SF9 กลายเป็นพระเอกหนุ่มที่เข้าไปครอบครองหัวใจของแฟนๆ ซีรีส์ทั่วโลก ปัจจุบันโรอุนยังมีซีรีส์ที่จ่อคิวรออนแอร์ในปี 2023 มากมายเลยค่ะ แต่วันนี้เราขอแนะนำ 5 ซีรีส์เด็ด! ของ โรอุน SF9 ที่ต้องตามไปดูกันให้ได้เลย เพราะสนุกมากๆ ค่าExtraordinary You (2019) - รักนี้หัวใจบอกไม่ธรรมดาExtraordinary You ชีวิตนี้ฉันไม่ใช่ตัวประกอบ…ซีรีส์เกาหลีแฟนตาซีสุดสนุก รีเมคมาจากเว็ยตูนเรื่อง “July Found by Chance” เรื่องราวของเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ชื่ออึนดันโอ (รับบทโดย คิมฮเยยุน) เธอเป็นเด็กมัธยมปลายบ้านรวย ที่ร่างกายอ่อนแอและเป็นโรคหัวใจ และเธอเริ่มมีอาการความทรงจำขาดหายไปชั่วขณะ สุดท้ายค้นพบความจริงว่าตัวเองและเพื่อนๆ ในโรงเรียนเป็นเพียงตัวประกอบในการ์ตูนเรื่องหนึ่ง เหลือเวลามีชีวิตอีกไม่มากนักก็จะตายแล้ว ในเรื่องนี้ดันโอมีคู่หมั้นเป็นหนุ่มแบดบอยประจำโรงเรียน ชื่อว่าแบคคยอง (รับบทโดย อีแจอุค)แต่เธอไม่ได้รู้สึกหัวใจเต้นแรงกับแบคคยอง เพราะคนที่ทำให้เธอหัวใจเต้น คือ นักเรียนเลขที่ 13 ที่เป็นเพียงตัวประกอบในการ์ตูน ไม่มี แม้แต่ชื่อเป็นของตัวเอง อย่าง ฮารู (รับบทโดย โรอุน SF9)เรื่องนี้บอกเลยว่าสนุกมาก มีความแฟนตาซี ลุ้นไปกับตัวละครมากๆ พล็อตก็ดูน่าติดตาม เอาใจช่วยตัวละครทั้งเรื่องเลยค่ะ ออกแนวรักใสๆ วัยมัธยมนะคะ เคมีนักแสดงหลักทั้ง 3 คน ทั้ง  คิมฮเยยุน อีแจอุค และ โรอุน SF9 ก็ดีมากๆ เลยค่ะ ใครอยากดูไปหาดูได้ที่ Viu ค่ะ มีทั้งหมด 32 ตอน ตอนละประมาณ 30 นาทีค่ะShe Would Never Know (2021) - รุ่นพี่ ลิปนี้อย่าทาเลยครับShe Would Never Know เรื่องราวความรักสุดซับซ้อนในที่ทำงาน ใครที่อยากรับชมความฟินของการมีแฟนเด็กรุ่นน้องให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ต้องดูเรื่องนี้เลยค่ะ แต่ในช่วงแรกๆ จะอึนๆ หน่อยนะ แต่หลังๆ ฟินมากจ้าแชฮยอนซึง (รับบทโดย โรอุน SF 9 ) เขาเข้ามาทำงานในบริษัทเครื่องสำอาง KLAR และได้พบกับ ยุนซงอา (รับบทโดย วอนจินอา) เธอเป็นมาร์เกตติ้งที่ทำงานอยู่นแบรนด์เครื่องสำอาง KLAR  มาก่อนหน้า แชฮยอนซึงแอบชอบยุนซงอามาตลอดแต่ยังไม่กล้าเปิดเผยความในใจ แต่ก่อนที่เขาจะสารภาพรัก เขาก็ได้ล่วงรู้ความจริงว่าซงอามีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งแฟนของซงอาก็คือห้าหน้าแผนก อีแจชิน (รับบทโดย อีฮยอนอุค) ซึ่งทั้งคู่แอบคบกันแบบลับๆ มาแล้วกว่า 2 ปีแชฮยอนซึงที่รู้ว่ายุนซงอามีแฟนอยู่แล้ว ที่กำลังจะตัดใจ แต่เขาดันไปรู้ความลับมาว่าอีแจชิน กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นหลานสาวของเข้าของบริษัท KLAR  เรื่องนี้ความรักมันจะอลวนวุ่นวายกันสักหน่อย แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คุณผู้ชมค่ะ ฟินมากแม่เอ้ยยยยย ดูแล้วอยากมีแฟนเด็กเลยล่ะค่า 16 ตอน ดูได้ที่ Netflix นะคะThe King’s Affection (2021) - ราชันผู้งดงามThe King’s Affection ราชันผู้งดงาม ซีรีส์ดราม่าโรแมนติก เรื่องราวของแฝดหญิงขององค์รัชทายาทที่ต้องมาสวมบทบาทเป็นองค์รัชทายาทแห่งวังหลวง พระมเหสีคลอดลูกแฝดชายหญิงออกมาพร้อมกัน แต่ตามธรรมเนียมแห่งวังหลวงองค์รัชทายาทที่เกิดมาเป็นฝาแฝดชายหญิงนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง แฝดหญิงจึงถูกกำจัดทิ้ง เหลือไว้เพียงองค์รัชทายาทที่เป็นชายเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่เรื่องราวกลับตาลปัตรเข้าไปอีก เมื่อองค์รัชทายาทตัวจริงเสียชีวิต พระมเหสีจึงนำองค์หญิงที่ถูกกำจัดทิ้งนั้นมาสวมรอยเป็นองค์รัชทายาทแทน ซึ่งคนที่มารับบทเป็นองค์รัชทายาทอีฮวี คือ พัคอึนบิน ซึ่งเรื่องนี้เธอแสดงบทบาทเป็นผู้ชายได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับเสียงชื่นชมและได้รับรางวัลการันตีมากมาย ส่วนโรอุน SF9 ในเรื่องนี้ รับบทจองจีอุน เป็นครูขององค์รัชทายาทอีฮวี มีความกล้าหาญ อดทน และซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่เดินตามเส้นทางที่พ่อแม่ขีดไว้ สำหรับใครที่ชอบแนววังหลวง เรื่องนี้ต้องไม่พลาดค่ะ ฉีกออกไปจากวังหลวงโชซอนเรื่องอื่นๆ มาก เพราะใช้ตัวละครหลักผู้หญิงมาสวมบทบาทเป็นองค์รัชทายาทแห่งวังหลวง บอกเลยว่าสนุกมาก เต็ม10 ไม่หัก 20 ตอน ดูได้ที่ Netflix นะคะตัวอย่างซีรีส์ The King’s Affection ราชันผู้งดงามTomorrow (2022) -  พรุ่งนี้https://www.instagram.com/p/Cb2JZirBtuX/Tomorrow ซีรีส์ดราม่าแฟนตาซี สร้างจากเว็บตูนเรื่องเดียวกัน โดยเล่าเรื่องราวของชเวจุนอุง (รับบทโดย โรอุน SF9 ) ชายหนุ่มที่ตกงานมา 3 ปี แถมยังโชคร้ายประสบอุบัติเหตุอาการโคม่า หลังจากที่ไปช่วยคนที่กำลังฆ่าตัวตาย วิญญาณของเขาหลุดออกจากร่าง และได้พบกับเหล่ายมทูตแผนกจัดการวิกฤตของสำนักงานจูมาดึง ซึ่งมีหัวหน้าทีมกูรยอง (รับบทโดยคิมฮีซอน) และเหล่ายมทูตที่มีหน้าที่คอยช่วยเหลือชีวิตของผู้คนที่กำลังคิดฆ่าตัวตายเรื่องนี้สนุกแบบ 10 10 10 เลยค่ะ ซีรีส์เล่าเรื่องราวของตัวละครแต่ละพาร์ท โดยเล่าเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย พวกเขาต้องประสบกับปัญหาชีวิต ความเจ็บปวด และความโหดร้ายจาสังคมที่แตกต่างกันออกไป และสุกท้ายเพราะแบกรับความทุกข์ทรมานไม่ไหวจึงเลือกที่จะจบชีวิตของตนเอง ทีมยมทูตแผนกจัดการวิกฤตจึงต้องเร่งปฏิบัติการช่วยเหลือชีวิตผู้คนเหล่านั้นอย่างเร่งด่วนเรื่องนี้นอกจากสนุก ยังสะท้อนปัญหาชีวิต ปัญหาสังคม และสะท้อนเรื่องราวการฆ่าตัวตายของคนในประเทศเกาหลีที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ดูแล้วดราม่าร้องไห้น้ำตาไหลหนักหน่วงเลยค่ะ มีทั้งหมด 16 ตอน ดูได้ที่ Netflix นะคะตัวอย่างซีรีส์ TomorrowDestined With You (2023) - รักสุดวิสัย หัวใจไม่ให้เสี่ยงhttps://www.instagram.com/p/CvYjPimPBs8/?hl=thDestined With You ซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซี เล่าเรื่องราวของอีฮงโจ (รับบทโดย โจโบอา) หญิงสาวที่ได้ครอบครองหนังสือต้องห้ามตั้งแต่สมัยราชวงศ๋โชซอนที่ถูกผนึกไว้เมื่อ 300 ปีก่อน หนังสือนั้นเป็นหนังสือเวทมนตร์คาถาที่มีอยู่ด้วยกัน หลายบท ซึ่งคนที่นำหนังสือเล่มนี้มามอบให้เธอ คือ จางชินยู (รับบทโดย โรอุน SF9) โดยเขาเข้าใจว่าอีฮงโจคือเจ้าของหนังสือเล่มนั้น และเพราะเล่มนี้เองทำให้ชีวิตของพวกเขาต้องมาเกี่ยวพันกันอย่างปฏิเสธไม่ได้Destined With You รักสุดวิสัย หัวใจไม่เสี่ยง พึ่งออนแอร์มา 2 ตอน แต่บอกเลยว่าสนุก เนื้อหาเข้มข้นครบรส! มีทั้งคอมเมดี ตลกฮาโบ๊ะบ๊ะ ดราม่าดุเดือดจนน้ำตาไหล ไปจนถึงลึกลับซ่อนเร้นน่าค้นหา เรื่องนี้โรอึน SF9 รับบทเป็นทนายความสุดหล่อ รวย เคร่งขรึม แต่ปากแจ๋วสุดๆ เรียกว่าปากคอเราะร้ายสุดๆ ซีรีส์เรื่อง Destined With You ซับไทยที่ Netflix มีทั้งหมด 16 ตอน ไปดูกันได้เลยนะคะ สนุกมาก สนุกจริงๆ ค่าาาตัวอย่างซีรีส์ Destined With Youโรอุน 2023 มีผลงานให้ติดตามมากมายทั้ง  Destined With You  ที่กำลังออนแอร์ทาง Netflix  และเรื่องอื่นๆ อย่าง Takryu (TBA), Wedding Battle (KBS2, 2023), A Time Called You (Netflix, 2023), Race (Disney+ Hotstar, 2023) คอยติดตามผลงาน และเป็นกำลังใจให้กับโรอุน SF9 กันด้วยนะคะทุกคน เครดิตภาพหน้าปก : ภาพหน้าปก 1 /ภาพหน้าปก 2 / ภาพหน้าปก 3 / ภาพหน้าปก 4 เครดิตภาพในบทความ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 6 จาก IG 👉🏻 ewsbdi/ ภาพที่ 3  จาก Facebook MBC / ภาพที่ 4 จาก Facebook JTBC Drama  / ภาพที่ 5 จาก Facebook KBS 드라마 / ภาพที่ 7 จาก IG jtbcdramaเครดิตวิดีโอ : Video 1 / Video 2 / Video 3 จาก YouTube Netflix K-Content จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

บอร์ด VGI ไฟเขียวออก RO ให้ผถห.เดิม รองรับการเดินหน้าขยาย O2O อีโคซิสเต็ม
อ่าน

บอร์ด VGI ไฟเขียวออก RO ให้ผถห.เดิม รองรับการเดินหน้าขยาย O2O อีโคซิสเต็ม

ทันหุ้น - VGI เผยว่าบอร์ดมีมติอนุมัติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,583 ล้านหุ้น ราคาที่ตราไว้หุ้นละ 5.00 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 12,917 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RightsOffering) ในอัตราจัดสรร 10 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ควบคู่กับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (VGI-W3) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่ได้จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในอัตราจัดสรร 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งในด้านของงบการเงินบริษัทฯ ในช่วงเวลาความไม่แน่นอนนี้ ขณะเดียวกันเพื่อรองรับแผนการเดินหน้าขยายฐานธุรกิจในอีโคซิสเต็มของบริษัทฯ ทั้งนี้การทำธุรกรรมดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยปัจจุบันธุรกิจของ VGI มีทั้งหมด 3 แพลตฟอร์มธุรกิจที่อยู่ภายใต้กลยุทธ์ Offline-to-Online (O2O) โซลูชั่นส์ ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงินและธุรกิจโลจิสติกส์และการจัดจำหน่าย คุณเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI กล่าวว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จในการเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ 15% ในเจมาร์ท คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 6,257 ล้านบาท กล่าวได้ว่าดีลนี้คือผลงานชิ้นสำคัญของ VGI อีกหนึ่งโปรเจคที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มอีโคซิสเต็ม ในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่ายที่กำลังได้รับความนิยม และเพื่อสอดรับกับเทรนด์ตลาด e-Commerce จากทั่วโลกที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ ยังไม่หยุดยั้งต่อการหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อมาช่วยส่งเสริมระบบอีโคซิสเต็มของ VGI ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับยังคงมุ่งมั่นสร้างผลงานให้เต็มประสิทธิภาพภายใต้การคำนึงถึงการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ซึ่งยึดเป็นแนวของการดำเนินธุรกิจเสมอมา สำหรับเงินจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะนำไปใช้ในส่วนของการชำระคืนหนี้ และลงทุนในธุรกิจใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะสามารถแจ้งความคืบหน้าของการลงทุนต่างๆ ให้ทราบได้ภายในปีนี้ โดยมีความเชื่อมั่นว่าการปรับตัวที่รวดเร็วไม่หยุดพัฒนาและแสวงหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอของ VGI คือส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้บริษัทฯ มีพัฒนาการด้านรายได้และผลตอบแทนที่ดีได้อย่างมั่นคงต่อไปในอนาคตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน)

มารู้จัก คูคโยฮวาน(Koo Kyo Hwan) หรือ ฮันโฮยอล หัวหน้าหน่วย D.P. จากซีรีส์หน่วยล่าทหารหนีทัพ ซีซั่น 2 (2023)
อ่าน

มารู้จัก คูคโยฮวาน(Koo Kyo Hwan) หรือ ฮันโฮยอล หัวหน้าหน่วย D.P. จากซีรีส์หน่วยล่าทหารหนีทัพ ซีซั่น 2 (2023)

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนไหนใครได้ผลงานซีรีส์เรื่องดังอย่าง หน่วยล่าทหารหนีทัพ ซีซั่น 2 (2023) บ้างเอ่ยเชื่อเลยว่าวินาทีนี้ก็คงต้องยกให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานแนวแอคชั่นสุดดุเดือดมาแรงที่สุดในวินาทีนี้ วันนี้เลยจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักหนุ่มคูคโยฮวาน(Koo Kyo Hwan) หรือ ฮันโฮยอล หนุ่มหล่อที่มาขายทั้งความบู๊สะใจและความโบ๊ะบ๊ะกับคู่หูอย่างอันจุนโฮ แล้วเราจะมาล้วงลึกในทุกข้อสงสัยว่าพอหนุ่มคูคโยฮวานเป็นใครมาจากไหน แล้วที่ผ่านมามีผลงานการแสดงอะไรมาแล้วบ้าง เอาเป็นว่าไปตามดูกันเลยกับมารู้จัก คูคโยฮวาน(Koo Kyo Hwan) หรือ ฮันโฮยอล หัวหน้าหน่วย D.P. จากซีรีส์หน่วยล่าทหารหนีทัพ ซีซั่น 2 (2023)ชื่อ : คูคโยฮวาน(Koo Kyo Hwan)เกิดเมื่อ : วันที่ 14 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2525เกิดที่ : กรุงโซล ประเทศ เกาหลีใต้การศึกษา : จบการศึกษาจาก สถาบันศิลปะแห่งกรุงโซลจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงหนุ่มคูคโยฮวานเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการแสดงเป็นอย่างมาก เขาคนนี้มีความสามารถทางด้านการแสดงที่โดดเด่นและสามารถแสดงได้หลากหลายบทบาทเช่นกัน โดยผลงานการแสดงเรื่องแรกที่เป็นการแจ้งเกิดให้หลาย ๆ คนได้เริ่มรู้จักหนุ่มคูคโยฮวานคือผลงานภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ของเกาหลีใต้ปี 2009 เรื่อง “Castaway on the Moon” โดยผลงานการแสดงเรื่องนี้หนุ่มคูคโยฮวานได้รับบทเป็นพนังงานหนุ่ม ถึงแม้ในเรื่องนี้จะได้เห็นหนุ่มคูคโยฮวานในส่วนประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านั้น แต่ก็ทำให้เห็นแววการแสดงอย่างมากผลงานในวงการบันเทิงในปี 2016 ได้มีผลงานการแสดงเรื่อง Beaten Black and Blue ผลงานภาพยนตร์แนวดราม่า โดยในผลงานเรื่องนี้หนุ่มคูคโยฮวานรับบทเป็น กโยฮวาน เป็นชายหนุ่มที่ว่างงาน ราวกับว่าเขาใช้ชีวิตอย่างว่างเปล่าแต่ในความเป็นจริงแล้วเขาแอบฝั่งตัวกับการสืบค้นคดีต่าง ๆ ด้วยบทบาทในเรื่องนี้ที่โดดเด่นและฝีมือการแสดงที่ไม่ธรรมดาทำให้หนุ่มคูลโยฮวานได้รับรางวัล Busan International Film Festival แห่งปีอีกด้วย จากนั้นในปี 2022 หนุ่มคูคโยฮวานก็ได้มีผลงานการแสดงเรื่อง Monstrous โดยผลงานซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่แปลกประหลาดที่ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวเหนือการคาดหมายเกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้หนุ่มคูคโยฮวานรับบทเป็น จองกีฮุน ในเรื่องนี้ก็จะได้เห็นหนุ่มคูคโยฮวานในฐานะนักโบราญคดีหนุ่ม นอกจากผลงานทางด้านการแสดงจะสร้างชื่อเสียงให้หนุ่มคูคโยฮวานแล้วเขาคนนี้ยังเป็นผู้กำกับอีกด้วย เรียกได้ว่าเก่งครบจบในคนเดียวเลยบทบาท ฮันโฮยอล มาต่อกันในผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของหนุ่มคูคโยฮวานที่มารับบทเป็น ฮันโฮยอล หัวหน้าหน่วย D.P. เป็นอีกหนึ่งคาแรกเตอร์ที่มีความสำคัญที่ทำให้เนื้อเรื่องสนุกสนานเป็นอย่างมาก โดยในเรื่องจะได้เห็นทั้งในมุมทำงานที่ดุเดือด การต่อสู้ที่แอคชั่นมาเต็ม ดูแล้วก็ต้องชื่นชมในการแสดงของเขาคนนี้จริง ๆ แต่พอได้มาเข้าคู่หูโบ๊ะบ๊ะกับหนุ่มจองแฮอิน รับบทเป็น อันจุนโฮ ความบันเทิงที่เกิดขึ้นเลยต้องมาคูณ 10 เลย เพราะมีความเข้าขากันและม่วนจอยเป็นที่สุดไลฟ์สไตล์ของหนุ่มคูคฮวานเขาคนนี้จะมีความคูล ๆ เท่ ๆ การแต่งตัวก็มีความเท่ ๆ เนี๊ยบ ๆ หน่อย ในส่วนของการใช้ชีวิตนั้นก็เป็นคนง่าย ๆ ชอบออกกำลังและสนุกสนานกับการทำงานของเขาความประทับใจในเรื่องของความประทับใจอย่างแรกเลยก็คือผลงานการแสดง ผลงานการแสดงที่ออกมาในทุก ๆ เรื่องของหนุ่มคูคโยฮวานนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่สนุกสนานและเข้าถึงในทุกบทบาทตัวละครจริง ๆ เขาเป็นคนที่สามารถสร้างตัวละครนั้นออกมาใยเวอร์ชั่นของคูคโยฮวานได้ดีและเลิศปังทุกตัว นอกจากงานแสดงที่จะปังแล้ว การมาเป็นผู้กำกับก็ย่อมต้องทำงานหนักแบบคูณ10 แต่ผลงานที่ออกมาก็เป็นที่น่าประทับใจมาก ๆ เลยทีเดียว สุดท้ายนี้ก็ขอฝากผลงานการแสดงของหนุ่มคูคโยฮวานไว้ด้วยนะคะฝากผลงานทางทรูไอดีด้วยนะคะ6 ผลงานหนุ่มถานเจี้ยนซื่อ(Tan Jian Ci) หรือ เซี่ยงหลิ่ว พระรองสุดหล่อจากซีรีส์เรื่อง ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์มารู้จัก เซียวซุ่นเหยา(Xiao Shun Yao) หรือ ตี๋เฟยเซิง หนุ่มหล่อสุดเท่จากซีรีส์ หอดอกบัวลายมงคลมารู้จัก เว่ยต้าซวิน(Wei Daxun) หรือ เมิงเยี่ยนเฉิ่นหนุ่มเนิร์ดสุดหล่อจากซีรีส์เรื่อง กู้ภัยรักนักดับเพลิงมารู้จัก กีฮยอนอู(Ki Hyun Woo) หรือ ชเวจุน หัวหน้าแผนกสุดหล่อจากซีรีส์เรื่อง Jun Jun (2023)ภาพปก:netflixkr:1/2/3ภาพประกอบ:netflixkr:1/2/3/4/5/6จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

Koro Koro Buffet 199
อ่าน

Koro Koro Buffet 199

..... มาแล้วจ้า ...... สาวกสายชาบูบุฟเฟ่ต์ ราคาถูก ของพรีเมียม ที่สำคัญ "กุ้งไม่อั้นๆๆๆๆๆๆ" ใช่แล้ว กุ้งไม่อั้น และไม่จำกัดเวลาด้วยนะตัวเธอสำหรับใครที่อยู่แถว ปทุมธานี ต้องแวะมาเลย ชื่อร้าน "โคโระ โคโระ" Koro Koro ราคา 199 !!!! อย่ามัวอึ้ง เจ้เก็บภาพมาให้บางส่วนอยากบอกเลยว่า ไม่มีแล้วนะราคานี้ มาๆๆ เจ้จะอวดความฟินให้ดูน่ะ ********** ดูทางเข้าร้านซิ น่ารักมาก บรรยากาศฟินมาก แม่เสือสาว หุ่นบางร่างเล็ก เอวขอด ขาเรียวเป็นตะเกียบ มาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันได้เลย จัดไป>>>>>>>> พอเข้ามาในร้าน ก็จะพบกับพนักงานสุดน่ารัก(ลูกสาวเจ้าของร้าน) ที่ร้านจะมีราคาบุฟเฟ่ต์ 199 บาท (ไม่รวมน้ำ) มาๆๆๆๆ อวดเมนูกันก่อนเลยดีกว่า ขอเริ่มกันที่ ของทานเล่นกันก่อนเลยนะ พอดีวันนี้ที่มา เราสั่งมาแค่ 3 อย่าง (เพราะจุดประสงค์มากินอย่างอื่น) เจ้สั่งไก่ทอดชีส สำหรับเมนูนี้บอกเลยว่าไก่กรอบมากกกกกก ราดด้วยชีส อร่อยมากเลยแก /// และอีกจานที่สั่งมาไก่ทอดซอสเกาหลี อันนี้ก็ถือว่าเด็ด จะมีรสหวานนำมีเค็มติดปลายมานิด ชุ่มไปด้วยซอส อร่อยเลยละ /// อย่างที่3 อันนี้ยกนิ้วให้เลย เกี้ยวซ่า แซ่บมากกกกกกกก กัดแต่ละคำกรอบลั่นเลย ซ่าในปากมาก อร่อยแบบ อร๊อยอร่อย (เจ้สั่งมา2จาน) ชอบของทานเล่นร้านนี้มาก เขาทำทีละออเดอร์แบบว่าร้อนปากเกือบพองเลยละ - มาต่อด้วยน้ำซุป ช่วงนี้จะมีน้ำซุปเดียวเป็นน้ำซุปดำ ตั้งหม้อแล้วรองชิมเลย ได้รสชาดิและหอมมาก >> (วันนี้เจ้กับสามี มาบุกเพื่อกุ้งและสาหร่ายวากาเมะ เลยไม่ค่อยเน้นอย่างอื่นเท่าไหร่) - มาดูเรื่องส่วนประกอบบ้างดีกว่า เขาจะทะยอยมาใส่ลงตู้แช่ให้เรา ไม่วางตากอากาศให้ของเสียรสชาตินะจ๊ะ มีทั้ง หมู ไก่ เนื้อ หมึก กุ้ง ผัก สาหร่ายวากาเมะ ไข่ วุ้นเส้น ชีสสสสสส มาพร้อมตระกูลลูกชิ้นต่างๆ มีหลากหลายไส้มาก ๆ เช่น ไส้ชีส ไส้มันกุ้ง เขามีป้ายบอกหน้าตู้นะว่าไส้อะไรสีไหนบ้าง....ฟินนนน.... จะมีน้องๆคอยเติมให้ตลอด หากมองไม่เห็นอะไร บอกพนักงานเลยค่ะ ไม่เกิน 3 นาที ส่งถึงโต๊ะ และมีเติมตู้ด้วย - เลือกของกินเสร็จแล้ว ต้องมาดูน้ำจิ้มต่อ ที่นี่มีน้ำจิ้มทั้งหมด 3 รส น้ำจิ้มซีฟู้ด // น้ำจิ้มงา // น้ำจิ้มชาบู เจ้ชอบน้ำจิ้มซีฟู้ดเขามาอันดับหนึ่งเลย แม่นางโอ้ยยยยย แซ่บ แซ่บ มาก ๆ เผ็ด เปรี้ยวเค็ม มาครบ (แต่ก้อแอบเติมกระเทียมสับ+พริก)น่ะ รองลงมาเป็นน้ำจิ้มชาบู จากที่เคยเข้าร้านชาบูมา ไม่เคยเจอน้ำจิ้มแบบนี้เลย น้ำจิ้มไม่เหลวนะ เข้มข้นเหมือนเนื้อครีมเลย - พอทานของคาวเสร็จ ก็ต้องตามด้วยของหวานใช่มั้ยค่ะ นี่เลย ไอศครีม มีหลายรสมาก และไม่ใช่ ตาสีตาสา สั่งแบบตักมามั่วๆน่ะ เนื้อไอศครีมเขาบอกเลยว่าอร่อยมากกกกก ลงทุนขนาดนี้ กำไรจะเหลือเท่าไหร่นร้อออ มีแต่ของพรีเมียม ทั้งสด อร่อย ทั้งนั้นเลย เป็นไงกันบ้างนร้อออออ สำหรับร้านที่เจ้เอามาอวดวันนี้ เชื่อเจ้หรือยังว่าถูกและคุ้มมาก อ๊ะๆๆๆ ลืมบอกไปอีกเรื่องนึง ที่นี่เขามีสถานที่ออกกำลังกายด้วย เขามีสนามแบดมินตัน (ใหม่เอี่ยม) และมีสระว่ายน้ำ (ใหม่และสะอาดมาก) ด้วยน่ะ มาต่อกันเรื่อง มาตรการป้องกันโควิด >> ขอแจ้งเลยว่า ทุกคนที่เข้าร้านนี้ ต้องใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้านเท่านั้นนะคะ และจะมีจุดคัดกรองโดยเจ้าของร้าน จะยืนขอวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน พร้อมมีเจลล้างมือ ที่ประตูก่อนเข้าร้าน และจุดชำระเงิน ซึ่งทางร้านเขามีบริการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสที่ธนบัตรด้วยนะทุกคน เป็นไงกันบ้าง มาที่นี่แค่ที่เดียวมีครบเลย เจ้มาที่นี่หลายรอบมาก แต่ไม่ได้เน้นมาออกกำลังกายนะ เจ้มากิน 5555+ เวลาเปิด - ปิด ร้านชาบู : วันธรรมดา 13.00 - 23.00 น. // วันหยุด 11.30 - 23.00 น. ราคาสระว่ายน้ำ :ผู้ใหญ่ 100 //เด็ก 60 ไม่จำกัดเวลา (โทรมาจองคิวก่อนนะ เพราะเขาจะต้องจำกัดจำนวนคนการเข้าใช้บริการ) เช่าสนามแบทมินตัน : ชั่วโมงละ 140 บาท เปิดเวลา 14.00น.-21.30น (โทรมาจองล่วงหน้าด้วยนะ เผื่อเต็ม เพราะเขาจะต้องจำกัดจำนวนคนการเข้าใช้บริการจ้า) เบอร์โทรทางร้าน :093-1949898 หรือกดที่ลิงค์นี้เอานะจ๊ะhttps://www.facebook.com/korokorooffical แนะนำเส้นทางhttps://g.co/kgs/TtCr7N หมายเหตุ : ภาพทั้งหมดถ่ายโดย The Smile

โค้ชโย่งมั่น! โค้ช "Pro License" ยกระดับบอลไทย
อ่าน

โค้ชโย่งมั่น! โค้ช "Pro License" ยกระดับบอลไทย

วรวุธ ศรีมะฆะ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวถึง การเดินทางไปอบรม AFC Professional Coaching Diploma Course หลักสูตรที่สอง ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่ผ่านมา มั่นใจอบรมครั้งนี้ช่วยยกระดับวงการฟุตบอลไทย โดย การอบรมดังกล่าวมีโค้ชจำนวน 19 ท่าน ที่เดินทางไปอบรม ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา โค้ชโย่ง กล่าวว่า การอบรมหลักสูตรนี้ มันดีตรงที่เราได้พักที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ซึ่งอาคารที่พักกับสนามฟุตบอลนั้นอยู่ใกล้กันมาก และไม่ต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ และที่เป็นประโยชน์สุดๆก็คือ การได้เดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี รอบสุดท้ายด้วย เราได้ไปดูทั้งหมด 4 แมตช์ เห็นได้ชัดว่าฟุตบอลสมัยนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก ฟุตบอลระดับเยาวชนโลกที่เราได้เห็น ทำให้รู้ว่าเราต้องทำงานหนักมาก เราไม่ได้สนว่าใครจะเป็นแชมป์ แต่การเล่นฟุตบอลเยาวชนสมัยนี้ แทบไม่แตกต่างอะไรกับผู้ใหญ่เลย ส่วนการอบรมต่างๆ ในแต่ละหัวข้อก็มีความเข้มข้นสูง โดยเฉพาะภาคปฏิบัติ ที่ได้เด็กเกาหลีใต้มาเป็นเด็กทดลอง ซึ่งเด็กทุกคนต่างมีความมุ่งมั่น นอกจากนี้ยังได้ไปดูสโมสร ชนบุค มอเตอร์ส ซึ่งเป็นสโมสรที่เพียบพร้อมมาก ทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ และอาจจะดีกว่าสโมสรอาชีพบางทีมในยุโรป การไปเรียนหลักสูตรนี้ก็มีหลายเรื่องทั้งเรื่องของทัศนคติ เรื่องของระบบการเล่นต่างๆ และทุกอย่างมันละเอียดมาก นอกจากนี้กลุ่มผู้อบรมก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง ก็มีเวลาคุยกันเยอะมาก และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเยอะมาก โดยเฉพาะแนวทางการพัฒนาฟุตบอลไทย เราพยายามหาข้อดีและข้อด้อยของแต่ละสโมสรมาพูดคุยกัน เพื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาต่างๆ ว่าเราจะนำความรู้จากเกาหลีใต้ที่ได้มาก นำกลับมาใช้พัฒนาฟุตบอลไทยได้หรือไม่ โชคดีที่เราได้มาเห็นที่นี่ เราได้เรียนรู้ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ซึ่งมันดีกว่าฟังจากคนที่ไปมาเล่า นอกจากนี้มีวันหนึ่งเราได้ดูทีมชาติเกาหลีใต้ลงฝึกซ้อมด้วย แม้จะเป็นเวลาแค่วันเดียว แต่เราก็ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนักเตะเขาไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ค้าแข้งในยุโรป หรือคนที่เล่นในลีกในประเทศ ทุกคนต่างมีความต้องการทำเพื่อประเทศชาติ ทุกคนดูรวมกันเป็นหนึ่ง ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่อยากให้ฟุตบอลไทยเป็นเหมือนฟุตบอลเกาหลีใต้ก็คือ เรื่องของศูนย์ฝึก เพราะที่เกาหลีใต้เขาชัดเจนมาก ศูนย์ฝึกฟุตบอลของเกาหลีใต้นั้นพัฒนามาอย่างยาวนาน เขาเติมขึ้นมาเรื่อยๆ ระบบการขุดดิน การรดน้ำ ต่างๆ ที่เป็นรายละเอียด รวมถึงเรื่องอาหาร เขามีนักโภชนาการ ซึ่งสำคัญมาก มีคนทำอาหารที่รู้ว่านักกีฬาควรรับประทานอาหาร กินมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวันซึ่งน่าจะนำมาปรับในฟุตบอลไทย การอบรมครั้งนี้น่าจะเป็นการเพิ่มความกระตือรือร้นในตัวผม เพราะฟุตบอลเกาหลีเขาจริงจังมาก เพราะเขาคือชาติระดับท็อป บุคลากรในแต่ละแผนกก็เยอะมาก เขาทำอะไรแต่ละอย่างต้องวางแผนกันอย่างละเอียด เขาสามารถรวมโค้ชทุกคนในประเทศเพื่อมาพูดคุยกัน วางแผนกัน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผมคิดว่าสิ่งที่แตกต่างคือเรื่องของนักเตะ เราต้องยอมรับว่านักเตะเกาหลีใต้นั้นเหนือกว่านักเตะไทย โดยเฉพาะเรื่องระเบียบวินัย ความจริงจังกับอาชีพฟุตบอล ผมว่าการอบรมหลักสูตร AFC Professional Coaching Diploma Course มันสำคัญมาก เพราะประเทศไทยยังขาดโค้ชที่รู้จริงอีกเยอะ การสอนฟุตบอลไม่ใช่แค่การสอนจับบอล, การสอนส่งบอล เราต้องสอนนักเตะทั้งในและนอกสนาม วิธีคิดเพื่อก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ สิ่งที่เราเรียนมา เราไม่ได้เรียนว่าเราต้องเป็นโค้ชที่ดีอย่างไร แต่เขาสอนทุกอย่างในการจัดการชีวิตให้นักฟุตบอลคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่ง ว่าเขาควรทำอย่างไรถึงจะพัฒนาขึ้นมาเป็นนักฟุตบอล ทุกอย่างที่ได้เรียนบางทีอาจจะไม่ใช่แค่ฟุตบอลอย่างเดียว แต่มันคือทุกอย่างที่อยู่รอบๆกีฬาฟุตบอล ผมมองว่าการประดิษฐ์โค้ชจำนวนมาก และมีคุณภาพควบคู่กันไป จะยิ่งยกระดับฟุตบอลไทยให้ดีขึ้นต่อไป สำหรับการอบรมหลักสูตรที่สาม AFC Professional Coaching Diploma Course จะเป็นเรื่องของการทำปริญญานิพนธ์ ก่อนที่จะเรียนหลักสูตรที่สี่รวมกันอีกครั้งในช่วงเดือน มกราคม 2561 ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport Trueid หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid

Infinix ส่ง GT 20 Pro ร่วมในการแข่งขัน Jaturamitr Esport
อ่าน

Infinix ส่ง GT 20 Pro ร่วมในการแข่งขัน Jaturamitr Esport

Infinix สนับสนุนวงการอีสปอร์ตไทย ส่ง GT 20 Pro ร่วมในการแข่ง Jaturamitr Esport ศึกแห่งศักดิ์ศรี ของเหล่านักสู้จาก 4 โรงเรียนเครือจตุรมิตร กรุงเทพฯ 24 กรกฎาคม 2567 - อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกที่คุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เดินหน้าตอกย้ำความแรงของสุดยอดเกมมิ่งสมาร์ทโฟน Infinix GT 20 Pro ต่อเนื่อง ล่าสุด! อินฟินิกซ์ร่วมเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ของศึก RoV Jaturamitr Esports เกมการแข่งขันอีสปอร์ต ครั้งยิ่งใหญ่ ระดับมัธยมศึกษาของเหล่านักเรียนจาก 4 โรงเรียนในเครือจตุรมิตร ประกอบด้วย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นับเป็นหนึ่งในสนามการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ที่จะช่วยส่งเสริมความสร้างสรรค์ และเป็นพื้นที่ในการฝึกทักษะ ให้กับเหล่าเกมเมอร์รุ่นใหม่ เพื่อเป็นก้าวแรกบนเส้นทางอีสปอร์ต ก่อนก้าวสู่เส้นทางระดับมืออาชีพในอนาคต นอกจากนี้ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จะได้ใช้งาน Infinix GT 20 Pro ในการแข่งขันเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ความลื่นไหลเหนือระดับ ของสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เพียงหนึ่งเดียว ที่สามารถรองรับอัตราเฟรมเรทในการเล่นเกม Garena RoV ได้ถึง 120FPS และเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ในการแข่งขัน RoV Pro League 2024 Winter อย่างเป็นทางการอีกด้วย ร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ ของศึกการแข่งขันอีสปอร์ตแห่งศักดิ์ศรี ของเหล่านักสู้ระดับมัธยมศึกษา ในการเฟ้นหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว ที่จะมาท้าชิงเงินรางวัล และของรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 80,000 บาท ตลอดจนเตรียมพบกับความลื่นไหลขั้นเทพของสมาร์ทโฟน Infinix GT 20 Pro ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ณ True 5G PRO HUB ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ สามารถติดตามรายละเอียดการแข่งขัน และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/InfinixMobileThailand/ บทความที่คุณอาจสนใจ ส่องสเปค นาฬิกา Rolex Daytona รุ่นพิเศษ Kakha Kaladze อดีตแข้งดัง AC Milan TAG Heuer เผยโฉมนาฬิกา TAG Heuer Carrera Chronograph X Porsche 963 6 นาฬิกาผู้ชายแบรนด์หรู ยอดนิยม ปี 2024 รวมนาฬิกาสาย Nato ยี่ห้อไหนดี สวยทนลุย เปลี่ยนลุคได้บ่อย ราคาเท่าไหร่ รวมนาฬิกา Luxury Smart Watch สำหรับผู้ชาย สมาร์ทวอทช์หรูหราสุดล้ำ ยี่ห้อไหนดี ราคาเท่าไหร่ นาฬิกา SEIKO ผู้ชาย ราคาไม่เกิน 30,000 บาท รุ่นไหนดี 2024 นาฬิกาคาสิโอผู้ชาย ราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นไหนดี นาฬิกาสายเหล็ก แบรนด์ CASIO นาฬิกาผู้ชาย ราคาไม่เกิน 2,000 บาท รุ่นไหนดี รวมนาฬิกา Rado ผู้ชายปี 2024 รุ่นไหนดี ดีไซน์สวย ราคาเท่าไหร่ -------------------------------------------------

สุดเร้าใจ!! ระเบิดศึก eFootball Thailand Pro League 2023
อ่าน

สุดเร้าใจ!! ระเบิดศึก eFootball Thailand Pro League 2023

eFootball Thailand Pro League 2023 กดให้ยับ การแข่งขันอีสปอร์ตลีกอาชีพของเกมส์ eFootball ที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในประเทศไทย การแข่งขัน eFootball Thailand Pro League 2023 เป็นการแข่งขันอีสปอร์ตเกมส์ eFootball ของนักกีฬาอีสปอร์ตอาชีพจาก 16 ทีมฟุตบอลไทยลีก นำโดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี , บีจี พียู, การท่าเรือไทย เอฟซี เป็นต้น โดยในการแข่งขันจะใช้ทีมไทยลีกทั้ง 16 ทีมในการแข่งขัน และแข่งขันกันในแพลตฟอร์ม Console และ Mobile ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นสองรอบ คือ รอบออนไลน์ และ รอบออฟไลน์ ในส่วนของรอบออนไลน์นั้นจัดการแข่งขันในสตูดิโอแบบปิด แข่งขันกันทุกวันเสารและอาทิตย์ เวลา 11:00-15:00 ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ส่วนของรอบออฟไลน์นั้น จะเป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายของ 6 ทีมที่มีผลการแข่งขันที่ดีที่สุดในรอบออนไลน์ โดยจะแข่งขันในวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2566 ที่สยามพารากอน ในการแข่งขันครั้งนี้ รับชมการถ่ายทอดสดทุกนัดการแข่งขัน ได้ที่แอปทรูไอดี ช่อง ID Station : https://ttid.co/KupK/crsbmc3u ทั้งทางเวปไซต์, แอปพลิเคชั่น และ กล่อง TrueID TV ช่อง 894 ดูแล้วรับ 5 ทรูพอยท์ รวมถึงช่องทาง Facebook แฟนเพจ E-League Thailand, Youtube ช่อง E-League Thailand, Tiktok ช่อง E-League Thailand. ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน จำกัด, บริษัท แอลจี อิเล็คทรอนิกส์ ประเทศไทย, บริษัท อินฟินิต สปอร์ต จำกัด และ บริษัท เทอร์มอลเทค เทคโนโลยี ประเทศไทย ------------------------------------------------- วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี! รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ คลิกที่นี่ อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณคลิกเลย!!หรือ กด *301*32# โทรออก หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด*301*36#โทรออก

TSS The Super Series ผนึกกำลัง SRO ร่วมขับเคลื่อนมอเตอร์สปอร์ต
อ่าน

TSS The Super Series ผนึกกำลัง SRO ร่วมขับเคลื่อนมอเตอร์สปอร์ต

TSS The Super Series และ SRO ผนึกกำลัง ร่วมขับเคลื่อนมอเตอร์สปอร์ตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ระดับสากล กรุงเทพฯ ประเทศไทย 27 มีนาคม 2568 TSS The Super Series ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับ SRO Motorsports Group เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมกัน โดยมีเป้าหมายในการยกระดับการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีมาตรฐานระดับนานาชาติ การประกาศความร่วมมือดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2568 และปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการด้านกฎหมาย เพื่อวางรากฐานสำหรับการพัฒนาระยะยาวในอนาคต เสริมสร้างการแข่งขันด้วยมาตรฐานระดับโลก TSS The Super Series ได้รับการยอมรับในฐานะรายการแข่งขันรถยนต์ประเภท GT ระดับแนวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดึงดูดนักแข่งชั้นนำทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ความร่วมมือกับ SRO ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการแข่งขัน ด้วยมาตรฐานทางเทคนิคและระบบจัดการแข่งขันที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก นำระบบ Balance of Performance มาใช้ในฤดูกาล 2025 หนึ่งในองค์ประกอบหลักของความร่วมมือคือการนำ Balance of Performance (BoP) ของ SRO มาใช้ในรุ่น TSS Supercar GT3 และ GT4 โดย BoP นี้จะช่วยควบคุมสมรรถนะของรถแต่ละคันให้มีความสมดุล เพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่ยุติธรรมและยกระดับความน่าเชื่อถือของรายการในระดับสากลนอกจากนี้ ฤดูกาล 2025 จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิคเพิ่มเติม โดย Pirelli จะเข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องยางอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขัน ซึ่งสอดคล้องกับรายการอื่นภายใต้การจัดของ SRO ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย อาทิ รายการ GT World Challenge powered by AWS, รายการ GT2 European Series powered by Pirelli และรายการ GT4 ทั่วโลก มุ่งหน้าสู่การยอมรับในระดับโลก TSS The Super Series ฤดูกาล 2025 จะยังคงจัดการแข่งขันในสนามหลักของประเทศไทย ได้แก่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และสนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต พร้อมทั้งมีการแข่งขันแบบสองครั้งติดกันที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น รายการแข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดพร้อมคำบรรยายในหลายภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน และเยอรมัน ทั้งทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ Stphane Ratel, ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ SRO Motorsports Group กล่าวว่า : ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เริ่มต้นความร่วมมือครั้งใหม่นี้กับ TSS The Super Series เรา (SRO) ได้สร้างฐานที่แข็งแกร่งในเอเชียในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และข้อตกลงนี้จะช่วยเสริมสถานะของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น เรารู้สึกยินดีที่ TSS จะนำ BoP ของเราไปใช้ และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นการร่วมมือกับ Pirelli ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ SRO ทำงานด้วยมาอย่างยาวนาน ผมมั่นใจว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งการเติบโตที่น่าตื่นเต้นสำหรับ TSS นายสนธยา คุณปลื้ม, ประธาน TSS กล่าวว่า : การเป็นพันธมิตรกับ SRO ถือเป็นก้าวสำคัญของ TSS The Super Series แม้ว่าเราจะมีบทบาทในระดับนานาชาติแล้ว แต่ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมแพลตฟอร์มการแข่งขันให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยมาตรฐานระดับโลกของ SRO ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค และ BoP ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว รวมถึงการร่วมมือกับ Pirelli ยิ่งไปกว่านั้น ความร่วมมือนี้ยังเปิดโอกาสให้นักแข่งจากภูมิภาคสามารถเติบโตสู่เวทีโลก และเราจะร่วมกันพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืน เปิดฤดูกาล 2025 อย่างยิ่งใหญ่ด้วย TSS Test Days ฤดูกาลใหม่ของ TSS The Super Series 2025 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการทดสอบสนาม 2 วัน ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมีรถแข่งมากถึง 106 คัน จากรายการ TSS The Super Series by B-Quik และ B-Quik Thailand Super Series เข้าร่วมการทดสอบ มีรถแข่งจาก 14 แบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำของโลก อาทิ Aston Martin, Audi, Chevrolet, Ferrari, Ford, Honda, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, Porsche, Suzuki และ Toyota อีกทั้งแฟนๆมอเตอร์สปอร์ตยังมีโอกาสได้เห็นการลงสนามเป็นครั้งแรกของ Ferrari 296 GT3 และ Porsche 911 GT3 R (Type 992) ในการทดสอบครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีนักแข่งระดับตำนานเข้าร่วมทำการทดสอบรถ อาทิ Markus Winkelhock (อดีตนักแข่ง F1), Earl Bamber, Edoardo Mortara และ Pierre Kaffer ในระหว่างการทดสอบนี้ Gianni Morbidelli อดีตนักขับ F1 ชาวอิตาเลียน ยังได้ขับ Ford RR Daytime GT Coupe รุ่นต้นแบบในคลาส GTC อีกด้วยก้าวต่อไป ด้วยแรงผลักดันที่ไม่เคยมีมาก่อน การร่วมมือระหว่าง TSS และ SRO กำลังจะผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ไปสู่ระดับใหม่อย่างแท้จริง นี่คือการผสานพลังระหว่างจุดแข็งของ TSS และความเชี่ยวชาญระดับโลกของ SRO เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับฤดูกาลแห่งความมันส์ที่กำลังจะมาถึง!ปฏิทินการแข่งขัน TSS The Super Series 2025 2225 พฤษภาคม 2568 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต 26 กรกฎาคม 2568 สนามบางแสน สตรีท เซอร์กิต 810 สิงหาคม 2568 เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต 1921 กันยายน 2568 เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต 31 ตุลาคม 2 พฤศจิกายน 2568 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แฟน ๆ จากทั่วโลกสามารถติดตามความเร้าใจได้ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไทยและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ พร้อมคำบรรยายภาษาไทย อังกฤษ จีน และเยอรมัน สำหรับนักแข่งและทีมที่สนใจ ตอนนี้ยังพอมีกริดว่างอยู่! อย่าพลาดโอกาสที่จะเข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ ท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่: info@racingspirit.co.th คาดเข็มขัดให้แน่น แล้วเตรียมตัวสู่ฤดูกาลที่คุณจะไม่มีวันลืม การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว! ข่าวที่เกี่ยวข้อง ตารางคะแนน F1 ฟอร์มูล่าวัน 2025 อันดับนักแข่ง เอฟวัน อัปเดตล่าสุด ตารางแข่ง Formula 1 ปี 2025 ปฏิทินการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน แข่งเดือนไหน โปรแกรม โมโตจีพี 2025 ลิ้งก์ดูสด MotoGP 2025 ผลโมโต จีพี

รู้จักปะ "Kao Kao Coffee" @บึงหนองโคตร
อ่าน

รู้จักปะ "Kao Kao Coffee" @บึงหนองโคตร

    สวัสดี ครั้งนี้ฉันจะมารีวิวร้านกาแฟอีกเช่นเคย เป็นร้านที่ฉันเคยไปนั่งหลายครั้งเลย ไม่ใช่คอกาแฟ แต่เพราะหลาย ๆ เหตุผล ไม่ว่าจะทั้งบรรยากาศ ทั้งรสชาติเครื่องดื่มต่าง ๆ การบริการ ความสะดวกสบายของที่นั่ง หลาย ๆ เหตุผลที่อาจจะบอกได้ไม่เหมือนกันทุกครั้ง แต่ก็ชอบที่จะไปนั่งร้านกาแฟบ่อย ๆ เหมือนกันนะ     ร้านนี้ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีร้านดี ๆ แบบนี้อยู่แถว ๆ บึงหนองโคตร มีคนแนะนำมาและเขาพามา เจอครั้งแรกก็รู้สึกชอบเลย ชอบร้านกาแฟนะ เป็นร้านที่เหมาะมานั่งทำงานหรือคุยงานมาก ๆ มีปลั๊กสำหรับเสียบชาร์จเกือบจะทุกโต๊ะ มี 2 โซน จะมีโซนห้องแอร์และโซนด้านนอก อากาศธรรมชาติ                                                                                             "Kao Kao Coffee" @บึงหนองโคตร พิกัด : Kao Kao Coffee บึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ราคาเริ่มต้น 45฿                        เข้ามาภายในร้าน คือ แบบกลิ่นกาแฟอบอวนชวนหลงใหล แบบแค่กลิ่นก็ดื่มด่ำแล้ว ไม่ใช่คอกาแฟนะ แต่กลิ่นมันหอมมาก ๆ ฉันก็สั่งเครื่องดื่มก่อน แล้วค่อยหาที่นั่ง สั่งเสร็จก็หาที่นั่งกัน ปกติจะนั่งด้านในกว่านี้ ครั้งก่อน ๆ มานั่งทำงาน แต่ครั้งนี้มานั่งชิล ๆ ฉันชอบที่นั่งที่นี่มาก ส่วนมากโต๊ะในร้านนี้จะมีเบาะรองนั่ง หรือไม่ก็เป็นโซฟานั่งสบาย ๆ เลย แอร์เย็นเฉียบเหมือนเดิมร้านนี้ :D นั่งรอไปเรื่อย ๆ เดินไปดูกาแฟที่ทางร้านวางโชว์ให้ชมและดมกลิ่น กาแฟแต่ละสายพันธุ์กลิ่นก็ต่างกันดู ๆ ไปไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก 555  รอเครื่องดื่มไม่นานก็ได้แล้ว พนักงานบริการดี       เมนูที่ฉันสั่ง Iced Dark Cocoa ราคา 65฿ และอีกแก้ว ( ฝั่งตรงข้าม ) Iced Espresso ราคา 55฿        ราคาก็สูงกว่าร้านที่เคยไปนิด ๆ แต่ไม่เกินแก้วละร้อยบาท มาพูดกันที่รสชาติกันบ้าง Iced Dark Cocoa เนี่ย เข้มมาก ๆ ก็ Dark อะเนอะ อยากให้ละมุนกว่านี้นิดนึง ไม่หวานอันนี้ถูกใจ ใครชอบสายเข้มมาก ๆ น่าจะถูกใจ ส่วน Iced Espresso ไม่รู้นะยังไง ถามคนดื่มเขาบอกแค่ว่า อื้มก็ใช้ได้ เข้มดี ได้ความเห็นแค่นี้จริง ๆ ขออภัยด้วยนะ ^O^      เมนูเครื่องดื่มของทางร้าน ก็จะเป็นแบบปกติไม่มีซิกเนเจอร์ แต่รสชาติน่าจะแตกต่างกับร้านอื่นแน่นอน     ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะ ดีใจที่เข้ามาชมรีวิว แชร์ร้านกาแฟ ลองไปดูนะ ไม่ผิดหวังแน่ ๆ จะได้รู้จักไง ที่บอกว่า "รู้จักปะ เก๋า เก๋า" ต้องลองไปนั่งนะ แล้วจะรู้ อิอิ :D เวลาเปิด-ปิด : 08.00 น. - 17.00 น. ติดตามทางร้านได้ที่ : คลิกเลย ขอบคุณภาพหน้าปก : [1] [2] [3] ขอบคุณภาพประกอบ : [ภาพประกอบที่ 3] [ภาพประกอบที่ 4] ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Photos By FREEZER. : [ภาพประกอบที่ 1,2และ5]              

เทียบ HONOR 400 Pro vs HONOR 200 Pro อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ HONOR 400 Pro vs HONOR 200 Pro อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีแฟน HONOR ทุกท่านครับ หลังจากได้เปิดตัว HONOR 400 Series เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใช่ครับ วันนี้จะเทียบ HONOR 400 Pro กับ HONOR 200 Pro เราหาคำตอบกันดีกว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง https://www.facebook.com/share/v/1CQfNBHzcV/ การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบมาเริ่มที่ดีไซน์ HONOR 400 Pro จะดีไซน์แห่งโลกอนาคตพร้อม Multi-Angle อันเป็นเอกลักษณ์ในรูปทรงเพรียวบาง ที่สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น เบา บาง จับถนัดมือ จนวางไม่ลง ขนาด 160.8 × 76.1 × 8.1 มม. น้ำหนัก 205 กรัม มีสีเครื่องให้เลือก 2 สี Lunar Grey และ Midnight Black สามารถกันน้ำกันฝุ่น IP68IP69 ในขณะที่ HONOR 200 Pro ดีไซน์หรูหราดุจดั่งชายฝั่งทะเล จอโค้งอย่างพิถีพิถัน โมดูลกล้องแบบวงรี Art Nouveau Mirror ตัดกับลายฝาหลังแบบคลื่น ที่เปรียบเสมือนมีเกาะอยู่บนมือถือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ขนาด 163.3 × 75.2 × 8.2 มม. น้ำหนัก 199 กรัม มีสีเครื่องให้เลือก 2 สี Ocean Cyan และ Black สามารถกันน้ำกันฝุ่น IP65 หน้าจอ HONOR 400 Pro เป็นจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2800×1280 (460PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 5000nits ในขณะที่ HONOR 200 Pro เป็นจอโค้ง 3D OLED HONOR Eye Comfrot Display ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2700×1224 (437PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 4000nits ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ HONOR 400 Pro เป็นชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen3 ความเร็ว CPU 3.0GHz ส่วน GPU Adreno 750 ส่วน RAM/ROM  12GB/512GB และระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0 ในขณะที่ HONOR 200 Pro เป็นชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8s Gen3 ความเร็ว CPU 3.0GHz ส่วน GPU Adreno 735 ส่วน RAM/ROM 12GB/512GB และระบบปฏิบัติการ MagicOS 8.0 กล้อง HONOR 400 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 200MP พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50 พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 12MP และกล้องหน้า 50MP ส่วนบันทึกวิดีโอกล้องหลังและกล้องหน้าได้ 4K 30fps มีฟีเจอร์พิเศษ HONOR 400 Pro เป็น Advance AI ที่มีหลายโหมดในการช่วยถ่ายภาพและปรับแต่งภาพ เช่น Super Zoom, Remove Reflection และ Image to Video เป็นต้น ในขณะที่ HONOR 200 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก Portrait 50MP พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50 พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide Marco 12MP และกล้องหน้า 50MP ส่วนบันทึกวิดีโอกล้องหลังและกล้องหน้าได้ 4K 30fps มีฟีเจอร์พิเศษ HONOR 200 Pro จะมีโหมด Harcout Mode เป็นโหมดปรับแต่งภาพตามสไตล์ Studio Harcourt https://www.facebook.com/share/v/18vEsEHMBT/ การเชื่อมต่อ HONOR 40O Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0 , IR Blaster และ Wi-Fi 7 ในขณะที่ HONOR 200 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 2.0 , IR Blaster และ Wi-Fi 6 แบตเตอรี่ HONOR 400 Pro ความจุแบตเตอรี่ 6000mAh ชาร์จไว 100W และชาร์จไร้สาย 50W ในขณะที่ HONOR 200 Pro ความจุแบตเตอรี่ 5200mAh ชาร์จไว 100W และชาร์จไร้สาย 66W ราคา HONOR 400 Pro 12GB/512GB ราคา 19,990 บาท HONOR 200 Pro (ราคา ณ ปัจจุบัน) 12GB/512GB ราคา 16,990 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี HONOR 400 Pro และ HONOR 200 Pro เป็นมือถือที่ดีและกล้องดีทั้งคู่ และการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆแล้ว มันขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้ โดยส่วนตัวผมแนะนำ HONOR 400 Pro อย่างแรกกันน้ำกันฝุ่นสูง อย่างที่สองประสิทธิภาพชิปแรงกว่า อย่างที่สามกล้องที่ดีขึ้น อย่างที่สี่ฟีเจอร์ AI ที่ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ และสุดท้ายแบตเยอะกว่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและตามงบประมาณของผู้ใช้ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ HONOR 400 Series สามารถสั่งจองล่วงหน้า พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ HONOR ได้แล้ว สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV  เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : HONOR Thailand : HONOR 400 Pro และ HONOR 200 Pro ภาพประกอบจาก Facebook : HONOR Thailand : 1 , 2  วิดีโอจาก Facebook : HONOR Thailand : 1 , 2   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

Seiko Presage Classic Ai-Iro Japan Blue สองความงามแห่งสีน้ำเงินในแบบญี่ปุ่น
อ่าน

Seiko Presage Classic Ai-Iro Japan Blue สองความงามแห่งสีน้ำเงินในแบบญี่ปุ่น

Seiko ยืนยันจุดยืนในฐานะผู้สร้างเรือนเวลาที่เชื่อมโยงทั้งความงามเชิงศิลป์และความเที่ยงตรงของวิศวกรรมการผลิต ด้วยการเปิดตัว Seiko Presage Classic Ai-Iro Japan Blue ซึ่งมาพร้อมกันสองเวอร์ชัน ได้แก่ รุ่น Classic Closed Dial และรุ่น Classic Open Heart เพื่อถ่ายทอดความงามของโทนสีน้ำเงินเข้มที่เรียกว่า Ai-iro หรือ Japan Blue สีน้ำเงินที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะ Ai-Iro สีที่สะท้อนจิตวิญญาณของญี่ปุ่น Ai-Iro หรือ Japan Blue ไม่ได้เป็นเพียงเฉดสีน้ำเงินธรรมดา หากแต่เป็นสีที่สะท้อนตัวตนของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (16031868) เมื่อสีย้อมครามถูกนำมาใช้แพร่หลายในงานศิลปะและสิ่งทอจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความงามเรียบง่าย Samurai ในยุคนั้นยังถือว่า Ai-Iro เป็นสีแห่งความโชคดีและความแข็งแกร่ง ต่อมาในยุคเมจิ (18681912) เมื่อญี่ปุ่นเปิดประเทศและต้อนรับชาวต่างชาติ เมืองใหญ่ทั้งหลายเต็มไปด้วยสีน้ำเงินเข้มจนผู้มาเยือนจากตะวันตกขนานนามว่า Japan Blue สีนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นโทนสี แต่ยังกลายเป็นภาพจำของทั้งชาติ Seiko จึงเลือกที่จะหยิบความหมายเหล่านี้กลับมาเล่าเรื่องใน Presage Classic Ai-Iro Japan Blue เพื่อเชื่อมโยงผู้สวมใส่กับประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง งานออกแบบและรายละเอียดตัวเรือน ทั้งสองรุ่นในคอลเลกชัน Ai-Iro ใช้ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 40.2 มิลลิเมตร ความหนาประมาณ 13 มิลลิเมตร ระยะ lug-to-lug 46 มิลลิเมตร สัดส่วนสมดุลพอดีกับข้อมือส่วนใหญ่ ออกแบบให้โค้งมนและกลมกลืนตามแบบฉบับคลาสสิก ขอบตัวเรือนลาดเอียงอย่างนุ่มนวล ขัดเงาสลับปัดด้านเพื่อให้เกิดมิติของแสงเงา ครอบด้วยกระจกแซฟไฟร์ทรงโค้งคู่ เคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านใน ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดหน้าปัดได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง เม็ดมะยมตำแหน่ง 3 นาฬิกามีลายเซาะเพื่อหมุนได้ง่าย ทั้งหมดนี้ทำให้นาฬิกาดูหรูหราและทันสมัย แต่ยังแฝงเสน่ห์วินเทจไว้ในรายละเอียด หน้าปัด Ai-Iro Japan Blue หัวใจของคอลเลกชันนี้คือหน้าปัดสีน้ำเงิน Ai-Iro ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ แต่ลงตัว Presage Classic Closed Dial หน้าปัดเน้นความเรียบหรู แสดงเวลาและวันที่ พื้นผิวมีลายเท็กซ์เจอร์ละเอียดแบบผ้าไหมญี่ปุ่น และใช้เอฟเฟกต์ไล่เฉดสีเล็กน้อย เมื่อกระทบกับแสงจะเห็นประกายระยิบคล้ายหิน Aventurine ให้มิติที่หรูหราโดยไม่หวือหวาเกินไป Presage Classic Open Heartตำแหน่งวันที่ถูกแทนด้วยหน้าต่าง Open Heart บริเวณ 9 นาฬิกา เปิดให้เห็นการทำงานของบาลานซ์วีล เพิ่มลูกเล่นทางวิศวกรรมให้ผู้สวมได้สัมผัสความเคลื่อนไหวของกลไกโดยตรง อีกทั้งยังมีหน้าปัดย่อย 24 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เพิ่มการใช้งานที่แตกต่าง ทั้งสองรุ่นใช้หลักชั่วโมงแบบแท่งยาว พร้อมเข็มทรงเหลี่ยมคมที่ผ่านการขัดเงาเพื่อสะท้อนแสงได้อย่างชัดเจน กลไกที่แม่นยำและไว้ใจได้ แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะมีหน้าปัดและฟังก์ชันต่างกัน แต่พื้นฐานกลไกมาจากตระกูลเดียวกัน ดังนี้ SPB525 Closed Dial ใช้กลไก Calibre 6R55 อัตโนมัติ สำรองพลังงานได้ 72 ชั่วโมง SPB527 Open Heart ขับเคลื่อนด้วย Calibre 6R5J ซึ่งเป็นเวอร์ชันดัดแปลงจาก 6R55 แต่ยังคงคุณสมบัติหลักเหมือนกัน ทั้งความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และความแม่นยำ -15/+25 วินาทีต่อวัน ทั้งสองกลไกบรรจุทับทิม 24 เม็ด พร้อมฟังก์ชันหยุดเข็มวินาทีเพื่อความแม่นยำขณะตั้งเวลา และสามารถไขลานได้ทั้งอัตโนมัติและด้วยมือ สายนาฬิกาและการสวมใส่ ดีไซน์ของสายได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกายุค 1970 ที่นิยมสายโลหะหลายแถว แต่ถูกปรับให้เข้ากับมาตรฐานการสวมใส่ในยุคปัจจุบัน จึงผสมผสานความวินเทจกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทั้งคู่มาพร้อมสายสแตนเลสแบบ 7 แถว โดยมีการขัดสลับด้านและเงาให้เกิดมิติในแต่ละข้อ ข้อละเพียง 6 มิลลิเมตร ทำให้สายมีความยืดหยุ่นสูง รับกับข้อมือได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปิดด้วยบานพับแบบบัตเตอร์ฟลาย พร้อมปุ่มกดปลดล็อกเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย ข้อมูลเพิ่มเติม รุ่น: Seiko Presage Classic Ai-Iro Japan Blue (SPB525) และ Seiko Presage Classic Open Heart Ai-Iro Japan Blue (SPB527) ตัวเรือน: สแตนเลสสตีล 40.2 มม. หนา 13 มม. ระยะ lug-to-lug 46 มม. กระจก: แซฟไฟร์ทรงโค้งคู่ เคลือบกันแสงสะท้อน หน้าปัด: สีน้ำเงิน Ai-Iro Japan Blue กันน้ำ: 100 เมตร กลไก: Calibre 6R55 (SPB525), Calibre 6R5J (SPB527) อัตโนมัติ ความถี่: 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง ฟังก์ชัน: ชั่วโมง นาที วินาที วันที่ (SPB525), ชั่วโมง นาที วินาที Open Heart + 24 ชั่วโมง (SPB527) สาย: สแตนเลส 7 แถว บัตเตอร์ฟลายคลาสป ราคา: 900 ปอนด์ (SPB525), 1,060 ปอนด์ (SPB527) กำหนดวางจำหน่าย: ตุลาคม 2025 บทความที่เกี่ยวข้อง Seiko 5 Sports จับมือกับ Pepsi สะท้อนกลิ่นอายแห่งยุค 90 Seiko Prospex Speedtimer Edo Purple รุ่นลิมิเต็ด ฉลองศึก World Athletics Championships 2025 ที่โตเกียว

เทียบ Redmi Pad 2 Pro vs Redmi Pad Pro อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ Redmi Pad 2 Pro vs Redmi Pad Pro อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีแฟนๆ Xiaomi ทุกท่านครับ หลังจากการเปิดตัวและราคาของ Redmi Pad 2 Pro ในไทยที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคำถามคือมันดีกว่าแท็บเล็ตในค่ายเดียวกันหรือค่ายอื่นๆ วันนี้เราจะเปรียบเทียบ Redmi Pad 2 Pro กับ Redmi Pad Pro ว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อแท็บเล็ตของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ เรามาเริ่มที่ดีไซน์ของ Redmi Pad 2 Pro ใช้ดีไซน์โลหะแบบยูนิบอดี้ให้มีสไตส์คุณภาพงานประกอบระดับพรีเมียม สีเครื่องมีแค่ Graphite Gray เฉพาะขายในไทย ขนาด 181.65 × 2798 × 7.5 มม. และน้ำหนัก 610 กรัม ในขณะที่ Redmi Pad Pro จะดีไซน์ยูนิบอดี้โลหะให้น่าสัมผัสและลุคระดับพรีเมียม มาพร้อมกรอบกล้องแบบสองวงแหวนช่วยซ่อนเสาอากาศยิ่งทำให้เครื่องดูเรียบง่ายและงดงาม สีเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Gray , Mint Green และ Ocean Blue ขนาด 181.85 × 280 × 7.52 มม. และน้ำหนัก 566-571 กรัม https://youtu.be/GWs07Mhr-iU?si=K9PCvmoqiYc2SVwS หน้าจอ หน้าจอของ Redmi Pad 2 Pro เป็น IPS LCD 12.1 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600 (249PPI) ความสว่างหน้าจอสูงสุด 600nits อัตรารีเฟรช 120Hz ในขณะที่ Redmi Pad Pro เป็น IPS LCD 12.1 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600 (249PPI) ความสว่างหน้าจอสูงสุด 600nits อัตรารีเฟรช 120Hz และกระจก Corning Gorilla Glass 3  ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ Redmi Pad 2 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen4 ความเร็ว CPU 2.7GHz ส่วน RAM/ROM 6GB/128GB สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้สูงสุด 2TB ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 บน Android 15 และเน็ตเวิร์คมีแค่รุ่น Wi-Fi เท่านั้น ในขณะที่ Redmi Pad Pro เป็นชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen2 ความเร็ว CPU 2.4GHz ส่วน RAM/ROM รุ่น Wi-Fi มีให้เลือก 6GB/128GB และ 8GB/256GB ส่วนรุ่น 5G มีแค่ 8GB/128GB สามารถใส่ MicroSD เพิ่มได้สูงสุด 1.5TB ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS บน Android 14 และเน็ตเวิร์ครองมีทั้งรุ่น Wi-Fi และ 5G กล้อง Redmi Pad 2 Pro และ Redmi Pad Pro มากับกล้องหลัง 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 1080p 30fps และกล้องหน้า 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 1080p 30fps การเชื่อมต่อ Redmi Pad 2 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., Redmi Pad 2 Pro Keyboard, Redmi Smart Pen, OTG และ Wi-Fi 6 ในขณะที่ Redmi Pad Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 , USB-C 2.0 , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., Redmi Pad Pro Keyboard, Redmi Smart Pen และ Wi-Fi 6 แบตเตอรี่ Redmi Pad 2 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 12000mAh และชาร์จไว 33W ในขณะที่ Redmi Pad Pro มีความจุแบตเตอรี่ 10000mAh และชาร์จไว 33W ราคา Redmi Pad 2 Pro รุ่น Wi-Fi 6GB/128GB ราคา 7,999 บาท Redmi Pad Pro (ณ ปัจจุบัน) รุ่น Wi-Fi 6GB/128GB ราคา 7,499 บาท รุ่น Wi-Fi 8GB/256GB ราคา 8,999 บาท รุ่น 5G 8GB/128GB ราคา 11,990 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี  Redmi Pad 2 Pro และ Redmi Pad Pro เป็นแท็บเล็ตที่ยอดเยี่ยม ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ โดยส่วนตัวผมแนะนำทั้งคู่ เนื่องจากสเปคใกล้เคียงกัน แต่เอาเรื่องความแรงของชิปและแบตที่ใช้งานยาวนานก็แนะนำเป็น Redmi Pad 2 Pro มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Redmi Pad 2 Pro สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Xiaomi ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก X : Xiaomi : Redmi Pad 2 Pro และ Redmi Pad Pro ภาพประกอบจาก X : Xiaomi : 1 , 2-3 วิดีโอจาก YouTube : Xiaomi   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ Infinix Hot 60 Pro+ vs Hot 50 Pro+ อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ Infinix Hot 60 Pro+ vs Hot 50 Pro+ อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีทุกท่านครับ มีคนถามผมว่าระหว่าง Infinix HOT 60 Pro+ และ Infinix HOT 50 Pro+ ซื้ออะไรดี ซึ่งวันนี้เราจะเทียบคู่นี้กันว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ Infinix HOT 60 Pro+ และ Infinix HOT 50 Pro+ คอนเซ็ปต์ดีไซน์จะแตกต่าง มาเริ่มที่ Infinix HOT 60 Pro+ คอนเซ็ปต์ดีไซน์บาง ครบทุกความเป็นไปได้โมดูลกล้องใหม่จะเป็นแคปซูลยา มีสีเครื่องให้เลือก 6 สี ได้แก่ Coral Tides, Misty Violet, Cyber Green, Sonic Yellow, Titanium Sliver และ Sleek Black ขนาด 75.8 × 164 × 5.95 มม. น้ำหนัก 155 กรัม และกันน้ำกันฝุ่น IP65 ในขณะที่ Infinix HOT 50 Pro+ คอนเซ็ปต์ดีไซน์พลังไร้ขีดจำกัด บาง เบา มีสีเครื่องให้เลือก 6 สี ได้แก่ Sleek Black, Titanium Grey, Aurora Green, Rising Red, Blossom Pink และ Dreamy Purple ขนาด 74.4 × 164.1 × 6.8 มม. และน้ำหนัก 162 กรัม และกันน้ำกันฝุ่น IP54 หน้าจอ หน้าจอของ Infinix HOT 60 Pro+ เป็นหน้าจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1224×2720 (440PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 4500nits และกระจกกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 7i ในขณะที่ Infinix HOT 50 Pro+ เป็นหน้าจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1080×2346 (393PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1300nits และกระจกกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ Infinix HOT 60 Pro+ มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Helio G200 ความเร็ว CPU 2.2GHz ส่วน RAM/ROM 8GB/256GB และระบบปฏิบัติการ XOS 15.1 บน Android 15 และ Infinix AI ในขณะที่ Infinix HOT 50 Pro+ เป็นชิปเซต MediaTek Helio G100 ความเร็ว CPU 2.2GHz ส่วน RAM/ROM 8GB/256GB ใส่ MicroSD เพิ่มได้ และระบบปฏิบัติการ XOS 14.5 บน Android 14 และ Infinix AI กล้อง Infinix HOT 60 Pro+ มาพร้อมกับกล้องหลัง Sony IMX882 AF 50MP ดับเบิ้ลไฟแฟลช สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 2K 30fps และกล้องหน้า 13MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 2K 30fps เช่นกัน ในขณะที่ Infinix HOT 50 Pro+ มากับกล้องหลังคู่ กล้องหลัก 50MP AF + Depth 2MP ดับเบิ้ลไฟแฟลช สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 2K 30fps และกล้องหน้า 13MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 720p 30fps  การเชื่อมต่อ Infinix HOT 60 Pro+ รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4, USB-C 2.0, IR Blaster, NFC, OTG และ Wi-Fi 2.4, 5 ในขณะที่ Infinix HOT 50 Pro+ รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3, USB-C 2.0, NFC, OTG และ Wi-Fi 2.4, 5  แบตเตอรี่ Infinix HOT 60 Pro+  มีความจุแบตเตอรี่ 5160mAh และชาร์จไว 45W ในขณะที่ Infinix HOT 50 Pro+ มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh และชาร์จไว 33W  ราคา Infinix HOT 60 Pro+ 8GB/256GB ราคา 6,999 บาท Infinix HOT 50 Pro+ (ราคา ณ ปัจจุบัน) 8GB/256GB ราคา 5,999 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี Infinix HOT 60 Pro+ และ Infinix HOT 50 Pro+ เป็นมือถือที่ดี ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ถ้าผมแนะนำเป็นตัว HOT 60 Pro+ 1.เรื่องขนาดเครื่องบางเบาลงทำให้พกพาสะดวกไม่รู้สึกกระเป๋ากางเกงมาก 2.กันน้ำกันฝุ่นที่ดีกว่า 3.หน้าจออัตรารีเฟรช 144Hz 4.เรื่องบันทึกวิดีโอได้ 2K ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า 5.การรับรองเชื่อมต่อที่ดีกว่า และ 6.แบตเตอรี่เยอะและชาร์จไวกว่าเดิม ตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์  ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Infinix HOT 60 Pro+ และ Infinix HOT 50 Pro+ สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นผ่านแพลตฟอร์มขายของออนไลน์หรือร้านตัวแทนจำหน่ายได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : Infinix Mobile : HOT 60 Pro+ และ HOT 50 Pro+ ภาพประกอบจาก Facebook : Infinix Mobile : 1 , 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ OPPO Reno14 Pro vs Reno13 Pro อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ OPPO Reno14 Pro vs Reno13 Pro อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีทุกท่านครับ หลังจาก OPPO Reno14 Series ได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่วันนี้เราจะเปรียบเทียบรุ่น OPPO Reno14 Pro กับ OPPO Reno13 Pro ว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ Reno14 Pro และ Reno13 Pro แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ ขนาดเครื่อง น้ำหนัก และสีเครื่อง มาเริ่มที่ดีไซน์ Reno14 Pro จะดีไซน์ลวดลายหางปลาพลิ้วไหว เปล่งประกายหลากสี พร้อมตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวก เข้ากับทั้งกระเป๋ายีนส์และมือคุณได้อย่างลงตัวลุยทุกปาร์ตี้ได้ทั้งคืน มีสีเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Opal White และสีเทา Titanium Grey ขนาด 163.73 × 76.98 × 7.48-7.58 มม. น้ำหนัก 201 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP69 ในขณะที่ Reno13 Pro จะดีไซน์ AirLight ออกแบบให้สบายมือ เพรียวบาง น้ำหนักเบาและทนทานกว่าเดิม ปฏิวัติรูปแบบใหม่ของแสงและเงา ด้วย Avant garde สุดทันสมัย ที่ไม่ใช่แค่สวยงามอย่างเดียว แต่คำนึงถึงเล่นแสงและเงาด้วย มีสีเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทากราไฟต์ Graphite Grey และสีม่วงพลูม Plume Purple ขนาด 162.73 × 76.55 × 7.55 มม. น้ำหนัก 195 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP69 หน้าจอ Reno14 Pro และ Reno13 Pro หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz ความละเอียด 2800×1272 (450PPI) ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1200nits มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass 7i ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ Reno14 Pro เป็นชิปเซต MediaTek Dimensity 8450 ความเร็ว CPU 3.25GHz ส่วน RAM 12GB ต่อมา ROM 512GB ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 บน Android 15 และ OPPO AI ในขณะที่ Reno13 Pro เป็นชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 ความเร็ว CPU 3.35GHz ส่วน RAM 12GB ต่อมา ROM 512GB ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 บน Android 15 และ OPPO AI  กล้อง Reno14 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 50MP และกล้องหน้า 50MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps ได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า ฟีเจอร์ AI ที่มาใหม่ เช่น AI แฟลช ถ่ายพอร์ตเทรตสุดชิคไม่ต้องกลัวหน้ามืดในปาร์ตี้อีกต่อไป และ AI แก้ไขภาพอัจฉริยะ 2.0 รูปไม่สวย มุมไม่สวย สีหน้าไม่ถูกใจ แก้ได้ ในขณะที่ Reno13 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP และกล้องหน้า 50MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps ได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า การเชื่อมต่อ Reno14 Pro และ  Reno13 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0 , IR Blaster , NFC , OTG และ Wi-Fi 6E  แบตเตอรี่ Reno14 Pro ความจุแบตเตอรี่ 6200mAh ชาร์จไว 80W SuperVOOC และชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC ในขณะที่ Reno13 Pro ความจุแบตเตอรี่ 5800mAh และชาร์จไว 80W SuperVOOC และชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC ราคา OPPO Reno14 Pro รุ่น 12GB/512GB ราคา 24,999 บาท OPPO Reno13 Pro (ราคา ณ ปัจจุบัน) รุ่น 12GB/512GB ราคา 22,999 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี OPPO Reno14 Pro และ OPPO Reno13 Pro เป็นมือถือ 5G ที่ดี ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ถ้าใช้งานทั่วไปก็แนะนำทั้งสองรุ่น โดยส่วนตัวผมแนะนำเป็น Reno14 Pro มากกว่าเพราะอย่างแรก ชิปมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากชิปรุ่นนี้มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านเล่นเกมและการประมวลผล อย่างที่สองฟีเจอร์ AI ที่อัปเกรดและมาใหม่หลายอย่างไม่ใช่แค่ AI กล้อง อย่างเดียว เช่น AI LinkBoost 3.0, AI Game Highlights เป็นต้น อย่างที่สามเรื่องกล้องทุกตัวเป็น 50MP และสุดท้ายเรื่องแบตที่เยอะกว่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ OPPO Reno14 Serise ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ OPPO ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : OPPO : Reno14 Pro และ Reno13 Pro ภาพประกอบที่ 1-5 แคปมาจาก YouTube : OPPO    เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ Infinix GT 30 Pro vs GT 20 Pro อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ Infinix GT 30 Pro vs GT 20 Pro อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีแฟนๆ Infinix ทุกท่านครับ หลังจาก Infinix Mobile ได้เปิดตัวมือถือเกมมิ่ง Infinix GT 30 Pro ในไทยที่เป็นเรียบร้อยแล้ว แน่นอนคงมีคำถามว่ามันดีกว่ารุ่นก่อนยังไง วันนี้เราจะเทียบ Infinix GT 30 Pro กับ Infinix GT 20 Pro ว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ มาเริ่มที่ดีไซน์ของ GT 30 Pro จะเป็น Cyber Mecha Design 2.0 พร้อมไฟ RGB Mechanical Light Waves และปุ่มเสริม GT Trigger เพิ่มความรวดเร็วแม่นยำเพื่อประสบการณ์เหนือระดับ ส่วนสีเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Dark Flare , Shadow Ash และ Blade White ขนาดเครื่อง 75.8 × 163.7 × 7.99 มม. น้ำหนัก 189 กรัม สามารถกันน้ำกันฝุ่น IP64 ในขณะที่ GT 20 Pro จะเป็น Cyber Mecha Design พร้อมไฟ Mecha Loop LED อินเทอร์เฟซ ส่วนสีเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Blue , Orange และ Silver ขนาดเครื่อง 75.4 × 164.3 × 8.2 มม. น้ำหนัก 194 กรัม สามารถกันน้ำกันฝุ่น IP54 หน้าจอ หน้าจอของ GT 30 Pro เป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2720×1224 (440PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 4500nits และกระจกกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 7i ในขณะที่ GT 20 Pro หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2436×1080 (388PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1300nits ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ GT 30 Pro มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate ความเร็ว CPU 3.35GHz ส่วน RAM มีให้เลือก 8GB/12GB สามารถ Extended RAM ได้ขนาดตาม RAM ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB ระบบปฏิบัติการ XOS 15 บน Android 15 และ Infinix AI ในขณะที่ GT 20 Pro เป็นชิปเซต MediaTek Dimensity 8200 Ultimate ความเร็ว CPU 3.1GHz ส่วน RAM 12GB สามารถ Extended RAM ได้อีก 12GB ส่วน ROM 256GB และระบบปฏิบัติการ XOS 14 บน Android 14 https://www.facebook.com/share/v/1AYwaes8si/ กล้อง GT 30 Pro มากับกล้องหลังคู่ กล้องหลัก 108MP + กล้อง Ultrawide 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 60fps และกล้องหน้า 13MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 30fps ในขณะที่ GT 20 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 108MP พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Macro 2MP + กล้อง Depth 2MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 60fps และกล้องหน้า 32MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 2K 30fps การเชื่อมต่อ GT 30 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0 , IR Blaster และ Wi-Fi 6 ในขณะที่ GT 20 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 , USB-C 2.0 , IR Blaster และ Wi-Fi 6 แบตเตอรี่ GT 30 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5500mAh และชาร์จไว 45W ในขณะที่ GT 20 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh และชาร์จไว 45W ราคา Infinix GT 30 Pro 8GB/256GB ราคา 9,999 บาท 12GB/512GB ราคา 12,999 บาท Infinix GT 20 Pro (ณ ปัจจุบัน) 12GB/256GB ราคา 11,499 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี  Infinix GT 30 Pro และ Infinix GT 20 Pro เป็นมือถือเกมมิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ โดยส่วนตัวผมแนะนำเป็น Infinix GT 30 Pro อย่างแรกชิปแรงกว่า อย่างที่สอง ROM เยอะกว่า และสุดท้ายแบตเยอะกว่า แต่ถ้าเป็นเรื่องกล้องแนะนำ Infinix GT 20 Pro เนื่องจากกล้อง Macro และ Depth มันช่วยเพิ่มมิติให้ภาพสวยขึ้น และกล้องหน้า 32MP ซึ่งเหมาะกับสายเซลฟี่ มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ https://www.facebook.com/share/v/19nyNExRHL/ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Infinix GT 30 Pro ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Infinix บนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือร้านค้าพาร์ทเนอร์ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : Infinix Mobile : GT 30 Pro และ GT 20 Pro ภาพประกอบจาก Facebook : Infinix Mobile : 1 , 2 วิดีโอจาก Facebook : Infinix Mobile : 1 , 2 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ OPPO Reno14 Pro vs HONOR 400 Pro อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ OPPO Reno14 Pro vs HONOR 400 Pro อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีทุกท่านครับ มีคนสงสัยว่ารุ่น OPPO Reno14 Pro ไปเทียบกับรุ่น Pro ของค่ายอื่น มันมีรุ่นไหนบ้าง วันนี้เราจัดให้ระหว่าง OPPO Reno14 Pro และ HONOR 400 Pro ว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ OPPO Reno14 Pro และ HONOR 400 Pro แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ ขนาดเครื่อง น้ำหนัก และสีเครื่อง มาเริ่มที่ดีไซน์ OPPO Reno14 Pro จะดีไซน์ลวดลายหางปลาพลิ้วไหว เปล่งประกายหลากสี พร้อมตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวก เข้ากับทั้งกระเป๋ายีนส์และมือคุณได้อย่างลงตัวลุยทุกปาร์ตี้ได้ทั้งคืน มีสีเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Opal White และ Titanium Grey ขนาด 163.73 × 76.98 × 7.48 มม.(Titanium Grey)- 7.58 มม.(Opal White) น้ำหนัก 201 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP69 ในขณะที่ HONOR 400 Pro จะดีไซน์แห่งโลกอนาคตพร้อม Multi-Angle อันเป็นเอกลักษณ์ในรูปทรงเพรียวบาง ที่สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็น เบา บาง จับถนัดมือ จนวางไม่ลง มีสีเครื่องให้เลือก 2 สี Lunar Grey และ Midnight Black ขนาด 160.8 × 76.1 × 8.1 มม. น้ำหนัก 205 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP68IP69 หน้าจอ OPPO Reno14 Pro หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz ความละเอียด 2800×1272 (450PPI) ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1200nits มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass 7i ในขณะที่ HONOR 400 Pro เป็นจอโค้ง AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2800×1280 (460PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 5000nits ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ OPPO Reno14 Pro เป็นชิปเซต MediaTek Dimensity 8450 ความเร็ว CPU 3.25GHz ส่วน RAM/ROM 12GB/512GB ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 บน Android 15 และ OPPO AI ในขณะที่ HONOR 400 Pro เป็นชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen3 ความเร็ว CPU 3.0GHz ส่วน RAM/ROM 12GB/512GB และระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0 บน Android 15 และ HONOR AI  กล้อง OPPO Reno14 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 50MP และกล้องหน้า 50MP สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps ได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า ฟีเจอร์ AI ที่มาใหม่ เช่น AI แฟลช ถ่ายพอร์ตเทรตสุดชิคไม่ต้องกลัวหน้ามืดในปาร์ตี้อีกต่อไป และ AI แก้ไขภาพอัจฉริยะ 2.0 รูปไม่สวย มุมไม่สวย สีหน้าไม่ถูกใจ แก้ได้ ในขณะที่ HONOR 400 Pro มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 200MP กันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50 กันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 12MP และกล้องหน้า 50MP ส่วนบันทึกวิดีโอกล้องหลังและกล้องหน้าได้ 4K 30fps มีฟีเจอร์พิเศษ HONOR 400 Pro เป็น Advance AI ที่มีหลายโหมดในการช่วยถ่ายภาพและปรับแต่งภาพ เช่น Super Zoom, Remove Reflection และ Image to Video การเชื่อมต่อ OPPO Reno14 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0 , IR Blaster , NFC , OTG และ Wi-Fi 6E ในขณะที่ HONOR 40O Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0 , IR Blaster , NFC , OTG และ Wi-Fi 7 แบตเตอรี่ OPPO Reno14 Pro ความจุแบตเตอรี่ 6200mAh ชาร์จไว 80W SuperVOOC และชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC ในขณะที่ HONOR 400 Pro ความจุแบตเตอรี่ 6000mAh ชาร์จไว 100W และชาร์จไร้สาย 50W https://youtu.be/1P8IueW6ixU?si=YoNKdWO2VsVISFpH ราคา OPPO Reno14 Pro 12GB/512GB ราคา 24,999 บาท HONOR 400 Pro 12GB/512GB ราคา 19,990 บาท https://youtu.be/k-vm0Yu89wY?si=y_mwtlx-OaHverl6 สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี OPPO Reno14 Pro และ HONOR 400 Pro เป็นมือถือ 5G ที่ดี ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ถ้าใช้งานทั่วไปก็แนะนำทั้งสองรุ่น ถ้าแนะนำเป็น OPPO Reno14 Pro ให้เหตุผลดังนี้ อย่างแรกชิปมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากชิปรุ่นนี้มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านเล่นเกมและการประมวลผล อย่างที่สองฟีเจอร์ AI ที่อัปเกรดและมาใหม่หลายอย่างที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน อย่างที่สามเรื่องกล้องทุกตัวเป็น 50MP และสุดท้ายเรื่องแบตที่เยอะกว่า แต่ถ้าเป็น HONOR 400 Pro ให้เหตุผลดังนี้ อย่างแรกหน้าจอให้ความสว่างหน้าจอสูงที่ 5000nits อย่างที่สองกล้องหลัก 200MP อย่างที่สามฟีเจอร์ AI ที่ตอบโจทย์สายครีเอเตอร์มากกว่า อย่างที่สี่รับรอง Wi-Fi 7 และสุดท้ายชาร์จไวกว่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ OPPO Reno14 Serise ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ OPPO ได้แล้ววันนี้ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ HONOR 400 Serise ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ HONOR ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก OPPO Reno14 Pro จาก Facebook : OPPO และ HONOR 400 Pro จาก Facebook : HONOR Thailand ภาพประกอบ OPPO Reno14 Pro ที่ 1 จาก Facebook : OPPO ภาพประกอบ HONOR 400 Pro ที่ 2 จาก Facebook : HONOR Thailand วิดีโอที่ 1 จาก YouTube : OPPO วิดีโอที่ 2 จาก YouTube : HONOR Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ Infinix GT 30 Pro vs Note 50 Pro+ อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ Infinix GT 30 Pro vs Note 50 Pro+ อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีแฟนๆ Infinix ทุกท่านครับ วันก่อนเราได้เทียบ Infinix GT 30 Pro กับ Infinix GT 20 Pro ไปแล้ว แต่วันนี้เราจะเทียบกับ Infinix Note 50 Pro+ เนื่องจากมีคนไปถามในแชทเพจผมว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ มาเริ่มที่ดีไซน์ของ GT 30 Pro จะเป็น Cyber Mecha Design 2.0 พร้อมไฟ RGB Mechanical Light Waves และปุ่มเสริม GT Trigger เพิ่มความรวดเร็วแม่นยำเพื่อประสบการณ์เหนือระดับ ส่วนสีเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Dark Flare , Shadow Ash และ Blade White ขนาด 163.7 × 75.8 × 7.99 มม. น้ำหนัก 189 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP64 ในขณะที่ Note 50 Pro+ ดีไซน์ Metal Frame พรีเมียม ทนทานระดับ ArmorAlloy ที่ผสานความแกร่งจาก Damascus Steel และ Aerospace-Grade Aluminium พร้อมปกป้องเลนส์กล้องด้วย Metallic เคลือบผิวด้วยเทคนิดพ่นทราย Micro-Sandblasted แถมปุ่ม AI อัจฉริยะที่พร้อมขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพเหนือชั้น มีสีเครื่องให้เลือก 3 สี ได้แก่ Racing Grey , Enchanted Purple และ Titanium Grey ขนาด 163.36 × 74.53 × 7.99 มม. น้ำหนัก 209 กรัม และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP64 หน้าจอ หน้าจอของ GT 30 Pro เป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2720×1224 (440PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 4500nits และกระจกกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 7i ในขณะที่ Note 50 Pro+ เป็น AMOLED มีขนาด 6.78 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 2436×1080 (393PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1300nits ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ GT 30 Pro มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate ความเร็ว CPU 3.35GHz ส่วน GPU Mali-G615-MC6 ต่อมาส่วน RAM มีให้เลือก 8GB/12GB สามารถ Extended RAM ได้ขนาดตาม RAM ส่วน ROM มีให้เลือก 256GB/512GB ระบบปฏิบัติการ XOS 15 บน Android 15 และ Infinix AI ในขณะที่ Note 50 Pro+ เป็นชิปเซต Mediatek Dimensity 8350 Ultimate ความเร็ว CPU 3.35GHz ส่วน GPU Mali-G615-MC6 ต่อมาส่วน RAM 12GB รองรับ Extended RAM ได้ถึง 24GB ส่วน ROM 256GB ระบบปฏิบัติการ XOS 15 บน Android 15 และ Infinix AI (แต่ความสามารถพิเศษบน Note 50 Pro+ มีเซนเซอร์ Bio-Active Halo ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจและ SpO2) กล้อง GT 30 Pro มากับกล้องหลังคู่ กล้องหลัก 108MP + กล้อง Ultrawide 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 60fps และกล้องหน้า 13MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 30fps ในขณะที่ Note 50 Pro+ มากับกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50 พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Periscope Telephoto 50MP พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 60fps และกล้องหน้า 32 MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 30fps https://www.facebook.com/share/v/15jyRUVnva/ การเชื่อมต่อ GT 30 Pro และ Note 50 Pro+ รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0 , IR Blaster , NFC , OTG และ Wi-Fi 6 แบตเตอรี่ GT 30 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5500mAh ชาร์จไว 45W และชาร์จไร้สาย 30W ในขณะที่ Note 50 Pro+ มีความจุแบตเตอรี่ 5200mAh ชาร์จไว 100W และชาร์จไร้สาย 50W ทั้งสองรุ่นยังมีระบบชาร์จ Bypass อยู่ ราคา Infinix GT 30 Pro 8GB/256GB ราคา 9,999 บาท 12GB/512GB ราคา 12,999 บาท Infinix Note 50 Pro+ 12GB/256GB ราคา 13,499 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี  Infinix GT 30 Pro และ Infinix Note 50 Pro+ เป็นมือถือเกมมิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ โดยส่วนตัวผมชอบทั้งคู่ แต่ถ้าบอกถึงข้อได้เปรียบ เริ่มที่ Infinix GT 30 Pro ได้แก่ น้ำหนักเบา , ความสว่างหน้าจอสูงสุด 4500nits , มีกระจกกันหน้าจอเป็น Corning Gorilla Glass 7i , ROM มีให้เลือก 512GB , แบตเยอะ และราคาถูกกว่า ส่วน Infinix Note 50 Pro+ ได้แก่ มีเซนเซอร์ Bio-Active Halo ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจและ SpO2 , กล้องหลัง 3 ตัว มีระบบกันสั่น OIS , กล้องหน้า 32MP และชาร์จไวกว่าทั้งมีสายและไร้สาย มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ https://www.facebook.com/share/v/1RC6ayGPjM/ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของทั้งสองรุ่นนี้ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ Infinix บนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือร้านค้าพาร์ทเนอร์ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก Facebook : Infinix Mobile : GT 30 Pro และ Note 50 Pro+ ภาพประกอบจาก Facebook : Infinix Mobile : 1 , 2 วิดีโอจาก Facebook : Infinix Mobile : 1 , 2 บทความที่เกี่ยวข้อง https://intrend.trueid.net/post/508364 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ Xiaomi 15T Pro vs Xiaomi 14T Pro อะไรคุ้มกว่า?
อ่าน

เทียบ Xiaomi 15T Pro vs Xiaomi 14T Pro อะไรคุ้มกว่า?

สวัสดีแฟนๆ Xiaomi ทุกท่านครับ หลังจากการเปิดตัว Xiaomi 15T Series ในไทยที่เป็นเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะเปรียบเทียบระหว่าง Xiaomi 15T Pro กับตัว Xiaomi 14T Pro กันว่าจะต่างกันแค่ไหนยังไงบ้างนั้น เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อมือถือของท่านเอง การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบเรามาเริ่มที่ Xiaomi 15T Pro ดีไซน์เรียบง่าย ฝาหลังไฟเบอร์กลาสผสานกับกรอบโลหะได้อย่างไร้รอยต่อ ที่หลอมรวมเป็นชิ้นเดียวอันบริสุทธิ์และสวยงามเพื่อรูปลักษณ์ระดับพรีเมียม สีเครื่องให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gray, Mocha Gold และ Black ขนาด 162.7 × 77.9 × 7.96 มม. น้ำหนัก 210 กรัม และกันน้ำกันฝุ่น IP68 ในขณะที่ Xiaomi 14T Pro ดีไซน์ Titan Design พร้อมผิวสัมผัสเรียบง่ายและสบายตาแบบระดับพรีเมียม และเฟรมเมทัลลิกอะลูมิเนียมอัลลอยที่แข็งแกร่งทนทานต่อการตกกระแทก สีเครื่องให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titan Gray, Titan Blue และ Titan Black ขนาด 160.4 × 75.1 × 8.39 มม. น้ำหนัก 209 กรัม และกันน้ำกันฝุ่น IP68 หน้าจอ หน้าจอของ Xiaomi 15T Pro เป็น AMOLED 6.83 นิ้ว ความละเอียด 2772×1280(447PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 3200nits และกระจก Corning Gorilla Glass 7i ในขณะที่ Xiaomi 14T Pro เป็น AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712×1220(446PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 4000nits และกระจก Corning Gorilla Glass 5 ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ Xiaomi 15T Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400+ ความเร็ว CPU 3.73GHz ส่วน RAM/ROM มีให้เลือก 12GB/512GB และ 12GB/1TB ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 บน Android 15 และฟีเจอร์พิเศษ Xiaomi Offline Communication เป็นระบบที่เราสามารถโทรออกแม้ไม่มีสัญญาณมือถือ ระยะห่างได้ไกลถึง 1.9 กม. ซึ่งช่วยชีวิตในยามจำเป็นที่สุด ในขณะที่ Xiaomi 14T Pro เป็นชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9300+ ความเร็ว CPU 3.4GHz ส่วน RAM/ROM มีให้เลือก 12GB/512GB และ 12GB/1TB และระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2 บน Android 15 (อ้อ เดี่ยวจะมีอัพเกรด Xiaomi Hyper OS เป็นเวอร์ชัน 3 ในเดือนพฤศจิกายนนี้) กล้อง Xiaomi 15T Pro มากับเลนส์ออปติคอล LEICA VARIO-SUMMILUX 1:1,62-3.0/15-115 ASPH กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 12MP บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K 30fps และกล้องหน้า 32MP บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 30fps ในขณะที่ Xiaomi 14T Pro มากับเลนส์ออปติคอล LEICA VARIO-SUMMILUX 1:1,6-2.2/15-60 ASPH กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Telephoto 50MP กันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 12MP บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K 30fps และกล้องหน้า 32MP บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 30fps ถึงความละเอียดกล้องจะเดิมก็ตาม แต่ถ้าสังเกตตัวเลนส์ออปติคอล LEICA VARIO-SUMMILUX จะเห็นว่า Xiaomi 15T Pro เป็น 1:1,62-3.0/15-115 ASPH ความหมายว่ากล้อง Telephoto มีค่า f/3.0 ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 115 มม. การเชื่อมต่อ Xiaomi 15T Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 6.0 , USB-C 2.0, IR Blaster, NFC, OTG และ Wi-Fi 7 ในขณะที่ Xiaomi 14T Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 , USB-C 2.0, IR Blaster, NFC, OTG และ Wi-Fi 7  แบตเตอรี่ Xiaomi 15T Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5500mAh ชาร์จไว 90W ชาร์จไร้สาย 50W และระบบระบายความร้อน Xiaomi 3D IceLoop ในขณะที่ Xiaomi 14T Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 120W ชาร์จไร้สาย 50W และระบบระบายความร้อน Xiaomi 3D IceLoop  ราคา Xiaomi 15T Pro 12GB/512GB ราคา 21,990 บาท 12GB/1TB ราคา 24,990 บาท Xiaomi 14T Pro (ณ ปัจจุบัน) 12GB/512GB ราคา 19,990 บาท 12GB/1TB ราคา 22,990 บาท สรุปแล้วซื้อรุ่นไหนดี  Xiaomi 15T Pro และ Xiaomi 14T Pro เป็นมือถือ 5G ที่ยอดเยี่ยม กล้องเทพจาก Leica ส่วนการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ ถ้าผมแนะนำเป็น Xiaomi 15T Pro อย่างแรกชิปประมวลผลแรงกว่ากว่าและ AI ที่ดีขึ้น อย่างที่สองฟีเจอร์ Xiaomi Offline Communication ที่ตอบโจทย์คนสายเดินทางธรรมชาติได้ดี อย่างที่สามกล้องที่ดีขึ้น และสุดท้ายแบตเยอะขึ้นใช้งานได้ยาวนาน มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Xiaomi 15T Series ก่อนใครสามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นที่ True5G ได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV  เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก X : Xiaomi : 15T Pro และ 14T Pro ภาพประกอบจาก X : Xiaomi : 1 , 2 , 3  ภาพประกอบที่ 4 จาก Facebook : Xiaomi Thailand ภาพประกอบที่ 5 จาก Facebook : TrueMove H เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เทียบ Infinix Note 50 Pro vs Tecno Camon 40 Pro อะไรคุ้มกว่า
อ่าน

เทียบ Infinix Note 50 Pro vs Tecno Camon 40 Pro อะไรคุ้มกว่า

สวัสดีทุกท่านครับ มีคนทักมาถามว่าระหว่าง Infinix Note 50 Pro กับ Tecno Camon 40 Pro ซึ่งวันนี้เราจะมาเทียบให้ว่าจะแตกต่างกันแค่ไหน ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน? การออกแบบ เมื่อพูดถึงการออกแบบ Infinix Note 50 Pro และ Tecno Camon 40 Pro มีความแตกต่างหลายเรื่อง เช่น ดีไซน์ , ขนาด , น้ำหนัก เป็นต้น ขอเริ่มที่ Infinix Note 50 Pro ดีไซน์ Metal Frame พรีเมียม ทนทานระดับ ArmorAlloy ที่ผสานความแกร่งจาก Damascus Steel และ Aerospace-Grade Aluminium พร้อมปกป้องเลนส์กล้องด้วย Metallic เคลือบผิวด้วยเทคนิดพ่นทราย Micro-Sandblasted ขนาด 163.3 × 74.4 × 7.3 มม. นัำหนัก 198 กรัม มีสีเครื่องให้เลือก 4 สี Racing Grey , Enchanted Purple , Shadow Black และ Titanium Grey และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP64 ในขณะที่ Tecno Camon 40 Pro จะดีไซน์แกนข้างแบบคลาสสิก จับถนัดมือ หรูหรา เปล่งประกายเสน่ห์อันโดดเด่นเหมือนความสง่างามของคอหงส์ ขนาดเครื่อง 164.44 × 74.32 × 7.31 มม. น้ำหนัก 178 กรัม มีสีเครื่องให้เลือก 3 สี Galaxy Black , Emerald Lake Green และ Glacier White และสามารถกันน้ำกันฝุ่น IP68/IP69 หน้าจอ หน้าจอของ Infinix Note 50 Pro เป็น AMOLED มีขนาด 6.78 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 2436×1080 (393PPI) อัตรารีเฟรช 144Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1300nits ในขณะที่หน้าจอ Tecno Camon 40 Pro จะเป็น AMOLED ขนาดหน้าจอ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2436×1080 (393PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz มาพร้อมกระจก Corning Gorilla Glass 7i ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ Infinix Note 50 Pro มาพร้อมกับชิปเซต Mediatek Helio G100 Ultimate ความเร็ว CPU 2.2Hz ส่วน RAM 12GB และรองรับ Extended RAM ได้อีก 12GB ส่วน ROM 256GB ระบบปฎิบัติการ XOS 15 บน Android 15 และ Infinix AI ในขณะที่ Tecno Camon 40 Pro มาพร้อมกับชิปเซต MediaTek Helio G100 Ultimate ความเร็ว CPU 2.2GHz ต่อมาส่วน RAM 8GB สามารถ Extended RAM ได้ 8GB ROM 256GB ระบบปฏิบัติการ HIOS 15 บน Android 15 และ Tecno AI กล้อง Infinix Note 50 Pro มากับกล้องหลังคู่ กล้องหลัก 50 พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 2K 30fps และกล้องหน้า 32MP แต่สามารถบันทึกวิดีโอได้แค่ 1080p 30fps ในขณะที่ Tecno Camon 40 Pro มากับกล้องหลังคู่ กล้องหลัก 50 พร้อมกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 8MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 4K 30fps และกล้องหน้า 50MP สามารถบันทึกวิดีโอได้ 1080p 30fps การเชื่อมต่อ Infinix Note 50 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 ,USB-C 2.0 , OTG และ WiFi 2.4GHz/5GHz ในขณะที่ Tecno Camon 40 Pro รับรองการเชื่อมต่อ Bluetooth , USB-C 2.0 , OTG และ WiFi 2.4GHz/5GHz แบตเตอรี่ Infinix Note 50 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5200mAh ชาร์จไว 90W รับรองชาร์จไร้สาย 30W ในขณะที่ Tecno Camon 40 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 5200mAh ชาร์จไว 45W  ราคา Infinix Note 50 Pro 12GB/256GB ราคา 6,999 บาท Tecno Camon 40 Pro 8GB/256GB ราคา 6,999 บาท สรุป Infinix Note 50 Pro และ Tecno Camon 40 Pro เป็นมือถือที่ยอดเยี่ยม และการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จริงๆ มันขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้ ซึ่งถ้าเลือก Infinix Note 50 Pro มีจุดเด่นตรง หน้าจออัตรารีเฟรช 144Hz , ชาร์จได้ทั้งสายและไร้สาย ส่วนถ้าเลือก Tecno Camon 40 Pro มีจุดเด่นตรง สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้สูง ,กล้องหน้าและบันทึกวิดีโอกล้องหลังได้ถึง 4K ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและกำลังทรัพย์ ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของ Infinix Note 50 Pro และ Tecno Camon 40 Pro สามารถสั่งซื้อได้แล้ว พร้อมสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นบนแพลตฟอร์มออนไลน์และตัวแทนจำหน่ายได้แล้ววันนี้ สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review YouTube : WV book review บทความ True ID : WV  เรียบเรียงโดย : WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และและภาพ Infinix Note 50 Pro จาก Facebook : Infinix Mobile และภาพ Tecno Camon 40 Pro จาก Facebook : TECNO Mobile Thailand  ภาพประกอบจาก Facebook : Infinix Mobile : 1 , 3 ภาพประกอบจาก Facebook : TECNO Mobile Thailand : 2 , 4 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

เช็ค MacBook Pro ราคาเท่าไหร่ สเปค MacBook Pro 2023 มีอะไรบ้าง
อ่าน

เช็ค MacBook Pro ราคาเท่าไหร่ สเปค MacBook Pro 2023 มีอะไรบ้าง

MacBook Pro 2023 ออกใหม่ Apple เปิดตัว MacBook Pro แล็บท็อปใหม่ล่าสุด ปี 2023 เช็ค MacBook Pro ราคาเท่าไหร่ สเปค MacBook Pro 2023 มีอะไรบ้าง MacBook Pro 2023 MacBook Pro 2023 พลังแรงโดยชิป M2 Pro หรือ M2 Max ประหยัดพลังงาน มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น มีให้เลือกระหว่างรุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว โดยทั้งสองรุ่นสามารถเลือกปรับแต่งเป็นชิป M2 Pro หรือ M2 Max ได้ แต่รุ่น 16 นิ้ว จะมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Mac โดยทั้งสองรุ่นยังคงทำงานได้รวดเร็วไม่ว่าจะใช้แบตเตอรี่หรือเสียบปลั๊ก พร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR มีครบทุกพอร์ตที่ต้องใช้ ราคาเริ่มต้นที่ 73,900 บาท MacBook Pro สเปคมีอะไรบ้าง MacBook Pro มี 2 ขนาด ได้แก่ รุ่น 14 นิ้ว และรุ่น 16 นิ้ว มี 2 สี ได้แก่ เงิน และเทาสเปซเกรย์ Neural Engine แบบ 16-core จอภาพ Liquid Retina XDR ขนาด 14 นิ้ว มีชิป Apple M2 Pro หน่วยความจำแบบรวมขนาด 16GB และ 32GB แบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ 70 วัตต์-ชั่วโมง พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 512GB และ 1TB พอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 3 พอร์ต, พอร์ต HDMI, ช่องเสียบการ์ด SDXC, ช่องต่อหูฟัง, พอร์ต MagSafe 3 การเล่นวิดีโอรูปแบบไฟล์ที่รองรับประกอบด้วย HEVC, H.264 และ ProRes HDR ในแบบ Dolby Vision, HDR10 และ HLG การเล่นเสียง รูปแบบไฟล์ที่รองรับประกอบด้วย AAC, MP3, Apple Lossless, FLAC, Dolby Digital, Dolby Digital Plus และ Dolby Atmos กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p เชื่อมต่อกับ Pro Display XDR สูงสุด 3 จอ และทีวี 4K หนึ่งเครื่องด้วยชิป M2 Max หรือเชื่อมต่อกับ Pro Display XDR ได้สูงสุด 2 จอด้วยชิป M2 Pro Touch ID ปลดล็อค Mac , ลงชื่อเข้าใช้แอปและเว็บไซต์ด้วยพาสคีย์ , ทำรายการซื้อใน App Stores และแอป Apple TV Magic Keyboard แทร็คแพด Force Touch ถ่ายโอนรูปภาพและวิดีโอด้วยตัวอ่านการ์ด SDXC แล้วเชื่อมต่อกับทีวีหรือจอภาพด้วยช่องส่งสัญญาณ HDMI ใช้ AR เพื่อลองวาง MacBook Pro มีอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C MacBook Pro ราคา ราคา MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว รุ่นชิป M2 Pro (CPU 10-Core / GPU 16-Core / RAM 16GB / SSD 512GB) ราคา 73,900 บาท รุ่นชิป M2 Pro (CPU 12-Core / GPU 19-Core / RAM 16GB / SSD 1TB) ราคา 89,900 บาท รุ่นชิป M2 Max (CPU 12-Core / GPU 30-Core / RAM 32GB / SSD 1TB) ราคา 110,900 บาท ราคา MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว รุ่นชิป M2 Pro (CPU 12-Core / GPU 19-Core / RAM 16GB / SSD 512GB) ราคา 89,900 บาท รุ่นชิป M2 Pro (CPU 12-Core / GPU 19-Core / RAM 16GB / SSD 1TB) ราคา 96,900 บาท รุ่นชิป M2 Max (CPU 12-Core / GPU 38-Core / RAM 32GB / SSD 1TB) ราคา 124,900 บาท ข้อมูล apple -------------------- เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณคลิกเลย!! รู้ทันกันโควิด หรือกด*301*35# โทรออก ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม. คลิกเลย TrueID Community